Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 695-698

ตอนที่ 695

 

“น้องเขยเจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มาก ฉือชิ่วเหรินเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เจ้าอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าเจ้าไม่ไปไหนสักสองสามวัน” หลี่เฟิงหยู่ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าหลิงฮัน และปากพล่อยของเขาทำให้น้องสาวของเขา และฮูหนิวกับจูเสวี่ยนเอ๋อรู้สึกไม่พอใจ


หลิงฮันโบกมือปัดและพูดว่า “อย่างแรกเลยข้าไม่ใช่น้องเขยของเจ้า อย่างที่สอง ทำไมข้าต้องกลัวฉือชิ่วเหรินด้วย? เจ้าไม่มีเชื่อมั่นในตัวข้าเลยหรือ?”


“ไม่ใช่ข้าไม่เชื่อมั่นในตัวเจ้า แต่ถ้าเสือสองตัวต่อสู้ต่อจะต้องมีตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ข้าก็เลยเป็นห่วงน้องเขยของข้าก็แค่นั้น” หลี่เฟิงหยู่กล่าว


หลิงฮันถอนหายใจและพูดว่า “หรือว่าเจ้ากลัวตายว่าจะโดนหางเลขไปด้วย?”


“น้องเขยนี่เจ้าจะหาว่าข้าเกรงกลัวต่อความตายอย่างนั้นรึ?” หลี่เฟิงหยู่รีบพูดออกมาว่า “เมื่อข้าเผชิญหน้ากับหยวนเฉินเหอไม่ใช่ว่าข้าเป็นคนแรกหรอกหรือที่กระโจนออกไป?”


“ก็ได้ ก็ได้ แต่ลูกผู้ชายจะไม่พูดโอ้อวดความสำเร็จในอดีต ยังไงเจ้าก็มีความกล้าหาญอยู่บ้าง” หลิงฮันยิ้ม “ข้าอยากจะเห็นความแข็งแกร่งของฉือชิ่วเหรินซะแล้วสิ” เขาไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน และหวังว่าฉือชิ่วเหรินจะสามารถทำให้เขารู้สึกท้าทายได้


ช่วยไม่ได้ที่หลี่เฟิงหยู่จะรู้สึกหดหู่ ตอนนี้เขาไม่อยากให้หลิงฮันมีความบาดหมางกับฉือชิ่วเหริน แต่มันกลับกลายเป็นการเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟได้อย่างไร?


“ตงหลินเอ๋อและย่าวหุยเยว่เองก็ไม่สามารถประมาทได้เช่นกัน” จูเสวี่ยนเอ๋อกล่าว “ข้าไตร่ถามมาหลายวันแล้ว ตงหลินเอ๋อเป็นรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดในรุ่น แต่นางเป็นคนที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนักจึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก และมีครั้งหนึ่งนางสังหารจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณทุกคนที่ขัดขวางการฝึกฝนของนาง”


“ฆ่าจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ?” หลิงฮันกล่าวราวกับว่าไม่มีอะไรแปลก


“ใช่แล้ว ในตอนนั้นนางเป็นแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเท่านั้น” จูเสวี่ยนเอ๋อกล่าว


นอกจากนี้นางยังเป็นอัจฉริยะที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้เช่นเดียวกัน


“แล้วย่าวหุยเย่วดูเหมือนไม่มีพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงแบบนั้นเลยหรือ?” หลิงฮันถาม


“ไม่เชิง แต่อัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของนิกายดาบสวรรค์นั้นไม่ใช่ย่าวหุยเยว่ แต่เป็นคนที่แข็งแกร่งเหมือนกับฉือชิ่วเหริน และเขาแทบไม่ย่างก้าวออกมาจากนิกาย”  จูเสวี่ยนเอ๋อกล่าว


แม้นางจะไม่ได้มีพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวแบบฮูหนิว แต่นางก็เป็นคนที่มีเสน่ห์อย่างมากคนหนึ่งและคอยสอดส่องหาข้อมูลเพื่อสนับสนุนหลิงฮัน


หลิงฮันรู้สึกสนใจและพูดว่า “เขาชื่ออะไร?”


“จางโม๋หรือที่เรียกกันว่าจักรพรรดิดาบน้อย” จูเสวี่ยนเอ๋อกล่าว


จักรพรรดิดาบน้อย?


หลิงฮันรู้สึกตกใจเล็กน้อย อีกฝ่ายถูกเรียกว่าจักรพรรดิดาบน้อยถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เมื่อหมื่นปีก่อนมีจักรพรรดิดาบ เขาเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่น และสามารถสร้างแก่นแท้แห่งดาบได้ขณะที่เป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ ตามคำพูดของเฟิงโป๋วหยุน แก่นแท้แห่งดาบนั้นมีเพียงแค่จอมยุทธระดับทลายมิติเท่านั้นที่สามารถสร้างขึ้นได้


แน่นอนว่ามีบางคนที่ได้รับการยกเว้นอย่างเช่นหลิงฮัน และเห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิดาบก็ได้รับการยกเว้น เขาสร้างแก่นแท้แห่งดาบได้ทั้งที่เป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ นี่แสดงให้เห็นว่าพรสวรรค์ของเขานั้นน่าทึ่งขนาดไหน


