Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 987-990
ตอนที่ 987
จ้าวหลุนต้องการฆ่าหลิงฮันเพื่อกู้หน้ากลับมา ดังนั้นตอนนี้จ้าวหลุนจึงคิดว่าหลิงฮันเป็นศัตรูที่ต้องกำจัดออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุด
แน่นอน เขาจะต้องปฏิบัติต่อศัตรูอย่างไร้ความเมตตา ดั่งสายลมฤดูใบไม้ร่วงที่กวาดผ่านใบไม้!
สีหน้าของจ้าวหลุนดูเยือกเย็น และเมื่อเขาชี้นิ้วออกไป ร่างของกู่หลิงหยู่กลายเป็นแข็งทื่อราวกับรูปปั้นทันที
“โอ้ว ข้าไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงอวดดีถึงขั้นกล้าต่อสู้กับข้า” จ้าวหลุนเดินเข้าใกล้และโจมตีใส่หลิงฮันด้วยฝ่ามืออีกครั้ง “แต่อย่างน้อยข้าจะบอกให้เจ้ารู้ว่าไม่มีใครรอดตายไปจากข้าได้!”
ปัง!
ฝ่ามือของจ้าวหลุนกระแทกไปที่พื้นดินที่ว่างเปล่า ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อย แต่ร่างของหลิงฮันนั้นได้หายไปแล้ว
“หืม?” จ้าวหลุนแสดงสีหน้าประหลาดใจ เมื่อเห็นหลิงฮันสามารถรอดพ้นจากการโจมตีของเขาได้
หลิงฮันโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์และบาดแผลของเขาก็ถูกรักษาจนหายด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า แววตาของเขาเปล่งประกายและพูดว่า “จ้าวหลุน เจ้าไม่ได้แข็งแกร่งค้ำฟ้า!”
“อย่างนั้นรึ?” จ้าวหลุนยังคงรู้สึกประหลาดใจอยู่ดี ทั้งที่หลิงฮันยังเป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้น เขาควรจะจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
เขาเริ่มโจมตีออกไปอีกครั้ง ด้วยการโคจรจรพลังปราณเป็นฝ่ามือยักษ์ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าไปที่หลิงฮัน
ฝ่ามือนี่ไม่เพียงแค่ไม่ธรรมดาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวดเร็วมากและมีขนาดใหญ่เกินที่จะหลบได้พ้น
หลิงฮันโคจรพลังปราณไปที่หมัด และต่อยหมัดขึ้นไปบนฟ้า แต่ช่องว่างระหว่างพลังนั้นแตกต่างกันเกินไป ฝ่ามือของจ้าวหลุนกดทับร่างของเขาติดพื้นดิน ทำให้โลหิตของเขาสาดกระเซ็นไปทั่ว แต่ในไม่ช้าเขาก็ลุกขึ้นมายืนหยัดอีกครั้ง ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
นี่เขาเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามหรือไงกัน?
ฝูงชนตกตะลึงเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ทั้งที่ความแข็งแกร่งของหลิงฮันกับจ้าวหลุนนั้นแตกต่างกันอย่างมาก เขาสมควรที่จะถูกจัดการได้ด้วยทีเดียว แต่หลิงฮันก็สามารถยืนหยัดได้อีกครั้ง
เขาเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางที่แข็งแกร่งมาก!
มดปลวกจากโลกใบเล็กฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะพลังอะไรกัน? หรือมีสมบัติลับอะไร? ทำไมเขาถึงมีพลังต่อสู้และกายหยาบที่ไร้เทียมทานขนาดนั้น?
มันกลายเป็นว่าจ้าวหลุนคิดผิดที่ดูถูกมดปลวกจากโลกใบเล็กมากเกินไป
เขาคิดผิดมหันต์!
เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์แบบนี้ได้ นี่จะต้องเป็นเพราะสมบัติล้ำค่าของหลิงฮันเป็แน่
เขาต้องการมัน!
“ตาย!” ในที่สุดจ้าวหลุนก็เริ่มเอาจริง และโจมตีออกไปอีกครั้งด้วยพลังของอักขระศักดิ์สิทธิ์และแสดงพลังที่น่าหวาดกลัวออกมา
หลิงฮันส่งเสียงตะโกนและใช้ฝ่ามือผนึกพลิกปฐพีกับเนตรแห่งสัจธรรมเพื่อสวนการโจมตี
ตู้ม!
เมื่อเกิดเสียงระเบิดขึ้น หลิงฮันลอยกระเด็นไปด้านหลังอีกครั้ง
– ส่วนจ้าวหลุนไม่จำเป็นต้องพูดถึง เขายังคงเป็นอัจฉริยะระดับสี่ดาวอยู่ดี ช่องว่างระหว่างเขากับหลิงฮันนั้นไม่มีทางที่หลิงฮันจะมาอยู่ในระดับเดียวกับเขาได้
แต่เขามีกายหยาบที่ไร้เทียมทานเกินไป ผลของการปะทะทำให้ผิวหนังของเขาได้รับบาดเจ็บเท่านั้น มันยังไม่ถึงกระดูก และแน่นอนว่าเมื่อเขาโคจรพลังคัมภีร์สวรร์นิรันดร์ บาดแผลของเขาก็หายเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
ฝูงชนกำลังจับตามองหลิงฮัน พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่มีกายหยาบไร้เทียมทานขนาดนี้มาก่อน กายหยาบของเขาไร้เทียมทานเกินไปแล้ว ทั้งยังมีความยืดหยุ่นที่ผิดปกติ
นอกจากจะสามารถจัดการหลิงฮันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เพราะถ้าเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เขาก็สามารถรักษาบาดแผลตัวเองซ้ำไปซ้ำมา และมีแต่จะเสียเวลาเปล่าที่จะจัดการอีกฝ่าย
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ใครบางคนระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่ว และร่างของเขาร่อนลงมาจากยอดเขาและยืนอยู่ระหว่างหลิงฮันกับจ้าวหลุน
ซาหยวน!
