Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 811-814

 ตอนที่ 811

 

หลิงฮันนำอาหารมื้อใหญ่ออกมา ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อสัตว์อสูรระดับสูงและสมุนไพรล้ำค่าอย่างเช่นไข่มุขหมื่นปีและโสมโลหิตราชามังกรทรราช


ถึงแม้เขาจะไม่มีวคามสามารถในการทำอาหาร แต่แค่ความอร่อยของตัววัตถุดิบ ผู้คนที่เห็นก็ต้องน้ำลายสอแล้ว


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนเองก็ไม่มีข้อยกเว้น ปากของเขามีหยดน้ำลายไหลออกมาและกล่าว “ไข่มมุขหมื่นปี แม้จะเป็นตัวข้าในอดีตก็ไม่เคยได้ลิ้มลอง!”


“ทุกอย่างเป็นของหนิว เจ้าไม่มีสิทธิ์มาหยิบไปกิน!” ฮูหนิวกล่าวด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนมองไปยังฮูหนิวและกล่าว “เด็กน้อย เจ้ารู้รึไม่ว่าข้าคือใคร? ถ้าเจ้ารู้เจ้าจะต้องตกตะลึง!”


‘ตุบ ตุบ ตุบ!’


เมื่อพูดพบเขาก็ถูกฮูหนิวทุบตีทันที จนทำให้เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรู้สึกหดหู่ ในอดีตเขาเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ทันทีหลังจากเกิดใหม่เขากลับถูกคนถึงสามคนทุบตีและพ่ายแพ้?


ทำไมออร่ามังกรของเขาถึงไม่ได้ผล?


“เจ้าหนู หรือเด็กสาวผู้นี้จะเป็นลูกสาวของเจ้าอีกคน?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนโอดครวญ ไม่เช่นนั้นแล้วฮูหนิวจะไม่ได้รับผลกระทบจากออร่ามังกรของเขาได้อย่างไร? ออร่าของเขาไม่ใช่แค่ส่งผลต่อเผ่ามังกรเท่านั้น แต่ด้วยอำนาจของครึ่งมังกรที่แท้จริงแม้จะไม่ใช่เผ่ามังกรก็ต้องได้รับผลกระทบ


“หนิวคือภรรยาหลิงฮัน!” ฮูหนิวขึ้นเสียงและยกเท้าขึ้นเหยียบย้ำเฮ่อเหลียนเทียนหยุนอย่างขุ่นเคือง


หลังจากปรุงอาหารเสร็จ ทุกคนก็เร่งรีบแย่งกันกินอาหาร


ด้วยฤทธิ์ที่รุนแรงของวัตถุดิบเช่นนี้ แม้แต่จอมยุทธระดับสวรรค์ก็ไม่กล้ากินในปริมาณมาก อย่างมากพวกเขาก็คงแค่ซดน้ำซุปเล็กๆน้อยๆ ไม่เช่นนั้นร่างของพวกเขาต้องระเบิดเป็นแน่ แต่ถึงอย่างนั้นกลุ่มของพวกหลิงฮันกลับกินอาหารเหล่านี้อย่างไม่บันยะบันยัง


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนหดหู่มากขึ้นกว่าเดิม “ร่างของข้าถูกสร้างขึ้นการแก่นพลังของมังกรที่แท้จริงทำให้ข้ามีร่างกายที่แข็งแกร่ง แม้จะกินพลังงานมากมายขนาดไหนเข้าไปร่างก็ไม่ระเบิด แต่พวกเจ้าสองคนทำไมถึงกินได้มากกว่าข้าผู้นี้อีก?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรู้สึกว่าเขากินมาเยอะจนถึงขีดจำกัดแล้ว


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกลายเป็นไร้คำพูด หลังจากกินเนื้อไปอีกสองสามชิ้นเขาก็นั่งลงและเริ่มย่อยสลายอาหารที่กินลงไป


“ไปกันดีกว่า ออกจากที่นี่กันเถอะ!” หลิงฮันเช็ดมือและล้างอุปกรณ์ทำอาหาร


“ฉือชิ่วเหรินคงจะดักรอเราอยู่ที่หน้าทางเข้า” หลิงฮันกล่าว “จะให้อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว ออกไปสู้กันดีกว่า”


“เดี๋ยว รอข้าด้วย!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกระโดดลุกขึ้น เขาไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีคนอย่างหลิงฮันและฮูหนิวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากออร่าของเขาอยู่มากนัก


พวกเขาเดินมาถึงหน้าทางเข้า และแน่นอนว่าเมื่อฉือชิ่วเหรินเห็นพวกเขา ทั้งสี่คนก็เข้ามาขวางทางทันที


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนเดินนำออกมาเล็กน้อยและกล่าว “รุ่นเยาว์ทั้งหลาย เห็นข้าคนนี้แล้วพวกเจ้ายังไม่คิดจะคุกเข่าเคารพอีก?”


ฉือชิ่วเหรินและคนอื่นๆรู้ว่าหลิงฮันมีอุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์ การที่จะมีเด็กน้อยปรากฏตัวขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทันใดนั้นเองตงหลิงเอ๋อก็กล่าวออกมา “หลิงฮัน มอบเขี้ยวมังกรที่แท้จริงกับอุปกรมิติระดับศักดิ์สิทธิ์มาซะ เจ้าควรจะรู้ตัวเอาไว้ว่าเจ้าไม่อาจออกไปจากที่นี่ได้โดยยังมีชีวิตอยู่!”


