ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 988-990

 บทที่ 988 เกาะที่คึกคัก

Ink Stone_Fantasy

การแสดงออกของฉินสือโอวที่งานขอบคุณการท่องเที่ยวของเจ้าของฟาร์มปลาซึ่งจัดขึ้นโดยกรมประมง ทำให้เขาได้รับความชื่นชมจากเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมในท้องถิ่น ดังนั้นพอเขาโทรศัพท์ไป พวกโดนัลด์และแอนดรูว์ก็รีบมาที่ฟาร์มปลาของเขา


หลังจากที่โดนัลด์เจอฉินสือโอวเขาก็พูดว่า “นายพูดถูกฉิน ถ้าบริษัทดาวเคมิคอลมาเปิดโรงงานที่นี่แล้วกลายเป็นเขตโรงงานเคมี ก็ต้องมีโรงงานเคมีอื่นๆ เข้ามาอีก ถึงตอนนั้นความเสียหายที่มีต่อฟาร์มปลาก็จะมากมายเหลือเกิน”


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลารีบพาชาวประมงมา เมื่อมาถึงพวกเขาก็รู้สึกว่าเรือประมงที่เกาะแฟร์เวลมีเยอะขึ้นมาก และมีคนถืออาวุธประกาศว่า หากบริษัทดาวเคมิคอลเอาตำรวจมา พวกเขาก็จะสู้กับตำรวจด้วยอาวุธ


ก่อนหน้านี้หูจื้อหย่วนหัวหน้าสมาคมดีพีเอสรู้ข่าวเรื่องนี้ผ่านเวยป๋อแล้ว ที่เขาไม่ได้มาในทันทีเพราะกำลังรวบรวมเหล่าอาสาสมัคร ครั้งนี้เขาพาอาสาสมัครมากว่าหนึ่งร้อยคนซึ่งมีทั้งนักเรียน คนใช้แรงงานและพนักงานออฟฟิศ คนเหล่านี้ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน ด้านบนเขียวว่า ‘สัตว์ป่าพลีชีพให้การพัฒนาเศรษฐกิจ’ เพื่อเสียดสีว่ารัฐบาลนิวฟันด์แลนด์ทำเพื่อการพัฒนาธุรกิจโดยไม่สนใจธรรมชาติที่จะถูกทำลาย


บัตเลอร์ใส่ใจเรื่องนี้มากที่สุด ตอนนี้อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินเป็นแหล่งเศรษฐกิจหลักของเขา หากโรงงานเคมีมาเปิดที่นี่ ฟาร์มปลาต้าฉินก็จะไม่มีสินค้าที่ปราศจากมลพิษส่งเข้าตลาด แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของเขาก็จะพังทลายไป


นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่มีทางยอมอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเขาเลยติดต่อหาเพื่อนที่ทำธุรกิจทางทะเลให้ร้องเรียนรัฐบาลนิวฟันด์แลนด์ เพื่อเรียกร้องว่าหากบริษัทดาวเคมิคอลจะสร้างโรงงานที่เกาะแฟร์เวลก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้เขาก้อนโต


สื่อมวลชนในนครเซนต์จอห์นไม่รอช้า พวกเขารีบไปที่เกาะแฟร์เวลเพื่อตามรายงานเรื่องนี้กันทันที และการรายงานข่าวของพวกเขาก็ทำให้พวกชาวประมงมีการตอบสนองมากขึ้น มีคนมาที่เกาะแฟร์เวลเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการประท้วงของเกาะอย่างไม่ขาดสาย


เหล่าชาวประมงหาเติบโตและหากินจากทะเล พวกเขาเกลียดพวกโรงงานเคมีเป็นที่สุด แม้ชื่อเสียงของฟาร์มปลาที่นิวฟันด์แลนด์จะพังทลายเพราะคนกลุ่มเล็กๆ แต่จากการวิจัยในตอนนี้อุตสาหกรรมที่เริ่มต้นในช่วงปี 80-90 ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน


แม้กรมประมงจะดำเนินการปกป้องฟาร์มปลาในทุกด้าน แต่ทะเลที่นิวฟันด์แลนด์ก็ไม่สามารถฟื้นฟูให้รุ่งเรืองได้ถึงหนึ่งในสิบ นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากเพราะระบบนิเวศของทะเลควรจะมีการฟื้นฟูได้ด้วยตัวมันเอง


เหล่าชาวประมงหาสาเหตุไม่เจอ พวกเขาจับปลาน้อยลงทุกปีและในทะเลก็ไม่ได้มีปลามากเท่าไร อย่างนั้นทำไมความสามารถในการผสมพันธุ์ของปลาถึงน้อยขนาดนี้? พวกเขาได้แต่โยนความรับผิดชอบให้แก่โรงงานบำบัดน้ำเสีย คิดว่ามลพิษส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและการสืบพันธุ์ของปลาในทะเล