เขาหันหน้าไปหาจ้าวหลุนทันทีแล้วพูดว่า “จ้าวหลุน รางวัลเดิมพันของข้าอยู่ที่ไหน?”
จ้าวหลุนแสดงความโกรธของเขาออกมาทันทีและพูดว่า “เจ้ากลัวข้าไม่จ่าย?”
“ไม่ใช่แบบนั้น ข้าแค่อยากได้มันมาในวันนี้ ถ้าเป็นวันอื่นข้าไม่ค่อยสบายใจ!” ซาหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
จ้าวหลุนรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจเข้ามาแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างเขากับหลิงฮัน แต่เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบได้อย่างไร? เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ซาหยวน อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดจะทำอะไร!”
“แล้วข้าคิดจะทำอะไรอย่างนั้นหรือ?” ซาหยวนถามด้วยรอยยิ้ม
จ้าวหลุนหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ข้าจะให้แร่เหล็กเมฆาดาราขาวให้เจ้าสองชิ้น แล้วห้ามเข้ามาแทรกแซงเรื่องของข้าอีก!”
ความแข็งแกร่งและตัวตนของซาหยวนไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา ถ้าซาหยวนแข็งข้อด้วย มันจะเป็นเรื่องยากที่จะจัดการด้วยได้ ดังนั้นจ้าวหลุนจึงไม่ลังเลที่จะเสนอแร่เหล็กเมฆาดาราขาวอีกชิ้นให้อีกฝ่าย เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาแทรกแซงเรื่องของเขาอีกต่อไป
แร่เหล็กเมฆาดาราขาวสองชิ้น?
ช่วยไม่ได้ที่หัวใจของซาหยวนจะกระหน่ำเต้น แร่เหล็กเมฆาดาราขาวสองชิ้นนั้นเพียงพอที่จะสร้างอาวุธชั้นยอดที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้
เพียงแค่เขาคิดเรื่องพวกนั้น เขาสามารถตัดสินใจได้ทันทีและพูดว่า “ตกลง!” จากนั้นเขาก็ก้าวออกไปอยู่ด้านข้างและเฝ้าดูการต่อสู้อย่างไม่แยแส
สายตาของจ้าวหลุนหันไปจ้องมองที่หลิงฮันอีกครั้ง เจ้าหมอนี่ทำให้เขาต้องเสียแร่เหล็กเมฆาดาราขาวอีกหนึ่งชิ้น นี่ทำให้เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวมากยิ่งขึ้น และอยากได้สมบัติล้ำที่ทำให้อีกฝ่ายแข็งแกร่งมาครอบครอง
หลิงฮันหันไปมองซาหยวนเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันหน้าไปเผชิญหน้ากับจ้าวหลุนอีกครั้ง แล้วจับดาบด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวากำหมัดแน่น
“เมี๊ยว เจ้าเป็นคนที่กล้าหาญยิ่งนัก ทั้งที่เจ้าเด็กนี่เป็นทาสของข้าเจ้าก็ยังกล้าลงมือ?” เจ้าแมวอ้วนปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าจ้าวหลุน
“สัตว์เลี้ยงของเจ้าสำนัก?” จ้าวหลุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เมี๊ยว เจ้าเด็กมนุษย์นั่นเป็นทาสของข้าผู้นี้!” เจ้าแมวอ้วนเริ่มแสดงท่าทีหยิ่งยโส
“หึ่ม หากเจ้าอยากจะช่วยเจ้าเด็กนี่ จะต้องจ่ายด้วยชีวิตของเจ้า!” จ้าวหลุนไม่เห็นเจ้าแมวอ้วนอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
พรึบ เจ้าแมวอ้วนหายตัวไปในพริบตา มันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
“หืม?” จ้าวหลุนค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจกับความเร็วของมัน แต่มันก็แค่นั้น นั่นเป็นเพราะเจ้าแมวอ้วนยังเป็นแค่สัตว์อสูรระดับภูผาวารีขั้นต้น เพียงแค่สามกระบวนท่า เจ้าแมวอ้วนก็ถูกจ้าวหลุนสยบได้อย่างง่ายดาย
ถึงกระนั้น จ้าวหลุนก็ไม่ได้ทำให้มันได้รับบาดเจ็บอะไร เขาแค่ทำให้มันเคลื่อนไหวไม่ได้เท่านั้น
“เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!” เจ้าแมวอ้วนกรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว
ทุกคนดูแปลกใจ ตัวตนของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและเจ้าสำนักคือสองจอมยุทธระดับดาราที่แข็งแกร่ง มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลิงฮันจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน
จ้าวหลุนค่อนข้างจืดจางไปเลย ถ้าหากซาหยวนให้ความสนใจหลิงฮันด้วย มันจะเท่ากับว่ามีขุมพลังของจอมยุทธระดับดาราสามคนอยู่ข้างหลิงฮัน
แต่เมื่อคิดถึงพรสวรรค์และความสามารถของหลิงฮันแล้ว มันมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นเช่นนั้น!
