Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 911-914
ตอนที่ 911
หลิงฮันกลับไปที่บ้านของเขาและเริ่มฝึกฝนทักษะหกธาตุ
ในเมื่อเขาได้รับคำชี้แนะบางอย่างมาแล้วจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะเริ่มฝึกฝนทันที โชคดีที่จอมยุทธรระดับทลายมิติไม่ต้องกินหรือดื่มสองสามวันก็ไม่มีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเยาว์ด้วยเลยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
สี่วันต่อมา หลังจากที่หลิงฮันประสบความสำเร็จในขั้นเบื้องต้น เขาหยุดฝึกและเดินออกมาที่สวน
เมื่อเจ้าแมวอ้วนเห็นหลิงฮันเดินออกมา มันรีบลุกขึ้นยืนและวิ่งไปหาหลิงฮันแล้วข่วนเขาด้วยกรงเล็บของมันทันที
เจ้าแมวอ้วนคือพยัคฆ์ขาว แต่มันกลับทำตัวเหมือนแมว ทั้งยังมีความเร็วที่อาจเทียบกับฮูหนิวได้ ถึงแม้มันจะข่วนหลิงฮัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ เพราะมันไม่คิดที่จะทำร้ายหลิงฮัน แค่แสดงความไม่พอใจของมันเท่านั้น
แต่หลิงฮันนั้นอยากจะเล่นกับมันเพราะเขาต้องการรู้ว่าเจ้าแมวอ้วนนี่แข็งแกร่งแค่ไหน
ท้ายที่สุด เจ้าแมวอ้วนตัวนี้แข็งแกร่งมาก มันมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติสิบสี่ดาว แม้จะฟังดูน้อยแต่มันสามารถทะลวงผ่านพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวได้อย่างง่ายดาย เพราะยังไงมันก็เป็นพยัคฆ์ขาวที่เป็นดั่งสัตว์เทพ ถ้าหลิงฮันจำกัดพลังของเขาให้อยู่ในระดับเดียวกับเจ้าแมวอ้วน มันจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเขาทุกด้านอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ถ้าหลิงฮันยกพลังต่อสู้ระดับทลายมิติสิบห้าดาว เจ้าแมวอ้วนจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย
พลังต่อสู้ระดับทลายมิติหนึ่งดาว เทียบได้กับความห่างชั้นระหว่างสวรรค์และปฐพี และยิ่งมีพลังต่อสู้มากเท่าไหร่ ช่องว่างก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น
หลิงฮันเชื่อว่าถ้าเขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติยี่สิบดาวใช้พลังเต็มโดยที่ไม่โจมตีและปลดปล่อยเพียงแค่แรงกดดันออกมา เจ้าอ้วนตัวนี้จะต้องยอมแพ้เขาโดยที่ไม่ต้องสู้อย่างแน่นอน
นี่คือเหตุผลที่หลิงฮันตั้งหน้าตั้งตารอทะลวงผ่านระดับทลายมิติยี่สิบดาว
หลังจากให้อาหารเจ้าแมวอ้วนเสร็จ หลิงฮันก็กินอาหารและหลับพักผ่อน ยังไงเสียการนอนหลับพักผ่อนก็ยังคงเป็นการฟื้นคืนพลังที่ดีที่สุดอยู่ดี
ในคาบเรียนครั้งที่ห้า หลิงฮันไม่ได้โดดเรียนและเข้าชั้นเรียนเพื่อปรึกษาสุ่ยเยี่ยนยวี่อย่างจริงจัง
แม้สุ่ยเยี่ยนยวี่จะไม่ได้มีความเข้าใจสูงมากนัก แต่ยังไงนางก็เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารี นางจึงสามารถช่วยให้คำปรึกษาหลิงฮันได้ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาของนาง และรู้สึกชื่นชมเขาเช่นกัน
การที่นางพบเจอกับศิษย์ฉลาดอย่างหลิงฮัน ทำให้นางอยากเป็นอาจารย์จริงๆมากกว่าอาจารย์ชั่วคราวขึ้นมาเลย
“เจ้าโง่หลิงนี่คุยกับพี่สุ่ยไม่หยุดเลย” หลี่เหว่ยเหว่ยจ้องมองไปที่เขาและกำหมัดด้วยความเกลียดชัง “หึ่ม ทั้งที่เป็นแค่กบแต่อยากกินเนื้อหงส์!”
“เหว่ยเหว่ย หรือเจ้ารู้สึกอิจฉา?” จื่อหยุนเอ๋อถามด้วยรอยยิ้ม
หลี่เหว่ยเหว่ยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที แม้นางจะรู้สึกแปลกใจกับความสามารถของหลิงฮัน แต่ยังไงนางก็เป็นบุตรสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายอยู่ดี แล้วนางจะสนใจชายที่มีสถานะต่ำต้อยกว่าตัวเองได้อย่างไร? นางยืนกอดอกและพูดว่า “ข้าแค่เป็นห่วงพี่สาวสุ่ยเท่านั้น เพราะสายตาของเจ้าโง่หลิงเอาแต่มองไปที่หน้าอกของพี่สาวสุ่ย!”
