Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 815-826
ตอนที่ 815
มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ห้านิกายโบราณจะบุกมาฆ่าหลิงฮัน ในทางกลับกัน การที่พวกเขามาช้าเป็นเรื่องที่หลิงฮันคาดไม่ถึง และคิดว่าห้านิกายโบราณน่าจะยุ่งอยู่กับจักรวรรดิจันทราม่วง
หลิงฮันรู้สึกสงสัยว่าพวกมันส่งใครมา?
หลิงฮันเดินออกมาจากพระราชวัง และเห็นเรือรบลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือพระราชวังและมีธงอยู่บนเรือรบเป็นรูปอะไรบางอย่างซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นมังกรหรืองู
นิกายมังกรปฐพี!
เขาได้ลงมือฆ่าเจี่ยหมิง มันก็สมเหตุสมผลที่นิกายมังกรปฐพีจะส่งจอมยุทธที่แข็งแกร่งออกมาเพื่อฆ่าเขา
“หึ่ม เป็นแค่มดปลวกแต่กล้าที่จะก่อตั้งจักรวรรดิ!” เสียงที่เย็นชาดังมาจากฟากฟ้า
เสียงนั่นมันค่อนข้างคุ้นเคยทีเดียว
ราชันอสรพิษมาร!
หลิงฮันจดจำได้ทันที เมื่อราชันซากศพสิบห้าตาถือกำเนิด ห้านิกายโบราณส่งจอมยุทธระดับทลายมิติออกมาสามคน และคนที่นิกายมังกรปฐพีส่งออกไปคือราชันอสรพิษมาร
“โอ้ว เจ้าคิดจะมากัดข้าหรือ?” หลิงฮันถามพรางหัวเราะ
“ราชันอสรพิษมาร โปรดให้ข้าเป็นคนจัดการกับมันด้วยตัวเองเถิด!” บนเรือรบเสียงของฉือชิ่วเหรินดังขึ้น
“ย่อมได้ ข้าจะให้เจ้าเป็นคนจัดการ หากเจ้าสามารถจัดการมันได้ เจ้าจะสามารถทะลวงผ่านระดับทลายมิติได้ในเวลาอันสั้น และด้วยพรสวรรค์ของเจ้ากับด้วยความช่วยเหลือของนิกาย มันคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเจ้าที่จะทะลวงผ่านระดับทลายมิติขั้นเก้าภายในสิบปี” ราชันอสรพิษมารกล่าว
แม้ว่าฉือชิ่วเหรินจะไม่ได้เป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิกายกระบี่ไร้เทียมทาน แต่เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการยอมรับจากกระบี่ไร้เทียมทาน ด้วยเหตุนี้ แม้กระทั่งราชันอสรพิษมารยังคาดหวังกับเขาไว้มาก นั่นเป็นเพราะบรรพบุรุษของนิกายกระบี่ไร้เทียมทานยังมีชีวิตอยู่!
“ขอบคุณ!” ฉือชิ่วเหรินกระโดดลงมาจากเรือรบและยืนอยู่บนท้องฟ้า “หลิงฮัน ข้าจะเป็นคนจัดการเจ้าเอง!”
หลิงฮันส่ายหัวและพูดว่า “เจ้าเป็นคนไร้ยางอายยิ่งนัก เห็นได้ชัดว่าระดับพลังของเจ้าอยู่บนจุดสูงสุดของระดับสวรรค์แล้ว แต่เจ้ายังอยากจะท้าข้าสู้”
ฉือชิ่วเหรินยิ้มและพูดว่า “หรือว่าเจ้าจะกลัวข้า?”
เหอะ หลิงฮันทะยานขึ้นไปในอากาศและเผชิญหน้ากับฉือชิ่วเหริน “เข้ามา ในฐานะจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลิง ข้าจะแสดงให้เห็นว่าข้าจะจัดการเจ้ายังไง!”
ฉือชิ่วเหรินแสยะยิ้มและพูดว่า “จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลิงอะไรกัน วันนี้นี่แหละข้าจะสังหารเจ้าด้วยกระบี่ของข้า!”
หลิงฮันเอียงหูและพูดว่า “นี่เจ้าพูดว่าจะสังหารข้ามากี่ครั้งละ? ข้าเบื่อที่จะได้ยินแล้ว เจ้าไม่คิดที่จะพูดอะไรอย่างอื่นเลยหรือไง?”
“เช่นนั้น ตายซะ!” ฉือชิ่วเหรินกระโจนออกไปพร้อมกับกระบี่ไร้เทียมทานที่หมายจะเอาชีวิตหลิงฮัน
ตู้ม เพียงแค่ตวัดกระบี่ การโจมตีก็มาถึงด้านหน้าหลิงฮันแล้ว นี่แสดงให้เห็นว่าการโจมตีของเขามันรวดเร็วแค่ไหน
ฉือชิ่วเหรินเป็นคนที่ไม่อาจดูแคลนได้ เพียงแค่ผ่านไปไม่กี่วัน เขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ระดับพลังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพลังต่อสู้และความเข้าใจในวิถีแห่งกระบี่
ดาบสังหารในมือของหลิงฮันกำลังสั่นราวกับว่ามันพยายามที่จะบินออกไป
แก่นแท้แห่งกระบี่!
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและใช้พลังของแก่นแท้แห่งดาบ และดาบสังหารของเขาก็หยุดนิ่งกลับมาเป็นปกติ ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปปะทะกับกระบี่ไร้เทียมทานของฉือชิ่วเหรินซึ่งหน้า
แต่การโจมตีของฉือชิ่วเหรินนั้นรวดเร็วมาก แม้แต่สายตายังจับภาพได้แค่เงาของกระบี่ แต่ร่างกายก็ไม่อาจเคลื่อนไหวตามทัน และทำได้แค่โคจรพลังปราณออกมาป้องกัน
แต่หลิงฮันฝึกฝนบ่มเพาะกายา ทำให้กายหยาบของเขาเทียบได้กับจอมยุทธระดับสวรรค์ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรับการโจมตีของฉือชิ่วเหริน
ดาบและกระบี่ปะทะกันอย่างดุเดือด และแสงสว่างที่เกิดขึ้นจากการปะทะสว่างไสวเท่ากับดวงอาทิตย์
หลิงฮันสวนกลับการโจมตีอย่างรุนแรง ตู้ม ฉือชิ่วเหรินกระเด็นออกไป เขายิ้มและพูดว่า “กระบี่ของเจ้ารวดเร็วมาก แต่ดูเหมือนว่าพลังของมันจะยังไม่เพียงพอ!”
ไร้สาระ พลังและความเร็วไม่สามารถควบคู่กันได้ การที่กระบี่ของเขารวดเร็วมาก แน่นอนว่าพลังของมันจะต้องลดน้อยลง
เขาลอยกลับมาและจับกระบี่ไร้เทียมทานอย่างมั่นคง เจตจำนงอันไร้ที่สิ้นสุดของกระบี่ไหลผ่านร่างกายของเขากลายเป็นกระบี่นับหมื่นเล่มอยู่รอบตัวเขา
กระบี่ทุกเล่มแฝงไปด้วยเจตจำนงแห่งกระบี่ แม้มันจะไม่สามารถทำอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ได้ แต่เหมือนกับว่ามันสามารถตัดผ่านดวงวิญญาณได้ ซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก
“รับการโจมตีของข้าซะ!” ฉือชิ่วเหรินตะโกนอย่างดุเดือด
หลิงฮันไม่กล้าประมาท พลังของกระบี่พวกนั้นน่ากลัวมาก และเขายังตั้งท่าพร้อมที่จะปลดปล่อยการโจมตีอันรุนแรงออกมา นั่นคือดาบลึกลับสามพันเล่ม
“หืม?” บนเรือรบ ราชันอสรพิษมารรู้สึกประหลาดใจ และพบว่ากระบวนท่าที่หลิงฮันกำลังจะใช้มันทำให้เขารู้สึกคุ้นเคย “นี่มัน…ทักษะสามดาบเร้นลับ!”
นี่คือหนึ่งในทักษะดาบที่ทรงพลังที่สุดของนิกายดาบสวรรค์
ฉือชิ่วเหรินเค้นเสียงและโจมตีใส่หลิงฮันทันที ในขณะนั้น สวรรค์และปฐพีต่างสูญเสียสีสันของมันไป หลงเหลือไว้แค่ความมืดของกระบี่ไร้เทียมทาน และแสงอันไร้ที่สิ้นสุดที่พุ่งตรงเข้าหาหลิงฮัน
แม้ว่าหลิงฮันจะลืมตา เขาก็ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าฉือชิ่วเหรินอยู่ตรงไหนและเห็นแค่การโจมตีของมันทำเท่านั้นที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้
แต่หลิงฮันไร้ซึ่งความหวาดกลัว เขาเพียงแค่หลับตาลงและใช้ใจมอง
แก่นแท้แห่งดาบ!
มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย ดาบสังหารของเขาเริ่มกวัดแกว่ง และปลดปล่อยทักษะดาบลึกลับสามพันเล่มออกไปกลายเป็นลำแสงที่พุ่งเข้าหาฉือชิ่วเหริน
ในทางทฤษฎี กระบวนท่าของฉือชิ่วเหรินทรงพลังกว่าที่จะฆ่าศัตรูเพียงคนเดียว ในขณะที่ทักษะดาบลึกลับสามพันเล่มเหมาะแก่การโจมตีเป็นวงกว้าง เพราะพลังของมันจะกระจายออกไปดังนั้นพลังทำลายล้างจึงไม่ทรงพลังเท่า แต่ว่าตอนนี้หลิงฮันโจมตีออกมาด้วยดาบสังหาร ซึ่งแค่พลังของดาบสังหารเพียงอย่างเดียวก็เป็นภัยคุกคามต่อฉือชิ่วเหรินแล้ว ดังนั้นเมื่อใช้ทักษะดาบลึกลับสามพันเล่มออกมาจากดาบสังหาร พลังทำลายล้างของมันจึงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ทั้งสองฝ่ายต่างปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดออกมา
ตู้ม!
การปะทะกันของกระบี่และดาบทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นบนท้องฟ้า ในขณะนั้น ทุกคนกลายเป็นตาบอดและหูหนวกชั่วคราว สิ่งที่พวกเขาเห็นคือโลกสีขาวล้วนและเกิดเสียงกระหึ่มอยู่ในหูของพวกเขา
เมื่อแสงสว่างและเงาจางหายไป พวกเขาเห็นฉือชิ่วเหรินกระเด็นออกไปหลายร้อยฟุต และมีบาดแผลเต็มตัวพร้อมกับโลหิตที่ไหลออกมาไม่หยุด ราวกับว่าเขาไม่สามารถหยุดมันได้
บาดแผลที่เกิดขึ้นจากดาบสังหาร มันจะห้ามเลือดไม่ให้หยุดไหลง่ายๆได้อย่างไร?
ส่วนหลิงฮัน เสื้อผ้าของเขาซีกขาดเล็กน้อย แต่ร่างกายของเขานั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่จุดเดียว หลังจากที่กายหยาบของเขาอยู่ที่ระดับสวรรค์ มันทำให้กายหยาบของเขาแข็งแกร่งเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบ แล้วเขาจะได้รับบาดเจ็บง่ายๆได้อย่างไร?
สภาพของพวกเขาทั้งสองคนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนที่ 816
ฉือชิ่วเหรินเปลี่ยนสีหน้า พลังต่อสู้ของเขานั้นไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าหลิงฮัน แต่กลับกันความแข็งแกร่งของร่างกายนั้นพวกเขาต่างกันราวฟ้ากับเหว
เขาสูดหายใจลึกและตั้งจิตใจมุ่งมั่น หากเขาสามารถโค่นหลิงฮันลงได้ทั้งๆที่ตนเองเสียเปรียบ บางทีเขาอาจจะก้าวข้ามคอขวดในตอนนี้และบรรลุระดับทลายมิติเลยก็ได้
“จงสู้ต่อ!” เขากล่าวกระตุ้นตนเอง ผมของเขาแผ่สยายพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย
“แล้วแต่เจ้า!” หลิงฮันเองก็อยากสู้ต่อเช่นกัน แก่นแท้แห่งกระบี่ของฉือชิ่วเหรินบรรลุระดับสูงแล้ว การต่อสู้กับอีกฝ่ายเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาแก่นแท้แห่งดาบของเขา
‘ตูม ตูม ตูม!’
ทั้งสองคนเข้าห้ำหั่นกัน ดาบและกระบี่ปะทะกันจนเกิดระลอกคลื่นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
ราชันอสรพิษมารพยักหน้าในใจ เขายอมรับว่ารุ่นเยาว์สองคนนี้เป็นยอดอัจฉริยะที่แท้จริง แต่น่าเสียดายที่วันนี้ต้องมีหนึ่งคนที่ต้องตกตายที่นี่
นิกายมังกรปฐพีนั้นไม่ขาดแคลนอัจฉริยะ แต่สุดยอดอัจฉริยะของนิกายกลับตกตายในเงื้อมมือของหลิงฮัน เขาจึงต้องเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยสถานการณ์ที่กำลังทำสงครามกับจักรวรรดิจันทราม่วงอยู่ ตัวตนระดับสูงเช่นเขาจะมีเวลาว่างถึงขนาดมาที่นี่ได้อย่างไร?
“แปลก ทำไมเจ้าหนูนี้ถึงฝึกฝนทักษะของนิกายดาบสวรรค์ได้?” ราชันอสรพิษมารประหลาดใจ ทักษะสามดาบเร้นลับไม่ใช่ทักษะธรรมดาทั่วไป มันคือหนึ่งในทักษะลับสูงสุดของนิกายดาบสวรรค์ แม้แต่ศิษย์ที่แท้จริงของนิกายก็ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้มัน
เช่นนั้นแล้วทำไมคนนอกถึงสามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้?
แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เจ้าเรียนรู้ทักษะสามดาบเร้นลับได้แล้วจะทำไม? สุดท้ายแล้วดินแดนศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนก็จำหลอมทุกคนสิ่งบนโลกนี้ให้เป็นเม็ดยาอยู่ดี
มือซ้ายของหลิงฮันจับดาบ ส่วนมือขวานั้นโคจรทักษะผนึกพลิกปฐพีโจมตีอย่างต่อเนื่อง ประกายแสงสีทองที่ปลดปล่อยออกมาจากทักษะนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก และด้วยอำนาจของทักษะอัสนีบาตเก้าทิวา ความเร็วของหลิงฮันจึงเหนือกว่าฉือชิ่วเหรินทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถเว้นระยะห่างได้
ฉือชิ่วเหรินกำลังถูกไล่ต้อน!
หลิงฮันมีกายหยาบที่น่าสะพรึงกลัว ในด้านของการต่อสู้ระยะประชิด ฉือชิ่วเหรินไม่อาจเป็นฝ่ายได้เปรียบเลย ด้วยกายหยาบที่เหนือกว่าจอมยุทธระดับทลายมิติทั่วไป แม้จะเป็นราชันอสรพิษมารก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้เขาบาดเจ็บ!
