Alchemy Emperor of the Divine Dao 1916-1919

 ตอนที่ 1916 ฮูหนิวที่น่าเกรงขาม


 


“ตุบ ตุบ ตุบ” เหล่าอัจฉริยะจากความทรงจํามากมาย เหยียบย่ําเข้าใส่ร่างกายของเขาและไล่ตามสตรีตรงหน้าไป โชคดีที่เป้าหมายของเหล่าอัจฉริยะไม่ใช่เขา ไม่เช่นนั้นหากถูกอัจฉริยะมากมายขนาดนี้ปลดปล่อยการโจมตีเข้าใส่พร้อมกันชีวิตของเขาคงดับสิ้นไปแล้ว


 


“อ้ากก! อ้ากก! อ้ากก!” หลิวย่าโอดครวญ


 


“โอ้ เจ้าไม่ใช่พวกเดียวกันพวกมันงั้น!” สตรีที่วิ่งนําอยู่ด้านหน้าหันหลังกลับมามองด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ําเสียงไม่สบอารมณ์ “แต่ก็บอกไปแล้วไงว่าให้หลบไป หากทําให้เวลาอันมีค่าของหนิวเสียไป เจ้าคิดว่าตนเองจะรับผิดชอบไหวรึ?”


 


“อย่ามาให้หนิวเห็นหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง ไม่เช่นนั้นหัวของเจ้าระเบิดแน่!”


 


หลังจากกล่าวเสร็จ เด็กสาวก็วิ่งหายไปพร้อมกับกองทัพเหล่าอัจฉริยะมากมาย


 


หลิวย่า “…”


 


หยางหงอี้ คนผู้นี้คือผู้สืบทอดขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับหกที่ยิ่งใหญ่ และบรรลุระดับสี่นิพพานมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งล้านปี ทั้งๆ ที่เขาสามารถทะลวงผ่านไปยังระดับแบ่งแยกวิญญาณได้แล้วแท้ๆ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะติดอยู่ในระดับพลังนี้


 


นั้นเพราะเขามีความทะเยอทะยานอันสูงส่ง ที่จะบรรลุเป็นนิรันดร์ห้านิพพาน!


 


เพียงแต่ระดับห้านิพพานนั้นเป็นอะไรที่บรรลุได้อย่างยิ่ง หลังจากเวลาผ่านมานับล้านปี เขาก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่านได้ และติดค้างอยู่ในระดับสี่นิพพานสูงสุดมาตลอด


 


เพียงแต่เขาเป็นบุรุษที่มีความมุมานะเป็นเลิศ อะไรก็ตามที่ตัดสินใจไปแล้ว เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด


 


เพราะอย่างไรนิรันดร์ก็มีอายุขัยไร้ขีดจํากัดอยู่แล้ว ตราบใดที่บาปเคราะห์แห่งสวรรค์ยังไม่รุนแรงถึงขั้นที่ไม่สามารถทนไหว เขาก็ไม่จําเป็นต้องทะลวงผ่านไปยังระดับแบ่งแยกวิญญาณ


 


หากไม่สามารถก้าวสู่ระดับห้านิพพานได้ เขาก็จะเป็นได้เพียงราชาในหมู่ราชาทั่วไป ที่ด้อยกว่าอัจฉริยะชั้นแนวหน้า


 


เขาเชื่อว่าโอกาสในครั้งนี้เป็นสิ่งที่สวรรค์มอบให้แก่เขา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเป็นคนแรกที่ไต่ขึ้นไปยังยอดเขาได้ หลังจากได้ครอบครองวาสนาที่ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์และปฐพี่แล้ว ประตูสูงระดับห้านิพพานของเขาก็จะเปิดออก


 


ตูม!


 


ภายใต้แรงกดดันอันรุนแรงของภูเขา หยางหงอี้ได้ทําการขัดเกลาพลังต่อสู้ของตนเอง ไปพร้อมกับโค่นล้มอัจฉริยะจากความทรงพลัง


 


“เดี๋ยนเขียนลู่ เหลาซง ซานจื้อง พวกเจ้ารอก่อนเถอะ ในอนาคตภาคภายหน้านี้ คนที่จะสามารถสั่นสะเทือนดินแดนแห่งเซียนเพียงแค่ยกเท้าจะต้องเป็นข้าผู้นี้!”


 


ครื้นนนน!


 


ทันใดนั้นเอง จู่ๆ พื้นดินก็เดินการสั่นสะเทือน


 


ใบหน้าของหยางหงอี้ชะงักแข็งค้าง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? จริงอยู่ที่เขาเพิ่งกล่าวออกไปว่าจะสั่นสะเทือนดินแดนแห่งเซียนด้วยการยกเท้า แต่ประเด็นก็คือตัวเขาในตอนนี้ยังไม่ได้มีพลังขนาดนั้น แถมยังไม่ได้ยกเท้าด้วย


 


“หลบไป! ไสหัวไป!” เสียงตะโกนดังขึ้น พร้อมกับร่างอันงดงามของเด็กสาวผู้หนึ่ง ได้วิ่งขึ้นมาจากเส้นทางเบื้องล่าง


 


ช่างงดงามอะไรอย่างนี้


 


หยางหงอี้เผยสีหน้าตกตะลึง เพียงแต่ในพริบตาต่อมา สีหน้าของเขาก็ต้องแปรเปลี่ยนกลายเป็นหวาดผวาแทน


 


พระเจ้าช่วย.. เหตุใดถึงใดถึงได้มีคนไล่ตามสตรีผู้นี้มามากมายขนาดนี้?


 


เดี๋ยวก่อน คนเหล่านั้นมันเหล่าอัจฉริยจากความทรงจําของราชานิรันดร์หย่งชางไม่ใช่รึไงกัน!