เมื่อได้ยินที่นางพูดช่วยไม่ได้ที่จื่อหยุนเอ๋อจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา มันเป็นอย่างที่หลี่เหว่ยเหว่ยพูดไม่มีผิด
หลิงฮันยังคงคุยกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่หยุด และหลังจากที่เขาสนทนากับนางทำให้เขาได้รับความรู้มามากมาย ซึ่งทำให้เขาก้าวหน้ามากขึ้น หากเขาทำเสร็จ นางจะให้เขาถ่ายทอดประสบการณ์ของเขาให้กับทุกคน
แน่นอนว่าทางสำนักจะต้องมอบรางวัลตอบแทนให้กับหลิงฮันอย่างแน่นอน
แต่หลิงฮันไม่สนใจเรื่องพวกนั้น ถ้าเขาสามารถรวมทักษะหกธาตุให้เป็นหนึ่งได้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะสามารถทำได้แบบเขา เพราะยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของตนเอง
แต่ถ้าคนผู้นั้นมีความเข้าใจมากพอ มันก็จะเป็นแสงสว่างนำทางให้กับคนผู้นั้น
หลังจากเลิกเรียน หลิงฮันกลับบ้านของตัวเองและเริ่มฝึกฝนอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง
นี่คือนิสัยของเขา ถ้าเขาต้องการฝึกฝนอะไรสักอย่าง เขาจะใช้เวลาไปกับเรื่องนั้นเพียงอย่างเดียวเป็นเวลาสองหรือสามเดือนเพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และนี่เองคือเคล็บลับที่ทำให้เขาเป็นจักรพรรดินักปรุงยา
ตอนนี้เขากำลังฝึกฝนวรยุทธอย่างบ้าคลั่ง
สามวันต่อมา ในที่สุดหลิงฮันก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก เขาสามารถโคจรทักษะหกธาตุออกมาพร้อมกันได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของมันค่อนข้างต่ำและความเร็วในการก้าวหน้าก็เชื่องช้า
หากความเร็วในการก้าวหน้าของเขาเป็นแบบนี้ต่อไป เขาอาจต้องใช้เวลาสามสิบปีเพื่อทะลวงผ่านระดับทลายมิติยี่สิบดาว
ในความเป็นจริงความเร็วดังกล่าวไม่ได้ช้าเลย แต่หลิงฮันต้องการพบเจอกับคนที่เขารักและสหายของเขาให้เร็วที่สุด
“เจ้าโง่! เจ้าโง่หลิง!” หลี่เหว่ยเหว่ยตะโกนเรียกหลิงฮัน เขาเลยต้องหยุดฝึกฝนบ่มเพาะพลังและออกมาจากหอคอยทมิฬแล้วเดินไปที่ประตู
“มีธุระอะไรงั้นรึ?” หลิงฮันถาม
“ข้ามาข่าวดีมาบอกเจ้า!” หลี่เหว่ยเหว่ยโยนแผ่นป้ายสีขาวคล้ายหยกแต่ไม่ใช่หยกให้กับหลิงฮันแล้วพูดว่า “นี่คือแผ่นป้ายเข้าบ่อน้ำพุหยกดำ เจ้าสามารถเข้าไปในวันพรุ่งนี้ได้เป็นเวลาสี่ชั่วโมง ซึ่งหากอยู่นานเกินไป มันจะเป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณและร่างกายของเจ้า”
“และเจ้าต้องออกก่อนเที่ยงคืน เพราะวันต่อมาจะเป็นวันที่สตรีคนอื่นรวมถึงข้าด้วยที่จะเข้าใช้งาน และหากเจ้าไม่ออกมาจากบ่อน้ำพุหยกดำก่อนวันนั้น ข้าจะฆ่าเจ้าตายคาบ่อเลย!”
“ถึงเวลาเข้าแล้วหรือนี่!” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และเขาใจทันทีว่าถึงเดือนที่สำนักนภาสีชาดฝ่ายเหนือเข้าบ่อน้ำพุหยกดำแล้ว
“ใช่แล้ว!” หลี่เหว่ยเหว่ยยิ้มเยาะและอดที่จะรอหลิงฮันทำตัวโง่งั่งในวันพรุ่งนี้ไม่ได้ แค่คิดนางก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว
“เจ้าจงจำเอาไว้ด้วย หากเจ้าพลาดวันพรุ่งนี้ไป เจ้าจะต้องรออีกทีเดือนหน้า” นางพูดเตือนเขาอีกครั้ง
หลิงฮันรู้สึกสงสัยในคำพูดของนางและพูดว่า “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เจ้าเป็นคนใจดีขนาดนี้?”
