Elixir Supplier 613-616

 613 สายลมพัดโหมอีกครั้ง


 


“ไม่นะ ความดันของเขาสูงขึ้น” พยาบาลพูด


 


“เท่าไหร่?” หมอถาม


 


“140 ค่ะ” พยาบาลพูด


 


“ให้ยาลดความดันและยาป้องกันหัวใจของเขา” หมอพูด


 


ความดันที่สูงและหัวใจที่เต้นเร็วผิดปกติเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เมื่อท่อน้ำแตก น้ำก็จะไหลออกมาตามรอยรั่วนั้น ถ้าหากเส้นเลือดแตกเพราะแรงดันสูง เลือดก็จะไหลออกตามรอยแตกนั้น ภาวะเลือดออกในสมองและเลือดออกตามอวัยวะภายในเป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิตได้


 


พยาบาลรีบนำยามาให้หมอ


 


“มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ?” หมอถาม


 


“เมื่อเช้านี้เองค่ะ เขาเอาพาแกะออกไปกินหญ้าข้างนอก แต่อยู่ๆเขาก็รู้สึกไม่สบายขึ้นมา แล้วเขาก็กลับมาที่บ้านในสภาพนี้” ภรรยาพูด


 


“มันเพิ่งผ่านไปได้แค่ครึ่งวันเท่านั้นเหรอครับ?” หมอถาม


 


“ใช่ค่ะ” ผู้เป็นภรรยาพูด


 


หมอขมวดคิ้ว “เวลามันสั้นมาก แต่อาการของเขากลับเป็นหนักขนาดนี้แล้ว”


 


ไม่นาน ผลตรวจก็ออกมา


 


“โฮ้! เมื่อได้เห็นผลตรวจ หมอก็ขมวดคิ้วมากยิ่งขึ้น สถานการณ์มันแย่มาก และเกินกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี


 


มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับอาการป่วยแบบนี้ ดังนั้น มันจึงไม่มีเคสการรักษาเป็นตัวอ้างอิง


 


ผู้เป็นภรรยาอึ้งกับปฏิกิริยาของหมอ แต่ก็ไม่มีอะไรที่เธอพอจะทำได้ นอกจากขอให้หมอรักษาสามีของเธออย่างสุดความสามารถ


 



 


ตู้หมิงหยางและหวังรุ่ยกลับไปตอนประมาณบ่ายสามโมง พวกเขาไม่ได้อยู่ทานอาหารเย็นที่บ้าน เพราะยังมีเรื่องที่พวกเขาต้องกลับไปจัดการที่ในเมือง ก่อนที่พวกเขาจะไป พ่อแม่ของหวังเย้ายังนำของขวัญที่เพื่อนๆของหวังเย้าให้มา มอบให้พวกเขาเอากลับไปด้วย


 


“นี่ ผมมาเยี่ยมบ้านของเธอนะ แต่กลับได้ของกลับไปมากกว่าของที่ผมเอามาฝากซะอีก” ตู้หมิงหยางพูด


 


“พวกนี้เป็นของที่เพื่อนของเสี่ยวเย้าให้มาน่ะ ทิ้งไว้ที่บ้านก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรอยู่แล้ว” หวังรุ่ยพูด


 


“มันจะประโยชน์ได้ยังไงกัน?” เขาพูด


 


พวกเขาพูดคุยกันไปในขณะที่ขับรถอยู่ ถนนค่อนข้างแคบ รถสามารถสวนกันได้สองคันเท่านั้น


 


“ระวังนะ” หวังรุ่ยพูด


 


รถที่ขับสวนมาไม่มีการชะลอความเร็วลงเลย และขับผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว


 


“นั่นใช่ป้ายทะเบียนของปักกิ่งรึเปล่า?” ตู้หมิงหยางพูด


 


“เขาขับรถแย่มากจริงๆ”ล หวังรุ่ยพูด


 


รถขับเร็วจนแทบจะบิน เมื่อเลี้ยวเข้าปากทางหมู่บ้านแล้ว รถก็มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ของหมู่บ้าน คนสองคนลงมาจากตัวรถ


 


“ที่นี่ใช่ไหม?” หนึ่งในสองคนชี้ไปที่คลินิก


 


“ใช่ ที่นี่แหละ” อีกคนตอบ


 


ทั้งสองคนเดินไปเคาะที่ประตู แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน


 


“เราจะทำยังไงกันดีล่ะ?” หนึ่งในนั้นถาม


 


“รอก่อน” พวกเขารออยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง แล้วในที่สุดก็มีชาวบ้านเดินผ่านมาทางพวกเขา


 


“มาหาหมอเหรอ?” ชาวบ้านเอ่ยถามอย่างใจดี


 


“ครับ” หนึ่งในสองพูด


 


“งั้นก็รอไปก่อนนะ” ชาวบ้านพูด


 


“หา?” ทั้งสองมองหน้ากัน จะพูดเพื่ออะไรกัน?


 


ชาวบ้านเดินขึ้นเขาไปอย่างช้าๆพร้อมกับจอบในมือ ในขณะที่ชายทั้งสองก็ยังคงรอต่อไป


 


“เราต้องรอนานแค่ไหนกัน?” พวกเขารอมาเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่เห็นใครเลย พวกเขาสูบบุหรี่หมดไปเป็นซอง จนพื้นเต็มไปด้วยก้นบุหรี่


 


“เพื่อน แกคิดว่า เรารีบมาที่นี่กันเกินไปรึเปล่า?” หนึ่งในสองคนถามขึ้นมา


 


“เชี่ย! ก็แกนั่นแหละที่รีบมาที่นี่ จนแม้แต่ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินเลย” ชายอีกคนพูด


 


“ฉันแค่อยากจะสร้างความประทับใจให้กับบอสของเราก็เท่านั้น” ชายคนแรกพูด


 


“อ้อ มันก็แค่คลินิกที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆก็เท่านั้น” ชายอีกคนพูด “แกจำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ?”


 


“ก็ฉันได้ยินมาว่า ผู้ชายคนนี้เหมือนจะมีเรื่องกับลูกชายของบอสเข้าน่ะสิ” ชายคนแรกพูด


 


“คนหนึ่งอยู่ในตัวจังหวัด ส่วนอีกคนอยู่ในหมู่บ้าน แล้วจะไปมีเรื่องกันได้ยังไงล่ะ?” ชายอีกคนถาม “แล้วทำไมแกจะต้องให้เรารีบร้อนมาที่นี่กันขนนาดนี้ด้วย?”


 


ชายทั้งสองรออยู่จนกระทั่งฟ้ามืด แต่ประตูคลินิกก็ยังคงปิดสนิท


 


“เชี่ยเอ้ย” ทั้งสองรู้สึกไม่พอใจ


 


“ไปหาอะไรกินกันเถอะ ก็อย่างที่ฉันบอก ไม่ต้องคิดมากหรอก” ชายคนแรกพูด


 


ชายทั้งสองที่รีบร้อนเดินทางมาที่นี่ ก็ได้จากไปอย่างช้าๆ


 


พวกเขาอยู่พักที่ตัวเมืองเหลียนชาน แล้วพวกเขาก็กลับไปที่หมู่บ้านกลางเขาในเช้าของอีกวัน ครั้งนี้ พวกเขารออยู่จนกระทั่ง 10 โมงเช้าเพื่อไม่ให้คลาดกับหมออีก หวังเย้านั่งอยู่ในคลินิก


 


ประตูถูกเปิดออกเล็กน้อย


 


“สวัสดี คุณใช่หมอหวังรึเปล่าครับ?” คนที่เปิดประตูเอ่ยถามอย่างสุภาพ


 


“ครับ ผมเอง แล้วคุณคือใคร?” หวังเย้าถาม


 


“โอ้ เรามาให้หมอรักษาน่ะครับ” ชายที่สวมแว่นพูด


 


“มารักษา?” หวังเย้ามองไปที่พวกเขา “รู้สึกไม่สบายเหรอครับ?”


