Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 787-790

ตอนที่ 787

 

“ใช่แล้ว เจ้าเพียงแค่ต้านทานการโจมตีทั้งสิบกระบวนท่า!” เซียนหยู่ตงกล่าวอย่างเย็นชา ขณะกวาดสายตามองเฮ่อเหลียนหลงเพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าห้ามเข้ามาแทรกแซง มิฉะนั้นการเดิมพันจะถือว่าโมฆะ


เฮ่อเหลียนหลงเพียงแค่ยิ้มและดูสุขุม ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าหลิงฮันจะเป็นหรือตายแต่อย่างใด แต่ภายในใจของเขากำลังยิ้มเยาะ ซึ่งตระกูลเฮ่อเหลียนเคยถูกหลิงฮันฉีกหน้ามาแล้ว และคราวนี้ก็จะเป็นตาของพวกเจ้า


แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในจอมยุทธที่แข็งแกร่ง แต่เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุข โกรธและความโศกเศร้ามาเป็นเวลานาน แต่ตอนนี้เมื่อลองจิตนาการว่าอีกฝ่ายจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน ช่วยไม่ได้ที่เขาจะมีความสุข


เพียงแค่คิดเขาก็รู้สึกมีความสุขแล้ว และกำลังตั้งหน้าตั้งตารอชม


“เริ่มได้แล้ว!” เซียนหยู่ตงรีบเร่ง


หลิงฮันแสดงสีหน้าไร้ความหวาดกลัวและก้าวเข้าสู่เวทีประลอง พื้นของเวทีประลองถูกสร้างขึ้นด้วยหินที่แปลกประหลาด ว่ากันว่ามันเป็นหินจากก้นบึ้งทะเล ซึ่งความคงทนของมันนั้นเทียบได้กับแร่เหล็กระดับเก้า และเมื่อใช้ร่วมกับรูปแบบอาคมจะทำให้พลังป้องกันของมันเทียบได้กับอาวุธระดับสิบ


ทันใดนั้น ผู้คนที่อยู่บนอัฒจันทร์ต่างส่งเสียงโวยวายไม่หยุด เขาเป็นศัตรูของตระกูลเซียนหยู่ และวันนี้เขาจะถูกพิพากษาที่นี่


ตอนนี้ทุกคนต่างรู้ว่าหลิงฮันจะต้องรับการโจมตีของเซียนหยู่สื่อเหยียนสิบกระบวนท่า ในความเป็นจริงไม่ใช่ว่านี่เป็นการฆ่าเพียงฝ่ายเดียวหรอกหรือ? เซียนหยู่สื่อเหยียนเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติห้าดาว ซึ่งสามารถสังหารหลิงฮันได้ด้วยกระบวนท่าเดียวด้วยซ้ำ


บางคนไม่เพียงแต่ปากเสียเท่านั้น แต่ยังโยนขยะที่อยู่ในมือใส่หลิงฮัน แต่ก็ถูกรูปแบบอาคมขวางเอาไว้และหล่นไปอยู่ด้านข้างเวทีประลอง


ไปลงนรกซะ!


หลิงฮันจ้องมองไปที่เซียนหยู่สื่อเหยียนที่เป็นชายวัยกลางคนที่มีอายุประมาณห้าสิบปี แต่เมื่อดูจากอายุขัยที่ยาวนานของผู้คนที่มีสายเลือดมังกรแล้ว เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสองพันปี


“เผ่ามนุษย์ ถ้าเจ้าสามารถต้านทานการโจมตีของข้าได้สิบกระบวนท่า เจ้าจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้อย่างมีชีวิต” เซียนหยู่สื่อเหยียนแสดงสีหน้าโหดเหี้ยม อีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวา แต่ใครสั่งให้หลิงฮันลงมือฆ่าคนของตระกูลเซียนหยู่ในที่สาธารณะกันล่ะ และหนึ่งในนั้นยังเป็นคนที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุด เขาคือผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลเซียนหยู่


หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “เช่นนั้นออมมือให้ข้าด้วย”


“แน่นอน!” เซียนหยู่สื่อเหยียนแสยะยิ้ม แน่นอนว่าเขาจะแสดงความเมตตาให้กับหลิงฮันในเก้ากระบวนท่าแรก และเมื่ออีกฝ่ายเหลือความหวังเพียงน้อยนิด เขาก็จะสังหารอย่างไร้ความปราณีเพื่อให้อีกฝ่ายเสียใจไปตลอดกาล


“เข้ามา!” หลิงฮันแสดงท่าทางเชื้อเชิญ


เซียนหยู่สื่อเหยียนกำหมัดแน่นและไม่ใช้พลังปราณ ตู้ม กำปั้นของเขาพุ่งเข้าหาหลิงฮํน


ความเร็วของจอมยุทธระดับทลายมิตินั้นรวดเร็วแค่ไหน? หลิงฮันไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนอง กำปั้นของอีกฝ่ายต่อยมาที่หน้าอก


ร่างของหลิงฮันกระแทกเข้ากับกำแพงหินที่ขอบเวทีประลอง ก่อนที่จะเด้งกลับมาและล้มลงกับพื้น และรู้สึกเหมือนกับว่าว่าเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ที่อก


หลิงฮันไม่สามารถหลบการโจมตีของจอมยุทธระดับทลายมิติได้ แต่ด้วยเนตรแห่งสัจธรรมทำให้เขามองเห็นว่าการโจมตีนั่นทรงพลังแค่ไหน เห็นได้ชัดว่าเซียนหยู่สื่อเหยียนต้องการให้เขาได้ลิ้มรสการโจมตีทั้งสิบกระบวนท่า ดังนั้นกระบวนท่าแรกจึงเป็นเพียงแค่การโจมตีที่เทียบได้กับระดับสวรรค์สิบดาวที่ใช้แค่พละกำลังเพียงอย่างเดียว


