Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ 623-626
ตอนที่ 623
หลิงฮันไม่คิดอะไรมาก เขาครอบครองหอคอยทมิฬที่สามารถผลิตสมุนไพรได้อย่างง่ายดาย แถมโสมที่เขาครอบครองอยู่ก็มีทั้งคุณสมบัติช่วยเสริมแกร่งรากฐานและยืดอายุขัย โดยเฉพาะโสมอายุพันปี
สำหรับเขาโสมพันปีก็ไม่ต่างอะไรกับหัวไชเท้า การจะขุดมันออกมาสังสองสามต้นย่อมขนหน้าแข้งไม่ร่วง
“ไป..อย่าถูกหลอกเชียว!” ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืนและชี้ไปยังขวดใบนั้น “รูปแบบอักขระที่ประทับบนขวดใบนี้เกือบจะสลายหายไปหมดแล้ว มันจะเหลือพลังอยู่เท่าใดกันเชียว?”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย แม้ขวดใบนี้จะส่งกลิ่นอายอันองอาจออกมาแต่สภาพของมันก็เกือบจะพังทลายแล้ว พลังของมันคงเหลืออยู่ไม่มาก แล้วคิดจะนำมันมาแลกกับสมุนไพรหรือยาอายุวัฒนะเนี่ยนะ ใครจะไปยอม?
“เฒ่าแก่ มูลค่าของมันสมควรน้อยกว่านั้น”
“ข้ามีผลึกก่อเกิดอยู่หนึ่งแสนผลึก ข้าจะใช้มันแลกเปลี่ยนด้วยเป็นไง?”
“ข้ามีเม็ดยามรกตสามดาว”
“ข้าจะใช้เศษแร่ทองคำระดับห้าในการแลกเปลี่ยน”
ทุกคนเสนอราคาที่ตนเองยอมรับได้ออกมา แม้ขวดชิ้นนี้จะมีสภาพเสียหายแต่มันก็ยังมีกลิ่นอายที่น่าดึงดูดอยู่ดี
“ไม่!” ชายชรายืนกรานหนักแน่น อายุขัยของเขาเหลืออยู่ไม่มากแล้ว แถมเขายังไม่มีลูกหลานคอยสืบสกุลอีกด้วย เขาเพียงแค่ต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหลายปีเท่านั้น แม้จะได้สมบัติล้ำค่าใดๆมา มันก็มีคงต้องถูกฝังไปพร้อมกับร่างของเขา
“ข้าขอแลกด้วยสมุนไพรโชวูสามร้อยปี” ใครบางคนเสนอราคาขึ้นมา
โชวูคือสมุนไพรบำรุงที่ดี และยิ่งหากมันมีอายุสามร้อยปีประสิทธิภาพของมันจะยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก มันสามารถช่วยเพิ่มอายุขัยได้อย่างน้อยสีปี
ชายชราแสดงท่าทีลังเล สมุนไพรชิ้นนี้มีประสิทธิภาพต่ำกว่าที่เขาคาดหวังเอาไว้ แต่ด้วยคำพูดของชายก่อนหน้านี้ทำให้ดูเหมือนขวดของเขาจะขายได้ในราคาไม่สูงมาก เพราะงั้นสมุนไพรโชวูจึงทำให้จิตใจของเขาหวั่นไหว
“ขวดนี้สมควรเป็นของเลียนแบบที่ได้รับความเสียหายหนัก” เขาคือชายที่พูดลดมูลค่าของขวดเมื่อครู่ และจับตาดูขวดใบนี้มาสักพักแล้ว “ถึงแม้มันจะไม่ใช่ของจริงและได้รับความเสียหายแต่ก็มันคุ้มค่าที่จะนำมาศึกษา”
เขานิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะกล่าว “ข้าจะใช้โสมเมฆาทมิฬสองร้อยปีสองต้นในการแลกเปลี่ยน”
โสมเมฆาทมิฬเองก็เป็นสมุนไพรสำหรับยืดอายุขัย หากมีอายุสองร้อยปีประสิทธิภาพของมันก็ช่วยเพิ่มอายุขัยได้ประมาณสิบปี แต่ผลลัพธ์ของมันไม่สามารถซ้อนทับได้ หากกินต้นแรกเข้าไปก็จะได้รับประสิทธิภาพของสมุนไปเต็มที แต่ถ้าหากกินต้นที่สองประสิทธิภาพของมันก็จะลดลงครึ่งหนึ่ง และหากกินต้นต่อไปประสิทธิภาพก็จะลดลงเรื่อยๆ
ดังนั้น หากกินโสมเมฆาทมิฬสองต้นนี้เข้าไปก็จะได้รับอายุขัยเพิ่มขึ้นประมาณสิบห้าปี
สำหรับคนที่ขาข้างหนึ่งก้าวไปสู่ความตายแล้ว คงไม่อาจต่อต้านความล่อตาล่อใจจากอายุขัยสิบห้าปีนี่ได้
คิ้วของชายชราตั้งตรง แน่นอนว่าการได้อายุขัยเพิ่มขึ้นสิบห้าปีทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
หลิงฮันยิ้ม “ข้ามีโสมหยกขาวอายุหนึ่งพันปี”
‘ว่าไงนะ!’
