ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 838-861
ตอนที่ 838 ไม่ว่าจะยังไงต่อไปก็ไม่ไปอยู่แล้ว
แม้ว่าเหมยเหมยจะปลงได้บ้างแต่ในใจกลับยังว้าวุ่นอยู่ เธอจริงใจกับคุณย่าแต่กลับถูกตอบแทนด้วยการทำลายความจริงใจ เธอจะพอใจได้ที่ไหนกัน?
“คุณปู่ ท่านก็หลง ๆ ลืม ๆไปแล้ว พี่คะ หนูบอกพี่ไว้ก่อนนะ ครั้งนี้หนูจะไม่ประนีประนอมอย่างเด็ดขาด ต่อไปหากปิดเทอมหนูก็ขี้เกียจมาพักที่นี่อีกแล้ว เดินทางมาตั้งไกลเพื่อรองรับความโกรธ หนูทำผิดอะไร!”
เหมยเหมยบ่นอย่างโมโหจนแทบหายใจไม่ทัน เธอยืนหยัดแน่วแน่ว่าจะต้องแข็งแกร่งให้ถึงที่สุด ไม่ว่าคุณปู่พูดจาดุร้ายหรือว่าพูดจาไพเราะ เธอก็ไม่เชื่ออีกต่อไปแล้ว
ถ้าจะพูดตามความจริง สองปีมานี้เธอทำให้อะไรให้ตระกูลจ้าวมากกว่าที่ตระกูลจ้าวทำให้เธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอหาน้ำดี ๆเหล่านั้นและชาดี ๆพบ ตอนนี้ตระกูลจ้าวจะรุ่งโรจน์มีเกียรติได้ขนาดนี้เหรอ?
อย่าคิดว่าเธอไม่รู้อะไร เพียงแต่เธอไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับญาติพี่น้องเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้เธอต้องทำเช่นนั้นแล้ว พี่หมิงซุ่นพูดถูกไม่นึกเลยว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ต่อไปเธอต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้บ้าง ยังดีตระกูลจ้าวไม่มีใครรู้ความลับของฉิวฉิว
เหมยเหมยใจสงบลงมาก ฉิวฉิวเป็นไพ่ใบสุดท้ายของเธอ แม้แต่เหยียนหมิงซุ่นเธอก็ไม่ได้บอก!
จ้าวเสวียหลินลูบหัวน้องสาว แม้ว่าเขาก็โมโหแต่เขาเคารพนับถือคุณปู่มาก เขากล่าวเตือนว่า “เหมยเหมยจะว่าคุณปู่อย่างนี้ไม่ได้ พวกเราพักข้างนอกสองสามวันก่อน รอ…”
เหมยเหมยพูดขัดจังหวะเขาด้วยความโมโห เธอพูดถากถาง “พี่คะ ไม่ต้องมาเตือนฉัน ถ้าพี่จะกลับ พี่ก็กลับไปคนเดียว อย่างไรเสียฉันก็ไม่กลับไปแล้ว ต่อไปก็จะไม่กลับไปอีก ความจริงใจของหนูได้อะไรคืนกลับมาเหรอ? เชอะ ถ้าพูดกันตรง ๆ ฉันทำเพื่อตระกูลจ้าวมากพอแล้ว อย่าทำกับฉันเหมือนฉันเป็นคนโง่!”
เป็นครั้งแรกที่จ้าวเสวียหลินมองเห็นน้องสาวที่นุ่มนวลอ่อนหวาน พูดด้วยคำพูดที่ทิ่มแทงใจเช่นนี้ เขารู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าไปบ้าง เหมยเหมยในความประทับใจของเขา นอกจากขี้งอนแล้วก็ยังคงเป็นความขี้งอนอยู่ เขามองว่าขนาดโกรธก็ไม่ต่างกับขี้งอน
แต่เหมยเหมยในตอนนี้กลับยิ้มเยาะและยังมีคำพูดจาทิ่มแทง ในที่สุดก็ทำให้จ้าวเสวียหลินนึกถึงท่าทางของเหมยเหมยสมัยก่อนที่ยังไม่ได้กลับมาบ้าน
เหมยเหมยในตอนนั้นก็ไม่ต่างกับตอนนี้ แต่ความดื้อรั้นนั้นรุนแรงกว่าหน่อย เมื่อก่อนจ้าวอิงหัวก็เคยบอกเหมยเหมยไม่ธรรมดา วิธีการแนวคิดแยบยลมาก
ตอนนั้นจ้าวอิงหัวกับเหยียนซินหย่าต่างก็เป็นห่วงว่าในอนาคตเหมยเหมยจะกลับกลายเป็นคนที่มีความคิดน่ากลัว ท่าทางที่ทำให้คนเกลียด ทว่าต่อมาพวกเขาก็วางใจเพราะว่าเหมยเหมย ร่าเริง แจ่มใส น่ารักอ่อนหวาน ใครเห็นก็อดรักเธอไม่ได้ เหมือนดั่งดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานภายใต้แสงแดด
จ้าวเสวียหลินปวดใจ เขาไม่ชอบท่าทางของน้องสาวในตอนนี้เลย เขาชอบน้องสาวที่ร่าเริงแจ่มใสกว่า เขาโทษตัวเองเป็นเพราะเขาไม่ดีพอจึงปกป้องน้องสาวไม่ได้
ทำให้เธอน้อยใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม!
