Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 991-994
ตอนที่ 991
‘ตูม’ จ้าวหลุนพุ่งเข้ามาและปล่อยหมัดใส่หลิงฮัน
หลิงฮันปล่อยหมัดตอบโต้ แต่เขาก็ต้องใจเมื่อพบว่าหมัดของจ้าวหลุนนั้นเป็นราวกับกระแสน้ำ หมัดของอีกฝ่ายทะลุหมัดของเขาและกระแทกเข้าใส่หน้าอก
‘ปัง’ ร่างของหลิงฮันลอยกระเด็นก่อนจะร่วงลงสู่พื้น เขาก้มลงมองและพบว่าหน้าอกของเขากำลังถูกกัดกร่อนจนเห็นกระดูกสีขาว
“ฮ่าๆๆ!” เมื่อเห็นว่าการโจมตีได้ผลจ้าวหลุนก็หัวเราะลั่นและปล่อยหมัดอีกครั้ง
นี่คือทักษะโบราณที่เขาบ่มเพาะอยู่ มันถูกเรียกว่าวารีสามพันเน่าสลาย ก่อนหน้านี้ที่เขานั่งบ่มเพาะอยู่กลางน้ำตกก็เพื่อซึมซับพลังงานจากกฎเกณฑ์ธรรมชาติเพื่อขัดเกลาทักษะนี้
ณ ตอนนี้หลิงฮันไม่อยู่ในสภาพทีดีนัก เขาทำได้เพียงล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
ร่างของจ้าวหลุนไม่ได้แปรสภาพไปเป็นของเปลวทั่วไป ไม่เช่นนั้นด้วยพลังของระดับภูผาวารีเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่สามารถโจมตีจ้าวหลุนได้
ตอนนี้ร่างของจ้าวหลุนมีสภาพเหมือนกับวารีที่ไม่สามารถจับต้องได้ แล้วทีนี้ยังจะสามารถสร้างบาดแผลให้เขาได้อยู่รึไม่?
“ฮ่าๆๆ นี่คือพลังที่แท้จริงของข้า!” จ้าวหลุนหัวเราะและกระหน่ำหมัดไม่ยั้ง
ด้วยอำนาจแห่งจักรภพ พลังบ่มเพาะของเขาที่ถูกลดลงให้เท่าหลิงฮันก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้น ยิ่งตอนนี้เมื่อวารีสามพันเน่าสลายใช้ได้ผลกับหลิงฮัน เขาจึงมั่นใจว่าชัยชนะต้องเป็นของเขาแน่นอน
“ข้าไร้เทียมทานในหมู่จอมยุทธระดับเดียวกัน!”
เมื่อได้ยินจ้าวหลุนคำรามแบบนั้นออกมา ชาหยวนก็แสดงสีหน้าไม่พึงพอใจ แต่เขาก็ยอมรับว่าหากเป็นระดับพลังเดียวกันเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหลุนจริงๆ
“จงตายด้วยวารีสามพันเน่าสลายของข้า!” จ้าวหลุนคำราม แววตาของเขาแฝงไปด้วยออร่าเย็นชา
การที่เขาถูกต้อนจนมุมจนต้องใช้ทักษะโบราณทักษะนี้ออกมาทำให้เขาไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ทักษะนี้ควรจะเป็นไพ่ลับที่เก็บไว้ในกล่องเพื่อใช้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าในอนาคตแท้ๆ
ร่างของหลิงฮันแปรสภาพกลายเป็นสายฟ้าก่อนที่จะใช้เปลวเพลิงจากภูผาวารีขจัดฤทธิ์กัดกร่อนทิ้งไป เปลวเพลิงนี้จะใช้ต่อต้านวารีสามพันเน่าสลายได้หรือไม่?
เขาโคจรรูปแบบอักขระศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงและควบแน่นปราณก่อเกิดให้กลายเป็นลูกศร เมื่อทั้งสองอย่างถูกนำมาผสานกันจึงเกิดเป็นลูกศรสีขาว
จ้าวหลุนไม่หวาดกลัว เขาไม่คิดจะป้องกันลูกศรของหลิงฮันแม้แต่น้อยและเชื่อว่าลูกศรนี้จะต้องพุ่งผ่านร่างของเขาไป
‘ปัง’ ลูกศรถูกยิงเข้าใส่ไหล่ซ้ายของเขาโดยไร้การต้านทาน แต่ลูกศรไม่ได้พุ่งผ่านไปโดยไร้ภัยคุกคามอย่างที่เขาคิด กลับเลยร่างของเขาหยุดชะงักและแสดงสีหน้าถึงความเจ็บปวด
ไหล่ของเขามีควันสีดำลอยออกมาราวกับถูกเผาไหม้
จ้าวหลุนกระโดดถอยหลัง สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความไม่อยากจะเชื่อ
หลิงฮันทำลายวารีสามพันเน่าสลายของเขาได้!
เป็นไปได้อย่างไร!