ทุกคนอุทานออกมาทันที สมุนไพรหนึ่งพันปีงั้นรึ เจ้าบ้ารึเปล่า แม้โสมจะมีคุณสมบัติในการยืดอายุขัย แต่อายุสูงสุดของสมุนไพรประเภทโสมก็คือหนึ่งพันปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจำนวนของพวกมันมีน้อยขนาดไหน
ยิ่งสมุนไพรมีอายุขัยมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งหาได้ยากขึ้นเท่านั้น จำนวนของสมุนไพรร้อยปีเทียบได้กับจำนวนของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน จำนวนของสมุนไพรห้าร้อยปีเทียบได้กับจำนวนของจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวา และสมุนไพรหนึ่งพันปีมีจำนวนเทียบได้กับจอมยุทธระดับทลายมิติ ซึ่งมีเพียงหยิบมือ
เจ้าหนูนี่ครอบครองสมุนไพรอายุหนึ่งพันปีงั้นรึ ล้อเล่นรึเปล่า?
แม้ชายชราจะรู้สึกไม่อยากเชื่อ แต่เขาก็พูดออกไป “เจ้าหนุ่ม เจ้าพูดจริงๆรึ?”
หลิงฮันยกมือขึ้นและโยนโสมออกไป “ท่านก็ตรวจสอบดูเองแล้วกัน”
ชายชราคว้าโสมเอาไว้และตรวจสอบอย่างใกล้ชิด แม้เขาจะไม่คุ้นเคยหรือเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมุนไพรมากนัก แต่โสมพันปีก็เป็นสมุนไพรที่มีพลังงานแกร่งกล้าและมีกลิ่นเฉพาะตัว ดังนั้นชายชราจึงสามารถบอกได้ทันทีว่าโสมชิ้นนี้สมควรมีอายุแปดร้อยปีเป็นอย่างน้อย
แต่แค่นี้ก็ทำให้อายุขัยของเขายืดออกไปได้ถึงสามสิบปีแล้ว!
แน่นอนว่าชายชราย่อมเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและพูดออกไป “ตกลง ขวดอันนี้เป็นของเจ้าแล้ว!”
“ช้าก่อน!” ชายก่อนหน้านี้เปิดปากพูดและมองไปที่หลิงฮันชั่วขณะ “ข้าขอแลกเปลี่ยนด้วยโสมมังกรทองเจ็ดร้อยปีสามต้น”
โสมมังกรทองเจ็ดร้อยปีแม้จะไม่สามารถเทียบได้กับโสมหยกขาวพันปี แต่ด้วยจำนวนสามต้นของมัน จึงทำให้ประสิทธิภาพของมันเหนือกว่าโสมหยกขาวพันปีอย่างไม่น่าแปลกใจ
ทุกคนกลายเป็นชะงัก ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าพูดว่าขวดใบนั้นไม่ได้ล้ำค่าอะไรมากไม่ใช่รึไงกัน? แล้วทำไมเจ้าถึงได้โสมล้ำค่าขนาดนั้นมาใช้แลกเปลี่ยนถึงสามต้นเลย? ทุกคนรู้สึกตัวทันทีว่าชายคนนี้จงใจลดมูลค่าของขวด และคิดจะแย่งชิงไปด้วยราคาที่ต่ำกว่าราคาจริง
แต่ตอนนี้ผู้แย่งชิงที่ทรัพย์หนาได้ปรากฏตัวแล้ว หากต้องการขวดใบนั้น สิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงการเพิ่มมูลค่าของสมุนไพรที่ใช้แลกเปลี่ยน
สำหรับหลิงฮัน แม้โสมพันปีจะไม่ได้มีค่าอะไร แต่เขาก็ไม่อยากเสียมันไปเปล่าๆ เพราะอย่างไรสภาพของขวดใบนี้ก็เสียหายมากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือมันเป็นสมบัติจากยุคสมัยโบราณ บางทีมันอาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรมากนัก
แต่ทำไมเพื่อขวดใบนี้ชายคนนี้ถึงได้ยอมทำตัวไร้ยางอายขนาดนี้?
หลิงฮันกระตุ้นใช้งานเนตรแห่งสัจธรรมและจ้องมองไปยังขวด เขาค้นพบว่าขวดใบนี้เสียหายมากจริงๆ แม้มันจะยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่เมื่อใช้เสร็จขวดใบนี้ก็คงจะพังในทันที
แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันกลับมองเห็นชั้นแสงสีขาวตรงก้นขวด มันสว่างจ้าราวกับเป็นดวงอาทิตย์ขนาดเล็กที่เกือบจะเผาดวงตาของเขาจนมอดไหม้
สมบัติที่แท้จริง!
จิตใจของหลิงฮันสั่นไหวทันที เส้นแสงแห่งอักขระที่ส่องสว่างขนาดนั้น ขวดใบนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!