“หึ่ม หรือเจ้าสงสัยน้ำใจของข้าที่มาส่งแผ่นป้ายให้กับเจ้า?” หลี่เหว่ยเหว่ยถาม
“เปล่า ข้าแค่รู้สึกสงสัยเท่านั้น แต่ยังไงข้าก็รู้สึกขอบคุณเจ้ามาก” หลิงฮันส่ายหัวและรับแผ่นป้าย
หลังจากส่งแผ่นป้ายให้หลิงฮันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลี่เหว่ยเหว่ยหันหลังกลับและจากไปรวดเร็ว เพราะนางกลัวว่าจะหลุดส่งเสียงหัวเราะออกมา
ตอนที่ 912
หลิงฮันนึกไม่ออกเลยว่าหลี่เหว่ยเหว่ยจะวางแผนแกล้งอะไรเขาอีก ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่ด้วยนิสัยของคุณหนูเอาแต่ใจเช่นนาง การจะทำเรื่องเหนือความคิดก็เป็นเรื่องธรรมดา
เขาทำการฝึกฝนการรวมทักษะหกธาตุให้เป็นหนึ่งต่อไป เขารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาพัฒนา
ค่ำคืนผ่านพ้นไปโดยไม่รู้ หลิงฮันยังฝึกฝนไม่เสร็จ ถึงแม้เขาจะอยากฝึกต่อแต่เมื่อนึกถึงโอกาสที่จะได้เข้าบ่อน้ำพุหยกดำที่มีเพียงครั้งเดียวในรอบเดือน หากเขาไม่เข้าครั้งนี้เขาก็ต้องรออีกตั้งหนึ่งเดือน เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกจากที่พักทันที
ที่ตั้งของบ่อน้ำพุหยกดำนั้นไม่ใช่ความลับ มันตั้งอยู่ที่จุดที่สูงที่สุดของยอดเขาในสำนัก แต่เนื่องจากมันถูกปิดกั้นด้วยรูปแบบอาคมเอาไว้ คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นถึงจะเข้าได้
ถึงแม้รูปแบบอาคมที่ว่าจะป้องกันได้เพียงจอมยุทธที่มีระดับต่ำกว่าระดับสุริยันจันทรา แต่เนื่องจากบ่อน้ำพุหยกดำจะส่งผลต่อจอมยุทธระดับภูผาวารีและระดับทลายมิติเท่านั้น พวกเขาจึงไม่ต้องเสริมรูปแบบให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างสิ้นเปลือง
หลิงฮันมาถึงใต้เนินเขาอย่างรวดเร็ว
ถ้าหลีเหว่ยเหว่ยคิดจะแกล้งเขา งั้นแผ่นป้ายก็คงจะเป็นของปลอมและเขาจะถูกกีดกั้นโดยรูปแบบอาคม แต่ที่หลิงฮันคาดไม่ถึงก็คือเขาสามารถผ่านการป้องกันของรูปแบบอาคมไปได้ นั้นหมายถึงแผ่นป้ายเป็นของจริง หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงมาก
แปลกมาก… หรือว่าคุณหนูเอาแต่ใจคนนั้นจะเปลี่ยนไปแล้ว?
หลิงฮันกำแผ่นป้ายไว้ในมือและเดินขึ้นเขา
เนื่องจากที่นี่มีรูปแบบอาคมติดตั้งอยู่แล้วจึงไม่มีทหารยามเลยสักคน
หลิงฮันมาถึงเร็วมาก เพราะจากที่ดูแล้วเขาไม่เห็นใครเลยซักคน หรือถ้ามีคนมาแล้วพวกเขาก็คงจะเข้าไปยังน้ำพุหยกดำแล้ว
ครึ่งบนของภูเขาถูกโอบล้อมไปด้วยเมฆหมอกสีดำ มันทำให้ประสาทสัมผัสและการมองเห็นถูกจำกัด
หลิงฮันเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อน ทุกๆก้าวเดินของเขาไม่ต่างอะไรกับการเดินของคนธรรมดาทั่วไป
เมื่อเดินมาถึงจุดสูงสุดด้านหน้าของเขาก็ปรากฏน้ำพุบ่อหนึ่ง
มันสมกับที่ได้ชื่อว่าหยกดำจริงๆ น้ำในบ่อนั้นมีสีดำราวกับน้ำหมึก พื้นผิวน้ำสงบนิ่งและไม่มีคลื่นใดๆทำให้ดูงดงามราวกับหยก
เพียงแค่จ้องมองหลิงฮันก็รู้สึกได้เลยว่าจิตวิญญาณของเขาค่อยๆมั่นคงขึ้น รูขุมขนตามร่างของเขาเปิดออกและดูดซับพลังงานที่อบอวลอยู่รอบๆเพื่อเสริมแกร่งให้กับรากฐานการบ่มเพาะ
ยอดเยี่ยม น้ำพุนี่เป็นทรัพยากรที่ยอดเยี่ยมมาก
หลิงฮันถอดเสื้อผ้าออกเหลือเอาไว้เพียงกางเกงชั้นในและเดินเข้าไปในบ่อน้ำ ‘จ๋อม’ คลื่นน้ำสั่นสะเทือนเล็กน้อยเกิดเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงาม
น้ำในบ่อไม่เย็นแต่ให้ความรู้สึกชุ่มชื้น แต่ก้าวเดินลงมาในน้ำก็ทำให้หลิงฮันรู้สึกอยากนั่งลงแช่ให้ทั่วทั้งตัวแล้ว เขารีบนั่งลงเพื่อแช่น้ำในบ่ออย่างไม่ลังเล
การแช่น้ำที่นี่ไม่เพียงแค่ทำให้รู้สึกสบายตัวแต่ยังช่วยให้ดูดซับพลังงานมาเสริมแกร่งให้กับตนเองได้ด้วย
‘จ๋อม!’
