ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ 920-921

 ตอนที่ 920 มรดกวิชาของเก้าหาง

 

สิ่งที่แตกต่างจากวิญญาณปีศาจดวงอื่นอย่างเด่นชัดก็คือร่างกายของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตัวนี้ไม่ดูเลือนลางแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามมันกลับมีรูปร่างชัดเจนอย่างยิ่งจนเหมือนกับร่างจริง


วิญญาณปีศาจดวงอื่นในแสงสีแดงก็เป็นเงาปีศาจจิ้งจอกขนาดไม่เท่ากันตัวแล้วตัวเล่าเช่นกัน ทว่ารูปร่างและสีสันของพวกมันแต่ละตัวแตกต่างกัน บางตัวมีสองหัวและดวงตาสีเขียว บางตัวทั้งร่างสีดำขลับ บางตัวทั้งร่างถูกเปลวเพลิงสีชาดหุ้มไว้ ขนาดร่างกายก็ไม่เกินสามถึงสี่จั้ง เทียบไม่ได้กับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่นำอยู่ด้านหน้า


หญิงสาวผู้สวมชุดนางในเห็นเช่นนี้ ดวงตาก็ฉายแววยินดี นางพลิกมือเรียกมีดเล่มน้อยสีเงินเล่มหนึ่งออกมากรีดบนหลังมือตนเบาๆ เลือดสายหนึ่งปรากฏออกมา เลือดสดไหลริน


ภาพที่ค่อนข้างมหัศจรรย์พลันบังเกิดขึ้น


เลือดที่ไหลออกจากหลังมือของหญิงสาวราวกับมีจิตวิญญาณ ยังไม่ทันไหลลงมาก็กลายเป็นไอหมอกสีแดงอ่อนสายแล้วสายเล่าลอยฟุ้ง ทยอยจมเข้าไปในม่านแสงรูปครึ่งวงกลมรอบด้าน


เสียง “ปัง” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!


ม่านแสงทั้งหมดฉับพลันแหวกกลายเป็นละอองแสงหลากสีสัน ทยอยจมลงไปในเงาปีศาจจิ้งจอกเหนือศีรษะของสตรีนางนี้


เงาร่างนั้นสั่นไหวเพียงเล็กน้อยแล้วขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เวลาเพียงสองสามลมหายใจ ขนาดร่างกายก็ขยายจากขนาดหนึ่งจั้งกว่าตอนเริ่มแรกเพิ่มพรวดมาถึงขนาดเจ็ดแปดจั้ง


ทั้งร่างของหญิงสาวผู้สวมชุดนางในลอยขึ้นด้านบนอย่างเชื่องช้าไปอยู่ใต้เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง


หลิ่วหมิงเห็นภาพนี้ตรงหน้า สองตาก็หรี่ลงเล็กน้อย


เขาเคยอ่านบันทึกเกี่ยวกับการสืบทอดมรดกวิชาของเผ่าปีศาจจากบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับไม่เป็นทางการในหอเก็บคัมภีร์ของนิกายยอดบริสุทธิ์มาอยู่บ้าง


ในตำราเล่าไว้ว่าเผ่าปีศาจระดับสูงจำนวนน้อยกลุ่มหนึ่งใช้โลหิตบริสุทธิ์ของตนเป็นสื่อกลางเพื่อสืบทอดความสามารถจากบรรพบุรุษเผ่าปีศาจที่มีสายเลือดเดียวกับตนผ่านการทำพิธีกรรมด้วยค่ายกลโบราณพิเศษบางชนิดได้


แม้เผ่าปีศาจระดับสูงจะมีอายุขัยยืนยาว แต่สหายร่วมเผ่าพันธุ์ที่ครอบครองสายเลือดบริสุทธิ์มีน้อยนิดอย่างยิ่ง อีกทั้งตัวเผ่าปีศาจเองก็มีความสามารถในการสืบพันธุ์ต่ำอย่างที่สุด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมักเลือกมีทายาทข้ามเผ่ากับเผ่าอื่นเพื่อสืบทอดสายเลือด


เมื่อเวลาผันผ่าน สายเลือดของเผ่าปีศาจระดับสูงก็ยิ่งเจือจางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันอยากตามหาสหายร่วมเผ่าที่มีสายเลือดบริสุทธิ์อย่างแท้จริงก็ยากลำยากยิ่งนัก


พิธีกรรมสืบทอดสายเลือดของเผ่าปีศาจ แม้เงื่อนไขขอเพียงตนเองกับผู้ที่ตนต้องการสืบทอดมรดกมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันประมาณหนึ่งก็ใช้ได้แล้ว แต่ยิ่งสายเลือดบริสุทธิ์ ความสามารถที่ได้รับสืบทอดก็ยิ่งสมบูรณ์


ดูจากร่างจริงที่หญิงสาวผู้สวมชุดนางในแปลงกลับไปเมื่อครู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางคงเป็นเผ่าปีศาจระดับสูงตัวจริงที่สายเลือดบริสุทธิ์อย่างยิ่ง หากพิธีกรรมนี้เสร็จสมบูรณ์จริง น่ากลัวว่าพลังคงก้าวหน้าพุ่งทะยาน


ในเวลานี้เองสองตาของเงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสีขาวเหนือศีรษะหญิงสาวผู้สวมชุดนางในพลันโชนแสง ร่างกายหมุนอยู่กับที่ไม่หยุดแล้วร้องคำรามอยู่เป็นระยะ หางหนาประหนึ่งแขนเก้าเส้นฉับพลันพองขยายขึ้นหลายเท่า แต่ละเส้นสะบัดบ้าคลั่งจนกลายเป็นเงายันต์สีขาวมหึมาตัวแล้วตัวเล่าเลือนราง


วิญญาณปีศาจของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่ยืนซ้อนกันอยู่ในแสงสีแดงไกลออกไปเห็นเช่นนี้ ดวงตาพลันมีประกายแสงสีเลือดไหลวนไม่หยุด หลังจากหอนยาวครั้งหนึ่ง แสงสีแดงรอบตัวมันก็พลันเร่งความเร็วแล้วค่อยๆ สลัดวิญญาณปีศาจตัวอื่นทิ้งไว้ด้านหลัง แย่งชิงเพื่อไปถึงเหนือร่างของหญิงสาวผู้สวมชุดนางในให้ได้ก่อนก้าวหนึ่ง หางสีขาวเก้าเส้นพันรวมเข้าด้วยกัน


หญิงสาวผู้สวมชุดนางในเห็นเช่นนี้ก็ไม่กล้าชักช้า สองมือตั้งท่าเคล็ดวิชาอย่างเร็วไว พร้อมกันนั้นปากก็เอ่ยท่องมนตร์ไม่ขาด ตรงกลางหว่างคิ้วมีตราประทับสีเลือดดวงหนึ่งปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าแล้วกะพริบอย่างบ้าคลั่งไม่หยุด


ชั่วขณะหนึ่งท้องฟ้าเหนือร่างของหญิงสาวก็มีเงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสองตัว ตัวหนึ่งใหญ่ ตัวหนึ่งเล็กถูไถคลอเคลียกันไม่หยุดประหนึ่งบิดามารดากับบุตร ท่าทางที่แสดงออกสนิทชิดเชื้อยิ่งนัก แสงเรืองรองฝั่งหนึ่งสีขาว ฝั่งหนึ่งสีแดงที่ล้อมรอบพวกมันค่อยๆ ผสานกลายเป็นหนึ่งเดียว มหัศจรรย์อย่างมาก


“การสืบทอดต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน ระหว่างนี้อย่าให้วิญญาณปีศาจตัวใดเข้าใกล้ข้า มิเช่นนั้นจะเกิดผลสะท้อนกลับได้ง่าย…” ริมฝีปากของสตรีนางนี้เคลื่อนไหวเล็กน้อยส่งกระแสจิตหาหลิ่วหมิง


“วางใจเถิด สหายสงบใจใช้วิชาได้เต็มที่ ที่เหลือมอบให้ข้าจัดการเอง” หลิ่วหมิงเอ่ยอย่างไม่ลังเลสักนิด


“ดีมาก ทุกสิ่งหลังจากนี้ล้วนพึ่งท่านแล้ว” หญิงสาวผู้สวมชุดนางในพยักหน้า สองตาปิดลงอย่างเชื่องช้าอยู่กลางท้องฟ้า


ระหว่างที่พูดวิญญาณปีศาจจิ้งจอกยี่สิบกว่าตัวที่เหลือก็คำรามพุ่งมาถึงบริเวณใกล้ๆ


หลิ่วหมิงไม่พูดพร่ำก็กระตุ้นพลังเวทในร่าง กรอกเข้าไปในภาพสัญลักษณ์บนหัวไหล่ไม่หยุด นิ้วมือดีดรัวตรงหน้าอกราวกับกงล้อ


เสียงแหวกอากาศดังขึ้นครั้งหนึ่ง!


เงาสีน้ำเงินร่างหนึ่งพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า หมุนวนก่อตัวกลายเป็นเงาวัวสีน้ำเงินขนาดมหึมาสิบกว่าจั้งตัวหนึ่ง มันไม่พูดพร่ำอ้าปากกว้างพ่นไอหมอกสีน้ำเงินขมุกขมัวสายหนึ่งออกมากลายเป็นลมพายุพัดดุดันเข้าใส่วิญญาณปีศาจเบื้องหน้า


ไม่ว่าวิญญาณปีศาจจิ้งจอกหน้าตาแบบใดเมื่อถูกลมพายุสีน้ำเงินหอบเข้าไปด้านใน ทั้งหมดก็ถูกฉีกกระจายกลายเป็นแสงแวววาวจุดแล้วจุดเล่าหลากสีสันในพริบตา


พริบตาเดียววิญญาณปีศาจของปีศาจจิ้งจอกเกินครึ่งก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย


วิญญาณปีศาจของปีศาจจิ้งจอกที่เหลือตกตะลึงอย่างยิ่ง พวกมันแตกกระเจิงหันหลังกลับหนีหางจุกตูดในทันที


“เหอะ ตอนนี้เพิ่งคิดจะหนี ไหนเลยจะง่ายดายเช่นนั้น!” ในดวงตาหลิ่วหมิงทอประกายเย็นเยียบ เคล็ดวิชาที่มือเปลี่ยนไปทันที


เสียง “ฟึบ” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง


เงาวัวสีน้ำเงินฉับพลันสูดลมพายุกลับเข้าไปในปากแล้วทันใดนั้นก็พุ่งเร็วรี่กลายเป็นแถบแสงสีน้ำเงินสายหนึ่ง


เสียง “ฟู่” “ฟู่” ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง


วิญญาณปีศาจของปีศาจจิ้งจอกหลายตัวที่หนีไปถูกแถบแสงสีน้ำเงินพุ่งทะลุผ่านร่างกลายเป็นแสงแวววาวสลายไปทันที


