ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 884-897

 ตอนที่ 884 ไม่สามารถทำให้คุณย่าเลอะเลือนได้อีก


ไม่ใช่แค่เพียงเหมยเหมยที่คิดแบบนี้ พวกจ้าวเสวียหลินและสยงมู่มู่ก็คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น


สำหรับผู้ชายแล้ว เรื่องที่อัปยศอดสูที่สุดคืออะไร?


ก็คือการโดนสวมเขาคบชู้นั่นเอง……


อีกทั้งเขาที่หวงอวี้เหลียนสวมให้กับโอหยางเซี่ยงหมิงยังเป็นคนกันเองอีก ไม่แน่ว่าตอนกลางวันเพิ่งจะขึ้นเตียงกับลูกชายของเขา พอถึงตอนเย็นก็มาบริการคนพ่อ ไม่ให้ขาดตกบกพร่องทั้งสองฝ่าย!


อีกทั้งเขาที่ถูกสวมก็ไม่ได้ขายแค่คนกันเองเท่านั้น แต่จำนวนการขายกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นกลายเป็นของที่ผลิตออกมาเป็นยี่ห้อ  และกลายเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต


โอหยางเซี่ยงหมิงคิดอยากจะลืมก็ทำไม่ได้……


พื้นที่เงามืดในใจของเขา……แค่คิดก็รู้แล้ว……


ถ้ากระทั่งเรื่องนี้ยังสามารถทนต่อไปได้ล่ะก็……


“ถ้าอย่างนั้นตาเฒ่าที่โดนสวมเขาคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์!” สยงมู่มู่ฟันธง


คนอื่นๆต่างก็พยักหน้า ไม่มีใครไม่เห็นด้วย


รูปภาพของหวงอวี้เหลียนกับข่าวลือเรื่องมารหัวขนของโอหยางซานซาน แน่นอนว่าเล่าลือมาถึงบ้านตระกูลจ้าวเช่นกัน คุณปู่ดูรูปภาพที่ไม่น่าดูในมือ คิ้วขมวดกองรวมกัน  ใบหน้าดูรังเกียจ


“รูปภาพพวกนี้ใครเป็นคนเผยแพร่ออกมา?” คุณปู่ถาม


เขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะแก้แค้นให้หลานสาวยังไง รูปภาพพวกนี้ก็ออกมาแล้ว สวรรค์ช่วยเขาจริงๆ!


รูปภาพพวกนี้เป็นจ้าวเสวียเอ๋อร์เอากลับมา เขารีบทำเรื่องร้านอาหารเสร็จ กลับบ้านมาก็พบว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว น้องคนเล็กโดนคุณย่าบีบบังคับจนออกจากบ้านไป แล้วยังพูดว่าจะไม่กลับมาแล้วใส่ด้วย


เขาให้น้องชายจ้าวเสวียกงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงหลายวันที่ผ่านมา ช่างหมดคำพูดกับความเลอะเลือนของคุณย่าตัวเองเสียจริงๆ


ถึงแม้ว่าลูกพี่ลูกน้องคนเล็กจะพูดรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่มูลเหตุก็คือคุณย่า


ลำเอียงเอาแต่คนอื่น อย่างมากที่สุดก็ควรเลือกลูกหลานในตระกูลของตัวเอง แต่ว่าพอออกไปข้างนอก คุณย่าตัวดีกลับเห็นขี้ดีกว่าไส้เห็นคนอื่นดีกว่าญาติพี่น้อง ลำเอียงเข้าข้างตระกูลโอหยางเสียอย่างนั้น


น้องคนเล็กไม่โมโหสิถึงจะแปลก!


จ้าเสวียเอ๋อร์ก็ไม่มีเวลาจะทำร้านอาหาร จึงสายเลือดในตัวเขาเองทวงคืนความยุติธรรมแทนน้องคนเล็กของเขา แต่ว่าการแสดงออกของเหมยเหมยก็ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่


โอหยางซานซานโดนคนทุบตี แถมยังถูกโยนทิ้งไว้ที่ถนนใหญ่ทางตะวันออกให้คนมุงดู  ไปไกลจนถึงขั้นมีข่าวเล่าลือแพร่ออกมาว่าโดนคนฉุดไป ถึงแม้ว่าลูกพี่ลูกน้องคนเล็กจะปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่าไม่ได้ทำ แต่เขารู้


คนที่ทำเรื่องพวกนี้จะต้องเป็นน้องคนเล็กอย่างแน่นอน


เด็กน้อยคนนี้ค่อยๆแก้แค้นไปทีละคนแล้ว!


แต่ตอนที่หวงอวี้เหลียนเพิ่งจะทำการตอบโต้สู้กลับ รูปภาพร้อนแรงและข่าวลือพวกนั้นก็ปรากฏออกมา เหมือนคลื่นกระทบคลื่นใส่กัน ทำเอานางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างหวงอวี้เหลียนรับมือไม่ทัน เวลามาบรรจบกันพอดี


นี่ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ คนที่เผยแพร่รูปภาพพวกนี้และข่าวลือ เป็นลูกพี่ลูกน้องคนเล็กของเขาที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัยอะไร!


แต่จ้าวเสวียเอ๋อร์กลับไม่กล้าเชื่อว่าจะเป็นเหมยเหมยที่ทำ


เธอเป็นแค่เด็กน้อยจะเอาความสามารถมากขนาดนี้มาจากไหน?


จ้าวเสวียเอ๋อร์ส่ายหัว “ไม่ชัดเจนว่าเป็นใครทำ คิด ๆ แล้วน่าจะเป็นคนที่ไม่ลงรอยกับหวงอวี้เหลียนแหละ แต่ก็ถือว่าช่วยเหลือพวกเราอย่างใหญ่หลวง”


คุณปู่พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่  ช่วยประหยัดเวลาพวกเราได้ไม่น้อย ตระกูลโอหยางช่างเละเทะสิ้นดี สุดจะบรรยายจริงๆ!”


จ้าวเอ๋อร์คิดไปคิดมาจึงพูดออกมา “คุณปู่ครับ คุณปู่ควรจะตัดสินใจมุ่งมั่นอบรมสั่งสอนคุณย่าให้ดี เมื่อก่อนคุณป้ามักจะพูดว่าหวงอวี้เหลียนทำผิดต่อคุณลุง ตอนที่คุณลุงยังไม่ตายก็ออกไปทำเรื่องพรรค์นั้นกับผู้ชายคนอื่น แต่คุณย่ากลับไม่ยอมเชื่อมาตลอด ทำร้ายจนคุณป้ากับพี่หนิงต้องไปอยู่ที่เมืองจิน และไม่ยอมกลับมาอีก”


เขาเห็นสายตาของคุณปู่เคร่งขรึมลง ก็พูดต่อไปว่า “ตอนนี้คุณย่าบีบเหมยเหมยออกไปก็เป็นเพราะหวงอวี้เหลียนอีก ถ้าหากคุณปู่ยังตามใจคุณย่าที่ทำผิดเลอะเลือนอย่างไร้เหตุผลต่อไป คุณปู่ก็รอครอบครัวของพวกเราแตกแยกกันเถอะครับ!”


คำพูดพวกนี้เขาคิดอยากจะพูดนานแล้ว เพียงแต่ว่าไม่มีจังหวะที่เหมาะสมสักที ตอนนี้เหมยเหมยระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว จ้าวเสวียเอ๋อร์ไม่ยอมอดทนอีกต่อไปแล้ว


หากให้คุณย่าพูดจาไม่เหมาะไม่ควรเลอะเลือนอีก ตระกูลจ้าวคงต้องแตกหักกันหมดแล้วจริงๆ!


……………………………………….


ตอนที่ 885 หัวใจเล็กกว่าปลายเข็ม


จ้าวเสวียเอ๋อร์พูดความในใจเสร็จ เขาก็มองคุณปู่ที่กำลังทำสีหน้าครุ่นคิดแล้วก็ลุกขึ้นจากไป ยกห้องหนังสือให้คุณปู่ คิดทบทวน


ถึงอย่างไรก็ผ่านอุปสรรคขวากหนามมาตั้งหลายสิบปี  อีกทั้งภรรยาก็ยังผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน เพียงแต่หวังว่าครั้งนี้คุณปู่จะสามารถตัดสินใจได้จริงๆเสียที!


คุณปู่กลับไม่ได้ใคร่ครวญนานนัก   ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ออกมาแล้ว เขาอยากจะไปพูดคุยกับภรรยา  เป็นอย่างที่ลูกชายคนเล็กและหลานทั้งสามพูดไม่ผิด จะให้ภรรยาพูดจาเลอะเลือนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว


จะให้ความผิดพลาดอย่างปีนั้นเกิดซ้ำรอยขึ้นไม่ได้อีก!


เวลานี้ตระกูลจ้าวโดนโจมตีทั้งหน้าและหลัง  จะเกิดความขัดแย้งขึ้นภายในไม่ได้เด็ดขาด เขาจะต้องสั่งสอนสักครั้งแล้ว!


เพียงแต่คุณย่าที่ปกติแล้วไม่ชอบออกบ้าน วันนี้กลับไม่อยู่ที่บ้าน ใครก็ไม่รู้ว่าเธอไปไหน เป็นพ่อครัวหยวนที่บอกว่าคุณย่าออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว ตอนนั้นเขาไปจ่ายตลาดกลับมาพอดี


เดิมทีคุณปู่ยังคิดจะสั่งสอนคุณย่า เวลานี้คงต้องยอมแพ้ไปก่อน รอคุณย่ากลับมาค่อยว่ากัน


เหมยเหมยเกาะติดอยู่ข้างโทรศัพท์ทั้งวัน คนของเหยียนหมิงซุ่นจะโทรมาหาเธอทุกชั่วโมง รายงานสถานการณ์ของบ้านตระกูลโอหยาง


โอหยางเซี่ยงหมิงยังรอผลการตรวจอยู่ที่โรงพยาบาล  วันนี้เขาขอลางานแล้ว คิดไปคิดมาก็คงไม่มีกะจิตกะใจทำงานแล้วมั้ง


โอหยางเซี่ยงหมิงเพิ่งออกจากบ้านไป หวงอวี้เหลียนก็ออกตามหลังมา แถมยังพาโอหยางซานซานมาด้วย  ไม่รู้ว่าพวกเธอไปไหนกัน


แต่ว่าเหมยเหมยก็รู้ในไม่ช้า ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นโทรศัพท์มารายงานแล้ว


คาดไม่ถึงว่าหวงอวี้เหลียนจะไปพบกับคุณย่า ทั้งสองคนนัดเจอกันในสวนสาธารณะใกล้บ้าน ผู้หญิงคนนี้กำลังเปิดปากการแสดงการโอดครวญร้องทุกข์กับคุณย่า!


แน่นอนว่ายังมีโอหยางซานซานที่ร้องห่มร้องไห้อย่างน่าเวทนาเช่นกันอีกด้วย!


หัวใจของคุณย่าคงจะแตกสลายหมดแล้วมั้ง!


เหมยเหมยส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา ช่างเป็นแม่ลูกที่กตัญญูกตเวทีอะไรขนาดนี้  ทำไมสองปีก่อนเธอถึงได้ไม่สังเกตเห็นพฤติกรรมของคุณย่าแบบนี้นะ!


ถ้ารู้เร็วกว่านี้ล่ะก็  ทำไมเธอต้องกลุ้มอกกลุ้มใจเพื่อหายาชั้นดีมารักษาร่างกายคุณย่าผู้เลอะเลือนด้วยเล่า?


เธอทุ่มเททั้งจิตใจและแรงกายเพื่อรักษาร่างกายของคุณย่าให้แข็งแรงดั่งวัวควาย  บัดนี้กลับไปช่วยคนนอกมาจัดการตัวเธอเอง เปรียบเสมือนตัวเธอย้ายก้อนหินมาโยนทับเท้าตัวเองเสียจริง!


เหมยเหมยคิดไปคิดมา ถามถึงสถานที่ที่คุณย่าและหวงอวี้เหลียนนัดเจอ แล้วก็หันไปถามหาเอากล้องโพลารอยด์กับเซียวเซ่อ


“มีละครสนุกๆอีกแล้ว?” เซียวเซ่อมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาเป็นประกายลุกวาว


เหมยเหมยส่งเสียงหึอย่างเย็นชา “คุณย่าของฉันนัดเจอกับหวงอวี้เหลียนที่สวนสาธารณะ ไม่แน่อาจจะกำลังปรึกษากันก็ได้ว่าจะจัดการกับฉันอย่างไรดี!”


เซียวเซ่อส่งเสียงเยาะเย้ยออกมาว่า “ยายแก่เลอะเลือน!”


“พี่ชายก็ไปด้วยกันกับฉันเถอะ  ถือโอกาสเป็นพยานให้ฉัน ถึงเวลานั้นจะได้ไม่พูดว่าฉันใส่ร้ายป้ายสีใครอีก”


เหมยเหมยเตรียมของทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว  เสียดายก็แต่สมัยนี้เทคโนโลยีล้าหลังจนเกินไป ถ้าหากมีปากกาอัดเสียงหรือว่าสมาร์ทโฟนล่ะก็ เธอคงสามารถจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวได้


เธอเกลียดหวงอวี้เหลียนนั่นจริง ๆ  แต่กลับรังเกียจคุณย่าที่ช่วยคนเลวทำชั่วมากกว่า


ในมุมมองของเธอ  คุณย่าน่ารังเกียจยิ่งกว่าหวงอวี้เหลียนเสียอีก เพราะหวงอวี้เหลียนเป็นคนนอก เธอทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แน่นอนว่าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องด้วยกล ใครแพ้ใครชนะก็ต้องอาศัยฝีมือความสามารถหยั่งเชิงกันเท่านั้น!


