Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 751-754
ตอนที่ 751
ภูมิภาคเหนือมีสถานที่อันตรายมากมาย แม้แต่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณก็สามารถตกตายได้ อย่างเช่นหุบเขาไม้ดำที่เคยมีปราณอสูรอบอวลไปทั่ว ใครที่ได้รับผลกระทบจากมันจะถูกครอบงำจิตใจกลายเป็นอสูรที่รู้จักแต่การสังหาร
ถึงอย่างนั้นเหล่าจอมยุทธก็ยินยอมรับความเสี่ยงนั้นถ้าหากจะได้รับผลประโยชน์
หลิงฮันหยุดอยู่ด้านนอกหุบเขา จากด้านนอกนี้เขาสามารถมองเห็นว่าหุบเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยก้อนหิวราวกับแท่งหนาม ชั้นบรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีม่วงอันหนาแน่นที่ลดระยะการมองเห็นของสายตา แม้แต่ด้วยเนตรแห่งสัจธรรมของหลิงฮันก็มสามารถมองเข้าไปได้ลึก
“หุบเขาไม้ดำเป็นสถานที่ที่มีหินต้นกำเนิดความวุ่นวาย ถ้าเช่นนั้นแล้วสถานที่แห่งนี้จะมีอะไรอยู่กันแน่?” หลิงฮันพึมพำ เขามองไปยังจูเสวียนเอ๋อและกล่าว “ทำไมอาจารย์ของเจ้าถึงมาที่นี่?”
จูเสวียนเอ๋อครุ่นคิดและกล่าวตอบ “อาจารย์ชื่นชอบการท่องเที่ยวรอบโลกและสำรวจสถานที่อันตรายต่างๆ มีคำกล่าวว่าสถานที่อันตรายแต่ละที่จะแฝงไว้ด้วยอันตราย แต่ในอันตรายก็ยังมีสมบัติซ่อนอยู่เช่นกัน”
หลิงฮันยิ้ม “ข้าไม่คิดเลยว่าอาจารย์ของเจ้าจะเป็นพวกชื่นชอบสมบัติ!”
จูเสวียนเอ๋อถลึงตาใส่หลิงฮันและกล่าว “อาจารย์บอกข้าว่าปราณหมอกที่นี่สามารถเปลี่ยนเป็นรูปร่างได้หลายแบบและมีความเป็นไปได้ที่สถานที่แห่งนี้จะมีสมบัติลับซ่อนอยู่! ”
หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “และเป็นเพราะอาจารย์ของเขาถลำลึกเข้าไปในหุบเขา นางจึงได้รับบาดเจ็บเช่นนั้น!”
“คงเป็นเช่นนั้น” จูเสวียนเอ๋อถอนหายใจ เพื่อที่จะรักษาอาการบาดของอาจารย์ นางต้องลำบากลำบนเป็นเวลาหลายปี เพราะในช่วงที่อาจารย์ของนางไม่มีแรงจะช่วยเหลือนาง นางต้องถูกคนจากนิกายมากมายหวังจะข่มเหงเพื่อครอบครองตัวนาง
“งั้นก็ไปดูกันเถอะ” หลิงฮันคว้าร่างของหนูทองคำและกล่าว “เจ้าอ้วน ไปสำรวจข้างหน้าสิว่ามีอะไรล้ำค่ารึไม่!”
หนูทองเขาตะเกียกตะกายวิ่งหนีขึ้นไปบนไหล่ของเขาและกรีดร้องออกมา มันต้องการจะสื่อว่าสถานที่ด้านหน้านี้แค่เห็นแวบแรกก็รู้แล้วว่าอันตราย เป็นไปได้ว่าอาจจะมีผีโผล่มาดด้วยก็ได้!
หลิงฮันส่ายหัว “เห้อ เวลาที่เจ้าหิวเจ้ามีความกล้าจะสู้เพื่อแย่งอาหาร แต่พอเวลาเช่นนี้เจ้ากลับกลายเป็นหนูตาขาว!”
หนูทองคำกรอกตาเมินเฉย ข้าเป็นหนูค้นหาแร่เหล็กนะ ไม่ใช่หนูล่าสมบัติหรือหนูต่อสู้ ข้าไม่ต้องการจะไปในที่ที่อันตรายแบบนั้น
“งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ” หลิงฮันนำจูเสวียนเอ๋อเข้าไปในหอคอยทมิฬ แม้แต่อาจารย์ของนางที่เป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณยังได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นนางเองก็คงเป็นอันตรายได้เช่นกัน
หลิงฮัน ฮูหนิวและเจ้ากระต่ายเดินเข้าไปยังหุบเขาด้วยกัน
“หืม ที่แห่งนี้มีอะไรบางอย่างอยู่!” จู่ๆเจ้ากระต่ายก็พูดขึ้น
หลิงฮันสัมผัสได้ว่าหมอกสีม่วงนั้นไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลย ราวกับว่ามันเป็นอะไรบางอย่างไม่ใช่ของบนโลกนี้ เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร แต่ต้องเป็นสิ่งมีระดับสูงมากแน่นอน
“ไม่แปลกใจเลยที่อาจารย์ของเสวียนเอ๋อมาที่นี่” หลิงฮันพยักหน้า ภูมิภาคเหนือนั้นไม่มีทักษ่ะมเพาะที่เหนือกว่าระดับเจ็ด ดังนั้นถ้าอาจารย์ของจูเสวียนเอ๋อต้องการทะลวงผ่านไปยังระดับก้าวสู่เทวา นางจำเป็นต้องหาทางช่วยอื่นเท่านั้น
หมอกสีม่วงส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและสัมผัสสวรรค์ ทั้งสามคนสามารถรับรู้ได้เพียงแค่บริเวณที่ห่างออกไปสองฟุตเท่านั้น ถ้าพวกเขาถูกลอบโจมตี พวกเขาคงไม่อาจเตรียมตัวได้ทันเป็นแน่
ตูม!