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกลายเป็นเกรี้ยวกราด รุ่นเยาว์เหล่านี้กล้าเมินเฉยเขา! แถมยังกล่าวว่าต้องการจะแย่งชิงเขี้ยวมังกรที่แท้จริงไปอีก? ไม่ใช่ว่าเขี้ยวมังกรนั่นเป็นของเขารึไง? ‘พรึบ’ ออร่ามังกรถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างเฮ่อเหลียนเทียนหยุน แรงกดดันอันมหาศาลปะทะเข้ากับทั้งสี่คนทันที


“อะไรกัน!” “อั่ก!”


พวกฉือชิ่วเหรินสี่คนสั่นสะท้าน ภายใต้แรงกดดันของออร่ามังกรสีหน้าของพวกเขาเริ่มซีดเผือด แม้พวกเขาจะเป็นผู้นำรุ่นเยาว์แห่งยุค แต่การต่อต้านออร่ามังกรก็ยังเป็นเรื่องยากลำบากอยู่ดี


‘พรึบ’ ฉือชิ่วเหรินนำกระบี่ไร้เทียมทานออกมา ด้วยอำนาจที่ทรงพลังของกระบี่ มันช่วยป้องกันแรงกดดันของออร่ามังกรให้ทันที บุตรแห่งสายฟ้าก็ไม่เชื่องช้า เขานำขวานภูผาวารีออกมาเช่นกัน ขวานในมือของเขาส่องแสงสว่างออกมาและช่วยป้องกันออร่ามังกร


มุมปากของเฮ่อเหลียนเทียนหยุนกระตุก ออร่ามังกรของเขาถูกต้านทานได้อีกแล้ว! แต่โชคดีที่รุ่นเยาว์สองคนนี้ไม่ได้ต้านทานออร่ามังกรด้วยพลังของตนเองแต่ใช้อาวุธวิญญาณช่วย ไม่เช่นนั้นเฮ่อเหลียนเทียนหยุนคงจะร้องไห้ออกมาเป็นแน่


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนจ้องมองไปยังอาวุธวิญญาณเหล่านั้นและกล่าว “นั่นคืออาวุธเลียนแบบของกระบี่ไร้เทียมทานกับขวานภูผาวารี?”


ฉือชิ่วเหรินและบุตรแห่งสายฟ้าสามารถต่อต้านออร่ามังกรได้ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับราชันดาบน้อยและตงหลิงเอ๋อ แม้พวกเขาจะมีอาวุธวิญญาณระดับสิบที่ได้รับจากผู้อาวุโสในนิกาย แต่อาวุธวิญญาณที่ว่าก็ไม่มีความสามารถพอที่จะต่อต้านออร่ามังกร


เพราะอย่างไร ครึ่งมังกรเฮ่อเหลียนเทียนหยุนก็เคนเป็นถึงตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้


ฉือชิ่วเหรินและบุตรแห่งสายฟ้ารีบขยับตัวมาป้องกันราชันดาบน้อยและตงหลิงเอ๋อ เพื่อไม่ใช่หลิงฮันใช้โอกาสนี้ในการสังหารทั้งสอง ผลลัพธ์จากการต้องช่วยคุ้มครองคนสองคน พลังต่อสู้ของฉือชิ่วเหรินและบุตรแห่งสายฟ้าจึงลดลงอย่างมาก แม้จะมีกระบี่ไร้เทียมทานและขวานภูผาวารีช่วยก็ตาม


หลิงฮันหัวเราะ เขานำดาบสังหารออกมาและลงมือทันที


ถึงแม้ฉือชิ่วเหรินและบุตรแห่งสายฟ้าจะใช้พลังทั้งหมดออกมาเพื่อต่อต้าน แต่ด้วยสภาพของพวกเขาในตอนนี้พวกเขาจะสามารถต้านทานอำนาจของดาบสังหารได้? พวกเขาล้มเลิกความคิดที่จะต่อสู้กับหลิงฮัน ฉือชิ่วเหรินและบุตรแห่งสายฟ้าใช้พลังทั้งหมดพาราชันดาบน้อยและตงหลิงเอ๋อหลบหนีออกมา


หลิงฮันไม่ได้ไล่ตามพวกเขามา เมื่อหลบหนีมาได้สักพักราชันดาบน้อยและตงหลิงเอ๋อก็หายตัวสั่นจากการถูกแรงกดดันของออกร่ามังกร พวกเขาแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา ในโลกนี้มีออร่าที่น่ากลัวขนาดนั้นอยู่ได้อย่างไร?


“สถานการณ์ในตอนนี้เกินกว่าที่พวกเราจะควบคุมได้แล้ว ต้องรีบกลับไปภูมิภาคกลางโดยไวและขอให้นิกายเคลื่อนไหวเพื่อสังหารหลิงฮันและแย่งชิงเขี้ยวมังกรที่แท้จริงมา!”


“เด็กชายคนนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ออร่ามังกรของเขาเป็นสิ่งที่อันตรายเกินไป เราไม่อาจปล่อยเขาไว้ได้เช่นกัน!”