“เตรียมตัวตาย!” จ้าวหลุนโจมตีหลิงฮันด้วยฝ่ามืออีกครั้ง
“เจ้าต่างหากที่ต้องตาย!” หลิงฮันคำราม และสวนการโจมตีด้วยดาบและฝ่ามือพร้อมกัน
ตอนที่ 988
แม้หลิงฮันจะมีพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาด แต่พลังบ่มเพาะของเขายังต่ำเกินไป
ด้วยอำนาจที่ทรงพลังของการโจมตีของจ้าวหลุน ร่างของหลิงฮันถูกส่งกระเด็นอย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกโจมตีหลายต่อหลายครั้ง หลิงฮันก็ยังมีชีวิตอยู่และบาดเจ็บเพียงแค่กระอักโลหิตออกมา
สิ่งนี้ทำให้ชาหยวนหวั่นไหวมากกว่าเดิม ถ้าเขาสามารถมีกายหยาบที่ไร้เทียมทานเช่นนั้นได้ การที่เขาจะไร้พ่ายต่อจอมยุทธที่มีพลังบ่มเพาะระดับเดียวกันยังจะเป็นเพียงความฝันอยู่งั้นรึ? หากเขามีพลังเช่นนั้นจ้าวหลุนยังจะเสพสุขกันฉายาอัจฉริยะอันดับหนึ่งได้อีกรึไม่?
เขาแอบวางแผนในใจว่าถ้าจ้าวหลุนสังหารหลิงฮันจริงๆ เขาจะรีบพุ่งพรวดไปยังร่างของหลิงฮันและขโมยความลับของหลิงฮันมา
“เจ้าจะยังไม่เคลื่อนไหวอีกรึ?” จางเต๋อหมานกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ตัวเขานั้นมีความประทับใจที่ดีต่อหลิงฮันมาตลอด
“เจ้าสำนักกล่าวไว้ว่า แม้จะต้องไว้หน้านายพลเจ้า แต่การกระทำของจ้าวหลุนก็ควรมีขีดจำกัด ยิ่งกว่านั้นด้วยการที่มีพวกเราคอยดูแลอยู่ เด็กหนุ่มผู้นั้นไม่มีทางตายแน่นอน” ผู้อาวุโสกล่าว
“ใช้โอกาสนี้ปล่อยให้จ้าวหลุนลงมือเกินกว่าเหตุจนนายพลจ้าวไม่มีอะไรจะแก้ตัวได้ ไม่เช่นนั้นหากจอมยุทธระดับดาราโกรธ เจ้าสำนักก็คงตกที่นั่งลำบาก”
“แต่ว่าเจ้าหนุ่มนั่นช่างเหลือเชื่อนัก พรสวรรค์ของเขาสามารถกล่าวได้เพียงว่าเป็นสัตว์ประหลาด!”
“ถูกแล้ว ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองข้าก็คงไม่เชื่อเด็ดขาดว่ามีจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางที่สามารถรับการโจมตีนับไม่ถ้วนจากจ้าวหลุนได้”
“จากที่ดูแล้ว พวกเราคงจะสามารถไปนอนแล้วค่อยกลับมาดูสถานการณ์ก็ไม่มีปัญหา”
ผู้อาวุโสทั้งเจ็ดคนกำลังกระซิบคุยกัน พวกเขาต่างตกตะลึงในพลังของหลิงฮัน
ใบหน้าของจ้าวหลัวเย็นยายิ่งขึ้น ถึงแม้หลิงฮันจะบาดเจ็บแต่เขาก็ยังไม่ตาย ยิ่งปล่อยให้เป็นแบบนี้นานเท่าใดเขาก็ยิ่งเสียหน้ามากขึ้น จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานขนาดนี้ในการสยบจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลาง ยิ่งกว่านั้นเขาก็ถึงเป็นอัจฉริยะสี่ดาวด้วย
“จ้าวหลุน เจ้าจะพอได้รึยัง?” เสียงที่ไพเราะและเย็นชาดังขึ้นพร้อมกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่ปรากฏตัว ใบหน้าอันงดงามของนางเต็มไปด้วยความโกรธ
ใบหน้าของจ้าวหลุนบิดเบี้ยวทันที แววตาของเขากลายเป็นเดือดดาลยิ่งขึ้น
ในหมู่สตรีของเมืองจักรพรรดิ สุ่ยเยี่ยนยวี่นั้นถูกเรียกว่าจักรพรรดินีน้อย ไม่ใช่เพราะว่านางแข็งแกร่ง มีพรสวรรค์สูงส่งหรือมีตระกูลที่ทรงอำนาจ แต่เพราะมีนิสัยที่เย็นชาและงดงามเหมือนกับจักรพรรดินี
ไม่มีใครสามารถครอบครององค์จักรพรรดินี ดังนั้นหากได้สุ่ยเยี่ยนยวี่มาครอบครองก็เหมือนกับได้ตัวแทนจักรพรรดินีมาครอง
จ้าวหลุนเป็นบุตรชายคนเดียวของนายพลจ้าว ตั้งแต่ที่เขาประกาศตนว่าเป็นเจ้าของสุ่ยเยี่ยนยวี่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่มย่ามกับนางอีก
“โอ้ ข้าแค่จะสังหารชายคนนี้ทิ้งเท่านั้น ทำไมเจ้าจะต้องโมโหด้วย?” เขากล่าวอย่างเรียบง่าย ตั้งแต่สุ่ยเยี่ยนยวี่ไปเป็นสตรีของหลิงฮัน เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องสังหารหลิงฮันให้ได้
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าสังหารคนที่ไม่เกี่ยวข้อง!” สุ่ยเยี่ยนยวี่ตะโกน
จ้าวหลุนแสยะยิ้มและกล่าว “แต่เจ้าหมอนี่ไม่ใช่คนที่ไม่เกี่ยวข้อง!”
