ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 985-987

 บทที่ 985 ไล่มันไป

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวเข้าอินเทอร์เน็ตสั่งเครื่องฟักไข่หนึ่งเครื่องเพื่อใช้ฟักไข่นกอินทรีโดยเฉพาะ เสียเงินไปสองร้อยดอลลาร์แคนาดาแต่ทางร้านไม่มาส่ง จะให้เขาไปรับเองเพราะเกาะแฟร์เวลอยู่ห่างจากฝั่งมากเกินไป บริษัทขนส่งไปไม่ถึง


นี่ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร อย่างไรเสียเขาก็ต้องไปนครเซนต์จอห์นเพื่อซื้อของเตรียมรับตรุษจีนที่จะถึงนี้อยู่แล้ว เขาจึงให้ที่อยู่ของเรคไว้ พอถึงตอนที่เขาไปหาเรคก็สามารถไปเอาของได้


วินนี่เอารังน้อยๆ ของไข่นกอินทรีทองวางไว้ข้างๆ เตาผิง และด้านข้างก็คือมาสเตอร์


มาสเตอร์นอนแช่อยู่ในน้ำอุ่นอย่างเอื่อยเฉื่อย ฤดูหนาวนี้มันไม่ได้ขยับเขยื้อนอะไร ฉินสือโอวดูแล้วมันน่าจะอ้วนขึ้นไม่น้อย


ฉงต้าอิจฉามาสเตอร์อยู่ตลอด เพราะมันก็อยากมีชีวิตที่ไม่ว่าจะกินจะนอนก็มีคนคอยรับใช้ น่าเสียดายที่ฉินสือโอวและวินนี่รู้ว่ามันคิดอะไร มันหลอกทั้งสองคนไม่ได้


แต่เรื่องความขี้เกียจนี่ฉงต้าขยันมาก ฉินสือโอวอดที่จะนับถือมันไม่ได้ ไม่รู้ว่าหมีทุกตัวเป็นแบบนี้หรือเป็นเพราะฉงต้าฉลาดเป็นพิเศษ


ตั้งแต่ลงมาจากภูเขาไม่ถึงสองวันท้องฟ้าก็ครึ้มและมีหิมะตกอีกรอบ


ตอนเช้าฉงต้านอนหมอบมองหิมะตกอยู่ที่ประตู พอรู้สึกได้ถึงลมหนาวมันก็กลอกลูกตาไปมาพลางร้องโฮ่วๆ จากนั้นเสียงร้องก็น้อยลงเรื่อยๆ สุดท้ายมันก็เดินโซเซมาข้างๆ เตาผิงแล้วทิ้งตัวลงบนพรมผืนหนา


พอหมอบลงแล้วฉงต้าก็หรี่ตามองฉินสือโอวที่กำลังกินข้าวอยู่ อุ้งเท้าอ้วนทั้งสองกอดหัวไว้ ส่งเสียงครวญครางเบาๆ แล้วเริ่มนอนหลับ


ฉินสือโอวไม่สนใจมัน เขานั่งดูข้อมูลการบริหารสาธารณูปโภคอยู่บนโซฟากับวินนี่


ท้องของวินนี่ใหญ่แล้ว กำหนดคลอดตอนปลายเดือนกุมภาพันธ์ใกล้ๆ ช่วงที่เพิ่งเลิกฉลองตรุษจีน นี่ทำให้ฉินสือโอวทั้งดีใจทั้งตื่นเต้น เขาจะเป็นพ่อคนแถมลูกของเขายังเกิดในเดือนแรกของปีอีกด้วย


เกล็ดหิมะตกลงมาไม่นานก็ตกหนักขึ้น แบบนี้ก็ไม่มีทางออกไปข้างนอกได้ ฉินสือโอวเลยอยู่กับวินนี่ตลอด พอถึงเวลามื้อเที่ยงก็กินมื้อเที่ยง อ่านหนังสือพักหนึ่งก็กินมื้อเย็นแล้ว


ฉงต้าขดตัวเป็นก้อนอยู่ด้านหน้าเตาผิง วินนี่มองมันครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้มันนอนเหยียดอยู่ไม่ใช่เหรอคะ? ทำไมขดตัวเป็นก้อนล่ะ? เวลาหมีสีน้ำตาลนอนในฤดูหนาวจะไม่เปลี่ยนท่านอนไม่ใช่เหรอคะ?”