แต่คุณย่ากลับเป็นคุณย่าแท้ ๆ ของเธอนะ!


ตอนที่หวงอวี้เหลียนยังไม่ปรากฏตัว กลับทำดีมีเมตตาและอ่อนโยนต่อเธอเป็นอย่างมาก แต่พอหวงอวี้เหลียนใช้อุบายนิดหน่อย คุณย่าก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทาง กลายเป็นผู้ช่วยหวงอวี้เหลียนในการก่อกรรมทำชั่ว พูดจาและปฏิบัติต่อเธออย่างไม่ไว้หน้า


เชอะ ก็แค่ความรักของครอบครัวเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น   วันหลังเธอจะไม่หวงแหนมันอีกต่อไปแล้ว!


ครั้งนี้จะต้องตบหน้าคุณย่าสักฉาดให้เสียงดังกังวานกันไปเลย!


หัวใจของเธอเล็กกว่าปลายเข็มเสียอีก ใครทำผิดกับเธอ เธอก็จะจัดการคนนั้น!


สนที่ไหนเล่าว่าคนนั้นจะเป็นใคร!


…………………………………………


ตอนที่ 886 ร้องทุกข์น้ำตานองหน้า


ในสวนคุณย่ากำลังมองสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนตรงหน้าที่ถูกทำร้ายร่างกายอย่างสงสาร ตอนเช้าเพิ่งจะตื่นขึ้นมา เธอก็ได้รับโทรศัพท์ที่หวงอวี้เหลียนโทรเข้ามา ร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอก็ร้อนใจรีบร้อนวิ่งออกมา


“นี่มันอะไรกัน? ทำไมโดนตีจนกลายเป็นแบบนี้?”


คุณย่าแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง สองคนที่หน้าบวมปูดเหมือนหมูที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากตรงหน้า ต่อให้จะเป็นแม่ลูกหวงอวี้เหลียนที่แต่งตัวสวยงามเหมือนในยามปกติก็ตาม


“คุณป้า เซี่ยงหมิงเขาโหดเหี้ยมมาก ไม่เพียงแค่ตบตีฉัน แต่ยังตีซานซานอีก ฉันสงสารซานซาน คุณป้าดูสิตกใจจนทึ่มทื่อไปหมดแล้ว”


หวงอวี้เหลียนโอบกอดลูกสาวด้วยความปวดใจ นึกถึงความโหดเหี้ยมไร้สติของโอหยางเซี่ยงหมิงเมื่อคืนวาน เธอก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที


เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย คนซื่อๆพอบ้าคลั่งขึ้นมา จะน่ากลัวเช่นนี้……


ในยามปกติแม้แต่คำพูดล่วงเกินแรง ๆ ก็ยังตัดใจพูดใส่พวกเธอสองแม่ลูกไม่ลง แต่เมื่อคืนวานกลับมาทุบตีพวกเธอเกือบตาย ถ้าหากไม่ใช่เพื่อนข้างบ้านมาห้ามไว้ล่ะก็ วันนี้เธอคงลงจากเตียงไม่ไหวแน่นอน


เมื่อเช้าโอหยางเซี่ยงหมิงก็ออกไปตั้งแต่เช้า ด้วยใบหน้าขึงขังน่ากลัว หวงอวี้เหลียนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี แต่กลับรู้สึกว่าได้ว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ร้ายแรงขึ้นแน่ ๆ


โอหยางปินยังไม่กลับมา ไม่มีใครให้เธอปรึกษา


แต่เธอจะต้องหาใครสักคนมาช่วยออกหน้าแทนเธอ  คนตระกูลโอหยางไม่ต้องพูดถึง พวกบ้านั่นเอาแต่เฝ้าแต่ภาวนาให้เธอเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น คิดไปคิดมาหวงอวี้เหลียนจึงนึกถึงคุณย่า


โอหยางเซี่ยงหมิงที่ขี้ขลาดอ่อนแอแบบนั้น  อยู่ดี ๆ ก็เป็นบ้าขึ้นมาแสดงว่าจะต้องมีคนเป่าหูยุแหย่แน่นอน


หวงอวี้เหลียนรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นนังแม่ผัวใจร้ายนั่น ตั้งแต่เธอแต่งเข้ามาจนถึงตอนนี้  ไม่มีวันไหนที่แม่ผัวคนนี้จะไม่คิดอยากขับไสไล่ส่งเธอออกไป


เหอะ รอให้เธอผ่านสถานการณ์เบื้องหน้านี้ไปให้ได้ก่อนเถอะ วันหลังจะจัดการนังแม่ผัวนั่นแน่นอน!


หวงอวี้เหลียนไม่ได้รีบร้อนอะไรมาก เธอยังไม่รู้ว่าเรื่องสกปรกของตัวเองนั้นได้สำแดงออกมาแล้ว เพียงแค่คิดอยากจะให้คุณย่าช่วยไกล่เกลี่ยก็เท่านั้น โอหยางเซี่ยงหมิงจะต้องฟังคุณย่าแน่นอน


ไม่ถึงจนใจจริงๆ เธอก็ยังไม่อยากโยนไพ่ใบสุดท้ายที่ยังไม่เปิดในมือทิ้งนะ!


พวกเหมยเหมยก็มาถึงสวนสาธารณะอย่างรวดเร็ว พวกเขาหลบอยู่หลังพุ่มไม้ที่ไม่เพียงแต่จะได้ยินเสียงพวกคุณย่าพูดคุยกันเท่านั้น มุมในการมองเห็นก็ไม่เลว สามารถถ่ายพวกเขาทั้งสามคนได้อย่างชัดเจน


เธอก็ไม่ได้ถ่ายไว้เยอะ ถ่ายไว้แค่เพียงสามใบ เพื่อเป็นหลักฐานก็เท่านั้น ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บไว้เยอะแยะ


ฟิลม์กล้องโพลาลอยด์แพงมากๆ ในประเทศยังหาซื้อไม่ได้ เธอต้องประหยัดแทนเซียวเซ่อหน่อย!


หวงอวี้เหลียนที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิด ยังร่ำไห้ร้องทุกข์สะอึกสะอื้นอยู่กับคุณย่า


“คุณป้าคะ พ่อแม่ของฉันก็เสียไปนานแล้ว แม่สามีก็ได้แต่เฝ้าภาวนาให้เซี่ยงหมิงหย่ากับฉัน มีแค่เพียงคุณป้าเท่านั้นที่ดีกับฉันจริงๆ  ฉันทุกข์ทรมานใจมาก……คุณป้า……คุณป้าต้องช่วยพูดแทนฉันทีนะคะ……”


หวงอวี้เหลียนฟุบอยู่ในอ้อมกอดของคุณย่า ร้องห่มร้องไห้ราวกับพ่อแม่ล้มหายตายจาก โอหยางซานซานก็ร้องไห้ใหญ่โต ร้องจนดวงใจของคุณย่าละลายไปหมดแล้ว และยิ่งเกิดอารมณ์ภูมิใจในตัวเองขึ้นมา


เพราะว่าเธอคือเสาสำคัญหนึ่งเดียวของสองแม่ลูกตรงหน้า!


พอเกิดเรื่องก็นึกถึงเธอ


คนในครอบครัวมักจะบ่นว่าเธอขอบทำเรื่องผิดพลาดเลอะเลือนอยู่เรื่อย  แต่ละคนตาบอดกันไปหมดแล้ว มองไม่เห็นถึงความเฉียบแหลมและความสามารถของเธอ  มีแต่หวงอวี้เหลียนที่เห็นได้อย่างชัดเจน


“เฮ้อ เซี่ยงหมิงหูก็เบาเกินไปหน่อย ทำไมถึงลงไม้ลงมือกับภรรยาและลูกสาวได้นะ ช่างเหลืออดจริงๆ!”


คุณย่าโมโหมาก เรื่องที่เธอรับไม่ได้ที่สุดก็คือผู้ชายตบตีผู้หญิง  โดยเฉพาะมาตบตีคนที่เธอรักใคร่เหมือนลูกสาวอย่างหวงอวี้เหลียน และคนที่เป็นเหมือนหลานสาวสุดที่รักอย่างโอหยางซานซานด้วย


“……มีแค่เพียงคุณป้าที่รักใคร่เอ็นดูฉันและซานซาน……แม้กระทั่งบ้านพวกเราเองก็ยังไม่กล้ากลับ……กลัวเซี่ยงหมิงเกิดบ้าขึ้นมาแล้วตบตีอีก……”


หวงอวี้เหลียนก็ยิ่งร้องไห้เสียใจ น้ำตาไหลรินหยดลงบนดอกไม้


……………………………………….


 ตอนที่ 887 แตกหัก


คุณย่ายากที่จะอดทนได้  คิดไปคิดมาเลยพูดว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พวกเธอสองแม่ลูกกลับบ้านไปก่อน ตอนเย็นฉันจะมาอีกที ฉันจะพูดคุยด้วยเหตุผลกับเซี่ยงหมิงดูแล้วกัน”


“คุณป้าช่างดีจริงๆ……”


หวงอวี้เหลียนดีใจยกใหญ่ เบาใจลงมาเยอะ ไม่เสียแรงที่เธอบีบน้ำตาออกมาเยอะขนาดนั้น


เหมยเหมยมองพลางกัดฟันกรอด ยิ้มเยาะไม่หยุด หัวเราะจนจ้าวเสวียหลินขนลุกในใจ เขาไม่อยากเห็นน้องสาวเย็นชาแบบนี้เลย


เขารู้ว่าน้องสาวโดนหวงอวี้เหลียนและคุณย่าทำให้โกรธโมโห  เขาเองก็โมโหมากเช่นกัน


หวงอวี้เหลียนก็ไร้ยางอายเหลือเกิน คุณย่าก็เลอะเลือน ร่วมมือกันรังแกเหมยเหมยของเขา


ครั้นหวงอวี้เหลียนทำงานใหญ่สำเร็จแล้วก็เตรียมตัวกลับบ้านกับโอหยางซานซาน คุณย่าก็ยังอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้ไป เหมยเหมยที่มองดูอยู่กัดฟันอีกครั้ง


เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป แหวกพุ่มไม้ออกมา บังเอิญสกัดสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนไว้พอดี จ้าวเสวียหลินและสยงมู่มู่ก็ตามออกมาด้วย


หวงอวี้เหลียนถอดสี มองพวกเขาอย่างตกตะลึง


“คุณป้าคะ หลานสาวและหลานชายของคุณป้าแอบสะกดรอยตามคุณป้ามาค่ะ!” หวงอวี้เหลียนคนชั่วเปิดปากฟ้องก่อนเลย หันไปร้องเรียกคุณย่าที่อยู่ด้านหลัง


เดิมทีคุณย่ายังไม่ได้คิดเยอะ ตอกแรกยังหวาดผวาอยู่บ้างแล้ว หลังจากได้ยินคำพูดพวกนั้นก็ปะทุความโกรธออกมา เธอเกลียดนักพวกคนชั่วที่ทำตัวลับๆล่อๆ  เหมือนคนขายชาติไม่มีผิด


“ใครใช้ให้พวกเธอสะกดรอยตามฉันมา เป็นความคิดของเหมยเหมยอีกแล้วใช่ไหม?”


คุณย่าทำน้ำเสียงเข้มและสีหน้าดุดัน ถลึงตาใส่เหมยเหมย ในใจเอาแต่คิดว่าเหมยเหมยทำหลานชายดี ๆ ของเธอเสียคนหมด


โดนเหมยเหมยกระด้างกระเดื่องหลายต่อหลายครั้ง  ความรักความผูกพันที่คุณย่ามีต่อเหมยเหมยนั้นก็เหลือน้อยลงเต็มทีแล้วจนเข้าขั้นมีใจรังเกียจเสียด้วยซ้ำ เอาแต่คิดว่าถึงอย่างไรก็ไม่ได้เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ ทำดีต่อเธอไปก็ไร้ประโยชน์ เสียแรงที่ให้ใจไปเสียเปล่า!


เหมยเหมยส่งเสียงหัวเราะเยาะ ขี้เกียจแก้ต่างให้ตัวเอง


จ้าวเสวียหลินกลับทนฟังต่อไปไม่ไหว พูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณย่าทำไมอะไรอะไรก็โทษเหมยเหมย? เป็นผมที่อยากมาเอง”


คุณย่ากลับไม่เชื่อ ยังคงถลึงตาใส่เหมยเหมย พูดตำหนิว่า “เสวียหลินหลานอย่าพูดแก้ตัวแทนนังเด็กนั่นเลย จะต้องเป็นความคิดของเด็กนี่แน่ๆ นังเด็กสมควรตายนี่ถ้าไม่ขัดฉันสักวันคงจะคันเนื้อคนตัวจนตายเลยสินะ  คาดไม่ถึงว่าตอนนี้จะกล้าสะกดรอยตามฉันมา ในสายตาของแกยังนับถือคนอย่างฉันเป็นผู้ใหญ่อยู่บ้างไหม?”


เดิมทีเหมยเหมยก็ไม่อยากจะโต้เถียงกับคุณย่า แต่คุณย่าเลอะเลือนนี่ยิ่งพูดก็จะยิ่งล้ำเส้นเกินไปแล้ว เธอสามารถอดทนได้สิถึงจะแปลก!


