Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 983-986

ตอนที่ 983

 

“แน่นอนว่าไม่” ชายหนุ่มชุดฟ้าส่ายหัว “พลังบ่มเพาะของเขาสูงกว่าหลิงฮันหลายขั้น ถ้าเขาชนะก็ไม่ได้หน้าอะไร เช่นนั้นทำไมเขาจะต้องรับคำท้าล่ะ?”


สตรีที่งดงามกล่าว “นายน้อยอาจจะยังไม่รู้ว่าจ้าวหลุนนั้นมีความบาดหมางส่วนตัวกับหลิงฮัน”


“โอ้?” ชายหนุ่มชุดฟ้าแสดงสีหน้าประหลาดใจ เรื่องเช่นนี้เป็นไปได้ด้วยรึ? เจ้าหลุนเป็นคนที่มีอำนาจขนาดไหน? ถ้าจะพูดให้ถูกควรเป็นหลิงฮันฝ่ายเดียวที่ไปล่วงเกินจ้าวหลุน


ชายหนุ่มชุดฟ้ามีชื่อว่าชาหยวน เป็นบุตรชายคนที่สามของนายพลชาจิ่งแห่งจักรวรรดิ พรสวรรค์ในด้านวรยุทธของเขาล้ำเลิศเป็นอย่างมาก เขาบรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดภายในระยะเวลาพันปี ตอนเขาสู้ชั้นสูงสุดของระดับภูผาวารีแล้ว


ที่จริงเขาสมควรจะออกจากสำนักได้แล้วด้วยซ้ำ แต่ถ้าหากบุตรชายของนายพลชาจิ่งต้องการจะอยู่ในสำนักต่อ ใครจะสามารถห้ามเขาได้?


สตรีที่งดงามไม่รอให้อีกฝ่ายถามและเป็นฝ่ายกล่าวบอกเอง “เรื่องนั้นเกี่ยวกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ มีคำกล่าวว่านางมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหลิงฮัน”


ชื่อของนางคือเหลี่ยวหยิง นางเป็นเด็กกำพร้าที่นายพลชาเก็บมาเลี้ยงดู พรสวรรค์ในด้านวรยุทธของนางนั้นยอดเยี่ยม นางเป็นทั้งเพื่อนเล่นสมัยเด็ก คู่ซ้อม และองครักษ์ของชาหยวน นอกจากนางแล้วก็ยังมีองครักษ์คนอื่นอยู่อีกสามคน พวกนางถูกเรียกว่าองครักษ์เสือดาวทั้งสี่


ชาหยวนหัวเราะจนน้ำตาแทบไหล


“จ้าวหลุน นี่เจ้าไร้ความน่าสามารถขนาดนี้เชียว? แม้แต่สตรีของตัวเองก็รักษาเอาไว้ไม่ได้?”


แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทายาทของเจ็ดนายพลเหมือนกัน แต่ก็ใช้ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งเขาและจ้าวหลุนต่างก็เป็นยอดอัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิ ดังนั้นพวกเขาจึงมีการชิงดีชิงเด่นกัน


เพราะงั้นชาหยวนจึงหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินว่าจ้าวหลุนเสียหน้าครั้งใหญ่


“เหลี่ยวหยิง เจ้าคงจะไม่นอกใจข้าใช่รึไม่?” จู่ๆชาหยวนก็เอ่ยถาม


จิตใจของเหลี่ยวหยิงสั่นไหวก่อนจะนั่งคุกเข่าและกล่าว “ไม่มีทางที่ข้าจะทรยศนายน้อย!”


ชาหยวนชำเลืองไปที่นาง “เจ้าไม่สืบข้อมูลของชายที่ชื่อหลิงฮันมา ข้ารู้สึกสนใจในตัวเขา!”


“น้อมรับคำสั่ง!” เหลี่ยวหยิงลุกขึ้นยืนและเดินจากไป


……


ถังเฟยแถบจะกลายเป็นบ้า หลิงฮันเมินเฉยคำท้าประลองของเขาและเลือกที่จะไปท้าประลองจ้าวหลุนแทน นี่อีกฝ่ายไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยหรือไง?


เขาอดใจจะทุบตีหลิงฮันไม่ไหวแล้ว การท้าประลองจ้าวหลุนอย่างฉับพลันของหลิงฮันทำให้จุดสนใจของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง


……


จ้าวหลุนไม่ตอบรับคำท้าของหลิงฮัน แต่ผู้ติดตามของเขาไป๋หยวนซือเป็นฝ่ายขอท้าหลิงฮันกลับ เขากล่าวไม่หลิงฮันนั้นอวดดีและไม่มีคุณสมบัติพอจะสู้กับจ้าวหลุน


ถ้าหลิงฮันต้องการจะสู้ เขาก็จะเป็นคนประลองแทนเอง ซึ่งนั่นจะต้องเป็นการประลองเป็นตาย


ณ เวลานี้ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอว่าหลิงฮันจะตอบรับอย่างไร


ต้องรู้ก่อนว่าแม้ไป๋หยวนซือจะไม่แข็งแกร่งเท่าจ้าวหลุน แต่เขาก็เป็นหัวกะทิระดับภูผาวารีขั้นสูงและเป็นอัจฉริยะสองดาวเกือบจะสามดาว หากต้องประลองกับไป๋หยวนซือมีโอกาสถึงเก้าส่วนที่หลิงฮันจะถูกสังหาร!


แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันตอบรับคำท้าประลองของไป๋หยวนซือทันที


เมืองจักรพรรดิสั่นสะท้านทันที หลิงฮันนั้นเป็นรุ่นเยาว์ที่กำลังโด่งดังที่สุดในตอนนี้ ส่วนไป๋หยวนซือก็เป็นรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งและมีสถานะคือผู้ติดตามของจ้าวหลุน


หากสองคนนี้ประลองเป็นตายกันจะต้องดึงดูดสายตาผู้คนนับไม่ถ้วนแน่นอน


“อัตราในการพนันเป็นยังไงบ้าง?” หลิงฮันตื่นเต้นเล็กน้อย


หลี่เหว่ยเหว่ยยิ้มและกล่าว “อัตราต่อรองที่เจ้าจะชนะคือหนึ่งต่อร้อย!”


ปากของหลิงฮันกระตุก ถึงแม้เขาจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าอัตราพนันของเขาจะสูง แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่ามันจะถึงหนึ่งต่อร้อย นี่เขาดีใจดีรึไม่?


“ส่วนในด้านของไป๋หยวนซือนั้นไม่มีการพนันที่ว่าเขาจะชนะเจ้าได้รึไม่ แต่เป็นการพนันว่าเขาจะเอาชนะเจ้าในกี่กระบวนท่า…” หลี่เหว่ยเหว่ยอธิบาย


“เจ้าได้ผลประโยชน์มาน้อยขนาดไหน?” หลิงฮันอดถามไม่ได้


“ผลึกก่อเกิดที่เจ้าจะได้คือสี่พัน ส่วนข้ากับพี่สาวเยว่ที่ลงพนันไปคนละสามพันนั้นได้ผลประโยชน์กลับมาหนึ่งแสนผลึกก่อเกิด!” หลี่เหว่ยเหว่ยตื่นเต้น


เงินที่สตรีทั้งสองลงพนันนั้นมากที่เขาได้รับกลับมาเสียอีก!


หลิงฮันถอนหายใจและกล่าว “แน่นอนว่าข้าจะเป็นฝ่ายชนะ”


“อืม!” หลี่เหว่ยเหว่ยพยักหน้าและกล่าวถาม “ทำไมเจ้าถึงได้มั่นใจขนาดไหน?”


“แน่นอน เป็นเพราะข้าแข็งแกร่งไงล่ะ” หลิงฮันหัวเราะ


เรื่องที่จ้าวหลัวจะไม่ตอบรับคำท้านั้นหลิงฮันคาดการณ์เอาไว้แล้ว แต่ที่เขาคาดไม่ถึงคือการที่ไป๋หยวนซือจะเป็นฝ่ายย้อนกลับมาท้าประลองแทนและสร้างผลประโยชน์ให้กับเขา


“ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง! แต่ว่าถ้าเจ้าทำให้ข้ากับพี่สาวเยว่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ พวกข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าว


“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่แพ้แน่นอน!” หลิงฮันยิ้ม


หลิงฮันเต็มไปด้วยการคาดหวัง หลังจากได้เงินพนันมาเขาก็จะเข้าร่วมการประมูลครั้งใหญ่ เขารู้สึกสนใจเป็นอย่างมากว่าการประมูลของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมีของดีเช่นใดถูกนำมาประมูลบ้าง


ยังมีเวลาอีกสามวันก่อนการประลองจะเริ่ม ในช่วงสามวันนี้เขาใช้เวลาไปกับการดูดซับผลึกภูผาวารีเปลวเพลิงก้อนสุดท้ายเพื่อขัดเกลารากฐานให้มั่นคงจนถึงขีดสุด ในขณะเดียวกันพลังของอักขระศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงของเขาก็ทรงพลังขึ้นอย่างมาก นั่นเพราะเขาดูดซับผลึกภูผาวารีเปลวเพลิงไปถึงเจ็ดก้อนซึ่งมีจำนวนมากกว่าผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วงมากนัก

 

 

 


ตอนที่ 984

 

สามวันต่อมา หลิงฮันเดินทางไปที่ภูเขาเชียนเฟิง ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประลอง


เนื่องจากการต่อสู้นั้นได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมาย มันไม่ได้ดึงดูดแค่คนภายนอกเท่านั้น แต่ยังดึงดูดศิษย์ในสำนักด้วย ดังนั้นผู้คนมากมายในเมืองจักรพรรดิทุกคนต่างดิ้นรนเข้าไปในสำนักเพื่อดูการต่อสู้


จ้าวหลุนปรากฏตัวและกำลังยืนอยู่บนยอดเขาพร้อมกับลูกน้องอีกสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา


ซาหยวน หลิวฮุ่ยหลัน จิงอู่เสวี่ย ชางกวนหยวนจี ทั้งสี่คนเป็นคนมีชื่อเสียงในสำนัก แต่เดิมจ้าวหลุนนั้นอ่อนแอกว่าพวกเขาทั้งสี่คน อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด ทำให้เขาอยู่ในระดับเดียวกันกับทั้งสี่คนนั้น


“ตามความคิดเห็นของพวกเจ้า เจ้าเด็กนั่นสามารถทำอะไรได้บ้าง?” ซาหยวนหัวเราะ


“เจ้าเด็กนั่นเป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้น แม้จะอยู่ชั้นสูงสุด แต่อัจฉริยะสี่ดาวก็ทำให้เขาเทียบได้กับระดับกลางเท่านั้น แม้แต่ไป๋หยวนซือก็สามารถจัดการเจ้าเด็กนั่นได้อย่างง่ายดาย” หลิวฮุ่ยหลันกล่าว


