ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 956-967

 ตอนที่ 956 ไม่เชื่อใจตระกูลจ้าว


ครั้งนี้กลับบ้านช้าไปหน่อยจนฟ้ามืดสลัว  จ้าวเสวียหลินเป็นกังวลใจอย่างมากแต่เขาก็ไม่สามารถดูให้แน่ชัดว่าคนบนรถคือใครกันแน่ หัวใจเหมือนมีมดนับหมื่นกำลังไต่อยู่


“เหมยเหมย เธอบอกความจริงพี่มา ว่าคนคนนั้นคือใครกันแน่? วันๆ เธอออกไปทำอะไรบ้าง?” จ้าวเสวียหลินทำหน้าจริงจังมาก


เหมยเหมยเองก็รู้สึกผิดอยู่บ้างเพราะเธอรู้ดีถึงความเป็นห่วงจากจ้าวเสวียหลินมาตลอดหลายวันนี้ แต่นี่ยังไม่ถึงเวลา เธอไม่สามารถบอกได้จริงๆ


“พี่สบายใจเถอะ หนูไม่ทำเรื่องที่ไม่ดีหรอก แค่ออกไปกินข้าวเอง หนูยังบอกสถานะอีกฝ่ายไม่ได้ หลังจากนี้พี่ก็อย่าถามอีกเลย ไว้วางใจได้ไม่มีอะไรหรอก” เหมยเหมยพูดปลอบ


“ฉันจะวางใจได้ยังไง เธอแอบกระซิบบอกพี่ก็ได้ พี่รับรองว่าจะไม่บอกใคร” จ้าวเสวียหลินเริ่มร้อนใจ


เหมยเหมยส่ายศีรษะอย่างหนักแน่น “หนูเชื่อพี่นะ แต่หนูไม่เชื่อตระกูลจ้าว ฉะนั้นหนูจะไม่บอกอะไรให้พี่เลย ยังไงหนูก็ไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีแล้วกัน”


พูดจบเธอก็เดินกลับห้องไปทันทีเพราะทะเลาะกับเฮ่อเหลียนชิงมาอารมณ์ยังฉุนอยู่  ประจำเดือนมาอย่างกับน้ำรั่ว เธอต้องรีบกลับไปเปลี่ยน


จ้าวเสวียหลินตะลึงค้างเพราะคำของน้องสาว เขาไม่คิดว่าเหมยเหมยจะพูดประโยคเหลือเชื่ออย่างตระกูลจ้าวออกมาได้


มุมมองเขานั้นตระกูลจ้าวคือรากฐานของเขา เป็นเสาหลักของเขา จะไม่เชื่อใจได้อย่างไร?


เหมยเหมยน่าจะเสียใจเพราะเคยถูกคุณย่าทำร้ายจิตใจมาก่อนถึงพูดด้วยความโกรธสินะ ต้องเป็นอย่างนี้แน่เลย รอผ่านไปสักระยะให้เหมยเหมยหายโกรธเธอก็คงจะคิดได้เอง


จ้าวเสวียหลินคอยปลอบตัวเอง แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าเหมยเหมยจะไม่กลับไปเป็นอย่างเดิมที่ให้ความเชื่อใจกับตระกูลจ้าวอย่างหมดใจได้อีก


อีกทั้งเหมยเหมยตัดสินใจหยุดให้ยาวิเศษแก่คุณย่าแล้ว ไว้ให้เพียงคุณปู่คนเดียว


อย่าหาว่าเธอใจร้าย ต้องโทษคุณย่าสติเลอะเลือนนั่นเอง เธอไม่ใช่คนที่จะให้ความช่วยเหลือคนที่ไม่ดีกับเธอ ต่อให้คนนั้นคือคนในครอบครัวเธอก็ตาม!


ครอบครัวที่ร่วมมือกับคนนอกเพื่อรังแกตัวเธอเอง เธอไม่อยากได้เลยสักนิด แล้วจะช่วยให้อีกฝ่ายมีชีวิตที่ยืนยาวไปอีกทำไม?


จะหล่อเลี้ยงให้มีปีศาจพันปีเพื่อมาทับถมตัวเองงั้นหรือ?


จ้าวเสวียหลินเองก็ไม่ใช่คนจิตใจคับแคบ เห็นเหมยเหมยยอมพูดออกมาตามตรงเขาก็ค่อยสบายใจหน่อย เขาคิดว่าตัวเองควรเชื่อน้องสาว แต่เขาก็จะหยุดเพียงแค่นี้ไม่ได้ ต้องรีบหาทางคิดค้นสีชาดโส่วกงซาออกมาให้ได้


หลายวันนี้เขากับสยงมู่มู่และเจ้าอ้วนน้อยสามคนค้นตำรามากมายพบว่าสีชาดนั้นเคยมีขึ้นในอดีตกาลมาก่อน อีกทั้งในตำรายังบันทึกวิธีการทำไว้ด้วย แต่เป็นวิธีทำที่ไม่สมบูรณ์เท่าไร รู้เพียงว่าองค์ประกอบหลักคือเลือดของจิ้งจก


เพราะสมัยโบราณนั้นจิ้งจกถูกขนานนามว่าโส่วกง (ผู้คุมวัง)  จึงให้ผู้เลี้ยงจิ้งจกป้อนแร่ซินนาบาร์ หลังจากป้อนแร่ซินนาบาร์ ในปริมาณหกกิโลกรัมครึ่งหมดแล้ว  ตัวจิ้งจกจะกลายเป็นสีแดงคล้ายสีชาด ขณะนั้นเองค่อยเอาจิ้งจกที่ตัวเปลี่ยนสีแล้วใส่เข้าไปตำโดยใช้สากหยกบดให้เหลวละเอียด เมื่อผ่านกระบวนการอีกมากมาย  เลือดสีชาดที่ได้มาก็เป็นวัตถุดิบดั้งเดิมที่เรียกว่าโส่วกงซา


สมัยโบราณนั้นตระกูลชั้นสูงหรือราชวงศ์จะปาดสีชาดโส่วกงซาให้คู่หมั้นตัวเองเพื่อพิสูจน์พรหมจรรย์ของหญิงสาว


จ้าวเสวียหลินกับสยงมู่มู่จับจิ้งจกหลายตัวมาป้อนผงสีชาด แต่ไม่รอทานหมดหนึ่งกิโลกรัมครึ่งดีจิ้งจกก็อิ่มจนท้องแตกตาย เหลือเพียงตัวเดียวที่ยังหายใจโรยริน เกรงว่าคงไม่รอดเช่นกัน ทำเอาพวกเขาเครียดเสียเหลือเกิน


วันรุ่งขึ้นเหยียนหมิงซุ่นมารับเหมยเหมยไปทานข้าว เขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแต่อย่างใด วันก่อนเขากับครูฝึกออกไปปฏิบัติภารกิจเพิ่งกลับมาวันนี้ เหยียนหมิงซุ่นยิ้มหน้าบานเมื่อเห็นคนที่ตัวเองเฝ้าคิดถึงหามาตลอด


แต่ว่า–


เมื่อเหมยเหมยเจอเหยียนหมิงซุ่นก็ตาแดงก่ำและทำเสียงกระเง้ากระงอดอย่างน้อยใจเหมือนแมวตัวน้อย ทำเอาเหยียนหมิงซุ่นใจร้อนแทบแย่


………………………


ตอนที่ 957 มีคนคอยหนุนหลัง


“เป็นอะไรไป? ใครรังแกเธอ?”


เหยียนหมิงซุ่นจอดรถไว้ในที่ลับตาคนพลางโอบเหมยเหมยมาถามด้วยความเป็นห่วงจับใจ


เหมยเหมยปาดน้ำตาแล้วเล่าเรื่องเมื่อวานให้ฟังด้วยความน้อยอกน้อยใจ เหยียนหมิงซุ่นอดหัวเราะไม่ได้ ทำเธอโกรธจนกัดปลายคางเหยียนหมิงซุ่นแรงๆ ไปทีหนึ่ง


“พี่ดีใจมากใช่มั้ย? ฉันจะบอกให้นะว่าฝันไปเถอะ ตาแก่โรคจิตนั่นสายตามีปัญหา เลือกผู้หญิงไม่มีใครสวยสักคน แข็งแรงกว่าพี่ ดำกว่าพี่ ดูมาดแมนกว่าพี่…”


เหยียนหมิงซุ่นคอยมองเด็กสาวที่ปากพูดเจื้อยแจ้วตรงหน้าอย่างนึกขำ ปากเล็กๆ ดวงตาเป็นประกายให้ความรู้สึกคันยุบยิบในใจเวลามอง


“ผู้หญิงแบบไหนก็ไม่เอา ชอบแค่เหมยเหมยคนเดียว…”


เสียงโหวกเหวกทุกอย่างหยุดชะงักลงท่ามกลางเสียงอ่อนโยนของเหยียนหมิงซุ่น ภายในรถเงียบสงัด เหมยเหมยเขินอายจนหน้าแดงระเรื่อก้มหน้างุดแกล้งตาย


เมื่อกี้เธอดุขนาดนี้ เหยียนหมิงซุ่นจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงงี่เง่าหรือเปล่านะ?


“ฉัน…ฉัน…ก็แค่โกรธ…ความจริงฉันไม่…”


เหมยเหมยอธิบายเสียงตะกุกตะกัก อยากให้เหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าความจริงเธอยังเป็นคนอ่อนโยนอยู่ เมื่อกี้แค่เป็นกรณียกเว้น


เหยียนหมิงซุ่นพยายามกลั้นหัวเราะและจุ๊บริมฝีปากเด็กน้อยเบาๆ เป็นการปลอบประโลมใจที่กำลังฟุ้งซ่านของเหมยเหมย เธอมองค้อนแวบหนึ่งและตำหนิเสียงเบา “ยังไม่ขับรถอีกเหรอ…”


เสียงยิ่งพูดยิ่งเบาจนคำสุดท้ายแทบไม่ได้ยิน


“ไปแล้ว…”


เหยียนหมิงซุ่นยิ้มและแตะปลายจมูกเด็กสาวทีหนึ่ง เหยียนหมิงซุ่นตอนยิ้มหล่อขนาดนี้ มีเสน่ห์ขนาดนี้และเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงขนาดนั้น แค่เมื่อวานก็มีตั้งหกคนแหนะ!


เหมยเหมยอดคิดในแง่ร้ายไม่ได้ อ้าปากกัดลงไปอีกที…


แต่เพิ่งสัมผัสโดนปลายนิ้วเธอก็ใจอ่อนเสียก่อนเลยผ่อนแรงลงกัดไปเบาๆ ทีเดียว สำหรับเหยียนหมิงซุ่นแล้วเหมือนถูกจั๊กจี้ ทั้งเสียวทั้งชา…


“เธออย่ายั่วพี่นะ…ไม่อย่างนั้น…”


เหยียนหมิงซุ่นกัดปลายหูเธอเบาๆ หนึ่งที เห็นร่างเด็กสาวสะดุ้งเฮือกก่อนจะกลายเป็นเนื้อสีชมพูอ่อนถึงพอใจ–


ยังไงก็จะปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายโดนยั่วคนเดียวไม่ได้นี่นา!


