ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 997-999

 บทที่ 997 ครั้งนี้เป็นเรื่องจริง

Ink Stone_Fantasy

โอดอมและลาร่ารีบมาอย่างรวดเร็ว ลาร่ามีประสบการณ์ในด้านการทำคลอดเป็นอย่างมาก เธอจับมือวินนี่แล้วใช้หูฟังทางการแพทย์ตรวจดู เธอพูดปลอบฉินสือโอว “ไม่ต้องกลัว เมื่อครู่คงเป็นเพราะเด็กดิ้น ตอนนี้ปากมดลูกยังปิดอยู่ เจ้าตัวแสบออกมาไม่ได้”


โอดอมพูดพลางหัวเราะ “ดูท่าเขาคงอยากออกมาดูโลกที่สวยงามจนแทบรอไม่ไหว ฉิน ผมควรยินดีกับคุณล่วงหน้าไหม?”


ได้ฟังทั้งสองวินิจฉัยแล้ว ฉินสือโอวก็ผ่อนคลายแล้วพูดว่า “คำอวยพรไว้ค่อยพูดแล้วกัน ช่างเถอะ ให้วินนี่อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว รีบพาเธอไปโรงพยาบาล ผมไม่อยากเจอประสบการณ์แบบนี้อีก”


นีลเซ็นสตาร์ทเรือสปีดโบ๊ท ฉินสือโอวพาวินนี่ขึ้นเรือ พ่อกับแม่ของฉินสือโอวเก็บของใช้ประจำวันของวินนี่แล้วตามขึ้นเรือไป


เหล่าตัวแสบก็อยากขึ้นเรือด้วยแต่ฉินสือโอวไม่อนุญาต พวกมันรู้สึกว่าตัวเองถูกทอดทิ้งเลยหมอบอยู่ที่ท่าเรือพลางร้องโฮ่วๆ


ห้องพักหลังคลอดล้วนเป็นห้องปลอดเชื้อ สัตว์เลี้ยงเข้าไปไม่ได้อย่างแน่นอน ฉินสือโอวได้แต่ตีที่ก้นไปทีหนึ่งแล้วให้พวกมันรออยู่ที่บ้านอย่างสงบ


เรือสปีดโบ๊ทเริ่มเร่งความเร็ว ฉินสือโอวมองไปที่คลื่นด้านนอกอย่างร้อนรนใจ เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกน “นีลเซ็น เร่งความเร็วอีกหน่อย!”


นีลเซ็นตอบเสียงเข้ม “รับทราบครับบอส แต่ผมแนะนำว่าช้าหน่อยก็ดี ตอนนี้มีพายุ ผมว่าการกระแทกจะเป็นอันตรายกับนายหญิงมากกว่าเวลา”


ฉินสือโอวทำปากมุบมิบ ได้แต่โบกมือให้เขาจัดการเอาเอง


วินนี่จับข้อมือเขาไว้แล้วยิ้มเบาๆ “เฮ้ ที่รัก ฉันไม่เป็นไร อันที่จริงเมื่อครู่ฉันก็ไม่ได้ไม่สบายขนาดนั้น ก็แค่ลูกดิ้นเอง”


ฉินสือโอวฝืนยิ้ม “เรื่องนี้คุณไม่ต้องปลอบผม ผมใจเย็นมาก ที่รัก ผมรู้ว่าต้องไม่เป็นไร”


วินนี่เห็นว่าพ่อกับแม่ของฉินสือโอวไม่ได้สนใจพวกเขาแล้ว จึงลูบไปที่อกของเขาพลางพูดเสียงเบา “ฉันไม่เป็นไรจริงๆ ฉันแค่เห็นว่าเทซึกะบีบคุณจนกระอักกระอวลก็เลยตั้งใจหาข้ออ้างให้คุณออกมา!”


“จริงเหรอ?”


“แน่นอนที่สุด! กำหนดคลอดของฉันยังอยู่อีกตั้งหนึ่งสัปดาห์” วินนี่ยิ้มราวกับดอกไม้อีกครั้ง


ฉินสือโอวปาดเหงื่อด้วยใบหน้าที่จนใจ “บ้าบอ คุณจะให้ผมชมคุณดีไหม? คุณนี่ฉลาดจริงๆ แต่ทำเอาผมตกใจแทบตายเลย! ผมกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในการเผชิญหน้ากับชาวญี่ปุ่นคนนั้นจริงๆ และก็ไม่คิดว่าจะพลิกล็อกขนาดนี้”


วินนี่หัวเราะพลางเอามือลูบหน้าเขาแล้วพูด “โถๆ คนดี ไม่ต้องกลัวแล้วนะ”


เห็นทั้งสองอี๋อ๋อรักใคร่กันอย่างนี้ พ่อและแม่ของฉินสือโอวก็รีบออกมาที่ด้านข้างเรือด้วยใบหน้าปลื้มใจ “ลูกอารมณ์ดีจริงๆ แบบนี้ก็วางใจได้แล้ว เฮ้อ คุณไม่รู้หรอกว่าการดูทีวีแล้วเห็นพวกหนุ่มสาวพวกนั้นหย่ากันทั้งวันมันใจคอไม่ดีขนาดไหน!”