อย่าคิดว่าเปลวเพลิงธรรมดาจะใช้ต่อต้านวารีสามพันเน่าสลายได้ ไม่เช่นนั้นแล้วทักษะนี้จะเป็นทักษะที่เขาต้องใช้เวลานานได้การฝึกฝนได้อย่างไร?
วารีสามพันเน่าสลายไม่หวั่นเกรงต่อเปลวเพลิง เท่าที่เขารู้มีเพียงแค่พลังที่สยบเขาได้อย่างสมบูรณ์ในการโจมตีเดียวเท่านั้นที่จะสามารถทำให้ร่างกายเขาแหลกสลายและวารีสามพันเน่าสลายจะหยุดทำงาน
แต่พลังของหลิงฮันไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น!
เหตุผลเดียวที่เหลือก็คือเปลวเพลิงของอีกฝ่ายเป็นเปลวเพลิงระดับสูงที่ไม่อ่อนด้อยไปกว่าวารีสามพันเน่าสลาย
“มันคือทักษะอันใด?” จ้าวหลุนอดถามออกมาด้วยความสงสัยไม่ได้
ทักษะนี้เขาใช้เวลาหลายสิบปีในการฝึกฝน แต่อีกฝายเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับภูผาวารีมาไม่ถึงปีแต่กลับมีความสามารถทัดเทียมกับทักษะโบราณของเขา เช่นนี้จะให้เขารู้สึกดีอยู่ได้อย่างไร?
หลิงฮันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “มันไม่ใช่ทักษะแต่เป็นเพียงเปลวเพลิงจากผลึกภูผาวารีที่ได้ถ้ำเปลวเพลิง หลังจากดูดซับมัน เปลวเพลิงจากผลึกก็กลายเป็นรูปแบบอักขระศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิง แต่ข้าก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่ามันจะใช้ต่อต้านทักษะของเจ้าได้”
จ้าวหลุนชะงัก ง่ายเช่นนี้เลย? อีกฝ่ายไม่มีทักษะลับใดๆแค่ดูดซับผลึกภูผาวารีเปลวเพลิงเท่านั้น?
ช่างน่ารังเกียจ!
จ้าวหลุนคำราม “ก็แค่เปลวเพลิงจากผลึกภูผาวารีไม่กี่ก้อน!”
“ไม่เท่าไหร่ ก็แค่เจ็ดก้อนเท่านั้น!” หลิงฮันกล่าวและพุ่งเข้าใส่จ้าวหลุน ตอนนี้เขารู้แล้วว่าจะจัดการกับวารีสามพันเน่าสลายยังไง
‘พรึบ’ หมัดของเขาถูกโอบล้อมไปด้วยอักขระเปลวเพลิงทั้งเจ็ดและชกเข้าใส่จ้าวหลุน
ผลึกเจ็ดก้อน!
ตาของจ้าวหลุนแทบจะทะลักออกมา ผลึกภูผาวารีแบบพิเศษมีค่าขนาดไหน? ขนาดเขายังได้มาครองเพียงสองก้อนเท่านั้น ส่วนเจ็ดก้อนนั้นมันสัตว์ประหลาดชัดๆ!
‘ตูม!’
เขาถูกหลิงฮันกระหน่ำโจมตี เขาไม่มีกายหยาบที่ทรงพลังเหมือนกับหลิงฮัน ครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนยากที่จะฟื้นฟูกลับมาได้
“ไม่ใช่ว่าเจ้าหยิ่งยโสหรอกรึ! ไม่ใช่ว่าเจ้ายิ่งใหญ่หรอกรึ!” หลิงฮันรัวหมัดใส่จ้าวหลุนราวกับเป็นกระสอบทราย
“ไม่ใช่ว่าเจ้าจะสังหารข้ารึไง? เข้ามาสิ!”
“ใช้ประโยชน์จากระดับพลังที่สูงกว่ากับสถานะของตระกูลตนเองรังแกคนอื่น เจ้ามันจะไปต่างอะไรกับนายน้อยที่ไร้ค่า?”
“อัจฉริยะอันดับหนึ่ง? น่าทุเรศ!”
หลิงฮันระเบิดความโกรธออกมายิ่งขึ้น เขาส่งความโกรธไปยังหมัดและซัดจ้าวหลุนอย่างต่อเนื่อง
“เจ้าพอใจรึยัง!” จ้าวหลุนคำราม เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของแม่ทัพจ้าวเชียวนะ ทำไมข้าถึงต้องถูกทำให้อับอายเช่นนี้?
“แค่นี้ก็ทนไม่ไว้แล้ว?” หลิงฮันยกเท้าและหวังจะเหยียบเข้าใส่ใบหน้าของจ้าวหลุน
ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวจนแทบจะลืมหายใจ ถ้าถูกเหยียบที่ใบหน้าแล้วความแค้นของพวกเขาสองคนจะต้องไม่มีวันถูกสะสางได้แน่นอน แต่เมื่อคิดให้ดีแล้ว จ้าวหลุนเป็นคนประกาศเองว่าจะสังหารหลิงฮัน ดังนั้นแม้หลิงฮันจะเหยียบหน้าจ้าวหลุนก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว
“เจ้า.. เจ้ากล้า!” ใบหน้าของจ้าวหลุนซีดขาว ถ้าเขาถูกเหยียบเข้าที่ใบหน้าท่ามกลางสาธารณชน เขาจะต้องมีหน้าไปพบเจอกับคนอื่นได้อีก?