หลังผ่านการคลอเคลียกันหลายครั้งเหยียนหมิงซุ่นรู้จุดอ่อนไหวของเหมยเหมยแล้ว—ติ่งหู เหมือนต้นไมยราบที่เพียงโดนแตะนิดหน่อยเจ้าตัวก็จะสั่นระริก แถมยังตัวเปลี่ยนสีอีก น่าสนใจเหลือเกิน


“…ไอ้บ้า…”


เหมยเหมยจับติ่งหูไว้แล้วกลอกตาใส่อีกฝ่ายแวบหนึ่ง ตบหลังมือเหยียนหมิงซุ่นแรงๆ หนึ่งทีให้เขารีบขับรถ


วันอากาศร้อนๆ แบบนี้ไม่รีบขับรถก็จะอึดอัดตายอยู่แล้ว


กับข้าวมื้อเย็นยังคงอุดมสมบูรณ์อย่างเคย เฮ่อเหลียนชิงยังคงท่าทีเย็นชาไม่เปลี่ยนซึ่งเหมยเหมยก็ไม่สนใจเขา มีเหยียนหมิงซุ่นอยู่เคียงข้าง เธอไม่กลัวตาแก่โรคจิตนี่สักนิด


ปากมีไว้ใช้งานอยู่สามอย่างคือ ทานข้าว พูดและจูบ


สองอย่างหลังยังใช้งานไม่ได้ชั่วคราวเลยเหลือแค่ทานข้าว เหมยเหมยก้มหน้ายัดอาหารเข้าปากรัวๆ จนเฮ่อเหลียนชิงที่มองอยู่น้ำลายสอและทานข้าวตามจนหมดไปหนึ่งถ้วยโดยไม่รู้ตัว แถมยังทานกับข้าวไปไม่น้อย ล้วนเป็นกับข้าวที่เหมยเหมยเคยตักทาน


เพราะเขาคิดว่ากับข้าวพวกนี้รสชาติต้องดีกว่าแน่ๆ!


พออิ่มท้องสมองก็เริ่มทำงาน เฮ่อเหลียนชิงเหลือบมองกระเป๋าบนเก้าอี้อยู่หลายทีด้วยความรู้สึกคันยุบยิบในใจ เจ้าก้อนขาวกำลังนอนอยู่ข้างในหรือเปล่า?


แต่ให้เขาลดตัวไปถามเหมยเหมยเองคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน!


เฮ่อเหลียนชิงรออยู่พักใหญ่ก็ไม่เห็นเหมยเหมยจะปล่อยเจ้าก้อนขาวออกมา ความโกรธก็พุ่งพรวดออกมา ตวัดตามองมาพร้อมแค่นเสียงในลำคอดังขึ้นข้างหูไม่หยุดหย่อน


“เวลาทานข้าวไม่พูดเวลานอนไม่คุย คุณแค่นเสียงทำไม?”


เหมยเหมยที่เริ่มมีอาการไม่สบอารมณ์พูดเย้ยหยันใส่เฮ่อเหลียนชิงอย่างใจกล้าเพราะมีเหยียนหมิงซุ่นคอยเป็นแรงหนุนอยู่เบื้องหลัง


ตอนที่ 958 ต้องเลือกเมียอยู่แล้ว


เฮ่อเหลียนชิงแค่นเสียงเย็นชาใส่พลางชี้ไปที่เหมยเหมยแล้วบอกกับเหยียนหมิงซุ่นว่า “แกดูให้ดี ไม่มีมารยาทสักนิดแล้วยังหน้าตาเป็นพิษเป็นภัยแบบนี้อีก ถ้าในสายตาแกยังเห็นแก่พ่อบุญธรรมอย่างฉันก็รีบเลิกกับเธอซะ ฉันจะแนะนำคนที่ดีกว่านี้ให้”


เสี่ยวเมิ่งอดเอามือกุมหน้าผากไม่ได้ ไหนเมื่อวานบอกว่าเก็บเรื่องผู้หญิงหกคนนั้นไว้ก่อนไม่ใช่หรือ ทำไมวันนี้พอเจอคุณหนูจ้าวก็เหมือนกินลูกระเบิดไปอีกล่ะ!


เฮ้อ นายท่านของเขาเจอดาวหางมฤตยูเข้าเสียแล้ว!


แต่ทะเลาะกันหน่อยก็ดีอยู่หรอก เมื่อวานหลังจากนายท่านทะเลาะกับคุณหนูจ้าวก็แข็งแรงขึ้นจนน่าแปลกใจ ทำงานมากกว่าปกติตั้งหนึ่งชั่วโมงแหนะ!


เหมยเหมยเห็นเฮ่อเหลียนชิงยังเอ่ยถึงผู้หญิงหกคนนั้นอยู่จึงบันดาลโทสะ ‘ปัง’ วางตะเกียบไว้บนโต๊ะเสียงดังแล้วลุกยืนทำหน้าคิ้วขมวด


“ฉันไปเป็นตัวกาลกิณีของบ้านคุณหรือไงกัน? ฉันหน้าตาแบบนี้แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย? คุณมีสิทธิ์อะไรให้ฉันเลิกกับพี่หมิงซุ่น? ฉันจะบอกคุณให้พี่หมิงซุ่นเขาชอบฉันคนเดียว ยายอัปลักษณ์หกคนนั้นคุณเก็บไว้เองเถอะ!”


เฮ่อเหลียนชิงโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงแล้วกล่าวด้วยเสียงประชด “เป็นผู้หญิงแต่พูดอยู่นั่นว่าชอบผู้ชาย ไม่รู้จักยางอายล้างเหรอ หมิงซุ่นแกรีบเลิกซะ ผู้หญิงแบบนี้อนาคตต้องสวมเขาให้แกแน่”


ตอนแรกเหมยเหมยจะอาละวาด  แต่จู่ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวเธอพาลนึกถึงข่าวที่ลือกันอยู่ภายนอก


เฮ่อเหลียนเช่อไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของเฮ่อเหลียนชิง แต่เป็นลูกของคุณลุงหนิงเฉินเซวียน เท่ากับว่าเมียของเฮ่อเหลียนชิงมีความสัมพันธ์กับพี่ชายของตัวเองแถมยังมีลูกด้วยกัน นี่คงเป็นการสวมเขาครั้งใหญ่ให้เขา


มิน่าตาแก่นี่วันๆ ถึงได้พูดถึงแต่เรื่องสวมเขานอกใจ!


แม้จะสงสารเฮ่อเหลียนชิงที่ต้องประสบพบเจอเรื่องแบบนี้  แต่ตอนนี้ตาแก่นี่คิดจะพรากเธอกับเหยียนหมิงซุ่นซึ่งจะยอมไม่ได้ เหมยเหมยมองเหยียนเฮ่อเหลียนชิงแวบหนึ่ง อยู่ๆ ก็หัวเราะเยาะเย้ย หัวเราะจนเฮ่อเหลียนชิงยิ่งคุกรุ่น


“เธอหัวเราะอะไร? ห้ามหัวเราะ!”


รอยยิ้มของยายบ้านี่คล้ายจะรู้อะไรบางอย่างเข้า เฮ่อเหลียนชิงรู้สึกขัดตาเหลือเกิน


เหมยเหมยแค่นเสียงและคร้านจะโต้เถียงกับเขาต่อ “คุณจะไปยุ่งเรื่องสวรรค์ฟ้าดินอะไรก็ช่าง แต่ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของฉัน ฉันอยากร้องไห้ก็จะร้องไห้ อยากหัวเราะก็จะหัวเราะ มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อีกอย่างคุณอย่าฝันไปเลยว่าจะพรากฉันกับพี่หมิงซุ่นได้ เขาไม่มีทางฟังคุณหรอก!”


เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นอยากจะห้ามตั้งแต่เพิ่งเริ่มทะเลาะกันแต่เขาถูกเสี่ยวเมิ่งใช้สายตาปรามไว้ ดังนั้น–


เขาเลยนั่งดูเจ้าหญิงน้อยของตนยั่วเฮ่อโมโหเหลียนชิงให้จนแทบระเบิด  หมดคราบของคนที่เศร้าสร้อยแน่นิ่งเช่นก่อน กลับดูมีกลิ่นอายของความเป็นคนมากขึ้น


ไหนจะเด็กน้อยที่ปกติขี้อายพูดน้อย แต่ตอนนี้ก็กล้าป่าวประกาศความรักที่เธอมีต่อตัวเอง เหยียนหมิงซุ่นยิ่งดูก็ยิ่งฮึกเหิม อยากให้เหมยเหมยกับเฮ่อเหลียนชิงทะเลาะกันอีกสักพัก!


เฮ่อเหลียนชิงหันหน้ามามองเหยียนหมิงซุ่น ยังไม่ทันเอ่ยปากเหยียนหมิงซุ่นก็เป็นฝ่ายชิงพูดก่อน “คุณพ่อดื่มน้ำซุปดับความโกรธก่อน เหมยเหมยไม่รู้ความอะไร เดี๋ยวผมจะอบรมสั่งสอนเธอเองครับ!”


แน่นอนว่าใช้วิธีการอบรมสั่งสอนที่หวานหยดย้อยฉบับพิเศษของเขาล่ะ!


เหมยเหมยนั่งลงใช้มือบังหน้าแล้วทำหน้ายียวนใส่เฮ่อเหลียนชิง เห็นเฮ่อเหลียนชิงเริ่มหายใจติดขัดอีกแล้วเหมยเหมยถึงทานข้าวต่ออย่างชอบใจ


ทะเลาะกันเปลืองแรงมากจริง เธอจะต้องทานให้เยอะๆ หน่อยละ!


เฮ่อเหลียนชิงบีบบังคับเหยียนหมิงซุ่นจะให้เหยียนหมิงซุ่นเลิกกับเหมยเหมยให้ได้ เหยียนหมิงซุ่นจำต้องกล่าวอย่างระอาว่า “คุณพ่อ ผมกับเหมยเหมยเรารักกัน ไม่มีวันเลิกกัน ถ้าคุณพ่อยังรังแกเหมยเหมยอีก วันหลังผมจะไม่พาเธอมาทานข้าวด้วยอีก”


ความหมายก็คือ ระหว่างพ่อบุญธรรมกับเมีย เขาต้องเลือกเมียอยู่แล้ว!


เสี่ยวเมิ่งรีบห้ามเฮ่อเหลียนชิงที่กำลังจะปะทุอารมณ์ขึ้นมา กระซิบข้างหูเขาเบาๆ ว่า “กระรอกน้อย…”


………………………….


 ตอนที่ 959 เห็นแก่ส่วนรวม


ไฟโทสะของเฮ่อเหลียนชิงหายไปในพริบตา แอบนึกโกรธตัวเองที่ลืมเจ้าก้อนขาวแสนน่ารักไปเสียได้ ยังไม่ได้เจ้าก้อนขาวมาเขาต้องอดทนไว้ก่อน อย่าไปถือสายายนั่น


เหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยต่างแปลกใจกันทั้งคู่เพราะเฮ่อเหลียนชิงที่อยู่ๆ ก็หายโกรธอย่างง่ายดาย ลมพายุแรงระดับสิบสองเมื่อกี้กลับเหลือเพียงฝนปรอยๆ ไปแล้ว?