แม่ฉินสือโอวพูดด้วยอารมณ์ไม่ดี “คุณอย่าคิดไปเรื่อย พวกเขาสองคนใช้ชีวิตกันเองได้ คุณคิดมากไปเองทั้งวัน”


โอดอมช่วยติดต่อโรงพยาบาลแม่และเด็กซานตามาเรียไว้ล่วงหน้าให้ฉินสือโอว พอฉินสือโอวพาวินนี่เข้าไปในโรงพยาบาลก็มีพยาบาลมารับเธอไปส่งที่ห้องวีไอพี


พ่อและแม่ของฉินสือโอวดูแลวินนี่ ส่วนฉินสือโอวไปจัดการขั้นตอนต่างๆ ซึ่งยุ่งยากมาก ระบบการรักษาพยาบาลของแคนาดานั้นขึ้นชื่อเรื่องความยุ่งยาก แค่ขั้นตอนการอยู่โรงพยาบาลเขาก็วุ่นไปทั้งบ่ายกว่าจะจัดการเสร็จ


พลบค่ำฉินสือโอวให้พ่อกับแม่ไปช่วยดูแลพวกหู่จือเป้าจือหลัวปอและฉงต้า เขาบอกว่าทางวินนี่มีเขาอยู่ก็พอ


พ่อและแม่ของฉินสือโอวมองเขาและถามอย่างสงสัย “แกไหวไหม?”


ฉินสือโอวตบอกแล้วพูดว่า “มีอะไรที่ไม่ไหว? ผมแค่อยู่คุยเป็นเพื่อนวินนี่เอง มีเรื่องอะไรขึ้นมาที่นี่ก็มีหมอและพยาบาล”


พ่อและแม่ของฉินสือโอวคิดแล้วก็ถูก พวกเขาเลยกลับไปพร้อมนีลเซ็นก่อน


ตอนค่ำฉินสือโอวและวินนี่กำลังคุยกันอยู่ว่าหลังคลอดแล้วจะไปพักผ่อนกันที่ไหนดี ผลสุดท้ายคุยไปวินนี่ก็มีท่าทางเปลี่ยนไปไม่ปกติ มือหนึ่งเธอจับที่ข้อมือของฉินสือโอวแล้วพูดอย่างกระวนกระวาย “ที่รัก ฉันมีความรู้สึกแล้ว”


ฉินสือโอวหัวเราะพลางพูด “มีความรู้สึกอะไร? ไม่เป็นไร เทซึกะไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนนี้ทั้งห้องมีแค่เราสองคน คุณไม่ต้องช่วยผม…”


“บ้าเอ๊ย! เรียกหมอกับพยาบาลเร็วเข้า! ฉันรู้สึกแล้วจริงๆ!” วินนี่แทบจะตะโกนตัดบทเขา


รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินสือโอวเปลี่ยนไปเป็นความตื่นกลัว “คุณ ครั้งนี้เป็นเรื่องจริงเหรอ? โว้ว แม่งเอ๊ย! หมอ! พยาบาล! หมอ! พยาบาล! ภรรยาผมจะคลอดแล้ว…”


การดูแลคนไข้พิเศษวีไอพีนั้นย่อมแตกต่างเป็นธรรมดา ฉินสือโอวตะโกนไปครั้งหนึ่งก็มีหมอผู้หญิงและพยาบาลอีกสองคนรีบมาทันที หมอผู้หญิงตรวจดูอย่างรวดเร็วแล้วสั่งกับพยาบาล “พาเธอไปที่ห้องคลอดหมายเลขหนึ่ง แจ้งคุณหมอไคลด์เดี๋ยวนี้!”


ครั้งนี้ฉินสือโอวมืดแปดด้าน เห็นพยาบาลเข็นวินนี่ที่ใบหน้าเจ็บปวดออกไป เขาดึงหมอผู้หญิงคนนั้นไว้แล้วพูดเสียงคร่ำครวญ “คุณหมอ ช่วยด้วยนะครับ ต้องทำให้ดีที่สุดนะ! แย่แล้ว นี่เป็นการคลอดก่อนกำหนดหรือเปล่า? ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”


หมอผู้หญิงพูดกับเขาอย่างนุ่มนวลพลางยิ้ม “อย่าร้อนรนไปเลยค่ะคุณ คุณอดทนรอก็พอแล้ว ทุกอย่างราบรื่นมาก เมื่อบ่ายเพิ่งตรวจไปเอง ร่างกายของภรรยาคุณแข็งแรงมากและร่างกายของเด็กก็แข็งแรงดี ไม่ใช่การคลอดก่อนกำหนดหรอก วางใจเถอะค่ะ”


ฉินสือโอวจะวางใจได้อย่างไร? นี่มันยังไม่ถึงกำหนดคลอด ลูกก็จะออกมาแล้ว? หรือเขาเป็นคนโง่ในด้านนี้ ไม่เข้าใจอะไรเลย


หลังจากวินนี่เข้าห้องคลอดไปฉินสือโอวก็รีบตามมานั่งอยู่นอกประตู ข้างๆ เขาไม่มีใครสักคน เนื่องจากคิดว่าคงไม่คลอดลูกเร็วขนาดนี้ พ่อและแม่เลยกลับไปแล้ว พวกเหมาเหว่ยหลงก็ไม่ได้มาด้วย เวลานี้เขามืดแปดด้านแล้ว


สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวยิ่งบ้าคลั่งคือที่ห้องคลอดมีไฟสีเขียวและแดงเหมือนที่ห้องฉุกเฉิน เขาเพิ่งจะมาถึงหน้าประตูไฟสีแดงก็แดงขึ้นมา ทำให้เขาตระหนกตกใจ


ตอนนี้สิ่งที่ฉินสือโอวต้องการคือคนอยู่เป็นเพื่อนและการปลอบใจ เขาหยิบโทรศัพท์โทรไปหาเหมาเหว่ยหลงอย่างกระวนกระวาย “มาเร็วๆ วินนี่จะคลอดแล้ว!”