ฉินสือโอวเข้าไปดึงหูฉงต้าแต่มันไม่ขยับเลย แบบนี้เขาก็เลยจั๊กจี้ที่ชายโครงของมันอีก นี่คือจุดที่ค่อนข้างไวต่อความรู้สึกของหมีสีน้ำตาล โดยปกติพวกมันจะไม่จั๊กจี้เอง


เสียงฮึมฮัมดังขึ้นในลำคอของฉงต้าไม่กี่ครั้ง มันยื่นอุ้งเท้าผลักฉินสือโอวออก หันหัวเปลี่ยนท่านอนแล้วหลับต่อไป


ฉินสือโอวหัวเราะ เขาไปที่ห้องครัวแล้วหั่นปลาแคปลินมาสองชิ้น ฉงต้าทำจมูกยื่น ตาเล็กๆ ค่อยๆ ลืมขึ้นมา หางที่สั้นๆ ที่เหมือนกับก้อนไหมพรมสั่นไปมา


แต่ฉินสือโอวเดินผ่านมันไปที่กะละมังน้ำของมาสเตอร์แล้วเอาปลาโยนเข้าไป มาสเตอร์ยื่นหัวออกมาอย่างเชื่องช้าแล้วกลืนไปทีละชิ้น จากนั้นก็ใช้ปากกดไปที่ฝ่ามือของฉินสือโอวอย่างสนิทสนม แล้วหดหัวและขาทั้งสีไปด้านหลังเพื่อนอนต่อ


ท้องของฉงต้าร้องดังขึ้นมา


ฉินสือโอวจั๊กจี้ที่ชายโครงของมันแล้วพูดว่า ‘หลับดีๆนะ’ จากนั้นก็ไปที่ห้องครัว ไม่นานกลิ่นเคี่ยวและผัดอาหารก็ลอยออกมา


ตอนมื้อเย็นทุกคนนั่งกินข้าวพลางยิ้มแย้มพูดคุยกันอยู่ที่โต๊ะกินอาหาร หู่จือเป้าจือหลัวปอแมวป่าและกระรอกนั่งอยู่ด้านล่างโต๊ะกินอาหาร ฉินสือโอวถือจานข้าวมาให้พวกมันแล้วเอาเนื้อ แป้ง กระดูกและผักผลไม้ที่เตรียมไว้แบ่งลงไป เสียงดัง ‘แกร๊กๆ’ ที่พวกสัตว์เลี้ยงเลียจานก็ดังขึ้น


ถึงตอนนี้ฉงต้าทนไม่ไหวแล้ว หูเล็กๆ สั่นระริ้ก เงยหัวขึ้นอย่างแรงแล้วลุกขึ้นวิ่งไปที่ห้องครัวอย่างไม่สบอารมณ์ พอเจอจานโลหะของตัวเองก็คาบไว้ในปากแล้ววิ่งออกมา มันโยนจานลงบนพื้นแล้วมองฉินสือโอวด้วยสายตาหมดความอดทน


ฉินสือโอวถามวินนี่ “ครั้งนี้นานเท่าไร?”


วินนี่ดูนาฬิกาข้อมือแล้วตอบพลางยิ้มอ่อน “ไม่เลว ทำลายสถิติตัวมันเองได้ สิบสองชั่วโมงพอดี”


พ่อแม่ของฉินสือโอวลูบหัวฉงต้าแล้วพูด “เจ้าหมีนี่น่าสนใจจริงๆ ทำไมไม่กี่วันนี้มันถึงหมอบอยู่หน้าเตาไม่กินไม่ดื่มทั้งวัน? ตอนแรกฉันนึกว่ามันจำศีล ดูแล้วไม่น่าใช่มั้ง”


ฉินสือโอวเอาชิ้นปลาทูน่ากับผลเบอร์รีและใบผักกาดขาวใส่ลงไปในจาน จากนั้นพูด “มันก็จำศีลนั่นแหละ เรียกว่าช่วงจำศีลโดยความขี้เกียจ”


ฉงต้าก้มหน้าก้มตากินอย่างบ้าคลั่ง พอได้ยินว่ามีคนกำลังวิจารณ์ตัวเองก็เงยหัวขึ้นมาแล้วกะพริบตามอง จากนั้นอ้าปากร้องโฮ่วหนึ่งครั้งแล้วเอาหัวซุกไปในจานกินต่ออย่างตะกละตะกลาม


นิวฟันด์แลนด์หิมะตกอย่างน้อยๆ ก็ไม่กี่วัน ชาร์คบอกว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยมีช่วงที่เลวร้ายที่สุด มีครั้งหนึ่งหิมะตกครั้งใหญ่กว่าสิบวันทำให้คนในสลัมแข็งตายกันไปเยอะ ทุกวันจะพบคนร่อนเร่แข็งตายอยู่บนพื้นหิมะที่ถนนในนครเซนต์จอห์น


ฉินสือโอวส่ายหัว เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ที่บ้านเก่าเลย


แน่นอนว่าหิมะครั้งนี้ไม่ได้หนักขนาดนั้น ตกไปสองวันครึ่งก็หยุดลง ฉินสือโอวออกไปกวาดหิมะแล้วก็ได้รับวิทยุบอกว่าเรดาร์พบเรือขนส่งขนาดกลางขับมาจากท่าเรือนครเซนต์จอห์น ดูทิศทางแล้วคงขับมาที่ท่าเรือของเมือง