ศิษย์ของนิกายดาบสวรรค์แต่ละล้วนแต่มีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา ย่าวหุยเยว่เป็นที่รู้จักในนามนักดาบอันดับสองของโลก และจางโม๋เป็นจักรพรรดิดาบน้อย แม้เขาจะไม่เคยเห็นจางโม๋ แต่แค่พรสวรรค์ของย่าวหุยเยว่นั้นก็น่าทึ่งแล้ว ถ้าจางโม๋มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นกว่าย่าวหุยเยว่ เขาจะต้องเป็นศัตรูที่น่าเกรงขาม


“นิกายดาบสวรรค์ นิกายกระบี่ไร้เทียมทาน และนิกายนกอมตะเมฆา ล้วนแต่มีสุดยอดอัจฉริยะที่น่าทึ่ง และข้าเชื่อว่านิกายมังกรปฐพีและนิกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องมีเหมือนกัน การเก็บเกี่ยวทุกหนึ่งหมื่นปีใกล้จะมาถึงแล้ว และจะมีอัจฉริยะอีกหลายคนที่จะปรากฏตัวออกมา”  หลิงฮันคิด


“นิกายมังกรปฐพี อัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดคือเจี่ยหมิง ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่กระหายเลือดมาก” จูเสวี่ยนเอ๋อกล่าว


หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ข้าเคยได้ยินชื่อของคนคนนี้มาแล้ว” ในตอนที่ผู้คนได้ยินข่าวของเขา ทุกคนต่างก็พูดถึงมัน และรู้สึกหวาดกลัวเขามาก


“นิกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์มีอัจฉริยะอยู่คนหนึ่งที่ถูกเรียกว่าบุตรแห่งสายฟ้า ชื่อที่แท้จริงของเขายังไม่มีใครรู้ แต่มีการกล่าวกันว่าพรสวรรค์ของเขาน่าทึ่งกว่าหลางหยาเทียนเสียอีก” จูเสวี่ยนเอ๋อกล่าวอีกครั้ง


หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “เมื่อเทียบกับรากฐานของห้านิกายโบราณแล้ว นี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย!” ในสมัยที่สภาพแวดล้อมของจอมยุทธยังเสื่อมโสม ห้านิกายโบราณยังคงสร้างจอมยุทธระดับทลายมิติขึ้นมาได้เลย


รากฐานที่ฝังลึกมายาวนานบวกกับวารีกาลเวลา เบื้องลึกของห้านิกายโบราณเกินกว่าที่จะจินตนาการได้


“หนิวไม่กลัวหรอก หนิวสามารถโค่นล้มคนพวกนั้นได้ทุกคน!” ฮูหนิวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน


ทุกคนส่งเสียงหัวเราะออกมา แต่หลิงฮันนั้นพยักหน้าเมื่อฮูหนิวบรรลุระดับทลายมิติ มีความเป็นไปได้ว่าด้วยพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวของนางจะกวาดล้างจอมยุทธได้ทั้งหมด


สิบวันต่อมา พวกเขาก็มาถึงเมืองเพียวเหมี่ยวที่จักรวรรดิจันทราม่วงเผชิญหน้ากับห้านิกายโบราณ และทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันหลายต่อหลายครั้งอยู่ด้านนอกเมือง แต่ทว่ากองทัพของจักรวรรดิจันทราม่วงนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทำให้กองทัพของจักรวรรดิจันทราม่วงเป็นฝ่ายได้เปรียบ


แต่อย่างไรก็ตามทุกวันนี้เมืองเพียวเหมี่ยวยังคงเป็นของห้านิกายโบราณ ในขณะที่กองทัพของจักรวรรดิจันทราม่วงประจำการอยู่ด้านนอกเมือง กองทัพนี้เป็นของราชาแห่งเปลวเพลิง แต่ทว่าราชาแห่งเปลวเพลิงและนายพลระดับสูงอีกหลายคนนั้นได้เข้าไปในโบราณสถานแล้ว ซึ่งห้านิกายโบราณเองก็ส่งจอมยุทธหลายคนเข้าไปเช่นกัน


หลิงฮันกำลังยืนอยู่บนหัวเมืองและเห็นว่าโบราณสถานอยู่ในทะเลสาบขนาดใหญ่ หรือครั้งหนึ่งมันอาจเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่แล้วก็เป็นได้ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นหลุมลึกที่ไม่อาจมองเห็นก้นหลุด


กองทัพของจักรวรรดิจันทราม่วงประจำการอยู่ห่างจากโบราณสถานสิบไมล์ แม้ว่าราชาแห่งเปลวเพลิงจะเข้าไปแล้ว แต่กองทัพของเขาก็ยังคงเรียบร้อยและเป็นระเบียบไม่ดูยุ่งเหยิงเลยแม้แต่น้อย


ภายในเมืองนั้นมีจอมยุทธอยู่มากมายหลายคนและตอนนี้พวกเขากำลังรวบกลุ่มกันเพื่อค้นหาคนที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกันเพื่อเข้าไปในโบราณสถานพร้อมกัน


แต่หลิงฮันนั้นไม่จำเป็นต้องจัดตั้งกลุ่ม เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงโบราณสถาน พวกเขาก็เห็นคนกลุ่มอื่นเพิ่งเดินทางมาถึงที่นี่


“พี่ชายหลิง!” เหวินเหรินเชียนเชียนเข้าไปทักทายหลิงฮัน


“ธิดาเซียนเซียน ข้าคือหลี่เฟิงหยู่เอง ในตอนที่อยู่ในสำนักสวรรค์ข้าพูดคุยกับเจ้าสามสิบเจ็ดประโยค แต่เจ้ากลับตอบกลับข้าเพียงแค่สามประโยค” หลี่เฟิงหยู่รีบเดินเข้ามาและพูดแทรกทันที


นางไม่สนใจสิ่งที่หลี่เฟิงหยู่พูดเลยแม้แต่น้อย แล้วพูดว่า “พี่ชายหลิง พวกเราจะเข้าไปสำรวจโบราณสถานด้วยกันไหม?”


