Divine King of All Directions - สิบย่านฟ้าราชาสวรรค์ 1355 - 1358
ตอนที่ 1355
ประกายแสงเจิดจรัสถูกส่งออกมาจากกระบี่เหนือศีรษะก่อนที่คลื่นพลังจะกดทับลงมาอย่างรุนแร ง
มิติโดยรอบแหลกสลายหายไปขณะที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงจะปกคลุมร่างของทุกคนเอาไว้
“ตาย ! ”
เสียงนี้ถูกส่งออกมาอย่างราบเรียบเสมือนว่าเป็นเสียงของราชันผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง
เมื่อคำพูดของเขาได้สิ้นสุดลงแล้วมิติที่อยู่รอบข้างก็ได้ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่ก่อนที่ดวงตาของเขาจะส่องประกายแสงสีทองพุ่งผ่านอากาศออกไปปะทะเข้ากับการโจมตีนี้
“ฟึ้บบ ~! ”
ประกายแสงอันทรงพลังนี้ได้บดขยี้กระบี่ยักษ์กลางม่านฟ้าไปโดยทันที
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงโดยทันที
“นี่มัน…….”
“สามารถป้องกันได้ ?! ”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ! ”
เหล่าผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุดออกมา
มนุษย์ปีกอีกสองคนที่ยืนอยู่กลางม่านฟ้าเองก็ต่างพากันจ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยดวงตาที่ส่องประกายออกมาเล็กน้อย
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ด้านหลังได้แต่ผงะไป
“สามารถรับการโจมตีของกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าได้ง่ายๆแบบนี้นี่มันต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ? ! ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
หลินเทียนไม่ได้พูดอะไรพร้อมทั้งหันมองออกไปยังมนุษย์ปีกที่อยู่ห่างออกไป
อีกฝ่ายเองก็มีสีหน้าที่ประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบยิ่งกว่าเก่าว่า
“ก็พอมีน้ำยาอยู่บ้าง ข้ายอมรับเลยว่าข้าประเมินเจ้าต่ำไปแต่ถึงอย่างไรเจ้าก็……”
“ไสหัวลงมา ! ”
หลินเทียนส่งเสียงออกมา
พลังสัจธรรมอันหนักหน่วงได้ระเบิดออกมาอย่างรุนแรงพร้อมทั้งกระแทกร่างของอีกฝ่ายลงมากองอยู่แทบเท้าของเขา
นี่ทำให้อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาพร้อมทั้งอุทานว่า
“เจ้า……”
“ตู้มม ~! ”
หลินเทียนยกเท้ากระทืบลงไปกลางหน้าอกของเขาอย่างจัง
อ๊ากก ~!
อีกฝ่ายส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างดังขณะที่เลือดไหลทะลักออกมาจากปาก
นี่ทำให้เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างพากันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“ท่านทวยเทพ ! ”
“นี่มัน ?! ”
“เป็นไปไม่ได้ ! ”
เหล่าศิษย์ต่างสั่นสะท้านไปตามๆกัน
เป็นเพราะว่าชายคนนั้นถือเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งที่พวกเขาเคารพบูชาทว่าชายหนุ่มจากดินแดนศูนย์กลางกลับสามารถกระแทกร่างของอีกฝ่ายลงมาจากท้องฟ้าได้แถมยังเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนถึงกับมองตาค้างไปด้วยร่างกายที่สั่นไม่หยุด
“ท่านอาจารย์เปิดสูตรโกงหรือเปล่า ! ”
เซียนเซียนอดส่งเสียงอุทานคำสมัยใหม่ออกมาไม่ได้
“แม่เจ้าโว้ย ! ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมาพลางกลืนน้ำลายกลับลงไป
พวกเขาล้วนแล้วแต่ผวาไปกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่ากลับดูไร้น้ำยาเมื่ออยู่ต่อหน้าของหลินเทียนก่อนที่จะกองอยู่ใต้ฝ่าเท้าของหลินเทียนไม่ต่างกับชายชุดดำวัยกลางคนก่อนหน้านี้
“ไอ้ระยำ ! ไปไกลๆไป ! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังหลังจากที่โกรธจัดเมื่อต้องอยู่ใต้เท้าของหลินเทียน
ตู้มม ! คลื่นพลังอันหนักหน่วงระเบิดออกมาจากร่างของเขาเพื่อพยายามจะดิ้นให้หลุดจากฝ่าเท้าของหลินเทียน
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์เท่านั้นเพราะเท้าที่เหยียบหน้าอกของเขาเอาไว้กลับให้ความรู้สึกไม่ต่างจากขุนเขาบรรพกาลที่ไม่มีวันสั่นคลอนทำให้พลังเทวะของเขาไม่สามารถทำอะไรได้
“ระยำเอ้ย ! ปล่อยข้า ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
การที่ต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าแบบนี้มันทำให้ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธถึงขีดสุด
“หุบปาก ! ”
หลินเทียนพูดออกมาพร้อมทั้งกระทืบซ้ำลงไปอย่างจัง
“อ๊ากก ~! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างดังขณะที่เลือดไหลทะลักออกมาจากปากมากยิ่งกว่าเก่า
นี่ทำให้คนอื่นๆได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
มันรวมถึงมนุษย์ปีกทั้งสองเองก็ด้วย ถึงขั้นที่ดวงตาของพวกเขาพากันหดเล็กลงอย่างมาก
“เจ้ามนุษย์ รีบปล่อยเขาซะ ”
น้ำเสียงอันราบเรียบถูกส่งออกมา
บรรพบุรุษที่หนึ่งได้ส่งเสียงออกมาซึ่งเขาถือเป็นบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดและได้ฉายาว่าราชันวิหกซึ่งตอนนี้สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ร่างของหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ราบเรียบและล้ำลึกอย่างเคย
เพียงแค่เสียงของเขากลับทำให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ไอ้……หนู ไอ้มนุษย์ปีกนี่มันแข็งแกร่งมากๆ ! ”
พยัคฆ์ขาวที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงออกมา
“น่ากลัวมากๆ ”
เซียนเซียนเองก็ส่งเสียงออกมาเช่นเดียวกัน
หลินเทียนนั้นสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้อย่างดีเพราะนี่คือคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันตั้งแต่มาเหยียบโลกใบนี้
อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาก็ยังคงราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
เขากระทืบเท้าขวาลงไปพร้อมๆกับส่งตรามังกรเข้าบดขยี้
พุฟฟ !
ร่างของอีกฝ่ายระเบิดออกกลายเป็นหมอกเลือดไปโดยทันที
“ไม่!!! ”
ดวงวิญญาณของมันส่งเสียงกรีดร้องออกมาก่อนที่ตรามังกรมากมายจะเริ่มกัดกินร่างวิญญาณของเขาอย่างรวดเร็ว
ตกตายลงอย่างสมบูรณ์ !
“ท่านทวยเทพ ! ”
“นี่มัน…..เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่น
เป็นเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งของเขากลับตกตายลงในชั่วพริบตา
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนเองก็ได้แต่สั่นสะท้านไปเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่ากลับ….ถูกกระทืบจนตาย !