 

 

 


ตอนที่ 812

 

ด้วยการนำทางของเจ้าบ้านอย่างเฮ่อเหลียนเทียนหยุน ระหว่างทางหลิงฮันและคนอื่นจึงใช้โอกาสนี้เก็บรวบรวมหญ้าโลหิตมังกรให้มากที่สุดเท่าที่เก็บได้


สมุนไพรพวกนั้นไร้ประโยชน์ต่อเฮ่อเหลียนเทียนหยุน เพราะความบริสุทธิ์ของสายเลือดมังกรของเขาเกือบเท่ากับมังกรที่แท้จริง แต่สำหรับลูกหลานที่มีสายเลือดมังกรคนอื่น สมุนไพรพวกนี้มีประโยชน์อย่างมาก แม้แต่หลิงฮันยังอยากจะเก็บเกี่ยวพวกมันให้ได้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ต่อการฝึกฝนเทคนิคกายาเก้ามังกรทรราช


แม้ว่าเฮ่อเหลียนเทียนหยุนจะไม่รู้ว่าเวลาผ่านมากี่ปีแล้ว แต่ยังไงที่นี่ก็เคยเป็นร่างของเฮ่อเหลียนเทียนหยุน ทำให้เขาสามารถค้นหาหญ้าโลหิตมังกรและศิลาโลหิตมังกรได้อย่างง่ายดาย


ตลอดเส้นทาง หลิงฮันเก็บเกี่ยวทุกอย่างจนจุใจ


หากมองดูสภาพแวดล้อมของที่นี่ให้ดีจะเห็นว่ามันเริ่มที่จะมึดมนและพังทลาย ถ้ำมังกรผีจะไม่กีดกันผู้คนอีกต่อไป แต่เริ่มที่จะกลมกลืนเป็นหนึ่งกับโลกภายนอก พื้นที่ภายในจะพังทลายเป็นซากปรักหักพังและหลังจากนั้นมันก็จะกลายเป็นดินแดนรกร้างธรรมดา


เจ็ดวันต่อมา ในที่สุดพวกหลิงฮันก็ออกมาจากถ้ำมังกรผี


“เผ่ามนุษย์!” ทันใดที่พวกเขาเพิ่งจะออกมาจากถ้ำมังกรผี เสียงตะโกนของใครบางคนดังขึ้น และร่างของโม่หยวนปรากฏตัวอยู่บนท้องฟ้า สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอันไร้ที่สิ้นสุด ทั้งพลังปราณของเขายังทำให้ชั้นบรรยากาศฉีกขาด


เขาคือจอมยุทธระดับทลายมิติ ซึ่งมีพลังต่อสู้สิบดาวหรืออาจจะสิบเอ็ดดาว


เขาเพิ่งได้รับข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่ารุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดของตระกูล โม่เชิ้งซินถูกหลิงฮันฆ่าตาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะรู้สึกโกรธจนคลั่งเมื่อเห็นหลิงฮัน


“โม่หยวน เจ้าคิดจะทำอะไร!” เฮ่อเหลียนหลงรีบเข้ามาหยุดทันที


“ทำอะไรน่ะรึ?” โม่หยวนกัดฟันพูด “เจ้ามนุษย์นี่สังหารคนตระกูลโม่ของข้า แน่นอนว่าข้าจะต้องฆ่าเขาเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับตระกูลของข้า!”


“หึ่ม น่าขันยิ่งนัก ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องปกติหรอกรึไงที่จะตายภายในเขตแดนลี้ลับ!” เฮ่อเหลียนหลงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา


โม่หยวนระงับความโกรธของเขาลงและพูดว่า “แต่เผ่ามนุษย์นี่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปในถ้ำมังกรผี!”


“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ใช่ว่าเจ้าก็พาเผ่ามนุษย์เข้าไปในนั้นหรอกหรือ?” เฮ่อเหลียนหลงพูด


โม่หยวนรีบพูดทันทีว่า “มันแตกต่างจากเจ้า ในกรณีของข้าเผ่ามนุษย์พวกนั้นถูกแนะนำโดยองค์จักรพรรดิ!”


“ถ้างั้นเขาเองก็เป็นลูกเขยของข้า แล้วเขาจะเข้าไปในถ้ำมังกรผีไม่ได้อย่างไร?” เฮ่อเหลียนหลงกล่าว


โม่หยวนสงบสติลงและพูดว่า “ดูเหมือนว่าการต่อสู้คงจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้? ราชาเฮ่อเหลียน เจ้าควรคิดให้รอบคอบ นี่อาจเป็นฉนวนก่อให้เกิดสงครามระหว่างมหาสมุทรตะวันตกและมหาสมุทรเหนือ!”


“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคิดว่าจะกลับไปที่มหาสมุทรตะวันตกได้อย่างนั้นรึ!” เฮ่อเหลียนหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น


“รนหาที่ตาย!” ในที่สุดโม่หยวนก็ระเบิดความโกรธแค้นออกมาพร้อมกับพลังปราณอันไร้ที่สิ้นสุดที่ปะทุออกมา


“โม่หยวน เจ้าคิดที่จะก่อสงครามกับมหาสมุทรเหนืออย่างนั้นรึ?” เซียนหยู่ตงกล่าวและเข้าไปหาเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเพื่อต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา


“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เป็นปัญหาระหว่างตระกูลโม่และตระกูลเฮ่อเหลียน เหตุใดเจ้าถึงคิดจะเข้าไปแทรกแซง?” เหวินเหรินเจี่ยเข้ามาหยุดและยืนขวางเซียนหยู่ตง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดที่จะนั่งดู


ในความคิดของเขา โม่หยวนมีความสามารถที่จะฆ่าเฮ่อเหลียนหลง


ดังนั้น เขาจึงต้องการปล่อยให้การต่อสู้ดำเนินต่อไป มันเป็นเรื่องดีทีเดียวที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการสังหารศัตรูของเขา ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เฮ่อเหลียนหลงและเซียนหยู่ตงจะต้องตาย และไม่มีใครในมหาสมุทรเหนือสามารถหยุดยั้งความทะเยอทะยานของเขาได้


สุนัขจิ้งจอกเฒ่าอย่างเซียนหยู่ตงแน่นอนว่าเขาสามารถคาดเดาเป้าหมายของเหวินเหรินเจี่ยได้ทันที แม้เขาจะคิดได้ แต่จะแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างไร โม่หยวนเห็นได้ชัดว่ากำลังเดือดดาลและต้องการแก้แค้นหลิงฮัน มันเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะแก้ไข้สถานการณ์นี้ได้


ข้าควรทำเช่นไรดี?