นี่ไม่พอที่จะทำให้หลิงฮันได้รับบาดเจ็บ แต่อีกฝ่ายเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติ ซึ่งสามารถใช้เจตจำนงแห่งเต๋าได้เลยทำให้หลิงฮันรู้สึกเจ็บปวด


แต่ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป การโจมตีเมื่อครู่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยและไม่ได้สำคัญอะไร เขารีบลุกขึ้นยืนและถ่มเลือดออกมา


ทันใดนั้น ผู้คนที่อยู่บนอัฒจันทร์ต่างรู้สึกตกตะลึง


เผ่ามนุษย์ต้านทานการโจมตีได้!


มันน่าทึ่งมาก อีกฝ่ายแน่ใจรึว่าตัวเองเป็นเผ่ามนุษย์ ไม่ใช่ลูกหลานครึ่งมนุษย์กับสัตว์อสูรใช่หรือไม่?


แม้แต่ดวงตาของเซียนหยู่หลงยังหดลงเล็กน้อยและดูเหมือนเขาจะประหลาดใจอยู่บ้าง


มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับเผ่าใต้สมุทรที่จะมีกายหยาบแบบนั้น สายเลือดทำให้พวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่จะเห็นเผ่ามนุษย์มีศักยภาพแบบนั้น


เผ่ามนุษย์นั้นมีกายหยาบที่อ่อนแอที่สุด แต่พวกเขามีความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดในวิถีวรยุทธ เพราะพวกเขาไม่มีขีดจำกัดทางสายเลือด


มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เผ่ามนุษย์ผู้นี้สังหารบุตรชายของเขา มิฉะนั้นเขาคงจะยอมรับอีกฝ่ายให้แต่งงานเข้าตระกูลเซียนหยู่ของเขา และให้กำเนิดทายาทที่แข็งแกร่ง


ความคิดนี่เพียงแค่แวบเข้ามาอยู่ในหัวของเขาเท่านั้น นี่เป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี เผ่ามนุษย์นี่จะต้องตาย! ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเขาสู่สังเวียนโลหิตเหล็กแล้วจะไม่มีใครสามารถหยุดการต่อสู้ได้ มิฉะนั้น ถ้าเขาไม่ทำตามที่ตัวเองพูด แล้วเขาจะนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูลได้อย่างไร?


เซียนหยู่สื่อเหยียนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเหมือนกัน แน่นอนว่าเขาต้องรู้ตัวว่าตัวเองใช้พลังไปแค่ไหน การโจมตีนี่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรงแม้กระทั่งจอมยุทธระดับสวรรค์ชั้นปลาย แต่หลิงฮันเพียงแค่ถ่มเลือดออกมาเท่านั้น


“กระบวนท่าที่สอง!” เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา และยกกำปั้นขวาขึ้นมาอีกครั้งและใส่พลังเข้าไปที่เทียบได้กับพลังต่อสู้ของระดับสวรรค์สิบสองดาว


ปัง เขากระโจนออกไปพร้อมกับปล่อยหมัดและหลิงฮันก็กระเด็นไปด้านหลังอีกครั้ง


หลิงฮันถ่มเลือดออกมาอีกครั้ง และก้มลงไปมองที่หน้าอกที่ดูเหมือนว่าจะยุบลงเล็กน้อยและดูเหมือนว่ากระดูกของเขาจะหัก


หลิงฮันขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะเจตจำนงของจอมยุทธระดับทลายมิติ ทำให้กายเพชรของเขาไม่สามารถรักษาบาดแผลได้อัตโนมัติ เขาจึงโคจรทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์และทันใดนั้นก็มีแสงสีทองส่องประกายออกมาพร้อมกับกลิ่นอายที่สูงส่งราวกับจักรพรรดิบรรพกาล


กระดูกที่แตกหักของเขาฟื้นตัวด้วยความเร็วที่ตาเปล่ามองเห็น เพียงแค่เวลาเกือบหนึ่งลมหายใจกระดูกของเขาก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง


แม้ว่าหลิงฮันจะหยุดโคจรทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์แล้ว แต่จอมยุทธระดับทลายมิติก็ยังคงแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาให้เห็น


กลิ่นอายที่สูงส่งและเก่าแก่นั่นทำให้พวกเขารู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย!


มันเป็นไปได้ยังไง ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นแค่เผ่ามนุษย์และไม่มีสายเลือดมังกร แต่สามารถทำให้ดวงวิญญาณของพวกเขาสั่นคลอนได้?


“เจ้ายังเหลืออีกแปดกระบวนท่า!” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

 

 


ตอนที่ 788

 

หลิงฮันไม่รีบที่จะใช้รูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งทลายปฐพี กลับกันเขาคิดที่จะใช้อีกฝ่ายเป็นหินลับคมให้กับเขา


แม้ว่าจะรับการโจมตีที่รุนแรงจากอีกฝ่าย เขารู้สึกว่าเม็ดยาที่อยู่ในร่างกายกำลังเปลี่ยนเป็นพลังของเขาอย่างรวดเร็ว และรู้สึกว่ามีพละกำลังเพิ่มขึ้น


ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะแสดงสีหน้ามึนเมา ตอนนี้เลือดและยาของเขาถูกกระตุ้นอย่างสมบูรณ์


เมื่อเซียนหยู่สื่อเหยียนเห็น ช่วยไม่ได้ที่เขาจะแสดงสีหน้าโกรธรเกี้ยว


อีกฝ่ายแสดงสีหน้ามีความสุขแบบนั้นออกมามันหมายความว่ายังไงกัน หรือว่าการโจมตีของเขามันจะเบาเกินไป?