แค่ไม่กี่วันบนเกาะแฟร์เวลก็มีผู้ประท้วงจากทุกสาขาอาชีพมากว่าพันคน เดิมทีเรือขนส่งของบริษัทดาวเคมิคอลอยากจะจอดที่ด้านนอกท่าเรือของเมืองเพื่อรอให้ทางบริษัทส่งคนมาแก้ปัญหาเรื่องการประท้วง จากนั้นค่อยเข้าไปที่ท่าเรือของเมือง


แต่ตอนนี้เห็นท่าไม่ดี เรือขนส่งเลยรีบกลับลำแล้วกลับไปยังท่าเรือนครเซนต์จอห์น


เหล่าชาวประมงขึงผ้ายาวๆ ไว้ที่ท่าเรือของเมือง บนผ้าเขียนว่า ‘ต่อต้านรัฐบาล ฟื้นคืนฟาร์มปลา’ ‘ทำลายสิ่งแวดล้อมที่ฟาร์มปลาต่อไปอีกไม่ได้แล้ว’ มีคนมาเพิ่มป้ายใหม่ๆ ทุกวัน


ทางบริษัทดาวเคมิคอลโกรธมาก พวกเขาแจ้งตำรวจที่นครเซนต์จอห์นเพื่อขอให้พวกเขาส่งกำลังตำรวจไปคุ้มกันการดำเนินการลงทุนที่ถูกกฎหมายของพวกเขาและชี้แจงผ่านสื่อว่าคนในเมืองแฟร์เวลเป็นพวกนักเลง


สถานีตำรวจนครเซนต์จอห์นได้รับข้อมูลการแจ้งความแล้วก็ต้องส่งตำรวจไปเป็นธรรมดา แต่แฮมเล็ตมาหาผู้กำกับที่สถานีตำรวจเพื่อบอกเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว หลังจากพวกตำรวจม้ามาถึงเกาะแฟร์เวลแล้ว ก็ทำได้แค่จัดระเบียบความเรียบร้อย แต่ไม่ได้ไปจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง


สิ่งที่บริษัทดาวเคมิคอลคาดหวังคือให้เหล่าตำรวจม้าสะสางท่าเรือของเมืองให้โล่งสะอาด แต่ตำรวจม้าไม่ไปจัดการเรื่องพวกนี้ พวกเขาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและไม่เข้าไปใกล้ท่าเรือเลย


ผู้ประท้วงที่ท่าเรือล้วนเป็นชาวประมงที่ห้าวหาญ และพวกเขาถือปืนที่เป็นของจริงด้วย


เปรียบเทียบกันแล้ว กำลังอาวุธของเหล่าตำรวจม้ายังเป็นรอง เพราะการกระทำของพวกเขาต้องสอดคล้องและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ตอนไปดูแลความปลอดภัยของกิจกรรมประท้วงแบบนี้ พวกเขาไม่สามารถพกปืนจริงไปได้ เอาไปได้แค่โล่ กระกองและเครื่องช็อตไฟฟ้าเท่านั้น


ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ทางนครเซนต์จอห์นควรจะขอให้ตำรวจพิเศษออกหน้าแก้ไขปัญหา แต่แฮมเล็ตกดเรื่องนี้ไว้ เหตุผลคือแม้ว่าผู้ประท้วงจะมีอาวุธแต่ไม่ได้ใช้อาวุธ ไม่มีการโจมตี ไม่ควรต้องให้ตำรวจพิเศษมาจัดการ


บริษัทดาวเคมิคอลฝากความหวังไว้ที่รัฐบาลของนิวฟันด์แลนด์ ตอนนี้ทางรัฐบาลของเมืองก็จัดการได้ยาก นี่เกี่ยวกับระบบรัฐบาลของแคนาดา ความสัมพันธ์ระหว่างนครและเมืองย่อยไม่มีการควบคุมกันโดยตรง


ตอนนี้สำหรับบริษัทดาวเคมิคอลและรัฐบาล ปัญหาที่ยากที่สุดก็คือเรื่องเขตอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยของเต่ามะเฟือง ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้และคิดว่าเกาะแฟร์เวลเป็นเกาะเล็กๆ ง่ายๆ ที่อยู่นอกแผ่นดินใหญ่แห่งหนึ่ง ไม่คิดว่าจะมีเรื่องพันพัวมากอย่างนี้


คนแคนาดามีจิตสำนึกในการปกป้องสัตว์ป่าที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเขตอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยที่แน่นอนแล้วจะรอบด้านกว่าการปกป้องอย่างอื่น


เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากเพื่อนบ้านในเมืองแถวชาวฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เรื่องเรือผีและเรื่องการต่อต้านที่เกาะแฟร์เวลกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนพูดคุยกันมากที่สุดในช่วงนี้ ในด้านประชามติฝั่งที่ครองคะแนนแน่นอนว่าเป็นเกาะแฟร์เวล เพราะพวกเขาเป็นผู้ถูกกระทำ


บริษัทดาวเคมิคอลบอกกับสื่อมวลชนว่าพวกเขาบริสุทธิ์ ขั้นตอนของพวกเขาไม่มีปัญหา การบำบัดน้ำเสียก็เป็นไปตามมาตรฐาน โรงงานก็จ่ายเงินซื้อมาแล้ว อย่างนั้นทำไมถึงจะไม่สามารถสร้างสายการผลิตได้ล่ะ?


