Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 959-962
ตอนที่ 959
เย่เหวินซานกับถังฮว่าเป็นหัวกะทิของศิษย์ระดับภูผาวารีขั้นต้นของสำนักฝ่ายเหนือ พวกเขาติดอันดับสี่ร้อยแปดสิบกับหน้าร้อยยี่สิบสอง พลังบ่มเพาะของพวกเขาคือขั้นต้นชั้นสูงสุดกับทั้งคู่ นอกจากนั้นพวกเขาก็ยังเป็นอัจฉริยะหนึ่งดาวที่มีพลังต่อสู้เทียบเท่าระดับภูผาวารี่ขั้นกลางชั้นแรกเริ่ม
พวกเขาข้ามทะเลสาบนี้มาก่อนแล้วซึ่งขีดกำจัดของพวกเขาก็คือแปดสิบก้าว
‘ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ’
ก้อนหินที้ใช้ด้าวเดินนั้นกว้างกว่าที่จะเดินคนเดียว หากเดินพร้อมกันสองคนก็จะเดินได้พอดี แต่ไม่สามารถเดินพร้อมกันสามคนได้
พวกเขารีบพุ่งเดินราวกับสายลม เมื่อเข้าหลิงฮันขึ้นมาเรื่อยๆพวกเขาก็แสยะยิ้ม
โชคของเจ้าจบลงเท่านี้แล้ว
“หลบไป!” ทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกันและเอื้อมมือไปยังหลิงฮัน
แน่นอนว่าหลิงฮันรอคอยพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว เขาไม่หลบหลีกแต่เลือกที่จะปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้าของทั้งสอง เขาไม่ออมมือแม้แต่น้อย เมื่อเขาปล่อยหมัดออกไป เงาภูผาวารีขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา
‘พรวด!’
ผู้คนบนริมทะเลสาบที่เห็นอดหัวเราะออกมาไม่ได้
พวกเขาเคยเห็นภูผาวารีมาหลายรอบรอบ แต่ภูผาวรีของหลิงฮันยังเล็กเกินไป
ขนาดของภูผาวารีคือตัวกำหนดพลังของจอมยุทธระดับภูผาวารี
“แส่หาที่ตาย!”
ทั้งสองคนยิ้มเยาะเย้ย แค่เพิ่งทะลวงผ่านระดับภูผาวารีได้คิดจะมาปะทะกับพวกเขางั้นรึ พวกเขาแอบโคจรพลังปราณในร่างเล็กน้อย อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่ทำให้หลิงฮันตายในทันที
เพราะอย่างไรท่ามกลางสายตาของสาธารณชน การสังหารศิษย์น้องร่วมสำนักไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย
‘ปัง! ปัง!’
หมัดของหลิงฮันเข้าปะทะ แขนของทั้งสองคนถูกปัดออกไปอย่างไม่อาจต้านทานทำให้หมัดของหลิงฮันกระแทกใส่หน้าของพวกเขาโดยตรง
อะไรกัน!
ณ เวลานี้ทั้งสองคนไม่มีเวลามากพอจะกล่าวอะไร แต่สีหน้าของพวกเขาก็อธิบายความในใจของพวกเขาได้ชัดเจนแล้ว
ตกตะลึง… สับสน… และหวาดกลัว
จอมยุทธจากโลกใบเล็กที่เพิ่งทะลวงผ่านระดับภูผาวารีแล้วเพิ่งควบแน่นเงาของภูผาวารีได้แค่ขนาดเล็กๆ เหตุใดถึงมีพลังโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้?
หน้าของพวกเขาที่ถูกหมัดโจมตีใส่นั้นราวกับถูกเหล็กกล้ากระแทกเข้าใส่ กล้ามเนื้อบนใบหน้าของพวกเขาสั่นสะท้านราวกับเป็นคลื่นน้ำ
ฟันคู่หนึ่งกระเด็นออกมา ร่างของพวกเขาลอยสูงโค้งขึ้นไปบ้นท้องฟ้าก่อนจะร่วงลงที่ทะเลสาบ
“อ๊ากก” ทั้งสองส่งเสียงกรี๊ดร้องและรีบว่ายขึ้นฝั่ง
สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ากล้ามเนื้อของพวกเขากำลังถูกหลอมละลายด้วยความเร็วสูง ถึงแม้พวกเขาจะโคจรปราณก่อเกิดคุ้มกันเอาไว้ก็ไร้ประโยชน์ มันช่วยได้เพียงทำให้การกัดกร่อนช้าลงเท่านั้นแต่กล้ามเนื้อของพวกเขาก็กำลังละลายอยู่ดี
ทุกคนชะงักทันที ใครบ้างจะคิดว่าเหตุการณ์จะกลายมาเป็นเช่นนี้?
อย่ามองว่าพวกเย่เหวินซานเป็นเพียงแค่อันดับประมาณสี่ร้อยถึงห้าร้อย พวกเจ้ารู้รึเปล่าว่าในสำนักฝ่ายเหนือมีศิษย์กี่คนที่บรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้น?