แต่ทันใดนั้นเองในระยะที่ไม่ไกลออกไปก็มีเสียงคลื่นสำสั่นสะเทือนดังขึ้นหนึ่งครั้ง
ดูเหมือนว่าจะมีคนมาถึงอีกคนแล้ว แต่ด้วยน้ำที่เป็นสีดำมืดราวกับน้ำหมึกจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองเห็นอีกฝ่าย
แน่นอนว่าอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวเหมือนกับว่าคลื่นน้ำมีการสั่นสะเทือน อีกฝ่ายรู้ทันทีว่านอกจากตนเองก็มีคนอื่นอยู่เช่นกัน
หลิงฮันจ้องไปยังตำแหน่งของอีกฝ่ายและอีกฝ่ายก็จ้องมายังตำแหน่งของเขา เมื่อสายตาประสานกันร่างของทั้งคู่ก็แน่นิ่งไปทันที
‘พรวด!’
หลิงฮันสำลักในใจ เขาเข้าใจถึงแผนการที่หลีเหว่ยเหว่ยจะใช้แกล้งเขาแล้ว!
คนที่อยู่ด้านหน้าเขา… คือผู้หญิง!
หลิงฮันสูดหายใจลึกและตัดสินใจกล่าวคำพูดเพื่อทำลายความเงียบสงบ “ศิษย์พี่สุ่ย ถ้าข้าบอกว่านี่คือการเข้าใจผิดท่านจะเชื่อข้ารึไม่?”
ผู้หญิงที่ว่าคือสุ่ยเยี่ยนยวี่
สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่กล่าวอะไร นางกัดริมฝีปากและยกมือขวาขึ้น พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวถูกควบแน่นไปยังมือของนางพร้อมกับพลักเข้าใส่หลิงฮัน
บัดซบ! นี่มันบ้าไปแล้ว!
การโจมตีของจอมยุทธระดับภูผาวารี หลิงฮันจะป้องกันได้อย่างไร?
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องป้องกันเลย แค่จะขยับตัวตอบโต้ก็ทำไม่ได้แล้ว ฝ่ามืออันทรงพลังที่โจมตีเข้ามาส่งผลให้ร่างของเขาลอยกระเด็น
ความแตกต่างระหว่างระดับภูผาวารีกับระดับทลายมิตินั้นกว้างใหญ่ไพศาล ถึงแม้หลิงฮันจะขัดเกลาพลังต่อสู้ให้บรรลุขีดจำกัดยี่สิบดาวก็ไร้ประโยชน์ ความต่างระหว่างมนุษย์กับพระเจ้านั้นไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนได้
หลิงฮันกัดฟัน ฝ่ามือนี้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
ร่างของเขาเป็นกายาของระดับพระเจ้า!
จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ หากเป็นขั้นกลางก็คงทำให้เขาบาดเจ็บได้ แต่หากจะสังหารเขาก็ต้องเป็นขั้นสูง
“ก็คงจะเป็นอย่างที่เจ้าคิด” หอคอยน้อยกล่าว
หลิงฮันถอนหายใจ ก่อนหน้านี้กายหยาบของเขานั้นสูงกว่าระดับพลังบ่มเพาะถึงหนึ่งระดับใหญ่ แต่หากบรรลุระดับพระเจ้าแล้ว กายาของเขาสามารถสูงกว่าระดับพลังบ่มเพาะได้เพียงขั้นเล็กเท่านั้น
กายหยาบของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งเทียบเท่าระดับภูผาวารีขั้นต้น หรือหากเป็นแร่ก็คือแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง โดยแร่เหล็กศักดิ์ศิทธิ์นั้นมีทั้งหมดสิบสองระดับ
“ยังไม่ตาย?” สุ่ยเยี่ยนยวี่ถอนหายใจโล่งอก เมื่อครู่นางเผลอโจมตีไปเพราะความโกรธและความอาย แม้นางจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกไปแต่การที่จอมยุทธระดับทลายมิติสามารถรอดตายจากการโมตีของนางได้นั้นเป็นสิ่งที่นางคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลย
“ฮึ่ม ข้าเคยคิดว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะด้านวรยุทธ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะเป็นจอมวายร้ายด้วย!” นางปล่อยฝ่ามือโจมตีใส่หลิงฮันอีกครั้ง
‘ปัง!’