“ที่นี้เป็นสวนสาธารณะ หนูอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป หนูว่าเป็นเพราะคุณย่าทำเรื่องที่น่าละอายใจ ถึงได้กังวลว่าจะมีคนสะกดรอยตามล่ะสิ!” เหมยเหมยโต้ตอบกลับไป ไม่อ่อนข้อเลยแม้แต่น้อย


หวงอวี้เหลียนใจเต้นนึกขึ้นมาได้ ตั้งใจพูดขึ้นมาว่า “คุณป้า หลานสาวของคุณป้าคนนี้ปากคอช่างเหลาะร้ายจริงๆเลยนะคะ ไม่ยอมลดลาวาศอกให้คุณป้าเลยสักนิด!”


อารมณ์โมโหของคุณย่าพุ่งปรี๊ดขึ้นมา พ่นลมหายใจฮึดฮัด มือค่อยๆยกขึ้นมา หวงอวี้เหลียนดีใจยกใหญ่ มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าตัวเองจะสามารถตบหน้านังสารเลวนี่ได้ด้วยตัวเอง


จ้าวเสวียหลินก้าวขึ้นมาข้างหน้า ดันเหมยเหมยไปด้านหลังเพื่อปกป้อง มองหวงอวี้เหลียนอย่างรังเกียจ “ก่อนที่คุณนายโอหยางจะมีกะจิตกะใจมาสนใจใส่ใจน้องสาวของผม ก็ควรไปจัดการเรื่องของตนเองให้ไร้มลทินก่อนเถอะ!”


เหมยเหมยมองหวงอวี้เหลียนที่ยังไม่รู้ตัวอย่างเย็นชา จงใจพูดว่า “พี่ชายจะพูดกับผู้หญิงที่ชอบมั่วผู้ชายหน้าไม่อายไปทำไม พี่ไม่กลัวว่าจะทำให้ชื่อเสียงของตระกูลพวกเรามัวหมองหรอ”


สยงมู่มู่ก็พูดเสริมขึ้นว่า “นั่นสิ ผู้หญิงที่หน้าไม่อายแบบนี้ แค่ฉันคิดว่าต้องใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเดียวกับเธอ ก็รู้สึกรังเกียจสะอิดสะเอียนจะแย่แล้ว โอ้ย ฉันอยากขย้อนข้าวเมื่อเช้าออกมาอยู่แล้ว!”


หวงอวี้เหลียนใจหล่นไปถึงตาตุ่ม คนพวกนี้ดูท่าทีแปลกๆ พวกเขารู้อะไรกันมานะ?


“คุณป้าคะ คุณป้าดูสิคะ หรือว่าที่เซี่ยงหมิงตบตีฉันเป็นเพราะพวกเขาพูดใส่แบบนี้ แล้วฉันยังจะเหลือชื่อเสียงอะไรอีก……” หวงอวี้เหลียนจับขาของคุณย่าเอาไว้แน่น มารยาร้อยเล่มเกวียน


คุณย่าโมโหขึ้นมาอีกครั้ง เหมยเหมยกลับไม่ให้โอกาสเธอเปิดปาก ยิ้มเยาะพูดออกมาว่า “หวงอวี้เหลียน เธอไม่รู้จริงๆเหรอว่าทำไมเมื่อคืนวานผู้ชายของเธอถึงต้องตบตีเธอ? ทำไมเธอถึงได้กลายเป็นคนโง่ดักดานขนาดนี้นะ?”


……………………………………..


ตอนที่ 888 เธอเป็นลูกนอกสมรส


หวงอวี้เหลียนใจหล่นไปถึงตาตุ่ม คำพูดของเหมยเหมยมีความหมายอื่นแฝงอยู่ ทั้งยังสายตาที่ดูถูกของพวกจ้าวเสวียหลินอีก ทำให้เธอรับรู้ถึงความผิดปกติขึ้นได้


เรื่องราวเหมือนจะ —— ไม่ธรรมดาเหมือนที่เธอคิดเอาไว้ขนาดนั้นเสียแล้ว


หรือว่าจะเป็น……


หวงอวี้เหลียนไม่กล้าคิดต่อไปอีก เธอกลัวว่าจะคาดเดาเรื่องที่เลวร้ายที่สุดได้อย่างแม่นยำ แต่เธอก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว คงจะไม่ใช่หรอก เธอไปมาหาสู่กับโอหยางปินทุกครั้งก็ปิดบังเป็นความลับมาเป็นอย่างดี ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ก็ยังไม่มีใครจับได้เลย


ตอนนี้ก็คงไม่มีใครรู้เหมือนเคย!


จะต้องไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน!


ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเรื่องอื่น หวงอวี้เหลียนสงบสติลงมาได้บ้าง หลังจากแต่งงานเธอก็มีความสัมพันธ์วู้สาวกับแค่โอหยางปินคนเดียว ผู้ชายคนอื่นเป็นเรื่องอดีตทั้งนั้น ต่อให้โอหยางปินสืบหาได้ เธอก็ไม่กลัว


เรื่องราวก่อนแต่งงานนั้นจะนับอะไรได้  ไร้สาระ!


เพียงแต่——


เหมยเหมยกลับไม่ให้เธอผ่านไปอย่างง่ายดาย เธอแน่วแน่มากว่าจะให้คุณย่าเห็นธาตุแท้ของนังสารเลวนี่กับตาตัวเอง!


“หวงอวี้เหลียน เมื่อคืนวานที่โดนตบตีรสสัมผัสดีไหมล่ะ? โอ้ย แม้กระทั่งลูกสาวสุดที่รักก็โดนตีไปด้วย หน้าบวมเป่งขนาดนี้ นี่ยังเป็นพ่อแท้ๆอยู่ไหมเนี่ย?”


เหมยเหมยเหมือนกับว่าเพิ่งจะเห็นโอหยางซานซาน ส่งเสียงเรียกด้วยน้ำเสียงเกินกว่าเหตุไปมาก หน้าตาดูยินดีในความทุกข์ของคนอื่นสุด ๆ


เซียวเซ่อกอดอกอย่างเท่ๆ แค่นเสียงหึใส่ไปทีแล้วพูดว่า “ไร้สาระ ลงมือรุนแรงขนาดนี้ จะต้องไม่ใช่พ่อแท้ๆร้อยเปอร์เซ็นต์!”


สยงมู่มู่สมทบทันที “นั่นสิ พ่อแท้ๆคงจะตัดใจลงมือรุนแรงขนาดนี้ไม่ได้หรอก อ่อ ฉันรู้แล้ว โอหยางซานซานเธอจะต้องไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อเธอแน่เลย  เธอจะต้องเป็นลูกนอกสมรสที่แม่เธอแอบไปคลอดที่อื่นมาแน่นอน!”


หวงอวี้เหลียนที่โดนพูดจี้ใจดำเข้า ใบหน้าก็ซีดขาวในทันที ดึงลูกสาวเข้ามากอดอย่างไม่รู้ตัว


เรื่องที่ซานซานไม่ใช่ลูกสาวของโอหยางเซี่ยงหมิง บนโลกใบนี้มีแค่เธอคนเดียวที่รู้เท่านั้น แม้กระทั่งโอหยางปินยังไม่รู้เลย


เธอเป็นคนยั่วยวนโอหยางปินก่อน เดิมแค่เจตนาแค่อยากจะยืมสายเลือดตระกูลโอหยางในตัวของเขาก็เท่านั้น แต่ด้วยโอหยางปินพูดจาดีออดอ้อนคำหวานเป็น  เธอถึงได้รักษาความสัมพันธ์กับผู้ชายคนนี้มาโดยตลอด


เพราะว่าโอหยางซานซานมีกลิ่นตัวที่เหม็นมาก และเพราะเมื่อคืนวานเป็นครั้งแรกที่โดนทุบตี แถมคนที่ทุบตีก็ยังเป็นพ่อที่ในยามปกติแล้วรักเธอเหมือนแก้วตาดวงใจ ไหนเลยเธอจะคิดออก ใจแทบจะแตกสลายอยู่แล้ว


ตอนนี้พวกเซียวเซ่อยังพูดจากระแหนะกระแหนเหน็บแนมเธอ โอหยางซานซานก็ยิ่งรับไม่ได้ ร้องโฮขึ้นมาอย่างเสียการควบคุม


“พวกแกพูดจาเลอะเทอะ ฉันไม่ใช่ลูกนอกสมรส จ้าวเหมยสิถึงจะเป็นนังลูกนอกสมรส มันน่ะมั่วกับผู้ชาย มันยังเคยทำแท้งอีกด้วย มัน……”


โอหยางซานซานส่งเสียงแหลมปรี๊ด พูดจาเพ้อเจ้อ แต่ทุกคนก็ยังสามารถฟังรู้เรื่องอยู่


เหมยเหมยโมโหจนก้มลงไปคว้าหญ้าที่พื้นขึ้นมา พุ่งไปคว้าตัวโอหยางซานซานที่ยังร้องตะโกนอยู่ ยัดหญ้าเข้าไปในปากของเธอ


หวงอวี้เหลียนห้ามไม่ทัน พอเธอได้สติขึ้นมำลังจะตอบโต้กลับ โอหยางซานซานก็โดนเหมยเหมยกระชากตัวออกไปแล้ว


“ลูกนอกสมรสก็คือแก แกมันนังมารหัวขนที่แม่แกแอบไปคบชู้แล้วคลอดออกมา พระเจ้าก็เลยไม่ทนไม่ไหว ดัจนทำให้แกมีกลิ่นตัวเหม็นคละคลุ้งแบบนี้ไงล่ะ  คนที่มั่วผู้ชายก็คือแม่ที่ไร้ยางอายของแกนู่น ตั้งแต่แรกมาถึงตอนนี้นอนกับผู้ชายไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่คน คนที่ทำแท้งไปไม่รู้ตั้งกี่หนเป็นแม่ที่หน้าไม่อายของแกนู่น……”


เหมยเหมยที่โมโหเดือดพล่านเหยียบโอหยางซานซานไว้กับพื้น เหมือนกับที่ห้องเรียนเยาวชนเมื่อหลายวันก่อน เตะเธออย่างโหดเหี้ยม


เดิมทีร่างกายของโอหยางซานซานก็บาดเจ็บอยู่แล้ว อีกทั้งไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน ไม่มีแรงจะต่อสู้กลับอย่างสิ้นเชิง เอาแต่ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด


หวงอวี้เหลียนจ้องมเขม็งด้วยความโกรธ อยากจะไปช่วยลูกสาวกลับมา แต่กลับโดนจ้าวเสวียหลินขวางเอาไว้


“ลูกสาวของคุณพูดจาสกปรกยิ่งกว่าปุ๋ยคอกอีก ให้น้องสาวของผมระบายอารมณ์โมโหเสร็จก่อนค่อยว่ากัน ให้พวกเธอสู้กันเอง ใครก็ห้ามยื่นมือเข้ามายุ่ง!”


หวงอวี้เหลียนอยากพุ่งตัวเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง แต่จ้าวเสวียหลินก็มั่นคงดุจภูเขา เธอหมดปัญญาจะขยับไปไหนทั้งนั้น ทำได้เพียงแต่มองลูกสาวที่โดนจ้าวเหมยทั้งทุบตีเตะต่อย โดยไม่สามารถสู้กลับได้เลยแม้แต่นิดเดียว


……………………………………….


ตอนที่ 889 ดูให้ชัดเจน


“คุณป้า คุณป้ารีบพูดอะไรหน่อยสิคะ……ซานซานโดนตีตายแน่……คุณป้าคะ……”


หวงอวี้เหลียนหันไปขอร้องคุณย่า ตอนนี้เองคุณย่าถึงได้สติกลับมา เมื่อครู่เธอโดนความป่าเถื่อนของเหมยเหมยทำให้ตกใจยกใหญ่ หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เธอก็คงไม่กล้าที่จะเชื่อว่าหลานสาวที่ว่านอนสอนง่ายอ่อนหวานเรียบร้อยในยามปกติ จะตบตีคนได้โหดเหี้ยมขนาดนี้!


คุณย่ารู้สึกว่าๆสิ่งที่ห่อหุ้มตัวของเหมยเหมยอยู่ยิ่งหนาขึ้นเรื่อย ๆ  มองไม่ออกว่าเหมยเหมยเป็นคนอย่างไร!


จ้าวเสวียหลินสกัดกั้นคุณย่าเอาไว้อีก พูดเสียงต่ำว่า “ถ้าผมขวางไว้อยู่ คุณย่าก็ผ่านไปไม่ได้หรอก คุณย่าอย่าเปลืองแรงเปล่า ๆ เลย!”


คุณย่าได้แต่ถลึงตามองด้วยความโมโห คิดอยากจะแสดงอำนาจความเป็นผู้ใหญ่ แต่ครั้งนี้กลับใช้ไม่ได้ จ้าวเสวียหลินเหมือนกับพระที่นั่งสมาธิ ไม่โยนตัวเธอทิ้งไป


ต่อให้ด่าแรงแค่ไหน จ้าวเสวียหลินก็ทำแค่เพียงหน้านิ่งไม่พูดไม่จาสักคำ เธอหมดปัญญาจะจัดการกับจ้าวเสวียหลินตรงหน้า  ทำได้แค่เพียงมองโอหยางซานซานที่ร้องครวญครางเจ็บปวดอยู่ที่พื้นอย่างช่วยไม่ได้


เหล่าคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายที่มากำลังกายตอนเช้าที่สวนสาธารณะ ได้ยินเสียงดังจากทางนี้ก็เริ่มมุงล้อมกันเข้ามา กลับเห็นสาวน้อยสองคนทะเลาะตบตีกันอยู่ ด้านข้างยังมีผู้ใหญ่มองดูอยู่ จึงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก


มีผู้เฒ่าบางคนสายตาดี แค่มองก็ดูออกว่าเป็นเหมยเหมยและโอหยางซานซานกำลังทะเลาะตบตีกัน ในใจก็ประเมินอย่างคร่าวๆ กระซิบกระซาบความรักความแค้นของสาวสองคนนี้กันอย่างเงียบๆ ทุกคนเข้าใจขึ้นมาโดยทันที ส่งสายตามองคุณย่าอย่างไม่เข้าใจ


หลานสาวแท้ ๆ ไม่รัก กลับไปรักใคร่ลูกนอกสมรสของคนอื่น ช่างเลอะเลือนอย่างถึงที่สุดจริงๆ!