ทุกๆยี่สิบปีจะมีศิษย์เข้าร่วมสำนักฝ่ายเหนือราวๆห้าร้อยคน พวกเขาเหล่านั้นจะใช้เวลาประมาณร้อยปีในการบรรลุระดับภูผาวารี
สำนักนภาสีชาดจะรับเพียงลูกศิษย์ที่อัจฉริยะเท่านั้น ถ้าใครไม่สามารถบรรลุระดับภูผาวารีขั้นกลางได้ภายในหนึ่งหมื่นปีพวกเขาจะถูกไล่ออกจากสำนักทันที ถ้าเฉลี่ยแล้วศิษย์ในระดับภูผาวารีขั้นต้นจะมีถึงหนึ่งแสนคน!
ดังนั้นการติดอันดับห้าร้อยในหมู่หนึ่งแสนคน จะไม่นับว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดได้อย่างไร?
แต่การที่แต่หลิงฮันเหวี่ยงหมัดก็ทำให้ทั้งสองคนลอยกระเด็นได้นี่มัน… แข็งแกร่งเกินไป!
และที่สำคัญคือเขาเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับภูผาวารีมาเอง
ถ้าตอนนี้เขายังแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าเป็นในวันข้างหน้าล่ะ?
“เห็นว่าจอมยุทธจากโลกใบเล็กผู้นั้นสามารถขึ้นไปถึงหอคอยดาราขาวชั้นแปด เขามีคุณสมบัติจะกลายเป็นอัจฉริยะสี่ดาว”
“ถ้าเป็นอัจฉริยะสี่ดาว เขาก็จะมีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับระดับภูผาวารีขั้นกลางเมื่อทะลวงผ่านระดับภูผาวารี ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมเขาถึงในทรงพลังเช่นนั้น”
“แต่ไม่ใช่ว่าพวกถังฮว่าก็มีพลังต่อสู้เทียบเท่ากับระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นแรกเริ่มรึไง?”
“ไม่หรอก พวกเขาอาจจะไม่นึกว่าหลิงฮันจะแข็งแกร่งขนาดนั้นจึงไม่ได้เอาจริง เพราะงั้นพวกเขาถึงได้ถูกทำร้ายได้ง่ายเช่นนั้น”
“เป็นเช่นนี้เอง!” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
แต่ยังมีบางคนที่คิดไปไกลกว่านั้น ถ้าหากหลิงฮันเดินผ่านก้อนหินได้ร้อยก้าวและไคว่คว้าผลึกภูผาวารีพิเศษมาได้ พลังต่อสู้ของเขาจะไม่เพิ่มเป็นอัจฉริยะห้าดาวเลยรึงไง?
แม้จะไม่แน่ใจแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!
อัจฉริยะห้าดาว… แค่คิดก็ทำให้พวกเขาขนลุกแล้ว
หลิงฮันหันกลับไปทางเดิม ในสายตาเขาทั้งสองคนนี้เป็นเพียงแค่แมลงเท่านั้น เป้าหมายของเขาไม่ใช่สองคนนี้แต่เป็น… จ้าวหลุน!
เขาเดินหน้าต่อด้วยฝีเท้าที่มั่นคง
วิธีที่จะใช้ต้านทานแรงโน้มถ่วงที่ถาโถมเข้าใส่คือพลังของตน
แต่เพราะเขตแดนลี้ลับแห่งนี้ถูกกำจัดพลังบ่มเพาะเอาไว้ จึงมีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะต้านทานแรงโน้มถ่วงได้เช่นหลิงฮัน ยิงกว่านั้นนอกจากพลังแล้ว หลิงฮันก็ยังมีกายหยาบที่ไร้เทียมทาน
ภายใต้การกดทับของแรงโน้มถ่วง จอมยุทธคนอื่นจะใช้ปราณก่อเกิดคุ้มกันอวัยวะภายในอย่างเช่นหัวใจและสมองเอาไว้ ไม่เช่นนั้นอัวยะเหล่านั้นจะถูกบดขยี้โดยแรงโน้มถ่วง แต่หลิงฮันไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเพราะมีกายหยาบที่เทียบเท่าแร่โลหะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง
ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คือการใช้พลังต้านทานแรงโน้มถ่วงเพียงอย่างเดียว
หกสิบก้าว แปดสิบก้าว เก้าสิบก้าว เขาเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วจนจนกระทั่งถึงก้าวที่เก้าสิบความเร็วของเขาก็ลดลงและแสดงสีหน้าปั้นยากออกมา
หน้าผากของเขามีเหงื่อไหล กระดูกในร่างและผิวหนังของเขาสั่นสะท้าน
แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันก็ยังเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
“เขาไม่ใช่ธรรมดาจริงๆด้วย!” ใครบางคนอุทานออกมา
ทุกคนพยักหน้า มีเพียงคำว่า ‘ไม่ปกติ’ เท่านั้นที่สามารถใช้อธิบายความสามารของหลิงฮัน
เนื่องจากทะเลสาบแห่งนี้สามารถผลิตผลึกภูผาวารีพิเศษได้ ผู้คนมากมายจึงมารวมตัวกันที่นี่ตั้งแต่เมื่อสามวันก่อนแต่ก็ไม่มีใครเลยก็สามารถนำผลึกภูผาวารีที่อยู่บนเกาะมาครอบครองได้
แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว
ตอนที่ 960
เก้าสิบห้าก้าว เก้าสิบหกก้าว เก้าสิบเจ็บก้าว
ยิงเข้าใกล้เกาะ การก้าวขาก็ทำได้ยากขึ้น
เก้าสิบแปดก้าว เก้าสิบเก้าก้าว!