หลินเทียนที่กำลังแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาได้หันมองออกไปยังมนุษย์ปีกที่อยู่ห่างออกไป
“เจ้ามนุษย์ ! ”
สายตาของราชันวิหกส่องประกายความเย็นยะเยือกถึงขีดสุดออกมาพร้อมๆกับแผดกลิ่นอายอันทรงพลังออกไปรอบทิศทาง
ทั้งๆที่เขาสั่งให้หลินเทียนปล่อยมือออกจากคนของเขาแล้วทว่าหลินเทียนกลับสังหารผู้เชี่ยวชาญของเขาแบบนี้มันเป็นการหักหน้าอย่างร้ายแรง !
ตู้มมม !
ประกายแสงสีเทาแผดออกไปรอบทิศทางก่อนที่กลิ่นอายอันหนักหน่วงจะทำให้มิติโดยรอบสั่นคลอนอย่างต่อเนื่อง
“จักรพรรดิ…..ว่างเปล่า !”
พยัคฆ์ขาวถึงกับผวาไป
เซียนเซียนได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุดออกมาเพราะไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะก้าวข้ามเขตแดนจ้าวสวรรค์ไปแล้ว !
ราชันวิหกยืนอยู่กลางฟากฟ้าโดยที่มีปีกสามคู่ของกลางหลังพร้อมๆกับปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังออกมาทำให้สัจธรรมที่อยู่รอบๆสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ท่านราชันวิหก ! ”
“ได้โปรดล้างแค้นให้กับท่านทวยเทพที่สามด้วยขอรับ ! ”
“ท่านจะต้องสามารถทำความฝันของพวกเราให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันกำหมัดเอาไว้แน่นก่อนที่จะส่งเสียงออกมาด้วยความรู้สึกสรรเสริญ
ตู้มมม ! มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างต่อเนื่องขณะที่คลื่นพลังอันรุนแรงแผดออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง
อีกฝ่ายยังคงจดจ่ออยู่กับร่างของหลินเทียนเสมือนว่าเป็นเทพผู้ซึ่งควบคุมความเป็นและความตาย
จิตสังหารอันเข้มข้นที่แผดออกมาทำให้สถานที่แห่งนี้ถูกปิดกั้นเอาไว้ทั้งหมด
หลินเทียนที่กำลังยืนอยู่เองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีว่าอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนต้น
นี่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเพราะไม่คิดเลยว่าจะมีตัวตนระดับนี้อยู่บนโลกใบนี้ได้
“จิ้งจอกน้อย ไอ้เสือโง่ รีบถอยห่างออกไปให้ไกล ”
เขาส่งเสียงออกมา
คำพูดนี้ทำให้ทั้งสองคนได้แต่ผงะไป
“ไอ้หนู นี่เจ้าคิดสู้กับมัน ? ไม่มีปัญหาแน่ ?! นั่นน่ะเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าเลยนะ ! มันไม่ใช่อะไรที่จะสามารถต่อกรได้ ! ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะแม้ว่าหลินเทียนจะสามารถสังหารกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าลงได้แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายนั้นอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าที่แท้จริงจึงไม่ใช่อะไรที่กึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าจะเทียบชั้นได้
“ข้าจะฆ่ามัน ทำลายล้างที่นี่ ชิงเอาศิลากลับมาแล้วกลับบ้านกัน ”
หลินเทียนพูดออกมา
น้ำเสียงของเขาฟังดูราบเรียบแค่อดทำให้พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนผงะไปไม่ได้
ศิษย์ทั้งหลายต่างพากันแสดงสีหน้าที่ดุร้ายออกมาพร้อมทั้งคำรามว่า
“อย่างเจ้าน่ะหรือ กล้าคิดจะสังหารท่านราชันวิหก ! ”
“ไอ้พวกโง่ ! ”
“แค่นิ้วเดียวของท่านผู้นั้นก็เพียงพอจะบดขยี้เจ้าแล้ว ! ”
พวกเขาเหล่านี้พากันส่งเสียงออกมา
หลินเทียนยังคงยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบโดยที่ไม่ได้สนใจคนเหล่านี้แม้แต่น้อย
“ถอยออกไป ”
เขาพูดกับพยัคฆ์ขาวและเซียนเซียน
ทั้งสองคนต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปขณะที่ดวงตาส่องประกายออกมา
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต่างพากันเหาะทิ้งระยะออกไป
“ท่านอาจารย์ ท่านต้องสามารถจัดการมันได้อย่างแน่นอน ! ”
นางพูดออกมา
หลังจากนั้นไม่นานนางก็ทิ้งระยะออกไปไกลกว่าหลายกิโลเมตรขณะที่สายตาจดจ่ออยู่ที่ร่างของหลินเทียน
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่และสัมผัสได้ว่าเซียนเซียนและพยัคฆ์ขาวได้ทิ้งระยะออกไปไกลแล้ว
เขาหันมองกลับไปทางฝ่ายตรงข้ามด้วยสีหน้าที่ราบเรียบอย่างเคย
ตู้มมม ~~~!
กลิ่นอายจักรพรรดิอันเข้มข้นระเบิดออกมาพร้อมๆกับคลื่นพลังสีทองอร่ามที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทุกหย่อมหญ้า
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาหลังจากที่กลับมาถึงโลกนี้ทำให้คลื่นพลังอันหนักหน่วงพุ่งทะลวงม่านฟ้าขึ้นไปเสมือนว่ากำลังจะฉีกดินแดนลับแห่งนี้ออกเป็นเสี่ยงๆ
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“จ้าวสวรรค์ระดับ 8 ? เจ้าหนูนี่อยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 8 ?! แถมกลิ่นอายระดับนี้มัน………”
พยัคฆ์ขาวได้แต่ส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะว่าระดับพลังของหลินเทียนทำให้มันรู้สึกตกตะลึงอย่างมาทว่ากลิ่นอายที่หลินเทียนส่งออกมานั้นถึงกับทำให้มันแข็งค้างไปทันทีเพราะว่านี่มันใช่กลิ่นอายที่เขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 8 มีได้ ?
เป็นเพราะความเข้มข้นของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าจักรพรรดิว่างเปล่าเลยด้วยซ้ำ
ท้ายที่สุดมันถึงเข้าใจได้ว่าทำไมขนาดกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าเองก็ยังเปราะบางขนาดนี้ …….ด้วยแรงกดดันที่หลินเทียนส่งออกมานี้อีกฝ่ายจะเป็นคู่มือของเขาได้อย่างไรกัน ?!
“แข็งแกร่งมากๆ ! นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของท่านอาจารย์ ? นี่มัน…….แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ! ”
ดวงตาอันงดงามของนางเปล่งประกายความตื่นเต้นออกมา
เป็นเพราะว่ากลิ่นอายที่หลินเทียนแผดออกมาในตอนนี้มันทรงพลังและยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากการจุติของทวยเทพเลยด้วยซ้ำ
กลิ่นอายระดับนี้ทำให้บรรพบุรุษที่สองของนิกายแห่งนี้อดสั่นสะท้านไปไม่ได้
สายตาของราชันวิหกเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าเองก็หดเล็กลงเล็กน้อยก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นความไม่แยแส
“เป็นกลิ่นอายที่รุนแรงดีหนิแต่สุดท้ายก็เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 8 ”
เขาพูดต่อขณะที่แรงกดดันแผดออกไปโดยรอบว่า
“ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องตายในวันนี้ ! ”
ตอนที่ 1356
แรงกดดันที่เขาได้รับจากเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่านั้นมันทรงพลังอย่างมากไม่ต่างกับการกับทับลงมาของห้วงจักรวาลที่ทำให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรง
ราชันวิหกยังคงยืนอยู่กลางฟากฟ้าด้วยท่าทางที่ไม่ต่างจากเทพผู้สูงส่งพลางส่งเสียงออกมาว่า
“ที่นี่จะเป็นหลุมฝังศพของเจ้า ! ”
“ท่านราชันวิหก ! ”
“ท่านราชันวิหก ! ”
“ท่านราชันวิหก ! ”
เหล่าศิษย์พากันส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
หลินเทียนหันมองออกไปด้วยสีหน้าที่ราบเรียบอย่างมากก่อนที่ประกายแสงสีทองที่แผดออกมาจากร่างของเขาจะยิ่งทรงพลังขึ้นไปอีก
เขาเหาะออกไปพร้อมทั้งพูดว่า
“เก็บไว้ใช้เองแล้วกัน ข้ายังไม่ต้องการ ”
ราชันวิหกหันมองออกไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่ลึกล้ำก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“มดปลวกเขตแดนจ้าวสวรรค์ กล้าอวดดีนักนะ ”
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็ได้โบกมือขวาออกไปคว้าเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่รอช้า
ตู้มม ~!
มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่ทุกสิ่งที่อย่างได้แหลกสลายหายไป
มันเป็นคลื่นพลังที่หนักหน่วงและน่ากลัวอย่างมากถึงขั้นที่ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
“รีบถอยออกไปเร็ว ! ”
ผู้นำนิกายส่งเสียงออกมาอย่างดังขณะที่นำกลุ่มศิษย์ทั้งหลายพากันถอยห่างออกไปจากรัศมีพลังทำลายล้าง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่บรรพบุรุษที่สองเองก็ถอยห่างออกไปไกลกว่าหลายกิโลเมตรแล้วเช่นกัน
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปได้แต่มองไปยังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวก่อนที่จะหันมองไปทางหลินเทียนเพราะแม้จะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งแต่ก็อดเป็นกังวลไปไม่ได้เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็แข็งแกร่งอย่างมาก
ตู้มม ~!
ฝ่ามืออันทรงพลังได้บดบังทุกสรรพสิ่งพร้อมทั้งอัดเข้าใส่ทางหลินเทียน
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดออกไปอย่างไม่แยแส
มันเป็นหมัดที่ทำให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงถึงขั้นที่ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมา
ฝ่ามือและหมัดนี้ได้อัดกระแทกเข้าใส่กันอย่างจัง
มิติรอบข้างแหลกสลายหายไปก่อนที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงจะแผดกระจายระลอกคลื่นออกไปรอบทิศทาง
สีหน้าของราชันวิหกเองก็เปลี่ยนไปอย่างมากเพราะไม่คิดเลยว่าจ้าวสวรรค์อย่างหลินเทียนจะสามารถรับการโจมตีของเขาเอาไว้ได้
ดวงตาของเขาส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมาก่อนที่จะซัดฝ่ามือเข้าใส่อีกครั้ง
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาขณะที่ใช้ร่างกายรายล้อมไปด้วยประกายแสงสีทองเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังออกไป
ทึ้มม ~!
ทึ้ม !
ทึ้มม !
หมัดและฝ่ามือได้อัดกระแทกเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมา
ภาพเหล่านี้ทำให้ผู้คนทั้งหมดได้แต่สั่นสะท้านไปทันที
“เจ้านั่นมัน…..สามารถรับการโจมตีของท่านราชันวิหกเอาไว้ได้ ?! ”
“สามารถรับมือกับการโจมตีของท่านได้นี่มัน………”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
เหล่าผู้คนพากันส่งเสียงสั่นๆออกมาด้วยใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
บรรพบุรุษที่สองที่อยู่ห่างออกไปเองก็ถึงกับอกมีดวงตาที่หดเล็กลงไม่ได้
เป็นเพราะว่าเขารู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของราชันวิหกเป็นอย่างดีเพราะพวกเขาลืมตาตื่นมาพร้อมๆกันและหลังจากที่ตัดผ่านเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าแล้วราชันวิหกก็สามารถทำลายได้ทุกสิ่งไม่เว้นแม้กระทั่งเขตแดนกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าได้อย่างง่ายดายทว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งทางร่างกายของจ้าวสวรรค์กลับสามารถต่อกรกับราชันวิหกได้ !
“ด้วยระดับจ้าวสวรรค์แต่กลับมีร่างกายที่แข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่าจักรพรรดิว่างเปล่า ! เจ้าหนูนี่มันแข็งแกร่งขนาดนี้เลย ?! ”
พยัคฆ์ขาวที่อยู่ห่างออกไปได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“นี่มัน…..แข็งแกร่งมากๆ ! ”
เซียนเซียนเองก็แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงไม่ต่างกันออกมา
เป็นเพราะว่าเส้นทางการบ่มเพาะนั้นมันยาวไกลอย่างมากทำให้ช่องว่างระหว่างระดับพลังต่างๆนั้นยิ่งกว้างขึ้นๆเสมือนสองโลกทว่าตอนนี้หลินเทียนที่อยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์กลับมีร่างกายที่แข็งแกร่งเทียบเคียงได้กับจักรพรรดิว่างเปล่านี่มันเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
“ทึ้มม ! ”
“ทึ้ม ! ”
“ทึ้มม ! ”
ม่านฟ้ายังคงสั่นไหวอย่างต่อเนื่องขณะที่เสียงดังสนั่นถูกส่งออกมา
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาขณะที่เหวี่ยงหมัดของเขาอัดทำลายทุกสิ่งตรงหน้า
ราชันวิหกเองก็สำแดงพลังอันยิ่งใหญ่ที่เกือบจะทำลายพลังสัจธรรมที่อยู่รอบทิศทางไปด้วย
“เจ้ามนุษย์ ถือว่าเจ้าใช้ได้หนิ ! ”
เขาได้ส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
หลินเทียนเหวี่ยงหมัดเข้าใส่พลางส่งเสียงตอบกลับไปว่า
“ส่วนเจ้าก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่หนิ จักรพรรดิว่างเปล่ากลับทำได้แค่นี้ ”
เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบอย่างมาก
นี่ทำให้สายตาของอีกฝ่ายยิ่งเย็นยะเยือกขึ้นไปอีกก่อนที่จะกระพือปีกด้านหลังพร้อมทั้งสร้างกระบี่เทวะขึ้นมาฟาดฟันเข้าใส่ทางหลินเทียน
แกร๊ง !
เสียงมิติโดยรอบสั่นไหวถูกส่งออกมาก่อนที่ประกายแสงอันทรงพลังจะเข้มข้นขึ้นไปอีก
มันเป็นทักษะสังหารที่ทรงพลังอย่างมากถึงขั้นที่ทำให้ทุกสิ่งโดยรอบบิดตัวอย่างรุนแรงระหว่างที่พุ่งเข้าใส่ทางศีรษะของหลินเทียน
มิติโดยรอบสั่นไหวไม่หยุดขณะที่กลิ่นอายอันทรงพลังของมันบดขยี้ทุกสิ่ง
“เป็นทักษะเทวะขั้นสุดยอดของท่านราชันวิหก ! กระบี่สังหารเทพ ! ”
“เมื่อฟาดฟันกระบี่สังหารเทพแล้วทุกสิ่งล้วนถึงคราวอวสาน ! ”
เหล่าศิษย์พากันส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้น
พวกเขาหลายๆคนเคยได้เห็นราชันวิหกใช้ทักษะนี้มาก่อนแล้วดังนั้นถึงได้ตระหนักได้ถึงความร้ายกาจของทักษะนี้เป็นอย่างดี
เป็นเพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้วมันคือการโจมตีที่ไร้เทียมทาน !