ตอนที่ 992
หลิงฮันยกเท้าขึ้นและเลิกเหยียบใบหน้าของจ้าวหลุน
ทุกคนค่อยโล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าเขายังคงเหยียบหน้าจ้าวหลุน จ้าวหลุนอาจระเบิดความโกรธและสังหารพวกเขาทั้งหมดก็เป็นได้
แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของจ้าวหลุนจะแข็งทื่อไปแล้ว ความพ่ายแพ้ที่ได้รับมันน่าอับอายเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังถูกเหยียบย่ำใบหน้าแล้วเขาจะมีหน้าอยู่ในสำนักอีกหรือไม่?
“การเหยียบย่ำใบหน้าผู้อื่นมันเหมือนทำให้ตัวเองดูสูงส่งขึ้น ซึ่งมันไม่สอดคล้องกับคนต่ำต้อยอย่างข้าเท่าไหร่นัก” หลิงฮันพูดกับตัวเอง
จ้าวหลุนอยากจะระบิดความโกรธออกมา นี่เจ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นคนต่ำต้อยอย่างนั้นรึ?
เจ้ามีบุตรสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและราชินีที่เก้าอยู่เคียงข้าง ทั้งยังแย่งหญิงสาวที่ข้ารักไปจากข้า ตอนนี้เจ้าดูสูงส่งมาก มันดูต่ำต้อยตรงไหนกัน?
เมื่อหลิงฮันเลิกเหยียบหน้าเขา เขาก็ไม่กล้าที่จะเป็นฝ่ายยั่วยุอีกฝ่าย มิฉะนั้นมันอาจทำให้เขาต้องอับอายอีกครั้ง
หลิงฮันยิ้มและถอดรองเท้า แล้วพูดว่า “แต่ข้ามีวิธีอย่างอื่นที่จะจัดการเจ้า”
เมื่อเห็นหลิงฮันถอดรองเท้า จ้าวหลุนรีบลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับเม็ดเหงื่ออันหนาวเย็นที่ปกคลุมไปทั่วตัวและพูดว่า “เจ้า…เจ้าอย่าได้มากเกินไปนัก ข้าคือจ้าวหลุน! ข้าคือจ้าวหลุนบุตรชายเพียงคนเดียวของแม่ทัพจ้าว!”
“จ้าวหลุนแล้วไง!”
เพรี๊ยะ!
หลิงฮันใช้รองเท้าตบหน้าจ้าวหลุน และได้ทิ้งรอยรองเท้าบนใบหน้าอีกฝ่าย
“เจ้าบ้าหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบให้คนอื่นเป็นสุนัขของเจ้าหรือไง?”
“วันนี้ข้าจะเป็นคนสั่งสอนเจ้าเอง!”
เพรี๊ยะ! เพรี๊ยะ! เพรี๊ยะ!
หลิงฮันพูดไปและใช้รองเท้าตบหน้าจ้าวหลุนไป และในไม่ช้าใบหน้าที่หล่อเหลาของจ้าวหลุนก็เต็มไปด้วยรอยเท้า
ฝูงชนที่ยืนดูอยู่ด้านข้างต่างสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นพวกเขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
บุตรชายเพียงคนเดียวของแม่ทัพจ้าวกำลังถูกหลิงฮันใช้รองเท้าตบหน้า นี่มันเป็นความอัปยศแค่ไหนกัน? แล้วถ้าแม่ทัพจ้าวโกรธจะเกิดอะไรขึ้น? เขาจะต้องสังหารหลิงฮันอย่างแน่นอน แล้วจักรพรรดินีจะเข้ามาห้ามปรามแม่ทัพจ้าวเพื่อหลิงฮันหรือไม่?
– หลิงฮันคือหลิงฮัน เขาเป็นแค่จอมยุทธจากโลกใบเล็ก แล้วเขาจะเทียบกับแม่ทัพจ้าวได้อย่างไร?
เพรี๊ยะ เสียงรองเท้าตบหน้าดังอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากที่ใช้รองเท้าตบหน้าจ้าวหลุนมากกว่ายิ่งสิบครั้ง รองเท้าของหลิงฮันก็ขาดออกเป็นสองส่วน
“น้องสาวหลุน เจ้ากล้ามากที่ทำรองเท้าของข้าพัง เจ้าจะต้องชดใช้!” หลิงฮันโยนรองเท้า และหยิบรองเท้าอีกข้างขึ้นมา
ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก เห็นได้ชัดว่าหลิงฮันเป็นคนทำพัง!
“หลิงฮัน เจ้าชักจะมากเกินไปแล้ว!” คิ้วของจ้าวหลุนขมวดเข้าหากัน ใบหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
“มากเกินไป?”
เพี๊ยะ!
หลิงฮันดึงคอจ้าวหลุนขึ้นมาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าทำมากเกินไปตรงไหน? ไม่ใช่เจ้าหรอกหรือที่มากเกินไป?”
