ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 991-996
บทที่ 991 ประกันตัว
Ink Stone_Fantasy
กินข้าวเสร็จแล้ว ตอนกลับเกาะแฟร์เวล นีลเซ็นที่รับหน้าที่เป็นคนขับรถก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “บอส ที่จริงคุณไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้บริษัทดาวเคมิคอลก็ได้ แค่แปดแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดาก็สามารถเอาโรงงานพังๆ พวกนั้นมาได้แล้วล่ะครับ!”
ฉินสือโอวยิ้มไม่พูดอะไร เออร์บักพูด “เงินพวกนี้ ฉินสือโอวไม่ได้จ่ายเพื่อบริษัทดาวเคมิคอลแต่เป็นเงินที่จ่ายเพื่อรักษาหน้าคุณนายบรูซ ที่จริงแล้วฉินสือโอวและประธานบริษัทดาวเคมิคอลแคนาดาล้วนจ่ายเงินเพื่อรักษาหน้าคุณนายบรูซ แต่พวกเขาได้การยอมแพ้ที่จะสร้างสายการผลิตบนเกาะเป็นการตอบแทน”
อย่างที่เออร์บักพูด ฉินสือโอวจ่ายเงินไปเยอะถือเป็นค่าตอบแทนให้เคอร์เรท เหมือนที่เขาพูด เขาต้องให้คำอธิบายกับพวกกรรมการบริหาร
อีกอย่าง ทำไมฉินสือโอวต้องวุ่นวายกับเคอร์เรทขนาดนั้นด้วยล่ะ? การเลือกที่ตั้งของสายการผลิตไม่ใช่เขาคนเดียวที่จะตัดสินใจ คนที่เขาต่อต้านคือบริษัทดาวเคมิคอลไม่ใช่เคอร์เรท ให้ราคาที่ดีกับเคอร์เรทไปก็เท่ากับเขาได้เพื่อนที่มีอำนาจมากขึ้นอีกหนึ่งคน
คงเพราะเห็นท่าทางที่คุณนายบรูซมีต่อฉินสือโอว เคอร์เรทถึงได้รับมิตรภาพจากเขาอย่างเต็มใจ
สรุปแล้ว ปัญหาที่ทำให้ฉินสือโอวลำบากมาหลายวันได้ถูกแก้ไขแล้ว คุณนายบรูซมาได้ทันเวลาเหลือเกิน อีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็จะถึงตรุษจีน ฉินสือโอวไม่อยากเอาความหนักใจมาฉลองตรุษจีนครั้งแรกบนเกาะแฟร์เวลของเขา
วันรุ่งขึ้นหลังจากจ่ายเงินไปแล้ว ฉินสือโอวก็ขับรถไปที่ท่าเรือของเมือง เหล่าอาสาสมัครและชาวเมืองยังคงล้อมอยู่ที่นั่น
คนพวกนี้ต่างก็แปลกใจ เพราะพวกตำรวจที่มาถึงเกาะแฟร์เวลเมื่อหลายวันก่อนเก็บกวาดสิ่งของไปตั้งแต่เช้าแล้ว คนที่ฉลาดก็พอจะเดาออก เพียงแต่พวกเขาไม่กล้ายืนยัน จนกระทั่งฉินสือโอวมาถึง
เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายกลุ่มคน ทางเมืองเลยเอาเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่มาติดไว้ทั้งสี่ด้านของท่าเรือ ฉินสือโอวหยิบไมค์แล้วขึ้นมายืนบนรถ ผู้คนก็เข้ามาล้อมรอบทันที
เห็นผู้คนที่ใส่เสื้อยัดขนสัตว์และเสื้อโค้ตหลายสีหลายแบบ ฉินสือสือโอวสูดหายใจเข้าแล้วตะโกนสุดเสียง “ชาวเมือง อาสาสมัครและเพื่อนชาวประมงทุกท่าน! ผมคือฉิน ผมจะประกาศข่าวเรื่องหนึ่ง! บริษัทดาวเคมิคอลยอมประนีประนอมแล้ว!!”
ทุกคนเงียบกริบไปชั่วขณะ มองไปที่ฉินสือโอวกันอย่างงุนงง หลังจากนั้นประมาณไม่กี่วินาทีที่นั่นก็คึกคักขึ้นมา ทุกคนโห่ร้องกระโดดโลดเต้นอย่างยินดี
“อะไรนะ? บริษัทดาวเคมิคอลยอมประนีประนอมแล้ว? พวกเขาล้มเลิกการสร้างโรงงานเคมีบนเกาะแล้ว?”
“ไชโย! พระเจ้าอวยพรให้เกาะแฟร์เวล! พระเจ้าอวยพรให้แคนาดา!”
“พวกเราชนะแล้ว! พวกเราชนะนักลงทุนบัดซบแล้ว!”
“เวรเอ๊ย! เวรเอ๊ย! เวรเอ๊ย! ฉันรักษาบ้านฉันไว้ได้แล้ว! โอ้วโอ้วโอว ฉันรักษาบ้านฉันไว้ได้แล้ว!”
อ่านนิยาย
เจ้าของฟาร์มปลาและพวกโดนัลด์ชกมือกันอย่างดีใจ ผู้คนโอบกอดกัน แสดงความรู้สึกตื่นเต้นที่อยู่ในใจอย่างเต็มที่
พวกเขาชนะแล้ว ชาวเมืองชนะสงครามปกป้องบ้านเมืองแล้ว เหล่าอาสาสมัครชนะสงครามปกป้องเต่ามะเฟือง เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาชนะสงครามปกป้องแหล่งเศรษฐกิจ
การคมนาคมที่นครเซนต์จอห์นสะดวกมาก ถ้ากลายเป็นนิคมโรงงานเคมี สำหรับฟาร์มปลาแล้วนั่นจะเป็นการทำลายล้างอย่างพังพินาศ!
ฉินสือโอวยืนอยู่บนรถมองผู้คนโห่ร้อง เขาเร่งเสียงเครื่องขยายเสียงขึ้นให้ดังที่สุดแล้วตะโกน “โห่ร้องออกมา! กระโดดขึ้นมา! พวก คืนนี้ผมจะจัดปาร์ตี้ที่ร้อนแรงที่สุด! คืนนี้ผมจะทำให้เกาะแฟร์เวลลุกเป็นไฟ!”
“โอ้วๆ! ทำให้กลางคืนลุกเป็นไฟ!” ผู้คนโห่ร้องกันอย่างบ้าคลั่ง
จ่ายเงินให้บริษัทดาวเคมิคอลไปแล้ว สัญญามีผลแล้ว นี่หมายความว่าโรงงานทั้งสี่แห่งบนเกาะรวมถึงโรงงานเคมีชุนเทียนและโรงงานสารเคมีสตีฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นของเขาแล้ว
แน่นอนว่าปัจจุบันโรงงานเคมีพวกนี้มีแต่เปลือก ด้านในไม่มีอะไรเลย ไม่อย่างนั้นราคาคงไม่ถูกอย่างนี้
แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ โรงงานพวกนี้สามารถเอาไปใช้อย่างอื่นได้ อย่างเช่น โรงจอดรถที่ใหญ่ที่สุดของโรงงานเคมีสตีฟ พอเก็บกวาดแล้วก็เป็นสถานที่ที่ดีในการรองรับคนหลายร้อยสำหรับงานรื่นเริง
โดยไม่ต้องใช้กุญแจ ฉินสือโอวให้แบล็คไนฟ์พังประตูโรงงานเคมีสตีฟเข้าไป ชาร์คไปที่เมืองรวบรวมชาวเมืองเพื่อทำความสะอาด งานปาร์ตี้ในคืนนี้จะจัดขึ้นที่นี่อย่างแน่นอน
คนเยอะจึงทำงานได้ง่าย คนไม่กี่สิบคนถือพลั่ว ไม้กวาด ผ้าชุบน้ำเข้ามาที่โรงรถ ไม่นานก็ทำความสะอาดที่นี่จนสะอาดโล่ง
ฮิวจ์ขับรถกำจัดหิมะของเมืองเข้ามา หิมะที่อยู่รอบๆ โรงจอดรถถูกกำจัดออกไปอย่างง่ายดาย แบบนี้เมื่อมองไปรอบๆ โรงรถก็ยังสะอาดมาก
ฮิวจ์คนน้องเอาอุปกรณ์ดีเจเข้ามาหนึ่งชุด ลองแล้วที่โรงงานยังมีไฟฟ้าอยู่ พอใส่เครื่องจ่ายไฟไปแล้ว เสียงเพลงก็ดังออกมาดังสนั่น
อ่านนิยาย
ฉินสือโอวกำลังปรึกษากับคนกลุ่มหนึ่งว่าจะซื้ออะไรดี ผลสุดท้ายเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาพูดอย่างสบายใจว่า “โทรศัพท์ใคร?”
ทุกคนมองเขา
ฉินสือโอวรีบรับโทรศัพท์ ผลสุดท้ายเป็นสถานีตำรวจนครเซนต์จอห์นโทรมาถามว่า “คุณฉิน ไม่ทราบว่าคุณรู้จัก คุณ‘กว่างเก้าเจีย’ กับ ‘ลิงเจี้ยนผาน ’ไหม? พวกเขาเป็นคนจีน ชื่อออกเสียงยาก พวกเขาพูดว่าเป็นคนที่เกาะแฟร์เวล”
ฉินสือโอวนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วตอบสนองอย่างรวดเร็ว “ใช่หวงเฮ่าเจียและเจี้ยนผานโฮ่วใช่ไหมครับ?”
