เทพปีศาจหวนคืน 993
บทที่ 993 การปรากฏตัวของโป้ชิง
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
เขายังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผนึกภูตผี เขารู้เพียงว่ามันเกี่ยวข้องกับดวงวิญญาณเท่านั้น
‘ผนึกศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ท่าไม้ตายธรรมดา ผนึกภูตผีที่มีชื่อเสียงอยู่ในระดับเดียวกันก็ย่อมไม่ธรรมดาเช่นกัน’
‘แต่แท้จริงแล้วข้าอยากรู้เกี่ยวกับบทเพลงลึกลับมากกว่า!’
ทุกครั้งที่ฟางหยวนคิดถึงเรื่องนี้ เขาจะขมวดคิ้วลึกโดยไม่รู้ตัว
บทเพลงของเทพปีศาจกลุ่มดาวแปลกประหลาดเกินไป
ตามปกติบทเพลงที่ได้ยินในอาณาจักรแห่งความฝันไม่ควรมีความสัมพันธ์กับโลกแห่งความเป็นจริง แต่ประสบการณ์ในหุบเขาเหล่าโปของฟางหยวนแสดงให้เห็นว่าบทเพลงนี้มีความเกี่ยวโยงกับโลกแห่งความเป็นจริง มันเหมือนกับคำทำนายอนาคต
‘มีวิธีทำนายอนาคตอยู่มากมาย ตัวอย่างเช่นคำทำนายเกี่ยวกับการถือกำเนิดของเทพอมตะทั้งสาม เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันจะเป็นวิธีการบางอย่างที่ถูกทิ้งไว้ในอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาว’ ฟางหยวนคาดเดา
เทพอมตะกลุ่มดาวเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งปัญญา ก่อนนางเสียชีวิต นางเคยทำนายเกี่ยวกับสามเทพปีศาจและสามารถวางแผนต่อต้านพวกเขาหลังจากผ่านไปหลายล้านปี
หากอาณาจักรแห่งความฝันของนางจะสามารถทำนายอนาคต นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน เส้นทางแห่งความฝันรุ่งเรืองมาก แต่ฟางหยวนไม่มีโอกาสสำรวจมันมากนัก
ไม่แปลกหากฟางหยวนจะไม่เคยพบอาณาจักรแห่งความฝันที่พิเศษเช่นนี้
“บทเพลงที่ล้มเหลวและวีรบุรุษที่สิ้นหวัง ความยากลำบากในการต่อต้านโชคชะตา…ท่อนแรกกล่าวถึงฟงจิวเก้อและด่านรับสืบทอดมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ในหุบเขาเหล่าโป เช่นนั้นท่อนที่สองหมายถึงสิ่งใด?”
“ดาบที่จมอยู่ใต้พื้นทรายทะยานขึ้นจากห้วงอดีตสร้างเสียงครวญครางไปทั่วน้ำตกสวรรค์” ฟางหยวนพึมพำ
“น้ำตกสวรรค์…น้ำตกสวรรค์!?”
“ดาบที่จมอยู่ใต้พื้นทรายทะยานขึ้นจากห้วงอดีต…มันหมายถึงโป้ชิงงั้นหรือ?”