เซียนหยู่ตงมีประสบการณ์เผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้มานับไม่ถ้วน แต่เขายังคงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น หากการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น มันอาจเกิดการปฏิรูปขุมพลังในมหาสมุทรเหนืออีกครั้ง


“ข้าสั่งให้พวกเจ้าหยุด!” เสียงของเด็กคนหนึ่งดังกังวาลไปทั่ว เฮ่อเหลียนเทียนหยุนปรากฏตัวออกมาขณะเดินพาดมือไว้ด้านหลัง และปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา “พวกเจ้าหยุดทะเลาะกันได้แล้ว สิ่งที่ควรให้ความสนใจที่สุดในตอนนี้คือการรวมพลังเป็นหนึ่งและเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดสวรรค์!”


นี่เขากล้าพูดเรื่องสำคัญนั้นแบบนั้นออกมาในที่สาธารณะแบบนี้เลยรึ?


ทั้งเฮ่อเหลียนหลงและเซียนหยู่ตงต่างตกตะลึงพวกเขาต่างรู้เรื่องเกี่ยวกับเปิดสวรรค์ แต่เด็กน้อยนั่นกลับพูดออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะหันไปมองหลิงฮัน นี่เขาบอกความจริงให้เจ้าเด็กนี่ฟังอย่างนั้นรึ?


หลิงฮันยักไหล่ และเขาไม่ได้เปิดปากบอกอีกฝ่ายเสียหน่อย แต่เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรู้เรื่องพวกนั้นมานานมาก และเขายังเป็นบรรพบุรุษของพวกท่าน


“ฮ่าฮ่าฮ่า!” โม่หยวนหัวเราะเยาะ และกระโจนเข้าหาหลิงฮันเพื่อจับกุมเขา ตอนนี้เขายังไม่คิดที่จะสังหารหลิงฮัน แต่จะพากลับไปที่ตระกูลโม่เพื่อลงโทษ


“หึ่ม นี่เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดอย่างนั้นรึ?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกล่าว ตู้ม กลิ่นอายมังกรที่น่าเกรงขามปะทุออกมาจากร่างกายของเขาทันที


ตุบ!


โม่หยวนตกลงมาจากท้องฟ้า ร่างของเขากระแทกกับพื้นดิน ทั้งที่เขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้า แต่ทำไมถึงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของอีกฝ่ายกัน?


“นี่มัน!” เฮ่อเหลียนหลง เซียนหยู่ตง เหวินเหรินเจี่ย หัวใจของพวกเขาทั้งสามคนต่างสั่นไหว พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของโม่หยวนดี แต่ฉากที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขารู้สึกสับสนมาก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?


แม้เฮ่อเหลียนเทียนหยุนจะปลดปล่อยแรงกดดันใส่โม่หยวนแค่คนเดียว แต่พวกเขาทั้งสามคนก็ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่เขาปลดปล่อยออกมา ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกหนาวเย็นและเกิดความกลัวตามสัญชาตญาณ


โม่หยวนพยายามดิ้นรน ร่างของเขาท่วมไปด้วยเม็ดเหงื่อที่หนาวเย็น เขาเงยหน้ามองไปที่เฮ่อเหลียนเทียนหยุนและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนว่า “ท…ท่านบรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่!”


ถ้าไม่ใช่บรรพบุรุษ แล้วใครจะสามารถปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามและทรงพลังแบบนี้ได้กัน


ท่านบรรพบุรุษ!


พวกเฮ่อเหลียนหลงทั้งสามคนรู้สึกหนังศีรษะด้านชา เขาคือบรรพบุรุษของพวกเขา?


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกวาดสายตามองพวกเขา ตุบ ตุบ ตุบ ทันใดนั้นพวกเฮ่อเหลียนหลงทั้งสามคนเผลอคุกเข่าลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ


ในขณะนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างจับจ้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น จอมยุทธระดับทลายมิติทั้งสี่คนกำลังคุกเข่า! จอมยุทธระดับทลายมิติต่างมีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง พวกเขาเป็นคนที่ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซึ่งการที่จะทำให้พวกเขาเสื่อมเสียเกียรตินั้นยังเป็นเรื่องยากกว่าที่จะฆ่าพวกเขาเป็นร้อยเท่า


น…นี่เขาเป็นท่านบรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่จริงๆรึ?


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้เขารู้สึกผิดหวังมาแล้วที่แรงกดดันใช้ไม่ได้ผลกับหลิงฮันและฮูหนิว แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกสงสัยเรื่องแรงกดดันของตัวเองอีกต่อไป เขาเค้นเสียงและพูดว่า “ตอนนี้พวกเจ้าจะฟังคำของของข้าได้แล้วหรือยัง?”


“พวกข้าทุกคนพร้อมที่จะเชื่อฟังคำพูดของท่าน!” ทั้งสี่คนก้มกราบเขาอยู่บนพื้นด้วยความเคารพนับถืออย่างสุดซึ้ง


กลิ่นอายมังกรดังกล่าวที่เขาปลดปล่อยออกมามันบริสุทธิ์ น่าเกรงขามและทรงพลังกว่าตระกูลราชวงศ์ของเผ่าใต้สมุทรไม่รู้กี่เท่า


บุตรแห่งสวรรค์มังกรที่แท้จริง!