ทางเกาะแฟร์เวลบริสุทธิ์ยิ่งกว่า มีสิทธิ์อะไรถึงจะมาสร้างโรงงานเคมีรอบๆ พวกเขา ทำไมบริษัทดาวเคมิคอลถึงไม่สร้างสายการผลิตแถวๆ สำนักงานใหญ่ที่ออนแทรีโอล่ะ? อะไรนะ รัฐออนแทรีโอไม่อนุญาตให้สร้างโรงงานเคมีการเกษตร? อย่างนั้นทำไมรัฐออนแทรีโอไม่อนุญาตแต่นิวฟันด์แลนด์อนุญาตล่ะ?


ฉินสือโอวเอาเรื่องเขตอนุรักษ์แหล่งอาศัยของเต่ามะเฟืองมาพูด เขาไม่พูดว่าการสร้างโรงงานเคมีจะกระทบฟาร์มปลาของตัวเอง แต่พูดว่าถ้าบำบัดน้ำเสียไปในทะเล พวกแมงกะพรุนก็จะซึมซับสารพิษผ่านน้ำทะเล และอาหารหลักของเต่ามะเฟืองก็คือแมงกะพรุน สุดท้ายผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็คือเต่ามะเฟือง


สองฝ่ายเริ่มเถียงกันเรื่องนี้ ทางเกาะแฟร์เวลไม่สน อยากยื้อยังไงก็ยื้ออย่างนั้น ในฤดูหนาวไม่มีอะไรทำและก็ไม่มีนักท่องเที่ยว พวกเขาเลยว่าง


พวกเขาอยากทำเรื่องนี้ให้ใหญ่ขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว ตอนนี้เกาะแฟร์เวลอาศัยการท่องเที่ยวในการพยุงเศรษฐกิจ ถ้าเรื่องนี้ยิ่งดังก็ยิ่งดี


ดังนั้นหลังจากที่เข้าใจในจุดนี้แล้ว การต่อต้านของชาวเมืองที่เกาะก็รุนแรงขึ้น ทุกวันจะต้องประท้วงต่อสื่อมวลชนสักรอบหนึ่ง


ทางบริษัทดาวเคมิคอลรับไม่ไหว พวกเขากู้เงินจากธนาคารมาแล้ว พนักงานและอุปกรณ์ก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว สายการผลิตไม่ได้ผลิตหนึ่งวัน พวกเขาก็ทำเงินไม่ได้ไปหนึ่งวัน สำหรับธุรกิจแล้ว การไม่ทำเงินก็คือการขาดทุน!


แต่นอกจากการเถียงแล้ว บริษัทดาวเคมิคอลก็ไม่มีวิธีอื่น ทางตำรวจของนครเซนต์จอห์นคงไม่ใช้กำลังอาวุธกับกลุ่มผู้ประท้วงแน่ อย่างนั้นท่าเรือถูกปิดไว้แล้ว เรือขนส่งของพวกเขาก็ไม่มีทางเข้าไปที่เกาะเพื่อส่งอุปกรณ์ขึ้นไปได้


ทีแรกฉินสือโอวรู้สึกว่าการใช้ชีวิตบนเกาะนอกทะเลแบบนี้ดีแล้ว อย่างน้อยพอเจอปัญหาก็ปิดท่าเรือ อย่างนั้นก็สามารถรับมือกับศัตรูเป็นหมื่นได้ด้วยคนคนเดียวแล้ว


บทที่ 989 อำนาจของเด็กฝึกงาน

Ink Stone_Fantasy

กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันรอบๆ ท่าเรือของเมือง ฉินสือโอวซื้อเต็นท์กันน้ำกันลมมาจำนวนมาก เต็นท์เหล่านี้เมื่อกางออกแล้วก็สามารถปิดทางของท่าเรือได้ทั้งหมด


แบบนี้ถึงแม้เรือขนส่งของบริษัทดาวเคมิคอลจะเทียบท่าที่ท่าเรือ พวกเขาก็ไม่มีทางขนอุปกรณ์ขึ้นฝั่งมาได้ นอกจากว่าจะขับรถมาบดขยี้เต็นท์พวกนี้ แต่ใครจะกล้า? ในเมื่อด้านในก็มีคนอยู่!