“ใช่ น่าจะอย่างนี้ แต่ชื่อของพวกเขาออกเสียงยากจริงๆ…” ตำรวจคนนั้นเริ่มบ่นอย่างไม่หยุด
ฉินสือโอวพูดตัดบทเขา “ใช่ครับ พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชาติกัน พวกเขาเป็นพนักงานบนเกาะของเรา มีอะไรเหรอครับ?”
พูดไปแล้วก็แปลกๆ ไม่กี่วันนี้มีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาไม่เห็นเจ้าบ้าโหวจื่อเซวียนกับหวงเฮ่าเจียเลย นี่ไม่ปกติเลย
พอได้รับการยืนยันจากเขา ตำรวจม้าก็ถอนหายใจพลางพูด “อย่างนั้นคุณรีบมาประกันตัวทั้งสองคนที่สถานีตำรวจเถอะ พวกเขาต้องสงสัยว่าทำร้ายคุณเคอร์เรท ถูกรปภ.ที่บริษัทดาวเคมิคอลจับส่งมาที่สถานีตำรวจ”
ได้ยินข่าวนี้แล้วฉินสือโอวก็ตกใจ เขาวางสายแล้วนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปสถานีตำรวจนครเซนต์จอห์น
ถึงสถานีตำรวจแล้วก็มีคนมารับรองเขาแล้วพาไปที่ห้องขัง จากนั้นเจ้าตัวแสบที่หมดอาลัยตายอยากทั้งสองคน พอเห็นเขาก็รีบกระโดดขึ้นมาแล้วพุ่งมาที่ลูกกรงเหล็กพลางถาม “พี่ฉิน ไอ้บริษัทดาวเคมิคอลเวรนั่นก่อเรื่องเหรอ? พวกเรายังไม่ทันออกแรง เขาล้มลงไปได้ยังไง?”
ฉินสือโอวมองทั้งสองด้วยสายตาที่มองคนโง่ บนหัวของทั้งสองมีสายรัดสีขาวรัดอยู่ อันหนึ่งเขียนว่า ‘ปกป้องแม่น้ำหวงเหอ’ อีกอันเขียนว่า ‘ปกป้องแม่น้ำฉางเจียง’ ด้วยหมึกสีแดงราวกับเลือด ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร?
เออร์บักไปจัดการขั้นตอนการประกันตัว ซึ่งง่ายดายมาก เขาเซ็นชื่อรับประกันแล้วจ่ายเงินก็เสร็จแล้ว
ฉินสือโอวถาม “พวกนายสองคนมีเรื่องอะไร? ทำไมถูกส่งมาที่สถานีตำรวจ?”
พูดถึงเรื่องนี้ทั้งสองก็มีท่าทางหมดอาลัยตายอยากขึ้นมา ตำรวจที่อยู่ข้างๆ พูด “ตามหลักฐานที่พวกเราตรวจสอบได้ ทั้งสองคนนี้ไปที่โรงแรมที่ประธานบริษัทดาวเคมิคอลพักอยู่ จากนั้นก็คิดจะโจมตีเขา…”
โหวจื่อเซวียนพูด “อย่าใส่ความกัน พวกเราสองคนไปแสดงการต่อต้าน ไปโจมตีเขาตอนไหนกัน?”
“อย่างนั้นขวดสเปรย์ที่ตัวคุณมันคืออะไร?” ตำรวจคนนั้นถามอย่างหมดความอดทน
…………………………………………..
บทที่ 992 บ้าคลั่งขึ้นมา
Ink Stone_Fantasy
ถึงขนาดใช้ขวดสเปรย์เลยเหรอ? ฉินสือโอวประหลาดใจ
หวงเฮ่าเจียถอนหายใจ “ถ้าผมบอกว่าผมมีงานอดิเรกเป็นการทำกราฟฟิตี้ คุณจะเชื่อไหม?”
ตำรวจคนนั้นทำปากมุ่ยพลางเปิดประตูแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ถือว่าคุณโชคดีที่คุณเคอร์เรทไม่เอาเรื่องพวกคุณ ไม่อย่างนั้นพวกคุณได้อยู่ในคุกหลายวันแน่”
ฉินสือโอวพาทั้งสองขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เขาให้ทั้งสองคนขึ้นไปก่อน ส่วนเขาโทรไปหาเคอร์เรทเพื่อขอบคุณที่เขาไม่ตามเอาเรื่องสองคนนี้
เคอร์เรทหัวเราะเบาๆ พลางพูดว่า “อ่อ ไม่เป็นไรครับ พวกเขาบอกว่าตัวเองมาจากเกาะแฟร์เวลผมก็รู้แล้วว่าเรื่องอะไร ดังนั้นก็เลยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แล้วให้พวกเขาแจ้งพวกคุณให้มาประกันตัว”
ฉินสือโอวพูด “ยังไงก็ขอบคุณมากครับ ประธานเคอร์เรท พวกเขาสองคนยังไม่รู้เรื่องข้อตกลงของเราก็เลยทำอะไรบ้าๆ ลงไป ผมจะสั่งสอนพวกเขาแทนคุณให้ดีเลย สรุปว่าผมติดหนี้บุญคุณคุณหนึ่งครั้งนะครับ”
ทุกคนล้วนเป็นคนฉลาด เขารู้สาเหตุที่เคอร์เรทไม่ตามเอาเรื่องทั้งสองคน จะตามสองคนนี้ไปรับผิดชอบทำไม? เปลี่ยนเป็นเงินหรืออำนาจอะไรขึ้นมาก็ไม่ได้ สู้ทำให้ฉินสือโอวติดหนี้บุญคุณเขาสักครั้งดีกว่า
ตอนที่ตำรวจโทรมาแจ้งเขา แต่กลับไม่ใช่แฮมเล็ตที่เป็นนายกเทศมนตรี ฉินสือโอวก็เข้าใจจุดประสงค์ ต้องเป็นเคอร์เรทที่ให้ตำรวจโทรมาหาเขาอย่างแน่นอน
เคอร์เรทที่อยู่ปลายสายหัวเราะขึ้นมาอย่างมีความสุข จากนั้นก็คุยกันไม่กี่ประโยคแล้วทั้งสองคนก็วางสายไป
ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีมารยาทมาตลอด ราวกับเป็นเพื่อนเก่า สำหรับนักลงทุนแล้วไม่มีเพื่อนที่ถาวรมีแต่ผลประโยชน์ที่ถาวร พอไม่มีผลประโยชน์แล้วทุกคนก็คือเพื่อน
ฉินสือโอวขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วมองดูตัวอักษรสีแดงบนสายรัดหัวของทั้งสองคนอย่างละเอียดแล้วถามด้วยความสงสัย “ฉันว่า พวกนายคงไม่ได้ใช้เลือดจริงๆ เขียนตัวหนังสือพวกนี้หรอกใช่ไหม?”
โหวจื่อเซวียนฝืนยิ้มพลางพูด “ได้ที่ไหนล่ะ เหอะๆ ใช้ลิปสติก พวกเราเอาลิปสติกมาเขียน”
ฉินสือโอวหมดคำพูดไปชั่วขณะ โรคโง่แบบนี้ไม่มีทางรักษาจริงๆ
อ่านนิยาย
“พูดมาสิ มันเรื่องอะไรกัน? แล้วก็ ไม่กี่วันก่อนหน้านี้พวกนายไปไหนมา ทำไมฉันไม่เจอพวกนายเลย?” ฉินสือโอวพูด
โหวจื่อเซวียนอธิบาย “ไม่กี่วันก่อนหน้านี้พวกเรากลับประเทศ หิมะตกหนักเลยไม่มีนักท่องเที่ยวไม่ใช่เหรอไง? แล้วก็ต้องฉลองตรุษจีนอีก พี่ซาโกรเลยให้พวกเราพักร้อน พวกเราเลยกลับประเทศ”
“ต่อมาพี่สาวผมเล่นเวยป๋อแล้วเห็นโพสต์ของคุณ พอบอกผมแล้วผมก็มาบอกพี่โหวต่อ พวกเราสองคนถึงได้รู้ว่าที่เกาะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเลยรีบบินกลับมา พอลงเครื่องมาพวกเราก็ถามประธานของโรงงานเคมีอะไรนั้น คิดว่าจะจับเขาพ่นหน้าให้เป็นสีดำ ให้เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร!” หวงเฮ่าเจียเสริม
พวกเขาสองคนพูดต่อกันราวกันเป็นเสียงเดียวกัน โหวจื่อเซวียนพูดต่อด้วยความเสียดาย “น่าเสียดาย พวกเราจับคนผิด ดันไปจับเอาหัวหน้าฝ่ายภายนอกอะไรไม่รู้ ยังไม่ได้พ่นสีอะไรเลยก็ถูกจับส่งไปที่สถานีตำรวจแล้ว”
หวงเฮ่าเจียพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันบอกแล้ว พวกเรากลับไปก่อน ไปเอาแท่นเล็งปืน ยิงหัวแม่มันก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ?”
โหวจื่อเซวียนประชด “แหม ตอนนี้นายทำไมเก่งขนาดนี้? นายพูดกับฉันตอนไหนว่าให้เอาที่เล็งปืนมายิงหัวเขา? ถึงจะให้ที่เล็งปืนกับนายจริงๆ นายจะกล้ายิงเหรอ?”
เปลี่ยนเรื่องได้สำเร็จ สงครามข้างนอกจบสงครามข้างในก็เริ่มต้น ทั้งสองคนตีฝีปากกันไปมา
ฉินสือโอววางมือไว้ที่ไหล่ของทั้งสองคน เขาพูดด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ “ขอบใจ พี่โหว ขอบใจน้องเฮ่าเจีย พวกนายเอาใจใส่ขนาดนี้ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก จริงๆ นะ ขอบคุณทุกอย่างที่พวกนายทำเพื่อเกาะ!”
