Elixir Supplier 645-646
645 ผิวทองแดง
“ถ้าอย่างนั้น นายก็ต้องระวังตัวหน่อยนะ” ชายคนแรกพูด “ตระกูลซุนมีอำนาจในเมืองเต๋ามากกว่าที่นายคิด แล้วเขาก็ยังเสนอค่าหัวของนายให้กับพวกใต้ดินถึง 50 ล้านหยวน มันมากพอที่จะทำให้คนเป็นบ้าได้เลยล่ะ!”
“โอเค ผมรู้แล้ว” ชายสวมฮูดพูด
เมื่อเดินออกไปจากห้องแล้ว ใบหน้าของชายคนแรกที่พูดก็กลายเป็นมืดมน “เขายังไม่รู้จักความตายดีพอ” เขากระซิบ
เขาจ่ายคืนในสิ่งที่เขาติดหนี้บุญคุณอยู่ แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือ ความกลัว เขาเคยเห็นความสามารถของคนพวกนี้มาแล้ว พวกเขามีความสามารถในการใช้พิษที่ยอดเยี่ยม และเขาก็รู้ด้วยว่า ตัวเขาเองก็อาจจะถูกพิษด้วยเหมือนกัน หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับชายหนุ่มที่อยู่ในบ้านของเขา เขาก็อาจจะไม่รอดเหมือนกัน เขาจึงต้องให้ความร่วมมือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งๆที่เขาอยากจะให้ชายหนุ่มตายมากกว่าใคร
อีกฝั่งหนึ่งของประตู ชายสวมฮูดนั่งอยู่ที่ปลายเตียงและมองผ่านผ้าม่านออกไปยังถนนด้านนอก ร่างกายของเขาเริ่มกระตุกขึ้นมา มันดูเหมือนกับว่า เขากำลังได้รับความเจ็บปวดที่ไม่อาจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้
อึก!
เขากัดริมฝีปากและคำรามออกมาเบาๆ เขาจับโต๊ะไม้เอาไว้แน่น จนไม้แตกหักเป็นชิ้นๆ เขาขดตัวอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน ความเจ็บปวดก็ค่อยๆลดลงไป ชายหนุ่มนอนกองอยู่ทีพื้น เขาขยับตัวสองสามครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆปีนขึ้นไปบนเตียง
ติ๊ก!
เลือดไหลออกมาจากฮูดและหยดลงไปที่พื้นห้อง มันเป็นสีเลือดแดงเข้มผิดปกติ ราวกับเลือดและน้ำหมึกผสมรวมกันอยู่ เขาไอออกมาและใช้มือเลือดคราบเลือดที่ปากของเขาออก
เขาถอนหายใจออกมา “ฉันรอนานกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว”
แม้ว่ามันจะดึกมากแล้ว แต่เมืองเต๋าก็ยังคงคึกคักเหมือนเช่นเคย ชายหนุ่มในชุดสีดำเดินเรียบไปตามถนน
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็หยุดเดิน ตรงหน้าของเขาเป็นที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ราคาแพงที่สุดในเมืองเต๋า คนที่อาศัยอยู่ในนี้ล้วนเป็นผู้มีอำนาจ ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยจึงค่อนข้างเข้มงวด ผู้อยู่อาศัยจะได้รับการดูแลจากผู้รักษาความปลอดภัยระดับสูง การเข้าออกจำเป็นต้องใช้คีย์การ์ด และมีพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง
การเข้าไปในที่พักอาศัยแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แต่เพียงพริบตาเดียว ชายในชุดดำกลับไปโผล่อยู่ด้านใน และสามารถหลบเลี่ยงทีมตรวจตราและกล้องทุกตัวได้อย่างเฉียบขาด
บ้านแต่ละหลังถูกสร้างขึ้นตามเนินเขา วิลล่าคือสิ่งที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดและหรูหราที่สุดในสถานที่แห่งนี้ ในที่สุด ชายหนุ่มก็มุ่งหน้าไปยังวิลล่าหลังหนึ่ง ซึ่งประตูได้ล็อคเอาไว้