 

 

 


ตอนที่ 813

 

“ตั้งแต่ที่ข้าผู้นี้กลับมา จักรพรรดิแห่งน่านน้ำมหาสมุทรทั้งสี่จะไม่ใช่คนที่มีอำนาจสูงสุดอีกต่อไป!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกล่าวอย่างยิ่งใหญ่ว่า “พวกเจ้าทุกคนจงไปบอกตระกูลเอ๋าให้มาพบข้าผู้นี้และเตรียมสละบัลลังก์ได้เลย!”


หากคำพูดเหล่านั้นผู้คนในภูมิภาคกลางได้ยินเขา พวกเขาจะต้องหัวเราะขบขันอย่างแน่นอน และคิดว่ามันเป็นมุขตลก! จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุกล้าที่พูดวาจาใหญ่โตเช่นนั้นออกมา นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?


แต่ว่า พวกเฮ่อเหลียนหลงทั้งสี่คนไม่รู้สึกตลกด้วยแม้แต่น้อย พวกเขาก้มหน้ายอมรับ


บรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่ การดำรงอยู่ที่อยู่บนจุดสูงสุดคืออะไรน่ะหรือ? เป็นเรื่องแน่นอนที่ทุกคนจะต้องยอมรับเขาในฐานะจักรพรรดิ มิฉะนั้นถ้าใครกล้าวางตัวเหนือกว่าเขา ไม่ใช่ว่าเป็นการก่อกบฎหรอกหรือ?


มีเพียงแค่หลิงฮันเท่านั้นที่รู้ความจริง แม้เขาจะไม่รู้ว่าแต่ก่อนเฮ่อเหลียนเทียนหยุนแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม แต่เฮ่อเหลียนเทียนหยุนฟื้นคืนชีพด้วยเขี้ยวมังกร ในแง่ของสายเลือด มันไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงที่จะเรียกเขาว่ามังกรที่แท้จริง


“บรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่ เผ่ามนุษย์ผู้นี้ได้สังหารลูกหลานมังกรของข้า และอยากขอร้องให้บรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่ โปรดให้ข้าสังหารเขาเถิด” โม่หยวนยังคงไม่ยอมปล่อยหลิงฮันไป


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนเหลือบมองเขาและพูดว่า “เผ่ามนุษย์ผู้นี้เป็นพ่อของลูกศิษย์ของข้า เขาถือเป็นน้องชายของข้า นี่เจ้าต้องการฆ่าน้องชายของข้าอย่างนั้นรึ?” เพียงแค่จ้องมอง โม่หยวนก็รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก


โม่หยวนก้มหน้าด้วยความกลัวและพูดว่า “มิกล้า! มิกล้า!” จอมยุทธระดับทลายมิติอย่างเขากำลังสั่นเทาเหมือนกับลูกแกะตัวน้อย


ฉากที่เกิดขึ้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้กับเผ่ามนุษย์อย่างแน่นอน แต่เผ่าใต้สมุทรนั้นขึ้นอยู่กับวสบเลือด และด้วยพลังของสายเลือดทำให้เผ่าใต้สมุทรแข็งแกร่งกว่าเผ่ามนุษย์ ทั้งยังทำให้จำนวนของจอมยุทธที่แข็งแกร่งของเผ่าใต้สมุทรมีมากกว่าเผ่ามนุษย์ด้วย


จากมุมมองของผู้คนของเผ่าใต้สมุทร ความบริสุทธิ์ของสายเลือดมีความสำคัญมาก แม้ว่าระดับพลังของเฮ่อเหลียนเทียนหยุนจะต่ำมาก แต่กลิ่นอายมังกรของเขาทำให้ทุกคนต้องสั่นด้วยความกลัว ดังนั้นไม่ใช่ว่ามันคือทุกอย่างหรอกหรือ?


ใบหน้าของเฮ่อเหลียนหยุนชักกระตุก บรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่รับหลานชายของเขาเป็นลูกศิษย์ แม้แต่คนรอบข้างยังหวาดกลัว นี่เขามีความสัมพันธ์กันหลิงฮันอย่างไร?


บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความโกลาหล


“ยังไม่รีบไปอีกเรอะ!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนตะโกน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ หลังจากที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับโลกภายนอกมานาน มันทำให้เขารู้สึกดีมากอย่างกับได้รับการปลดปล่อย


โม่หยวนรีบตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้นและรีบวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว


เหวินเหรินเจี่ยและเซียนหยู่ตงไม่กล้าพูดจาไร้สาระอะไรออกมา หลิงฮันกลายเป็นน้องชายของบรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่แล้ว แล้วใครจะกล้าหาเรื่องเขา? แม้พวกเขาจะมีความเกลียดชังต่อกันก็ตาม และยังมีเรื่องข้อตกลงระหว่างหลิงฮันกับเซียนหยู่ช่ายอีก แต่ตอนนี้มันเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แล้ว


เซียนหยู่ช่ายเองก็จ้องมองไปที่หลิงฮัน นางเปลี่ยนความคิดที่มีต่อหลิงฮันใหม่หมด และรู้สึกประทับใจเขามากที่ได้รับการช่วยเหลือจากอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เรื่องพวกนั้นมันไม่มีทางเกิดขึ้นอีก เพราะเขาได้กลายเป็นน้องชายของบรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่แล้ว