เขารู้สึกซาบซึ้งจริงๆ พวกเขาแค่มาทำงานที่แคนาดา เกาะจะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกขา
แต่ทั้งสองคนเมื่อรู้ว่าที่เมืองมีปัญหาก็กลับมาที่นครเซนต์จอห์นก่อนตรุษจีนอย่างแน่วแน่ แล้วยังไปจับเคอร์เรท แม้จะเป็นเจตนาดีแต่การกระทำเลวร้ายก็ตาม แต่อย่างไรก็เป็นเจตนาที่ดี นี่ควรค่าให้ฉินสือโอวพูดขอบคุณ
โหวจื่อเซวียนหัวเราะพลางพูด “จะขอบคุณพวกเราทำไม? พวกเราทำงานอยู่ที่นี่ ถ้าบนเกาะมีโรงงานเคมีมาสร้าง อย่างนั้นก็จะไม่มีนักท่องเที่ยวมาและตอนนั้นพวกเราสองคนก็จะไม่มีงานทำ สรุปแล้วคือพวกเราทำเพื่อตัวเองด้วยเหมือนกัน”
ฉินสือโอวโบกมือพลางพูด “พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว กลับเมืองไปดื่มเหล้ากินเนื้อกัน! คืนนี้มีปาร์ตี้!”
อ่านนิยาย
หลังจากกลับมาที่โรงจอดรถของโรงงานเคมี ด้านในก็เปลี่ยนแปลงไปมาก
นีลที่เป็นเจ้าของผับดาราประกายเอาลูกบอลดิสโก้มาจำนวนหนึ่ง เหยียบบันไดแล้วติดลูกบอลไปรอบๆ กำแพงทั้งสี่ด้าน แล้วลูกบอลดิสโก้เหล่านี้ก็หมุนไปรอบๆ แสงหลากสีสันส่องอยู่ในโรงงานทำให้โรงงานมีบรรยากาศเหมือนอยู่ในผับ
ไม่รู้ว่าคาร์สันไปเอาเครื่องสูบไฮโดรเจนมาจากไหน พวกเชอร์ลี่ย์กำลังสูบลูกโป่งกัน พอสูบเต็มแล้วก็เอาลูกโป่งโยนออกไปลอยไปทางด้านบนเพดาน แบบนี้ที่เพดานก็มีลูกโป่งลอยอยู่ กลายเป็นงานรื่นเริงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นเชอร์ลี่ย์ที่มัดผมหางม้า ใบหน้าที่มีสิววัยรุ่นของหวงเฮ่าเจียก็แดงขึ้นมา เขาไปถามด้วยใบหน้าเขินอายว่า “เฮ้ ให้ฉันช่วยไหม?”
เชอร์ลี่ย์ปัดไปรอบๆ แล้วพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว ดูสิ ฉันกับเพื่อนจัดการได้”
หวงเฮ่าเจียหัวเราะพลางพูด “ฉันก็เป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ?”
เชอร์ลี่ย์มองเขาครั้งหนึ่งแล้วยักไหล่ “โทษที ปู่เออร์บักไม่ให้คบคนขี้แพ้เป็นเพื่อน”
โหวจื่อเซวียนที่ตามมาด้านหลังพอได้ยินเข้าก็หัวเราะยกใหญ่ หวงเฮ่าเจียพาลโกรธ ดึงสายรัดที่หัวออกแล้วทะเลาะกับโหวจื่อเซวียน
พวกเขามีเวลาเตรียมงานทั้งวัน ตอนนี้ในงานปาร์ตี้ นีลส่งเหล้ามาทุกชนิด ส่วนพวกชาวเมืองก็เตรียมอาหารและขนมกันมาทุกบ้าน พ่อของฉินสือโอวลงครัวทำข้าวผัดมันหมูหม้อใหญ่ แม่ฉินสือโอวอบขนมเปี๊ยะไส้ผักและไส้เนื้อ
หมาแมวที่เกาะวิ่งตามคนมาที่โรงงานด้วย ก่อนหน้านี้หนึ่งวันโรงงานเคมียังร้างเหมือนสุสาน ครู่เดียวก็เต็มไปด้วยสีสันที่มีชีวิตชีวา
ปาร์ตี้ในคืนนี้ไม่มีอะไรพิเศษ แต่คนเยอะเลยคึกคักเป็นพิเศษ
มีคนจัดแข่งขันงัดข้อ ฉินสือโอวสมัครด้วย เขาถูกปัดออกเลยได้แต่ไปหาคนมาเล่นไพ่ด้วย
พระอาทิตย์ตกลงไปในทะเล ฮิวจ์คนน้องปิดเครื่องขยายเสียงแล้วเอาไมค์ส่งให้ฉินสือโอว ฉินสือโอวชูมือพลางตะโกนว่า “เวลานี้ยังต้องพูดอะไรอีก?! คืนนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของพวกเรา! ดังนั้น ทุกคนดื่ม! ตะโกนขึ้นมา! สนุกกันเถอะ! ทำให้คืนที่หนาวเย็นนี้ร้อนเป็นไฟ!”
ผู้คนโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง ผู้ชายจำนวนมากใส่เสื้อผ้าเพียงชั้นเดียว ในโรงงานมีเตาอยู่เยอะมาก เปลวไฟลุกโชน
พ่อและแม่ของฉินสือโอวไม่เคยร่วมงานปาร์ตี้มาก่อน คืนนี้เลยตั้งใจมาเปิดโลก สุดท้ายพอเสียงเพลงที่ดังลั่นดังขึ้นมา ขาของทั้งคู่แทบยืนไม่อยู่ พวกเขารีบเอามือปิดหูแล้วออกไป
ฉินสือโอวตามออกไปถาม “พ่อแม่ ไม่เป็นไรใช่ไหม?
พ่อฉินสือโอวทำปากมุ่ย “โอ้โหแม่เอ๊ย ฉันกับแม่แกไม่ไหวหรอก สนุกกับคนหนุ่มสาวอย่างพวกแกไม่ไหว คนข้างในบ้าคลั่งไปแล้ว แกดูสิ ออกมาไกลขนาดนี้แล้วยังปวดหูอยู่เลย แกไปสนุกเถอะ พวกเราจะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนวินนี่”
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉินสือโอวก็ไม่บังคับ ปาร์ตี้แบบนี้คนเยอะคึกคักและบ้าคลั่ง ไม่เหมาะกับพ่อแม่ที่เป็นคนจีนดั้งเดิมจริงๆ
“พวกเรากลับล่ะ ไปอยู่เป็นเพื่อนวินนี่และเตรียมของฉลองตรุษจีนด้วย พริบตาเดียวก็อีกปีหนึ่งแล้ว” พ่อของฉินสือโอวโบกมือแล้วออกไปอย่างท้อใจ
บทที่ 993 เซนเซอร์ได้ไหม
Ink Stone_Fantasy
พริบตาเดียวก็ปีใหม่อีกแล้ว
ขณะที่ฉินสือโอวติดโคลงคู่มงคล เขาถอนหายใจอย่างเสียดาย “โคโกโร่ แกว่าเวลามันไปไหนวะ ยังจำตอนที่พวกเราเจอกันครั้งแรกได้ไหม น่าจะเป็นตอนที่เข้ามหาวิทยาลัย พริบตาเดียวเอง กี่ปีแล้ว”
เหมาเหว่ยหลงถอนหายใจ “บ้าเอ๊ย อย่ามาพูดอะไรที่มันอ่อนไหวได้ไหม ใช่ พริบตาเดียว ฉันก็เป็นพ่อคนแล้ว แกก็เป็นพ่อคนแล้ว แต่จะว่าไปมันก็เหมือนตอนมหาลัยที่แกสอบขึ้นปีสี่ช้ากว่าฉัน ตอนเป็นพ่อคน แกก็เป็นช้ากว่าฉัน ”
ได้ยินแบบนี้ ฉินสือโอวก็หัวเราะออกมา เขาวางโคลงคู่มงคลแล้วหันกลับมาพูด “แกยังมีหน้ามาพูดแบบนี้ได้ไง โคโกโร่ สอบขึ้นปีสี่มหาวิทยาลัยได้ ก็เพราะแกให้คนอื่นมาสอบแทนให้ ใช่ไหมล่ะ ส่วนฉันสอบได้เอง ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าแกมาเป็นพ่อคนได้ยังไง เป็นแบบนี้ได้ยังไง แต่ฉันทำมันด้วยตัวเอง”