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! สุนัขหลายตัวส่งเสียงเห่าขึ้นมาในเวลากลางคืน
ชายหนุ่มวนไปรอบๆวิลล่า
ในระหว่างนั้น ก็มีบอดี้การ์ดที่พบกับชายหนุ่มซึ่งเดินไปมาอยู่แถวนั้น
“มีคนอยู่ข้างนอกนั่น” บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นมา “ฉันจะออกไปดูหน่อย”
“รอเดี๋ยว อย่าไปคนเดียว” บอดี้การ์ดอีกคนพูด “ไปเป็นกลุ่มสามคนดีกว่า”
บอดี้การ์ดสามคนได้เดินออกไปด้านนอก และตรงไปยังจุดที่พวกเขาเห็นชายคนนั้นในกล้อง แต่กลับไม่พบอะไรเลย
“มีคนอยู่แถวนี้” บอดี้การ์ดพูด
บรรยากาศภายในวิลล่าเริ่มตึงเครียดขึ้น
“นายท่าน เขากำลังมาแล้วครับ” ลุงหลินพูด
“โอ้?” ซุนเจิ้งหรงพูด
“นายท่านจะไปเลยไหมครับ?” ลุงหลินถาม
“ไม่ต้องรีบ อาหลิน เขาไม่เข้ามาหรอก ครั้งนี้ เขาแค่มาทดสอบเราเท่านั้น” คำพูดของซุนเจิ้งหรงดูเชื่อมั่น
“แล้วถ้าเกิดเขาเข้ามาล่ะครับ?” ลุงหลินพูด
“ถ้าเขาเข้ามาก็ยิ่งดีน่ะสิ” ซุนเจิ้งหรงพูด “เราจะได้จัดการเรื่องนี้ให้จบๆไปซักที”
ด้านนอกวิลล่า ชาในชุดดำเจอเข้ากับสุนัขบูล็อกตัวหนึ่ง มันเดินตรงมา แต่ก็ไม่ได้เข้าไปหาเขา มันกลับล้มลงไปที่พื้นและเริ่มชักกระตุก
“ซุนเจิ้งหรง!” น้ำเสียงแหบแห้งดังออกมาจากฮูด ราวกับเสียงของปีศาจจากขุมนรก
“เขากำลังมาแล้ว” ซุนเจิ้งหรงพูด
ลูกศรถูกยิงออกไป
ปืนเป็นสิ่งหวงห้ามในสถานที่แห่งนี้ แต่ไม่ใช่กับลูกศร อย่างน้อยการควบคุมก็ไม่เข้มงวดเท่ากับปืน ความจริง พลังของลูกศรก็ไม่ใช่น้อยเลย มันสามารถฆ่าคนตายได้อย่างง่ายดายไม่ต่างจากลูกปืน
เงาสายหนึ่งกระโดดหลบลูกศรอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเขาเร็วอย่างเหลือเชื่อ และยังรวดเร็วยิ่งกว่าลิงด้วยซ้ำ การเคลื่อนไหวของเขานั้นว่องไวจนแทบมองไม่เห็น
ปึก!
ลูกศรยิงถูกตัวเขา แต่เสียงที่ดังออกมาคล้ายกับเสียงของลูกศรที่ยิงเข้าใส่ไม้แข็งๆชนิดหนึ่ง แล้วมันก็กระเด้งตกไปที่พื้นในทันที
“มันไร้ประโยชน์!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูด “เชี่ยเอ้ย!”
ชายคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับของสองอย่าง ซึ่งก็คือปืนและที่เก็บเสียง
ฟุบ! ประกายไฟสว่างวาบขึ้นที่ปลายกระบอกปืน
ภายใต้แสงสว่างวาบ ความเร็วของผู้บุกรุกเพิ่มสูงขึ้น แต่เขาเพียงคนเดียวไม่สามารถต่อกรกับลูกปืนจำนวนมากได้ เขาจึงถูกยิงเข้าไปหลายนัด แต่เขากลับดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากการถูกยิงเลยสักนิด และการเคลื่อนไหวยังคงรวดเร็วไม่ลดลงเลย
ลูกปืนก็ไม่ได้ผลเหรอ? ในเวลานี้ ทุกคนต่างรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย ชายชุดดำจึงใช้โอกาสนี้พุ่งตัวเข้าหาฝูงชน
“เปิดออก!” น้ำเสียงสงบและทรงพลังดังขึ้น
ซูม! ประกายแสงจากดาบสองเล่มส่องวาบขึ้นกลางความมืด อาหาวจับดาบตั้งขึ้น ในขณะที่ดาบอีกเล่มพุ่งเข้าสู่หัวใจของผู้บุกรุก แต่ตัวดาบกลับถูกบางอย่างหยุดเอาไว้ได้ แม้แต่ผิวหนังของเขาก็ยังแทงไม่เข้า
“เกราะอ่อนเหรอ?” อาหาวรีบถอยกลับ
แค่ก! ชายคนนั้นไอออกมาสองครั้งและพูดออกมาว่า “รู้สึกยังไงบ้างล่ะ?”