“ถ้าเหมยเหมยอยากอยู่ข้างนอกก็อยู่เถอะ พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเธอ”
จ้าวเสวียหลินมองน้องสาวอย่างยิ้มแย้ม ให้กำลังใจและสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่เธอ
จ้าวเสวียไห่ไม่เห็นด้วยพลางกล่าว “เสวียหลิน นายอย่าก่อเรื่องเหลวไหลตามเหมยเหมย ออกจากบ้านมาเล่น ๆ ก็พอแล้ว จำเป็นต้องแข็งข้อกับผู้ใหญ่ด้วยเหรอ? จะพูดอย่างไรเขาก็เป็นย่าของพวกเรานะ อย่าให้มันมากเกินไป!”
เหมยเหมยทำเสียงฮึดฮัดกล่าวเย้ยหยัน “ฉันไม่ได้หนีออกจากบ้าน ฉันเป็นแค่แขกเท่านั้น ถึงเวลาก็ต้องออกมา พี่ทั้งสี่คนไม่ต้องพูดแล้ว ฉันตัดสินใจแน่วแน่แล้วจะไม่กลับไปอีก!”
เธอโบกมือปัดไปมาอย่างหมดความอดทน ขัดจังหวะจ้าวเสวียไห่ที่กำลังจะพูดตักเตือนต่อ ตอนนี้เธอกำลังโมโหมาก คำพูดของใครก็ไม่อยากฟังทั้งนั้น ยิ่งฟังยิ่งหงุดหงิด!
“พวกเราจะไปอยู่ที่ไหนดีล่ะ?” จ้าวตุ้ยนุ้ยเดินจนเหงื่อไหลไคลย้อย ลิ้นห้อยหยั่งกับหมาน้อย
เหมยเหมยกรอกตาไปมา หันไปทางตู้โทรศัพท์สาธารณะที่อยู่ริมถนน เธอโทรไปหาตระกูลเซียว “เซ่อเซ่อ รีบให้คนมารับฉันเดี๋ยวนี้!”
……………………………
ตอนที่ 839 ข่าวลือข้างนอก มันเรื่องอะไร
ก่อนหน้านี้ที่เหมยเหมยจะบอกว่าไปพักที่โรงแรม จริง ๆแล้วพูดไปเพราะโมโห แม้ว่าการพักที่โรงแรมจะสามารถอยู่กับเหยียนหมิงซุ่นได้ทุกวัน แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่แผนการที่ดีในระยะยาว จะว่าไปแล้วเมื่อก่อนเธอเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ในหนังสือบอกไว้ว่ามีระยะห่างต่อกันถึงจะยิ่งสวยงาม
อยู่ด้วยกันทุกวันตลอด จะช้าจะเร็วก็ต้องรู้สึกเบื่อหน่าย แต่เธอไม่อยากให้เธอกับเหยียนหมิงซุ่นมีความรู้สึกเบื่อหน่ายต่อกัน ดังนั้นถึงเหมยเหมยจะอยากไปอยู่โรงแรมกับเหยียนหมิงซุ่นมากแค่ไหน แต่เธอก็ต้องอดกลั้นเอาไว้
ทางที่ดีที่สุดก็ไปอยู่ที่บ้านเซียวเซ่อดีกว่า!
อีกอย่างที่นั่นไม่มีผู้ใหญ่ อิสระกว่าโรงแรมอีก บางครั้งบางคราวยังสามารถบอกให้พี่หมิงซุ่นมาพักได้ด้วย ถึงตอนนั้นเธอก็ออดอ้อนบอกว่าตัวเองอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนั้นรู้สึกกลัว พี่หมิงซุ่นต้องหลงกลแน่นอน!
พอนึกถึงเหยียนหมิงซุ่นแล้ว เหมยเหมยก็อารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย ขณะที่นั่งบนรถของตระกูลเซียวเปิดแอร์เย็นช่ำ หลังจากดื่มน้ำอัดลมเย็น ๆหนึ่งขวด เหมยเหมยก็ยิ่งอารมณ์ดีกว่าเดิม
ที่แท้ความโกรธก็ต้องอาศัยน้ำเย็น ๆถึงจะดับความโกรธลงได้!