เหมาเหว่ยหลงชี้เขาพลางพูด “ปีใหม่แล้ว แกช่วยพูดอะไรที่มันเป็นมงคลหน่อยได้ไหม ใช่ ฉันหาคนมาสอบแทนให้ ฉันเลยได้ขึ้นปีสี่ วันนั้นฉันปวดท้องหรอก ไม่อย่างนั้นนะ ฉันสอบเกรดสี่ได้แบบสบายๆ ไปแล้ว”
ทั้งสองคนเริ่มเถียงกันทันที หู่จือกับเป้าจือเห็นพ่อของมันจ้องตากันอยู่ ก็รีบวิ่งเข้ามาเห่าใส่เหมาเหว่ยหลง
เหมาเหว่ยหลงตะโกน พวกวายร้ายที่เอะอะอยู่หน้าวิลล่าก็ร้องเสียงแหลม และมองไปยังเหมาเหว่ยหลงที่กวักมือเรียก พร้อมวิ่งไปล้อมเขา ทั้งสองฝั่งทั้งร้องทั้งแยกเขี้ยว บรรยากาศมีชีวิตชีวาหาที่เปรียบไม่ได้
พ่อฉินวิ่งออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ตะโกนว่า “โตจนอายุ 30 กันแล้ว ฉันพูดว่าแกสองคนโตจนเป็นพ่อคนแล้ว ยังจะมาเล่นกันแบบนี้อีก รีบๆ แปะโคลงคู่มงคลเร็ว”
ฉินสือโอวพูดขึ้น “พ่อครับ พ่อมาช่วยผมหน่อย ให้โคโกโร่ไปตรงนั้น”
ชายแก่ส่ายหน้าพลางเดินออกมา ถอนหายใจและพูดขึ้นว่า “แกนะแก ถึงตอนนี้อินเทอร์เน็ตจะสะดวกมาก แต่พวกโคลงคู่มงคลหาซื้อในอินเทอร์เน็ตได้ด้วยหรือ ทำทุกอย่างได้โดยไม่ต้องออกไปข้างนอกเลย”
เนื่องจากคนจีนในแคนาดามีเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวกับคนจีนก็เพิ่มขึ้นด้วย คนจีนในเซนต์จอห์นยังน้อย ดังนั้นจึงต้องซื้อโคลงคู่มงคลจากอินเทอร์เน็ต หาซื้อได้ทั้งในอเมซอนและอีเบย์ มีคนจีนจำนวนมากอยู่ในโทรอนโตและแวนคูเวอร์ ตามถนนก็มีโคลงคู่มงคลขายกัน
ฉินสือโอวคลี่โคลงคู่แล้วเริ่มติดบนประตู พ่อฉินหรี่ตามอง ตาเบิกโพลงในทันใดเมื่อเห็น พลางตะโกนออกไปว่า “แกซื้ออะไรมา”
ฉินสือโอวพูดอย่างได้ใจ “มันดีมากเลยนะครับ ดูสิครับ บนโคลงเขียนว่า ‘นั่งพักสักนิด ผ่อนจิตผ่อนใจ’ ข้างล่างคือ ‘พักผ่อนสักหน่อย จะพานประสบโชค’ ตามแนวนอนเขียนว่า ‘ดินแดนในอุดมคติ’ พ่อครับ พ่อไม่คิดว่ามันเหมาะกับโอกาสพิเศษเหรอ”
พ่อฉินชี้ไปที่เขาอย่างขมขื่น พลางพูด “โคลงคู่มงคลปีหน้า ฉันจะเขียนเอง นี่แกเล่นอะไรอยู่”
ฉินสือโอวมองไปที่เหมาเหว่ยหลงด้วยความงุนงงสงสัย พร้อมทั้งถามว่า “แกคิดว่ามันไม่ดีเหรอ”
เหมาเหว่ยหลงบีบจมูกพูดเสียงเบา “ก็ดีนะ แปะรอบๆ บริเวณนี้ โดยเฉพาะบนเกาะที่ทิวทัศน์งดงามของแก ไม่มีโรงงาน ไม่ค่อยมีข้อพิพาท แบบนี้ไม่ใช่ดินแดนในอุดมคติเหรอ”
ในที่สุดข้อพิพาทที่เกี่ยวกับ บริษัทดาวเคมิคอลก็สิ้นสุดลง หลังจากงานปาร์ตี้อย่างบ้าคลั่ง เหล่าผู้สนับสนุนที่มายังเมืองนี้ก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง พวกเขาได้ตามที่ต้องการแล้ว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ไม่มีข้อพิพาทแล้ว ชีวิตดำเนินผ่านไปอย่างราบรื่น เช่นนี้ทำให้รู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้สึกอะไรจนวันส่งท้ายปีเก่ามาถึง
ติดคำโคลงคู่มงคลเรียบร้อยแล้ว พ่อฉินก็หยิบธูปที่ซื้อในอินเทอร์เน็ตมาจุดไว้ทางตะวันออกของสนามหน้าบ้าน คุกเข่าลงกราบไหว้เสียงพึมพำ ปากก็ท่องแสดงความกตัญญูต่อบรรพชน
หลังจากที่พ่อฉินลุกขึ้น ฉินสือโอวก็พูดขึ้นว่า “พ่อครับ เราต้องทำตอนนี้ด้วยเหรอ รอให้วินนี่คลอดลูก แล้วตอนเช็งเม้งพวกเราค่อยกลับไปไหว้ก็ได้”
พ่อฉินส่ายหัวไปมา พลางพูดขึ้น “นั้นมันอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้พ่อแค่รู้สึกขอบคุณบรรพบุรุษของเรา โชคดีที่พวกเขาอวยพรและปกป้อง ไม่เช่นนั้นแกจะมาทำงานในแคนาดาได้แบบนี้เหรอ”
ฉินสือโอวเห็นว่าก็มีเหตุผล แต่เขาคิดว่าต้องขอบคุณทวดที่ไม่เคยพบกันของเขา สุสานของชายชราอยู่ที่เซนต์จอห์น เมื่อก่อนเขาก็เคยไปเคารพ
รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะเวลาต่างกัน เวลาที่เซนต์จอห์นช้ากว่าปักกิ่งอยู่ เกือบสิบสองชั่วโมง ดังนั้นงานฉลองตรุษจีนก็จะเริ่มตอนประมาณเจ็ดโมงเช้า เหมือนจะไม่รู้สึกอะไร แต่ข้างนอกก็สว่างแล้ว
ทว่าตรุษจีนปีนี้ค่อนข้างคึกคักมีชีวิตชีวา บ้านฉินสือโอวยิ่งไม่ต้องพูดถึง ครอบครัวของเหมาเหว่ยหลงยังมีโหวจื่อ เซวียนกับหวงเฮ่าเจียอีกสองคน รวมๆ กันก็สิบกว่าคน ทุกคนห่อเกี๊ยวกันเพื่อเตรียมอาหารมื้อเย็นส่งท้ายปีเก่ากันอย่างคึกคักสนุกสนาน
หลังจากที่ปรึกษากันว่ามื้อค่ำนี้จะไม่กินตามเวลาที่ประเทศจีน เทศกาลไม่ได้กำหนดตามเวลาของประเทศจีน พวกเขาเวลาห่างกัน 12 ชั่วโมง ก็ฉลองตรุษจีนกันในแบบแคนาดา
คนจีนในอเมริกาเหนือก็จัดงานฉลองตรุษจีนกันเอง ใครใช้ให้คนจีนในอเมริกาเหนือมีเยอะขนาดนี้
เทศกาลจัดตามเวลาของแคนาดา แต่รายการกาล่าฉลองตรุษจีนก็ยังต้องดู ในตอนเช้าตรู่โหวจื่อเซวียนและคนอื่นๆ ก็มาช่วยกันห่อเกี๊ยว และดูงานกาล่าฉลองตรุษจีนไปพร้อมๆ กันที่ฟาร์มปลา
รายการบันเทิงต้องดูหลายๆ คนถึงจะสนุก ในตอนนี้จุดที่ตลกไม่เยอะ ที่น่าดูก็น้อยลง แต่ว่าคนมารวมกันสิบกว่าคน พอตลกก็หัวเราะกันเสียงดัง ความสุขของทุกคนนั้นมากมายเหลือล้น
ไม่นานหลังจากดูงานกาล่าฉลองตรุษจีนจบ เอี๋ยนตงเหล่ยก็โทรมาหา “สวัสดีปีใหม่ เสี่ยวฉิน ไม่ได้พูดคุยกันนาน ฉันมาอวยพรปีใหม่!”
ฉินสือโอวรีบพูด “ขอบคุณครับพี่เหล่ย ผมยุ่งมาก ลืมอวยพรปีใหม่พี่ไป สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับพี่ มีความสุขทั้งครอบครัวนะครับ!”