“แกหมายความว่ายังไง?” อาหาวถาม
“ไม่รู้สึกเหรอ ว่าร่างกายของนายเริ่มอ่อนกำลังลงน่ะ?” ชายชุดดำพูดขึ้นมา
“เชี่ยเอ้ย! อาหาวส่ายหัว เขากระพริบตาถี่ๆ และรู้สึกราวกับมีภูตผีอยู่ตรงหน้าเขา “ไม่ ฉันถูกพิษ!”
“อาหาว!” ลุงหลินตะโกน
“ลุงหลินอย่างเข้ามา ผมถูกพิษ” อาหาวพูด เขาอ่อนกำลังลง แม้แต่ดาบในมือก็ยังจับไหวไม่ไหว “ฉันคิดว่าระวังตัวดีแล้ว แต่ก็ยังถูกพิษเข้าอยู่ดี!”
เมื่อได้รู้ความสามารถของศัตรูแล้ว เขาก็ระวังการถูกสัมผัสเอาไว้เป็นอย่างดี แต่ถึงพวกเขาจะไม่โดนตัวกัน เขาก็ยังคงถูกพิษอยู่ดี
“ฉันดูถูกเขาเกินไปสินะ” อาหาวพูด
เคร้ง คร้าง! ดาบหล่นลงไปที่พื้น
“นายท่านรีบไปก่อนเถอะครับ ผมจะขวางเขาเอาไว้” อาหาวพูด
ปี๊บ! อยู่ๆก็มีเสียงไซเรนดังขึ้น
วูซ! แทนที่จะถอยกลับ แต่ชายชุดดำกลับพุ่งไปข้างหน้าแทน
โพล๊ะ! มีเศษผงกระจายไปทั่วทั้งใบหน้าของเขา ทำให้เขารู้สึกเจ็บแปล็บขึ้นมาทันที ราวกับว่า มีเปลวไฟลุกขึ้นในดวงตาของเขา “ปูนขาวเหรอ?”
ซูม! แสงวาบของตัวดาบพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา แต่มันกลับถูกหยุดเอาไว้ด้วยบางสิ่งที่แข็งกระด้าง
“มันคืออะไรกันน่ะ?” อาหาวสงสัย
หวือ! แมลงบินว่อนไปทั่ว พวกมันดูราวกับมังกรไฟ
“ไป!” อยู่ๆก็มีอีกคนโผล่ออกมา เขาสวมเสื้อโค้ทตัวยาวและใช้คอเสื้อปิดบังใบหน้าของตัวเองเอาไว้ ชายในชุดดำที่ดวงตาไม่สามารถมองเห็นได้ชั่วคราวจาผลของปูนขาว ก็ถูกชายอีกคนพาตัวออกไป เขากระโดดหนีเข้าไปในความมืดและหายไปด้วยความเร็วที่ตามไม่ทัน
“ยังมีอยู่อีกคน!” อาหาวตะโกน
เอี๊ยด! รถตำรวจเข้ามาจอดที่หน้าวิลล่า
“อาหลินไปหาตำรวจเถอะ” ซุนเจิ้งหรงพูด
“ครับ” ลุงหลินพูด
“อาจารย์กู่ ผมคงต้องฝากให้เป็นหน้าที่ของอาจารย์แล้วล่ะครับ” ซุนเจิ้งหรงพูด
“อืม” ชาหัวล้านวัย 40 ยืนอยู่ข้างๆซุนเจิ้งหรง เขามีรูปร่างสันทัด, ดวงตาอ่อนโยน, และมีโหงวเฮ้งดี เขามองไปที่อาหาว ซึ่งล้มตัวนอนอยู่ที่พื้น “พิษจากเขตเมี่ยว!”