เขาไม่ลังเลอีกต่อไป ถึงแม้ขวดใบนี้จะใช้การอะไรไม่ได้ แต่รูปแบบอักขระของมันก็คุ้มค่าที่จะนำมาตรวจสอบ เขาโยนโสมหยกขาวพันปีออกไปอีกอันและพูด “ข้าให้สองต้น”
หากวัดจำนวนปีของสมุนไพรโดยรวมแล้ว โสมมังกรทองเจ็ดร้อยปีสามต้นก็ยังคงเหนือกว่าโสมหยกขาวหนึ่งพันปีสองต้น แต่หากคำนวณถึงประสิทธิภาพระยะยาวที่จะลดลงหลังจากกินเข้าไปแล้ว ประสิทธิภาพของโสมมังกรทองเจ็ดร้อยปีสามต้นย่อมไม่อาจเทียบกับโสมหยกขาวหนึ่งพันปีสองต้นได้
จิตใจของชายชราสั่นไหวอีกครั้งและมองไปยังชายก่อนหน้านี้ เขาต้องการแลกเปลี่ยนขวดใบนี้กับคนที่เสนอสมุนไพรที่ล้ำค่ามากที่สุดออกมา
ชายคนนั้นจ้องมองมายังหลิงฮันและพูด “ข้าขอเพิ่มเม็ดยาชโลมหัวใจอีกหนึ่งเม็ด!”
เม็ดยาชโลมหัวใจคือเม็ดยาที่ล้ำค่า มันสามารถคงสภาพพลังชีวิตของจอมยุทธที่มีระดับต่ำกว่าก้าวสู่เทวาจากอาการบาดเจ็บนับไม่ถ้วนได้และค่อยๆรักษาอาการบาดเจ็บนั่นอย่างช้าๆ มันคือเม็ดยาชั้นหนึ่งในหมู่เม็ดยาระดับปฐพี
ชายชรารู้สึกลังเลอีกครั้ง ด้วยเม็ดยาเม็ดนั้น มันจะช่วยให้เขาสามารถเดินทางไปเสี่ยงชีวิตในโบราณสถานที่อันตราย บางทีเขาอาจจะพบเจอวาสนาที่ช่วยให้เขาทะลวงผ่านระดับก้าวสู่เทวาได้สำเร็จก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นเขาจะได้รับอายุขัยเพิ่มขึ้นสองร้อยปีเต็มๆ ซึ่งดีกว่ากินสมุนไพรต่างๆเข้าไปเป็นไหนๆ
หลิงฮันยิ้ม คิดจะสู้กับจักรพรรดิปรุงยาเช่นเขาด้วยเม็ดยา? หากเป็นเม็ดยาระดับสวรรค์ เขาอาจจะไม่มีครอบครองเพราะขาดวัตถุดิบที่ใช้หลอม แต่เม็ดยาระดับปฐพีนั้น แน่นอนว่าเขามีอยู่ในครอบครองมากมาย
“งั้นข้าจะเพิ่มเม็ดยาชโลมหัวใจให้ท่านสองเม็ด” หลิงฮันพูด
‘ว่าไงนะ!’
ตอนนี้มีผู้คนที่มามุงอยู่อยู่มากมาย พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าชายสองคนตรงหน้าพวกเขากำลังพูดถึงเม็ดยาระดับปฐพีกันอยู่แน่รึ? ทำไมพวกเจ้าถึงทำเหมือนกับมันเป็นเม็ดยาถูกๆเช่นนั้น?
ตอนที่ 624
แววตาของชายคนนั้นราวกับลุกโชนด้วยเปลวเพลิงขณะพูดว่า “ข้ามีนามว่าหนงเสียหยุน ปู่ทวดของข้าเป็นถึงนักปรุงยาระดับสวรรค์! เจ้าหนู เจ้าแน่ใจแล้วหรือที่จะต่อสู้กับข้า?”
ทุกคนส่งเสียงอุทานออกมา ที่แท้บรรพุบุรษของเขาเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์นี่เอง
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้เพื่อที่จะซื้อของผู้ที่ให้ราคาสูงสุดย่อมเป็นผู้ชนะ แล้วเจ้าจะยกบรรพบุรุษของเจ้าขึ้นมาพูดทำเพื่อ?”
“ดี! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!” หนงเสียหยุนจ้องมองไปที่หลิงฮันและเดินจากไป
หลิงฮันยิ้มและโยนขวดหยกให้กับชายชรา แล้วหยิบขวดของชายชรามาเป็นการแลกเปลี่ยน
ชายชรารีบเปิดขวดหยกเพื่อตรวจสอบเม็ดยาทันที แต่เขาไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นของจริง?
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้หลอกลวงท่าน!”
แม้ชายชราจะไม่เชื่อ แต่โสมหยกขาวพันปีสองต้นก็เป็นราคาที่เขาตั้งเป้าเอาไว้แล้ว ส่วนเม็ดยาชโลมหัวใจสองเม็ดนั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา
ในทางกลับกัน ถ้าเขายอมรับข้อเสนอของหนงเสียหยุน แล้วเขาจะยืนยันได้อย่างไรว่าเม็ดยาของอีกฝ่ายจะเป็นของจริง?