ตระกูลหลิวซื่อสัตย์ต่อแม่ทัพจ้าว ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่หลิวฮุ่ยหลันจะเอาใจจ้าวหลุน อย่างไรก็ตามที่นางพูดออกมาถือว่าเป็นความจริง จิงอู่เสวี่ยและชางกวนหยวนจีเลยพยักหน้าเห็นด้วย ในขณะที่ใบหน้าของจ้าวหลุนเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม


“ถ้างั้นพวกเรามาพนันกันเถอะ” ซาหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม


“เจ้าอยากพนันอะไร?” จ้าวหลุนถาม เขาและซาหยวนต่างก็เป็นบุตรของแม่ทัพด้วยกันทั้งคู่ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทั้งสองคนจะไม่แสดงด้านอ่อนแอของตนเองออกมา


“ข้าเดิมพันข้างเจ้าเด็กนั่นว่าสามารถยืนหยันได้มากกว่าห้าร้อยกระบวนท่า หรือแม้กระทั่งเป็นฝ่ายชนะ!” ซาหยวนกล่าว


เมื่อจ้าวหลุนและคนอื่นได้ยินพวกเขาต่างก็รู้สึกตกใจ พวกเขาจะไม่ตกใจได้อย่างไร?


ความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มันไม่มีโอกาสที่หลิงฮันจะเป็นฝ่ายชนะเลย แม้แต่ยืนหยัดสิบกระบวนท่ายังเป็นเรื่องยาก แต่ซาหยวนกับเดิมพันว่าเขาสามารถยืนหยันได้มากกว่าห้าร้อยกระบวนท่าหรือแม้กระทั่งเป็นฝ่ายชนะ


“พี่ซา ท่านจะรับการเดิมพันจริงหรือ?” จิงอู่เสวี่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะเขามีนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว


ซาหยวนยิ้มและพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว”


“ตกลง ในเมื่อเจ้าเดิมพันข้างเจ้าเด็กนั่น ถ้างั้นข้าก็ขอเดิมพันด้วยแร่เหล็กเมฆาดาราขาว!” จ้าวหยุนกล่าว


โอ้!


หลิวฮุ่ยหลัน จิงอู่เสวี่ย และชางกวนหยวนจีต่างก็รู้สึกตกตะลึง แร่เหล็กเมฆาดาราขาวเป็นแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด มันมีค่าอย่างมหาศาล


“หรือเจ้าจะไม่กล้าแล้ว?” จ้าวหลุนแสยะยิ้ม


“ข้ายอมรับการเดิมพัน!” ซาหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น


หลิวฮุ่ยหลันรีบพูดทันทีว่า “ในเมื่อพี่ซากล้ารับเดิมพัน ข้าก็ไม่อยากเสียมารยาทกับพี่ซา เช่นนั้นข้าจึงขอร่วมเดิมพันด้วยหยดวิหคเพลิงเมฆาสามหยด!”


นี่เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่


หยดวิหคเพลิงเมฆานั่นไม่สามารถเทียบกับวิหคเพลิงที่แท้จริงได้ แต่มันก็ถือว่ามีสายเลือดของวิหคเพลิง ดังนั้นหยดเลือดของมันถือว่าล้ำค่าและหาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง


“โอ้ว ถ้างั้นข้าขอเดิมพันด้วยหยกแรดสามก้อน” ชางกวนหยวนจีกล่าวพรางหัวเราะ


“ถ้างั้นข้าเดิมพันด้วยหญ้าดารา” จิงอู่เสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา


ถึงแม้ซาหยวนจะมั่นใจในความสามารถของหลิงฮัน แต่ถ้าเขาแพ้การเดิมพัน เขาจะต้องสูญเสียอย่างมหาศาล ซึ่งจะทำให้เขายากจนไปอีกหนึ่งหมื่นปี


แต่ถ้าเขาเป็นฝ่ายชนะการเดิมพันล่ะ? มันจะเป็นผลกำไรครั้งยิ่งใหญ่!


“เอาล่ะ ถ้างั้นมารอดูกัน!” ซาหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่จ้าวหลุนเห็นอีกฝ่ายดูกระวนเล็กน้อย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะมันเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ และอัตราต่อรองข้างหลิงฮันนั้นยังสูงมากด้วย


……


“หลิงฮัน!” ถังเฟยกระโดดออกมาจากกลุ่มฝูงชนและยืนขวางทางหลิงฮัน เขารออยู่ที่นี่มานานแล้ว


หลิงฮันหันไปมองอีกฝ่ายและพูดว่า “เจ้าเป็นใคร?”


ถังเฟยแทบจะเป็นลม เขาเป็นอันดับหนึ่งในจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดของสำนักสีชาดฝ่ายเหนือ แต่หลิงฮันกลับไม่รู้จักเขา?


“เจ้ากล้าต่อสู้กับข้าหรือไม่?” ถังเฟยตะโกนพูดเสียงดัง


หลิงฮันยิ้มและส่ายหน้า แล้วพูดว่า “เหลวไหล ข้าไม่อยากรังแกเจ้า!”