ที่จริงแล้วเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะโทรไปหาใคร อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านจนบ้าคลั่ง ฉินสือโอวรู้สึกว่าสติของตัวเองเลอะเลือน เห็นเบอร์ใครที่รู้จักก็โทรไปให้พวกเขารีบมาอยู่เป็นเพื่อน


ไม่รู้ว่านานเท่าไร ฉินสือโอวไม่มีเวลาคิดแล้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่วุ่นวายดังขึ้น พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเหมาเหว่ยหลงที่วิ่งนำหน้ามาและมีพ่อแม่ของเขาและเบิร์ดอยู่ด้านหลัง


“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ฉินสือโอวถาม


เหมาเหว่ยหลงหมดคำจะพูด เขาถามกลับไปอย่างตะลึง “ไม่ใช่พวกเราต่างหากเหรอที่ควรถาม?”


ฉินสือโอวเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจพลางพูด “แม่งเอ๊ย ฉันหมายถึงว่าพวกนายมากันแล้วทำไมวินนี่ยังไม่ออกมาอีก?”


แม่ฉินสือโอวพูดปลอบ “แกอย่าเดินไปเดินมา การคลอดลูกมันง่ายขนาดนั้นที่ไหนล่ะ? พวกเรามากันใช้เวลาเพียงไม่เท่าไร พวกเรานั่งเครื่องบินมากันน่ะ”


เบิร์ดพูดกับฉินสือโอว “บอส ผมขับเฮลิคอปเตอร์มาครับ”


พอมีคนมาฉินสือโอวก็ผ่อนคลายขึ้น ผ่านไปไม่กี่นาทีไฟสีแดงก็ดับวูบลง แล้วไฟสีเขียวก็สว่างขึ้นมา ในเวลานี้หัวใจของฉินสือโอวเต้นช้าลงด้วยความกลัว


ประตูห้องคลอดเปิดออกแล้ว พยาบาลวัยกลางคนคนหนึ่งอุ้มเด็กเดินออกมา ฉินสือโอวพุ่งเข้าไปด้วยความตื่นเต้นแล้วถาม “ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกใช่ไหมครับ?”


“ทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ คุณผู้ชาย” พยาบาลพูดพลางยิ้มเบาๆ


บทที่ 998 นั่นมันนิ้วมือของฉัน

Ink Stone_Fantasy

พอรู้ว่าวินนี่และลูกปลอดภัย หัวใจที่แขวนอยู่ในอากาศของฉินสือโอวก็ร่วงลงมา เขาอยากจะพุ่งเข้าไปในห้องคลอด แต่หมอผู้หญิงที่เคยปลอบเขารั้งเอาไว้พลางพูดว่า “รอสักครู่นะคะ พวกเราจะส่งคนไข้ไปที่ห้องพักฟื้นทันที พวกคุณไปหาเธอที่นั่นเถอะ”


พยาบาลเข็นวินนี่ออกมา ฉินสือโอวหมอบลงที่หัวเตียงมองวินนี่ที่ใบหน้าซีดขาว ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อแม้แต่ผมก็เปียกชุ่ม เขาพูดอย่างตื่นเต้น “ที่รัก ลูกของเราคลอดแล้ว! ผมเป็นพ่อคน ส่วนคุณเป็นแม่คนแล้ว!”


วินนี่ยังอารมณ์ดีอยู่ เธอยิ้มหวานพลางยื่นมือมาช่วยสางผมที่ถูกเกาจนยุ่งเป็นรังนกของฉินสือโอวแล้วพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ “นี่มันช่างสวยงามจริงๆ แต่เป็นลูกสาวหรือลูกชายล่ะ?”


ฉินสือโอวนิ่งไป เขาลืมเรื่องนี้ไปเลยรีบวิ่งไล่ตามพยาบาลคนนั้นไปราวกับพายุ


หมอผู้หญิงยักไหล่พลางพูดกับวินนี่ “เป็นคุณพ่อที่ไม่รอบคอบเลย”


วินนี่หัวเราะพลางพูด “เขาต้องเรียนรู้อีกหน่อย เขาจะเป็นพ่อที่ยอดเยี่ยมได้ค่ะ”


หลังจากทารกคลอดออกมาแล้วต้องส่งเข้าห้องปรับอุณหภูมิเพื่อตรวจและประเมินตามรายการเกณฑ์มาตรฐาน ห้องปรับอุณหภูมิปราศจากเชื้อโดยสิ้นเชิง เหล่าคุณพ่อได้แต่ยืนดูจากกระจกไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะฉะนั้นก่อนที่ทารกจะไม่ได้ออกจากห้องปรับอุณหภูมิ เวลานี้จึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้สัมผัสพวกเขา


