Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 879-886

ตอนที่ 879

 

‘ปัง’ หลิงฮันกวัดแกว่งขวานโจมตี ทันใดนั้นชั้นบรรยายกาศบนท้องฟ้าก็ปริแตกราวกับผลึกแก้ว


พลังทำลายล้างของขวานเล่มนี้น่ากลัวมาก มันบดขยี้ชั้นมิติจนฉีกขาดทันทีทำให้สามารถมองเห็นชั้นสวรรค์ที่อยู่เบื้องบนได้


‘พรึบ’ เนตรแห่งเต๋าสวรรค์ปรากฏตัว หน้าที่ของมันคือหยุดยั้งใครก็ตามที่คิดจะทำลายสมดุลของสวรรค์และปฐพี ถ้าหากมันมีความนึกคิดเป็นของตัวเองล่ะก็มันคงจะไม่สบอารมณ์เป็นแน่ เพราะนี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่มีคนคิดจะเปิดสวรรค์


ด้วยพลังโจมตีอันรุนแรงของหลิงฮัน เนตรแห่งเต๋าไม่รอดูสถานการณ์อีกต่อไป ดวงตาขนาดมหึมาของมันเปิดกว้างและปล่อยลำแสงเข้าใส่หลิงฮัน


หลิงฮันหยุดนิ่งก่อนจะกล่าว “ถ้าขวางทางข้า ข้าก็จะกำจัดเจ้าทิ้ง! แต่ถ้าเจ้ายอมจำนน ข้าจะยอมให้เจ้าเป็นผู้พิทักษ์ของจักรวรรดิต้าหลิงและขอรับประกันได้ว่าชีวิตของเจ้าจะไม่มีวันเลือนหาย!”


ตูมม!


อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ก่อตัวเป็นโซ่ที่ดูราวกับมีชีวิตและเข้าพัวพันหลิงฮัน


“เห้อ ในเมื่อเจ้าดื้อรั้นขนาดนั้น ข้าก็คงต้องสังหารเจ้าทิ้ง!” หลิงฮันชำเลืองมองและกวัดแกว่งขวานออกไป ‘ปัง’ เนตรแห่งเต๋าสวรรค์ได้รับบาดเจ็บทันที ตั้งแต่ส่วนบนจนถึงส่วนล่างของมันปรากฏบาดแผลลึกสามฟุตพร้อมกับโลหิตที่ไหลทะลักออกมา


‘แคว่ก’ บาดแผลของเนตรแห่งเต๋าสวรรค์ค่อยๆเปิดกว้าง โลหิตของมันไหลออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันพาร่างของตัวเองพุ่งเข้าใส่หลิงฮันราวกับว่าจะทำให้เขาจมกองเลือดตาย


“ฮึ่ม” หลิงฮันใช้ขวานโจมตีสุ่มๆเพื่อปัดทะเลโลหิตที่พุ่งเข้ามา เมื่อโลหิตเบื้องหน้าหายไป เขาก็จ้องมองไปยังเนตรแห่งเต๋าสวรรค์และกวัดแกว่งขวานอีกครั้ง


‘ปัง’ บาดแผลของเนตรแห่งเต๋าสวรรค์ขยายออกยิ่งขึ้น ร่างของมันในตอนนี้เกือบจะถูกแยกออกเป็นสองส่วนแล้ว


“แข็งแกร่ง!”


ผู้คนที่มองดูจากเบื้องล่างอุทานออกมา คนส่วนใหญ่รู้ดีว่าหลิงฮันพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาด แต่ภาพลักษณ์ของหลิงฮันในใจผู้คนคือสถานะนักปรุงยาระดับสวรรค์


แต่ตอนนี้ทุกคนรับรู้แล้วว่าหลิงฮันแข็งแกร่งขนาดไหน


ก่อนหน้านี้หม่าตั้วเปาต้องพยายามโจมตีขนาดไหนถึงจะทำให้เนตรแห่งเต๋าสวรรค์บาดเจ็บ? แต่หลิงฮันในตอนนี้กลับสามารถทำเช่นนั้นได้อย่างง่ายดาย ท่าทีของเขาดูผ่อนคลายมาก


ในระยะที่ห่างไกลออกไป เจ็ดราชันที่มองดูอยู่ต่างก็พยักหน้าและยอมรับว่าหลิงฮันเหนือกว่าจักรพรรดิของพวกเขาแล้วจริงๆ พวกเขาหายสงสัยแล้วว่าทำไมหม่าตั้วเปาถึงคาดหวังกับหลิงฮันไว้สูงขนาดนั้นและส่งต่อภารกิจเปิดสวรรค์ให้หลิงฮัน


“ต้องทำให้สำเร็จเพื่อวิญญาณจักรพรรดิของพวกเราที่อยู่บนสวรรค์จะได้สู่สุขคติ!”


“ต้องสำเร็จแน่ ไม่งั้นแล้วพวกเราจะขึ้นไปแก้แค้นพวกสุนัขห้านิกายโบราณกับกระกูลอ้าวได้อย่างไร?”


หากเปิดสวรรค์ไม่สำเร็จ พวกเขาทั้งเจ็ดก็คงไม่อาจหลบหนีไปจาดทวีปฮงเทียนได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ถูกหลอมเป็นเม็ดยาแต่พวกเขาก็ต้องตกตายอยู่ดี ดังนั้นแล้วถ้าหากพวกเขาต้องการแก้แค้นให้หม่าตั้วเปา หนทางจึงมีเพียงหนทางเดียวคือเปิดสวรรค์และขึ้นไปฝึกฝนบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีอำนาจมากพอเมื่อใดพวกเขาก็จะไปกวาดล้างห้านิกายโบราณและตระกูลอ้าว


เนตรแห่งเต๋าสวรรค์เดือดดาล ดวงตาของมันปลดปล่อยโซ่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ออกมามากกว่าเดิม ปลายของโซ่แต่ละเส้นนั้นดูแหลมคมมาก มันตั้งใจจะใช้โซเหล่านี้ทิ่มแทงร่างของหลิงฮัน


ตามทฤษฎีแล้ว เนตรแห่งเต๋าสวรรค์สมควรจะหน่วงรั้งหลิงฮันเอาไว้ได้เพราะหลิงฮันยังไม่เข้าใจหลักการของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ แต่หลิงฮันนั้นมีพลังที่แข็งแกร่งเกินไป พลังของเขาแข็งแกร่งจนถึงขนาดสามารถทดทานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้ ดังนั้นเนตรแห่งเต๋าสวรรค์จึงไม่อาจสร้างความคุกความใดๆต่อหลิงฮันได้


นอกจากนั้นแล้วหลิงฮันก็ยังไม่ได้แสดงพลังของกายหยาบของเขาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ถ้าเขาแสดงพลังของมันออกมา ด้วยกายหยาบที่ทนทานเทียบเท่าแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ใครจะทำอะไรเขาได้?


หลิงฮันหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของเนตรแห่งเต๋าสวรรค์ด้วยมือข้างเดียวและใช้มืออีกข้างจะเหวี่ยงขวานภูผาวารีโมตีใส่ท้องฟ้า เมื่อขวานปะทะเข้ากับชั้นมิติ ท้องก็เปิดออกและปรากฏหลุมขนาดใหญ่ทันที


ทุกคนกลายเป็นไร้คำพูด นี่หลิงฮันแข็งแกร่งกว่าหม่าตั้วเปาขนาดไหนกัน!


เปิดสวรรค์… มีความหวังที่จะทำสำเร็จแล้ว!


ทุกๆเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้หลิงฮันคือความหวังเพียงหนึ่งเดียว สำหรับเขาการจัดการเนตรแห่งเต๋าสวรรค์กับบดขยี้ชั้นมิติคงไม่ใช่ปัญหา แต่ภัยคุกคามที่น่าหวาดกลัวที่สุดคือการขัดขวางจากจอมยุทธเบื้องบน!


‘ตูม ตูม ตูม’ หลิงฮันกระหน่ำใช้ขวานโจมตีชั้นอากาศ หลุมมิติที่ปริแตกอยู่แล้วก็ค่อยๆเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนั้นเองเงาอันเรือนรางของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนอีกครั้ง


เนตรแห่งเต๋าสวรรค์โกรธเกรี้ยว มันเริ่มสัมผัสได้แล้วว่าสวรรค์กำลังจะเปิดออกและพลังชีวิตของมันกำลังค่อยๆหายไป


เมื่อเข้าตาจน โซแห่งกฎเกณฑ์ก็ทรงพลังยิ่งขึ้น ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็นสีดำและปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา


“หืม?” ดวงตาของหลิงฮันกระตุก ทำไมเนตรแห่งเต๋าสวรรค์ถึงมีปราณอสูรด้วย? ต้องรู้ก่อนว่าโลกใบเล็กที่เขาอยู่ตอนนี้มีรากฐานที่เชื่อมต่อไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อสวรรค์เปิดออกทวีปฮงเทียนก็จะถูกนำขึ้นไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ดินแดนใต้พิภพ แต่ทำไมเนตรแห่งเต๋าสวรรค์ถึงมีกลิ่นอายของปราณอสูรได้?


“ข้าคงปล่อยเจ้าไว้ไม่ได้เสียแล้ว!” หลิงฮันเค้นเสียง มือซ้ายของเขานำดาบสังหารออกมา เขาโคจรทักษะหมื่นแปรผันเป็นหนึ่งและอัสนีบาตเก้าทิวา ‘ตูม’ คลื่นพลังดาบจากทักษะถูกปลดปล่อยโจมตีออกไปพร้อมกับแสงอัสนีบาตสีขาว


ฉัวะ!


เมื่อคลื่นพลังดาบตัดผ่าน เนตรแห่งเต๋าสวรรค์ก็ถูกผ่าออกเป็นส่วนส่วนทันที โลหิตปริมาณมหาศาลหลังไหลทะลักออกมาพร้อมกับร่างทั้งสองส่วนของมันที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า ร่างที่ร่วงหล่นถูกเผาไหม่อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเถ้าถ่าน


หลิงฮันเก็บดาบสังหารและจับขวานในมือแน่น ด้วยทักษะที่ใช้ออกมาทำให้พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบสามดาว ตอนนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว


‘ฉัวะ’ แต่ทันใดนั้นเอง คลื่นดาบขนาดหนึ่งพันฟุตก็พุ่งลงมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์


ไม่มีใครตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว


ถ้าจอมยุทธของห้านิกายโบราณที่อยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ลงมือน่ะสิพวกเขาถึงจะตกใจ


หลิงฮันยกมือซ้ายขึ้นฟ้าเพื่อรับคลื่นดาบที่พุ่งเข้ามา ‘ตูม’ เขารับคลื่นดาบเอาไว้ได้ ในมือซ้ายของเขาปรากฏอักขระสีทองและประกายสายฟ้าที่เกิดจากการใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันสองทักษะ


ที่จริงแล้วหลิงฮันสามารถรับคลื่นดาบได้ความทนทานของร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่เขาไม่ต้องการให้จอมยุทธบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์รู้ไพ่ลับของเขา


ด้วยพลังต่อสู้ยี่สิบสามดาว ร่างของหลิงฮันถูกทำให้ล่าถอยเกือบสิบก้าวและต้องหยุดการเปิดสวรรค์ชั่วขณะ


บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปรากฏร่างของชายวัยกลางคนถือดาบยาว ที่ศีรษะของเขามีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ขนาดเล็กสามดวงลอยอยู่ ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด วันเวลาผ่านไปเพียงปีเดียวแต่โลกเบื้องล่างกลับมีคนที่สามารถเปิดสวรรค์โผล่มาอีกคนแล้ว!


แต่ไม่ว่าจะน่าเหลือเชื่อขนาดใหญ่ จอมยุทธของโลกเบื้องล่างก็เป็นเพียงแค่มดปลวกที่ฝันกลางวันว่าจะสามารถเปิดสวรรค์ได้สำเร็จ พวกเขาช่างไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าเสียเลย


“องค์จักรพรรดิ!”


“จงเจริญ!”