 


“ผมรู้สึกไม่สบายท้องน่ะครับ” ชายร่างสูงพูด


 


“ท้องเหรอ?” หวังเย้ามองดูสีหน้าของเขาอย่างละเอียด “ท้องของคุณก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่ครับ”


 


“คุณยังไม่ได้ตรวจเลย คุณจะรู้ได้ยังไงกัน?” ชายคนนั้นพูด


 


“ไม่มีอะไรต้องตรวจหรอก คุณสบายดี แต่เพื่อนของคุณดูเหมือนจะมีปัญหาอยู่นะ” หวังเย้าชี้ไปที่ชายสวมแว่น


 


“ผมเหรอ แล้วผมเป็นอะไรล่ะ?” ชายสวมแว่นถาม


 


“ปัญหาของคุณไม่น้อยเลยล่ะ” หวังเย้าพูด


 


ลมหายใจของเขามีไอร้อน มีคราบสีเหลืองเคลือบบางๆอยู่ที่ลิ้นของเขา นี่เป็นสาเหตุจากการที่ร่างกายมีความร้อนและความชื่นสูง ดวงตาของเขาแดงก่ำและเลื่อนลอย นี่เป็นสัญญาของความกระวนกระวายใจ ทำไมเขาถึงกระวนกระวาย? มันเป็นเพราะอวัยวะภายในของเขาขาดความสมดุล


 


“อ่อ ใช่แล้ว หมอช่วยตรวจผมหน่อยได้ไหม?” ชายคนนั้นยิ้ม เขาไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจมากนัก


 


“ได้ครับ เชิญนั่งเลย” หวังเย้าพูด “คุณชอบดื่มไหมครับ?”


 


“ก็ดื่มบ้างครับ” ชายสวมแว่นพูด


 


“แล้วคุณชอบกินอาหารทอดไหม?” หวังเย้าถาม


 


“เอ่อ ชอบครับ” ชายสวมแว่นพูด


 


“ช่วงนี้ คุณขับถ่ายไม่ค่อยปกติ แล้วยังท้องเสียเป็นบางครั้งด้วย ใช่ไหมครับ?” หวังเย้าถาม


 


“เอ่อ ใช่ครับ” ชายสวมแว่นเริ่มนั่งไม่ติด ทุกเรื่องที่หวังเย้าพูดมา ล้วนเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเกิดขึ้นกับเขาจริงๆ


 


“คุณเจ็บตรงนี้หน่อยๆใช่ไหมครับ?” หวังเย้าชี้ไปที่ท้องน้อยของเขา


 


“เอ่อ ครับ” ชายสวมแว่นพูด


 


เพื่อนของเขาที่ฟังอยู่รู้สึกตกใจเล็กน้อย


 


“นี่มันอะไรกัน? หมอคนนี้ดูเหมือนจะมีฝีมืออยู่บ้าง แต่จดประสงค์ที่เรามาที่นี่ไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่ว่ามันไปคนละทางกันเลยเหรอ?” เขาแตะไปที่ไหล่เพื่อนของเขา


 


“รอก่อน” ชายสวมแว่นพูด


 


“คุณดื่มมากเกินไป และคุณมักจะไม่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินของคุณด้วย ดังนั้น คุณเลยปวดท้องและไตของคุณก็มีปัญหาด้วย” หวังเย้าพูด


 


“ปัญหาอะไรเหรอครับ?” ชายสวมแว่นถาม


 


หวังเย้ามองดูถุงใต้ตาของเขา ตั้งแต่ที่ชายสวมแว่นเดินเข้ามาในคลินิก เขาก็หาวมากกว่า 10 ครั้งแล้ว แต่เพื่อนของเขาไม่ได้หาวเลย นี่เป็นผลของการขาดพลัง ซึ่งเกิดจากการไหลเวียนของโลหิตและพลังฉีต่ำ เลือดมีความสัมพันธ์กับตับ และพลังมีความสัมพันธ์กับไต ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้สะสมพลังงาน


 


“คุณชอบสาวๆสินะ?” หวังเย้าพูด


 


ชายทั้งสองตกตะลึง


 


“เอาจริงเหรอ ทำไมฉันถึงไม่รู้เลยล่ะ?” ชายร่างสูงมองหน้าเพื่อนของเขา


 


“นี่ เอ่อ” ชายสวมแว่นมีท่าทางอ้ำอึ้ง


 


“ทุกอย่างควรทำแต่พอดี แต่คุณดูเหมือนจะทำมากเกินไปหน่อย” หวังเย้าพูด


 


“แล้วที่หมอพูดมา ผมมีปัญหาเยอะมากเลยเหรอ?” ชายสวมแว่นถาม


 


“ใช่ครับ” หวังเย้าพูด


 


“แต่ระหว่างทำการทดสอบร่างกาย ก็ไม่เห็นว่าผมจะมีปัญหาอะไรเลยนะ” ชายสวมแว่นพูด


 


เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว ส่วนที่เขาทำงานอยู่ได้จัดการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เขาป่วยอยู่เล็กน้อยก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงเหมือนอย่างที่หมอคนนี้พูดมา


 


“นั่นเป็นเรื่องหลังจากการตรวจครับ” หวังเย้าพูด “ตับของคุณมีปัญหา เป็นเพราะดื่มเหล้าเยอะใช่ไหมล่ะครับ?”


 


“ใช่ แต่ไม่ได้หนักอะไร” ชายสวมแว่นพูด


 


“แล้วยังมีปัญหาที่กระเพาะ เป็นกระเพาะอักเสบใช่ไหมครับ?” หวังเย้าถาม


 


“ใช่ มันเป็นโรคเรื้อรัง” ชายสวมแว่นพูด


 


“ไตอยู่ตรงนี้ มันมีถึงน้ำอยู่ด้วยใช่ไหมครับ?” หวังเย้าชี้ไปที่เอวด้านซ้ายของชายสวมแว่น


 


เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ชายสวมแว่นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ “หมอรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?”


 


ถ้าหากไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนคนนี้ เขาก็คงจะคิดว่า หวังเย้าเคยอ่านรายงานผลการตรวจร่างกายของเขามาก่อนแล้ว


 


“ผมเป็นแพทย์ปรุงยา” หวังเย้าพูด


 


“ไม่ใช่หมอหรอกเหรอ?” ชายสวมแว่นถาม


 


“ก็คล้ายๆกันครับ” หวังเย้าเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย


 


“แล้วหมอคิดว่า ควรรักษายังไงเหรอครับ?” ชายสวมแว่นถาม


 


“ต้องเริ่มที่การเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณก่อน” หวังเย้าพูด “คุณไม่สามารถดื่มหรือสูบได้ กินปลาให้น้อย และกินผักกับผลไม้ให้มาก แล้วคุณต้องงดเรื่องอย่างว่า และออกกำลังกายมากขึ้น”


 


ชายคนนี้ไม่เข้าได้เข้าใจเลยว่า ร่างกายของเขาแย่แค่ไหน “ผมต้องกินยาด้วยไหม?”


 


“ตับและไตของคุณมีปัญหา และจำเป็นต้องได้รับยารักษาครับ” หวังเย้าพูด


 


“หมอช่วยจ่ายยาให้ผมได้ไหมครับ?” ชายสวมแว่นถาม


 


“ได้สิ” หวังเย้าพูด


 


เขาจ่ายยาให้ชายสวมแว่น ซึ่งเป็นยาที่ช่วยรักษากระเพาะกับตับของเขา


 


“เท่าไหร่ครับ?” ชายสวมแว่นถาม


 


หลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ชายทั้งสองก็ออกมาจากคลินิก


 


“นี่ แกทำอะไรน่ะ? จำไม่ได้แล้วเหรอ ว่าพวกเรามาที่นี่ทำไมน่ะ?” ชายร่างสูงถาม


 


“จำได้อยู่แล้ว แต่สุขภาพของฉันไม่ดีนี่นา แล้วฉันก็ต้องกินยาด้วย และที่เขาพูดทั้งหมดก็ถูกหมดเลย” ชายสวมแว่นพูด


614 ตรวจ


 


“เขาเป็นหมอที่เก่งมาก” ชายสวมแว่นพูด


 


“อย่าลืมสิ ว่าพวกเรามาที่นี่ทำไม” เพื่อนของเขาพูด


 


“ฉันไม่ลืมหรอก เราได้สมุนไพรของเขามาแล้วนี่ไง” ชายสวมแว่นพูด


 


“แล้วฉันไม่รู้เลยนะเนี่ย ว่าแกชอบนอนกับสาวไปทั่วน่ะ เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ” ชายร่างสูงล้อเพื่อนของเขา


 


“แกก็รู้ว่าฉันก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ฉันก็ต้องมีความต้องการบ้างสิ” ชายสวมแว่นพูด


 


“แล้วแฟนของแกรู้เรื่องนี้ด้วยไหม?” ชายร่างสูงถาม


 


“แกคิดว่าฉันโง่หรือไง?” ชายสวมแว่นพูด


 


ทั้งสองขึ้นนั่งบนรถและขับออกไป


 


พวกเขาแปลกจริงๆ หวังเย้าคิด เขาไม่คิดว่า ชายทั้งสองมาที่นี่เพื่อมาให้เขารักษาจริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจคนทั้งสองมากนัก


 


ในตอนกลางวัน มีคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งมาที่คลินิก


 


“สวัสดี เรามาหาหวังเย้าครับ” หนึ่งในพวกเขาพูด


 


“ผมหวังเย้าครับ” หวังเย้าพูด


 


“เรามาจากกรมอาหารและยาครับ” ผู้นำของกลุ่มพูด


 


“ครับ” หวังเย้าพูด “มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?”