มิน่าล่ะหลานสาวแท้ ๆ ถึงได้โมโหจนตีคนปางตาย!


จ้าวเสวียหลินเห็นว่าตีไปได้สักพักแล้ว ก็เปิดปากพูดว่า “เหมยเหมย พอแล้ว!”


เหมยเหมยเตะเข้าไปที่ท้องของโอหยางซานซานอย่างโหดเหี้ยมอีกหนึ่งที ด่าออกมาว่า “วันหลังอย่าพูดจาพล่อย ๆ อีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”


โอหยางซานซานที่กุมหัวเอาไว้ก็มองลอดซอกนิ้วขึ้นมามอง เห็นรอยยิ้มเย็นชาที่มุมปากของเธอ ก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้ เสียววาบไปถึงขั้วหัวใจกระจายไปทั้งร่าง


ถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน แต่เธอกลับรู้สึกหนาวเหน็บ


หวงอวี้เหลียนพุ่งเข้ามายกมือเตรียมจะตบหน้าเหมยเหมยโดยไม่ยั้งคิด เพื่อแก้แค้นแทนลูกสาว


จ้าวเสวียหลินเร็วกว่าเธอ ขวางเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ส่งเสียงเย็นชาว่า “คิดว่าฉันเป็นศพหรือยังไง?”


หวงอวี้เหลียนออกแรงหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถขยับได้ ดิ้นพล่านอยู่ครู่หนึ่ง ก็หันไปขอร้องคุณย่าอย่างไม่ต้องคิด


เหมยเหมยขี้เกียจเสียเวลากับพวกเธอแล้ว   และไม่อยากเห็นใบหน้าเลอะเลือนของคุณย่าอีก เธอจึงหยิบรูปภาพออกมาจากกระเป๋าเป๋ที่เมื่อคืนวานเธอกับเซียวเซ่อพิมพ์ออกมาเพิ่ม


“คุณย่าดูให้ดี ๆ  ดูให้ชัดเจนก็แล้วกัน เพื่อคนชั้นต่ำอย่างหล่อน คุณย่าถึงกับขู่ไล่หลานสาวแท้ๆให้ออกไป คุณย่าช่างเป็นคุณย่าที่ดีของหนูเสียจริงๆ!”


เหมยเหมยไม่อยากสัมผัสตัวของคุณย่า จึงให้จ้าวเสวียหลินส่งต่อไปให้ เธอหันไปยิ้มอย่างมีเลศนัยให้กับหวงอวี้เหลียนที่ยังคงงุนงงสงสัย หยิบออกมาจากกระเป๋าอีกหนึ่งกอง


เอารูปหันไปฟาดใส่หน้าหวงอวี้เหลียน เหมือนดั่งนางฟ้าที่โปรยปรายดอกไม้ลงมา มีอยู่หลายใบที่ตกมาบนตัวของพวกเธอสองแม่ลูก


“คุณนายโอหยางชื่นชมให้เพลิดเพลินนะคะ  ฝีมือระดับการถ่ายภาพของช่างภาพคนนี้ถือว่าไม่เลวเลย ใช่แล้ว โอหยางซานซานเธอก็ตั้งใจดูให้ดีล่ะ เรียนรู้ไว้หน่อย วันหลังเธอก็ใช้วิธีนี้ยั่วยวนผู้ชายได้แล้ว!”


เหมยเหมยไม่ไว้หน้าอะไรทั้งนั้น และไม่คิดว่าการทำให้โอหยางซานซานอับอายจะเป็นเรื่องผิด


ใจอ่อนต่อศัตรูถือว่าเป็นการใจร้ายต่อตัวเอง!


โดยเฉพาะแม่ลูกที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเธอ เธอก็แค่เพียงบอกเล่าความจริงก็เท่านั้นเอง!


เหมยเหมยโปรยรูปภาพไว้เยอะมากจริงๆ ลอยละลิ่วไป ตามลม คนที่มุงดูอยู่ต่างก็เก็บขึ้นมาชม และปิดตากันโดยมิได้นัดหมาย


“โอ๊ย น่าอับอายชะมัด……”


ถึงแม้ว่าปากจะพูดแบบนี้ แต่สายตาก็ไม่ลืมที่จะจับจ้องรูปภาพพวกนั้น มองคนบนรูปให้เห็นเต็มตา แล้วก็หันไปมองหวงอวี้เหลียนที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเผือด


………………………………………


ตอนที่ 890 เปิดโปง


หวงอวี้เหลียนพลิกดูภาพถ่ายไปมาด้วยมืออันสั่นเทา ห้องในภาพนั้นเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะนั่นเป็นโรงแรมที่เธอและโอหยางปินมักจะนัดเจอกันอย่างลับๆ อยู่เป็นประจำ โอหยางปินบอกไว้ว่าที่นั่นเป็นที่ของเขา ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน


เพราะงั้นเธอถึงได้มีความกล้ามากพอที่ไม่ปิดแม้กระทั่งผ้าม่าน ในความเป็นจริงที่นั่นปลอดภัยมาก สิบกว่าปีมานี้ไม่เคยเกิดเรื่องขึ้นแต่อย่างใด


แต่แล้วภาพถ่ายพวกนี้มาจากไหนล่ะ?


ทั้งยังเป็นภาพเหตุการณ์ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ที่เธอและโอหยางปินได้มาแอบนัดเจอกันอย่างลับๆ เป็นเพราะครั้งนั้นที่จ้าวเหมยถูกคุณย่าขับไล่ เธอจึงนึกอยากจะเฉลิมฉลองสักเล็กน้อย แต่ตอนนั้นโอหยางเซี่ยงหมิงดันไปทำงานต่างจังหวัด


จึงเป็นจังหวะอันดีที่ทำให้เธอและโอหยางปินจึงตัดสินใจเปิดห้อง


แต่กลับถูกคนอื่นจับจุดได้…


นับว่าปฏิกิริยาตอบสนองของหวงอวี้เหลียนนั้นว่องไวพอควร เธอจ้องเหมยเหมยด้วยสายตาดุดัน และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “เธอเป็นคนทำ?”


เหมยเหมยหัวเราะร่า “ฉันคงไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอก อย่าคิดว่าไม่มีคนรู้ นอกจากตัวเธอเอง หวงอวี้เหลียน เธอทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้ ไม่ช้าไม่นานจะต้องมีคนเปิดโปงเข้าสักวัน จำเป็นต้องให้ผู้หญิงอย่างฉันลงมือเองด้วยหรือ?”


สยงมู่มู่ตะโกนแหกปากเสียงดัง “นอนกับพ่อเสร็จแล้วก็มานอนกับลูกต่อ โอ้โห้ ฉันนี่ทนมองแทบไม่ไหว…ทำไมบนโลกนี้ยังมีคนหน้าไม่อายขนาดนี้อยู่อีกนะ…”


เหมยเหมยแย่งภาพถ่ายออกมาจากมือเธอ และพูดติดตำหนิ “ของสกปรกพวกนี้มีอะไรให้น่ามองนักล่ะ ระวังจะเป็นตากุ้งยิงเอานะ!”


เธอจ้องมองคุณย่าที่มีสีหน้าเหลือเชื่อ และส่งยิ้มให้เธอ พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง “คุณย่าอันเป็นที่รัก ดูภาพพวกนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ?”


ในสมองของหวงอวี้เหลียนสับสนไปหมด เธอพยายามจะแก้ต่างให้กับตัวเอง “คุณป้าฟังฉันอธิบายก่อนนะคะ เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างที่คุณป้าคิด มีคนจงใจใส่ความฉัน…”


เหมยเหมยขัดขึ้นมาก่อน เธอชี้ไปยังภาพถ่ายพร้อมกับพูดประชดประชัน “หวงอวี้เหลียนเธอเห็นว่าทุกคนตาบอดหรือไง อย่าบอกฉันนะว่ารูปโป๊เปลือยในรูปนี้ไม่ใช่เธอ!”


เธอหันหน้ากลับมาหาพวกคนแก่ที่จับกลุ่มถกเถียงกันอยู่ จากนั้นถามขึ้นเสียงดัง “คุณตาคุณยายทุกท่านคะ พวกคุณเห็นชัดหรือยัง หล่อนคือคนคนเดียวกันกับคนในรูปใช่มั้ย?”


“ใช่ คือคนคนเดียวกัน หน้าไม่อายจริงๆ แม้แต่ลูกยังกล้านอนด้วย ทำไมถึงยังมีผู้หญิงไร้ซึ่งความละอายต่อบาปเช่นนี้อยู่อีก!”


ยายแก่รูปร่างอ้วนท้วมคนหนึ่งมองหวงอวี้เหลียนอย่างดูถูก ราวกับเห็นเธอเป็นแค่ขยะกองหนึ่ง


“มิน่าล่ะคุณพี่โอหยางถึงได้ไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้มาตลอด ที่แท้คุณพี่ก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านางสะใภ้คนนี้ไม่ใช่ของดีอะไรเลย!” มียายแก่คนหนึ่งที่อยู่ในสวนก็พูดขึ้น


“พูดถึงคุณพี่โอหยาง แล้วทำไมวันนี้เธอถึงไม่มารำไทเก๊กล่ะ? ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลานี้เธอคงมาถึงตั้งนานแล้ว”


“พูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บเลย พวกเธอดูนั่นสิ คุณพี่โอหยางกำลังเดินมาไม่ใช่หรือนั่น!” มีคนชี้ไปยังที่ไกลๆ ซึ่งมีหญิงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าที่ดูองอาจและสง่าผ่าเผย


คนที่มาใหม่เป็นหญิงชราที่ไม่ลงรอยกับหวงอวี้เหลียนเอามาก และก็เป็นคุณแม่ของโอหยางเซี่ยงหมิง คุณยายแท้ๆ ของโอหยางปิน…


ในตอนนั้นเธอมีอำนาจปกครองทั้งหมู่บ้าน ทั้งยังสามารถอุ้มลูกทั้งสองคน เดินทางสัญจรด้วยระยะทางอันไกล เพื่อมารักษาตำแหน่งความเป็นภรรยาคนเดิม


และไม่ใช่คนที่ใครๆ จะหาเรื่องได้ง่ายๆ มิเช่นนั้นหลายปีมานี้หวงอวี้เหลียนคงจะไม่พยายามปรองดองกับเธอขนาดนี้หรอก!


หวงอวี้เหลียนที่ได้ยินถึงการมาของแม่สามี จึงเสียวสันหลังวาบ นางแม่ผัวบ้านี่ไม่ใช่ว่าออกกำลังกายตอนเช้าอยู่ในสวนใหญ่หรอกหรือ ทำไมถึงวิ่งพล่านมาถึงที่นี่ได้?


จิตใต้สำนึกของเธออยากจะวิ่งหนีไป หลังจากได้เห็นภาพถ่ายเหล่านั้นแม้แต่ลูกสาวของเธอก็ยังแน่นิ่งไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น


แม่สามีของเธอนั้นมีลักษณะท่าทางเหมือนสาวบ้านนอก พละกำลังมีมากกว่าเธอเป็นไหนๆ อีกประเดี๋ยวเธอคงจะเอาไม่อยู่แน่ ต้องรีบหนีเสียตอนนี้ดีที่สุด


“จะรีบไปไหนล่ะ แม่ผัวเธอกำลังจะมาทำไมไม่ให้การต้อนรับก่อนเล่า?”


เหมยเหมยขวางเธอเอาไว้ พร้อมทั้งแสยะยิ้มที่มุมปาก ทำเอาหวงอวี้เหลียนโกรธแค้นอยู่ภายในใจอย่างทำอะไรไม่ได้ และรู้สึกเสียใจทีหลัง


ว่าตอนนั้นเธอควรจะโหดเหี้ยมให้มากกว่านี้ ไม่ควรปล่อยให้ยัยเด็กชั่วช้านี่ได้มีโอกาสพักหายใจเลยจริง ๆ!


………………………………………….


บทที่ 891 แม่ผัวมาแล้ว


 คุณผู้หญิงโอหยางมีรูปร่างสูงโปร่ง อ้วนท้วมกำยำ ท่าทีการเดินเหมือนดั่งบุรุษ เรียกได้ว่าเป็นท่าทางตามมาตรฐานที่หญิงชาวบ้านผู้สูงวัยต่างชื่นชอบเป็นที่สุด เพียงแต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาชายชาตรี


หากไม่เป็นเพราะหญิงชราผู้นี้เก่งกาจอาจหาญ เธอคงเป็นสาวขึ้นคานไปนานแล้ว!


“คุณพี่โอหยางมาได้สักทีนะคะ เกิดเรื่องในครอบครัวของคุณพี่เข้าแล้ว!”


มีผู้หวังดีหยิบยื่นภาพถ่ายส่งให้คุณหญิงโอหยาง ทุกคนในเหตุการณ์ต่างพากันชะเง้อมอง เพื่อตั้งตารอดูละครฉากใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น


ด้วยนิสัยป่าเถื่อนไร้เหตุผลของคุณหญิงนั้น เธอไม่มีทางปล่อยหวงอวี้เหลียนไปง่ายๆ แน่นอน… ช่างเป็นอะไรที่น่าติดตามนัก…


ในจังหวะนั้นหวงอวี้เหลียนจึงเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา เธอไม่อยากถูกแม่ผัวตบตีด่าว่าต่อหน้าของทุกคน เธอจะยอมเสียหน้าไม่ได้!