“เขาไม่ได้เป็นโรคลมชักหรอกนะ? ต้องชักไม่เป็นเวลาทุกวันก่อนเหรอ?”


เหมยเหมยถามเสียงเบา แต่ระยะที่ใกล้กันทำให้เฮ่อเหลียนชิงได้ยินชัดเต็มสองหู เขาพยายามสกัดกลั้นอารมณ์โกรธไว้พลางสูดหายใจเข้าหลายทีเพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าเห็นแก่ส่วนรวม


รอได้เจ้าก้อนขาวมาอยู่ในมือ เขาจะต้องสั่งสอนยายเด็กที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงคนนี้ให้สาสมไปเลย!


เฮ่อเหลียนชิงรออยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่เห็นฉิวฉิวออกมาก่อนเลยอดเศร้านิดๆ ไม่ได้ แต่ไม่นานเขาก็คิดหาวิธีได้เลยสั่งเสี่ยวเมิ่งไปไม่กี่ประโยคให้เสี่ยวเมิ่งเอาช็อกโกแลตมา


เพิ่งปอกเปลือกช็อกโกแลตออกฉิวฉิวที่กำลังงีบพักผ่อนอยู่ในกระเป๋าก็ทนไม่ไหวมุดออกมาจากกระเป๋าแล้ววิ่งไปตรงหน้าเฮ่อเหลียนชิงอย่างรวดเร็ว แย่งช็อกโกแลตในมือเขามาด้วยมือเดียวก่อนจะเริ่มแทะเสียงดังกรุบๆ


เฮ่อเหลียนชิงมองฉิวฉิวแสนน่ารักอย่างพึงพอใจและเผยรอยยิ้มที่มุมปากซึ่งนาน ๆ ครั้งจะเห็นที ราวกับคนละคนที่แสดงท่าทางเย็นชาเมื่อกี้จนเหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นคิดว่าตาฝาด


“นี่ชักอีกแล้วเหรอ?” เหมยเหมยถามด้วยความฉงน


เหยียนหมิงซุ่นส่ายศีรษะอย่างไม่เข้าใจแต่ไม่นานเขาก็คิดได้ อารมณ์ของเฮ่อเหลียนชิงเปลี่ยนแปลงไปเพราะฉิวฉิว สิ่งนี้ชวนให้เขารู้สึกขบขัน


เฮ่อเหลียนชิงผู้มีชื่อเสียงความเหี้ยมโหดที่แม้แต่นายใหญ่ยังหวาดกลัว กลับชอบสัตว์ตัวน้อยที่ขนปุกปุย?


บอกไปคงไม่มีใครเชื่อสินะ!


ฉิวฉิวกินช็อกโกแลตหมดหนึ่งชิ้นดวงตาดำขลับก็หมุนไปมา โชว์กรงเล็บให้เฮ่อเหลียนชิงอย่างเย่อหยิ่ง เฮ่อเหลียนชิงเข้าใจในเสี้ยววินาทีจึงรีบแกะช็อกโกแลตชิ้นใหม่จ่อปากฉิวฉิวอย่างเอาอกเอาใจเหมือนกำลังปรนนิบัติคุณชาย


“เจ้านาย เมื่อกี้หมอนี่ด่าเจ้านาย ฉันจะให้เขารับใช้คุณชายอย่างฉันเอง!”


เสียงฉิวฉิวแว่วมาจนเหมยเหมยเกือบหลุดหัวเราะเลยรีบเอามือปิดปากไว้ กระซิบข้างหูเหยียนหมิงซุ่น “ฉิวฉิวช่วยเอาคืนให้ฉันแล้ว หึ ดุฉันมากแล้วยังไง ก็ต้องเป็นข้ารับใช้ฉิวฉิวของฉันอยู่ดีไม่ใช่เหรอ!”


เหยียนหมิงซุ่นหยิกปลายคางเด็กสาวที่ทำท่าทีโอ้อวดทีหนึ่งด้วยความเอ็นดู  ความจริงเขาดูออกนานแล้วว่าเฮ่อเหลียนชิงไม่ได้เกลียดเหมยเหมยอย่างที่แสดงออก ไม่อย่างนั้นจะยอมให้เหมยเหมยมาทานข้าวด้วยกันครั้งแล้วครั้งเล่าหรือ?


อีกอย่างเหมยเหมยต่อปากต่อคำขนาดนั้นแล้วเฮ่อเหลียนชิงก็แค่ด่าไปไม่กี่ประโยคเท่านั้น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ไม่เคารพขนาดนี้กลัวก็แต่ได้ลงไปรายงานตัวกับยมบาลนานแล้ว!


หยอกเล่นกับฉิวฉิวอยู่ชั่วครู่เฮ่อเหลียนชิงก็มองไปที่ข้อมือเหมยเหมยแวบหนึ่ง วันนี้เหมยเหมยยังคงใส่เสื้อยืดแขนสั้นเหมือนเดิม แขนซ้ายมีฉาฉาสีเขียวมรกตดูไม่ต่างจากกำไลหยกเลย


เมื่อเฮ่อเหลียนชิงกำลังชั่งใจว่าควรให้เหยียนหมิงซุ่นเอากำไลนั่นมาให้ตัวเองดูดีหรือไม่นั้นจู่ๆ กำไลข้อมือก็ขยับเองจนเฮ่อเหลียนชิงสะดุ้งตกใจและเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมา


ที่แท้คุณชายฉิวที่ทานอย่างเอร็ดอร่อยไม่ได้ลืมน้องฉาของตัวเอง เรียกฉาฉามาลิ้มรสชาติหอมหวานของช็อกโกแลตด้วยกัน ฉาฉาที่หมดความอดทนนานแล้วพอได้ยินเสียงเรียกของพี่ใหญ่จะทนอยู่ต่อไปได้อย่างไรไหว!


เหมยเหมยตบฉาฉาหลายที แต่เจ้าตัวน้อยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเลื้อยไปอยู่ข้างฉิวฉิวในทันทีและเริ่มกินเสียงดังกรุบๆ ไม่ได้ช้ากว่าฉิวฉิวเลย


เฮ่อเหลียนชิงมองฉาฉาที่น่ารักไม่แพ้ฉิวฉิวตรงหน้าก็อดยื่นมือไปลูบตัวมันไม่ได้ ฉาฉาเป็นสัตว์อารมณ์ดีเลยบิดตัวไปมาไม่ได้โกรธ แค่ก้มหน้ากินขนมหวานต่อไปจนเฮ่อเหลียนชิงหลุดขำ ความเยือกเย็นรอบตัวพลันหายไปในพริบตา


ตอนที่ 960 ไม่มีทางเลิกกัน


ฉิวฉิวกับฉาฉาที่กินอิ่มท้องไปอีกหนึ่งมื้อก็ทอดทิ้งเฮ่อเหลียนชิงโผกลับเข้าหาอ้อมกอดของเจ้านายอย่างไร้เยื่อใย ตัวหนึ่งมุดกลับกระเป๋าเป้  อีกตัวหนึ่งกลับไปขดตัวบนข้อมืออย่างสงบ


เหมยเหมยพึงพอใจมากที่เห็นสภาพจ้องแน่นิ่งของเฮ่อเหลียนชิง รู้สึกสะใจเหมือนได้เอาคืนพลางเชิดปลายคางให้เฮ่อเหลียนชิงอย่างเย่อหยิ่ง


ซาโยนาระ!


เหยียนหมิงซุ่นส่งเหมยเหมยกลับมา เฮ่อเหลียนชิงยังไม่เข้านอนและยังดูมีพลังเต็มเปี่ยมเลยเรียกเหยียนหมิงซุ่นไปตำหนิ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการด่าทอเหมยเหมยทั้งนั้น


ด่าว่าเธอไร้มารยาท หน้าตาเป็นพิษเป็นภัย…


“คุณพ่อ เหมยเหมยเป็นคนดีมาก ท่านยังไม่เข้าใจเธอ!” เหยียนหมิงซุ่นไม่เห็นด้วยกับถ้อยคำของพ่อบุญธรรมตัวเองอย่างมาก


เฮ่อเหลียนชิงกล่าวเสียงเข้มในฐานะของคนที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน “ฉันก็เคยมีช่วงวัยรุ่น รู้ว่าวัยรุ่นอย่างพวกแกน่ะชอบผู้หญิงหน้าตาสวย ตอนหนุ่มๆ ฉันก็มีความคิดเดียวกัน แต่รอแกมาถึงวัยอย่างฉันแกก็จะรู้ว่าพฤติกรรมของผู้หญิงสำคัญกว่าหน้าตาเยอะ…”


เหยียนหมิงซุ่นฟังเฮ่อเหลียนชิงสั่งสอนยาวเหยียดอย่างระอา อดพูดขัดไม่ได้ “ตอนนี้ผมยังไม่ถึงขนาดช่วงวัยของคุณพ่อ เลยไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกคุณพ่อได้”


ความจริงเขาอยากบอกเหลือเกินว่าวัยหนุ่มของคุณพ่อน่ะได้กกกอดสาวงามจนเบื่อ ตอนนี้กลับร้องขอให้เขาไปหาคนขี้เหร่ ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!


อารมณ์จุกอยู่กลางอกของเฮ่อเหลียนชิงพลางมองเหยียนหมิงซุ่นอย่างผิดหวัง ตวาดด้วยความโกรธ “ไม่ฟังคำของคนแก่ อนาคตแกต้องเสียเปรียบแน่!”


เหยียนหมิงซุ่นพูดด้วยท่าทีเรียบนิ่ง “คุณพ่อวางใจได้ อนาคตผมกับเหมยเหมยจะยังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันดี นี่ก็ค่ำแล้ว คุณพ่อน่าจะรีบพักผ่อนนะครับ”


พูดจบเขาก็หมายจะเดินออกไปข้างนอก พอถึงขอบประตูเลยหันกลับมากล่าวว่า “คุณพ่อชอบปากไม่ตรงกับใจ ความจริงท่านก็ชอบเหมยเหมยมาก ไม่อย่างนั้นท่านจะดีกับสัตว์เลี้ยงเหมยเหมยขนาดนั้นเชียว?”


เฮ่อเหลียนชิงยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรอยู่พักใหญ่ เมื่อเหยียนหมิงซุ่นเดินไปไกลเขาถึงเข้าใจความหมายของเหยียนหมิงซุ่นจึงตวาดด่าไล่หลังไป “ฉันชอบยายบ้านั่นน่ะเหรอ? พูดจาเหลวไหล!”


พูดจบเขาก็หันไปพูดเสริมให้เสี่ยวเมิ่ง “ฉันเกลียดผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายปีศาจจิ้งจอกที่สุด จ้าวเหมยหน้าตาเหมือนปีศาจจิ้งจอกไม่มีผิด แค่เห็นฉันก็โมโหแล้ว!”


เสี่ยวเมิ่งกลั้นหัวเราะพยักหน้ารับและอุ้มเฮ่อเหลียนชิงเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ ตั้งแต่คุณหนูจ้าวมานายท่านของเขาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก!