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาขณะที่คลื่นกระบี่ปกคลุมพื้นที่โดยรอบเอาไว้
หลินเทียนที่สัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของมันก็ยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบอยู่เช่นเคย
บึ้สส !
ปรากฏวงเวทย์หยินหยางสี่ชั้นขึ้นมาด้านหลังของเขาก่อนที่จะรับเอาการโจมตีเอาไว้
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่เขาได้เหวี่ยงหมัดจักรพรรดิโกลาหลออกไปด้านหน้าด้วยพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
โร๊ววว ~~~ !
กรี้ ~!
เสียงมังกรและฟินิกซ์กู่ร้องคำรามถูกส่งตามออกมาก่อนที่จะพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของอีกฝ่ายจากสองทิศทาง
ตู้มม ~!
เสียงระเบิดถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่มิติโดยรอบแหลกสลายหายไปอย่างฉับพลัน
กระบี่สังหารเทพที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับวงเวทย์หยินหยางได้แหลกสลายหายไปขณะที่การโจมตีทั้งสองได้พุ่งเข้าใกล้ร่างของศัตรู
สายตาของราชันวิหกถึงกับเย็นยะเยือกไปทันทีก่อนที่จะสังเวยเอาทักษะเทวะสร้างเป็นหอกพลังเทวะขึ้นมาพลางแทงเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่รอช้า
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหนพร้อมทำเพียงแค่เหวี่ยงหมัดสวนกลับไป
แกร๊ง !
เสียงโลหะปะทะกันอย่างดังถูกส่งออกมาระหว่างที่หมัดของเขาอัดกระแทกเข้ากับหอกนี้
สายตาของอีกฝ่ายส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมาขณะที่ส่งคลื่นกระโจมตีอันทรงพลังออกมาโอบร่างของหลินเทียนเอาไว้โดยที่ไม่มีสิ่งใดสามารถรับการโจมตีนี้เอาไว้ได้
หลินเทียนเหวี่ยงหมัดจักรพรรดิโกลาหลและคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์ออกไปสร้างเป็นคลื่นกระบี่สีทองจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่กลางฟากฟ้า
ตู้มม !
ตู้ม !
ตู้มมม !
การปะทะกันของพวกเขาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้พื้นที่โดยรอบถูกทำลายจนสิ้นซาก
เปรี้ย !
เปรี้ยย !
เปรี้ยย !
เสียงปริแตกถูกส่งออกมาจากมิติโดยรอบ
ยังโชคดีที่นี่คือการต่อสู้กันภายในดินแดนลับเพราะหากว่าเป็นการต่อสู้ที่โลกภายนอกแล้วก็คงจะกลายเป็นหายนะโดยทันทีเนื่องจากระดับพลังของพวกเขามันสูงถึงขั้นที่การโจมตีแต่ละครั้งทำลายขุนเขาลงได้ง่ายๆ
ทึ้มม ~!
หลินเทียนเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังของเขาออกไปทำให้มิติโดยรอบพังทลายอย่างต่อเนื่อง
ราชันวิหกเองก็ฟาดฟันกระบี่ในมือของเขาเข้าใส่ทางหลินเทียนจนปลิวออกไปไกล
การต่อสู้ของพวกเขาได้ทำลายล้างสภาพแวดล้อมทั้งหมดที่อยู่รอบข้างถึงขั้นที่ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีก
“นี่มัน……..”
“สามารถรับการโจมตีของท่านราชันเอาไว้ได้หมดเลย ?! ”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ?! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันส่งเสียงสั่นๆออกมา
ไม่ว่าจะเป็นจ้าวนิกายหรือคนอื่นๆเองก็ได้แต่มองออกไปด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมากเพราะไม่คิดเลยว่าการชักใยของพวกเขาจะไปกระตุกหนวดตัวตนระดับนี้ ?!
“ระยำเอ้ย ! ”
ผู้อาวุโสทั้งสองคนได้กำหมัดเอาไว้แน่นพร้อมทั้งพูดว่า
“ท่านราชันจะต้องสามารถสังหารมันได้แน่ๆ ตอนนี้ก็ฆ่าคนที่ติดตามพวกมันมาก่อนแล้วกัน ! ”
เมื่อพูดจบแล้วเขาก็ได้หันมองออกไปทางเซียนเซียนและพยัคฆ์ขาวที่อยู่ห่างออกไปก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่ทางพวกเขาด้วยทักษะเทวะของเขตแดนจ้าวสวรรค์อย่างไม่ปราณี
เซียนเซียนและพยัคฆ์ขาวที่กำลังจดจ่ออยู่กับหลินเทียนเองก็ต่างมีสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมากเพราะอีกฝ่ายนั้นเป็นถึงตัวตนระดับจ้าวสวรรค์ที่พวกเขาไม่มีทางต่อต้านได้
“ตาย ! ”
ผู้อาวุโสที่สองได้โบกมือของเขาอัดเข้าใส่ทางทั้งสองคนอย่างไม่รอช้า
พลังทำลายได้ปิดกั้นพื้นที่โดยรอบทั้งหมดเอาไว้แล้ว
หลินเทียนที่อยู่ห่างออกไปเองก็ตระหนักได้ถึงจุดนี้ดีทำให้ดวงตาของเขาส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมาพร้อมทั้งโบกมือส่งคลื่นกระบี่สีทองออกไป
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่อันทรงพลังพุ่งผ่านอากาศและปรากฏขึ้นตรงหน้าของอีกฝ่ายในชั่วพริบตา
นี่ทำให้ชายชราได้แต่ผงะไปหลังจากที่สัมผัสได้ถึงพลังทำลายนี้จึงอุทานออกมาอย่างดังว่า
“ไม่~~~ ”
“พุฟฟ ! ”
กองเลือดระเบิดออกมาขณะที่ร่างกายและดวงวิญญาณของชายคนนี้สูญสิ้นไปอย่างสมบูรณ์
นี่ทำให้เหล่าผู้คนที่อยู่รอบๆพากันสั่นสะท้านไปตามๆกันเพราะการที่สามารถสังหารเขตแดนจ้าวสวรรค์ได้ด้วยการโจมตีเดียวนี่มันเป็นพลังที่แข็งแกร่งขนาดไหนกัน ?!
“ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์ ! ”
เซียนเซียนส่งเสียงออกมาในขณะที่นางเองก็ยังตกใจไม่หาย
หลินเทียนที่ยืนอยู่กลางฟากฟ้าด้วยสีหน้าที่ราบเรียบได้เหยียบอากาศเข้าไปหาทางราชันวิหกอีกครั้ง
สายตาของอีกฝ่ายเองก็ส่องประกายความเย็นยะเยือกถึงขีดสุดออกมา
“เจ้ามนุษย์ เจ้าเองก็พอใช้ได้แต่คิดจริงๆหรือว่าจะสามารถต่อกรกับข้าได้ด้วยระดับพลังจ้าวสวรรค์ของเจ้า ? ”
เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
หลินเทียนก้าวเดินออกไปก่อนที่จะส่งเสียงออกมาว่า
“ที่นี่จะเป็นหลุมศพของเจ้า ”
ร่างกายของเขาเปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาก่อนที่จะก่อตัวขึ้นเป็นกระบี่สีทองอร่ามฟาดฟันเข้าใส่ทางฝ่ายตรงข้ามทำให้มิติฉีกออกและเผยให้เห็นห้วงความโกลาหลที่อยู่ภายใน
ตอนที่ 1357
กระบี่สีทองอร่ามที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างได้พุ่งผ่านอากาศออกไปเข้าประชิดร่างของราชันวิหก
กระบี่นี้ได้ทำลายทุกสรรพสิ่งที่ขวางเส้นทางของมันเอาไว้
สายตาของอีกฝ่ายส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมาขณะที่กระพือปีกด้านหลังสร้างคลื่นพลังทำลายออกไปบดขยี้คลื่นกระบี่นี้
“อวดดีนักนะ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าแล้วจะช่วยบรรเทาความโง่งมของเจ้าที่คิดว่าตัวเองไร้เทียมทาน ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและหยิ่งผยองถึงขีดสุด
ตู้มม !