แต่เธอกลับไม่คิดดูบ้าง รูปภาพเปลือยเปล่าเหล่านั้นที่ร่วงตกลงพื้นดิน เธอจะยังหลงเหลือศักดิ์ศรีอะไรอีก!


คุณหญิงโอหยางไม่ได้สวมแว่นสายตามาด้วย เธอหรี่ตามองอยู่นานสองนาน แต่ก็เห็นเพียงแค่ก้อนเนื้อสองก้อน รอบข้างที่มีกลุ่มหญิงชราที่ชอบสุมหัวนินทา ได้ถอดแว่นสายตาของตนออกและยื่นส่งไปให้เธอ


“คุณพี่ใช้ของฉันสิ คุณพี่ต้องทำใจดีๆไว้ ต้องหนักแน่นเข้าไว้นะคะ!”


คุณหญิงยายโอหยางจึงกลอกตามองเธอ และพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “ฟ้าถล่มลงมาหรือไง? ดูท่าทีของเธอนี่ช่าง…”


คำด่าทอที่เปล่งออกมา ได้จางหายไปหลังจากที่เธอได้เห็นก้อนเนื้อทั้งสองก้อนนั้นอย่างชัดเจน รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณหญิงโอหยางได้เหือดหายไปจนหมด เหลือทิ้งไว้เพียงความเหน็บหนาวเสียยิ่งกว่าลมเหนือในเขตไซบีเรีย


“นังคนชั่ว…ยายแก่อย่างฉันจะถลกหนังมันเอง…”


คุณหญิงโอหยางกัดฟันแน่นหลังจากที่ดูภาพถ่ายพวกนั้นเสร็จ ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ


โอหยางปินคือหลานชายคนโตที่เธอให้ความสำคัญที่สุด คนชั่วช้าอย่างหวงอวี้เหลียน กล้านักที่เข้ามาจูงจมูกหลานชายคนโตของเธอ หล่อนได้อยู่อย่างไม่เป็นสุขแน่!


คุณหญิงโอหยางโมโหจนแทบจะเป็นลมล้มพับไปเสียให้ได้ จะมีเวลามาใส่ใจเรื่องรำไทเก๊กออะไรอีกเล่า หมุนตัวกลับเพื่อไปตามหาหวงอวี้เหลียนที่อาคารวิทยุโทรทัศน์เพื่อคิดบัญชี


“คุณหญิงยาย ลูกสะใภ้รองไร้ยางอายของคุณอยู่ตรงนี้!”


เหมยเหมยกระแอมเสียงดัง นับเป็นการเรียกสติให้กับคุณหญิงยายโอหยาง เธอหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็ว จึงมองเห็นหวงอวี้เหลียนที่ทำตัวเหมือนลูกนกลูกกาด้วยท่าทีหัวหดตดหาย และในจังหวะนั้นไฟโทสะก็ได้ปะทุเป็นวงกว้างราวสามวา


ดีเลย นางชั่วนี่กล้าที่จะวิ่งมาประกาษศักดาต่อหน้าเธอถึงที่นี่!


คุณหญิงโอหยางสาวเท้าก้าวเข้ามา ทุกย่างก้าวที่ย่ำเดิน ทำให้ใจของหวงอวี้เหลียนจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ


“แม่คะ มีเรื่องอะไรเรากลับไปที่บ้านก่อนค่อย…”


หวงอวี้เหลียนพูดเกลี้ยกล่อมแม่ผัวที่โมโหเดือดอย่างเลียบเคียง ถูกตบตีในบ้านยังคงดีกว่าการอยู่ด้านนอกแบบนี้ เพียงแต่อารมณ์โมโหร้ายของหญิงชราจะเอาเวลาไหนมาไตร่ตรองนักเล่า ในตอนนี้เธอต้องการแค่ถลกหนังของนางชั่วนี่ออกมา…


“เพี้ยะ…”


คำพูดของหวงอวี้เหลียนได้ถูกตัดบทด้วยฝ่ามือพิฆาต คุณหญิงโอหยางแรงที่มีทั้งหมดเหวี่ยงซัดออกไป หวงอวี้เหลียนถูกตบจนล้มลงกับพื้น เสียงดังวิ้งๆ อยู่ในหู ตรงหน้าเห็นเพียงดวงดาวทอแสงระย้า


“นางชั่ว…ฉันควรจะให้ลูกรองหย่ากับแกตั้งแต่แรก…หลีกเลี่ยงไม่ให้หล่อนได้ทำร้ายหลานชายฉัน…”


คุณหญิงโอหยางเครียดแค้นเป็นอย่างมาก แม้ว่าเธอจะเป็นแค่หญิงชราบ้านนอกที่ไม่รู้จักตัวหนังสือ แต่เธอก็รู้ดี ว่าหากภาพถ่ายเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไป ไม่ใช่แค่ลูกชายของเธออย่างโอหยางเซี่ยงหมิงเท่านั้น แต่ยังมีอนาคตของหลานชายอย่างโอหยางปินที่ต้องได้รับผลกระทบด้วยอย่างแน่นอน


หลานชายคนโตของเธอ อีกหน่อยจะได้เป็นถึงคนปกครองชั้นผู้ใหญ่ แต่ในวันนี้กลับถูกนางชั่วนี่ทำลาย…


จะไม่ให้เธอโกรธได้อย่างไรเล่า?


เธอแทบอยากจะฆ่านางชั่วนี่ให้ตายไปเสีย…


หญิงชราที่โกรธแค้นอยู่ได้ระบายไฟโทสะที่เดือดพล่านใส่หวงอวี้เหลียนไปไม่ยั้ง  อีกทั้งเธอยังตบไปโดนตำแหน่งที่อ่อนโยนและบาดเจ็บได้ง่ายที่สุดของผู้หญิง หวงอวี้เหลียนเจ็บปวดจนต้องร้องขอชีวิตไม่หยุด…


“ป้าคะ ช่วยฉันด้วย…ป้า…ฉันจะถูกตบจนตายแล้ว…”


หญิงชราที่ตกตะลึงและจมอยู่กับภาพถ่ายเหล่านั้น ถูกเอ่ยเสียงเรียงนามถึงจึงเรียกสติกลับมาได้ ต่อให้ในใจจะสับสนถึงพียงไหน แต่จิตใต้สำนึกของเธอนั้นบอกให้เธอเข้าไปช่วยหวงอวี้เหลียน ถึงอย่างไรก็ไม่อาจทนดูได้!


เหมยเหมยที่เฝ้าดูเหตุการณ์ได้แต่ส่ายหน้าไปมา เลอะเลือนจนกู่ไม่กลับ เห็นภาพถ่ายพวกนี้หมดแล้วแต่นึกไม่ถึงว่าจะเห็นหวงอวี้เหลียนเป็นคนของตน ดูท่าว่าสมองของเธอคงถูกช้างเหยียบมาแล้วล่ะ!


………………………………………….


ตอนที่ 892 ช่วยแทงเพิ่มอีกแผล


คุณย่าเพิ่งเดินเข้าไปถึง ยังไม่ทันที่จะได้อ้าปากพูดอะไร คุณหญิงโอหยางที่ตบตีอย่างสมใจ จึงเหล่ตามองพร้อมกับพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่สั่งสอนนางลูกสะใภ้ที่ชอบลักกินขโมยกินของคนอื่น คุณพี่จ้าวต้องเข้ามายุ่งด้วยหรือ? พี่จะล้ำเส้นกันเกินไปหน่อยหรือเปล่านะ!”


“ไม่ใช่…ฉัน…ฉัน…”


คุณย่าอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ไม่กี่คำ กลับไม่ได้พูดอะไรออกไป  เธอเองก็รู้สึกขายหน้าเช่นกัน!


รวมทั้งฉากเหตุการณ์ในภาพถ่าย เธออายุมากจนป่านนี้แล้ว แค่ได้เห็นยังรู้สึกหน้าร้อนฉ่าหูแดงเถือก จังหวะการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น  ทำไมอวี้เหลี้ยนถึงได้เหลวแหลกขนาดนี้ล่ะ!


จ้าวเสวียหลินลอบถอนหายใจไปหนึ่งเฮือก จากนั้นได้ลากตัวคุณย่าจ้าวกลับมา “เรื่องของครอบครัวคนอื่น คุณย่าอยากเข้าไปยุ่งนักเหรอ?”


คุณย่าจ้าวมองหลานชายอย่างนึกละอายใจ และหันมองท่าทีของเหมยเหมยที่ไม่แยแสกับอะไร ในตอนนี้เธอเพิ่งได้รู้ว่าตัวเธอนั้นได้ทำอะไรผิดไป…


เหมยเหมยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคุณย่าเลยสักนิด ต่อให้คุณย่าจะรู้สึกเสียใจแค่ไหน แม้จะยอมขอโทษเธอ


แต่เธอคงไม่มีทางมอบความจริงใจให้กับหญิงชราได้อีก!


อย่างมากก็แค่เป็นการรักษาหน้า!


โอหยางซานซานที่นอนอยู่บนพื้น ได้สติฟื้นคืนกลับมากะทันหัน เธอพยายามปีนป่ายลุกขึ้นเพื่อจะเข้าไปช่วยหวงอวี้เหลียน เธอพยายามออกแรงฉุดรั้งมือของคุณหญิงโอหยางเอาไว้ อ้อนวอนอย่างเจ็บปวด…


แม้ว่าคุณหญิงโอหยางจะไม่ชอบหลานสาวนัก แต่ถึงอย่างไรก็นับเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลโอหยาง นับว่าในใจเธอยังอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญกว่าหวงอวี้เหลียนมาก


น้ำเสียงขอร้องอ้อนวอนของโอหยางซานซานได้ทำให้คุณหญิงโอหยางใจอ่อนลงไปบ้าง  เธอคิดว่าอย่างน้อยควรไว้หน้าหลานสาวบ้าง คิดเพียงว่าจะลากนางชั่วช้านี่กลับไปสั่งสอนที่บ้าน จึงได้ลดท่าทีและการกระทำลง


เหมยเหมยที่ยืนดูละครสนุกๆฉากนี้อยู่ แน่นอนว่าเธอ ไม่มีทางปล่อยหวงอวี้เหลียนไปง่ายๆ เธอจงใจเดินเข้าไป จากนั้นกระซิบกระซาบที่ข้างหูของคุณหญิงโอหยางเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทำให้สีหน้าท่าทีของคุณหญิงโอหยางเปลี่ยนไปมาก ราวกับการได้เห็นผีก็มิปาน


“ทั้งหมดที่เธอพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือ?” คุณหญิงโอหยางถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง  เธอไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของเหมยเหมย


เหมยเหมยหัวเราะร่า “คุณยายคะ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องอะไรที่เป็นความลับ ข่าวคราวได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองแล้ว หรือไม่งั้นคุณคิดว่าฉันได้ภาพถ่ายพวกนี้มาจากไหนล่ะ ตลาดตงต้า หวังฝูจิ่ง รวมทั้งห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็มีคนแจกจ่ายไปทั่ว อยากได้เท่าไหร่ก็มีเท่านั้น”


อารมณ์โมโหของคุณหญิงโอหยางจุกอยู่ในอก เรื่องราวที่เกิดขึ้นรุนแรงกว่าที่เธอคิดไว้มาก


จากตอนแรกเธอตั้งใจที่จะหาคนมาจัดการเก็บภาพถ่ายพวกนั้นเสีย แล้วค่อยให้ลูกรองหย่าร้างกับหวงอวี้เหลียนไป เรื่องภายในครอบครัวแน่นอนว่าต้องจัดการภายในครอบครัว หากเป็นเรื่องใหญ่โตคงจะไม่ดีต่อลูกชายและหลานชายนัก


แต่ตอนนี้…


เหมยเหมยหัวเราะ พร้อมกับชี้ไปยังหวงอวี้เหลียนที่นั่งจมอยู่กับพื้น และพูดขึ้นว่า “คุณหญิงยายอย่ามาโทษหนูละกัน ใครใช้ให้ผู้หญิงคนนี้เอาหนูไปพูดเสียๆ หายๆ แล้วก็สร้างข่าวจอมปลอมนั้นขึ้นมาล่ะ หนูจำต้องหาเหตุมาหักล้างกับผลเป็นธรรมดา เพียงแต่หนูก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ว่าลูกสะใภ้รองของคุณหญิงยายนี่ช่างทำให้หนูทึ่งจริงๆ!”


แน่นอนว่าคุณหญิงโอหยางเคยได้ยินข่าวลือของเจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลจ้าว ในตอนนั้นเธอเองก็ยังพูดหัวเราะเยาะกับคนอื่นๆ อยู่เลย


แต่มาตอนนี้กลายเป็นเธอเองที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะใส่…


อีกทั้งยังนับว่าเป็นเรื่องขบขันที่ทำให้เธออับอายขายขี้หน้าไปจนถึงบรรพบุรุษถึงสิบแปดชั่วโคตร คุณหญิงโอหยางรู้สึกว่าตัวเธอเองไม่ต่างไปจากหวงอวี้เหลียนในภาพเลย ที่ถูกคนอื่นปลดเปลื้องจนเปลือยเปล่า…


“นางชั่ว ทั้งหมดเป็นเพราะคนชั่วอย่างแก…”


แม้ว่าคุณหญิงโอหยางจะเกลียดเหมยเหมย แต่เธอก็ทำอะไรเหมยเหมยไม่ได้ จึงทำได้เพียงสาดเอาไฟโทสะทั้งหมดที่มีใส่หวงอวี้เหลียนแทน และยังสะบัดโอหยางซานซานลงพื้นอย่างไม่นึกรักษาน้ำใจแต่อย่างใด!