หลังจากแสงสีน้ำเงินดับลง เงาวัวสีน้ำเงินก็ปรากฏร่างเดิมบริเวณใกล้ๆ มันอ้าปากกว้างสูดละอองแสงแวววาวรอบข้างเข้าไปในปาก พร้อมกันนั้นลวดลายจิตวิญญาณก็ไหลวนบนผิว ร่างกายใหญ่ขึ้นอีกนิดหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด


หลิ่วหมิงเห็นภาพนี้กลับไม่ได้แสดงสีหน้ายินดีอะไรออกมา แต่สีหน้าเคร่งขรึมหันศีรษะมองไปยังขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง


ทางทิศนั้นมีไอหมอกสีเทาขาวสายหนึ่งปรากฏขึ้น ด้านในมีเสียงกรีดร้องคำรามทุ้มต่ำดังไม่ขาด เงาปีศาจอสูรขนาดไม่เท่ากันจำนวนหนึ่งผลุบโผล่อยู่เลือนราง


ใช่จริงๆ ปีศาจอสูรตัวอื่นในที่สุดก็เดินทางมาถึงแล้ว


หลิ่วหมิงสูดลมหายใจลึกยาว ขณะที่มือข้างหนึ่งกวักเรียกเงาวัวสีน้ำเงินซึ่งอยู่อีกฝั่ง


ภาพสัญลักษณ์ตัวนั้นขยับวูบหนึ่งก็หายตัวมาขวางหน้าหลิ่วหมิงในทันที


เวลานี้ในที่สุดวิญญาณปีศาจที่อยู่ไกลออกไปก็พุ่งเข้ามาอย่างดุดัน ด้านในมีปีศาจอสูรนานาชนิดทั้งเสือ หมาป่า เสือดาว ในหมู่พวกมันตัวที่ขนาดใหญ่ราวกับตึก ตัวที่ขนาดเล็กขนาดไม่เกินฝ่ามือ


หลิ่วหมิงขยับแขน แนบฝ่ามือข้างหนึ่งบนแผ่นหลังของเงาวัวสีน้ำเงิน แล้วกรอกพลังเวทพลุ่งพล่านเข้าไปในร่างมันอย่างรวดเร็ว


เงาวัวสีน้ำเงินคำรามทุ้มต่ำครั้งหนึ่ง ร่างกายพลันขยายพรวดอีกเท่าหนึ่งในพริบตาจนสูงห้าถึงหกจั้ง หลังจากอ้าปากกว้างอีกครั้ง พายุสีน้ำเงินลูกแล้วลูกเล่าก็พัดรุนแรงออกมา


วิญญาณปีศาจปลาหลี่ยักษ์สีฟ้าตัวหนึ่งที่พุ่งมาด้านหน้าสุดกรีดร้องทุ้มต่ำครั้งหนึ่งก็กลายเป็นเส้นไหมสีฟ้าอ่อนสายหนึ่ง ถูกกระแสลมสีน้ำเงินซึ่งหมุนวนรวดเร็วหอบเข้าไปในปากใหญ่โตของเงาวัวสีน้ำเงินในทันใด


วิญญาณปีศาจตัวอื่นที่แห่เข้ามาด้านหลังก็ถูกพายุหมุนกลืนหายเข้าไปอย่างเร็วไวตามต่อกันไม่ขาดสาย แต่ละตัวถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ อย่างไม่มีกำลังต่อต้านสักนิด ทั้งหมดกลายเป็นอาหารในท้องของภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วน


เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งก้านธูป วิญญาณปีศาจหลายสิบตัวนี้ก็ถูกเชอฮ่วนกวาดไปจนเกลี้ยง


วิญญาณปีศาจบางตัวพบว่าสถานการณ์ผิดปกติจึงคิดจะหมุนตัวหนี แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความเร็วของเชอฮ่วน พวกมันหนีไปได้ไม่ไกลเท่าไรก็ถูกแสงสีน้ำเงินหอบมากลืนลงไปทันที


เมื่อเงาวัวสีน้ำเงินของเชอฮ่วนหวนกลับมาหาหลิ่วหมิง ร่างกายของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งเท่ากว่าอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว จนใหญ่ถึงสิบกว่าจั้งแล้ว


ตอนนี้หลิ่วหมิงถึงโล่งอกแล้วมองไปกลางท้องฟ้า


เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่ก่อตัวมาจากหญิงสาวผู้สวมชุดนางในยังคงผสานเข้ากับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางยักษ์ที่เปล่งแสงสีแดงตัวนั้นอยู่ แสงจิตวิญญาณแวววาวจุดแล้วจุดเล่าสองสีสีขาวกับสีแดงสอดแทรกอยู่ด้วยกันท่วมท้นรอบด้าน ทำให้ภาพตรงหน้าราวกับภาพฝันภาพมายา


ทว่าละสายตาไปเพียงครู่เดียว ภาพตรงหน้าก็ทำให้หลิ่วหมิงใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้


ชุดนางในสีขาวประณีตไม่ธรรมดาชุดนั้นบนร่างหญิงสาวผู้อยู่ใต้เงาปีศาจจิ้งจอกสองตัวหายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบ ทั่วร่างมีแสงสีแดงอ่อนชั้นหนึ่งห่อหุ้มไว้ ทว่าเรือนร่างขาวผ่องอรชรก็ยังคงผลุบๆ โผล่ๆ ปรากฏอยู่ตรงหน้าหลิ่วหมิงมากกว่าครึ่ง