พื้นเต็มไปด้วยหิมะรถขับได้ไม่สะดวก ฉินสือโอวเลยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป


ใบพัดเฮลิคอปเตอร์หมุนวืดๆ ทำให้หิมะรอบๆ ถูกกวาดไปหมด ในครู่เดียวหิมะก็กองอยู่รอบๆ กลายเป็นวง


เฮลิคอปเตอร์บินออกจากฟาร์มปลาไปทางทะเล ผ่านไปครู่หนึ่งเรือขนส่งก็ปรากฏออกมา ฉินสือโอวให้นีลเซ็นลดระดับความสูงเพื่อดูให้ละเอียด


บนเรือขนส่งมีอุปกรณ์เครื่องจักรจำนวนมาก แม้จะไม่มีสัญลักษณ์ของบริษัทดาวเคมิคอลแต่เรือลำนี้ก็น่าจะขนของให้กับบริษัทดาวเคมิคอล


หลังจากเฮลิคอปเตอร์บินตามไปพักหนึ่ง ฉินสือโอวเห็นว่าบนเรือมีคนเดินอยู่ที่ ดาดฟ้า เขาเอากล้องส่องทางไกลมาดูเห็นเสื้อกันหนาวยัดขนสัตว์ที่มีสัญลักษณ์ของบริษัทดาวเคมิคอลก็มั่นใจว่าพวกเขาเป็นใคร


ไม่ต้องสงสัยเลย นี่เหมือนที่เขาคิดไว้ บริษัทดาวเคมิคอลเห็นว่าการต่อต้านบนเกาะมีมากเลยไม่ต้องตีสองหน้าอีกต่อไป พวกเขาจะมาสร้างสายการผลิตตรงๆ เลย อย่างไรเสียขั้นตอนทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว


ฉินสือโอวส่งสัญญาณให้เบิร์ดเลี้ยวกลับ เขาเล่าสถานการณ์ผ่านทางวิทยุ ฮิวจ์คนน้องพาคนมาที่ท่าเรือ ส่วนฮานี่ย์ก็รีบตามมาด้วย


“ตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ?” ฮานี่ย์ถามด้วยความว้าวุ่นใจ


ฉินสือโอวตบที่ไหล่เขาแล้วพูด “เอาชื่อของเกาะออกสื่อเพื่อทำการต่อต้าน ส่วนเรือลำนี้ก็ให้มันจอดอยู่ที่ทะเลนั่นแหละ ถ้ามันกล้าเข้าใกล้ท่าเรือก็ไล่มันไป!”


ท่าเรือถูกเรือปิดไว้แล้วเรือขนส่งจึงไม่ได้มาจอด มันแล่นไปรอบๆ อยู่ครู่หนึ่งก็พบท่าเรือส่วนบุคคลของฟาร์มปลาต้าฉินเลยเลี้ยวไปทางนั้น


พอเห็นภาพนี้ฉินสือโอวก็หัวเราะออกมา ถ้าเรือลำนี้จอดอยู่ที่ท่าเรือเขายังไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ตอนนี้มันกลับเข้าไปที่ฟาร์มปลาของเขาเอง อย่างนั้นเขาก็ทำอะไรได้เยอะมาก


กฎหมายในรัฐธรรมนูญของแคนาดากำหนดเอาไว้ชัดเจนมากว่าห้ามรุกล้ำทรัพย์สินส่วนบุคคลเป็นอันขาด!


บทที่ 986 ไม่มีทางต่อรอง

Ink Stone_Fantasy

เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นทันที พอมาถึงที่ฟาร์มปลาฉินสือโอวก็บอกแบล็คไนฟ์ผ่านอินเตอร์โฟน “บอกให้พวกตัวแสบไปขึ้นเรือกำปั่นทะเลที่ท่าเรือทางตะวันตก เตรียมทำงาน!”


เรือกำปั่นทะเลทั้งสี่ลำขับกลับมา ฉินสือโอวไม่สนใจเรื่องป้องกันเรือขโมยปลาแล้ว ตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือบริษัทดาวเคมิคอล ถ้าโรงงานเคมีมาเปิดที่เกาะ แล้วที่ฟาร์มจะเลี้ยงปลาอะไรได้อีก


เรือกำปั่นทะเลใช้การสร้างแบบเรือความเร็วสูง มันปราดเปรียวราวกับเรือรบอเนกประสงค์ขนาดเล็ก เรือแบบนี้มีความเร็วสูงมาก ฉินสือโอวพาคนขึ้นเรือไปไม่นานก็เร่งความเร็วไปขวางทางเรือขนส่งเอาไว้ได้


เห็นได้ชัดว่าคนบนเรือขนส่งเห็นเรือกำปั่นทะเล วิทยุมีเสียงตี้ดๆ ดังขึ้น ฉินสือโอวหยิบวิทยุขึ้นมาถาม “นี่คือฟาร์มปลาต้าฉิน พวกคุณเป็นใคร?”