“เจ้าทำตัวอวดดีเกินไปแล้ว!” ถังเฟยรู้สึกโกรธจนทนไม่ไหวและกระโจนเข้าไปต่อยหลิงฮันทันที


เขาและหลิงฮันต่างก็เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดด้วยกันทั้งคู่ จึงไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากหลิงฮัน และสามารถท้าสู้ได้ทันที ตราบใดที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บจนพิการหรือตาย


หลิงฮันหลบและพูดว่า “นี่ถือเป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายของข้า มิฉะนั้นข้าจะถือว่าเจ้าเรียกร้องเอง!”


“หึ่ม!” ถังเฟยไม่สนใจ และโจมตีใส่หลิงฮันด้วยฝ่ามือ ซึ่งฝ่ามือของเขาปรากฏอักขระศักดิ์สิทธิ์สามแถวขึ้นมาและปลดปล่อยกลิ่นอายที่แปลกประหลาดออกมา


“หรือว่านั่นจะเป็นสามฝ่ามือกุยหยวน?” ใครบางคนที่อยู่ด้านข้างกล่าว


“ใช่แล้ว ข้าเคยได้ยินมาว่าถังเฟยเป็นอันดับหนึ่งในหมู่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดได้เพราะทักษะโบราณนี่”


“มาดูกันว่าหลิงฮันจะป้องกันได้ยังไง”


“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าว่าไม่น่ามีปัญหา มิฉะนั้นถังเฟยคงไม่กล้าปล่อยการโจมตีแบบนั้นออกมา มิฉะนั้นเขาจะต่อสู้กับไป๋หยวนซือได้อย่างไร?!”


“เจ้าเรียกร้องหามันเอง!” หลิงฮันเริ่มเป็นฝ่ายโจมตี ปัง เขาไม่ปกปิดกลิ่นอายของตนเองแม้แต่น้อย และปรากฏภูผาวารีสองลูกอยู่เบื้องหลังพร้อมกับแสงสีเหลืองที่เป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์แรงโน้มถ่วงและแสงสีแดงที่เป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิง


ตู้ม!


ถังเฟยถูกโจมตีและกระเด็นไปอยู่ตีนเขาด้านหลัง ทำให้เกิดหลุมที่เป็นรูปคนและติดอยู่ในนั้น


เขาไม่ได้มีกายหยาบที่เทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์ และถึงแม้เขาจะโคจรพลังปราณทั้งหมดป้องกันการโจมตี แต่ก็ยังมีโลหิตจำนวนมากไหลออกมาจากผิวของเขา


ในขณะนั้นเองบรรยากาศกลายเป็นเงียบงัน แต่หลังจากนั้นชั่วครู่ทุกคนก็เริ่มส่งเสียงแตกตื่น


“ข้าไม่คิดเลยว่าหลิงฮันจะทะลวงผ่านขั้นกลางแล้ว!”


“มันน่าทึ่งมาก จากเดิมที่เป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติ เพียงแค่ครึ่งปีเขาก็กลายเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางแล้ว ความก้าวหน้าของเขาช่างรวดเร็วยิ่งนัก!”


“ใช่แล้ว ถึงแม้เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากผลึกภูผาวารี อย่างน้อยเขาต้องใช้เวลาหนึ่งร้อยปีเพื่อทะลวงผ่านขั้นกลาง แต่นี่เขากลับใช้เวลาแค่ครึ่งปีเท่านั้น!”


“นี่มัน….สัตว์ประหลาด!”


“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมก่อนหน้านี้หลิงฮันถึงไม่รับคำท้าของถังเฟยก่อนหน้านี้ เพราะเขาทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นกลางแล้วนี่เอง”


“ถังเฟยช่างโชคร้ายยิ่งนัก พรสวรรค์ของหลิงฮันนั้นสูงกว่าเขามาก และตอนนี้ยังมีระดับพลังที่สูงกว่าอีก ข้าไม่แปลกใจเลยที่ถังเฟยพ่ายแพ้ด้วยการโจมตีเดียว”


“จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางนั้นไม่สามารถท้าจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นสู้ได้ แต่ถังเฟยนั้นเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน จึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้”


ทุกคนต่างก็รู้สึกแปลกใจและหัวเราะใส่ถังเฟยที่กลายเป็นตัวตลกในตอนนี้ เพราะเขาต้องการเอาชนะหลิงฮัน


ด้านบนของภูเขา นอกจากซาหยวนแล้ว จ้าวหลุนและคนอื่นต่างก็รู้สึกตกใจกับความก้าวหน้าของหลิงฮัน มันเหนือกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก


“ซาหยวน เจ้ารู้เรื่องนี้อยู่แล้วใช่หรือไม่?” จ้าวหลุนถามด้วยความขุ่นเคือง

 

 

 


ตอนที่ 985

 

“จ้าวหลุน เมื่อใดกันที่เจ้าขี้กระวนกระวายเช่นนี้?” ชาหยวนหัวเราะ


จ้าวหลุนเค้นเสียง เขาอ่อนเยาว์กว่าชาหยวนร้อยปีนิดๆ ดังนั้นเมื่อเขาเพิ่งทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดอีกฝ่ายก็บรรลุชั้นปลายของขั้นสูงสุดไปแล้ว ซึ่งหมายถึงเขายังอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่ายถึงสามส่วน


แต่ถ้าหากต้องสู้กันจริงๆเขาก็มั่นใจว่าด้วยทักษะลับในมือเขาจะต้องจัดการอีกฝ่ายได้แน่นอน