ใบหน้างามล้ำเลิศของสตรีนางนี้ทอแสงสีแดงเรืองๆ ริมฝีปากงามอ้าออกเล็กน้อย ดวงเนตรงามทั้งคู่หลับสนิท คิ้วดำขมวดแน่นคล้ายกับว่ากระบวนการสืบทอดมรดกนี้ไม่ได้สบายเช่นนั้น


หางจิ้งจอกสีขาวโพลนเก้าเส้นที่โผล่ออกมาจากก้นงามงอนสะบัดไปตามสายลมไม่หยุดนิ่ง ทำให้นางแลดูเย้ายวนชวนหวั่นไหวเป็นพิเศษ


ภาพอันงามเย้ายวนอย่างยิ่งนี้ทำให้หลิ่วหมิงมองจนปากแห้งอย่างห้ามไม่อยู่ ชั่วขณะหนึ่งผละสายตาออกมาไม่ได้ ทั้งร่างจากบนจรดล่างร้อนผ่าวยิ่งนัก


“เหอะ พาเจ้าเข้ามาไม่…ไม่ได้ให้เจ้ามาแอบถ้ำมองข้า หากเจ้ามองอีก…รอหลังจากข้าสืบทอดมรดกวิชาเสร็จ….จะควักลูกตาเจ้าออกมา!”


ตอนนี้เองในหูของหลิ่วหมิงก็มีเสียงเย็นชาของสตรีนางนี้ดังขึ้น ทว่ากระท่อนกระแท่นคล้ายกับว่าสตรีนางนี้รวบรวมพละกำลังทั้งหมดกว่าจะเอ่ยออกมาได้


หลิ่วหมิงได้ยินก็หวาดหวั่น กัดปลายลิ้นทันที ความเจ็บปวดแล่นปราดเข้าสู่หัวใจ สองตาหลับลงอย่างรวดเร็วแล้วหมุนตัวไปในทันใด


แม้ในเวลานี้เขาจะโคจรพลังเวทในร่างอย่างรวดเร็วขับไล่ความรู้สึกผิดปกติในร่างกายไปแล้ว แต่ในสมองก็ยังคงมีภาพกึ่งเปลือยของหญิงสาวปรากฏขึ้นมาเป็นพักๆ


ลึกลงไปในใจ เขาปรารถนาจะหันกลับไปมองสำรวจให้ดีๆ อีกสักครั้ง ราวกับว่าขอเพียงได้มองหญิงสาวเพิ่มอีกสักหน่อย แม้ต่อไปต้องตายก็ยินดี


หลังจากหลิ่วหมิงขบคิดอย่างเร็วไว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องเล่าบางอย่างเกี่ยวกับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่บันทึกไว้ในตำราขึ้นมาได้


เล่าลือกันว่าปีศาจจิ้งจอกจำพวกนี้ครอบครองร่างจิตวิญญาณมหาเสน่ห์แต่กำเนิด อาศัยเพียงกลิ่นอายบนร่างก็มอมเมาสติปัญญาของผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย แรงดึงดูดและความเย้ายวนที่มีต่อทั้งสองเพศเหมือนจะร้ายกาจยิ่งกว่าร่างมายาสวรรค์ของเจียหลานเสียอีก


หลังจากหลิ่วหมิงคิดถึงสิ่งเหล่านี้กระจ่างแล้วก็ขยับร่างอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป เขาออกห่างจากหญิงสาวผู้สวมชุดนางในทันทีแล้วลอบตรึงโซ่ตรวจสะกดวิญญาณไว้ที่มือ ปราณเย็นสบายสายหนึ่งฉับพลันแล่นตรงจากกลางฝ่ามือเข้าไปยังทะเลจิตสัมผัสในทันที มันไหลวนอยู่หลายรอบกว่าจะทำให้เขาได้สติอย่างสมบูรณ์


เขาลอบเป่าลมหายใจแล้วตั้งสมาธิ บังคับเงาเชอฉ่วนให้พุ่งเข้าใส่วิญญาณปีศาจระลอกใหม่ที่ปรากฏตัว


ครึ่งชั่วยามหลังจากนั้น


เงาวัวสีน้ำเงินอ้าปากใหญ่โต พายุหมุนสีน้ำเงินพัดออกมาอย่างทรงพลัง ปราณปีศาจหลากสีสันที่พลุ่งพล่านอยู่รอบร่างวิญญาณปีศาจไหลตามพายุหมุน ถูกมันสูบเข้าไปในท้องทีละสายๆ ประหนึ่งสาวไหมจากรังไหม พละกำลังจะต้านทานสักนิดก็ไม่มี


ร่างกายของเชอฮ่วนขยายพรวดขึ้นอีกไม่น้อยจนใหญ่ถึงยี่สิบกว่าจั้ง ปราณปีศาจหลากสีสันที่ปะปนกันอยู่ในร่างกลิ้งไปมาอยู่ในท้องของมันไม่หยุดและถูกย่อยอย่างเร็วไว


แม้วิญญาณปีศาจจะแทบไม่มีกำลังต่อต้านเชอฮ่วน แต่คลื่นปราณปีศาจที่แผ่ออกมาจากการสืบทอดมรดกของหญิงสาวผู้สวมชุดนางในเหมือนจะมีแรงดึงดูดมหาศาล