เหยียนหมิงซุ่นพูดไม่มีผิดหรอก นายท่านของเขาปากไม่ตรงกันใจก็เท่านั่นแหละ!


หลายวันต่อมาเหมยเหมยไม่ได้ไปทานข้าวที่สวนฟาร์มเพราะเหยียนหมิงซุ่นไปปฏิบัติภารกิจนอกเขตพื้นที่ หลังจากเฮ่อเหลียนชิงถูกเหยียนหมิงซุ่นว่าเข้าเลยรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไร หรือบางทีแค่อยากพิสูจน์ว่าเขาเกลียดเหมยเหมยจริงๆ หักห้ามใจไม่ให้เสี่ยวเมิ่งไปรับเหมยเหมยมาทานข้าว


ต่อให้ใจเขาจะคันยุบยิบอยู่ในใจเหลือเกินเพราะคิดถึงเจ้าก้อนขาวและงูเขียวตัวเล็กนั่นจะตายอยู่แล้ว!


ไม่นานก็เข้าสู่เดือนสิงหาคม ร้านอาหารของจ้าวเสวียเอ๋อร์ได้เปิดให้บริการสักที จากคำแนะนำของเหมยเหมยวันแรกที่เปิดร้านลดราคาสิบสองเปอร์เซ็นต์ ใบปลิวถูกแจกจ่ายไปทั่วตั้งนานแล้ว ร้านเปิดแปดโมงเช้าแต่เจ็ดโมงหน้าประตูก็มีพ่อแม่ที่พาลูกมายืนเข้าแถวรอแล้ว


ร้านขายดีเสียจนจ้าวเสวียเอ๋อร์ตาเป็นประกายวาวแต่เพราะมีลูกมือไม่พอทุกคนถึงต้องไปช่วยงานกันทั้งหมด แต่ก็ยังงานยุ่งจนหัวหมุน ดีที่ทางห้องครัวเตรียมวัตถุดิบมาเพียงพอไม่อย่างนั้นคงหมดไปนานแล้ว


เมื่อถึงเวลาบ่ายสามถึงพอจะได้พักบ้าง เหมยเหมยเหนื่อยจนนั่งฟุบบนเก้าอี้ไม่อยากขยับ เซียวเซ่อกับสยงมู่มู่แล้วก็เจ้าอ้วนน้อยล้วนกำลังทานกันอย่างเอร็ดอร่อยกันอยู่ ของฟรีเชียวนะก็ต้องกินให้เยอะๆ อยู่แล้ว!


จ้าวเสวียหลินกระซิบถามชิดหูเหมยเหมยเสียงเบา “เธอกับเหยียนหมิงซุ่นทะเลาะกันใช่มั้ย?”


…………………………


 ตอนที่ 961 พายุเมฆฝนกำลังมา


เหมยเหมยได้ยินก็แปลกใจ ระยะนี้พี่ชายคนนี้ของเธอน้ำท่วมสมองจนโง่แล้วมั้ง มักจะคิดอีกเรื่องทำอีกเรื่องอยู่เรื่อยเลย


เธอกลับไม่รู้ เมื่อก่อนเธอและเหยียนหมิงซุ่นนั้นมักแสดงความรักหวานเลี่ยนกันเกือบทุกวัน และยังทำแบบประเจิดประเจ้อให้คนเห็นไปทั่ว แต่ระยะนี้เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่ได้เปิดเผยตัวต่อหน้าสาธารณชน ในสายตาของจ้าวเสวียหลินก็คิดไปว่าสองคนนี้คงทะเลาะกันน่ะสิ!


เปรียบเทียบกับชายหนุ่มรถทหารลึกลับคนนั้นแล้ว จ้าวเสวียหลินยังหวังว่าน้องสาวของตัวเองจะไปได้ดีกับเหยียนหมิงซุ่นมากกว่า อย่างน้อยก็รู้หัวนอนปลายเท้า สบายใจกว่าเยอะ!


“ก็ดีนะ พี่ชายอย่าคิดเพ้อเจ้อฟุ้งซ่านตลอดเวลาได้ไหม!”


เหมยเหมยคีบปีกไก่ยัดใส่ในปากของจ้าวเสวียหลินอย่างรำคาญ ตัวเองก็คีบมันฝรั่งทอดค่อยๆกินเหมือนกัน


จ้าวเสวียหลินเคี้ยวปีกไก่ภายในสองสามคำ ยังไม่วางใจเค้นถามต่อไปว่า “ถ้าอย่างนั้นทำไมช่วงนี้เหยียนหมิงซุ่นถึงไม่โผล่มา? ตั้งแต่หลังวันเกิดของเธอครั้งนั้น หมอนี่ก็หนีหายไปไม่เห็นเงาเลย!”


เวลานี้เหมยเหมยถึงได้รู้ว่าพี่ชายของเธอไม่รู้ว่าคนในรถก็คือเหยียนหมิงซุ่น จึงหัวเราะอย่างอดไม่ได้ พูดหยอกล้อว่า “พี่ชาย ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนพี่เกลียดพี่หมิงซุ่นที่สุดเลยไม่ใช่เหรอ? เขาไม่มาพี่ยังไม่ดีใจอีก? หรือว่าพี่คิดถึงเขาซะแล้ว?”


“ชู่ ชู่ ชู่  พี่พูดกับเธอจริงๆเลยนะ……”


จ้าวเสวียหลินยังพูดไม่ทันจบ เหมยเหมยก็วิ่งไปทางเซียวเซ่อแล้ว หันหลังใส่เขา คำพูดของเขาติดอยู่ที่คอหอย จะพูดต่อก็ไม่ได้จะกลืนลงไปก็ไม่ได้ อัดอั้นจนจะตายอยู่แล้ว


ประมาณสี่โมงโดยประมาณ ห้องอาหารก็เหลือคนไม่เยอะแล้ว พวกเหมยเหมยต่างก็รีบหาเวลาพักผ่อน รอจนฟ้ามืดอากาศเย็นๆแล้ว จะต้องมีแขกชุดใหญ่เข้ามาแน่นอน


กว่าเหมยซูหานจะอ้อนเฮ่อเหลียนชิงจนยอมให้เขาออกมานั้นไม่ง่ายเลย เขาสืบถามมาตั้งนานแล้วว่าพี่สามของเหมยเหมยจะเปิดกิจการห้องอาหารวันนี้ เขาควรต้องไปส่งกระเช้าดอกไม้ แน่นอนว่าเขาก็อยากจะเจอคนที่เขาคิดถึงทั้งวันทั้งคืนด้วย


“ขอให้โชคดีมีมงคลในวันเปิดกิจการ ขอให้การค้ามีแต่ความเจริญรุ่งเรือง!”


เหมยเหมยที่กำลังงีบหลับอยู่ พอได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ก็รีบลืมตาขึ้นมา กลับเห็นเหมยซูหานกำลังพูดคุยอยู่กับจ้าวเสวียเอ๋อร์


จ้าวเสวียเอ๋อร์ทักทายเหมยซูหานอย่างงงงวย เจ้าหมอนี่คือใคร เมื่อก่อนไม่เคยคบหาสมาคมกันมาก่อนเลย!


เหมยซูหานพบเหมยเหมยในโซนพักผ่อน ก็ร้องเรียกอย่างดีใจ “เหมยเหมย……”


จ้าวเสวียหลินถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่า เหมยซูหานก็คือผู้ชายคนนั้นที่ปรากฎตัวในเฉวียนจุ้ยเต๋อตอนงานวันเกิดของน้องสาวนั่นเอง มองดูแล้วเหมือนจะรู้จักกับน้องสาวของเขา เขาหันไปมองจ้าวเสวียหลิน ใช้สายตาในการถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น


เหมยเหมยขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจกับการมาของเหมยซูหาน


เผชิญหน้ากับเหมยซูหานเวลานี้ อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกวางตัวไม่ถูกแปลกๆ เพราะว่าตอนนี้เหมยซูหานคือ ‘คนโปรดคนใหม่’ ของเฮ่อเหลียนเช่อ นี่ทำให้เธอรู้สึกเสียดายแทนเหมยซูหาน


เธอลังเลอยู่สักพักจึงหันไปทางเหมยซูหานที่เดินเข้ามา พูดว่า “ขอบคุณสำหรับกระเช้าดอกไม้ค่ะ”


เหมยซูหานดีใจจนยิ้มออกมา “ไม่ต้องเกรงใจ เหมยเหมยเธอสูงขึ้นแล้ว”


เหมยเหมยในชาตินี้สูงกว่าชาติที่แล้วเยอะมาก และสวยมาก


เหมยเหมยยิ้มบางๆ ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี บรรยากาศก็อึดอัดขึ้นมาในชั่วพริบตา


เพิ่งจะกินก๋วยเตี๋ยวหมูใส่ผักดองที่เหมยซูหานต้มให้กินเสร็จ เฮ่อเหลียนเช่อที่กำลังมีความสุขมากก็เตรียมตัวจะนอนกลางวัน เพิ่งจะขึ้นเตียงได้ไม่นาน คนที่เขาแต่งตั้งให้ไปเป็นลูกน้องของเหมยซูหานก็กลับมา รายงานสถานที่ของเหมยซูหาน


เฮ่อเหลียนเช่อจากอารมณ์ที่ปลอดโปร่งแจ่มใสก็หน้าตาเย็นชาขึ้นมาในทันที ใบหน้าขึงขังจนน่ากลัว เหมือนพายุเมฆฝนกำลังมา……


“เตรียมรถ!”


เฮ่อเหลียนเช่อหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ก้าวฉับ ๆ เดินออกไปข้างนอก คนในห้องต่างก็อกสั่นขวัญแขวนไปตามกัน เหงื่อตกแทนเหมยซูหาน


กล้าทำให้คุณชายเช่อโมโห สงสัยจะใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วมั้ง!


แต่ก็มีคนแอบถอนหายใจ ไม่อยากจะไปคิดถึงดวงชะตาของเหมยซูหานแล้ว พูดขึ้นมา พวกเขาก็ถือว่าค่อยข้างชอบวัยรุ่นสุภาพเรียบร้อยคนนี้อยู่มาก มีเขาอยู่ข้างกายเจ้านาย อารมณ์ของเจ้านายก็ดีขึ้นมากทีเดียว!                                                                   ………………………………………….