“อาจารย์แก้ได้ไหมครับ?” ซุนเจิ้งหรงถาม
“ความสามารถของฉันแย่กว่าหวูซานเล็กน้อย แต่พิษแค่นี้ไม่คณามือฉันหรอก” อาจารย์กู่พูด
สุดท้าย ตำรวจก็ไม่ได้เข้าด้านใน คนที่นอนอยู่บริเวณลานบ้านก็ถูกพาตัวเข้าไปไวในห้องๆหนึ่ง อาหาวถูกช่วยเอาไว้ได้ แต่เขาก็เหลือแรงไม่มาก
“อาจารย์ ทำไมลูกปืนกับศรถึงทำอะไรเขาไม่ได้เลยล่ะครับ?” ซุนเจิ้งหรงถาม เมื่อดูจากกล้องวงจรปิดแล้ว พวกเขาก็พบว่า ไม่ว่าจะเป็นลูกปืนหรือลูกศร ก็ไม่สามารถทำลายเกราะป้องกันของชายชุดดำได้เลย “มันเป็นเพราะเกราะอ่อนเหรอครับ?”
“ไม่ใช่ แต่มันเป็นผิวหนังของเขาเอง” อาจารย์กู่พูด
“ผิวหนัง?” ซุนเจิ้งหรงตกตะลึง
“ใช่ มันมีวิธีลับในการแช่ร่างกายลงไปในยาที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งมันจะทำให้ผิวหนังของคนคนนั้นแข็งแกร่งและคงกระพัน” อาจารย์กู่พูด “วิธีการนี้ให้ผลที่วิเศษมากก็จริง แต่คนคนนั้นก็ต้องอดทนกับความเจ็บปวดอย่างที่คนเราจินตนาการไม่ถึงเลยล่ะ จากครั้งก่อนที่เธอได้เล่ามา เขาดูเหมือนจะร้อนใจอยู่บ้างแล้ว มันจะต้องมีอันตรายที่ซ่อนอยู่แน่ๆ”
เมื่อตัวยาซึมเข้าสู่ร่างกาย มันก็จะเริ่มเข้าไปผ่านทางผิวหนัง ต่อไปก็จะเป็นกระดูกสันหลังและอวัยวะภายใน ชายคนนี้เสริมความแข็งแกร่งแค่ผิวหนังของเขา เมื่อกระสุนถูกตัวเขา แม้มันจะป้องกันเอาไว้ได้ แต่อวัยวะภายในและกระดูกของเขาก็ยังได้รับความเสียหายอยู่ดี
“อาหลิน นายไปเถอะ” ซุนเจิ้งหรงพูด
“ครับ” ลุงหลินพูด
ภายในวิลล่าที่ถูกทิ้งร้างในเมืองเต๋า มีแสงสว่างส่องลอดออกมาและชายสองคนในเงามืด หนึ่งคนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้น อีกหนึ่งกำลังกดจุดที่แผ่นหลังของเขาด้วยวิธีการพิเศษ
แค่ก! แค่ก! อั้ก!