เมื่อพวกเขาคิดถึงการถูกลอบโจมตี พวกเขาก็ถูกลอบโจมตีจริงๆ พวกเขามองเห็นหมอกสีม่วงรวมตัวกันเป็นเสือดาว ความเร็วของมันที่พุ่งเข้าใส่พวกเขานั้นไม่ด้อยไปกว่าจอมยุทธระดับสวรรค์เลย
หลิงฮันเค้นเสียงดูถูกและเขาเกร็งมือและกระแทกใส่เสือดาวม่วง
ทักษะผนึกพลิกปฐพี !
มือของเขาปกคลุมไปด้วยอักขระสีทอง แสงที่ส่องสว่างได้ทำให้หมอกสีม่วงรอบๆด้านสลายหายไป
เสือดาวม่วงไร้ความเกรงกลัว มันอ้าปากและพุ่งมาที่เขา
แม้มันจะเป็นเสือดาวที่เกิดจากหมอกม่วง แต่ฟันของมันกลับมีสีขาวและลิ้นสีแดง ช่างขัดแย้งกันจริงๆ
ตูม!
ทักษะผนึกพลิกปฐพีปะทะเข้ากับเสือดาวม่วง ประกายแสงสีทองจากอักขระระเบิดออกทำให้เสือดาวสลายกลายเป็นหมอกกลับคืนสู่หุบเขา
ถึงแม้ศัตรูจะอ่อนแอ แต่ใบหน้าของหลิงฮันกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เสือดาวนั่นมีพลังระดับก้าวสู่เทวาหนึ่งดาว… แต่มันกลับสามารถใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้!” เขายกมือขึ้นดูและเห็นว่าบนฝ่ามือของเขามีบาดแผลที่เกิดขึ้นจากเต๋า แม้บาดแผลที่เกิดขึ้นจะเป็นแค่รอยขีดข่วน
พลังต่อสู้ของระดับก้าวสู่เทวาหนึ่งดาวแต่กลับมีความสามารถที่ฉีกผ่านกายหยาบของเขาได้ แม้บาดแผลจะเล็กน้อยแต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก
กายหยาบของเขาในตอนนี้สามารถเทียบได้กับแร่เหล็กระดับเก้า ซึ่งหมายความว่าแม้แต่จอมยุทธระดับสวรรค์ก็ยังยากที่จะทำให้เขาบาดเจ็บ นอกเสียจากว่าจะมีจอมยุทธระดับสวรรค์หลายคนจะรวมพลังกันโจมตีเขา
แต่ว่าสัตว์อสูรที่เกิดจากปราณหมอกกับสามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้!
เรื่องนี้ทำใจเชื่อได้ยากจริงๆ
“ไม่แปลกที่อาจารย์ของเสวียนเอ๋อได้รับบาดเจ็บที่เต๋าในตันเถียน สถานที่แห่งนี้ไม่ง่ายเลย มันอัตรายไม่น้อยไม่กว่าป่าไม้ดำแม้แต่น้อย!” หลิงฮันถอนหายใจ
“พวกเราถอยกันดีกว่า นอกหุบเขานี้มีทั้งเนื้อและแครอทให้กิน ทำไมเราต้องมาเสี่ยงอันตรายในที่แบบนี้ด้วย?” ถึงแม้เจ้ากระต่ายจะสงสัย แต่เห็นได้ชัดมันกลัวตายมากกว่า
หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ยังไม่ถึงเวลาถอย ข้ามียันต์เคลื่อนย้ายมิติอยู่ พวกเราต้องมองภาพรวมให้กว้าง ในทวีปให้นี้มีเขตแดนลี้ลับและสถานที่อันตรายมากมายที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติ พวกเราต้องกำจัดมันหรือไม่ก็ต้องรับรู้ให้ได้ว่ามันมีความอันตรายอย่างไร!”
อย่างเช่นเหมืองโบราณที่แคว้นเพลิง ที่แห่งนั้นมีซากศพมีชีวิตของตัวตนระดับทลายมิติไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคน เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาตื่นขึ้นมา การเปิดสวรรค์คงทำได้ไม่ง่ายแน่
พวกเขาเดินหน้าต่อไป ปราณหมอกโดยรอบเริ่มหนาแน่นขึ้นและจำนวนครั้งที่ถูกสัตว์อสูรหมอกโจมตีก็มากขึ้น นอกจากนั้นสัมผัสการรับรู้ของพวกเขาก็ถูกปิดกั้นมากกว่าเดิม
โชคดีที่สัตว์อสูรหมอกม่วงเหล่านี้มีพลังต่อสู้แต่ระดับก้าวสู่เทวา ซึ่งหลิงฮันสามารถสังหารพวกมันได้อย่างง่ายดาย แต่มือของเขาก็ถูกทิ้งบาดแผลเอาไว้ไม่น้อยเช่นกัน ด้วยผลกระทบจากอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ กายาเพชรของเขาจึงฟื้นฟูบาดแผลได้ช้าลง เขาต้องเข้าไปในหอคอยทมิฬเพื่อขจัดอำนาจเหล่านั้นให้ออกไปจากร่างกาย
ในไม่ช้าเบื้องหน้าของพวกเขาก็ปรากฏแม่น้ำสายหนึ่ง เพียงแต่สิ่งที่ไหลเชี่ยวอยู่ในแม่น้ำนั้นไม่ใช่น้ำแต่เป็นสายฟ้า
แม่น้ำอัสนี!