“นี่พวกเธอเป็นอะไร? ถึงได้พากันหนีออกจากบ้าน?” เซียวเซ่อกอดอก พินิจพิจารณาพวกเขาด้วยความอยากรู้
เหมยเหมยปรับเอนเก้าอี้ต่ำลงเล็กน้อย เธอนอนลงไปอย่างเกียจคร้านพลางถอนหายใจอย่างสบาย เธอพูดอย่างเหนื่อยหน่าย “อย่าพูดถึงมันอีกเลย สมองของคุณย่าเราโดนลาเตะจนเพี้ยนไปแล้ว แล้วฉันก็เอาไม้กวาดฟาดหวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกสารเลวนั่น ไม่ต้องบอกว่าคุณย่าปวดใจแค่ไหน เซ่อเซ่อ เธอต้องช่วยฉันนะ ไม่อย่างนั้นฉันก็คงต้องนอนข้างถนน!”
พวกเจ้าเสวียหลินเบะปากใส่พร้อมกัน ไม่เข้าใจกำลังพูดถึงอะไรอยู่ ยังดีที่ไม่ได้พูดต่อหน้าคุณย่า ไม่อย่างนั้นคุณย่าคงโมโหยิ่งกว่านี้!
เซียวเซ่อหัวเราะเยาะ “สมองคุณย่าของพวกเธอไม่ใช่ถูกลาเตะ แต่โดนช้างเตะจนเพี้ยนแล้ว ในหัวสมองมีแต่กากเต้าหู้ เป็นไปได้เธอก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำท่าน่าสงสารต่อหน้าฉัน บ้านของฉัน เธอจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้รับรองว่าไม่มีคนที่ขัดตามากวนใจเธอแน่นอน!”
“เซ่อเซ่อช่างเป็นคนดีจริง ๆ โชคดีที่ยังมีเธอคอยช่วยเหลือฉัน!” เหมยเหมยรู้สึกซาบซึ้งใจมาก
“ฉันไม่ใช่คุณย่าที่สมองเลอะเลือนของเธอสักหน่อย คนไหนญาติ คนไหนไม่ใช่ญาติก็ยังแยกแยะไม่ออก ฉันว่าที่คุณย่าของเธอรักหวงอวี้เหลียนขนาดนั้น หวงอวี้เหลียนคนนี้คงจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆที่ระเหเร่ร่อนอยู่ข้างนอกหรอกนะ?
เซียวเซ่อเหมือนกับค้นพบโลกใหม่ เธอภูมิใจในการคาดเดาของตัวเองมาก แต่เธอก็ส่ายหน้าทันที “ไม่ใช่ คงไม่ถึงขนาดนั้น คุณย่าของเธอจะเลอะเลือนแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ลูกสาวแท้ ๆแต่งงานกับลุงของเธอ คงไม่ก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก!”
“คุณเซียว กรุณาระวังคำพูดด้วย!” เจ้าเสวียหลินตักเตือนด้วยเสียงเข้ม
ยายเพี้ยนตระกูลเซียว หนึ่งคำก็เลอะเลือน สองคำก็เลอะเลือน ไม่เห็นหัวพวกเขาแล้วหรือไง?
ไม่แปลกใจที่น้องสาวระยะนี้หงุดหงิดบ่อยขึ้น ที่แท้ก็เป็นเพราะยัยเด็กเพี้ยนตระกูลเซียวพาให้เสียคน ต่อไปต้องให้น้องสาวอยู่ห่าง ๆเซียวเซ่อสักหน่อยถึงจะดี!
เซียวเซ่อกลอกตามองบน ตอกกลับอย่างเย้ยหยัน “ถ้าคุณมีอารมณ์มาสนใจฉัน คุณไปสนใจคุณย่าของคุณจะดีกว่านะ ไม่เพียงแต่ต้องระวังคำพูด ยังต้องระวังการกระทำด้วย อายุปูนนี้ยังพยายามสร้างเรื่องวุ่นวายอีก!”
เหมยเหมยมองเจ้าเสวียหลินที่ถูกเซียวเซ่อเถียงจนพูดไม่อะไรไม่ออก เธอรู้สึกเพียงว่าโกรธอยู่ไม่น้อย ถึงอย่างไรในใจของพวกจ้าวเสวียไห่คุณย่าก็ยังสำคัญกว่า สมน้ำหน้าที่โดนเซ่อเซ่อสวนกลับ!