“ตกลง ตกลง!” หลี่เฟิงหยู่รีบพูดทันทีแล้วหันไปมองหลิงฮันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง ความน่าสงสาร และอ้อนวอน 

 

 


ตอนที่ 696

 

หลิงฮันอยากจะส่ายหัวเมื่อเห็นความกระตือรือร้นของหลี่เฟิงหยู่ แต่เขาก็พยักหน้าและยิ้มว่า “ก็ดีเหมือนกัน” อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนเพิ่มมาอีกคนหนึ่งก็ไม่เห็นจะเป็นไร


ช่วยไม่ได้ที่เหวินเหรินเชียนเชียนจะยิ้ม นางเองก็เป็นอัจฉริยะเหมือนกัน และดูเหมือนว่านางไม่ได้ต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากหลิงฮัน หรืออยากอยู่กับหลิงฮํน แต่นางแค่ต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นและเชื่อว่าถ้าพวกเขาร่วมมือกัน อย่างน้อยก็ไม่มีใครในหมู่รุ่นเยาว์สามารถต่อต้านพวกเขาได้


กลุ่มของพวกเขาทั้งสองกำลังจะบินลงไปในหลุม แต่หลิงฮันรู้สึกได้ถึงบางอย่างและจ้องมองไปในระยะไกล


มีชายคนหนึ่งกำลังเคลื่อนที่เข้ามาหาอย่างรวดเร็วอย่างกับสัตว์อสูรโบราณ เมื่อใดที่เท้าของมันเหยียบย่ำกับพื้นจะทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนและแตกร้าวเหมือนกับใยแมงมุม


ใบหน้าของน่าหลงใหลของเหวินเหรินเชียนเชียนเริ่มมืดมนขึ้นมาทันที และผู้คนที่อยู่รอบตัวนางสีหน้ากลายเป็นซีดขาวและเผลอตัวสั่นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ


“จ…เจี่ยหมิง!” ใครบางคนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน


ปัง!


เมื่อเขาพูดประโยคนี้จบ เจี่ยหมิงก็กระโจนพุ่งเข้ามาแล้วและปล่อยหมัดใส่ชายคนนั้น มันเกิดขึ้นเร็วมากแม้แต่หลิงฮันกับเหวินเหรินเชียนเชียนยังหยุดไม่ทัน ทำให้ชายคนนั้นถูกซัดปลิวพร้อมกับเลือดที่สาดกระจายออกมาและเขาก็ตายในที่สุด


ในระยะไกลมีชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ เขาเป็นชายหนุ่มที่มีอายุประมาณยี่สิบเอ็ดหรือยี่สิบสอง เขาเป็นคนตัวสูงและเปื่อยท่อนบน ส่วนท่อนล่างถูกปิดด้วยขนสัตว์บางอย่าง และเท้าไม่ได้สวมใส่อะไร และมีผมดำยาว


ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อราวกับหิน ดวงตาทั้งสองข้างของเขาดูกระหายเลือดเหมือนกับสัตว์อสูร ถ้าบวกกับร่างกายที่สูงกว่าคนทั่วไปเข้าไปด้วยจะทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงแรงกดขี่


“เจ้ากล้าดียังไงถึงพูดชื่อของข้า!” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเย็นชาพร้อมกับจิตสังหาร


เขาคือเจี่ยหมิงเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดของนิกายมังกรปฐพี


“เจี่ยหมิง เจ้าทำเกินไปแล้ว!” เหวินเหรินเชียนเชียนด่าตำหนิ คนของนางถูกฆ่า นางต้องร้องขอความยุติธรรมไม่เช่นนั้นนางจะมีคุณสมบัติเป็นผู้นำได้อย่างไร?


เจี่ยหมิงหันไปมองเหวินเหรินเชียนเชียน และแสยะยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่เหมือนกับสัตว์อสูรและพูดว่า “หรือพวกเจ้าอยากจะเป็นเหมือนมันด้วย?” เขาหันไปมองคนอื่นและใบหน้าของเขาแสดงสีหน้าที่กระหายเลือดออกมาอีกครั้ง “เศษขยะอย่างพวกเจ้ามาทำอะไรกันที่นี่? ออกไปให้พ้นที่นี่ซะ!”


“เจี่ยหมิง เจ้าฆ่าคนของข้า!” เหวินเหรินเชียนเชียนพูดเสียงดังขึ้น


“ก็แค่ขยะ ข้าฆ่าไปแล้วใครจะทำไม? และตอนนี้ถ้าข้ายังเห็นพวกเจ้าอีกข้าจะสังหารพวกเจ้า”  เจี่ยหมิงยิ้ม แต่เขาเกิดมาพร้อมกับหน้าตาขึงขัง ทำให้ฟังดูเหมือนไม่ได้เป็นเรื่องตลก


เมื่อเห็นคนอื่นยังคงยื่นนิ่ง ใบหน้าของเจี่ยหมิงดูกระหายเลือดขึ้นมาอีกครั้งและพูดว่า “ถ้าภายในสามลมหายใจยังมีใครปรากฏอยู่ในสายตาของข้า ข้าจะฆ่าคนคนนั้นซะ!”


แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกว่าเจี่ยหมิงเป็นคนที่เอาแต่ใจ แต่สิ่งที่น่าหดหู่คือความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก และเขายังเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดของนิกายมังกรปฐพี แม้ว่าจะมีคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา แต่คนผู้นั้นจะกล้าที่จะฆ่าเขาหรือไม่? เขาไม่กลัวว่าจะถูกนิกายมังกรปฐพีตามล้างแค้นเลยหรือ?


เจี่ยหมิงสามารถฆ่าคนอื่นได้โดยที่ไม่ต้องรับโทษ แต่พวกเขาไม่อาจทำแบบนั้นได้ ตั้งแต่เกิดมาพวกเขาก็เป็นฝ่ายสูญเสียแล้ว ไม่ต้องพูดถึงพลังต่อสู้ที่ห่างชั้นเลย


พวกเขาเริ่มล่าถอยและตัดสินใจที่จะถอยห่างออกไปจากเหวินเหรินเชียนเชียน


แม้พวกเขาจะเป็นอัจฉริยะเหมือนกัน แต่ตอนนี้เจี่ยหมิงกำลังยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขา ซึ่งเขาทำให้หัวใจของพวกเขาต้องสั่นคลอน และไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้เลยแม้แต่น้อย


แม้สาวงามจะเป็นสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ แต่ก็ไม่อาจเทียบกับชีวิตของตัวเองได้ นอกจากนี้ เหวินเหรินเชียนเชียนไม่ได้เป็นอะไรกับพวกเขา มันคงจะโง่เขลาเกินไปถ้าจะตายแบบนั้น


“เจี่ยหมิง!” เหวินเหรินเชียนเชียนโกรธจนมือสั่นและไม่รู้สึกหวาดกลัว


มีเพียงแค่กลุ่มของหลิงฮันไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ขยับไปไหน


จูเสวี่ยนเอ๋อและคนอื่นถือว่าหลิงฮันเป็นผู้นำ ถ้าหลิงฮันไม่ถอย พวกเขาก็จะไม่ถอย – แม้ว่าหลี่เฟิงหยู่อยากจะหนี แต่เขาถูกสัตว์อสูรของเจี่ยหมิงจ้องมองอยู่ ทำให้แผ่นหลังถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเหงื่ออันหนาวเย็นไปเรียบร้อยแล้ว และไม่กล้าที่จะขยับไปไหน


ดวงตาของเจี่ยหมิงกวาดไปมองที่หลิงฮัน เมื่อเขาเห็นจูเสวี่ยนเอ๋อ ช่วยไม่ได้ที่เขาจะหันไปมองหลิงฮันอีกครั้ง เขาชี้นิ้วใส่และพูดว่า “ทุกคนออกไปให้หมด ยกเว้นนางผู้นี้!”


เขาจ้องมองไปที่จูเสวี่ยนเอ๋อและไม่ปกปิดความกระหายที่อยากจะได้นางมาครอบครอง


เขาเป็นเหมือนสิงโตบนทุ่งหญ้า สิงโตเพศเมียทุกตัวคือสมบัติส่วนตัวของเขา


หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ไปให้พ้น ข้าชักจะตัดสินใจลำบากซะแล้วสิ ฮูหนิวเจ้าจะทำตามที่เขาพูดหรือไม่?”


“ไม่” ฮูหนิวโบกมือเล็กๆของนาง


หลิงฮันมองไปที่เจี่ยหมิงอีกครั้งและพูดว่า “เจ้าเห็นหรือยังว่าไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเชื่อฟังเจ้า ทำไมเจ้าไม่แสดงความแข็งแกร่งออกมาล่ะ?”


เจี่ยหมิงหยุดมองจูเสวี่ยนเอ๋อและหันไปมองหลิงฮัน หลังจากนั้นชั่วครู่ “เจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก!”


“นี่ข้าควรที่จะดีใจหรือไม่?” หลิงฮันหัวเราะ


“ยังไงก็ตาม ไม่มีใครที่อายุเทียบเท่าข้าสามารถเป็นคู่ต่อสู้ให้กับข้าได้!” เจี่ยหมิงกล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ เขามั่นใจตัวเองมาก “ข้าจะยอมให้เจ้าเป็นผู้ติดตามของข้าก็ได้ และจะพาเจ้าเห็นโลกที่กว้างขึ้น”


หลิงฮันแคะหูและพูดว่า “ข้าคิดว่าข้าบ้าแล้ว แต่ยังมีคนที่บ้ากว่าข้าอีก มันทำให้ข้ารู้สึกโกรธมาก ฮูหนิว มีคนทำให้ข้าไม่สบอารมณ์ ข้าควรทำยังไงดี?”


“ทุบตีมัน และทรมานมันเลย!” ฮูหนิวแสดงสีหน้าดุเดือดเหมือนเสือน้อย


หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ก็ได้ ข้าจะทำตามที่เจ้าพูด!”