คลื่นพลังสัจธรรมอันหนักหน่วงระเบิดออกมาจากร่างของเขาอย่างเข้มข้นพร้อมทั้งโอบร่างของเขาเอาไว้ทำให้ไม่ต่างกับพระอาทิตย์ขนาดย่อมก่อนที่มิติโดยรอบจะสั่นไหวพร้อมๆกับประกายแสงสีเงินที่โถมลงมาจากฟากฟ้า
มันเป็นประกายแสงสีเงินที่อัดแน่นไปกลิ่นอายที่เข้มข้นส่งผลให้หัวใจของทุกผู้คนสั่นไหวอย่างรุนแรง
“นี่มัน….พลังจากดวงดาว ! ทักษะอันไร้เทียมทานของท่านราชันสามารถสูบเอาพลังของหมู่ดาวมาใช้ได้ ! ”
เหล่าศิษย์พากันส่งเสียงออกมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
สายตาของหลินเทียนเปล่งประกายออกมาเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่ยังคงราบเรียบอยู่อย่างเคย
เขารู้ดีอยู่ก่อนแล้วว่าหลังจากที่ตัดผ่านเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าได้นั้นจะสามารถดึงเอาพลังของหมู่ดาวมาหล่อหลอมร่างกายตัวเองให้แข็งแกร่งถึงขั้นที่เรียกว่าเป็นอมตะได้ดังนั้นการที่อีกฝ่ายสามารถดึงเอาพลังของดวงดาวมาใช้จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอะไร
เขาโบกมือของเขาสังเวยเอาคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์ออกมาพร้อมทั้งส่งมันออกไป
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาก่อนที่มันจะพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายอย่างฉับพลัน
ราชันวิหกแสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่เขาจะโบกมือขวาออกไปทำให้ดวงดาวสั่นไหวพร้อมทั้งบดขยี้คลื่นกระบี่เหล่านี้
“เป็นเพียงแค่เขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 8 ริอาจกล้าต่อกรกับข้างั้นรึ ! ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสก่อนที่มือทั้งสองจะผสานเข้าหากันพร้อมทั้งสูบเอาพลังของหมู่ดาวมารวมกันแล้วจุดประกายเปลวเพลิงสีเงินขึ้นมา
“นี่คือเปลวเพลิงจากแกนดาว มันสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่ง ”
ตู้มมม !
เปลวเพลิงนี้อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างที่ทรงพลังอย่างมากถึงขั้นที่แผดเผามิติโดยรอบจนวอดวายโดยที่ไม่มีอะไรสามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย
แรงกดดันที่มันกดทับลงมาทำให้อุณหภูมิภายในสถานที่แห่งนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน
หลินเทียนโบกมือส่งคลื่นกระบี่พุ่งผ่านออกไปกระแทกเข้ากับเปลวเพลิงนี้
อย่างไรก็ตามมันเป็นการโจมตีที่ทรงพลังถึงขั้นที่เผาทำลายคลื่นกระบี่ของเขาไปภายในชั่วพริบตา
“ไอ้โง่เอ้ย คิดจะต่อกรกับท่านราชันของพวกเรางั้นรึ กลายเป็นผุยผงไปซะ ! ”
ศิษย์ของนิกายพากันส่งเสียงโห่ร้องออกมา
ตู้มมม ! เปลวเพลิงอันทรงพลังยังคงกดทับลงมาอย่างต่อเนื่อง
มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเผาวนวอดวาย
พริบตามันก็เข้าประชิดร่างของหลินเทียนอย่างรวดเร็ว
“ตาย !!! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงออกมาอย่างเย็นยะเยือก
หลินเทียนหันมองออกไปด้วยสีหน้าที่ราบเรียบก่อนที่จะโบกมือทำให้กระบี่พลังเทวะสลายหายไปพร้อมทั้งจุดประกายเปลวเพลิงสีทองอร่ามขึ้นมา
มันเป็นเปลวเพลิงที่ส่องสว่างโชติช่วงขณะที่พุ่งเข้าปะทะกับเปลวเพลิงสีเงินที่กำลังกดทับลงมา
ฟึ้บบ ~!
เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่เปลวเพลิงสีทองได้ป้องกันการโจมตีของเปลวเพลิงสีเงินเอาไว้ได้ทั้งหมด
“นี่มัน.เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ ?! ”
สายตาของอีกฝ่ายถึงกับหดเล็กลงอย่างใหญ่หลวง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่สีหน้าของทุกคนที่อยู่ที่นี่เองก็ล้วนเปลี่ยนไปไม่ต่างกัน
“ไอ้หนูนี่มันไปเอาเปลวเพลิงในตำนานนี้มาจากที่ไหนกัน ?! ”
พยัคฆ์ขาวที่อยู่ห่างออกไปส่งเสียงออกมา
“สุดยอด ! ”
เซียนเซียนตอบกลับ
เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์นั้นได้ชื่อว่าเป็นเปลวเพลิงที่ก่อกำเนิดขึ้นเองตามธรรมชาติและได้ชื่อว่าสามารถเผาผลาญได้ทุกสรรพสิ่งซึ่งหากว่าผู้เชี่ยวชาญสามารถดูดกลืนมันได้ก็จะสามารถสังเวยมันออกมาใช้ในการต่อสู้ได้และพลังทำลายของมันสามารถเผาได้แม้กระทั่งสัจธรรมและที่สำคัญที่สุดคือมันสามารถวิวัฒนาการได้เรื่อยๆทำให้สามารถเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
“บึ้สสส ! ”
เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่เปลวเพลิงสีทองแผดเผาทุกสิ่งที่อยู่โดยรอบ
ด้วยระดับพลังของเขาผนวกกับกายสังสารวัฏแล้วทำให้ปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์นั้นมีพลังทำลายที่สูงขึ้นอย่างมากถึงขั้นที่เริ่มกลืนกินเปลวเพลิงสีเงินของอีกฝ่าย
ฟึ้บบบ ~!