สตีฟเว่นพ่อบ้านได้ให้คนจัดห้องให้พวกเขาแล้ว พ่อบ้านต้อนรับพวกเหมยเหมยอย่างเป็นมิตร ป้าแม่บ้านก็เช่นกัน นานมากแล้วที่พวกเขารู้สึกในบ้านเงียบเหงาเกินไป เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาที่ชอบความคึกคักรู้สึกเสียใจ
หลังจากจัดหาที่พักเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเหมยเหมยก็สบายใจ มีเวลานึกถึงคำพูดเหล่านั้นของโอหยางซานซาน
“พี่คะ คำพูดของโอหยางซานซานหมายความว่าอะไร? ข้างนอกพูดถึงฉันว่าอย่างไร? พวกพี่เคยได้ยินบ้างไหม?” เหมยเหมยเอ่ยถาม
………………………………
ตอนที่ 840 หนามยอกเอาหนามบ่ง
จ้าวเสวียหลินไม่เมินเฉยต่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน ปฏิกิริยาของผู้คนที่มามุงในตอนนั้นเขาเองก็ดูอยู่ เขารู้ว่าโอหยางซานซานต้องไม่ได้พูดส่งเดชแน่นอน
“พี่สี่ พี่ห้า พวกพี่เคยได้ยินอะไรมาบ้างไหม?” จ้าวเสวียหลินถาม จ้าวเสวียไห่ พวกเขาคุ้นเคยกับสถานการณ์ของเมืองหลวงมากกว่า
“ฉันออกไปถาม ๆดู ไม่นานก็คงได้ข่าวมาแหละ”
ทั้งจ้าวเสวียไห่และจ้าวเสวียกงต่างก็พากันออกไปถาม จ้าวเสวียหลินที่นั่งไม่ติดก็ตามออกไปด้วย ส่วนเหมยเหมยกับสยงมู่มู่ พวกเขาอยู่ที่บ้านตระกูลเซียว เซียวเซ่อถามเธอว่า เรื่องอะไรกัน เหมยเหมยจึงได้เล่าเรื่องของโอหยางซานซานให้ฟังอีกรอบ
“ก็ฉันอยากจะรู้ว่า ข้างนอกพูดถึงฉันว่าอย่างไร ฉันไม่ยอมถูกคนอื่นมองว่าเป็นคนโง่หรอกนะ”
จริง ๆแล้วเหมยเหมยไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะว่าเธออย่างไร ไม่ว่าข้างนอกจะพูดถึงเธอเลวร้ายแค่ไหน ขอเพียงเหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าเธอเป็นคนอย่างไรก็พอแล้ว คนอื่นจะมองตัวเธออย่างไรเธอไม่สนใจสักนิด!
แต่ไม่สนใจก็ส่วนหนึ่ง เรื่องนี้เธอต้องรู้ความจริงให้ได้ อีกอย่างเธอยังต้องสืบให้ได้ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังการกระจายข่าวลือเรื่องนี้
เซียวเซ่อครุ่นคิดแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ง่ายมาก ฉันโทรศัพท์ไปถามก็รู้แล้ว”
คุณหนูใหญ่เฝิงเป็นคนที่รู้ทุกเรื่อง พูดได้ว่าเป็นคนที่รู้ข่าวคราวทั่วเมืองหลวงได้อย่างรวดเร็วที่สุด ไม่มีใครเร็วไปกว่าเธอแล้ว เซียวเซ่อไม่ได้โทรศัพท์หาคุณหนูใหญ่เฝิง แต่เธอโทรหาลูกน้องของคุณหนูใหญ่เฝิง
เซียวเซ่อถามเรื่องของเหมยเหมยไปตรง ๆ แน่นอนว่าลูกน้องคนนั้นรู้เรื่องดี แล้วก็เล่าเรื่องราวอย่างละเอียดทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟัง
เพราะว่าคุณหนูใหญ่เฝิงกำชับไว้ หากเซียวเซ่อไม่มาถาม ห้ามพูดแม้แต่คำเดียว แต่หากเป็นเซียวเซ่อถามขึ้นมาเอง ถ้าอย่างนั้นก็ให้เล่าทุกอย่างอย่างละเอียด
“เรื่องไร้สาระ พูดจาเหลวไหลทั้งนั้น ทำไมเธอไม่รีบบอกฉัน? เซียวเซ่อเดือดดาลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนเกือบจะทุบโทรศัพท์อยู่แล้ว
ลูกน้องเคยชินกับนิสัยของคุณหนูของตัวเอง จึงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ก็คุณหนูไม่เคยถาม?”