“จ้าวหลุน ข้าต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมเลิกรา?” สุ่ยเยี่ยนยวี่กัดริมฝีปาก นางเคยคิดจะใช้หลิงฮันเพื่อหนีออกมาจากจ้าวหลุน แต่หลังจากเหตุการณ์ในเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ ความคิดของนางก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
ตอนนี้นางไม่อยากเห็นหลิงฮันตาย
จ้าวหลุนชะงักและอดแสดงท่าทีโกรธเกรี้ยวออกมาไม่ได้
เขาเคยคิดมาตลอดว่าได้สุ่ยเยี่ยนยวี่มาอยู่ในมือแล้ว แต่ตอนนี้นางกลับแสดงท่าทีราวกับจะยอมทำทุกอย่างเพื่อหลิงฮัน
เรื่องนี้ทำให้เขาแทบจะบ้าคลั่ง
ไม่ว่าอย่างไรหลิงฮันก็ต้องตาย!
“ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะไม่สามารถสังหารมดปลวกระดับภูผาวารีขั้นกลางได้!” จ้าวหลัวยิ้มอย่างเย็นชา ฝ่ามือของเขาสองประกายไปด้วยอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่เคลื่อนที่ไปมาราวกับคลื่นน้ำ
‘ตูม!’
เขาใช้เพียงหนึ่งมือโจมตี บริเวณที่หลิงฮันถูกโจมตีมีหลุมโลหิตปรากฏ ที่หลุมนั้นสามารถมองเห็นเนื้อและกระดูกของเขา
ที่น่ากลัวก็คือแม้หลิงฮันจะโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์แต่การฟื้นฟูก็ยังเป็นไปอย่างเชื่องช้า
“ฮ่าๆๆๆ!” จ้าวหลุนระเบิดเสียงหัวเราะ เขาทำให้หลิงเกิดบาดแผลได้แล้ว เขารู้แล้วว่าจะสังหารศัตรูตรงหน้านี้อย่างไร
“ระดับภูผาวารีขั้นกลางก็ยังคงเป็นภูผาวารีขั้นกลางอยู่วันยังค่ำ!”
หลิงฮันไม่ลนลานและกล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้าเพียงแค่มีพลังบ่มเพาะสูงกว่าข้าสองขั้น ถ้าเป็นการต่อสู้ในขั้นพลังเดียวกัน ข้าสามารถสังหารได้ราวกับลูกไก่!”
“น่าเสียดายที่เจ้าคงไม่มีโอกาสทำเช่นนั้น วันนั้นเจ้ามีโชคชะตาที่ต้องตกตาย!” จ้าวหลุนกล่าว
“ใครบอกว่าไม่มี!”
เสียงที่เกรี้ยวกราดดังขึ้นจากระยะไกล
“ทำความเคารพราชินีที่เก้า!”
ภายในพริบตาผู้ชมโดยรอบก็นั่งลงอย่างไม่มีข้อยกเว้น ต่อให้เป็นผู้อาวุโสซ้ายขวา เจ็ดนายพลที่เป็นจอมยุทธระดับดารา เมื่อพบเจอนางก็ต้องผสานหมัดทำความเคารพ
จ้าวหลุนไม่ใช่นายพลเจ้า เขารีบหยุดโจมตีและนั่งย่อเข่าลงทันที
หูเฟยหยินเดินออกมาจากฝูงชน เมื่อเห็นบาดแผลสาหัสที่ซี่โครงซ้ายของหลิงฮันนางก็อุทานออกมา “หลิงฮัน เจ้าเจ็บหรือไม่!”
การที่นางอุทานเช่นนี้ได้สร้างความหวาดกลัวต่อทุกคน!
ราชินีที่เก้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิงฮัน?
ราชินีที่เก้า ด้วยสถานะของนางต่อให้เป็นผู้อาวุโสซ้ายขวาหรือเจ็ดนายพลก็ต้องเชื่อฟังนาง หนึ่งในเก้าราชินีที่อยู่ภายใต้การปกป้องขององค์จักรพรรดินีตกหลุมรักหลิงฮันงั้นรึ?
ในตอนนี้เองทุกคนได้แสดงสีหน้าอิจฉาออกมา ถ้าหลิงฮันได้ครอบครองราชินีที่เก้าจริงๆ เขาก็จะก้าวกระโดดจากจอมยุทธจากโลกใบเล็กไปยังประตูมังกร แม้แต่สถานะของผู้อาวุโสซ้ายขวาก็เทียบเขาไม่ได้
“ข้าไม่เป็นอะไร” หลิงฮันพยักหน้า
ร่างของจ้าวหลุนสั่นสะท้านเล็กน้อย เขาคิดไม่ออกเลยว่าหลิงฮันสามารถครองหัวใจของราชินีที่เก้าได้อย่างไรในขณะที่สถานะของเขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่ยังคลุมเครือ นี่มันไม่มีเหตุผลสิ้นดี!