หลังจากนั้น ชายชราเก็บแผงลอย และรีบวิ่งหนีไปจนไม่สามารถมองเห็นได้อีก แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณแต่ด้วยอายุของเขาแล้วจึงเทียบได้แค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเท่านั้น
คนหนุ่มสาวที่นี่ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะ แม้จะเป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานก็สามารถเอาชนะเขาได้ เขาจึงเกรงว่าจะถูกปล้น
ดังนั้นเผ่นก่อนจะได้อุ่นใจ
หลิงฮันยิ้มและตรวจสอบขวดด้วยเนตรแห่งสัจธรรม แล้วเห็นว่าก้นขวดนั้นแตกต่างจากจุดอื่น ราวกับไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นชิ้นเดียวกัน
น่าสนใจดีนิ หลิงฮันพูดอยู่ในใจและตั้งหน้ารอศึกษามันในหอคอยทมิฬ
หลังจากที่เก็บขวดเข้าไปในหอคอยทมิฬแล้ว หลิงฮันเห็นมีคนมากมายกำลังเดินตามเขาอยู่
ความมั่งคั่งของเขาไม่อาจปกปิดได้ เขานำโสมหยกขาวพันปีสองต้นและเม็ดยาชโลมหัวใจสองเม็ดออกมาอย่างไม่ลังเล ผู้คนจำนวนมากจึงหวังที่จะใช้ประโยชน์จากเขา อย่างไรก็ตาม หลิงฮันไม่ได้สนใจพวกมัน ใครก็ตามที่ต้องการปล้นเขา อีกฝ่ายจะถูกปล้นจนไม่เหลือแม้แต่กางเกง
“โปรดรอสักครู่นายน้อย คุณหนูของข้าให้ข้ามาส่งจดหมายเชิญพวกท่านไปงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้” หลิงฮันกำลังจะจากไป แต่เห็นสาวใช้เดินเข้ามาหาพร้อมกับส่งจดหมายเชิญสีชมพูที่มีกลิ่นหอมจางๆลอยออกมา
หลิงฮันไม่ได้รับจดหมายทันที แต่ถามออกไปว่า “คุณหนูของพวกเจ้าคือใคร?”
“เจ้าหนุ่ม นี่เจ้าไม่จักรู้สาวลูกพีชน้อยงั้นหรือ?” ใครบางคนตะโกน “สาวลูกพีชน้อยคือคุณหนูอีหยุน!”
“ว่าไงนะ คุณหนูอีหยุนรึ!”
“คุณหนูอีหยุนแห่งตระกูลหวังงั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว คุณหนูอีหยุนไม่เพียงแค่งดงามราวกับเทพธิดาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ และเป็นอัจฉริยะที่น่าอัศจรรย์ ในตอนที่นางอายุเก้าปี นางก็เป็นศิษย์ของนิกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์แล้ว แม้ว่านางจะไม่มีชื่อเสียงเท่าตงหลิงเอ๋อ แต่ถ้าพูดถึงความงดงามนางจะต้องมีรายชื่อติดหนึ่งในสิบอย่างแน่นอน”
“งดงามดุจเทพธิดา แข็งแกร่งราวกับเทพสงคราม หญิงแกร่ง!”
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ หวังอีหยุนมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมสำนักสวรรค์ได้โดยตรงและจัดงานเลี้ยงขึ้นที่นี่ นางช่างมั่งคั่งอะไรเยี่ยงนี้!
“ตระกูลหวังเป็นตระกูลของจอมยุทธตั้งแต่อดีต ว่ากันว่าบรรพบุรุษของตระกูลหวังยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ แต่ทว่าเขายังไม่อาจทะลวงผ่านระดับทลายมิติได้”
“ด้วยทรัพยากรทางการเงินของตระกูลหวัง มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างวังอยู่ที่นี่”
“เฮ้อ ข้ารู้สึกอิจฉาเขาเสียจริง ถ้าข้าสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงได้ ข้าคงเป็นอัจฉริยะที่เข้าร่วมสำนักสวรรค์ได้โดยตรง”
“แต่ทำไมเจ้าหนุ่มนี่ถึงได้รับคำเชิญ เขาไม่ได้ดูยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นเลยนี่?”
ทุกคนจ้องมองไปที่หลิงฮัน แต่ก็ไม่พบอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจในตัวเขา
หลิงฮันครุ่นคิดและมองไปที่จดหมายเชิญแล้วพูดว่า “ตกลง แล้วเจอกันในคืนนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นสาวใช้รู้สึกดีใจ นางบิดตัวหันหลังกลับ และทุกคนรีบหลีกทางให้นางทันที
“เจ้าหนู ข้าขอดูขวดหน่อย!” กระต่ายยักษ์เริ่มให้ความสนใจขวด
“ทำไมข้าจะต้องให้เจ้าดูด้วย?” หลิงฮันถามไปงั้น
“ก่อนหน้านี้ไม่มีใครให้ความสนใจกับเจ้า แต่ว่าตอนนี้กลับมีใครบางคนเชิญเจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยง เห็นได้ชัดว่านั่นไม่ได้เป็นเพราะความแข็งแกร่งของเจ้า แต่เป็นเพราะเจ้าขวดนี่ ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะต้องอยากได้ขวดอย่างแน่นอนเลยเชิญเจ้าไปงานเลี้ยง ดังนั้น ข้าเลยสนใจมัน” กระต่ายยักษ์กล่าว
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “ดูเหมือนว่าสติปัญญหาของเจ้าจะไม่ได้ต่ำอย่างที่เห็น!”