เขารู้สึกตกใจกับกายหยาบและความยืดหยุ่นของหลิงฮัน แต่เขาก็ไม่สนใจ เพราะไม่ว่าหลิงฮันจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหนก็ไม่อาจต่อกรกับจอมยุทธระดับทลายมิติได้ นี่คือความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้


“กระบวนท่าที่สาม!” เซียนหยู่สื่อหยวนเริ่มปล่อยหมัดที่สาม


หลิงฮันถูกต่อยกระเด็นอีกครั้งและกระอักเลือดออกมาถึงขั้นกระดูกแตกหัก แต่เขาก็ยังคงลุกขึ้นยืน และกระดูกก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิมด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง


มันเป็นไปได้ยังไง?


“กระบวนท่าที่สี่!”


“กระบวนท่าที่ห้า!”


“กระบวนท่าที่หก!”


เซียนหยู่สื่อเหยียนโจมตีต่อเนื่องไม่หยุด ซึ่งโจมตีออกไปทั้งหมดสามครั้ง และเพิ่มพลังโจมตีเข้าไปในแต่ละหมัด ซึ่งทำให้หลิงฮันได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง


ครั้งนี้ หลิงฮันนั่งแช่อยู่กับพื้นอยู่สักพักก่อนที่จะลุกขึ้นยืน เขาเห็นหน้าอกปรากฏรอยยุบขนาดใหญ่สามหลุม มันน่าตกใจมากที่เห็นเช่นนั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานหลุมพวกนั้นก็กลับมาเป็นปกติ


แสงสีทองที่เปล่งประกายออกมาจากร่างกายของเขาเป็นเหมือนกับเทพเจ้าจุติบนโลก


ปัง เสียงบางอย่างดังอยู่ในร่างกายและทันใดนั้นกลิ่นอายก็ทะยานขึ้นฟ้าราว


“ทะลวงผ่าน!”


จอมยุทธระดับทลายมิติเปล่งเสียงอุทานออกมา พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น


เขากำลังทะลวงผ่านขณะถูกทุบตีเนี่ยนะ? และนี่ไม่ได้เป็นการทุบตีเท่านั้น แต่ยังได้รับบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกแตกหัก ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว การจะทะลวงผ่านเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ


แต่ความจริงได้ประจักษ์ต่อหน้าพวกเขาทุกคน เผ่ามนุษย์นี่ก้าวเข้าสู่ขั้นหกแล้วจากระดับก้าวสู่เทวาขั้นห้า


ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะรู้สึกหดหู่ เขาก้าวหน้าเร็วเกินไป เขาต้องการใช้อีกฝ่ายเป็นหินลับคมตัวเอง แต่ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่รับการโจมตีหกกระบวนท่า มันจะทำให้ฤทธิ์ของเม็ดยาที่สะสมอยู่ในร่างกายของเขาแสดงผลและทำให้ทะลวงผ่าน


เมื่อทุกคนเห็นสีหน้าโศกเศร้าของหลิงฮัน พวกเขาแทบจะบ้าคลั่ง!


เจ้าทะลวงผ่านขั้นถัดไปภายใต้สถานการณ์ที่ถูกจอมยุทธระดับทลายมิติทุบตี แต่เจ้ายังรู้สึกไม่พอใจ?


คิ้วของเซียนหยู่สื่อเหยียนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาตั้งใจที่จะใช้เก้ากระบวนท่าแรกทุบตีหลิงฮัน  และใช้กระบวนท่าสุท้ายเผด็จศึก แต่หกหมัดแรกของเขาไม่เพียงแต่อีกฝ่ายจะไม่ตาย แต่ยังทำให้ทะลวงผ่านขั้นถัดไป นี่ทำให้เขารู้สึกหดหู่มาก


เขายกกำปั้นขึ้นมาเพื่อเตรียมโจมตีออกไปเป็นครั้งที่เจ็ด ครั้งนี้เขาเริ่มเอาจริงขึ้นมาเล็กน้อย และโคจรพลังปราณไปไว้ที่หมัด


ก่อนหน้านี้เขาแฝงเจตจำนงแห่งเต๋าเข้าไปในการโจมตีเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับตอนนี้มันมากกว่ามาก


จอมยุทธระดับทลายมิติที่หมัดของพวกเขาสามารถบดขยี้ดวงดาวได้ พวกเขาเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวขนาดไหน?


หัวใจของหลิงฮันสั่นไหวเล็กน้อยและรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก จอมยุทธระดับทลายมิติเริ่มที่จะเอาจริงแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่พลังทั้งหมด แต่ก็ยังคงทำให้เขารู้สึกหนาวเย็นราวกับตกอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง


หรือจะถึงเวลาที่เขาจะใช้รูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งทลายปฐพีแล้ว?