หลิงฮันเดินมาถึงลานประลองตรงไหล่เขา เมื่อครึ่งปีก่อนที่นี่คือสถานที่ที่เขาประลองกับหลัวป้า เขาไม่นึกเลยว่าเขาจะต้องประลองเป็นตายอีกครั้งเร็วขนาดนี้


ไป๋หยวนซือรออยู่กลางลานประลองแล้ว เขานั่งคุกเข่าสงบนิ่งราวกับเป็นรูปปั้นหิน


สำหรับจอมยุทธการนั่งรอเฉยๆไม่กี่ชั่วโมงไม่นับว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็น พวกเขาสามารถสงบใจให้แน่นิ่งได้หลายวัน


หลิงฮันเดินไปหยุดยืนอยู่ด้านข้างไป๋หยวนซือ


“มาแล้วรึ?” ไป๋หยวนซือลืมตาขึ้น


หลิงฮันยิ้มและกล่าว “มาเริ่มกันเลย”


“การทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นกลางด้วยเวลาทีรวดเร็วเช่นนี้คงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากสินะ?” ไป๋หยวนซือกล่าว


“ก็ไม่ได้ยากเย็น” หลิงฮันตอบ


ไป๋หยวนซือหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “นายน้อยของข้ายังต้องการสุนัขรับใช้อยู่ เจ้ามีสิทธิ์เลือกว่าจะยอมสยบหรือจะยอมตาย!”


หลิงฮันแสยะยิ้ม “เจ้าจะเป็นสุนัขรับใช้ก็เป็นไป เจ้าไม่ต้องมาลากคนอื่นไปเป็นกับเจ้าด้วย!”


“โอหัง!” ไป๋หยวนซือคำราม เสียงของเขาแทบจะทำให้หูชาและชะงัก เสียงของเขาแฝงไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว เขามองไปยังหลิงฮันอย่างเย็นชาและกล่าว “ในเมื่อเจ้าดื้อด้านขนาดนี้ก็ตกตายไปเสีย!”


หลิงฮันยกหนึ่งมือขึ้นท้าทายและกล่าว “ถ้าเจ้าต้องการทิ้งชีวิตของตัวเองขนาดนั้นข้าก็ขอไม่ปรานี!”


“พูดจาอวดดี!” ไป๋หยวนซือไม่ใช้อาวุธ เขาใช้มือขวาที่ถูกปกคลุมไปด้วยรูปแบบอักขระศักดิ์สิทธิ์โจมตีเข้าใส่หลิงฮัน


หลิงฮันยิ้ม เขายืนรับการโจมตีของอีกฝ่ายแต่โดยดี


‘ตูม’ หมัดของไป๋หยวนซือปะทะเข้าใส่หน้าอกของหลิงฮัน อักขระนับไม่ถ้วนปลดปล่อยแสงอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา


ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส หลิงฮันถูกการโจมตีของเขาแล้ว ร่างของหลิงฮันจะต้องแหลกสลายแน่นอน แต่ทันใดนั้นเองสีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไป นั่นเพราะร่างของหลิงฮันนันแน่นิ่งไม่ขยับแม้แต่น้อย


นี่มันบ้าอะไรกัน!


ยังไม่ทันที่เขาจะคิดเหตุผลว่าทำไมหลิงฮันถึงไม่บาดเจ็บ หลิงฮันก็ยกมือขึ้นพร้อมกับโยนตาข่ายออกมา


ตาข่ายขนาดใหญ่สยายออกและคลุมร่างของไป๋หยวนซือเอาไว้


ไป๋หยวนซือตกตะลึงแต่ไม่ลนลาน เขาติดตามจ้าวหลุนไปยังโบราณสถานต่างๆและพบเจอกับภัยอันตรายมามากมาย หากเขาไม่สามารถมีสติอยู่ตลอดเวลาเขาจะมีคุณสมบัติติดตามจ้าวหลุนได้อย่างไร?


‘ฟุบ’ เขารีบชักดาบเพื่อเตรียมตอบโต้ ดาบนั้นส่องประสายและส่งเสียงราวกับกำลังร้องเพลง


“ลาก่อน!” หลิงฮันนำคันศรและลูกศรออกมาพร้อมกับโคจรทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารา


เขาไม่คิดเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายตอบโต้ และต้องการกำจัดเขี้ยวเล็บของจ้าวหลุนทิ้งซะ!


ทันใดนั้นขนทั่วร่างของไป๋หยวนซือก็ลุกซู่ เขาสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายที่ร้ายแรง แต่เมื่อเขาพยายามจะรีดเค้นพลังในร่างกลับพบว่าพลังปราณของเขาถูกสะกดเอาไว้


เขาสามารถใช้พลังปราณได้แค่ของระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นกลางเท่านั้น!


ตาข่ายนี่มันอะไรกัน?


ในขณะที่เขากำลังคิดเช่นนี้ลูกศรในมือของหลิงฮันก็เล็งขึ้นเหนือหน้าอกของเขา


หลิงฮันปล่อยมือ ลูกศรที่ถูกยิงออกไปนั้นพุ่งทะยานราวกับสายน้ำ


ฉึก!


ลูกศรพุ่งทะลวงศีรษะของไป๋หยวนซือโดยไม่มีแรงต่อต้าน


‘พลั่ว’ ศีรษะทั้งหัวของไป๋หยวนซือระเบิดกระจุย!