 


บ้ารึเปล่า แทนที่จะค่อยๆ จัดการศัตรูเหล่านั้นทีละคน แต่กลับล่อให้พวกเขาไล่ตามมาที่เดียว แบบนี้นี่เจ้าอยากขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร?


 


แต่ยังไม่ได้ที่สมองของหยางหงอี้จะวิเคราะห์ทัน เด็กสาวผู้นั้นก็วิ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว จนเขารู้สึกหวาดกลัวและรีบขยับตัวหลีกทางไปด้านข้าง


 


“ครื้นนน” หลังจากที่เด็กสาววิ่งผ่านไป กลุ่มอัจฉริยะมากมายก็พุ่งทะยานไล่ตามไปติดๆ เพียงแต่เส้นทางของภูเขานั้นแคบมาก อย่างมากพื้นที่ก็กว้างพอให้คนสามคนยืนเรียงกันเท่านั้น เพราะงั้นต่อให้เขาจะหลบทางให้เด็กสาววิ่งผ่านไปแล้ว แต่ร่างของเขาก็ยังถูกเหล่าอัจฉริยะมากมายเหยียบย่ํา จนร่างกลิ้งไปกลิ้งมาราวกับลูกแก้ว


 


“ตุบ ตุบ ตุบ” เด็กสาวกับเหล่าอัจฉริยะนับร้อยวิ่งผ่านไป และเหลือทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันที่ฟังกระจายตามพื้น


 


หยางหงอี้ฝันลุกขึ้นยืน และจดจ้องสายตาไปยังทิศทางที่เด็กสาววิ่งหายไป ใบหน้าของเขาในตอนนี้ปูดบวม และมีร่องรอยฟกช้ําไปทั่วร่าง


 


“บัด ซบ..!” เขาชูนิ้วกลางไปตามแผ่นหลังของเด็กสาว หากอีกฝ่ายหันหลังวิ่งกลับมาล่ะก็เขาจะต้องขอสู้เป็นตายกับนางแน่นอน


 


ความอัปยศครั้งนี้ เขาไม่อาจทําใจยอมรับได้


 


ฮองผู่หลิง อู้ฉุน… เฉ้าจริ้นเหริน อัจฉริยะมีชื่อที่ถูกฮูหนิวแซงหน้าไป ต่างตกตะลึงและเกรี้ยวกราด


 


ยิ่งฮูหนิวไต่ขึ้นเขาไปได้สูงเท่าไหร่ กองทัพเหล่าอัจฉริยะยุคบรรพกาลก็ยิ่งเพิ่มจํานวนขึ้นจนจํานวนเพิ่มขึ้นจากหลักร้อยกลายเป็นหลักหมื่น


 


กองทัพเช่นนี้นับว่าน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวตนจากความทรงจําเหล่านี้ คือสุดยอดอัจฉริยะจากแต่ละยุคสมัย


 


หากเอี้ยนเขียนลู่ได้เห็นภาพนี้ล่ะก็ เกรงว่าเขาคงจะตกตะลึงเป็นอย่างมากแน่นอน


 


เพียงแต่ฮูหนิวไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น นางยังคงตะโกนเรียกชื่อหลิงฮันไปตลอดทาง พร้อมกับยั่วยุผู้คนมากมาย


 


ในเดือนที่สิบ


 


หลิงฮันและจักรพรรดินี้ยังคงปะทะกับคู่ต่อสู้อย่างดุเดือด ที่ผ่านๆ มาก่อนจะได้มายังภูเขาแห่งนี้ ถึงแม้พวกเขาจะได้พบเจอศัตรูมาแล้วมากมาย แต่คนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ให้พวกเขาได้ก็มีอยู่ไม่มาก


 


เพียงแต่คู่ต่อสู้ที่พบเจอที่นี่นั้น ทุกคนต่างเป็นสุดยอดอัจฉริยะ ที่ราชานิรันดร์หย่งชางยอมรับว่าเป็นศัตรู


 


หลิงฮันรู้สึกว่าโลหิตในร่างของเขากําลังเดือดพล่าน จิตวิญญาณของเขาถูกขัดเกลาจนรู้สึกได้ถึง ประตูแห่งขีดจํากัดที่กําลังเหมือนจะเปิดออก แต่ก็ไม่สามารถเปิดได้


 


และแล้วก็ถึงเวลาของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์!


 


“ข้าใกล้จะทะลวงผ่านเร็วๆ นี้แล้ว!” จักรพรรดินีเองก็รู้สึกเหมือนกับหลิงฮัน


 


“อืม เข้าไปในหอคอยทมิฬและดูดซับหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์กันดีกว่า หากพลาดโอกาสนี้ไปไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าจะมีครั้งหน้า!” หลิงขั้นเข้าสู่หอคอยทมิฬพร้อมกับจักรพรรดินี


 


หลังจากที่ทั้งสองเข้าไปได้ไม่นานนั้นเอง ฮูหนิวก็วิ่งพากองทัพเหล่าอัจฉริยะจํานวนมากวิ่งเข้า


 


มา


 


“หลิงฮัน! หลิงฮัน!” นางตะโกนอย่างตื่นเต้นตลอดทาง


ตอนที่ 1917 ดูดซับหยกต้นกําเนิดวิถี สวรรค์ และเข้าใกล้ห้านิพพาน)


 


หืม?


 


หลิงฮันชะงัก ฮูหนิวงั้นรึ?


 


นางมาที่นี่ได้อย่างไร?