หลิงฮันลังเลอยู่สักพักและเลือกที่จะรับการโจมตีด้วยตัวเอง


การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขา เขาสามารถต้านทานมันได้และกระตุ้นฤทธิ์ของเม็ดยาภายในร่างกายและใช้จอมยุทธระดับทลายมิติเพื่อกระตุ้นมัน


เซียนหยู่สื่อหยวนโจมตีออกไป ครั้งนี้เขาได้แสดงให้เห็นพลังที่แท้จริงของจอมยุทธระดับทลายมิติ ในหมัดของเขา ท้องฟ้าและปฐพีต่างสูญเสียสีสันของพวกมันไปราวกับมีเพียงแค่หมัดของเขาเท่านั้น


ตู้ม หลิงฮันถูกโจมตีกระเด็นไปด้านหลัง กระดูกของเขาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งแตกหัก ผิวหน้ามากกว่าเก้าในสิบส่วนถูกทำลาย ร่างกายของเขาถูกท่วมไปด้วยเลือดและสติของเขาเริ่มเลือนลาง


ทรงพลัง ทรงพลังเกินไปแล้ว นี่แหละคือจอมยุทธระดับทลายมิติ


หลิงฮันเคยสัมผัสกับพลังต่อสู้ดังกล่าวมาก่อน แม้ว่าเขาจะเคยปะมือกับศพที่ยิ่งใหญ่มาก่อน แต่นั่นเป็นเพราะดาบสังหารที่ต่อต้านความแข็งแกร่งของจอมยุทธระดับทลายมิติ ซึ่งไม่ใช่เขาจนกว่าเขาจะประสบด้วยตัวเอง


นิ้วทั้งสิบของเขาขยับไปมาอย่างนุ่มนวลและรัศมีดาบส่องแสงออกมา ภายใต้การโจมตีที่ทำให้เขาไ่ด้รับบาดเจ็บสาหัส มันทำให้เขาเริ่มเข้าใจแก่นแท้แห่งดาบ


แก่นแท้แห่งดาบนี่คือสิ่งที่เขาแสวงหา


ในโลกนี้เขาฝึกฝนบ่มเพาะพลังมานานกว่าห้าปีเท่านั้น เมื่อเทียบกับฉือชิ่วเหรินและราชันดาบน้อย พวกเขาเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกันในเรื่องความเข้าใจของดาบและกระบี่ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมีปรมาจารย์ดาบและกระบี่คอยสั่งสอน จุดเริ่มต้นของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง


ในขณะที่หลิงฮันต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น


ในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลิงฮันเริ่มเข้าใจแก่นแท้แห่งดาบแล้ว


เขาส่งเจตจำนงแห่งดาบและเจตจำนงแห่งเต๋าในร่างกายและเสริมสร้างความเข้าใจแก่นแท้แห่งดาบ


ถ้าเขาสามารถเข้าใจแก่นแท้แห่งดาบได้ มันจะเป็นความก้าวหน้าที่ครั้งยิ่งใหญ่ในความเข้าใจเจตจำนงแห่งเต๋าและเขาสามารถต่อสู้กับเจตจำนงแห่งเต๋าของจอมยุทธระดับทลายมิติได้ นั่นเป็นเพราะแก่นแท้แห่งดาบมีเพียงแค่จอมยุทธระดับทลายมิติเท่านั้นที่สามารถทำความเข้าใจได้


เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้น เกือบทุกคนรู้สึกตกตะลึงและประหลาดใจ


เผ่ามนุษย์นี่รู้แจ้งพลังของจอมยุทธระดับทลายมิติ!


นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป จุดสำคัญคือเผ่ามนุษย์คนนี้มีความก้าวหน้าอย่างมาก รัศมีดาบกำลังกะพริบ แต่รัศมีดาบที่เปล่งออกมาเริ่มหน้าหวาดกลัวขึ้นเรื่อยๆ


เซียนหยู่สื่อเหยียนเองก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย เผ่ามนุษย์นี่ชักจะท้าทายสวรรค์เกินไปแล้ว


ไม่ ไม่สามารถปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเด็ดขาด ถ้าให้เวลาเขาอีกสองสามปี มันอาจจะเป็นภัยคุกคามต่อตระกูลเซียนหยู่!


เขาจะไม่ออมมืออีกต่อไป เขายื่นมือขวาออกไป แต่ไม่ได้กำเป็นหมัด แต่เป็นกรงเล็บมังกรสีทองแทน เขาต้องการที่จะสังหารหลิงฮันให้ได้ในกระบวนท่านี้ เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม


ทันใดนั้น เซียนหยู่สื่อเหยียนก็กระโจมออกไปพร้อมกับกรงเล็บมังกรที่หมายจะเอาชีวิตของหลิงฮัน


ตอนนี้ เผ่ามนุษย์คนนี้จะต้องถึงฆาตอย่างแน่นอนและเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับการโจมตีนี้ได้



 

 

 


ตอนที่ 789

 

กรงเล็บมังกรของเซียนหยู่สื่อเหยียนพุ่งเข้าใส่หัวใจของหลิงฮัน


นี่คือกรงเล็บมังกรที่สามารถเจาะแร่เหล็กระดับสิบให้เป็นรูได้ แล้วร่างกายของมนุษย์จะสามารถต้านทานได้?


แต่ทันใดนั้นเอง อุณหภูมิรอบด้านก็ลดต่ำลงอย่างกระทันหัน!


หิมะโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าเกิดเป็นเกล็ดน้ำแข็งที่ล่องลอยไปทั่ว


“โฮกกก” ร่างของมังกรที่แท้จริงปรากฏขึ้นบนหัวของหลิงฮัน มังกรเหมันต์คำรามและปลดปล่อยอำนาจอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา


‘ตูม’ มังกรเหมันต์พุ่งโจมตีใส่เซียนหยู่สื่อเหยียนด้วยความเกรี้ยวกราด


แม้เซียนหยู่สื่อเหยียนจะทรงพลัง แต่ด้วยพลังต่อสู้ห้าดาวของเขากับพลังต่อสู้เจ็ดดาวของมังกรเหมันต์ เซียนหยู่สื่อเหยียนย่อมไม่อาจต่อต้านได้!