 


“เราได้รับแจ้งว่า สมุนไพรของคุณไม่ได้มาตรฐานและมีส่วนผสมของสารเคมีในปริมาณมาก เราเลยมาที่นี่เพื่อทำการสืบสวนครับ” ผู้นำกลุ่มพูด


 


“ได้สิครับ แล้วต้องให้ผมทำยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม


 


“เราจำเป็นต้องเอาตัวอย่างสมุนไพรกลับไปครับ” ผู้นำกลุ่มพูด


 


“ได้ครับ” หวังเย้าพูด


 


“สวัสดีครับ หมอหวัง” หนึ่งสามคนที่มาเอ่ยทักหวังเย้าด้วยรอยยิ้ม เขาเป็นชายวัยประมาณ 30


 


“สวัสดีครับ” หวังเย้าทักกลับ


 


“ผมเคยมาที่นี่กับแม่ครั้งหนึ่ง หมอช่วยรักษาอาการปวดหัวให้แม่ของผมน่ะครับ” เขาพูด


 


“อ่อ ครับ” หกเดือนที่ผ่านมา หวังเย้าได้รักษาคนไข้ไปแล้วหลายคน เขาจึงจำคนไข้ไม่ได้ทั้งหมด แต่คนไข้ทั้งหมดจำเขาได้ “แล้วแม่ของคุณเป็นยังไงบ้างครับ?”


 


“แม่สบายดีครับ” เขาพูด “ผมขอพูดอะไรด้วยหน่อยได้ไหมครับ?”


 


เขาเดินไปที่มุมหนึ่งกับหวังเย้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานของเขากำลังเก็บตัวอย่างสมุนไพรอยู่


 


“หมอหวัง ช่วงนี้ คุณได้ไปทำให้ใครไม่พอใจรึเปล่าครับ?” เขาถาม


 


“ผมไปทำให้คนอื่นไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ?” หวังเย้าถามด้วยความสงสัย


 


“ใช่ มีการแจ้งเรื่องนี้มาจากทางจังหวัด แล้วทางกรมสุขภาพก็ขอให้เรามาดูเรื่องนี้น่ะครับ” เขาพูด


 


“กรมสุขภาพเหรอ?” อยู่ๆหวังเย้าก็นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา


 


ไอ้เพลย์บอยนั่นรายงานเรื่องของฉันอย่างนั้นเหรอ?


 


“ใช่ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรงได้เลย ถ้าพวกเขาพบความผิดปกติจากสมุนไพรของคุณเข้า พวกเขาก็อาจจะยกเลิกใบอนุญาตของคุณ และทำการตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพของคุณด้วย ทางกรมเข้มงวดเรื่องนี้มากเลยล่ะครับ” เขาพูด


 


“ขอบคุณที่บอกผมนะครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม


 


เขาถามชื่อของชายที่บอกเรื่องนี้กับเขา เขาชื่อว่า หยิงจื่อเฉิง หวังเย้ารู้สึกขอบคุณในความใจดีของเขามาก


 


“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะ” ผู้นำกลุ่มพูด


 


“โอเค แล้วเจอกันนะครับ หมอหวัง” หยิงจื่อเฉิงพูด


 


“แล้วเจอกันครับ” หวังเย้าพูด


 


ทั้งสามเดินออกมาจากคลินิก


 


“เขาพูดอะไรเหรอ จื่อเฉิง?” ผู้นำกลุ่มถาม


 


“ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ฉันแค่บอกเขาเท่าที่รู้ก็เท่านั้น” หยิงจื่อเฉิงพูด


 


“ถ้าเขาไปทำให้คนจากตัวจังหวัดไม่พอใจเข้า มันก็คงจะเป็นปัญหามาก” ผู้นำกลุ่มพูด “ถึงเราจะแจ้งกลับไปว่า สมุนไพรทั้งหมดไม่มีปัญหา พวกเขาก็คงจะบอกว่ามีปัญหาอยู่ดี นายไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”


 


“ใช่ ฉันก็หวังว่ามันจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้น” หยิงจื่อเฉิงพูด แม่ของเขามีอาการปวดศีรษะมานานหลายปี ต้องขอบคุณหวังเย้า ที่ทำให้เธอหายดีได้ หวังจื่อเฉิงเป็นลูกที่ดี เขาจึงจดจำบุญคุณของหวังเย้าเสมอมา


 


ระดับจังหวัดเหรอ? สมุนไพร? หลังจากคนทั้งสามจากไป หวังเย้าก็คิดถึงเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ฉันควรจะทำยังไงดี?


 


หวังเย้าเดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้อง เดี๋ยวนะ!


 


เขาหยิบมือถือขึ้นมาและกดโทรหาเบอร์หนึ่ง


 


“ฮัลโหล หมอหวัง” ศาสตราจารย์หวูยินดีที่ได้รับสายจากหวังเย้า


 


“สวัสดีครับ ศาสตราจารย์หวู พอดีผมมีเรื่องหนึ่งอยากจะถามสักหน่อยน่ะครับ” หวังเย้าพูด


 


“มีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ?” ศาสตราจารย์หวูถาม


 


หวังเย้าอธิบายให้เขาฟัง


 


“โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว เธออยากจะรู้ว่า กรมไหนที่ใหญ่กว่ากรมสุขภาพของจังหวัดฉีสินะ งั้นรอเดี๋ยวนะ” ศาสตราจารย์หวูเดินไปที่โต๊ะเพื่อเขียนคำถามของหวังเย้า “อืม ถ้าจะพูดถึงเรื่องอำนาจกันละก็ เธอก็ต้องไปที่กระทรวงสาธารณะสุข มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้อีกไหม?”


 


ศาสตราจารย์หวูสัมผัสได้ว่า หวังเย้าเหมือนจะมีปัญหาบางอย่าง ถ้าไม่อย่างนั้น หวังเย้าก็คงจะไม่โทรหามาถามเขาแบบนี้ “สมุนไพรของเธอมีปัญหาเหรอ?”


