เทพปีศาจหวนคืน 982-983
บทที่ 982 เก็บกวาดเขตแดน
แปลโดย iPAT
งานเลี้ยงเต็มไปด้วยอาหารและสุราเลิศรส
ฟางหยวนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากฉลามปีศาจกับซูไป่ม่าน
ระหว่างงานเลี้ยง ฉลามปีศาจเรียกผู้ใช้วิญญาณหญิงหลายคนออกมา “นางรำเหล่านี้คือคนรับใช้ที่ข้าเลี้ยงเอาไว้ พวกนางมีความเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและสามารถแสดงการร่ายรำระดับสูง การแสดงของทะเลฉลามได้รับการยกย่องจากผู้คนของทะเลตะวันออก วันนี้ข้าจะให้พวกท่านได้รับชมและช่วยวิจารณ์ด้วย”
ผู้ใช้วิญญาณหญิงที่งดงามหลายคนออกมาแสดงความสามารถ
เสียงเพลงดังขึ้นพร้อมกับนางรำที่สะบัดแขนเสื้อขึ้นสู่อากาศด้วยท่าทางที่งดงาม
ทันใดนั้นเสียงเพลงพลันแปรเปลี่ยนขณะที่ผู้ใช้วิญญาณหญิงแปลงร่างเป็นนางเงือกและเต้นรำอยู่กลางอากาศ
เมื่อเสียงเพลงเปลี่ยนไปอีกครั้ง พวกนางก็เปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่เต้นรำอยู่ในเปลือกหอยและอีกหลากหลายรูปแบบ
นี่ทำให้ฟางหยวนได้เปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริง
“ทะเลตะวันออกมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์และน่าอัศจรรย์ มันแตกต่างจากความงามที่แข็งแกร่งกล้าหาญของภาคเหนืออย่างสิ้นเชิง” ไท่เป่ยหยุนเฉิงยกย่อง
ฉลามปีศาจเห็นฟางหยวนไม่พูด เขาจึงเปิดปากถาม “ท่านเฉิน ท่านคิดเห็นอย่างไร?”
“มันงดงามเหนือจินตนาการอย่างแท้จริง” ฟางหยวนกล่าวยกย่องแต่ลอบหัวเราะตลกขบขันอยู่ภายใน
ในชีวิตก่อนหน้าแม้ฟางหยวนจะเข้าร่วมงานเลี้ยงของฉลามปีศาจเช่นกัน แต่มันไม่มีการแสดงใดๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้เพราะระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน มันทำให้ฉลามปีศาจให้ความสำคัญกับเขามากขึ้น
เมื่อเพลงจบลง กลุ่มนางรำก็จากไป
ซูไป่ม่านเผยรอยยิ้ม “หากท่านเฉินและท่านไท่เป่ยหยุนเฉิงชื่นชมนางรำคนใดเป็นพิเศษ เราสามารถมอบให้กับพวกท่าน”
“ข้าแก่เกินไปสำหรับเรื่องนี้แล้ว” ไท่เป่ยหยุนเฉิงปฏิเสธอย่างสุภาพ
ฟางหยวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเคยได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับงานเลี้ยงตกฉลาม ข้าสนใจปลาฉลามนอกวังบาดาลแห่งนี้มากกว่า”
ซูไป่ม่านรู้สึกผิดหวังแต่ยังเผยรอยยิ้ม “ฮ่าฮ่า คุณชายไม่ได้เลือกนางรำ นี่เป็นโชคร้ายของพวกนาง แต่ข้าไม่สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับปลาฉลามในทะเลแห่งนี้ พวกมันเป็นสมบัติของสามีข้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า หากท่านเฉินต้องการ ข้าจะไม่ตอบสนองได้อย่างไร ในงานเลี้ยงฉลามของข้า ข้าจะมอบฉลามเป็นของขวัญทุกครั้ง แต่ข้ามีกฎบางอย่าง ไม่ทราบว่าท่านเฉินพอจะทราบหรือไม่?” ฉลามปีศาจถาม
“แน่นอน ข้าทราบ” ฟางหยวนพยักหน้าและสะบัดพัดในมือ “แต่ข้าต้องการคำยืนยันจากท่านก่อน ไม่ว่าเราจะจับฉลามชนิดใดหรือจำนวนเท่าใด พวกมันทั้งหมดก็จะเป็นของพวกเราถูกต้องหรือไม่?”