หลิงฮันรีดเค้นพลังเล็กน้อยเพื่อก้าวขาก้าวสุดท้ายออกไป
เมื่อเท้าสัมผัสกับเกาะ แรงโน้มถ่วงที่ถาโถมเข้ามาก็สลายหายไป
เกาะที่ว่านั้นมีขนาดเล็กมาก พื้นที่มีขนาดราวๆสองฟุตเท่านั้นราวกับว่ามันเป็นเพียงโขดหินที่ถูกตัดปลาย บนเกาะแห่งนี้มีผลึกภูผาวารีหลายสิบก้อนวางเรียงอยู่
จะสามารถหยิบผลึกไปสองก้อนหรือมากกว่านั้นในครั้งเดียวได้รึเปล่า?
หลิงฮันโค้งตัวก้มหยิบผลึกภูผาวารี แต่เมื่อเขาหยิบได้หนึ่งก้อนเขาก็ถูกพลังงานบางอย่างของเกาะผลักเขาลอยกระเด็นกลับไปที่ชายฝั่ง
หลังจากร่วงลงสู่ชายฝั่งหลิงฮันก็อดย้อนกลับมาคิดไม่ได้ว่าถ้าเมื่อครู่เขาใช้ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตคว้าผลึกภูผาวารีก้อนอื่นเอาไว้ มันจะเป็นไปได้หรือไม่?
ในตอนนี้มีผู้คนมากมายจับจ้องมายังหลิงฮัน
เพียงแค่ผลึกภูผาวารีธรรมดาก็ทำให้ผู้คนเกิดความโลภแล้ว ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังสยบความคิดจะแย่งชิงเอาเอาไว้ได้ แต่ตอนนี้มันต่างออกไป ผลึกภูผาวารีที่หลิงฮันได้มามีความสามารถพิเศษใงเอาไว้!
ผลึกภูผาวารีที่มีความสามารถพิเศษจะช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ให้แก่จอมยุทธอย่างถาวร มันสามารถทำให้อัจฉริยะหนึ่งดาวกลายเป็นอัจฉริยะสองดาว และสามารถทำให้อัจฉริยะสองดาวเป็นอัจฉริยะสามดาวได้
แล้วแบบนี้ใครจะควบคุมความโลภไหว?
“มอบผลึกภูผาวารีมาซะ!” ชายชราผู้หนึ่งเป็นคนกล่าวเริ่ม ตัวเขาเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสุด หากใช้ทักษะลับของตัวเขา เขามั่นใจว่าพลังต่อสู้ของเขาจะสามารถบดขยี้หลิงฮันได้อย่างสมบูรณ์
หลิงฮันเก็บผลึกภูผาวารีเข้าไปในหอคอยทมิฬก่อนจะกล่าว “งั้นเจ้าก็คงต้องมีความสามารถพอ!”
โลกของจอมยุทธนั้นวัดกันที่พลังมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“เจ้าหนู อย่ามั่วทำอะไรไร้สาระ” จอมยุทธหลายคนก้าวเข้ามา พวกเขาล้วนแต่เป็นคนจากรุ่นอาวุโส ตอนนี้มีแค่พวกเขาที่มีพลังต่อสู้เทียบเท่าระดับภูผาวารีขั้นกลางเท่านั้นที่มีคุณสมบัติจะปะทะหลิงฮัน
ในที่นี้มีจอมยุทธเช่นนั้นยี่สิบสองคน แต่คนที่ก้าวเดินออกมามีแค่เจ็ดคน ที่บางคนไม่เดินออกมาเป็นเพราะพวกเขาคิดว่าแค่เจ็ดคนก็เพียงพอแล้ว
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ทำไมพวกเจ้าต้องรีบด้วย? ไว้ข้าไปนำผลึกก้อนอื่นมาก่อนพวกเจ้าค่อยมาช่วงชิงไปเป็นอย่างไร?”
ตึง!
สายตาของทุกคนจดจ้องมายังหลิงฮัน รุ่นเยาว์ผู้นี้บ้ารึเปล่าที่พูดเช่นนั้นออกมา?