“นี่เจ้ากล้าพูดจาดูหมิ่นข้างั้นรึ ข้าจะ–อ๊าก!” กระต่ายยักษ์ถูกฮูหนิวกัดและกรีดร้องออกมาอย่างขมขื่น
“ถ้าหลิงฮันไม่ได้บอกให้หนิวฆ่าเจ้า เจ้าคงถูกกินไปแล้ว!” ฮูหนิวเต็มไปด้วยความรุนแรง
เมื่อยามเย็นมาถึง หลิงฮันเดินเข้าไปในสถานที่ลับตาคนและหายตัวเข้าไปในหอคอยทมิฬ
“หืม เจ้าหนุ่มนั่นหายไปไหนแล้ว?” กระต่ายเบิกตากว้าง
“ตรงนั้น เขาเข้าไปในป่าแล้ว” ฮูหนิวกล่าว
กระต่ายยักษ์ไม่เชื่อ แต่หลิงฮันหายตัวไปแล้วจริงๆ นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก
หลังจากที่เข้าไปในหอคอยทมิฬ หลิงฮันเริ่มศึกษาขวดหลอมกลั่นอำมฤต
แคร๊ก แคร๊ก ขวดชั้นนอกเริ่มแตกและก้นขวดกำลังลอยอยู่ในอากาศกลับมาอยู่ในขนาดดั้งเดิมของมันและมีอักขระคมซับซ้อนราวกับดอกไม้เบ่งบาน ผู้คนคงจะลุ่มหลงเมื่อเห็นมัน
“นี่มัน!” หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจมาก
ตอนที่ 625
หอคอยทมิฬน้อยไม่ตอบสนอง เขาไม่รู้ว่ามันขี้เกียจเกินไปที่จะสนใจ หรือสูญเสียความทรงจำเลยไม่รู้
หลิงฮันไม่ได้รับคำตอบ แต่เขาก็ไม่ได้ผิดหวัง แม้เขาจะถามออกไป แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบจากหอคอยทมิฬน้อย เขาจึงเริ่มศึกษารูปแบบและตรวจสอบอักขระอย่างรอบคอบ
“ดูเหมือนว่าข้าจะเข้าใจอะไรบางอย่าง” หลิงฮันพูดกับตัวเอง
“ที่แท้ก้นขวดนี่คืออาวุธวิญญาณนี่เอง”
“ชายชรากล่าวว่านี่เป็นขวดหลอมกลั่นอำมฤต โดยปกติแล้วมันควรเป็นคำพูดที่ฟังดูโอ้อวดเกินไป”
“อย่างไรก็ตาม ก้นขวดต่างหากที่เป็นสมบัติ และแท้จริงแล้วมันเป็นชามที่สามารถสกัดได้ทุกอย่าง”
“หืม หรือว่ามันจะเหมือนกับการสร้างผลึกก่อเกิด?”
หลิงฮันรู้สึกแปลกใจมาก สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ชาม มันเป็นชามหินที่มีขนาดเล็กมากเท่ากับฝ่ามือ
จากนั้น หลิงฮันนำสมุนไพรห้าต้นออกมาใส่เข้าไปในชามและใส่พลังปราณเข้าไป ทันใดนั้น อักขระบนชามส่องแสงสว่างออกมาทันที
สมุนไพรทั้งห้าต้นลอยขึ้นไปในอากาศ ราวกับว่าพวกมันไม่ต้องการเข้าไปในชาม แต่หลังจากนั้นพวกมันก็ถูกกลืนกินโดยชามหิน
จากนั้นสักพักหนึ่ง หลิงฮันได้กลิ่นหอมโชยออกมาจากชามหิน เขาหันไปมองดูอีกครั้งเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น มันเปลี่ยนเป็นของเหลวสีฟ้าที่ปล่อยกลิ่นหอมสดชื่นออกมา
สมุนไพรห้าต้นนั้นเป็นสมุนไพรระดับห้า แต่ว่ามันกลับสามารถกลั่นเป็นของเหลวได้แค่หยดเดียวเท่านั้น
เมื่อพลังปราณที่หลิงฮันใส่เข้าไปหมดลง แสงสว่างของชามหินเริ่มเลือนลาง ราวกับเป็นโบราณวัตถุ
เขาพลิกชามหินและเทเข้าไปในปาก หยดสีฟ้าเริ่มไหลและตกลงไปในปากของเขา ทันใดนั้น กลิ่นหอมที่ไม่สามารถบรรยายได้กระจายไปทั่วปากของเขาและทำให้เขาตัวเบาราวกับเป็นขนนก
แต่สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือพลังงานบริสุทธิ์ที่หาที่เปรียบไม่ได้ไหลลงไปในลำคอของเขาลงไปที่ท้อง และจากนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา
“เป็นพลังที่บริสุทธิ์อะไรเยี่ยงนี้!”
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงที่มันสามารถสร้างหยดวิญญาณที่บริสุทธิ์ขนาดนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าใส่สมุนไพรระดับห้าเข้าไปหลังจากทำให้บริสุทธิ์ประสิทธิภาพของมันจะเทียบได้กับสมุนไพรระดับหก ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเม็ดยาเสียอีก
“ไม่ใช่เม็ดยาเท่านั้นที่สามารถสกัดได้ แม้แต่หินวิญญาณหรือทองก็อาจสกัดได้!”
“หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิต!”
“ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมคนที่สร้างมันขึ้นมาถึงปิดผนึกมันไว้ในขวดเก่าเพื่อปกปิดการมีอยู่ของมัน เพราะการดำรงอยู่ของมันนั้นฝืนกฎสวรรค์ ถ้ามันอยู่ในมือคนผิดจะเป็นหายนะ และนั่นเป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป!”