ร่างของหลิงฮันกระเด็นอย่างไม่อาจต่อต้านและชนเข้ากับภูเขาอีกครั้ง โชคดีที่ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ทนทาน ถ้าลองเป็นโลกใบเล็กล่ะก็ ภูเขาทั้งลูกคงจะพังทลายลงมาแล้ว ส่วนร่างของหลิงฮันก็คงจะลอยกระเด็นจนไม่รู้ตำแหน่งที่จะตกลงมา
หลี่เหว่ยเหว่ย รอก่อนเถอะ!
ตอนที่ 913
หลิงฮันยังไม่ตายและลุกขึ้นยืนออกมาจากหลุมผนังภูเขา
กายหยาบของเขามันน่าสะพรึงกลัวมาก แม้จะถูกจอมยุทธระดับภูผาวารีโจมตีสองครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
“พี่สาวสุ่ย โปรดฟังข้าก่อน-“
ตู้ม!
นี่แสดงให้เห็นว่าสุ่ยเยี่ยนยวี่โกรธจัดขนาดไหน การที่นางถูกหลิงฮันเห็น แล้วนางจะไม่โกรธเขาได้อย่างไร? นางยังคงโจมตีหลิงฮันไม่หยุดและโจมตีไปที่หน้าอกของเขา
หลิงฮันเพิ่งจะลุกขึ้นยืน แต่เขาก็ต้องกระเด็นไปด้านหลังและกลับเข้าไปในหลุมอีกครั้ง
ภูเขาและก้อนหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นมีความแข็งแกร่งมาก แม้จะเป็นการโจมตีของจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต่ำ มันก็ยังไม่พังทลาย ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลิงฮันมีกายหยาบที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง หากไม่เป็นเช่นนั้นเขาคงตายตั้งแต่การโจมตีแรกของนางแล้ว
ภายใต้การโจมตีของนาง หลิงฮันไม่สามารถโต้กลับได้เลย และทำให้เขาจมหายเข้าไปในหลุมอีกครั้ง ถึงขั้นเกิดถ้ำขนาดเล็กขึ้นมา
คนที่วางแผนให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นคือหลี่เหว่ยเหว่ย แม้แต่ตอนนี้หลิงฮันก็ยังไม่เข้าใจเป้าหมายของนางก็ตาม แต่วันนี้น่าจะเป็นวันที่สตรีเข้ามาในบ่อน้ำพุหยกดำ แล้วนางไปเอาแผ่นป้ายมาให้เขาจากไหน?
คำตอบนั้นง่ายมาก ด้วยสถานะของนางมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่นางจะหยิบยืมคนอื่นมา
แต่พี่สาวสุ่ยอย่างน้อยท่านก็ควรฟังคำอธิบายของข้าก่อนได้หรือไม่? ข้าเองก็ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน – แม้ข้าจะเห็นในสิ่งที่ไม่สมควรจะได้เห็นก็ตาม แต่ท่านไม่ควรสังหารข้าทั้งที่ข้าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
ยิ่งสุ่ยเยี่ยนยวี่โจมตีใส่หลิงฮันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้นางตกตะลึงมากขึ้นเท่านั้น ทำไมกายหยาบของเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้? นี่เขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติจริงหรือ? ทั้งที่นางเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต่ำและเป็นอัจฉริยะระดับสองดาวก็ยังไม่สามารถทำอันตรายให้กับเขาได้!
สีหน้าของหลิงฮันเริ่มเปลี่ยนไปอย่างไร้หนทาง เขาไม่อาจเปลี่ยนความคิดของนางได้เลย
ในขณะนั้นเอง การกระทำของนางเริ่มบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ หลิงฮันเห็นคมดาบที่เปล่งประกายอยู่ในมือของนาง นางคงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกใช่หรือไม่?
“ดาบปีกสวรรค์!” นางส่งเสียงตะโกนและนำอาวุธวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์
ทันใดนั้น ดาบของก็นางส่องแสงที่ยาวสามฟุตออกมาและแทงไปที่หลิงฮันทันที
สีหน้าของหลิงฮันกลายเป็นแข็งทื่อทันที เส้นผมของเขาถึงขั้นตั้งชัน
ดาบเล่มนี้มีความสามารถที่จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหรืออาจถึงขั้นฆ่าเขาได้!