 


หลิงฮันคิดและเข้าใจอย่างรวดเร็ว ต้องเป็นหัวหน้ากองก๋วนแน่นอน ที่รายงานไปว่าเขาตายไป แล้วเพราะงั้นฮูหนิวที่ไม่เชื่อถึงได้มาที่นี่ด้วยตัวเอง


 


“มีอะไรงั้นรึ?” จักรพรรดินี้ไม่อาจรับรู้เหตุการณ์ด้านนอกหอคอยทมิฬได้


 


หลิงอันยิ้ม “ซูหนิวมาที่นี่แล้ว อีกไม่นานพวกเจ้าคงได้พบกัน”


 


จักรพรรดินีเผยสีหน้าหยิ่งทะนงอันผ่าเผยที่หาได้ยาก ก่อนหน้านี้นางได้เห็นซูหนิวผ่านทางร่างแยก จึงรู้ว่าความงดงามของเด็กสาวผู้นี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่านางเลยแม้แต่น้อย


 


นางรู้สึกฮึกเหิมและต้องการสยบศูหนิว เพื่อขึ้นครองตําแหน่งภรรยาหลวงของตระกูลหลิง


 


หลิงฮันน้ําหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ออกมาและกะเทาะให้เกิดรู เขากับจักรพรรดินี้ใช้มือคนละข้างกําก้อนหยก พร้อมกับดูดซับแก่นพลังที่อยู่ภายใน


 


“ครื้นนน” ร่างของพวกเขาทั้งสองคนสั่นสะท้าน และระเบิดคลื่นแสงสว่างเจิดจ้า ตราประทับมากมายที่ไม่ซ้ํากันแม้แต่อันเดียวค่อยๆ ปรากฏออกมา


 


หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง.. ห้าชั่วโมง… หนึ่งวัน!


 


หลิงฮันและจักรพรรดินี้เขาสู่สภาวะอิ่มตัว และไม่สามารถดูดซับพลังของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ได้อีกต่อไป


 


เพียงแต่แก่นพลังของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ ยังคงหลั่งไหลออกมาจากรูอย่างไม่สิ้นสุด


 


หลิงฮันขมวดคิ้ว หากปล่อยไว้แบบนี้จะไม่ใช่เป็นการทําให้ หยกต้นกําเนิดวิ ถีสวรรค์เสียเปล่าหรอก?


 


เขาเคยคิดว่าจะแบ่งแก่นพลังที่เหลืออยู่ของก้อนหยกให้กับซูหนิว เพียงแต่ตอนนี้เขาอยู่ในสภาวะรู้แจ้งที่กําลังจะทะลวงผ่านระดับห้านิพพานแล้ว หากทิ้งระยะเวลาไว้นานเกินไป และสูญเสียพลังของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ที่ดูดซับเข้ามาอยู่ในร่างกายไปล่ะก็ ความพยายามหลายเดือนที่ผ่านมาของเขาก็จะกลายเป็นสูญเปล่า


 


หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาออกมาจากหอคอยทมิฬ และย้ายเข้าไปในอุปกรณ์มิติแทน


 


“รับไป!” เขาโยนหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ที่ยังมีแก่นพลังเหลืออยู่ออกไป ก่อนจะออกจากอุปกรณ์มิติอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ธิดาโรัวตกอยู่ในความมึนงง


 


ช่างน่าปวดใจนัก!


 


สมบัติที่ล้ําค่าเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมต้องการนําไปใช้กับคนของตนเอง เพียงแต่ตอนนี้นอกจากฏหนิวจะวิ่งเลยไปแล้ว สตรีนกอมตะก็ยังไม่บรรลุระดับโลกียนิพพานอีก ส่วนเขาหากดูดซับพลังของมันมากไปกว่านี้ล่ะก็ ร่างกายจะต้องระเบิดตายแน่นอน


 


เพราะงั้นทางเลือกเดียวจึงมีเพียงมอบให้แก่สตรีจอมยั่วยวนผู้นี้


 


ธิดาโรวรับหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์


 


เจ้าเข้ามาโยนหินใส่ข้าแล้วหนีไปเพื่ออะไร? ข้าไปทําอะไรให้เข้ากัน เจ้าถึงต้องโยนหินใส่ข้าด้วย?


 


เพียงแต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อสัมผัสถึงพลังงานที่หลั่งไหลออกมาจาก หยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ได้ สีหน้าของธิดาโร่วก็แปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึง


 


นางรีบหยิบหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ขึ้นมา และนั่งบ่มเพาะดูดซับผลประโยชน์จากมัน


 


หลังจากชี้นําแก่นพลังของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์เข้าสู่ร่าง นางก็ตระหนักได้ทันทีว่าสิ่งนี้คือสมบัติที่ล้ําค่าไม่ผิดแน่ เนื่องจากรากฐานพลังบ่มเพาะที่มีข้อบกพร่องก่อนหน้านี้ของนางค่อยๆ ถูกขัดเกลาให้สมบูรณ์แบบไล่มาทีละระดับ


 


ธิดาโร่วตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ศักยภาพของนางกําลังยกระดับจากราชาทั่วไป ขึ้นเป็นราชาในหมู่ราชา ยิ่งนางเป็นผู้ครอบครองแก่นกําเนิดนิรันดร์ด้วยแล้ว หลังจากกลายเป็นราชาในหมู่ราชาอนาคตของนางย่อมรุ่งโรจน์ไร้สิ่งกีดขวาง


 


หลิงขั้น ข้าคิดว่าเจ้าเกลียดข้าเสียอีก เหตุใดเจ้าถึงได้มอบสมบัติล้ําค่าเช่นนี้ให้ข้ากัน?


 


หรือนี่จะเป็นของขวัญที่สื่อถึงความรักกัน?