เหล่าจอมยุทธรุ่นอาวุโสมองหน้ากันและพยักหน้า จะอย่างไรหลิงฮันก็หนีไปไหนไม่รอดอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงกันว่าจะยอมให้หลิงฮันไปนำผลึกภูผาวารีมาเพิ่ม
“ทิ้งผลึกภูผาวารีเอาไว้ แล้วเจ้าค่อยไปลองครั้งต่อไป” ชายชรากล่าวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโลภ
ถ้าหากเขาได้ผลึกภูผาวารีชนิดพิเศษมาล่ะก็ จะนับว่าเป็นวาสนาครั้งใหญ่หลวง แม้ตัวเขาเองจะไม่มีช่องว่างให้พัฒนาแลว แต่เขามีหลานที่มีพรสวรรค์อยู่คนหนึ่ง ด้วยการช่วยเหลือของผลึกภูผาวารีชนิดพิเศษ บางทีหลานของเขาอาจจะกลายเป็นอัจฉริยะสองดาวได้
หลิงฮันไม่ต้องการจะเสียเวลากับคนเฒ่าคนแก่พวกนี้
เขานำคันศรและลูกศรออกมาพร้อมกับเล็งไปยังชายชรา
ทันใดนัน้เองทุกคนก็รู้สึกเย็นยะเยือกจากก้นบึ้งของจิตใจ ความรู้สึกหนาวเย็นนี้ไม่ได้มาจากเขตแดนลี้ลับแต่มาจากความหวาดกลัว
หลิงฮันกล่าว “แม้ข้าจะไม่เชี่ยวชาญด้านการยิงธนู แต่ข้ามั่นใจว่าถ้าข้ายิงศรนี้ออกไปใครสักจะต้องตกตายแน่ มีใครอยากลองบ้าง?”
ไม่มีใครกล้าผลีผลามลงมือ แม้พวกเขาจะมั่นใจในพลังของตัวเอง แต่พลังอำนาจที่ลูกศรปลดปล่อยออกมานั้นทำให้พวกเขาไม่มีใครกล้าลองดี
“ตอนนี้ยังมีใครต้องการออกคำสั่งกับข้าอยู่รึไม่?” หลิงฮันมองไปยังฝูงชน เมื่อปลายของคันศรถูกชี้ไปยังทิศทางหนึ่งคนที่ถูกชี้ก็เหงื่อไหลท่วมตัว
ทุกคนรู้ว่าถึงแม้ลูกศรของหลิงฮันจะมีพลังทำลายที่น่าสะพรึงกลัว แต่หลิงฮันไม่สามารถยิงคันศรที่ว่าได้หลายนัดแน่นอน ด้วยจำนวนของปรมาจารย์ยี่สิบกว่าคนย่อมสามารถสยบหลิงฮันได้
แต่คำถามก็คือใครจะยอมเสียสละถูกคันศรยิง?
ทุกคนไม่ใช่ญาติพี่น้อง ทำไมข้าต้องเสียสละชีวิตเพื่อพวกเจ้าด้วย? ต่อให้เป็นตระกูลเดียวกันหากไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ไม่มีใครต้องการเสียสละอยู่ดี
เหล่าจอมยุทธรุ่นอาวุโสค่อยเขยิบถอยหลัง ณ ตอนนี้พวกเขาไม่คิดจะลงมือกับหลิงฮัน แต่สถานการณ์เช่นนี้จะคงอยู่ไปได้นานแค่ไหนนั้นก็เป็นอีกเรื่อง ถ้าหากมีโอกาสพวกเขาจะไม่นิ่งเฉยแน่นอน
หลิงฮันเก็บคันศรและลูกศรกลับไป ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการเปิดเผยความลับเรื่องหอคอยทมิฬแก่คนเหล่านี้ เขาคงหลบเข้าหอคอยทมิฬไปแล้ว
เขาเริ่มเดินข้ามทะเลสาบอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้แค่ก้าวเท้าไปก้าวแรกเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าแรงโน้มถ่วงที่ถาโถมเข้าใส่นั้นรุนแรงเท่ากับก้าวที่แปดสิบของเมื่อครั้งก่อน เมื่อเขาเดินไปได้ราวๆสามสิบก้าวเขาก็ต้องล่าถอย
เมื่อเห็นหลิงฮันเดินกลับมา ใครบางคนก็แสดงท่าทีโล่งอก ในขณะที่ก็มีใครบางคนแสยะยิ้มเยาะเย้ย
“เจ้าสามารถครอบรองผลึกภูผาวารีได้ก้อนเดียวเท่านั้น เจ้าไม่อาจเทียบกับศิษย์พี่จ้าวได้”
“นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ศิษย์พี่จ้าวคืออัจฉริยะสุดแกร่งในรอบพันปี ในอนาคตเขาจะกลายเป็นตัวตนระดับดาราได้อย่างแน่นอน!”
“เหอะ ส่วนเจ้าเป็นเพียงมดปลวกจากโลกใบเล็ก!”