ตอนที่ 752
แม่น้ำอัสนี?
ต้นกำเนิดของแม่น้ำอัสนีคืออะไร?
หลิงฮันมองไปที่คลื่นสายฟ้าในแม่น้ำและช่วยไม่ได้ที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปซีดขาว พลังสายฟ้าของมันนั้นรุนแรงมาก เพียงแค่จ้องมองก็ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายจากก้นบึ้งของหัวใจ
เขาบ่มเพาะทักษะสายฟ้า ถ้าเขาอาบสายฟ้าพวกนั้นมันจะเป็นการหล่อเลี้ยงเขาโดยที่เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่สายฟ้าที่จะดูดซับจะต้องบริสุทธิ์ไม่แฝงเจตจำนงแห่งเต๋า มิฉะนั้นมันจะเกิดความขัดแย้งกับเจตจำนงแห่งเต๋าของเขาเอง และจะทำให้เกิดการต่อสู้ภายใน
ฮูหนิวรู้สึกตื่นเต้นมาก นางรีบกระโจนเข้าใส่แม่น้ำอัสนีและพูดว่า “อาบน้ำ อาบน้ำ!”
หลิงฮันรีบดึงแขนหยุดทันทีและพูดว่า “อย่าประมาท เจ้าสายฟ้านี่ไม่ธรรมดา!”
นี่ไม่ใช่สายฟ้าบริสุทธิ์อย่างแน่นอน หลิงฮันมองเห็นอักขระที่กระพริบอยู่ มันไม่ใช่อักขระของสายฟ้า แต่เป็นอักขระของเปลวเพลิง!
มันจะเป็นไปได้ยังไง!
หรือว่าภายในแม่น้ำอัสนีจะมีเปลวเพลิง?
“มองไปตามแม่น้ำ!” หลิงฮันกล่าว ดวงตาของเขามองขึ้นไปถึงต้นน้ำของแม่น้ำอัสนี แม้ว่าหมอกม่วงที่อยู่เหนือแม่น้ำอัสนีจะเบาบาง ทำให้สามารถมองเห็นได้ไกลขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงถูกบดบังอยู่ดี และในระยะไกลยังคงมีหมอกม่วงกระจัดกระจายไปทั่ว
ที่ต้นน้ำมีอะไรกันแน่? หรือว่ามันจะมีสมบัติลับอยู่?
“โอ๊ย ข้าปวดท้องเหลือเกินสงสัยข้าจะกินแครอทมากเกินไป เช่นนั้นข้าคงจะต้องขอถอนตัวก่อน!” เจ้ากระต่ายหันหน้าไปและส่งเสียงกรีดร้องออกมาขณะลูบน้อง
หลิงฮันแสยะยิ้มและพูดว่า “เจ้ากระต่ายที่โลภมากอย่างเจ้ากลัวตายอย่างนั้นรึ? เจ้าจะไปก็ได้ แต่ข้าจะไม่ให้เจ้าขโมยแครอทในหอคอยทมิฬอีก”
“เจ้าหนู เจ้าช่างไร้ความยุติธรรมยิ่งนัก!” เจ้ากระต่ายทำตัวสูงส่งและพูดว่า “เจ้าคิดว่าข้ากลัวตายอย่างนั้นเรอะ? ข้าแค่กลัวว่าพวกเราทั้งสามคนจะติดอยู่ที่นี่และไม่มีใครเข้ามาช่วย ดังนั้นข้าเลยวางแผนที่จะรออยู่ด้านนอก และถ้าเจ้าติดกับดัก ข้าก็จะสามารถหาคนมาช่วยเจ้าได้!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า สงสัยข้าจะต้องเรียนรู้ความไร้ยางอายจากเจ้าซะแล้วเพื่อมันจะเป็นประโยชน์กับข้าในอนาคต” หลิงฮันกล่าว
ฮูหนิวกัดกระต่ายและทำให้มันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และบังคับให้มันติดตามพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ
“ในเมื่อเจ้าอยากให้ข้าไปด้วยก็รีบนำโสมโลหิตราชามังกรทรราชออกมาให้ข้าซะ!” เจ้ากระต่ายยื่นอุ้งมือออกมา
“ไม่!” หลิงฮันโบกมือปฏิเสธ “โสมโลหิตราชามังกรทรราชสองต้นที่ข้าติดเจ้าไว้ข้าก็คืนให้เจ้าไปแล้ว”
หลังจากนั้นพวกเขาก็ทะเลาะกันไปมา แต่ในใจก็ไม่กล้าที่จะทำตัวประมาท พวกเขาทะเลาะกันเพียงแค่ลดความตึงเครียดเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นมีเพียงแค่ฮูหนิวเท่านั้นที่ดูผ่อนคลาย ในขณะที่เดินนางก็จะฮัมเพลงไปด้วยอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่านางจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยแม้แต่น้อย
ยิ่งพวกเขาใกล้ต้นน้ำมากเท่าไหร่ พลังของสายฟ้าก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกกังวลแม่น้ำอัสนี แต่คลื่นที่กระเซ็นออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก มันเทียบได้กับการโจมตีของจอมยุทธระดับทลายมิติและทำให้ท้องฟ้าต้องสั่นไหว
พวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เกินไป แม้ว่าคลื่นพวกนั้นจะไม่มีความคิดริเริ่มโจมตีผู้คน แต่พลังของมันใครกล้าที่จะดูถูก?