 


หลังจากกลับมายังหอคอยทมิฬแล้ว หลิงฮันก็เริ่มทําการฝึกฝนใต้ต้นสังสารวัฏ


 


กลอนประตูสู่ระดับห้านิพพานของเขาได้ถูกปลดออกแล้ว เพียงแต่เขาจะสามารถผลักประตูให้เปิดหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง


 


ภายใต้ต้นสังสารวัฏ วันเวลาได้ผ่านพ้นไปราวกับติดปีก


 


ร่างของหลิงฮันและจักรพรรดินีปลดปล่อยคลื่นแสงอันเจิดจ้าออกมา โดยที่แสงเหล่านั้นได้พัวพันกัน กลายเป็นบอลแสงแห่งเต๋าขนาดใหญ่ ปกคลุมไปทั่วร่างของพวกเขา


 


ทุกครั้งที่บอลแสงกระเพื่อม คลื่นพลังอันรุนแรงก็จะปะทุออกมา คลื่นพลังที่ว่านี้ไม่ได้ส่งผลแค่ในหอคอยทมิฬเท่านั้น แต่แม้กระทั่งทั่วทั้งยอดเขาสามตะวัน ก็ยังสามารถสัมผัสถึงมันได้


 


สิบปี… ร้อยปี พันปี!


 


หลังจากเวลาใต้ต้นสังสารวัฏผ่านไปหนึ่งพันปีเต็ม หลิงฮันและจักรพรรดินีก็ลืมตาขึ้นพร้อมกัน “ตูม” บอลแสงรอบกายพวกเขาแตกออก ภายในดวงตาของพวกเขาตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นลูกตาได้แม้แต่นิดเดียว โดยสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาแทนคือห้วงอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุด


 


ร่างของพวกเขาปลดปล่อยออร่าที่เหนือกว่าสี่นิพพาน แต่กลับยังเป็นสัมผัสของระดับโลกี้ยนิพพาน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประหลาดมาก


 


ห้านิพพาน!


 


ไม่สิ… พวกเขายังไม่ได้ตัดนิพพานเลย มีเพียงหลังจากผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์สําเร็จแล้วเท่านั้น พวกเขาถึงจะนับว่าได้กลายเป็นจักรพรรดิที่แท้จริง


 


“เริ่มกันเถอะ”


 


ทั้งสองคนออกมาจากหอคอยทมิฬพร้อมกัน และนํายันต์ไม้ท้อผูกชะตาออกมาแปะไว้บนศีรษะ


 


“ครื้นนน” สวรรค์และปฐพี่ส่งเสียงคําราม พร้อมกับเมฆสีดําสองก้อนได้ถูกก่อตัวขึ้นอย่างรวด


 


ห้านิพพาน… การตัดนิพพานในขั้นพลังนี้ถือว่าเป็นการตัดขาดกับสวรรค์และปฐพีอย่างสมบูรณ์ ราวกับจะไม่ถูกสวรรค์และปฐพีผูกมัดอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่สวรรค์ไม่อาจยอมให้เกิดขึ้น!


 


เพราะงั้นทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ในครั้งนี้ จึงแฝงไว้ด้วยโทสะอันสูงสุดของสวรรค์ ที่ต้องการจะชําระล้างผู้กบฏให้สิ้นซาก


 


เพียงแต่ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาก็ทําหน้าที่ของมัน


 


ถึงแม้สมบัติจากแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีพฤกษาชิ้นนี้ จะไม่ได้ช่วยจอมยุทธในการยกระดับพลังบ่มเพาะหรือช่วยให้รู้แจ้ง แต่มันก็มีความสามารถพิเศษอย่างการช่วยลดทอนอํานาจของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ให้เบาลง


 


ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาทั้งสองชิ้นส่องแสงขึ้นสู่ท้องฟ้า และปลดปล่อยคลื่นพลังอันแปลกประหลาดออกมา จนทําให้ยอดเขาสามตะวันแห่งนี้ดูราวกับเป็นโลกอันแบ่งแยก ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกับสวรรค์และปฐพี


 


อํานาจของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ลดลงทันที ถึงแม้พลังทําลายของมันจะยังเกินกว่าระดับสี่นิพพาน แต่อย่างน้อยก็ไม่เกินไปกว่าระดับตัดวิญญาณหยาง


ตอนที่ 1918 ไล่ล่า


 


“โอ้?” ราชานิรันดร์หย่งชางแหงนมองท้องฟ้า และเผยสีหน้าประหลาดใจ


 


ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่สัมผัสสวรรค์ของเขานั้นกว้างใหญ่ไพศาล ตอนนี้เพียงแค่มองขึ้นไปเฉยๆเขาก็สามารถรับรู้ได้แล้วว่ากําลังมีอะไรเกิดขึ้น


 


ตัดผ่านห้านิพพาน และยันต์ไม้ท้อผูกชะตา


 


สองสิ่งนี้คือสิ่งที่อยู่คู่กัน เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีใครคนไหน สามารถรอดพ้นจากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของระดับห้านิพพานได้ โดยไม่ใช่ยันต์ไม้ท้อผูกชะตา


 


“เป็นเด็กน้อยคนไหนกัน ที่ครอบครองสมบัติเช่นนั้น?” ราชานิรันดร์หย่งชางรู้สึกสงสัย ต้นท้อผูกชะตานั้นเป็นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีพฤกษา ที่เมื่อหลายล้านปีที่ผ่านๆ มา ได้ถูกเหล่าปรมาจารย์ที่ทรงพลังตัดไปแล้วจนแทบไม่เหลือแล้ว ในยุคสมัยนี้ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาที่ทุกคนมี ใช้จึงล้วนแต่เป็นสิ่งที่ถูกส่งต่อมาจากยุคก่อน