 


“ผมมั่นใจว่าสมุนไพรของผมไม่มีปัญหาครับ” หวังเย้าพูด


 


เขามีวิธีการเลือกสมุนไพร ซึ่งได้รับมาจากระบบ หวังเย้าสามารถบอกได้ว่า สมุนไพรต้นไหนที่มีปัญหา โดยที่ไม่จำเป็นต้องดมหรือสังเกตรายละเอียดมากมายเลย สมุนไพรบางตัวในคลินิกของเขาเป็นสมุนไพรที่เก็บมาจากแปลงสมุนไพรของเขาเอง และบางส่วนก็ซื้อมาจากหลี่เม่าชวง เขามักจะตรวจสอบสมุนไพรทั้งหมดที่ได้จากหลี่เม่าชวงทุกครั้ง และโยนต้นที่ไม่ได้มาตรฐานทิ้งไปทันที


 


“เธอช่วยส่งตัวอย่างสมุนไพรทั้งหมดที่ใช้ในคลินิกมาให้ฉันได้ไหม?” ศาสตราจารย์หวูพูด “ฉันจะให้ผู้เชี่ยวชาญของที่นี่ทดสอบดูให้”


 


“ได้ครับ ผมจะส่งไปให้เร็วที่สุดเลย” หวังเย้าพูด


 


ในวันเดียวกันนั้น เขาได้เก็บตัวอย่างสมุนไพรในคลินิกของเขาและส่งทั้งหมดไปที่ปักกิ่ง โดยใช้บริการแบบส่งด่วน การทดสอบสมุนไพรทั้งหมด คงจะต้องใช้เวลาสักพัก


 


เช้าของวันต่อมา หวังเย้ามีแขกอีกคนมาเยี่ยมที่คลินิก


 


“สวัสดี หมอหวัง ยินดีที่ได้เจอนะ” ซูจือฉิงพี่ชายของซูเสี่ยวซวีพูด


 


“สวัสดีครับ คุณซู” หวังเย้าพูด


 


ซูจือฉิงดูหนักแน่นและแข็งแรง ซึ่งต่างไปจากชายหนุ่มทั่วไป มันเป็นเพราะเขาทำงานให้กับทางกองทัพเป็นเวลานาน


 


“มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?” หวังเย้าถาม


 


“ขอนั่งก่อนได้ไหม?” ซูจือฉิงถาม


 


“แน่นอนครับ” หวังเย้าพูด


 


“ฟังนะ ฐานที่กองทัพของผมตั้งอยู่นั้น มันอยู่ในจุดที่ค่อนข้างพิเศษ และการฝึกฝนของพวกเขาก็เน้นไปที่ทักษะของแต่ละคน” ซูจือฉิงพูด “ผมโชคดีมากที่ได้เห็นทักษะกังฟูของคุณและผมก็รู้สึกประทับใจมาก แล้วตอนนี้ ทางกองทัพก็กำลังมองหาครูฝึกอยู่ คุณสนใจไหม?”


 


“ครูฝึกในกองทัพเหรอครับ?” หวังเย้าถามด้วยความแปลกใจ


 


“ใช่” ซูจือฉิงพูด


 


“แล้วจะให้ผมสอนอะไรครับ?” หวังเย้าถาม “เรื่องการปฐมพยาบาลในสนามรบเหรอ? ผมไม่เก่งเรื่องนั้นหรอกนะ”


 


“ผมอยากจะให้หมอไปสอนกังฟูพวกเราต่างหากล่ะ” ซูจือฉิงพูด


 


“ขอปฏิเสธครับ” หวังเย้าปฏิเศธในทันที


 


“ช่วยคิดเรื่องนี้อีกทีเถอะนะ เราให้เงินค่าจ้างดีมาก แล้วหมอก็ไม่ต้องอยู่ในฐานทัพตลอดเวลาด้วย หมอแค่ต้องมาตามเวลาที่ต้องสอนก็เท่านั้น” ซูจือฉิงพูด


 


“ไม่ครับ ขอโทษด้วยจริงๆ” หวังเย้าพูด


 


“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น หมอช่วยสนผมได้ไหม?” ซูจือฉิงถาม


 


“คุณน่ะเหรอ?” หวังเย้ารู้สึกประหลาดใจ


 


“อื้ม” ซูจือฉิงพูด


 


“ไม่ได้หรอกครับ” หวังเย้าพูด


 


“ฟังผมนะ ทีมของเราเป็นทีมที่สุดยอดมาก คุณสามารถเข้าถึงปืนได้ทุกชนิด ทั้งไรเฟิล, สไนเปอร์, และอาร์พีจี เรายังมีรถถัง, รถหุ้มเกราะ, และแฮลิคอปเตอร์ด้วย” ซูจือฉิงพูด


 


“พวกคุณมีของเยอะเลยนะ” หวังเย้าพูด


 


“แน่นอน” ซูจือฉิงพูด


 


“แล้วพวกคุณเป็นทีมแบบไหนเหรอ?” หวังเย้าถาม


 


“นั่นเป็นความลับ” ซูจือฉิงพูด


 


“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอของคุณนะครับ แต่ผมไม่อยากไป” หวังเย้าพูด


 


ไม่ว่าซูจือฉิงจะพูดหรือทำอะไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจหวังเย้าได้เลย เขาปฏิเสธทุกข้อเสนอ


 


เป็นคนดื้อด้านจริงๆ! ซูจือฉิงออกมาจากคลินิกของหวังเย้าด้วยท่าทีผิดหวัง เขาไม่เคยขอร้องใครแบบนี้มาก่อนเลย


 


“สวัสดีค่ะ คุณชายซู” อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเขา


 


เธอก็คือ เฉินหยิง เธอยืนห่างจากเขาไม่ถึงเมตร และมองมากที่เขาด้วยความประหลาดใจ ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ได้? เธอคิด


 


“สวัสดี เสี่ยวหยิง ฉันบอกเธอหลายครั้งแล้วนะว่าอย่าเรียกฉันว่า คุณชายซู ให้เรียกฉันว่าจือฉิงหรือพี่ชายก็พอแล้ว” ซูจือฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม “สบายดีไหม เสี่ยวโจว?”


 


“ผมสบายดีครับ ขอบคุณ” เฉินโจวพูด


 


“ดีแล้วนะ” ซูจือฉิงพูด


 


“คุณมาที่นี่เพื่อมารักษากับหมอหวังเหรอคะ?” เฉินหยิงถาม


 


“เปล่าหรอก ฉันไม่ได้ป่วย ฉันมาหาเขาเพราะเรื่องอื่นน่ะ ฉันมีข้อเสนอบางอย่างมาให้เขา” ซูจือฉิงพูด


 


“แล้วเขารับข้อเสนอของคุณไหมคะ?” เฉินหยิงถาม


 


“ไม่ แล้วเขามีงานอดิเรกอะไรบ้างไหม?” ซูจือฉิงถาม อยู่ๆเขาก็นึกขึ้นได้ว่า เฉินหยิงน่าจะรู้เรื่องของหวังเย้าดี เพราะพวกเขารู้จักกันมาได้สักพักแล้ว


 


“งานอดิเรกเหรอคะ? อืม ดูเหมือนเขาจะสนใจแค่เรื่องยาละมั้งคะ” เฉินหยิงพูด


 


“ยกตัวอย่างให้ฉันฟังหน่อยสิ” ซูจือฉิงพูด


 


“เขาสนใจพวกตำราแพทย์โบราณกับของที่เกี่ยวกับแพทย์แผนจีน อย่างพวก เข็มสำหรับฝังเข็ม, ตู้เก็บสมุนไพร” เฉินหยิงพูด


 


“ฉันเข้าใจแล้ว” ซูจือฉิงพูด เขาพยายามจดจำเรื่องที่เฉินหยิงเพิ่งจะบอกมา “เอาล่ะ ฉันคงต้องไปแล้ว ไว้เจอกันนะ”


 


“แล้วเจอกันค่ะ” เฉินหยิงพูด


 


หลังซูจือฉิงจากไปแล้ว เฉินหยิงและเฉินโจวก็เดินไปที่คลินิกของหวังเย้า


 


“ผมเพิ่งจะมีแขกมาเมื่อกี้นี้เอง” หวังเย้าพูด


 


“เราเจอเขาแล้วค่ะ” เฉินหยิงพูด


 


“เขาอยากจะชวนผมไปเป็นครูฝึกในกองทัพน่ะ” หวังเย้ายิ้ม “แต่ผมคิดว่า ผมคงจะไม่เหมาะ”


 


“คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วค่ะ” เฉินหยิงพูด


 


“แล้วมาที่นี่ มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?” หวังเย้าถาม


 


“เราจะออกไปเที่ยวกันสักพักน่ะค่ะ” เฉินหยิงพูด “คุณพอจะช่วยตรวจดูเสี่ยวโจวให้หน่อยได้ไหมคะ?”