“นั่นเป็นเรื่องจริง แต่ท่านต้องดำเนินการด้วยตนเอง” ฉลามปีศาจพยักหน้าโดยปราศจากความลังเล
ฟางหยวนยิ้ม “เช่นนั้นหากข้าอนุมานว่าฉลามตัวใดล้ำค่าที่สุดในทะเลแห่งนี้และสามารถจับมัน หวังว่าท่านจะสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดและมอบมันให้ข้า ฮ่าฮ่าฮ่า”
“แน่นอน” ฉลามปีศาจเผยรอยยิ้ม เขาต้องการตรวจสอบรากฐานที่แท้จริงของฟางหยวน
ฟางหยวนแสร้งยกนิ้วขึ้นมาราวกับกำลังอนุมาน
ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยแสงดาว
กลิ่นอายของวิญญาณอมตะปะทุขึ้นทำให้ฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านลอบมองหน้าและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างลับๆ
“ผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋าผู้นี้ช่างน่าอัศจรรย์นัก!”
“ท่านสังเกตเห็นหรือไม่ว่าเขาใช้วิญญาณอมตะไปแล้วถึงสามดวง! ข้าสงสัยนักว่าพวกมันคือวิญญาณชนิดใด?”
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือมันเป็นเพียงการแสดงของฟางหยวนเท่านั้น
แสงดาวค่อยๆเลือนหายไปพร้อมกับใบหน้าของฟางหยวนที่ปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ
เขาพักผ่อนชั่วขณะก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้น
“ผู้ใดจะคิดว่าท่านฉลามปีศาจกับท่านหญิงซูไป่ม่านจะมีวิธีการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ พวกท่านใช้วิธีบนเส้นทางแห่งทาสควบคุมฉลามนิ้วกาลเวลาระดับแปดตัวหนึ่งเอาไว้ที่นี่ ข้ารู้สึกประทับใจนัก อย่างไรก็ตามแม้ข้าจะสามารถอนุมาน ข้าก็ไม่มีวิธีจับมัน ข้ากล่าวถ้อยคำยโสออกไปก่อนหน้าแต่กลับไร้ความสามารถ ข้าหวังว่าท่านทั้งสองจะไม่หัวเราะเยาะข้า”
ร่างของฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านสั่นสะท้านขึ้น
‘ผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋าสามารถอนุมานได้ถึงระดับนี้เลยงั้นหรือ?’
‘นี่…นี่…’
ผีดิบอมตะระดับเจ็ดทั้งสองจ้องมองฟางหยวนด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ไม่กี่ลมหายใจต่อมาฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านจึงสามารถสงบจิตใจลงอย่างช้าๆ
ซูไป่ม่านถอนหายใจ “ในที่สุดข้าก็ได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของท่านเฉินแล้ว ฉลามนิ้วกาลเวลาเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเรา ท่านเฉินอาจไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เพื่อป้องกันการอนุมานจากคนนอก พวกเขาต้องขอให้ท่านซ่งเจียตันช่วยปิดผนึกมันเอาไว้”
ฉลามปีศาจกล่าวต่อ “ซ่งเจียตันเป็นหนึ่งในสามผู้อมตะบนเส้นาทางแห่งปัญญาที่โดดเด่นที่สุดของทะเลตะวันออก แต่ท่านเฉินยังสามารถทำลายการป้องกันของเขา นั่นหมายความว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของท่านย่อมไม่ด้อยกว่าซ่งเจียตัน!”
หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก ครั้งนี้เขาทำมากเกินไปจริงๆ
เขาโบกมือเพื่อกอบกู้สถานการณ์ “โอ้ ข้ายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับซ่งเจียตัน ครั้งนี้ข้าเพียงโชคดีเท่านั้น หากต้องเผชิญหน้ากับซ่งเจียตันโดยตรง ข้ายังไม่สามารถเอาชนะเขา”
ฉลามปีศาจจ้องมองฟางหยวนก่อนกล่าว “ในที่สุดข้าก็ได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของท่านเฉินเต๋า แต่…ก่อนหน้านี้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ เหตุใดท่านจึงไม่ใช้วิญญาณอมตะ?”
ฟางหยวนหัวเราะเบาๆ “ไม่ใช่ว่าการใช้วิญญาณอมตะจะทำให้สูญเสียพลังงานอมตะเช่นนั้นหรือ? นี่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายของข้าในการคลี่คลายเขตแดน ข้ามิได้ร่ำรวยเช่นท่านฉลามปีศาจ หากข้าสามารถใช้วิญญาณระดับมนุษย์คลี่คลายเขตแดน แล้วเหตุใดข้าจึงต้องใช้วิญญาณอมตะ?”
หัวใจของฉลามปีศาจสั่นสะท้านขึ้น
ฟางหยวนไม่สนใจเรื่องเวลา!
ตรงข้ามกับฉลามปีศาจ เขารับภารกิจบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่จากกองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลตะวันออก ยิ่งใช้เวลานานเท่าใด เขาก็ยิ่งได้รับแรงกดดันมากเท่านั้น หากเขาไม่มีความคืบหน้า ผู้อื่นอาจฉกชิงภารกิจนี้ไปจากเขา
ดังนั้นฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านจึงรู้สึกกดดันกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
“ท่านเฉินทราบดีว่าข้ากำลังเร่งรีบ หากนานกว่านี้อาจเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง เราควรยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่อย่างรวดเร็วที่สุด” ฉลามปีศาจหัวเราะก่อนกล่าวต่อ “ดูเหมือนว่าค่าตอบแทนก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นที่พอใจของท่านเฉิน หากท่านเฉินต้องการสิ่งใด ข้าจะพยายามตอบสนอง”
ฟางหยวนส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้ม “มันจะดีกว่าหากเราค่อยเป็นค่อยไป ท่านฉลามปีศาจย่อมทราบถึงคุณค่าของท่าไม้ตายเขตแดนเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่?”
“แน่นอน ข้ารู้คุณค่าที่แท้จริงของแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ มันไม่เรื่องของท่าไม้ตายเขตแดนเท่านั้น แต่มันยังเกี่ยวกับการผสานพลังงานแห่งเต๋า อย่างไรก็ตามเราจะสามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านี้หลังจากยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่และกลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของจิตวิญญาณแผ่นดิน” ฉลามปีศาจกล่าว
“จะเป็นเช่นไรหากไม่มีจิตวิญญาณแผ่นดิน?” ฟางหยวนเร่งถาม
“นี่…ความเป็นไปได้มีอยู่น้อยมาก” ฉลามปีศาจลังเล
“อาจมีความเป็นไปได้น้อย แต่หลังจากบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่มานาน ท่านฉลามปีศาจเคยเห็นจิตวิญญาณแผ่นดินหรือไม่? ข้าเดาว่าไม่ หากเป็นเช่นนั้นมันจะดีกว่าที่เราจะค่อยๆทำความเข้าใจและทำลายท่าไม้ตายเขตแดนเหล่านี้” ฟางหยวนถอนหายใจ
ฉลามปีศาจเริ่มโกรธ เขากระตุ้นต่อแต่ฟางหยวนยังแสดงทัศนคติที่มั่นคง
ฉลามปีศาจไม่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ที่ดี ดังนั้นเขาจึงต้องอดทนเท่านั้น
ฟางหยวนเรียกร้องค่าใช้จ่ายจนถึงขีดจำกัดของฉลามปีศาจอย่างไม่เกรงกลัว
หลังจากไม่กี่วันฟางหยวนก็ติดตามฉลามปีศาจเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่อีกครั้ง
คราวนี้ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะความคิดดาราและสามารถคลี่คลายเขตแดนโลกเยือกแข็งได้ในที่สุด
สำหรับวิญญาณอมตะความคิดดารา มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก
หลังจากกำเนิดใหม่ ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความคิดดาราในความพยายามครั้งแรก!