“มันนานมาแล้วหลังจากเขาตายในภัยพิบัติสวรรค์ ระหว่างช่วงเวลานี้ผู้คนมากมายต่างค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับเขา แต่กระทั่งซากศพของโป้ชิงก็ไม่เคยมีผู้ใดพบเห็น”
หลังจากอนุมาน ฟางหยวนเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่าท่อนที่สองของบทเพลงลึกลับกล่าวถึงโป้ชิง
เพิ่มเติมด้วยความทรงจำในชีวิตก่อนหน้า มันทำให้ฟางหยวนยิ่งต้องการสำรวจน้ำตกสวรรค์มากขึ้น
ในเวลานั้นน้ำตกสวรรค์เต็มไปด้วยชิ้นส่วนร่างกายของเหล่าสัตว์อสูร พวกมันเป็นทรัพยากรอมตะที่ล้ำค่า
แน่นอนว่าพวกมันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับทรัพยากรอมตะกึ่งระดับเก้าที่ฟางหยวนพบในภาคเหนือ
แต่พิจารณาในแง่ของปริมาณ ราคาของพวกมันยังเหนือกว่าทรัพยากรอมตะกึ่งระดับเก้าเหล่านั้น
แม้ผู้อมตะหลายคนจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วแต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ได้รับผลประโยชน์มหาศาล
‘ดูเหมือนจะมีบางสิ่งให้เก็บเกี่ยวเมื่อโป้ชิงปรากฏตัวขึ้น แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ด้านหนึ่ง โป้ชิงไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน มันอันตรายเกินไป อีกด้านหนึ่ง น้ำตกสวรรค์เป็นรังของสัตว์อสูรแรกกำเนิด ยังมีคลื่นใต้น้ำและวังน้ำวนซ่อนอยู่อีกนับไม่ถ้วน’
แม้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยฉบับดัดแปลงจะทรงพลังแต่มันยังมีจุดอ่อน
ฟางหยวนสามารถปลอมตัวเป็นมนุษย์เท่านั้น เขาไม่สามารถปลอมตัวเป็นสัตว์อสูรหรือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
ใบหน้าที่คุ้นเคยฉบับดั่งเดิมสามารถเปลี่ยนเป็นทุกสิ่ง
เหตุผล?
เพราะฟางหยวนไม่มีวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ที่เป็นหนึ่งในแกนกลางของท่าไม้ตายนี้ หากฟางหยวนมีวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ เขาจะสามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
อย่างไรก็ตามกระทั่งฟางหยวนจะมีวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ เขาก็ยังไม่สามารถลงไปด้านล่างของน้ำตกสวรรค์
นอกจากสัตว์อสูรและพืชอสูร ยังมีกับดักตามธรรมชาติอีกนับไม่ถ้วน พวกมันเพียงพอที่จะเอาชีวิตของฟาหยวน
เขาต้องรอจนกว่าโป้ชิงจะปรากฏตัวขึ้นและกำจัดสิ่งกีดขวางเหล่านั้น นั่นเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้าไปสำรวจน้ำตกสวรรค์
ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนทำได้เพียงรอคอยโดยไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า
ภาคเหนือ
องค์ชายฟงเซี่ยน หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญบนจุดสูงสุดของภาคเหนือแต่ตัวตนที่แท้จริงคือสายลับจากนิกายคฤหาสน์วิญญาณของภาคกลาง
เขารู้ว่าฟงจิวเก้อมีความสำคัญอย่างมากต่อแผนการใหญ่ของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ
องค์ชายฟงเซี่ยนเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อได้ยินข่าวการหายตัวไปของฟงจิวเก้อ แต่เมื่อได้รับข้อความจากฮุ้ยฟงซื่อและรู้ว่าฟงจิวเก้อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง องค์ชายฟงเซี่ยนรู้สึกยินดีกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือฟงจิวเก้อในจดหมายแท้จริงแล้วคือฟางหยวน
องค์ชายฟงเซี่ยนรออยู่หลายวันแต่ฟงจิวเก้อยังไม่มาหาเขา
‘ข้าเป็นตัวแทนของนิกายคฤหาสน์วิญญาณในภาคเหนือ หากฟงจิวเก้อปลอดภัยแล้ว เหตุใดเขาไม่มาหาข้า? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะพบศัตรูที่แข็งแกร่งและเกิดเรื่องยุ่งยาก?’
องค์ชายฟงเซี่ยนตระหนักถึงความแข็งแกร่งของฟงจิวเก้อแต่เขาก็รู้เรื่องการต่อสู้ที่รุนแรงระหว่างฟงจิวเก้อกับฉินไป่เฉิง
ฟงจิวเก้อถูกกักขังอยู่เป็นเวลานานก่อนจะปรากฏตัวขึ้น ข้อมูลนี้ซ่อนความนัยว่าตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช
‘แต่เนื่องจากฟงจิวเก้อสามารถปลดปล่อยตนเอง เหตุใดเขาไม่รีบมาหาข้าเป็นอันดับแรก? ผู้อมตะคนอื่นๆกลับภาคกลางไปแล้ว ตอนนี้เขาอาจไม่สามารถกลับภาคกลางได้ด้วยตนเอง เขาต้องการความช่วยเหลือจากข้า หรือเขาจะไม่เชื่อใจข้า?’