เมื่อเจ้ากระต่ายรู้สึกว่ามันไม่ไหว มันเลยร้องขอหลิงฮันให้พามันเข้าไปในหอคอยทมิฬ หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพามันเข้าไปพร้อมกับหนูทองคำ มีเพียงแค่เขากับฮูหนิวเท่านั้นที่ยังอยู่ข้างนอก ฮูหนิวเป็นคนที่แปลกประหลาดมาก แม้แต่ผิวของเขายังปริแตกภายใต้กลิ่นอายของมัน แต่ดูเหมือนว่าเด็กสาวตัวน้อยจะไม่ได้รับผลกระทบเลย
ต้องรู้ก่อนว่ากายหยาบของหลิงฮันในปัจจุบันเทียบได้กับแร่เหล็กระดับเก้า แต่ช่วยไม่ได้เพราะนี่เป็นกลิ่นอายของจอมยุทธระดับทลายมิติ และแสดงให้เห็นถึงความแปลกประหลาดของฮูหนิว
นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าระดับทลายมิตินั้นทรงพลังแค่ไหน
ทำให้ตอนนี้เขารู้แล้วว่าจอมยุทธระดับสวรรค์เมื่ออยู่ต่อหน้าระดับทลายมิติ…ต่างชั้นกันมาก!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจอมยุทธระดับสวรรค์นับร้อยคนถึงถูกจอมยุทธระดับทลายมิติคนเดียวฆ่าตาย เพียงแค่กลิ่นอายของอีกฝ่ายก็เพียงพอที่จะฆ่าพวกเขาแล้ว
หลิงฮันถอนหายใจอยู่ในใจ ขณะที่โคจรพลังปราณก่อเกิดอย่างหนักเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้กับร่างกายของเขา และรู้สึกเสียดายถ้าเกราะอัสนียังอยู่มันอาจจะมีประโยชน์มากมายในสถานการณ์แบบนี้
“หลิงฮัน ตรงนั้นมีสวนดอกไม้ด้วย!” ฮูหนิวชี้ไปที่ถนนด้านหน้า
หลิงฮันใช้สายตาเพ่งเล็งมอง แต่เขากลับมองไม่เห็นอะไรเลย แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่ฮูหนิวจะหลอกเขา เขาจึงเดินเข้าไปใกล้พอที่จะเห็นพืชแปลกประหลาดอยู่ริมแม่น้ำ มันมีความสูงเกือบเท่าคน ลำต้นมีสีฟ้า และมีเจ็ดกลีบที่คล้ายกับลูกศร ส่วนบนสุดจะเป็นดอกไม้ แต่ที่น่าประทับใจคือการก่อตัวของสายฟ้าจากมัน
ชีวิตที่แล้วของหลิงฮันเป็นจักรพรรดินักปรุงยา เขาคุ้นเคยกับสมุนไพรทุกชนิด แต่พืชชนิดนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“สวยจัง!” ฮูหนิวปล่อยมือหลิงฮันและวิ่งไปที่ดอกไม้
หลิงฮันอยากจะหยุดนาง แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรทำอันตรายนางได้ ตั้งแต่เดินมานางยังไม่ได้รับผลกระทบเลย บางทีนางอาจจะไม่กล้วแม่น้ำอัสนีจริงๆก็ได้
ฮูหนิววิ่งไปที่ริมแม่น้ำอัสนี พลังของสายฟ้านั้นน่าสะพรึงกลัวมาก แต่ก็ไม่มีผลกับนาง นางเก็บดอกไม้ด้วยรอยยิ้มและวิ่งกลับมาแล้วพูดว่า “หลิงฮันช่วยหนิวเหน็บดอกไม้ไว้ที่หัวของหนิวหน่อย!”
หลิงฮันหยิบดอกไม้มา แต่ก็แปลกใจที่พบว่าแท้จริงแล้วดอกไม้นี่มีพลังสายฟ้าที่บริสุทธิ์
กล่าวคือเขาสามารถดูดซับพลังของมันได้!
ใครก็ตามที่ฝึกฝนทักษะสายฟ้าก็จะสามารถดูดซับพลังของมันได้
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ดอกไม้สายฟ้านี่ไม่ธรรมดา มันสามารถยกระดับกายสายฟ้าให้กับเจ้าได้ เจ้าไม่ลองดูดซับมันดูล่ะ”
ฮูหนิวส่ายหน้าและพูดว่า “หนิวรู้สึกว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะกินมัน! แต่ถ้าหลิงฮันต้องการ หนิวก็จะมอบให้หลิงฮัน!” เด็กสาวตัวน้อยกระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังของหลิงฮันทันที และพยายามที่จะยัดดอกไม้เข้าไปในปากของหลิงฮัน
เห็นได้ชัดว่าความใจดีของฮูหนิวไม่สามารถปฏิเสธได้ มิฉะนั้นเด็กสาวตัวน้อยคงจะรบเร้าเขาอยู่ทั้งวัน
หลิงฮันกินดอกไม้สายฟ้าและโคจรทักษะอัสนีเก้าทิวาอย่างรวดเร็วเพื่อดูดซับพลังของมันออกมา
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลิงฮันก็ลุกขึ้นยืน เขาลืมตาขึ้นพร้อมกับประกายสายฟ้าในดวงตาของเขา
ดอกไม้สายฟ้าดอกเดียวแน่นอนว่าไม่เพียงพอที่จะสร้างความก้าวหน้าให้กับเขาได้ แต่ถ้ามีพวกมันหลายร้อยต้น เขาก็จะสามารถพัฒนาทีละขั้นอย่างแน่นอน!