นี่ไม่ใช่เรื่องปกติและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้น
บางทีอาจเป็นเพราะเขาฝึกฝนมาหลายครั้งในชีวิตก่อนหน้าหรือบางทีอาจเป็นเพราะโชคของเขาดีขึ้นหลังจากเชื่อมโยงโชคกับไห่ลั่วหลัน
สำหรับวิญญาณอมตะระเบิดพลัง เขากำลังรวบรวมทรัพยากรและรอเวลาที่เหมาะสมในการหลอมรวม
หลายเดือนผ่านไป ด้วยความช่วยเหลือจากฟางหยวน ฉลามปีศาจมีช่วงเวลาที่ง่ายดายในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่มากกว่าชีวิตก่อนหน้า
เขตแดนโลกเยือกแข็ง เขตแดนสนามรบจิตวิญญาณ และเขตแดนเขาวงกตแปดประตูถูกคลี่คลายโดยฟางหยวนทีละชั้น
ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะความคิดดารา ฟางหยวนไม่ขาดแคลนกลุ่มก้อนความคิดอีกต่อไป นี่ทำให้เขาสามารถศึกษาเขตแดนทั้งสามได้แปดสิบถึงเก้าสิบส่วน
แม้ฟางหยวนจะไม่มีวิญญาณอมตะที่ใช้สร้างเขตแดนเหล่านี้ แต่สามารถเรียนรู้จากพวกมัน นี่ก็ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลแล้ว
ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับท่าไม้ตายเขตแดนและแสงแห่งปัญญา ฟางหยวนมั่นใจว่าเขาจะสามารถสร้างท่าไม้ตายเขตแดนของตนเอง
สุดท้ายฟางหยวนก็เผชิญหน้ากับเขตแดนกองทัพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้าย
เขาพบปัญหาในที่สุด
ท่าไม้ตายเขตแดนกองทัพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งปัญญาและไม่สามารถปลดออกได้โดยง่าย
เนื่องจากฟางหยวนไม่มีประสบการณ์ในการคลี่คลายมันในชีวิตก่อนหน้า ดังนั้นความคืบหน้าของเขาจึงค่อนข้างล่าช้า
ฟางหยวนทิ้งมันไปโดยไม่แยแส เมื่อเขาไม่ได้เข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรผีดิบ ฉลามปีศาจจึงไม่สามารถบังคับเขา
แน่นอนว่าเหตุผลหลักที่ฟางหยวนละทิ้งมันเป็นเพราะถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวที่ร่วงหล่นลงมาและทำให้ภาคกลางตกลงสู่ความสับสนวุ่นวายในช่วงเวลานี้
ในชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนได้รับความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางคู่จากอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาว อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเขาไม่ได้สำรวจมันอย่างเต็มที่
หากเขาสามารถสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาวได้อย่างลึกซึ้ง เขาจะได้รับสิ่งใด?
ระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาวของเขาจะเพิ่มสูงขึ้นอีกหรือไม่?
หรือบางทีมันอาจจะเป็นเส้นทางสายอื่น?
เขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
บทที่ 983 การปรากฏตัวของเทพอมตะกลุ่มดาว
แปลโดย iPAT
หลายวันต่อมาฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นบนภูเขาไร้นามของภาคกลาง
ส่วนหนึ่งของถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวร่วงหล่นลงมาที่นี่
ผู้อมตะจากนิกายโบราณทั้งสิบปิดล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้ทั้งหมด
เห็นอี้ฟงหยางนำฟางหยวนเข้ามา ผู้อมตะคนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจนัก
ตอนนี้ต้องขอบคุณการบ่มเพาะระดับหกในจุดต่ำสุดของฟางหยวนที่ทำให้เขาได้รับประโยชน์
ถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวแทบไม่อนุญาตให้ผู้อมตะระดับหกเข้าไป มันเป็นเรื่องยากที่จะพบผีดิบอมตะระดับหกในจุดต่ำสุดเช่นฟางหยวน
ดังนั้นฟางหยวนจึงกลายเป็นบุคคลพิเศษที่ไม่มีผู้ใดเหมือนและได้รับอนุญาตให้เขาไป
เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า เทพธิดาไป่ชิงขอให้เขาดูแลฟงจินฮวง
ฟางหยวนตกลงแต่ในใจกลับคิดว่าควรสังหารฟงจินฮวงที่นี่หรือไม่
เนื่องจากนิกายคฤหาสน์วิญญาณเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของฟงจิวเก้อเอาไว้ ดังนั้นตามข้อมูลที่ฟางหยวนได้รับ เขาคิดว่าฟงจิวเก้อหายตัวไปในภาคเหนือ
แต่เมื่อไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฟางหยวนตัดสินใจล้มเลิกความคิดที่จะสังหารฟงจินฮวง
‘ตอนนี้การต่อสู้ร้อยวันยังไม่ได้บทสรุป สิ่งใดก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ในชีวิตก่อนหน้าความตายของฟงจิวเก้อก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน’
‘สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ข้าตัดสินใจสังหารฟงจินฮวงในเวลานั้นเพราะข้าต้องการวิญญาณอมตะปีกแห่งความฝัน แม้นางจะยังเป็นผู้ใช้วิญญาณมนุษย์แต่นางก็สามารถทำลายวิญญาณอมตะได้ด้วยหนึ่งความคิด ตอนนี้หากข้ากำจัดฟงจินฮวงขณะที่ฟงจิวเก้อยังไม่ตาย ข้าต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของนิกายคฤหาสน์วิญญาณและกองกำลังอื่นๆ’ ฟางหยวนคิด
“เข้าไปได้แล้ว ระดับการบ่มเพาะของเจ้าสูงที่สุด ดังนั้นเจ้าจึงต้องเข้าไปเป็นสุดท้าย” อี้ฟงหยางกล่าว
นี่เป็นเรื่องปกติ หากฟางหยวนเข้าไปคนแรก ผู้ใช้วิญญาณจากนิกายอื่นจะไม่สามารถแข่งขันกับเขา
แน่นอนว่านี่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของนิกายกระเรียนอมตะเช่นกัน
หากพวกเขาแข็งแกร่งเท่ากับนิกายคฤหาสน์วิญญาณ พวกเขาย่อมสามารถส่งฟางหยวนเข้าไปเป็นคนแรก
ฟางหยวนเดินเข้าไปในถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวโดยตรง
ผู้อมตะจากสิบนิกายโบราณเฝ้ามองอยู่ด้านนอกด้วยความอิจฉา แต่นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนร่างของพวกเขามีมากเกินไป หากพวกเขาเข้าไป พวกเขาจะทำให้ชิ้นส่วนของถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวแห่งนี้พังทลายลงทันที