เลือดจำนวนมากกระอักออกมาจากริมฝีปากของเขา
646 ภูเขากำลังเติบโต
ฟู่ว! เสียงเลือดที่หยดลงมาคล้ายกับเสียงของเปลวเพลิงที่ลุกพรึ่บ ทั้งยังมีกลิ่นเหม็นเน่าราวกับปลาเน่าในหน้าร้อน
“ขอบคุณนะ พี่” ชายชุดดำพูด
“ต้องขอบคุณที่ฉันไปทันเวลา ถ้าไม่อย่างนั้น นายก็ได้ตายไปแล้วแน่ๆ” ชายในเสื้อโค้ทตัวยาวพูด “นายพึ่งจะฝึกไปได้ไม่นาน ตัวยาเข้าไปได้แค่ผิวหนังกับกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่นายยังฝึกไม่ถึงส่วนของอวัยวะภายในกับกระดูกเลย ให้ฉันช่วยนายแล้วกันนะ”
ชายชุดดำที่ได้รับบาดเจ็บถอดเสื้อของเขาออก เผยให้เห็นร่างกายช่วงบนของเขา เมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟ ก็จะเห็นผิวหนังของเขาที่กลายเป็นสีน้ำเงินดำอยู่จางๆ ยังมีรอยแผลบางแห่งที่ดูราวกับโดนน้ำร้อนลวก บริเวณหน้าอกและหน้าท้องมีบาดแผลที่มีเลือดกำลังไหลออกมาอย่างช้าๆ
ชายในเสื้อโค้ทตัวยาวหยิบกระปุกยาเล็กๆออกมาและเปิดมันออก มันมีขี้ผึ้งสีเขียวเข้มอยู่ภายในนั้น เขาควักมันออกมาเล็กน้อยและทาลงไปที่บาดแผลของชายอีกคน
เลือดที่กำลังไหลอยู่ได้หยุดลงทันทีที่ตัวยาถูกทาลงไป
“รอยดาบนี่เป็นพลังทั้งหมดที่ตาแก่นั้นใส่เข้ามา” ชายในเสื้อโค้ทตัวยาวพูด “การต่อสู้ของเขาไม่ได้อ่อนด้อยเลย อวัยวะภายในของนายได้รับความเสียหาย นายต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ถ้าไม่อย่างนั้น มันจะกลายเป็นโรคเรื้อรังได้
“พี่ ผมอยากจะลองอีกสักครั้ง” ชายชุดดำพูดออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“นายกระตือรือร้นที่จะฝึกยุทธทางยาให้สำเร็จเร็วๆก็จริง แต่พื้นฐานของนายมันยังไม่มั่นคงพอ” ชายในชุกโค้ทตัวยาวพูด “ตอนนี้ พิษได้เข้าไปในร่างกายของนายแล้ว ด้วยยาลับของอาจารย์ตัวนี้ ปัญหาทุกอย่างก็จะหมดไป แต่ผลของมันก็อยู่ได้ไม่นาน ดังนั้น นายต้องรีบกลับไปให้เร็วที่สุด รอให้นายหายดีก่อนแล้วค่อยแก้แค้นก้ยังไม่สายหรอกนะ”
“พี่ ผมรอไม่ได้แล้ว” ชายชุดดำพูด
“ก็ได้ งั้นฉันจะไปกับนายเอง” ชายในโค้ทตัวยาวพูดออกมา หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นกินยานี่ซะ นายมีเวลาแค่เจ็ดวันเท่านั้น ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ นายก็ต้องกลับไปกับฉัน”
“ครับ” ชายชุดดำพูด
เปรี๊ยะ! เปลวไฟลุกไหม้ ถ่านค่อยๆกลายเป็นขี้เถ้า เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ภายในวิลล่าที่ถูกทิ้งร้างก็ไร้วี่แววของมนุษย์
…
ภายในวิลล่าแห่งหนึ่งในเมืองเต๋า
“นายท่าน อาหาวเป็นยังไงบ้างครับ?” ลุงหลินถาม
“เขาพ้นขีดอันตรายแล้วล่ะ” ซุนเจิ้งหรงพูด
“ผู้ชายอีกคนที่ตามมาทีหลังเป็นใครกันเหรอครับ?” ลุงหลินถาม
การเคลื่อนไหวของชายคนนั้นรวดเร็วมาก และยังเห็นได้ชัดว่าเขาแทบจะไม่ต้องพยายามอะไรเลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทักษะของเขานั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก
“ฉันกลัวว่า เขาจะมาจากโรงเรียนลับของเขตเมี่ยวน่ะสิ” อาจารย์กู่พูด
“โรงเรียนลับ? หมายความว่ายังไงเหรอครับ?” ลุงหลินถาม
“ฉันเห็นบางอย่างห้อยอยู่ที่เอวของเขา” อาจารย์กู่พูด “มันดูเหมือนกับสัญลักษณ์ของ ‘หุบเขาพันโอสถ’ ในเขตเมี่ยวน่ะสิ”
“หุบเขาพันโอสถ?” ซุนเจิ้งหรงถาม
พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย
“โอ้ พวกคุณจะไม่รู้ก็ไม่แปลกออะไรหรอกนะ” อาจารย์กู่พูด “ฉันก็แค่เคยไปได้ยินเรื่องที่มีโรงเรียนนี้อยู่ในเขตเมี่ยวจากคนอื่นเหมือนกัน คุณก็รู้จักอยู่คนหนึ่งนี่ ราชายาหวูซาน ยังไงล่ะ”
“ครับ เรารู้จักเขา เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก” ซุนเจิ้งหรงพูด “เขาก็มาจากหุบเขาพันโอสถเหมือนกันเหรอครับ?”