ใบหน้าของเจี่ยหมิงเริ่มเย็นชาและน่ากลัว เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เจ้าปฏิเสธความเมตตาของข้ามันเทียบได้กับการฆ่าตัวตาย”


“น้อยเขย ข้าขอหลบไปอยู่ด้านข้างก่อนได้ไหม? ดูเหมือนข้าจะมีเรื่องเก่าให้สะสางอยู่และที่นี่มันหายใจยากลำบากเหลือเกิน” หลี่เฟิงหยู่พูดกระซิบ


“ไปเลย!” ฮูหนิวเตะหลี่เฟิงหยู่กระเด็นออกไป


ต่อมาหลิงฮันพูดแหนบคำพูดของเจี่ยหมิงว่า “คนอายุใกล้เคียงกับข้าไม่มีใครอยู่ในสายตาข้าเลยแม้แต่คนเดียวเหมือนกัน”


“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เจี่ยหมิงหัวเราะ และกำหมัดแน่นจนได้ยินเสียงกระดูก มันดังคล้ายกับเสียงฟ้าฝ่า ซึ่งทำให้จูเสวี่ยนเอ๋อและหลี่จื่อเซียนใบหน้ากลายเป็นซีดขาว


เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งจริงๆ

 

 

 


ตอนที่ 697

 

“แคร๊ก!” หลิงฮันหักนิ้วมือเหมือนกัน เสียงที่ดังออกมาราวกับฟ้าฝ่าทำให้เจี่ยหลิงรู้สึกแปลกใจ


“เจ้าบ่มเพาะกายาด้วย?” เจี่ยหมิงถามหลิงฮัน และไม่รอคำตอบของหลิงฮัน แล้วพูดถึงตัวเองว่า “ข้าเองก็บ่มเพาะกายา ข้าจะบอกอะไรเจ้าไว้อย่าง นิกายมังกรปฐพีนั้นล้วนแต่ฝึกฝนบ่มเพาะกายา ซึ่งทำให้นิกายของข้ามีความแตกต่างจากนิกายอื่น”


เขาหยุดชะงักและพูดต่อว่า “ข้าบอกเพราะมันเหมือนกับว่าความมั่นใจของเจ้าจะมาจากการที่เจ้าบ่มเพาะกายาเหมือนกัน ซึ่งข้าบ่มเพาะกายามังกรปฐพี และหลังจากที่ฝึกฝนสำเร็จ ข้าจะมีพลังของมังกรที่สามารถบดขยี้ได้ทุกอย่าง!’


หลิงฮันอดที่จะหัวเราะออกมาและพูดว่า “โลกนั้นกว้างใหญ่ และสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดคือมังกรที่แท้จริง และวิหคเพลิงที่แท้จริง แล้วมังกรปฐพีของเจ้าจะเทียบสิ่งมีชีวิตพวกนั้นได้อย่างไร?” นอกจากนี้ เขาฝึกฝนทักษะกายาเก้ามังกรทรราช ไม่ใช่ว่าเขามีความแข็งแกร่งเท่ามังกรที่แท้จริงเก้าตัวเลยหรือ?


เจี่ยหมิงแสยะยิ้มและพูดว่า “ทุกคนบนโลกคิดว่ามังกรที่แท้จริงอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามังกรปฐพีนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ามังกรที่แท้จริงเลย!”


หลิงฮันโบกมือและพูดว่า “นี่เจ้ากำลังเถียงกับข้าเรื่องการจัดอันดับสัตว์อสูรระดับพระเจ้าอยู่งั้นรึ?”


เจี่ยหมิงยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันสีขาวและฟันเขี้ยวที่คล้ายกับเขี้ยวของสัตว์อสูร มันดูน่ากลัวมาก เขาพูดว่า “แน่นอนว่าไม่ ข้าแค่อยากให้เจ้ารับรู้ไว้ว่าความแข็งแกร่งของมังกรปฐพีนั้นเป็นเช่นไร! และข้ามีสายเลือดมังกรที่แข็งแกร่ง ในทุกๆวันสายเลือดบรรพบุรุษของข้าจะแข็งแกร่งและทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ”


“ไม่ใช่ว่ามังกรปฐพีคือไส้เดือนดินหรอกหรือ?” ฮูหนิวพูดและปรบมือหัวเราะ


หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังฟังไส้เดือนดินพูดจาโอ้อวดอยู่ที่อยากไต่ปให้ถึงสวรรค์อยู่”


ทุกคนยิ้มเยาะ ในขณะที่ฮูหนิวหัวเราะเสียงดัง


เมื่อได้ยินแบบนั้น เจี่ยหมิงยื่นมือขวาออกไป และกลิ่นอายกระหายเลือดปะทุออกมาจากร่างกายของเขา ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา


หลิงฮันรู้สึกตกใจเล็กน้อย


ในระดับของทักษะบ่มเพาะกายา ทักษะกายาเก้ามังกรทรราชย์แน่นอนว่าเหนือกว่ามังกรปฐพี แต่มันมีความแตกต่างกันอย่างมากก่อนที่จะฝึกฝนไปถึงจุดสูงสุด


เหมือนกับขีดจำกัดของคนคนหนึ่งคือหนึ่งร้อย ในขณะที่อีกคนคือหนึ่งพัน แต่ก่อนที่จะไปถึงหนึ่งร้อย มังกรปฐพีจะไม่อ่อนแอไปกว่าทักษะเก้ามังกรทรราชย์ ความแตกต่างคือทักษะเก้ามังกรทรราชย์สามารถทำให้หลิงฮันไปถึงหนึ่งร้อยได้รวดเร็วกว่า