ตอนที่ 962 โดนจับตัวไป


เพราะว่าเป็นวันดีที่จ้าวเสวียเอ๋อร์เปิดกิจการร้านอาหาร เหมยเหมยจึงไม่มีหน้าจะไปไล่เหมยซูหาน เธอรู้กฎเกณฑ์ของการทำการค้า เข้าประตูมาก็คือแขก ห้ามไล่ไปเด็ดขาด โดยเฉพาะในวันดีๆที่เปิดกิจการแบบนี้


จ้าวเสวียเอ๋อร์นึกว่าเหมยซูหานคือเพื่อนของเหมยเหมย ก็เลยให้เหมยเหมยไปต้อนรับเหมยซูหาน นอกจากนี้ยังนำอาหารอร่อยออกมาให้อย่างใจกว้างอีกด้วย


แขกในร้านอาหารมีน้อยมากแล้ว มีบางคนเข้ามาพักร้อนแล้วรู้สึกเกรงใจจึงซื้อไอศกรีมโคนกิน และไม่ต้องการคนบริการ ยากมากกว่าทุกคนจะปลีกตัวจากงานยุ่ง ๆ ได้


เหมยเหมยและเหมยซูหานต่างคนต่างเงียบ ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรดี แล้วก็ไม่ได้กินอะไร


เหมยซูหานคิดแล้วคิดอีกก็พูดว่า “พี่เพิ่งจะซื้อบ้านไป กำลังซ่อมแซมใหม่อยู่ รอซ่อมแซมเสร็จเหมยเหมยก็ไปเดินชมได้ สวนดอกไม้สวยมาก ๆ เลยนะ”


เหมยเหมยขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปเหลือบมองเหมยซูหาน ไม่รู้ว่าในช่วงเวลานั้นเขารู้หรือไม่ว่าบ้านพวกนั้นเขาแย่งไปจากมือของเหยียนหมิงซุ่น?


“ดีใจด้วยค่ะ ที่ได้ก่อรากฐานในเมืองหลวงแล้ว” เธอพูดหลีกเลี่ยงเรื่องที่จะไปเยี่ยมชม ดวงตาของเหมยซูหานสลดลง แต่ก็ไม่ได้ถอดใจ พูดบรรยายความงามของสวนดอกไม้ต่อไป


ศิลปะการพูดของเขาดีมาก เสียงก็เพราะน่าฟัง ภายใต้การบรรยายภาพของเขา บ้านหลังหนึ่งที่สวยงามมีชีวิตชีวาเป็นมากก็ปรากฏขึ้นมา คนที่ได้ฟังก็เกิดเคลิบเคลิ้มจนอยากตามเข้าไปชมด้วย


แต่เหมยเหมยกลับไม่มีเลยแม้แต่น้อย เธออยากจะหลีกเลี่ยงเหมยซูหานที่สุด ต่อให้มีทัศนียภาพของอุทยานหยวนหมิง เธอก็ไม่มีอารมณ์สนใจ


ทั้งสองคนต่างก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง ไม่มีใครได้ทันใส่ใจว่าด้านหลังมีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน นั้นก็คือเฮ่อเหลียนเช่อที่กำลังทำหน้าทะมึงทึงอยู่


จ้าวเสวียเอ๋อร์ตรวจสอบส่วนผสมอยู่ในครัวด้านหลัง จ้าวเสวียหลินและคนอื่นๆนอนหลับอยู่ในโซนพักผ่อน ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเฮ่อเหลียนเช่อปรากฏในร้านอาหาร


เฮ่อเหลียนเช่อกัดฟันดังกรอด บ้านก็เป็นเขาที่ช่วยซื้อให้ คนที่ซ่อมแซมบ้านก็เป็นคนที่เขาช่วยหามาให้ แต่คนแรกที่ดอกเหมยน้อยเชิญกลับไม่ใช่เขา แต่ดันเป็นนังสารเลวจ้าวเหมยคนนี้


อู่เยวี่ยพูดไม่ผิด คนที่อยู่ในใจของดอกเหมยน้อยก็คือจ้าวเหมย……


มิน่าล่ะวันนี้อยู่ดี ๆ ถึงได้เปลี่ยนท่าทีดีขนาดนั้น เริ่มมาพูดคุยกับเขาเอง ต้มบะหมี่ให้เขากิน ที่แท้ก็เพื่อจะได้ออกมานัดเจอคนรักเก่านี่เอง……


เฮ่อเหลียนเช่อที่รู้สึกว่าโดนหลอกอยู่ลึกๆก็เคียดแค้นอย่างมาก มองข้ามบรรยากาศความเย็นชาและอึดอัดระหว่างเหมยเหมยและเหมยซูหานไปอย่างสิ้นเชิง ในใจคิดแต่เพียงว่าเหมยซูหานและเหมยเหมยเป็นชายหญิงคบชู้กัน และก็ร่วมมือกันสวมเขาให้เขา……


“พวกเธอดีมาก……”


เฮ่อเหลียนเช่อกัดฟันพูดออกมา น้ำเสียงเย็นชา เหมือนกับลมหนาวเหนือพัดผ่าน


เหมยซูหานตึงเครียดไปทั้งร่าง หันหลังกลับมาในทันที ก็เห็นเฮ่อเหลียนเช่อที่มีสีหน้าท่าทางไม่ดี ใจก็ตกลงไปที่ตาตุ่ม


“อาเช่อ เรื่องราวไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิดแบบนั้นนะ ผม……”


เหมยซูหานยังพูดไม่ทันจบ เฮ่อเหลียนเช่อก็สะบัดตบทีหนึ่ง เหมยซูหานก็ตัวอ่อนล้มลงไปในอ้อมกอดของเขา


“นายจะทำอะไร?” เหมยเหมยอุทาน จิตใต้สำนึกอยากจะเรียกพวกจ้าวเสวียหลินที่พักอยู่ในโซนพักผ่อน


“แกนังสารเลว……”


เฮ่อเหลียนเช่อฟาดลงมาหนึ่งทีโดยไม่ยั้งคิด  ภาพตรงหน้าของเหมยเหมยมืดลง แล้วก็ล้มลงบนเก้าอี้เช่นกัน พวกจ้าวเสวียหลินไม่รู้ตัวเลยสักนิด เฮ่อเหลียนเช่อแสยะยิ้ม  หนึ่งข้างแบกหนึ่งคน เอาตัวทั้งสองคนพาดไว้บนไหล่แล้วก็ออกจากร้านอาหารไปทั้งแบบนี้


ตอนที่เฮ่อเหลียนเช่อเข้ามาฉิวฉิวก็แอบเข้าไปซ่อนในกระเป๋าเป้เรียบร้อยแล้ว แม้จะเตือนสักหน่อยยังไม่กล้า เจ้าหมอนี่แปลกประหลาดเสียจริง กำราบมันได้อยู่หมัด มันไม่สามารถสื่อสารกับเจ้านายได้เลย ทำได้แค่เพียงมองเจ้านายโดนคนเลวจับตัวไปตาปริบ ๆ


แขกคนอื่น ๆ ต่างก็โดนเฮ่อเหลียนเช่อทำให้สะดุ้งตกใจ ไม่กล้าหายใจแรงเสียด้วยซ้ำ จนกระทั่งหลังจากเฮ่อเหลียนเช่อไปแล้ว ลูกค้าผู้ขี้ขลาดก็กรีดร้องออกมา พวกจ้าวเสวียหลินถึงได้วิ่งออกมา จึงได้ค้นพบว่าเหมยเหมยและเหมยซูหานหายไปแล้ว ทันใดนั้นก็ตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก


ไม่มีใครสังเกตเห็นเงาสีขาวที่พาดผ่านไป จากหน้าต่างสู่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างถนน


……………………………………….


ตอนที่ 963 ฟาดด้วยแส้


ตอนที่เหมยเหมยฟื้นได้สติขึ้นมา ก็ค้นพบว่าตัวเองอยู่บนรถที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ เหมยซูหานฟื้นขึ้นมาก่อนเธอ ร้องขอความเมตตาอยู่ “ไม่เกี่ยวอะไรกับเหมยเหมย คุณปล่อยเธอไปเถอะ ขอร้องคุณล่ะ……”


เฮ่อเหลียนเช่อจ้องมองตรงไปข้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เหมือนพายุฝนกำลังจะเข้า ดวงตาของเขาเป็นสีแดง ใครก็ตามที่รู้จักคุ้นเคยกับเขาก็จะรู้ ว่าในเวลานี้เฮ่อเหลียนเช่อกำลังโมโหจนถึงขีดสุด


แต่เหมยซูหานกลับไม่รู้ เขายังขอร้องอ้อนวอนอยู่ คิดอยากจะให้เฮ่อเหลียนเช่อปล่อยเหมยเหมยไป แต่ยิ่งเขาขอร้องเพื่อเหมยเหมยเท่าไร ความโมโหของเฮ่อเหลียนเช่อก็ยิ่งมากขึ้น เกลียดจนอยากจะฆ่าจ้าวเหมยที่กล้ามายั่วยวนคนของเขาเพื่อระบายความโกรธเสียเดี๋ยวนี้เลย


“เพี๊ยะ”


เฮ่อเหลียนเช่อโกรธมากจนตบด้วยหลังมือไปหนึ่งที เสียงแสบแก้วหูดังขึ้นในรถ ครึ่งหนึ่งของใบหน้าของเหมยซูหานบวมเป่งขึ้นมา นิ้วมือห้านิ้วปรากฎออกมา เขาตื่นตะลึงในทันที


ตั้งแต่ที่เขาอยู่ข้างกายเฮ่อเหลียนเช่อ ถึงแม้ว่าคนๆนี้จะปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างโหดเหี้ยมดุร้าย ลงไม้ลงมืออยู่ตลอด แต่สำหรับเขากลับพูดจานุ่มนวลเสียงอ่อนเสียงหวาน อดทนเป็นอย่างดี


เพราะเป็นเช่นนี้ เหมยซูหานถึงได้ค่อยๆคลายความระมัดระวังต่อเฮ่อเหลียนเช่อ รู้สึกว่าเฮ่อเหลียนเช่อเป็นเพียงเด็กที่ถูกเอาใจจากผู้ใหญ่จนเสียคน หรือบางทีเขาอาจจะมีตำแหน่งพิเศษไม่เหมือนคนอื่นในหัวใจของเฮ่อเหลียนเช่อ เขาสามารถทำสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำต่อหน้าคนๆนี้


แต่ตอนนี้……


อันที่จริงเหมยซูหานถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่า ในสายตาของเฮ่อเหลียนเช่อ เขาก็เหมือนกับคนอื่นๆ ไม่แตกต่างอะไร


อันที่จริงเหมยซูหานคิดผิดไป ความจริงแล้วในใจของเฮ่อเหลียนเช่อแน่นอนว่าตัวเขาพิเศษกว่าคนอื่น ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ตอนนี้ก็คงจะกลายเป็นศพไปนานแล้ว


และคงไม่ใช่แค่เพียงตบหน้าทีเดียวธรรมดาแบบนี่แน่นอน!


“หุบปาก ถ้าพูดอีกฉันจะบีบคอนังสารเลวนี่ให้ตายตอนนี้แหละ!” เฮ่อเหลียนเช่อกัดฟันพูด


เหมยซูหานตกใจจนตะลึงนิ่งไป ในเวลานี้ถึงได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของเฮ่อเหลียนเช่อ รู้สึกเสียใจในภายหลังมากจริง ๆ


เป็นเขาที่ทำให้เหมยเหมยต้องมาพัวพันเรื่องแบบนี้  ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหมยเหมย ชาตินี้เขาคงไม่ให้อภัยตัวเอง!