ถึงเขาจะกระตุ้นภาพสัญลักษณ์จัดการวิญญาณปีศาจไปต่อเนื่องเจ็ดแปดระลอก แต่ก็ยังมีวิญญาณปีศาจจับกลุ่มรวมตัวเข้ามาอีก


ในเวลานี้เองจู่ๆ ก็เกิดคลื่นไหวกระเพื่อมข้างตัวหลิ่วหมิง ปราณเย็นยะเยือกเสียดกระดูกซัดเข้าใส่ พร้อมกับที่ไอหมอกสีขาวขมุกขมัวกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น ด้านในเหมือนจะหุ้มบางสิ่งเอาไว้อยู่เลือนราง

 

 

 


ตอนที่ 921 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน

 

หลิ่วหมิงสั่นสะท้านรีบเพ่งสายตามอง


แล้วเขาก็เห็นว่าสิ่งที่หมอกสีขาวหุ้มอยู่คือปีศาจอสูรหงส์สีขาวขนาดถึงสิบกว่าจั้งตัวหนึ่ง ดวงตาสีดำสนิทกำลังจ้องหญิงสาวผู้สวมชุดนางในกลางอากาศเขม็ง


เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสองตัวที่อยู่เหนือศีรษะของหญิงสาวเริ่มผสานจากสองกลายเป็นหนึ่ง บนร่างของทั้งสองตัวมีแสงแวววาวดุจเส้นไหมละเอียดหลายเส้นกำลังแทรกเข้าไปในร่างของสตรีนางนี้ทีละน้อย


เวลานี้ดวงเนตรงามของหญิงสาวปิดสนิท คล้ายกับว่ากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของการสืบทอดมรดกวิชา!


หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ มือข้างหนึ่งก็จี้ดัชนีเข้าใส่วิญญาณปีศาจหงส์น้ำแข็งเบาๆ เงาเชอฮ่วนส่งเสียงดัง “ฟึบ” กลายเป็นแสงสีน้ำเงินพุ่งเข้าใส่ไอหมอกสีขาวทันที


วิญญาณปีศาจหงส์เห็นเช่นนี้พลันกระพือปีกทั้งสองข้าง เกล็ดน้ำแข็งสีขาวโพลนเล็กละเอียดเต็มฟ้าก่อตัวขึ้นจากความว่างเปล่าจากนั้นกลายเป็นเงาเข็มน้ำแข็งเรียวเล็กเล่มแล้วเล่มเล่าพุ่งรวดเร็วมากมายถี่ยิบมายังจุดที่เชอฮ่วนอยู่


เชอฮ่วนไม่มีสีหน้าลนลานแม้แต่น้อย มันเพียงอ้าปากกว้าง พายุหมุนสีน้ำเงินลูกหนึ่งก็ซัดออกมา


เสียง “เปรี๊ยะ” ดังขึ้นไม่ขาด!


เข็มน้ำแข็งเต็มท้องฟ้าถูกพายุหมุนพัดครั้งเดียวก็กลายเป็นเงาปราณวารีสีขาวสายแล้วสายเล่าสลายหายไปกับความว่างเปล่า


ดวงตาสองข้างของเชอฮ่วนทอประกายเจิดจ้าแล้วสูดลมอย่างแรง ปราณวารีทั้งหมดไหลประหนึ่งน้ำหลากทะลักเข้าไปในปากของมันแล้วหายไปหมดในเวลาเพียงครู่เดียว


จากนั้นร่างของเงาเชอฮ่วนก็ขยับ มันปรากฏตัวท่ามกลางไอหมอกสีขาวดุจภูตพรายแล้วขย้ำปีกข้างหนึ่งของหงส์ไว้


“แกว้ก!”


หงส์กรีดร้อง แสงสีขาวส่องสว่างวูบวาบบนปีก เกล็ดหิมะขนาดเท่าศีรษะเกล็ดแล้วเกล็ดเล่าก่อตัวขึ้นรอบด้านแล้วทอแสงสีขาวจับตัวบนปีกอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็แผ่ลามมาถึงบนร่างของเงาเชอฮ่วน


เวลาไม่กี่ลมหายใจหลังจากนั้นน้ำแข็งบางชั้นหนึ่งก็ปรากฏบนผิวของเชอฮ่วน มันกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งตัวหนึ่งที่กำลังอ้าปากกว้างกัดปีกของหงส์แน่นไม่ปล่อย


ปีศาจอสูรหงส์กระพือปีกกลางอากาศไม่หยุด มันกรีดเสียงร้องออกมาเป็นพักๆ พัดพายุเย็นเยียบเสียดกระดูกลูกแล้วลูกเล่าออกมา พยายามสุดกำลังหมายจะสลัดให้หลุดจากการกัดขย้ำของเชอฮ่วนทว่าดูเหมือนจะไม่มีผลสักนิด


หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้พลันคิ้วขมวด มือข้างหนึ่งกระตุ้นเคล็ดวิชาในทันใด


รูปสลักน้ำแข็งเปล่งแสงเรืองรองหลากหลายสีออกมา!