คนบนเรือคงไม่รู้ว่าเป็นฉินสือโอวที่นำคนบนเกาะคัดค้านการสร้างโรงงานบนเกาะนี้เลยพูดว่า “สวัสดีครับคุณ พวกเราคือเรือขนส่งของบริษัทดาวเคมิคอลแคนาดา มีอุปกรณ์ที่ต้องขนส่งมาที่เกาะของคุณ…”


“ถ้าอย่างนั้นเข้ามาที่ฟาร์มปลาของผมทำไม?” ฉินสือโอวถามตัดบทอีกฝ่าย


“คุณครับ อาจจะเพราะว่าหิมะตกเลยทำให้ท่าเรือถูกปิด พวกเราเลยทำได้แค่ขอใช้ท่าเรือของคุณ แต่ไม่ต้องห่วง พวกเรายินดีจะจ่ายค่าที่จอดให้ แบบนี้โอเคไหมครับ?”


ฉินสือโอวเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูด “นี่เป็นท่าเรือใหม่”


“อ่อ พวกเราเข้าใจ พวกเรายินดีจะจ่ายค่าที่จอดให้”


ฉินสือโอวพูด “ผมคิดว่าพวกคุณคงไม่เข้าใจ ที่นี่คือท่าเรือใหม่ ค่าที่จอดค่อนข้างแพง หนึ่งวันหนึ่งร้อยล้าน”


เขานึกถึงครั้งแรกที่เจออัลเบิร์ต ตอนนั้นเขาอยากซื้อฟาร์มปลาแกธเธอริง จากนั้นอัลเบิร์ตก็ใช้วิธีนี้มาหยุดเขา ตอนนี้เขาก็ใช้วิธีเดียวกันมาสู้กับบริษัทดาวเคมิคอล


คิดแบบนี้ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนเลวไปแล้ว


พอเสียงพูดของเขาเงียบลงอีกฝ่ายก็มีเสียงตกใจดังขึ้น จากนั้นก็มีคนถามอย่างสงสัย “คุณครับ ผมคิดว่าผมคงฟังผิด เมื่อครู่คุณบอกว่าค่าที่จอดคือหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์แคนาดาต่อหนึ่งวัน?”


ฉินสือโอวพูด “ไม่ ไม่ใช่หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์แคนาดาต่อหนึ่งวัน แต่เป็นหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ!”


ดูจากตรงนี้สิ่งที่เขาทำนั้นยิ่งเกินกว่าอัลเบิร์ต เพราะฉะนั้นเขาร้ายยิ่งกว่าอัลเบิร์ตเสียอีก


ห้องคนขับของเรือขนส่งเงียบไปชั่วขณะ แล้วก็มีคนพ่นคำหยาบออกมา “บัดซบ ล้อเราเล่นหรือเปล่า?!”


ผ่านไปประมาณหนึ่งนาทีน้ำเสียงก็เปลี่ยนไป “คุณครับ พวกเราเป็นเรือขนส่งของบริษัทดาวเคมิคอลจริงๆ และพวกเราก็อยากจะขอใช้ท่าเรือของคุณด้วยใจจริง เพราะฉะนั้นหวังว่าคุณจะไม่ล้อพวกเราเล่น”


ฉินสือโอวพูดอย่างจริงจัง “ไม่ ได้โปรดเชื่อผม ผมไม่ได้ล้อเล่น หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์แคนาดา ถ้าพวกคุณเต็มใจที่จะจอดผมก็จะเปิดทางให้ ไม่อย่างนั้นพวกคุณมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นหรือไม่ก็ไปจอดที่ท่าเรือของเกาะ”


อีกฝ่ายยังอยากจะพูดแต่ฉินสือโอวปิดวิทยุไปแล้ว ปัญหาเรื่องอำนาจการครอบครองไม่สามารถต่อรองกันได้!


เรือขนส่งไม่ลดความเร็วและยังคิดจะขับมาข้างหน้า พวกเขาคงรู้หลักการที่ว่าการคุยกับนายใหญ่นั้นง่ายกว่าคุยกับพวกลูกน้อง พวกเขาคิดว่าเจ้าของฟาร์มปลาคงคุยกันดีๆ ได้ พวกคนบนเรือตจึงตัดสินใจเข้ามาขวางพวกเขาเอง


แบบนี้ก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว ฉินสือโอวพูดขอร้องไปทางวิทยุว่า “พวกคุณเข้ามาในฟาร์มปลาส่วนบุคคลแล้ว ทุกท่าน ผมไม่ต้อนรับพวกคุณ ดังนั้นพวกคุณกรุณาออกไป! ไม่อย่างนั้นผมจะใช้อาวุธแล้วนะ!”