เซียวเซ่อนิ่งไป ไม่ได้ระบายความโกรธ แม้ว่าเธอจะนิสัยไม่ดี แต่เธอมีข้อดีที่สุดอย่างหนึ่งก็คือตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยพาลโมโหไปทั่ว โดนลูกน้องของคุณหนูใหญ่เฝิงตอกกลับหนึ่งประโยค เซียวเซ่อก็ว่าง่ายในทันที
“ถ้าอย่างนั้น คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนกุเรื่องเหลวไหลนี้ขึ้นมา?” เซียวเซ่อถาม
ลูกน้องยังคงน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณหนู คนที่กุเรื่องนี้คือหวงอวี้เหลียน”
หวงอวี้เหลียนคิดว่าไม่มีใครรู้ แต่นั่นแค่คนในตระกูลจ้าวเท่านั้น แต่ต่อหน้าคุณหนูใหญ่เฝิงที่มีเครือข่ายข้อมูลทั่วทั้งเมืองหลวง กลอุบายของเธอนั้นก็เป็นเพียงเรื่องเด็กเล่นขายของเท่านั้น
“พวกผู้หญิงไร้ยางอาย!” เซียวเซ่อขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง
“คุณหนูครับ คุณหนูใหญ่เฝิงบอกว่า เธอช่วยได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือต้องให้คุณหนูไปจัดการเอง” ลูกน้องกล่าว
เซียวเซ่อตะคอกด้วยความโมโห “ฉันขอความช่วยเหลือจากเขาแล้วเหรอ? ไม่ต้องให้เขามายุ่ง!”
เธอไม่พอใจพฤติกรรมของคุณหนูใหญ่เฝิงที่รู้เรื่องข่าวลือเหล่านี้มานานแล้วแต่กลับปิดปากไม่พูดออกมา ถ้าเธอไม่โทรมาถาม ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะปิดบังไปถึงเมื่อไหร่!
ถึงอย่างไรเหมยเหมยก็เหมือนลูกเหมือนหลาน เธอจะกลั้นใจปิดบังไม่พูดได้อย่างไร?
ผู้หญิงคนนี้ก็ยังใจร้ายเห็นแก่ตัวเหมือนแต่ก่อนไม่มีผิดเลย ทำเรื่องไม่ดีหลายเรื่อง และไม่เกรงกลัวผลกรรมที่จะตามมาภายหลัง!
เซียวเซ่อสบถด่าอย่างเคียดแค้น แล้วค่อยพูดเรื่องข่าวลือที่หวงอวี้เหลียนกุขึ้นมา หญิงสารเลวคนนี้พูดถึงเหมยเหมยได้เลวร้ายมาก แม้กระทั่งเรื่องทำแท้งยังกล้าพูดออกมาได้
แม้ว่าเหมยเหมยจะไม่สนใจความคิดของคนนอก แต่ก็โมโหเพราะข่าวลือเลวร้ายเหล่านี้ไม่น้อยเหมือนกัน
หวงอวี้เหลียนเป็นนังงูพิษจริงๆ!
“เหมยเหมย เรื่องนี้จะปล่อยไปเฉยๆ ไม่ได้นะ พวกเราต้องให้บทเรียนแก่นังพวกนั้นให้หลาบจำ!” เซียวเซ่อก็โมโหเช่นกัน สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดก็คือทำร้ายคนของอื่นลับหลัง!
สยงมู่มู่ก็โมโห เขาเสนอความคิด “พวกเราต้องใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งกัน!”
……………………………………
ตอนที่ 841 หามืออาชีพ
เหมยเหมยกับเซียวเซ่อล้วนเห็นด้วยกับวิธีการของสยงมู่มู่ ทว่า—
“แล้วจะใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งอย่างไร? หรือว่าพวกเราก็ต้องออกไปปล่อยข่าวลือด้วย?” จ้าวตุ้ยนุ้ยถาม
เหมยเหมยครุ่นคิดแล้วกล่าว “ไม่จำเป็นต้องใช้ข่าวลือ คุณอาพูดอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่เหรอว่าหวงอวี้เหลียนไม่โปร่งใส ขอเพียงสิ่งที่คุณอาพูดเป็นความจริง พวกเราก็แค่สะกดรอยตามหวงอวี้เหลียนต้องจับพิรุธของเธอได้อย่างแน่นอน!”
สยงมู่มู่คันไม้คันมือ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันตอนนี้เลย แม่ฉันต้องไม่พูดเรื่องไร้สาระแน่นอน หวงอวี้เหลียน ผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้ต้องมีส่วนพัวพันแน่นอน!”
เซียวเซ่อมองเขาอย่างเหยียดหยามอยู่แวบหนึ่ง “นายจะไปตามไง? ฝีมืออย่างนายเหรอ หวงอวี้เหลียนก็ไม่ใช่คนโง่ เขาจะไม่เห็นเลยเหรอ?
“ถ้าอย่างนั้นใครจะเป็นคนตามละ? หรือว่าเธอจะไป?” สยงมู่มู่ทำหน้าไม่พอใจ
“ฉันก็ไปไม่ได้ เรื่องอย่างนี้ต้องให้มืออาชีพทำ เดี๋ยวฉันโทรศัพท์อีกครั้งก่อน”
เซียวเซ่อหาสมุดโทรศัพท์ในลิ้นชัก เธอกดโทรออกทันที ไม่นานก็มีคนรับสาย เธอพูดเร็วมากและพูดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เหมยเหมยฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่สยงมู่มู่เข้าใจ เขามองเซียวเซ่อด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย
“เธอหานักสืบเอกชน? เมืองหลวงมีนักสืบเอกชนตั้งแต่เมื่อไหร่?” สยงมู่มู่ถาม
เซียวเซ่อมองเขาอย่างเหยียดๆแวบหนึ่งอีกครั้ง “นายไม่รู้อะไรอีกตั้งมากมาย!”