ผู้คนรอบข้างกลายเป็นไร้คำพูด


ใครจะไปคาดคิดว่าหลิงฮันจะเอาชนะไป๋หยวนซือได้? นอกจากนั้นก็ไม่ใช่แค่ชัยชนะธรรมดาแต่เป็นการสังหารอย่างเด็ดขาด ถ้าหากไป๋หยวนซือเป็นฝ่ายสังหารหลิงฮันได้ก็คงไม่มีใครแปลกใจเพราะไป๋หยวนซือมีพลังที่สูงพอ


แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนแต่อ้าปากค้างทำใจเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ลง


ความต่างของระดับพลังของไป๋หยวนซือกับหลิงฮันแทบจะห่างกันห้าขั้น!


นอกจากนั้นไป๋หยวนซือก็ยังเป็นอัจฉริยะเกือบสามดาว ด้วยพลังต่อสู้เช่นนี้เขาพลังของเขาแทบจะห่างกับหลิงฮันเจ็ดดาว


พลังต่อสู้ที่ห่างกันเจ็ดดาวยังต้องตกตาย?


เรื่องแบบนี้ใครจะไปทำใจเชื่อได้ลง?


ณ ยอดเขา ใบหน้าของจ้าวหลัวเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที


คนเช่นเขาย่อมไม่เก็บเรื่องความตายของไป๋หยวนซือมาใส่ใจ อีกฝ่ายเป็นเพียงสุนัขที่ทำงานเพื่อเขา หากเขาต้องการหาสุนัขตัวใหม่ใครกันจะไม่ยินยอม?


แต่ปัญหาก็คือสุนัขนั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของ ตอนนี้สุนัขของเขาถูกสังหารต่อหน้าต่อตา แบบนี้จะให้เขาไม่รู้สึกเสียหน้าได้อย่างไร?


“ข้ารู้แล้ว ตาข่ายนั่นคือตาข่ายผนึกสีชาด!”


“อะไรคือตาข่ายผนึกสีชาด?”


“ตาข่ายผนึกสีชาดคือตาข่ายที่ใช้ผนึกพลัง เมื่อถูกผนึกพลังบ่มเพาะจะถูกสะกดให้ลดลงมาหนึ่งขั้น!”


“เป็นเช่นนี้เอง!”


ผู้คนรอบข้างพยักหน้าเข้าใจ ถ้าไป๋หยวนซือถูกลดลงมาหนึ่งขั้น งั้นพลังต่อสู้ของเขาก็คงเหลือเพียงภูผาวารีขั้นกลางชั้นสูงสุดเท่านั้น การที่หลิงฮันจะสังหารเขาก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้


“ฮึ่ม!” จ้าวหลัวกระโดดลอยลงมาจากยอดเขาและหยุดยืนอยู่ด้านข้างไป๋หยวนซือ เขาจ้องไปยังหลิงฮันด้วยสายตาเย็นชาและกล่าว “เจ้าสังหารเขารึ?”


‘เจ้าตาเจ้าไม่บอด เจ้าก็น่าจะเห็นไม่ใช่รึ!” หลิงฮันไร้พลังอย่างสิ้นเชิงหลังจากใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราออกไปด้วยพลังทั้งหมด แต่ก็ใช้ว่าเขาจะหวั่นเกรงอีกฝ่าย


ทุกคนสูดหายใจลึก จ้าวหลุนนั้นเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสำนักนภาสีชาด แถมยังเป็นบุตรชายคนเดียวของนายพลจ้าว!


ใบหน้าของจ้าวหลุนมืดมนและเย็นชา “ในเมื่อเจ้าสังหารคนของข้าก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก จงคุกเข่าลงและฆ่าตัวตายเสีย!”


หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “นายน้อยจ้าวเจ้าบ้ารึเปล่า? คนของเจ้าไม่สามารถูกสังหารงั้นรึ? นี่คือการประลองที่ถูกต้อง และข้าก็สังหารเขาตามกฎของการประลอง!”


“เหอะ สังหารคนของข้ายังไงเจ้าก็ต้องการ!” จ้าวหลุนขมวดคิ้วและปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา


“ไร้สาระ!” หลิงฮันเค้นเสียง เขาคิดจะหยิบตาข่ายผนึกสีชาดขึ้นและเดินจากไป


‘พรึบ’ แต่ในตอนนั้นเองจ้าวหลุนก็ลงมือโจมตีใส่หลิงฮัน


ระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดและเป็นอัจฉริยะสี่ดาว การโจมตีของเขาจะทรงพลังขนาดไหน? ยิ่งกว่านั้นตอนนี้หลิงฮันก็อยู่ในสภาพที่อ่อนแรงที่สุดด้วย


‘ปัง’ หลิงฮันถูกฝ่ามือของอีกฝ่ายโจมตีใส่จนร่างกระเด็นทันที


“ยังไม่ตาย?” จ้าวหลุนมองไปยังหลิงฮันที่กำลังกระอักโลหิต เขาอดแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาไม่ได้

 

 

 


ตอนที่ 986

 

ถึงแม้ฝ่ามือที่โจมตีออกไปจะไม่ใช่พลังเต็มที่ของเขา แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นสามารถต้านทานได้


จ้าวหลุนเข้าใจทันทีว่าถึงแม้ก่อนหน้านี้หลิงฮันจะถูกไป๋หยวนซือโจมตีใส่ แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย เมื่อครู่เขาตกตะลึงที่ไป๋หยวนซือถูกสังหารจึงมองข้ามเรื่องนี้ไป


ร่างของเจ้าหมอนี่ถูกสร้างขึ้นจากโลหะศักดิ์สิทธิ์รึไง?