ด้วยกายหยาบที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบ การจะสังหารเขาให้ตายนั้นต้องเป็นการโจมตีทางวิญญาณ หรือไม่ก็ต้องเป็นทักษะลับที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถบกขยี้เขาได้ภายในกระบวนท่าเดียว
จากมุมมองนี้ ฉือชิ่วเหรินย่อมไม่อยู่ในสายตาของหลิงฮันอีกต่อไป
หลิงฮันเพียงแค่ใช้อีกฝ่ายในการขัดเกลาแก่นแท้แห่งดาบเท่านั้น
ฉือชิ่วเหรินเริ่มเหน็ดเหนื่อย เขาเป็นหนึ่งในจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่จอมยุทธระดับสวรรค์ไม่ผิดแน่ แต่ถึงอย่างนั้นคู่ต่อสู้ของเขากลับแปลกประหลาดเกินไป ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้
เมื่อหลิงฮันเริ่มเชี่ยวชาญแก่นแท้แห่งดาบมากขึ้น ฉือชิ่วเหรินก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่อยๆ
ใบหน้าของฉือชิ่วเหรินกลายเป็นบูดบึ้ง เขาใช้พลังต่อสู้ทั้งหมดออกมาแล้ว แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ชนะหลิงฮันไม่ได้ ที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือพลังบ่มเพาะของหลิงฮันยังเป็นเพียงระดับก้าวสู่เทวาเท่านั้น
ขนาดใช้ประโยชน์จากพลังบ่มเพาะที่สูงกว่าถึงหนึ่งระดับใหญ่ เขาก็ยังถูกอีกฝ่ายต้อนจนไม่อาจตอบโต้ได้!
ไม่อาจชนะได้… ถึงแม้สุดท้ายแล้วราชันอสรพิษมารจะสังหารหลิงฮันได้ แต่หลิงฮันก็ต้องเป็นปมในใจของเขาไปตลอดซึ่งมันจะส่งผลต่อการทะลวงผ่านระดับทลายมิติอย่างร้ายแรงแน่นอน
“พอแล้ว” ราชันอสรพิษมารเคยกล่าวว่าต้องการให้ฉือชิ่วเหรินจัดการหลิงฮันเพื่อให้ฉือชิ่วเหรินทะลวงผ่านระดับ แต่ผลสุดท้ายดูเหมือนว่าหลิงฮันจะเป็นฝ่ายเหนือกว่า
เขาสามารถสัมผัสได้ว่าแก่นแท้แห่งดาบของหลิงฮันกำลังทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ
“ข้ายังไม่แพ้!” ฉือชิ่วเหรินคำรามอย่างไม่ยอมรับความพ่ายแพ้!
“ฮึ่ม!” ราชันอสรพิษมารลงมือคว้าร่างของฉือชิ่วเหริน เขาผนึกพลังบ่มเพาะของฉือชิ่วเหรินเอาไว้และโยนร่างกลับไปยังเรือรบ จากนั้นก็หันมองหลิงฮันอย่างไม่แยแสและกล่าว “ลงมือปลิดชีพตัวเองซะ!”
“อสรพิษเฒ่า เจ้ามีความมั่นใจขนาดไหนถึงกล้าพูดกับข้าเช่นนั้น?” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่หวั่นเกรง
ราชันอสรพิษมารแสยะยิ้ม “ไพ่ลับของเจ้าก็แค่รูปแบบอาคมที่ไม่สามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับทลายมิติแปดดาวขึ้นไปได้ เจ้ากล้าทำตัวยิ่งยโสต่อหน้าข้าเพียงเพราะพลังแค่นั้น?”
“จะอย่างไรพลังต่อสู้ของเจ้าก็ไม่ถึงสิบห้าดาวอยู่ดี” หลิงฮันกล่าว
ราชันอสรพิษมารอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบอารมณ์ เป็นเรื่องจริงที่พลังต่อสู้ของเขาไม่ถึงสิบห้าดาว ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมเขาถึงต้องหวาดกลัวต่อราชันซากศพสิบห้าตาด้วย? ราชันอสรพิษมารไม่รอช้า มือขวาของเขายืดออกไปและบิดงอราวกับอสรพิษพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันไม่หวั่นเกรงและตั้งดาบรอปะทะ
ราชันอสรพิษมารกลายเป็นเกรี้ยวกราด รุ่นเยาว์ผู้นี้เป็นแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาเท่านั้น ถึงแม้หลิงฮันจะมีพลังต่อสู้เทียบเท่ากับจอมยุทธระดับสวรรค์ก็ตาม แต่การที่หลิงฮันกล้าปะทะกับเขาที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติซึ่งๆหน้านั้นทำให้เขาอดรู้สึกอัปยศไม่ได้!
เจ้ากล้าดูหมื่นจอมยุทธระดับทลายมิติ?
งั้นก็จงตาย!
ฝ่ามือของราชันอสรพิษมารพุ่งจู่โจมราวกับภูเขาที่จะบดขยี้หลิงฮันให้เป็นก้อนเนื้อ
หลิงฮันถูกฝ่ามือเข้าปะทะจนร่างพุ่งกระเด็นลงมาจากท้องฟ้าไปตกอยู่ด้านนอกเมือง บริเวณพื้นดินที่เขาร่วงลงไปนั้นเกิดการสั่นสะท้านราวกับแผ่นดินไหว จุดที่เขาตกลงไปถูกกระแทกกลายเป็นรูปร่างของฝ่ามือ
หลิงฮันตายแล้ว?
ฉือชิ่วเหรินไม่เข้าใจเอาเสียเลย ทำไมศัตรูคู่อาฆาตของเขาถึงได้ทำตัวโง่งมเพียงนี้? การยอมรับการโจมตีของจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นสูงอย่างราชันอสรพิษมารนั้นไม่ใช่นิสัยของหลิงฮันแม้แต่น้อย
ราชันอสรพิษมารยกฝ่ามือขึ้นและสลายปราณฝ่ามือบนพื้นดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน ในขณะที่เขากำลังแสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมา เขาก็ต้องชะงักในทันที
นั่นเพราะตรงพื้นดินน หลิงฮันได้ลุกขึ้นมาพร้อมกับปัดฝุ่นตามร่างกาย เขายืดแขนสะบัดขาไปมาราวกับว่าเมื่อครู่เขาเป็นฝ่ายเผลอประมาทและร่วงลงไปเอง
ตอนที่ 817
เขาสามารถรับฝ่ามือของจอมยุทธระดับทลายมิติได้?
ไม่ ไม่ ไม่ มันไม่มีทางเป็นไปได้!
ดวงตาของฉือชิ่วเหรินแทบจะหลุดออกจากเบ้าตา เขาอ้าปากค้าง แม้กระทั่งลิ้นยังโผล่ออกมาให้เห็น ในฐานะที่เขาเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นของห้านิกายโบราณ แน่นอนเขาย่อมรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่จะบ่มเพาะกายาให้แข็งแกร่งเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบ!
เผ่าใต้สมุทรนั้นยอดเยี่ยม พวกเขาทุกคนมีพลังสายเลือดที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะตระกูลราชวงศ์ เลือดมังกรของพวกเขาไม่ได้สร้างความเป็นไปได้ที่จะทะลวงผ่านระดับทลายมิติเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งด้วย
ส่วนเผ่าใต้สมุทรที่จะมีกายหยาบแข็งแกร่งเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบนั้นหาได้ยากยิ่ง มันเป็นกระบวนการที่ยากจะก้าวผ่าน และจะต้องมีสายเลือดบริสุทธิ์มาก
ตัวอย่างเช่น ในมหาสมุทรทั้งสี่อาจมีแค่สองคนหรือสามคนของตระกูลเอ๋าที่มีกายหยาบแข็งแกร่งระดับนั้น
ทำไมตัวตนระดับพระเจ้าที่มีระดับพลังต่ำสุดถึงสังหารเฮ่อเหลียนเทียนหยุนไม่ได้น่ะหรือ? คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะกายหยาบของเขาเทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบ มันยากเกินไปที่จะสังหารเขา! ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้ยี่สิบดาว
ในปัจจุบัน หลิงฮันเป็นแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาเท่านั้น แต่กายหยาบของเขาเทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบแล้วผู้คนจะไม่รู้สึกตกตะลึงได้อย่างไร?
ฉือชิ่วเหรินถอนหายใจ และเขาก็ไม่รู้สึกละอายใจแต่อย่างใดที่พ่ายแพ้ให้กับหลิงฮัน อีกฝ่ายมีกายหยาบที่แข็งแกร่งเทียบเท่าแร่เหล็กระดับสิบ เขาไม่อาจทำอะไรหลิงฮันได้เลย
ราชันอสรพิษมารมีชีวิตอยู่มานาน และเขาเป็นหนึ่งในจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แน่นอนว่าอีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาไม่อยู่ในสายตาของเขา เขามองไปที่หลิงฮันด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า “ข้าไม่คิดเลยว่ากายหยาบของเจ้าจะบรรลุถึงขั้นนี้!”
“แล้วเจ้ายังอยากจะสังหารข้าอีก?” หลังจากที่หลิงฮันปัดฝุ่นตามร่างกาย เขาบินกลับขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าอีกครั้ง
ในความเป็นจริง ความแข็งแกร่งทายกายภาพเป็นเพียงแค่หนึ่งในคุณลักษณ์ของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ แต่สิ่งที่ทรงพลังกว่านั้นคือความยืดหยุ่นต่างหาก กายาเพชรของเขาจะฟื้นฟูอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องโคจรพลังของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์
แน่นอนว่าหลิงฮันจะไม่พูดกับอีกฝ่าย
ราชันอสรพิษมารแสยะยิ้มและพูดว่า “มันก็แค่ความแข็งแกร่งทางกายภาพ และความแข็งแกร่งเพียงเล็กน้อยของเจ้า คิดหรือว่าข้าจะไม่สามารถจัดการเจ้าได้”
“เจ้าจะจับข้าได้รึ?” หลิงฮันยื่นนิ้วออกไปท้าทาย
ราชันอสรพิษมารรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที เขาเป็นใครกัน แต่อีกฝ่ายกลับกล้าที่จะท้าทายเขา? เขาอยากจะกระโจนเข้าใส่หลิงฮันทันที แต่ทันใดนั้นเขากลับรู้สึกได้ถึงบางอย่างและพูดว่า “ปรากฏตัวของเจ้าออกมาซะ!”
“แล้วถ้าข้าไม่อยากปรากฏตัวออกมาให้เจ้าเห็นล่ะ?” เสียงขี้เกียจของอี้ชวงชวงดังขึ้น
“เช่นนั้นอย่าได้เข้ามาแทรกแซงเรื่องของพวกข้า นี่คือเรื่องของห้านิกายโบราณ!” ราชันอสรพิษมารตะคอก
“ข้าอยู่ที่นี่แล้วแต่เจ้ายังกล้าที่จะก่อปัญหาต่อหน้าข้าอีกรึ!” อี้ชวงชวงกล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ และยังไม่ปรากฏตัวออกมา “หากเจ้ายังไม่อยากเจ็บตัว เช่นนั้นจงไส้หัวไปให้พ้น เกรงว่าเจ้าจะหาว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนรังแกรุ่นเยาว์!”
“ข้าเคารพเจ้าเลยที่กล้าพูดจาอวดดีแบบนั้นออกมา!” ราชันอสรพิษมารเยาะเย้ย เขาเป็นทุกจอมยุทธระดับทลายมิติและมีจำนวนคนแค่หยิบมือเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับเขาได้
“หรือเจ้าคิดจะต่อต้านข้า?” อี้ชวงชวงกล่าว
ราชันอสรพิษมารรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่สงสัยคือนางมีพลังต่อสู้กี่ดาว? ในตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจอย่างจักรวรรดิจันทราม่วง ถ้ามีจอมยุทธระดับทลายมิติที่แข็งแกร่งอีกคนปรากฏตัวออกมา มันจะทำให้พวกเขามีภาระมากขึ้น!
วิธีการที่ดีที่สุดคือไม่สร้างศัตรูเพิ่ม เว้นแต่ว่าเขาจะฆ่าอีกฝ่ายได้
“ข้าแค่ต้องการตัวรุ่นเยาว์คนนี้เท่านั้น!” เขาชี้ไปที่หลิงฮัน
“ไม่!” อี้ชวงชวงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“ข้าเคารพเจ้าเลยที่กล้าปฏิเสธข้า!” ราชันอสรพิษมารกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา อีกฝ่ายคิดว่าเขาหวาดกลัวหรือไม่?
อี้ชวงชวงหัวเราะและพูดว่า “ข้าเป็นคนไม่กลัวใครอยู่แล้ว เจ้าคิดหรือว่าเจ้ามีความสามารถที่จะต่อกรกับข้า เช่นนั้นมาดูกันว่าข้าจะจัดการกับเจ้ายังไง!”
ราชันอสรพิษมารเนื้อตัวสั่นด้วยความโกรธ นางหยิ่งผยองเกินไป เขาไม่สนใจนางอีกต่อไปแล้ว และเอื้อมมือคว้าจับตัวหลิงฮัน ในเมื่อเขาไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้ เช่นนั้นก็พาตัวกลับไปและค่อยจัดการทีหลัง
“เจ้ากล้า!” อี้ชวงชวงปล่อยฝ่ามือออกมาขวางฝ่ามือขนาดใหญ่ของราชันอสรพิษมาร ตู้ม ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันก่อให้เกิดคลื่นพลังแผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้า
คลื่นพลังแผ่กระจายเป็นวงกว้าง ทำให้เมืองจักรพรรดิสั่นไหวอยู่ภายใต้คลื่น และมีสิ่งก่อสร้างมากมายพังทลายลงก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก
จอมยุทธระดับทลายมิติแข็งแกร่งเกินไป!
บนท้องฟ้า เรือรบมีม่านพลังแสงป้องกันอยู่ ทำให้ตัวเรือแค่แกว่งไปมาเท่านั้น ราวกับว่ามันลอยอยู่ในน้ำและได้รับผลกระทบจากคลื่น
“อี้ชวงชวง อย่าต่อสู้กับเขาที่นี่ มิฉะนั้นเมืองจักรพรรดิของข้าจะถูกเจ้าทำลาย!” หลิงฮันกรีดร้อง แม้จะมีม่านพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากธงจักรวรรดิที่อยู่เหนือเมืองจักรพรรดิปกป้องอยู่ก็ตาม
ร่างของอี้ชวงชวงปรากฏตัวออกมา นางดูไม่พอใจมากและพูดว่า “ดูเหมือนเจ้าจะกล้าหาญขึ้นเยอะเลยนิ ถึงกล้าออกคำสั่งกับข้า?”
“ท่านหญิง โปรดช่วยข้าจัดการอสรพิษเฒ่าผู้นี้ด้วย แค่นี้เจ้าพอใจหรือยัง?” หลิงฮันถาม
“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้สึกถึงความจริงใจของเจ้า แต่ข้าเป็นคนดีมีเมตตา เช่นนั้นข้าจะช่วยเหลือเจ้าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!” อี้ชวงชวงจ้องมองไปที่ราชันอสรพิษมารด้วยรอยยิ้มที่สดใส “ไส้เดือนอย่างเจ้าอย่าคิดว่าจะมีโอกาสหนี!”
“เจ้าเป็นใครกัน?” ราชันอสรพิษมารจ้องมองไปที่อี้ชวงชวง เขาไม่อาจมองเห็นระดับพลังของอีกฝ่ายได้ นั่นหมายความว่าอีกระดับพลังของอีกฝ่ายสูงกว่าเขา
ภายใต้สวรรค์และปฐพี จอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้าคือตัวตนที่สูงสุดที่สุดแล้ว เว้นแต่ว่านางจะเป็นตัวตนระดับพระเจ้าที่มีระดับพลังต่ำสุด
ตอนที่ 818
“ข้าน่ะรึคือใคร?” อี้ชวงชวงยิ้ม “แน่นอนว่าข้าคือสตรีที่งดงามที่สุดในโลกไงล่ะ!”