“เจ้าล้างคอรอได้เลย ข้าจะต้องสังหารเจ้าให้ได้!” จ้าวหลุนกัดฟันแน่น ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขานั้นสามารถบดขยี้หลิงฮันได้ไม่รู้กี่ครั้ง แต่ตอนนี้อีกฝ่ายได้รับความช่วยเหลือจากราชินีที่เก้า จึงทำให้พลังที่แท้จริงของเขาถูกปิดผนึกเอาไว้
“เจ้านกปัญญานิ่ม ดูเหมือนที่ข้าสั่งสอนเจ้ายังไม่เพียงพอสินะ?” หลิงฮันใช้รองเท้าตบหน้าจ้าวหลุนอีกครั้ง
“ถึงเวลาที่พวกเราจะเข้าไปหยุดได้แล้วหรือยัง?” ผู้อาวุโสของสำนักหลายคนเริ่มพูดกระซิบกัน
“ราชินีที่เก้ายังไม่เปิดปากพูดอะไรเลย แล้วพวกเราจะเป็นฝ่ายเปิดปากพูดได้อย่างไร?”
“เอ่อ!”
จ้าวหลุนได้รับความอับอายครั้งใหญ่ในสำนัก แม่ทัพจ้าวจะต้องตำหนิพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือราชินีที่เก้า นางยังคงนิ่งเฉย แล้วพวกเขาจะเปิดปากพูดให้หลิงฮันหยุดได้อย่างไร?
เหล่าผู้อาวุโสต่างจ้องมองหน้ากันไปมา ราวกับพวกเขาเป็นคนนอก หากพวกเขารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกเขาคงจะหยุดตั้งแต่แรกแล้ว
จ้าวหลุนรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะร้องขอความช่วยเหลือ เขาเอาแต่จ้องมองไปที่หลิงฮันด้วยความแค้น และเมื่อใดที่เขาแข็งแกร่งเท่าเดิม มันจะเป็นตาของเขาที่จะล้างแค้นหลิงฮัน!
หลิงฮันมองเห็นความหนาวเย็นในดวงตาของจ้าวหลุน เขาหัวเราะและพูดว่า “คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? ถ้าเจ้าเป็นอิสระเมื่อไหร่ เจ้าจะสังหารฆ่าเพื่อลบล้างความอับอาย?” หลิงฮันไม่รอคำตอบของจ้าวหลุนและใช้รองเท้าตบหน้าอีกฝ่ายอีกครั้ง “น้องสาวหลุน เจ้าฝันหวานเกินไปแล้ว!”
“หลิงฮันพอแค่ไหนก่อน พี่สาวของข้าต้องการพบเจ้า!” ในที่สุดหูเฟยหยินก็เปิดปากพูด
แววตาของจ้าวหลุนดูเปล่งประกายขึ้นมาทันที ในที่สุดหลิงฮันก็หยุดตบหน้าเขาสักที
“จักรพรรดินีต้องการพบข้า?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ
ทำไมจักรพรรดินีต้องเสียเวลาพบเขาด้วย? หลังจากการประลองระหว่างสามจักรพรรดิราชวงศ์ นี่ถือเป็นครั้งที่สอง
เพียงแค่ครึ่งปี เขาก็ถูกจักรพรรดินีเรียกพบ นี่เขารุ่งโรจน์แค่ไหนกัน?
ทุกคนต่างตกตะลึง เมื่อคิดว่าราชินีที่เก้ามาเพื่อบอกเรื่องนี้กับหลิงฮัน แต่นางใช้เวลานานมากกว่าจะพูดออกมา และปล่อยให้หลิงฮันลงมือตามใจชอบ
อย่างไรก็ตาม นางเป็นถึงราชินีที่เก้าและยังเป็นน้องสาวของจักรพรรดินีด้วย แล้วใครจะกล้าตำหนินาง?
“ถ้างั้นไปกันเถอะ” หลิงฮันโยนรองเท้าทิ้งและหันไปยิ้มให้กับจ้าวหลุน “น้องสาวหลุน แล้วข้าจะกลับมาสั่งสอนเจ้าอีกครั้ง!”
ภายใต้สายตาของทุกคน หลิงฮันและราชินีที่เก้าจากไปพร้อมกัน
“อ๊ากกกกกกก-” จ้าวหลุนกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น เขารู้สึกอับอายมากจนไม่กล้าพบหน้าใคร
เขาลุกขึ้นยืนและรีบหายตัวไปจากสายตาของทุกคนทันที
ฝูงชนมองหน้ากันไปมาด้วยความตื่นเต้นและสงสัย จ้าวหลุนจะต้องไม่ปล่อยหลิงฮันไปแน่ แต่หลิงฮันนั้นมีราชินีที่เก้าคอยหนุนหลังอยู่ที่แม้แต่แม่ทัพจ้าวก็ไม่สามารถทำอะไรได้
แล้วเขาจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?
หลิงฮันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นมากนัก ในไม่ช้าเขาและราชินีที่เก้าก็เดินผ่านประตูพระราชวัง จากนั้นราชินีที่เก้าก็ดึงแขนของหลิงฮันและนำทางเขา
“ทำไมจักรพรรดินีต้องการพบข้าด้วย?” หลิงฮันคิดว่ามันแปลก
“ฮิฮิฮิ ข้าแค่กุเรื่องขึ้นมาเท่านั้นคนอื่นจะได้คิดว่าจักรพรรดินีสนใจเจ้า แล้วคนอื่นจะได้ไม่กล้าทำอะไรเจ้า” ราชินีที่เก้าตอบ
หลิงฮันแปลกใจเล็กน้อยกับคำตอบของนาง เพื่อที่จะช่วยเขานางถึงกุเรื่องนั้นขึ้นมา อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนนี้ค่อนข้างโง่เล็กน้อย ด้วยอำนาจของนางก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องดึงจักรพรรดินีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ตอนที่ 993
เมื่อถามว่าราชินีที่เก้าเป็นหญิงสาวที่กล้าหาญไหม คงต้องบอกว่าแค่หนูตัวเดียวก็ทำให้นางหวาดกลัวได้
ในความคิดของหลิงฮันนางเป็นเพียงหญิงสาวที่ขี้เหงาเท่านั้น
หากไม่มองสถานะราชินีที่เก้าของนาง นางก็เป็นเพียงสตรีที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว
นางโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก ตัวนางนั้นไม่มีเพื่อนเล่นในวัยเดียวกัน ราชินีที่เหลืออีกแปดคนก็เก็บตัวบ่มเพาะพลังอยู่ตลอดจนไม่มีเวลามาเล่นกับนาง ส่วนองครักษ์แต่ละคนก็อุทิศตนให้กับนางด้วยความรพ ไม่มีใครเลยที่สามารถเป็นเพื่อนเล่นกับนางได้
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงได้สนิทกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ได้อย่างรวดเร็ว พวกนางเป็นสตรีที่อยู่ในวัยเดียวกัน
ราชินีที่เก้าพาหลิงฮันเที่ยวชมพระราชวังจนพระอาทิตย์ตกดินถึงจะยอมปล่อยให้เขากลับไป
หลิงฮันกลับไปยังสำนัก หลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อมาหาเข้า พวกนางปิดความตื่นเต้นบนใบหน้าไม่มิด
“ดูจากรอยยิ้มที่ฉีกไปถึงใบหูของพวกเจ้า ดูท่าการเดิมพันคงจะเป็นไปอย่างราบรื่น” หลิงฮันยิ้ม
“ฮึ คุณหนูคนนี้เป็นคนตามเก็บเงินเดิมพันด้วยตัวเอง ใครกันจะกล้าเบี้ยว?” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ นางนำแผ่นสีดำออกมาและโยนให้หลิงฮัน “นี่คือบัตรผลึกก่อเกิดที่สร้างขึ้นโดยจักรวรรดิ เจ้าสามารถใช้มันถอนผลึกก่อเกิดจากคลังของจักรวรรดิได้ มันเป็นสิ่งสะดวกสบายมาก”
หลิงฮันพยักหน้า แม้สี่ล้านผลึกก่อเกิดจะไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ แต่ดูท่าแล้วสำหรับคลังของจักรวรรดิมันไม่ใช่สิ่งที่มากมายเท่าใด
หลิงฮันเองตื่นเต้นไม่แพ้กัน การเดิมพันเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อได้รู้แล้วว่าตัวเขามีศักยะภาพที่แข็งแกร่งเพียงใด ใครกันจะกล้าเดิมพันด้วยจำนวนเงินมหาศาลอีกในอนาคต?
เขาพยักหน้า หลังจากนี้หากจะหาเงินเขาคงต้องกลับไปใช้วิธีการปรุงยา
“จริงสิ ดูเหมือนว่าจะมีอีกคนนึงที่เดิมพันว่าเจ้าจะชนะด้วย ทั้งๆคนอื่นๆลงพนันทุ่มสุดตัวว่าเจ้าจะแพ้แท้ๆ ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้เงินกลับไปแม้แต่นิดเดียว” หลี่เหว่ยเหว่ยหัวเราะ
หลิงฮันประหลาดใจ นี่ยังมีคนคาดหวังว่าเขาจะชนะอยู่ด้วยงั้นรึ? ใครกัน?