 


“ได้สิครับ” หวังเย้าพูด


 


ตั้งแต่ที่ได้กินยาของหวังเย้าอย่างต่อเนื่อง อาการของเฉินโจวก็ไม่เคยกำเริบขึ้นมาอีกเลย เขาแค่มีอาการเส้นเลือดเคลื่อนตัว ซึ่งเป็นเหตุการณ์เล็กน้อยที่เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นานเท่านั้น หวังเย้าไม่คิดว่า เขาจะมีอาการกำเริบในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน และจากการรักษาอย่างต่อเนื่อง หวังเย้าก็เชื่อว่า เฉินโจวจะหายดีได้ในอีกไม่นาน


615 เล่นกับเขา


 


“ฉันจะไปกับเขาด้วยค่ะ” เฉินหยิงพูด “แล้วคราวนี้ เสี่ยวโจวก็มีเรื่องอยากจะขอเป็นพิเศษด้วย”


 


“ครับ?” หวังเย้าถาม


 


“ผมอยากจะติดตามเรียนรู้การรักษากับเซียนเชิงครับ” เฉินโจวพูด


 


“เธออยากจะติดตามฉันเหรอ?” หวังเย้ารู้สึกประหลาดใจ “ทำไมอยู่ๆเธอถึงคิดแบบนี้ได้ล่ะ?”


 


“จากประสบการณ์ที่ผมต้องอยู่ในศูนย์สุขภาพจิต ที่นั่นมีคนที่ทั้งน่าสงสารและคนที่ไร้หนทางอยู่เต็มไปหมด ตอนนี้ ผมอาจจะยังช่วยพวกเขาไม่ได้ แต่ผมมีความรู้สึกแรงกล้าที่อยากจะช่วยพวกเขาให้ได้ในสักวันครับ” เฉินโจวพูดออกมา ราวกับเขาเป็นชายชราที่เข้าใจชีวิต หลังจากผ่านช่วงชีวิตที่ขึ้นๆลงๆมาแล้ว


 


“ถ้าดูจากอายุของเขา เขาควรจะเข้าเรียนชั้นประถมได้แล้วสินะครับ” หวังเย้าพูด


 


“อายุของเขาสามารถเข้าเรียนเกรด 7 ได้แล้วค่ะ” เฉินหยิงพูด


 


“ผมอยากจะแนะนำให้ส่งเขาไปเรียนในโรงเรียน เพื่อให้เขาได้มีความรู้และเข้ากับสังคมทั่วไปได้” หวังเย้าพูด “เขาต้องแยกตัวจากสังคมมาหลายปี ดังนั้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการ เขาต้องเรียนรู้การสื่อสารกับคนอื่น รวมไปถึงการมีเพื่อนใหม่ด้วย ส่วนเรื่องที่อยากจะเรียนการรักษาจากผม เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเลย ผมสามารถส่งตำราบางส่วน เพื่อให้เขาได้เรียนพื้นฐานการแพทย์แผนจีนไปก่อนได้”


 


“ดีค่ะ” เฉินหยิงพูด


 


เธอเห็นด้วยกับข้อเสนอของหวังเย้า ในเมื่อเฉินโจวมีความรู้สึกเคารพในตัวของหวังเย้าอยู่แล้ว เขาจึงมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ โดยที่เธอไม่จำเป็นต้องพูดชักจูงอะไรเขาเลย


 


เฉินโจวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตอบไปว่า “โอเคครับ ผมจะฟังที่เซียนเชิงบอกและเก็บเกี่ยวสิ่งที่หายไปทั้งหมดก่อน”


 


“แล้ว ทั้งสองคิดจะไปที่ไหนกันเหรอ?” หวังเย้าถาม


 


“น่าจะสักที่ในจังหวัดฉีนี่แหละค่ะ” เฉินหยิงพูด “ฉันอยากจะพาเขาไปที่ภูเขาไท่ชานก่อนที่แรก”


 


“โอเคครับ พี่เอารถของผมไปใช้ก็ได้นะครับ” หวังเย้าพูด


 


“ขอบคุณค่ะ แต่เราเช่ารถเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” เฉินหยิงพูด


 


สองพี่น้องพากันกลับออกไป หวังเย้ารู้สึกยินดีที่มีคนสนใจอยากเรียนแพทย์แผนจีนมากขึ้น เมื่อดูจากท่าทางการพูดของเฉินโจวแล้ว หวังเย้าสามารถบอกได้ว่า เขาต้องการเรียนรู้ด้วยใจของเขา ไม่ใช่แค่เรียนเพียงชั่วครู่


 



 


ก่อนบ่ายโมงเพียงเล็กน้อย หวังเจ๋อเชิงก็เดินเอามือกุมเอวของเขาเข้าไปในคลินิก เขาดูเหมือนจะเจ็บปวดอย่างมาก


 


“เกิดอะไรขึ้นครับ?” หวังเย้ามองหน้าที่ซีดเซียวของเขา เขามองออกมา มันเป็นอาการเจ็บจากการทำงานหนักเกินไป เขารู้ได้เลยว่า หวังเจ๋อเชิงไม่ได้ฟังคำแนะนำของเขาเลยสักนิด


 


“ฉันเจ็บที่เอวน่ะ มันเจ็บมากๆเลย” หวังเจ๋อเชิงพูด


 


อาการเจ็บนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ไม่ว่าเขาจะยืน, นั่ง, หรือนอน เขาก็จะรู้สึกเจ็บอยู่ตลอดเวลา มันคล้ายกับว่า มีคนกำลังถือมีดแทงไปที่เอวของเขาไม่หยุด


 


ในสองวันแรก เขาสามารถทนกับความเจ็บได้บ้าง และคิดว่า อีกไม่นานเขาก็จะดีขึ้นเอง ดังนั้น เขาจึงนำพลาสเตอร์แก้ปวดแปะเอาไว้ แต่กลับกลายเป็นว่า ความเจ็บนั้นเพิ่มขึ้นจนเขาทนไม่ไหว


 


เมื่อเขาไปทำงานในตอนเช้า เขาแทบจะยืนไม่ไหว เขาเกือบทนทำงานจนหมดกะไม่ได้ แม้แต่จะจูงมอเตอร์ไซด์เขาก็ยังทำไมไหว หลังกลับมาถึงที่บ้านและหาอะไรทานเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตัดสินใจมาหาหวังเย้าที่คลินิก


 


“ผมแนะนำให้พี่อยู่พักที่บ้านสักเจ็ดวัน และมานวดกับผมทุกวัน แต่พี่กลับมาหาผมแค่ครั้งเดียวเท่านั้น” หวังเย้าพูด “พี่พักอยู่ที่บ้านกี่วัน ก่อนที่จะกลับไปทำงานครับ?”


 


“เอ่อ สองวันน่ะ” หวังเจ๋อเชิงพูด


 


“บอกความจริงมาครับ” หวังเย้าพูด


 


“วันครึ่ง” หวังเจ๋อเชิงพูด


 


เขาพักอยู่ที่บ้านแค่วันครึ่งเท่านั้น พอถึงตอนบ่าย เขาก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ดังนั้น เขาจึงกลับไปทำงาน เพราะกังวลเกี่ยวกับภาระทางการเงินของครอบครัว ในวันที่สาม เขาเริ่มรู้สึกปวดที่ช่วงเอว งานที่เขาทำเป็นงานที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนัก ดังนั้น ช่วงเอวของร่างกายจึงต้องรับภาระหนักไปด้วย หลังจากทำงานไปได้หนึ่งวัน ช่วงเอวของเขาก็ปวดอย่างมาก นอกจากนั้น แขนและลำคอของเขาก็มีอาการปวดด้วยเช่นกัน


 


แพทย์สามารถปฏิเสธที่จะรักษาคนไข้ด้วยหลายสาเหตุ คนไข้ที่ไม่สนใจสุขภาพร่างกายหรือไม่ฟังคำแนะนำของแพทย์ก็รวมอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน


 


“ถ้าพูดกันตามทฤษฎีแล้ว ผมคงจะไม่รักษาอาการป่วยของพี่อีก” หวังเย้าพูด


 


“อืม” หวังเจ๋อเชิงพยักหน้า ใบหน้าของเขาซีดเซียว “แล้วฉันก็รู้ด้วยว่า ฉันสมควรแล้วที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้”


 


การหวนนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้วนั้นง่ายกว่าการคิดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต


 


“มาครับ ผมขอดูหน่อย” หวังเย้าพูด


 


เมื่อหวังเจ๋อเชิงถอดเสื้อออก ก็เผยให้เห็นช่วงเอวที่แดงและบวมช้ำ มันแทบจะกลายเป็นสีม่วงอยู่รอมร่อ


 


“โอ๊ย!” ร่างกายของหวังเจ๋อเชิงสั่นสะท้าน เมื่อหวังเย้าจับไปที่ช่วงเอวของเขา


 