“ไร้สาระ หนิวต่างหาก!” ฮูหนิวตะโกนขึ้นไป แต่แน่นอนว่าในสถานการณ์ตอนนี้ย่อมไม่มีใครสนใจนาง
ราชันอสรพิษมารจ้องไปยังอี้ชวงชวงและกล่าว “ไม่ว่ายังไงวันนี้ข้าก็ต้องได้ตัวของเจ้าหนูนั่น”
“’งั้นเจ้าก็คงต้องทิ้งชีวิตของเจ้าเอาไว้ที่นี่เสียแล้ว” อี้ชวงชวงยิ้มกล่าวอย่างไม่แยแส แม้แต่ราชันอสรพิษมารก็ไม่อยู่ในสายตาของนาง
ยิ่งนางมีท่าทีสงบนิ่งมากเท่าไหร่ ราชันอสรพิษมารก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น
ก่อนที่หน้านี้เขาเป็นคนที่มั่นใจในพลังของตนเองมาก แต่หลังจากการปรากฏตัวของจักรวรรดิจันทราม่วง เขาก็รู้ว่าโลกนี้ยังมีตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแปดราชันอยู่
หรือว่าสตรีผู้นี้… ก็เป็นตัวตนจากยุคโบราณ?
อี้ชวงชวงเกิดอาการไม่สบอารมณ์และกล่าว “เจ้ากำลังคิดในใจว่าข้าเป็นหญิงชราจากยุคโบราณ?”
“บังอาจคิดว่าข้าคนนี้เป็นหญิงชรา เจ้าช่างรนหาที่ตาย!” อี้ชวงชวงกลายเป็นเกรี้ยวกราดและโจมตีใส่ราชันอสรพิษมารทันที
ราชันอสรพิษมารไม่กล้าประมาท เขารีบลงมือป้องกันอย่างรวดเร็ว
‘ปัง ปัง ปัง’ ทั้งสองคนเข้าปะทะกันกลางอากาศ หลิงฮันพยักหน้าพึงพอใจเพราะอี้ชวงชวงลงมือให้การปะทะไม่ส่งผลกระทบต่อเมืองจักรพรรดิ
สำหรับจอมยุทธที่ไม่ใช่ตัวตนระดับทลายมิติ มีเพียงแค่เขาเท่านั้นมีสามารถยืนหยัดดูการต่อสู้ของทั้งสองคนในระยะใกล้ได้
“สู้กันเลย! สู้กันเลย!” ฮูหนิวยืนอยู่ข้างๆเขาและปรบมือเล็กๆของนางในขณะที่ดูการต่อสู้
ใช่แล้ว เขาลืมนับสัตว์ประตัวน้อยคนนี้ไปเลย
หลังจากผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า สีหน้าของราชันอสรพิษมารก็เปลี่ยนเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
อีกฝ่ายแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นางไม่ได้ด้อยหรือเหนือไปกว่าเขา
“ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะต่อต้านห้านิกายโบราณ ข้าขอแนะนำให้เจ้าถอยไปดีกว่า ไม่เช่นนั้นความพยายามในการบ่มเพาะพลังของเจ้าที่ผ่านมาทั้งชีวิตจะกลายเป็นสูญเปล่า!” ราชันอสรพิษมารกล่าวแนะนำ
“ฮ่าๆๆ เจ้าก็แค่กบในบ่อน้ำ ข้ายังไม่ทันได้แสดงพลังออกมาให้เจ้าเห็นเลยเจ้าก็ด่วนตัดสินพลังของข้าเสียแล้ว?” อี้ชวงชวงยิ้ม นางอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยว ทันใดนั้นปีกสีแดงชาดคู่หนึ่งก็ปรากฏออกมา
ปีกที่ปรากฏขึ้นที่หลังของนางไม่มีขนนกหรือเกล็ดปกคลุม มันเป็นปีกที่เหมือนกับปีกของค้างคาว
“เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่?” ราชันอสรพิษมารไม่อาจสงบสติได้อีกต่อไป ทันทีที่ปีกของอีกฝ่ายปรากฏออกมา ออร่าของอีกฝ่ายก็เหนือกว่าเขาอย่างเทียบไม่ได้
กลิ่นอายเช่นนี้ทำให้เขานึกถึงราชีนีหยินและราชันคนอื่นๆ ความน่ากลัวของราชันทั้งแปดได้ฝังลึกลงไปในจิตใจของเขาจนไม่อาจลืมเลือน
“เจ้ามีค่าพอจะรู้ถึงตัวตนของข้า?” อี้ชวงชวงกล่าวอย่างเหยียดหยามและพลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นเองดวงดาวนับไม่ถ้วนก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า จนดูราวกับว่าท้องฟ้าถูกทำให้เป็นรู
สิบห้าดาว… นี่ต้องเป็นพลังต่อสู้สิบห้าดาวไม่ผิดแน่!
ราชันอสรพิษมารไม่พูดพล่ามและรีบหันหลังเพื่อหนี
สำหรับจอมยุทธระดับทลายมิติแล้ว พลังต่อสู้ที่ต่างกันแค่หนึ่งดาวก็ราวกับเป็นความต่างของสวรรค์และปฐพี พลังต่อสู้ของเขานั้นเป็นเพียงสิบสองดาวเท่านั้น ซึ่งต่างกับอีกฝ่ายตัวสามดาว
ต้องหนี!
เขาเผ่นหนีกลับไปที่เรือรบและรีบควบคุมให้เรือออกตัวโดยไว
อี้ชวงชวงไม่คิดจะไล่ตาม นางสะบัดปีกสีชาดของนางไปมาอย่างเกียจคร้าน
หลิงฮันชี้นิ้วไปยังทิศทางของเรือรบและกล่าว “ทำไมเจ้าไม่ตามไป?”
“ข้าสัญญาแค่ว่าจะปกป้องเมืองให้เจ้า ข้าไม่เคยบอกเสียหน่อยว่าจะยอมเหนื่อยเพื่อกำจัดศัตรูให้เจ้า” อี้ชวงชวงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ “ใช่ว่าข้าจะไม่ยอมทำตามคำสั่งของเจ้านะ เพียงแค่ข้าจะได้ผลประโยชน์อันใดก็เท่านั้นเอง?”
“พวกเราเราเป็นสหายกัน เจ้าจะไม่ใจดำไปหน่อยรึที่มาพูดกับสหายเรื่องผลประโยชน์?” หลิงฮันกล่าว
“เหอะ แค่เจ้ายอมบอกความลับในตัวเจ้ามาข้าก็จะยอมกำจัดทุกสิ่งให้เจ้าเลย! ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นห้านิกายโบราณหรือจักรวรรดิจันทราม่วงก็ตาม!” อี้ชวงชวงกล่าวกระตุ้นหลิงฮัน
หลิงฮันชะงักไปชั่วขณะก่อนจะกล่าว “เจ้าแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ห้านิกายโบราณนั้นมีรากฐานที่มั่นคงมาเป็นเวลาผ่านร้อยหลายพันปี ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามีไพ่ลับอันใดซ่อนไว้บ้าง ในส่วนของจักรวรรดิจันทราม่วงนั้น แม้เจ้าอ้วนหม่าจะยังไม่เคยลงมือ แต่การที่เขาสามารถปกครองแปดราชันได้ พลังของเขาจะต้องน่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้แน่นอน”
“ข้าเองก็แข็งแกร่งไม่แพ้ใคร” อี้ชวงชวงกล่าว
“พลังต่อสู้ของเจ้าตอนนี้คือสิบห้าดาว แม้จะเป็นพลังต่อสู้เช่นนี้ก็ยังยากที่จะปกครองโลกนี้!” หลิงฮันส่ายหัว ถ้าหากเฮ่อเหลียนเทียนหยุนบ่มเพาะพลังจนกลับไปมีพลังต่อสู้ยี่สิบดาวได้อีกครั้ง เจ้าคิดว่าจะทำอะไรเขาได้?
อี้ชวงชวงเค้นเสียงและกล่าว “ถ้าไม่ใช่เพราะถูกสวรรค์และปฐพีของโลกนี้จำกัดพลังเอาไว้ ข้าสามารถปกครองโลกนี้ได้ด้วยพลังหนึ่งในสิบส่วน!”
“ไร้สาระ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีจอมยุทธระดับสูงมากมายที่สามารถทำเช่นนั้นได้ เช่นนั้นแล้วทำไมข้าต้องพึ่งพาเจ้าด้วย?”
อี้ชวงชวงกลายเป็นไม่สบอารมณ์ ใบหน้าผากของนางปรากฏรอยเส้นเลือดปูดบวมและกล่าว “เจ้าหนู เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถกลืนกินเจ้าได้อย่างไม่ยากเย็น?”
หลิงฮันไม่อย่างยั่วยุปีศาจสาวนางนี้และกล่าวออกไป “โอ้ วันนี้อากาศดีจังนะ ด้วยแสงตะวันที่อบอุ่นเช่นนี้พวกเรามาดื่มชากันดีไหม?”
“ชาไม่อร่อย พวกเรากินเนื้อกันดีกว่า!” ฮูหนิวกล่าวแทรกทันที
อี้ชวงชวงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “เห็นแก่สาวน้อยฮูหนิว ข้าจะยอมไม่ถือสาเจ้าแล้วกัน แต่เจ้าจงจำเอาไว้ด้วยล่ะว่าข้าช่วยเหลือเจ้าเอาไว้แค่ไหน สักวันเจ้าต้องตอบแทนข้า!”
“หืม?”
ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังจะกลับลงมาจากท้องฟ้า พวกเขาก็เห็นรถม้าแล่นมาจากบริเวณที่ห่างไกล รถม้านั่นไม่ได้ขับเคลื่อนอยู่บนพื้นและแต่เป็นท้องฟ้า สิ่งที่ลากรถม้านั่นอยู่คือสัตว์อสูรระดับทลายมิติที่มีรูปร่างเหมือนสิงโต ออร่าที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวสัตว์อสูรสิงโตนั้นทรงพลังจนทำให้ชั้นมิติของสวรรค์และปฐพีปริแตก
ปีกของอี้ชวงชวงกระพือทันที คนที่บุกมาในคราวนี้แข็งแกร่งมาก!
ดวงตาของนางมองยังทิศทางของสัตว์อสูรระดับทลายมิติ สายตาของนางนั้นแหลมคมจนราวกับว่าสามารถมองทะลุผ่านไปถึงด้านในรถม้าและสามารถตรวจสอบศัตรูที่อยู่ภายในได้
ตอนที่ 819
หลิงฮันยกมือขึ้นมาคำนับและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ราชินีหยินผู้ยิ่งใหญ่ การที่ท่านเดินทางมาที่นี่คงจะเหน็ดเหนื่อยมาก!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงหัวเราะที่มีเสน่ห์ดังออกมาจากรถม้า ซึ่งทำให้ผู้คนที่ได้ยินรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนกับมีมือเล็กๆนับไม่ถ้วนจับ
“ปีศาจเจ้าเสน่ห์!” อี้ชวงชวงและฮูหนิวกล่าวพร้อมกัน
ม้าตูรถม้าเปิดออกและมีหญิงสาวที่งดงามคนหนึ่งปรากฏตัวออกมา ในแง่ของภาพลักษณ์ อี้ชวงชวงงดงามพอกับนาง แต่ถ้าพูดถึงเสนห์นางกลับเป็นฝ่ายถูกบดบัง
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่อทำให้โลกเกิดความโกลาหลอย่างแท้จริง
ใช่แล้วนางคือราชินีหยินผู้ยิ่งใหญ่
“โอ้ว น้องชายตัวเล็ก!” ราชินีหยินกล่าวทักทาย แล้วยืนเท้าเอวอยู่ในท่าทางที่เย้ายวนดึงดูดผู้คน ทำให้สีหน้าของพวกเขาเริ่มลุ่มหลง “ข้างดงามและเยาว์วัยขึ้นหรือไม่?”
หลิงฮันเคยรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง ในตอนนั้นเขายังเป็นคนโง่เขลาที่ไม่รู้อะไรเลย เขาใช้เวลานับหมื่นปีกว่าจะรู้ว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์นั้นรักเขา แต่หลังจากที่เขาอยู่กับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนมาเป็นเวลานาน แน่นอนว่าเขาเริ่มที่จะอยู่เป็น
“ราชินีหยินท่านช่างงดงามและเยาว์วัยยิ่งนัก!” หลิงฮันกล่าวยกย่อง
ราชินีหยินเคยต่อสู้เพื่อปกป้องเขา ดังนั้นเขาจะต้องตามใจนาง
ใบหน้าของราชินีหยินปรากฏรอยยิ้มทันที แล้วหันไปมองอี้ชวงชวงพร้อมกับพูดว่า “ข้าควรเรียกพี่สาวคนนี้ว่าอะไรดี?”
“อย่าได้เรียกข้าว่าพี่สาว!” สีหน้าของอี้ชวงชวงแข็งทื่อทันทีและพูดว่า “เห็นได้ชัดว่าเจ้ามีอายุมากกว่าข้าคนนี้!”
“มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน? ข้าดูที่ผิวของเจ้าก็รู้แล้ว เจ้าจะต้องมีอายุมากกว่าข้าอย่างน้อยหนึ่งหมื่นปีอย่างแน่นอน!” ราชินีหยินกล้าที่จะพูดแบบนั้นออกมา
เส้นเลือดบนหน้าผากของอี้ชวงชวงเริ่มปูดบวม แต่นางยังคงยิ้มออกมาและพูดว่า “จะว่าไปข้าได้ยินมาว่าเจ้าถูกฝั่งมานานกว่าสองแสนปี โอ้ว นั่นมันมากกว่าข้าซะอีก เจ้านั่นแหละพี่สาว ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ใช่พี่สาวสิ คงจะต้องเรียกเจ้าว่ายัยแก่!”
ราชินีหยินยังคงยิ้มและพูดว่า “ข้าแค่นอนลับไปชั่วครู่ ระหว่างที่ถูกฝั่งกระแสของเวลานั้นเดินช้าลง อย่างมากที่สุดข้าหลับไปแค่สองสามปีเท่านั้น เจ้านั้นแหละพี่สาว!”
“พี่สาว!
“เจ้านั้นแหละพี่สาว!”
หญิงสาวทั้งสองคนยังคงถกเถียงกันอย่างไม่ยอมแพ้
หลิงฮันไม่อาจทำความเข้าใจได้ เพียงแค่คำว่าพี่สาวมันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น?
ฮูหนิวรู้สึกตื่นเต้นและพูดกระซิบว่า “สู้กันเลย ฆ่ากันเลย!”
หลิงฮันพูดแนะนำ “ราชินีหยิน ท่านคงจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล พวกเรามานั่งดื่มชากันก่อนเถิด!”
“ไม่!” ในขณะนั้น หญิงสาวทั้งสองคนส่งเสียงคำรามพร้อมกัน และทำให้หลิงฮันปลิวกระเด็นไปไกลกว่าหลายร้อยไมล์
“เข้ามาเลย ข้าผู้นี้จะสั่งสอนเจ้าเองว่าอะไรคือความแข็งแกร่ง”
“ฮิฮิฮิ ราชินีอย่างข้าก็ตั้งใจที่จะทำเช่นนั้นเหมือนกัน!”
หญิงสาวทั้งสองคนถอยห่างจากเมืองและเริ่มการต่อสู้ครั้งใหญ่
ดูเหมือนว่าพวกนางทั้งสองคนไม่ลงรอยกันอย่างสมบูรณ์ แม้พวกนางจะหลีกเลี่ยงการทำลายเมืองจักรพรรดิที่อยู่ด้านล่าง แต่กลับต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่บนท้องฟ้า
หญิงสาวทั้งสองคนปะทะกัน และต่างฝ่ายต่างปลดปล่อยการโจมตีที่รวดเร็วและน่าสะพรึงกลัวออกมา
ดวงตาของหลิงฮันเปล่งประกาย นี่คือการต่อสู้ของจอมยุทธระดับทลายมิติ ในทางตรงกันข้าม การต่อสู้กับราชันอสรพิษเพลิงนั้นเหมือนเด็กเล่นกันไปเลย
“พลังต่อสู้ของพวกนางน่าจะอยู่ที่สิบห้าดาว ซึ่งเทียบเท่ากับราชันซากศพสิบห้าตาและแมงมุมยักษ์สีเงิน ทั้งที่พลังต่อสู้ของพวกนางมากกว่าราชันอสรพิษมารแค่สามดาวเท่านั้น! ข้านึกภาพไม่ออกเลยถ้าเป็นพลังต่อสู้ระดับยี่สิบดาวจะน่าหวาดกลัวแค่ไหน!”