ทุกคนเปล่งเสียงตะโกนออกมา ตอนนี้สถานการณ์ได้มาถึงช่วงสำคัญที่สุดแล้ว


หลิงฮันยิ้มและชูนิ้วกลางไปยังทิศทางของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ “วันนี้คือวันที่สวรรค์จะเปิดออก เจ้าเตรียมตัวเตรียมใจแล้วรึยัง? ขอบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าการโจมตีเมื่อครู่คือพลังทั้งหมดของเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติจะมาขวางทางข้า!”


 

 

 


ตอนที่ 880

 

แม้ว่าองค์จักรพรรดิของพวกเขาจะชูนิ้วกลางขึ้นมา แต่ทุกคนกลับรู้สึกว่าการกระทำของเขามันดูเบาเกินไป


พวกเขาอยากจะด่าพวกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ว่าเช่าหนี่มา!


– พวกมันคิดว่าพวกเขาเป็นแค่วัตถุดิบหลอมเม็ดยาแล้วพวกเขาจะไว้หน้าอีกฝ่ายไปทำไม?


ในอีกฝั่งบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ชายวัยกลางคนไม่ได้ยินคำพูดของหลิงฮัน เขาเห็นแค่การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเท่านั้น และช่วยไม่ได้ที่เขาจะเผยสีหน้าโกรธเกรี้ยวและปลดปล่อยจิตสังหารออกมา


น่าขัน!


ข้าเป็นถึงจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสามเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าไม่รู้กี่เท่า!


ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้ระดับพลังจะต่างกันเล็กน้อย แต่ก็เป็นช่องว่างที่ไม่รู้จบ ระดับสุริยันจันทราของเขาคืออะไร? ถ้าความแข็งแกร่งของหลิงฮันกลับไปอยู่ที่ระดับหลอมกายา มันก็จะเทียบได้กับเขาที่อยู่ระดับตัวอ่อนวิญญาณ!


ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนต่างมีรากฐานวิญญาณที่แข็งแกร่ง ไม่มีใครสามารถต่อสู้ข้ามระดับพลังได้


แต่ตอนนี้กลับมีมดปลวกที่เป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติกล้าที่จะยั่วยุเขา!


เขาชักดาบออกมาทันทีและปลดปล่อยรัศมีดาบที่ยาวกว่าหนึ่งพันฟุตออกไป แม้รัศมีดาบของเขาจะต้องผ่านม่านพลังของทั้งสองโลก แต่อำนาจพลังทำลายล้างของมันก็ยังคงเพียงพอที่จะฆ่าจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีระดับพลังต่อสู้ต่ำกว่ายี่สิบดาวทุกคนบนโลก


หลิงฮันแสยะยิ้ม จิตใจของเขายังคงนิ่งสงบดั่งสายน้ำ ตู้ม พลังแห่งจักรภพเสริมแกร่งให้กับเขา ทำให้พลังต่อสู้ของเขาทะลวงผ่านระดับทลายมิติยี่สิบสี่ดาว


หนึ่งดาวเทียบได้กับสวรรค์และปฐพี!


ตู้ม หลิงฮันโจมตีแบบสุ่มออกไปและทันใดนั้นรัศมีดาบของอีกฝ่ายก็ถูกทำลายทันที และยืนหยัดเหมือนพระเจ้าของโลกใบนี้


โอ้ว!


ทุกคนรู้สึกตกตะลึง ถึงขั้นอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง


ก่อนหน้านี้ยังไม่ใช่ความแข็งแกร่งทั้งหมดของหลิงฮัน!


ฉากที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นและคิดว่าการเปิดสวรรค์ครั้งนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน


ฉินหยีเย่ว หลินเซียงฉิน เหวินเหรินเชียนเชียน และสาวงามคนอื่นๆที่เคยพบเจอหลิงฮันต่างรู้สึกตื่นเต้นและผิดหวังในเวลาเดียวกัน ชายคนนี้แข็งแกร่งเกินไป ในตอนแรกพวกนางหวังว่าจะเอาชนะเขา แต่ตอนนี้พวกนางทำได้แค่เงยหน้ามองเขาจากระยะไกลเท่านั้น ระยะห่างระหว่างเขากับพวกนางเหมือนอยู่กันคนละโลก


หากพวกนางได้รับโอกาสอีกสักครั้ง พวกนางจะเปลี่ยนข้าวสารหุงเป็นข้าวสุก


“หึ่ม นี่ยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของหลิงฮันหรอก!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าพลังต่อสู้สูงสุดของหลิงฮันคือระดับทลายมิติยี่สิบห้าดาว!


ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ การที่จะเพิ่มระดับพลังต่อสู้ก็จะยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น


หลิงฮันกระดิกนิ้วใส่ชายวัยกลางคน เขาทำการยั่วยุอีกฝ่ายอีกครั้ง


นี่ทำให้ชายวัยวัยกลางคนโกรธเกรี้ยวมายิ่งนัก “วัตถุดิบ” หลอมเม็ดยากล้าที่จะก่อกบฎอย่างนั้นรึ?


ชายวัยกลางคนกระหน่ำโจมตีออกไปด้วยรัศมีดาบที่ยาวหนึ่งพันฟุตใส่หลิงฮันไม่ยั้งมือราวกับฝนดาวตก เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าจอมยุทธที่ยิ่งใหญ่อย่างเขาจะไม่สามารถฆ่ามนุษย์ผู้นี้ได้


หลิงฮันปัดป้องการโจมตีของหลิงฮันด้วยท่าทางเฉยเมย


การโจมตีของอีกฝ่ายนั้นจะต้องทะลวงผ่านม่านพลังของทั้งสองโลก ทำให้พลังทำลายล้างของมันถูกบั่นทอนลงไปมาก


ชายวัยกลางคนบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขมวดคิ้วแน่น และหยุดโจมตี เขาไม่สามารถทำอะไรหลิงฮันได้เลยแม้แต่น้อย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะทำได้แค่ดูอีกฝ่ายเปิดสวรรค์สำเร็จเท่านั้น


ร่างของชายวัยกลางคนหายไปจาก “รูบนท้องฟ้า”


“องค์จักรพรรดิจงเจริญ!” ทุกคนส่งเสียงให้กำลังใจ ห้านิกายโบราณบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยอมแพ้แล้ว? ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดพวกเขาก็หลุดพ้นจากชะตากรรมที่จะต้องถูกหลอมกลายเป็นเม็ดยา


หลิงฮันไม่กล้าประมาทเพราะเขาจะส่งจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาจัดการในทันที? ในสายตาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าเขาหรือหม่าตั๋วเป่าจะมีความสามารถเปิดสวรรค์ แต่ก็เป็นได้แค่มดตัวใหญ่ในสายตาพวกเขาเท่านั้น ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องส่งจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาจัดการทันที


แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจมีอีกคนปรากฏออกมาจากรูบนท้องฟ้า


คราวนี้เป็นชายชราที่ไว้เคราสีขาว และมีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ขนาดเล็กสี่ดวงลอยอยู่


ระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด!


อย่างไรก็ตามจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดวงจันทร์มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์ นี่แสดงให้เห็นว่าชายชราคนนี้ยังไม่ได้อยู่บนจุดสูงสุดของระดับสุริยันจันทราที่แท้จริง


ทันใดนั้น หัวใจของผู้คนก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหวอีกครั้ง แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ทราบระดับพลังของผู้คนบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเปลี่ยนจากชายวัยกลางคนให้ชายชราเป็นคนลงมือแทน เขาจะต้องแข็งแกร่งกว่าชายวัยกลางคนอย่างแน่นอน


“องค์จักรพรรดิ ท่านจะต้องประสบความสำเร็จ!”


ในขณะเดียวกัน ชายชราเคราขาวไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่น้องและโจมตีหลิงฮันด้วยกระบี่ทันที


ฉัวะ!


รัศมีกระบี่ตัดผ่านม่านพลังของทั้งสองโลกพุ่งไปที่หลิงฮัน แม้ว่าอำนาจพลังส่วนใหญ่จะถูกบั่นทอน แต่รัศมีกระบี่ของเขาก็ยังยาวกว่าสองพันฟุตและทิ่มแทงไปที่หลิงฮัน


“นี่จะต้องเป็นทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน” หลิงฮันพยักหน้าอยู่ในใจ


เขายกมือขึ้นและใช้ฝ่ามือผนึกพลิกปฐพีต้านรับรัศมีกระบี่


ปัง หลิงฮันปลิวไปด้านหลังจากจุดเดิมกว่าร้อยฟุตทันที


พลังของอีกฝ่ายแตกต่างจากชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง หลิงฮันเชื่อว่าถ้าชายชราและชายวัยกลางคนต่อสู้เป็นตายกัน ชายวัยกลางคนไม่มีทางต่อกรกับชายชราได้เลย


เขายกมือขึ้นมาดูและรู้สึกชาเล็กน้อยไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น


ถ้าอีกฝ่ายต้องการทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ มีแต่จะต้องลงมาจากดินแดนศักดิ์และจัดการเขาซึ่งหน้า!


ชายชราเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ในความคิดเห็นของเขา รัศมีกระบี่เมื่อครู่สมควรที่จะแยกร่างของหลิงฮันออกเป็นสองท่อนแล้ว โลกเบื้องล่างมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดถึงมีมดปลวกที่ค่อนข้างแข็งแกร่งปรากฏตัวขึ้นได้


ก่อนหน้านี้ ทุกคนยังจำได้ว่าหม่าตั๋วเป่ายังห่างไกลที่จะเปิดสวรรค์สำเร็จ – แต่ตอนนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังส่งจอมยุทธที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมาอีก!


ในเมื่ออีกฝ่ายเปลี่ยนตัวจากชายวัยกลางคนเป็นชายชรา แล้วหลิงฮันจะยืนหยัดไหวหรือไม่?


ในทางตรงกันข้าม ชายชราบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเท่านั้น และรีบปล่อยรัศมีกระบี่อีกระลอกออกมาทันที มันเป็นเพียงแค่รัศมีกระบี่ธรรมดาเท่านั้น เพราะถ้าเขาใช้ทักษะมันจะไม่สามารถทะลวงผ่านม่านพลังของทั้งสองโลกได้


ในที่สุดหลิงฮันก็ใช้พลังแห่งจักรภพอย่างเต็มที่และทำให้ระดับพลังต่อสู้ของเขาทะลวงผ่านจุดสูงสุด


ยี่สิบห้าดาว!


ปัง เขารับรัศมีกระบี่ด้วยมือเปล่า แคร๊ก และบีบทำลายมัน


ต้องรู้ก่อนว่าทักษะผนึกพลิกปฐพีที่หลิงฮันใช้เป็นทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นอำนาจพลังของมันจึงเพียงพอที่จะทำลายรัศมีกระบี่ของชายชราได้


ความเงียบงันปกคลุมไปทั่วจักรวรรดิ แต่หลังจากนั้นทุกคนก็ระเบิดเสียงเชียร์ออกมา


“องค์จักรพรรดิจงเจริญ!”


“องค์จักรพรรดิจงเจริญ!”


ทุกคนส่งเสียเชียร์อย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้มีเพียงแค่เสียงกรีดร้องเท่านั้นที่สามารถระบายความหดหู่ที่อยู่ในใจของพวกเขาได้

 

 

 


ตอนที่ 881

 

หลิงฮันกระหน่ำโจมตีออกไปด้วยขวานภูผาวารีไม่หยุด ทำให้ท้องฟ้าเปิดออกและในที่สุดก็เชื่อมต่อกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์!


หู่!