เรือกำปั่นทะเลสองลำจอดอยู่ทางซ้ายขวาของท่าเรือ ปืนน้ำถูกลากมาไว้ที่นี่นานแล้ว ปากกระบอกปืนลำหนึ่งหันเข้าด้านในลำหนึ่งหันออกด้านนอก


โรเบิร์ตซึ่งเป็นตำรวจของเมืองไปหาหัวหน้าตำรวจม้าเซนต์จอห์นด้วยสีหน้าไม่ดี “พวก พวกนายต้องใจเย็นๆ ถ้าไปกระตุ้นคนพวกนี้แล้วพวกเขาใช้ปืนน้ำ อย่างนั้นกิจกรรมการประท้วงก็จะยกระดับขึ้น! ถ้ามีคนบาดเจ็บล้มตาย พวกเราซวยแน่!”


ตำรวจม้าทำมือโอเคแล้วพูดเบาๆ “ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเรารู้ดี ให้ไอ้โรงงานเคมีบัดซบนั่นไปตายซะเถอะ! ฉันไม่อยากกินปลาที่มีมลพิษเกินมาตรฐานในวันข้างหน้า!”


บริษัทดาวเคมิคอลกดดันรัฐบาลของนครเซนต์จอห์นผ่านสื่อมวลชน ให้พวกเขารีบแก้ปัญหาการประท้วงของชาวประมง


แฮมเล็ตตอบกลับไปอย่างมั่นใจว่าพวกเขากำลังเจรจากับชาวประมงอยู่และได้รับความคืบหน้าที่ดีแล้ว ผ่านไปอีกสองวันก็จะสามารถโน้มน้าวให้เหล่าชาวประมงสลายตัวจากการประท้วงได้ ขอให้บริษัทดาวเคมิคอลอย่าได้รีบร้อน


กลยุทธ์ของเขาก็คือการยื้อเวลา!


อำนาจของบริษัทดาวเคมิคอลไม่ใช่สิ่งที่นายกเทศมนตรีเมืองเล็กๆ จะต้านทานได้ ยิ่งกว่านั้นการพัฒนาเศรษฐกิจของนครเซนต์จอห์นก็อาศัยธุรกิจพวกนี้ แฮมเล็ตเลยไม่กล้าขัดพวกเขา


ถ้าบริษัทดาวเคมิคอลไม่เลือกเกาะแฟร์เวลเป็นที่สร้างโรงงาน อย่างนั้นแฮมเล็ตก็จะยินดีต้อนรับเป็นอย่างมาก น่าเสียดาย พวกเขาเลือกเกาะแฟร์เวลแล้ว


ฉินสือโอวรวบรวมชาวประมงไปติดตั้งเตาไฟไม่กี่สิบอันที่ท่าเรือ ตอนกลางคืนก็ได้รับความอบอุ่นตอนกลางวันก็เอาไว้ย่างเนื้อ ของเหล่านี้ทางเมืองเป็นผู้ให้มา พวกเขามีอาหารและที่พักให้แก่ผู้ที่มาประท้องที่เมืองทุกคน


อย่างไรเสียเขาก็มีเงินไม่น้อย งั้นก็ใช้ไปกับพวกคุณแล้วกัน นี่คือความคิดของฉินสือโอว


แฮมเล็ตพูดไม่ผิด บริษัทดาวเคมิคอลรอเวลาไม่ไหว พวกเขากดดันทางรัฐบาลของเมืองและรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดบอกว่าหวังให้ทางรัฐบาลขอกำลังทหารมาช่วยเหลือเพื่อไล่กลุ่มผู้ประท้วง


ฉินสือโอวรู้สึกว่าเหลืออีกไม่เท่าไรแล้ว เขาให้แฮมเล็ตติดต่อกับประธานบริษัทดาวเคมิคอลแคนาดา เขาอยากจะเจรจากับอีกฝ่าย


ประธานบริษัทดาวเคมิคอลแคนาดามีชื่อว่าเคอร์เรท มูเอ็น เขาเป็นคนวัยห้าสิบกว่าที่มีอำนาจมากคนหนึ่ง หลังจากได้รับคำเชิญเจรจาจากฉินสือโอวเขาก็ตอบรับ พวกเขาทำการเจรจากันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเซนต์จอห์น


พอฉินสือโอวเจอเคอร์เรทก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านประธาน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงยืนหยัดที่จะสร้างโรงงานบนเกาะของพวกเรา นครเซนต์จอห์นมีที่ดินมากมาย คุณสามารถเลือกไปสร้างที่อื่นก็ได้”


เคอร์เรทยืนกราน “พวกเราได้ขั้นตอนการสร้างโรงงานมาแล้วและพวกเราก็ซื้อโรงงานบนเกาะแล้วด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกกฎหมาย อย่างนั้นทำไมพวกเราต้องเปลี่ยนที่สร้างโรงงานด้วย?”


ฉินสือโอวพูดอย่างจนใจ “แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่ารอบๆ เกาะของเราล้วนแต่เป็นฟาร์มปลา ถ้ามีโรงงานเคมีอยู่บนเกาะ ฟาร์มปลาของพวกเราจะทำยังไง? พวกเราทั้งเกาะจะทำยังไง?”


