Alchemy Emperor of the Divine Dao 1888-1889
ตอนที่ 1888 คารวะอาจารย์
ปรมาจารย์จื่อเฉิงพอใจในสีหน้าของหลิงฮันในตอนนี้มาก นี่ล่ะคือสิ่งที่เขาต้องการเห็น
“เจ้าอยากรู้รึไม่ว่าข้าทำได้อย่างไร?” ปรมาจารย์จื่อเฉิงหัวเราะ
“ข้าอยากรู้!” หลิงฮันพยักหน้าถี่
ปรมาจารย์จื่อเฉิงพยักหน้าตอบและกล่าว “ที่ข้าทำเมื่อครู่คือสิ่งที่เรียกว่าห้วงจิตปรับแต่ง มันคือขั้นตอนในการชี้นำอำนาจแห่งเต๋าของสวรรค์และปฐพีเข้าสู่เม็ดยา เพื่อยกระดับคุณภาพของเม็ดยา ห้วงจิตปรับแต่งนั้นสามารถทำได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ในแต่ละครั้งประสิทธิภาพของเม็ดยาก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ”
ชายชราแน่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “เท่าที่ข้ารู้ ห้วงจิตปรับแต่งนั้นสามารถทำได้ทั้งหมดเก้าครั้ง”
“เพียงแต่ว่า ยิ่งปรับแต่งเม็ดยาหลายครั้ง ความยากในการปรับแต่งก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งหากการปรับแต่งครั้งใดล้มเหลว… เม็ดยาก็จะถูกทำลาย”
“ความสามารถของนักปรุงยาไม่ได้วัดเพียงแค่ว่าเป็นนักปรุงยากี่ดาว แต่ยังมีเรื่องของการปรับแต่งเม็ดยาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีเพียงนักปรุงยาที่ใช้ห้วงจิตปรับแต่งได้ห้าครึ่งขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะมีคุณสมบัติเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์”
หลิงฮันอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกไปด้วยความสงสัย “แล้วผู้อาวุโสสามารถปรับแต่งเม็ดยาได้กี่ครั้งกัน?”
ปรมาจารย์จื่อเฉิงยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ยิ่งระดับของเม็ดยาสูงขึ้น ความยากในการปรับแต่งก็จะยากขึ้นตามไปด้วย ส่วนขีดจำกัดของข้านั้น อยู่ที่ห้วงจิตปรับแต่งเจ็ดขั้น!”
ห้วงจิตปรับแต่งเจ็ดขั้น หรือก็คือสามารถยกระดับคุณภาพของเม็ดยาได้เจ็ดครั้ง ประสิทธิภาพของเม็ดยาหลังจากถูกปรับแต่งแล้ว ไม่รู้ว่าจะดีกว่าเม็ดยาดั้งเดิมกี่เท่ากัน
“เจ้าอยากเรียนทักษะที่ว่ารึไม่?” ปรมาจารย์จื่อเฉิงมองไปยังหลิงฮันด้วยรอยยิ้ม และสายตาที่คาดหวัง
การได้ฝึกสอนลูกศิษย์จนประสบความสำเร็จเหนือว่าตนเองได้นั้น คือเป้าหมายอันสูงส่งของเขา
“ข้าต้องการ!” หลิงฮันรีบพยักหน้า
ปรมาจารย์จื่อเฉิงเผยสีหน้าภาคภูมิใจ “ถ้าเช่นนั้นเจ้าคิดว่าตนเองมีคุณสมบัติใด ที่ข้าจะต้องรับเจ้าเป็นศิษย์?”
เรื่องนี้…
หลิงพยายามครุ่นคิด เรื่องพรสวรรค์ในศาสตร์วรยุทธนั้นเขาคงกล่าวออกไปไม่ได้ เนื่องจากเหล่าคนที่เป็นนักปรุงยานั้น ไม่ค่อยให้ความสนใจกับศาสตร์วรยุทธเท่าไหร่ แต่ถ้าหากกล่าวถึงความสามารถในศาสตร์ปรุงยาแล้ว ปรมาจารย์จื่อเฉิงก็เป็นตัวตนที่แทบจะยืนอยู่บนจุดสูงสุด เพราะงั้นมีเหตุผลอันใดที่อีกฝ่ายต้องมาสนใจความสามารถในการหลอมยาของเขา?
หลิงฮันเกาหัว หรือว่าอีกชายชราต้องการให้เขากล่าวออกไปอย่างมั่นใจกันแน่ว่า ‘ข้าจะเป็นนักปรุงยาห้าดาวได้แน่นอน’
เพราะการที่ได้เป็นผู้ฝึกสอนนักปรุงยาห้าดาวในอนาคตนั้น ผู้ที่เป็นอาจารย์ยอมได้รับเกียรติไปด้วย
แต่ก็น่าเสียดายที่ในยุทธภพ ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า ตนเองจะสามารถบรรลุเป็นราชานิรันดร์ หรือนักปรุงยาห้าดาวได้
“ถ้างั้นข้าจะเปลี่ยนคำถาม” ปรมาจารย์จื่อเฉิงไม่ได้คิดจะต้อนหลิงฮันให้จนมุม เพราะไม่งั้นแล้วเขาคงไม่พูดคุยกันหลิงฮันมานานสองนาน
เหตุผลที่เขาต้องการไล่ต้อนหลิงฮัน ก็เป็นเพราะอยากลบล้างความหยิ่งทะนง และความมั่นใจที่มีมากเกินไปก็เท่านั้น
“ทำไมเจ้าถึงเรียนรู้ศาสตร์ปรุงยา?”
ทำไมถึงเรียนรู้ศาสตร์ปรุงยางั้นรึ?