 


นอกจากนั้นผู้ที่สามารถบรรลุระดับนิพพานได้ ต่อให้เป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับเก้าก็มีอยู่เพียงหยิบมือ


 


ในขุมอํานาจที่ยิ่งใหญ่แต่ละยุคสมัย รุ่นเยาว์ที่จะบรรลุระดับพลังนี้ได้มีเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น


 


แต่ทว่าตอนนี้ คนถึงสองคนกลับกําลังทะลวงผ่านระดับห้านิพพานพร้อมกัน เพราะงั้นจึงไม่แปลกที่แม้แต่ราชานิรันดร์ระดับแปดเช่นเขา ก็ยังประหลาดใจ


 


หลี่ว์ไห่หรงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ถึงแม้พลังของนางจะไม่ได้สูงส่งเท่าราชานิรันดร์หย่งชางแต่ตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ก็เป็นถึงขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับเก้า นางจึงรู้เรื่องนี้ดีกว่าราชานิรันตร์หย่งชางเสียอีก


 


ต่อให้เป็นตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาที่เหลืออยู่ก็มีไม่มากแล้ว


 


“น่าสนใจ! น่าสนใจยิ่งนัก!” ราชานิรันดร์หย่งชางดวงตาส่องประกาย และสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง


 


เขาไม่รู้สึกสนใจอะไรในตัวหลิงฮันมาก่อน จนกระทั่งได้เห็นทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ เมื่อสายตาของเขากวาดมอง สิ่งที่เขามองเห็นก็ไม่ได้มีเพียงแค่ยันต์ไม้ท้อผูกชะตา


 


“แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีเพลิงบรรพบุรุษ กับวารีบรรพบุรุษ!” ราชานิรันดร์หย่งชาง พึมพํา “อํานาจต้นกําเนิดทั้งสองที่แม้แต่ราชานิรันดร์ก็ยังยากที่จะมีในครอบครอง แต่เขากลับมีอยู่ถึงสอง”


 


แววตาของหลิวไห่หรงเองก็ส่องประกาย นางเกิดความคิดขึ้นมาทันทีว่า จะต้องนําแก่ นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ทั้งสองนี้ไปให้ฮูหนิวดูดกลืนให้ได้


 


“โอ้ ดูเหมือนเจ้าหนูผู้นี้จะมีชื่อว่าหลิงฮันนะ” ราชานิรันดร์หย่งซางยิ้ม


 


ว่าไงนะ!


 


หลี่วไห่หรงอ้าปากค้าง และกลายเป็นไร้คําพูดในทันที


 


หรือหลิงฮันผู้นี้จะเป็นหลิงฮันคนที่ชูหนวกําลังตามหา?


 


ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้


 


ฮูหนิวมั่นใจเป็นอย่างมากว่าหลิงฮันนั้นยังไม่ตาย ถ้าเกิดหลิงฮันผู้นี้เป็นคนเดียวกันจริงนางก็พอเข้าใจได้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงสามารถหลบหนีจาก คลื่นปะทะของตัวตนระดับข้ามผ่า นต้นกําเนิดแท็ได้


 


ขนาดแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่เขายังมีครอบครองถึงสอง เพราะงั้นมีรีที่เขาจะไม่มีไพ่ลับอื่นที่เอาไว้ใช้รักษาชีวิตตนเอง?


 


น่าเสียดายเป็นอย่างมาก หากเป็นแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ที่จะชิงแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ทั้งสองนี้ไปให้ฮูหนิว


 


“พรึบ” ทันใดนั้นเองร่างหนึ่งก็เหาะเหินเข้ามา ร่างที่ว่านี้คือชายชราผมขาวที่บนหัวแทบจะไม่เหลือเส้นผมให้เห็น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นราวกับคนใกล้ตายและมีออร่าเที่ยว เฉาปกคลุมไปทั่วร่าง


 


อสูรเฒ่าเงาโลหิต!


 


“เจ้าหนู คิดว่าการที่เจ้าแอบหนีออกมา จะทําให้ชายชราผู้นี้จะไล่ตามเจ้ามาไม่ได้งั้นรึ? ช่างไร้เดียงสา!” ชายชราแสยะยิ้ม โดยไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของราชานิรันดร์ทั้งสอง


 


ตราบใดที่ราชานิรันดร์ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน ต่อให้พวกเขายืนอยู่ต่อหน้า ผู้คนก็จะไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้!


 


“เจ้าหนู คิดจริงๆ รีว่าข้าจะหาเจ้าไม่พบ?” อสูรเฒ่าเงาโลหิตพึมพํากับตัวเอง


 


เขาแอบรอคอยอยู่ด้านนอกเมืองวิถีโอสถมาโดยตลอด และได้รู้ว่าหลิงฮันกลายเป็นผู้สืบทอดคนใหม่ของเมืองวิถีโอสถ หากกล่าวตามตรงแล้ว ในตอนที่ได้ยินข่าวนี้เป็นครั้งแรก ตัวเขานั้นตกตะลึงมากจริงๆ


 


เขาสั่งให้เจ้าหนูผู้นี้ไปเป็นผู้ติดตามของหลู่เซียนหมิง และคอยช่วยเหลืออีกฝ่ายเพื่อที่จะได้มีโอกาสแย่งชิงยันต์ไม้ท้อผูกชะตาแท้ๆ แต่เจ้าหนูนี้กลับกลายเป็นผู้สืบทอดเองเสียได้


 


เพียงแต่หลังจากหายจากอาการตกตะลึงแล้ว ความรู้สึกของเขาก็เอ่อล้นไปด้วยความตื่นเต้น