จ้าวหลุนตะลึง แต่ฝ่ามือของเขาก็ยังไม่หยุดนิ่ง เขายกฝ่ามือขึ้นเพื่อเตรียมโจมตีหลิงฮันอีกครั้ง


แม้ฝ่ามือก่อนหน้านี้จะสังหารหลิงฮันไม่ได้ แต่หลิงฮันก็ได้รับบาดเจ็บ เห็นได้ชัดว่ากายหยาบของหลิงฮันแม้จะไร้เทียมทานแต่ก็ใช้ว่ามันจะทนทานจนป้องกันการโจมตีของเขาได้อย่างสมบูรณ์


หลิงฮันขยับตัวล่าถอย ถ่ามกลางสายตาของสาธารณชนเขาไม่สามารถเปิดเผยความลับเรื่องอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาเพิ่งจะใช้ศรฆ่ามังกรทะลวงดาราแบบเต็มพลังออกไปซึ่งตอนนี้เขาต้องใช้เวลาสักพักในการฟื้นฟูพลัง


“ข้าคนนี้ลงมือแล้ว เจ้ายังคิดว่าจะหนีพ้น?” จ้าวหลุนแสยะยิ้มและกระแทกฝ่ามือเข้าใส่หน้าอกหลิงฮัน


ปัง!


ร่างของหลิงฮันถูกโจมตีจนกระเด็นอีกครั้ง แต่เขารู้สึกได้ว่าภายในร่างกำลังร้อนระอุและรู้สึกกระอักกระอ่วน ตอนนี้ทั้งพลังปราณและพลังกายของเขากำลังฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว หากมีเวลาอีกสักครู่พลังของเขาจะกลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์


สำหรับหลิงฮันพลังกายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะฟื้นฟูได้รวดเร็ว แต่ทำไมเขาถึงสามารถฟื้นฟูพลังปราณได้รวดเร็วเหมือนกัน?


สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เขาทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นกลาง… หรือนี่จะเป็นเพราะทักษะหกธาตุประสานที่ถูกนำมารวมกันและสร้างขึ้นใหม่? หลิงฮันค่อยไม่แน่ใจในเรื่องนี้เท่าไหร่


‘ตุบ’ ร่างของเขาล้มลงกับพื้นและสำลักโลหิตออกมาอีกครั้ง เขารู้สึกราวกับว่ากระดูกในร่างกำลังสั่นสะท้านราวกับกำลังจะแตกหัก


จ้าวหลุนไม่ใช้จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดทั่วไป แต่เขาเป็นอัจฉริยะสี่ดาว ต่อให้หลิงฮันมีกายหยาบที่เทียบเท่าแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม แต่ถ้าหากยังถูกโจมตีต่อในเรื่อยๆเขาก็คงหนีไม่พ้นได้รับบาดเจ็บสาหัส


ผู้คนที่มองดูอยู่ตกตะลึงจนเยี่ยวแทบไหล หมอนี่เป็นเพียงระดับภูผาวารีขั้นกลางแท้ๆ แต่เมื่อถูกจ้าวหลุนโจมตีไปสองครั้งกลับบาดเจ็บเพียงแค่สำลักโลหิตออกมาเล็กน้อย นี่มันเหลือเชื่อเกินไป!


แววตาของจ้าวหลุนเปลี่ยนเป็นเย็นชาและก้าวเข้าหาหลิงฮัน คิดรึว่ากายหยาบที่ทนทานของเจ้าจะสามารถช่วยให้ไม่เจ้าถูกข้าสังหารได้?


“จ้าวหลุน เจ้าทำเกินไปแล้ว!” หลี่เหว่ยเหว่ยเดินขึ้นมา “หลิงฮันเป็นคนของคุณหนูผู้นี้ เจ้าไม่มีสิทธิ์แตะต้องเขา!”


จ้าวหลุนหยุดฝีเท้าและกล่าว “คุณหนูสี่ ถ้าชายคนนี้เป็นสามีของท่านข้าก็จะไว้หน้าท่าน! เพียงแต่ว่าชายคนนี้เป็นเพียงสุนัขรับใช้ของท่าน ซึ่งคนของข้าถูกเขาสังหาร ดังนั้นหากเขาจะใช้ชีวิตตนเองมาชดใช้ก็เป็นเรื่องที่สมควร!”


“ไร้สาระ!” หลี่เหว่ยเหว่ยเกรี้ยวกราดและกล่าว “พวกเขาประลองกับอย่างถูกต้อง นอกจากนั้นชายแซ่ไป๋ก็มีพลังบ่มเพาะสูงกว่าหลิงฮันด้วย หากฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็ควรจะเป็นหลิงฮัน!”


“ข้าไม่สน ที่ข้าเห็นมีเพียงชายคนนี้สังหารคนของข้า ถ้าข้าไม่จัดการเขาผู้ติดตามคนอื่นของข้าก็จะไม่มีทางสงบใจได้!” จ้าวหลุนไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง


ผู้ที่มีอำนาจเช่นเขา หากสังหารหลิงฮันจริงๆและคิดจะหลบหนีโทษของสำนักหรือจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ แค่เขาไม่ทำตัวโดดเด่นสักสองสามปีเรื่องก็เงียบแล้ว


หลีเหว่ยเหว่ยตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “ไม่ว่าอย่างไร หากเจ้าคิดจะสังหารเขาเจ้าก็ต้องข้ามคุณหนูผู้นี้ไปก่อน!”