มันยังมีดอกไม้สายฟ้าอยู่ที่ริมแม่น้ำอยู่อีกหรือไม่?
ตอนที่ 753
การฝึกฝนทักษะอัสนีบาตรเก้าทิวาไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อตอนเริ่มฝึกฝนทักษะนี้หลิงฮันใช้เวลาหลายวันในการเข้าใจถึงส่วนเล็กๆของมัน และเพื่อเสริมแกร่งให้กับกายาสายฟ้าเขาจำเป็นต้องดูดซับแก่นแท้สายฟ้าจำนวนมาก
การพัฒนาของเขาเป็นไปอย่างเชื่องช้า ตั้งแต่ที่เขาฝึกฝนมา เขายังบรรลุได้เพียงแต่ส่วนเล็กๆของทักษะ ถ้าหากเขาสามารถฝึกฝนทักษะนี้จนบรรลุระดับสูงได้ด้วยเวลาห้าสิบปีก็ถือว่ารวดเร็วมากแล้ว
ที่จริงการฝึกฝนทักษะกายาสายฟ้านั้นต้องเป็นจอมยุทธระดับทะลายมิติเป็นอย่างน้อย แต่ถึงแม้จะเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติ พวกเขาจะฝึกฝนมันถึงระดับสูงได้ด้วยเวลาห้าสิบปีรึเปล่า?
ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาทั่วไปที่อาจจะไม่สามารถฝึกฝนกายาสายฟ้าได้เลยด้วยซ้ำ
ผลประโยชน์อันน่าอัศจรรย์ที่เขาได้รับจากดอกไม้สายฟ้านั้น มีมากกว่าพลังงานสายฟ้าทั้งหมดในอดีตที่เขาเคยดูดซับมาเสียอีก
“ฮูหนิว เจ้าเป็นดาวนำโชคของข้าโดยแท้!” หลิงฮันกล่าวชม
ฮูหนิวมีความสุขและตอบกลับอย่างภาคภูมิใจ “หนิวคือดาวนำโชคของหลิงฮันอยู่แล้ว!”
ทั้งสองคนสำรวจต่อ แต่ที่ทำให้หลิงฮันผิดหวังคือแม้จะหาเป็นเวลานานเขาก็ไม่พบดอกไม้สายฟ้าเลย จนในที่เขาเมื่อผ่านไปอีกสักพักเขาถึงจะพบดอกไม้สายฟ้าดอกที่สอง
ฮูหนิวเดินเข้าไปใกล้และเด็ดดอกไม้ขึ้นมา
หลิงฮันไม่หลิงรีบดูดซับและเก็บมันเข้าไปในหอคอยทมิฬ ตอนนี้เขาต้องเพ่งความสนใจไปที่หุบเขาแห่งนี้ก่อน
แม่น้ำอัสนีแห่งนี้คืออะไรกันแน่?
หลังจากมองตรวจสอบอีกครั้ง เขาก็เห็นคลื่นกระแสน้ำอีกคลื่นหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่คลื่นจากแม่น้ำอัสนี
หลิงฮันตกตะลึง เขามองไปยังคลื่นน้ำอีกคลื่นหนึ่งและมองเห็นแม่น้ำอีกสาย แต่สิ่งที่ไหลเชี่ยวอยู่ในแม่น้ำนั้นไม่ใช่น้ำหรือสายฟ้า แต่เป็นเพลิง!
เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้ว่ามีเพลิงที่ไหลเชี่ยวเป็นกระแสน้ำอยู่จริงๆ
ถ้ามันเป็นลาวาเขาก็ยังคงพอเข้าใจได้ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น สิ่งที่ไหลเชี่ยวอยู่คือเพลิงบริสุทธิ์
หลิงฮันลองคิดในใจ ถ้าหากแม่น้ำอัสนีและแม่น้ำเพลิงไหลผสานกันมันจะเกิดอะไรขึ้น?
ในขณะที่เขากำลังคิดเช่นนั้น ในตอนนั้นเองแม่น้ำทั้งสองสายก็ไหลเข้าหากัน แต่สิ่งที่หลิงฮันไม่คาดคิดก็คือแม่น้ำทั้งสองสายไม่ได้ไหลผ่านกันแบบปกติ พวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ตอนนี้เหลือแม่น้ำอยู่เพียงหนึ่งสาย แม่น้ำหนึ่งสายนี้มีอัสนีและเปลวเพลิงไหลปพร้อมๆกัน ประกายสายฟ้าและคลื่นความร้อนได้ทำให้แม่น้ำเกิดแสงที่สว่างไสว
หลิงฮันเกิดความสงสัยมากขึ้นไปอีก ที่สุดปลายแม้น้ำมีอะไรอยู่กันแน่ ทำไมสิ่งที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ถึงเกิดขึ้นได้?