ในใจของเขามีใบหน้าที่งดงามของสตรีผู้หนึ่งปรากฏขึ้นมา มีเพียงสุ่ยเยี่ยนยวี่คนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเขามีพลังที่แข็งแกร่ง มีเพียงนางเท่านั้นที่จะเดิมพันข้างเขา
“ข้าจะมอบบัตรเชิญเข้าร่วมงานประมูลให้เจ้า งานประมูลครั้งนี้เป็นงานประมูลครั้งใหญ่ที่จะจัดในคืนพรุ่งนี้ เจ้าห้ามพลาดเด็ดขา” หลี่เหว่ยเหว่ยยื่นบัตรเชิญให้หลิงฮัน
หลิงฮันรับไว้และพยักหน้า “ข้าจะไปแน่นอน”
หลี่เหว่ยเหว่ยยิ้มด้วยความพึงพอใจและเดินจากไปพร้อมกับจื่อหยุนเอ๋อ
เนื่องจากพวกนางได้รับเงินก้อนโตมาแล้วพวกนางจึงไม่สนใจเรื่องขายวัตถุดิบจากหอคอยทมิฬอีกต่อไป พวกนางขอให้วัตถุดิบเหล่านั้นจากเขาไปใช้เอง หลังจากได้ลิ้มลองวัตถุดิบเหล่านี้ไปครั้งนึงแล้วพวกนางก็ติดใจราวกับว่าพวกมันเป็นเนื้อพลังปราณ
หลังจากพวกนางจากไปไม่นาน สุ่ยเยี่ยนยวี่ก็มา
“ภรรยาข้า ในที่สุดเจ้าก็รู้ตัวแล้วว่าต้องมาหาสามีของเจ้า?” หลิงฮันยิ้ม
“ใครเป็นภรรยาของเจ้ากัน?” สุ่ยเยี่ยนยวี่หน้าแดงและขึงตาใส่หลิงฮัน
“โอ้ ช่างขี้อายนัก แต่ข้าก็ชอบนะแบบนี้!” หลิงฮันเดินเข้าไปจนตัวแทบจะติดกับสุ่ยเยี่ยนยวี่
สุ่ยเยี่ยนยวี่เขยิบถอยหลัง แต่หลิงฮันก็ยังเขยิบตามจนสุดท้ายก็ตัวติดกัน ใบหน้าอันงดงามของนางกลายเป็นสีแดงและกล่าว “เจ้าต้องการอะไร!”
“ก็แค่คิดถึงเจ้า!” หลิงฮันพยักหน้า
สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่เข้าใจว่าที่หลิงฮันต้องการอะไรกันแน่ นางทำเพียงถลึงตาใส่เขา
“ข้ามีเรื่องสำคัญถึงได้มาหาเจ้า!” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าว
“ที่ข้ากำลังทำอยู่ก็สำคัญเหมือนกัน”
“เจ้าอันธพาล!” สุ่ยเยี่ยนยวี่ขวยเขิน
หลิงฮันหัวเราะก่อนจะกล่าว “เจ้ามีอะไรถึงได้ตามหาข้า?”
“เขยิบออกไปจากตัวข้าก่อนแล้วค่อยคุยกัน!”
“เจ้ากล่าวมาเถอะ ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับข้า เจ้าเองก็แค่กล่าวเรื่องคำคัญของเจ้าออกมา”
“ข้ารับภารกิจมา มันเป็นภาจกิจที่ใช้คนเพียงแค่สองคน” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าว
หลิงฮันอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “นั่นเป็นเพราะเจ้าคิดถึงข้าสินะ? ถึงได้หาเหตุผลที่จะอยู่ด้วยกันกับข้า?”
“ใครอยากอยู่กับอันธพาลอย่างเจ้า!” สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ยอมรับ
“สาวน้อย ถ้าเจ้าไม่อยากอยู่กับข้า ทำไมเจ้าถึงมาหาข้าด้วยตัวเองเช่นนี้? เหอๆ เหยื่อมาถึงหน้าประตูแล้วถ้าข้าไม่งับไว้ข้าคงจะรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต!”
สุ่ยเยี่ยนยวี่หวาดกลัว นางเกรงว่าหลิงฮันจะจับนางกินจึงรีบดิ้นรนหนีห่าง
“ข้าไม่คิดจะกินเจ้าในตอนนี้ แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะเชื่อฟังข้าบ้างเล็กน้อย” หลิงฮันหัวเราะอย่างสะใจ
สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้ายอมรับด้วยใบหน้าแดงฉาน
“ตอนนี้เจ้าบอกข้าได้แล้วว่าเจ้ารับภารกิจอะไรมา?”
สุ่ยเยี่ยนยวี่ชำเลืองมองเขาและกล่าว “ภารกิจทำลายกลุ่มโจรสลัด” นางหยุดไปชั่วครู่และกล่าว “เจ้าช่วยเขยิบออกไปได้รึไม่?”
“ไม่!” หลิงฮันส่ายหัว “ลืมไปแล้วรึว่าจะยอมรับว่าจะเชื่อฟังข้า?”
เจ้าอันธพาล!