มีมารผจญแบบนี้อยู่ในบ้าน จะต้องนำเอาหายนะมาสู่บ้านเป็นแน่ เธอจะต้องทำเพื่อหลานชายโดยการคิดไตร่ตรองใหม่!


เหมยเหมยมองดูหวงอวี้เหลียนอย่างพึงพอใจที่เธอถูกตบจนแน่นิ่ง จากนั้นหันไปบุ้ยหน้าให้จ้าวเสวียหลิน “เราไปกันเถอะ!”


ตอนนี้เรื่องราวได้บานปลายใหญ่โตไปแล้ว เชื่อว่าคุณหญิงโอหยางคงไม่มีทางเก็บหวงอวี้เหลียนไว้แน่ นอกเสียจากว่าพวกเขาต้องการจะเป็นตัวตลกของคนทั้งเมือง


…………………………………….


ตอนที่ 893 จัดการคุณย่า


 เหมยเหมยไม่ได้กลับไปที่บ้านของตระกูลเซียว จัดการกับหวงอวี้เหลียนและโอหยางซานซานไปแล้ว บัญชีระหว่างเธอและคุณย่ายังไม่ได้สะสางเลย!


เธอคงไม่คิดว่าเพราะคุณย่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่จึงต้องเกรงใจสักนิด ใครใช้ให้ตัวเธอเป็นผู้หญิงใจแคบล่ะ!


“คุณย่ายังไม่กลับบ้านอีกหรือ?” จ้าวเสวียหลินเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็หันกลับมาตะโกนเรียกคุณย่าที่ยืนนิ่งงันอยู่


คุณย่าตอบกลับขานรับไปอย่างเลื่อนลอย สติปัญญาของเธอไม่สูงพอที่จะรับรู้เข้าใจกับเหตุการณ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้ ในตอนนี้สมองของเธอสับสนยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว


ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้น เหมยเหมยจึงให้เซียวเซ่อกลับไปก่อน สวนสาธารณะนั้นห่างจากบ้านไม่ไกลนัก เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงที่หมาย


วันนี้คุณปู่ไม่ได้ออกไปข้างนอก เขากำลังรอคอยให้คุณย่ากลับมา เมื่อครู่เขาได้สั่งให้จ้าวเสวียไห่และจ้าวเสวียกงออกไปตามหาบริเวณใกล้ๆ รอบหนึ่ง แต่ก็ไม่พบคุณย่า จึงทำได้แค่รออยู่ที่บ้าน


เขาที่เห็นว่าเหมยเหมยกลับมาก็พลันดีอกดีใจ  คิดว่าหลานสาวนั้นคิดได้แล้ว พอจะเปิดปากพูด กลับมองเห็นคุณย่าที่มีท่าทีแปลกๆ เดินตามอยู่ด้านหลัง จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า  “เช้าจนไก่โห่ขนาดนี้คุณหายไปไหนมา?”


คุณย่าชะงักงัน ไม่กล้าตอบออกไปตรงๆเหมือนเมื่อก่อน  อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่นาน จนสุดท้ายจึงเลือกพูดออกมา “ฉันออกไปเดินเล่นแถวๆ สวนสาธารณะใกล้ๆ นี้มา”


เหมยเหมยหัวเราะเยาะกับตัวเอง ทั้งๆ ที่เธอไปเจอหวงอวี้เหลียนมา กล้าทำแต่กลับไม่กล้ายอมรับ!


คุณปู่คิดว่าเป็นเรื่องจริงจึงเชื่อ และพูดติดตำหนิไปว่า “ต่อไปนี้จะออกไปไหนก็บอกกับคนในบ้านเสียก่อน เจ้าสี่กับเจ้าห้าไปตามหาเธอจนทั่วแล้ว เธอนี่อายุยิ่งเยอะก็ยิ่งไม่รู้ความจริง ๆ”


คุณย่าไม่ได้ถกเถียงกับคุณปู่เหมือนดั่งแต่ก่อน เพียงแค่รับคำ เชื่อฟังอย่าว่าง่าย


คุณปู่รับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ เหตุใดยายแก่ถึงได้ว่านอนสอนง่ายถึงเพียงนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาพูดแค่ประโยคเดียว เธอก็มักจะเถียงกลับมานับสิบประโยคได้!


เหมยเหมยหัวเราะเยาะไปพลาง พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง “คุณปู่ คุณย่าไม่ได้ไปสวนสาธารณะเพื่อเดินเล่น แต่นัดกับหวงอวี้เหลียนไว้ที่สวนสาธารณะ  เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบต่างหาก!”


ท่าทีของคุณปู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นจ้องหน้าคุณย่าอย่างเคร่งขรึม พร้อมทั้งถามขึ้นด้วยเสียงเรียบนิ่ง “เป็นแบบนั้นใช่ไหม?”


คุณย่าโกรธเหมยเหมยอยู่ในใจที่ไม่ยอมไว้หน้าเธอ เธอไม่อยากยอมรับ แต่ทั้งชีวิตเธอไม่เคยโกหก เธอไม่อยากสบตาคุณปู่ จึงก้มหน้าแล้วพูด “ฉันเดินเล่นอยู่ในสวนแล้วบังเอิญเจอกับหวงอวี้เหลี้ยนสองแม่ลูกที่มาออกกำลังกายเหมือนกัน จึงนั่งคุยกัน…”


สามีที่เข้าใจภรรยาอย่างถ่องแท้ คุณปู่เห็นท่าทีหลบสายตาของเธอ ก็รู้ได้ในทันทีว่าภรรยาของตนนั้นไม่ได้พูดความจริง ไฟโทสะที่มีจึงเดือดพล่านและปะทุขึ้นมา


เหมยเหมยหยิบเอาภาพถ่ายที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อครู่ออกมาจากกระเป๋า ในภาพนั้นหวงอวี้เหลียนและคุณย่าพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ หวงอวี้เหลียนสวมชุดเดรสกระโปรงรัดรูป เซ็ทผมตีโป่งยกสูงราวกับผู้รากมากดี มองยังไงก็ไม่เหมือนกับการแต่งตัวเพื่อมาออกกำลังกาย


“คุณปู่ดูเอาเองเถอะ!”


เหมยเหมยยื่นภาพถ่ายส่งให้ชายแก่ หากว่าคุณปู่ไม่ได้ทำเรื่องโง่เขลาเหมือนกับคุณย่า มองแวบเดียวก็คงเข้าใจได้ ไม่จำเป็นต้องให้เธออธิบายให้เสียน้ำลาย


แน่นอนว่าคุณปู่นั้นเข้าใจดี การแต่งตัวของหวงอวี้เหลียนแค่เห็นก็รู้ได้ว่าไม่ได้มาเพื่อออกกำลังกาย ยายแก่นี่โกหกล้วนๆ และนั่นยิ่งทำให้ไฟโทสะของคุณปู่ปะทุเดือดพล่านมากขึ้นเป็นทวี


ทั้งชีวิตเขาเกลียดที่สุดคือคนโกหก!


หญิงชรานึกไม่ถึงว่าเหมยเหมยจะถึงขั้นถ่ายเก็บไว้ พลันหันไปมองหน้าเธออย่างตกใจ จึงเกิดอารมณ์โมโหขึ้น


“ยัยเด็กบ้าแกสะกดรอยตามฉัน?”


เหมยเหมยมองเธอด้วยสายตาเยาะเย้ย พูดขึ้นอย่างเยือกเย็น “หนูไม่ได้สนใจที่จะสะกดรอยตามคุณหรอก แต่หนูสะกดรอยตามหวงอวี้เหลียน เพียงแต่หนูก็นึกไม่ถึงว่าความรู้สึกของคุณและเธอจะลึกซึ้งถึงเพียงนี้!”


“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่างเธอยุ่งอะไรด้วย?”


คุณย่าเถียงเหมยเหมยไม่ได้ จึงเลือกที่จะเอาความเป็นผู้ใหญ่ออกมาพูด เธอต้องการจะกดพละกำลังของเหมยเหมย


“แล้วฉันมีสิทธิ์ยุ่งไหม?”


คุณปู่ถามขึ้นด้วยใบหน้าเยือกเย็น


………………………………………


ตอนที่ 894 หย่าร้าง


 เป็นเพราะคุณย่ารู้สึกละอายใจ จึงไม่กล้าสบสายตากับคุณปู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่กล้าตวาดใส่คุณปู่เหมือนแต่ก่อน ด้วยท่าทีที่สยบลงไปมาก


คุณปู่มองคุณย่าที่เคยทุกร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายสิบปี อีกทั้งยังเป็นคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ ซึ่งในท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด


เขาไม่อาจยอมให้คุณย่าต้องทำเรื่องเลอะเลือนเหล่านี้อีกแล้ว มิเช่นนั้นลูกหลานคนอื่นๆ จะต้องเดือดร้อนเพราะยายแก่จอมฟั่นเฟือนคนนี้อีกแน่!


คุณปู่กัดฟันแน่น พร้อมทั้งพูดเสียงขรึม “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่มีสิทธิ์อยู่ในบ้านเพื่อรับแขกอีก แล้วก็ห้ามออกจากบ้านคนเดียวอีก หากว่าสองอย่างนี้ยังทำไม่ได้ เราก็…”


หยุดเงียบไปนานสองนาน ในที่สุดคูณปู่ก็ยอมพ่นคำสองคำนั้นออกมา  “…หย่ากัน!”


ทุกคนต่างชะงักงัน พลันนึกไม่ถึงว่าคุณปู่จะพูดถึงเรื่องหย่าร้างออกมา?


คุณย่านั้นยิ่งไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง ร่างกายของเธอเกิดอาการสั่นเทา พลางถามออกไปด้วยความสงสัย “…คุณพูดอะไร…”


คุณปู่พูดซ้ำอีกครั้งอย่างแน่วแน่ “กฎที่ฉันตั้งขึ้นมาหากว่าคุณไม่ทำตาม เราสองคนก็หย่ากัน ต่อไปนี้คุณก็เดินทางพระอาทิตย์ของคุณไป อย่าเข้ามาทำลายลูกหลานในตระกูลจ้าวอีก…”


“จ้าวหวายซาน คุณมันไร้หัวใจ…ทำไมคุณถึงกล้าพูดออกมาแบบนี้? คุณแอบไปมีใครนอกบ้านใช่ไหมอายุมากจนจะลงโลงอยู่แล้ว ยังคิดจะออกไปหาเศษหาเลยอีกรึไง? โธ่เอ้ย…ตอนนั้นฉันไม่น่าช่วยชีวิตคุณเลย…”


คุณย่าโกรธจนเนื้อเต้น พร้อมกับตะโกนใส่หน้าคุณปู่ ร่างกายคุณย่าได้รับการฟื้นฟูจากเหมยเหมยจนแข็งแรง เอาพละกำลังที่เคยรับมือกับพวกทหารญี่ปุ่นในสมัยนั้นออกมา  นึกไม่ถึงว่าจะทำให้คุณปู่ถอยหลังไปนับหลายก้าว เสื้อผ้าบนร่างกายถูกดึงจนขาดวิ่น


เหมยเหมยมีปฏิกิริยาตอบสนองได้เป็นคนแรก จึงถีบจ้าวเสวียหลินที่มองดูอย่างซื่อบื้อออกไป พลางออกคำสั่ง “ยังไม่รีบเข้าไปลากคุณย่าอีก!”


นั่นถึงทำให้จ้าวเสวียหลินและคนอื่นๆ ได้สติ บรรดาพี่น้องทั้งหลายจึงรีบเร่งเข้าไปจับตัวของคุณย่าที่มีท่าทีดุร้ายเอาไว้ เพราะไม่กล้าทำให้เธอบาดเจ็บ แต่พวกเขาต้องใช้แรงกำลังอย่างมหาศาล กว่าจะดึงคุณย่าที่เอาแต่พ่นคำด่าทอออกมาไม่หยุดไว้ได้


คุณปู่ในตอนนี้มีสภาพน่าเวทนามาก เสื้อผ้าถูกดึงจนขาดวิ่น เส้นผมถูกดึงหลุดเป็นกระจุกจนเผยให้เห็นหนังศีรษะ ส่วนเส้นผมนั้นอยู่ในกำมือของคุณย่า เป็นกำใหญ่ๆ หนึ่งกำ เหมยเหมยเห็นยังรู้สึกเจ็บแทน


มิน่าล่ะที่คุณปู่จะได้รับฉายาว่ากลัวเมีย ใจไม่สู้เอาเสียเลย!


“จ้าวหวายซาน…ถ้าคุณกล้าที่จะหย่ากับฉัน…ฉันนี่แหละจะเอาปืนมายิงความใจดำอำมหิตคนชั่วอย่างคุณเอง  ฉันเป็นคนช่วยชีวิตคุณไว้ ฉันช่วยชีวิตของคุณมากับมือ…”


คุณย่าที่เดือดดาลจนด่าไม่หยุด อารมณ์โกรธมาเต็ม แผ่รังสีอาฆาตออกมา


คุณปู่แยกเขี้ยวยิงฟันพร้อมกับลูบผมตัวเอง เจ็บปวดจนน้ำตาไหล ไม่ง่ายเลยที่จะเหลือผมเพียงอันน้อยนิดนี้ไว้ แต่กลับถูกยายแก่นี่ดึงถลกไปเสียได้ เจ็บหัวมาก แต่เจ็บใจยิ่งกว่า!