หากเป็นแบบนั้นจริง มันก็คงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ซะแล้ว
ราชายาที่อยู่ในเขตเมี่ยวมีชื่อเสียงอย่างมาก และการรักษาของเขาก็ได้ผลจนได้รับการโจษจันออกไปทั่ว การไปมีเรื่องกับเขา ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยสักนิด
“เขาอาจจะเคยอยู่ที่นั่นมาสักพัก ดังนั้น เขาก็ถือว่าเป็นลูกศิษย์ของหุบเขาพันโอสถอยู่ครึ่งหนึ่งน่ะ” อาจารย์กู่พูด
“ยอดไปเลยนะครับ” ลุงหลินพูด
“อืม แต่คนภายนอกแทบไม่รู้เรื่องนี้กันหรอก” อาจารย์กู่พูด “ถ้าจะบอกว่าเป็นโรงเรียน จริงๆเรียกว่าหมู่บ้านก็น่าจะถูกต้องกว่า แล้วกฎของที่นั่นก็เข้มงวดมาก พวกเขาไม่ชอบการติดต่อกับโลกภายนอกเท่าไหร่ด้วย”
“พวกเขาใช้พิษเหรอครับ?” ซุนเจิ้งหรงถาม
“ถูกต้อง” อาจารย์กู่พูด
เฮือก! ซุนเจิ้งหรงสูดหายใจเข้าลึก เขาไม่คิดเลยว่า ชายที่โผล่มาทีหลังจะมีความสัมพันธ์กับโรงเรียนลับของเขตเมี่ยว และมันก็ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเขาทีเดียว คนอันตรายหนึ่งคนนั้นต่างออกไป มันเทียบไม่ได้กับคนอันตรายที่มีเบื้องหลังที่น่าหวาดกลัว
“ขอบคุณมากนะครับ อาจารย์” ซุนเจิ้งหรงพูด
“คุณเกรงใจเกินไปแล้ว” อาจารย์กู่พูด “ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ ถึงคนในโรงเรียนลับจะไม่ค่อยเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องภายนอก แต่พวกเขาก็จัดการได้ยาก เพราะแต่ละคนเป็นพวกอารมณ์แปรปรวนกันทั้งนั้น”
หลังจากอาจารย์กู่ขอตัวไปพักผ่อนแล้ว ซุนเจิ้งหรงก็เรียกลุงหลินให้ไปคุยกันที่ห้องทำงาน
“นายท่าน นี่มันยุ่งยากมากเลยนะครับ” ลุงหลินพูด
“จ้าวหยิงหาวจะต้องตาย” ซุนเจิ้งหรงพูดออกมาอย่างแน่วแน่ “ก็อย่างที่อาจารย์กู่บอกเอาไว้ เราต้องเตรียมที่จะเป็นศัตรูกับคนพวกนั้น ไปสืบเรื่องของที่นั่นมา แล้วก็ระวังให้มากล่ะ”
“ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ” ลุงหลินพูด
“เฮ้อ น่าเสียดายที่อาจารย์กู่ไม่รู้เรื่องการต่อสู่เลยสักอย่าง” ซุนเจิ้งหรงพูด
“ใช่ครับ คนที่มาเมื่อคืนที่ทักษะการต่อสู้สูงมาก” ลุงหลินพูด “แล้วเขาก็ยังใช้พิษได้ชำนาญมากอีกด้วย นี่มันกลายเป็นเรื่องที่จัดการได้ยากมากเลยนะครับ”
…
ภายในหมู่แก็งค์นักเลงในเมืองเต๋า เรื่องที่ซุนเจิ้งหรงเสนอเงินค่าหัว 50 ล้านหยวนนั้นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆสำหรับพวกเขาเลย และที่มากไปกว่านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาคนหรือหาข้อมูลมาได้ แต่ตราบใดที่พวกเขาสามารถจับคนที่ถูกตั้งค่าหัวได้ พวกเขาก็จะได้รับรางวัลทันที ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นหรือตาย
“พี่ ฉันได้ยินมาว่า ตระกูลซุนเพิ่มรางวัลขึ้นด้วยล่ะ” ชายคนหนึ่งพูด
“ไม่ว่าพวกเขาจะขึ้นเงินรางวัลหรือไม่ขึ้น เราก็ต้องลองดูกันสักตั้ง” ชายอีกคนพูด “ข่าวของแกเชื่อได้แน่นะ?”