“อ้ากกก” เซียนหยู่สื่อเหยียนกรีดร้องและพยายามโจมตีตอบโต้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถูกทุบตีจนร่างฟกช้ำ ภายในไม่นานสิบกระบวนท่าก็ผ่านพ้นไป


นอกจากคนของตระกูลเฮอเหลียน ทุกคนของตระกูลเซียนหยู่ล้วนอ้าปากค้าง


เซียนหยู่ตงตกตะลึงยิ่งกว่าใคร เขาคิดอยู่แล้วว่าทำไมเฮ่อเหลียนหลงถึงยอมส่งหลิงฮันให้เขาง่ายๆ ที่แท้อีกฝ่ายก็รู้อยู่แล้วนี่เองว่าหลิงฮันมีไพ่ลับที่ทรงพลังเช่นนี้


จิ้งจอกเฒ่าที่น่ารังเกียจ!


“พอแล้ว!” เขาสะบัดและพุ่งไปคว้าร่างของเซียนหยู่สื่อเหยียนออกมาจากนั้นก็มองไปยังเฮ่อเหลียนหลง “พาแขกของเราไปพักผ่อนด้วย ข้าจะนำสื่อเหยียนไปรักษา”


การรักษาเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ที่เขาต้องเข้าแทรกแซงก็เพราะต้องการหยุดการต่อสู้


สองจอมยุทธที่สำคัญของตระกูลเซียนหยู่ได้ตายด้วยน้ำมือของหลิงฮันไปไม่นาน แถมการเดิมพันรับการโจมตีสิบกระบวนท่าต่อหน้าสาธารณะชนพวกเขาก็ไม่สามารถกำจัดหลิงฮันได้อีก ที่จริงหากมีแค่หลิงฮันคนเดียวล่ะก็ตอนนี้เขาคงกำจัดหลิงฮันด้วยตัวเองไปแล้ว


แต่ตอนนี้หลิงฮันมีเฮ่อเหลียนหลงอยู่รอบข้าง ซึ่งเฮ่อเหลียนหลงเป็นถึงผู้นำของตระกูลเฮ่อเหลียน ไม่ว่าอย่างไรตระกูลเซียนหยู่ก็ต้องไว้หน้าเขา


หลิงฮันไม่เก็บรูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งทลายปฐพีกลับไปและนั่งอยู่กับที่ ถ้าหากยังมีรูปแบบอาคมนี้อยู่มันจะช่วยต่อต้านการโจมตีของจอมยุทธระดับทลายมิติได้ในขณะที่เขาทำความเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบ


หนึ่ง สองวัน สิบวัน  หนึ่งเดือน หลิงฮันพยายามขัดเกลาเจตจำนงภายในร่างของเขา


จอมยุทธระดับทลายมิติแข็งแกร่งเกินไป แค่เจตจำนงของพวกเขาก็สามารถคงอยู่ได้เป็นร้อยปีแล้ว ภายในหนึ่งเดือนนี้เจตจำนงได้ทำลายร่างของหลิงฮันไปเก้าในสิบส่วน แม้แต่หัวใจของเขาก็เกือบหยุดเต้น


เจตจำนงแห่งดาบของหลิงฮันค่อยๆทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันดาบสังหารที่อยู่ในหอคอยทมิฬก็สั่นไหวเล็กน้อยพร้อมกับส่องแสงอักขระออกมา


‘พรึบ’ หลิงฮันลืมตาและลุกขึ้นยืน ร่างของเขาปลดปล่อยแสงสีทองออกมา แสงนั่นคืออำนาจของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ที่กำลังปัดเป่าเจตจำนงของจอมยุทธระดับทลายมิติในร่างของหลิงฮัน


“อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น” หลิงฮันถอนหายใจ เขาเข้าใจแก่นแท้แห่งดาบได้อย่างครุมเครือแล้ว มันราวกับว่าเขากับแก่นแท้แห่งดาบถูกขวางกั้นเอาไว้ด้วยชั้นบางๆที่ไม่อาจก้าวข้ามไปได้


บางทีอาจจะต้องเป็นพรุ่งนี้หรือไม่ก็อีกหนึ่งเดือนกว่าเขาจะเข้าถึงแก่นแท้แห่งดาบได้ หรือไม่ก็บางทีในชีวิตนี้เขาอาจจะบรรลุแก่นแท้แห่งดาบไม่ได้เลยก็ได้ การจะบรรลุให้ถึงระดับนั้นมีเพียงต้องเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบอย่างถ่องแท้


“เก็บรูปแบบอาคมซะ”เสียงของเซียนหยู่ตงดังขึ้น “คิดจะอยู่ที่สังเวียนโลหิตเหล็กนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่?”


หลิงฮันมองไปยังอีกฝ่าย น้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่มีจิตสังหารแฝงเอาไว้แม้แต่น้อย หรือว่าอีกฝ่ายจะรักษาคำพูดจริงๆ โดยที่ยอมละทิ้งความบาดหมางระหว่างพวกเขา?


แปลกจนไม่น่าเชื่อ


“ไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้น เจ้าคิดว่าถ้าเซียนหยู่ตงต้องการสังหารเจ้ารูปแบบอาคมของเจ้าจะปกป้องเจ้าได้?” เฮ่อเหลียนหลงเอ่ยขึ้น


หลิงฮันยิ้มและเก็บรูปแบบอาคมกลับไป


“เผ่ามนุษย์ ตราบใดที่เจ้ายอมรับข้อตกลงของข้า ความบาดหมางของพวกเราจะไม่มีอีกต่อไป” เซียนหยู่ตงกล่าว


หลิงฮันเกาหัวและกล่าว “ข้าชนะเดิมพัน ไม่ใช่ว่าความบาดหมางถือว่าถูกสะสางแล้วรึ?”