เคอร์เรทเงียบไปพักหนึ่งแล้วพูด “พวกเรามีแผนที่จะชดเชยให้กับเกาะของพวกคุณ ถึงขนาดยอมเปิดเขตชุมชนที่นครเซนต์จอห์นให้พวกคุณ ขอแค่พวกคุณยอมย้ายไป คุณนึกถึงแค่เกาะของพวกคุณ แล้วบริษัทเราล่ะ? การลงทุนของพวกเราจะทำยังไง?”


ทั้งสองฝ่ายฝ่ายหนึ่งไม่ยอมไป อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยมือ แบบนี้การเจรจาก็ถึงทางตัน ฉินสือโอวได้แต่จากไป และกิจกรรมการประท้วงยังคงต้องทำต่อไป


เมื่อกลับถึงท่าเรือฉินสือโอวก็เตรียมขึ้นเรือ ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นอย่างชัดเจน “อาจารย์! อาจารย์! ผมมาแล้ว!”


ได้ยินเสียงนี้ฉินสือโอวก็หันกลับมาอย่างสงสัย เห็นร่างที่เหมือนกวางน้อยที่วิ่งมาอย่างรวดเร็ว ครู่หนึ่งก็เข้าไปในอ้อมแขนของเขา นี่คือไวส์ บรูซเด็กฝึกงานที่ไม่ได้เจอกันนาน


ทายาทอุตสาหกรรมเหล็กตัวน้อยก้าวเดินมาอย่างมั่นคงทางด้านหลัง เขายิ้มอ่อนๆ มองมาทางฉินสือโอวแล้วยกมือขึ้นทักทาย “อะจารย์ฉิน ไม่เจอกันนานเลย ช่วงนี้สบายดีไหมครับ?”


ฉินสือโอวจับมือกับจอร์จ บรูซ ข้างๆ เขามีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง นี่น่าจะเป็นแม่ของไวส์ ทายาทที่แท้จริงของราชาแห่งอุตสาหกรรมเหล็กกล้าคาร์เนกี วิเวียน บรูซ


และแล้วคุณผู้หญิงที่ยิ้มอย่างอบอุ่นก็แนะนำตัว “ฉันคือภรรยาของจอร์จและเป็นแม่ของไวส์ค่ะ” คุณเรียกฉันว่าคุณนายบรูซหรือวิเวียนก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะอะจารย์ฉิน”


ทั้งครอบครัวต่างเรียกเหมือนกัน อะจารย์ฉินสอนภาษาจีน ไม่รู้ว่าใครนำให้ผิดถึงได้ออกเสียงเป็นอะจารย์ฉินกันหมด!


ท่าทางของไวส์ดีขึ้นจากตอนที่เพิ่งรู้จักกับเขามาก อย่างน้อยตอนที่เขาวิ่งมา ใบหน้าเล็กๆ ก็ยังแดงก่ำไม่ขาวซีด


ฉินสือโอวลูบหัวไวส์แล้วพาทั้งสามคนขึ้นเรือพลางถาม “พวกคุณมาพักร้อนกันเหรอ? อีกไม่กี่วันก็จะเป็นเทศกาลสำคัญของพวกเราชาวจีนพอดีเลย ไม่ทราบว่าพวกคุณสนใจจะเข้าร่วมไหมครับ?”


จอร์จพูดพลางหัวเราะ “อะจารย์ฉิน ขอให้คุณเชื่อว่าพวกเราอยากจะฉลองเทศกาลแบบนี้มาก แต่ความจริงแล้วผมกับวิเวียนมีธุระเยอะมาก มาครั้งนี้ เราพาไวส์มาหาคุณ เอาเขามาส่งให้คุณ…”


“ไม่ นี่คือการกลับสู่สำนัก!” ไวส์พูดแก้อย่างดื้อดึง


ฉินสือโอวหัวเราะแล้วก็ชะงัก “อะไรนะ? พวกคุณจะให้ไวส์รออยู่ที่นี่? ไม่ๆๆ จอร์จ นี่มันไม่ค่อยเหมาะเท่าไร คุณคงจะไม่รู้ ตอนนี้พวกเราที่นี่วุ่นวายกันมาก”


จอร์จหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “ผมรู้ ผมมาก็เพื่อจะช่วยคุณแก้ปัญหาเรื่องนี้”


ฉินสือโอวถามอย่างประหลาดใจ “แก้ปัญหาเรื่องนี้?”


พวกเขาขึ้นเรือแล้ว เรือลาดตระเวนกำลังขับไปทางเกาะแฟร์เวล


ไวส์พูดแทรก “อะจารย์ เรื่องที่บริษัทดาวเคมิคอลมาก่อเรื่องที่สำนักของพวกเราใช่ไหมครับ? อย่างนั้นให้เป็นหน้าที่แม่ผมเลย ผมมีลุงนิสัยไม่ดีคนหนึ่ง เขาชอบแกล้งผมแต่เขาสุดยอดมาก เขาเป็นกรรมการบริหารของบริษัทดาวเคมิคอล! แม่ผมก็ด้วย แต่ลุงของผมมีหุ้นเยอะกว่า!”