ขณะที่องค์ชายฟงเซี่ยนกำลังสงสัย เขากลับได้รับจดหมายจากนิกายคฤหาสน์วิญญาณ
ข้อความในจดหมายระบุว่าจ้าวเหลียนหยุนประสบความสำเร็จในการยึดครองมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เมื่อหลายวันก่อน พวกเขาได้รู้ว่าท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีอยู่ในด่านรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรคในหุบเขาเหล่าโป
เนื่องจากองค์ชายฟงเซี่ยนสามารถบรรลุระดับแปด เป็นธรรมชาติที่เขาจะมีสติปัญญาสูงส่ง
เขาเข้าใจเรื่องราวทันที
“ดังนั้นจึงเป็นเช่นนี้” เขาถอนหายใจ
ทุกองค์กรล้วนมีความขัดแย้งภายใน
ฟงจิวเก้ออยู่ในอำนาจนานเกินไปส่งผลให้บางคนรู้สึกไม่พอใจและความไม่พอใจนี้เริ่มปะทุขึ้นเมื่อฟงจิวเก้อหายตัวไป
เมื่อพิจารณาถึงเวลาที่จ้าวเหลียนหยุนได้รับมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ องค์ชายฟงเซี่ยนเข้าใจอย่างรวดเร็วว่ามีบางคนพยายามถ่วงเวลา
เขาตระหนักถึงเจตนาของฟงจิวเก้อเช่นกัน ‘ดูเหมือนฟงจิวเก้อกำลังซ่อนตัวอยู่เพื่อรอดูว่าผู้ใดมีเจตนาร้ายต่อเขาบ้าง บางทีเขาอาจรู้แล้วและกำลังรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อกำจัดคนเหล่านั้นในครั้งเดียว’
‘หากเป็นเช่นนั้นฟงจิวเก้อจะไม่มาหาข้าเพราะเขารู้ว่าตนเองไม่สามารถบังคับให้ข้าไม่ส่งจดหมายกลับไปแจ้งข่าวต่อนิกาย’
‘แต่เขาจะปลอดภัยที่สุดหากอยู่กับข้า นอกจากนั้นข้ายังสามารถช่วยเขากลับภาคกลาง เขาไม่ใช่คนโง่ ตรงข้ามเขาเป็นนักวางแผนและรู้จักใช้กลยุทธ์ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะเดียวกันเขายังต้องระวังนิกายเงารวมถึงภัยคุกคามจากความขัดแย้งภายใน แม้เขาจะไม่มาหาข้า แต่เขาต้องอยู่ในบริเวณนี้ ในกรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดคิด เขาจะสามารถขอความช่วยเหลือจากข้าได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากข้าต้องการตามหาเขา ข้าควรตรวจสอบพื้นที่แถวนี้ก่อนเป็นอันดับแรก’
เมื่อคิดได้เช่นนี้ องค์ชายฟงเซี่ยนจึงเริ่มใช้วิธีตรวจสอบที่ทรงพลังของเขา
ในไม่ช้าองค์ชายฟงเซี่ยนก็ค้นพบฟงจิวเก้อ
“ฮ่าฮ่าฮ่า น้องฟง ข้าพบเจ้าในที่สุด” เขาหัวเราะเสียงดังขณะเดินเข้าไปหาฟงจิวเก้อ
“ข้าหวังว่าองค์ชายจะไม่ตำหนิข้า” ใบหน้าของฟงจิวเก้อยังซีดขาวเล็กน้อย
“ข้าเข้าใจ” องค์ชายฟงเซี่ยนพยักหน้า “ไปกันเถอะ ถ้ำสวรรค์ของข้าเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเจ้าในการพักฟื้น”
แน่นอนว่านี่เป็นฟงจิวเก้อตัวจริงที่ไม่ใช่ฟางหยวน
ทั้งสองเข้าไปในถ้ำสวรรค์และพูดคุยกันถึงหุบเขาเหล่าโป
องค์ชายฟงเซี่ยนรู้สึกโกรธอย่างช่วยไม่ได้ “ฮุ้ยฟงซื่อช่างประมาทนัก! เขาต้องถูกลงโทษ! ผู้อมตะที่นำหุบเขาเหล่าโปไปอาจเป็นสมาชิกนิกายเงา”
ภาพของฟางหยวนปรากฏขึ้นในใจของฟงจิวเก้อแต่เขาไม่ได้กล่าวออกมา
องค์ชายฟงเซี่ยนกล่าวต่อ “ข้าจะส่งจดหมายถึงนิกาย เจ้าสามารถกลับมา นี่เป็นข่าวสำคัญ! ข้าจะไม่ปล่อยให้ภรรยาและบุตรสาวของเจ้าโศกเศร้าอีกต่อไป เมื่ออาการบาดเจ็บของเจ้าดีขึ้น ข้าจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้เจ้าเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน หลังจากนั้นข้าจึงจะปล่อยให้เจ้ากลับภาคกลาง พวกเราพี่น้องจะต้องดื่มด้วยกัน ไม่เมาไม่เลิกลา!”