เซียนหยู่ตงคำรามและกล่าว “เจ้าสังหารคนของตระกูลเซียนหยู่สองคน ที่เจ้าชนะเดิมพันหนึ่งครั้งก็ถือว่าความบาดหมางได้ถูกสะสางเพียงคนเดียว”


อะไรกัน นี่เจ้าหน้าด้านถึงขนาดนี้เลยรึ?


หลิงฮันตกตะลึง เขาไม่นึกเลยว่าตัวตนระดับทลายมิติจะไร้ยางอายเช่นนี้! แต่ถึงอย่างนั้นในน้ำเสียงของอีกฝ่ายนั้นไม่มีจิตสังหาร เฮ่อเหลียนหลงก็ดูค่อนข้างผ่อนคลาย หรือว่าจิ้งจอกเฒ่าสองตนนี้จะแอบทำข้อตกลงอะไรกันในระหว่างที่เขาไม่รู้สึกตัว?


หลิงฮันตามน้ำและกล่าว “ท่านมีข้อเสนออันใดกับข้า?”


“จงแต่งงานกับสตรีซักคนในตระกูลของข้าและให้กำเนิดทายาทกับนาง หลังจากนั้นความบาดหมางจะถูกสะสาง!” เซียนหยู่ตงกล่าว “แน่นอนว่าทายาทคนนั้นต้องอยู่กับตระกูลเซียนหยู่”


นี่เจ้าเอาจริงงั้นรึ?


หลิงฮันอดมองไปยังเฮ่อเหลียนหลงไม่ได้ เจ้าต้องเป็นต้นเหตุที่ทำให้เซียนหยู่ตงเสนอเรื่องนี้แน่ๆ!


เฮ่อเหลียนหลงมองกลับไปยังหลิงฮันและมีท่าทีอายเล็กน้อยก่อนจะอธิบาย “ข้าเมาเลยเผลอพลั้งปากพูดออกไป”


เขาที่มีหลานชายที่สุดยอดเช่นนี้ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่อยากจะโอ้อวดให้ทุกคนได้รับรู้ เมื่อเซียนหยู่ตงลองคิดถึงศักยะภาพและสวรรค์ราวกับสัตว์หลาดของหลิงฮัน ความคิดที่จะให้หลิงฮันให้กำเนิดทายาทของตระกูลเซียนหยู่ก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที


ดังนั้นเมื่อหลิงฮันลืมตาตื่น พวกเขาจึงมุ่งหน้ามาที่นี่ทันที


“ข้าไม่ตกลง” หลิงฮันส่ายหัว เขาไม่คิดจะแต่งงานกับสตรีที่เขาไม่รู้จักเพื่อสะสางความแค้นของตน เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าฝ่ายสตรีจะต้องการแต่งงานกับเขารึเปล่า?


“เผ่ามนุษย์ เจ้ากลัวว่าสตรีที่ต้องแต่งงานกับเจ้าจะอัปลักษณ์?” เซียนหยู่ตงหัวเราะ “ไม่ต้องกังวล สตรีคนนั้นคือไข่มุกแห่งตระกูลเซียนหยู่ นางคือบุตรคนเดียวของผู้อาวุโสเจ็ด ชื่อของนางคือเซียนหยู่ช่าย  ไม่ใช่แค่นางจะมีรูปลักษณ์ที่งดงาม แต่สายเลือดของนางยังบริสุทธิ์มากอีกด้วย ในหมู่รุ่นเยาว์แห่งยุคนางติดสามอันดับแรกอย่างไม่ต้องสงสัย”


“ฮึ แม้ข้าจะต้องตายข้าก็จะไม่แต่งงานกับเผ่านมนุษย์ผู้นี้!” ในตอนนั้นเอง หลิงฮันก็มองเห็นสตรีผู้หนึ่งในระยะที่ค่อนข้างไกล นางถือดาบคมเอาไว้ในมือและกล่าว “ถ้าฝืนบังคับให้ข้าแต่งงานกับเขา ไม่ข้าก็ต้องเขาที่ต้องตาย!”



 

 

 


ตอนที่ 790

 

เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนี้คือเซียนหยู่ช่าย


มันไม่ได้เป็นการพูดโอ้อวดแต่อย่างใด รูปลักษณ์หน้าตาของนางงดงามอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเลย และยังมีรูปร่างที่ดีกว่า เพราะหน้าอกของนางไม่แบนราบเหมือนกับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน


“ผู้อาวุโส แตงที่ฝืนเด็ดจากต้น ย่อมไม่หวาน ถ้าข้าแต่งงานกับนาง นางจะมีความสุขได้อย่างไร และข้าไม่ได้สนใจนางด้วย” หลิงฮันกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา


เซียนหยู่ตงถอนหายใจและพูดว่า “การแต่งงานถือเป็นเรื่องใหญ่ ถ้างั้นข้าจะให้พวกเจ้าตัดสินใจด้วยตัวเอง!”


เซียนหยู่ช่ายไม่กล้าทำตัวหยาบคายต่อหน้าเซียนหยู่ตง นางเพียงแค่จ้องมองไปที่หลิงฮันและพูดว่า “ถ้าเจ้ากล้า ข้าให้คำมั่นสัญญาเลยว่ามันจะไม่จบเรื่องเพียงแค่นี้แน่!” หลังจากนางพูดเสร็จนางก็เดินจากไป


หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “การแต่งงานกับเจ้าข้าสามารถตัดสินใจได้ แต่ภรรยาของข้า…โอ้ว โทษที!”