ทันใดนั้นเอง พลังปราณจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไหลทะลักเข้ามายังโลกเบื้องล่างราวกับน้ำทะเล


“อีกนิดเดียวเท่านั้น!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนอุทาน


แม้ว่าท้องฟ้าจะเปิดแล้ว แต่ยังไม่อาจเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ


เพราะตอนนี้ช่องว่างระหว่างทั้งสองโลกมันเล็กเกินไปที่ทวีปฮงเทียนทั้งทวีปผ่านไปได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงดึงดูดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มันจะทำให้ทวีปฮงเทียนถูกบีบให้เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับแม่ที่กำลังคลอดลูก


ในอีกด้าน สีหน้าของชายชรากลายเป็นซีดเผือด ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้ว่าหลิงฮันจะไม่ลงมือทำอะไร แต่ทวีปฮงเทียนก็จะยังคงถูกแรงดึงดูดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดูดเข้ามาและกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน


ในขณะนั้นเองร่างของชายชราหายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวก็มีหญิงชราชุดคลุมม่วงโผล่ออกมาแทน นางมีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์สี่ดวงโคจรอยู่บนหัวเหมือนกับชายชรา แต่ที่แตกต่างจากชราชราคือขนาดของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ของนางนั้นมีขนาดเท่ากัน


นี่คือจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด!


หญิงชราชุดคลุมม่วงจ้องมองไปที่หลิงฮันด้วยสายตาเย็นชา ด้านหลังนางมีปีกวิหคเพลิงงอกออกมา แล้วมือขวาของนางก็มีเปลวเพลิงปะทุขึ้น แม้ว่าโลกทั้งสองจะแยกจากกัน แต่มันก็ทำให้ผู้คนบนทวีปฮงเทียนรู้สึกหนาวเย็นไปถึงกระดูกสันหลัง


เปลวเพลิงนี้สามารถเผาผลาญได้ทุกอย่าง!


พรึบ หญิงชราขยับนิ้วและเปลวเพลิงก็ถูกปล่อยไปที่ทวีปฮงเทียน


การโจมตีของนางดูเรียบง่ายมาก มันไม่ได้ดูอลังการเหมือนกับรัศมีดาบและรัศมีกระบี่ที่ยาวหลายพันฟุต แต่เปลวเพลิงของนางมีขนาดเท่ากำปั้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นพลังทำลายล้างของมันยังมากกว่ารัศมีกระบี่ของชายชรามากกว่าสิบเท่า


ถึงแม้ทั้งสองคนจะอยู่ในระดับสุริยันจันทราเหมือนกัน แต่ช่องว่างระหว่างขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง และขั้นสูงสุดนั้นแตกต่างกันจนเกินไป


ตัวตนของนางน่าจะเป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของห้านิกายโบราณบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหลิงฮันสามารถป้องกันการโจมตีของนางได้ แล้วเขาจะต้องหวาดกลัวอะไรอีก?


หลิงฮันกระหน่ำโจมตีเปลวเพลิงด้วยพลังทั้งหมดของเขา


ตู้ม!


แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ แม้เขาจะมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบห้าดาวก็ยังไม่สามารถต้านทานการโจมตีครั้งนี้ได้ และทำให้ร่างของเขาถูกกลืนหายเข้าไปในเปลวเพลิง


“องค์จักรพรรดิ!”


ทุกคนส่งเสียงอุทานออกมาพร้อมกัน หรือว่าการเปิดสวรรค์จะประสบกับความล้มเหลวอีกครั้ง? ต้องทราบก่อนว่าตอนนี้ท้องฟ้าถูกแยกออกจากกันแล้ว ตราบใดที่เขาสามารถต้านทานไว้ได้สักระยะหนึ่ง ทวีปฮงเทียนทั้งทวีปก็จะลอยขึ้นสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เอง


ในอีกด้านหนึ่ง หญิงชรายิ้มเยาะ เปลวเพลิงวิหคเพลิงของนางทรงพลังแค่ไหน? แม้แต่จอมยุทธที่อยู่ในระดับเดียวกับนางยังรู้สึกหวาดกลัว แล้วอีกฝ่ายที่เป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติจะไปเหลืออะไร? แต่หลังจากนั้นชั่วครู่ รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็กลายเป็นประหลาดใจ


ไม่มีทาง!


นางเห็นเต็มสองตาว่าหลิงฮันเดินออกมาจากเปลวเพลิงและเปลวเพลิงของนางก็ยังคงลุกไหม้อยู่บนร่างกายของเขา


หลิงฮันกวัดแกว่งขวานภูผาวารีและกระหน่ำโจมตีแยกสวรรค์อีกครั้ง!


“องค์จักรพรรดิ!” ทุกคนส่งเสียงตะโกนด้วยความซึ้งใจ


เมื่อครู่ พวกเขาคิดว่าทุกอย่างมันจบลงแล้ว แต่หลิงฮันก็ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง


หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ความเชื่อมั่นในตัวหลิงฮันได้ฝังอยู่ในใจของพวกเขาทุกคน ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน องค์จักรพรรดิของพวกเขาก็มีทางออกเสมอ


ในเมื่อหัวใจของพวกเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกัน พลังแห่งจักรภพก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น!


เหนือเมืองจักรพรรดิ หอคอยทมิฬบนธงส่องแสงสีทองอันเจิดจรัสไปทั่วทั้งจักรวรรดิ


นี่แสดงให้เห็นว่าผู้คนในจักรวรรดิเชื่อมั่นในตัวหลิงฮันมากขนาดไหน


สีหน้าของหญิงชราเสื้อคลุมม่วงดูมืดมนและโจมตีใส่หลิงฮันอีกครั้ง แต่เปลวเพลิงครั้งนี้ทรงพลังกว่าเปลวเพลิงก่อนหน้านี้มาก


หลิงฮันรู้ว่าเขาไม่มีพลังที่จะตอบโต้กลับ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเปลวเพลิงของหญิงชราและยังคงกวัดแกว่งขวานภูผาวารีแยกสวรรค์ โดยที่เขาจะใช้กายหยาบแบกรับเปลวเพลิงของหญิงชรา


นี่แหละคือไพ่ลับของเขา!


กายหยายที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับพระเจ้า แน่จริงก็เข้ามาเผาเลยสิ


ถ้าหลิงฮันอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาคงไม่กล้าทำแบบนี้อย่างแน่นอน แต่ในเมื่อการโจมตีของนางจะต้องผ่านม่านพลังของทั้งสองโลก ทำให้อำนาจของมันบั่นทอนลงไปมา แล้วเขาจะหวาดกลัวไปทำไม?


“จงเปิด!”


“จงเปิด!”


“จงเปิด!”


ทุกคนที่หลิงฮันใช้ขวานภูผาวารีแยกสวรรค์ ผู้คนหลายร้อยล้านต่างส่งเสียงสนุบสนุนเขา ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถแบ่งเบาภาระของหลิงฮันได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะสนับสนุนหลิงฮัน


อย่าว่าแต่ผู้คนทั่วไปเลย แม้แต่เจ็ดราชัน เฮ่อเหลียนเทียนหยุนเองก็ส่งเสียงเขาพร้อมกัน


“จงเปิด! จงเปิด! จงเปิด!”


หลิงฮันยังคงใช้ขวานภูผาวารีแยกสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าเขาจะถูกเปลวเพลิงของหญิงชรากระหน่ำโจมตีก็ตาม และกายหยาบของเขาเองก็เผยให้เห็นถึงรอยไหม้ ดังนั้นเขาจะต้องไม่ปล่อยให้มันเผาไหม้อยู่บนร่างกายเขาอยู่ฝ่ายเดียว และจะต้องเปิดสวรรค์ให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นเขาอาจถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้าได้


ในอีกด้านหนึ่ง สีหน้าของหญิงชราเริ่มแสดงความวิตกกังวลออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้านางไม่รีบหยุด ทวีปฮงเทียนก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และนางก็จะไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป


“จงเปิดทางให้ข้า!” หลิงฮันกวัดแกว่งขวานภูผาวารีเป็นครั้งสุดท้าย


ตู้ม!


รอยแยกที่เขาสร้างขึ้นมีขนาดใหญ่เพียงพอ และแรงดึงดูดจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เพิ่มขึ้นหลายร้อนเท่าอย่างฉับพลัน และทันใดนั้นเองทวีปฮงเทียนก็เริ่มลอยขึ้น


ทว่าในขณะที่ทวีปฮงเทียนยกตัวลอยขึ้นมีรูปแบบอาคมขนาดใหญ่ปิดล้อมอยู่ด้านนอก แต่โลกขนาดเล็กทั้งใบรูปแบบอาคมระดับภูผาวารีจะขัดขวางได้อย่างไร?


ปัง รูปแบบอาคมพังทลายทันที


ทั้งทวีปเทียนฮงยกตัวลอยขึ้นพร้อมกับน้ำในมหาสมุทร ฉากที่เกิดขึ้นทำให้หญิงชราเสื้อคลุมม่วง ชายชราเคราขาวและชราวัยกลางคนกระอักเลือดออกมา


พวกเขากล้าที่จะหยุดยั้งการเปิดสวรรค์ หรือว่านี่คือการโต้กลับของสวรรค์และปฐพี?


ตุบ พวกเขาทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไร้หนทางและทำได้แค่จ้องมองทวีปฮงเทียนลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเท่านั้น และเมื่อถึงจุดหนึ่งทวีปฮงเทียนก็แวบหายไปในทันที


……


ตุบ หลิงฮันตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างกะทันหัน เขาพบว่าเขาไม่สามารถบินอยู่บนท้องฟ้าได้อีกต่อไป มันไม่ได้เป็นเพราะแรงดึงดูดที่ทำให้เขาไม่สามารถบินได้ แต่เป็นเพราะกฎเกณฑ์อย่างหนึ่งต่างหาก


แต่ทันใดนั้นเอง หลิงฮันและคนอื่นๆก็พบถึงความแตกต่าง พวกเขาไม่สามารถอธิบายลายละเอียดอะไรได้มากนัก แต่บรรยากาศตอนนี้มันทำให้พวกเขารู้สึกอบอุ่นเหมือนกับกำลังแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อน มันเป็นความสบายที่ไม่สามารถพูดอธิบายออกมาได้


พวกเขาได้เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว!


ถ้างั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพวกเขาก็จะไม่ได้เป็นมดปลวกจากโลกเบื้องล่างอีกต่อไป แต่จะเป็นผู้คนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์!


“องค์จักรพรรดิจงเจริญ!” ทุกคนส่งเสียงสรรเสริญหลิงฮันไม่หยุด


แต่ในไม่ช้า ทุกคนก็เริ่มหยุดส่งเสียงสรรเสริญหลิงฮัน นั่นมันเป็นเพราะทัศนียภาพรอบตัวพวกเขามันน่าอัศจรรย์เกินไป


ภายใต้กฎเกณฑ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทวีปฮงเทียนกำลังเดินทางอยู่ในห้วงมิติที่แหวกว่ายผ่านดวงดาวนับไม่ถ้วน


ในไม่ช้าพวกเขาก็เห็นโลกขนาดใหญ่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์และเคลื่อนที่เข้าไปเพื่อที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน

 

 

 


ตอนที่ 882

 

“จุดเล็กๆในห้วงมิติทุกจุดคือโลกใบเล็กเหมือนทวีปพวกเรางั้นรึ?”


“เป็นไปได้อย่างไร โลกเหล่านั้นมีรูปทรงเป็นวงกลม หากยืนอยู่บนดวงดาวเช่นนั้นคนจะไม่ล่วงลงหรอกรึ?”


“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ช่างกว้างใหญ่นัก อาณาเขตของมันกว้างขวางไร้ที่สิ้นสุด!”


ทุกคนอุทาน พวกเขาเคยคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมของโลกเดิมซึ่งก็คือบนทวีปฮงเทียน แต่พอพวกเขาล่องลอยออกมาจากโลกใบเดิม สภาพแวดล้อมของพวกเขาก็พบกับดวงดาวที่มีรูปร่างกลม เรื่องนี้ได้ทำลายความเชื่อเดิมของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง


“แล้วลูกบอลเพลิงขนาดมหึมานั่นคืออะไร? ดวงอาทิตย์งั้นรึ? ทำไมดวงอาทิตย์ถึงได้ใหญ่ขนาดนั้น!”


“ดวงดาวทุกดวงคือโลกใบเล็กหนึ่งทวีป ทวีปนั้นมีรูปทรงกลมนี่เอง!”


ทวีปฮงเทียนเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงลอยผ่านดวงดาวนับไม่ถ้วนจนในไม่ช้าความเร็วก็ค่อยๆชะลอช้าลง


เบื้องหน้าพวกเขาปรากฏดวงดาวขนาดมหึมา ดวงดาวดวงนี้พื้นที่ส่วนใหญ่คือผืนดินสีน้ำตาล บริเวณที่เป็นน้ำทะเลนั้นกินพื้นที่แค่หนึ่งในห้าของดวงดาวเท่านั้น


ทวีปฮงเทียนลอยเข้าไปในดาวดวงนั้น หากจะพูดว่าทวีปฮงเทียนมีขนาดใหญ่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับดวงดาวข้างหน้า ทวีปฮงเทียนกลับมีขนาดเล็กมาก หากเทียบแล้วทวีปของพวกเขามีขนาดเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้น


‘ตูม’ ผืนดินของทวีปฮงเทียนสงเสียงกระทบพื้นดินเป็นสัญญาณว่าทวีปของพวกเขาได้ผสานเข้ากับดาวดวงนี้แล้ว จอมยุทธมากมายสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของพลังวิญญาณของสวรรค์และปฐพี พวกเขาบางคนถึงกลับทะลวงผ่านระดับพลังในทันที พลังวิญญาณของดาวดวงนี้หนาแน่นเกินไป ต่อให้แค่ทำการหายใจสิบกว่าครั้ง จอมยุทธก็สามารถเลื่อนระดับพลังได้


ร่างของหลิงฮันส่งสัญญาณถึงการทะลวงผ่าน เพราะอย่างไรตอนนี้เขาก็มีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติขั้นเก้าแล้ว เขาพร้อมที่จะทะลวงผ่านระดับพลังทุกเมื่อ หลิงฮันเลือกที่จะระงับการทะลวงผ่านเอาไว้ก่อน แม้แต่การจะขัดเกลาพลังต่อสู้ติดตัวให้ถึงระดับทลายมิติยี่สิบดาวนั้นจะเป็นเรื่องยากในโลกใบเล็ก แต่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เขายังมีวาสนาที่จะได้พบเจอกับทรัพยากรมากมาย


“จงเจริญ!”


“จักรพรรดิจงเจริญ!”


จอมยุทธทั่วทั้งทวีปฮงเทียนส่งเสียงร้อง ตอนนี้พวกเขาหนีพ้นชะตาจากการที่ต้องถูกใช้เป็นวัตถุดิหลอมเม็ดยาและกลายเป็นประชากรของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้นซึ่งจะได้เห็นในอนาคต


เหนือทวีปฮงเทียน ธงสัญลักษณ์หอคอยทมิฬปลดปล่อยออร่าที่หนาแน่นและองอาจมากขึ้น พลังวิญญาณจำนวนมหาศาลถูกดูดเข้าไปในธงสัญลักษณ์


การเปิดสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากสวรรค์และปฐพี


ในขณะเดียวกันหลิงฮันก็พบว่าพลังต่อสู้ของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว


ระดับทลายมิติสิบสี่ดาว… สิบห้าดาว… สิบหกดาว!


ในไม่ช้าเวลาก็ผ่านไปสองวัน


พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นจนเกือบจะข้ามผ่านระดับทลายมิติสามสิบดาว! ยิ่งกว่านั้นเขายังสัมผัสได้อีกว่ากายหยาบของเขามีการเปลี่ยนแปลง รากฐานวิญญาณในตันเถียนส่องแสงสว่างอันรุ่งโรจน์


การเปิดสวรรค์ทำให้โชคชะตาของเขาเปลี่ยนแปลง


โชคชะตาคือสิ่งที่ไม่แน่นอนและไม่สามารถมองเห็น


ทั่วทั้งทวีปเต็มไปด้วยความสุข วันนี้คือวันที่ยิ่งใหญ่ของประชาชนแห่งจักรวรรดิต้าหลิง


แต่ความสุขเช่นนี้ก็ไม่คงอยู่นาน ในไม่ช้าจอมยุทธของดาวดวงนี้ก็มาเยือนพวกเขา


“ใครคือผู้นำ?” เสียงอันยิ่งยโสดังขึ้น ร่างหนึ่งปราฏขึ้นที่ปราสาทจักรพรรดิ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม


จอมยุทธผู้นี้… คือพระเจ้า!


แม้พลังต่อสู้ของหลิงฮันจะใกล้เคียงกับระดับทลายมิติสามสิบดาว แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายแค่แวบเดียวเขาก็รู้ตัวว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย


แตกต่างกันเกินไป


แม้อีกฝ่ายจะเป็นพระเจ้าที่อ่อนแอที่สุด แต่พวกเขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าอัจฉริยะระดับทลายมิติไม่รู้กี่สิบกี่พันเท่า! แถมตอนนี้ก็ไม่มีกำแพงกั้นระหว่างโลกคอยรั้งพวกเขาเอาไว้แล้วด้วย


หลิงฮันคิดรู้ก่อนเปิดสวรรค์แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ สีของของเขาจึงไม่เปลี่ยนแปลง “ข้าเอง!”


“โอ้?” ชายคนนี้สวมชุดคลุมขาวและดูอายุราวๆสามสิบปี เขาไม่ปกปิดพลังของตนเองและจงใจเผยให้หลิงฮันเห็น ด้านหลังของเขามีเงาของภูเขาปรากฏอยู่


นี่หมายถึงอีกฝ่ายเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารี แต่ดูเหมือนจะบรรลุแค่ขั้นกลางส่วนเล็กเท่านั้น นั่นเพราะบนภาพเงาเบื้องหลังของเขามีแต่ภูเขาไม่มีสายวารี จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดจะไม่มีสายวารีได้อย่างไร? บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์จอมยุทธเช่นนี้นับว่าอยู่ระดับล่างสุด แต่สำหรับผู้คนที่ขึ้นมาจากโลกเบื้องล่างแล้วเขานับว่าเป็นปรมาจารย์


“ข้าคือเหยียนยงอี่ ทูตพิเศษจากจักวรรดิช่องว่างแห่งตะวันออก ในเมื่อเจ้าเป็นผู้นำ เจ้าก็จงมอบอำนาจปกครองจักรวรรดิมาให้พวกข้าซะ!” เขากล่าวอย่างไม่แยแส


ในความคิดเขา ภารกิจครั้งนี้ไม่นับว่าสำคัญอันใด


จักวรรดิพิฆาตมิติทางตะวันออกมีพระเจ้าอยู่กี่คนกัน? หลายล้าน! แค่หนึ่งในพวกเขาลงมือก็บดขยี้โลกที่เพิ่งมาถึงนี้ได้ เช่นนั้นแล้วเขาต้องใส่ใจภารกิจครั้งนี้ด้วยรึ?


เมื่อได้ยินเช่นนี้ประชาชนของเมืองจักรพรรดิก็อดแสดงท่าทีโมโหออกมาไม่ได้


หลังจากเปิดสวรรค์สำเร็จ ทุกคนก็มองว่าหลิงฮันต่างหากที่เป็นพระเจ้าที่แท้จริง จักรพรรดิของพวกเขาไร้เทียมทาน!


“เหอะ จักวรรดิช่องว่างแห่งตะวันออกรึจะสู้กับจักรวรรดิจักรวรรดิสายธารเงียบงันของข้าได้?” ร่างอีกร่างหนึ่งปรากฏตัวและคำรามใส่เหยียนยงอี่


“ฮ่าๆๆ พวกเจ้าลืมจักรวรรดิอัสนีบาตรซ่อนเร้นของข้าแล้วรึ?” พระเจ้าคนที่สามเดินเข้ามา


จากที่หลิงฮันได้ยินจากอี้ชวงชวง สำหรับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วผู้คนและพื้นที่อาณาเขตจะเป็นทรัพยากรสำคัญมากเนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มอำนาจให้พลังแห่งจักรภพได้ ตอนนี้เหมือนมีโลกใหม่ปรากฏขึ้น ขุมอำนาจไหนบ้างจะไม่ต้องการยึดครองไว้เป็นของตนเอง?


หลิงฮันนิ่งเงียบ เขารู้มาก่อนแล้วว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือรอให้พวกเขาเสนอ ‘สิ่งตอบแทน’ มา แต่ที่สำคัญคือเขาต้องยกทวีปฮงเทียนให้กับขุมอำนาจที่แข็งแกร่งเพื่อเป็นสิ่งรับประกันความปลอดภัยของจักรวรรดิต้าหลิง


‘ครืนน’ ชั้นบรรยากาศเกิดการสั่นไหวพร้อมกับปรากฏเรือรบที่บินผ่านชั้นมิติออกมา


พระเจ้าทั้งสามมีสีหน้ามืดมนทันที


ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เองก็มีกฎเกณฑ์ของมันเอง ความสามารถในการลอยบนท้องฟ้านั้นจำเป็นต้องมีอำนาจที่ทรงพลัง ส่วนอาวุธวิญญาณที่สามารถลอยได้นั้นเรียกได้ว่ามันต้องมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก ไม่ต้องดูตัวอย่างจากที่ไหนไกล แค่พระเจ้าที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้นั้นพวกเขาต่างเดินทางมาด้วยสองขา ใครที่อาณาจักรอยู่ใกล้พวกเขาก็มาถึงก่อน


ด้านบนของเรือรบปรากฏชายชุดคลุมขาวที่ดูมีอายุยี่สิบเจ็ดปี ในแต่เมื่อเขาเป็นพระเจ้า แน่นอนว่ารูปลักษณ์ภายนอกย่อมไม่สามารถใช้ตัดสินอายุที่แท้จริงของเขาได้


เขาพกดาบไว้ด้านหลัง ชายคนนี้ไม่ปลดปล่อยออร่าใดๆออกมาทำให้ไม่สามารถรับรู้พลังบ่มเพาะของเขาหากมองจากภายนอก


“จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ!” เมื่อเห็นสัญลักษณ์บนธงของเรือรบ เหล่าพระเจ้าก็อุทานออกมาและมีท่าทีเคารพ


บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มีระดับชั้นเหมือนกับโลกใบเล็กอย่างเช่น นิกายหรือสมาคม คำนำหน้าเหล่านี้ไม่สามารถใช้โดยพลการได้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เช่นกัน จักรวรรดิหลวง จักรวรรดิราชวงศ์ และจักรวรรดิ คำนำหน้าเหล่านี้คือคำที่แสดงถึงอำนาจที่แตกต่างกันของแต่ละขุมอำนาจ


ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิจำเป็นต้องมีพลังระดับสุริยันจันทรา ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิราชวงศ์จำเป็นต้องมีพลังระดับดารา ส่วนจักรวรรดิหลวงนั้นจำเป็นต้องมีพลังระดับวารีนิรันดร์


“เจ้าคือผู้นำรึ?” ชายชุดขาวจ้องมองมายังหลิงฮันและยิ้ม “ข้าคือผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย ผู้ติดตามของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายแห่งจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ”


“โอ้ อาวุโสเซียงนี่เอง” หลิงฮันคารวะ บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เขาต้องยอมละความยิ่งยโสและความดื้อรั้นทิ้งไป

 

 

 


ตอนที่ 883

 

โดยที่ไม่คาดคิด เซียงเฉิงหยินไม่ได้ปลดปล่อยแรงดันที่น่าเกรงขามออกมาหรือแสดงวางท่าหยิ่งยโส นี่ทำให้หลิงฮันรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกว่าเขาสามารถเข้าถึงอีกฝ่ายได้ง่าย


เซียงเฉิงหยินมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย และมีวัตถุประสงค์พิชิตจักรวรรดิต้าหลิงและให้พวกเขาเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ


จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และพวกเขาไม่คิดที่จะรุกรานขุมพลังเล็กๆที่เพิ่งขึ้นมาจากการเปิดสวรรค์แต่อย่างใด


หลิงฮันถามอีกฝ่ายเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเซียงเฉิงหยินเองก็ไม่ปกปิดอะไร


ดาวดวงนี้มีชื่อเรียกว่าดาวเหอหนิง มีจักรวรรดิราชวงศ์สามแห่ง คือจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ จักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ และจักรวรรดิราชวงศ์นภาคราม ทั้งสามจักรวรรดิราชวงศ์มีจักรวรรดิมีจักรวรรดินับหลายแห่งอยู่ภายใต้อาณัติ และทั้งสามจักรวรรดิราชวงศ์มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกันและต่อสู้กันมานานหลายปี เพื่อที่จะกลืนกินอีกฝ่าย


นี่ไม่เพียงแค่ทำให้จักรวรรดิที่อยู่ใต้การปกครองอยู่รอดได้เท่านั้น แต่ยังได้รับการคุ้มครองจากพวกเขาได้


ดังนั้น เมื่อจักรวรรดิต้าหลิงเปิดสวรรค์สำเร็จ จักรวรรดิที่อยู่ใกล้เคียงจึงรีบส่งคนออกไปทันที แต่พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายะจะส่งตัวแทนของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายมาที่นี่ ซึ่งทำให้จักรวรรดิอื่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้


ถ้าพวกเขามีปัญหากับจักรวรรดิราชวงศ์? จักรวรรดิของพวกเขาจะเหลือรอดหรือไม่?