สุ่ยเยี่ยนยวี่คำรามในใจ แต่นางก็ต้องยอมรับว่านางไม่ได้รังเกียจอะไร
“ศิษย์ระดับทลายมิติไม่จำเป็นต้องทำภารกิจใดๆ แต่เมื่อทะลวงผ่านมายังระดับภูผาวารีขั้นต้นแล้วจำเป็นต้องทำภารกิจให้ครบตามจำนวน ไม่เช่นนั้นจะถูกไล่ออก” สุ่ยเยี่ยนยวี่พยายามทำตัวให้สงบนิ่ง
ตอนที่ 994
ศิษย์ของสำนักนภาสีชาดจะต้องทำภารกิจให้ครบตามที่กำหนดในทุกปี
แน่นอนว่าสามารถทำภารกิจให้เกินกว่าที่กำหนดและยกยอดไปใช้ในปีถัดไปได้เช่นเดียวกัน นั่นเป็นเพราะตัวตนระดับพระเจ้าตอนที่ปิดด่านฝึกตนนั้นมันไม่ได้กินเวลาไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ปี
ภารกิจดังกล่าวไม่ได้ยากเกินไปสำหรับสุ่ยเยี่ยนยวี่ ถึงแม้เนื้อหาภารกิจจะเป็นการจัดการกับกลุ่มโจรสลัด แต่ไม่จำเป็นต้องถอนรากถอนโคลนพวกโจรสลัดทั้งหมด แค่กำจัดโจรสลัดจำนวนหนึ่งแค่นั้นก็พอ และภารกิจนี้สามารถทำซ้ำได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มโจรสลัดที่ต้องไปกำจัดนั้นอยู่ไกลจากเมืองจักรพรรดิมาก ถ้าเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีเดินไปยังต้องใช้เวลานานกว่าสิบวัน
ในทางทฤษฎี หลิงฮันทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่พอใจ มันไม่ปลอดภัยเป็นอย่างยิ่งที่เขาจะออกจากเมืองจักรพรรดิหรือแม้กระทั่งออกจากสำนักก็ตาม
แต่สุ่ยเยี่ยนยวี่รู้ว่าหลิงฮันมีอุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์ แม้เขาจะถูกไล่ล่า เขาก็สามารถหลบเข้าไปซ่อนตัวได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นเขาจะเอาแต่หลบอยู่ในเมืองจักรพรรดิตลอดชีวิตได้อย่างไร?
ในท้ายที่สุด หลิงฮันก็ตกลงยอมรับภารกิจดังกล่าว และจะเริ่มทำภารกิจด้วยกันหลังจบงานประมูล
“จริงสิ เจ้าเองก็เดิมพันข้างข้าว่าจะเป็นฝ่ายชนะใช่หรือไม่?” หลิงฮันถาม
สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่น่ารัก
“เจ้าลงไปเท่าไหร่?”
“ผลึกก่อเกิดหนึ่งหมื่นก้อน”
หลิงฮันยิ้มกริมและพูดว่า “นั่นเท่ากับเจ้าได้ผลึกก่อเกิดกลับมาหนึ่งล้านก้อน ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างมากมายยิ่งนัก!”
ผลึกก่อเกิดหนึ่งล้านก้อนเป็นจำนวนที่แม้แต่ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายยังต้องขมวดคิ้ว ซึ่งเทียบไม่ได้กับขุมพลังอย่างตระกูลสุ่ย
“ทั้งหมดต้องขอบคุณเจ้า” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่เบิกบานราวกับดอกไม้
…
จ้าวหลุนไม่เพียงแค่ฝ่ายแพ้เท่านั้น แต่ยังถูกรองเท้าตบหน้าต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก มันจะต้องเป็นข่าวใหญ่อย่างแน่นอน ข่าวดังกล่าวได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองจักรพรรดิอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและสงสัยว่าแม่ทัพจ้าวจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
โดยไม่คาดคิด แม่ทัพจ้าวเพียงแค่ต่อว่าและโกรธจ้าวหลุนเป็นฟืนเป็นไฟกับพฤติกรรมของเขา แต่ไม่มีการเอ่ยถึงหลิงฮันแม้แต่น้อย
นี่ทำให้ผู้คนในเมืองจักรพรรดิรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แม่ทัพจ้าวผู้น่าเกรงขามและมีจ้าวหลุนเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว แล้วเขาจะยอมรับความอัปยศในครั้งนี้ได้อย่างไร?
แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาวิธีไหน เขาก็สามารถรับมือได้!