ทั้งสองคนทักทายกันตามมารยาท เอี๋ยนตงเหล่ยพูดขึ้น “ฉันมีเรื่องอยากให้นายช่วยหน่อย เสี่ยวฉิน สถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนอยากจะทำรายการเกี่ยวกับคนจีนโพ้นทะเลที่เซนต์จอห์น นายมาออกรายการได้ไหม สัมภาษณ์ทางอินเทอร์เน็ต สักพักเดี๋ยวจะมีคนติดต่อนายไป”
ฉินสือโอวพูดอย่างมีความสุข “ไม่มีปัญหาครับ”
เห็นเขาตอบอย่างเร็วด้วยความสุขเช่นนี้ เอี๋ยนตงเหล่ยก็หัวเราะขึ้นมา พลางกล่าวว่า ‘ไม่รบกวนเวลาวันหยุดของนายกับครอบครัวแล้ว’ แล้ววางสายไป
เป็นไปตามที่คิดไว้ ไม่นานนักก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา เมื่อฉินสือโอวรับสาย ฝั่งตรงข้ามได้แนะนำตัวว่าเป็นนักข่าวของสถานีโทรทัศน์ CCTV การสัมภาษณ์ในครั้งนี้จะดำเนินการสัมภาษณ์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ให้ฉินสือโอวเข้าระบบห้องสนทนาในเว็บไซต์
ทันทีที่เข้าไป ฉินสือโอวก็ได้แนะนำตัวเองตามที่ได้นัดหมายไว้ทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นก็อวยพรให้กับเพื่อนร่วมชาติทั่วประเทศ เขาคิดว่ามันจบแล้ว แต่นักข่าวได้ถามคำถามขึ้นในทันทีทันใดว่า “ขอถามคุณฉินสักหน่อยนะครับ ปีใหม่นี้คุณมีความปรารถนาอะไรที่เกี่ยวกับประเทศบ้านเกิดของคุณไหมครับ”
ฉินสือโอวมองกล้องพร้อมพูด “มีแน่นอนครับ แต่คุณจะเซนเซอร์ให้ผมได้ไหมล่ะ”
“เกรงว่าจะไม่ได้ครับ” นักข่าวหัวเราะ
ฉินสือโอวยักไหล่ ก่อนพูดว่า “แค่คำร้องขอไม่ได้มากมายยังทำให้กันไม่ได้เลย ผมจะขอเรื่องอื่นที่มันใหญ่กว่านี้ นั่นก็คงเป็นไปไม่ได้ ถูกไหมครับ ”
เหมาเหว่ยหลงที่อยู่ข้างหลัง ฟังแล้วถึงกับขำออกมาชุดใหญ่ โหวจื่อเซวียนเลียนแบบการยักไหล่ของเขา พลางพูด “โถถังกะละมังหม้อ พ่อนักข่าวคนนั้นโดนฉินสือโอวเล่นงานเสียแล้ว ”
บทที่ 994 อั่งเปาที่เป็นเหตุแห่งสงคราม
Ink Stone_Fantasy
ในตอนเย็น ฉินสือโอวนำประทัดและดอกไม้ไฟที่เตรียมไว้ออกมาแขวนไว้หน้าประตูฟาร์มปลา บนต้นไม้หน้าวิลล่า ท่าเรือและที่อื่นๆ
แคนาดากำลังทำข้อตกลงกับชาวจีนหรือทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจ
ฉินสือโอวอ่านที่ข่าวรายงาน เมื่อห้าปีก่อนแคนาดายังไม่อนุญาตให้ชาวจีนจุดพลุในเทศกาลตรุษจีน เหตุผลก็คือพวกเราเคารพในความศรัทธาและเทศกาลของพวกท่าน แต่ประเทศแคนาดาของเราเป็นประเทศของผู้อพยพ ถ้าหากทุกๆ คนจุดพลุในเทศกาลของตัวเอง ในหนึ่งปี 365 วันคงมีเสียงประทัดดังไม่หยุด
แต่ตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมา ในเทศกาลตรุษจีนก็ยอมให้ชาวจีนจุดพลุได้แล้ว แม้กระทั่งเทศบาลเมืองโทรอนโตเอง ยังเชิญกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการแสดงพลุจากประเทศจีนมาที่โทรอนโต คืนนี้ท้องฟ้ายามค่ำคืนของโทรอนโตจะสว่างไสวกว่าดวงดาวยามค่ำคืนดวงไหนๆ
สิ่งนี้เกี่ยวอะไรกับฉินสือโอว ถึงแม้ว่าเซนต์จอห์นจะไม่มีกิจกรรมพวกนี้ แต่เขาจัดเทศกาลด้วยตัวเองก็พอแล้ว
คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่หน้าบ้าน โดยเฉพาะยังมีพวกเด็กๆ มากขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าคึกคักเป็นอย่างมาก
วิเวียนยังอยู่บนเกาะแฟร์เวลแห่งนี้ เธออยากอยู่กับลูกชายของเธอสักช่วงเวลาหนึ่ง รอให้ไวส์ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาดนี้และไม่มีอุปสรรคทางร่างกายเสียก่อน เธอถึงจะกลับชิคาโก้
เมื่อตกกลางคืน ฉินสือโอว เหมาเหว่ยหลง โหวจื่อเซวียนและหวงเฮ่าเจียก็ไปจุดประทัด ท้องฟ้าของเกาะแฟร์เวลเต็มไปด้วยพลุที่สว่างไสว พร้อมกับเสียงของพลุที่ดังปุงปัง
บนท้องฟ้าของเซนต์จอห์นที่แสนไกล ก็มีแสงสว่างของพลุเช่นกัน แม้ว่าที่นี่คนจีนจะไม่เยอะ แต่ก็ยังพอมีอยู่
ฉินสือโอวซื้อพลุมาจำนวนมาก วางเรียงรายไว้หน้าวิลล่า พลุหลากหลายแบบแข่งกันส่องสว่างบนท้องฟ้า
สัตว์ร้ายกลัวเสียงประทัดมากที่สุด เมื่อเสียงประทัดดังขึ้น เหล่าหมาแสบก็รีบวิ่งเข้าไปใต้โซฟา
หู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอก็อยากวิ่งมาเช่นกัน แต่เมื่อเห็นท่าทางของพวกตัวแสบ พวกมันก็รู้สึกเหนือกว่า แล้วรวมกันเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้า
พวกมันไม่ได้สนใจพลุ แต่เห็นทุกคนเงยหน้ามองท้องฟ้าก็เลยทำแบบนั้นด้วย
แต่พวกเหล่าตัวแสบไม่ได้โดดเดี่ยว ราชาซิมบ้าก็หลบอยู่ใต้โซฟาตำแหน่งในสุดด้วย เมื่อเสียงแรกของประทัดดัง มันก็รีบวิ่งเข้าไปซ่อน
จุดพลุต่อเนื่องนานหนึ่งชั่วโมง หลังจากพลุจบลง ก็มานั่งล้อมโต๊ะกินข้าว
กลุ่มคนที่ไม่ใช่แค่ครอบครัวเดียว แต่มานั่งรวมตัวพูดคุยกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว ฉินสือโอวรู้สึกสนุกกว่าปีก่อนๆ ที่มีเพียงครอบครัวของพวกเขาแค่สามคนเท่านั้น
อาหารบนโต๊ะที่มีความหรูหรา มีการผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก อาหารตะวันตก อาหารจีนชานตง อาหารตงเป่ย และอาหารที่แบบผสมผสานหลายสิบจานวางอยู่ หวงเฮ่าเจียและโหวจื่อเซวียนก็เริ่มแย่งกันถ่ายรูป
พ่อฉินมองดูบรรยากาศอันคึกคัก พลางพูดกับฉินสือโอวว่า “มาฉลองข้ามปีกันเยอะแบบนี้ สนุกไหมล่ะ”
ฉินสือโอวพยักหน้าพร้อมพูด “สนุกครับ สนุกมากๆ”
พ่อฉินรีบพูด “ถ้าอย่างนั้นต้องขยันหน่อยนะเจ้าลูกชาย ลูกกับวินนี่ก็มีลูกสักห้าหกคน ถึงตอนนั้นมาฉลองปีใหม่ก็คงคึกคักแบบนี้แหละ”
ฉินสือโอวโดนบรรยากาศแห่งความสุขครอบงำ ตบอกพลางพูด “ลูกชายของพ่อไม่มีปัญหาหรอกครับ ต้องดูความต้องการของวินนี่ด้วย ขอแค่เธอชอบเด็กๆ ไม่ต้องพูดถึงห้าหกคน ตั้งเป็นทีมฟุตบอลผมก็ไม่มีปัญหา!”
“ทีมฟุตบอลมีกี่คน”
“ไม่รวมตัวสำรองก็ 11 คน!”
“ลูกชาย ช่างทะเยอทะยาน”
หลังจากการพูดคุยในมื้อค่ำวันส่งท้ายปี ฉินสือโอวดึงโต๊ะออกมา เรียกให้เหมาเหว่ยหลงและพรรคพวกมาเล่นไพ่นกกระจอกกัน คืนนี้โต้รุ่ง ไม่อย่างนั้นก็ไม่ใช่ปีใหม่
วินนี่พาเด็กๆ เข้านอนหลังจากทานข้าวเสร็จตามกฎของบ้านฉินสือโอว เธอตื่นในตอนเช้าตรู่ของวันปีใหม่ เพราะทุกคนต้องมาอวยพรปีใหม่ แน่นอนว่าไม่มีญาติพี่น้องและคนละแวกใกล้เคียงมาอวยพรปีใหม่ ไม่ว่าจะตื่นเช้าหรือไม่ก็ไม่สำคัญ
แต่ว่าพวกเด็กๆ ตื่นเช้ามาก เพราะเมื่อฉินสือโอวกินข้าวเสร็จก็ได้พูดไว้ว่า ในตอนเช้าตรู่ตื่นไปอวยพรคุณปู่คุณย่า ก็จะได้อั่งเปา
ฉินสือโอวร่ำรวย ในตอนที่เขารับเด็กๆ เข้ามาในบ้านครั้งแรก เขาให้เงินค่าขนมพวกเด็กๆ ทุกวัน ต่อมาเมื่อวินนี่เข้ามา ก็ได้บอกเขาว่าไม่ควรสอนเด็กแบบนี้ นอกจากเชอร์ลี่ย์ที่ถูกเลี้ยงอย่างร่ำรวยแล้ว ยังมีเงินค่าขนมของเด็กผู้ชายอีก
อยากได้ค่าขนมเหรอ ได้ ไปทำงาน หาเงินเอง นี่เป็นกฎที่วินนี่ตั้งขึ้น