ปืนน้ำวนถูกลากออกมาบนดาดฟ้าของเรือกำปั่นทะเลทางทิศตะวันออก ปืนน้ำที่เกรียงไกรปรากฏกายอยู่ใต้แสงอาทิตย์ ผิวโลหะด้านนอกเป็นประกาย หลุมที่ปากกระบอกปืนอันดำมืดแผ่รังสีอำมหิตออกมา


ฉินสือโอวส่งสัญญาณให้ชาร์คขับเรือเข้าไปใกล้เรือขนส่ง จากนั้นบูลก็เปิดปืนน้ำ เขาไม่ได้เล็งไปที่เรือขนส่งแต่ยิงไปที่ด้านซ้ายขวาของเรือขนส่งแทน ครู่หนึ่งสายน้ำกำลังแรงก็พุ่งไปบนฟ้าเอาน้ำทะเลที่เย็นยะเยือกยิงออกไป


ในที่สุดคนบนเรือขนส่งก็เข้าใจความจริงจังของอีกฝ่าย กัปตันรีบสั่งให้ลดความเร็วแล้วเรือขนส่งก็เริ่มหันหัวเรือ จากนั้นจึงเร่งความเร็วออกไปจากเขตของฟาร์มปลา


ฉินสือโอวส่งสัญญาณให้แบล็คไนฟ์หาคนไปตามดูเรือลำนี้ เขาจะไม่ให้อุปกรณ์ของบริษัทดาวเคมิคอลได้ขึ้นฝั่งแน่ แบบนั้นแผนในการยื้อเวลาของเขาก็จะล้มเหลว


พอกลับบ้านเขาก็โทรไปหาแบรนดอนเพื่อถาม “บริษัทดาวเคมิคอลกู้เงินจากธนาคารมอนทรีออลของพวกนายมาก้อนหนึ่งเหรอ?”


แบรนดอนตรวจสอบดูครู่หนึ่งแล้วพูด “ใช่ แต่นายถามทำไม? นายก็จะกู้เงินเหรอ?”


ฉินสือโอวพูด “เปล่า นายไม่ได้ดูข่าวเลยเหรอ? ไอ้บริษัทดาวเคมิคอลเวรนั่นคิดจะมาสร้างโรงงานเคมีที่เมืองของฉัน ฉันไม่มีทางให้พวกมันสมหวังแน่! โอเค บอกฉันสิพวก นายมีวิธีกดดันพวกเขาไหม?”


ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้โทรหาแบรนดอนเพราะรู้สึกว่าแบรนดอนเป็นแค่ผู้จัดการสาขาเล็กๆ คงไม่สามารถส่งผลกระทบต่อความร่วมมือของบริษัทดาวเคมิคอลและธนาคารมอนทรีออลได้ ที่เป็นถึงโครงการร้อยล้าน


ตอนนี้เขาเปิดฉากระดมความช่วยเหลือจากทุกส่วน


แบรนดอนให้เขารอก่อน จากนั้นก็รัวแป้นพิมพ์ก๊อกแก็กๆ ไม่รู้ว่าดูอะไร ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็พูดว่า “บริษัทดาวเคมิคอลอยากสร้างสายการผลิตเคมีการเกษตรที่เกาะแฟร์เวลใช่ไหม? โอเค พวกเขากู้เงินไปจริงๆ กู้ไปหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน นายแย่แล้ว ฉิน!”


ฉินสือโอวพูดอย่างจนใจ “คราวนี้ก็อย่าหาว่าฉันล้อเล่น โอเค? บอกมาเร็วๆ นายช่วยได้หรือเปล่า?”


แบรนดอนคิดครู่หนึ่งแล้วพูด “ฉันช่วยได้ แต่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ บริษัทดาวเคมิคอลทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารมอนทรีออลที่สาขานิวฟันด์แลนด์ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาร่วมมืออะไรบางอย่างกับรัฐบาลนิวฟันด์แลนด์ คืออย่างนี้ ฉันมีเพื่อนอยู่ที่สาขานั้น สามารถกดดันบริษัทดาวเคมิคอลโดยผ่านพวกเขาได้”


“แต่ว่านายต้องกดดันบริษัทดาวเคมิคอลไว้ อย่าให้พวกเขาสร้างสายการผลิตได้ เพราะเหตุผลที่ฉันจะให้เพื่อนกดดันพวกเขาคือไม่เห็นความเป็นไปได้ที่การลงทุนจะสำเร็จ” แบรนดอนกำชับ


ฉินสือโอวบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา เขาไม่มีทางให้เรือขนส่งของบริษัทดาวเคมิคอลมาจอดที่เกาะอยู่แล้ว


