Alchemy Emperor of the Divine Dao 1871-1872

 ตอนที่ 1871 แม้แต่เจ้าก็ทำให้ข้าผิดหวัง

 

หลิงฮันคำรามและกระทืบเท้า ‘ตูม’ ร่างของเขาพุ่งทะยานอย่างรวดเร็วราวกับลูกศรที่ถูกยิ่ง เข้าหาจ้าวชิงเฟิง


ด้งกายหยาบที่ไร้เทียมทาน ผสานกับอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนี ความเร็วของหลิงฮันจึงรวดเร็วเกินพรรณนา


เขายกหมัดขึ้นและกระหน่ำปล่อยหมัดเข้าใส่จ้าวชิงเฟิง


จ้าวชิงเฟิงตกตะลึงเล็กน้อย ถึงแม้พลังต่อสู้ของหลิงฮันจะด้อยกว่าเขา แต่การที่อีกฝ่ายรับปราณดาบของเขาเข้าไปโดยไม่บาดเจ็บแม้แต่เล็กน้อยนั้น เขาทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย


แต่นี่ล่ะคืออัจฉริยะที่เขาเฝ้ารอ หากหลิงฮันถูกสังหารอย่างง่ายดาย ภายในไม่กี่กระบวนท่า ศาสตร์แห่งวรยุทธของเขาจะถูกขัดเกลาได้อย่างไร?


เขากวัดแกว่งสะบั้นดาบในมือเข้าโจมตีปะทะกับหลิงฮัน


‘ตูม’ เล่มดาบปลดปล่อยกลิ่นอายอันเย็นยะเลือกออกมาพร้อมกับคลื่นแสงอำนาจแห่งเต๋า ดาบเล่มนี้คืออุปกรณ์กึ่งนิรันดร์ เมื่อมีมันถูกใช้ฟาดฟันด้วยพลังของจ้าวชิงเฟิง อำนาจอันไร้สิ้นสุดจึงหลั่งไหลพรั่งพรูออกมา


หลิงฮันคำรามและรีดเค้นพลังของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนีจนถึงขีดสุด ‘ปัง’ การโจมตีของทั้งสองเข้าปะทะกัน โดยที่ร่างของหลิงฮันถูกทำให้ล่าถอยอีกครั้ง


แต่ด้วยกายหยาบที่ไร้เทียมทาน มือขวาที่โจมตีออกไปด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนีเมื่อครู่ของเขา จึงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆจากดาบกึ่งนิรันดร์


คราวนี้จ้าวชิงเฟิงตกตะลึงอย่างแท้จริง


ก่อนหน้านี้เนื่องจากเขาโจมตีด้วยปราณดาบ การที่หลิงฮันจะไม่ได้รับบาดใดๆเลย เขาจึงยังพอรับได้ แต่ตอนนี้ล่ะ? ทั้งๆที่รับเล่มดาบที่ผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารเข้าไปตรงๆ หมัดของหลิงฮันก็ยังไม่ปรากฏบาดแผลเลยแม้แต่น้อย


ร่างของจ้าวชิงเฟิงสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่ว่าเขาหวาดกลัว แต่กำลังตื่นเต้น


คู๋ต่อสู้ดีๆแบบนี้ ช่างหาได้ยากยิ่ง!


หากเขาหาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมไม่ได้จริงๆ คนที่จะมาเป็นคู่ต่อสู้เพื่อขัดเกลาศาสตร์วรยุทธให้กับเขาได้ ก็คงมีเพียงสามราชาสวรรค์ภายใต้การปกครองของเอี๋ยนเซียนลู่ที่เหลืออยู่


แต่แน่นอนว่าเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากหากเอี๋ยนเซียนลู่โกรธ แม้จะเป็นเขาก็ต้องรู้สึกหวาดกลัว


เพราะเหตุนี้ การที่สามารถหาคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ โดยไม่ทำให้เอี๋ยนเซียนลู่โกรธได้ จึงเปรียบเสมือบการได้รับพรจากสวรรค์