น้ำแข็งแกร่งบนร่างเชอฮ่วนแตกกระจายดังเพล้งในพริบตา ในเวลาเดียวกันนั้นปราณปีศาจผสมกันมั่วสั่วก้อนหนึ่งก็พุ่งเร็วรี่ออกมา


เชอฮ่วนพ่นปราณของวิญญาณปีศาจที่ยังไม่ทันย่อยในร่างมันออกมาตรงๆ


นหงส์ขาวฉับพลันกรีดร้องเสียงแหลม ทันใดนั้นมันก็เลือนหายไปจากบนท้องฟ้า หลบปราณปีศาจที่ผสมปนเปกันนี้ไป ร่างกายขยับวูบหนึ่ง มันก็กลายเป็นแสงแวววาวสีขาวหมุนตัวหนีไป


หลิ่วหมิงเพ่งจิต คิดจะออกคำสั่งให้เชอฮ่วนไล่ตามไปสังหารวิญญาณปีศาจดวงนี้ ทว่าในเวลานี้เองเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น


เสียง “ฟึบ” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง แสงสีแดงสายหนึ่งพุ่งมาจากด้านหลังของเขา


หลิ่วหมิงตกตะลึงรีบขยับร่างทันทีจนหลบพ้นจุดสำคัญ ทว่าพร้อมกับเสียงดัง “ฉึบ” รอยกรงเล็บสีแดงสดสามเส้นก็ยังคงปรากฏขึ้นบนหลัง เลือดไหลรินออกมา


กรงเล็บสีแดงข้างหนึ่งเฉียดผ่านข้างลำตัวของเขาไป


ความเจ็บปวดดั่งไฟเผาส่งมาจากบนหลังของหลิ่วหมิง เขาหายตัวครั้งเดียวก็โผล่มาห่างสิบกว่าจั้ง แล้วพลิกมืออย่างรวดเร็วครั้งหนึ่ง เรียกโอสถสีเทาขมุกขมัวเม็ดหนึ่งจากในแหวนย่อส่วนมากลืนลงท้อง


ปราณอ่อนโยนสายหนึ่งไหลวนบนหลังของเขา รอยแผลลึกหนึ่งชุ่นกว่าสามสายประสานสนิทอย่างเร็วไว แต่ตรงขอบยังคงมีปราณปีศาจสีแดงหลายสายที่สลัดไม่หลุด


ตอนนี้หลิ่วหมิงเพิ่งได้กวาดสายตามองจุดที่ส่งการลอบจู่โจมมา แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงอย่างยิ่ง!


เขาเห็นเงาร่างอ้อนแอ้นร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในทิศที่เคยเป็นด้านหลังของเขา หลังร่างมีหางจิ้งจอกเส้นแล้วเส้นเล่าส่ายไปมาไม่หยุด นางก็คือหญิงสาวเผ่าปีศาจผู้สวมชุดนางในผู้นั้น


สตรีนางนี้ยังคงล่อนจ้อนห่มแสงสีแดง เปลือยเรือนร่างอรชรขาวผ่องที่ชวนให้คนเลือดลมพลุ่งพล่านออกมามากกว่าครึ่ง ทรวงอกพองขึ้นยุบลงเล็กน้อยไม่หยุด ดวงเนตรงามทั้งสองข้างที่เคยกระจ่างใสดุจสายน้ำมีประกายแสงสีเลือดสองดวงเหมือนทับทิมสองเม็ดไหลวนต่อเนื่อง ทว่ามันกลับว่างเปล่าไร้ประกายคล้ายกับว่าสูญเสียสติสัมปชัญญะไป


หลิ่วหมิงมีสีหน้าสับสนเล็กน้อย เขากวาดสายตามองเหนือร่างสตรีนางนี้อย่างไม่รู้ตัว


เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสองตัวด้านบนตอนนี้ผสานกลายเป็นร่างเดียวแล้ว มันกลายเป็นเงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสีขาวโพลนไร้ตำหนิตัวหนึ่ง


เทียบกับท่าทางทรงพลังก่อนหน้านี้ วิญญาณปีศาจดวงนี้ตอนนี้ขนาดเล็กลงหลายเท่า กระทั่งปราณปีศาจที่แผ่ออกมาก็อ่อนแอลงไม่น้อย ทว่าดวงตาทั้งคู่กลับเปล่งประกายดุจทับทิบจับจ้องหลิ่วหมิงเขม็งด้วยแววตาดุร้าย


แสงแวววาวสีขาวประหนึ่งเส้นไหมเรียวเล็กเส้นแล้วเส้นเล่าจากเงาปีศาจจิ้งจอกด้านบนที่เดิมทีแทรกเข้าไปในร่างหญิงสาวไม่ขาดตอนนี้หายไปแล้ว ดูท่าการสืบทอดมรดกครั้งนี้จะจบสิ้นลงแล้ว


แต่ปราณที่แผ่ออกมาจากสตรีนางนี้กลับเดี๋ยวมากเดี๋ยวน้อยไม่มั่นคง ทว่าแม้ในยามที่ปราณอ่อนแอที่สุดก็ยังระดับแก่นแท้ขั้นกลาง ส่วนพริบตาที่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเทียบเคียงได้กับระดับแก่นแท้ขั้นสมบูรณ์แบบ


หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็พลันขมวดคิ้ว!


ตอนนี้ไหนเลยเขาจะยังมองไม่ออกอีกว่าระหว่างสืบทอดมรดกสตรีนางนี้คงเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น ดูเหมือนนางจะถูกวิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตัวนั้นย้อนกลับมาควบคุมไว้


แม้สตรีนางนี้พรสวรรค์ล้ำเลิศ สายเลือดก็บริสุทธิ์ยิ่งนัก แต่จะรับมรกดกวิชาจากวิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสมัยโบราณตัวนี้อย่างสมบูรณ์ในเวลาสั้นเช่นนี้คิดว่าก็คงฝืนเกินไปอยู่บ้าง


ขณะที่เขายังตัดสินใจไม่ได้อยู่นั่นเอง เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางด้านบนก็พลันร้องคำราม หญิงสาวเผ่าปีศาจเบื้องล่างราวกับได้รับคำสั่ง ดวงตาทอประกายสีแดงวูบหนึ่ง สองมือก็ตะปบแสงกรงเล็บยาวหนึ่งฉื่อกว่าเข้าใส่หลิ่วหมิง


ร่างกายของสตรีนางนี้ว่องไวยิ่งนัก เพียงชั่วพริบตาก็พาเงาเลือนรางสายหนึ่งมาปรากฏตัวห่างจากหลิ่วหมิงไปแค่หนึ่งจั้งกว่าเบื้องหน้า


เสียงแหวกอากาศดังขึ้นสองครั้ง!