‘ทะเลสาบแห่งนี้ ข้าจำได้ มีปลามังกรเดียวดายอยู่ใกล้กับเกาะเล็กๆที่อยู่ใจกลางทะเลสาบ ฝูงปลามังกรถูกกระตุ้นโดยกลุ่มผู้ใช้วิญญาณและกำลังบ้าคลั่ง ข้าสูญเสียวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองไปแล้วและไม่สามารถใช้กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนได้ในเวลานี้ ดังนั้นการจับพวกมันจะยากลำบากมากขึ้น’
ฟางหยวนคิดขณะบินไปข้างหน้า
เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้ากลุ่มผู้ใช้วิญญาณจากนิกายเหนือสวรรค์ถูกขังอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ
รอบเกาะ ฝูงปลามังกรกำลังสร้างคลื่นยักษ์โจมตีศัตรูของพวกมัน
ฟางหยวนบินลงมาจากท้องฟ้าและใช้ทักษะอมตะจับปลามังกรเหล่านั้น
นอกจากปลามังกรเดียวดายยังมีปลามังกรสามัญอีกหกแสนตัว
ฟางหยวนบินต่อไปยังอาณาจักรแห่งความฝันและทิ้งกลุ่มผู้ใช้วิญญาณจากนิกายเหนือสวรรค์เอาไว้ข้างหลัง
เมื่อมาถึงอาณาจักรแห่งความฝัน ฟงจินฮวงก็รออยู่แล้ว
“ฟางหยวน ข้ารอเจ้ามาสักพักแล้ว” ฟงจินฮวงเผยรอยยิ้มด้วยความมั่นใจ
ฟางหยวนยิ้มตอบ “ก่อนออกเดินทาง แม่ของเจ้าขอให้ข้าดูแลเจ้า ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้าและปล่อยให้เจ้ามีช่วงเวลาที่ง่ายดาย แต่มันย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย เจ้าจะให้สิ่งใดกับข้า?”
ฟงจินฮวงกำลังจะกล่าวแต่ถูกฟางหยวนขัดจังหวะ “หากเจ้าต้องการใช้วิธีกำจัดร่างผีดิบเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ลืมมันไปได้เลย ข้าพบวิธีที่เหมาะสมกับตนเองแล้ว แน่นอนว่ามันไม่ใช่วิธีก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของสุดยอดกายาที่เจ้าเคยมอบให้ข้ามาก่อนหน้านี้”
ฟงจินฮวงกลายเป็นพูดไม่ออก
นางไม่คาดหวังว่าฟางหยวนจะพบวิธีกำจัดร่างผีดิบรวดเร็วถึงเพียงนี้
“เช่นนี้เป็นอย่างไร ข้ารู้ว่างานวิจัยเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณเหนือกว่าอีกเก้านิกาย ข้าเพียงต้องการเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันเพื่อแลกกับการให้เจ้าสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันในช่วงเวลาหนึ่ง เจ้ามีวิญญาณอมตะปีกแห่งความฝัน อย่าบอกว่าเจ้าไม่รู้เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันบางเคล็ดลับ” ฟางหยวนแนะนำ
ตามข้อตกลงของสิบนิกายโบาณ หากฟงจินฮวงต้องการยึดครองสถานที่แห่งนี้ นางต้องเผชิญหน้ากับนิกายอื่น ด้วยการได้รับชัยชนะสองในสามครั้ง นางจึงจะสามารถอ้างสิทธิในการควบคุมพื้นที่
แม้ฟงจินฮวงจะมีวิญญาณอมตะรวมถึงพลังงานอมตะของเทพธิดาไป่ชิง แต่นางยังเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ นางไม่สามารถเอาชนะฟางหยวนที่เป็นผีดิบอมตะ