ฉินสือโอวตามพยาบาลจนทัน เขาสอดมือเข้าไปในผ้าห่มของทารก นิ้วมือของเขาไปโดนเข้ากับของเล็กๆนุ่มๆ


แบบนี้ฉินสือโอวก็ดีใจในทันที เขาพูดกับพ่อและเหมาเหว่ยหลง “เยี่ยม ผมเป็นพ่อคนแล้ว! เป็นลูกชาย! ผมจับโดนหนอนน้อยของเขา…”


พ่อและแม่ของฉินสือโอวก็ดีใจยกใหญ่ พยาบาลคนนั้นมองฉินสือโอวอย่างจนใจแล้วพูดว่า “คุณผู้ชาย ฉันไม่ได้อยากจะขัดจังหวะนะคะ แต่ที่คุณบีบอยู่ตอนนี้คือนิ้วมือของฉันค่ะ”


เหมาเหว่ยหลงที่กำลังจะชนหมัดกับฉินสือโอวหยุดชะงัก เขาชูแขนค้างไว้ในอากาศด้วยใบหน้าตะลึง


ฉินสือโอวอึ้ง เขาบีบนิ้วอย่างตะลึง ที่แท้เจ้าสิ่งเล็กๆ นิ่มๆ  นี่มีกระดูก…


“ที่จริงลูกของคุณเป็นลูกสาวคนสวยค่ะ” พยาบาลพูดพลางยิ้มเบาๆ


จะลูกสาวหรือลูกชายฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจ ถ้าสามารถมีลูกสาวที่เหมือนวินนี่ได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก


พ่อของฉินสือโอวถามว่าพยาบาลพูดอะไร ฉินสือโอวฝืนยิ้มพูด “เมื่อครู่เข้าใจผิดครับ เป็นลูกสาวไม่ใช่ลูกชาย”


พ่อของฉินสือโอวพูดอย่างตื่นเต้น “ลูกสาวก็ดี ลูกสาวก็ดี! อะไรนะ ในโทรทัศน์ก็พูดกันไม่ใช่เหรอ ลูกสาวคือความนุ่มนวลอ่อนโยนในหัวใจของพ่อ…”


เหมาเหว่ยหลงตัวสั่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ คุณพ่อพูดประโยคเมื่อครู่นี้ใหม่อีกรอบได้ไหม? ผมฟังผิดไปหรือยังไง?


ฉินสือโอวก็ตื่นเต้นเหมือนกัน คิดว่าตัวเองจะมีลูกสาวที่สวยราวกับองค์หญิงน้อยอย่างวินนี่ เขาก็รู้สึกดีใจแทบจะไม่ไหว เขาพูดซ้ำคำที่พ่อพูด “ใช่ๆ ใช่ ลูกสาวคือความนุ่มนวลอ่อนโยนในหัวใจพ่อ ผมมีพ่อแล้ว…”


เหมาเหว่ยหลงย่อตัวลง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี


แต่เวลานี้ใครจะสนเรื่องพูดผิดกัน? ฉินสือโอวรู้เพศของลูกแล้วก็วิ่งกลับไปหาวินนี่อย่างรวดเร็วแล้วพูดด้วยความตื่นเต้น “เป็นองค์หญิงน้อย ที่รัก พวกเรามีลูกสาวที่น่ารักหนึ่งคนแล้ว!”


เหมาเหว่ยหลงที่ตามมาด้านหลังถอนหายใจ ดีที่เขาไม่พูดว่า ‘เป็นพ่อคนหนึ่ง’


วินนี่เผยรอยยิ้มที่สุขใจ พยาบาลดันฉินสือโอวออกพลางพูด “เอาล่ะ ตอนนี้ภรรยาของคุณต้องการการพักผ่อน ให้เธอหลับสักงีบเถอะค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาหาเธอดีไหมคะ?”


ฉินสือโอวจูบที่หน้าผากของวินนี่แล้วเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย เหมาเหว่ยหลงถามเขาว่าจะไปไหน เขาตอบอย่างแน่วแน่ “ไอ้เซ่อ นอกจากไปดูลูกสาวแล้วฉันจะไปไหนได้อีกล่ะ?”


เหมาเหว่ยหลงได้แต่ปล่อยให้เขาคลั่ง เดินตามเขาไปอย่างไม่ช้าไม่เร็ว


พอถึงห้องปรับอุณหภูมิ เหมาเหว่ยหลงเห็นฉินสือโอวแนบอยู่ที่กระจกหน้าต่างดูท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์ เขารีบถาม “มีเรื่องอะไร?”


ฉินสือโอวหมุนตัวพิงกระจกแล้วค่อยๆ ย่อตัวลง มือทั้งสองปิดหน้าไว้ เหมาเหว่ยหลงถอนใจพลางตบไหล่เขา “ตื่นเต้นมากเลยใช่ไหม? อารมณ์พลุ่งพล่านมาก? เฮ้อ เวลาผ่านไปไวจริง…”


“บ้าเอ๊ย!” ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะด่าออกมา “ท่าทางฉันเหมือนตื่นเต้นเหรอ?”