“เชื่อได้แน่นอน” ชายคนแรกพูด
“งั้นถ้าเจอมัน เราก็ต้องรีบลงมือทันที” ชายคนที่สองพูด “ไม่ว่ามันจะเป็นหรือตายก็ได้หมด”
…
ที่จอดรถใต้ดินแห่งหนึ่งในเมืองเต๋า
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคนพวกนี้ถึงตามหาเรากัน?” มีชายสองคน คนหนึ่งใส่ฮูด ส่วนอีกคนใส่โค้ทตัวยาว ทั้งสองมองไปที่คนสามคนที่นอนกองอยู่กับพื้น มันเป็นครั้งที่สามแล้วในเช้านี้ พวกเขาเข้ามาโจมตีคนทั้งสองราวกับฝูงหนอนที่พุ่งตัวเข้าหาซากศพ
“ซุนเจิ้งหรงเสนอเงินค่าหัวของผมกับพวกคนใต้ดินไป 50 ล้านหยวน ไม่ว่าผมจะเป็นหรือตายก็ได้” จ้าวหยิงหาวพูด
“ว้าว น้องชาย นายนี่ค่าตัวแพงจังเลยนะ” ชายในโค้ทตัวยาวพูด “นี่ ฉันมีความคิดดีดีแล้ว!”
“ความคิดอะไรเหรอ? อย่าบอกนะ ว่าพี่จะมัดผม แล้วส่งไปให้เขาน่ะ?” จ้าวหยิงหาวถาม
“ก็ใช่น่ะสิ ลองคิดดูดีดีนะ ศัตรูของนายคือคนที่รวยที่สุดในเมืองเต๋า แล้วเขาก็ต้องได้รับการคุ้มกันที่แน่นหนามากอยู่แล้ว” ชายในโค้ทยาวพูด “เมื่อคืนนายก็เห็นไม่ใช่เหรอ ว่าการจะเข้าถึงตัวเขามันยากขนาดไหน ในเมื่อเขาเสนอรางวัลให้กับพวกใต้ดินมาแล้ว ทำไมเราไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ก่อนพวกนั้นซะเลยล่ะ”
“อืม มันก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ” จ้าวหยิงหาวพูด
ในตอนที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น ก็มีคลื่นมนุษย์มุ่งหน้ามาหาพวกเขาอีกระลอกหนึ่ง “ไป!”