โดยทั่วไปแล้วพาวลิสหาเงินจากการซ่อมเรือหาปลาสองลำของฟาร์มปลา กอร์ดอนกับมิเชลช่วยกันปฏิบัติหน้าที่หรือในวันหยุดก็จะลงไปช่วยในทะเล ไม่ก็ตัดหญ้าหรือทำความสะอาดเพื่อแลกกับเงินค่าขนม
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่จะได้เงินค่าขนมมาฟรีๆ ปีที่แล้วที่บ้านเกิดของฉินสือโอว พวกเขาก็ได้รับสิทธิพิเศษนี้ไปแล้ว ปีนี้พวกเขาก็กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ตื่นแต่เช้าวิ่งลงไปทั้งชุดนอนแล้วพูดว่า ‘สวัสดีปีใหม่’ พูดสามคำนี้อย่างไม่ขาดสาย
ฉินสือโอวแจกอั่งเปาหนาๆ ที่ข้างในเหมือนมีเงินมาก แต่แท้จริงแล้วไม่ได้มากมาย จำนวนเพียง 100 ดอลลาร์แคนาดาเท่านั้น
เมื่อกอร์ดอนรับอั่งเปามาก็เปิดซองออกมานับ ในตอนแรกเขาดูมีความสุข แต่พอคิดถึงของที่ตัวเองอยากจะซื้อ ก็หน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมา
ไวส์ไม่ได้สนใจตัวเงิน เขาไม่อยากได้ตั้งแต่แรก ฉินสือโอวกล่าวว่ามันเป็นเงินมงคลที่เขามอบให้ เขาก็รับมันมาอย่างมีความสุข มีเงินอยู่นั้นเท่าไรกันนะ ช่างมันเถอะ ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาคือครอบครัวคาร์เนกีที่น่าเกรงขาม
กอร์ดอนมองไวส์ถือซองอั่งเปาตามอำเภอใจ เขากลอกตาไปมา แล้ววิ่งมาหัวเราะพลางพูด “ไอ้หนุ่ม นายรู้ไหม ตามกฎแล้วเนี่ย เงินมงคลจะให้เด็กไว้สักพัก พออีกสักระยะพ่อแม่ก็จะมาเก็บกลับไป เพื่อช่วยเก็บไว้ให้นายชั่วคราว”
“แต่ว่าทั้งหมดนี้น่ะ มันเป็นเรื่องไร้สาระ เมื่อพวกเขาเก็บมันไปแล้วก็จะไม่คืนให้นายอีกเลย พวกเขาก็จะพูดว่าเก็บไว้ให้นายตอนเข้ามหาวิทยาลัย ตอนแต่งงาน ตอนซื้อรถซื้อบ้าน แต่ยังไงก็ไม่คืนให้นาย เข้าใจรึยัง”
ไวส์มีสีหน้าสับสนงุนงง “ร้อยดอลลาร์ จะสามารถนำไปเข้ามหาวิทยาลัยแต่งงานซื้อบ้านซื้อรถได้หรือ พวกเขาลงทุนกันยังไง”
กอร์ดอนโบกมือพลางพูด “ลงทุนกับผีน่ะสิ พวกเขาไม่ได้เอาไปลงทุน แต่เอาไปใช้เองต่างหาก ดังนั้น นายต้องเก็บเงินนี้ไว้ให้ดีๆ เข้าใจไหม แต่ฉันก็คิดนะ ฉันว่านายเอามาให้ฉันเก็บดีกว่า ฉันจะช่วยนายเก็บไว้เอง”
“จะเก็บไว้ทำไม”
กอร์ดอนพูดอย่างหน้าไม่อายว่า “ดูนายสิ นายยังไร้เดียงสาอยู่เลย แน่นอนว่าฉันจะเก็บไว้รอนายเข้าเรียน ใช้จีบหญิง หรือนายชอบเล่นเกมไหมล่ะ นายเล่นเกมนายต้องซื้ออุปกรณ์ใช่ไหม”
“ไม่ๆๆ ฉันไม่จีบหญิง แล้วก็ไม่เล่นเกมด้วย ฉันแค่ฝึกศิลปะการต่อสู้!” ไวส์ตอบอย่างจริงจัง
กอร์ดอนมองเขาอย่างละเอียด ถามอย่างหยั่งเชิงว่า “หนุ่มน้อย นายโง่หรือเปล่า”
ไวส์พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “นายสิโง่ ฉันฟังนายพูดแล้ว สอบปลายภาคปีนี้นายสอบไม่ผ่านสักวิชา เหอะ! ฉันไม่เล่นกับคนโง่แล้ว นายไปไกลๆ เลย!”
กอร์ดอนโมโหและหัวเราะเยาะพลางพูด “แกรู้ไหม ในโรงเรียน ไม่มีใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้เลยนะ!”
ไวส์พูดขึ้น “งั้นฉันก็พูดออกไปแล้ว แล้วนายจะทำอะไร”
“เอาเงินมาให้ฉัน ถือว่าเป็นค่าชดใช้!” กอร์ดอนเผยหางจิ้งจอกอันเจ้าเล่ห์ออกมา
ไวส์พูดอย่างไม่ยี่หระ “ไม่ได้ นี่เป็นเงินมงคลที่อาจารย์ให้ไว้ ฉันจะเก็บไว้สร้างประตู แล้วจะเดินลงไปในแม่น้ำ ฉันจะเป็นฮีโร่!”
กอร์ดอนไม่มีอารมณ์จะเล่นกับเขาแล้วจึงขู่ว่า “ถ้าไม่คืนเงินฉันมา ฉันจะต่อยนายแล้วนะ”
ไวส์ได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้ารื่นรมย์ นั่งยองๆ ในท่ายืนม้าโดยที่เอนตัวด้านหลัง พร้อมกับตบมือทั้งสองข้างแล้วแยกออกจากกัน ก่อนจะตะโกนว่า “อย่างแกน่ะ ฉันไม่ต้องใช้สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ก็ตบแกจนตายได้!”
บทที่ 995 เทซึกะที่ดื้อดึง
Ink Stone_Fantasy
หลังจากทำงานแล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าการฉลองตรุษจีนกลายเป็นสิ่งที่อบอุ่น ทั้งครอบครัวมาฉลองวันปีใหม่ด้วยกันแล้วก็ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ด้านนอก ปีใหม่เริ่มขึ้นแล้วอีกครู่หนึ่งก็จะไม่มีความรู้สึกของการฉลองคืนข้ามปีแล้ว
เขาคุยเรื่องนี้แล้วถามเหมาเหว่ยหลง “แกเคยรู้สึกแบบนี้บ้างไหม?”
เหมาเหว่ยหลงชกไปในอากาศสองครั้ง แล้วพูดด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก “นั่นสิ ฉลองเสร็จเร็วขนาดนี้เลย ต้องตั้งใจทำงานอีกแล้ว คิดแล้วก็ปวดหัว แกว่าบนโลกใบนี้มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ต้องพยายามบ้าง?”
ฉินสือโอวยักไหล่พลางพูด “มีแน่นอน แกดูอายุของพวกเราสิ ไม่ต้องพยายามก็มากขึ้นอีกปีแล้ว!”
เหมาเหว่ยหลงส่ายหัวแล้วพูด “อายุก็เป็นสิ่งที่เราต้องพยายามถึงจะเติบโตขึ้น ถ้าแกไม่พยายามใช้ชีวิต ก็ไม่มีโอกาสที่จะมีอายุมากขึ้นได้!”
ทั้งสองคนคุยกันตามใจชอบ ไวส์วิ่งต็อกๆ เข้ามาหา ใบหน้าเล็กๆ แสดงท่าทางตื่นเต้น
เหมาเหว่ยหลงถามอย่างประหลาดใจ “เฮ้ไอ้หนู ตื่นเต้นอะไรตั้งแต่เช้า?”
ไวส์เงยหัวขึ้นแล้วพูดอย่างหยิ่งยโส “ผมได้ใช้สิ่งที่เพิ่งเรียนไปแล้ว ไอ้บ้ากอร์ดอนจะแย่งอั่งเปาผม แต่ถูกผมใช้สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรไล่ไปแล้ว!”
ฉินสือโอวตะลึง “เจ๋งจริงๆ นายทำได้ยังไง?”
ไวส์ยืนท่าม้าผายฝ่ามือทั้งสองออกแล้วพูด “เมื่อครู่ผมบอกเขาว่าถ้ากล้าแย่งของผม ผมจะใช้สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรตีก้นเขาให้แตกเลย จากนั้นกอร์ดอนก็กลัวแล้วพูดว่า ถ้าไม่ใช่เพราะนายโง่ วันนี้ฉันจะชกนายสักยก!”
เหมาเหว่ยหลงก้มหน้าหัวเราะ ฉินสือโอวเกาท้ายทอย ไม่รู้ว่าจะชื่นชมไวส์อย่างไรดี
เทพของแคนาดาไว้หน้ากันมาก ฉลองปีใหม่ไปแล้วหลายวันยังอากาศดีมีแสงแดดอยู่เลย หิมะที่ตกบนเกาะในฤดูหนาวเริ่มละลายแล้ว แม้ว่าต้นไม้จะยังมีแต่กิ่งแห้งๆ แต่ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าฤดูใบไม้ผลิใกล้จะมาถึงแล้ว
ช่วงต้นเดือนเดือนแรกไม่เหมาะที่จะทำงาน ตามธรรมเนียมที่บ้านเก่าของฉินสือโอวแล้ว เดือนแรกเป็นจุดเริ่มต้นของปี ถ้าทำงานเยอะในช่วงต้นเดือนก็จะยุ่งไปทั้งปี
ในวันที่สงบฉินสือโอวไม่มีอะไรทำก็เลยไปอาบแดดเป็นเพื่อนพ่อ ดูทีวีอ่านหนังสือและพูดคุยเป็นเพื่อนวินนี่ กำหนดวันคลอดของเธอใกล้เข้ามาแล้ว วินนี่ตื่นเต้นอยู่บ้างแต่ฉินสือโอวตื่นเต้นยิ่งกว่าเธอเสียอีก…
วันที่ห้าของเทศกาลตรุษจีนปลายเดือนของเดือนกุมภาพันธ์ เรือท่องเที่ยวลำหนึ่งมาที่ฟาร์มปลาต้าฉินแล้วค่อยๆ จอดที่ท่าเรือ
เรดาร์แจ้งเตือนนานแล้ว ฉินสือโอวแปลกใจว่าใครที่มาฟาร์มปลาโดยไม่บอกไม่กล่าว ดูรู้ลู่ทางดีไม่เหมือนคนแปลกหน้า แต่คนที่สนิทต้องบอกกับเขาก่อนที่จะมาสิถึงจะถูก
พอขึ้นท่าเรือแล้วคนบนเรือก็รีบโค้งเก้าสิบองศาคำนับเขา ฉินสือโอวไม่ต้องดูชัดๆ ก็รู้ว่าเป็นใคร เทซึกะ โกดะแห่งบริษัทร่วมทุนคิโยมุระ!