เสียงนี้ถูกส่งออกมาอีกครั้งก่อนที่เปลวเพลิงสีจะถูกกลืนกินไปอย่างสมบูรณ์
“นี่น่ะรึคือพลังที่แท้จริงของจักรพรรดิว่างเปล่า ? ”
หลินเทียนส่งเสียงที่เย้ยหยันออกมา
เขาพุ่งออกไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอีกฝ่ายพร้อมทั้งซัดเปลวเพลิงเข้าใส่อย่างไม่รอช้า
“เจ้ามนุษย์ อย่าได้ใจเกินไปหน่อยเลย ! เจ้ามันก็เป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น ! ”
ราชันวิหกส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาขณะที่คลื่นพลังอันหนักหน่วงกวาดเข้าใส่ทางหลินเทียนจากรอบทิศทาง
พริบตานี้เองที่มิติโดยรอบได้แหลกสลายหายไปขณะที่ภูเขาและแม่น้ำเองก็เหือดแห้งลงอย่างฉับพลัน
ในตอนนี้เองที่หลินเทียนได้ซัดเปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ออกไปพร้อมๆกับหมัดจักรพรรดิโกลาหลทำให้ม่านฟ้าระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
ระหว่างนั้นเขาก็ได้สังเวยเอาการสรรสร้างทั้งหลายทั้งปวงออกมากดทับไปในเวลาเดียวกัน
ตู้มม !
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่ร่างของอีกฝ่ายถูกกระแทกปลิวออกไปไกล
“ท่านราชันวิหก ! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพากันแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนเองก็อดผงะไปไม่ได้เพราะว่าหลินเทียนที่อยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์กลับสามารถกระแทกร่างจักรพรรดิว่างเปล่าจนปลิวออกไปได้
“เจ้าหนูนี่มันผิดมนุษย์เกินไปแล้ว ถึงขั้นสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญต่างเขตแดนได้ถึงขนาดนี้ ! ”
พยัคฆ์ขาวกลืนน้ำลายกลับลงไป
มิติรอบข้างได้สั่นไหวขณะที่คลื่นกระบี่และการสรรสร้างทั้งหลายยังคงกดทับลงไป
ณ ตอนนี้สภาพผมเผ้าของอีกฝ่ายยุ่งเหลิงไปหมดก่อนที่จะสูบเอาพลังจากหมู่ดาวเข้ามาอีกครั้งพร้อมทั้งเหวี่ยงการโจมตีอันทรงพลังเข้าใส่ทางหลินเทียน
ตู้มม !
ตู้มมม !
ตู้ม !
การปะทะกันแต่ละครั้งของพวกเขาส่งผลให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปทันที
ตู้มม ! ราชันวิหกที่ได้สูบเอาพลังจากหมู่ดาวมาก่อสร้างเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่กดทับเข้าใส่ทางหลินเทียน
มันเป็นทักษะที่ไม่ใช่ทักษะเทวะซึ่งทรงพลังอย่างมากถึงขั้นที่สามารถทำลายได้ทุกสิ่ง
หลินเทียนไม่ได้เบี่ยงหลบไปไหนทว่ากลับใช้เปลวเพลิงปกป้องร่างกายเอาไว้ขณะที่เหวี่ยงหมัดสวนกลับไป
ทึ้มม !
การปะทะกันของพวกเขาสร้างแรงสั่นสะเทือนออกไปรอบทิศทางพร้อมทั้งส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมา
เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์และพลังจากหมู่ดาวได้ปกคลุมพื้นที่โดยรอบเอาไว้ทั้งหมด
หลายๆคนที่กำลังมองอยู่ถึงกับอ้าปากค้างไปตามๆกัน
“วิ้สส ! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งออกมาขณะที่หลินเทียนพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดอันทรงพลังอัดเข้าใส่อย่างจัง
สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงพลางอุทานออกมาว่า
“เจ้า……”
“พุฟฟ ! ”
หมัดนี้กระแทกร่างของอีกฝ่ายปลิวออกไปไกลด้วยสภาพใบหน้ากว่าครึ่งที่ถูกทำลายทำให้ร่างกายของเหล่าศิษย์นิกายสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง
หลินเทียนยังคงพุ่งผ่านออกไปก่อนที่จะส่งการโจมตีกดทับเข้าใส่ศัตรูอย่างไร้ความปราณี
มันเป็นการโจมตีที่ทรงพลังถึงขั้นที่แม้แต่ราชันวิหกเองก็ยังไม่สามารถต่อต้านได้ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชด้วยร่างกายกว่าครึ่งที่แหลกสลายหายไปก่อนที่จะถูกซัดปลิวออกไปกระแทกกับภูเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาพร้อมทั้งฟาดฟันคลื่นกระบี่พุ่งผ่านอากาศตามออกไป
อีกฝ่ายพุ่งขึ้นไปอยู่กลางอากาศพร้อมทั้งรักษาบาดแผลอย่างรวดเร็วก่อนที่จะซัดฝ่ามือเข้าทำลายคลื่นกระบี่ศุกลสวรรค์ของหลินเทียนไป
อย่างไรก็ตามมันเป็นเวลาเดียวกันนี้เองที่ร่างของหลินเทียนได้เข้าประชิดร่างของเขาพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดจักรพรรดิโกลาหลเข้าใส่อย่างจัง
“เจ้า………”
ตู้มมม !
หมัดจักรพรรดิโกลาหลอันทรงพลังอัดกระแทกเข้าใส่ร่างของเขาทำให้เลือดสาดกระเซ็นออกไปรอบทิศทาง
หลินเทียนยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งเข้าประชิดร่างของเขาอีกครั้งก่อนที่จะส่งการโจมตีชุดต่อไปออกมา
เป็นเพราะว่ายิ่งอยู่ในเขตแดนที่สูงขึ้นความต่างชั้นของแต่ละระดับเองก็จะยิ่งมากขึ้นแต่สำหรับเขามันต่างกันออกไปเพราะเขาคือกายสังสารวัฏที่แข็งแกร่งที่สุดดังนั้นหลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์ที่อันตรายแต่ละครั้งก็ทำให้เขาสามารถต่อสู้ข้ามเขตแดนได้อย่างแท้จริง
ตู้มมม !
หมัดอันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวของเขาได้อัดกระแทกร่างของอีกฝ่ายลอยเคว้งออกไปไกล
หลังจากนั้นเขาก็พุ่งเข้าประชิดร่างของมันพร้อมทั้งเหวี่ยงหมัดชุดออกไปอย่างต่อเนื่อง
“ตู้มม ! ”
“ตู้ม ! ”
“ตู้มมม ! ”
นี่ทำให้ราชันวิหกได้รับบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงขั้นที่เลือดชโลมไปทั่วม่านฟ้า
“ระยำเอ้ย ! พอกันที ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
ตู้มมม !
พลังเทวะอันหนักหน่วงได้ระเบิดออกมากระแทกร่างของหลินเทียนถอยกลับไป
หลังจากนั้นอาการบาดเจ็บของราชันวิหกก็ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อีกครั้ง
ดวงตาที่สามกลางหน้าผากของเขาส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมาเสมือนว่าเป็นเนตรแห่งความตายที่สามารถทะลวงวิญญาณของผู้คนได้ง่ายๆ
“ฝังทวยเทพ ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดัง
ตู้มม !