เหมาเหว่ยหลงสับสน ฉินสือโอวชี้ไปด้านหลังพลางพูดอย่างเศร้าโศก “ตรงนั้นคือลูกสาวฉัน แม่เจ้า ทำไมเธอถึงขี้ริ้วขนาดนั้น? ไหนว่าเหมือนองค์หญิงน้อยแบบวินนี่ไง? ทำไมขี้เหร่อย่างนี้?”


เหมาเหว่ยหลงยังคงตบไหล่ปลอบเขา “แกนี่โง่จริงนะ? ทารกเพิ่งคลอดจะดูรูปร่างหน้าตาออกได้ยังไง? แกต้องรออีกหน่อย โดยเฉพาะผู้หญิงจะเปลี่ยนแปลงไปมากเลย”


ฉินสือโอวยังคงเศร้า “มันไม่น่าเป็นอย่างนี้ วินนี่สวยขนาดนั้น และฉันรับประกันเลยว่าเธอไม่เคยศัลยกรรม ฉันเองก็หล่อขนาดนี้ พูดกันตามเหตุผลแล้ว…”


เหมาเหว่ยหลงตัดบท “เดี๋ยวๆ ครึ่งแรกฉันไม่ค้านแต่ครึ่งหลังอันนี้ ฉิน เปิดใจพูดกันตรงๆ นะ ความคิดที่แกมีต่อรูปลักษณ์ของแกเหมือนมันจะไม่ใช่นะ?”


ฉินสือโอวพูดพลางจ้องมองไปที่เขา “ที่แกพูดหมายความว่าไง?”


เหมาเหว่ยหลงยิ้มแหยๆ “ก็ไม่ได้มีอะไร ก็ตอนที่เรียนมหาลัยมีครั้งหนึ่งฉันกับพวกพี่เหล่ย คุยกันถึงผู้ชายอย่างพวกเรา ตอนนั้นพวกเราต่างเห็นตรงกันว่านายน่าจะหาเมียได้ยาก”


“ไสหัวไปเลย!”


ทารกที่เพิ่งคลอดดูไม่ดีจริงๆ แม้ว่าแม่จะเป็นสาวสวยอย่างวินนี่ก็ตาม ตอนนี้เจ้าตัวเล็กเป็นเหมือนลิงน้อย ผิวหน้าย่น บนหัวมีเพียงขนบางๆ สำหรับพวกตาโตๆ ลักยิ้มเล็กๆ นั้นคงอยู่ได้แค่ในจินตนาการ


พอแน่ใจเรื่องเพศของลูกแล้ว เรื่องที่ตามมาก็คือชื่อ


ฉินสือโอวปรึกษากับวินนี่อยู่ครู่หนึ่ง ชื่อภาษาจีนของเจ้าตัวเล็กคือฉินเวย ชื่อภาษาอังกฤษคือแฮธาเวย์ แปลว่าพลังแห่งการอุปถัมภ์ของนักบุญในภาษาฮีบรู


ทั้งสองชื่อล้วนเป็นชื่อโหล คนจีนที่ชื่อฉินเวยมีไม่น้อย ส่วนชื่อภาษาอังกฤษว่าแฮธาเวย์เยอะยิ่งกว่า


เหมาเหว่ยหลงได้ยินชื่อที่พวกเขาตั้งแล้วก็ส่ายหัวหมดความเห็น พวกแกยึดติดกับคำว่าเวยไปแล้ว?


พ่อและแม่ของฉินสือโอวไม่สนใจ ชื่อที่พวกเขาตั้งต้องเป็นสามพยางค์แน่นอน ตรงกลางเป็นชื่อต้นตระกูล แต่ฉินสือโอวไม่มีทางให้พ่อแม่ตั้งชื่อให้ลูกเขาแน่ ชื่อของเขาถือเป็นบทเรียนแล้ว ฉิน! สือ! โอว!


พออ่านเร็วๆ ไม่ว่าจะด้วยสำเนียงถิ่นหรือภาษาจีนกลางก็ล้วนคล้ายคำว่าฉินที่แปลว่านก! และโส่วที่แปลว่าสัตว์ป่า!


ฉินสือโอวยังอยากตั้งชื่อเล่นให้ลูกสาว ตอนนี้ชื่อเล่นของเด็กที่กำลังนิยมจะเกี่ยวกับของกิน ฉินสือโอวกับวินนี่ตัดสินใจว่าจะต้องตั้งให้ตามเทรนด์ อย่างนั้นก็ให้ลูกชื่อว่าเถียนกวา


พอได้ยินชื่อของหลานสาว พ่อและแม่ของฉินสือโอวก็ตกตะลึง พวกเขาได้ยินเด็กชื่อว่าเถียนกวาเป็นครั้งแรก


แต่ฉินสือโอวและวินนี่ชอบชื่อนี้ เถียนกวาสองคำนี้รวมกันแล้วเป็นผลไม้ที่น่ากินมาก ถ้าเรียกแยกกันว่าเถียนๆ หรือกวาๆ ก็ฟังดูน่ารัก


เหมาเหว่ยหลงสนับสนุนชื่อนี้มาก แบบนี้เวลาเขาตั้งชื่อลูกในอนาคตก็จะไม่มีความกดดัน เขารู้สึกว่าจะแย่ยังไงก็ยังฟังดูดีกว่าเถียนกวา


ฉินสือโอวภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมาก นี่เป็นผลงานจากน้ำพักน้ำแรงของเขาและวินนี่ เด็กน้อยมีชื่อแล้วความรู้สึกก็ไม่เหมือนเดิมทันที ตัวเองตั้งชื่อเองเลยรู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กนี่จะดูยังไงก็น่ารัก


บทที่ 999 การส่งมอบเรือยักษ์

Ink Stone_Fantasy

สองวันหลังคลอด วินนี่ไม่ได้นอนอยู่บนเตียงอีกต่อไปแล้ว เธอลุกจากเตียงแล้วยืดเอวเพื่อทำท่าโยคะแบบง่ายๆ


พ่อแม่ของฉินสือโอวมองกันตากระตุก แม่ของฉินสือโอวไปหาฉินสือโอวอย่างเงียบๆ แล้วพูดว่า “ลูกพูดกับวินนี่ให้หน่อยสิ นี่เพิ่งจะคลอดลูกเอง ทำไมถึงได้ลงมาจากเตียงแล้วล่ะ? ให้เธออยู่เดือนเพื่อรักษาตัวสิ ถ้าไม่อย่างนั้นร่างกายจะเจ็บป่วยขึ้นมาอีก นั่นอาจจะเกิดอะไรร้ายแรงได้นะ”


จุดนี้คือความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมจีนและต่างชาติ ผู้หญิงจีนจะคุ้นเคยกับการอยู่เดือนหลังจากที่คลอดบุตรแล้ว แต่ผู้หญิงต่างชาติโดยเฉพาะผู้หญิงยุโรปและอเมริกาจะไม่ให้ความสนใจในจุดนี้เลย พวกเธอคิดว่าการออกกำลังกายทางวิทยาศาสตร์จะสามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังคลอดได้ง่ายกว่า ในทางตรงกันข้ามการนั่งเซ็งๆ อยู่ในห้องห้องหนึ่งนั้นกลับไม่ดีต่อสุขภาพเอาเสียเลย


เมื่อฉินสือโอวนำความคิดของพ่อแม่ไปบอกกับวินนี่ วินนี่ก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วบิดเอวที่อวบอั๋นเพราะการตั้งครรภ์พร้อมทั้งพูดด้วยท่าทางไม่พอใจว่า “แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะคะ? คุณสามี…”


คำว่าคุณสามีคำนี้ถูกพูดยืดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


พอได้ยินคำนี้ความรู้สึกของฉินสือโอวก็ประดังเข้ามาจนยุ่งเหยิงไปหมด แม่เจ้า เมื่อเร็วๆ นี้ตัวเองได้เดินมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว ไม่เพียงแต่ในฐานะพ่อเท่านั้นแต่ยังรวมถึงในฐานะสามีด้วย เขาคบกับวินนี่มาสองปีแล้ว วินนี่จะเรียกเขาว่าที่รักเท่านั้น ไม่เคยเรียกเขาว่าสามีเลย วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกเขาเช่นนี้


แต่ฉินสือโอวรู้ว่าคำว่าสามีคำนี้ยากที่จะรับได้ เพราะว่าวินนี่กำลังให้เขาเลือกคำตอบของปัญหานี้ออกมา


โชคดีที่ท่านชายฉินก็เป็นคนฉลาดหลักแหลมเหมือนกัน ก่อนที่จะมาที่นี่เขาเคยคิดถึงปัญหานี้แล้ว เขาจึงพูดออกมาว่า “มันง่ายมากเลยนะ ทำตามที่พ่อกับแม่ผมบอก คุณก็นั่งดื่มน้ำซุปอย่างว่านอนสอนง่ายไปก่อน พอพ่อแม่ผมไม่อยู่ คุณก็เล่นโยคะได้ตามสบายเลย เป็นยังไงบ้าง?”


วินนี่เหลือบมองเขาด้วยความรักแล้วพูดด้วยความหงุดหงิดว่า “ทำไมตอนนี้คุณถึงฉลาดขนาดนี้แล้วล่ะ? คุณคิดวิธีดีๆ แบบนี้ออกมาได้ยังไง?”


ฉินสือโอวหัวเราะแหยๆ แล้วพูดว่า “นั่นมันก็เลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่วันนั้นที่ผมตัดสินใจจีบคุณผมก็เริ่มนึกถึงปัญหาเหล่านี้แล้ว”


วินนี่พยักหน้าไปมาแล้วพูดว่า “โอเคค่ะ งั้นก็ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ว่าแต่คุณสามี คุณจะคอยช่วยปิดบังให้ฉันได้ไหมคะ? ทำให้ฉันได้อยู่กับพ่อแม่ให้น้อยที่สุดด้วยนะ”


ฉินสือโอวมองซ้ายมองขวาว่าไม่มีใครแล้ว ก็แสดงสีหน้าที่ลามกออกมา แล้วพูดว่า “รอดูการแสดงของคุณในตอนเย็นแล้วกัน”


การตั้งครรภ์ในครั้งนี้ของวินนี่ได้พรากชีวิตของเขาไปแล้วโดยสิ้นเชิง ในช่วงแรกๆ ก็ยังโอเคดี ทั้งสองคนระมัดระวังสักหน่อยก็พอแล้ว ต่อมาท้องของวินนี่ยิ่งนับวันก็ยิ่งใหญ่โตขึ้น เขาก็เลยทำได้แค่กลับไปใช้ชีวิตธรรมดาๆ แบบในเมืองไหเต่าเหมือนเดิม