หลิงฮันถอนหายใจ ผู้ที่สร้างสมบัติชิ้นนี้ขึ้นมาอาจลังเลที่จะทำลายเลยซ่อนมันไว้ในสมบัติอื่น
“สมบัติชิ้นนี้จะดีหรือชั่วไม่ได้ขึ้นอยู่กับมัน แต่ขึ้นกับผู้ใช้ต่างหาก” หลิงฮันกล่าว “ข้าจะไม่มีวันใช้มันเพื่อทำลายโลก”
หลิงฮันเลือกเดินบนเส้นทางที่จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด เขาไม่ได้เลือกเดินบนเส้นทางแห่งการทำลายล้าง
“หอคอยทมิฬน้อย ดูเหมือนว่าข้าจะพบอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ!” หลิงฮันยิ้ม
หอคอยทมิฬน้อยปรากฏตัวออกมา มันจ้องมองไปที่ชามหินและพูดว่า “ข้าคิดว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นชามพลิกสวรรค์ แต่มันไม่ใช่ของจริง ในความทรงจำที่คลุมเครือของข้า ชามพลิกสวรรค์นั้นถูกทำลายไปนานแล้ว ชามนี่น่าจะเป็นของจำลอง แต่ถ้าเจ้ามอบมันให้กับข้า ข้าสามารถเปลี่ยนมันเป็นพลังของข้าเจ็ดส่วน”
แค่เจ็ดเท่านั้นรึ?
หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “แล้วศิลากำเนิดความสบสนวุ่นวายล่ะ?”
“เก้า” หอคอยทมิฬน้อยกล่าวอย่างเฉยเมย
เจ้าชามหินนี่เทียบกับศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายไม่ได้งั้นหรือ?
เดี๋ยวก่อน ศิลากำเนิดความสับสนวุ่นวายทำให้จักรพรรดิจอมอสูรต้องบ้าคลั่งได้ถ้างั้นมันจะมีค่าแค่ไหน?
อย่างไรก็ตาม ชามหินนี่มันสามารถทำให้สมุนไพรระดับห้ามีประสิทธิ์ภาพของสมุนไพรระดับหกได้
ในหอคอยทมิฬมีสมุนไพรระดับต่ำอยู่มากมายที่ไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้ถ้าใช้ชามพลิกสวรรค์ สมุนไพรระดับสามจะเปลี่ยนเป็นระดับสี่ ระดับสี่จะเปลี่ยนเป็นระดับห้า
หลิงฮันจึงลองดู เขานำสมุนไพรระดับสามจำนวนมากออกมาและใส่เข้าไปในชามสวรรค์ อย่างรวดเร็ว สมุนไพรพวกนั้นกลายเป็นหยดวิญญาณมากกว่าสามสิบหยด แต่เขายังไม่หยุดเพียงเท่านี้ หลิงฮันยังคงใส่สมุนไพรเข้าไปไม่หยุด
หลิงฮันลองชิม และอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ หยดวิญญาณพวกนี้เทียบได้กับผลึกก่อเกิดสองดาว แต่ดูดซับได้ง่ายกว่าเพราะมันถูกกินเข้าไปในร่างกายโดยตรง
หลิงฮันรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก หอคอยทมิฬกับชามพลิกสวรรค์เป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ!
หลังจากนั้นหลิงฮันปรากฏตัวออกมาจากหอคอยทมิฬ
“หืม ทำไมเจ้าถึงปรากฏตัวออกมากะทันหันแบบนี้ได้!” เมื่อเจ้ากระต่ายยักษ์เห็นมันจึงตะโกนออกมา
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “เพราะความเร็วของข้ายังไงล่ะ!”
นี่มันจะรวดเร็วเกินไปแล้ว!
ในความคิดของมันความสามารถของมันเหนือกว่าหลิงฮัน ถ้าเขากระโดดมาจากระยะไกลมันควรจะรู้ตัวทันที แต่นี่เขากลับปรากฏตัวออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว พวกเราไปงานเลี้ยงกันเถอะ” หลิงฮันยิ้ม
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ถามไว้แล้วว่างานเลี้ยงจัดขึ้นที่ไหน ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงรู้ว่าต้องเดินทางไปที่ไหน หลังจากเดินผ่านป่า พวกเขาเห็นลานที่ดูแปลกตาอยู่เบื้องหน้า ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่และมีทะเลสาบอยู่ด้านใน
มันจะต้องพึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นกำแพงและกระเบื้องยังดูใหม่มาก
ตระกูลหวังเป็นคนที่ใจกว้างยิ่งนัก คุณหนูของพวกเขาฝึกฝนบ่มเพาะพลังอยู่ที่นี่พวกเขาเลยสร้างลานไว้ที่นี่ ไม่เพียงแค่นั้น จากประตูทางเข้าถูกขนานด้วยต้นไม้ทั้งสองฝั่งหลายสิบไมล์
“ใส่หัวไป!” มีรถม้าคันหนึ่งเข้ามาใกล้พวกเขา
ตอนที่ 626
หลิงฮันไม่เก็บมาใส่ใจและขยับเปิดทางให้ แต่คนคนขับรถม้านั้นอวดดีเป็นอย่างมาก มันกวัดแกว่งแส้ในข้าใส่หลิงฮันอย่างหยิ่งยโสและองอาจ
เป็นแค่คนขับรถม้าแท้ๆ
ขนาดขี้ข้ายังอวดดีขนาดนี้ เจ้านายของมันคือใครกันแน่?