เฮ่อเหลียนเช่อเห็นเหมยซูหานในกระจกที่มองเหมยเหมยด้วยสายตาที่เป็นห่วงกระวนกระวายใจ ความโมโหก็เหมือนจะถูกเป่าด้วยเครื่องเป่าลมจนพอง  เพลิงไฟลุกโชนโหมกระหน่ำ คว้าแส้หนัง ฟาดไปที่เหมยเหมยที่เพิ่งจะตื่นได้สติขึ้นมา


“นังสารเลว กล้ามาอ่อยคนของฉัน……”


เหมยเหมยเจ็บจนขดร่างกลมดิก  ร้องโอดโอยออกมาเสียงเบา  เธอใส่เสื้อยืดสีขาว ตรงที่ที่โดนแส้หนังฟาดก็ปรากฏรอยแผลที่มีเลือดไหลซึมออกมา


“อย่าตีอีกเลย ถ้าอยากตีก็ตีฉันเถอะ อย่าตีเหมยเหมย……”


เหมยซูหานปวดใจจนใจสลาย ร้องไห้ไปอ้อนวอนขอร้องไป เขาโดนความเหี้ยมโหดของเฮ่อเหลียนเช่อทำให้ตกใจอย่างหนัก ลุกขึ้นคิดอยากจะปกป้องเหมยเหมย แต่พื้นที่ในรถเล็กแคบจนเกินไป เขาไม่สามารถขยับตัวได้ แต่กลับยิ่งทำให้เฮ่อเหลียนเช่อโมโหเข้าไปใหญ่


ได้ยินเหมยซูหานอ้อนวอนขอร้องเพื่อนังสารเลวนี่ไม่หยุด เฮ่อเหลียนเช่อก็โมโหจึงหันไปฟาดแส้ใส่เหมยซูหานหนึ่งที เวลานี้เขาไม่สนใจความรักความเอาใจใส่อะไรแล้วทั้งนั้น เขาคิดแค่เพียงอยากจะลงโทษคนที่มันทรยศตัวเอง


เสียแรงเปล่าจริง ๆ ที่เขาให้ความจริงใจกับเหมยซูหานไป แต่เหมยซูหานกลับเอาความจริงใจของเขาวางไว้แล้วเหยียบย่ำ คบชู้กับนังสารเลวนี่  เขาจะไม่โมโหได้อย่างไร? ดูท่าเขาคงจะดีกับเหมยซูหานจนเกินไป เลี้ยงดูเป็นอย่างดีจนเหิมเกริมแบบนี้!


อีกครู่เขาจะให้เหมยซูหานได้เห็นถึงความสุดยอดของเขา!


แส้ของเฮ่อเหลียนเช่อผลิตออกแบบมาพิเศษ อันเก่าโดนฉิวฉิวกัดจนขาดไปแล้ว อันนี้เป็นอันที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆส่งมา ยังไม่เคยได้เลือด เฮ่อเหลียนเช่อเดิมตั้งใจว่ารอผ่านอีกไม่กี่วันค่อยไปฝึกแส้เสียหน่อย คาดไม่ถึงว่าวันนี้จะใช้มันกับเหมยซูหาน


เขาทั้งเจ็บปวดทั้งโมโห ยิ่งเกลียดเหมยเหมยจนเข้ากระดูกดำ หยิบแส้หนังขึ้นฟาดลงไปอีก เหมยเหมยเจ็บจนร้องไม่ออกแล้ว ภาพตรงหน้าค่อยๆมืดลง แต่เธอต้องทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์


เธอจะต้องหนีไปจากเงื้อมมือของชายผู้ชั่วร้ายคนนี้ให้ได้ เหมยเหมยเรียกฉิวฉิว แต่กลับไร้เสียงคำตอบรับ   จากนั้นเธอจึงค้นพบว่าฉิวฉิวไม่ได้ตามมาด้วย ก็พลันอดหัวใจหล่นไปถึงตาตุ่มไม่ได้


…………………………………………


ตอนที่ 964 ขอความช่วยเหลือ


“เฮ่อเหลียนชิงนั่งอยู่ใต้เถาองุ่น ช่วงนี้อยู่ดีกินดี อารมณ์ก็ดีเช่นกัน ยกเว้นเรื่องที่คิดถึงฉิวฉิวแล้ว ก็ไม่มีเรื่องขัดใจใดมารบกวนเขาเลย


“เฮ้อ!”


เฮ่อเหลียนชิงถอนหายใจเบาๆ หลายวันแล้วที่ไม่ได้เห็นเจ้าฉิวฉิวน้อย คิดถึงจริงๆเลย!


ยัยเด็กสมควรตายนั้นจะต้องตั้งใจแน่ๆ หรือว่าถ้าเขาไม่เชื้อเชิญ ก็จะไม่มากินข้าวด้วยตัวเองเลยหรือไง?


ช่างเป็นเด็กที่ไม่รู้จักมารยาทเอาเสียเลย เขาพูดผิดที่ไหนกันล่ะ?


“จิ๊ดๆ……”


มีกลุ่มเงาสีขาวพุ่งเข้าหาอ้อมแขนของเฮ่อเหลียนชิง นั่นก็คือเจ้าฉิวฉิวน้อย ที่เขากำลังคิดถึงอยู่นั่นเอง เฮ่อเหลียนชิงมีความสุขมาก เหลือบมองไปทางข้างหลัง กลับไม่เห็นเหมยเหมย


“เจ้านายของแกล่ะ? ไปแอบอยู่ที่ไหนแล้ว?” เฮ่อเหลียนชิงถาม หยิบช็อกโกแลตออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แกะแล้วก็ป้อนให้กับฉิวฉิว


“จิ๊ดๆ……”


วันนี้ฉิวฉิวไม่มีอารมณ์จะกินช็อกโกแลต ส่งเสียงร้องใส่เฮ่อเหลียนชิงไม่หยุด ดูตื่นตระหนกตกใจ ฟันเล็กๆออกแรงขบกัดแขนเสื้อของเฮ่อเหลียนชิงเหมือนอยากจะพาเขาไปที่ไหนสักที่


เฮ่อเหลียนเช่อคนจิตวิปริตนั่นตัวมันเองหมดปัญญาจะเอาชนะได้ ทำได้แค่เพียงมาหาเฮ่อเหลียนชิง เป็นเรื่องที่มันสังเกตการณ์ในหลายวันมานี้ บนโลกใบนี้คนที่สามารถเอาเฮ่อเหลียนเช่อได้อยู่หมัดก็คงเป็นเฮ่อเหลียนชิงคนเดียวแล้ว!


เฮ่อเหลียนชิงเป็นคนที่ฉลาดมาก เพียงแค่ครู่เดียวก็เดาจุดประสงค์ของฉิวฉิวออก จากนั้นก็ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของแกเหรอ?”


ฉิวฉิวพงกหัวไม่หยุด ตาที่เหมือนถั่วดำของมันมองเฮ่อเหลียนชิงอย่างน่าเวทนาสงสาร มองจนเขาใจอ่อนในชั่วพริบตา เดิมทีไม่ได้คิดจะสนใจว่าเหมยเหมยจะเป็นตายร้ายดียังไง  แต่ก็ยังอดไม่ได้กวักมือเรียกเสี่ยวเมิ้งมา


“ให้คนไปสืบมา ว่ายัยเด็กสมควรตายนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”


เสี่ยวเมิ้งรับคำสั่งและไปจัดการ โชคของเหมยเหมยไม่เลวเลยจริงๆ เพราะว่าเฮ่อเหลียนชิงมักจะให้คนไปเฝ้าดูเฮ่อเหลียนเช่ออยู่เสมอ แต่เพราะว่าเฮ่อเหลียนชิงไม่ได้มอบหมายให้ลูกน้องติดตามความเคลื่อนไหวของเหมยเหมย ดังนั้นถึงแม้ว่าลูกน้องของเขาจะเห็นเฮ่อเหลียนเช่อจับตัวเหมยเหมยไป แต่ก็ไม่ได้มารายงานกับเฮ่อเหลียนชิง


เสี่ยวเมิ้งกลับมารายงานตัวอย่างรวดเร็ว เฮ่อเหลียนชิงขมวดคิ้วแน่น พูดกับตัวเองว่า “ที่แท้ก็เป็นเด็กเวรนั่น……”


“นายท่าน ต้องการ……” เสี่ยวเมิ้งรู้สึกร้อนใจอยู่บ้าง แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้สนใจว่าเหมยเหมยจะเป็นหรือตายอย่างไร แต่นายท่านของเขายังต้องการเหมยเหมยมาช่วยรักษาโรคไม่ค่อยเจริญอาหารอยู่นะ!


ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ห้ามเกิดเรื่องใดๆขึ้นเด็ดขาด!


เฮ่อเหลียนชิงโบกมือ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หันไปมองที่ดวงตาเล็กๆของฉิวฉิวที่มองอย่างน่าสงสารก็ใจอ่อน เขาจึงสั่งเสี่ยวเมิ้ง “นายพาคนสักสองสามคนไปพายัยเด็กสมควรตายกลับมา อย่าให้หมิงซุ่นรู้เรื่องนี้ “


“ครับ!”


เสี่ยวเมิ้งรับคำสั่งและออกไปอย่างรวดเร็ว


“ไม่ต้องกังวลแล้ว เจ้านายของแกไม่เป็นอะไรแน่นอน มากินลูกอมมา”


เฮ่อเหลียนชิงยื่นส่งช็อกโกแลตให้ข้างปากของฉิวฉิว แต่ฉิวฉิวกลับไม่มีกะจิตกะใจจะกิน เหมยเหมยยังไม่หลุดพ้นจากสถานการณ์ยากลำบาก ต่อให้มีหนูตัวเมียสวย ๆ เป็นฝ่ายรุกมาอิงแอบแนบชิดซบอยู่ในอ้อมอก มันก็ไม่สนใจ!


ฉิวฉิวไม่มีชีวิตชีวา อารมณ์ของเฮ่อเหลียนชิงก็ไม่ดีแล้ว อยู่ดี ๆ ก็อิจฉาขึ้นมา จับหางของฉิวฉิวขึ้นมาเบาๆ ตำหนิว่า “เจ้านายของแกคนนั้นมีอะไรดี วันหลังก็มาอยู่กับฉันเนี่ยแหละ รับรองว่าจะใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายแน่นอน แล้วก็ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องข้ามหัวฉันด้วย”


“จิ๊ดๆ……”


ฉิวฉิวหันไปแยกเขี้ยวใส่เขา ดึงหางตัวเองกลับมา เอามาปิดหัวตัวเองแล้วก็ฟุบหลับลงไปทั้งอย่างนั้น


รำคาญชะมัด!


ฉิวฉิวรู้สึกว่าตัวมันเองควรจะพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้สูงขึ้นอีกหน่อย แต่ปัญหาก็คือของล้ำค่าที่มันต้องการดันหาไม่เจอเสียนี่ ฉิวฉิวรู้สึกไม่สบายใจ……ไม่อยากสนใจใครทั้งนั้นแหละ……


เฮ่อเหลียนชิงก็ไม่ได้โมโห หัวเราะและลูบตัวมัน พูดอย่างไม่พอใจว่า “ตัวเล็กแค่นี้แต่อารมณ์โมโหไม่เบาเลยนะ!”


เฮ่อเหลียนเช่อเหยียบคันเร่งสุดแรง กลับมาถึงบ้านที่เหมยซูหานพัก หนึ่งมือแบกหนึ่งคน ลากเหมยเหมยและเหมยซูหานขึ้นมาชั้นบนและโยนลงบนพื้น


……………………………………….