หลิงฮันพูดพึมพัม ในเมื่อมีจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้ยี่สิบดาวคนแรก ทำไมคนที่สองหรือคนที่สามถึงไม่ปรากฏตัวออกมา? หรือว่าพวกห้านิกายโบราณยังปกปิดการดำรงอยู่ของพวกเขาไว้อยู่
ข้าหวังว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น
หลังจากนั้นไม่นาน ท้องฟ้ากลายเป็นเงียบสงบอย่างกะทันหัน ร่างของราชินีหยินและอี้ชวงชวงตกลงมาจากท้องฟ้าด้วยกันทั้งคู่ เสื้อผ้าของพวกนางฉีกขาดเป็นเศษเล็กเศษน้อย ทำให้เห็นเรือนร่างที่ขาวเนียบ
อย่างไรก็ตาม พวกนางทั้งสองนำเสื้อคลุมออกมาจากแหวนมิติทันที ดังนั้นหลิงฮันจึงไม่อาจมองไปได้ไกลกว่านั้น
“ถ้าพลังของข้ากลับมา ข้าสามารถบดขยี้เจ้าได้ด้วยนิ้วเดียว!” อี้ชวงชวงกล่าวยังไม่ยอมแพ้
ราชินีหยินยิ้มและพูดว่า “เจ้าเป็นคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จริงด้วย! อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่โลกเบื้องล่างพลังของเจ้าจะถูกสะกดไว้ ทำให้พลังต่อสู้ของเจ้ามีแค่สิบห้าดาวเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าราชินีอย่างข้า”
หลิงฮันรู้สึกงงงวยและพูดว่า “ไม่ช่ว่าระดับพลังต่ำสุดของตัวตนระดับพระเจ้าควรจะมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวหรอกหรือ?”
อี้ชวงชวงส่ายหัวและพูดว่า “ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกนี้คือระดับทลายมิติขั้นเก้า แต่พลังต่อสู้นั้นมันขึ้นอยู่กับความสามารถและพรสวรรค์ของตัวเอง”
หลิงฮันเข้าใจทันทีและพูดว่า “ระดับพลังของเจ้าอยู่เหนือกว่าระดับทลายมิติขั้นเก้า
ยกตัวอย่างเช่น เฮ่อเหลียนหลงและเหวินเหรินเจี่ยที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้าเหมือนกัน คนหนึ่งมีพลังต่อสู้สิบดาว อีกคนหนึ่งมีพลังต่อสู้สิบเอ็ดดาว หากต่อสู้กัน เฮ่อเหลียนหลงจะสามารถสังหารเหวินเหรินเจี่ยได้อย่างรวดเร็ว และอีกฝ่ายไม่มีคุณสมบัติที่จะต่อกรด้วยได้
“จะว่าไปแล้วราชินีหยิน สงครามที่ภูมิภาคกลางตึงเครียดอย่างมาก แล้วเหตุใดท่านถึงมาที่นี่?” หลิงฮันพูดเข้าประเด็นทันที ไม่ปล่อยโอกาสให้พวกนางทั้งสองคนต่อสู้กันอีก
ราชินีหยินพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าก่อตั้งจักรวรรดิแล้วและภายใต้คำสั่งขององค์จักรพรรดิข้าจึงมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเจ้าฝึกฝนกองทัพ”
“ยอดเยี่ยมไปเลย” หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ เขารู้ความลับทางการทหารของจักรวรรดิจันทราม่วง แต่ยังห่างไกลที่จะใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
“น้องชาย แล้วเจ้าคิดที่จะตอบแทนข้าอย่างไร?” ราชินีหยินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่าดึงดูด
“อย่าคิดที่จะทำอะไรกับหลิงฮันของหนิว!” ฮูหนิวรีบมาปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของหลิงฮัน และกางแขนราวกับปกป้องอาหาร
ราชินีหยินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และสะบัดมือไปที่ท้องฟ้า นางไม่ได้มาที่นี่ตามลำพัง แต่พาทหารมาด้วยหนึ่งร้อยคน พวกเขาแต่คนล้วนแต่เป็นหัวกะทิในหมู่หัวกะทิ ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของพวกเขามากพอที่จะช่วยจักรวรรดิต้าหลิงกำราบภูมิภาคตะวันออกและภูมิภาคใต้
ดังนั้น ราชินีหยินจึงเชิญหลิงฮันไปที่ภูมิภาคกลางและเข้าร่วมการต่อสู้กับห้านิกายโบราณ ส่วนเรื่องอื่นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเขาเป็นคนจัดการ
ตอนที่ 820
หลังจากครุ่นคิด หลิงฮันก็ตกลงกับราชินีหยินว่าจะไปภูมิภาคกลาง
เขาไม่ค่อยมีหน้าที่อะไรในเมืองจักรพรรดิเท่าไหร่ ที่นี่ไม่มีศัตรูที่แข็งแกร่งพอให้เขาลงมือ ในด้านของเผ่าใต้สมุทรก็มีเฮ่อเหลียนเทียนหยุนคอยดูแลแล้ว สิ่งที่เหลือในตอนนี้คือการสะสางปัญหาที่ภูมิภาคกลาง
นี่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด ถ้าห้านิกายโบราณไม่ถูกกำจัดแล้วจะเปิดสวรรค์ได้อย่างไร?
หลังจากเตรียมตัวไม่นาน หลิงฮันก็พร้อมออกเดินทาง
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเมืองจักรพรรดิ ดังนั้นคนที่ติดตามหลิงฮันไปจึงมีเพียง จูเสวียนเอ๋อ ฮูหนิว เจ้ากระต่ายและหนูทองคำ ด้วยการมีอี้ชวงชวงเป็นผู้คุ้มกันเมือง เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าใครจะมารุกรานเมืองของเขา
“ฮ่าๆๆ หลิงฮันอยู่ไหน!” พวกเขายังไม่ทันได้ออกเดินทางก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันน่าสยดสยองดังขึ้น พวกเขามองเห็นร่างของชายลึกลับที่สวมชุดคลุมมิดปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าของเมืองจักรพรรดิ
หลิงฮันอดแสดงท่าทีแปลกใจไม่ได้ ชายลึกลับผู้นี้ต้องเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติแน่นอน แถมพลังของเขายังน่าทึ่งอีกด้วย กลิ่นอายของเขาที่ปลดปล่อยออกมานั้นทำให้ชั้นอากาศโดยรอบปริแตก
หลิงฮันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาจ้องมองอีกฝ่ายอยู่ชั่วขณะก่อนจะอุทานออกมา “เจ้าคือจักรพรรดิจอมอสูร!”
“ฮ่าๆๆ เจ้าหนู นับว่าเจ้ายังมีสายตาที่เฉียบคมอยู่บ้าง!” ชายลึกลับดึงผ้าคลุมออกเผยให้เห็นร่างที่สูงโปรง เขาเป็นชายหน้าตาดีไว้หนวด
จักรพรรดิจอมอสูรนั้นไม่มีร่างกายของตนเอง ใครก็ตามที่ถูกครอบงำโดยปราณอสูรย่อมถูกเขายึดร่างได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางถูกสังหารให้ตกตายและถูกแยกออกเป็นเก้าส่วนแทน
แต่จักรพรรดิจอมอสูรในตอนนี้ทรงพลังอย่างมาก เพียงแค่จ้องมองก็ทำให้หลิงฮันรู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาแล้ว
ระดับทลายมิติสิบห้าดาว?
ให้ตายเถอะ ทำไมตัวตนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ถึงได้ผุดกันออกมาราวกับเป็นดอกเห็ด!
หากไม่นับรวมแปดราชัน ก็ยังมีราชันซากศพสิบห้าตา แมงมุมเงินยักษ์ และอี้ชวงชวงที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิตสิบห้าดาว ซึ่งตอนนี้ก็มีจักรพรรดิจอมอสูรปรากฏขึ้นมาอีกคน
“เจ้ารวบรวมชิ้นส่วนทั้งเก้าของเจ้าครบแล้ว?” หลิงฮันถาม
“ถูกต้อง!” จักรพรรดิจอมอสูรจ้องมองมายังหลิงฮัน แววตาของเขาปริ่มไปด้วยความคับแค้น ก่อนหน้านี้เขาโดนหลิงฮันหลอกและเกือบจะถูกลบให้หายไปตลอดการ
“มอบศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายมาซะ!” เขากล่าวอย่างโหดเหี้ยม
สำหรับเขา ศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายคือสมบัติล้ำค่ายิ่งกว่าสมุนไพรและทักษะบ่มเพาะใดๆ
หลิงฮันยักไหล่และกล่าว “ต้องขอโทษด้วย ศิลาที่ว่ามันถูกใช้งานหมดไปตั้งนานแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองไปหามันใหม่ด้วยตัวเองล่ะ? หรือไม่เจ้าก็ยอมเลิกคิดถึงมันเสีย มันก็แค่ก้อนหินก้อนหนึ่งเอง”
“บังอาจ!” จักรพรรดิจอมอสูรคำราม เขาไม่เชื่อเด็ดคาดว่าหลิงฮันจะสามารถดูดซับพลังงานจากศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายทั้งได้ในระยะเวลาสั้นๆ แม้จะใช้เวลาสิบปีหรือหลายพันปี มนุษย์ก็ไม่อาจดูดซับพลังงานจากศิลาได้
“ไม่คิดจะส่งมา?” เขาแสยะยิ้ม “ก็ช่างประไร เมื่อข้ายึดครองร่างของเจ้า ทุกอย่างในตัวเจ้าก็จะกลายเป็นของข้าเอง!”
แม้หลิงฮันจะมีร่างกายที่สามารถต้านทานต่อการโจมตีของจอมยุทธระดับทลายมิติได้ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องวิญญาณล่ะ? จักรพรรดิจอมอสูรตรงหน้านี้ย่อมเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวต่อเขาแน่นอน
“เหอะๆ จงมอบทุกสิ่งให้ข้าผู้นี้!” จักรพรรดิจอมอสูรลงมือโจมตีใส่หลิงฮัน
ตูม! ตูม!
แต่ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของจักรพรรดิจอมอสูรก็ถูกหมัดสองหมัดอัดใส่พร้อมกัน พลังทำลายล้างของหมัดทั้งสองส่งผลให้ร่างของจักรพรรดิจอมอสูรกระเด็นลอยออกไป
จักรพรรดิอสูรพยายามลุกขึ้น ใบหน้าของเขาที่ถูกโจมตียุบลงไปเป็นรอยเว้า หากเป็นจอมยุทธคนอื่นพวกเขาคงจะตกตายไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่กับจักรพรรดิจอมอสูร รอยเว้าบนใบหน้าของเขานูนขึ้นกลับสู่สภาพเดิมภายในพริบตา
“ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีตัวตนที่ทรงพลังไม่ด้อยไปกว่าข้าถึงสองคนอยู่ที่นี่”
“ถ้ารู้ตัวแล้วก็ไสหัวไป!” ราชินีหยินกล่าวอย่างเกียจคร้าน
“ฮ่าๆๆ คิดจะขับไล่ข้าผู้นี้งั้นรึ? นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามีพลังมากพอรึไม่!” จักรพรรดิจอมอสูรเลียริมฝีปาก “เหอๆ ข้าไม่ได้ลิ้มรสร่างกายของสตรีมานานมากแล้ว!”
ใบหน้าอันงดงามของราชินีหยินบูดบึ้งและกล่าว “กล้ามีความคิดเช่นนั้นกับราชินีผู้นี้ ช่างแส่หาความตาย!” นางพุ่งเข้าใส่จักรพรรดิจอมอสูรอย่างไม่รีรอ
ที่จริงแล้วจักรพรรดิจอมอสูรนั้นรู้สึกตกตะลึงมากที่จักรวรรดิต้าหลิงเล็กๆแห่งนี้มีสตรีที่สามารถทัดเทียมเขาได้อยู่ถึงสองคน พวกนางคือจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้สิบห้าดาว
แต่แน่นอนว่าถึงแม้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งแค่ไหน พลังชีวิตของเขาก็อยู่ที่ปราณอสูรไม่ใช่ร่างกาย ต่อให้ร่างกายได้รับบาดสาหัส… เขาก็สามารถเปลี่ยนร่างใหม่ได้อยู่ดี
“จะว่าไปแล้วร่างกายของเจ้าก็ไม่เลวเลย ขอข้าลิ้มลองหน่อยก็แล้วกัน!” จักรพรรดิจอมอสูรแสยะยิ้มและเข้าปะทะกับราชินีหยิน
“จันทราแปดวิถี!” จักรพรรดิหยินใช้ทักษะ ผมสีดำของนางสยายออกกลายเป็นกระบี่สีดำและโจมตีใส่จักรพรรดิจอมอสูรอย่างต่อเนื่อง
“อะไรกัน!” จักรพรรดิจอมอสูรอุทาน “เจ้าสามารถใช้งานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้!”
เขาอุทานออกมาอย่างหวาดกลัวราวกับพบเห็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่
“เหอะ อสูรมารจากดินแดนใต้พิภพเช่นเจ้านั้นถูกจำกัดพลังเอาไว้ด้วยอำนาจสวรรค์และปฐพีของโลกนี้ ซึ่งอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ก็คือพลังส่วนหนึ่งของสวรรค์และปฐพี มันคือพลังที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการเจ้า!” ราชินีหยินลงมือโจมตีอย่างต่อเนื่อง
จักรพรรดิจอมอสูรกลายเป็นหดหู่ พลังบ่มเพาะของเขานั้นบรรลุเกินระดับทลายมิติไปแล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมสามารถใช้งานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้ แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์นั่นคืออำนาจของดินแดนใต้พิภพ มันแตกต่างกับอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของโลกนี้อย่างสิ้นเชิง
“น่ารังเกียจ! ช่างน่ารังเกียจ!” หลังจากปะทะกันอยู่ไม่กี่กระบวนท่า จักรพรรดิจอมอสูรก็หยุดมือและหันหลังเพื่อหนีไป
“เจ้าหนู เมื่อใดที่เจ้าไม่หลบอยู่หลังจากสตรีสองนางนี้ ร่างกายของเจ้าจะต้องถูกข้ายึดครอง!” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะหายไปจากสายตาทุกคน
หลิงฮันแสยะยิ้ม เมื่อใดที่เขาบรรลุระดับทลายมิติ เขาจะใช้แก่นแท้แห่งดาบสะบั้นใส่อสูรตนนี้ซะ!
ตอนที่ 821
หลังจากนั้น หลิงฮันและราชินีหยินก็ออกเดินทาง
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงกำแพงภูมิภาค แต่ก็พบว่ามันหายไปแล้ว
“ราชินีอย่างข้าไม่ชอบมันและได้ทำลายมันไปแล้ว” ราชินีหยินพูดด้วยเสียงแผ่วเบา
นางช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!