“เจ็บมากไหมครับ?” หวังเย้าถาม


 


“อืม มันเจ็บมาก” หวังเจ๋อเชิงพูด


 


เขามีอาการกล้ามเนื้อเคล็ดขัดยอก ซึ่งเกิดจากการไหลเวียนของโลหิตที่ไม่ดี และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อในส่วนนั้นตายได้


 


“นอนลงครับ” หวังเย้าพูด


 


หวังเจ๋อเชิงที่พยายามอดทนกับความเจ็บปวดได้นอนราบลงไป


 


“พี่ต้องทนหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด


 


แทนที่จะใช้การนวดรักษา หวังเย้ากลับฝังเข็มลงไปแทน เพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อช่วงหลังของหวังเจ๋อเชิงเกร็งตัว ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการรักษาเลย


 


“ผ่อนคลายหน่อยครับ” หวังเย้าพูด


 


“อื้อ” หวังเจ๋อเชิงกัดฟัน


 


“ตอนผมฝังเข็มลงไป เจ็บไหมครับ?” หวังเย้าถาม


 


“มันไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่” เพราะความเจ็บปวดที่ช่วงเอวนั้นเลวร้ายมาก เลยทำให้ความรู้สึกในส่วนอื่น เช่น อาการเจ็บๆคันๆจากเข็มที่แทงลงมานั้นลดลงไป มันเบามาก หากเทียบกับความเจ็บปวดที่เขากำลังอดทนอยู่


 


หลังจากฝังเข็มลงเสร็จแล้ว หวังเย้าก็เริ่มนวดตามจุดฝังเข็มเพื่อขับเลือด นี่เป็นเหมือนกับการนวดกล้ามเนื้อ


 


ร่างกายของหวังเจ๋อเชิงเกร็งขึ้น ตัวของเขาสั่นมากกว่าเดิม


 


“มันจะเจ็บหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด


 


“โอ๊ย!” หวังเจ๋อเชิงพยายามอดทนกับความเจ็บ


 


“ทนเอาหน่อยครับ” หวังเย้าพูด


 


เส้นเลือดและโลหิตถูกกระตุ้นจากแรงภายนอก และไม่ใช่การซ่อมแซมตัวเองของร่างกาย ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีผลข้างเคียงตามมา


 


เมื่อการรักษาเสร็จสิ้น เสื้อผ้าของหวังเจ๋อเชิงก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาแทบจะลุกไม่ไหว


 


“อย่างน้อยๆ ก็ต้องพักสัก 10 วันนะครับ” หวังเย้าพูด “ถ้าไม่ฟังที่ผมบอก ก็ไม่ต้องมาหาผมอีกนะครับ”


 


“โอ้ ได้ๆ” หวังเจ๋อเชิงพูด


 


ก็เหมือนกับการร่วงหล่นลงไปที่ก้นหลุม จึงทำให้มีปัญญา เขาจะจดจำบทเรียนนี้ไปอีกนาน


 


“ทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงน้อยลง และพักให้มากๆ” หวังเย้าพูด


 


“เอ่อ ค่ารักษาเท่าไหร่เหรอ?” หวังเจ๋อเชิงถาม


 


“ไม่ต้องจ่ายหรอกครับ” หวังเย้าพูด


 


“ฉันจะไม่จ่าย…” หวังเจ๋อเชิงรู้สึกประหลาดใจ


 


“กลับบ้านไปพักเถอะครับ” หวังเย้าพูดขัดเข้าขึ้นมา


 


“ขอบคุณนะ” หวังเจ๋อเชิงเดินจากไปช้าๆ พร้อมกับกุมมือไว้ที่เอว


 



 


ภายในศูนย์ทดสอบจังหวัดฉี…


 


“ผลเป็นยังไงบ้าง?” เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปถาม


 


“เอ่อ เราได้ทำการทดสอบสมุนไพรไปแล้ว 17 ชนิด ทั้งหมดนี้ เราไม่พบสารเคมีตกค้างหรือโลหะเกินกว่าค่ามาตรฐานเลย สมุนไพรพวกนี้ไม่มีสิ่งปนเปื้อนอยู่เลย” เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปอีกคนพูด


 


“เป็นไปได้ยังไงกัน?” เจ้าหน้าที่คนแรกพูด


 


“มันเป็นไปได้สิ ถ้าพวกมันเป็นสมุนไพรที่เก็บจากในป่าหรือไม่ก็ถูกปลูกเอาไว้บนเขา” เพื่อนร่วมงานของเขาพูด


 


สมุนไพรเหล่านี้ ถูกส่งมาจากเขตที่อยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัด เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปถูกขอให้ทำงานล่วงเวลา เพื่อตรวจสอบว่าสมุนไพรเหล่านี้ได้ค่ามาตรฐานหรือไม่ แต่แล้ว พวกเขาก็ไม่พบความผิดปกติอะไรเลย


 


“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?” เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปรู้สึกสงสัย


 



 


ภายในคลับเฮาส์ที่เมืองจี้…


 


“คุณชายหลี่ หลายวันมานี้ ดูเหมือนว่าคุณจะอารมณ์ดีมากนะครับ” ชายคนหนึ่งพูด


 


“เฮอะ ฉันไม่อารมณ์เสียตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ชายอีกคนพูด


 


“ผมได้ยินมาว่า คุณทำงานอยู่ในกรมอาหารและยาเหรอสินะครับ” ชายคนแรกพูด


 


“อืม มันน่าเบื่อสุดๆเลยล่ะ” ชายอีกคนพูด


 


“เฮ้ คุณน่าจะชอบนะ กรมแบบนั้นขึ้นตรงกับทางจังหวัดอยู่แล้วนี่นา” ชายคนแรกพูด “ขอแสดงความยินดีกับชีวิตที่สุขสมของคุณชายนะครับ”


 


“ฉันไม่อยากจะทำงานที่นั่นสักหน่อย เงินเดือนยังไม่พอซื้อบุหรี่เลยด้วยซ้ำ” ชายอีกคนพูด “ฉันแค่ทำงานเพื่อคนบางคนต่างหาก”


 


“ใครเหรอ? สาวสวยใช่ไหมครับ?” ชายคนแรกถาม


 


“สาวสวยบ้าอะไรกัน? ไม่ใช่ แต่เป็นศัตรูของฉันต่างหากล่ะ” ชายอีกคนพูด


 


“ศัตรู! ใครมันกล้ามาท้าทายคุณชายหลี่กัน? มันเป็นใคร? บอกผมมา ผมจะไปฟันมันทิ้งให้เอง!” ชายคนแรกพูด เขามีผมเรียบเป็นมันเงาและพูดจาป่าเถื่อน


 


“แม่ง! มันอยู่ที่ห่ายชิว” ชายอีกคนพูด “มันอยู่ในเขตของแกรึเปล่าล่ะ?”


 


“ห่ายชิว? ที่นั่นเหรอ? มันไปทำให้คุณไม่พอใจได้ยังไงกัน?” ชายคนแรกถาม


 


“ฉันมีเวลาเล่นกับมันอีกเยอะ” ชายอีกคนพูด


 



 


ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ตัวเมืองเหลียนชาน


 


“ไม่นะ! ไม่!” บนใบหน้าของชายหนุ่มไร้สีเลือด เหลือแต่สีซีดเผือดราวกับขี้เถ้า มันทำให้เขาดูราวกับคนใกล้ตาย

“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน? มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”


 


กริ๊ง! กริ๊ง! มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะส่งเสียงดังขึ้น เขามองดูหมายเลขและใช้ความคิดเล็กน้อย หลังจากที่ลังเลอยู่ไม่กี่วิ เขาก็กดรับสาย “ว่าไง เสี่ยวหลิง”


 


“คืนนี้ นายว่างรึเปล่า? เราไปกินข้าวเย็นด้วยกันดีไหม?” มีเสียงผู้หญิงดังมาจากปลายสาย


 


“ที่ไหนเหรอ?” ชายหนุ่มถาม


 


“ไหว้เราเจอกันก่อน แล้วค่อยคิดอีกทีก็ได้” หญิงสาวพูด


 


หลังจากที่กดวางสายแล้ว ชายหนุ่มก็เดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้อง “ไปเจอเธอก่อนก็แล้วกัน”