คิ้วของหลิงฮันขมวดเข้าหากัน เขายกมือขวาขึ้นมาและชี้นิ้วไปด้านหน้า ปราณที่มองไม่เห็นพุ่งออกไปใส่แส้ในมือของคนขับรถม้าจนแส้ของมันหยุดเคลื่อนไหว
“ช่างกล้านัก!” สายตาของคนขับรถม้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาและพยายามฟาดแส้อีกครั้ง
“ยังคิดจะโจมตีข้าอีกครั้ง?” หลิงฮันยื่นมือออกไปคว้าแส้ของอีกฝ่ายและออกแรงดึงอย่างรุนแรง “อ้ากก” ทันใดนั้นคนรับรถม้าก็ถูกเขาดึงลงมาจากจากรถม้า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้แส้เฉียดไปโดนหมาป่าปฐพีที่ลากรถอยู่จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
รถม้าหยุดเคลื่อนที่ทันทีพร้อมกับร่างของคนขับรถม้าที่หล่นลงพื้นด้วยเสียงร้องโอดครวญ
“หม่าถง ทำไมจู่ๆรถม้าถึงหยุด?” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังออกมาจากรถม้าอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “หรือว่าจะถึงจุดหมายแล้ว?”
“เรียนนายน้อย มีคนเถื่อนจำนวนหนึ่งมาขวางทางรถม้าของเรา ข้าน้อยผู้ต่ำต้อยพยายามไล่พวกเขาออกไปแล้ว แต่กลับเป็นฝ่ายโดนหนึ่งในคนเถื่อนเหล่านั้นทำร้าย” คนขับรถม้าพยายามฝืนลุกขึ้นยืน
“ฮึ่ม!” ประตูรถม้าเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มร่างผอมที่เดินออกมา เขายังเยาว์วัยโดยดูมีอายุประมาณยี่สิบสี่หรือยี่สิบห้าปีเท่านั้น ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยประกายแสงระยิบระยับ ดูแล้วทรงพลังเป็นอย่างมาก รุ่นเยาว์ผู้นี้กวาดสายตาผ่านกลุ่มของหลิงฮันสามคนอย่างยิ่งยโส จนสุดท้ายก็กลายเป็นอารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิม
“กลุ่มคนต่ำต้อยที่ไม่มีแม้แต่รถม้า แต่คิดจะเข้าร่วมงานเลี้ยงของธิดาอีหยุน?” ชายหนุ่มกล่าว
“แล้วจะทำไม?” หลิงฮันตอบอย่างไม่แยแส
“มันจะเป็นความเสื่อมเสียสำหรับข้าอย่างมากหากปล่อยให้คนเช่นเจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยง!” ชายหนุ่มพูดอย่างเย็นชา “แถมเจ้ายังทำร้ายคนขับรถของข้าอีก ถ้าข้าไม่สั่งสอนบทเรียนแก่เจ้า ข้าจะมีหน้าไปพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างไร?”
เห็นได้ชัดว่าเจ้านายยิ่งยโสยังไง ขี้ข้าก็เป็นอย่างนั้น
หลิงฮันยิ้มและหันไปมองจูเสวียนเอ๋อ “เมื่อพบเจอกับคนอวดดีเช่นนี้ เราสมควรจะทุบตีพวกมันรึไม่?”
“แน่นอน!” จูเสวียนเอ๋อยิ้มและพยักหน้า นางเชื่อมั่นในพลังของหลิงฮันอย่างสุดหัวใจ แม้จะต้องพบเจอกับตัวตนระดับทลายมิติ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขายังมีหอคอยทมิฬอยู่รึไง? ยิ่งกว่านั้นแล้วหลิงฮันก็ยังมีพี่ใหญ่อย่างเฟิงผั่วหยุนที่เป็นถึงจอมยุทธระดับทลายมิติ
“ฮ่าๆๆ ช่างน่าสนใจจริงๆ คนต่ำต้อยเช่นพวกเจ้าจะทำอะไรได้แค่ไหนกันเชียว?” ชายหนุ่มกระโดดลงมาจากรถม้า
“อย่าหาว่าข้ารังแกพวกเจ้าเลย แต่ชื่อของข้าคือซั่วเฉียวเล่อเฉิง” เขาพูดอย่างภาคภูมิใจ
หลิงฮันหัวเราะและพูด “ข้าควรตามน้ำไปกับเจ้าโดยแสร้งทำเป็นหวาดกลัว?”
“อะไรกัน เจ้าไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของนายน้อยผู้นี้?” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงมีท่าทีมึนงงพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล “ยกโทษให้ไม่ได้ เจ้าไม่เคยได้ยินชื่อของนายน้อยผู้นี้ได้อย่างไร?”