“คุณหนูสี่ ท่านประเมินตนเองสูงเกินไป!” จ้าวหลัวมองไปยังหลี่เหว่เหว่ย ‘พรึบ’ เขาปล่อยปราณแสงบางอย่างไปยังร่างของนางทำให้นางขยับตัวหรือปากไม่ได้


จ้าวหลัวแสยะยิ้มและมองหลิงฮัน “เจ้าคิดว่าที่นี่คือในสำนักแล้วข้าจะไม่กล้าสังหารเจ้า? ผิดแล้ว ข้าไม่เคยเห็นเจ้าอยู่ในสายตาเลยสักครั้ง แต่ในเมื่อเจ้าปฏิเสธที่จะเป็นสุนัขนับใช้ข้าและสังหารคนของข้า จุดจบของเจ้าก็มีเพียงความตาย!”


“แซ่จ้าว เจ้าเพียงแค่บ่มเพาะพลังมาก่อนข้าหลายปี ถ้าเจ้าอายุเท่าข้าหรือมาจากโลกเดียวกัน ข้าใช้แค่มือเดียวก็สยบเจ้าได้!” หลิงฮันกล่าวด้วยนำเสียงเหยียดหยาม


ทุกคนรอบข้างรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที


ถ้าหลิงฮันร้องขอความเมตตาในตอนนี้ บางทีจ้าวหลัวอาจจะปรานี แต่หลิงฮันเล่นพูดจาแบบนี้มีแต่จะทำให้จ้าวหลุนโกรธยิ่งขึ้น


แต่เมื่อลองคิดดูที่หลิงฮันกล่าวก็มีเหตุผล


ในช่วงอายุยี่สิบปี จ้าวหลุนมีพลังบ่มเพาะระดับใด?


แน่นอนด้วยพรสวรรค์ของเขาในช่วงอายุยี่สิบปีเขาบรรลุระดับทลายมิติขั้นสูงสุดและขัดเกลาพลังต่อสู้จนถึงยี่สิบดาว เมื่อทะลวงผ่านสำเร็จ ระดับภูผาวารีก็ไม่อาจรั้งเขาไว้ได้นาน เขาบรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นได้ก่อนอายุห้าสิบ


แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ทั้งสองต่างกันอย่างชัดเจน!


จ้าวหลุนแสยะยิ้มและกล่าว “เจ้ามีสถานะอะไร? เจ้าเทียบข้าได้งั้นรึ?”


‘ตูม!’


เขาโจมตีจนร่างของหลิงฮันกระเด็นอีกครั้ง


ตั้งที่การโจมตีครั้งแรกของจ้าวหลุนจนถึงครั้งนี้ก็เป็นเวลาสักพักแล้ว


แต่กลับไม่มีผู้อาวุโสสำนักคนใดปรากฏตัวเลย


แค่เป็นบุตรของนายพลจ้าวก็สามารถใช้มือปกคลุมท้องฟ้าได้งั้นหรือ?


ทุกคนอดรู้สึกเย็นยะเยือกในจิตใจไม่ได้ นั่นเรื่องแม้วันนี้จ้าวหลัวจะต้องการสังหารหลิงฮัน แต่ถ้าหากวันพรุ่งนี้เป็นพวกเขาล่ะ? แม้จะเป็นการสังหารต่อหน้าสาธารณชนเล่นนี้ก็ไม่มีใครเลยที่ยื่นมือเข้าช่วย


“หยุดมือ!” เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับร่างของสตรีงดงามที่เดินเข้ามาใกล้


“นั่นกู่หลิงยื่อ!”


“ไม่จริงน่า นางเกี่ยวข้องอันใดกับหลิงฮัน?”


“ในหมู่สามสาวงามของเมืองจักรพรรดิ สองสาวงามกลับออกตัวช่วยเหลือเขา!”


ฝูงชนจำกู่หลิงยื่อได้ นางคือหนึ่งในสามสาวงามของเมืองจักรพรรดิและเป็นศิษย์ใหม่ของสำนักฝ่ายปรุงยา


ใบหน้าของจ้าวหลุนเปลี่ยนเป็นมืดมน


ถึงแม้กู่หลิงยื่อจะเป็นศิษย์ของฝ่ายปรุงยาเขาก็ไม่หวั่นเกรง แต่ที่ทำให้เขาไม่พอใจก็คือการที่มีสางงามมากมายอยู่ฝ่ายเดียวกับหลิงฮัน!


สุ่ยเยี่ยนยวี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น


ตัวเขาเป็นถึงบุตรชายคนเดียวของนายพลเจ้า พรสวรรค์ในด้านวรยุทธเองก็ยอดเยี่ยมจนถูกเรียกว่าอัจฉริยะในรอบพันปี ใบหน้าของเขาก็หล่อเหลา เช่นนั้นแล้วทำไมถึงไม่มีสตรีที่งดงามเช่นนั้นถวายตัวให้เขาบ้าง?


นี่เขาดีไม่เท่ามดปลวกจากโลกใบเล็กรึไง!


เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธจนปลดปล่อยจิตสังหารออกมา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)