 


เขาแต่งตัวเรียบร้อย แล้วจึงขับรถออกจากตัวเมืองและตรงไปที่หมู่บ้านกลางเขา


 


“สวัสดีครับ หมอหวัง” ชายหนุ่มพูด


 


“อ้าว เธอนะเอง” หวังเย้าจดจำชายหนุ่มคนนี้ได้ในทันที เพราะอาการป่วยของเขาค่อนข้างจะพิเศษ


 


เขามีความต้องการทางเพศสูงและมักจะคิดถึงแต่เรื่องพวกนี้ไม่หยุด มันแทบจะควบคุมไม่ได้ หวังเย้าจึงได้ส่งพลังฉีเข้าไปที่ส่วนท้องน้อยของชายหนุ่ม ความคิดเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ที่ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยา ส่วนสงวนของเขาก็จะรู้สึกเจ็บปวด เหมือนกับมีเข็มทิ่มแทงอยู่


616 ยากเกินควบคุม


 


เขาได้รับการรักษาจากหวังเย้า โดยการใช้วิธีการรักษาแบบบังคับจากภายนอก ซึ่งส่งผลโดยตรงกับจุดที่เกิดปัญหา และผลลัพธ์ก็เห็นได้อย่างชัดเจน หลังผ่านไปได้แค่เดือนเดียว ชายหนุ่มก็สามารถกำจัดความคิดเหล่านั้นออกไปจากหัวได้ เพราะความเจ็บปวดที่ราวกับถูกทิ่มแทงนั้นทรมานจนแทบทนไม่ไหว


 


ต้องขอบคุณการรักษา เพราะมันทำให้ชายหนุ่มสามารถนอนหลับได้อย่างเต็มที่ เขายังเชื่อฟังคำแนะนำของหวังเย้าในเรื่องของการออกกำลังกายอีกด้วย ร่างกายของเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและพละกำลังของเขาก็กลับคืนมา ซึ่งทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เขายังมีแฟนสาวที่ชื่นชอบในตัวเขาอีกด้วย


 


ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องดี แต่มันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง ในเวลาที่เขาเข้าใกล้แฟนสาวของเขาแบสนิทชิดเชื้อ ความคิดเหล่านั้นก็โผล่ขึ้นมาในหัวของเขา เพราะถึงยังไง เขาก็ยังเป็นชายหนุ่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน เมื่อไหร่ที่ความคิดเหล่านั้นโผล่ขึ้นมา ร่างกายของเขาก็จะเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที และตามมาด้วยความเจ็บปวดที่ลืมไม่ลง


 


มันไม่ใช่เรื่องดีเลย ถึงแม้ว่าอาการป่วยแปลกๆของเขาจะสามารถรักษาได้แล้ว แต่ถ้ามันยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป เขาก็อาจจะกลายเป็นหมั่นได้


 


หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าจากชายหนุ่มแล้ว หวังเย้าก็ยิ้มออกมา “ไม่ต้องห่วง ผมจะตรวจดูร่างกายของนายให้เอง”


 


หลังจากตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว หวังเย้าก็พูดออกมาว่า “ร่างกายของคุณดีขึ้นกว่าครั้งก่อนมาก และคุณก็น่าจะรู้ได้เองอยู่แล้ว”


 


“มันดีขึ้นมากเลยล่ะ” ชายหนุ่มพูด “ผมรู้สึกได้ ผมมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น และสามารถพูดคุยกับคนอื่นด้วยความมั่นใจที่มากขึ้นด้วย ตอนนี้ ผมก็มีแฟนแล้วด้วย เธอดูจะพอใจในตัวผมมาก ผมเลยกลัวว่า การรักษาของหมอจะทำให้เกิดปัญหาอื่นขึ้นมาแทนน่ะสิ”


 


“ไม่ต้องกังวลไปหรอก มันไม่มีปัญหาแน่นอน ผมจะช่วยแก้ไข้ส่วนที่เป็นปัญหาในร่างกายของคุณให้เอง” หวังเย้าพูด


 


“เอ่อ แค่ส่วนนั้นส่วนเดียวเหรอครับ?” ชายหนุ่มถาม


 


“เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ร่างกายของคุณฟื้นตัวได้ดีมาก แต่เพราะกิจกรรมพิเศษในระยะยาวของคุณ เลยทำให้ร่างกายของคุณสูญเสียพลังงานไปมาก” หวังเย้าพูด “การมีเซ็กซ์มากเกินไป ก็เหมือนการสูบเอาพลังในร่างกายของคุณออกไปด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย พลังงานที่เสียไป ไม่สามารถสร้างทดแทนได้ในไม่กี่วัน ถ้าคุณคิดอยากจะทำ คุณก็ต้องควบคุมความต้องการของตัวเองให้ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ร่างกายของคุณก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก”


 


คนหนุ่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน มักจะไม่สามารถควบคุมความต้องการของตัวเองได้ดีนัก มันเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะเสพติดบางสิ่งบางอย่าง


 


“เอ่อ โอเคครับ” ชายหนุ่มพูด


 


หวังเย้ากดไปที่ท้องน้อยของชายหนุ่มอยู่สองสามครั้ง เพื่อเป็นการขับพลังฉี ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ เพื่อช่วยในการรักษาอาการป่วยของชายหนุ่ม “หลังจากผ่านไปหกเดือน ให้กลับมาหาผมอีกครั้ง”


 


“ต้องนานขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ชายหนุ่มรู้สุกกังวลเล็กน้อย


 


“เธอรอไม่ไหวเหรอ?” หวังเย้าถาม


 


เวลาหกเดือนไม่สั้นหรือยาวเกินไป มันไม่ถือว่านานเลยสักนิด หากเทียบกับสุขภาพตลอดทั้งชีวิตของคนคนหนึ่ง


 


“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ชายหนุ่มพูด


 


“โอเค แต่จำคำพูดของผมเอาไว้ให้ดีล่ะ” หวังเย้าพูด “ถ้าไม่อย่างนั้น ก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก”


 


“โอ้ โอเค ขอบคุณมาก” ชายหนุ่มพูดก่อนจะขอตัวกลับ


 


หวังเย้าสามารถคาดเดาบางอย่างได้จากแววตาของชายหนุ่ม เขายังคงอยากจะลองของอยู่


 


ในตอนบ่าย หวังเย้าออกมาจากคลินิกและมุ่งหน้าไปที่ยอดของเนินเขาซีชาน เขาหยุดอยู่ที่สถานที่แห่งความตาย ซึ่งมีสภาพเละเทะจากฝีมือของเขาเอง


 


เขามาที่นี่พร้อมกับความคิดหนึ่ง เขานำดอกแดนดิไลและหญ้าหางกระรอกไปปลูกไว้ใกล้ๆกับบริเวณนั้น แล้วรดน้ำพวกมันด้วยน้ำแร่โบราณ


 


สถานที่แห่งความตาย เกิดจากของเสียจากแมลงพิษที่พามาโดยหนู และได้เกิดการเจือปนลงไปในพื้นดินบนเนินเขาซีชาน ซึ่งมันทำให้ไม่มีพืชพันธุ์ชนิดไหนสามารถเจริญเติบโตในที่แห่งนี้ได้ เขาตั้งใจจะใช้พลังของพืชที่เขาปลูกลงไปในการลดพิษในดินลง แต่นอนว่า มันเป็นแค่ทฤษฎีที่เขาคิดขึ้นมาเท่านั้น และมันอาจจะไม่ได้ผลก็ได้


 



 


ในตัวเมืองเหลียนชาน


 


“คนไข้กำลังจะตาย” แพทย์คนหนึ่งพูด


 


แพทย์จากหลายแผนกกำลังปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด


 


“เกิดอะไรขึ้น? ตอนเช้า อาการของคนไข้ก็ยังดีดีอยู่ไม่ใช่เหรอ?” แพทย์อีกคนพูด


 


“อยู่ๆอาการของเขาก็ทรุดลงไปเลย” แพทย์คนแรกพูด


 


คนไข้ถูกพาตัวเข้าไปรักษาในแผนกคนไข้วิกฤต พวกเขาใช้ยาหลายชนิดเพื่อช่วยชีวิตของเขา แต่ก็ไม่มีตัวยาไหนที่ให้ผลชัดเจน อาการของคนไข้ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาแทบไม่เหลือลมหายใจ ซึ่งเป็นลางบอกเหตุของความตาย


 


ในเคสของเขา การเปลี่ยนถ่ายเลือดไม่ได้ช่วยให้อาการของเขาดีขึ้นเลย หลังจากสามชั่วโมงของการทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตของเขา ทุกอย่างกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า แพทย์ทุกคนต่างสงสัย มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?