แสงกรงเล็บสีแดงสองข้างตวัดไขว้เป็นกากบาทร่วงลงมาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ โจมตีครั้งเดียวก็ทำลายร่างกายของหลิ่วหมิงได้


ทว่า ‘หลิ่วหมิง’ กลับสลายหายวับกลายเป็นปราณดำสายแล้วสายเล่า เขาถึงกับเป็นเพียงเงาร่างหนึ่งเท่านั้น


เวลานี้ร่างต้นของหลิ่วหมิงเลือนหายมาปรากฏตัวบนท้องฟ้าห่างไปหลายจั้ง ร่างกายหมุนครั้งหนึ่งก็ลอยออกไปไกลกว่าเดิมทันที จากนั้นหลังคำรามเบาๆ ครั้งหนึ่ง เขาก็พุ่งเข้าใส่จุดหนึ่งบนอากาศเหนือศีรษะหญิงสาว


เงาเชอฮ่วนที่เดิมทีหยุดอยู่ใกล้ๆ ขยับวูบเดียวกลายเป็นแสงสีน้ำเงินดวงหนึ่งพุ่งเข้าใส่เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง


ปีศาจตัวนี้สะบัดหางปีศาจเก้าเส้นหลังร่าง เงาหางจิ้งจอกสีขาวเส้นแล้วเส้นเล่ากวาดดังฟึบหลายครั้ง ตบเงาเชอฮ่วนที่บินโถมมาถึงปลิวออกไปไกลหลายสิบจั้งในทันใด


ปากใหญ่โตของเงาเชอฮ่วนแสยะ แสงสีน้ำเงินทั่วร่างไหลเคลื่อนพักหนึ่ง ร่างกายที่โอนเอนก็ตั้งหลักมั่นคง ดวงตาวัวสีน้ำเงินที่เหมือนระฆังทองแดงจ้องถลึงปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเขม็งด้วยแววตาดุร้าย


ขณะที่หลิ่วหมิงคิดจะกระตุ้นวิชาลับภาพสัญลักษณ์อีกครั้ง หญิงสาวเก้าหางกลับพุ่งเข้ามาปรากฏตัวเบื้องหน้าเขาประหนึ่งภูตพรายอีกหน นางขยับแขนครั้งหนึ่งสร้างเงากรงเล็บตะปบลงบนร่างเขา


แม้หลิ่วหมิงจะบิดเอวเปลี่ยนทิศกลางอากาศรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบก็ยังถูกเงากรงเล็บข้างหนึ่งกรีดผ่านหัวไหล่ เสียง “แควก” ดังขึ้นพร้อมกับที่บนเสื้อเกิดรอยขาดลากยาวเส้นหนึ่ง


ทว่าหลิ่วหมิงกลับไม่ลนลานสักนิด ตรงกันข้ามเขากลับฉวยโอกาสยกมือข้างหนึ่งขึ้นไปทางสตรีนางนี้ ยันต์หนาตั้งหนึ่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว


เสียงระเบิด “เปรี้ยง” ดังขึ้นตามมา ปราณวารีสีฟ้าผืนใหญ่ทะลักออกมากลายเป็นฟองอากาศลูกแล้วลูกเล่าล้อมสตรีนางนี้ไว้ด้านใน


แม้หญิงสาวเก้าหางจะเสียสติสัมปชัญญะไป แต่เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้นางก็ยังชะงักอย่างไม่รู้ตัว


หลิ่วหมิงฉวยช่องว่างจังหวะนี้ตวาดดังลั่น สองแขนเหวี่ยงออกไป มังกรหมอกสีดำยาวเจ็ดถึงแปดจั้งสองตัวก่อตัวออกมาจากบนร่างเขาพร้อมกับเสียงมังกรคำรามแล้วพุ่งเข้าไปขดล้อมสตรีนางนี้ไว้


“คุกมืด!”


มังกรหมอกสีดำยังไม่ทันสัมผัสสตรีนางนี้ มันก็ระเบิดดังกึกก้องกลายเป็นแสงรัศมีสีดำสายแล้วสายเล่าขังสตรีนางนี้ไว้ด้านใน


ทว่าเสี้ยววิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเหนือศีรษะเพียงเปล่งแสงสีเลือดจากดวงตาทั้งสองข้างก็มีปราณปีศาจท่วมท้นพุ่งแหวกคุกมืดจนเปิดออก เงาร่างสีขาวพุ่งออกมา หญิงสาวเก้าหางพุ่งมาหาหลิ่วหมิงอีกครั้งด้วยใบหน้าไร้อารมณ์


หลิ่วหมิงหน้าทะมึน แขนเสื้อสองข้างสะบัด โยนยันต์สีทองอ่อนหลายแผ่นออกมาดั่งสายฟ้าแลบ แล้วกรอกพลังเวทเข้าไปให้อสูรสมุทรแปดขาตรงหน้าอก เสียง “ฟู่” ดังขึ้นด้านหลังขณะที่ปีกเนื้อสีเงินสองข้างปรากฏออกมา


เสียงดังกึกก้องลอยมาระลอกแล้วระลอกเล่า!