‘ตูม’ เขาปล่อยหมัดโจมตีใส่หลิงฮัน มือขวาของเขาส่องประกายระยิบระยับสีเงินราวกับแขนของเขาเป็นเหล็กกล้า ลายเส้นอักขระมากมายถูกควบแน่นและปลดปล่อยอำนาจที่นาสะพรึงกลัวอออกมา
ถ้าจะให้พูดแล้ว พลังต่อสู้ของชายหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นจอมยุทธระดับแนวหน้าของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน
แต่โชคร้ายที่คู่ต่อสู้ของเขาคือหลิงฮัน
หลิงฮันคว้าจับไปที่หน้าอกของซั่วเฉียวเล่อเฉิงอย่างไม่แยแสและดึงร่างของอีกฝ่ายเข้ามา สีหน้าของซั่วเฉียวเล่อเฉิงเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ อีกมือหนึ่งของหลิงฮันยกขึ้น ‘เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ’ และเกิดเสียงตบตีอย่างรุนแรง
“บัดซบ ลืมนายท่านผู้นี้ไปได้อย่างไร!” เจ้ากระต่ายส่งเสียงดังขึ้นมาจากด้านข้าง มันควงอุ้งเท้าหน้าเล็กๆของมันไปมาราวกับต้องการเข้าร่วมการทุบตีด้วย
“เอาเลย ทุบตีหมอนั่นให้ตายไปเลย!” ฮูหนิวเองก็ส่งเสียงเชียร์เช่นกัน
หลิงฮันทุบตีและโยนร่างที่สะบักสะบอมของซั่วเฉียวเล่อทิ้งไปด้านข้างและพูด “ที่หมอนี่พูดก็ถูก ถ้าพวกเราไปงานเลี้ยงด้วยรถม้า สถานะของพวกเราจะดูดีขึ้นทันที เอาล่ะทุกคน ขึ้นไปบนรถม้ากันได้แล้ว”
“เจ้า…” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงพูดอย่างเกรี้ยวกราดในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตาย คนกลุ่มนี้คิดจะยึดรถม้าของเขาไป? พวกเจ้ารู้รึเปล่าว่ารถม้านี้คือสมบัติที่สืบทอดมาหลายพันปีของตระกูลข้า
ซั่วเฉียวเล่อเฉิงทั้งรู้สึกหวาดกลัวและสับสน หลิงฮันเป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเหมือนเขาแท้ๆ แต่ทำไมพลังถึงได้แตกต่างกันขนาดนี้?
หรือว่าหลิงฮันจะเป็นอัจฉริยะระดับหัวกะทิที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมกับสำนักสวรรค์โดยตรง?
แต่หากเป็นเช่นนั้น ทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของหลิงฮันมาก่อน!
ภายใต้ความสับสนและหวาดกลัว เขาลืมตกตะลึงไปเลยว่าตรงหน้ามีกระต่ายที่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้
จูเสวียนเอ๋อและฮูหนิวเดินขึ้นไปบนรถม้าอย่างมีความสุข และในขณะที่เจ้ากระต่ายกำลังจะเดินขึ้นไป มันก็ถูกหลิงฮันโยนไปที่ด้านหน้ารถม้าจนร่างตกไปอยู่ที่บริเวณเท้าของหมาป่าปฐพี ทันใดนั้นหมาป่าปฐพีก็เริ่มส่งเสียงร้องโหยหวนและพยายามไล่กัดกระต่าย
“บัดซบ!” เจ้ากระต่ายออกตัววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
หมาป่าปฐพีวิ่งไล่ตามกระต่ายไป ทำให้รถม้าเริ่มขยับเคลื่อนไหวไปด้านหน้า
หลิงฮันอดที่จะหัวเราะไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นในใจ
เห็นได้ชัดว่าเจ้ากระต่ายสามารถบดขยี้หมาป่าปฐพีที่มีพลังระดับบุปผาผลิบานขั้นต้นได้อย่างง่ายดาย หรือไม่ก็หากใช้อำนาจกดขี่นิดหน่อย มันก็จะสามารถควบคุมหมาป่าปฐพีได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เลือกที่จะวิ่งหนีเพื่อที่จะทำให้ฮูหนิวรู้สึกสนุก
หรือว่าเจ้ากระต่ายนี้จะรู้ถึงต้นกำเนิดของฮูหนิว?
ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น กระต่ายจอมป่าเถื่อนตนนี้คงไม่ทำดีเช่นนี้กับฮูหนิวเป็นแน่ แม้จะถูกฮูหนิวกัด มันก็ทำเพียงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนเท่านั้น มันไม่ได้พูดจาตอบโต้อะไร แถมตอนนี้มันก็ยังไม่ลังเลที่จะพยายามสร้างเสียงหัวเราะให้กับฮูหนิวอีก
ซั่วเฉียวเล่อเฉิงนั้นน่าอนาจเป็นอย่างยิ่ง เขาถูกตบตีโดยหลิงฮันซึ่งทำให้เสื้อของมันทั้งเปราะเปื้อนและขาดรุ่ยจนเขาต้องนำเสื้อผ้าชุดใหม่จากแหวนมิติออกมาเปลี่ยน
รถม้าเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วจนอยู่ไม่ห่างจากที่พักเท่าไหร่แล้ว ในขณะที่รถม้ามาถึงจุดหมาย หลิงฮันก็ใช้พลังปราณเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของหมาป่าปฐพี
“นายน้อยซั่วเฉียว… หืม!” ตรงประตูที่พักมีทหารยามที่แข็งแกร่งสี่คนและพ่อบ้านชราคอยยืนต้อนรับอยู่ เมื่อเห็นรถม้ากำลังเคลื่อนที่เข้ามาจอด พวกเขาจึงเดินมาต้อนรับและอดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นกลุ่มของหลิงฮันสามคนเดินลงมา
ไม่ใช่ว่ารถม้านี้สมควรเป็นของตระกูลซั่วเฉียวหรอกรึ?
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น