แต่การที่เขาจะเดินตามแม่น้ำไปก็ทำได้ยากลำบากมากกว่าเดิม
นั่นเพราะแม่น้ำในตอนนี้มีทั้งอัสนีและเปลวเพลิงกำลังพัวพันกันอยู่ คลื่นพลังที่เกิดจากแม่น้ำจึงน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก แม้จะยังไม่สัมผัสกับพวกมันโดยตรง แต่คลื่นอัสนีก็ทำให้ชั้นบรรยากาศโดยรอบปริแตก และเปลวเพลิงก็ได้เปลี่ยนชั้นบรรยากาศในหุบเขาให้ร้อนระบุเหมือนเตากับเตาอบมราสามารถแผดเผาได้ทุกสิ่ง
“หนิวไม่ชอบที่นี่เลย” ฮูหนิวเริ่มเปิดปากบ่น แม้นางไม่เกรงกลัวสายฟ้า แต่ดูเหมือนว่ากับเปลวเพลิงแล้วนางจะไม่สามารถต้านทานมันได้มากเท่าไหร่ ใบหน้าเล็กๆของนางเริ่มมีเหงื่อไหลออกมา
“ลองสำรวจต่ออีกสักหน่อย ถ้าเจ้าทนไม่ไหว พกวเราจะล่าถอยทันที!” หลิงฮันกล่าว ถึงแม้เขาจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ แต่เขาก็ไม่คิดจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เช่นกัน
เพราะอย่างไรระดับพลังบ่มเพาะของเขาตอนนี้ก็ยังต่ำเกินไป เขาสามารถรอให้ตนเองบรรลุระดับสวรรค์หรือไม่ก็ระดับทลายมิติก่อนแล้วค่อยกลับมาอีกครั้งก็ได้
แต่เมื่อพวกเขากำลังคิดจะล่าถอย พวกเราเดินมาถึงส่วนปลายทางแม่สายเพลิงอัสนีแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ตรงบริเวณล่างสุดของหุบเขา ด้านหน้าของพวกเขามีกำแพงภูเขากั้นอยู่ ซึ่งแม่น้ำอัสนีเพลิงได้ไหลออกมาจากรูถ้ำด้านล่างกำแพงภูเขานี้
เมื่อมาถึงจุดนี้ ทั้งอำนาจของอัสนีและเปลวเพลิงต่างลดลงไปมาก แม้มันจะยังรุนแรงอยู่แต่มันก็อยู่ในระดับพวกเขาทนไหว
หลิงฮันมองไปยังถ้ำด้วยความลังเล
ความลับของหุบเขาแห่งนี้อาจจะซ่อนอยู่ในถ้ำด้านหน้า แต่ข้างในนั้นก็อาจจะมีภัยอันตรายนับไม่ถ้วน
เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเข้าไปสำรวจดูสักหน่อย
เขาครอบครองยันต์เคลื่อนย้ายมิติและหอคอยทมิฬ ถ้าหากจนมุมเขาก็ยังมีพรศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่มพลังต่อสู้ของเขาได้ทัดเทียมกับจอมยุทธระดับทลายมิติ หากเป็นเช่นนั้นจะมีสิ่งมีชีวิตใดในทวีปฮงเทียนที่สามารถสังหารเขาได้?
ลุย!
เขาพาฮูหนิวเดินเข้าไปในถ้ำ ถ้าสถานการณ์ไม่สู้ดีเขาจะนำฮูหนิวเข้าไปในหอคอยทมิฬทันที
ทางเข้าถ้ำมืดเป็นอย่างมาก แม้เขาจะมองด้วยเนตรแห่งสัจธรรมเขาก็ยังเห็นแต่ความมืดมิด เขาแบมือออกมาเพื่อควบแน่นปราณก่อเกิดให้เป็นบอลเพลิง แม้เขาจะรู้สึกว่าบนมือของเขามีบอลเพลิงอยู่แต่เขากลับมองไม่เห็นบอลเพลิงในมือแม้แต่น้อย
เขาลองหันหลังไปและมองด้านนอกถ้ำ เขาสามารถมองเห็นแม่น้ำอัสนีที่กำลังไหลเชี่ยวได้อย่างชัดเจน
หลิงฮันอดคิดไม่ได้ว่าถ้ำแห่งนี้มันยังไงกันแน่!
ก่อนหน้านี้ที่พบเจอหมอกม่วง เขาก็ได้รับผลที่การมองเห็น แต่อย่างน้อยเขาก็ยังพอรับรู้รอบๆกายได้ แต่ตอนนี้ล่ะ? ไม่เพียงแต่เขามองไม่เห็น สัมผัสสวรรค์ของเขาก็ใช้งานไม่ได้ ถ้าเขาไม่จับมือฮูหนิวเอาไว้เขาก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่ามีคนอยู่ข้างๆเขา
ใช่แล้ว แม้แต่การได้ยินของเขาก็สูญเสียไป
แปลกประหลาดเกินไป!
ในใจหลิงฮันเกิดความกังวล แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังก้าวเดินหน้าต่อไป
ยิ่งแปลกประหลาดเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้นเท่านั้น
“หอคอยน้อย เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับที่แห่งนี้รึไม่?” เขาสื่อสารกับหอคอยทมิฬในความคิด
“ที่แห่งนี้… มีร่องรอยของพลังต้นกำเนิด!” หอคอยทมิฬแสดงตื่นเต้น “ถ้าข้าได้กลืนกินมัน ข้าจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้หนึ่งส่วนจากร้อยล้านส่วน!”
พรวด!
หลิงฮันอยากจะบ้าตาย สถานที่แห่งนี้อันตรายเกินกว่าจะจินตนาการได้ แถมแม่น้ำเปลวเพลิงอัสนีก็ยังปลดปล่อยอำนาจที่คุกคามได้แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติออกมา เมื่อคิดถึงพลังต้นกำเนิดที่ว่า มันกลับซ่อมแซมได้เพียงหนึ่งส่วนจากร้อยล้านส่วน? นี่เขาจะมีชีวิตอยู่ถึงวันที่หอคอยทมิฬกลับมาอยู่สภาพสมบูรณ์รึเปล่า?