นอกจากนี้เขายังโทรไปหาแและจ่ายเงินให้หนังสือพิมพ์ลงข่าวขอความช่วยเหลือ พาดหัวข่าวว่า ‘ขอโรงงานเคมีได้โปรดให้โอกาสเต่าทะเลได้มีชีวิตต่อไป’


วันรุ่งขึ้นเรือข้ามฟากขับมาที่ท่าเรือของฟาร์มปลาแล้วคนขาววัยกลางคนสี่คนก็เดินออกมา พวกเขาดูแตกต่างกันคนในเมืองเพราะในวันที่อากาศหนาวอย่างนี้พวกเขาใส่เพียงชุดสูทและเสื้อโอเวอร์โค้ตเท่านั้น หน้าตาก็ไม่คุ้น


คนวัยกลางคนทั้งสี่เจรจาด้วยเสียงค่อยเพียงไม่กี่ประโยคแล้วเดินมาทางวิลล่า หู่จือและเป้าจือที่อาบแดดอยู่ที่ประตูคลานขึ้นมา พวกมันเงยหัวเห่าโฮ่งๆ


เห็นแลบราดอร์ที่ห้าวหาญสองตัวขวางทางไว้ ทั้งสี่คนก็หยุดนิ่งด้วยความประหม่า แต่หลังจากนั้นหมีตัวอ้วนใหญ่ก็พุ่งออกมาจากในบ้านแล้วจ้องมองไปรอบๆ จากนั้นมันก็พุ่งไปหาพวกเขาทำให้ทั้งสี่คนตกใจจนหน้าซีด!


บทที่ 987 ระดมกำลังเต็มที่

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวรู้ว่าด้วยอำนาจของบริษัทดาวเคมิคอลพวกเขาจะรู้จุดแตกหักของเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็จะส่งคนมาเจรจากับเขา


แบบนี้พอหู่จือและเป้าจือที่เงียบอยู่เห่าขึ้นมากะทันหัน เขาก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายส่งคนมาแล้ว


หู่จือและเป้าจือจะไม่คำรามเพราะมีคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้บ้าน ตอนนี้เวลาชาวเมืองจะเข้าออกเมืองก็ต้องผ่านท่าเรือของฟาร์มปลาทั้งนั้น สำหรับหู่จือและเป้าจือพวกเขาก็เป็นคนแปลกหน้าเหมือนกันแต่พวกมันไม่เคยเห่าเลย


พวกมันเห่าเพราะดูออกว่าคนพวกนี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของฟาร์มปลา


ครั้งนี้ฉงต้าวิ่งออกไปอย่างกระตือรือร้นเพราะฉินสือโอวตีที่ก้นของมันไปหนึ่งครั้ง เขาให้ฉงต้าออกไปทำให้พวกเขาตกใจ ให้พวกเขาขวัญหนีดีฝ่อไปก่อน แบบนี้พอถึงตอนที่เจรจาเขาก็จะเป็นฝ่ายรุกได้ง่ายขึ้น


รอให้ฉงต้าวิ่งไปแล้ว ฉินสือโอวก็ดูนาฬิกาจนผ่านไปยี่สิบวินาทีแล้วค่อยออกไป


พอเสียงผิวปากดังขึ้นหู่จือเป้าจือและฉงต้าก็หุบปากแล้วหันกลับมามองฉินสือโอว จากนั้นก็วิ่งไปเล่นอีกด้าน


ฉินสือโอวมองทั้งสี่คนที่แต่งตัวเป็นทางการแล้วทำเป็นถามอย่างสับสน “สวัสดีครับทั้งสี่ท่าน ไม่ทราบว่ามาหาใครครับ?”


ชายใส่แว่นวัยกลางคนเดินขึ้นมาพลางยิ้มเบาๆ แล้วพูด “สวัสดีครับ คุณฉินสือโอว?”


ฉินสือโอวพยักหน้า ชายคนนั้นแนะนำตัวเอง “ผมคือเอลตัน คาบราวน์ เป็นหัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์ภายนอกของบริษัทดาวเคมิคอล สามท่านนี้คือเพื่อนร่วมงานของผม พวกเราอยากเจรจากับคุณ พอมีเวลาว่างไหมครับ?”


ฉินสือโอวให้ทั้งสี่คนเข้ามาในวิลล่า รินชาแล้วพูดอย่างสุภาพ “ใบชาของผมนำมาจากประเทศจีน เชิญชิมได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะถูกปากพวกคุณหรือเปล่า”


นี่เป็นชาแดงชั้นดี ทั้งสี่คนดื่มไปแล้วก็ต่างชมรสชาติของชาชนิดนี้


ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูด “อย่างนั้นช่วยบอกจุดประสงค์ที่พวกคุณมาหน่อยได้ไหม? ผมว่าที่คุณมาหาผมคงไม่ได้แค่มาชิมชาหรอก?”