และอย่างน้อยมันน่าจะสร้างขึ้นมาจากแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สอง
ฉึก หลิงฮันถูกแทงที่หน้าอก ซึ่งเกือบจะโดนหัวใจของเขาและดาบของนางได้สร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเขาทันที
หากนางแทงหัวใจของเขาจริง เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
ครั้งนี้ หลิงฮันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังเล่นกับไฟ
แม้ข้าจะเห็นนางก็จริง แต่นางก็ยังใส่เสื้อผ้าอยู่ หากพูดให้ถูกนางไม่ได้เสียหายอะไรเลย! ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจะเป็นฝ่ายผิดที่รนหาที่ตายเอง แต่อย่างน้อยก็ควรให้โอกาสข้าพูดอธิบายบ้าง
เมื่อสุ่ยเยี่ยนอวี่เห็นว่าใช้ดาบได้ผล นางดึงดาบกลับมาและแทงไปที่หลิงฮันอีกครั้งทันที
หลิงฮันไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง เขาก้มหัวต่ำลง จากนั้นก็โจมตีใส่สุ่ยเยี่ยนยวี่บ้าง
แต่นี่เป็นหลุมที่เกิดเขารับการโจมตีของนาง พื้นที่ด้านในจึงแคบมากและยากที่จะหันหลังกลับ ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้สุ่ยเยี่ยนยวี่จะแข็งแกร่งกว่าเขา แต่ประสบการณ์ต่อสู้จริงของนางจะมีมากแค่ไหนกันเชียว?
ปัง!
คราวนี้เป็นตาของนางที่ถูกหลิงฮันตอบโต้
ร่างของนางกระเด็นออกไปหลายเมตร แต่โชคดีที่นางป้องกันได้ทัน มิฉะนั้นนางจะต้องได้รับบาดเจ็บจากการปะทะครั้งนี้อย่างแน่นอน เพราะกายหยาบของนางไม่ได้แข็งแกร่งเท่าหลิงฮัน
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกขนหัวลุกคือตอนนี้หลิงฮันกำลังอยู่ในอ้อมแขนของนาง
ฉากที่เกิดขึ้นทำให้นางแทบจะเป็นลม
เจ้าโรคจิต!
นางกัดฟันแล้วพลิกดาบแทงมาที่หลังของหลิงฮัน
ดาบของนางทั้งรวดเร็วและทรงพลัง หากการโจมตีครั้งนี้ของนางรุนแรง ไม่เพียงแค่หลิงฮันเท่านั้นที่จะถูกแทง แม้แต่ตัวนางก็อาจถูกแทงไปพร้อมกับเขาด้วย
“นางช่างบ้าบิ่นยิ่งนัก!” ด้วยสัมผัสสวรรค์ที่แหลมคมของหลิงฮัน แน่นอนว่าเขาสามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายที่มาจากด้านหลังและความคิดบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัวของเขา
ตอนนี้ถ้าข้าหลบเข้าไปซ่อนตัวในหอคอยทมิฬ แน่นอนว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้ชีวิตของข้าปลอดภัย แต่สุ่ยเยี่ยนอวี่อาจหยุดดาบของตัวเองไม่ทัน ซึ่งมันอาจนำพาให้นางได้รับบาดเจ็บสาหัส
ยิ่งไปกว่านั้นดาบที่สร้างขึ้นจากแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง อาจถึงขั้นทำให้นางต้องตาย
ทั้งที่มันเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น โดยที่หลี่เหว่ยเหว่ยเป็นคนสร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมา ถ้าสุ่ยเยี่ยนยวี่ตายเขาคงจะรู้สึกผิด
ดังนั้น หลิงฮันจึงละทิ้งความคิดที่จะหลบเข้าไปในหอคอยทมิฬและรีบตั้งรับการโจมตีของสุ่ยเยี่ยนยวี่ทันที ก่อนที่จะเข้าไปในหอคอยทมิฬอย่างไม่ลังเล
– ตอนแรกข้าคิดว่าจะเข้าไปในหอคอยทมิฬ แต่เพื่อช่วยชีวิตสุ่ยเยี่ยนยวี่ ข้าจึงไม่มีทางเลือก
สุ่ยเยี่ยนยวี่ดูเหมือนโกรธแค้นข้ามาก ถึงขั้นต้องการฆ่าข้า! และถึงแม้จะมีกฎของสำนักอยู่ นางก็ยังต้องการฆ่าเข้า! แล้วถ้าเป็นคนอื่นล่ะ?
นางรู้สึกตกตะลึงเห็นได้ชัดว่าหลิงฮันป้องกันการโจมตีของนางได้ เขาสามารถทำได้ยังไงกัน?