กำแพงกั้นภูมิภาคผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อาจช่วยกันสร้างขึ้นมาเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน แต่มันกลับถูกนางทำลาย นี่แสดงให้เห็นว่านางแข็งแกร่งขนาดไหน
ในไม่ช้า พวกเขาก็เดินทางมาถึงอาณาเขตของจักรวรรดิจันทราม่วง เมืองที่อยู่ด้านหน้ามีธงของจักรวรรดิจันทราม่วงอยู่และพัดไปมาไปตามสายลม
สิบวันต่อมา พวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองจักรพรรดิของจักรวรรดิจันทราม่วง
หม่าตั๋วเป๋าออกมาต้อนรับหลิงฮันด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการไว้หน้าหลิงฮัน
“ทำไมพี่หม่าต้องปฏิบัติกับข้าดีขนาดนั้นด้วย?” หลิงฮันสงสัย ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายประมุขของห้านิกายโบราณยังต้องหวั่นเกรง ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องสนใจเขาก็ได้
หม่าตั๋วเป่าหัวเราะและพูดว่า “น้องชายตัวดำ ข้าไม่เคยมองคนผิด โชคชะตาของเจ้าถูกกำหนดมาแล้ว และความสำเร็จมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า”
“พี่หม่าหยุดเรียกข้าว่าน้องชายตัวดำจะได้หรือไหม?” หลิงฮันถาม
“ได้เลย งั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าน้องชายผิวดำ!” หม่าตั๋วเป่าพูดไหลรื่อนเป็นน้ำ แต่นั้นก็เป็นนิสัยของเขาและเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
หลิงฮันพูดไม่ออกไปสักพัก หลังจากนั้นไม่นาน เขาพูดต่อว่า “พี่หม่า ข้าสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้พลังแห่งจักรภพได้”
“โอ้ว ไหนเจ้าลองพูดให้ข้าฟังสิ” หม่าตั๋วเป่าไม่ได้ดูแคลนหลิงฮัน
หลังจากที่ข้อมูลที่หลิงฮันได้รับมาจากอี้ชวงชวงถูกถ่ายทอดให้กับหม่าตั๋วเป่า เขาไตร่ตรองอยู่ในใจทันที
“ฝ่าบาท หลังจากความล้มเหลวในการเปิดสวรรค์ครั้งก่อนของพวกเราปัญหาคือท่านอย่างนั้นรึ?” ราชินีหยินกำหมัดแน่น “เจ้าหมูอ้วน ที่แท้มันเป็นเพราะเจ้านี่เอง!”
หม่าตั๋วเป่ารีบยกมือขึ้นให้นางหยุดและพูดว่า “ถึงแม้ข้าจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมา แต่ยังไงการเปิดสวรรค์ครั้งนั้นก็ต้องล้มเหลวอยู่ดี”
“เจ้าหมายความว่าไง?” ราชินีหยินจ้องมองไปที่หม่าตั๋วเป่า และยังไม่ลงไม้ลงมือ
หม่าตั๋วเป่าถอนหายใจและพูดว่า “ครั้งก่อน ข้าเกือบตายเพราะพลังแห่งจักรภพ แม้ว่าพลังแห่งจักรภพจะทำให้จักรวรรดิแข็งแกร่งขึ้นหลายสิบเท่า แต่ข้าแบกรับพลังของมันไม่ไหว!”
ราชินีหยินรู้สึกแปลกใจชั่วขณะ และคว้าใบหน้าของหม่าตั๋วเป่าเข้ามา “ที่เจ้าเปลี่ยนรูปร่างของตัวเองให้กลายเป็นคนอ้วน มันเป็นเพราะว่าเจ้าฝึกฝนทักษะแปลกๆเพื่อแบกรับพลังแห่งจักรภพใช่หรือไม่?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า คนรักของข้าช่างฉลาดยิ่งนัก!” แก้มทั้งสองข้างของหม่าตั๋วเป่าถูกนางบีบ แต่เขาก็ยังคงส่งเสียงหัวเราะออกมา “ในตอนนั้นพวกเราโชคร้ายยิ่งนักที่พลังของข้ายังไม่มากพอที่จะเปิดสวรรค์ได้ ดังนั้น ครั้งนี้ข้าต้องสร้างกายหยาบที่แข็งแกร่งนี้ขึ้นมาเพื่อแบกรับพลังแห่งจักรภพให้ได้”
ราชินีหยินตบหน้าหม่าตั๋วเป่าและพูดว่า “กลับมาอยู่ในโฉมหน้าที่หล่อเหลาของเจ้าเถอะ แม้ว่าข้าจะไม่ชอบร่างที่อ้วนท่วมของเจ้า แต่ยังไงข้าก็ไม่อยากเห็นเจ้าตายอยู่ดี!” นางรีบไปหาหลิงฮันและพาเขาไปขณะพูดว่า “น้องชาย เจ้าไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเจ้าอ้วน ข้าไม่ต้องการเห็นเจ้าอ้วนอีกแล้ว”
หลิงฮันยกมือขึ้นและหัวเราะ “แน่นอน!”
อย่างไรก็ตาม ทักษะที่หม่าตั๋วเป่าฝึกฝนคืออะไรถึงทำให้ร่างกายของเขามีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
“หลังจากที่แก้ไขปัญหาแล้ว บางทีแค่ภูมิภาคกลางเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว!” หม่าตั๋วเป่าลูบคาง จากประสบการณ์ของหลิงฮัน ตราสัญลักษณ์จะทำให้พลังแห่งจักรภพเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า
ภูมิภาคกลางเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าจอมยุทธ เพียงแค่ภูมิภาคเดียวก็มีพลังมากกว่าทั้งสี่ภูมิภาคหลายสิบเท่าแล้ว
แม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาจะสามารถแบกรับพลังแห่งจักรภพไหวหรือไม่?
“ลองดูก่อน” หม่าตั๋วเป่าเริ่มสร้างตราสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมพลังของจักรวรรดิ และเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่มัน
ตอนนี้ จักรวรรดิจันทราม่วงครอบครองดินแดนมากกว่าเก้าในสิบส่วนของภูมิภาคกลาง เหลือเพียงแค่ดินแดนที่ห้านิกายโบราณตั้งอยู่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ที่ตั้งของห้านิกายโบราณไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก พวกมันเสริมกำลังซึ่งกันและกัน ทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะเอาชนะพวกมัน
ในพื้นที่เหลืออยู่นั้น มีจอมยุทธระดับทลายมิติมากกว่าหนึ่งร้อยคน ทั้งยังมีอาวุธวิญญาณที่น่าหวาดกลัวอย่างกระบี่ไร้เทียมทานและขวานภูผาวารีอีก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจำกัดได้ และหม่าตั๋วเป่าจะต้องเป็นคนออกไปจัดการด้วยตัวเอง
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายอยู่ไม่ไกลนัก
ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น หลิงฮันได้ตัดสินใจไปที่เมืองฮันก่อน
นี่คือสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สองแห่งที่เกี่ยวข้องกับศิษย์ของข้า และเขามีความจำเป็นที่เขาจะต้องมาที่นี่
เขาพาจูเสวี่ยนเอ๋อและฮูหนิวออกมาจากหอคอยทมิฬและเดินไปตามถนน ในอีกไม่กี่วันต่อมาพวกเขาก็มาถึงเมืองฮัน
ก่อนหน้านั้น หลิงฮันรู้แค่ว่าสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์อยู่ในเมืองฮัน แต่เขาไม่ได้สนใจมากนัก จนกระทั่งเมื่อเขามาที่นี่ ช่วยไม่ได้ที่เขาจะเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา มันทำให้เขาราวกับได้ย้อนกลับไปในอดีต
เมืองฮันคือเมืองกวางเฉินเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน และคือเมืองที่เขาอาศัยอยู่
โดยที่เขาไม่คาดคิด เมืองนี้ยังคงอยู่และไม่ได้ถูกทำลาย หลิงฮันยังจดจำความเสียหายบนกำแพงเมืองได้มันยังคงเหมือนกับเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน
“หลิงฮันเป็นอะไร?” ฮูหนิวถามขณะเดินจูงมือหลิงฮัน
“ไม่มีอะไร” หลิงฮันส่งรอยยิ้มให้กับฮูหนิวและเดินเข้าไปในเมือง
เขาเดินตรงไปที่สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ทันที
แต่ทว่าสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์นั้นมีสองแห่งในเมืองฮัน แห่งแรกตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง ในขณะที่อีกแห่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ทั้งสองแห่งต่างอ้างสิทธิ์ว่าเป็นสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ที่แท้จริงและมักจะมีเรื่องกันอยู่ตลอด
หลิงฮันเดินเข้ามาทางประตูตะวันออก ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางเหนือหรือใต้ก็มีระยะทางเท่ากัน ดังนั้นเขาเลยนำเหรียญทองแดงออกมาและโยนหัวก้อย “หากออกหัวข้าจะไปทิศใต้ หากออกก้อยข้าจะไปทิศเหนือ”
ผลลัพธ์คือออกก้อย
หลิงฮันจึงตัดสินใจเดินไปที่สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สาขาเหนือ
“ข้าต้องการคุยกับคนที่มีอำนาจตัดสินใจของที่นี่” หลิงฮันกล่าวกับทหารยามที่อยู่ด้านหน้าประตู
“เจ้าเป็นใคร?” ทหารยามถามด้วยรอยยิ้มเหยียดหยามอยู่บนใบหน้า นี่เป็นเรื่องธรรมดา ใครจะปล่อยให้คนแปลกหน้าไปพบกับหัวหน้าของพวกเขา?
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ข้ามีนามว่าหลิงฮัน พวกเจ้ารีบไปรายงานได้แล้ว”
“หลิงฮัน!” ทหารยามรู้สึกแปลกใจ เขาและผู้คนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ทุกคนเข้าใจความหมายของการมีอยู่ของพวกเขาดี นั่นคือการรวบรวมข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับหลิงฮัน
แน่นอนว่าหลิงฮันเป็นจักรพรรดิปรุงยาเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพวกเขากลับเยาว์วัยนัก
เขาเหลือบมองไปที่หลิงฮันและพูดว่า “ตกลง ข้าจะรีบไปรายงานหัวหน้าของข้าท่านที!”
ตอนที่ 822
หลิงฮันรอคอยอยู่หน้าประตู เขารอเวลานี้มาหลายปีแล้ว เพราะงั้นแค่รอต่อไปอีกสักหน่อยย่อมไม่ใช่ปัญหา
ฮูหนิวนั้นรู้สึกเบื่อหน่ายและเริ่มเตะหินตามทางเล่น ราวกับว่าจู่ๆนางก็เสพติดการเตะหิน นางเริ่มออกแรงเตะแรงขึ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อ้าก ใครกล้าทำร้ายนายน้อยผู้นี้!” รุ่นเยาผู้หนึ่งเดินเข้ามาโดยเอามือกุมหน้าผากไว้
เมื่อฮูหนิวเห็นเช่นนั้น นางก็แลบลิ้นออกมาและรีบเดินไปหลบหลังหลิงฮัน นางยื่นมือเล็กของนางชี้ไปที่จูเสวียนเอ๋อและกล่าว “เป็นสตรีผู้นี้ที่ทำร้ายเจ้าด้วยก้อนหิน หนิวเห็นเหตุการณ์ชัดเจนเลย!”
เด็กตัวแค่นี้จะพูดโกหกเป็นรึ?
รุ่นเยาว์ผู้นั้นมองมายังจูเสวียนเอ๋อตามมือของฮูหนิว แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
สตรีผู้นี้ช่างงดงามนัก! ในเมืองฮันแห่งนี้ไม่มีใครเลยที่จะเทียบนางได้!
ราวกับว่าจู่ๆหน้าผากของเขาก็หายเจ็บ เขารีบเปลี่ยนท่าทีให้ดูสุขุมและยิ้ม “ตัวข้ามีนามว่าเฟิงหยีเซียว ไม่รู้ว่าข้าจะเรียกแม่นางว่าอะไรดี?”
จูเสวียนเอ๋อชำเลืองมองไปยังอีกฝ่ายและกล่าว “พวกเราก็แค่คนที่เดินผ่านไปมาทั่วไป ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้ชื่อแซ่กัน”
“ข้าชอบคนนิสัยเช่นเจ้า!” เฟิงหยีเซียวยิ้มหวานมากกว่าเดิม “ในโลกที่กว้างใหญ่เช่นนี้พวกเรายังมาพบกันได้ หรือนี้จะเป็นวาสนา? แม่นาง เจ้าช่างงดงามอะไรเช่นนี้ มีเพียงสตรีเช่นเจ้าเท่านั้นที่เข้าตาข้า!”
จูเสวียนเอ๋อเลือกที่จะเมินเฉย
“แม่นาง ความงามของเจ้าแม้จะรุนแรงเหมือนยาพิษ แต่ข้าก็ชอบมัน!”
“ข้าตกหลุมรักเจ้าเสียแล้ว ได้โปรดให้ข้าได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กดับเจ้าด้วยเถิด!”
“……”
เฟิงหยีเซียวพล่ามคำหวานไม่หยุด ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและปากอันแสนหวานของเขา แน่นอนว่าย่อมมีสตรีมากมายตกหลุมพราง
แต่น่าเสียดายที่นั่นไม่ใช่กับจูเสวียนเอ๋อ ใบหน้าของนางเริ่มกลายเป็นเย็นชายิ่งขึ้น
“เจ้าคนโง่ จะมัวพูดไร้สาระอยู่ทำไม ชกนางให้สลบแล้วแบกกลับไปเลย!” ฮูหนิวทนดูต่อไม่ไหวและพูดเสนอแนะ
“นั่นไม่ใช่วิธีที่ดีเท่าไหร่!” เฟิงหยีเซียวนำมือกุมหน้าผากและส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
หลิงฮันหัวเราะและเอ่ยถาม “เจ้าต้องการอะไร?”
เฟิงหยีเซียวขนลุกและกล่าว “นายน้อยผู้นี้ไม่มีความสนใจต่อบุรุษ ไม่ต้องมาพูดจาเล่นลิ้นกับข้า!”
หลิงฮันแสยะยิ้ม “ถ้าเจ้ากล่าวเช่นนั้น งั้นข้าก็ขอเล่นกับเจ้าหน่อยแล้วกัน!”