หลังจากที่วินนี่ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้ว ทั้งสองคนก็ไปดูลูกสาวด้วยกัน ในขณะที่ยืนดูเด็กน้อยๆ ที่กำลังดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ในตู้อบ รอบๆ ดวงตาของวินนี่เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที เธอเข้าไปพิงในอ้อมอกของฉินสือโอวและเกือบจะร้องไห้ออกมา


ฉินสือโอวจึงพูดปลอบใจเธอว่า “ไม่เป็นไรนะที่รัก ผู้หญิงโตขึ้นแล้วก็จะเปลี่ยนไปมาก พอลูกโตขึ้นมาก็จะสวยเองนั่นแหละ”


วินนี่เงยหน้าขึ้นแล้วถามด้วยความงงว่า “คุณพูดอะไรคะ?”


ฉินสือโอวถอนหายใจ แล้วพูดว่า “คุณไม่ได้ร้องไห้เพราะว่าลูกขี้เหร่หรอกเหรอ? จริงสิ คุณพูดว่าพวกเราสองคนก็นับว่าเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยทั้งคู่ แล้วทำไมเถียนกวาเด็กคนนี้ถึงได้ขี้เหร่ขนาดนี้ล่ะ? คงไม่ได้โตขึ้นมาแล้วกลายเป็นฟักทองหรอกใช่ไหม?”


เสียงของเขาเบาลงเรื่อยๆ เพราะดวงตาทั้งสองข้างของวินนี่กำลังแผ่กระจายรังสีอำมหิตออกมาฆ่าเขาแล้ว


“ที่ฉันร้องไห้ เป็นเพราะว่าฉันตื้นตันใจต่างหากล่ะ!” วินนี่กัดฟันเน้นคำอย่างชัดเจน แล้วพูดอีกว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะรังเกียจที่ลูกสาวเราขี้เหร่จริงๆ เหรอเนี่ย?! ให้อภัยไม่ได้จริงๆ !”


เหงื่อเย็นๆ ของฉินสือโอวไหลออกมาทันที เขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์


ชีวิตของเขาช่างดีจริงๆ พอเผชิญหน้ากับวิกฤตกาลที่อันตราย ความช่วยเหลือก็มาถึงในทันที โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมา เป็นสายของแฮงค์ บรูวเวอร์จากอุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนนครเซนต์จอห์นที่โทรเข้ามา


เขาจึงรีบถือโทรศัพท์ออกไปจากห้องควบคุมอุณหภูมิ ฉินสือโอวเพิ่งจะรับสาย พยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามาบอกว่า “คุณผู้ชายคะ โรงพยาบาลของเราต้องการความเงียบสงบ ถ้าคุณจะโทรศัพท์ กรุณาออกไปข้างนอกนะคะ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือค่ะ”


ฉินสือโอวก็เลยต้องวิ่งออกไป แล้วจึงรับสายอีกครั้ง


พนักงานขายของบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่เหล่านี้ล้วนมีความสามารถมาก แฮงค์ถามไถ่เรื่องการเกิดของลูกฉินสือโอว เขาพูดขึ้นมาทันทีเมื่อรับสายว่า “ยินดีกับคุณด้วยนะครับ คุณฉิน ยินดีด้วยที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว ความรู้สึกที่ได้เป็นพ่อคนมันไม่เลวเลยใช่ไหมครับ?”


ฉินสือโอวกล่าวขอบคุณ ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เลวจริงๆ ครับ แต่ผมไม่มีประสบการณ์อะไรเลย สิ่งที่จะต้องเรียนรู้ยังมีอีกมาก หวังว่าพระเจ้าจะช่วยผมได้นะครับ”


แฮงค์จึงช่วยเขาออกความคิด “มันไม่ยากหรอกคุณฉิน ที่เซนต์จอห์นมีหลักสูตรเร่งรัดสำหรับการฝึกอบรมคุณพ่ออยู่ คุณก็สามารถไปสมัครได้นะครับ แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่จำเป็นหรอก วินนี่จะต้องเป็นแม่ที่ดีได้อย่างแน่นอน พ่อที่ดีอย่างคุณออกไปพิชิตมหาสมุทรเถอะครับ ผมขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย คุณมีลูกเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งคนแล้วนะครับ”


พอเขาพูดจบ  ฉินสือโอวก็เข้าใจที่เขาพูดอย่างแจ่มแจ้งแล้ว จึงพูดด้วยความประหลาดใจว่า “เรือยักษ์ของผมทำงานสำเร็จลุล่วงแล้วหรือครับ?”