“ซ่างกวนจินเหยี่ยน เอ็งน่ะปากร้าย เอ็งบอกว่าตอนนั้นช่วยชีวิตตาแก่อย่างข้าไว้ แล้วข้าไม่ได้ช่วยชีวิตเอ็งหรือไง? เป็นข้าเสียมากกว่าที่ช่วยชีวิตเอ็งไว้หลายครั้ง หรือเอ็งกันแน่ที่ช่วยข้าไว้หลายครั้ง?


…หย่ากัน…เสียวหลี่…ไปขับรถมา…แล้วตรงไปที่ว่าการอำเภอ จะทำเรื่องหย่าร้าง…”


ไฟโทสะของคุณปู่นั้นมีมากกว่า อยู่ต่อหน้าของลูกหลานทุกคน ยายแก่นี่ไม่ไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย!


เขาไม่ต้องการศักดิ์ศรีหรือไง!


ครั้งนี้จะต้องสั่งสอนยายแก่ให้เข็หลาบบ้าง จะต้องทำให้เธอได้รู้ถึงความน่าเกรงขามของคนอย่างจ้าวหวายซาน!


ผู้พิทักษ์เสียวหลี่ลอบมองคุณปู่อย่างลำบากใจ เขาจะเอาความกล้าจากไหนมาขับรถ?


เขาเองก็กลัวว่านายหญิงซ่างกวนจะเอาปืนมายิงนี่!


คุณปู่ไม่พอใจต่อเสียวหลี่ที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง จึงตะโกนออกไปอีกครั้ง จ้าวเสวียเอร่อจึงลากเสียวหลี่ออกมา ให้เขาอยู่ด้านนอกเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย คุณปู่เขานั้นก็พูดไร้สาระเสียจริง ต่อให้เขาต้องการจะหย่าร้างกันจริง ทางสำนักกิจการพลเรือนจะกล้าทำเรื่องให้หรือ?


เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่น เธอรู้ดีว่าการหย่าร้างของคุณย่าและคุณปู่นั้นเป็นไปไม่ได้หรอก บอสใหญ่คงไม่มีทางยอมให้สามีภรรยาตัวอย่างยุคปฏิวัติคู่นี้แยกทางกันแน่


……………………………………………


ตอนที่ 895 ลงโทษหญิงชรา


 ละครฉากตลกของตระกูลจ้าวจบลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งสองเฒ่าต่างก็เข้าสู่ภาวะสงครามเย็น การตัดสินใจของคุณปู่ในครั้งนี้นับว่าเด็ดเดี่ยวมาก ไม่ว่าคุณย่าจะไปที่ไหน ข้างกายจะต้องมีคนตามเสมอ ราวกับเป็นนักโทษ


คุณย่าอาละวาดอยู่หลายครั้งหลายหนก็ไร้ประโยชน์ คุณปู่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้ว!


บอสใหญ่ได้ส่งคนมาตามให้คุณปู่เข้าไปพบเพื่อถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนทหารเก่าหลายๆ คน ก็เข้ามาแวะเวียนเกลี้ยกล่อมให้คืนดีกันอยู่หลายหน แต่ถึงอย่างไรคุณปู่ก็ไม่ยอมก้มหัวให้ก่อน


อีกทั้งยังได้พูดอย่างใจกล้า หากว่าครั้งนี้ยายแก่ไม่ยอมก้มหัวให้ก่อน เขาก็จะทำสงครามเย็นกับยายแก่นี่ให้ถึงที่สุด!


จ้าวอิงสยงและจ้าวอิงหย่งทั้งสองครอบครัวต่างพากันรีบกลับมา ต่อให้เป็นหานซู่ฉินที่พูดจนลิ้นพันกันแค่ไหน ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนใจของคุณปู่ได้เลย ทุกๆ คนช่วยกันพูดจนหมดปัญญา


จ้าวอิงหย่งสองสามีภรรยาหลังจากที่ได้ถามจนรู้ความเป็นมาเป็นไปแล้ว  จึงรู้สึกผิดหวังกับอาการเลอะเลือนของคุณย่าไม่น้อย แต่ไหนแต่ไรมาอันหย่าฟางเป็นคนสงบเสงี่ยมเยือกเย็นและโอหัง ยังแทบอดไม่ได้ที่จะโมโห “แม่คะ เมื่อไหร่แม่จะเลิกทรมานทุกคนสักที? แม่ยังอยากจะให้บ้านนี้เจอเรื่องราวแย่ๆ ไปถึงเมื่อไหร่กัน? ตอนนั้นแม่ได้ทำลายหลานสาวคนหนึ่งไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้แม่ยังจะช่วยเหลือคนนอกเพื่อทำร้ายเหมยเหมยอีก หากไม่เป็นเพราะเหมยเหมยที่เข้มแข็งด้วยตัวเอง น้ำสกปรกโสโครกที่หวงอวี้เหลียนสาดมา ตอนนี้เหมยเหมยคงจมน้ำตายไปแล้ว!”


จ้าวอิงหย่งเองที่นึกถึงเหตุการณ์ที่หลานสาวคนเล็กตายในครรภ์ ขอบตาของเขาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาและแดงก่ำ


ในปีนั้นตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลจ้าว ทุกคนในบ้านต่างเร่ร่อนไปทั่วทั้งปฐพีของจีน ในตอนนั้นอันหย่าฟางกำลังตั้งท้อง โดยมีอายุครรภ์ราวๆ สี่เดือนแล้ว แต่เป็นเพราะการเดือนทางที่แสนลำบากยากเข็ญ รวมทั้งขาดแคลนอาหารบำรุงร่างกาย ทำให้ลูกสาวคนเล็กที่กำลังมีตัวตนต้องสูญสิ้นไป


เพราะเหตุการณ์นี้ จึงทำให้อันหย่าฟางเคลือบแคลงใจต่อคุณย่ามาตลอด นิสัยใจคอก็เปลี่ยนไปเย็นชามากกว่าเดิม


“แม่ แม่ต้องการให้ทุกคนในบ้านต้องพบเจอแต่ความผิดหวังใช่ไหม แต่ก่อนที่ไม่มีหลานสาว วันๆ แม่เอาแต่บ่นว่าอยากได้หลานสาว ตอนนี้ก็ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีหลานสาวได้ แม่กลับไม่ดูแลเธอให้ดี แม่พูดสิว่าทุกวันนี้แม่กำลังทำอะไรลงไป?”


จ้าวอิงหย่งจ้องมองคุณย่าที่หวังว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หากว่านี่ไม่ใช่แม่ของเขา เขาคงได้ตบสั่งสอนไปฉาดใหญ่แล้ว!


หานซู่ฉินหัวเราะพร้อมกับพูดขึ้น “น้องสามและแฟนน้องสามอย่าพึ่งโกรธเลย พวกเราค่อยๆ พูดกับแม่…”


“พูดดีด้วยจะฟังเข้าใจเหรอ? ถ้าเธอเก่งมากเธอก็มาจัดการพูดดีๆ สิ!”


อันหย่าฟางตัดบทเธอด้วยท่าทีเยือกเย็น


หานซู่ฉินมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและหานซู่ฉินนั้นจืดชืดมาตลอด โชคดีที่ไม่ได้อยู่ร่วมพื้นที่เดียวกันในเขตทหาร ในปีหนึ่งยากนักที่จะเจอหน้ากันสักครั้ง


“แฟนน้องสามนี่โมโหรุนแรงนัก!”


หานซู่ฉินทำทีเป็นยิ้มและพูดไปเพียงประโยคเดียว สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้


แม้ว่าตอนนี้ตระกูลอันจะเทียบไม่ได้กับตระกูลจ้าว แต่ในขณะเดียวกันก็เก่งกาจกว่าตระกูลหานเป็นไหนๆ อีกทั้งพ่อและบรรดาพี่ชายน้องชายของเธอต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลอัน เธอจะกล้ามีเรื่องกับอันหย่าฟางได้อย่างไรเล่า!


เพราะงั้นเธอถึงอยากให้หลานชายแต่งงานกับเหมยเหมย  เพราะต้องการหลุดพ้นจากการกดขี่ของตระกูลอัน  หลายปีมานี้เธอทนต่อนิสัยสันดานเสียของอันหย่าฟางมามากพอแล้ว ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นถึงสะใภ้ใหญ่!


อันหย่าฟางสบถไปที แต่ก็ไม่ได้สนใจหานซู่ฉินอีก เพียงครู่เดียวก็กลับคืนสู่สภาพสุขุมเยือกเย็นอีกครั้ง


“หลังจากหมดปิดเทอมฤดูร้อนนี้ ให้เสวียเอร่อและเสวียกงไปพักที่บ้านของพ่อแม่ฉัน ใครจะรู้ว่าพอถึงเวลานั้นคุณแม่ของพวกเราจะเลอะเลือนจนอาจทำร้ายลูกชายฉันอีก!”


อันหย่าฟางพูดขึ้นอย่างเย็นชา ไม่ไว้หน้าคุณย่าแม้แต้น้อย หานซู่ฉินมองดูด้วยความอิจฉา


หากตระกูลเธอนั้นแข็งแกร่งได้เท่าตระกูลอัน เธอคงไม่จำเป็นต้องนั่งปั้นหน้ายิ้มให้ยายแก่ และทำตัวอ่อนน้อมอยู่แบบทุกวันนี้หรอก?


อย่าว่าแต่จ้าวอิงหย่งที่ปกติเป็นคนโมโหร้าย พออยู่ต่อหน้าของภรรยาเขาเชื่อฟังเสียยิ่งกว่าบรรดาลูกชาย ไม่กล้าค้านแม้แต่ประโยคเดียว และเห็นพ้องต้องด้วยไปโดยปริยาย


ในบรรดาลูกชายทั้งหมด คนที่คุณย่าเป็นกังวลมากที่สุดคือจ้าวอิงหย่ง คนที่เธอทำอะไรไม่ได้ที่สุดคือจ้าวอิงหัว พอจ้าวอิงหย่งได้ระเบิดอารมณ์ เธอก็ดูหงอยไปเลย ความกำเริบเสิบสานที่เคยมีก็หายไปจนเกลี้ยง


………………………………………….


ตอนที่ 896 ของไร้คุณภาพ


 หลังจากที่จ้าวอิงหย่งสองสามีภรรยาได้เบ่งอำนาจบารมี คุณย่ากลับประพฤติตัวดีขึ้น ไม่กล้าอาละวาดอีก ในทุกๆ วันเธอได้แต่ทำหน้าบึ้งตึงนั่งดูโทรทัศน์  ซึ่งในใจของคุณย่านั้นบอกปัดปฏิเสธต่อทีวีจอสีเพราะเหมยเหมยเป็นคนให้มา


เธอจึงเปลี่ยนเป็นทีวีจอขาวดำกลับมา คุณปู่จึงยกทีวีจอสีไปวางไว้บนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง คนทั้งคู่ต่างคนต่างดูทีวีคนละเครื่อง ไม่มีใครขวางใครแต่กลับต่างคนต่างเงียบ


เรื่องพวกนี้เป็นจ้าวเสวียกงและคนอื่นๆ ที่พูด เหมยเหมยจึงอดชูนิ้วโป้งชื่นชมไม่ได้ “ลุงสามและป้าสามนี่สุดยอดไปเลย ในบ้านหลังนี้มีแค่สองคนนี้เท่านั้นแหละที่เอาสองเฒ่าอยู่หมัด”


ตอนนี้พลันนึกขึ้นได้ที่อันหย่าฟางไม่ได้ยินดียินร้ายกับคุณย่ามาโดยตลอด ที่แท้เพราะเคยมีปัญหากับคุณย่ามาก่อนนี่เอง!


และด้วยเหตุนี้นอกจากช่วงตรุษจีนแล้ว ครอบครัวของจ้าวอิงหย่งมักจะไม่ค่อยแวะเวียนมาหาสักเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับสองสามีภรรยาอย่างจ้าวอิงสยง แวะเวียนมาหาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งๆ ที่พวกเขานั้นอยู่ไกลกว่ามาก!


จ้าวเสวียกงนั้นไม่ได้รู้สึกดีใจสักเท่าไหร่ หลังจากหมดช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเขาจะต้องกลับไปทุกข์ระทมที่บ้านของคุณตาคุณยาย เฮ้อ!


คุณตาคุณยายไม่ได้เลอะเลือนง่ายเหมือนกับคุณปู่คุณย่า ต่อไปนี้เขาจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่าสงบสุขเสียแล้ว!


“พวกเธอรู้ไหมว่าหลังจากวันนั้นหวงอวี้เหลียนเป็นอย่างไรบ้าง?” จ้าวเสวียไห่ถามขึ้นอย่างมีเลศนัย


ทุกคนต่างส่ายหน้าไปมา พูดไปพูดมาก็ดูแปลก เรื่องที่เกิดในสวนหลังจากนั้น นึกไม่ถึงว่าตระกูลโอหยางจะเงียบหายไร้แรงตอบโต้ใดใดทั้งสิ้น  ไม่ได้ยินข่าวคราวใดอีกเลยแม้แต่น้อย เงียบเสียจนทำเอาทุกคนต่างแปลกใจ


จ้าวเสวียไห่รู้สึกได้ใจเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้


“ฉันได้ยินมาว่าโอหยางเซี่ยงหมิงถูกย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสองเดือนนี้”


เหมยเหมยขมวดคิ้วเป็นปม และถามขึ้นว่า ”แล้วโอหยางเซี่ยงหมิงได้หย่ากับหวงอวี้เหลียนหรือเปล่า?”