ตุบ ตุบ ตุบ ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอก
ตอนที่ 914
สุ่ยเยี่ยนยวี่เป็นฝ่ายเดินออกจากถ้ำที่เกิดจากการโจมตีของนาง
“หืม พี่สาวสุ่ย ท่านอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ด้านนอกมีสตรีอยู่สิบกว่าคน พวกนางนั้นงดงามเป็นอย่างมาก ผู้ที่เดินนำเหล่าสตรีเข้ามาคือหลี่เหว่ยเหว่ย
ถึงแม้พลังบ่มเพาะของนางจะไม่ได้สูงที่สุดในกลุ่มสตรที่เข้ามาจะเรียกว่าต่ำที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่สถานะบุตรสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายนั้นสูงส่งเกินไป นางจึงกลายเป็นจุดสูงกลางหมู่ดาวไปโดยปริยาย
สุ่ยเยี่ยนยวี่พยายามระงับจิตสังหารและฝืนยิ้มออกมา “ข้าเองก็เป็นศิษย์ของสำนักฝ่ายเหนือเหมือนกัน ข้าจะอยู่ที่นี่ในวันนี้ก็ไม่เห็นแปลก”
หลี่เหว่ยเหว่ยพยักหน้าและมองไปรอบๆ “พี่สาวสุ่ย ท่านพบเห็น… ท่านเจอเหตุการณ์แปลกๆที่ไม่คาดฝันรึไม่?”
สุ่ยเยี่ยนยวี่สั่นสะท้านและกล่าว “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
“ก็ไม่ได้หมายถึงอะไรหรอก ฮ่ะๆๆ” หลี่เหว่ยเหว่ยรีบหัวเราะกลบเกลื่อน
“งั้นรึ?” แววตาของสุ่ยเยี่ยนยวี่หรี่ลงและเผลอปลดปล่อยแรงกดดันออกมา
หลี่เหว่ยเหว่ยรู้สึกผิดหวังและก้มหน้าหมุนนิ้วตัวเอง แม้แผนของนางจะล้มเหลว แต่ก็โชคดีแล้วที่มันไม่เป็นเรื่องใหญ่ ดูเหมือนเจ้าโง่นั่นจะนอนเพลินเลยยังไม่ได้มาที่นี่
จื่อหยุนเอ๋อกล่าวอย่างแปลกใจ “หลี่เหว่ยเหว่ย หรือที่เจ้านำแผ่นป้ายไปจากข้าเมื่อวานจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?”
ด้วยสติปัญญาของสุ่ยเยี่ยนยวี่ มีด้วยหรือที่นางจะไม่เข้าใจสถานการณ์ นางกล่าวด้วยน้ำเสียงตำหนิ “เหว่ยเหว่ย พูดมาซะ!”
เมื่อถูกอีกฝ่ายตำหนิ หลี่เหว่ยเหว่ยก็สารภาพความจริงออกไป “ข้าแค่อยากแกล้งเจ้าโง่เท่านั้น ข้าก็เลยแอบขโมยแผ่นป้ายไปให้หมอนั่นและบอกให้เขามาที่นี่ในวันนี้”
“ที่ข้าเรียกผู้หญิงคนอื่นมาด้วยกันหลายคนก็เพราะอยากจะแกล้งเขานั่นแหละ แต่ข้าไม่นึกเลยว่าหมอนั่นจะไม่มาเสียได้ น่าเจ็บใจจริงๆ!”
น่าเจ็บใจ?
สุ่ยเยี่ยนยวี่อยากจะร้องให้ นางต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องพูดคำนั้น
นางรู้สึกผิดต่อหลิงฮันมาก เขาถูกหลี่เหว่ยเหว่ยหลอกและไม่รู้เรื่องอะไรเลยแท้ๆ
แล้วนางต้องทำอย่างไรกับเรื่องนี้?
สังหารหลิงฮันกับหลี่เหว่ยเหว่ยงั้นรึ?
หนึ่งคนเป็นฝ่ายถูกหลอก ส่วนอีกคนแค่นึกสนุกอยากแกล้งเล่น
“หืม ทำไมถึงมีชุดของผู้ชายอยู่ทีนี่ด้วย?” ในที่สุดก็มีสตรีคนหนึ่งพบชุดที่หลิงฮันถอดวางเอาไว้
“แถมยังมีถ้ำปรากฏขึ้นมาด้วย เท่าที่ข้าจำได้ ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่มันไม่มีถ้ำไม่ใช่รึไง?” สตรีอีกคนกล่าวด้วยความแปลกใจ
สตรีทุกคนจ้องมายังสุ่ยเยี่ยนยวี่
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่คิดจะบอกเรื่องของนางกับหลิงฮันออกไป ไม่งั้นนางจะยังมีหน้าไปพบกับคนอื่นได้อย่างไร
หลี่เหว่ยเหว่ยรู้สึกและตัดสินใจรอหลิงฮัน ถ้าหากหลิงฮันยังมีชีวิตอยู่นั่นก็หมายถึงก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มาที่นี่ หรือไม่ก็… เขาอาจจะถูกพี่สาวสุ่ยสังหารไปแล้ว
สีหน้าของนางบูดบึ้งทันที นางแค่อยากจะแกล้งหลิงฮันเล่นเท่านั้น แต่ถ้าหากหลิงฮันถูกสุ่ยเยี่ยนยวี่สังหารไปแล้วจริงๆล่ะก็ นางจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
แม้สตรีคนอื่นจะยังสงสัยเรื่องชุดของผู้ชาย แต่พวกนางก็ยังถอดชุดคลุมของตนเองเหลือไว้เพียงชุดรัดรูปและลงไปแช่บ่อน้ำ
สุ่ยเยี่ยนยวี่จากไปอย่างรวดเร็ว นางที่มาก่อนจะขึ้นจากบ่อน้ำก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ดังนั้นทุกคนจึงไม่สงสัยอะไร แต่สิ่งที่ทำให้พวกนางคิดไม่ตกก็คือชุดของผู้ชายและถ้ำที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน หรือเมื่อวานที่เป็นรอบของผู้ชายจะมีอะไรเกิดขึ้น?