เซียนหยู่ตงกล่าวอย่างเย็นชาด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า “หลิงฮัน เจ้าชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียแล้วหรือยัง? ตราบใดที่เจ้าพยักหน้า ไม่เพียงแค่เจ้าจะได้รับภรรยาที่งดงามราวกับดอกไม้เท่านั้น แต่ยังมีอำนาจในตระกูลเซียนหยู่เช่นกัน ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังสร้างจักรวรรดิอยู่ ในสายตาของห้านิกายโบราณแห่งภูมิภาคกลางคงจะมองเจ้าเป็นเพียงแค่ขี้เล็บ แต่ถ้าเจ้าได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเซียนหยู่ เจ้าจะไม่จำเป็นต้องเกรงกลัว!”


“ผลประโยชน์ที่เจ้าจะต้องศูนย์เสียแทบจะเป็นศูนย์!”


“เจ้าคิดที่จะปฏิเสธผลประโยชน์ที่ได้รับอย่างมหาศาลทั้งที่ไม่มีอะไรต้องเสียอย่างนั้นหรือ?”


หลิงฮันถอนหายใจและพูดว่า “ข้าคงต้องให้ผู้อาวุโสต้องผิดหวัง แต่ข้ายังคงเลือกที่จะปฏิเสธ!”


เซียนหยู่ตงจ้องเขม็งไปที่หลิงฮันไม่หยุด แต่หลังจากที่ผ่านไปสิบกว่าลมหายใจ เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและพูดว่า “ดี! ดีมาก! แม้ว่าข้าจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ข้าก็รู้สึกชื่นชมเจ้ามาก มันจะมีสักกี่คนกันเชียวที่กล้าจะยืนกรานปฏิเสธข้าแบบนี้”


หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “แล้วแผนต่อไปของท่านคืออะไร?”


“แน่นอนคือการให้เจ้าและเซียนหยู่ช่ายสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจซึ่งกันและกันและได้ใกล้ชิดกัน เจ้าจะต้องมีอะไรกับนางอย่างแน่นอน” เซียนหยู่ตงกล่าว


อีกฝ่ายยังไม่ล้มเลิกความคิดนั้นอีกเรอะ


หลิงฮันไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาจะสั่นคลอนง่ายๆได้ยังไงกัน


จากนั้นเขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว และพูดว่า “ถ้าเจ้าต้องการสร้างพันธมิตร มันคงเป็นไปไม่ได้หากไม่กำจัดความบาดหมางต่อกัน ข้าสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้ ตราบใดที่เจ้าสามารถนำของบางอย่างมาให้กับข้าผู้นี้ได้”


“มันคืออะไร?” หลิงฮันถาม แน่นอนเขาย่อมรู้ว่าสิ่งนั้นมันต้องไม่ธรรมดา มิฉะนั้นมันคงไม่สามารถลบล้างความบาดหมางต่อกันได้


“ในอีกสิบวันถ้ำมังกรผีกำลังจะเปิด!” เซียนหยู่ตงกล่าว


“เขี้ยวมังกร!” เฮ่อเหลียนหลงหลุดส่งเสียงอุทานออกมา


มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตกใจ นั่นเป็นเพราะถ้ำมังกรผีไม่ใช่สถานที่ลึกลับในมหาสมุทรเหนือ แล้วเฮ่อเหลียนหลงจะไม่สามารถคาดเดาได้อย่างไร? เขาพูดว่า “ใช่แล้ว มันเป็นเขี้ยวมังกร ตราบใดที่เจ้าสามารถนำมันมาให้กับข้าได้ ไม่เพียงแค่ความบาดหมางจะถูกสะสาง แต่ข้าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับเจ้าด้วย!”


เฮ่อเหลียนหลงใบหน้าเปลี่ยนสีและพูดว่า “เขี้ยวมังกรอยู่ที่ชั้นสี่ของถ้ำมังกรผี มันแทบจะไม่มีใครสามารถก้าวขึ้นไปได้ แม้จะมีคนที่โชคดีอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็จะตายหลังจากที่กลับออกมา!”


“ใช่แล้วมันไม่ง่าย แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ก็ยังมีทางเลือกก่อนหน้านี้” เซียนหยู่ตงหัวเราะ “ข้ายังคงยืนกรานคำพูดเดิม ตราบใดที่เจ้าแต่งงานกับเซียนหยู่ช่าย เจ้าจะไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนั้น และคำร้องขอเป็นพันธมิตรระหว่างกันจะสามารถสรุปได้ทันที”


“จงคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ” เซียนหยู่ตงโบกมือและหันหลังเดินจากไป


เขาไม่กังวลว่าหลิงฮันจะหนี มิฉะนั้นอีกฝ่ายจะไม่สามารถใช้ขุมพลังของเขาได้ และการเป็นพันธมิตรระหว่างกันจะอยู่ในจุดที่แตกหัก


หลิงฮันรู้สึกสงสัยและพูดว่า “ถ้ำมังกรผีเป็นสถานที่แบบไหน?”