ไม่มีใครรู้ว่าจะมีสาวงามของเผ่าใต้สมุทรสักกี่คนกันที่คิดจะแต่งงานกับหลิงฮัน แม้ว่านางจะเป็นไข่มุกแห่งตระกูลเซียนหยู่ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นตัวตนที่ยากจะเอื้อมถึง นางไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองเขาเลย


เซียนหยู่ช่ายถอนหายใจ แต่แรกเขาก็ไม่ได้เป็นของนางอยู่แล้ว ทำไมนางจะต้องไปสนใจด้วย? ทว่าขณะที่เดินจากไปจู่ๆน้ำตาของนางก็ไหลออกมา


“หึ่ม นี่เจ้ายังไม่ไปอีกรึ?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนจ้องมองไปที่เฮ่อเหลียนหลง และรู้สึกแปลกใจที่อีกฝ่ายไม่ทำตามคำสั่งของเขา


แน่นอนว่าเฮ่อเหลียนหลงไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของเขา แต่เขาถูกหลิงฮันขวางไว้ ถ้าเขาทำอะไรหลิงฮันตอนนี้จะถือว่าเป็นการล่วงเกินบรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่ เพราะอย่างไรเสียเขาก็กลายเป็นน้องชายของเขาแล้ว


สำหรับเผ่าใต้สมุทรสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสายเลือด เช่นเดียวกับตระกูลเอ๋าผู้ปกครองน่านน้ำมหาสมุทรทั้งสี่ ผู้ใดที่ไม่เคารพเขาจะถือว่าเป็นศัตรูต่อเผ่าใต้สมุทรทั้งหมด


เมื่อเห็นความโกรธของบรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่ เฮ่อเหลียนหลงรีบหันไปมองหลิงฮัน เจ้าขวางข้าอยู่ แน่นอนว่าเจ้าจะต้องพูดอธิบายการกระทำของเจ้าออกมา


หลิงฮันกระแอมและพูดว่า “ข้าจะแนะนำให้ท่านได้รู้จัก นี่คือพ่อตาของข้า และเป็นปู่ของลูกศิษย์ของท่าน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นคนแซ่เฮ่อเหลียน มีนามว่าเฮ่อเหลียนหลง”


พรวด!


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนพ่นน้ำลายออกมา และจ้องมองไปที่เฮ่อเหลียนหลงทันที ไม่เพียงแต่เขาจะไม่โกรธ แต่สีหน้ากลับถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม


“เขาเป็นคนแซ่เฮ่อเหลียนอย่างนั้นรึ?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนตระหนักได้ถึงเรื่องบางอย่างในใจ และชี้นิ้วไปที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนทันที แล้วพูดว่า “แล้วนางล่ะ นางก็เป็นคนแซ่เฮ่อเหลียนด้วยอย่างนั้นรึ?”


“ผิดแล้ว นางคือภรรยาของข้า และแต่งเข้าตระกูลหลิงของข้า ดังนั้นนางจึงเป็นคนแซ่หลิง” หลิงฮันพูดพรางหัวเราะ


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรู้สึกเคืองเล็กน้อยและพูดว่า “เจ้าเด็กสารเลว นี่เจ้าหลอกลวงข้าอย่างนั้นรึ!” หลิงเจี้ยนเสวี่ยนเป็นสายเลือดของเขา เขาไม่จำเป็นต้องรับเป็นลูกศิษย์ก็ได้เพราะอย่างไรเสียเขาก็คือลูกหลานของเขาเอง!


แต่ตอนนี้เขารับหลิงเจี้ยนเสวี่ยนเป็นลูกศิษย์แล้ว และหลิงฮันยังอยู่ในตำแหน่งเดียวกันเขา ไม่เช่นนั้นหลิงฮันจะต้องเรียกเขาว่าท่านบรรพบุรุษ


เขาอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ไร้ซึ่งน้ำตา ใครขอให้หลิงเจี้ยนเสวี่ยนมีสายเลือดบริสุทธิ์ขนาดทำให้เขาใจร้อนกันล่ะ?


ฮูหนิวรู้สึกไม่พอใจและตบหัวเขา “เจ้าอายุใกล้เคียงกับหนิวแต่วางท่าพูดจาใหญ่โตแบบนั้น นี่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหนิวยอดเยี่ยมแค่ไหน?”


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนถูกทุบตี แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฮูหนิว เขากลายเป็นตัวตนที่อ่อนแอไปเลย “ข้าเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา!”


“บรรพบุรุษอะไร แล้วเจ้าเชื่อหรือไม่หนิวสามารถทำให้เจ้ากลายเป็นหลานชายได้?” ฮูหนิวพูดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด


เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกลายเป็นลูกเป็ดน้อยทันที และไม่กล้าพูดอะไรออกมา เด็กสาวตัวน้อยนี่ไม่รู้ว่าอะไรหนักอะไรเบา เขาอยากจะระบายความโกรธใส่หลิงฮัน แต่มันมีแต่จะทำให้เด็กสาวตัวน้อยคนนี้โกรธ


เฮ่อเหลียนหลงเหงื่อท่วมตัว เผ่ามนุษย์กล้าที่จะทุบตีบรรพบุรุษทที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา นี่เป็นเรื่องที่เลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง! แม้แต่บรรพบุรุษมังกรที่ยิ่งใหญ่ยังไม่ตอบโต้


หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “พ่อตา นี่คือจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าใต้สมุทร และเป็นบรรพบุรุษตระกูลเฮ่อเหลียน ชื่อเฮ่อเหลียนเทียนหยุน”


พรวด!