หูเฟยหยินโล่งอกและกล่าว “จ้าวหลุน เจ้ามันคนอันธพาล! เจ้าถูกเรียกว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองจักรพรรดิสินะ งั้นวันนี้ข้าขอดูความสามารถของเจ้าหน่อย!”
“อี่หมู่ ผนึกพลังบ่มเพาะของเขาและให้เขาสู้กับหลิงฮัน” นางกล่าวกับองครักษ์สตรีด้านหลัง
“เจ้าค่ะ!” องครักษ์สาวไม่ลังเลและพุ่งไปจับร่างของจ้าวหลุนเอาไว้
ตอนที่ 989
แม้ว่าจ้าวหลุนจะรู้สึกโกรธและประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของราชินีที่เก้า และยังมีองครักษ์หญิงที่เป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นกลางมาด้วย ความแข็งแกร่งดังกล่าวเขาไม่รู้ว่าจะเป็นฝ่ายถูกบดขยี้กี่ครั้ง
ปราศจากการขัดขืน พลังของเขาถูกผนึกทันที และมีโซ่ศักดิ์สิทธิ์ปรากฏอยู่บนภูผาวารีทั้งสองลูกของเขาเพื่อสะกดพลังเอาไว้
พลังของเขาลดลงและตกลงสู่ระดับภูผาวารีขั้นกลาง ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับหลิงฮัน
ถึงแม้จะมีจอมยุทธที่แข็งแกร่งมากมายในสำนัก แต่เป็นเพราะอิทธิพลของแม่ทัพจ้าวทำให้พวกเขาไม่กล้าลงมือทำอะไร แต่ตอนนี้ราชินีที่เก้าเป็นคนออกคำสั่งด้วยตัวเอง แล้วใครจะกล้าขัดขืน?
แม่ทัพจ้าวเมื่อเทียบกับราชินีที่เก้าแล้ว สถานะของใครจะสูงส่งกว่ากัน?
มันเป็นเหมือนเรื่องตลก ถ้าแม่ทัพจ้าวกล้ายืนอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับราชินีที่เก้า เช่นนั้นในไม่ช้าจากเจ็ดแม่ทัพคงจะเหลือแค่หกแม่ทัพอย่างไม่ต้องสงสัย
“เอาล่ะ พวกเจ้าสู้กันได้!” หูเฟยหยินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูเหมือนจะไม่มีอคติใดๆ
จ้าวหลุนแทบโกรธจนบ้าคลั่ง ภูมิหลังของมดปลวกจากโลกใบเล็กนี่มันอะไรกัน? เพียงแค่ครึ่งปีก็มีบุตรสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและราชินีที่เก้าคอยหนุนหลัง แม้แต่สถานะของสุ่ยเยี่ยนยวี่และกู่หลิงหยู่ก็ยังเทียบกับหลิงฮันไม่ได้
“ข้ามีระดับพลังเดียวกับเจ้าแล้วมันยังไง? ข้าจ้าวหลุนเป็นอัจฉริยะในรอบพันปี ใครจะเป็นศัตรูของข้าได้?” จ้าวหลุนระเบิดเสียงหัวเราะ แต่ครั้งนี้เขาไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย เขากำหมัดทั้งสองข้างแน่นและมีแสงสีทองเปล่งประกายอยู่รอบหมัด แคร๊ก แขนเสื้อของเขาฉีกขาดและถูกแทนที่ด้วยกล้ามเนื้อ
“หรือว่านี่จะเป็นทักษะของแม่ทัพจ้าว ทักษะหมัดทองคำสามกระบวนท่า?” ใครบางคนอุทานอย่างกะทันหัน
“ใช่ หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาการของแม่ทัพจ้าวกล่าวว่าในตอนที่แม่ทัพจ้าวยังเป็นแค่จอมยุทธระดับสุริยันจันทรา เมื่อเขาใช้ทักษะหมัดทองคำสามกระบวนท่า มันทำให้เขากลายเป็นตัวตนไร้พ่ายในระดับเดียวกันทันที”
“แล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม่ทัพจ้าวเอาแต่ขัดเกลาพลังของทักษะหมัดทองคำสามกระบวนท่า”
“แต่ครั้งนี้จ้าวหลุนเป็นผู้ใช้ทักษะนั้น”
“และตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในระดับพลังเดียวกัน ซึ่งหลิงฮันเป็นแค่อัจฉริยะระดับสี่ดาวเท่านั้น เขาคงไม่ได้รนที่ตายใช่หรือไม่?”
“ข้าได้ยินมาว่าหลิงฮันสามารถไปเกาะกลางทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ได้สามครั้ง บางทีเขาอาจเป็นอัจฉริยะระดับห้าดาว?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อัจฉริยะระดับห้าดาวมีเพียงแค่ในตำนานเท่านั้น มันจะประสบความสำเร็จง่ายดายแบบนั้นได้อย่างไร? แม้จะไปเกาะกลางทะเลสาบได้สามครั้งจะเหนือกว่าจ้าวหลุนก็จริง แต่อย่างมากเขาก็เป็นได้แค่อัจฉริยะระดับสี่ดาวครึ่ง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเป็นอัจฉริยะระดับห้าดาว”
ในขณะที่ฝูงชนกำลังพูดคุยกัน จ้าวหลุนได้กระโจนเข้าหาหลิงฮันแล้ว
หลิงฮันใช้มือข้างหนึ่งกดบาดแผลที่กระดูกซี่โครงข้างซ้ายของเขา ฝ่ามือของจ้าวหลุนก่อนหน้านี้ก่อให้เกิดอักขระศักดิ์สิทธิ์ในบาดแผลของเขา ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้
หลิงฮันต้องถอนอักขระศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นออกก่อนถึงจะรักษาบาดแผลได้อย่างสมบูรณ์ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าไปในหอคอยทมิฬได้ เพราะเขาทำได้แค่พึ่งพลังของหอคอยทมิฬเท่านั้น
“แม้เจ้ากับข้าจะอยู่ในระดับเดียวกัน ข้าก็ยังเหนือกว่าเจ้า!” จ้าวหลุนปล่อยหมัดใส่หลิงฮัน
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ข้ายังไม่เคยคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันมาก่อน และเจ้าเองก็ไม่มีข้อยกเว้น!”