“เพื่อเป็นการตอบแทนเจ้า ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างทรมานที่สุด และทำให้โลกนี้จดจำเสียงคร่ำครวญของเจ้า!” จ้าวชิงเฟิงแลบลิ้นออกมาเลียปลายดาบ


หลิงฮันไม่กล้าประมาท เขานำดาบอสูรนิรันดร์ออกมาพร้อมกับโคจรอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนี และพุ่งปะทะกับจ้าวชิงเฟิง


อัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งสองกระหน่ำสะบั้นดาบตอบโต้กันอย่างดุเดือด เสียงปะทะของดาบก้องกังวาลไปทั่วราวกับเสียงฟ้าผ่า


ธิดาโร๋วที่มองดูอยู่เผลอกำหมัดโดยไม่รู้ตัว นางเคยได้ยินกิตติศัพท์ของจ้าวชิงเฟิงมาอย่างดี บุรุษผู้นี้คลั่งไคล้การสังหารอัจฉริยะเป็นอย่างมาก ใครก็ตามที่ตกเป็นเป้าหมายของเขา แทบจะไม่มีเลยแม้แต่คนเดียวที่มีชีวิตรอดหนีไปได้


ถึงแม้นางจะรังเกียจท่าทีเย็นชาของหลิงฮันที่มีต่อนาง แต่นางกับหลิงฮันก็ร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาแล้วหลายครา ทำให้มีสายสัมพันธ์ฉันมิตรเกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เพราะเหตุนี้นางจึงไม่ต้องการเห็นหลิงฮันถูกจ้าวชิงเฟิงสังหาร


ทางด้านของซุนตงนั้น เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จากที่เห็นนั้น จ้างชิงเฟิงคือฝ่ายที่กำลังได้เปรียบอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะงั้นหลิงฮันจะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอน


เฉิงเฟิงหยุนเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน เขาทนรอที่จะให้จ้าวชิงเฟิงสังหารหลิงฮันไม่ไหวแล้ว


หากมองดูจากมุมมองคนนอก หลิงฮันนั้นกำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่จริงๆ เพียงแต่ทุกๆครั้งที่ทั้งสองแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากัน แล้วทุกคนคิดว่าหลิงฮันคงจบสิ้นแล้ว หลิงฮันกลับสามารถยืนหยัดตอบโต้ได้อย่างไม่คาดคิด


รุ่นเยาว์ผู้นี้เองก็… มีพรสวรรค์ที่น่ากลัวราวกับสัตว์ประหลาดเช่นกัน!


รอยยิ้มอันโหดเหี้ยมของจ้างชิงเฟิงค่อยๆกว้างขึ้นเรื่อยๆ อัจฉริยะที่แข็งแกร่งและทนไม่ทนมือแบบนี้ล่ะที่เขาชื่นชอบ ที่ปะทะได้นานเท่าไหร่ โลหิตในร่างของเขาก็ยิ่งสูบฉีด หลังจากที่สังหารหลิงฮันแล้ว มีความเป็นไปได้ที่ประตูสู่นิพพานที่ห้าของเขาจะเปิดออก!


ถึงแม้หลิงฮันจะดูเหมือนตกอยู่ในอันตราย แต่ในความเป็นจริง มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าสถานการณ์ของตัวเขาเองนั้น ไม่ได้อันตรายเลยแม้แต่นิดเดียว


กายหยาบของเขาในตอนนี้ทนทานแทบจะเทียบได้กับ แร่โลหะกึ่งนิรันดร์สามดาว ซึ่งหมายความว่าหากต้องการจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ศัตรูก็ต้องมีพลังต่อสู้ในระดับแบ่งแยกวิญญาณเป็นอย่างน้อย


ห้านิพพานสามารถกล่าวได้ว่าเป็นระดับแบ่งแยกวิญญาณก็จริง แต่พลังของจ้าวเฟิงจะแข็งแกร่งเทียบเท่าระดับห้านิพพานได้งั้นรึ?