ร่างกายของเขายิ่งแผดประกายแสงสีเงินออกมาอย่างเข้มข้นขณะที่เนตรที่สามของเขาสร้างปรากฏการณ์อันน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาพร้อมปรากฏร่างของดวงวิญญาณร้ายที่พากันส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาระหว่างที่เคลื่อนที่ไปรายล้อมร่างกายของหลินเทียนเอาไว้
“เจ้าจะต้องตายภายในอาณาเขตนี้ ! ”
เขาส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางของอาณาเขตแห่งนี้ถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงหลังจากที่สัมผัสได้ถึงอันตรายของมัน
ตอนที่ 1358
อีกฝ่ายได้แต่แสดงสีหน้าที่โกรธจัดถึงขีดสุดออกมาพร้อมๆกับสร้างอาณาเขตที่ไม่ต่างจากโลกใบเล็กขึ้นมาพร้อมๆกับฝูงวิญญาณร้ายที่พากันโถมเข้าใส่ทางหลินเทียน
นี่เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของหลินเทียนได้เปลี่ยนไปอย่างมากก่อนที่ร่างกายของเขาจะแผดคลื่นพลังสีทองออกมาเผชิญหน้ากับดวงวิญญาณเหล่านั้น
“ฟึ้บบ ! ”
“ฟึ้บ ! ”
“ฟึ้บบ ! ”
เปลวเพลิงอันทรงพลังได้แผดเผาดวงวิญญาณวนวอดวายอย่างง่ายดาย
ทว่าดวงวิญญาณภายในอาณาเขตนี้มันมีจำนวนมากเกินไปแถมทุกตัวเองก็ยังมีดวงตาสีแดงก่ำและรายล้อมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย
หลินเทียนไม่ได้ประมาทแม้แต่น้อยก่อนที่จะโบกเปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ออกไปรับการโจมตีเหล่านั้นเอาไว้พร้อมๆกับส่งการสรรสร้างทั้งหลายเข้าบดขยี้ร่างวิญญาณของพวกมัน
“ไม่มีใครที่อยู่ในอาณาเขตนี้แล้วสามารถรอดกลับออกไปได้ ! ”
อีกฝ่ายส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมา
เมื่อคำพูดของเขาได้จบลงแล้วหลุมฝังศพทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ก็ได้ส่องประกายแสงออกมาก่อนที่ดวงวิญญาณมากมายจะพากันผุดขึ้นมา
ดวงวิญญาณเหล่านี้ล้วนแล้วแต่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลังแถมยังพากันโถมเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างบ้าคลั่งเสมือนหลุดออกมาจากขุมนรกอย่างไรอย่างนั้น
มันเป็นการโจมตีที่อันตรายและน่าสะพรึงกลัวอย่างมากถึงขั้นที่แม้เขาจะมีเปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์และการสรรสร้างทั้งหลายแต่ก็ยังไม่เพียงพอจึงได้สังเวยเอาวงเวทยฺหยินหยางหกชั้นออกมาปกป้องร่างกายเอาไว้
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นกระบี่พวยพุ่งออกไปรอบทิศทาง
คลื่นกระบี่สีทองอร่ามนี้พุ่งผ่านอากาศออกไปขณะที่เขาใช้ก้าวย่างแห่งสวรรค์เบี่ยงหลบการโจมตีทั้งหลายจนไปถึงที่สุดขอบอาณาเขตนี้
บึ้สสส ! ! มันเป็นตอนนี้เองที่มีอักขระสีเลือดปรากฏขึ้นมากลางอากาศพร้อมทั้งกระแทกร่างของเขาถอยกลับไป
มรเวลาเดียวกันนี้เองที่มีกรงเล็บที่ทรงพลังไม่ต่างจากกระบี่อาวุธสวรรค์คว้าเข้าใส่ทางเขาจากใต้พื้นดิน
ตู้มม ! ร่างของเขาได้ถูกกระแทกปลิวออกไปด้วยร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ
“ท่านอาจารย์! ”
เซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปอดส่งเสียงกรีดร้องออกมาไม่ได้
ระหว่างนี้เหล่าศิษย์นิกายทั้งหลายพากันส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นพลางกำหมัดเอาไว้แน่น
“กล้าคิดจะต่อกรกับท่านราชันวิหกมันรนหาที่ตายเองแท้ๆ ! ”
หนึ่งในพวกเขาส่งเสียงออกมา
หลินเทียนที่อยู่ภายในอาณาเขตแห่งนี้ได้พยุงตัวเองกลับขึ้นมาพร้อมทั้งใช้ทักษะเทวะทั้งหลายบดขยี้ร่างวิญญาณที่รายล้อมอยู่รอบทิศทางก่อนที่จะพบว่าอากาศโดยรอบนั้นมีสามารถกัดกร่อนไม่ต่างจากพิษศพจักรพรรดิที่ทำให้เสื้อผ้าของเขาเริ่มย่อยสลาย
ราชันวิหกได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาว่า
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะต้องถูกฝังอยู่ที่นี่ ไม่มีใครสามารถหนีออกไปได้ ”
เป็นเพราะมันคือทักษะที่แข็งแกร่งซึ่งต้องอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าถึงจะสามารถใช้งานได้
เขาหันมองไปทางหลินเทียนพร้อมทั้งประสานมือเข้าหากันทำให้เนตรที่สามกลางหน้าผากส่องประกายแสงที่เข้มข้นกว่าเก่าออกมา
นี่ทำให้อาณาเขตเบื้องหน้าสั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่ผีร้ายทั้งหลายจะพากันส่งเสียงคำรามออกมาด้วยกลิ่นอายที่พุ่งสูงขึ้นถึงเขตแดนกึ่งจักรพรรดิว่างเปล่าพร้อมทั้งโถมเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่เกรงกลัว
ดวงวิญญาณเหล่านี้อันตรายและร้ายกาจอย่างมากซึ่งไม่นานก็สามารถทำลายการป้องกันของเขาได้ก่อนที่จะกัดเข้าที่ร่างของเขา
ฟึ้บบ ! วินาทีที่มันได้กัดเข้าที่หัวไหล่ของเขาก็ทำให้เลือดมากมายไหลทะลักออกมาโดยทันที
สีหน้าของเขายังคงราบเรียบขณะที่ประกายแสงสีทองระเบิดออกมาฉีกร่างของวิญญาณเหล่านั้นสลายหายไป
แกร๊ง !
เสียงกระบี่คำรามถกส่งออกมาอีกครั้งพร้อมทั้งเข้าทำลายร่างศัตรูที่อยู่รอบทิศทาง
แคร๊ง !
เสียงเสียดสีกันถูกส่งออกมาก่อนที่จะปรากฏโซ่ตรวนมากมายขึ้นรอบทิศทาง
โซ่ตรวนเหล่านี้มีสีแดงฉานให้ความรู้สึกไม่ต่างจากโซ่ตรวนวิญญาณจากขุมนรกที่พุ่งเข้าหาร่างของเขาจากรอบทิศทาง
“พุฟฟ ! ”
เลือดได้สาดกระจายออกมาและถึงแม้ว่าจะมีวงเวทย์หยินหยางคอยปกป้องร่างเอาไว้โซ่นี้ก็สามารถทะลวงผ่านหน้าท้องของเขาไปได้ง่ายๆ
เลือดสีแดงสดไหลเยิ้มออกมาชโลมร่างของเขาเอาไว้
“ไอ้โง่เอ้ย รู้หรือยังว่าตัวเองมันอ่อนแอขนาดไหนเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านผู้นั้น ! ”
เหล่าศิษย์พากันส่งเสียงแสยะออกมา
พยัคฆ์ขาวและเซียนเซียนที่อยู่ห่างออกไปต่างพากันแสดงสีหน้าที่เป็นกังวลออกมาอย่างมาก
และแม้จะเป็นกังวลทว่าพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะระดับพลังของพวกเขามันต่ำเกินไปซึ่งหากว่าก้าวออกไปแล้วไม่เพียงแค่จะไม่ช่วยอะไรแต่ยังเป็นภาระให้กับหลินเทียน
โร๊วว !