แฮงค์ยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ครับ การทำงานสำเร็จอย่างราบรื่นมากเลยล่ะครับ จริงๆ แล้วมันเสร็จสิ้นตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เราต้องเอาลงไปในน้ำเพื่อทำการทดสอบ ผลการทดสอบยอดเยี่ยมมากเลยครับ ดังนั้นผมเลยอดใจรอไม่ไหวอยากจะมาแจ้งข่าวนี้ให้คุณได้ทราบอย่างไรล่ะครับ”


เรือยักษ์ของเขาก็คือเรือขุนพลเคลย์ตันนั่นเอง เรือกลไฟกึ่งเรือรบที่ได้มาจากเงื้อมมือของกลุ่มอันะพาลอิตาลี ก่อนหน้านี้เขาให้อุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนรื้ออุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในออกมาแล้วออกแบบใหม่ ติดตั้งใหม่ เหมือนไวน์ใหม่ในขวดเก่า ทำให้มันเกิดใหม่อีกครั้ง


ตอนนั้นฉินสือโอวคิดว่าการเปลี่ยนอุปกรณ์จะรวดเร็วมาก เนื่องจากเขาอยากจะออกทะเลรอบหนึ่งเพื่อไปหาปลาจำพวกปลาโอแถบกับปลากระโทงสีน้ำเงินสักหน่อยก่อนที่วินนี่จะคลอดลูก แต่ความรวดเร็วของอุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนนั้นไม่ได้รวดเร็วเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ตอนนี้วินนี่คลอดลูกแล้ว เรือประมงกลับเพิ่งจะลงน้ำ


แฮงค์ถามฉินสือโอวว่าจะมาดูเรือเมื่อไหร่ ประจวบเหมาะกับตอนนี้เขายังอยู่ที่เซนต์จอห์นก็เลยบอกให้เขารอสักครู่ วันนี้เขาจะพาคนไปหาเขาด้วย


พอวางสายโทรศัพท์แล้ว ฉิวสือโอวจึงบอกให้เบิร์ดบอกพวกชาร์คกับแลนซ์ให้ตรวจสอบเรือประมงก่อนที่จะรับมา และนี่คือเรือที่ใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้


หลังจากนั้นพวกชาวประมงก็มาถึง ฉินสือโอวกับวินนี่ได้พูดคุยกันสักพัก แล้วคนกลุ่มหนึ่งก็ไปที่ท่าเทียบเรือของอุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนอย่างคึกคัก


เมื่อมองจากที่ไกลๆ ก็สามารถมองเห็นรูปร่างขนาดใหญ่มหึมาตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล อู่ต่อเรือได้ทำการทาสีใหม่ให้เรือขุนพลเคลย์ตันไปแล้วหนึ่งรอบ ซึ่งเป็นสีที่ป้องกันการกัดกร่อนและป้องกันสนิม PHP ที่ล้ำสมัยที่สุดในตอนนี้ โดยการพ่นในหนึ่งรอบต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินห้าหมื่นหยวน


เมื่อก้าวขึ้นไปเหยียบบนเรือเหล็กยักษ์ลำนี้ เหล่าชาวประมงก็ส่งเสียงร้องตะโกนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวราวกับทหารที่รักและหวงแหนปืนของตัวเอง เหล่าชาวประมงมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของเรือประมงลำนี้อยู่มาก การที่ได้มีเรือลำใหญ่เช่นนี้ไว้ในครอบครอง สำหรับชาวประมงแล้วถือเป็นความฝันที่มีมาหลายชั่วอายุคนเลยทีเดียว


ฉินสือโอวเดินเข้าไปในห้องขับเรือ มันไม่ทรุดโทรมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ไฮเทคมากมายจนละลานตา มีไฟสีแดงและสีเขียวจำนวนหนึ่งกำลังกะพริบ เรดาร์ หางเสืออัตโนมัติ และอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม ทั้งหมดล้วนเป็นอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน


แฮงค์ชี้ไปที่อุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียมแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “นี่คือเครื่องล่าสุดที่ผลิตโดยบริษัทโบลล์ในเยอรมัน สุภาพบุรุษทุกท่าน ขอเพียงแค่เรือของพวกคุณอยู่บนน้ำ ต่อให้อยู่ในมหาสมุทรใดในโลกนี้ก็จะสามารถรับสัญญาณได้!”


พอดูห้องขับเรือแล้วฉินสือโอวก็ไปดูห้องโดยสารอื่นๆ อีก ตอนนี้เรือลำนี้มีรูปลักษณ์ที่ใหม่เอี่ยม บนพื้นฐานของการบำรุงรักษากระดูกงูเดิมแม้แต่ห้องโดยสารก็ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ให้ทันสมัยขึ้น นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิ้นเปลืองเวลาไปนานขนาดนี้


ห้องโดยสารของลูกเรืออยู่ใกล้มาก มันอยู่ระหว่างห้องขับเรือกับห้องบรรทุกสินค้า ทั้งหมดมียี่สิบแปดห้อง สามารถรองรับลูกเรือได้มากกว่าห้าสิบคน


พอฉินสือโอวเปิดเข้าไปดูห้องโดยสารของลูกเรือ ก็เห็นในห้องมีทีวีติดผนัง เครื่องเล่นเกมและดีวีดีทุกห้อง


แฮงค์แนะนำว่า “ทีวีเหล่านี้ใช้สัญญาณดาวเทียมบนเรือ ผมกล้ารับประกันเลยว่าพวกคุณจะได้รับชมสถานีโทรทัศน์มากกว่าบนบกเลยทีเดียว บางทีคุณอาจจะยังสามารถได้รับชมรายการตอนเที่ยงคืนวาบหวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ดังนั้นพวกคุณต้องดูแลไตและอวัยวะภายในของตัวเองให้ดีๆ นะครับ”


……………………………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)