“เจ้า! อย้าเข้ามาใกล้ข้าเชียว! ขอบอกไว้ก่อนนะว่าข้าน่ะแข็งแกร่งมาก เจ้าไม่ควรหาเรื่องไสตัว!” เฟิงหยีเซียวกล่าวพร้อมกับถือดาบไว้ในมือ
หลิงฮันเอื้อมมือออกไปพยายามคว้าร่างของอีกฝ่าย
“เจ้าคนเบี่ยงเบนทางเพศ รับกระบวนท่าของข้าไปซะ!” เฟิงหยีเซียวสะบั้นดาบ ‘พรึบ’ รัศมีดาบถูกปลดปล่อยออกมาและฟันเข้าใส่ข้อมือหลิงฮัน
ถึงจะเห็นเขาเป็นแบบนั้น แต่เขาก็เป็นรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์สูงส่ง มีจอมยุทธไม่มากนักที่สามารภบรรลุรัศมีดาบได้ในอายุเท่าเขา แต่ว่าหากเทียบกับหลิงฮันแล้วทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันราวกับอยู่คนล่ะโลก
มือของหลิงฮันจับไปยังข้อมืออีกฝ่าย
“มารดาเจ้าเถอะ!” เฟิงหยีเซียวตกตะลึง เขาพยายามดึงข้อมือออกมา แต่มือของหลิงฮันนั้นราวกับเป็นห่วงเหล็กที่รัดติดแน่นจนเขาดึงไม่ออก
“อย่าเรียกว่ามารดา จงเรียกข้าว่าพี่ชายแล้วข้าจะปล่อยเจ้า” หลิงฮันยิ้ม
“เจ้าคิดว่าตัวเองมีค่าพอให้ข้าเรียกเจ้าเช่นนั้นรึ!” เฟิงหยีเซียวเค้นเสียงเย็นชา เขาเปลี่ยนไปถือดาบอีกมือและแทงเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันใช้อีกมือคว้าจับมือของเฟิงหยีเซียวเอาไว้อีกครั้ง
เฟิงหยีเซียวตกตะลึง ทำไมชายคนนี้ถึงได้เคลื่อนไหวได้รวดเร็วเช่นนี้? เขาคำรามและใช้ฝ่ามือปล่อยเจตจำนงดาบใส่หลิงฮัน ทรงผมของเขาสยายออกกลายเป็นทรงเข็มเหมือนกับเม่น
แม้อีกฝ่ายมีกายหยาบที่แข็งแกร่ง แต่ในด้านจิตวิญญาณคงจะไม่เท่าไหร่ เมื่อถูกโจมตีด้วยเจตจำนงแห่งดาบ ร่างของหลิงฮันจะต้องแข็งค้างและเกิดอาการมึนหัวแน่นอน
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและโคจรแก่นแท้แห่งดาบ ‘พรึบ’ ทันใดนั้นเจตจำนงดาบของเฟิงหยีเซียวก็แหลกสลายทันที ใบหน้าของเฟิงหยีเซียวกลายเป็นซีดขาวราวกับว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลิงฮันปล่อยมือ ร่างของเฟิงหยีเซียวทรุดลงไปนอนขดตัวที่พื้นทันที การบาดเจ็บด้านวิญญาณนั้นไม่ใช่บาดแผลเบาๆ
“นายน้อย!” ในตอนนั้นเอง คนสองคนก็เดินออกมาจากประตู คนหนึ่งคือทหารยามก่อนหน้านี้ ส่วนอีกคนหนึ่งคือชายชราร่างผอมที่ดูมีอายุราวๆหกสิบถึงเจ็ดสิบปี ชายชรารีบพุ่งเข้ามาด้านหน้าเฟิงหยีเซียวเพื่อดูอาการ เมื่อเห็นว่าเฟิงหยีเซียวไม่มีบาดแผลอันใดเขาก็ถอนหายใจโล่งอก
ชายชราจ้องมองไปยังหลิงฮันด้วยสายตาเย็นชา “คนที่ทำร้ายนายน้อยคือเจ้า?”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “จะพูดว่าทำร้ายก็ไม่ถูกนัก พวกข้าแค่แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันเล็กน้อย”
“เหอะ กล้าทำร้ายคนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ที่นี่ ช่างกล้าหาญนัก!” ชายชรากล่าวอย่างเย็นชา
ชายชราผู้นี้มีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับก้าวสู่เทวา แถมพลังต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ
หลิงฮันพาดมือไว้ด้านหลังและกล่าว “ดูแล้วสถานะของเจ้าคงไม่ต่ำต้อย ข้าขอถามหน่อยว่าเจ้าคุ้นชื่อเจียนเยว่ซวน หยุนหย่งหวังและคังซิวหยวนหรือไม่?”
“เหอะ แม้เจ้าจะอ้างชื่อใครมา วันนี้ก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้!” ชายชรากระโจนปล่อยฝ่ามือใส่หลิงฮัน ปราณก่อเกิดที่เขาปลดปล่อยออกมาแฝงไว้ด้วยพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
หลิงฮันผลักฝ่ามือขวาเข้าใส่ชายชรา ‘ปัง’ ร่างของชายชราถูกผลักถอยเข้าใส่กำแพงนับสิบ กำแพงเหล่านั้นพังทลายพร้อมกับสติของชายชราที่หายไป
เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ มันจะไม่ดึงดูดความสนใจได้อย่างไร?
‘ตุบ ตุบ ตุบ’ คนมากมายรีบวิ่งออกมาจากที่พักและล้อมหลิงฮันเอาไว้
“ฮึ่ม!” กลิ่นอายอันทรงพลังปะทุขึ้นพร้อมกับร่างหนึ่งที่ปรากฏออกมา
“คารวะอาวุโสเจ็ด!” ทุกคนนั่งลงคุกเข่าข้างเดียว
ร่างที่ปรากฏคือชายชราผมขาว ดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจของเขาจ้องมองมายังหลิงฮัน “เจ้าหนุ่ม ความกล้าของเจ้ามีไม่น้อยเลย เจ้ากล้ามาสร้างปัญหาที่สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์แห่งนี้!”
หลิงฮันส่ายหัว “ก็แค่การป้องกันตัวเท่านั้น แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าความอดทนของข้ามีขีดจำกัด ถ้าไม่มีใครคิดจะสนทนากับข้าดีๆ ข้าก็คงต้องทุบตีพวกเจ้าทุกคนเสียก่อนแล้วคอยดูว่าพวกเจ้าจะทำตัวว่าง่ายรึไม่”
ตอนที่ 823
“ปากดีนักทั้งที่เป็นแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวา!” ผู้อาวุโสเจ็ดเย้ยหยัน “เด็กหนุ่มอย่างเจ้าเป็นธรรมดาที่จะอารมณ์ร้อน เช่นนั้นชายแก่อย่างข้าจะเป็นคนสั่งสอนเจ้าเอง!”
หลิงฮันกล่าวว่า “แม้ท่านจะแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นแค่กบก้นบ่อที่ไม่รู้ว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่แค่ไหนและท่านควรรู้ว่ามีคนที่แข็งแกร่งกว่าท่าน”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ผู้อาวุโสเจ็ดหัวเราะ และกลายเป็นโกรธเกรี้ยว ถ้าพวกเขาทั้งสองคนสลับอายุกัน มันเป็นเรื่องจริงที่จะพูดแบบนั้นออกมา แต่ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังพูดจาสั่งสอนเขา แล้วเขาจะนิ่งเฉยได้อย่างไร
ดวงตาของเขาเริ่มหนาวเย็นขึ้นและไม่พูดจาไร้สาระกับหลิงฮันอีกต่อไป
เขาเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ การจัดการกับรุ่นเยาว์ที่เป็นแค่ระดับก้าวสู่เทวาไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาหรอกหรือ?
เขาเหยียดมือขวาออกไปและใช้เจตจำนงแห่งเต๋าของจอมยุทธระดับสวรรค์ ทำให้เกิดแรงกดดันที่หนักหน่วง อีกฝ่ายที่เป็นจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาจะต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันของเขาอย่างแน่นอน
หลิงฮันไม่คิดที่จะหลบหรือหนี
เมื่อฝ่ามือจับมาที่หลิงฮํน เขาตอบโต้ฝ่ามือของชายชราอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น สีหน้าของผู้อาวุโสเจ็ดเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แม้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจะไม่เท่ากับเขา แต่เจตจำนงแห่งเต๋าของเขามันน่าสะพรึงกลัวมาก มันได้แทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเขาเหมือนกับเข็ม และทำให้เขาได้รับความเจ็บปวด
เขาก้าวถอยหลังออกไปเจ็ดก้าวและเงยหน้าขึ้นมอง แต่พบว่ามือของตัวเองกำลังสั่น และไม่สามารถจับหลิงฮันไว้ได้
เป็นไปไม่ได้ เจ้าเด็กหนุ่มนี่เป็นสัตว์ประหลาดงั้นรึ? เขาสามารถสลายเจตจำนงแห่งเต๋าของข้าได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้อาวุโสเจ็ดถึงหยุดนิ่ง?”
“ข้าจะไปรู้เรอะ ข้าเห็นแค่ผู้อาวุโสเจ็ดล่าถอยไปข้างหลังเจ็ดก้าวเท่านั้น”
“หรือว่าเขาต้านทานการโจมตีของผู้อาวุโสเจ็ดได้?”
“ไร้สาระ ผู้อาวุโสเจ็ดเป็นถึงจอมยุทธระดับสวรรค์ที่เกือบจะเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แล้วเขาจะไม่สามารถต่อกรกับเด็กที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไร?”
ทุกคนเริ่มถกเถียงกัน แต่ด้วยสายตาของพวกเขานั้นมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “พวกเราจะมานั่งพูดคุยกันได้แล้วหรือยัง?”
ผู้อาวุโสเจ็ดจ้องมองหลิงฮันเป็นเวลานานและพูดว่า “ดูเหมือนเจ้าจะดูถูกสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ของข้าเกินไปแล้ว แม้ข้าจะไม่สามารถหยุดเจ้าได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครสามารถหยุดเจ้าได้!”
ว่าไงนะ!
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนรู้สึกตกใจ พวกเขาจะเชื่อได้อย่างไรว่าผู้อาวุโสเจ็ดไม่สามารถหยุดเด็กหนุ่มคนนี้ได้? เขาดูมีอายุประมาณยี่สิบปีเท่านั้น แต่แข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสเจ็ด?
หรือว่าเขาจะเป็นปีศาจเฒ่าในร่างเด็กหนุ่ม?
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ข้าไม่อยากเสียเวลาที่จะจัดการพวกเจ้าทีละคน!” หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในสมาคม
“หยุด!”ทุกคนส่งเสียงตะโกน หากคนนอกเข้าไปในสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ของพวกเขาจะถือว่าเป็นการดูหมิ่น
“พวกเจ้าหยุดเขาไม่ได้หรอก ปล่อยเขาเข้าไป แล้วปล่อยให้คนอื่นเป็นคนสั่งสอนเขา!” ผู้อาวุโสเจ็ดกล่าว
ทุกคนพยักหน้า สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ไม่ได้ขาดแคลนจอมยุทธ แม้จอมยุทธระดับสวรรค์หยุดหลิงฮันไม่ได้ แต่ถ้าเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติล่ะ?
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เสียงกรีดร้องดังออกมาจากด้านใน ซึ่งน่าจะเป็นเสียงของการต่อสู้ แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็เงียบกริบ แล้วมีชายชราคนหนึ่งวิ่งออกมาด้วยใบหน้าบูดบวม
“เกิดอะไรขึ้น แม้แต่ผู้อาวุโสห้ายังพ่ายแพ้?”
ทุกคนอุทานออกมา เด็กหนุ่มคนนั้นค่อนข้างแข็งแกร่งทีเดียว! ผู้อาวุโสเจ็ดรีบเดินเข้าไปถามเกี่ยวกับการต่อสู้ด้านในทันที และพ่ายแพ้กี่กระบวนท่า
ผู้อาวุโสห้าแสดงท่าทางเขินอาย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “ข้าพ่ายแพ้ให้กับเด็กสาวตัวน้อยที่น่าจะมีอายุประมาณสิบปี!” เขาเพิ่มอายุให้กับฮูหนิวเพื่อให้อับอายน้อยลง แต่นางตัวเล็กเกินไป ซึ่งไม่น่าจะถึงสิบปี
พรวด!
ทุกคนพ่นน้ำลายออกมา ผู้อาวุโสห้าที่แข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสเจ็ดกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับเด็กสาวตัวน้อยเมื่อครู่?
ทุกคนเห็นฮูหนิว แต่ไม่คิดว่าเด็กสาวตัวน้อยอย่างนางแท้จริงแล้วเป็นสัตว์ประหลาด
ปัง!
เกิดเสียงการต่อสู้อยู่ด้านในอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นไม่นานก็สงบลง และมีชายชราสองคนวิ่งออกมาพร้อมกับบาดแผล หนึ่งในพวกเขาสองคนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยข่วน
“ผู้อาวุโสสาม!”
“ผู้อาวุโสรอง!”
ทุกคนรู้สึกตกใจ แม้แต่ผู้อาวุโสรองก็ยังพ่ายแพ้ทั้งที่พวกเขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติ หรือว่าหลิงฮันจะมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติ?
คนหนึ่งพ่ายแพ้ให้กับหลิงฮัน ส่วนอีกคนหนึ่งพ่ายแพ้ให้กับฮูหนิว
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่ต่างเงียบกริบ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ข้าได้ยินมาว่ามีใครบางคนบุกเข้าไปในสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ของพวกเจ้าอย่างนั้นรึ!” ในขณะนั้น พวกเขาเห็นคนหลายสิบคนปรากฏตัวออกมาซึ่งนำโดยชายชราสามคน และด้านหลังของพวกเขาเป็นคนหนุ่มสาวสิบเอ็ดคน
ถ้าหลิงฮันอยู่ที่นี่ เขาคงจะจำมู่เฟยเหยาที่อยู่ในกลุ่มคนหนุ่มสาวเหล่านั้นได้
– เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้มาจากสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สาขาใต้
“ไร้สาระ พวกเจ้ามันก็แค่สมาคมหลอกลวง!” ผู้คนที่อยู่ที่นี่เริ่มส่งเสียงโห่ร้อง ซึ่งพวกเขาคิดว่าสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ที่เป็นสมาชิกอยู่นั้นเป็นของจริง นี่เป็นปัญหาหลักที่สำคัญยิ่งกว่าการที่หลิงฮันบุกเข้าไปข้างในเสียอีก
“เหลวไหล พวกเจ้านั้นแหละสมาคมหลอกลวง!” หนานเฟิงก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
เมื่อได้ที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน พวกเขามักจะทะเลาะกันเพราะปัญหานี้ ถึงขั้นต่อสู้กันและต่างฝ่ายเกือบจะถูกทำลาย ดังนั้น พวกเขาจึงทำข้อตกลงกันว่าเมืองฮันนั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และห้ามต่อสู้กันที่นี่ ร่วมถึงหากเมืองฮันถูกทำลาย ทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา
“ดูเหมือนพวกเจ้ากำลังมีปัญหา พวกเจ้าต้องการให้พวกข้าช่วยหรือไม่?” หนานเฟิงกล่าว
“หึ่ม ปัญหาของพวกเรา พวกเราจะเป็นคนแก้ไขเอง และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสมาคมหลอกลวงอย่างพวกเจ้า!” แน่นอนผู้คนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สาขาเหนือจะยอมรับความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายได้อย่างไร?
พวกเขายังคงมีความมั่นใจอยู่ เพราะผู้อาวุโสใหญ่เป็นถึงจอมยุทธระดับทลายมิติที่แข็งแกร่งที่สุดของสมาคม
……
ในส่วนลึกของสมาคม หลิงฮันและชายชรากำลังนั่งไขว่ห้าง แต่ละคนมีถ้วยชาอยู่ในมือ ส่วนจูเสวี่ยนเอ๋อกับฮูหนิวนั้นนั่งอยู่ด้านหลังหลิงฮัน จูเสวี่ยนเอ๋อนั้นไม่เท่าไร แต่ฮูหนิวนั้นกำลังนั่งๆนอนๆอยู่บนพื้น
ชายชราที่อยู่หน้าพวกเขาคือผู้นำของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สาขาเหนือ
ผู้อาวุโสนั้นรักสงบและไม่ได้แก้ปัญหาด้วยการต่อสู้ แต่เขาขอให้หลิงฮันนั่งดื่มชากับเขาแทน แล้วพูดว่า “สหายน้อยอายุแค่ยี่สิบปี แต่กลับมีความสามารถขนาดนั้น ช่างหาได้ยากยิ่งหนัก”
“ผู้อาวุโสยกยอข้าเกินไปแล้ว ข้าต้องการคำแนะนำจากผู้อาวุโสและข้ามีเรื่องที่ต้องการถาม” หลิงฮันกล่าวด้วยความสุภาพ
ผู้ใดเคารพเขา เขาก็จะเคารพคนผู้นั้นกลับ
“ข้าไม่รู้ว่าสหายตัวน้อยต้องการถามอะไรอย่างนั้นหรือ?” ผู้อาวุโสถาม
“ผู้ก่อตั้งสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์!”่
ตอนที่ 824
“ผู้ก่อตั้งสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์?” ชายชรามีท่าทีประหลาดใจ ทำไมรุ่นเยาว์ตรงหน้าถึงได้อยากรู้เรื่องนี้กัน?
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนวรยุทธหรือความลับอันใดของห้านิกายโบราณ ทำไมอีกฝ่ายถึงต้องอุตส่าห์บุกเข้ามาเพื่อถามคำถามเช่นนี้ด้วย?