หลังจากนั้นไม่นาน จักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์และจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามเองก็ส่งคนมาที่จักรวรรดิต้าหลิงเพื่อให้เข้าร่วมกับพวกเขาเช่นกัน


นี่ไม่ใช่เพราะจักรวรรดิต้าหลิงมีขนาดใหญ่และมีประชากรมาก แต่มันเป็นเพราะพวกเขาเพิ่งเปิดสวรรค์สำเร็จยังไม่เข้าร่วมกับขุมพลังใด


หลังจากที่หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เขาก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ


เหตุผลแรก เขาไม่มีทางเลือกอื่น แม้พวกเขาจะพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็นกันเอง แต่ถ้าพวกเขาพลิกหน้ามือเป็นหลังมือลงไม่ข้ากว่าพลิกหน้าหนังสือ ดังนั้น ถ้าเขาต้องเลือกขุมพลังใดขุมพลังหนึ่ง ทางเลือกที่สุดคือจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ เพราะตอนนี้ตำแหน่งที่ตั้งของจักรวรรดิต้าหลิงอยู่ใกล้กับจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะมากที่สุด


ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของจักรวรรดิ


หลิงฮันเขียนหนังสืออำนาจการปกครองจักรวรรดิขึ้นมาและส่งมอบให้กับเซียงเฉิงหยิน และจากนี้เป็นต้นไปจักรวรรดิต้าหลิงจะอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ ซึ่งมีหน้าที่ส่งส่วยและเชื่อฟังคำสั่ง ในทางกลับกันจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะเองก็มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องจักรวรรดิต้าหลิง


ในขณะที่ส่งมอบอำนาจการปกครองให้กับ สัญลักษณ์ธงจักรพรรดิก็เริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกโศกเศร้า


แม้ว่าทุกคนจะทำใจไว้แล้ว แต่ก็ยังคงรู้สึกโศกเศร้าอยู่ดี แต่พวกเขาก็เข้าใจถึงเหตุผล ในเมื่อพวกเขาเพิ่งเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แล้วพวกเขาจะมีคุณสมบัติอะไรต่อต้านขุมพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์?


“ถ้าไม่ยอมรับก็จะต้องถูกทำลาย!”


“ในเมื่อไร้ซึ่งพลังที่จะต่อต้าน พวกเขาก็ทำได้แค่พยักหน้ายอมรับเท่านั้น!”


“ถ้าไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของจักรวรรดิต้าหลิง องค์จักรพรรดิจะทิ้งพวกเขาไปก็ได้ ด้วยความสามารถขององค์จักรพรรดิ ไม่ช้าก็เร็วท่านจะต้องเฉิดฉายอย่างแน่นอน!”


“ในเมื่อองค์จักรพรรดิไม่เลือกที่จะทอดทิ้งพวกเรา พวกเราก็จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”


“ข้าอยากแข็งแกร่งขึ้น!”


“ข้าอยากช่วยองค์จักรพรรดิแบ่งเขาภาระ!”


ผู้คนในจักรพรรดิไม่จมปักอยู่กับความอัปยศ แต่มันกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้กับพวกเขาแทน พวกเขาทุกคนต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น เพื่ออนาคตจักรวรรดิต้าหลิงของพวกเขาจะได้ไม่ต้องงอขุมพลังใดทั้งสิ้น


“ถ้างั้นโปรดตามข้าไปที่เมืองจักรพรรดิเพื่อพบผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายด้วย!” เซียงเฉิงหยินกล่าวด้วยรอยยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ซึ่งเขารู้สึกพึงพอใจกับความสำเร็จในครั้งนี้มาก และยังคงจ้องมองหลิงฮันด้วยแววตาหลากหลายอารมณ์


หลิงฮันพยักหน้าและก้าวขึ้นไปบนเรือเหาะกับเซียงเฉิงหยิน และพูดอยู่ในใจว่าข้าจะต้องกลับมาอีกแน่นอน!


“องค์จักรพรรดิ!” ทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น แม้แต่เจ็ดราชันก็ยังคุกเข่าลงกับพื้นข้างหนึ่ง ขณะจ้องมองหลิงฮันจาไป ด้วยดวงตาแดงก่ำ


หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “จงฝึกฝนบ่มเพาะพลังให้แข็งแกร่ง อย่าทำให้ข้าต้องผิดหวัง!”


“พวกข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!” ทุกคนส่งเสียงตะโกนพูดออกมาพร้อมกัน


เซียงเฉิงหยินยิ้มกริม วินาทีต่อมาเรือเหาะก็แล่นออกไป และในพริบตาก็ลับหายไปจากสายตาของผู้คน


ความเร็วของเรือเหาะนั้นรวดเร็วมาก ราวกับฝนดาวตก ซึ่งทำให้หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงมาก เมื่อเทียบกับความเร็วของเขาแล้ว มันช้ากว่าเรือเหาะอย่างน้อยหนึ่งร้อยเท่า ทำให้ความเร็วของเขาดูเป็นหอยทากไปเลย


ระหว่างทาง หลิงฮันได้พูดคุยกับอีกฝ่าย แต่หลังจากนั้นไม่นานอีกฝ่ายก็เรียกชื่อของเขาโดยตรง เพราะหลิงฮันอยู่ในฐานะตัวประกัน


จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะถูกปกครองโดยจักรพรรดินี ซึ่งเป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุด และความแข็งแกร่งของนางไม่มีใครสามารถจินตนาการได้


จักรพรรดินียังไม่แต่งงาน และมีการกล่าวไว้ว่านางไม่ได้แค่งดงามอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังดูน่าหลงใหล และมีข่าวลือว่าจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์และจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามยินดีที่จะสละบัลลังก์ให้ตราบใดที่นางยินดีแต่งงานกับพวกเขา


แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือ แต่ก็แสดงให้เห็นว่านางเป็นคนที่มีเสน่ห์มากแค่ไหน


ด้านล่างจักรพรรดินีคือราชินีเก้าคน ซึ่งทั้งเก้าคนล้วนแต่เป็นผู้หญิง และคนที่แข็งแกร่งที่สุดยังเป็นจอมยุทธระดับดารา ส่วนคนที่อ่อนแอที่สุดเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีที่ถูกปิดผนึกไว้เมื่อไม่กี่ปีก่อน ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมนางถึงถูกปิดผนึกนั้นไม่มีใครรู้เหตุผล


– ในจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ จักรพรรดินีเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด ซึ่งไม่มีใครสามารถตั้งคำถามหรือสงสัยในคำพูดของนางได้


และด้านล่างราชินีทั้งเก้าคงผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาที่ไม่ถูกกันอย่างแรง และต่างก็ชิงดีชิงเด่นกัน


ถึงกระนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็เป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน พวกเขาเป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นต้น แน่นอนว่ายังไม่อาจเทียบกับจักรพรรดินีของพวกเขาได้


นอกจากนี้ยังมีเจ็ดนายพล ซึ่งมีอำนาจน้อยกว่าผู้อาวุโสทั้งสองคนเล็กน้อย แต่ความแข็งแกร่งของไม่ได้ด้อยกว่าเลย พวกเขาทั้งเจ็ดคนก็เป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นต้นเช่นเดียวกัน และพวกเขาทั้งเจ็ดคนมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องกองทัพและการป้องกันจักรวรรดิราชวงศ์


“หลิงฮัน การที่เจ้าสามารถเปิดสวรรค์และเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ แน่นอนว่าเจ้ามีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา และข้าอยากแนะนำให้เจ้าเข้าร่วมสำนักนภาสีชาด” หลังจากที่เซียงเฉิงหยินอธิบายให้หลิงฮันฟังเกี่ยวกับโครงสร้างของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะจบ เขาก็ให้คำแนะนำแก่หลิงฮัน


“ถ้างั้นข้าคงต้องรับกวนท่านแล้ว” หลิงฮันกล่าวด้วยความสุภาพ


“สำนักนภาสีชาดเป็นสำนักที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในจักรวรรดิ แม้แต่ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและขวา และนายพลทั้งเจ็ดคนยังยังส่งลูกหลานของตัวเองเข้าร่วมสำนักแห่งนี้” เซียงเฉิงหยินหัวเราะ “ข้าเคยฝึกฝนอยู่ในสำนักนภาสีชาดกว่าสามร้อยแปดสิบเจ็ดปีแต่โชคร้ายที่พรสวรรค์ของข้ายังไม่เพียงพอ และถูกไล่ออกในท้ายที่สุด”


เขาหยุดพูดชั่วครู่และพูดต่อว่า “ถ้าเจ้าสามารถทำความรู้จักเหล่าขุนนางหรือชนชั้นสูงในสำนักอย่างแน่นแฟ้น แม้เจ้าจะไม่สามารถกลับไปยังจักรวรรดิของตัวเองได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะทำให้เจ้าสามารถเข้าและออกเมืองจักรพรรดิได้ และเจ้าจะไม่ถูกขังอยู่ที่นี่ตลอด”


ตามกฎแล้ว หลิงฮันในฐานะตัวประกันเขาต้องอยู่ในเมืองจักรพรรดิ ถ้าหากเขาก้าวออกจากเมืองจักรพรรดิจะถือว่าไม่ให้ความเคารพจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ และความผิดของเขาอาจถึงขั้นประหารชีวิต


หลิงฮันพยักหน้าและรีบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสำนักนภาสีชาดทันที


ถ้าเขาต้องการทะลวงผ่านระดับพลังของพระเจ้า เขาจะต้องฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะพลังระดับศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่อยากนั้นมันจะต้องใช้เวลานานเกินไปกว่าจะทะลวงผ่านได้

 

 

 


ตอนที่ 884

 

เซียงเฉิงหยินเล่ารายละเอียดของ สำนักนภาสีชาดให้หลิงฮันตลอดทาง เมื่อพวกเขามาถึงเมืองจักรพรรดิของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ หลิงฮันก็เข้าใจเรื่องราวของ สำนักนภาสีชาดบ้างแล้ว


สำนักนภาสีชาดก่อตั้งที่จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะมาเป็นเวลานับล้านปีแล้ว หลังจากการพัฒนาอย่างยาวนาน สำนักนภาสีชาดก็ถูกแบ่งออกเป็นสี่ฝ่ายคือฝ่ายทิศใต้ ฝ่ายทิศตะวันออก ฝ่ายทิศเหนือ ฝ่ายทิศตะวันตก ถึงแม้แต่ละฝ่ายจะอยู่ในเมืองจักรพรรดิเหมือนกันแต่ทั้งสี่ฝ่ายก็มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด


ถ้าหลิงฮันต้องการเข้าร่วมกับ สำนักนภาสีชาดในฐานะที่เขาเองก็เป็นผู้ปกครองทวีปคนหนึ่ง หากผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเป็นคนพูดออกหน้าให้ หลิงฮันก็สามารถเข้าร่วมสำนักได้อย่างไม่ยากเย็น