ต่อให้โอหยางเซี่ยงหมิงต้องขึ้นสวรรค์เธอก็ยุ่งอะไรไม่ได้ แต่เธอสนใจเพียงแค่ผลลัพธ์ของหวงอวี้เหลียน


จ้าวเสวียไห่ส่ายหน้ารับ “ไม่รู้สิ ไม่ได้ยินข่าวเรื่องหย่าร้างของพวกเขาเลย แล้วก็ไม่ได้ยินเรื่องที่พวกเขาไม่ได้หย่าด้วย ไม่แน่ใจเหมือนกัน!”


เหมยเหมยนิ่งเงียบ หรือว่าตระกูลโอหยางยอมเป็นตัวตลกให้กับคนทั้งเมือง และไม่ยอมหย่าร้างด้วยงั้นหรือ?


ตระกูลโอหยาง


โอหยางเซี่ยงหมิงและหวงอวี้เหลียนอยู่กันครบ รวมทั้งครอบครัวของโอหยางปินด้วย


สีหน้าของภรรยาโอหยางปินนั้นไม่ดีเอาเสียเลย แน่นอนว่าเธอได้เห็นภาพถ่ายพวกนั้นมาแล้ว แต่เธอก็ไม่กล้าสร้างความวุ่นวาย


โอหยางปินได้ปิดกั้นเธอทุกอย่าง หากว่าเธอกล้าสร้างเรื่องวุ่นวาย โอหยางปินคงไม่มีทางปล่อยเธอไว้อย่างแน่นอน


“เดรัจฉาน ทำไมฉันถึงมีลูกสันดานสัตว์ชั้นต่ำแบบนี้!”


โอหยางเซี่ยงหมิงจ้องหน้าลูกชายคนโตด้วยดวงตาแดงก่ำ คนที่สวมเขาให้ตนนั้น คือลูกชายแท้ๆของตน เป็นสิ่งที่ทำให้โอหยางเซี่ยงหมิงไม่อาจยอมรับได้


เขาโมโหจนถีบเข้าข้อพับเข่าของโอหยางปิน  โอหยางปินจึงล้มตึงตังไปกองอยู่บนพื้น


คุณหญิงโอหยางนั้นรู้สึกสงสารหลานชายมาก จึงชี้หน้าด่าหวงอวี้เหลียน “ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ ยัยจิ้งจอกไร้ยางอาย ล่อลวงทำชั่วกับหลานชายฉัน ลูกรอง ปีศาจจิ้งจอกอย่างหล่อนไม่ควรเก็บไว้ หย่ากับหล่อนเสีย!”


หวงอวี้เหลียนโกรธถึงขีดสุดแต่ยังคงนิ่งไว้ได้ ไม่เหมือนกับความรู้สึกที่อยู่ในสวนสาธารณะวันนั้น เธอหัวเราะเยาะเย้าใส่ มองคุณหญิงโอหยางและพูดประชดประชันขึ้น “ฉันล่อลวงหลานชายของคุณ  และหลานชายคุณเองที่ยินยอมจะถูกล่อลวง เขาเป็นผู้ชายแมนๆทั้งแท่ง ฉันหรือที่จะสามารถขมขืนเขาได้เหรอ?”


“…แก…แกยังกล้าเถียงฉันอีกรึ?…ลูกรอง พรุ่งนี้ไปทำเรื่องหย่าที่ว่าการอำเภอ แม่จะหาคนที่ดีกว่านี้ให้แก!” หญิงชราตะคอกเสียงดัง


โอหยางเซี่ยงหมิงหลับตาลงเพื่อซึมซับความเจ็บปวด แต่ไม่ได้ตกปากรับคำแม่ของตน


คุณปู่โอหยางสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ “ลูกรองหรือว่าแกยังอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงแบบนี้? ตาแก่อย่างข้าไม่เห็นด้วยเด็ดขาด ตระกูลโอหยางของเรายังหลงเหลือศักดิ์ศรีอยู่ไหม!”


หวงอวี้เหลียนหัวเราะเยาะ พลางหยิบเอาภาพถ่ายในกระเป๋าออกมาปึกหนึ่ง จากนั้นโยนลงบนโต๊ะน้ำชา


“อยากจะหย่ากับฉันมันไม่ง่ายหรอกนะ นอกเสียจากโอหยางเซี่ยงหมิงไม่อยากทำงานอยู่ในตำแหน่งนั้นแล้ว!”


หวงอวี้เหลียนจ้องมองคุณหญิงโอหยางอย่างเย้ยหยัน และพูดขึ้นอีกครั้ง “คุณคิดว่าลูกชายของคุณเป็นคนดีมีศีลธรรมนักหรือไง ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ เขาเล่นกับผู้หญิงไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน คุณเบิกตาให้กว้างแล้วดูให้ชัดล่ะ ถ้าไม่พอฉันยังมีอีกเยอะ!”


เหตุการณ์ในภาพถ่ายนั้นเป็นภาพระหว่างโอหยางเซี่ยงหมิงกำลังคั่วอยู่กับผู้หญิงอีกหลายๆ คน ไม่ต่างไปจากภาพเหตุการณ์ของหวงอวี้เหลียนและโอหยางปินเลย หากเรื่องเหล่านี้รู้ถึงหูของหน่วยงานที่โอหยางเซี่ยงหมิงทำงานล่ะก็ เกรงว่าตำแหน่งของเขาคงจะสั่นคลอนเอาได้


………………………………………..


ตอนที่ 897 แมลงสาบที่ฆ่าไม่ตาย


 เพื่อรักษาตำแหน่งคุณผู้หญิงของตระกูลโอหยางเอาไว้ หวงอวี้เหลียนจำเป็นต้องดึงไพ่ใบสุดท้ายของเธอออกมาใช้


สิ่งเหล่านี้เป็นวิธีการป้องกันตัวที่เธอคิดเอาไว้  ป้องกันเผื่อโอหยางเซี่ยงหมิงเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา จากตอนแรกคิดว่าทั้งชีวิตคงไม่ได้ใช้มัน แต่ก็นึกไม่ถึงว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้


เพราะภาพถ่ายเหล่านี้ที่หวงอวี้เหลียนมี ตระกูลโอหยางจึงทำได้เพียงยอมถอยให้หนึ่งก้าว พวกเขาไม่อยากบีบเค้นหวงอวี้เหลียนรวดเร็วเกินไป จนเป็นการทำลายหน้าที่การงานของโอหยางเซี่ยงหมิง


แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ยอมเสียหน้า  จึงคิดหาวีธีการประนีประนอมขึ้นมา…


คุณท่านโอหยางจึงออกหน้าเพื่อขอสั่งย้ายโอหยางเซี่ยงหมิงไปที่อื่น ย้ายไปพร้อมกันทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะมีเทศกาลสำคัญอะไรก็ไม่ต้องกลับมาที่เมืองหลวงอีก


เท่ากับเป็นการส่งครอบครัวของโอหยางเซี่ยงหมิงออกไป อย่างน้อยก็เป็นการดีกว่าไม่ทำอะไรเลย!


เหมยเหมยรับรู้ข่าวคราวเหล่านี้ เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกไม่พอใจ ด่าหวงอวี้เหลียนในใจว่าเป็นดั่งแมลงสาบที่ฆ่าไม่ตาย


นับเป็นการดีที่หวงอวี้เหลียนก็ไม่มีที่ยืนในเมืองหลวงแล้ว ต่อไปนี้เธอจะได้ไม่ต้องพบเจอหน้าสองแม่ลูกที่แสนรังเกียจนี่อีก ซึ่งก็นับว่าเป็นข่าวดี!


เพียงแต่เธอกลับไม่รู้ว่า กรรมชั่วจะมลายหายไปง่ายๆเสียที่ไหนกัน!


ตะวันแตะขอบฟ้าใกล้เข้าสู่ช่วงพลบค่ำ หวงอวี้เหลียนที่แต่งหน้าแต่งตาเสร็จก็ออกจากบ้านในทันที ตอนนี้เธอก็เบื่อที่จะต้องคอยรักษาความเป็นกุลสตรีสงบเสงี่ยมเจียมตัว  ถึงอย่างไรชื่อเสียงของเธอในเมืองหลวงก็ฉาวโฉ่วไปหมดแล้วนี่!


หวงอวี้เหลียนเข้ามายังเกสต์เฮาท์อย่างเร่งรีบ เดินเข้ามายังห้องๆ หนึ่งด้วยท่าทีลับๆ ล่อๆ เคาะประตูเพียงไม่กี่ครั้ง ก็ถูกคนด้านในฉุดลากเข้าไป คนคนนั้นก็คือโอหยางปิน


คนทั้งคู่ช่างใจกล้าเสียจริง อยู่บนปลายยอดลมยังกล้าทำเรื่องเรื่องชั่วช้าได้!


“เกลียดนัก คุณไม่กลัวว่าพ่อคุณจะมาเจออีกหรือไง?”


โอหยางปินรีบร้อน พอลากเข้าประตูมาได้ก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของหวงอวี้เหลียนออก พูดจาอ้อนหว่านล้อมไปที “ถ้าเจอแล้วจะทำไม เขาทำอะไรฉันได้? รีบหน่อย ฉันทนมาหลายวันแล้วเนี่ย!”


หวงอวี้เหลียนหัวเราะอย่างได้ใจ จากนั้นจึงเริ่มถอดเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างกลมเกลียว…


หลังจากเสร็จศึกใหญ่ไปหลายครา ทั้งคู่ถึงได้รู้สึกสบายอกสบายใจ เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ไม่สวมใส่ นอนพิงรับลมอยู่บนเตียงด้วยสภาพแบบนั้น…


“อาปิน ครั้งนี้ฉันทุกข์ทรมานมากเลย คุณต้องแก้แค้นให้ฉันนะ!” หวงอวี้เหลียนออดอ้อน พลางใช้ร่างกายถูไถตัวเขา


โอหยางปินหัวเราะอย่างเย็นชา “อย่าใจร้อนสิ รอให้หาเจ้าเช่อให้มาจัดการกับจ้าวหวายซานสองเฒ่านั้นได้ก่อน เหมยเหมยเธอจะลงโทษยังไงก็แล้วแต่เลย”


หวงอวี้เลียนได้ยินชื่อของเฮ่อเหลียนเช่อ จึงขมวดคิ้วแน่น พลางพูดเกลี้ยกล่อม “ฉันคิดว่าเฮ่อเหลียนเช่อไม่ค่อยเข้าท่านัก หรือไม่งั้นคุณลองไปหาคนอื่นดู?”


“ยังมีใครให้หาอีก? ช่างเหอะๆ เรื่องของฉันเธออย่ายุ่งให้มากนัก ผู้หญิงจะเข้าใจอะไรได้!”


โอหยางปินโบกมือปัดป่ายอย่างไม่สบอารมณ์ หางตาที่ใช้มองหญิงสาวข้างกายกดลงต่ำลง สิ่งที่เพิ่มขึ้นมานั้นคือความรำคาญ รู้สึกเพียงแค่เบื่อหน่าย


“ไปก่อนนะ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำ เธอก็ทำใจให้สบายแล้วก็ไปอยู่ทางใต้กับพ่อของฉันเถอะ ถ้าไม่มีธุระก็อย่ากลับมาหาฉัน”


โอหยางปินลุกขึ้นสวมใส่เสื้อผ้า เขาคิดเพียงว่าการที่หวงอวี้เหลียนไปอยู่ทางตอนใต้กับพ่อของเขานั้นเป็นเรื่องดี ลูกท้อเก่าที่กัดกินอยู่ทุกวันก็ต้องมีเบื่อหน่ายกันบ้างแหละ!


หวงอวี้เหลียนนิ่งขบคิด นอนกับชายผู้นี้มาหลายสิบปี ไม่มีใครเข้าใจโอหยางปินดีเท่าเธอแล้ว


เมื่อเห็นท่าทีของโอหยางปินในตอนนี้ เธอก็รับรู้ได้ทันทีว่าเขาได้เบื่อเธอแล้ว…


“อาปิน คุณลองช่วยพูดกับคุณย่าได้ไหม ให้ซานซานอยู่ที่นี่?” หวงอวี้เหลียนพูดกับโอหยางปินอย่างมีความหวัง ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นลูกของเขา!


“ให้อยู่ต่อเพื่ออะไร? ยังขายขี้หน้าไม่พอหรือ?”


โอหยางปินจ้องเธอตาเขม็งและยิ่งรู้สึกรำคาญ ผู้หญิงคนนี้ตัดสินใจเองที่จะคลอดเด็กออกมา ทั้งยังปิดบังเขามานานนับสิบหกปี บัญชีนี้เขายังไม่ได้สะสางเลยด้วยซ้ำ!


“ต่อไปนี้ถ้าเธอยังกล้าปิดบังฉันทุกเรื่อง อย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน!”


โอหยางปินทิ้งท้ายด้วยประโยคที่เด็ดขาด จากนั้นก็เดินออกไปอย่างไม่นึกอาลัยอาวรณ์


พัดลมที่กำลังพัดทำงาน ทำเอาหวงอวี้เหลียนหนาวสะท้านไปทั่วร่าง ในใจเหน็บหนาวยิ่งกว่า


โอหยางเซี่ยงหมิงไม่อาจคาดหวังได้แล้ว โอหยางปินก็พึ่งพาไม่ได้แล้ว หวงอวี้เหลียนเกิดความสับสนกะทันหัน ไม่ได้สิ เธอจะต้องหาที่พึ่งที่แข็งแกร่งกว่าเดิม


ขอแค่มีที่พึ่ง เธอก็จะสามารถจัดการยัยเด็กชั่วช้าอย่างจ้าวเหมยนั่นได้!


…………………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)