สีหน้าของเฮ่อเหลียนหลงดูตกตะลึง เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าบรรพบุรุษมังกรผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นบรรพบุรุษของตระกูลเฮ่อเหลียน และเป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าใต้สมุทร


นี่เป็นความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ การดำรงอยู่ของถ้ำมังกรผีเผ่าใต้สมุทรรู้แค่ว่าเกิดจากร่างของจอมยุธที่แข็งแกร่ง แต่ข้อมูลที่เกี่ยวกับเขานั้นหายไปจากประวัติศาสตร์อย่างสมบูรณ์


ยุคต่อไปจะต้องวุ่นวายมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน


เฮ่อเหลียนหลงคิดเช่นนั้น

 

 

 


ตอนที่ 814

 

เมื่อเหตุการณ์หน้าตกตะลึงผ่านไป ทุกคนก็เดินทางกลับออกจากเกาะ


ในช่วงเวลาห้าวันที่เดินทางจนพวกเขากลับมาถึงจุดหมาย เฮ่อเหลียนเทียนหยุนได้ทะลวงผ่านหลายระดับ ตอนนี้เขาเป็นจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณแล้ว


แม้ระดับพลังเท่านี้จะไม่อยู่ในสายตาของเหล่าจอมยุทธระดับสูง แต่การที่สามารถทะลวงผ่านห้าระดับพลังได้ภายในห้าวันนั้นเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมาก เป็นไปได้ว่าในอีกสิบวันเฮ่อเหลียนเทียนหยุนจะสามารถทะลวงผ่านระดับแก่นแท้จิตวิญญาณได้ ส่วนระดับสวรรค์นั้นเขาคงใช้เวลาไม่เกินหนึ่งปี


เพราะอย่างไรเขาก็เคยเป็นถึงตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เขามีรากฐานที่มั่นคงอยู่แล้วการจะบ่มเพาะพลังให้กลับไปถึงจุดสูงสุดอีกครั้งในเวลาสั้นๆย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่แน่นอนว่านั่นหมายถึงในกรณีที่มีทรัพยากรบ่มเพาะเพียงพอ ไม่เช่นนั้นแม้จะเป็นสิบปีหรือร้อยปีก็ก็ไม่มีทำได้สำเร็จ


ด้วยการตื้อของเฮ่อเหลียนเทียนหยุน ในที่สุดหลิงฮันก็ยอมให้ลูกของเขาอยู่ที่เผ่าใต้สมุทร


สายเลือดมังกรของหลิงเจี้ยนเสวี่ยนเข้มข้นเป็นอย่างมาก เขาจะเติบโตได้ดีที่สุดหากอยู่ภายใต้การชี้แนะของเฮ่อเหลียนเทียนหยุน


ถึงแม้เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเองก็ไม่ยินยอม แต่เพื่ออนาคตของลูกนางนางจึงต้องยอม


หลิงฮันทิ้งศิลาโลหิตมังกรก้อนใหญ่ที่สุดเอาไว้ จากที่เฮ่อเหลียนเทียนหยุนบอกเขาสายเลือดของหลิงเจี้ยนเสวี่ยนนั้นบริสุทธิ์มากพอแล้ว หญ้าโลหิตมังกรไม่มีผลประโยชน์ใดๆต่อเขา มีเพียงศิลาโลหิตมังกรเท่านั้นที่พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง


เขากับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนตัดสินใจจะกลับมาที่เผ่าใต้สมุทรอีกครั้งในหนึ่งปีให้หลัง


เฮ่อเหลียนหลงรีบไล่ให้ทั้งสองคนกลับออกไปโดยไว เพราะเขารอที่จะลงมือล้างสมองของหลิงเจี้ยนเสวี่ยนไม่ไหวแล้ว… ข้าคือปู่ของเจ้า คนที่ห่วงใยเจ้ายิ่งกว่าใครในโลก แม้แต่มารดาของเจ้าก็ไม่ห่วงเจ้าเท่าข้า!


หลังจากล้างสมองได้สำเร็จ เขายังต้องกลัวว่าหลิงเจี้ยนเสวี่ยนจะไปจากตระกูลเฮ่อเหลียน?


คิดว่าหลิงฮันจะไม่รับรู้ถึงสิ่งที่ชายชราผู้นี้คิดอยู่ในใจ? เขาตัดสินใจว่าเมื่อลูกของเขามีอายุห้าปี เขาจะนำลูกของเขากลับมาแน่นอน


“คิดจะแย่งชิงลูกของข้าไป? ช่างเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่โง่เง่าจริงๆ!” หลิงฮันยิ้มและกล่าว “รีบกลับกันเถอะ”


ก่อนหน้านี้เขากังวลว่าเผ่าใต้สมุทรกับภูมิภาคกลางจะรวมกองกำลังกัน แต่ตอนนี้เผ่าใต้สมุทรอยู่ในการควบคุมของเฮ่อเหลียนเทียนหยุนแล้ว


นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงฮันรู้สึกว่าการเปิดสวรรค์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว


“สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการกำจัดห้านิกายโบราณและนิกายพันศพ!” หลิงฮันกล่าวในใจ ตราบใดที่จัดการสองอย่างนี้ได้ความสงบสุขก็อยู่ไม่เอื้อม


ไม่กี่วันต่อมา พวกเขาก็กลับมายังดินแดนทางเหนืออันโดดเดี่ยว เหมืองโบราณในแคว้นอัคคีตอนนี้กลายเป็นนรกของเหล่ามวลมนุษย์แล้ว หมอกสีดำลอยตลบอบอวลไปทั่วพร้อมกับมีเสียงกรีดร้องที่ราวกับภูติผีดังอยู่ท่ามกลางหมอก