ด้วยการจับตามองของเทคโนโลยีสมัยใหม่ มันจึงทำให้พวกเขาถกพบตัวได้อย่างรวดเร็ว และทุกคนต่างก็กำลังค้นหาตัวพวกเขาอยู่
“แผนนี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ” ชายในชุดโค้ทพูด “เราไปที่บ้านเขาคืนนี้กันเถอะ”
“การรักษาความปลอดภัยจะต้องแน่นหนามากแน่ๆ แล้วพวกเขาก็ต้องกำลังรอพวกเราไปหาอยู่ด้วย” จ้าวหยิงหาวพูด
“แล้วนายจะยอมให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆเหรอ?” ชายในชุดโค้ทถาม “ลองไปดูให้มันรู้กันไปเลย แล้วฉันก็จะเอาของฝากสุดพิเศษไปให้เขาด้วย”
…
บนเนินเขาหนานชาน ที่ถูกรายล้อมด้วยเมฆหมอกและสามารถมองเห็นสีเขียวของต้นไม้ได้รางๆ ชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่บนเขาพร้อมด้วยสุนัขอีกหนึ่งตัว
“ซานเซียน ภูเขาลูกนี้สูงขึ้นจริงๆด้วย” หวังเย้าคุยกับสุนัขที่อยู่ข้างเขา
เขาพบความสูงที่ต่างออกไป จากจุกเชื่อมต่อระหว่างเนินเขาหนานชานและตงชาน ซึ่งเกิดจากการที่พื้นดินยกตัวสูงขึ้น ในช่วงเวลานี้ เขารู้สึกได้ว่า ยอดเขาที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขามีการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น เขาจึงคิดว่า มันอาจจะกำลังเติบโตและเป็นไปในระดับที่รวดเร็วมากด้วย
“มันจะเกี่ยวข้องกับค่ายกลรวมวิญญาณรึเปล่านะ?” หวังเย้าพูดออกมาด้วยความสงสัย
ในตอนเช้า มีคนไข้เจ็ดรายที่มาคลินิกพร้อมกับคนในครอบครัวของพวกเขา ครั้งนี้ พวกเขาดูเหมือนจะวุ่นวายเล็กน้อย หนึ่งในนั้นอาการค่อนข้างหนัก ซึ่งมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ลูกชายของเขาเป็นชายร่างสูงและแข็งแรง เขาต้องการแทรกคิวของคนอื่น ซึ่งมันทำให้หลายๆคนที่มารออยู่ก่อนรู้สึกไม่พอใจ และเป็นผลให้พวกเขามีปากเสียงกัน แล้วจากนั้นก็ค่อยๆลุกลามบานปลายกันไปใหญ่
“หยุด!” หวังเย้าตะโกน ลูกชายของคนไข้ที่กำลังมีปัญหากับคนอื่นอยู่ก็หยุดชะงักไปในทันที เพราะที่เขามาที่นี่ก็เพื่อพาพ่อของเขามารักษา
“ต่อแถว ถ้าไม่อย่างนั้นก็กลับไปซะ” หวังเย้าพูดด้วยท่าทีขึงขัง
“หมอ พ่อของผมปวดหัวมากเลยนะ” ลูกชายของคนไข้พูด “หมอช่วยตรวจให้เขาเป็นคนแรกได้ไหม? คนนั้นดูไม่เห็นจะป่วยหนักอะไรเลยสักนิด”
“คุณหรือผมที่เป็นหมอกันแน่ครับ?” หวังเย้าถาม “รอคิวไม่กี่นาที อาการป่วยของพ่อคุณก็คงจะไม่แย่ไปกว่านี้หรอกครับ”
“นี่…” ลูกชายของคนไข้สูดลมหายใจเข้าลึกและระงับความโกรธเอาไว้ จากนั้น เขาก็เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้
พ่อของเขาอายุมากแล้ว และยังมีอาการปวดหัวรุนแรง เขาขมวดคิ้วจนแทบจะชนกันอยู่แล้ว
“พ่อ ทนต่ออีกสักหน่อยนะ” ลูกชายของคนไข้พูด
“หมอตรวจเขาก่อนเถอะนะคะ ฉันรอได้” หญิงวัยกลางคนพูด
“ขอบคุณครับ” ลูกชายคนไข้พูด
อาการปวดศีรษะของคนไข้เกิดจากความชื่นและความร้อนที่อยู่ภายใน หวังเย้าหยุดอาการปวดศีรษะได้ด้วยการฝังเข็มเพียงครั้งเดียว เขาได้จ่ายยาสองตัวที่มีส่วนช่วยในการขับพิษร้อนและขจัดความชื่นให้ออกไปจากร่างกาย
“กลับไปพักผ่อนที่บ้านนะครับ” หวังเย้าพูด
“โอ้ ได้ๆ ขอบคุณหมอมากนะ” ชายชราพูด
“ผมขอโทษ!” ลูกชายของคนไข้เจอกับคนที่เขามีเรื่องด้วยตรงประตูทางออก และเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษออกไปก่อน
“ช่างมันเถอะ” ชายคนนั้นโบกมือและไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากที่ตรวจคนไข้ช่วงเช้าจนเสร็จแล้ว หวังเย้าก็นั่งคิดอยู่ภายในคลินิกเพียงลำพัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น