ฟงจินฮวงแสดงออกด้วยความรู้สึกขมขื่น “ฟางหยวน คำขอของเจ้ายากเกินกว่าที่ข้าจะตอบสนอง ข้ามีวิญญาณอมตะปีกแห่งความฝัน เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี แต่คุณค่าของเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันนั้นยิ่งใหญ่มาก เจ้าอาจประเมินมันต่ำเกินไป ข้าเคยใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันในการฝึกฝนมาก่อน แต่นั่นก็ยังเป็นความลับสุดยอด ข้าวางแผนที่จะรวมพวกมันเข้ากับวิญญาณอมตะปีกแห่งความฝันเพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะ แต่ข้าล้มเหลว วิญญาณเหล่านั้นถูกมอบให้ข้าโดยนิกาย ข้าไม่รู้เคล็ดลับการหลอมรวมพวกมันแม้แต่เคล็ดลับเดียว เจ้าควรเปลี่ยนคำขอ ตัวอย่างเช่น เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่ง”
ในช่วงเวลานี้อาณาจักรแห่งความฝันยังไม่ปรากฏขึ้นในวงกว้าง เส้นทางแห่งความฝันยังไม่ถูกสร้างขึ้น
แม้จะมีวิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันปรากฏขึ้นบ้างแต่พวกมันก็มีอยู่อย่างจำกัด
มีเพียงเส้นทางที่ได้รับการฝึกฝนในวงกว้างเท่านั้นจึงจะถูกเรียกว่าเส้นทางการบ่มเพาะ
เส้นทางแห่งความฝันเหมือนเด็กแรกเกิด ในห้าภูมิภาคมีเพียงกองกำลังขนาดใหญ่เท่านั้นที่พยายามค้นคว้าเกี่ยวกับพวกมัน ดังนั้นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันจึงถือเป็นสมบัติล้ำค่า
ฟางหยวนไม่ได้รบเร้าต่อ
เขารู้ว่ากระทั่งฟงจินฮวงจะรู้เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝัน นางก็จะไม่นำมันออกมา
แน่นอนว่าคำขอของฟางหยวนเป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น
ฟางหยวนตอบ “เช่นนั้นข้าต้องการข้อมูลเกี่ยวกับดาบปีศาจโป้ชิง เจ้าอาจไม่รู้ แต่คนผู้นี้เป็นตำนานของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ส่งข้อมูลที่เจ้ามีให้ข้าและอย่าพยายามหลอกลวงข้าเพราะรายละเอียดเหล่านี้มีขายในท้องตลาด”
ฟงจินฮวงคิด ‘ฟางหยวนกำลังดูแคลนข้า! แม้ข้าจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์แต่ข้าก็อยู่ในโลกของผู้อมตะมาตลอด ข้าจะไม่รู้เรื่องของโป้ชิงได้อย่างไร? แต่เหตุใดเขาจึงต้องการข้อมูลของโป้ชิง?’
นางคิดอีกครั้ง ‘โป้ชิงตายไปแล้ว จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากข้าตกลง มันเป็นเรื่องง่ายที่ท่านแม่จะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ แม้มันจะเป็นความลับของนิกาย แต่ข้าก็รู้ขอบเขตของตนเอง ข้าย่อมไม่ส่งมอบข้อมูลสำคัญให้กับฟางหยวน’
แต่ฟางหยวนยังกล่าวต่อ “อาณาจักรแห่งความฝันนี้เป็นสิ่งที่นิกายกระเรียนอมตะต้องได้รับ ระยะเวลาที่เจ้าสามารถสำรวจจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เจ้าให้ข้า เจ้าสามารถติดต่อแม่ของเจ้าเพื่อให้นางเริ่มรวบรวมข้อมูล ภายในสองชั่วโมงของโลกภายนอก ข้าต้องได้รับมัน จากนั้นข้าจะพิจารณาคุณค่าของมันและตัดสินใจเกี่ยวกับเวลาที่เจ้าสามารถสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน”