หลายคนสบถคำด่าออกมากเวยสายตาแดงฉาน
สุ่ยเยี่ยนยวี่และหูเฟยหยินเดินเข้ามา หูเฟยหยินกล่าว “ไม่ต้องผิดหวังไป ยังไงเจ้าก็ได้รับผลึกภูผาวารีมาแล้ว แถมเจ้าก็ยังเพิ่งทะลวงผ่านระดับภูผาวารีด้วย รอให้เจ้าบรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดได้เมื่อไหล่เจ้าจะไม่อ่อนแอไปกว่าจ้าวหลุนแน่นอน”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “คุ้มกันข้าหน่อย ข้าจะดูดซับผลึกภูผาวารีและลองอีกครั้ง”
ตอนที่ 961
หลิงฮันไม่เห็นด้วยกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ เขาหยิบผลึกภูผาวารีออกมาและเริ่มดูดซับมันโดยตรง
แต่ผลึกภูผาวารีที่เขานำออกมาไม่ใช่ผลึกภูผาวารีที่เขาเพิ่งได้รับมา แต่เป็นผลึกภูผาวารีที่ได้รับมาจากกลุ่มเจ็ดคนที่เขาได้สังหารไป มันมีทั้งหมดสองก้อน แต่เขาไม่รีบที่จะดูดซับมัน
เมื่อเห็นหลิงฮันดูดซับผลึกภูผาวารีในที่สาธารณะ คนอื่นอยากจะกระโจนเข้าไปแย่งผลึกภูผาวารีจากเขาเหลือเกิน
แต่โชคดีที่พวกเขาเห็นว่ามันเป็นแค่ผลึกภูผาวารีธรรมดา พวกเขาจึงอดใจเอาไว้ได้
ผลึกภูผาวารีธรรมดาจะช่วยให้จอมยุทธประหยัดเวลาฝึกฝนบ่มเพาะพลังเท่านั้น แม้ว่ามันจะมีค่ามาก แต่สำหรับอัจริยะแล้วพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเวลา ซึ่งมีเพียงแค่ผลึกภูผาวารีที่มีคุณสมบัติพิเศษเท่านั้นถึงจะเรียกว่าสมบัติ เพราะมันจะช่วยยกระดับพลังต่อสู้ของพวกเขาได้
นอกจากนั้นมีสองเหตุผลที่เขาหลีกเลี่ยงคือความแข็งแกร่งของหลิงฮันและตัวตนของหูเฟยหยินที่เป็นราชินีที่เก้า
เมื่อคำนึงถึงความโปรดปรานที่จักรพรรดินีมีให้ต่อราชินีที่เก้าแล้ว ใครจะกล้าทำตัวหยาบคายกับนาง?
อย่าว่าแต่ผู้คนจากจักรวรรดิราชวงศ์จันทราหายนะเลยที่ไม่กล้าทำตัวหยาบคายกับนาง แม้แต่ผู้คนจากจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ และจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามก็ยังไม่กล้า และหากราชินีที่เก้าตกอยู่ในอันตราย พวกเขาทุกคนก็จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือนาง นั่นเป็นเพราะพวกเขาทุกคนรู้ว่าหากราชินีที่เก้าตายที่นี่ จักรพรรดินีจะต้องโกรธเกรี้ยวมากเป็นแน่และสังหารทุกคนที่นี่
จักรพรรดินีจะต้องทำเช่นนั้นอย่างแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งไปกว่านั้น หลิงฮันยังเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวในสายตาของทุกคนด้วย
นี่เป็นเรื่องที่บ้าและประมาทเกินไปในสายตาคนอื่น แต่หลิงฮันกับผ่อนคลาย เพราะไม่มีใครรู้ว่ากายหยาบของเขาเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สองแล้ว แล้วใครจะสามารถทำร้ายเขาได้?
ในมือของหลิงฮันผลึกภูผาวารีเริ่มส่องแสงและแผ่ขยายกว้างอย่างรวดเร็ว
จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นจะสามารถดูดซับได้อย่างรวดเร็ว เมื่อแสงของผลึกภูผาวารีเริ่มสลัวและกลายเป็นผุยผง เงาของภูเขาลูกแรกในตันเทียนของหลิงฮันขยายใหญ่ขึ้นมากว่าเดิมหนึ่งร้อยเท่า ในที่สุดมันก็มีรูปร่างเป็นภูเขาสักที
“นี่คือระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุด?” หลิงฮันพูดในใจ เห็นได้ชัดว่าภูผาวารีของเขาเป็นรูปเป็นร่างแล้ว แต่ทำไมมันถึงยังเล็กอยู่?
นี่เป็นเพราะข้าใช้ผลึกภูผาวารี?
ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ตราบใดที่ข้าแข็งแกร่งขึ้นผลลัพธ์จะยังไงก็เหมือนกัน
หลิงฮันลุกขึ้นยืนและลองข้ามทะเลสาบอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาไปถึงแผ่นหินที่หกสิบได้ภายในหนึ่งลมหายใจ และเริ่มชะลอความเร็วลง หลังจากที่ระดับพลังของเขาก้าวหน้า มันทำให้เขาก้าวหน้าขึ้นมาก แต่หลังจากที่ไปถึงแผ่นหินก้อนที่เก้าสิบ เขาก็ไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้อีกต่อไป แล้วตกลงไปในทะเลสาบอย่างกะทันหัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ใครบางคนส่งเสียงหัวเราะออกมาทันทีพร้อมกับปรบมือ
แต่ทันใดนั้นเอง สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
เพราะหลิงฮันหมุนแขนและว่ายน้ำไปที่เกาะ
สัตว์ประหลาด! เขาจะสัตว์เป็นประหลาดอย่างแน่นอน!
เพราะมันเป็นเรื่องยากและยากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า
แค่เดินไปให้ถึงเกาะกลางทะเลสาบก็นับว่ายากแล้ว แต่นี่เขากลับว่ายน้ำอยู่ในทะเลสาบที่มีพลังกัดกร่อนน่าสะพรึงกลัว
ยิ่งไปกว่านั้น…แม้ว่าหลิงฮันจะตกลงไปในน้ำ แต่ร่างกายของเขากลับไม่ละลาย!
นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก กายหยาบของเขาแข็งแกร่งแค่ไหนกันถึงต่อต้านพลังกัดกร่อนของทะเลสาบนี้ได้?
หลิงฮันว่ายน้ำอยู่สักพักหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะว่ายไปให้ถึงเกาะกลางทะเลสาบ และทำได้แค่ว่ายกลับเข้าฝั่งอย่างไม่เต็มใจพร้อมกับเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งก่อนที่จะหลุดแล้วเผยให้เห็นผิวหนังที่เปล่งปลั่งไร้บาดแผล
หลิงฮันรีบหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาแล้วใส่มันอย่างรวดเร็ว สาเหตุที่ร่างกายของเขาไร้บาดแผลไม่ใช่เพราะกายหยาบที่แข็งแกร่งของเขาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเขาโคจรทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ด้วย ดังนั้นน้ำในทะเลสาบจึงไม่สามารถทำอะไรเขาได้
“ทำไมพวกเจ้าต้องมองข้าตาโตขนาดนั้นด้วย?” หลิงฮันหัวเราะ ตอนนี้ดวงตาของสุ่ยเยี่ยนยวี่และหูเฟยหยินเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
พวกนางจะไม่ตกใจได้อย่างไร ทั้งที่พลังกัดกร่อนของทะเลสาบน่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น ใครก็ตามที่ตกลงไปต่างขึ้นมาด้วยสภาพสยดสยอง แต่หลิงฮันกลับว่ายน้ำเล่นและไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย แล้วนี่จะไม่ทำให้พวกนางตกใจได้อย่างไร?
แม้แต่คนอื่นก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน โชคดีที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เข้าไปหาเรื่องหลิงฮัน กายหยาบของเขาแข็งแกร่งมาก แล้วใครจะสามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้?
หลิงฮันนั่งลงอีกครั้งและนำผลึกภูผาวารีก้อนสุดท้ายออกมา
หลังจากที่ดูดซับพลังจากมันจนหมด เขาน่าจะไปถึงเกาะกลางทะเลสาบ
เขาไม่ลังเลที่จะดูดซับผลึกภูผาวารีและเริ่มดูดซับมันทันที
ครึ่งวันต่อมา ผลึกภูผาวารีในมือก็กลายเป็นผุยผงอีกครั้ง
ในช่วงเวลานั้น มีหลายคนแห่กันมาถึงที่นี่ แต่ก็มีบางคนที่จากไปจากที่นี่อย่างสิ้นหวังเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเองอัจฉริยะที่มาจากจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ ที่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูง และยังเป็นอัจฉริยะระดับสามดาวด้วย หลังจากที่พยายามอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ได้รับผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วง
ดังนั้นถ้าต้องการไปให้ถึงเกาะกลางทะเล สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่พลังต่อสู้ – เพราะมีหลายคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาอยู่ที่นี่ แต่ในปัจจุบันมีเพียงแค่เขากับหลิงฮันเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ
ชายที่ชื่อโหยวเฮ่าไม่เพียงแค่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังมีชายชราสองคนคอยคุ้มกันเขาอยู่รอบข้างด้วย ซึ่งชายชราทั้งสองคนแข็งแกร่งมากถึงขั้นไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว
โหยวจ้าวส่งเสียงหัวเราะและหันไปมองทิศทางทั้งสี่อย่างภาคภูมิใจ
ทุกคนต่างรู้ว่าการที่ไปถึงเกาะกลางทะเลสาบได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าทึ่งแค่ไหน ทุกครั้งที่เขตแดนลี้ลับเปิดจะมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่ไปถึง ซึ่งเขายังไม่ได้แก่เฒ่าและไม่ได้ใช้ทักษะลับด้วย
นี่ถือว่าเป็นการทดสอบที่แท้จริง!
“นายน้อย พวกข้าขอแสดงความยินดีด้วย!” ชายชราทั้งสองกล่าวชมเขาด้วยสีหน้ามีความสุข
โหยวเฮ่ารู้สึกพึงพอใจ แต่ในไม่ช้าสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ถึงแม้จะมีคนมองมาที่เขาด้วยสีหน้าตกตะลึง แต่ก็มีหลายคนที่มีใบหน้านิ่งเฉย ราวกับมองไม่เห็นความสำเร็จของเขา
คนพวกนี้ตาบอดหรือไม่?
ที่เขาไม่รู้คือหลิงฮันประสบความสำเร็จก่อนเขา ถึงแม้ครั้งที่สองเขาจะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม แต่มันก็น่าทึ่งอยู่ดี
ในขณะนั้นเอง หลิงฮันลุกขึ้นยืน ในตอนนี้เขามาถึงจุดสูงสุดของระดับภูผาวารีขั้นต้นแล้ว
เมื่อโหยวเฮ่าเห็นช่วยไม่ได้ที่เขาจะแสยะยิ้ม เขาเพิ่งไปถึงเกาะกลางทะเลสาบสำเร็จ แต่เจ้าเพิ่งจะนั่งบ่มเพาะพลังเสร็จเนี่ยนะ!