ฉินสือโอวมองภรรยาของจอร์จอย่างประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าจะมีความเกี่ยวข้องกันแบบนี้ด้วย นี่มันซับซ้อนจริงๆ!


วิเวียนยิ้มเบาๆ พลางพูด “พวกเรารู้เรื่องนี้โดยบังเอิญก็เลยมาดูว่าจะช่วยอะไรได้ไหม ในความเป็นจริง พี่ชายฉันและฉันเป็นกรรมการบริหารของบริษัทดาวเคมิคอลอเมริกา ไม่มีอำนาจอะไรต่อบริษัทที่แคนาดา แต่รู้จักกับเพื่อนที่มีสิทธิ์มีเสียงอยู่เยอะค่ะ”


ฉินสือโอวพูด “เมื่อครู่ผมเพิ่งคุยกับเคอร์เรทประธานบริษัทของพวกเขา แต่ก็ไม่สำเร็จ ถ้ารู้เร็วกว่านี้ว่าพวกคุณจะมา ผมคงรอก่อนแล้วค่อยไป”


คู่สามีภรรยาบรูซมองพลางยิ้ม วิเวียนพูด “เคอร์เรทเป็นคนที่มีอำนาจมาก โอเค เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันเองค่ะ เดี๋ยวจะคิดดูว่าจะจัดการยังไง”


กลับมาถึงเกาะฉินสือโอวก็พาทั้งสามคนไปที่บ้านของคุณลุงฮิคสัน ช่วงนี้ที่เกาะมีผู้ประท้วงมาอย่างกะทันหัน เกสเฮ้าส์ไม่พอ ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องใช้เต็นท์ และการนอนเต็นท์ในฤดูหนาวนั้นไม่ค่อยสบายเท่าไร


บทที่ 990 เลิกรากันด้วยดี

Ink Stone_Fantasy

ไม่ว่าจะที่ไหน การมีคนที่คุ้นเคยอยู่ก็ดีแล้ว


ฉินสือโอวช่วยจัดการที่พักให้ทั้งสามคนเรียบร้อยแล้ว วิเวียนหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ามาโทรหาเคอร์เรท ขณะที่ฉินสือโอวคุยกับจอร์จ


สิ่งที่เขาสงสัยคือ ทำไมคุณนายบรูซถึงวางใจเอาลูกชายมาส่งให้ตัวเอง? ไวส์ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง การรักษาพยาบาลที่นี่ก็ไม่ค่อยสะดวก


ฉินสือโอวไม่ได้ถามออกไป จอร์จจุดบุหรี่แล้วถาม “อะจารย์ฉิน ผมอยากจะถามว่าการฝึกฝนกำลังภายในของคุณมีอยู่จริงไหม?”


เมื่อเห็นใบหน้าฉินสือโอวเต็มไปด้วยความงุนงง จอร์จก็พูดต่อ “ปัญหาของไวส์คือโครโมโซมในพันธุกรรมช่วงหนึ่งบกพร่อง นี่เป็นสิ่งที่การแพทย์ในปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นพวกเราเลยได้แต่ ได้แต่มองร่างกายของเขาค่อยๆ ย่ำแย่ลง!”


พูดถึงตรงนี้จอร์จก็เอาบุหรี่ขึ้นมาดับ แล้วโยนออกไปอย่างแรง


แต่ท่าทางหลังจากนั้นก็อ่อนโยนขึ้นหน่อย เขาพูดว่า “แต่หลังจากที่ไวส์ฝึกกำลังภายในกับคุณ เลือดของเขาก็ดูเหมือนจะดีขึ้นมาก ผมพาเขาไปตรวจใหม่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่เกรตแบร์ริเออร์รีฟจนถึงชิคาโก้ พันธุกรรมยังมีส่วนที่บกพร่องแต่เซลล์เม็ดเลือดแดงกลับแข็งแรงขึ้นมาก สำหรับการที่ไวส์จะสามารถออกกำลังกายที่ไม่หนักมากได้บ้าง นี่มันเป็นไปไม่ได้!”


ฉินสือโอวเงียบไปครู่หนึ่ง ชัดเจนว่านี่คือประโยชน์มาจากพลังโพไซดอน แต่เขาไม่สามารถพูดเรื่องพวกนี้ออกมาได้ ดังนั้นเขาจึงต้องคิดคำอธิบาย


จอร์จพูดต่อ “เดิมทีผมไม่ค่อยเชื่อ แต่หลังจากไวส์อยู่โรงพยาบาล หมอไม่อนุญาตให้เขาฝึกฝนกังฟูอะไรทั้งนั้น จากนั้นเลือดของเขาก็เริ่มแย่ลงช้าๆ ดังนั้น ผมกับแม่ของเขาเลยต้องพาเขามาพบคุณให้ได้”