ตอนที่ 965 เพราะหึงจึงโมโห


เหมยเหมยรู้สึกเหมือนว่าร่างกายกำลังแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ  เจ็บจนเกือบจะหยุดหายใจแล้ว เธอไม่กล้าส่งเสียงร้อง ทำได้แค่เพียงกัดฟันอดทนไว้ ทักทายบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรของเฮ่อเหลียนเช่อไปแล้วหนึ่งรอบ


เฮ่อเหลียนเช่อก้มมองดูสองคนที่อยู่บนพื้น ความเย็นชาของเขาค่อยๆแผ่กระจายไปทั่วห้อง เดิมทีฤดูนี้เป็นฤดูที่ควรจะร้อนที่สุด แต่ตอนนี้ในห้องกลับเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง เย็นซึมเข้าถึงกระดูก


“นายชอบเธอใช่ไหม? ฉันจะทำให้มันตายตอนนี้แหละ……”


เฮ่อเหลียนเช่อพูดเสียงลอดไรฟันออกมา พูดช้ามาก แต่กลับเหมือนมีดเล่มหนึ่งที่ทิ่มแทงหัวใจทีละเล่มทีละเล่ม


เหมยเหมยมองเฮ่อเหลียนเช่อที่เดินเข้ามาทางเธอทีละก้าวทีละก้าว ใจก็พุ่งมาที่คอหอย เธอรับรู้ได้ถึงรังสีสังหาร คนจิตวิปริตคนนี้อยากจะฆ่าเธอจริงๆ……


เธอตบข้อมือเบาๆอย่างแนบเนียน ปลอบโยนฉาฉาที่เริ่มจะกระสับกระส่าย ขนาดฉิวฉิวและฉาฉาร่วมมือกันยังสู้คนจิตวิปริตนี่ไม่ได้ เธอไม่สามารถส่งฉาฉาให้ไปตายได้


แต่เธอก็ยังไม่อยากตาย……


และยิ่งไม่อยากตายอย่างแปลกประหลาดในมือของคนจิตวิปริตแบบนี้ด้วย!


“เรื่องของพวกแกอย่าโยนมาใส่ฉัน คนที่เหมยซูหานชอบก็คืออู่เยวี่ย เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?” เหมยเหมยตะโกนเสียงดัง พยายามที่จะทำให้เฮ่อเหลียนเช่อได้สติขึ้นมาหน่อย


เหมยซูหานชอบเธอ?


ช่างตลกเสียจริงๆ!


เห็นอยู่ชัดๆว่าเหมยซูหานและอู่เยวี่ยมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันขนาดนั้น  หรือว่าเฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนโง่?


เห็นเฮ่อเหลียนเช่อยังไม่หยุดเดิน เหมยเหมยก็ร้องตะโกนอีกครั้ง “ฉันไม่ได้หลอกแก อู่เยวี่ยและเหมยซูหานเป็นคู่รักที่มีใจให้กันมาตั้งแต่เด็ก ความรู้สึกที่มีให้กันอย่างลึกซึ้ง ปกติแล้วขนาดฉันกับเหมยซูหานแทบจะไม่พูดคุยอะไรกันเลย เขาจะมาชอบฉันได้ยังไง? แกลองคิดดีๆสิ!”


เฮ่อเหลียนเช่อหยุดเดิน แล้วแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “แต่อู่เยวี่ยกลับบอกว่าพวกแกทั้งสองคนถึงจะเป็นคู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เด็กๆ แกยังคิดจะมาหลอกฉันอีกเหรอ? รนหาที่ตาย!”


เฮ่อเหลียนเช่อที่ถูกความอาฆาตครอบงำสมองก็ไม่อยากคิดอะไรอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นจ้าวเหมยหรืออู่เยวี่ย ก็ไม่ใช่คนดีทั้งนั้น จัดการจ้าวเหม่ยก่อน วันหลังค่อยจัดการอู่เยวี่ย


แค่เพียงกล้าที่จะมีใจมายุ่งกับคนของเขา ก็ต้องโดนฆ่าอย่างไร้ความปราณี!


เหมยซูหานเกิดมาก็เป็นคนของเขา จะตายก็ควรจะนอนตายบนเตียงของเขา……


เฮ่อเหลียนเช่อมองเหมยเหมยอย่างเกลียดชัง เมื่อก่อนเขายังสนใจผู้หญิงคนนี้อยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาคิดเพียงแต่อยากจะทำให้เธอตายๆไปเสีย ทรมานเธออย่างโหดเหี้ยม ทำให้เธอร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ ร้องขอความตายก็ได้เช่นกัน……


“เพี๊ยะ”


แส้ฟาดลงมา เหมยเหมยเจ็บจนร้องโอดครวญออกมา ทักทายบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรของเฮ่อเหลียนเช่ออีกครั้ง!


เหมยซูหานรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่เหมยเหมยปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตัวเอง แต่พอเห็นความเหี้ยมโหดของเฮ่อเหลียนเช่อ เขาก็ตกใจจนพุ่งเข้ามาจับเฮ่อเหลียนเช่อไว้อย่างเอาเป็นเอาตาย


“อย่าตีอีกเลย ขอร้องล่ะอย่าตีเลย คุณตีผมเถอะ……”


เหมยเหมยสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเฮ่อเหลัยนเช่อนั้นเย็นชาขึ้นไปอีกครั้ง รังสีสังหารในร่างกายของเขาก็รุนแรงขึ้นอีกเช่นกัน ช่างหมดคำพูดกับเหมยซูหานเสียจริงๆ


เจ้าหมอนี่คิดว่าตัวเองยังตายไม่เร็วพอหรือยังไงกัน?


“เหมยซูหานหุบปากไปเลยนะ ฉันกับพี่ไม่ใช่แม้กระทั่งเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องมาร้องขอความเมตตาแทนฉัน!”


เหมยเหมยตวาดเสียงดัง เธอมองออกแล้ว เฮ่อเหลียนเช่อเจ้าคนจิตวิปริตคนนี้มีความหึงหวงแรงมาก ในใจคิดแต่ว่าเหมยซูหานชอบตัวเอง ยิ่งเหมยซูหานอ้อนวอนร้องขอมากเท่าไร เจ้าหมอนี่ก็จะยิ่งเกลียดตัวเธอเองมากขึ้นเท่านั้น


แน่นอนว่าคำพูดของเธอไม่ใช่การเล่นละคร เธอไม่อยากมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับเหมยซูหานอีก จะเป็นการดีที่สุดถ้าชีวิตนี้จะเป็นเส้นขนานกัน ไม่มาบรรจบพบเจอกันอีกเลยตลอดไป!


เหมยซูหานเจ็บปวดใจ เขารับรู้ได้ถึงการตัดเยื่อใยในน้ำเสียงของเหมยเหมย ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าตอนนี้เขาและเหมยเหมยออกห่างกันมากเท่าไร เหมยเหมยก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น


แต่เขาก็ยังเจ็บปวดใจ……


เฮ่อเหลียนเช่อมองท่าทางเหมือนสูญเสียคนสำคัญไปของเหมยซูหานอย่างเยาะเย้ย ความเกลียดในใจก็ยิ่งลึกลงไป บางทีจ้าวเหมยอาจจะไม่ชอบเหมยซูหานจริงๆ แต่เหมยซูหานนั้นชอบนังสารเลวนี่ไม่ผิดแน่ นี่จะทำให้เขายอมจำนนได้อย่างไรกัน?


เห็นชัดๆว่าเขาดีกับเหมยซูหานขนาดนี้ เอาใจเขาทุกอย่าง แต่เหมยซูหานกลับไปชอบนังสารเลวนี่อย่างสุดจิตสุดใจ!


สมควรไปตายจริงๆ!


………………………………………….


ตอนที่ 966 ถอยไม่ได้


จ้าวเสวียหลินได้ฟังคำบรรยารูปลักษณ์ของแขกที่มา ก็เดาได้ง่าเป็นเฮ่อเหลียนเช่อที่จับตัวเหมยเหมยไป ในใจก็ร้อนรุ่ม ไหนเลยยังจะมีกะจิตกะใจมาสนใจร้านอาหารอีก เหลือแค่เพียงจ้าวเสวียไห่ไว้เพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวม คนอื่น ๆ ต่างก็กลับบ้านเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากคุณปู่


ตอนบ่ายคุณปู่ไม่ได้ออกไปไหน ช่วงนี้เขาพยายามที่จะออกจากบ้านให้น้อยลง ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่บ้านเพื่อจับตาเฝ้าดูคุณย่าเอาไว้!


“คุณปู่ เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว……”


จ้าวเสวียกงวิ่งเร็วที่สุด เป็นคนแรกที่พุ่งเข้าไปในห้อง ทำเอาคุณปู่ตกใจยกใหญ่ เขาเล่าเรื่องที่เฮ่อเหลียนเช่อจับตัวเหมยเหมยไปอย่างติด ๆ ขัด ๆ   พอได้ฟังคุณปู่ก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที


“เจ้าเวรนี่กล้ามากขนาดนี้เลยเหรอ กลางวันแสก ๆ ยังกล้าจับตัวหลานสาวฉันไป…….


จ้าวเสวียเอ๋อร์รีบห้ามคุณปู่ที่โมโหจนจะพุ่งตัวไปชำระแค้นกับเฮ่อเหลียนเช่อด้วยตัวเอง พูดอย่างใจเย็นว่า “คุณปู่ไปบอกนายใหญ่ก่อนจะดีกว่า เรื่องตามหาเหมยเหมยเป็นหน้าที่พวกผมเอง”


คุณปู่ก็ได้สติคืนมา รีบร้อนโทรศัพท์รายงานเรื่องนี้กับนายใหญ่ ขณะที่คุยโทรศัพท์ก็ร้องห่มร้องไห้ขี้มูกน้ำตาไหล เอาเฮ่อเหลียนเช่อไปด่าทอว่าไม่เห็นใครอยู่ในสายตาอย่างไร  แล้วก็พูดว่าตัวเองน่าสงสารขนาดไหน


แน่นอนว่านายใหญ่ก็โมโหมากเหมือนกัน ขนาดกลางวันแสก ๆ ยังกล้าฉุดหลานสาวตระกูลจ้าวไป  เฮ่อเหลียนเช่อคนนี้ช่างไม่มีขื่อไม่มีแปเลยจริงๆ คิดว่าเมืองหลวงเป็นของตระกูลมันหรือไง?


นายใหญ่ที่โมโหเดือดดาลก็โทรหาหนิงเฉินเซวียน……


คนของเฮ่อเหลียนชิงที่อยู่ภายใต้การบัญชาของเสี่ยวเมิ้งก็รีบเร่งมุ่งหน้ากันไปทางบ้านของเฮ่อเหลียนเช่อ ในเวลาเดียวกันหนิงเฉินเซวียนก็พาคนไปด้วยตัวเองเหมือนกัน


หนิงเฉินเซวียนรูปร่างผอมสูง หน้าตาคล้ายกับเฮ่อเหลียนชิงอยู่หลายส่วน เพียงแต่มองแล้วไม่มีสีหน้าหม่นหมองเท่าหลานชายขนาดนั้น รู้สึกเหมือนเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนสง่างามคนหนึ่ง ดูน่าคบหา


แต่คนที่สนิทคุ้นเคยกับเขาจะรู้กันหมดว่าหัวใจของหนิงเฉินเซวียน โหดเหี้ยมกว่าเฮ่อเหลียนเช่ออยู่เยอะมาก!