“ระวังตัวด้วย!” หอคอยทมิฬเตือน “ถ้าที่แห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่ เจ้าจะถูกสังหารอย่างง่ายดาย”
เขาไม่รู้ว่าเขาเดินมานานเท่าไหร่แล้ว หลิงฮันไม่สามารถรับรู้อะไรรอบกายได้เลย เขาไม่รู้แม้กระทั้งว่าเขายังอยู่ในถ้ำรึเปล่า เขาสูญเสียสัมผัสทั้งห้าไปอย่างสิ้นเชิง
เขาไม่รู้แม้แต่ว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน แม้เขาจะพยายามคลำกำแพงรอบๆแต่เขาก็ไม่สามารถรู้สึกได้ว่าเขาสัมผัสกำแพงอยู่รึเปล่า
จนในที่สุดเขาก็ต้องเข้าไปยังหอคอยทมิฬ
ตอนที่ 754
หลิงฮันเข้ามาในหอคอยทมิฬไม่ใช่เพราะเขาอยากจะเข้า แต่เป็นเพราะฮูหนิว
เขารู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้แยกจากฮูหนิว มิฉะนั้นมันคงจะเป็นเลือกยากที่จะตามหาเด็กสาวตัวน้อยเจอในสภาพแวดล้อมแบบนี้
ตอนนี้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว
มันทำให้เขารู้สึกมีความสุขราวกับเกิดใหม่ เช่นเดียวกับจูเสวี่ยนเอ๋อที่พุ่งพรวดเข้ามาหา หลิงฮันเลยจูบริมฝีปากที่น่าหลงใหล และกลิ่นหอมที่เย่ายวนก็เข้าไปในจมูกของเขา ทำให้ร่างกายของจูเสวี่ยนเอ๋อเริ่มร้อนขึ้นและทำให้หลิงฮันสัมผัสได้ถึงความเป็นจริง จูเสวี่ยนเอ๋อไม่คิดว่าหลิงฮันจะรีบร้อนขนาดนั้น ช่วยไม่ได้ที่นางจะรู้สึกตกใจจนหน้าแดงและจ้องมองอีกฝ่าย แต่ในไม่ช้านางก็ถูกหลิงฮันจูบไปตามร่างกายของนางและเริ่มส่งเสียงครางออกมาเล็กน้อย
นางกำลังมีอารมณ์
“หนิวโกรธแล้วนะ!” ฮูหนิวรู้สึกโกรธมากและจ้องมองไปที่จูเสวี่ยนเอ๋อราวกับจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคามือ
หลิงฮันหัวเราะ เขาเดินไปหาฮูหนิวและวางมือลงบนหัวแล้วพูดว่า “เด็กดี”
ฮูหนิวพึมพำกับตัวเองและไม่สามารถระบายความโกรธออกมาได้
หลิงฮันเลยนำขาหมูออกมาให้ฮูหนิว ตอนแรกเด็กสาวตัวน้อยยังคงรู้สึกโกรธ แต่ก็ไม่อาจต้านทานกลิ่นหอมของมันได้ และในไม่ช้าก็รับมันมาจากหลิงฮัน แล้วใบหน้าของเด็กสาวตัวน้อยก็กลับมาร่าเริงทันที
ตราบใดที่เขามีอาหาร ผลลัพธ์ก็จะลงเอยเช่นนี้
“พี่ฮัน!” จูเสวี่ยนเอ๋อกระซิบอยู่ข้างหูของหลิงฮันด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและเย้ายวน
“เจ้าชู้! เจ้าชู้!” เจ้ากระต่ายนั่งพึมพัมอยู่ด้านข้าง
หลังจากนั้นหลิงฮันก็พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในถ้ำก่อนหน้านี้ ทำให้จูเสวี่ยนเอ๋อรู้สึกหวาดหวั่น แต่เจ้ากระต่ายก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ทำให้สูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้าเป็นอำนาจพลังที่เด็ดขาดยิ่งนัก! เจ้ากำลังเผชิญหน้ากับอำนาจพลังดังกล่าว ถ้าถูกฆ่าตายเจ้าก็คงไม่รู้สึกตัว”
เมื่อสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าการโจมตีมาจากทิศทางไหน? แล้วควรจะโจมตีไปที่ไหน?
“แต่หนิวมองเห็น” ฮูหนิวเลียขาหมู ปากของนางเขลอะไปด้วยน้ำมันขณะที่โบกมือเล็กๆไปมาพูดกับหลิงฮํน
“เจ้ามองเห็น?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ
“อืม!” ฮูหนิวพยักหน้า
แม้จะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ความสามารถของฮูหนิวนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก แล้วนางจะทำไม่ได้ได้อย่างไร?
“ถ้างั้นข้าคงต้องปล่อยให้หนิวเป็นคนนำทางซะแล้ว” หลิงฮันลูบหัวเด็กสาวตัวน้อย
“ไว้ใจหนิวได้เลย!” ฮูหนิวโบกขาหมูไปมา
พวกเขาทั้งสองคนออกมาจากหอคอยทมิฬ ฮูหนิวจับมือหลิงฮันและทำให้หลิงฮันรู้สึกผ่อนคลายลงมาก แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกว่าจับมือของฮูหนิวอยู่ แต่เขาเชื่อในตัวฮูหนิวและปล่อยให้นางเป็นคนนำทาง
ในความเป็นจริง เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเคลื่อนไหวอยู่เลยด้วยซ้ำ เขาสูญเสียทิศทางและเวลาไปอย่างสมบูรณ์และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เห็นแสงสลัวอยู่ด้านหน้า
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะเอื้อมมือออกไป เขามองเห็นแสงสว่างแล้ว!
หลิงฮันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว
แต่แสงสลัวด้านหน้ามันไม่ใช่ทางเข้า ฮูหนิวไม่พาเขาไป แต่พาเขาไปที่บ้านหินที่เปล่งแสงสีขาวอันเลือนลางออกมา
หลิงฮันเดินเข้าไปและมองไปรอบๆ บ้านหินดูธรรมดามาก แต่ถ้าให้พูดตามตรงมันดูเหมือนถ้ำมากกว่า แล้วทำไมถึงเรียกว่าบ้านหิน? มันเป็นเพราะมีรูปปั้นหินอยู่ตรงกลาง
นี่ไม่ใช่รูปปั้นธรรมดาอย่างแน่นอน มันเป็นรูปปั้นที่ดูเหมือนจริงมากและเก็บรายละเอียดได้อย่างแนบเนียน
รูปปั้นหินเป็นรูปลักษณ์ของชายชรา แม้ว่าจะเป็นรูปปั้นหิน แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่น่าเกรงขามของเขา
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะแสดงสีหน้าผิดหวังออกมา ต้นกำเนิดของแม่น้ำสองสายที่แปลกประหลาด ถ้ำที่ทำให้ผู้คนสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้า ปลายทางคือบ้านหินที่ดูธรรมดานี่อย่างนั้นหรือ?
แม้ว่าบ้านหินนี่จะถูกสร้างขึ้นตามธรรมชาติโดยที่ไม่มีร่องรอยของมนุษย์ ยกเว้นรูปปั้นหิน
แปลก แปลกมาก ใครเป็นคนวางรูปปั้นหินในสถานที่แบบนี้กัน?
“ทำไมเจ้าถึงแสดงสีหน้าผิดหวังเมื่อได้เห็นข้าผู้นี้?” ทันใดนั้นได้มีเสียงดังขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของหลิงฮัน
หลิงฮันรู้สึกตกใจจนเส้นผมตั้งตรงและหนังศีรษะด้านชา ผี? เขาไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว!
“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน เจ้าหนู เจ้ากำลังมองไปที่ไหนกัน?” เสียงดังขึ้นอีกครั้ง
“โผล่หัวของเจ้าออกมาซะ!” หลิงฮันกล่าวขณะจับมือฮูหนิวและพร้อมที่จะเข้าไปในหอคอยทมิฬทุกเมื่อ
“ข้าก็อยู่ตรงหน้าเจ้ามิใช่หรือ? นี่ข้าควรที่จะโยนพวกเจ้าออกไปหรือไม่?” เสียงนั่นกล่าวอีกครั้ง
ด้านหน้า?
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะจ้องมองไปที่รูปปั้นที่อยู่ด้านหน้าและชี้นิ้วไปที่รูปปั้น “นี่คือท่าน?”
“ข้าไม่ชอบถูกชี้นิ้วใส่ ส่วนเจ้าจะเชื่อหรือไม่นั้น ข้าจำเป็นต้องรู้ด้วยหรือไม่?” เสียงนั่นกล่าวอีกครั้ง
หลิงฮันรีบดึงแขนกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาเคยเห็นเรื่องแปลกประหลาดมาเยอะ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รูปปั้นหินจะมีชีวิตเหมือนกับอสูรศิลา
แต่นี่ไม่ใช่จิตวิญญาณห้าธาตุ หลิงฮันสามารถสรุปได้แค่ว่านี่เป็นรูปปั้นหินธรรมดา แต่ด้วยวิธีการบางอย่างทำให้มันปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ออกมาได้
หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว หลิงฮันทำจิตใจให้สงบและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมผู้อาวุโสไม่ออกมาจากรูปปั้นหินล่ะ? พวกเราจะได้พูดคุยกันซึ่งหน้า”
“ถ้าข้าออกไปได้ ข้าจะพูดกับเจ้าอยู่แบบนี้รึ?” น้ำเสียงของเขาดูโกรธเล็กน้อย
“หรือว่าท่านจะติดอยู่ในนั้น?” หลิงฮันถาม
“เจ้าหนู หากเจ้าสามารถมาที่นี่ได้ถือว่าพวกเรามีชะตาร่วมกัน เอาแบบนี้เป็นไง ถ้าเจ้าหาสมบัติบางอย่างเจอให้กับข้า ข้าผู้นี้จะมอบทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่เจ้า เจ้าคิดว่าไง?” เสียงนั่นกล่าวล่อลวง
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะส่งเสียงหัวเราะออกมาและพูดว่า “ผู้อาวุโสที่ท่านพูดมันเหมือนกับจับเสือมือเปล่า เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำข้าจะเชื่อท่านได้อย่างไร?”
“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าไม่รู้หรอกว่ามีผู้คนมากเพียงใดที่แย่งกันเลียแข้งเลียขาข้าผู้นี้ แต่ข้าจะมองข้ามสิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่ ตอนนี้ข้ายังคงเสนอทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเป็นการแลกเปลี่ยนกับเจ้า หรือเจ้าคิดว่ามันยังไม่เพียงพอ?” เสียงนั่นกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชาและโศกเศร้า และมือข้างหนึ่งของรูปปั้นกำลังปล่อยประกายสายฟ้า
มันน่าสะพรึงกลัวมาก พลังของสายฟ้านั่นอย่างน้อยอาจเทียบได้กับระดับสวรรค์ขั้นสูงสุด ซึ่งเกิดขีดจำกัดของหลิงฮัน
หลิงฮันคิดอยู่ในใจ และสรุปได้ว่าแม่น้ำสองสายที่แปลกประหลาดนั้นอย่างน้อยแม่น้ำอัสนีจะต้องมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับรูปปั้นหินนี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น