เฮ่อเหลียนหลงเผยท่าทีหวาดกลัวและพูดว่า “เนื่องจากความผิดพลาดของประวัติศาสตร์ทำให้ข้าไม่รู้ว่ามันผ่านมากี่ปีแล้ว ครั้งหนึ่งเคยมีมังกรอยู่ในมหาสมุทรเหนือ หลังจากที่มันตายร่างกายของมันได้กลายเป็นถ้ำมังกรผี กระดูกและโลหิตของมันทำให้เกิดสมุนไพรที่น่าอัศจรรย์ แต่ในขณะเดียวกันที่นั่นก็มีสัตว์อสูรที่น่าหวาดกลัวมากมาย ดังนั้นถ้ำมังกรผีจึงไม่ได้มีเพียงแค่สมบัติมากมาย แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย”


“มันแข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?” หลิงฮันกล่าว


“กล่าวกันว่ามันมีความแข็งแกร่งของจอมยุทธระดับทลายมิติยี่สิบดาว และยืนอยู่บนจุดสูงสุดของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด แม้แต่ตัวตนระดับพระเจ้าที่มีระดับพลังต่ำสุดก็ไม่สามารถจัดการมันได้” เฮ่อเหลียนหลงพูดด้วยความหวาดกลัว


“ด้วยพลังนั้นอีกก้าวเดียวก็จะกลายเป็นมังกรที่แท้จริงแล้ว แต่น่าเสียดายที่พลาดขั้นตอนสุดท้าย และเป็นได้แค่ครึ่งมังกรที่แท้จริง” เฮ่อเหลียนหลงรู้สึกเสียดาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวตนที่ทรงพลังแบบนั้นถึงไม่กลายเป็นพระเจ้า แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไม แม้แต่มันยังไม่กล้าฝ่าขึ้นไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งตายอยู่ในโลกเบื้องล่าง


เฮ้อ เฮ้อ


นี่ทำให้เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะเปิดสวรรค์ให้ได้มากกว่าเดิม มิฉะนั้นเขาคงจะถูกหลอมเป็นเม็ดยา หรือไม่ก็ตายอยู่ในโลกเบื้องล่าง


“แล้วเขี้ยวมังกรคืออะไร?” หลิงฮันถาม


“มังกรกลายเป็นถ้ำมังกรผี มีเพียงแค่เขี้ยวมังกรเท่านั้นที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ ด้วยพลังมังกรที่ไร้ขีดจำกัด นี่ถือว่าเป็นสมบัติอันหาที่เปรียบมิได้สำหรับลูกหลานทุกคนที่มีสายเลือดมังกร


ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาอยู่ในหัวของหลิงฮัน ไม่ใช่ว่าลูกชายของเขามีสายเลือดมังกรหรอกหรือ? ถ้าเขาสะกัดพลังของเขี้ยวมังกร เจ้าตัวน้อยของเขาจะประสบความสำเร็จมากมายแค่ไหนในอนาคต?


มันจะต้องเป็นของเขา!


เขาถามเฮ่อเหลียนหลงเกี่ยวกับถ้ำมังกรผีเกี่ยวกับรายละเอียด และเฮ่อเหลียนหลงไม่คิดที่จะปกปิดอะไรแม้แต่น้อย เขาบอกหลิงฮันทุกอย่างที่เขารู้ที่ละเรื่อง


ถ้ำมังกรผีตั้งอยู่ทางตะวันตกของมหาสมุทรเหนือ ซึ่งไม่สามารถเข้าไปได้ตามอำเภอใจ เนื่องจากแรงกดดันของเผ่ามังกร แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่ามันตายมากี่ปีแล้ว แต่แรงกดดันของครึ่งเผ่ามังกรก็ยังทรงพลังมากอยู่ดี แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติยังอาจถูกฆ่าตายได้


แต่ทุกๆห้าร้อยปี ถ้ำมังกรผีจะเปิดหนึ่งครั้ง โดยปกติจะเปิดเป็นเวลานานสุดแค่ครึ่งเดือน ภายในถ้ำจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ชั้น ทุกชั้นจะมีสมุนไพรหลากหลายชนิด ซึ่งเกิดขึ้นมาจากพลังของมังกร แน่นอนว่าประสิทธิภาพของมันจะต้องยอดเยี่ยมมาก


แต่ในเวลาเดียวกัน เนื้อและโลหิตของเผ่ามังกรยังทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตประหลาดมากมายที่ทรงพลัง แต่พวกมันจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ภายในร่างกายของเผ่ามังกรและไม่สามารถออกมาได้ ถ้าต้องการเข้าไปข้างหน้าและเก็บเกี่ยวสมุนไพร จะต้องเตรียมใจเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตประหลาดพวกนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก


นอกจากนี้ นอกเหนือจากเขี้ยวมังกร ถ้ำมังกรผียังมีหญ้าโลหิตมังกร ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าเหมือนกันเป็นรองแค่เขี้ยวมังกรเท่านั้น มันมีประสิทธิภาพน่าทึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกายให้แข็งแแกร่งเท่ากับมังกรได้


ดีเลย เขาจะเข้าไปเอาหญ้าโลหิตมังกรให้ลูกเขาเพื่อเสริมสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งตั้งแต่อายุยังน้อย


หลิงฮันตัดสินใจที่จะบอกเรื่องนี้กับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน แน่นอนว่านางรู้สึกเป็นห่วง และพูดว่า “ถ้ำมังกรสามชั้นแรกไม่ค่อยหน้าเป็นห่วง แม้ว่ามันจะอันตราย แต่อย่างเจ้าน่าจะไม่เป็นอะไร แต่ชั้นที่สี่อันตรายมาก ผู้คนที่เข้าไปเกือบทุกคนต้องทิ้งชีวิตอยู่ที่นั่น และผู้คนที่หลบหนีออกมาได้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนที่จะตายในภายหลัง”


หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ข้าจะทำให้ดีที่สุด!”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)