ช่างน่าขัน


แถมเหตุผลที่เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็เพราะ พลังบ่มเพาะของเขาต่ำกว่าอีกฝ่ายหนึ่งขั้น แถมการโจมตีที่ปล่อยออกไปก็ยังผสานเอาไว้เพียงแค่ อำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนีเท่านั้น


“หลิงฮัน ถ้าพลังของเจ้ามีแค่นี้ ภายในสามกระบวนท่า ชีวิตของเจ้าจะจบสิ้นอย่างสมบูรณ์!” ทั่วร่างของจ้าวชิงเฟิภงถูกปกคลุมไปด้วยปราณพิฆาต อำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารถูกรีดเค้นจนถึงขีดสูงสุด


สภาพของเขาในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรจากเทพสังหาร


หลิงฮันเค้นเสียง เขาเองก็ต้องการใช้อีกฝ่ายเป็นหินลับคม สำหรับขัดเกลาเพื่อเปิดประตูสู่นิรันดร์ที่สี่เช่นกัน ไม่เช่นนั้นหากเขาใช้พลังของแก่นกำเนิดนิรันดร์เปลวเพลิงล่ะก็ พลังต่อสู้ของเขาจะยกระดับขึ้นหลายเท่าอย่างน่าสะพรึงกลัว


“เจ้าไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวังเหมือนดั่งที่ข้ากล่าวไว้จริงๆ แต่ถ้าหากนี่คือพลังต่อสู้ทั้งหมดของเจ้าแล้วล่ะก็ มันถือว่ายังไม่พอ!” ดวงตาของจ้าวชิงเฟิงกลายเป็นแดงฉาน


เขาเค้นเสียงคำราม ‘ครืนน’ ดาบที่เขาถืออยู่ในมือสั่นสะท้าน พร้อมกับปลดปล่อยคลื่นแสงออกมา


‘พรึบ’ ดาบถูกสะบั้นเข้าหลิงฮัน โดยที่ครั้งนี้ร่างกายของหลิงฮันมีโลหิตไหลทะลักออกมา


เพลงดาบเมื่อครู่สามารถทะลวงผ่านกล้ามเนื้อของหลิงฮันมาได้ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่กระดูดได้


แต่ก็แน่นอนว่าถึงแม้ส่วนที่แข็งแกร่งที่สุด ของกายหยาบของเขาจะเป็นกระดูกที่ทนทาน เทียบเท่าแร่โลหะกึ่งนิรันดร์สามดาว แต่ผิวหนังและกล้ามเนื้อของเขาเองก็ไม่ใช่ว่าจะอ่อนแอ การที่เพลงดาบเมื่อครู่สามารถทะลวงผ่านผิวหนังของหลิงฮันได้ เป็นหลักฐานว่าพลังทำลายของมันน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน


“เจ้าคิดรึว่าข้าฝึกฝนเพียงแค่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร?” จ้าวชิงเฟิงแสยะยิ้ม “ผิดแล้ว ร่างกายของข้าคือแก่นกำเนิดนิรันดร์ทองสัมฤทธิ์ ธาตุทองคำคืออำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ข้าเชี่ยวชาญที่สุด!”


ปราณพิฆาตของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร คือพลังทำลายที่ทรงพลังที่สุด ส่วนออร่าธาตุทองคำที่ถูกขัดเกลาจนแหลมคน ก็สามารถใช้เป็นการโจมตที่รุนแรงได้เช่นกัน เมื่อพลังอำนาจทั้งสองถูกซ้อนทับกัน การโจมตีที่ปลดปล่อยออกมาจึงไร้เทียมทานที่สุด


“เจ้ามีพลังแค่นี้จริงๆงั้นรึ? น่าเสียดายนัก หลังจากประมือกับอัจฉริยะมามากมาย ข้านึกว่าเจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้แท้ๆ แต่สุดท้ายเจ้าก็ทำให้ข้าผิดหวัง!”