เสียงกรีดร้องนั้นดังมาถึงเมืองจักรพรรดิและเป็นต้นเหตุให้ผู้คนมากมายเริ่มเดินทางออกจากเมืองจักรพรรดิ นั่นเพราะในหมู่คนที่ได้ยินเสียงกรีดร้องมีหลายคนที่เกิดอาการเจ็บป่วย


หลิงฮันขมวดคิ้ว ใต้เหมืองโบราณมีจอมยุทธระดับทลายมิติอย่างน้อยหนึ่งร้อยคนถูกฝังเอาไว้ พวกเขาทุกคนล้วนแต่ฝึกฝนทักษะของดินแดนใต้พิภพ


สิ่งที่น่ากังวลก็คือไม่มีใครรู้ว่าจอมยุทธเหล่านั้นแข็งแกร่งขนาดไหน ถ้าหากพวกเขามีพลังทัดเทียมกับเผ่าใต้สมุทรก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าหากพวกเขาแข็งแกร่งเทียบเท่าตัวตนอย่างราชีนีหยินผู้ยิ่งใหญ่ล่ะก็ กองทัพจอมยุทธระดับทลายมิตินับร้อยเหล่านี้จะกลายเป็นไร้พ่ายทันที


“ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน คิดไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ข้าต้องทำคือเพิ่มระดับพลังของตนเอง”


พวกเขากลับไปยังเมืองจักรพรรดิ รายงานจำนวนมากถูกส่งมากองเอาไว้ เมื่อลองเปิดอ่านดู ทุกข่าวล้วนเป็นข่าวดีทั้งหมด ตอนนี้ภูมิภาคตะวันตกได้ถูกยึดครองและอยู่ภายใต้อำนาจของจักรพรรดิต้าหลิงแล้ว


แผนการต่อไปคือต้องคิดว่าเขาควรจะไปยึดครองภูมิภาคตะวันออกหรือภูมิภาคใต้ต่อดี ด้วยอำนาจของจักรวรรดิต้าหลิงในตอนนี้ การยึดครองสองภูมิภาคนี้ไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อย


หลิงฮันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังแห่งจักรภพทรงพลังขึ้น


อย่างแรกเลยเป็นเพราะอาณาเขตของจักรวรรดิที่ขยายกว้างขึ้น อย่างที่สองคืออำนาจของจักรวรรดิต้าหลิงได้ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของประชากรทุกคน เมื่อใจของทุกคนรวมเป็นหนึ่ง อำนาจของพลังจักรภพก็จะเพิ่มขึ้นหลายส่วนเป็นธรรมดา


เขาเริ่มดูดซับศิลาโลหิตมังกรและแก่นต้นไม้โลหิต ถึงแม้เขาจะทิ้งศิลาก้อนที่ใหญ่ที่สุดเอาไว้ที่ใต้สมุทร แต่เขาก็ยังเหลือศิลาอยู่อีกหลายก้อน การเก็บเกี่ยวในถ้ำมังกรผีค่อนข้างมหาศาลเลยทีเดียว


แก่นพลังที่อยู่ในโลหิตมังกรนั้นมีประโยชน์สำหรับจอมยุทธทุกคน แต่ด้วยความเข้มข้นของพลังงาน จึงมีเพียงจอมยุทธอย่างหลิงฮันและเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเท่านั้นที่จะใช้มันได้อย่างคุ้มค่าที่สุด


ด้วยแก่นพลังงานอันแข็งแกร่งที่ถูกทิ้งไว้ในโลหิตของเผ่ามังกรระดับทลายมิติยี่สิบดาว ทักษะกายาเก้ามังกรทรราชของเขาจึงพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่สิบวันต่อมา หลิงฮันก็รู้สึกได้เลยว่าพลังกายของเขาได้มาถึงขีดจำกัดของระดับก้าวสู่เทวาแล้ว


ต่อไปเมื่อกายาของเขาบรรลุระดับสวรรค์ คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ก็จะทำให้เขามีกายหยาบที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบ เมื่อเป็นเช่นนั้นภายใต้ท้องฟ้านี้คนที่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ก็จะเหลืออยู่เพียงหยิบมือ


เขาตัดสินใจรีบบ่มเพาะกายหยาบให้บรรลุระดับสวรรค์ให้เร็วที่สุด


ผลประโยชน์อีกอย่างหนึ่งจากการเดินทางไปเผ่าใต้สมุทรในครั้งนี้ก็คือการที่เขาได้รับทักษะบ่มเพาะระดับสิบกลับมาด้วย ซึ่งนั่นทำให้เมื่อเขาบรรลุระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดเมื่อไหร่เขาก็จะทะลวงผ่านไปยังระดับทลายมิติได้


ทักษะบ่มเพาะนี้ได้รับมาจากพ่อตาของเขา ด้วยการที่เขาเป็นสามีของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและเป็นพ่อของหลิงเจี้ยนเสวี่ยน แถมยังมีเฮ่อเหลียนเทียนหยุนเป็นสหายอีก เฮ่อเหลียนหลงจะปฏิเสธเขาได้อย่างไร?


หลิงฮันปรุงเม็ดยามากมายขึ้นมาเพื่อช่วยบ่มเพาะและเสริมแกร่งให้กับกายหยาบของเขา


หนึ่งเดือนต่อมาในที่สุดเขาก็ทำให้กายหยาบของเขาบรรลุระดับสวรรค์ได้สำเร็จ


และณเวลานี้เอง ห้านิกายโบราณก็เริ่มลงมือตามล่าบุกมาหาเขาอีกครั้ง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)