สามวันต่อมา หลิงฮันเดินทางไปที่หอประมูล
การประมูลครั้งนี้เป็นของราชวงศ์ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าโกงการประมูลและไม่มีหน้าม้าคอยดันราคา
ห้องโถงงานประมูลนั้นมีขนาดใหญ่โตมาก ตรงกลางคืนเวที ส่วนรอบเวทีคือที่นั่งของผู้เข้าร่วมงานประมูล ซึ่งชั้นแรกจะเป็นที่นั่งธรรมดา ส่วนชั้นสองเป็นต้นไปจะเป็นห้องส่วนตัว
หลิงฮันหยิบบัตรเชิญออกมาและเดินผ่านประตูเข้าไป จากนั้นด้วยการนำทางของสาวใช้ เขาเข้าไปในห้องส่วนตัวชั้นสี่ที่มีหลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อนั่งอยู่ในห้องก่อนแล้ว
ห้องนี่เป็นของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย – จักรพรรดินีและราชินีทั้งเก้าคนจะนั่งบนชั้นห้า ในขณะที่ชั้นสี่จะเป็นของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวากับเจ็ดแม่ทัพ
“เจ้ามาช้า ดื่มสามแก้วเป็นการลงโทษ!” หลี่เหว่ยเหว่ยจ้องมองหลิงฮัน
หลิงฮันนั่งลงและจิบไวน์ มันมีรสชาตกลมกล่อมมาก จนไม่คิดว่าดื่มสามแก้วเป็นการลงโทษ
“เจ้าโง่หลิง วันนี้เจ้าอย่าได้ก่อเรื่องอีกล่ะ!” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าวอย่างไม่พอใจ
วันนี้เป็นวันประมูลครั้งแรกหลังจากเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์เปิด ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีผลึกภูผาวารีถูกนำมาประมูลในวันนี้ แม้แต่ผลึกภูผาวารีที่มีคุณสมบัติพิเศษก็อาจถูกนำมาประมูล แต่จำนวนของมันนั้นมีจำกัดมาก
หลังจากที่หลิงฮันได้รับรายชื่อของที่ถูกนำมาประมูล เขากวาดสายตาอ่านทันที มันมีผลึกภูผาวารีธรรมดาทั้งหมดสิบสองก้อน และผลึกภูผาวารีที่มีคุณสมบัติพิเศษสองก้อน หนึ่งคือเหล็ก ส่วนอีกหนึ่งคือน้ำ
สิ่งที่ทำให้เขาสะดุดตามากที่สุดคือสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยบิน มันมีชื่อว่า “ทะลวงผ่านเมฆา” ที่ขับเคลื่อนด้วยผลึกก่อเกิด ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดถึงสี่เท่า
เขากำลังจะออกเดินทางไกล หากเขาประมูลมันมาได้ เขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการถูกไล่ล่าอีกต่อไป เว้นแต่จะมีจอมยุทธระดับดาราออกไล่ล่าเขาด้วยตนเอง
แต่ในจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะจะมีจอมยุทธระดับดาราสักกี่คนกันเชียว?
เขาจะประมูลสิ่งประดิษฐ์นี้มาให้ได้
หลิงฮันก้มหน้าอ่านรายชื่อของที่นำมาประมูลอีกครั้ง และเห็นของหลายอย่างมีค่ามาก แต่ไม่ได้เขียนอธิบายอะไรมากนัก ซึ่งทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย
นี่เป็นการเสี่ยงโชคหรือไง?
เขาหันหน้าไปขอคำแนะนำจากหลี่เหว่ยเหว่ย นางน่าจะเข้าร่วมงานประมูลมากกว่าหนึ่งครั้ง และมีประสบการณ์มากกว่าเขา
“โดยทั่วไปของที่ล้ำค่าที่ไม่อธิบายอะไรมากนักจะมีค่าเป็นอย่างมาก” หลี่เหว่ยเหว่ยพยักหน้า “แต่บางครั้งถึงแม้มันจะเป็นของล้ำค่าและหายาก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการมัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไม่อธิบายอะไรมาก”
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องจ่ายเงินไปก่อน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันไม่มีประโยชน์สำหรับเขา?
เพราะจะไม่มีใครทราบว่าคนที่อยู่ในห้องนั้นเป็นใคร แต่ห้องสองชั้นบนสุดนั้นจะเป็นของคนที่มีสถานะใหญ่โต จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรู้ว่าเป็นใคร
“จ้าวหลุนมาที่นี่ด้วย” หลี่เหว่ยเหว่ยมองอย่างไม่พอใจ “เจ้าคนไร้ยางอายนี่ยังมีหน้าโผล่หัวออกมาอีก!”
หลิงฮันเองก็รู้สึกแปลกใจ อีกฝ่ายเพิ่งถูกเขาใช้รองเท้าตบหน้าในที่สาธารณะ ผ่านไปไม่ได้ก็กล้าโผล่หัวออกมาเจอผู้คนแล้ว
ในเมื่อจ้าวหลุนมาถึงแล้ว ซาหยวนก็มาถึงแล้ว และแม่ทัพทั้งเจ็ดคนและทายาทของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและขวาก็มาถึงแล้ว งานประมูลจะเริ่มต้นในไม่ช้า
“วันนี้จะต้องมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดอย่างแน่นอน” หลี่เหว่ยเหว่ยหัวเราะ “แต่ใครจะเอาชนะคุณหนูผู้นี้ได้!” ตอนนี้นางมีผลึกก่อเกิดทั้งหมดสามล้านก้อนอยู่ในมือ ซึ่งเป็นจำนวนที่มหาศาลมาก
ในไม่ช้าการประมูลก็เริ่มต้นขึ้น
หลิงฮันตัดสินใจว่าเขาจะต้องชนะการประมูลอุปกรณ์เคลื่อนที่ทะลวงผ่านเมฆาให้ได้ พร้อมที่จะเทหน้าทัก ถึงแม้ผลึกภูผาวารีจะน่าดึงดูด แต่หลี่เหว่ยเหว่ยกับจื่อเสวี่ยนเอ๋อจะต่อสู้เพื่อมัน ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้พวกนางไป
ทันใดนั้นเอง บรรยากาศภายในห้องโถงประมูลก็เงียบอย่างกะทันหัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น