 

 

 


ตอนที่ 1872 พลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่...

 

ที่บนแท่นผู้ชม เสียงโห่ร้องของผู้คนมากมายดังก้องไปทั่วสารทิศ


สำหรับผู้ชมทั่วไปนั้น พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะการประลอง สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ การได้เห็นการปะทะอันดุเดือดแสนเร้าใจ


ที่พวกเขายอมเสียเงินมากมายเข้ามาดู ก็เพราะอยากเห็นโลหิตที่สาดกระจาย!


เพราะงั้นเมื่อเห็นว่าในที่สุดหลิงฮันก็ได้รับบาดเจ็บและมีโลหิตไหลออกมา ความตื่นเต้นของเหล่าผู้ชมจึงพุ่งสูงถึงขีดสุด


“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!” ใครบางคนถึงขนาดดวงตากลายเป็นสีแดงฉาน และแสดงท่าทีโหดเหี้ยมที่ยิ่งกว่าจ้าวชิงเฟิงออกมา


ซุนตงก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาตะโกนส่งเสียงโห่ร้อง ในขณะที่แกว่งมือทั้งสองข้างไปมา


‘เพี๊ยะ’Anchorหลู่เซียนหมิงตบหน้าอีกฝ่ายทันที


ร่างของซุนตงถูกตบจนหมุนรอบตัวหนึ่งรอบ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย “นายน้อยหลู่ ท่านตบข้าทำไมกัน?”


หลู่เซียนหมิงเค้นเสียงเย็นชา ด้วยสถานะของเขาที่สูงส่งกว่า จำเป็นด้วยรึที่เขาต้องอธิบายเรื่องราวให้ผู้ติดตามที่ต่ำต้อยกว่าฟัง?


เจ้าที่ดูสถานการณ์ไม่ออก ยังมีคุณสมบัติจะมาเป็นผู้ติดตามคนสนิทของข้าอยู่อีกรึ?


ช่างโง่เง่านัก!


ในขณะเดียวกัน เฉิงเฟิงหยุนเองก็กำลังตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาต้องพบเจอความอัปยศมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเพราะหลิงฮัน ทั้งๆที่เขามีฐานะเป็นถึงนายน้อยของตระกูลเฉิง แต่กลับต้องมาแทะกินโต๊ะ ต้องตบหน้าตัวเอง แถมยังต้องหลบหนีการเดิมพันอีก


ทางด้านของธิดาโร๋วนั้น นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก และอดคิดไม่ได้ว่าทำไมบุรุษอันธพาลผู้นั้นถึงไม่รีบยอมแพ้ไปเสียที เขาไม่ถึงว่าตนเองจะถูกสังหารรึไง?


ไม่ใช่แค่นางเท่านั้น สตรีนกอมตะเองก็เริ่มวิตกกังวล ถึงแม้นางจะมั่นใจในพลังของหลิงฮันแค่ไหน แต่จ้าวชิงเฟิงผู้นี้ก็น่าสะพรึงกลัวเกินไป การโจมตีของอีกฝ่ายสามารถทำให้แม้แต่กายหยาบของหลิงฮันเกิดบาดแผลได้


“พี่ชาย หมอนั่นเริ่มต้านไม่ไหวแล้ว!” ซานเถี้ยนอู๋กล่าวอย่างตื่นเต้น


ถึงแม้เขาจะไม่ยุ่งกับหลิงฮันอีกตามคำสั่งของพี่ชาย แต่ก็ใช่ว่าความเกลียดชังที่มีต่อหลิงฮันจะหายไป


ซานเถี้ยนจิ่วยิ้มด้วยท่าทีนิ่งเฉย เพราะเขาคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว


จ้าวชิงเฟิงแข็งแกร่งขึ้นขนาดที่ ก่อนหน้านี้เขาสามารถกำราบผู้สืบทอดราชานิรันดร์ได้ภายในไม่กี่ลมหายใจ เพราะงั้นหลิงฮันที่น่าจะเป็นผู้สืบทอดราชานิรันดร์เช่นกัน ก็ย่อมต้องพ่ายแพ้ให้กับจ้าวชิงเฟิงเช่นกัน


การที่หลิงฮันสามารถรับมือมาได้นานสองนาน จนเพิ่งได้รับบาดเจ็บตอนนี้ ก็ถือว่าเกินคาดมากแล้ว


“จ้าวชิงเฟิง!”