ชายชราครุ่นคิดชั่วขณะก่อนจะกล่าว “เจ้าช่วยบอกข้าได้รึไม่ว่าทำไมเจ้าถึงต้องการรู้เรื่องนี้?”
หลิงฮันยิ้ม “บรรพบุรุษของข้ามีความเกี่ยวข้องกับผู้นำของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ เพราะงั้นข้าเลยต้องการรู้”
ชายชราชะงักเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “แซ่ของเจ้าคือหลิง หรือว่าเจ้าจะเป็นลูกของคนผู้นั้น?”
หลิงฮันกล่าว “ก็ไม่เชิง” แน่นอนว่าเขาไม่มีทางบอกรายละเอียดเบื้องลึกกับอีกฝ่าย เขาไม่ใช่ผู้สืบทอดของหลิงฮันแต่เขานี่แหละคือหลิงฮัน จักรพรรดิปรุงยาเมื่อหลายหมื่นปีก่อน!
“ผู้ก่อตั้งสมาคมมีอยู่สามคนคือ ปรมาจารย์เฉินหลุยเจียง ปรมาจารย์หยุนหย่งหวังและปรมาจารย์คังซิวหยวน!” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพ มือของเขาประกบเข้าหากันราวกับกำลังกราบเทิดทูน
เป็นอย่างที่คิด!
ถ้าเช่นนั้นแล้วสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ก็คงจะถูกสร้างขึ้นโดยเจียนเยว่ซวน แต่ทำไมทั้งสี่คนถึงต้องสร้างสมาคมแยกกันด้วย? ว่าเจียนเยว่ซวนจะมีความขัดแย้งกับพวกเฉินหลุยเจียง?
หลิงฮันนั่งคิดอยู่สักพักก่อนจะกล่าว “ทั้งสามคน… ขึ้นไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วงั้นรึ?”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น!” ชายชรากล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ทั้งสามคนกลายเป็นพระเจ้าอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะติดต่อกับโลกเบื้องล่างเพื่อก่อตั้งสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ขึ้นมา”
คิ้วของหลิงฮันขมวดเข้าหากัน นี่มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?
เจียนเยว่ซวนเองก็สมควรกลายเป็นพระเจ้าได้แล้วเช่นกัน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึงสี่พันห้าพันปี
หรือว่าลูกศิษย์ของเขาอีกสามคนที่เหลือคงจะมีความขัดแย้งกับเจียนเยว่ซวนจริงๆ?
การที่จะขึ้นไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ หากไม่เปิดสวรรค์ก็ต้องยอมจำนนต่อห้านิกายโบราณ
หรือว่าลูกศิษย์ทั้งสี่ของเขาจะมีฝ่ายใดยอมเข้าร่วมกับห้านิกายโบราณทำให้เกิดความขัดแย้งกัน?
ไม่สิ…
หลิงฮันส่ายหัว เขารู้จักลูกศิษย์ทั้งสี่ของเขาดีพวกเขาไม่ใช่คนแบบนั้น นอกจากนั้นหลิงฮันก็ยังลืมคนไปคนหนึ่ง… นั่นคือสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์!
ด้วยการช่วยเหลือของนาง แม้จะไม่เข้าร่วมกับห้านิกายโบราณนางอาจจะช่วยเหลือพาทั้งสี่คนขึ้นไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้
“สหายน้อย! สหายน้อย!” เมื่อชายชราเห็นหลิงฮันตกอยู่ในภวังค์ เขาก็อดตะโกนเรียกหลิงฮันไม่ได้
หลิงฮันรู้สึกตัวอีกครั้งและยิ้ม “ขอบคุณผู้อาวุโสมากที่ช่วยไขข้อข้องใจของข้า!”
“โอ้ แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” ชายชราหัวเราะ เขาเป็นคนหนึ่งที่รับรู้ได้ว่าหลิงฮันนั้นเป็นรุ่นเยาว์ที่มีอนาคตไร้ขีดจำกัด ดังนั้นเขาจึงคิดจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับหลิงฮันเอาไว้
หลิงฮันนำสมุนไพรมากมายออกมาและกล่าว “ช่างน่าอายนักที่ข้าทำให้คนของสมาคมมากมายต้องบาดเจ็บ”
ชายชราไม่ปฏิเสธและนำสมุนไพรเหล่านั้นเก็บเข้ามาใส่ในแหวนมิติ “สหายน้อย ถ้าเจ้าพบภัยคุกคามที่ไม่อาจแก้ไขได้ก็จงมาที่นี่ ไม่ว่าภัยนั้นจะอันตรายขนาดไหนชายชราผู้นี้จะช่วยเหลือเจ้า”
หลิงฮันชะงักในใจ หรือว่าอีกฝ่ายจะหมายถึงการชำระล้าง? หลิงฮันไม่ได้กล่าวถามออกไปและพยักหน้า “เช่นนั้นข้าก็ขอขอบคุณผู้อาวุโสมาก ข้าคงต้องขอตัวก่อน”
“คงไม่จำเป็นต้องให้ข้าไปส่งนะ” ชายชราหัวเราะ
เขาคือตัวตนระดับทลายมิติ ถึงแม้หลิงฮันจะเรียกได้ว่ามีสถานะทัดเทียมกับจอมยุทธระดับสวรรค์ แต่ตามกฎของโลกวรยุทธเขาก็ไม่มีคุณสมบัติพอให้ชายชราต้องไปส่งกลับอยู่ดี
“ไปกันเร็วๆ!” ฮูหนิวเร่งเร้า นางรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับลากขาของเจ้ากระต่ายไปด้วย ทำให้เจ้ากระต่ายต้องส่งเสียงร้องโอดครวญ
พวกเขาออกมาถึงประตูทางเข้าของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าคนมากมายต่างจ้องมองมายังพวกเขา
ฮูหนิวคึกขึ้นมาทันที นางปล่อยขาเจ้ากระต่ายและกล่าว “ใครที่ต้องการสู้ หนิวจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เอง!”
ทุกคนมีท่าทีประหลาดใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างคิดว่าหลิงฮันนั้นไม่สามารถต่อกรกับตัวตนระดับทลายมิติได้ ถ้าเช่นนั้นแล้วทำไมเขาถึงเดินกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยเช่นนี้?
“ฮ่าๆๆ สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ของปลอมก็ยังคงเป็นสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ของปลอมอยู่วันยังค่ำ! พวกเจ้าช่างน่าอัปยศยิ่งนัก!” กลุ่มของสมาคมทิศใต้หัวเราะลั่น
ถึงแม้ผู้คนของของสมาคมทิศเหนือจะไม่สบอารมณ์ แต่การที่หลิงฮันเดินกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยก็เป็นความจริง เช่นนี้แล้วพวกเขาจะเถียงอะไรได้?
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้าพบกับผู้นำสมาคมและพบว่าข้าไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของผู้นำได้ เพราะงั้นข้าจึงยอมรับความพ่ายแพ้และขอโทษแต่โดยดี เป็นผู้นำต่างหากที่เมตตาและปล่อยข้ากลับออกมา” ในเมื่อผู้นำมีทัศนิติที่ดีต่อเขา หลิงฮันจึงไม่รังเกียจที่จะไว้หน้าเขาบ้าง
เมื่อได้ยินเช่นนั้นผู้คนของสมาคมทิศเหนือก็ยิ้มทันที ที่แท้ผู้นำก็ไม่เห็นหลิงฮันอยู่ในสายตานี่เอง
“ผู้อาวุสาม เขาคือหลิงฮัน!” มู่เฟยเหยากล่าวขึ้นมาทันที
“โอ้ เขานะรึหลิงฮัน?” ชายชราสามคนของสมาคมทิศใต้หันไปมองหลิงฮันทันที
“ไม่ผิดแน่!” มู่เฟยเหยากล่าว
“เจ้าหนู จงเปลี่ยนชื่อของเจ้าซะ!” ชายชรากล่าวกับหลิงฮัน
ชายชราสามคนคือ ผู้อาวุโสสาม ผู้อาวุโสสี่และผู้อาวุโสแปดของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ทิศใต้ คนที่กล่าวกับหลิงฮันคือผู้อาวุโสสี่
หลิงฮันยิ้ม “ทำไมข้าต้องทำเช่นนั้น?”
“เพราะเจ้าไม่คู่ควรกับชื่อนั่น!” ผู้อาวุโสแปดกล่าวแทรก
หลิงฮันส่ายหัว “เจ้าจะเคารพตัวตนจากยุคโบราณก็เป็นเรื่องของเจ้า แต่อย่าลากผู้อื่นเข้าไปเกี่ยวข้อง! ข้ามีอิสระในการตั้งชื่อ เจ้าไม่มีสิทธิ์มาบังคับข้าได้!”
“เจ้าแก่ตัวเหม็น หรือเจ้าต้องการมีเรื่อง?” ฮูหนิวกระโดดออกมาและชี้นิ้วใส่ “หนิวจะเป็นคนจัดการเจ้าเอง!”
ผู้อาวุโสแปดย่อมไม่สนใจคำพูดของเด็กน้อย เขาเมินเฉยต่อฮูหนิวอย่างสิ้นเชิง
“ไม่กล้างั้นรึ? ช่างน่าสมเพช!” ฮูหนิวคว้าร่างของเจ้ากระต่ายขึ้นมาและขว้างใส่ผู้อาวุโสแปด
“อ้ากก ทำไมต้องเอานายท่านกระต่ายเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย?” เจ้ากระต่ายกรีดร้องและขดตัวเป็นวงกลม
ตอนที่ 825
ปัง เจ้ากระต่ายบินอยู่บนฟ้าอย่างรวดเร็วและกระแทกเข้ากับใบหน้าของผู้อาวุโสแปด แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เจ้ากระต่ายม้วนตัวและโจมตีออกไปด้วยอุ้งเท้าทั้งสี่ข้าง ทำให้ใบหน้าของผู้อาวุโสแปดเกิดรอยแผลขีดข่วนและมีโลหิตไหลออกมา
นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงมาก อย่างน้อยผู้คนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สาขาเหนือก็รู้ว่าฮูหนิวเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แต่ไม่เคยคิดเลยว่ากระต่ายที่พวกเขามาด้วยจะแข็งแกร่งขนาดนั้น
“อ๊าก ข้ากลัวแทบแย่ แต่ข้าไม่เจ็บ!” เจ้ากระต่ายลงมาจากท้องฟ้าและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นี่ทำให้ทุกคนโกรธมาก เจ้าไม่ได้ถูกทำร้ายสักหน่อย แต่เป็นผู้อาวุโสแปดต่างหากที่ถูกเจ้าทำร้าย! ผู้อาวุโสแปดเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ แล้วเขาจะยอมรับความอับอายที่เกิดขึ้นในที่สาธารณะแบบนี้ได้อย่างไร?
จะไปว่าเจ้ากระต่ายนั่นพูดได้ด้วย?
ผู้อาวุโสแปดโกรธจนตัวสั่น และชี้นิ้วไปที่ฮูหนิว “จ… เจ้า!”
มันเป็นความอัปยศที่น่าอับอายยิ่งนัก ทั้งที่เขาเป็นถึงจอมยุทธระดับสวรรค์แต่โดนเจ้าเด็กน้อยที่ทำให้อับอาย!
“ตาแก่นี่เป็นอะไรของเขากัน ข้าไม่ได้ทำร้ายเจ้าถึงตายสักหน่อย จะว่าไปใบหน้าของเจ้าแข็งยิ่งนักเกือบทำให้กรงเล็บของข้าหัก” เจ้ากระต่ายจ้องมองด้วยท่าทางดุร้าย
ผู้อาวุโสแปดผลักดันความโกรธไปที่เจ้ากระต่าย มันกำลังเยาะเย้ยเขา!
“ตาย!” เขากระโจนเข้าหาเจ้ากระต่ายทันที
“บรรพบุรุษตัวน้อย ช่วยข้าด้วย!” เจ้ากระต่ายกรีดร้อง มันเป็นแค่สัตว์อสูรระดับก้าวสู่เทวา แต่ก่อนหน้านี้มันกล้าที่จะข่วนหน้าผู้อาวุโสแปด แต่เมื่อเผชิญหน้ากันโดยตรงมันจะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไร?
เจ้ากระต่ายรีบวิ่งหนีทันที และไปหลบอยู่ด้านหลังฮูหนิว และชี้อุ้งเท้าไปที่ผู้อาวุโสแปด “บรรพบุรุษตัวน้อยจัดการมันเลย!”
ฮูหนิวยกแขนเสื้อขึ้น การต่อสู้เป็นอะไรที่นางชื่นชอบที่สุด!
ผู้อาวุโสแปดเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฮูหนิวทันที และต่อยหมัดที่อัดแน่นไปด้วยเจตตำนงแห่งเต๋าออกไป มันดูน่าสะพรึงกลัวมาก
ดูเหมือนเขาจะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า และลืมไปแล้วว่าที่นี่คือเมืองฮัน และระเบิดความแข็งแกร่งออกมาทั้งหมด ตอนนี้เขาอยากจะฆ่าทุกคนเพื่อปิดปาก และความอัปยศของเขาก็จะไม่มีใครล่วงรู้
ตู้ม ตู้ม ตู้ม
ฮูหนิวจับขาเจ้ากระต่ายและโยนใส่ผู้อาวุโสแปดอีกครั้ง
“ข้าอีกแล้วเรอะ” เจ้ากระต่ายกรีดร้อง เมื่อมันปะทะ มันก็ข่วนใบหน้าของผู้อาวุโสแปดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันรุนแรงกว่าเดิม และทำให้ผู้อาวุโสแปดมึนงง ก่อนที่จะรีบหลบหนีออกมา
“เจ้า! เจ้า!” ผู้อาวุโสแปดชี้นิ้วไปที่ฮูหนิวและเจ้ากระต่าย เขาไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวของทั้งสองได้ทันแม้แต่ครั้งเดียว และในขณะที่เขาก้าวเดิน เขาก็สะดุดล้มอย่างกะทันหันและล้มไปนอนกองกับพื้น
“ผู้อาวุโสแปดแพ้แล้ว!”
ผู้คนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ใต้ที่อยู่รอบๆส่งเสียงอุทานออกมาทีละคนด้วยสีหน้าตกใจ
จอมยุทธระดับสวรรค์เกือบเป็นตัวตนไร้พ่ายในสายตาของพวกเขา แต่เขากลับพ่ายแพ้ให้กับเด็กสาวตัวน้อยและกระต่าย ถ้าพูดให้คนอื่นฟัง คนอื่นจะเชื่อที่พวกเขาพูดหรือไม่?
นี่จะต้องเป็นความฝันอย่างแน่นอน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ฮูหนิวหัวเราะคิกคักและปรบมือ “ตลก ตลกจริงๆ! เอาล่ะ ต่อไปใครอยากเล่นต่อ?” สายตาของนางกวาดมองไปที่ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกถูกกดดันอย่างหนัก
เมื่อครู่ที่พวกเขามองการโจมตีของฮูหนิว การโจมตีของอีกฝ่ายนั้นไม่มีอะไรเลย นอกจากความเร็ว แต่นั่นมันรวดเร็วเกินไป แม้แต่พวกเขายังต้องรู้สึกทึ่ง
แม้ว่าความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสแปดจะด้อยกว่าพวกเขาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ หากพวกเขาถูกแทนที่มันอาจเป็นพวกเขาเองที่ต้องตกอยู่ในสภาพนั้น!
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ยังมีใครอีกไหมที่ต้องการให้ข้าเปลี่ยนชื่อ?”
ผู้คนของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์สาขาใต้ไม่กล้าพูดอะไรออกมา แม้แต่ผู้อาวุโสแปดยังถูกจัดการ และผู้อาวุโสอีกสองคนยังกลายเป็นใบ้ แล้วพวกเขาจะกล้าพูดได้อย่างไร?