เอลตันพูดพลางยิ้ม “แน่นอนว่าไม่ใช่ ถึงแม้ว่ารสชาติของชาจะยอดเยี่ยมจริงๆ ก็เถอะ พวกเรามาที่นี่เพราะเรื่องการสร้างโรงงานเคมีที่เกาะครับ คุณฉิน ผมรู้ว่าคุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลาคนสำคัญคนหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณคิดเห็นอย่างไรกับการสร้างโรงงานเคมีครับ?”


ฉินสือโอวยังคงยิ้ม เขาชี้ไปที่น้ำชาแล้วพูด “ทุกท่านดื่มชาสิ ผมยังมีชาแดงชนิดอื่นอีก พวกคุณต้องชิมให้ได้”


เขาตั้งใจเปลี่ยนเรื่องอย่างชัดเจนขนาดนี้ ทำไมทั้งสี่คนจะไม่เข้าใจ?


เอลตันยกถ้วยชาแล้วพูด “ในสายตาหลายๆ คน โรงงานเคมีหมายความถึงมลพิษและการทำลายสิ่งแวดล้อม เหมือนว่าพอเปิดสายการผลิตแล้วก็จะทำให้เกิดมลพิษและน้ำเน่าเสียเลย ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น…”


ฉินสือโอวถาม “คุณคาบราวน์ คุณอยากจะจัดปราศรัยที่เกาะของเราสักครั้งไหม?”


เอลตันพูด “ถ้ามันจะทำให้ความขัดแย้งของทุกคนกับบริษัทดาวเคมิคอลลดลงได้ ผมยอมจัดปราศรัยสักสิบครั้งเลย”


ฉินสือโอวผายมือออกพลางพูด “ดูสิ สิ่งที่คุณพูด ตัวคุณเองก็ยังไม่เชื่อเลยใช่ไหม? ทำไมต้องจัดถึงสิบครั้ง? ถ้าเป็นความจริง ปราศรัยแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว ทุกท่าน หากพวกคุณมาถามถึงความเห็นที่ผมมีต่อการเปิดโรงงานเคมี อย่างนั้นผมก็สามารถให้คำตอบกับคุณได้อย่างชัดเจน ผมต่อต้านเรื่องนี้เป็นอย่างมาก!”


เอลตันเปลี่ยนวิธีโจมตี เขาพูด “สิ่งที่คุณคิดก็คือมลพิษที่โรงงานเคมีของพวกเรามีต่อทะเลใช่ไหม? พวกเราสามารถชดเชยให้แก่พวกคุณได้ ตามรายรับในปีที่แล้วของคุณ พวกเราจะชดเชยให้ปีละสิบเท่า ตกลงไหม?”


ฉินสือโอวยักไหล่พลางพูด “ไม่ได้ ผมไม่ตกลงครับทุกท่าน”


ชายคนหนึ่งทนไม่ไหว “คุณฉิน คุณคงจะมีความเข้าใจผิดต่อโรงงานเคมีของเรา อุปกรณ์บำบัดน้ำเสียของเราก้าวหน้าที่สุดในสากล มาตรฐานมลพิษก็ต่ำกว่าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมของแคนาดากำหนด!”


ฉินสือโอวพูด “ฟังนะ เรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องพูดคุยกันอีกต่อไปแล้ว ผมไม่ยินยอมให้พวกคุณสร้างโรงงานเคมีที่เกาะของเรา ไม่อยากเห็นท่อบำบัดน้ำเสียสอดเข้ามาในทะเล ไม่อยากเห็นปล่องควันมลพิษ สรุปแล้ว ผมไม่มีทางให้โรงงานเคมีของพวกคุณมาทำลายบ้านเกิดของพวกเรา!”


เขาไม่เชื่อคำพูดของคนพวกนี้ ถ้าโรงงานเคมีไม่มีมลพิษจริงๆ ถ้าอย่างนั้นมลพิษในกระบวนการกลั่นสารเคมีจะไปไหน? พูดตรงๆ ถ้าโรงงานเคมีไม่มีมลพิษ บริษัทดาวเคมิคอลจะต้องจ่ายค่าชดเชยทำไม?