“จ้าวชิงเฟิง!”


“จ้าวชิงเฟิง!”


เสียงโห่ร้องของเหล่าผู้ชม ดังสนั่นจนราวกับจะสั่นสะท้านไปถึงสวรรค์


จ้าวชิงเฟิงเผยรอยยิ้ม และชี้ปลายดาบไปยังหลิงฮัน “ในเมื่อเจ้าไม่มีสามารถช่วยขัดเกลาศาสตร์วรยุทธให้ข้าได้แล้ว จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร? ตายซะ!”


เขาคำรามและพุ่งโจมตีหลิงฮัน


“ฮึ่ม!” หลิงฮันคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด เขากวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์พร้อมกับโคจรแก่นกำเนิดนิรันดร์ และปลดปล่อยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงออกมา


เนื่องจากก่อนหน้านี้เขามีความรู้สึกว่าจ้าวชิงเฟิงยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด เขาจึงโจมตีด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อัสนี ซึ่งเป็นพลังที่อ่อนแอที่สุดของเขามาโดยตลอด


แต่ตอนนี้เมื่ออีกฝ่ายเผยไพ่ลับในมือออกมาแล้ว ก็ถึงเวลาที่เขาจะแสดงพลังบางส่วนออกมาบ้างเช่นกัน


ตูม!


เมื่อดาบทั้งสองเล่มเข้าปะทะกัน คลื่นพลังอันทรงพลังของดาบก็ไหลทะลักไปทั่วสารทิศ


‘ครืนน’ ที่รอบด้านของลานประลอง รูปแบบอาคมของค่ายกลป้องกันค่อยๆปรากฏขึ้นมา เพื่อปิดทางไม่ให้คลื่นดาบเล็ดรอดออกไป


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เหล่าผู้ชมอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ราวกับวิญญาณกำลังหลุดออกจากร่าง


แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งอะไรอย่างนี้!


นี่ใช้พลังของระดับโลกียนิพพานจริงๆงั้นรึ?


ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือการที่หลิงฮันพลิกสถานการณ์เสียเปรียบกลับขึ้นมาได้ ร่างของเขาในตอนนี้ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงอันเกรี้ยวกราด ราวกับเทพดวงตะวันที่ส่องแสงเจิดจรัสไปทั่วยุทธภพ


ที่บนแท่นผู้ชม เหล่าปรมาจารย์ทุกคนต่างปิดปากเงียบ ทำให้บรรยากาศตกอยู่ในความสงบ


หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คนแคระที่ทักเปียเต็มหัวก็เอ่ยขึ้นมา “พลังของเจ้าหนูนั่น ยังอยู่ในระดับสามนิพพานสูงสุดเท่านั้น”


ถึงแม้พลังของหลิงฮันจะไม่อยู่ในสายตาของปรมาจารย์เหล่านี้ แต่การที่พลังต่อสู้ในระดับสามนิพพาน สามารถแข็งแกร่งเกือบจะเทียบเคียงกับระดับแบ่งแยกวิญญาณได้นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง


ถ้าหากบรรลุระดับสี่นิพพาน เจ้าจะไม่ต่อกรกับนิรันดร์ระดับแบ่งแยกวิญญาณได้เลยงั้นรึ?


“เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังเทียบเท่าระดับแบ่งแยกวิญญาณ ขนาดเอี๋ยนเซียนลู่ในระดับสี่นิพพานก็ยังไม่สามารถต่อสู้ทัดเทียมกับนิรันดร์ระดับแบ่งแยกวิญญาณได้ เขาเพียงแค่ไร้เทียมทานในระดับโลกียนิพพานเท่านั้น” ปรมาจารย์ผู้หนึ่งเอ่ยแทรก “นอกเสียจากว่า…”


“จะบรรลุระดับห้านิพพาน!” ปรมาจารย์หลายคนเอ่ยพร้อมกัน


แต่หลังจากที่กล่าวประโยคนี้ออกมา พวกเขาทุกคนก็ต่างส่ายหัว เนื่องจากความเป็นไปได้ที่จะบรรลุระดับห้านิพพานนั้นเรียกว่า แทบจะเท่ากับศูนย์


“เหอๆ หากเจ้าไม่พอใจเจ้าหนูน้อยคนนั้นขนาดนั้น งั้นข้าก็จะขอรับเขาเป็นศิษย์เอง” คนแคระที่ทักเปียเต็มหัวกล่าว


ชายชราร่างสูงคนหนึ่งรีบเอ่ยแทรก “จิ้งจอกเฒ่าหู ข้าเองก็สนใจอยากรับเจ้าหนูนั่นเป็นศิษย์เหมือนกัน!”


“ส่วนข้าไม่ได้อยากรับเขาเป็นศิษย์ แต่ต้องการให้เขามาเป็นเขยของข้า!” ปรมาจารย์อีกคนกล่าว


ทันใดนั้น เหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายก็เริ่มทะเลาะกันทันที


….


“ฮ่าๆๆ นับว่าน่าสนใจไม่เลว!” จ้าวชิงเฟิงไม่ได้ตกตะลึงกับการโจมตีตอบโต้ของหลิงฮัน แต่เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาแทน พลังต่อสู้ของหลิงฮันนั้นแข็งแกร่งพอที่จะ กระตุ้นความรู้สึกอยากสังหารภายใจจิตใจของเขา


“ตาย!” จ้าวชิงเฟิงคำรามและกวัดแกว่งดาบยาวในมือ ปราณดาบหลายร้อยล้านคลื่นถูกปลดปล่อยออกมา และกลืนกินพื้นที่ไปทั่วลานประลอง


ปราณดาบเหล่านี้คือการโจมตีที่ถูกควบแน่นขึ้นมาจากอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ทองคำ และด้วยการที่มันเป็นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ควบคุมโดยนิรันดร์สี่นิพพาน พลังทำลายล้างของมันจึงน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจะจินตนาการ


‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ ปราณดาบทั้งหมดกระหน่ำพุ่งโจมตีพร้อมกันจากทุกทิศทาง จนมองไม่เห็นร่างของหลิงฮัน


“เจ้าหนูนั่นจะตายรึเปล่า?” ที่ด้านบนลานผู้ชม ทุกคนๆคนที่มองดูการประลองอยู่ต่างกลั้นหายใจเอาไว้ การประลองนัดสุดท้ายนี้ดุเดือดเกินไป จนพวกเขาลืมแม้กระทั่งหายใจ


ตูม!


เปลวเพลิงอันร้อนระอุระเบิดออกเป็นวงกว้าง และหลอมละหลายปราณดาบนับไม่ถ้วนจนสลายหายไป พร้อมกับปรากฏร่างของหลิงฮันที่ยังคงยืนแน่นิ่งไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ


ฮึ่ม!


เหล่าผู้ชมสูดหายใจลึก หลิงฮันผู้นี้เป็นใครกันแน่? หรือแท้จริงแล้วอีกฝ่ายจะเป็นผู้สืบทอดขุมอำนาจราชานิรันดร์สักแห่ง ที่จงใจปกปิดสถานะของตนเองเอาไว้?


จ้าวชิงเฟิงหัวเราะลั่นและกวัดแกว่งดาบเข้าจู่โจม ความแข็งแกร่งของหลิงฮันทำให้จิตสังหารของเขาเดือดพล่านจนหยุดไม่อยู่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)