เธอก็หันไปบอกเหมยเหมย “ฉันได้ให้คนไปตรวจสอบหวงอวี้เหลียนแล้ว คน ๆนี้ไม่ปากพล่อย ทำงานเชื่อถือได้ ไม่นานก็ได้ข่าวคราวแล้ว”
เหมยเหมยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เขาเป็นคนต่างชาติเหรอ?”
“ไม่ใช่ แต่เป็นคนฮ่องกง ชื่อเสี่ยวกัว เดี๋ยวจะแนะนำให้พวกเธอรู้จักภายหลัง ถ้าเธอมีงานอะไรจะให้เขาทำให้ก็ได้นะ”
เหมยเหมยยังคงอยากรู้อยากเห็น ฟังจากน้ำเสียงของเซียวเซ่อ เธอน่าจะเป็นลูกค้าเก่าของเสี่ยวกัว คำถามคือเมื่อก่อนเธอให้เสี่ยวกัวตรวจสอบอะไร?
เซียวเซ่อก็ไม่จำเป็นต้องให้เธอถาม เธอก็สารภาพออกมาเอง “เมื่อก่อนฉันเคยให้เสี่ยวกัวตรวจสอบตาแก่แตงกวา”
เหมยเหมยเบะปาก ลูกสาวหาคนไปตรวจสอบเบื้องหลังของพ่อตัวเอง บ้านนี้ช่างเหลือเกินจริง ๆ …
ตอนบ่ายพวกจ้าวเสวียไห่ก็ยังไม่กลับมา เหมยเหมยโทรไปที่โรงแรมต้องการบอกเหยียนหมิงซุ่นว่าเธอย้ายออกมาจากบ้านตระกูลจ้าวแล้ว และถือโอกาสระบายความเสียใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม!
เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่นไม่อยู่โรงแรม และเมื่อวานตอนเช้าหลังจากออกไปแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับเข้ามา ผู้บริหารของโรงแรมก็เป็นห่วงมากเช่นกัน
เหมยเหมยจึงต้องวางสาย เธอเป็นห่วงเหยียนหมิงซุ่นมาก วันก่อนตอนงานเลี้ยงวันเกิดที่ร้านอาหาร เธอรู้สึกว่าเหยียนหมิงซุ่นดูท่าทางแปลก ๆ เหมือนมีเรื่องหนักอกหนักใจ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา!
ในเวลานี้เหยียนหมิงซุ่นอยู่ในภูเขากว้างใหญ่ไพศาลหาที่สุดมิได้ ในตัวมีเพียงกริชที่เขาซ่อนเอาไว้ กริชเล่มนั้นเหมยเหมยเป็นคนมอบให้เขา นอกจากสิ่งนี้แล้วก็ไม่มีอย่างอื่น เขาปากแห้งจนลอก คอแห้งผากเหมือนจะพ่นควันออกมา ขาก็อ่อนแรงมาก
เขาไม่ได้กินอะไรเลยมาหนึ่งวันแล้ว นอกจากนกเขาเพียงตัวเดียวที่ถูกจับเมื่อคืน น้ำก็ได้ดื่มแค่น้ำค้างตอนเช้านิดหน่อย แม้ว่าลำธารเล็ก ๆในภูเขาจะมีน้ำอยู่ แต่เขาก็ไม่กล้าดื่มสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะไม่รู้ว่าผู้คนที่ผ่านไปมาจะวางยาพิษหรือไม่
เมื่อวานเขาเห็นกับตาตัวเองว่ามีคนหนึ่งหลังจากดื่มน้ำในลำธารบนภูเขาแล้ว ก็ปวดท้องจนลงไปนอนกลิ้งกับพื้น ต้องส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือ แม้ว่าจะรักษาชีวิตได้แต่นั่นก็หมายความว่าเขาตกรอบแล้ว
จนกระทั่งตอนนี้ เหยียนหมิงซุ่นก็ยังรู้สึกเหมือนกำลังฝัน ทั้ง ๆที่เขาแค่อยากมาที่เมืองหลวงเพื่อฉลองวันเกิดของจ้าวหญิงน้อยเท่านั้น แต่ทำไมกลายมาถึงขั้นนี้ได้?
เหยียนหมิงซุ่นส่ายหน้า ฝืนยิ้มออกมา กลับมามั่นใจแน่วแน่อีกครั้ง ในเมื่อเขาเลือกเส้นทางนี้แล้วถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องเดินหน้าต่อไป!