เทซึกะ โกดะใส่สูทเนี้ยบผมเรียบร้อยไม่กระดกสักเส้น รองเท้าหนังมันเงาจนใช้เป็นกระจกได้ เห็นได้ชัดว่าก่อนจะมาเขาตั้งใจแต่งตัวมาก รักษาภาพพจน์ไว้ได้ดีจริงๆ
โค้งคำนับแล้วเทซึกะ โกดะก็ยื่นมือออกมาอย่างเป็นมิตรในระยะห่างสิบกว่าเมตร “ฉินซัง สวัสดีปีใหม่! ผมมาเยี่ยม ครั้งนี้มาด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเชิญ หวังว่าคุณจะเข้าใจ!”
ไม่ทำร้ายคนที่มีรอยยิ้ม ยิ่งกว่านั้นเทซึกะโกดะยังเป็นหุ้นส่วนของฉินสือโอวด้วย เขาเลยรีบจับมือแล้วหัวเราะ “คุณเทซึกะทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้ ฟาร์มปลาของผมยินดีต้อนรับเพื่อนจากทุกที่บนโลก ไม่จำเป็นต้องบอกกันก่อนหรอกครับ คุณมาเยือนที่ฟาร์มปลาของผม ถือเป็นเกียรติของผมถึงจะถูก”
มาครั้งนี้เทซึกะเอาของขวัญถุงเล็กถุงใหญ่มาเป็นกอง แค่ลูกน้องก็แปดคนแล้ว ทั้งหมดนี้มาเพื่อรับหน้าที่ถือของขวัญ
หลังจากเข้าบ้านแล้วเทซึกะก็ทักทายถามสารทุกข์สุกดิบพ่อกับแม่ของฉินสือโอว แล้วพูดกับฉินสือโอวอีก “มาหาฉินซังครั้งนี้รีบร้อนไปหน่อย ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรมา ได้แต่เอาของเล็กๆ น้อยๆ มาเป็นตัวแทนน้ำใจของผม หวังว่าฉินซังจะใจกว้าง”
ฉินสือโอวไม่อยากรับของขวัญของเขาไว้เลย เขาเดาจุดประสงค์ในการมาที่นี่ของเทซึกะ โกดะได้ ได้ของจากคนอื่นก็ต้องทำอะไรตอบแทน เขาไม่อยากรับของมาแล้วไม่ทำอะไร
ฉินสือโอวดื่มชาพลางยกประเด็นขึ้นมา “คุณเทซึกะมาหาผมครั้งนี้ ไม่ทราบว่ามีอะไร? ผมคิดว่าคงเกี่ยวกับปลาทูน่าครีบน้ำเงินเป็นแน่?”
เทซึกะพยักหน้าอย่างแรง เขาถอนหายใจแล้วพูด “ในเมื่อฉินซังเข้าใจความคิดของผม ผมก็จะไม่อ้อมค้อมแล้ว ชาวจีนอย่างพวกคุณชอบทำอะไรตรงไปตรงมา ถ้าอย่างนั้นผมก็จะเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ผมจะพูดตรงๆ”
เขาดื่มชาหนึ่งอึกแล้วพูดต่อ “ใช่ครับ ฉินซัง ที่ผมมาครั้งนี้ก็เพราะอยากได้สิทธิ์เป็นตัวแทนที่ญี่ปุ่นในการจำหน่ายปลาทูน่าครีบน้ำเงินจากฟาร์มปลาของคุณ คุณก็รู้ว่าอาหารทะเลที่ราคาพุ่งสูงที่สุดในปีที่แล้วก็คือเมนล็อบสเตอร์และปลาทูน่าครีบน้ำเงิน”
ฉินสือโอวพูดอย่างลำบากใจ “ผมเข้าใจเจตนาที่คุณมา แต่ต้องขอโทษด้วย คุณเทซึกะ ภรรยาของผมตั้งท้องเมื่อปีที่แล้ว ครึ่งปีหลังนี้ผมเลยไม่ได้ออกทะเลเลยไม่ได้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาเลย”
เขาพูดความจริง ฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วเขาไม่ได้ไปจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จและอ่าวเคปค้อดเลย
เทซึกะจ้องมองฉินสือโอวพลางพูด “ฉินซัง ได้โปรดเชื่อในความจริงใจของผม ผมอยากร่วมงานกับคุณมากๆ แม้ผมจะไม่รู้สาเหตุ แต่ตอนนี้ผมมั่นใจว่าบริเวณฟาร์มปลาของคุณดึงดูดปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาฝูงหนึ่ง ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่คุณภาพดีมาก ผมอยากได้สิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายของพวกมันจริงๆ”
ฉินสือโอวฝืนยิ้มพลางส่ายหน้าพูด “คุณเทซึกะ ผมไม่รู้ว่าคุณไปรู้ข่าวนี้มาจากไหน แต่คุณกับผมต่างก็รู้ว่าเทคโนโลยีการเลี้ยงปลาทูน่าครีบน้ำเงินโดยมนุษย์ยังก้าวไปได้ไม่กี่ขั้น ปลาชนิดนี้ชอบใช้ชีวิตในทะเลกว้าง พวกมันไม่อยู่ที่ใดที่หนึ่งหรอก”
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเทซึกะถึงมั่นใจว่าฟาร์มปลาของเขามีปลาทูน่าครีบน้ำเงินมากขนาดนี้? อันที่จริง นอกจากเขาแล้ว แม้แต่บัตเลอร์กับเหล่าชาวประมงก็ยังไม่แน่ใจกับเรื่องนี้
แต่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เทซึกะมาที่ฟาร์มปลาของเขาก็ยืนยันเอาเป็นเอาตายว่าที่นี่เลี้ยงปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้สำเร็จ ฉินสือโอวคิดตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังคิดเรื่องนี้ไม่ออก ถึงขนาดที่เขารู้สึกว่าชาวญี่ปุ่นคนนี้อ่านใจคนได้
เทซึกะ โกดะยิ้มอ่อนๆ พลางพูด “ใช่ครับ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเป็นเจ้าตัวแสบที่เขี้ยวลากดิน พวกมันไม่สามารถอยู่ที่ทะเลบริเวณนี้นานๆ ได้ นอกจากว่าที่นี่จะดึงดูดมันด้วยอาหารที่ถูกปากและปราศจากศัตรูทางธรรมชาติ”
ฉินสือโอวผายมือทำท่าทางจนใจแล้วถาม “คุณคงไม่คิดว่าที่ฟาร์มปลาของเรามีสิ่งที่ดึงดูดปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้หรอกนะ? นั่นเป็นไปไม่ได้ ผมและเหล่าชาวประมงยังไม่เคยพบร่องรอยที่อยู่ของพวกมันเลย”
เทซึกะพูดอย่างมั่นใจ “นั่นเป็นเพราะคุณไม่ใส่ใจ ผมรับประกันฉินซัง ที่ฟาร์มปลาของคุณมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินแน่ๆ และมีจำนวนไม่น้อยด้วย ถ้าคุณเชื่อผม ผมจะรวบรวมเรือตกปลาทูน่าของพวกเราจากฮอกไกโดมา ต้องจับปลาดีๆ ได้แน่!”
บทที่ 996 ชุลมุนวุ่นวาย
Ink Stone_Fantasy
ฉินสือโอวไม่มีทางมอบฝูงปลาทูน่าสีน้ำเงินให้เทซึกะจัดการ อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินของเขาได้เปิดตลาดที่อเมริกาเหนือแล้วและได้พิสูจน์ว่าพลังโพไซดอนทำให้รสชาติของอาหารทะเลดีขึ้น คุณค่าทางอาหารก็สูงขึ้นและได้รับความนิยมจากลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไปมากขึ้น
แต่อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินก็ยังขาดสินค้าที่จะเป็นจุดแข่งขันได้ และในความคิดของเขาก็ไม่มีอะไรเหมาะสมในการเป็นสินค้าแข่งขันไปกว่าเจ้าปลาทูน่าครีบน้ำเงิน
เขาไม่เคยส่งออกสินค้าชนิดนี้มาก่อนเพราะคิดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เรื่องนี้จำเป็นจะต้องรอโอกาส อย่างเช่นตอนที่อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินเข้าสู่ตลาดเอเชีย
ญี่ปุ่นเป็นจุดยุทธศาสตร์ของตลาดอาหารทะเลเอเชีย ขอเพียงตั้งฐานอยู่ที่ญี่ปุ่นได้ อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินก็จะสามารถกินรวบตลาดวัตถุดิบระดับสูงของเอเชียได้
ตระกูลยามาโมโตเป็นตระกูลที่ต่อต้านชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เมื่อเจอศัตรูจากภายนอกพวกเขาก็จะรับมือได้อย่างเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เช่นตระกูลมอร์รี่ที่เกลียดฉินสือโอวเข้ากระดูกดำ พวกเขาเก่งกาจมากในอเมริกา แต่ถ้าคิดจะไปโตเกียว แม้แต่งานประมูลปลาทูน่าครีบน้ำเงินสักครั้งพวกเขาก็ยังเข้าไปไม่ได้
แม้ว่าคิดถึงเรื่องนี้แล้วฉินสือโอวจะรู้สึกพอใจอย่างเงียบๆ แต่เขาอดที่จะยอมรับไม่ได้ว่าคนญี่ปุ่นนั้นรับมือได้ยาก ถ้าอยากให้อาหารทะเลของเขาเข้าไปในญี่ปุ่นได้ก็ต้องสู้กันสักตั้ง
และปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็เป็นไม้เด็ดของการต่อสู้ครั้งนี้ ดังนั้นฉินสือโอวจะมอบไม้เด็ดของตัวเองให้แก่ศัตรูทำไม? แม้ว่าศัตรูคนนี้จะพยายามรักษาน้ำใจและทำดีกับเขาทุกวิถีทาง
ดังนั้นฉินสือโอวที่คิดอย่างแน่วแน่แล้วว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่ยอม ก็เลยพูดไปว่าที่ฟาร์มปลาไม่มีปลาทูน่าครีบน้ำเงิน จะมีก็แต่พวกปลาทูน่าธรรมดาอย่างปลาโอแถบ และพวกปลาทูน่าธรรมดาพวกนั้นเขาก็ไม่มีทางมอบให้กับเทซึกะได้ เพราะเขามีสัญญากับบัตเลอร์
ในที่สุดฉินสือโอวที่ถูกก่อกวนจนทนไม่ไหวเลยพูดขึ้นว่า “คุณเทซึกะ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณไปเอาความมั่นใจในฟาร์มปลาของผมมาจากไหน ทำไมคุณถึงได้คิดว่าฟาร์มปลาของผมสามารถเหนี่ยวรั้งปลาทูน่าครีบน้ำเงินไว้ได้ล่ะ? นี่มันไร้สาระมากเลยนะ!”