 


ทีนี้หลิงฮันก็จะนํายันต์ไม้ท้อผูกชะตากลับมาให้เขาได้แน่นอน


 


เพียงแต่หลังจากรอมานานสองนานเพื่อให้หลิงฮันกลับมาหา ชายชราก็เริ่มอดทนไม่ ไหวจนต้องแอบลอบเข้าไปในเมือง เพียงแต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกพบตัวและมีการปะทะที่รุนแรงเกิดขึ้น ก่อนจะเผ่นหนีออกมา


 


แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามาถจับกุมตัวใครบางคนมาได้ เมื่อทําการตรวจสอบความทรงจําจากดวงวิญญาณของคนผู้นั้นแล้ว ชายชราถึงได้รู้ว่าหลิงฮันออกจากเมืองวิถีโอสถไปยังสถานที่นัดพบกับเอี๋ยนเซียนลู่


 


ด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบไล่ตามมาที่นี้ในทันที ถึงแม้ราชานิรันดร์หย่งชางจะเป็นตัวตนที่น่ายําเกรงแต่เขาก็ไม่ได้คิดจะล่วงเกินอีกฝ่าย และมานําตัวจอมยุทธหรือนักปรุงยาตัวจ้อยผู้หนึ่งกลับไปเท่านั้น เพราะงั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่ราชานิรันดร์หย่งชางจะให้ความสนใจ


 


ยิ่งกว่ามีรีที่ราชานิรันดร์จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของหลิงฮัน?


 


ช่างน่าขั้น!


 


เพียงแต่สําหรับยอดเขาสามตะวันแห่งนี้นั้น ชายชราไม่สามารถไต่ขึ้นไปได้ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้คือสถานที่แห่งการบรรลุเป็นราชานิรันดร์ ที่ราชานิรันดร์หย่งชาง กําหนดเอาไว้ให้เพียงแค่จอมยุทธระดับโลกียนิพพานเท่านั้นที่สามารถไต่ขึ้นเพื่อรับวาสนาได้ สําหรับจอมยุทธระดับอื่น ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขึ้นไปยังภูเขาได้


 


นอกเสียจากว่าคนผู้นั้นจะแข็งแกร่งกว่าราชานิรันดร์หย่งชาง!


 


“พรึบ คลื่นแสงอัสนี้ส่องประกาย พร้อมกับชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งได้ปรากฏตัวอย่างเงียบเฉียบ


 


ป้าเยา!


 


หลังจากตอนที่กลับไปตําหนักเมฆาอัสนี และรายงานเรื่องของหลิงฮันแล้ว เขาก็หาข้ออ้างแอบออกมาเพียงคนเดียว


 


แน่นอนว่าที่ทําแบบนั้นก็เพื่อตามล่าหลิงชั้น


 


ด้วยการที่เขาเป็นคนของขุมอํานาจราชนิรันดร์ สายตาของเขาย่อมเฉียบคมกว่าอสูรเฒ่าเงา โลหิตจึงมั่นใจว่าสมบัติที่หลิงฮันครอบครองอยู่นั้นจะต้องล้ําค่าหาสิ่งใดเปรียบแน่นอน ที่เป็นไป ได้มากที่สุดก็คือสมบัตินั่นอาจจะเป็นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี หรือไม่ก็อุปกรณ์ที่มีพลังระดับราชานิรันดร์


 


“สถานที่แห่งการบรรลุเป็นราชานิรันดร์!” ป้าเยาแหงนมองยอดเขาสามตะวัน และเผยสีหน้าเลื่อมใส


 


ราชานิรันดร์หย่งชางคือตัวตนสูงส่ง ที่เมื่อเทียบกันแล้ว ราชานิรันดร์เหลยหยุนก็ไม่ต่างอะไรจากมดปลวกตั้วจ้อย!


 


ต่อให้เป็นในความฝัน เขาก็ไม่กล้าจินตนาการว่าตนเองจะบรรลุพลัง ที่สูงส่งขนาดนั้นได้ ความหวังของเขาคือขอแค่ทะลวงผ่านกลายเป็นราชานิรันดร์ได้ก็พอ


 


ในตอนที่เขายังเป็นผู้สืบทอด เขามีความมั่นใจมากว่าตนเองจะบรรลุระดับพลังที่ว่าสําเร็จ แต่ยิ่งพลังบ่มเพาะสูงขึ้นเท่านั้น เขาก็เริ่มค้นพบว่าราชานิรันดร์นั้น เป็นระดับพลังที่ยากเกินจะเอื้อมถึง!


 


ในรอบหลายล้านล้านปี ที่ตําหนักเมฆาอัสนี้มีผู้สืบทอดถือกําเนิดขึ้นมากมาย แต่คิดว่ามีกี่คนกันที่บรรลุเป็นราชานิรันดร์ได้?


 


ไม่มีแม้แต่คนเดียว!


 


“จะบรรลุเป็นราชานิรันดร์ได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสนี้แล้ว!”


ตอนที่ 1919 ห้านิพพาน!


 


ภายในภูเขา หลิงฮันกับจักรพรรดินีแยกกันไปคนละทิศ เพื่อรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์


 


โชคดีที่ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาสามารถทําหน้าที่ของมันได้ดี ความรุนแรงของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์จึงลงมาบางส่วน แม้อํานาจของมันจะยังทรงพลังเกินกว่าระดับสี่นิพพาน และใกล้เคียงกับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของระดับแบ่งแยกวิญญาณ แต่มันก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ทั้งสองคนรับมือไหว


 


ครีนนน!