อีกอย่างเขาต้องเป็นผู้ชนะคนนั้นให้ได้!
นับว่าเขายังมีโชคอยู่บ้าง มีกระต่ายอ้วนพีตัวหนึ่งแวบผ่านหน้าเขาไป จึงกลายเป็นมื้อกลางวันของเหยียนหมิงซุ่น หลังจากกินเลือดกระต่ายแล้วเขาก็มีกำลังวังชาขึ้นมาก
เขาย่างกระต่ายอย่างรีบเร่ง เตรียมจะเดินไปกินไปด้วย มีลมพัดผ่านมาจากด้านหลังเขา เหยียนหมิงซุ่นจึงเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ มีชายหนุ่มที่อยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นกันโผล่พรวดออกมา ในมือถือกริชต้องการจะแทงเขา!
………………………………
ตอนที่ 842 ตกรอบ
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วมุ่น ผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในคู่แข่งของเขา และตามที่พี่เฉิงบอกเขายังเป็นเชื้อสายโดยตรงของครอบครัวตกอับครอบครัวหนึ่ง และถือว่าหน้าตาดีในกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกัน!
พี่เฉิงรู้จักคู่แข่งพวกนี้เป็นอย่างดี เขาบอกว่าชายผู้นี้เป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถสูสีเหยียนหมิงซุ่น และในเวลานี้พวกเขาก็ได้พบกันแล้ว!
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมา เหยียนหมิงซุ่นก็นั่งย่างกระต่ายที่ยังไม่สุกต่อไป บนร่างของเขามีบาดแผลสองสามที่ ยังดีที่เป็นเพียงบาดแผลถลอกเท่านั้น ใช้สมุนไพรทาเพื่อห้ามเลือดก็ไม่เป็นอะไรแล้ว
ข้างหลังเขามีชายหนุ่มที่กำลังอยู่ในอาการปางตายนอนอยู่ หน้าอกขยับขึ้นลงเบาๆ ที่ท้องของเขามีรอยมีดบาดลึก เลือดย้อมทั่วหญ้าที่อยู่ข้างใต้ตัวเขาเป็นสีแดงสด
เหยียนหมิงซุ่นไม่กังวลว่าชายผู้นี้จะตาย เขาเพิ่งจะปล่อยสัญญาณช่วยชีวิตของผู้ชายคนนี้ไปแล้ว ไม่นานก็มีจะคนเข้ามาช่วยชีวิตเขา
แน่นอนว่าต้องดูว่าชายผู้นี้ดวงดีหรือไม่ หากคนช่วยชีวิตมาไม่ทัน ก็ทำได้เพียงโทษตัวเขาเองที่อายุสั้นเกินไป!
สำหรับคนที่ต้องการจะทำร้ายตัวเขา เหยียนหมิงซุ่นไม่เคยใจอ่อน!
เมื่อครู่มีหลายครั้งที่เขายั้งมือปราณีคนนี้อยู่บ้าง แต่เจ้าคนนี้กลับบุกประชิดเข้ามาทุกจังหวะ อยากจะฆ่าเขาให้ตายท่าเดียว มีหรือที่เขาจะทนได้?
สำหรับเหตุการณ์นี้จะทำให้เขาต้องรับโทษทางอาญาหรือไม่นั้น เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่ได้กังวลเลยสักนิด หากเฮ่อเหลียนชิงไม่มีแม้แต่ความสามารถนี้ ทำไมเขายังต้องเคารพเขาในฐานะพ่อบุญธรรม?
สิ่งที่เหยียนหมิงซุ่นไม่รู้คือขณะที่เขากำลังต่อสู้กับชายคนนั้น มีคนสองคนที่ซ่อนอยู่บนต้นไม้ที่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงร้อยเมตร จนกระทั่งเหยียนหมิงซุ่นส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ สองคนนี้ถึงได้เดินออกมา และทำการปฐมพยาบาลผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บและยิงพลุส่งสัญญาณ ไม่นานก็มีเฮลิคอปเตอร์มารับเขาไป
และในเวลานี้พวกเขาในสายอาชีพนี้ส่วนใหญ่ตกรอบหมดไปแล้ว เหลือเพียงเหยียนหมิงซุ่นและอีกคนหนึ่ง สองคนนี้เก่งกาจทั้งคู่ ต้องมาดูกันว่าใครจะเป็นคนคว้าชัยชนะ!