 


เสียงร่ำไห้ของผู้หญิง, เด็ก, และคนแก่ ดังก้องอยู่ภายในห้องโถงของโรงพยาบาล ชายคนหนึ่งที่เป็นทั้ง สามี, พ่อ, และลูกชาย เขาคือคนที่ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม


 


แพทย์ผู้ให้การรักษาได้แต่ถอนหายใจต่อหน้าร่างไร้วิญญาณของมนุษย์คนหนึ่ง พวกเขาพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ส่วนวิธีที่พวกเขาจะจัดการกับเรื่องที่จะตามมานั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ครอบครัวของผู้ตายสร้างขึ้น หรืออะไรก็ตามแต่ ทั้งหมดล้วนเป็นหน้าที่ของทางโรงพยาบาลที่ต้องจัดการและแก้ไข


 


“หมอจ้าว ผมคิดว่า อาการของคนไข้รายนี้คล้ายกับคนไข้อีกเคสมากเลยนะ” แพทย์คนหนึ่งพูด


 


“คนไข้รายไหนเหรอ?” หมอจ้าวถาม


 


หลังจากผ่านไปได้สักพัก เคสรักษาของคนไข้รายหนึ่งก็ถูกนำออกมา


 


“คุณเห็นไหม คนไข้มีไข้สูง, หัวใจเต้นเร็ว, ความดันโลหิตสูงผิดปกติ, และอวัยวะล้มเหลว” แพทย์คนหนึ่งพูด เขาจดจำเคสรักษานี้ได้ดี เพราะเขามีส่วนร่วมในการรักษาครั้งนั้นด้วย


 


“กั๋วเจิ้งเหอเหรอ?” หมอจ้าวถาม


 


“ใช่ เขานั่นแหละ ผมจำเขาได้ดีเลยล่ะ เพื่อที่จะรักษาคนคนเดียว ถึงกับต้องขนผู้เชี่ยวชาญทั้งของจังหวัดและเมืองมารักษาเขาคนเดียว” แพทย์พูด “มันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ผมได้เห็นภาพแบบนั้นในโรงพยาบาล”


 


“แล้วสุดท้าย เขาหายได้ยังไงเหรอ?” หมอจ้าวถาม


 


“มันเป็นยาที่ตระกูลของเขาได้มาจากข้างนอกน่ะ” แพทย์พูด “น่าเสียดาย ที่เขาไม่ใช่คนที่นี่ มันเลยเป็นเรื่องยากที่จะถามเรื่องยากับเขา”


 


“มันคงจะมีแค่ไม่กี่เคสเท่านั้นแหละนะ” หมอจ้าวพูด


 


“ผมก็หวังไว้อย่างนั้นเหมือนกัน” แพทย์อีกคนพูด “ไม่อย่างนั้น มันคงจะเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ”


 



 


หลังจากที่หวังเย้าจัดการเรื่องบนเนินเขาซีชานเสร็จแล้ว เขาก็ลงไปจากเขา ไม่นาน เขาก็ได้รับสายจากปักกิ่ง ซึ่งเป็นสายจากหวูชิงหยุน “โอเคครับ ขอบคุณมาก”


 


เรื่องที่เขาขอให้ศาสตราจารย์หวูช่วยนั้นเรียบร้อยแล้ว ผลการทดสอบจะออกมาในเร็วๆนี้ เขากลับไปนั่งอยู่ที่คลินิกพักหนึ่ง ก่อนจะกลับไปที่บ้าน ดึกคืนนั้น เขากลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน


 


หวังเย้านั่งมองท้องฟ้าอยู่ที่สนามหญ้า พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดี


 


เช้าวันต่อมา มันเป็นวันที่ดีวันหนึ่ง ยกเว้นก็แต่ปัญหาที่เข้ามาแต่เช้าตรู่


 


เจ้าหน้าที่สองคนจากกรมสาธารณสุขจากห่ายชิวได้เดินทางมาที่คลินิกของเขา สาเหตุนั้นง่ายมาก ผลตรวจได้ออกมาว่า สมุนไพรบางส่วนของหวังเย้ามีสารปนเปื้อนที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น เขาต้องได้รับการลงโทษ


 


“ไม่ได้มาตรฐานเหรอ?” หวังเย้าถามอย่างใจเย็น


 


“นี่เป็นผลตรวจที่ออกมา” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูด


 


“เพราะมีสารเคมีตกค้างอย่างนั้นเหรอ?” หวังเย้าถาม


 


“ใช่” เจ้าหน้าที่แสดงสีหน้าเคร่งเครียด “คุณคิดว่า ผลตรวจผิดพลาดหรือไง?”


 


“สมุนไพรที่ใช้ทำยาของผมไม่มีสารเคมีตกค้างอย่างแน่นอน” หวังเย้าพูด


 


“ในเป็นผลการทดสอบจากห้องแล็ปของทางจังหวัด ถ้าคุณมีคำถาม คุณสามารถไปติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอตรวจใหม่ได้” เจ้าหน้าที่พูด


 


“แน่นอนว่าผมต้องสงสัยอยู่แล้ว ผลตรวจต้องผิดพลาดแน่นอน ดังนั้น พวกคุณมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ” หวังเย้าพูด


 


“นายนี่มันอวดดีจริงๆ!” เจ้าหน้าที่รู้สึกไม่พอใจ


 


ในอดีต ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน พวกเขาล้วนได้รับการต้อนรับที่มีมารยาทและความเคารพอย่างสูง น่าแปลกที่ในหมู่บ้านเล็กๆกลางเขา พวกเขากลับต้องมาเจอกับคนที่ต้องการให้พวกเขาทำการทดสอบใหม่ ซึ่งมันทำให้พวกเขารู้สึกแปลกใจอย่างมาก


 


“เข้าใจที่พวกเราพูดรึเปล่า?” เจ้าหน้าที่ถาม “สมุนไพรของนายมันมีปัญหา นายต้องจ่ายค่าปรับ ถ้าไม่จ่าย ใบอนุญาตของนายก็จะถูกยกเลิก”


 


“ผมบอกว่า สมุนไพรของผมไม่ได้มีปัญหา แล้วท่าทีของพวกคุณก็ไม่ต่างจากโจรปล้นเลยสักนิด” หวังเย้าพูด


 


“อะไรนะ?” เจ้าหน้าที่ตกตะลึง “ไม่ว่าจะอะไรก็ช่าง แต่นายต้องจ่ายค่าปรับมา”


 


“ไม่” หวังเย้าพูด


 


เจ้าหน้าที่ทั้งสองหมุนตัวและเดินจากไปด้วยท่าทีไม่พอใจ


 


“โกรธมากๆ ไม่ดีกับตับนะ” หวังเย้าพูดไล่หลังพวกเขาไป


 


“เชี่ยเอ้ย!” หนึ่งในเจ้าหน้าที่รู้สึกโกรธอย่างถึงที่สุด เขาหยุดเดินและหันหน้าไปหาหวังเย้า “แกพูดว่าอะไรนะ?”


 


“โอ้ ยิ่งตะโกนแบบนี้ ก็ยิ่งเหมือนโจรเข้าไปใหญ่” หวังเย้าพูดอย่างใจเย็น และจับจ้องไปที่เจ้าหน้าที่คนนั้นนิ่งๆ


 


เจ้าหน้าที่กำหมัดแน่น


 


“ขยะ” หวังเย้าพูดยั่วอารมณ์เจ้าหน้าที่ที่กำลังโมโหอยู่


 


เจ้าหน้าที่คนนั้นพุ่งตัวเข้าไปหาหวังเย้าอย่างรวดเร็ว แล้วอยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนที่ดังราวกับฟ้าผ่า “ออกไป!”


 


เสียงที่ดังจนหูแทบดับ ทำให้ชายทั้งสองยืนอึ้งอยู่กับที่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)