ตอนที่ 962
ที่โหยวเฮ่าแปลกใจก็คือทำไมการที่หลิงฮันข้ามทะเลสาบ ทุกคนถึงได้สนใจเขาขนาดนั้น
บ้ารึเปล่า?
โหยวเฮ่ารู้สึกอับอาย เขาต่างหากที่เป็นคนที่ข้ามทะเลสาบได้สำเร็จ ผู้คนควรจะสนใจเขามากกว่าไม่ใช่รึไง?
หรือหลิงฮันจะเป็นทายาทของตัวตนระดับสูง?
จิตใจของเขาห่อเหี่ยวเล็กน้อยเมื่อรู้ว่ามีคนแย่งชิงความโดดเด่นไป สีหน้าของเขามืดมนและตัดสินใจว่าเมื่อหลิงฮันกลับมาเขาจะสอนบทเรียนให้หลาบจำ
ต่อให้อีกฝ่ายเป็นทายาทของตัวตนระดับสูง ตราบใดที่เขาไม่สังหารอีกฝ่ายต่อหน้าสาธารณะชนก็ไม่มีปัญหา
พลังของหลิงฮันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ครั้งนี้ความเร็วในการก้าวเดินของเขาจึงว่องไวยิ่งขึ้น แต่การที่เขาก้าวได้ว่องไวยิ่งขึ้นก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ต้องรู้ก่อนว่านี่คือครั้งที่สองที่หลิงฮันข้ามทะเลสาบ
ศักยะภาพของเขาไม่ด้อยไปกว่าจ้าวหลุน!
ยิ่งกว่านั้นเมื่อตอนที่จ้าวหลุนข้ามทะเลสาบครั้งที่สองเขายังบรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดแล้ว!
แต่พลังบ่มเพาะของหลิงฮันยังไม่บรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นปลายเลย นั่นหมายถึงเขายังมีช่องว่างให้พัฒนาเพิ่มอีก เขาอาจจะสามารถข้ามทะเลสายครั้งที่สาม… หรืออาจจะครั้งที่สี่!
หลิงฮันก้าวมาถึงสิบก้าวสุดท้าย ซึ่งในที่สุดเขาก็เริ่มรู้สึกกดดัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง
เก้าสิบแปด เก้าสิบเก้า หนึ่งร้อย!
เท้าของเขาสัมผัสกับเกาะอีกครั้ง
ทุกคนจับใบหน้าของตนเองด้วยความตกตะลึง
ทันทีที่หลิงฮันก้าวถึงเกาะเป็นครั้งที่สอง ทุกคนก็ยอมรับแล้วว่าหลิงฮันมีพรสวรรค์ยิ่งกว่าจ้าวหลุน
เมื่อใดที่ข่าวเรื่องนี้แพร่ออกไป เป็นไปได้ว่าทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิจะต้องสั่นสะท้าน
หลิงฮันเอื้อมไปคว้าผลึกภูผาวารีและนำทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตออกมา เขาต้องการจะคว้าผลึกอีกก้อนไปด้วย แต่เมื่อทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตสัมผัสกับผลึกภูผาวารีมันก็ถูกผลักออกไปสามารถรัดผลึกเอาไว้ได้
‘พรึบ’ หลิงฮันถูกพลักกระเด็นกลับฝั่งอีกครั้ง
เจ้าหมอนี่ข้ามทะเลสาบได้สำเร็จจริงๆ?
สีหน้าของโหยวเฮ่ามืดมนกว่าเดิม ในตอนแรกเขาเป็นคนเดียวที่ข้ามทะเลสาบได้สำเร็จ แต่ตอนนี้กลับมีอีกคนที่มากแย่งรัศมีความโดดเด่นของเขาแล้ว
เขารู้สึกหงุดหงิดและเดินไปหาหลิงฮันทันที เขาปรบมือพร้อมกับกล่าว “ยินดีด้วย! เจ้าก้าวไปถึงเกาะสำเร็จเป็นคนที่สองหลังจากข้า แม้เจ้าจะใช้เวลานานกว่าข้าแต่ก็พอจะแย่งแสงอันเฉิดฉายได้อยู่บ้าง”
ผู้คนที่อยู่ที่นี่มานานต่างหลัวเราะออกมา พวกเขาเห็นตั้งแต่แรกว่าหลิงฮันด้าวไปยังเกาะได้ถึงสองครั้ง แล้วการที่ไปยังเกาะเป็นครั้งที่สองได้นั้นหมายถึงอะไร? เขาคืออัจฉริยะที่ไม่ด้อยไปว่าอัจฉริยะในรอบพันปี จ้าวหลุน!
เจ้าเดินไปถึงเกาะได้แค่ครั้งเดียวแต่เจ้ากล้าพูดว่าหลิงฮันพอจะแย่งแสงอันเฉิดฉายของเจ้างั้นรึ
โหยวเฮ่าแสดงสีหน้าเขิยอายก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเจ้าหัวเราะอะไร? มีเรื่องอันใดน่าขำงั้นรึ?”