 


อสนีบาต, อสุนีบาตขนาดหลายหมื่นฟุตผ่าลงมา จนส่งผลให้ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือน ราวกับสวรรค์กําลังร่ําไห้


 


หลิงอันสงบนิ่งเป็นอย่างมาก เขาโคจรทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์พร้อมกับสลายการป้องกันของกายหยาบ เพื่อขัดเกลาร่างกายด้วยทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เหมือนทุกที


 


ส่วนในด้านของจักรพรรดินี ถึงแม้นางจะไม่มีความสามารถที่ผิดมนุษย์มนาเหมือนหลิงฮัน แต่ร่างแยกทั้งเก้าของนางก็ช่วยให้นางสามารถต้านทาน อํานาจทําลายล้างอันทรงพลังของสวรรค์และปฐพี่ได้


 


ตูม!


 


ตูม!


 


ตูม!


 


หลิงขั้นรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทานของเขา แม้จะสลายพลังป้องกันไปแล้ว บาดแผลที่เกิดขึ้นก็มีเพียงรอยถลอกเล็กน้อยตามผิวหนังเท่านั้น ยิ่งหากเขาไม่สลายพลังป้องกันแล้วล่ะก็ เขาสามารถนอนหลับในขณะรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้เลย


 


ทางด้านของจักรพรรดินีนั้น นางเองก็ไม่ได้รับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์อย่างยากลําบาก ร่างทั้งสิบของนางสามารถช่วยกันแบ่งเบาอํานาจของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้ เพราะงั้นถึงแม้สภาพของนางจะไม่ได้ดูเรียบง่ายเหมือนหลิงฮัน แต่ก็ไม่ได้ลําบากอะไร


 


ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพราะยันต์ไม้ท้อผูกชะตา ที่ทําหน้าที่ลดพลังทําลายของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้อย่างดีเยี่ยม


 


หลิงฮันอดคิดไม่ได้ว่า หากมียันต์ไม้ท้อผูกชะตามากพอ ให้ใช้ต้านทานทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ในทุกระดับพลังล่ะก็ ไม่ใช่ว่าใต้ท้องฟ้านี้จะมีปรมาจารย์ ที่มีพลังบ่มเพาะสูงส่งเกิดขึ้นอีกมากมายเลยงั้นรี


 


“ช่างเป็นความคิดที่เพ้อเจ้อ” หอคอยน้อยเอ่ยแทรกด้วยน้ําเสียงหยิ่งยโส


 


“ข้าไม่ได้ถามความเห็นเจ้าเสียหน่อย” หลิงฮันสบถอย่างไม่สบอารมณ์ หอคอยน้อยตนนี้ชอบขัดเขาไปเสียทุกเรื่องเลยเชียว


 


หอคอยน้อยเมินเฉยคําพูดของหลิงฮันและกล่าวต่อ “ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาจะถูกดึงประสิทธิ์ภาพออกมาได้สูงสุดเพียงการใช้งานครั้งแรกเท่านั้น มันก็เหมือนกับการใช้เม็ดยา ที่ยิ่งใช้ติดต่อกัน ผลลัพธ์ก็จะต่ําลงจากครั้งแรกๆ ”


 


หลิงฮันอุทาน “โอ้” ออกมา ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง


 


“ต่อให้เป็นในมหาขุมอํานาจ ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาก็ถูกใช้กับทัณฑ์สายฟ้าในระดับห้านิพพานเท่านั้นหากในทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ทั่วไป ยังจําเป็นต้องใช้ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาล่ะก็ คนผู้นั้นก็คงเป็นขยะที่ไร้ค่าเกินกว่าจะทุ่มเททรัพยากรให้” หอคอยน้อยกล่าวอย่างเหยียดหยาม


 


“ข้ามีความรู้สึกจากลางสังหรณ์ว่า หลังจากที่เจ้าบรรลุระดับห้านิพพาน หอคอยทมิฬจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!” จู่ๆ หอคอยน้อยก็เปลี่ยนน้ําเสียง หลิงฮันสัมผัสได้ว่าน้ําเสียง ขอหอคอยน้อยในตอนนี้แฝงเอาไว้ด้วยความรู้คาดหวังเล็กน้อย


 


แม้จะเป็นเพียงการพูดคุยผ่านสัมผัสสวรรค์ก็ตามที แต่หลิงฮันกับหอคอยน้อยจงใจใช้คําว่า “หอคอยทมิฬ” เพื่อเลี้ยงคําว่าหอคอยสามภาพ


 


หลังจากหลิงฮันแน่นิ่งไปครู่หนึ่ง เขาก็กล่าว “ช่างน่าแปลก ข้าจะไม่ได้ทะลวงผ่านไปยังระดับพลังใหม่เสียหน่อย เหตุใดจๆ หอคอยทมิฬถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงกัน? แถมยบังเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วย”


 


“ห้านิพพาน… การตัดขาดสวรรค์และปฐพี่ที่สมบูรณ์ คือปัจจัยที่ทําให้ตัวเจ้ากลาย เป็นสวรรค์และปฐพีตัวเจ้าจะกลายเป็นเอกภาพที่ไร้ข้อผูกมัด!” น้ําเสียงของหอคอยน้อยกลับไปเป็นแบบเดิม “มีราชานิรันดร์มากมายที่ไม่สามารถบรรลุห้านิพพานได้ ทั้งๆ ที่ขั้นพลังนี้คือธรณีประตูสู่ระดับพลังสูงสุด”


 


“แต่ก็นะ หากเจ้าไม่สามารถบรรลุระดับห้านิพพานได้ หลังจากที่เจ้าบรรลุเป็นตัวตนระดับแบ่งแย่งวิญญาณ ข้าคงจะต้องทิ้งเจ้าไปหาผู้ครอบครองใหม่”


 


“นั่นเพราะตลอดชีวิตนี้ เจ้าจะไม่สามารถทําภารกิจที่ข้ามอบหมายได้สําเร็จ!”