ทางด้านบนเฮ่อเหลียนเช่อที่โดนเหมยซูหานดึงเอาไว้อย่างเอาเป็นเอาตายนั้นก็ยิ่งทำให้เฮ่อเหลียนเช่อยิ่งโมโหมากกว่าเดิมไม่ใจอ่อนต่อเหมยซูหานอีกต่อไป ฟาดแส้ใส่เขาอยู่หลายต่อหลายครั้ง เลือดสดไหลรินลงมา แต่ยังไงเหมยซูหานก็ไม่ยอมปล่อยมือ


“ปล่อยนะ ถ้ายังไม่ปล่อยมืออีกฉันจะฆ่านายก่อน!”


ความเหี้ยมโหดภายในร่างกายของเฮ่อเหลียนเช่อใกล้จะควบคุมไว้ไม่ได้แล้ว เวลานี้เขาคิดแต่อยากจะฆ่าคน ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขามีความสุขเท่าฆ่าคนอีกแล้ว


แต่เขาก็ยังมีสติรับรู้อยู่ว่าห้ามฆ่าเหมยซูหาน ถ้าฆ่าคนๆนี้ เขาจะต้องเสียใจในภายหลังแน่!


“อาเช่อ สงบสติอารมณ์ลงมาก่อน คุณฟังผมพูดก่อน……”


เหมยซูหานก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเฮ่อเหลียนเช่อที่เหมือนราวกับปีศาจ เขาพยายามเรียกคืนสติของเฮ่อเหลียนเช่อ


สีหน้าท่าทางของเฮ่อเหลียนเช่อนิ่งลงเล็กน้อยไปชั่วขณะ  สายตาได้สติขึ้นมาอยู่บ้าง แต่ก็ดุร้ายขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว มองเหมยซูหานด้วยสายตากระหายเลือด ถีบเขาออกไปไกลๆ หันไปยิ้มอย่างเย็นชาใส่เหมยเหมยเดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ


ยิ่งเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ……


เหมยเหมยสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายความตาย เธอถอยจนสุดแล้ว แต่ด้านหลังเป็นหน้าต่างถอยไม่ได้อีกแล้ว……


ตอนที่ระยะห่างของเธอและเฮ่อเหลียนเช่อไม่ถึงหนึ่งเมตร เหมยเหมยก็กัดฟัน เตรียมชนกระจกหน้าต่างเพื่อกระโดดลงไป อย่างไรเสียก็ห้ามตายภายใต้เงื้อมือของคนจิตวิปริตเฮ่อเหลียนเช่อได้


ด้านล่างเป็นสวนดอกไม้ อีกทั้งยังเป็นแค่ชั้นเดียว กระโดดลงไปคงจะไม่ถึงตาย มากที่สุดก็คงจะแขนหักขาหักแหละ!


เฮ่อเหลียนเช่อมองออกถึงแผนการของเหมยเหมย ก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มดูกระหายเลือดและชอบใจมาก


“คิดจะกระโดดลงไป? แกลองชนดูสิ กระจกของฉันกันกระสุนได้ ถ้าแกมีความสามารถชนแตกได้ ฉันจะไว้ชีวิตชั่วๆของแก!”


เหมยเหมยไม่เชื่อคำพูดของเขา จึงกระแทกชนไปอย่างแรง กระแทกจนเวียนหัวมึนงงไปหมด แต่กระจกกลับไม่เป็นรอยเลยสักนิด  ใจเธอจึงหล่นไปถึงตาตุ่มทันที!


…………………………………………..


ตอนที่ 967 เหมือนตายไปแล้ว


เหมยซูหานก็มองออกว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะเอาเหมยเหมยถึงตาย เขาทนความเจ็บปวดไว้แล้วพุ่งตัวเข้าหาเฮ่อเหลียนเช่อ กอดเขาเอาไว้แน่น หันไปร้องตะโกนใส่เหมยเหมยบอกให้เธอรีบหนีไป!


เหมยเหมยตกตะลึง รีบวิ่งไปทางประตู เธอไม่มีเวลาจะไปสนใจว่าเหมยซูหานจะเป็นหรือตายแล้ว!


อีกอย่างนับว่าเธอมองออกว่าเฮ่อเหลียนเช่อตัดใจฆ่าเหมยซูหานไม่ลง อย่างมากก็ฟาดแส้ไปไม่กี่ที ให้เลือดออกนิดหน่อยก็เท่านั้น และคงทะนุถนอมเขาไม่กล้าตีอีกต่อไป!


แต่เธอไม่เหมือนกัน ถ้าไม่หนีคงตายจริงๆแน่!


แต่เธอเพิ่งจะวิ่งถึงหน้าประตู ร่างของเธอก็โดนแส้หนังรัดรั้งตัวเอาไว้ แล้วกระแทกลงที่พื้นอย่างแรง เจ็บจนเธอเกือบหยุดหายใจ!


……


หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสี่ยวเมิ้งและหนิงเฉินเซวียนก็มาถึงบ้านคฤหาสน์ในเวลาเดียวกัน ลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่ออยู่ที่ด้านล่างทั้งหมด เห็นปีศาจดาวร้ายสองคนนี้ แม้กระทั่งถามก็ยังไม่ต้องถาม รีบบอกสถานที่กักขังของเหมยเหมยไปด้วยตัวเอง


“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณหนูจ้าว ฉันอยากเห็นว่าคุณชายหนิงจะสารภาพกับนายใหญ่อย่างไร?”


เสี่ยวเมิ้งพูดเหน็บแนม เขาภักดีต่อเฮ่อเหลียนชิง สำหรับโอกาสใดๆที่สามารถโจมตีหลานชายของหนิงเฉิน เขาจะไม่ปล่อยมันไป


หนิงเฉินเซวียนมองไปที่เสี่ยวเมิ้งอย่างเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับนายใหญ่ ยังไม่ถึงคราวหมาอย่างแกต้องมาสอด!”


เสี่ยวเมิ้งก็ไม่ได้โมโห ยิ้มพร้อมกับเหน็บแนมว่า “หมาก็ดีกว่าลูกชู้แล้วกัน!”


กลิ่นอายของหนิงเฉินเซวียนแข็งไปในชั่วขณะ ลูกน้องเฮ่อเหลียนเช่อที่อยู่ในห้องต่างก็ตัวสั่นกันไปหมด มองดูเจ้านายเก่าของเขาด้วยความหวาดกลัว แอบเกลียดเสี่ยวเมิ้งในใจที่พูดอะไรไม่พูดมาพูดเรื่องนี้ จะต้องแทงมีดมาจี้หัวใจของเจ้านายเก่าเขาให้ได้


“กลับไปบอกเฮ่อเหลียนชิง ตายเร็วจะได้เกิดเร็ว ตายตอนนี้ ฉันยังไม่เอาความกับแค้นเก่าในอดีต ให้เช่อเอ๋อร์ส่งเขาขึ้นเขา เพื่อจะได้ไม่ต้องโดดเดี่ยวและลำบากยากแค้นอีกในอนาคต ในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ!”


หนิงเฉินเซวียนยิ้มอย่างเย็นชา คำพูดที่พูดออกมาจากปาก กลับแทงใจทุกๆคำ


เสี่ยวเมิ้งตอบกลับอย่างเหน็บแนม “เรื่องสารเลวแบบนี้คุณหนิงเก็บเอาไว้ใช้เองเถอะ นายท่านของผมอายุยืนเป็นร้อยปี ใครจะตายก่อนใครยังไม่รู้เลย!”


ทั้งสองคนต่างก็ไม่มีใครยอมใคร ลิ้นกับฟันพบกัน นายมาฉันไป สายตาที่มองมีไฟแห่งสงครามลุกโหมขึ้นแล้ว ลูกน้องของทั้งสองฝั่งก็อดไม่ได้ที่จะเตือนสติพวกเขา


รีบหยุดสงครามก่อนเถอะ ถ้ายังทะเลาะกันต่อไปอีกคุณหนูจ้าวคงจะจบเห่แน่!


เหมยเหมยยังไม่จบเห่ แต่ก็เหลือแค่ครึ่งชีวิตแล้วล่ะ เธอโดนเฮ่อเหลียนเช่อเล่นเหมือนแมวจับหนูก็ไม่ปาน ใช้แส้หนังรัดไว้แล้วก็ปล่อยโยนลงพื้น เหมือนทุบกระสอบทราย  ทุกครั้งที่โดนทุบก็เหมือนกับว่ากระดูกจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ


เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองโดนทุบไปแล้วกี่ครั้ง เพราะว่าพอถึงตอนท้ายเธอก็สลบไป ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วทั้งนั้น เพียงแต่กุมฉาฉาตรงข้อมือเอาไว้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อไม่ให้เจ้าตัวน้อยปรากฏตัวออกมา……


ภายใต้การนำทางของลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อ เสี่ยวเมิ้งและหนิงเฉินเซวียนก็มาถึงห้องที่กักขังเหมยเหมยเอาไว้ แต่กลับเห็นเธอนิ่งเหมือนตายกองอยู่บนพื้นแล้ว  ทั้งสองคนตกใจยกใหญ่ ถ้าหากจ้าวเหมยตายไปจริงๆ เมืองหลวงคงถึงคราวเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว


“ไม่เป็นไร เพียงแค่สลบไปก็เท่านั้นเอง……”


มีคนเอามือไปอังที่จมูกของเหมยเหมย ร้องออกมาอย่างดีใจ ทั้งเสี่ยวเมิ้งและหนิงเฉินเซวียนต่างก็ถอนหายใจ ไม่ตายก็ดี


“เช่อเอ๋อร์ล่ะ?” หนิงเฉินเซวียนถามเสียงต่ำ สีหน้าเคร่งขรึมเห็นได้ชัดว่ากำลังโมโห


ถึงแม้ว่าจ้าวเหมยจะไม่ตาย แต่ทำจนมีสภาพกลายเป็นแบบนี้ เขาจะมีหน้าไปบอกกับนายใหญ่ว่ายังไง ใครใช้ให้เฮ่อเหลียนเช่อคนชั่วช้านี่   ลักพาตัวคนอื่นมาตอนกลางวันแสก ๆ  แล้วยังลักพาตัวมาอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุอีก


ครั้งนี้นายใหญ่และจ้าวหวายซานจะต้องเอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องแน่ๆ เขาจะไม่โมโหได้อย่างไร?


ลูกน้องชี้ไปที่ห้องถัดไปด้วยความหวาดกลัว หนิงเฉินเซวียนเดินเข้าไปด้วยหน้าด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เตะเปิดประตูที่ปิดแน่นอยู่ไปทีหนึ่ง  ฉากที่อยู่ในห้องทำเอาทุกคนต้องรีบปิดตา


…………………………………………….


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)