ฟงจิวเก้อเผยรอยยิ้มขมขื่น
เขารู้เจตนาขององค์ชายฟงเซี่ยน
สิ่งที่องค์ชายฟงเซี่ยนพิจารณามีเพียงผลประโยชน์ของนิกายเท่านั้น
การปราบปรามผู้อมตะคนอื่นๆในนิกายของฟงจิวเก้อจะสร้างปัญหาภายในที่รุนแรง องค์ชายฟงเซี่ยนไม่ต้องการเห็นสิ่งนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อฟงจิวเก้อคิดถึงภรรยาและบุตรสาว จิตใจของเขาก็อ่อนลง
เขาลอบถอนหายใจ
“พี่ใหญ่พิจารณาได้รอบด้านแล้วจริงๆ!” ฟงจิวเก้อป้องหมัดกล่าวอย่างมีความนัย
องค์ชายฟงเซี่ยนหัวเราะและมีความสุขมากขึ้นกับคำตอบนี้
เมื่อข้อมูลไปถึงนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ตัวตนระดับสูงของนิกายต่างรู้สึกยินดี
การหายตัวไปของฟงจิวเก้อสร้างแรงกดดันให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก ก่อนหน้าเมื่อฟงจิวเก้อยังอยู่ พวกเขาลดคุณค่าของตนเองลงโดยไม่รู้ตัว การหายตัวไปครั้งนี้ยิ่งทำให้พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของฟงจิวเก้อต่อนิกายคฤหาสน์วิญญาณ
ฟงจินฮวงหัวเราะทั้งน้ำตาขณะที่เทพธิดาไป่ชิงเผยรอยยิ้มมีความสุข
อย่างไรก็ตามยังมีบางคนวิตกเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ฟงจิวเก้อยังไม่ตาย หลังจากนี้เรื่องต่างๆจะยากขึ้นสำหรับพวกเรา” ซูเฮาและหลี่จุนอิงรู้สึกหนักใจ
พวกเขาจงใจซ่อนข่าวเกี่ยวกับจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่โจ่งแจ้ง แต่ผู้คนก็สามารถทำความเข้าใจได้โดยไม่ยาก
แม้ฟงจิวเก้อจะไม่สามารถใช่เรื่องนี้กำจัดพวกเขา แต่เมื่อฟงจิวเก้อกลับมา เขาย่อมไม่พอใจและจะปราบปรามคนทั้งสองในระดับหนึ่ง
ข่าวของฟงจิวเก้อมาถึงนิกายคฤหาสน์วิญญาณเร็วกว่าครั้งก่อน ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่มีการประชุมของกลุ่มผู้อาวุโสขณะที่เทพธิดาไป่ชิงก็ไม่ถูกส่งไปสำรวจน้ำตกสวรรค์
แต่ถึงกระนั้นโป้ชิงก็ยังปรากฏตัวขึ้น
ดาบแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปทุกทิศทุกทางและสร้างความตกใจให้กับทุกคน
เมื่อดาบแสงสงบลง ผู้อมตะจำนวนมากจึงเริ่มออกเดินทางไปยังน้ำตกสวรรค์
แต่ฟางหยวนมาถึงก่อนแล้ว
เบื้องหน้าเขาคือน้ำตกสวรรค์ที่ถูกย้อมไปด้วยเลือดและทรัพยากรอมตะ!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น