เขาโจมตีออกไปด้วยฝ่ามือผนึกพลิกปฐพี
ตู้ม!
หลังจากเกิดการปะทะกัน หลิงฮันยังคงยืนอยู่ที่เดิม ในขณะที่จ้าวหลุนกระเด็นไปด้านหลังหลายสิบก้าวพร้อมกับบาดแผลและใบหน้าที่ซีดขาว
“ในระดับพลังเดียวกัน จ้าวหลุนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงฮัน!”
ฝูงชนทั้งหมดต่างส่งเสียงฮือฮา ทั้งที่พรสวรรค์ของจ้าวหลุนนั้นถือเป็นอันดับหนึ่งในจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ และในอนาคตเขามีโอกาสที่จะกลายเป็นจอมยุทธระดับดารา โดยที่ไม่มีใครคาดคิดเขากลับไม่สามารถต่อกรกับหลิงฮันได้
“หลิงฮันผู้นี้ ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้อยู่ในระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นต้นเท่านั้น แต่น่าจะเป็นระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นสูงสุด”
“ใช่แล้ว การโจมตีของเขาดูธรรมดามาก แต่กลับมีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว มีเพียงแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือเขาสามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ถึงทำให้เขามีพลังต่อสู้แข็งแกร่งขนาดนั้น”
“แล้วถ้าเขาฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะพลังลับระดับสูง พลังต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งกว่านี้หรือไม่?”
“บางทีเขาอาจกลายเป็นอัจฉริยะระดับห้าดาว!”
ทุกคนยังคงอุทานไม่หยุด หรือพวกเขากำลังเป็นพยานในการถือกำเนิดของอัจฉริยะระดับห้าดาว?
“บัดซบ!” จ้าวหลุนกรีดร้องและกลับมาเผชิญหน้ากับหลิงฮันอีกครั้ง “หมัดทองคำกระบวนท่าที่สอง สามคลื่นภูผา!”
พลังของการโจมตีครั้งนี้เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า!
หลิงฮันยังคงใช้โจมตีออกไปด้วยฝ่ามือผนึกพลิกปฐพี ปัง แสงสีทองสว่างไสวไปทั่วจากการปะทะ แต่เมื่อแสงสีทองเลือนลางหายไปทั้งสองคนก็กระเด็นไปด้านหลังด้วยกันทั้งคู่
การโจมตีครั้งนี้ พวกเขาทั้งสองคนเสมอกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” จ้าวหลุนหัวเราะ “ดูเหมือนนี่จะเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเจ้าแล้วสินะ แต่ข้ายังมีกระท่าที่สามที่ทรงพลังที่สุดอยู่!”
หลิงฮันฉีกยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “เจ้ามั่นใจในตัวเองเกินและหลอกตัวเอง ใครบอกว่านี่คือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของข้ากัน?”
“อย่างนั้นรึ!” จ้าวหลุนยังคงโจมตีใส่หลิงฮันด้วยหมัดกระบวนท่าที่สองอีกครั้ง
ทั้งสองคนห่ำหั่นกันไม่หยุด ทำให้เกิดแสงสีทองสว่างไสวไปทั่วอีกครั้ง
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มองเห็นการปะทะของพวกเขาทั้งสองคน และดูเหมือนว่าแววตาของจ้าวหลุนจะเปล่งประกายสีทองเล็กน้อย แล้วหลังจากที่เขาโจมตีใส่หลิงฮันมากกว่าสิบครั้ง แววตาของเขาก็กลายเป็นสีทองอย่างสมบูรณ์
“กระบวนท่าที่สาม เก้าคลื่นปัดเป่าสุริยันจันทรา!”
จ้าวหลุนคำรามเสียงดัง และร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้นสามฟุตแล้วเปล่งประกายด้วยแสงสีแดง ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยกระบวนท่าหมัดที่ทรงพลังที่สุดออกมา และการโจมตีครั้งนี้จะทำให้พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นเก้าเท่า
เมื่อร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นกายาทองคำอย่างสมบูรณ์ การโจมตีครั้งมันน่าอัศจรรย์มาก
ครืน หมัดทองคำยักษ์ตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับอุกกาบาตที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่ง
ถึงกระนั้นหลิงฮันก็ยังคงโจมตีออกไปด้วยฝ่ามือผนึกพลิกปฐพี
ตู้ม!