หลิงฮันครุ่นคิดและพบว่าจุดประสงค์ของเขานั้นมีมากมายเหลือเกิน
ที่เขาฝึกฝนการปรุงยาก็เป็นเพราะต้องการนำเม็ดยามาใช้กับตัวเอง แบ่งปันให้พวกพ้องรอบตัว หรือใช้มันเพื่อสร้างมิตร และแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติอื่นๆที่เงินไม่สามารถซื้อได้
หลิงฮันครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน และพอนึกถึงนิสัยของปรมาจารย์จื่อเฉิงเขาก็กล่าวออกไป “เพื่อความมั่งคั่ง!”
ตอนที่ 1889 แต่งตั้งเป็นผู้สืบทอด
ในเวลาถัดมา ปรมาจารย์จื่อเฉิงกับหลิงฮันได้พูดคุยกันเกี่ยวกับทักษะห้วงจิตปรับแต่ง และเรื่องของปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวอีกสองคนของเมืองวิถีโอสถ
ปรมาจารย์คนหนึ่งมีชื่อว่าเทียนซิน ซึ่งเป็นตัวตนที่พิเศษอย่างมาก เนื่องจากเขาไม่ได้ถือกำเนิดมาเหมือนมนุษย์ทั่วไป หรือถือกำเนิดมาจากอำนาจสวรรค์ลและปฐพี
เขาคือสิ่งมีชีวิตที่มีร่างกายเป็นเม็ดยานิรันดร์!
ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว แต่ว่าในอดีตกาลเมืองวิถีโอสถแห่งนี้เคยมีนักปรุงยาห้าดาวอยู่ ทั้งชีวิตของนักปรุงยาห้าดาวผู้นี้ เขาได้หลอมเม็ดยาระดับราชานิรันดร์ขึ้นมาทั้งหมดสิบเอ็ดเม็ด ซึ่งเทียนซินก็เป็นหนึ่งในนั้น
สีหน้าของปรมาจารย์จื่อเฉิงกลายเป็นปั้นยากทันที
ศิษย์ตัวน้อยของเขาผู้นี้ช่างเป็นตัวสร้างปัญหาอย่างแท้จริง!
“…เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา!” ชายชรากัดฟัน ถึงแม้เขาจะกล่าวว่าไม่ใช่ปัญหา แต่เส้นเลือดที่บริเวณหน้าผากของเขากลับปูดบวมขึ้นมา
เมืองวิถีโอสถคือขุมอำนาจสี่ดาว ซึ่งปรมาจารย์ที่ทรงพลังที่สุดคือตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ ถึงแม้หากพ่วงสถานะนักปรุงยาเข้าไปด้วย จะทำให้อำนาจของเมืองนี้เทียบเท่าได้กับขุมอำนาจราชานิรันดร์ แต่เทียบเท่าก็คือเทียบเท่า ไม่ว่าอย่างไรก็ยังไม่ใช้ขุมอำนาจห้าดาวอย่างแท้จริง
“ยังดีที่เบื้องหลังของเจ้ามีตำหนักมัจฉาวายุภักษ์อยู่” ปรมาจารย์จื่อเฉิงถอนหายใจ “ในอดีต ข้าเคยไปเยือนดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก เพื่อพบเจอกับปรมาจารย์มากมายและค้นหาวิธีที่จะได้บรรลุเป็นนักปรุงยาห้าดาวมาก่อน งั้นข้าจึงพอรู้จักตำหนักมัจฉาวายุภักษ์อยู่บ้าง”
“ตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ขุมอำนาจราชานิรันดร์ระดับเก้า ต่อให้เป็นในดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก ก็ถือว่าเป็นขุมอำนาจยักษ์ใหญ่อย่างแท้จริง”
“ด้วยอำนาจของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ และการไกล่เกลี่ยจากข้า เรื่องราวที่เจ้าก่อไว้สมควรถูกสะสางได้ไม่ยาก”
“เพราะอย่างไร ทั้งตระกูลจื่อเหอและตำหนักเมฆาอัสนี ก็เป็นเพียงขุมอำนาจราชานิรันดร์ระดับหนึ่งเท่านั้น!”
ประโยคสุดท้ายนี้ ปรมาจารย์จื่อเฉิงกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงหยิ่งทะนง
คนที่กล้าเรียกขุมอำนาจราชานิรันดร์ระดับหนึ่งเช่นนั้น ทั้งๆที่ตนเองเป็นตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ เกรงว่าคงมีเพียงปรมาจารย์จื่อเฉิงเท่านั้น
หลิงฮันพยักหน้า “ข้าสร้างปัญหาให้อาจารย์แล้ว”
ปรมาจารย์จื่อเฉิงจ้องมองด้วยใบหน้ากระอักกระอ่วน “ไม่รู้ทำไม แต่ข้ารู้สึกว่าในอนาคตเจ้าจะนำพาปัญหาที่ยิ่งกว่านี้มาให้ข้า! ให้ตายเถอะ ข้าไม่รู้ว่าการรับเจ้าเป็นศิษย์ จะนำพาความรุ่งโรจน์หรือหายนะมาสู่เมืองวิถีโอสถกันแน่”
หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูด เขาเองก็รับรู้ถึงดวงชะตาที่นำพาหายนะของตนเองดี ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์มาแล้วหลายครั้ง
ละยอมตกลง
ถึงแม้เขาจะเป็นนักปรุงยา แต่เขาก็อยากเห็นการถือกำเนิดของจักรพรรดิในระดับห้านิพพานเหมือนกัน ยิ่งกว่านั้นคือสองคนที่จะเป็นตำนาน ต่างก็เป็นคนมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขาด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น