……
หลิงฮันซ่อนตัวอยู่ในหอคอยทมิฬ ถึงแม้ดูเหมือนสุ่ยเยี่ยนยวี่จะเข้าใจแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด แต่ปัญหาก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางแก้ไขได้
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไว้ข้าจะไปคุยกับนางทีหลัง”
หลิงฮันเลิกคิดเรื่องที่เกิดขึ้น เขาใช้อำนาจของหอคอยทมิฬขับไล่พลังดาบปีกสวรรค์ที่หลงเหลืออยู่ในร่างออกไป เมื่อกายาเพชรฟื้นฟูตนเองเสร็จสมบูรณ์เขาก็เริ่มฝึกฝนทักษะหากธาตุผสานเป็นหนึ่ง
ทุกๆวินาทีเขาจะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็วและวันนี้จะเป็นวันที่ผู้ชายจะเข้ามาในบ่อน้ำพุหยกดำเพื่อบ่มเพาะพลัง หลิงฮันไม่ปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดมือไปและออกมาจากหอคอยทมิฬ ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าของเขาจะหายไปจากบ่อน้ำพุแล้วแต่เขาก็ยังมีเสื้อผ้าอีกมากมายเก็บไว้ในหอคอยทมิฬ
เขาลงไปในบ่อน้ำพุหยกดำและเริ่มดูดซับแก่นพลังจากน้ำในบ่อ
มันให้ความรู้สึกที่วิเศษอย่างมาก กายหยาบของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จิตวิญญาณเองก็มั่นคงขึ้นเช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามใดๆราวกับว่าสวรรค์และปฐพีกำลังพยายามช่วยเหลือเขาบ่มเพาะพลัง
บ่อน้ำพุนี่เป็นสมบัติล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
ผ่านไปสักพักศิษย์นอื่นๆก็เข้ามา มีทั้งหม่าชิง เฉิงฮ่าวเฟยและคนอื่นๆที่เขาไม่รู้จัก พวกเขาอาจจะเป็นศิษย์ที่โดดเด่นในปีก่อนๆ
หลังจากหลิงฮันแช่นานกว่าสี่ชั่วโมงเขาก็ลุกออกจากบ่อและสวมชุดเดินจากไป
“เจ้าโง่ เจ้ายังไม่ตาย!” เมื่อเขามาถึงที่พัก เขาก็เห็นหลี่เหว่ยเหว่ยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
แต่หลิงฮันแทบจะอดใจพุ่งเข้าไปตีก้นนางไม่ไหว แต่เมื่อนึกถึงสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่พยายามทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาก็ยับยั้งตัวเองไว้และแสร้งกล่าวออกไป “เจ้าแช่งให้ข้าตายรึไง ปากเจ้านี่ไม่เคยพูดสิ่งดีๆออกมาเลยจริงๆ”
“ฮึ่ม ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงว่าเจ้าจะเป็นอะไรไป แต่เจ้ากลับพูดกับข้าด้วยท่าทีเช่นนั้นรึ?” หลี่เหว่ยเหว่ยนำมือทั้งสองท้าวเอว
“เป็นห่วงเรื่องอะไร?” หลิงฮันถาม
หลี่เหว่ยเหว่ยคิดในใจว่านางจะกล่าวออกไปได้อย่างไรว่านางวางแผนแกล้งหลี่ฮัน? นางเค้นเสียงและกล่าว “ไม่มีอะไร แค่คนโง่เช่นเจ้าอาจจะทำอะไรโดยไม่คิดแล้วตายก็ได้!”
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะเดินจากไป แค่เห็นว่าหลิงฮันไม่เป็นอะไรนางก็โล่งอกแล้ว
หลิงฮันจ้องมองนางที่เดินจากไป เขาก็คิดในใจว่าจะต้องหาทางสั่งสอนคุณหนูเอาแต่ใจคนนี้ให้ได้ แม้ครั้งนี้เขาจะไม่ตาย แต่ถ้าเป็นครั้งหน้าและครั้งต่อๆไปล่ะ?
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น