ขนาดของการโจมตีทั้งสองแตกต่างกันอย่างมาก หมัดทองคำยักษ์กดทับหลิงฮันและบังคับให้เขาล่าถอยไปด้านหลังไม่หยุด ถ้าพื้นดินที่นี่ไม่แข็งแกร่งคงจะมีรอยเท้าของเขาลากยาวอยู่บนพื้นอย่างแน่นอน
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” จ้าวหลุนระเบิดเสียหัวเราะและโจมตีใส่หลิงฮันอย่างบ้าคลั่งด้วยหมัดทั้งสองข้าง
กระบวนท่าที่สามนั้นจะกินพลังมหาศาลและมีผลกระทบต่อเขามากมาย นั่นเป็นเพราะนี่เป็นการระเบิดพลังต่อสู้เก้าเท่า
แล้วในระดับพลังเดียวกันใครจะสามารถต่อกรกับเขาได้?
ตอนที่ 990
“กล้าที่เจ้าจะต่อสู้กับอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างข้า มันยังเร็วเกินไปสำหรับเจ้า!” จ้าวหลุนหัวเราะ ในตอนนี้กายาทองคำของเขามีความสูงกว่าสามฟุต เสียงของเขาจึงเป็นเหมือนระฆังทองคำที่ทำให้ทุกคนต้องอุดหู
ทุกคนรู้สึกตกตะลึงกับพลังของจ้าวหลุน ความแข็งแกร่งของเขาถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในรอบหนึ่งล้านปี ในการต่อสู้ระดับเดียวกัน ถึงแม้จะเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นสูงสุดจะมีสักกี่คนกันที่สามารถรับการโจมตีของเขาได้?
หลิงฮันแสยะยิ้มและเริ่มใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์แรงโน้มถ่วง
ร่างของจ้าวหลุนถูกแรงโน้มถ่วงกดทับทันที เท้าของเขาเริ่มแยกออกจากกันและเริ่มสูญเสียการทรงตัว
“อักขระศักดิ์สิทธิ์แรงโน้มถ่วง!”
จ้าวหลุนดูไม่แปลกใจ เขาเองก็เคยได้รับผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วงมาก่อน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาเองก็เริ่มใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์แรงโน้มถ่วงเช่นเดียวกัน เพื่อต้านทานแรงโน้มถ่วงที่เขาได้รับ แล้วปล่อยหมัดทองคำใส่หลิงฮันอีกครั้ง
ตู้ม หมัดของเขาในครั้งนี้ทรงพลังมาก ถึงขั้นทำให้อากาศเกิดระลอกคลื่น
หลิงฮันไร้ซึ่งความหวาดกลัว และใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหาร
จ้าวหลุนรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มอยู่ในจิตใจของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่ด้วยประสบการณ์นับไม่ถ้วน ทำให้เขาตระหนักได้ทันทีว่าหลิงฮันกำลังโจมตีใส่จิตวิญญาณของเขา เขาจึงทำให้จิตใจของตัวเองมั่นคงทันที
แต่มันก็สายไปแล้ว หมัดของเขาหยุดลงอย่างกะทันหันและหลิงฮันจึงคว้าโอกาสนี้จับข้อมือของอีกฝ่ายแล้วจับทุ่มอย่างรุนแรง
ปัง!
ร่างกายที่ใหญ่โตของจ้าวหลุนกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียดและมีโลหิตพุ่งออกมา
จ้าวหลุนได้รับบาดเจ็บ!
ในการต่อสู้ระดับพลังเดียวกัน มีใครบางคนสามารถทำให้จ้าวหลุนได้รับบาดเจ็บ!
นี่เป็นข่าวใหญ่มาก จ้าวหลุนไม่เคยได้รับบาดเจ็บแม้แต่ครั้งเดียวจากคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับพลังเดียวกัน แต่ตอนนี้เขากลับกระอักโลหิตออกมา ใครจะทำใจเชื่อได้ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง?
“อ๊าก-” จ้าวหลุนส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวสุดขีด เขาใช้มือยันพื้นและรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและต้องการที่จะฆ่าหลิงฮันให้จงได้
ตู้ม เขาปล่อยหมัดใส่หลิงฮันอีกครั้ง ราวกับมีภูเขากำลังตกทับใส่หลิงฮัน
“หึ่ม ถ้าพูดถึงการต่อสู้ในระดับเดียวกันแล้ว ข้าสามารถจัดการเจ้าได้ด้วยมือข้างเดียว!” หลิงฮันเก็บมือซ้ายไว้ด้านหลัง และโจมตีออกไปด้วยฝ่ามือข้างขวาใส่จ้าวหลุน แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะเขาใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหารโจมตีใส่จ้าวหลุนด้วย
จิตวิญญาณของหลิงฮันนั้นแข็งแกร่งจอมยุทธในระดับเดียวกันมาก จิตวิญญาณของเขาในตอนนี้อาจเทียบได้กับจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงหรือแม้กระทั่งจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดเลยด้วยซ้ำ
แม้แท้จริงแล้วจ้าวหลุนจะเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีทางจิตวิญญาณของหลิงฮันได้ แม้จะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ยังไงเขาก็ได้รับผลกระทบอยู่ดี
ปัง! ปัง! ปัง!
ดังนั้น ถึงแม้ว่าหมัดทุกหมัดของจ้าวหลุนจะทรงพลังมากก็ตาม แต่ถ้าต่อยไม่โดนจะมีความหมายอะไร? เขาถูกหลิงฮันตบซ้ำไปซ้ำมา ปัง ปัง ปัง และมันเหมือนกับว่าร่างกายของจ้าวหลุนนั้นได้เปลี่ยนเป็นทองคำจริงๆ
ใครจะคิดว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างจ้าวหลุนจะเป็นฝ่ายถูกโจมตีข้างเดียว?