“โอ้ เจ้าหนุ่ม เจ้าคงยังไม่รู้สินะว่าก่อนหน้านี้หลิงฮันได้ก้าวไปถึงเกาะมาแล้วครั้งนึง” ชายชราคนหนึ่งกล่าว เป็นเพราะที่นี่ทุกคนล้วนแต่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้น ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าตั้งตนเป็นผู้อาวุโส
พรวด!
โหยวเฮ่าสำลักออกมา ใบหน้าของเขาแสดงออกว่าไม่อยากจะเชื่อ
เขาจะเชื่อลงได้อย่างไร? คิดว่าเขาไม่รู้รึไงว่าหลังจากเดินถึงเกาะแล้วครั้งหนึ่ง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินไปยังเกาะได้อีกครั้ง ในรอบพันปีที่ผ่านมามีเพียงจ้าวหลุนเพียงคนเดียวที่ทำได้
นอกจากนี้หลิงฮันก็ยังไม่บรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นปลายเลยด้วยซ้ำ ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง นั่นไม่ได้หมายความว่าเมื่อหลิงฮันบรรลุขั้นต้นชั้นสูงสุด เขาอาจจะไปถึงเกาะครั้งที่สามได้สำเร็จหรอกรึไง?
“ไร้สาระ! พวกเจ้าจะต้องล้อข้าเล่นแน่!” เขาส่ายหัวไปมา
“ฮ่าๆๆ” ผู้คนเริ่มหัวเราะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่จริงหากพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง พวกเขาก็คงจะทำใจเชื่อไม่ลงจริงๆว่าหลิงฮันจะแข็งแกร่งเช่นนี้
หลังจากถูกผู้คนมากมายหัวเราะ โหยวเฮ่าก็เชื่อในที่สุดว่าเขาทำเรื่องน่าขายน่าลงไปแล้ว ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและจ้องมองไปยังเกาะกลางทะเลสาบ เขากัดฟันและกระโดดไปยังทิศทางนั้นเพื่อท้าทายการก้าวไปยังเกาะครั้งที่สอง
สิบก้าวแรกเขายังพอฝืนเดินได้ด้วยความยากลำบาก ร่างของเขาสั่นสะท้านทุกๆย่างก้าว
‘ตูม’ ร่างของโหยวเฮ่าตกลงไปในทะเลสาบ
เขาร้องโอดครวญและรีบกลับมายังชายฝั่งทันที
ล้มเหลว…
เนื่องจากตำแหน่งที่ตกลงไปไม่ไกลเท่าไหร่ เขาจึงกลับมายังชายฝั่งได้โดยไม่บาดเจ็บสาหัส แต่ที่สาหัวจริงๆก็คือการเสียหน้า!
เขาเทียบกับหลิงฮันไม่ได้!
หลิงฮันยิ้มให้กับอีกฝ่าย แค่การไปถึงเกาะครั้งแรกก็ยากลำบากมากแล้ว เขาตั้งสติอีกครั้งและครุ่นคิดถึงการไปยังเกาะครั้งที่สาม
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้… คงเป็นไปไม่ได้
เพียงแต่ว่าเขายังมีผลึกภูผาวารีอยู่อีกสองก้อน แถมมันยังเป็นผลึกที่มีความสามารถพิเศษของแรงโมถ่วงอีกด้วย มันจะสามารถต้านทานพลังแรงโน้มถ่วงของทะเลสาบได้หรือไม่?
ต้องลองดูดซับดูก่อน
หลิงฮันนำผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วงออกมาและกำไว้ในมือ
ผู้คนมากมายแววตาเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เพราะหลิงฮันมีกายหยาบที่แข็งแกร่งและมีหูเฟยหยินยืนอยู่ข้างๆ พวกเขาเลยไม่กล้าลงมือ
“นายน้อย ไปกันเถอะ” บ่าวรับใช้ชราสองคนกล่าว โหยวเฮ่าในตอนนี้มีผลึกภูผาวารีพิเศษอยู่ในครอบครอง ทั้งสองจึงเกรงว่าจะตกเป็นเป้าหมายของใครหลายคน
โหยวเฮ่ามองหลิงฮันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าและกล่าว “อืม!” ถ้าหากเขาดูดซับผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วงที่นี่ โอกาสที่จะตกเป็นเป้าหมายของคนอื่นนั้นสูงมาก
หลิงฮันเริ่มดูดซับพลังของผลึกภาวารี ภายในตันเถียนของเขาวารีได้ถูกสร้างขึ้นทีละช้าๆ
หลิงฮันตกตะลึงเล็กน้อยเพราะเขาพบว่าบนภูผาวารีของเขามีพลังของแรงโมถ่วงปรากฏขึ้นมา ในตอนแรกมันเป็นเพียงรูปร่างเหมือนกับเม็ดตัว แต่เมื่อเขาดูดซับผลึกภูผาวารีไปเรื่อยๆพลังแรงโน้มถ่วงก็ค่อยๆกลายเป็นรูปแบบอักขระที่ลึกซึ่ง
นี่คือรูปแบบอักขระศักดิ์สิทธิ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น