เทซึกะ โกดะก็เปิดไพ่ไม้ตายด้วยเหมือนกัน เขาหยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสารแล้วส่งให้ฉินสือโอว “น้อยคนนักที่รู้ เมื่อประมาณห้าหกปีที่แล้ว ฝ่ายผลิตภัณฑ์ทางทะเลของเราเริ่มศึกษาเทคนิคการเพาะเลี้ยงปลาทูน่าครีบน้ำเงิน นั่นคือการเพาะเลี้ยงแบบหลอกล่อ”
“วิธีการดำเนินการเฉพาะทางนั้นซับซ้อนมาก พูดง่ายๆ ก็คือศึกษาผ่านนิสัยของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน จำลองสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับ พวกมันที่สุดจากนั้นก็ดึงดูดปลาทูน่าครีบน้ำเงินมา แบบนี้การจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็จะง่ายขึ้นมาบ้าง”
“ผู้เชี่ยวชาญของฝ่ายผลิตภัณฑ์ทางทะเลตรวจดูนิสัยของปลาทูน่าครีบน้ำเงินอย่างเข้มงวด ประกอบไปด้วยอุณหภูมิน้ำ ค่าความเป็นกรดด่าง ปริมาณแสงอาทิตย์ อาหาร ปริมาณออกซิเจนในน้ำและด้านอื่นๆ สุดท้ายก็พบว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินหยุดอยู่ได้คืออาหาร”
“แต่พวกเราเปลี่ยนอาหารไปมากมายก็ยังไม่ดีพอที่จะหลอกล่อปลาทูน่าได้ พวกมันเข้ามากินอาหารที่บริเวณเพาะเลี้ยงของเราแล้วก็จากไป พวกมันจากไปกว่า 75% ภายในสิบวันและจากไปกว่า 98% ในสามสิบวัน”
ฉินสือโอวพลิกดูเอกสารฉบับนี้ เนื้อหาด้านในจำนวนมากเป็นภาษาญี่ปุ่น เขาอ่านไม่ออก แต่เทซึกะเตรียมเอกสารที่จะให้เขาดูไว้แล้ว เขาตั้งใจแปลเนื้อหาส่วนหนึ่ง แบบนี้เขาก็ต้องจำใจอ่านออก
ฉินสือโอวฟังที่เทซึกะอธิบายพลางชี้ไปที่แท่งกราฟที่มีสัญลักษณ์พิเศษในเอกสารแล้วพูด “ไม่น่าจะใช่นะครับคุณเทซึกะ ดูจากในเอกสารแล้ว อัตราที่ออกไปในสิบวันไม่ถึง 20% และอัตราที่ออกไปภายในสามสิบวันก็ไม่ถึง 50%”
เทซึกะพูดอย่างเรียบเฉย “นี่คือข้อมูลการทดลองเมื่อสี่เดือนที่แล้ว ใช้ปลาซาร์ดีนแช่แข็งของอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินที่ซื้อมาจากเมืองอาไมอามีมาเป็นอาหารทั้งหมด”
ฉินสือโอวเข้าใจในทันที มิน่าล่ะเจ้านี่ถึงได้ปักใจว่าที่ฟาร์มปลาของเขามีปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ที่แท้พวกเขาก็ทดลองแล้วพบว่าปลาซาร์ดีนของฟาร์มปลาตัวเองมีคุณสมบัติในการดึงดูดปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้
“ปลาซาร์ดีนที่พวกเราซื้อไปล้วนเป็นปลาที่ตายแล้ว แต่แม้จะเป็นแบบนี้ ภายในสามสิบวันก็ยังดึงดูดปลาให้อยู่ได้เกิน50% ถ้าอย่างนั้นถ้าใช้ปลาซาร์ดีนที่สดใหม่จากฟาร์มของคุณล่ะ? อย่างนั้นอัตราการดึงดูดให้อยู่ได้จะเป็นเท่าไร” พูดไปเทซึกะก็บ้าคลั่งขึ้นมา
“ดูสิฉินซัง ฟาร์มปลาของคุณกว้างใหญ่ขนาดนี้ เพียงพอที่จะให้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินอาศัยอยู่ได้ และที่นี่ก็มีอาหารที่ดึงดูดพวกมันได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างนั้นจะไม่มีปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้อย่างไร? ใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพลิกดูเล่มรายงานสักครู่ แล้วพูดบ่ายเบี่ยง “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พวกคุณก็สามารถซื้อปลาซาร์ดีนจากฟาร์มเราไปทำให้วิธีการเพาะเลี้ยงของคุณให้เสร็จสมบูรณ์ได้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดพวกคุณก็สามารถจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้เลยนี่ครับ”
เทซึกะได้ฟังที่เขาพูดแล้วก็ถอนหายใจพลางพูด “พูดตรงๆ นะ ฉินซัง พวกเราก็เคยมีความคิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ ราคาปลาซาร์ดีนของคุณแพงเกินไป ถ้าเอามาใช้หลอกล่อปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็คงเจ๊งหมด ในทะเลไม่ได้มีแค่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินแต่ยังมีปลาใหญ่อื่นๆ อยู่มากกว่า และปลาซาร์ดีนของคุณก็มีแรงดึงดูดต่อปลาชนิดอื่นมากเหมือนกัน โยนปลาซาร์ดีนลงไปหนึ่งร้อยปอนด์ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินกินได้สักหนึ่งปอนด์ก็เก่งแล้ว การแลกเปลี่ยนแบบนี้พวกเรารับไม่ไหว”
ในเวลาแบบนี้บรรยากาศรอบๆ ก็มีความกระอักกระอวลเข้ามา ฉินสือโอวได้แต่ยืนหยัดอย่างแน่วแน่ว่าเขาไม่เคยเห็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ฟาร์มของตัวเอง และทางเทซึกะก็ทำหน้ายิ้มๆ ไปพลางพูดว่าไม่อย่างนั้นก็ให้เรือประมงของพวกเขาเข้ามาสำรวจสักหน่อยสิ
ฉินสือโอวถูกเทซึกะตื๊อจนไม่มีอารมณ์ เขาไม่สามารถให้ไล่ออกไปตรงๆ ใช่ไหม? อีกฝ่ายอ่อนน้อมอย่างนี้เขาก็ทำเรื่องแบบนี้ไม่ลง
ฉินสือโอวที่กำลังวุ่นวาย บนบ้านก็มีเสียงของตกดังขึ้นแล้วราชาซิมบ้าก็วิ่งออกมาอย่างรวดเร็วพลางส่งเสียงมาวๆ เรียกฉินสือโอว
ฉินสือโอวนึกถึงวินนี่ในแวบแรก เขาพุ่งไปที่บันไดโดยแทบจะไม่บอกลาตามมารยาทกับเทซึกะ
พ่อและแม่ของฉินสือโอวรีบเดินออกมาจากห้องข้างๆ แล้วถาม “เป็นอะไรวินนี่? เป็นอะไร?”
วินนี่จับที่ท้องน้อยไว้มือหนึ่ง อีกมือพยุงหลังไว้ ใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความกังวลพร้อมพูดเสียงอ่อน “ไม่มีอะไรค่ะ แค่เหมือนมีความรู้สึกว่า…”
ฉินสือโอวตกใจ เขาพูดอย่างตระหนก “เป็นไปได้อย่างไร? กำหนดคลอดยังอีกตั้งหนึ่งสัปดาห์ไม่ใช่เหรอ?”
พ่อของเขาทุบหลังเขาพลางพูด “แกจะมานับวันคลอดบ้าอะไร! เร็วเข้า พาวินนี่ไปส่งโรงพยาบาล! เร็วๆ เร็วๆ เข้า!”
แม่ฉินสือโอวรีบเก็บของทันที เธอขยับมือไม้เตรียมกระเป๋าอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งลงมาด้านล่างกับพ่อของฉินสือโอว ฉินสือโอวหยิบมือถือออกมาโทรหาโอดอมให้เขากับลาร่ารีบมา แล้วเขาก็ให้นีลเซ็นสตาร์ทเรือสปีดโบ๊ทรอไว้
เทซึกะเห็นทุกคนวุ่นวายกันขึ้นมากะทันหันในชั่วขณะ ในสถานการณ์แบบนี้ฉินสือโอวคงไม่มีทางมาคุยธุรกิจกับเขาแล้ว เขาอยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ มีแต่จะทำให้พวกเขาพะวงเปล่าเลยบอกลาแล้วกลับไป
กลับเป็นวินนี่ที่นิ่งสงบที่สุดในตอนนี้ เธอขอโทษเทซึกะแล้วบอกว่าภายหลังจะหาโอกาสรับรองเขาเป็นอย่างดี ครั้งนี้เสียมารยาทแล้ว
…………………………………………
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น