จ้าวหลุนรู้สึกโกรธเกรี้ยวมาก ต่อหน้าสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน นี่ถือเป็นความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่! สีหน้าของเขากลายเป็นเยือกเย็นและทันใดนั้นเอง กลิ่นอายที่ทรงพลังและน่าเกรงขามก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
“พลังแห่งจักรภพ!” หลายคนหลุดอุทานออกมาทันที
เมื่อไม่นานมานี้ จักรพรรดินีได้สลักชื่อของจ้าวหลุนในตราจักรวรรดิ ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้พลังแห่งจักรภพได้ แต่พลังแห่งจักรภพที่เขาสามารถใช้ได้นั้นจะไม่สามารถเทียบได้กับผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวาและแม่ทัพทั้งเจ็ดคน ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขายังเป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีเท่านั้น ถึงแม้เขาจะได้รับอนุญาตให้ใช้มันได้ แต่เขาจะสามารถแบกรับพลังแห่งจักรภพได้มากแค่ไหนกัน?
ด้วยความช่วยเหลือจากพลังแห่งจักรภพ ความแข็งแกร่งของจ้าวหลุนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และกายาทองคำของเขาเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น
ครืน ครืน ครืน จ้าวหลุนกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบและก้าวเดินไปข้างหน้า ทำให้หลิงฮันถูกกดดันให้ก้าวถอยหลัง
แม้แต่หลิงฮันเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย ด้วยความช่วยเหลือจากพลังแห่งจักรภพดูเหมือนทักษะจิตเจ็ดสังหารจะถูกโต้กลับและไม่สามารถใช้กับอีกฝ่ายได้อีกต่อไป
“ตาย!” จ้าวหลุนคำรามด้วยแววตาที่แดงก่ำ
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “พลังต่อสู้ของเจ้าเพิ่มขึ้นแค่หนึ่งดาว แล้วมันทำไม?” เขาสร้างระยะห่างและตั้งท่ายิงธนู โดยควบแน่นพลังปราณให้เป็นลูกศร
จ้าวหลุนรู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะนี่คือลูกศรที่สามารถฆ่าไป๋หยวนซือได้
ฟิ้ว!
เขายกแขนขึ้นมาป้องกัน ถึงกระนั้นลูกศรของหลิงฮันก็ยังคงทะลุผ่านแขนของเขาไป นี่หมายความว่ามันสามารถทะลุกายาทองคำของเขาได้ แต่ในไม่ช้าเมื่อพลังของลูกศรหมดลง มันก็หายไปทันที
โลหิตพุ่งทะลักออกมาจากแขนของจ้าวหลุน ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาว ทั้งที่เขาได้รับความช่วยเหลือจากพลังแห่งจักรภพ มันควรเป็นเขาที่จะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ แต่หลิงฮันก็ได้ตบหน้าเขาอีกครั้ง
นี่ไม่ใช่การโจมตีที่ทรงพลังที่สุด หลังจากที่หลิงฮันยิงลูกศรดอกแรกออกไป เขาโคจรพลังปราณสร้างลูกศรดอกที่สองต่อทันทีและยิงมันออกไปอีกครั้ง
ฟิ้ว!
ทุกครั้งที่หลิงฮันยิงลูกศรออกไป จ้าวหลุนจะถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าวและปรากฏรูบนร่างกาย นี่แสดงให้เห็นว่ากายาทองคำของเขาไม่สามารถหยุดยั้งศรฆ่ามังกรทะลวงดาราได้
“อ๊ากกกกกก-” จ้าวหลุนระเบิดเสียงคำราม และแสงสีทองบนร่างกายของเขาเริ่มเลือนลางหายไป และร่างกายของเขาก็กลับมาอยู่ในขนาดปกติอีกครั้ง แม้ว่ากายาทองคำที่สูงสามฟุตจะทำให้เขามีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นถึงเก้าเท่า แต่มันก็ทำให้เขากลายตกเป็นเป้าได้ง่ายเช่นกัน
หรือว่าจ้าวหลุนกำลังยอมแพ้?
“ข้าจะให้เจ้าได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้า!”จ้าวหลุนตะโกนและยื่นมือขวาออกไปและปรากฏระลอกคลื่นที่ดำสนิทเหมือนหมึก
หลิงฮันรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย การโจมตีก่อนหน้านี้ของจ้าวหลุน ทำให้เขาไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และมีอำนาจกัดกร่อนโดยตรงก่อนที่จะหยุดลง
หรือว่านี่จะเป็นทักษะโบราณที่จ้าวหลุนกำลังทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนักใช่หรือไม่?
เขาคิดอยู่ในใจ แต่ก็ยังคงขยับมือและยิงลูกศรออกไปไม่หยุด
จ้าวหลุดไม่คิดจะหลบและกระโจนเข้าใส่หลิงฮันโดยตรง
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ลูกศรพลังปราณของหลิงฮันทะลุผ่านร่างกายของจ้าวหลุนอย่างไม่น่าเชื่อ! ร่างกายของจ้าวหลุนในตอนนี้ได้เปลี่ยนกลายเป็นของเหลวไปแล้ว เมื่อลูกศรใกล้จะถึงร่ายกายของเขา ร่างกายของเกิดรูวงกลมขึ้นและปล่อยให้ลูกศรผ่านทะลุร่างกายไปอย่างง่ายดาย จากนั้นร่างกายของเขาก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับคลื่นน้ำ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น