ฉินสือโอวคิดแล้วพูดอย่างช้าๆ “จอร์จ คุณเชื่อเรื่องพลังของสมาธิไหม ที่จริงนั่นก็คือจิตใต้สำนึกประเภทหนึ่ง เรียกว่าเป็นผลของจิตใจก็ได้ ใช้จิตสำนึกของคุณมาแก้ไขร่างกายของคุณเอง ให้เขาทำการรักษาตัวเองอย่างช้าๆ”


จอร์จส่ายหัวแสดงให้เห็นว่าไม่เข้าใจ คุณไม่เข้าใจก็ถูกแล้ว ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดเหลวไหลถึงเรื่องอะไร ฉินสือโอวพูดในใจ


“พูดให้ง่ายหน่อย ไวส์ไปโรงพยาบาลทุกวัน เขารู้ว่าร่างกายตัวเองมีปัญหา จากนั้นจิตสำนึกของเขาก็ยอมแพ้ สภาพจิตใจก็แย่มาก ตามการแพทย์แผนโบราณของประเทศผม พลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สามารถส่งผลต่อสุขภาพชีวิตของคนเราได้”


“กำลังภายในที่ผมสอนให้ไวส์ อันที่จริงถือเป็นการฝึกลมปราณอย่างหนึ่ง โดยที่ผมชี้นำให้เขาแก้ไขจิตสำนึกของตัวเองใหม่ อธิบายออกมาได้ยาก สรุปคือ จอร์จ ถ้าคุณเชื่อผม ผมรับประกันได้ว่าจะสามารถรักษาไวส์ให้หายได้ อย่างน้อยก็ทำให้เขามีชีวิตต่อไปอย่างสุขภาพดีได้อีกหลายปี”


ฉินสือโอวพูดอย่างจริงจัง “แบบนี้ บางทีหลังจากยี่สิบปีผ่านไป เทคโนโลยีการรักษาพันธุกรรมอาจจะสมบูรณ์แล้ว ถึงเวลานั้นก็จะสามารถทำให้ไวส์แข็งแรงดีได้อย่างสมบูรณ์”


เขาไม่แน่ใจว่าพลังโพไซดอนจะสามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมได้หรือเปล่า ดังนั้นจึงไม่กล้ารับประกันจนเกินไป


จอร์จพยักหน้าอย่างไม่ลังเลพลางพูด “ผมกับวิเวียนเชื่อคุณ ฉิน ดังนั้นพวกเราเลยพาไวส์มาส่งที่นี่”


เห็นเขามั่นใจอย่างนี้ ฉินสือโอวกลับรู้สึกว่ามีปัญหา เขาถามด้วยความสงสัย “ทำไมถึงเชื่อผมขนาดนี้?”


จอร์จมองไปยังท้องฟ้าด้านนอกอย่างสลดแล้วพูด “ความจริงแล้วพวกเราไม่ได้เชื่อคุณหรอกฉิน พวกเราแค่ไม่มีอย่างอื่นให้เชื่อแล้ว! ผมมีลูกชายสองคน บ้าเอ๊ย! ลูกชายสองคนล้วนตายในโรงพยาบาลที่ดีที่สุด! ตอนนี้การแพทย์ไม่สามารถแก้ปัญหาของพวกเราได้!”


ป่วยหนักแล้วก็ตระเวนหาหมอไปทั่ว ฉินสือโอวเข้าใจความคิดของคู่สามีภรรยาบูรซแล้ว เพราะตอนที่เขาอยู่กับไวส์ก่อนหน้านี้ได้สร้างสถานการณ์ที่เป็นบวก ทำให้จอร์จได้แต่หวังกับเขา


ฉินสือโอวตบไหล่กว้างๆ ของจอร์จเพื่อปลอบใจ “เชื่อผม ไวส์จะสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ”


เขาต้องรับไวส์เด็กฝึกงานคนนี้ไว้ พูดตามจริงแล้ว พลังเบื้องหลังของเด็กฝึกงานคนนี้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน แม้จอร์จจะไม่ใช่ผู้สืบทอดอุตสาหกรรมเหล็กที่คาร์เนกีทิ้งไว้ แต่ไวส์อาจจะเป็นคนคนนั้น


ตระกูลคาร์เนกีที่ถึงขนาดสามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายในหลายด้านของอเมริกาได้ มีเด็กฝึกงานแบบนี้ไว้สักคนหนึ่ง ฉินสือโอวก็เตรียมโดดเด่นในสังคมระดับสูงของอเมริกาได้เลย


ตอนนี้เขาไม่ปฏิเสธคำเชิญของชนชั้นสูงอีกต่อไป เรื่องบริษัทดาวเคมิคอลในครั้งนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่แค่มีเงินมีเหตุผลก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ เครือข่ายเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า


เขาเพิ่งจะมีความคิดอย่างนี้ได้ไม่นาน วิเวียนยิ้มเบาๆ ออกมาจากระเบียง โบกมือพลางพูด “จัดการเรียบร้อย ฉิน เคอร์เรทยอมเปลี่ยนโรงงานสายการผลิต พวกเขาจะเลิกกดกันรัฐบาลของนครเซนต์จอห์นทันที แต่เขามีเงื่อนไข นั่นคือคุณต้องหาคนมาซื้อต่อโรงงานไม่กี่แห่งของพวกเขาบนเกาะ”


ไม่มีปัญหา ฉินสือโอวพูดอย่างรวดเร็ว “ไม่มีปัญหาคุณนาย ผมไม่ต้องหาคนหรอก ผมจะซื้อโรงงานพวกนั้นไว้เอง”


จอร์จมองไปทางวิเวียน “จัดการเรื่องนี้ได้เมื่อไร?”