พวกเขาทั้งสองคนต่างเป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ ซึ่งยังห่างไกลกว่าจะไปถึงจุดสูงสุด ดังนั้นหลิงฮันต้องไม่ประมาทอีกฝ่าย


หลิงฮันเดินออกมาจากกลุ่มคน เขาบิดตัวไปมาและหักนิ้วมือนิ้วเท้า แคร๊ก แคร๊ก กระดูกของเขาส่งเสียงดังออกมา และโลหิตเริ่มไหลเวียนเร็วขึ้น


ทักษะบ่มเพาะกายานั้นแตกต่างจากปราณก่อเกิด ก่อนที่จะใช้พลังกำลังที่มหาศาลได้จะต้อง “อุ่นเครื่อง” เสียก่อน จากนั้นพวกเขาก็จะสามารถระเบิดพลังได้อย่างเต็มที่


“เข้ามา!” หลิงฮันพูดเสียงเบาๆ


ปัง เจี่ยหมิงกระโจนไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่น่าทึ่งและหมัดของเขาพุ่งตรงเข้าหาหลิงฮัน


พลังกำลังระเบิดออกมา ทำให้ความเร็วของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าทักษะอสนีบาตเก้าทิวา แน่นอนว่าความเร็วที่เกิดขึ้นเป็นเพราะแรงระเบิด ด้วยวิธีนี้ไม่มีทางที่จะรักษาความเร็วให้เป็นแบบนี้ต่อไปได้ มิฉะนั้น กระดูกและกล้ามเนื้อของเจี่ยหมิงจะแตกหักและฉีกขาดเพราะเขาไม่อาจแบกรับภาระนั้นได้


แต่เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นกับหลิงฮัน เพราะเขาฝึกฝนทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ซึ่งเพียงพอที่จะต้านทานต่อแรงระเบิดนั้น


หลิงฮันเค้นเสียงและปล่อยให้ใส่เจี่ยหมิง


ตู้ม!


เมื่อสองหมัดของพวกเขาทั้งสองคนปะทะกัน ทำให้เกิดระลอกคลื่นแพร่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง และดูเหมือนพื้นดินจะยุบตัวลง


ผู้คนที่อยู่ล้อมด้านต่างกระเด็นปลิวออกไป แต่ฮูหนิวและเหวินเหรินเชียนเชียนนั้นคอยยืนปกป้องพวกเขา ทำให้ทุกคนดูเขินอาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ


ช่วยไม่ได้ที่เหวินเหรินเชียนเชียนจะหันไปมองฮูหนิว แม้นางจะรู้ว่าฮูหนิวมีพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัว แต่นางก็ยังคงตกตะลึงอยู่ดี เด็กสาวตัวน้อยคนนี้มีอายุแค่เจ็ดปีเท่านั้นแต่ก็เป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณเหมือนกับนางแล้ว น่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก


ท่ามกลางฝุ่นควัน หลิงฮันและเจี่ยหมิงยังคงต่อสู้กันอยู่ และแลกหมัดกันไปมา


ทุกคนเพ่งสายตาดูอย่างตั้งใจ แต่ฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายอยู่นั้น ทำให้พวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย และพวกเขาต้องล่าถอย เพราะการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองคนเพียงพอที่จะคุกคามชีวิตของพวกเขา


มีเพียงแค่ฮูหนิวเท่านั้นที่มั่นใจในตัวหลิงฮันเต็มเปี่ยม และเริ่มนำอาหารออกมากินอย่างสบายใจ


การต่อสู้อันดุเดือดใช้เวลาเกือบชั่วโมง และทันใดนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็หยุดต่อสู้ และลอยขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าอย่างภาคภูมิใจ


“ฮ่าฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยม! ข้ารู้สึกมีความสุขยิ่งนัก!”  เจี่ยหมิงกล่าว “เจ้าเป็นคนแรกที่สามารถปะมืออย่างหนักหน่วงกับข้าได้ ดังนั้นวันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้าจะต้องรีบยกระดับตัวเองให้เร็ว เพราะสายเลือดของข้าจะฟื้นตัวทุกวัน และความแข็งแกร่งของข้าก็จะเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้ ไม่เช่นนั้นครั้งหน้าเจ้าอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”


จากนั้น เจี่ยหมิงก็เข้าไปในหลุมลึกและหายไปในนั้นอย่างรวดเร็ว


ในฝุ่นควัน หลิงฮันก้าวเดินออกมา บาดแผลของเขาเริ่มฟื้นฟูอย่างช้าๆเหมือนมังกรที่บินกลับรังราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและดวงตาเผยให้เห็นจิตวิญญาณต่อสู้ที่แข็งแกร่ง


ก่อนที่จะต่อสู้ เขามั่นใจมากว่าจะต้องเป็นฝ่ายได้เปรียบ


นี่ทำให้หลิงฮันรู้สึกแปลกใจมาก เพราะทักษะกายาของเขา และคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์กับกายาเพชร เขาควรที่จะไร้พ่ายในระดับพลังนี้


“สายเลือดมังกร?” หลิงฮันนึกกลับไปก่อนที่จะต่อสู้ กายหยาบของเจี่ยหมิงไม่ได้แข็งแกร่งเท่าเขา แต่มันแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ เขาจำได้ว่าต่อยไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายกับคอของอีกฝ่ายหลายสิบครั้ง แต่มันกลับไม่เป็นอะไรเลย และเมื่อพลังของเขาหมดไป มันก็จะสะท้อนกลับมาหาเขาทันที นี่ทำให้เจี่ยหมิงมีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับหลิงฮํน


จูเสวี่ยนเอ๋อและคนอื่นๆรู้สึกโล่งอก แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อมั่นใจตัวหลิงฮันเป็นอย่างมาก แต่ยังไงก็ตามเจี่ยหมิงเองก็เป็นคนแข็งแกร่งเหมือนกัน

 

 

 


ตอนที่ 698

 

“ต้องการสู้กับข้าอีกครั้ง?” หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย แน่นอนว่าที่เจียหมิงเป็นฝ่ายล่าถอยไปก่อนเพราะเขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะหลิงฮันได้ ไม่ใช่นั้นเขาจะยอมเสียหน้าต่อหน้าเหวินเหรินเชียนเชียนและจูเสวียนเอ๋อรึ?


หลิงฮันหัวเราะอย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นพลังปราณหรือความแข็งแกร่งของกายหยาบ เขาล้วนแต่ไร้พ่ายในระดับพลังเดียวกัน!


เมื่อเขาพลังต่อสู้ของเขาพัฒนาจนถึงขั้นที่สามารถใช้งานทักษะศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามได้อย่างเชี่ยวชาญ จะมีใครที่เขาต้องหวาดกลัวอีก?


“พี่ชายหลิงฮันช่างอัจฉริยะยิ่งนัก ท่านสามารถทัดเทียมได้แม้แต่สุดยอดอัจฉริยะของห้านิกายโบราณ เชียนเชียนนับถือเป็นอย่างยิ่ง!” เหวินเหรินเชียนเชียนหัวเราะ แววตาอันงดงามของนางเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน แม้นางจะไม่มีความรู้สึกพิเศษต่อหลิงฮัน แต่นางต้องการจะเป็นสหายกับอัจฉริยะเช่นนี้


เพราะเมื่อใดที่เจียหมิงมาตามตื้อนางอีก นางจะได้มีตัวช่วยเพิ่ม


หลิงฮันยิ้ม “เอาล่ะ พวกเราก็ควรเข้าไปกันได้แล้ว”


“ที่โบราณสถานแห่งนี้ บางทีอาจจะมีสมุนไพรหายากอยู่ พวกเราคงต้องใช้จมูกสุนัขเป็นตัวช่วยในการดมกลิ่นตามหา” หลิงฮันกล่าว


“เหอะ เจ้าน่ะสิที่จมูกสุนัข ตระกูลของเจ้าก็มีคนจมูกสุนัข อ้ากก…” เจ้ากระต่ายรู้ตัวว่ามันถูกพาดพิง แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้พูดด่าจบ ฮูหนิวก็กัดก้นของมันจนมันร่วงลงไปในหลุมลึก “คิดจะฆ่าท่านกระต่ายรึไง!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นลงมาหลุมลึก แต่น้ำเสียงของเจ้ากระต่ายกลับค่อยๆห่างไกลออกไปเรื่อย เห็นได้ชัดว่ามันตกลงไปด้วยความเร็วที่สูงขนาดไหน


หลิงฮันคว้าร่างของจูเสวียนเอ๋อมาไว้ในอ้อมแขนและกระโดดลงไปในหลุม


‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ คนอื่นๆตามลงมาเช่นกัน เหวินเหรินเชียนเชียนถอนหายใจ แม้นางจะคัดเลือกคนเข้าร่วมกลุ่มมามากมาย แต่เมื่อถึงเวลาคับขันกลับไม่มีใครอยู่ช่วยเหลือนางเลยซักนิด ตอนนี้นางไม่สนใจที่จะไปตามคนเหล่านั้นกลับมาแล้ว


นางก้าวไปข้างหน้าและกระโดดลงหลุมไปเช่นกัน


หลิงฮันจ้องมองไปยังจูเสวียนเอ๋อ นางกอดรัดร่างเขาแน่นราวกับปลาหมึก ใบหน้าของนางประดับไว้ด้วยเสน่ห์ที่แสนน่าดึงดูด


ช่างย้ำยวนใจอะไรเช่นนี้


หลิงฮันเกือบจะอดทนไม่ไหว เขาต้องการจะพาจูเสวียนเอ๋อเข้าไปในหอคอยทมิฬและกระทําชําเรานางให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องฝืนอดทนเอาไว้ หลังจากที่พวกเขากระโดดลงหลุมมาซักพัก จู่ๆร่างของเขารู้สึกเหมือนกับถูกโคลนดูด ทำให้ความเร็วของเขาค่อยๆช้าลง และในขณะเดียวกันด้านหน้าของเขาก็เริ่มมีแสงสว่างปรากฏขึ้น


ราวกับว่าเขาได้หลุดเข้ามาในโลกใบใหม่ ด้านล่างของพวกเขาเป็นพื้นราบที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ในบริเวณที่ห่างไกลสามารถมองเห็นต้นไม้ใหญ่และภูเขาที่เรียงราย


‘ตุบ ตุบ ตุบ’ คนที่ตามหลังเริ่มลงมาถึงแล้ว ฮูหนิวนั้นอยู่หน้าเขา โดยนางยังคงกัดหางเจ้ากระต่ายไม่ปล่อย ส่วนเจ้ากระต่ายก็ทำได้เพียงวิ่งกรีดร้องไปมาด้วยความเจ็บปวด