เงินของนายทุนไม่ได้ได้มาง่ายๆ พวกเขาลงทุนกับคุณหนึ่งดอลลาร์ก็ต้องได้กลับไปอย่างน้อยสองดอลลาร์ บริษัทใหญ่ๆ อย่างดาวเคมิคอลก็อาจจะเอากำไรกลับไปห้าถึงสิบเท่าเลยก็ได้


เอลตันอยากให้ฉินสือโอวเสนอเงื่อนไขมา ขอเพียงแค่ยอมให้สร้างโรงงานเคมีที่เกาะแฟร์เวลก็พอ


ฉินสือโอวไม่ได้อยากเจรจาเรื่องนี้แต่เดิมอยู่แล้ว เขายืนกรานไม่ยอม ให้เงินก็ไม่ยอม แบ่งหุ้นให้ก็ไม่ยอม สรุปก็คือ อย่าได้คิดจะสร้างโรงงานเคมีที่เกาะแฟร์เวล


สุดท้ายเอลตันก็ทำอะไรไม่ได้ เขาฝืนยิ้มแล้วพูด “คุณฉิน คุณนี่ยากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยนะ ดูแล้วคุณคงอยากจะสู้กับบริษัทของเราจริงๆ ”


พอได้ยินประโยคนี้ฉินสือโอวก็ยิ้มอย่างเย็นชา หางโผล่แล้วสินะ? ใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง?


เขาชี้ไปที่ชายหาดด้านนอกแล้วพูด “ดูให้ดี นี่คือบ้านเกิดของพวกเรา พวกคุณอยากจะทำลายบ้านของพวกเรา พวกเราไม่ยอม จากนั้นพวกคุณก็พูดว่า ผมจะต่อสู้กับพวกคุณอย่างนั้นเหรอ?!”


“แล้วก็ ฟาร์มปลาของผมเป็นแหล่งอาศัยของเต่าทะเลที่กำลังจะสูญพันธุ์ชนิดหนึ่ง เป็นที่หยุดพักของพวกวาฬและฉลามทุกปี คุณรู้ไหมว่าถ้าเปิดโรงงานเคมีจะมีผลเสียกับพวกมันขนาดไหน? ผมไม่มีทางให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ไม่มีทางยอมแน่ๆ!”


เอลตันเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูด “เรื่องพวกนี้เงินแก้ไขได้ไม่ใช่เหรอ?”


ฉินสือโอวหยิบบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสออกมาจากกระเป๋าสตางค์แล้วโยนไปข้างหน้าพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “พวกคุณคิดว่าผมมีบัตรใบนี้ ผมจะขาดแคลนเงินเหรอ? ถ้าพวกคุณมีความสามารถมากพอก็ไปตรวจสอบงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทเอ็กซ์เพรสที่เพิ่งจบไปดู ต้องเจอชื่อที่คุ้นเคยอยู่แน่ๆ”


เห็นบัตรใบนี้มีหน้าของฉินสือโอวอยู่ พวกเอลตันก็หน้าเสีย


หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไร ทั้งสี่คนดื่มชาในถ้วยหมดแล้วก็ลากลับ ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าแผนในการซื้อฉินสือโอวเพื่อเปิดทางเข้าเกาะนั้นล้มเหลว


บริษัทดาวเคมิคอลส่งคนมาเจรจากับเขา อยากใช้เงินซื้อเขา อย่างนั้นก็ต้องส่งคนไปเจรจากับคนอื่นด้วยเหมือนกัน ฉินสือโอวรู้ดีเลยเร่งการทำประชามติต่อต้านบริษัทดาวเคมิคอลไว้แล้ว


ก่อนหน้านี้เขาเล่าเรื่องนี้ในเวยป๋อ เวทีอภิปรายและหนังสือพิมพ์ ตอนนี้เขาเริ่มโทรขอให้พวกพ้องมาช่วย


อันดับแรก เขาโทรไปหาแมทธิว จินซึ่งเป็นหัวหน้ากรมประมงแล้วบอกเขาว่าหากบริษัทดาวเคมิคอลสร้างโรงงานเคมีบนเกาะแฟร์เวล ฟาร์มปลาของเขาก็จะพบกับความยุ่งยากและถ้าวันข้างหน้าโรงงานเคมีขยายตัว ฟาร์มปลาที่ได้รับผลกระทบก็จะมีมาก


อย่างที่สอง เขาไปโทรหาโดนัลด์ บราวน์และแอนดรูว์ คาร์เนกีซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่อยู่ใกล้ๆ และบอกพวกเขาว่าตอนนี้ฟาร์มปลาของพวกเขาไม่เพียงแต่เผชิญกับภัยคุกคามจากการไม่บริหารจัดการการท่องเที่ยวฟาร์มปลา แต่อาจจะเผชิญกับภัยคุกคามจากมลพิษด้วย


ต่อมา เขาโทรหาบัตเลอร์แล้วบอกว่าหากฟาร์มปลาถูกโรงงานเคมีทำลาย อย่างนั้นธุรกิจของแบรนด์ต้าฉินก็ไม่อาจทำให้สำเร็จได้


สุดท้าย เขาแจ้งต่อองค์กรดีพีเอสหรือก็คือองค์กรที่อนุรักษ์เต่ามะเฟือง เขาขอให้ทางองค์กรมาช่วยเหล่านักอนุรักษ์สัตว์ต่อต้านการรุกรานจากโรงงานเคมีด้วย


………………………………………………………………….

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)