“ถ้างั้นพวกเราไปกันเถอะ” หลิงฮันกล่าว
“ไปกันเลย!” ฮูหนิวกระโดดโลดเต้น และคว้าหูของเจ้ากระต่ายแล้วลากไป
“อ๊าก เจ้ากำลังทำร้ายข้า!” เจ้ากระต่ายกรีดร้อง
ดวงตาที่งดงามของมู่เฟยเหยาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ครั้งแรกที่นางพบเจอกับหลิงฮัน อีกฝ่ายเป็นคนที่อ่อนแอมาก ในตอนนั้นนางสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ด้วยนิ้วมือเดียว แต่ตอนนี้นางเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบาน ในขณะที่อีกฝ่ายทิ้งนางไม่เห็นฝุ่นและนางทำได้แค่แหงนหน้ามองขึ้นไป
หลิงฮันกลับไปที่เมืองจักรพรรดิของจักรพรรดิจันทราม่วง และในอีกประมาณสิบวันหม่าตั๋วเป่าน่าจะแก้ปัญหาเรื่องตราสัญลักษณ์เสร็จ และนั่นจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับห้านิกายโบราณ
เขาไม่ต้องการที่จะพลาดการแสดงครั้งยิ่งใหญ่นี้
เมื่อหลิงฮันกลับมาถึง เขาเห็นเงาของดาบอยู่เหนือพระราชวัง นั่นน่าจะเป็นตราสัญลักษณ์ที่หม่าตั๋วเป่าสร้างขึ้น ซึ่งหลิงฮันสามารถสัมผัสถึงมันได้ และมันได้รวบรวมพลังของผู้คนจำนวนมากเอาไว้แล้ว
น่าทึ่งมาก เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จักรวรรดิจันทราม่วงนั้นก่อตั้งมานานกว่าจักรวรรดิต้าหลิงมาก ที่เหลืออยู่แค่ศรัทธาและความเชื่อมั่นของผู้คนเท่านั้น
นอกจากนี้ ภูมิภาคกลางมีขนาดกว้างใหญ่ และระดับโดยภาครวมของจอมยุทธอยู่ในระดับที่สูงมาก อีกไม่นานตราสัฐลักษณ์น่าจะเทียบได้กับระดับทลายมิติแล้ว
“โอ้ว น้องชายตัวดำ เป็นเหมือนที่เจ้าพูดเอาไว้เลย หลังจากที่ข้าสร้างตราสัญลักษณ์ มันทำให้ข้ารู้สึกเต็มไปด้วยพลัง และเหมือนข้าจะแบกรับมันไม่ไหว” หม่าตั๋วเป่ากล่าวพรางถอนหายใจ
หลิงฮันขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่ชายหม่า ท่านฝึกฝนทักษะบ่มเพาะกายา แต่ก็ยังแบกรับพลังแห่งจักรภพไม่ไหวอย่างนั้นรึ?”
“พลังแห่งจักรภพที่สามารถแบกรับได้นั้นขึ้นอยู่กับสองปัจจัย อย่างแรกคือระดับพลัง อย่างที่สองกายหยาบ ในเรื่องของระดับพลังนั้น ข้าทะลวงผ่านระดับทลายมิติแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาต่อไป นอกจากขัดเกลาร่างกายเท่านั้น และตอนนี้กายหยาบของข้าแข็งแกร่งเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบแล้ว และดูเหมือนว่านี่คือขีดจำกัดของมัน” หม่าตั๋วเป่าส่ายหัว
แต่เขาก็หัวเราะออกมาทันที “อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับการเปิดสวรรค์ครั้งก่อน พลังแห่งจักรภพที่ข้าสามารถแบกรับได้อย่างน้อยก็เพิ่มขึ้นสองเท่า และทำให้ข้ามีความมั่นใจสามสิบเปอร์สิบที่จะเปิดสวรรค์สำเร็จ!”
แค่สามสิบเปอร์เซ็นต์!
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ อย่างแรกมันเป็นเพราะความแข็งแกร่งของหม่าตั๋วเป่า พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายจะต้องมากกว่าระดับทลายมิติสิบห้าดาวอย่างแน่นอน และมีกายหยาบเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบ
แต่ทว่าความแข็งแกร่งและกายหยาบดังกล่าวบวกกับพลังแห่งจักรภพ โอกาสที่เขาจะทำสำเร็จยังมีแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ถ้าเป็นหลิงฮันล่ะ?
หลิงฮันถามตัวเองว่าถ้าเขาบรรลุระดับทลายมิติ โอกาสที่เขาทำสำเร็จน่าจะมากกว่าหม่าตั๋วเป่า
และพลังต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่า แล้วโอกาสที่เขาจะเปิดสวรรค์สำเร็จจะเป็นเท่าใด เมื่อเทียบกับหม่าตั๋วเป่า?
ตอนที่ 826
“พี่ชายหม่า ถ้ามีเรื่องบางเรื่องที่พี่ชายทำไม่ไหว ก็ควรให้เป็นหน้าที่ของข้า…” หลิงฮันตัดบทพูดและชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า
ถ้าเปิดสวรรค์ได้สำเร็จก็ดีไป แต่ถ้าหากล้มเหลวล่ะ? สวรรค์และปฐพีจะต้องลงทัณฑ์อย่างเกรี้ยวกราดแน่นอน ไม่เช่นนั้นแล้วจักรวรรดิโบราณของหม่าตั้วเปาในอดีตจะถูกทำลายได้อย่างไร?
ที่พวกเขาต้องหลับใหลเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี บางที่นั่นอาจจะเพื่อหลบซ่อนจากสายตาของสวรรค์และปฐพี
หม่าตั้วเปาส่ายหัว “พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว ถ้าเกิดการชำระล้างเริ่มขึ้น พวกเราก็จบสิ้น”
เมื่อการหลอมโลกให้เป็นเม็ดยาเริ่มขึ้น ตัวตนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะลงมา และถึงแม้พวกเขาจะถูกปิดกั้นพลังเอาไว้ที่ระดับทลายมิติ แต่พลังต่อสู้ของพวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งและไร้เทียมทานอยู่ดี
หลิงฮันพยักหน้า พวกเขาไม่มีเวลาแล้วจริงๆ
ในวันถัดมา พวกเขาก็เริ่มต้นมุ่งหน้าลงมือจัดการกับห้านิกายโบราณ
หากมองจากมุมมองของคนทั่วไป นิกายโบราณทั้งห้านั้นตั้งอยู่ห่างไกลหลายพันไมล์ แต่ในสายตาของตัวตนระดับทลายมิติ ระยะทางเช่นนี้สำหรับพวกเขาแล้วย่อมใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน
เมื่อหม่าตั้วเปานำทัพ ราชันอีกเจ็ดคนที่เหลือก็มารวมตัวกับเขาและราชินีหยินพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังนิกายดาบสวรรค์
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เหล่าจอมยุทธระดับสูงของห้านิกายโบราณได้ไปรวมตัวกันอยู่ที่นิกายสวรรค์เพื่อต่อต้านจักรวรรดิจันทราม่วง
นอกจากราชินีหยินกับราชันเพลิงไพศาลแล้ว ราชันคนอื่นๆก็คือราชันมหาดวงดารา ราชันมหาวารี ราชันขุนเขาเที่ยงธรรม ราชันเปิดตะวัน ราชันโลหะมัวหมอง และราชันพสุธารุ่งโรจน์ พวกเขาทุกคนล้วนแต่มีพลังต่อสู้สิบห้าดาว
ด้วยพลังเช่นนี้ย่อมไม่มีใครสามารถขวางทางพวกเขาได้ ด้วยการลงมือของราชันทั้งแปด พวกเขาสามารถเข้าใกล้ประตูของนิกายดาบสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว
กองทัพของพวกเขามีคนไม่มาก นอกจากหลิงฮันแล้ว หม่าตั้วเปานำทหารมาเพียงหนึ่งพันคนเท่านั้น แต่พวกเขาล้วนแต่เป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ขั้นปลาย บวกกับรูปแบบอาคมหมู่ที่พวกเขาฝึกฝนแล้ว พลังต่อสู้ของพวกเขานั้นสามารถต่อสู้กับจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นปลายได้อย่างสูสี
ศิษย์ของนิกายดาบสวรรค์ที่ขวางทางถูกจัดการหมดสิ้น ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็มาถึงด้านหน้าของประตูขึ้นเขาทางเข้านิกายดาบสวรรค์
กองทัพไม่อาจเดินหน้าได้ต่อเพราะมีรูปแบบอาคมคุ้มกันวางเอาไว้
“ให้ข้าจัดการเอง!” ราชันโลหะมัวหมองก้าวออกมาโดยถือหอกทองคำไว้ในมือ ดวงตาสองข้างของเขาเปล่งแสงสีทองออกมาพร้อมกับควบแน่นบอลแสงสีทองไว้ที่ปลายหอก ในตอนแรกบอลแสงมีขนาดเพียงเท่ากับขนาดของไข่ แต่หลังจากผ่านจากควบแน่นพลังถึงขีดสุดมันกลายเป็นมีขนาดเท่ากับลูกแตงโม
แววตาของหลิงฮันเปิดกว้าง พลังทำลายของบอลแสงนี้น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก
ทักษะที่ต้องใช้เวลารวบรวมพลังเช่นนี้ แม้ราชันโลหะมัวหมองจะไม่สามารถใช้มันในการปะทะจริงได้ แต่ตอนนี้เขามีสหายคอยช่วยคุ้มครองอยู่ ดังนั้นเขาก็สามารถใช้มันออกมาได้โดยไม่ต้องกังวล และรีดเค้นพลังของทักษะออกมาได้ถึงขีดสุด
ผ่านไปอย่างน้อยห้านาทีราชันโลหะมัวหมองก็ก้าวออกไปและใช้หอกทิ่มเข้าไปยังรูปแบบอาคมป้องกัน
‘เพล๊ง!’
หอกทิ้มทะลุเข้าไปในรูปแบบอาคมป้องกัน ทันใดนั้นเองบอลแสงก็ปลดปล่อยแสงสว่างอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา แสงสว่างที่ส่องประกายรุ่งโรจน์เช่นนี้ ผู้คนโดยรอบย่อมไม่อาจเปิดตาขึ้นมามองได้
‘ครืน ครืน ครืน’ พื้นดินและภูเขาของนิกายดาบสวรรค์เกิดการสั่นไหว แต่ผ่านไปไม่นานรูปแบบอาคมที่ถูกแทงทะลุก็กลับมามีสภาพมั่นคงเช่นเดิม
แม้แต่การโจมตีที่แข็งแกร่งของราชันโลหะมัวหมองที่ต้องใช้เวลารวบรวมพลังถึงห้านาทีก็ไม่สามารถทะลวงผ่านรูปแบบอาคมป้องกันตรงหน้าได้?
“ฮ่าๆๆ!” ในตอนนั้นเอง ราชันอีกเจ็ดคนที่เหลือก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“เฒ่าเจ็ด นี่พลังของเจ้าถดถอยถึงขนาดไม่สามารถทำลายรูปแบบอาคมป้องกันได้เลยงั้นรึ!”
“หรือเมื่อคืนเจ้าจะใช้แรงหนักไป?”
ราชันทั้งเจ็ดกล่าวหยอกล้อออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
ใบหน้าของราชันโลหะมัวหมองบูดบึ้งและกล่าว “รูปแบบอาคมนี้แข็งแกร่งกว่าที่พวกเราเคยทำลายมาครั้งก่อนมากนัก”
หม่าตั้วเป่ายิ้มและเปิดปากพูดปลอบใจ “นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก หลังจากที่พวกมันเคยพ่ายแพ้พวกเรามาในสงครามก่อนๆ เหล่าห้านิกายโบราณจะต้องรู้สึกเจ็บปวดเน้นไปที่เพิ่มพลังป้องกันของพวกเขาเองแน่นอน เพราะงั้นการที่จะไม่สามารถทำลายรูปแบบอาคมป้องกันนี้ได้ก็ไม่ได้น่าแปลกใจ”
“เหอะ ก็สามารถป้องกันการโจมตีของข้าได้แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละ รอให้ข้ากลับมาอีกครั้งแล้วข้าจะบดขยี้รูปแบบอาคมนี้ให้ดู!” ราชันโลหะมัวหมองไม่อาจยอมรับได้
“กว่าจะถึงวันนั้นต้องเสียเวลาไปอีกเท่าใด!” ราชินีหยินส่ายหัวและก้าวออกมา “ให้ข้าจัดการเอง”
“พี่หญิงสี่! ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะทำลายมันเอง!” ราชันโลหะมัวหมอง ไม่คิดจะเลิกล้มความตั้งใจ
“อะไร? หรือเจ้าต้องการจะให้ข้าสั่งสอนเจ้า?” ราชินีหยินเลียริมฝีปาก รอบกายของนางปลดปล่อยกลิ่นอายอันชั่วร้ายออกมา
ราชันโลหะมัวหมองสะดุ้งตกใจกลัวทันที พี่สาวสี่ของเขานั้นมีนิสัยโหดเหี้ยมและขี้โมโห แม้แต่จักรพรรดิของพวกเขาก็ไม่กล้าแข็งข้อกับนาง
“เอาน่า เช่นนั้นก็ให้ข้าจัดการเอง” หม่าตั้วเปาเดินออกมาพร้อมกับพุงพลุ้ยคู่ใจและยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องทำลายรูปแบบอาคมนี้ก็ได้ เพราะอย่างไรขอแค่พวกเราเจาะรูช่องว่างผ่านมันไปได้ก็พอ”
“เพียงแค่ผ่านไปก็พอ? องค์จักรพรรดิ ทำไมท่านถึงได้ทำตัวอ่อนแอเช่นนี้!” ราชินีหยินคัดค้านทันที
“นั่นสิ องค์จักรพรรดิทำไมท่านถึงไม่แสดงอำนาจออกมาให้มากกว่านี้!”
“ทำลายรูปแบบอาคมดีกว่า!” ราชันอีกเจ็ดคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน
หม่าตั้วเปาหัวเราะด้วยแววตาที่หรี่ลง “สหายรักทั้งหลาย หรือพวกเจ้าไม่พอใจในการตัดสินของข้า?”
“ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นแน่นอน!” ราชันทั้งแปดส่ายหัวอย่างว่าง่าย
ล้อเล่นรึเปล่า องค์จักรพรรดิของพวกเขาที่เห็นว่าปกติชอบพูดเล่นเช่นนี้ หากเมื่อใดเขาจริงจังขึ้นมา แม้แต่พระเจ้าก็ไม่อาจหนีพ้นจากการถูกสังหาร
“ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว!” หม่าตั้วเปายิ้มก่อนที่จะชี้นิ้วออกไปสุ่มๆ ‘ตูม’ รูปแบบอาคมป้องกันถูกผ่าเกิดเป็นช่องว่างทันที ขนาดของรูนั้นกว้างพอให้กองทัพผ่านเข้าไปได้พอดี
แข็งแกร่ง!
หลิงฮันแอบตกตะลึงอยู่ในใจ ก่อนหน้านี้การที่ราชันโลหะมัวหมองพยายามจะทำลายรูปแบบอาคมกับการที่หม่าตั้วเปาจะเปิดช่องว่างรูปแบบอาคมนั้นแม้ความยากจะต่างกัน แต่การที่เขาแค่ชี้นิ้วออกไปลวกๆก็สามารถเปิดช่องว่างบนรูปแบบอาคมป้องกันที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ก็สมแล้วกับที่เขาสามารถเป็นจักรพรรดิของราชันทั้งแปด
เขาแหงนมองไปบนเขา ตอนนี้นิกายดาบสวรรค์อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น