 


หอคอยน้อยกล่าวออกไปตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อม


 


ในชั่วขณะหนึ่ง หลิงฮันไม่รู้ว่าตนเองควรจะรู้สึกอย่างไรดี


 


เห็นได้ชัดว่าหอคอยน้อยไม่เคยตระหนักว่าเขาเป็นเจ้านายเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่เป็นนายของหอคอยทมิฬก็คือตัวหอคอยน้อยเอง หากคนที่มันเลือกทําตามเป้าหมายไม่ได้ มันก็ไม่รังเกียจที่จะเปลี่ยนไปเลือกคนอื่นแทน!


 


บางทีที่หอคอยทมิฬไปปรากฏขึ้นที่ทมิฬฮงเทียน ก็อาจเป็นเพราะหอคอยน้อยทําการละทิ้ง “ผู้ถูกเลือก” คนก่อนก็เป็นได้


 


“อย่าได้คิดอะไรฟุ้งซ่านเอาเอง” หอคอยน้อยกล่าว “ตั้งแต่ต้นจนถึงจุดสิ้นสุด ผู้ที่จะเป็นผู้ปกครองหอคอยทมิฬ ก็มีเพียงเจ้าแค่คนเดียว”


 


“เวลาเจ้าปลอบข้าแบบนี้ ข้ารู้สึกได้เลยว่าเจ้าไม่ได้จริงจังแม้แต่น้อย!” หลิงขั้นหัวเราะ


 


ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร หอคอยทมิฬก็ช่วยทําให้เขาเติบโตมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน กล่าวได้ว่าหากไม่มีหอคอยทมิฬ เขาก็อาจจะบรรลุความสําเร็จสูงสุดของศาสตร์ปรุงยาได้ แต่กับศาสตร์วรยุทธคงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง


 


หรือบางทีเขาอาจจะถูกหลอมกลายเป็นส่วนหนึ่งของเม็ดยา โดยเงื่อมมือของห้านิกายโบราณและไร้ตัวตนไปนานแล้วก็เป็นได้


 


“งั้นก็ขอข้าคาดหวังในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของหอคอยทมิฬหน่อยแล้วกัน!” หลิงฮันฟื้นฟูการป้องกันของกายหยาบกลับมา ทั้งๆ ที่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ยังไม่สิ้นสุด แต่เขากลับ ยกฝ่ามือขึ้นสู่ท้องฟ้า


 


เขาจะทําการตัดผ่านห้านิพพานเสียตั้งแต่ตอนนี้


 


พรึบ” หลิงอันตรึงมือเป็นรูปร่างกระบี่และสะบั้นเข้าใส่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ เห็นได้ชัดว่าทั้งๆที่เขาเพียงแค่ทําท่าฟันกระบี่ ไม่ใช่การฟันด้วยกระบี่จริงๆ แต่ท้องฟ้ากับปรากฏแสงสว่างราวกับสวรรค์และปฐพี่กําลังถูกตัดขาด


 


สวรรค์และปฐพี่ส่งเสียงคํารามด้วยความพิโรธ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าน้ําเสียงนั้น เป็นเสียงคํารามของมนุษย์หรือสัตว์อสูร แต่มันก็ทําให้จิตวิญญาณของคนที่ได้ยิน เกิดการสั่นสะท้านด้วยความกลัว


 


ครืนน ครืนนน” อสนีบาต อสุนีบาตครั้งต่อไปที่ผ่าลงมา มีพลังทําลายที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอสุนีบาต อสุนีบาตแปรสภาพกลายเป็นรูปทรงของขวาน และทะลวงเข้าใส่หลิงฮันด้วยเจตนาที่ต้องการจะบดขยี้ให้สิ้นซาก


 


หลิงฮันเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาในจิตใจ ราวกับตัวของเขาได้หลุดพ้นออกมาจากสวรรค์และปฐพี


 


ที่ผ่านๆ มา เขากับสวรรค์และปฐพี่นั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน เปรียบแล้วก็เหมือนกับตัวเขา เคือหยดน้ําหนึ่งหยดในมหาสมุทรเพียงแต่ตอนนี้ตัวเขาได้เปลี่ยนจากหยดน้ํามาเป็นมัจฉา ที่ถึงแม้จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยขาดมหาสมุทรได้ แต่ก็สามารถแหวกไปที่มุมใดของมหาสมุทรก็ได้ตามต้องการ


 


“พรึบ ร่างของปลดปล่อยคลื่นแสงบางอย่างออกมา คลื่นแสงนี้แม้จะเรือนราง แต่กลับแฝงเอาไว้ด้วยอํานาจที่ทรงพลัง


 


นี่คือ…. แสงแห่งวิถีวรยุทธของตัวเขาเอง!


 


“ตูม” และทันใดนั้นเอง คลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัว ก็ปะทุออกมาจากร่างของเขา คลื่น แสงอันเรือนรางได้ถูกแทนที่ด้วยคลื่นแสงที่เข้มข้นแทน


 


ห้วงเวลา!


 


ห้วงมิติ!


 


อํานาจสังหาร!


 


อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสาม ที่อยู่บนจุดสูงสุดของอํานาจแห่งกฏทั้งหมด ระเบิดออกมาจากร่างของหลิงฮันพร้อมกันอย่างไม่คาดคิด


 


หอคอยทมิฬสามชั้นที่เหลือ… ถูกเปิดออกแล้ว!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)