“โบราณสถานแห่งนี้… อยู่ในมิติพิเศษ!” ทุกคนอุทานพร้อมกัน ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นแล้วใต้หลุมจะมีพื้นที่ที่ใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร


หากมองขึ้นฟ้าจากตรงนี้ พวกเขายังสามารถมองเห็นก้อนเมฆที่ล่องลอยไปมาได้อยู่ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีดวงอาทิตย์ปรากฏให้เห็นด้วย ถ้าหากมีสัมผัสที่แกร่งกล้าพอจะรู้ว่านั่นไม่ใช่ดวงอาทิตย์ของจริง มันคือบอลเพลิงขนาดใหญ่ที่หากมองไกลๆจะดูเหมือนดวงอาทิตย์


“ช่างยอดเยี่ยม!” หลิงฮันกล่าวชม เขาเคยเข้าไปยังดินแดนลี้ลับอย่างเช่นดินแดนลี้ลับอสูรฟ้าและดินแดนลี้ลับสิบสองพระราชวังมาแล้วมันคือการหลอมสร้างสวรรค์และปฐพีเข้าไปสู่โลกใบเล็ก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นดวงอาทิตย์ในโลกใบเล็ก


“ไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิจันทราม่วงและห้านิกายโบราณหลุดสงครามกันชั่วคราวเพื่อมาสำรวจที่นี่” จูเสวียนเอ๋อพยักหน้า นางออกจากอ้อมแขนของหลิงฮันอย่างไม่เต็มใจ


“พวกเราจะไปที่ไหนต่อดี?” หลี่ซือเชียนถาม


หลิงฮันชี้ไปยังดวงอาทิตย์เทียมและกล่าว “ตามดวงอาทิตย์นั่นไป”


“ตกลง!” ทุกคนพยักหน้า ในเมื่อไม่มีทิศทางที่แน่นอน การเดินตามสัญลักษณ์อะไรบางอย่างไปก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ


เจ้ากระต่ายและฮูหนิวรีบไล่ตามกลุ่มหลิงฮันมา


“สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่เป็นอย่างมาก!” พวกเขาบินผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึงเป็นเวลานาน แต่ทิวทัศน์ด้านหน้าก็ยังคงเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีและหุบเขาที่สูงเสียดฟ้า


‘ตูม!’


จู่ๆเสียงปะทะจากการต่อสู้ก็ดังขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว


เพียงแค่ฟังจากเสียงต่อสู้พวกหลิงฮันไม่สามารถบอกถึงระดับพลังของคนที่กำลังสู้อยู่ได้ พวกเขาทำได้เพียงแค่ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น


ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่เคยมีการต่อสู้เกิดขึ้น บนพื้นดินมีหลุมมากมายปรากฏอยู่ แสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ที่รุนแรงเพิ่มจะผ่านไปไม่นาน


.


หลิงฮันปล่อยหมัดลงไปที่พื้นทำให้พื้นเกิดหลุมขึ้นมาทันที


กลุ่มของหลิงฮันเกิดอาการตกตะลึง นั่นเพราะหลุมที่หลิงฮันสร้างขึ้นนั้นมีขนาดเล็กกว่าหลุมที่ปรากฏอยู่ก่อนหน้านี้


ถึงแม้หลิงฮันจะปล่อยหมัดออกไปอย่างไม่จริงจัง แต่สิ่งที่ต่อสู้กันเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นสิ่งที่ทรงพลังอย่างมาก


“คนที่ต่อสู้ก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเจียหมิง” หลิงฮันคาดเดา “ดูเหมือนว่าศัตรูของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขาเสียอีก”


“ตอนนี้ศัตรูที่เจียหมิงพบคงกำลังไล่ตามเขาไปอยู่” เหวินเหรินเชียนเชียนแสดงความคิดเห็น


“ถ้าเจียหมิงหนีรอดไปได้ คงเป็นเป็นพวกเราแทนที่ต้องพบเจอกับศัตรูสุดแข็งแกร่งที่ว่า!” หลี่เฟิงหยู่หน้าเปลี่ยนสี แม้แต่เจียหมิงยังต้องเผ่นหนี แล้วเขาจะเอาอะไรไปสู้กับศัตรูเช่นนั้นได้


“บัดซบ เจ้าคนปากเสีย!” เจ้ากระต่ายกล่าวตำหนิ และทันใดนั้นเองก็มีหนอนขนาดมหึมาเลื้อยกลับมาโผล่ที่ด้านหน้าพวกเขา


หนอนตัวนี้มีขนาดยาวเกือบจะหนึ่งร้อยฟุต รูปร่างของมันคล้ายตะขาบ ร่างของมันแบ่งออกเป็นปล้องๆ ซึ่งแต่ละปล้องมีขาคู่หนึ่งงอกออกมา ครึ่งร่างของมันเป็นสีดำและอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว


ด้วยร่างที่ยาวเช่นนั้น ความสูงของมันก็ไม่แพ้กัน ขาและส่วนสูงของมันรวมกันแล้วสูงเกือบถึงห้าฟุต


หนอนตัวยาวนี้ไม่มีตาและจมูก ทั่วใบหน้าของมันประดับเอาไว้เพียงปากขนาดใหญ่ที่เมื่ออ้าออกมาก็จะมองเห็นฟันมากมายที่เรียงกันเป็นวงกลม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)