หัวใจของฟงจินฮวงจมดิ่งลง นางเข้าใจว่าฟางหยวนไม่ใช่ตัวตนที่สามารถหลอกลวงได้โดยง่าย
ฟงจินฮวงเป็นสมบัติล้ำค่าของบิดามารดา นางมีวิญญาณอมตะและมีวิญญาณสื่อสารระดับมนุษย์อยู่กับตัว นางสามารถติดต่อเทพธิดาไป่ชิงได้ตลอดเวลา
หลังจากเจรจาต่อรอง ทั้งสองฝ่ายจึงบรรลุข้อตกลง
ฟางหยวนแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา เขาออกจากพื้นที่ทันที เขาจับฝูงปลามังกรเรียบร้อยแล้วแต่เขายังต้องจับเต่าแก่นแท้และพืชอสูรเดียวดาย
สองชั่วโมงต่อมาของโลกภายนอกแต่เป็นเวลาหลายวันผ่านไปของถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาว
ฟางหยวนสามารถจับเต่าแก่นแท้และพืชอสูรเดียวดายได้เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า เขายังส่งกลุ่มมนุษย์หินออกไปค้นหาทรัพยากรล้ำค่าที่อยู่ใต้ดินอีกด้วย
เขากลับไปยังที่ตั้งของอาณาจักรแห่งความฝันและแสร้งแสดงออกด้วยความหงุดหงิดหลังจากได้รับข้อมูลจากฟงจินฮวง
ในความเป็นจริงข้อมูลที่เขาได้รับเป็นข้อมูลเชิงลึกจากนิกายคฤหาสน์วิญญาณที่ทำให้เขารู้สึกพอใจมาก
‘ในชีวิตก่อนหน้าเกิดความวุ่นวายขึ้นที่น้ำตกสวรรค์ หลายคนได้รับประโยชน์จากมัน แต่ข้าไม่สามารถฉกฉวยโอกาส ครั้งนี้ข้าไม่มีเรื่องให้กังวลมากนักและจะสามารถสำรวจน้ำตกสวรรค์ได้ทันเวลา’
ฟางหยวนกล่าว “แม้ข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูลในเชิงลึกแต่มันไม่ใช่ความลับสุดยอด ตามข้อตกลงของเรา ข้าจะให้เวลาเจ้าสามวัน แน่นอนว่านั่นคือเวลาของถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาว”
ฟงจินฮวงพยักหน้าและลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นางประเมินตนเองสูงเกินไปขณะที่ประเมินอาณาจักรแห่งความฝันต่ำเกินไป แม้นางจะมีวิญญาณอมตะปีกแห่งความฝันแต่นางไม่แม้แต่จะสามารถผ่านฉากที่หนึ่ง
นางคิดว่าเวลที่ได้รับเพียงพอให้นางเก็บกวาดอาณาจักรแห่งความฝันและฉกฉวยผลประโยชน์มหาศาล
แต่ความจริงกลับโหดร้ายราวกับการถูกตบหน้าครั้งใหญ่
‘หากข้ารู้เช่นนี้ข้าจะต่อรองกับฟางหยวนให้มากขึ้น เวลาสามวันไม่เพียงพอแม้แต่ให้ข้ารักษาอาการบาดเจ็บของตนเอง!’
ฟงจินฮวงถอนหายใจ
ฟางหยวนแสร้งไม่รู้และจากไปแต่เขาลอบเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันจากอีกด้านหนึ่ง
ด้วยประสบการณ์จากชีวิตก่อนหน้า เขาเตรียมตัวมาแล้ว
ฉากแรกยังเป็นหญ้าปมลม ฉากที่สองเป็นกระดานหมากรุกดารา พวกมันถูกคลี่คลายทั้งหมด
ในที่สุดเขาก็มาถึงฉากที่สามที่เขาไม่เคยเข้ามาในชีวิตก่อนหน้า
มันเป็นทะเลสาบที่มีต้นหลิวอยู่รอบๆ
ในศาลาบนเกาะกลางทะเลสาบมีผู้อมตะหญิงกำลังดีดพิณอยู่
“ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่” นางมองมาที่ฟางหยวนด้วยดวงตาส่องประกายระยิบระยับ
ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น
เทพอมตะกลุ่มดาว!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น