เสียงร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ผีร้ายทั้งหลายพากันแผดกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่โซ่ตรวนทั้งหลายได้สั่นไหวอีกครั้ง
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางการโจมตีเหล่านี้ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ร่างของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด
มันทำให้คิ้วของเขาถึงกับขมวดเข้าหากันและต้องยอมรับเลยว่าเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่านี้มันแข็งแกร่งจริงๆ
“แกร๊ง! ”
เขาฟาดฟันคลื่นกระบี่ออกไปทำลายโซ่ตรงหน้าก่อนที่จะพุ่งผ่านออกไป
พริบตาฝูงวิญญาณก็พากันโถมเข้าใส่ทางเขาอย่างต่อเนื่อง
“จุดจบเดียวของเจ้าเมื่ออยู่ท่ามกลางอาณาเขตนี้คือการที่เจ้าจะต้องถูกพวกมันกลืนกินหรือไม่ก็ถูกทะลวงผ่านดวงวิญญาณโดยโซ่ตรวนเหล่านั้น ”
ราชันวิหกส่งเสียงออกมา
สายตาของเขายังคงความเย็นยะเยือกขณะที่กำลังก้มมองลงไปยังร่างของหลินเทียนด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางสถานที่แห่งนี้ได้หันมองออกไปทางฝ่ายตรงข้ามเล็กน้อยก่อนที่จะฟาดฟันคลื่นกระบี่เข้าใส่ฝูงผีร้ายและโซ่ตรวนทั้งหลาย
“อย่าเพิ่งได้ใจไปหน่อยเลย ”
เขาส่งเสียงออกมาก่อนที่จะเบิกเนตรแห่งสัจธรรมขึ้นมา
วินาทีนี้เองที่ตรามังกรมากมายได้รายล้อมดวงตาของเขาเอาไว้
มันทำให้เขาสามารถทำความเข้าใจอาณาเขตแห่งนี้ได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการก่อตัวขึ้นของโซ่ตรวนหรือว่าไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทั้งหลายที่ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
เขาเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเริ่มทำการวิเคราะห์จุดเปราะที่สุดของอาณาเขตนี้
โร๊ววว !
เสียงกู่ร้องคำรามถูกส่งออกมาอีกครั้งขณะที่โซ่ตรวนสีเลือดมากมายพากันโถมเข้าใส่จากทุกทิศทาง
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาก่อนที่จะเบี่ยงหลบพวกมันอย่างง่ายดายโดยที่มันไม่สามารถสร้างความเสียหายให้เขาได้อีก
นี่ทำให้สีหน้าของผู้คนที่อยู่โดยรอบถึงกับเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงเพราะไม่คิดเลยว่าหลินเทียนจะยังใจเย็นอยู่ได้แถมโซ่ตรวนทั้งหลายก็เหมือนจะหมดสภาพไป
สายตาของราชันวิหกได้จับจ้องอยู่ที่ร่างของหลินเทียนก่อนที่จะจดจ่อไปยังดวงตาคู่นั้นพร้อมทั้งตระหนักได้ถึงความพิเศษของมัน
“พอกันที ! วิญญาณทั้งหมดโจมตีพร้อมกัน ! ตายไปซะ ! ”
เขาส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดังและไม่คิดจะเปิดโอกาสให้หลินเทียนได้ตอบโต้แม้แต่น้อย
นี่ทำให้ดวงวิญญาณทั้งหลายพากันผุดขึ้นมาจากหลุมศพก่อนที่จะรายล้อมสถานที่แห่งนี้ทั้งหมดเอาไว้พลางโถมเข้าใส่ทางหลินเทียน
มันเป็นการโจมตีที่ทรงพลังและน่ากลัวอย่างมากถึงขั้นที่มีความสามารถพอที่จะสังหารหลินเทียนได้ง่ายๆ
แน่นอนว่าหลินเทียนเองก็ตระหนักได้ถึงความร้ายกาจของมันดีแต่สีหน้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงพร้อมทั้งสังเวยเอาวงเวทย์สังสารวัฏออกมารับเอาไว้
เสียงฟึ้บบ ! ถูกส่งออกมาก่อนที่ดวงวิญญาณทั้งหมดจะแหลกสลายหายไปอย่างสมบูรณ์
“เป็นไปไม่ได้ ! ”
ราชันวิหกส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
เป็นเพราะว่าเขาได้รีดศักยภาพที่สูงที่สุดของมันออกมาแล้วทว่ากลับถูกทำลายลงภายในชั่วพริบตาเท่านั้น
เขาได้แต่แสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมาขณะที่มองออกไปยังวงเวทย์สังสารวัฏตรงหน้าด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง
“นี่มัน…….”
ด้วยความที่เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าดังนั้นถึงได้สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของวงเวทย์นี้ได้เป็นอย่างดี
ระหว่างนี้เองที่สีหน้าของผู้คนที่อยู่โดยรอบเองก็ต่างจดจ่ออยู่กับวงเวทย์วงนี้
“นี่มันเป็นวงเวทย์ที่แข็งแกร่งมากๆ ! ความรู้สึกมันเหมือนกับ……..มันเป็นเหมือนกับโลกที่สมบูรณ์ทั้งใบเลยก็ว่าได้ ! ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
เซียนเซียนเองก็แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมาเช่นเดียวกัน
ตู้มมม !
หลินเทียนที่อยู่ใจกลางอาณาเขตแห่งนี้ที่ได้สังเวยเอาวงเวทย์หยินหยางออกมานั้นปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังไม่ต่างจากทวยเทพออกมา
“อย่างที่เจ้าว่า พอกันที ”
เขาหันมองออกไปก่อนที่สายตาจะหยุออยู่ที่จุดที่เปราะบางที่สุดพร้อมทั้งซัดวงเวทย์สังสารวัฏออกไปทันที
เสียงปริแตกถูกส่งตามออกมาก่อนที่ทักษะนี้จะพังทลายลงอย่างง่ายดาย
ราชันวิหกได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงว่า
“เจ้า…..”
“วิ้สส ! ”
เสียงพุ่งผ่านอากาศถูกส่งตามออกมาขณะที่ร่างของหลินเทียนได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขาพร้อมทั้งซัดวงเวทย์สังสารวัฏเข้าใส่อย่างจัง
มันคือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขาทำให้สามารถบดขยี้ร่างกายของอีกฝ่ายลงได้อย่างง่ายดาย
ภาพเหล่านี้ทำให้เหล่าศิษย์ทั้งหลายได้แต่สั่นสะท้านไปตามๆกันไม่เว้นแม้กระทั่งบรรพบุรุษที่สองของพวกเขา
“ไอ้มนุษย์ชาติชั่ว! ”
ราชันวิหกส่งเสียงคำรามออกมาขณะที่ดวงวิญญาณของเขาส่องประกายพร้อมทั้งสร้างกายหยาบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนแสยะออกมาอย่างเย็นชาพร้อมทั้งพุ่งเข้าประชิดร่างของอีกฝ่ายแล้วซัดวงเวทย์สังสารวัฏเข้าใส่อีกครั้งก่อนที่จะสังเวยสัจธรรมของตัวเองออกมาสถานมันเอาไว้
“พุฟฟ ~! ”
เลือดฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่ระหว่างที่เศษเนื้อและกระดูกมากมายกระจายไปทุกหย่อมหญ้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น