ยันต์สีทองทั้งหมดระเบิดกลางอากาศกลายเป็นสายฟ้าสีทองมากมายหลายเส้นพุ่งเข้าไปล้อมหญิงสาวเก้าหางไว้


ในเวลาเดียวกันนี้ปีกเนื้อบนแผ่นหลังของหลิ่วหมิงก็กระพืออย่างแรง เขากลายเป็นแสงสีเงินเส้นหนึ่งพุ่งแหวกท้องฟ้าไปด้านหลัง ระหว่างทางเขาก็ยกมือข้างหนึ่งจี้ดัชนีใส่เงาเชอฮ่วน


เงาเชอฮ่วนสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วอ้าปาก พ่นพายุหมุนสีน้ำเงินขมุกขมัวเจ็ดแปดลูกรัวใส่เงาปีศาจเก้าหางทันที


แม้เงาจิ้งจอกเก้าหางที่อยู่เหนือศีรษะหญิงสาวจะนิ่งไม่ขยับ แต่หางจิ้งจอกที่หนาเท่าถังน้ำเก้าเส้นด้านหลังแกว่งไกวเพียงครั้งเดียวก็กลายเป็นเงาสีขาวเส้นหนึ่งฟาดขวางออกมา


เสียง “ฟู่” ดังขึ้นหลายหน พายุหมุนที่จัดการวิญญาณปีศาจสำเร็จลุล่วงทุกครั้งเหล่านั้นถูกเงาสีขาวเหล่านี้โจมตีถอยออกไปทีละลูกในพริบตา


ทว่าพายุหมุนสีน้ำเงินเหล่านี้ที่เชอฮ่วนพ่นออกมาเห็นชัดว่าไม่เหมือนก่อนหน้านี้ พวกมันถูกหางจิ้งจอกสีขาวโจมตีถอยออกมาก็ส่ายไหวกลางอากาศใกล้ๆ ครั้งหนึ่งแล้วก็พัดเข้าใส่เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางจากทิศทางอื่นอีกครั้ง ต่อให้เงาสีขาวขยับตบอย่างบ้าคลั่งมันก็ไม่ผละออกจากบริเวณใกล้ๆ เลย ตั้งแต่ต้นจนจบ


เสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้นไม่ขาดสาย!


เสี้ยววิญญาณปีศาจจิ้งจอกจนปัญญาได้แต่ใช้หางขวางพายุหมุนสีน้ำเงินนี้ต่อ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ยืดเยื้อจัดการกันไม่ลงอยู่ชั่วขณะ


หลิ่วหมิงเผชิญหน้ากับหญิงสาวเก้าหางที่ฝ่าออกมาจากการกั้นขวางของอสนีบาตอีกครั้ง แต่เขาไม่ต่อสู้กับนางซึ่งหน้า เขาเพียงกระตุ้นปีกเนื้อสีเงินบนแผ่นหลังอ้อมวนในระยะร้อยกว่าจั้งโดยมีเงาเชอฮ่วนเป็นศูนย์กลาง


แต่เห็นชัดว่าเขาประเมินความเร็วของคู่ต่อสู้ด้านหลังต่ำเกินไปอยู่บ้าง แม้เขามีประสบการณ์การเผชิญหน้ากับศัตรูแข็งแกร่งในแดนมายามานับไม่ถ้วน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่เคลื่อนไหวประหนึ่งภูตพรายก็ได้แต่ฝืนต้านไว้อย่างยากลำบาก ผ่านไปครู่เดียวบนร่างเขาก็มีรอยแผลลึกตื้นไม่เท่ากันเพิ่มมาอีกสิบกว่ารอย


ขณะที่หลิ่วหมิงลอบขมวดคิ้วอยู่นั่นเอง สถานการณ์ยืดเยื้อตัดสินกันไม่ได้ระหว่างเชอฮ่วนกับวิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย


เมื่อเวลาผ่านไปวิญญาณปีศาจที่เชอฮ่วนดูดเข้าไปไว้ในร่างก็ค่อยๆ ถูกมันกลืนเข้ากับตัวเองอย่างสมบูรณ์ ปราณของมันจึงเริ่มเพิ่มขึ้นทีละน้อย


ส่วนเสี้ยววิญญาณของปีศาจจิ้งจอกเนื่องจากพลังอันเป็นมรดกของตัวมันเองถูกหญิงสาวเผ่าปีศาจดูดกลืนพลังงานไปเกินกว่าครึ่ง ผนวกกับวิชาเนตรที่ต้องใช้บังคับการเคลื่อนไหวของสตรีนางนี้กินพลังอย่างน่าตะลึงยิ่งนัก ปราณจึงกลับเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ


เสียง “บึ๊ม” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง


ผิวของเงาเชอฮ่วนฉายแสงจิตวิญญาณวูบหนึ่ง ทันใดนั้นเท้าทั้งสี่ก็กระทืบพื้นกลายเป็นแสงสีน้ำเงินดวงหนึ่งฝ่าทะลุการป้องกันของหางจิ้งจอก พุ่งเข้าชนร่างของเสี้ยววิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางอย่างแรงจนมันปลิวไปในครั้งเดียว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)