“เพียงแต่ข้าแนะนำให้เจ้าเข้าร่วมสำนักด้วยความสามารถของตัวเองดีกว่า” เซียงเฉิงหยินกล่าว “อีกสิบวันสำนักฝ่ายเหนือจะเปิดรับสมัครศิษย์ในรอบยี่สิบปี ถ้าเจ้าแสดงศักยะภาพที่โดดเด่นให้พวกเขาเห็น เจ้าก็จะเป็นที่จับตามองของสำนัก แต่ถ้าให้ท่านผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายออกหน้าให้ เจ้าจะเป็นได้เพียงศิษย์ธรรมดาทั่วไป”


จากที่หลิงฮันได้ยินมา ทั้งสี่ฝ่ายจะรับศิษย์แยกกันในทุกๆห้าปี จอมยุทธที่เข้าสมัครจะมีโอกาสในการทดสอบพลังของตัวเอง ยิ่งใครแสดงความสามารถออกมาได้ยอดเยี่ยมเท่าไหร่ พวกเขาก็จะได้รับความสนใจจากสำนักมากขึ้นเท่านั้นแถมยังได้รับทรัพยากรบ่มเพาะที่มากกว่าศิษย์ทั่วไป แน่นอนว่านั่นร่วมถึงทักษะบ่มเพาะระดับศักดิ์สิทธิ์ด้วย


ในปีนี้เป็นคราวที่สำนักฝ่ายเหนือจะเปิดรับสมัคร ในห้าปีหน้าจะเป็นคราวของสำนักฝ่ายตะวันออก และในห้าปีถัดต่อไปอีกก็จะเป็นคราวของสำนักฝ่ายใต้… พวกเขาจะเปิดรับศิษย์วนกับไปเช่นนี้เรื่อยๆ


แต่หากจะเข้าร่วมกับ สำนักนภาสีชาด จอมยุทธที่จะสมัครต้องมีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติเป็นอย่างน้อย สำนักแต่ละฝ่ายจะมีศิษย์อยู่ด้วยกันห้าระดับเรียงจากระดับทลายมิติ ระดับภูผาวารีขั้นต้น ระดับภูผาวารีขั้นกลาง ระดับภูผาวารีขั้นสูง ระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด


สำหรับศิษย์ที่บรรลุระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดแล้ว หากพวกเขายังต้องการบ่มเพาะพลังให้สูงขึ้น พวกเขาก็ต้องห้าทางเอาเอง อย่างเช่นไปเป็นผู้ติดตามของตัวตนระดับสูงหรือขุมอำนาจใหญ่ๆ หากไม่ต้องการเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องออกเดินทางตามหาวาสนาเอาเอง หากโชคดีอาจจะค้นพบทักษะบ่มเพาะระดับสูงก็ได้


หลิงฮันในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องทักษะบ่มเพาะระดับภูผาวารี หลังจากที่เขาเข้าร่วม สำนักนภาสีชาดแล้ว เขาจะสามารถเรียนรู้ทักษะที่ช่วยให้บ่มเพาะถึงระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดได้เป็นอย่างน้อย


ต้องเข้าร่วมให้ได้! หลิงฮันกล่าวในใจ


เมืองจักรพรรดิของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะถูกเรียกว่าเมืองสะเก็ดดารา เมืองแห่งนี้มองแล้วน่าตกตะลึงมาก มันมีขนาดใหญ่กว่าเมืองจักรพรรดิของทวีปฮงเทียนอย่างร้อยหนึ่งร้อยเท่า แถมในเมืองก็มีรูปแบบอาคมที่น่าสะพรึงกลัวติดตั้งอยู่


จากคำบอกเล่าของเซียงเฉิงหยิน ถ้าพระเจ้าคนใดที่มีพลังบ่มเพาะต่ำกว่าระดับดาราอาละวาด พวกเขาจะถูกรูปแบบอาคมจู่โจมทันทีโดยไม่อาจต่อต้านได้


เมื่อพวกเขามาถึงเมืองจักรพรรดิ แม้ว่าเซียงเฉิงหยินจะเป็นคนของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย แต่เขาก็ต้องยอมลงจากเรือรบและเดินเข้าเมืองแบบปกติ หลังจากสถานะของหลิงฮันถูกยืนยันแล้วทั้งสองคนก็เข้าเมืองและมุ่งหน้าไปหาผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย


ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายนั้นในฐานะที่เป็นหนึ่งในตัวตนที่ทรงพลังระดับต้นๆของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ ที่พักของเขาหรูหราไม่ด้อยไปกว่าวังที่เมืองจักรพรรดิของหลิงฮันแม้แต่น้อย แถมวัสดุที่ใช้สร้างยังล้ำค่ากว่าหลายร้อยหลายพันเท่า แม้จะมองจากตำแหน่งที่ห่างไกลหลิงฮันก็ยังมองเห็นมังกรและนกอมตะที่แท้จริงกำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือที่พัก


ถ้าหากที่พักของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายยังน่าอัศจรรย์ขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นพระราชวังของจักรพรรดินีล่ะ?


เซียงเฉิงหยินเดินไปยังประตูที่พัก เมื่อแสดงสถานะของตนเองเรียบร้อย เขาก็เข้าผ่านประตูไปกับพร้อมหลิงฮัน ดูเหมือนเขาจะมีสถานะค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เมื่อเข้าที่พักมาคนรับใช้ก็ต้อนรับพวกเขาด้วยท่าทีเคารพ


พวกเขาเดินสักพักก็มาถึงสวนที่งดงามแห่งหนึ่ง เซียงเฉิงหยินบอกให้ลหิงฮันนั่งรออยู่เก้าอี้หินก่อน จากนั้นก็ขอตัวไปรายงานผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย


หากพูดตามหลักแล้วหลิงฮันที่ยังไม่แม้แต่บรรลุระดับพลังของพระเจ้าย่อมไม่มีคุณสมบัติพบหน้าผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย แต่ด้วยสถานะของหลิงฮันที่เป็นจักรพรรดิของโลกใบเล็กและทำการเปิดสวรรค์ได้สำเร็จ ด้วยการทำเรื่องน่าอัศจรรย์เช่นนี้สำเร็จได้เขาจึงได้รับความสนใจจากผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย


หลิงฮันรอคอยอย่างเงียบๆ


‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ผ่านไปไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น หลิงฮันที่ลองหันหน้าไปดูก็เห็นรุ่นเยาว์สตรีเดินเข้ามา นางสวมชุดกระโปรงยาวสีเขียวอมฟ้าราวกับทะเลสาป นางมีทั้งใบหน้าและรูปร่างที่งดงาม


สตรีผู้นี้ดูมีอายุเพียงสิบหกหรือสิบเจ็ดปีเท่านั้น ดวงตาที่โค้งมนของนางทำให้นางดูเหมือนกับคุณหนูผู้สูงศักดิ์


หลิงฮันสัมผัสได้ว่านางมีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติขั้นเก้า ส่วนมีพลังต่อสู้เท่าไหร่นั้นยังไม่รู้


ถ้าสตรีผู้นี้มีอายุเพียงสิบหกหรือสิบเจ็ดปีจริง นั่นคงจะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากสำหรับโลกใบเล็ก


แต่ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ รุ่นเยาว์ที่มีพลังระดับทลายมิติไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ไม่ใช่ว่าเซียวเมี่ยวเหยียน อู่เกาเหยียนที่บุกรุกทวีปฮงเทียนก็มีพลังระดับทลายมิติขั้นเก้าหรอกรึ? ยิ่งกว่านั้นแล้วหากผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ล่ะก็ การที่รุ่นเยาว์ที่มีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติปรากฏตัวอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ


สตรีผู้นั้นจ้องมองหลิงฮันก่อนจะเดินเข้ามาหาเขา นางเดินวนสำรวจเขาอยู่หลายครั้งก่อนจะกล่าว “เจ้าเป็นทายาทของตระกูลไหนกัน ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่? จริงสิ หรือว่าเจ้าจะมาขอให้ช่วยเหลือเรื่องการเข้าร่วมสำนักนภาสีชาด?”


“จะบอกอะไรให้นะ รุ่นเยาว์ทุกคนน่ะควรจะพึ่งพาพลังของตนเอง อย่างเช่นข้าคนนี้ ถึงแม้ข้าจะเป็นถึงคุณหนูสี่แต่ข้าก็ยังเข้าร่วมสำนักตามกฎเหมือนจอมยุทธทั่วไป”


นี่คือบุตรสาวคนที่สี่ของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย?


เซียงเฉิงหยินไม่ได้เล่าเรื่องส่วนตัวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายให้เขาฟัง ดังนั้นหลิงฮันถึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีบุตรชายหรือบุตรสาวกี่คน หลิงฮันยิ้มและกล่าวตอบ “ข้าคิดว่าคุณหนูสี่คงเข้าใจผิดแล้ว”


ดูเหมือนนางจะเข้าใจว่าเขามาหาผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเพราะคิดจะให้อีกฝ่ายช่วยเหลือเรื่องเข้าร่วม สำนักนภาสีชาด


“ข้าพูดอะไรผิดรึ?” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงแปลกใจ


“ข้าวางแผนจะเข้าสำนักนภาสีชาดก็จริง แต่ข้าไม่ได้คิดจะให้ผู้อาวุโสผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายช่วยเหลืออันใด ข้าจะเข้าร่วมการทดสอบด้วยตนเอง” หลิงฮันยิ้ม


“โอ้ ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็คงลำบากหน่อยนะ!” นางหัวเราะ “จริงสิ มาลองประลองกับข้าหน่อยเป็นไง ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าแข็งแกร่งขนาดไหน”


หลิงฮันส่ายหัว “ข้าอายุเยอะกว่าเจ้า หากประลองกันมันจะดูเหมือนข้ารังแกเจ้าเสียเปล่า”


“ฮึ เจ้ามีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติขั้นเก้า ข้าเองก็มีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติขั้นเก้า ทำไมข้าจะต้องกลัวเจ้ารังแก?” สตรีผู้นี้เป็นคุณหนูเอาแต่ใจอย่างเห็นได้ชัด นางไม่รีรอและกระโดดปล่อยฝ่ามือเข้าใส่หน้าอกหลิงฮัน


แต่นางก็ไม่ใช่คนสะเพร่าและคนชั่วร้ายอะไร นางยั้งพลังเอาไว้บางส่วนเพื่อที่ว่าหากหลิงฮันรับฝ่ามือของนางไม่ไหว นางก็จะได้ยั้งมือและดึงพลังกลับมาได้ทันเพื่อที่หลิงฮันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ


หลิงฮันยกมือขึ้นมาปัดฝ่ามือที่พุ่งเข้ามา ร่างของเขาถูกทำให้ล่าถอยไปเจ็ดก้าวในขณะที่อีกฝ่ายล่าถอยไปเพียงสามก้าวเท่านั้น


ไม่ใช่ว่าหลิงฮันอ่อนแอกว่าอีกฝ่าย แต่เขาใช้พลังออกไปเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น


หลิงฮันพยักหน้าในใจ สตรีรุ่นเยาว์ผู้นี้มีพลังต่อสู้สิบหกดาวเหนือกว่าแปดราชันในโลกใบเล็กเสียอีก แต่จากที่เห็น ดูเหมือนนางจะยังมีช่องว่างให้พัฒนาอยู่อีก แม้พลังต่อสู้เมื่อใช้ทักษะออกมาแล้วจะไม่ถึงยี่สิบดาว แต่หากเป็นสิบเก้าดาวก็พอจะเป็นไปได้

 

 

 


ตอนที่ 885

 

“โอ้ ดูไม่ออกเลยนะว่าเจ้าก็พอมีความสามารถอยู่บ้าง!” นางกล่าวอย่างประหลาดใจ


การจะเพิ่มพลังต่อสู้เพียงหนึ่งดาวนั้นเป็นเรื่องยากราวกับยกสวรรค์ปฐพี สิ่งนี้แม้จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น จอมยุทธระดับทลายมิติส่วนใหญ่จะมีพลังต่อสู้เก้าดาว ในขณะที่มีบ้างส่วนน้อยที่เกินสิบดาว แต่คนที่ขัดเกลาพลังต่อสู้ให้ถึงสิบสี่ดาวได้คนนั้นจะนับว่าเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง


ในจอมยุทธระดับทลายมิติทั้งหมดมีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่มีพลังต่อสู้สูงกว่าสิบดาว และหนึ่งเปอร์เซ็นต์นั้นคนที่ยกระดับพลังให้สูงถึงสิบดาวดาวได้ก็มีเพียงหนึ่งในหมื่น


ถึงแม้นางจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกไป แต่ฝ่ามือเมื่อครู่ก็สมควรมีพลังต่อสู้สิบสามดาวเป็นอย่างน้อย ดังนั้นการที่หลิงฮันสามารถหักล้างการโจมตีของนางได้จึงทำให้นางตกตะลึงอย่างมาก


“เข้ามาอีก!” นางรู้สึกตื่นเต้นและกระหน่ำโจมตีใส่หลิงฮันราวกับพายุทันที


หลิงฮันรู้ดีว่าอีกฝ่ายมีนิสัยคุณหนูผู้สูงศักดิ์ เขาไม่อาจล่วงเกินนางได้ หากเขาแพ้ก็ดีไปแต่ถ้าเขาชนะนาง นางคงจะไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ แต่เขาเองก็เป็นคนที่มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ทำไมเขาจะต้องยอมแพ้อีกฝ่ายด้วย? สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงค่อยๆยื้อสถานการณ์ไปเรื่อยๆ


เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนเองทำอะไรหลิงฮันไม่ได้ นางก็เคลื่อนไหวมืออย่างคล่องแคล่วและใช้พลังทั้งหมดออกมาเพื่อจะได้โค่นหลิงฮัน


โชคร้ายที่ในตอนนี้พลังต่อสู้ติดตัวของหลิงฮันบรรลุสิบหกดาวแล้ว ดังนั้นต่อให้เขาไม่ใช้ทักษะยุทธใดๆเขาก็สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ไม่ยาก


แต่หลิงฮันย่อมไม่ทำเช่นนั้น เขาพยายามยื้อสถานการณ์ให้ตนเองดูไม่เก่งกว่าหรืออ่อนกว่าเกินไป ดังนั้นถึงแม้อีกฝ่ายจะดูเหมือนกับว่ากำลังได้เปรียบอยู่เล็กน้อย แต่นางไม่สามารถโค่นเขาได้เสียที


สิ่งที่หลิงฮันได้รับรู้คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ที่แข็งทนทานมาก


หลิงฮันลองมองดูรอบๆ ถ้าหากจอมยุทธระดับทลายมิติสองคนสู้กันในโลกเบื้องล่าง ไม่ต้องกล่าวถึงสวนที่เขาอยู่ในตอนนี้เลย เกรงว่าพื้นที่และเมืองโดยรอบคงจะถูกปัดกระจุยไปแล้ว


แต่ตอนนี้ล่ะ? คลื่นพลังที่เกิดจากการต่อสู้ของพวกเขาทำได้เพียงสร้างลมให้ใบไม้ในสวนพลิ้วไหว หลิงฮันรู้สึกราวกับว่าตนเองกลับกลายไปเป็นจอมยุทธระดับหลอมกายา


‘ปัง ปัง ปัง’ ทั้งสองคนปะทะกันอย่างดุเดือด แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่โจมตีจะเป็นสตรีรุ่นเยาว์ ส่วนหลิงฮันนั้นเป็นฝ่ายป้องกัน สุภาพบุรุษไม่ควรต่อสู้กับสตรี หากเขาชนะนางได้แล้วเขาจะได้อะไร?


คนที่หลิงฮันต้องการโค่นคือห้านิกายโบราณกับตระกูลอ้าวต่างหาก และเป้าหมายในอนาคตของเขาคือการอยู่เหนือเหล่าจอมยุทธของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์


“เหว่ยเหว่ย หยุดมือได้รึยัง?” เสียงอันองอาจดังขึ้น


หลิงฮันเป็นฝ่ายป้องกันมาตั้งแต่แรกแล้ว ตราบใดที่อีกฝ่ายหยุดมือ การต่อสู้ก็จะจบลง


“ไม่ ข้าจะโค่นเขาให้ได้! อีกแค่นิดเดียวข้าก็จะชนะแล้ว!” นางกล่าวและบุ้ยปาก ท่าทางของนางน่ารักเป็นอย่างมาก


ร่างสองร่างเดินออกมาจากที่พักมายังสวน ร่างหนึ่งคือชายที่ดูมีอายุสี่สิบปี เขาสวมชุดคลุมประณีต กลิ่นอายของเขาทรงอำนาจเป็นอย่างยิ่ง อีกร่างหนึ่งคือเซียงเฉิงหยิน เขานำมือทั้งสองข้างกุมไว้ที่ต้นขาราวกับเป็นคนรับใช้


ไม่บอกก็รู้ว่าชายวัยกลางคนผู้นี้คือผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย หลี่เฉิง หรืออีกชื่อหนึ่งคืออาวุโสหลี่ จอมยุทธระดับดารา


“เด็กน้อย เจ้าสู้กันมาตั้งนานยังไม่รู้อีกรึว่าชายคนนั้นกำลังออมมือให้เจ้า?” หลี่เฉิงยิ้ม


“ว่าไงนะ?” นางหยุดมือและจ้องเขม็งไปยังหลิงฮัน “บอกความจริงมาซะ เจ้าออมมือให้ข้ารึไม่?”


“คุณหนูสี่มีพรสวรรค์และพลังที่ยอมเยี่ยมมาก” หลิงฮันไม่ตอบคำถามแต่เบี่ยงไปกล่าวชื่นชมอีกฝ่ายแทน คำพูดของเขาไม่ใช่คำเยินยอ เพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็ยอดเยี่ยมเช่นนั้นจริงๆ


นางไม่สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าหลิงฮันตอบไม่ตรงคำถาม คอของนางเชิดขึ้นอย่างภาคภูมิใจราวกับหงส์


ชื่อของนางคือหลี่เหว่ยเหว่ย บุตรสาวคนที่สี่ซึ่งก็คือบุตรคนเล็กสุดของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย ในทางตรงกันข้าม ผู้อาวุโสนั้นกลับมีบุตรชายอยู่ถึงแปดคน


อาวุโสหลี่กล่าว “เด็กน้อย เจ้ารู้รึไม่ว่าชายหนุ่มผู้คนนั้นเพิ่งมาจากโลกใบเล็ก”


“โอ้ เจ้าเพิ่งทะลวงมิติขึ้นมาสินะ!” หลี่เหว่ยเหว่ยไม่ตกใจอะไรมาก ในความรู้ของนาง ในรอบหนึ่งปีจะมีจอมยุทธหลายพันคนที่ขึ้นมาจากโลกใบเล็กหลังจากบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าแล้ว


“แต่เจ้าบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าแล้ว ความกล้าของเจ้าช่างน้อยนิด!” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงดูถูกเล็กน้อย ใครก็ตามที่บรรลุระดับทลายมิติย่อมมีคุณสมบัติบดขยี้ชั้นมิติและขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้จะเป็นเพียงระดับทลายมิติขั้นห้าหรือขั้นหกก็สามารถทำได้ แต่หลิงฮันกลับรอให้ตนเองบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าก่อนถึงจะขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์


อาวุโสหลี่เปิดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เหว่ยเหว่ย เรามาพนันกันดีไหม?”


“ท่านพ่อต้องการพนันอะไรรึ?” เหว่ยเหว่ยถาม


“พนันว่าเจ้าจะชนะหลิงฮันได้รึไม่” อาวุโสหลี่หัวเราะ “ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะไม่เจ้ากี้เจ้าการกับเจ้าอีกต่อไป เจ้าอยากไปเล่นที่ไหนก็มีอิสระเต็มที่!”


“ตกลง อย่าผิดสัญญาทีหลังล่ะ!” หลี่เหว่ยเหว่ยมีความสุข นางต้องการจะออกจากเมืองจักรพรรดิไปท่องเที่ยวโลกภายนอกมาตลอด แต่บิดาของนางกลับเป็นกังวลและห้ามไม่ให้นางไป


นางกลัวว่าบิดาจะเปลี่ยนใจเลยรีบเตรียมตัวเปิดศึกโจมตีหลิงฮัน


อาวุโสหลี่เอ่ยต่อ “แต่ถ้าหากเจ้าแพ้…”


“ข้าจะแพ้ได้อย่างไร?” หลี่เหว่ยเหว่ยพูดแทรก ในดินแดนแห่งนี้ คงมีนางคนเดียวที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติแต่กล้าต่อเถียงกับจอมยุทธระดับดารา


อาวุโสหลี่ประคบประหงมลูกสาวคนนี้มาก ถึงแม้เขาจะมีบุตรอีกสาวสามคน แต่บุตรสาวสามคนแรกได้แต่งานไปเป็นพันเป็นหมื่นปีแล้ว ส่วนบุตรสาวคนนี้เพิ่งจะเกิดมาได้ไม่กี่สิบปี ดังนั้นเขาจึงเป็นห่วงนางมากกว่าบุตรสาวคนไหน


“ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าจะต้องมีพลังระดับภูผาวารีเป็นน้อยถึงจะออกจากเมืองจักรพรรดิได้ ส่วนถ้าต้องการออกจากอาณาเขตของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ เจ้าจะต้องมีพลังระดับสุริยันจันทรา” อาวุโสหลี่ยิ้ม


“ตกลง!” หลี่เหว่ยเหว่ยพยักหน้า ต้องนี้นางต้องการชนะหลิงฮันแล้ว นางอยากจะออกจากเมืองจักรพรรดิและท่องเที่ยวไปทั่วโดยมีชีวิตอิสระ นางรีบพุ่งโจมตีใส่หลิงฮันอย่างรวดเร็ว


หลิงฮันยังคงทำเพียงป้องกันเช่นเดิม เขาไม่ต้องการเป็นเครื่องมือพนันของพ่อลูก


“หลิงฮัน เจ้ามีหนทางเดียวคือชนะ!” อาวุโสหลี่กล่าวกับหลิงฮัน ถึงแม้ใบหน้าเขาจะประดับไว้ด้วยรอบยิ้เขาก็ยังน่าเกรงขามอยู่ดี เหตุผลแรกคือเป็นเพราะเขาเป็นจอมยุทธระดับดารา ส่วนอีกผลหนึ่งคือเขามีสถานะเป็นถึงผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ


หลิงฮันถอนหายใจ ถ้าเขาไม่ทำตาม เขาก็คงถูกผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายทุบตีเป็นแน่


เขาเพิ่มพลังต่อสู้ของตนเองขึ้นมาเล็กน้อยและกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบทันที แต่เขาก็ยังไว้หน้าหลี่เหว่ยเหว่ยโดยการแลกกระบวนท่าถึงหนึ่งร้อยกระบวนท่าก่อนจะเผด็จศึก


หลีเหว่ยเหว่ยยอมรับไม่ได้ เป็นไปได้อย่างไรที่จอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้าที่มาจากโลกใบเล็กจะมีพลังต่อสู้เหนือกว่านาง? นางส่ายหัวก่อนจะกล่าว “ข้าไม่ยอมรับ มาสู้กันอีกครั้ง”


อาวุโสหลี่หัวเราะ “เด็กน้อย หลิงฮันคือจักรพรรดิของโลกใบเล็ก เขาเปิดสวรรค์สำเร็จเมื่อไม่กี่วันก่อนและพาโลกใบเล็กทั้งใบขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้”


“อะไรกัน!” หลี่เหว่ยเหว่ยรู้ตัวแล้วว่าเข้าใจหลิงฮันผิด ที่เขารอให้ตนเองบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าก่อนไม่ใช่เพราะเขาขี้ขลาดแต่เป็นเพราะการจะเปิดสวรรค์จำเป็นต้องมีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติขั้นเก้า


การที่เปิดสวรรค์ได้ หลิงฮันจะต้องเป็นคนที่มีศักยะภาพไร้ขีดจำกัด!