เขาถามแทนฉินสือโอว เขาเข้าใจความรู้สึกเร่งรีบของฉินสือโอว


วิเวียนพูด “ถ้ารีบ อย่างนั้นก็คืนนี้เลย เคอร์เรทบอกว่าวันนี้จะเชิญเราไปทานมื้อค่ำด้วย แต่ฉันปฏิเสธไป ถ้าจำเป็นฉันจะโทรกลับไป วันนี้ก็สามารถจัดการเรื่องนี้ได้”


แต่ฉินสือโอวไม่สามารถแสดงท่าทางรีบร้อนจนเกินไป เขาพูด “เดี๋ยวคืนนี้ผมเป็นเจ้าภาพเอง เรื่องนี้ไม่รีบ พรุ่งนี้ค่อยจัดการก็ได้”


วิเวียนยิ้มพลางมองเขาแล้วมองไปทางจอร์จ จอร์จยักไหล่แล้วพูด “อย่างนั้นก็คืนนี้เลย ให้เคอร์เรทเตรียมข้อตกลงให้เรียบร้อย ดูสิ ที่จริงฉินรอไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”


ฉินสือโอวยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน เขารีบร้อนแบบนั้นจริงๆ


แยกย้ายกันไปตอนบ่าย พอพลบค่ำฉินสือโอวก็เจอกับเคอร์เรทอีกครั้ง แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ทำหน้านิ่งแล้ว เขาโอบกอดกับคู่สามีภรรยาอย่างอบอุ่น หอมแกมไวส์ จากนั้นก็จับมือกับฉินสือโอวแล้วพูด “ดวงสมพงศ์กันจริงๆ ไม่นานพวกเราก็เจอกันอีกแล้ว”


ฉินสือโอวพูด “ดูแล้วพระเจ้าคงหวังให้เราแก้ไขเรื่องนี้อย่างสันติ ดังนั้นท่านก็เลยส่งคนมาเป็นทูต ใช่ไหมไวส์?”


ไวส์ที่สวมชุดสูทตัวเล็กทำเป็นพยักหน้าแบบผู้ใหญ่แล้วพูด “แน่นอนครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก”


หลังจากเข้ามานั่งแล้ว จอร์จและภรรยาก็เป็นคนจัดการ แน่นอนว่าบรรยากาศผ่อนคลายมาก ไม่เหมือนเมื่อตอนเที่ยงที่ฉินสือโอวกับเคอร์เรทแทบจะตีกัน


เคอร์เรทส่งเอกสารฉบับหนึ่งให้ฉินสือโอวแล้วอธิบาย “พวกเราซื้อโรงงานเคมีมาทั้งหมดสี่แห่ง ใช้เงินไปทั้งหมดแปดแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา แต่การเซ้งต่อในครั้งนี้ พวกเราต้องการให้คุณรับผิดชอบค่าเสียหายด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าไม่อย่างนั้นผมคงไม่สามารถตอบกรรมการบริหารที่ถามหาความรับผิดชอบได้ ดังนั้นถ้าคุณอยากซื้อโรงงานเคมีทั้งสี่แห่ง ต้องจ่ายเก้าแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา”


ฉินสือโอวส่งเอกสารให้เออร์บัก เออร์บักดูอย่างละเอียดแล้วพยักหน้าให้เขา เป็นสัญญาว่าข้อตกลงในสัญญาไม่มีปัญหา


การรับผิดชอบค่าเสียหายอยู่ในแผนของฉินสือโอว เขาเลยพยักหน้าแล้วพูด “ไม่มีปัญหา เก้าแสนห้าหมื่น พรุ่งนี้พอธนาคารเปิด ผมจะโอนเข้าบัญชีของพวกคุณ”


จอร์จยิ้มแล้วพูดว่า “อย่างนั้น ดูแล้วเรื่องนี้ก็นับว่าแก้ไขเรียบร้อยแล้ว พวกเราไปกินมื้อค่ำกันไหม? พูดจริงๆ ผมรอไม่ไหวแล้ว ลมที่นิวฟันด์แลนด์หนาวเหลือเกิน ผมอยากได้ซุปร้อนๆ มาปลอบท้องจนแทบทนไม่ไหวแล้ว!”


เคอร์เรทหัวเราะพลางพูด “แน่นอนๆ ผมรับประกันว่าคุณต้องชอบอาหารคืนนี้แน่ๆ”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)