หลังโดนทั้งหลิงฮันและตาแก่ของนางหลอก


น่ารังเกียจ! ข้าโมโหแล้วนะ!

 

 

 


ตอนที่ 886

 

หลี่เหว่ยเหว่ยจ้องมองหลิงฮัน


ถึงแม้บิดาของนางจะอยากชนะพนันกับนางขนาดไหน แต่เขาถึงขนาดต้องหาคนแปลกหน้ามาแกล้งนางเลยรึ? แล้วก็ชายหนุ่มตรงหน้านางด้วยด้วย ข้าไปล่วงเกินเจ้าตอนไหนทำไมเจ้าถึงรวมหัวทำกับข้าเช่นนี้?


“ฮ่าๆ ในเมื่อเจ้าแพ้พนันแล้วเจ้าก็จงไปอยู่ในสำนักนภาสีชาดเสียแต่โดยดี ในอนาคตอย่าคิดจะหนีไปเที่ยวเล่นอีก!” อาวุโสหลี่กล่าว เขากลัวเสียเกินกว่าบุตรสาวของเขาจะระเบิดอารมณ์ออกมาและไม่ทำตามสัญญา


หลี่เห่วยเหว่ยบุ้ยปากพึมพำ นางไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของบิดาได้… แต่กับรุ่นเยาว์หนุ่มผู้นี้ นางไม่บอมปล่อยไปเฉยๆแน่!


หลิงฮันที่เห็นท่าทางและแววตาของนางย่อมรู้ว่าคุณหนูผู้นี้ต้องไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆแน่นอน


แต่เขามีทางอื่นให้เลือกด้วยรึไง? ถ้าเขาจงใจแพ้หลี่เหว่ยเหว่ยโดยไม่ทำตามที่ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายคาดหวัง ผลที่ตามมาคงจะย่ำแน่กว่านี้อีก


ถ้าเป็นแค่คุณหนูผู้นี้คนเดียวเขาไม่หวาดกลัวหรอก แต่ที่เขากลัวก็คืออีกฝ่ายจะไปขอความช่วยเหลือจากจอมยุทธระดับพระเจ้าต่างหาก แม้เขาจะมีหอคอยทมิฬที่สามารถปลดปล่อยอำนาจที่น่าสะพรึงออกมาได้ แต่ถ้าทำเช่นนั้นความลับที่เขาครอบครองหอคอยทมิฬก็จะถูกเปิดเผย


“หวังว่านางจะไม่บังคับให้ข้าต้องจนมุม!” หลิงฮันกล่าวในใจ แม้ภายนอกเขาจะดูเป็นคนง่ายๆ แต่ลึกๆเขาก็ยังมีความยิ่งทะนงอยู่เช่นกัน


“จริงสิเหว่ยเหว่ย เจ้าควรจะเรียนรู้หลายๆอย่างจากหลิงฮันเอาไว้ด้วย การที่เขาเปิดสวรรค์ได้นั้นหมายความว่าพรสวรรค์ในวิถีวรยุทธของเขาสูงกว่าเจ้าไม่รู้กี่เท่า!” อาวุโสหลี่ใช้หลิงฮันเป็นแรงกระตุ้นบุตรสาวตนเอง


หลี่เหว่ยเหว่ยยังคงพึมพำและจ้องเขม็งมายังหลิงฮัน แม้นางจะไม่พอใจแต่นางก็ปฏิเสธความสงสัยในใจตัวเองไม่ได้ หลิงฮันดูแล้วก็ไม่ได้มีสามหัวหกแขนแท้ๆ แต่เขาสามารถเปิดสวรรค์ได้อย่างไร?



ทุกๆปีจะมีจอมยุทธระดับทลายมิติขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์นับพันคน แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ขึ้นมาผ่านการเปิดสวรรค์… อย่างน้อยในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น


ชายที่สร้างประวัติศาสตร์ผู้นี้หากเป็นก่อนหน้านี้นางคงจะสนใจในตัวเขาอย่างมาก แต่ตอนนี้ความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของนางคือจะจัดการหลิงฮันอย่างไรดี เขาต้องได้รับโทษข้อหารังแกข้าคนนี้!


นางเค้นเสียงและกล่าว “ก็เป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติที่แข็งแกร่งกว่าข้าเท่านั้น หากเขายังไม่ทะลวงผ่านเป็นพระเจ้าแม้จะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ไม่มีความหมาย! ระดับพลังของพระเจ้านั้นมีทั้งหมดห้าระดับใหญ่ยี่สิบขั้นย่อย การจะทะลวงผ่านแต่ละระดับนั้นยากเย็นแสนเข็น ข้าไม่เห็นว่าเขาจะมีอะไรให้น่าภาคภูมิใจเลย”


อาวุโสหลี่หัวเราะและส่ายหัว “ต่อให้เจ้าเป็นฝ่ายแพ้ก็เถอะ เจ้าจำเป็นต้องพูดจาดูถูกเช่นนั้นเลยรึ?”


“ฮึ ข้าก็แค่ประมาทไปเท่านั้น!” หลี่เหว่ยเหว่นเดินไปหาอาวุโสหลี่ก่อนจะกันกลับมาที่หลิงฮันและชี้นิ้ว “เจ้าที่ชื่อฮันอะไรนั่นน่ะ อีกสิบวันพวกเราจะประลองกันอีกครั้งที่การทดสอบเข้าร่วมสำนักฝ่ายเหนือ ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะชนะเจ้าไม่ได้!!”


หลิงฮันยิ้ม “ตกลง งั้นก็พยายามเข้าล่ะ” เขาตอบกลับลวกๆราวกับไม่คิดอะไร


หลี่เหว่ยเหว่ยโกรธจนอยากจะกระโดดกระทืบพื้น ชายคนนี้ไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลยรึไง? เห็นแบบนี้แต่นางก็เป็นหนึ่งในสามสตรีที่งดงามที่สุดของเมืองจักรพรรดิเชียวนะ ไม่มีใครรู้ว่ามีทายาทกี่ตระกูลตามขอนางแต่งงาน แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันกลับไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลย


นอกจากจะเป็นบ้านนอกแล้ว สายตาของเจ้ายังไม่ต่างอะไรกับสุนัข!


ไม่ได้… ข้ารอถึงสิบวันไม่ไหว ถ้าข้าต้องอดกลั้นอารมณ์โกรธที่ค้างคาอยู่นี้ไปตลอดสิบวัน นางจะต้องกลายเป็นบ้าแน่นอน!


หลี่เหว่ยเหว่ยหันหลังเดินจากไปทันที นางต้องหามาช่วยให้ได้ไม่เช่นนั้นนางคงไม่อาจนอนหลับไปทั้งคืน


อาวูโสหลี่ที่เห็นเช่นนั้นก็ทำได้เพียงส่ายหัวและยิ้ม แต่ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนสีหน้าก่อนจะหันมาพูดกลับหลิงฮัน “เล่าเรื่องโลกใบเล็กและการเปิดสวรรค์ให้ข้าฟังทีได้รึไม่?”


หลิงฮันเล่าเรื่องราวแทบจะทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง มีเพียงเรื่องสำคัญบางเรื่องเท่านั้นที่เขาไม่สามารถพูดได้อย่างเช่น เรื่องของหอคอยทมิฬ เรื่องที่เขากลับมาเกิดใหม่และเรื่องของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ เพราะอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการเปิดสวรรค์อยู่แล้ว


อาวุโสหลี่ฟังอย่างตั้งใจ หลังจากฟังรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการเปิดสวรรค์ครบเขาก็พยักหน้าและกล่าว “จากที่เฉิงหยินเล่า ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการเข้าร่วมสำนักนภาสีชาดด้วยตัวเองสินะ?”


“ขอรับ!” หลิงฮันตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม เขาจะไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ถึงจะมีพลังเทียบเคียงกับผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายได้ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงแสดงความเคารพต่ออีกฝ่าย


ในโลกวรยุทธ คนที่แข็งแกร่งย่อมเป็นที่เคารพ แต่แน่นอนว่าหลิงฮันไม่มีทางคุกเข่าให้ใครเด็ดขาด อย่างเขาก็จะทำแค่ผสานมือเคารพเท่านั้น


อาวุโสหลี่ยิ้ม “ในเมื่อเจ้าสามารถเปิดสวรรค์ได้ พลังต่อสู้ของเจ้าก็สมควรจะมีถึงยี่สิบดาว แม้ในชีวิตจริงพลังต่อสู้จะเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด แต่การทดสอบของสำนักนภาสีชาดนั้นไม่ใช่แค่พลังต่อสู้ แต่ต้องมีศักยภาพด้านวรยุทธที่สูงส่ง มีพลังวิญญาณที่ยอดเยี่ยม และมีทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่น หากเจ้าต้องการติดสามอันแรกคงจะเป็นเรื่องที่ยากมาก”


เขาประเมินความสามารถในการต่อสู้ของหลิงฮันไว้ไม่สูงเท่าไหร่ จอมยุทธที่มาจากโลกใบเล็กจะมีศักยะภาพทัดเทียมกับจอมยุทธของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร? สิ่งที่จอมยุทธจากโลกใบเล็กไม่มีคือการแนะนำจากพระเจ้า


ที่สำคัญที่สุดคือวิญญาณ จอมยุทธจากโลกใบเล็กบกพรองให้เรื่องนี้มากที่สุด พวกเขาสามารถเริ่มขัดเกลาพลังวิญญาณได้หลังจากบรรลุระดับทลายมิติ แต่จอมยุทธของดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างเช่นหลี่เหว่ยเหว่ยนั้นตั้งแต่เกิดมานางก็มีสมบัติมากมายที่ใช้เพิ่มพลังวิญญาณ แม้นางจะอายุสิบกว่าปีแต่นางก็มีวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าจอมยุทธจากโลกใบเล็กไม่รู้กี่เท่า


ดังนั้นถึงแม้จะเป็นหลิงฮัน ในการทดสอบเข้าร่วมสำนักนั้นไม่ต้องกล่าวถึงอันดับหนึ่งเลย แค่สิบอันดับแรกก็ยากมากแล้ว


“ข้ายินดีที่จะลองดู” หลิงฮันกล่าว


เขามั่นใจในศักยภาพของตนเองมาก


อาวุโสหลี่พยักหน้า ด้วยระดับพลังบ่มเพาะและสถานะของเขา การที่เขามาพูดคุยกับหลิงฮันซึ่งๆหน้าก็ถือว่าให้เกียรติมากแล้ว แต่เหตุผลหลักที่เขาต้องการพูดคุยกับหลังฮันจะเป็นเพราะเรื่องเปิดสวรรค์ เหตุการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง


เมื่อเห็นความมั่นของหลิงฮัน อาวุโสหลี่ก็ไม่กล่าวอะไรต่อ


“ในช่วงสิบวันนี้เจ้าพักที่นี่ไปก่อนแล้วกัน เมื่อเข้าสำนักนภาสีชาดได้เจ้าค่อยย้ายออก”


หลิงฮีนพยักหน้าและกล่าว “ต้องรบกวนผู้อาวุโสแล้ว”


เซียงเฉิงหยินที่ไม่พูดอะไรมาตลอดเอ่ยขึ้น “เชิญผู้อาวุโสไปพักผ่อนก่อน ส่วนหลิงฮันข้าจะเป็นคนพาไปห้องพักเอง”


เซียงเฉิงหยินกับหลิงฮันเดินออกไป


เซียงเฉิงหยินกล่าวด้วยเสียงเบา “ถึงแม้พรสวรรค์ของเจ้าจะไม่โดดเด่น แต่เจ้าก็ขึ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาโดยการเปิดสวรรค์ ข้าคิดว่าเจ้าก็น่าจะพอมีศักยภาพอยู่บ้าง! ถ้าเจ้าหวังจะได้รับการประเมินที่ดีในการทดสอบ เจ้าก็ต้องฝึกฝนอย่างหนัก เพราะอย่างไรการทดสอบก็ใกล้จะมาถึงแล้ว”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)