ห่างจากภูเขาใหญ่ประมาณสิบกว่าลี้ มีหมู่บ้านการเกษตรแห่งหนึ่ง ละแวกใกล้เคียงไม่มีหมู่บ้านอื่น มันรกร้างว่างเปล่าไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ มีเพียงบ้านหลังใหญ่หลังนี้เท่านั้น ในหมู่บ้านการเกษตรมีทุ่งนาและที่ดิน และยังมีไก่ เป็ดและหมูด้วย เป็นภาพบรรยากาศธรรมชาติที่น่าชมทีเดียว
วันนี้หมู่บ้านการเกษตรแห่งนี้ค่อนข้างคึกคัก ผู้คนสัญจรไปมาไม่ขาดสาย ล้วนกลับมาเพื่อรายงานและติดตามสถานการณ์
ในบ้านมีชายวัยกลางคนหน้าซีดขาวคนหนึ่งนั่งอยู่ มีสีผิวขาวซีดเพราะไม่ได้สัมผัสแสงแดดมาตลอดทั้งปี ร่างกายของเขาซูบผอมมาก เส้นเลือดเขียวปูดขึ้นมาที่หลังมือดูน่ากลัว บนขาของชายคนนี้มีผ้าห่มบางๆ ปิดทับอยู่ เขาหรี่ตาลง
“เป็นพวกไร้ประโยชน์ทั้งนั้น ตอนนี้ยังเหลือกี่คน?”
ชายวัยกลางคนหัวเราะเยาะ เสียงของเขาแหลมเล็กมาก ฟังแล้วแสบแก้วหู
“ยังมีอีกสองคน คนหนึ่งเฉินเฉิงแนะนำมา อีกคนคือหลานชายบ้านที่ห่างไกลของตระกูลโจว ตอนนี้ไล่ตามกันมา” ลูกน้องตอบ
“ครั้งนี้คนที่เฉินเฉิงแนะนำถือว่าใช้ได้ พวกแกไปสังเกตดูอีก ส่วนคนตระกูลโจวนั่นไม่ต้องไปสนใจ ขอเพียงรับประกันว่าเขาไม่ตายก็พอแล้ว คนที่เฉินเฉิงพามา รอเขาออกมาก่อนแล้วพามาพบฉันด้วย”
ชายวัยกลางคนอารมณ์ดี เขาครุ่นคิดแล้วก็ตะโกนเรียกลูกน้องเอาไว้สั่งว่า “เพิ่มวัตถุเข้าไปอีกนิดหน่อย ฉันจะดูว่าไอ้หนูน้อยคนนี้จะมีฝีมือแค่ไหนกันเชียว!”
“ครับ!”
ลูกน้องรับคำสั่งก็พากันออกไป เห็นใจเหยียนหมิงซุ่นอยู่แวบหนึ่ง
ชายวัยกลางคนนั่งอยู่นานแล้ว รู้สึกเหนื่อยล้า กวักมือเรียกให้คนประคองเขาไปนอน บางทีตื่นขึ้นมาแล้วเขาอาจจะมีลูกชายแล้วก็ได้!
คนหนึ่งเป็นลูกชายที่เขาเลือกเอง ส่วนอีกคนเป็นลูกชายที่สามารถช่วยเขาแก้แค้นและส่งเขาขึ้นภูเขาได้!
ส่วนคนแซ่โจวนั่น ชิ อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ว่า ตระกูลโจวนั่นสนิทกับเจ้าลูกเวรนั่น?
เจ้าลูกเวรยังส่งคนมาเป็นสายสืบข้างกายเขาอีกเหรอ หึ…ฝันไปเถอะ!
……………………………
ตอนที่ 843 เหยียนหมิงซุ่นหายไปไหน
จนถึงตอนเย็นแล้ว เหยียนหมิงซุ่นก็ยังไม่กลับโรงแรม เหมยเหมยรู้สึกใจคอไม่ดี ก็เลยไหว้วานให้เซียวเซ่อบอกเสี่ยวกัวช่วยตามหา
สำหรับความเป็นความตายของเหยียนหมิงซุ่นนั้น เซียวเซ่อไม่ได้สนใจแม้แต่นิดเดียว แต่เธอทนคำออดอ้อนของเหมยเหมยไม่ไหว จำใจต้องโทรหาเสี่ยวกัวอีกครั้ง บอกให้เขาช่วยไปตามหาว่าเหยียนหมิงซุ่นหายไปไหน
“เธอวางใจได้ เสี่ยวกัวตามหาคนเก่งที่สุด ตราบใดที่คนรักของเธอไม่ได้โดนคนเผาเพื่อทำลายหลักฐาน ต้องหาเจอแน่นอน ถ้ามีชีวิตอยู่เธอจะได้พบเขา ถ้าตายเธอก็ยังจะได้พบศพ!
เซียวเซ่อพูดอย่างหงุดหงิดจนถูกเหมยเหมยกลอกตาใส่
ตอนค่ำพวกจ้าวเสวียไห่กลับมากันแล้ว ดูท่าทางโกรธโมโหอยู่บ้าง ตอนบ่ายพวกเขาไล่สืบถามเกี่ยวกับข่าวลือของเหมยเหมยจนได้คำตอบแล้ว พวกเขาจึงโกรธมากเป็นธรรมดา
“พี่คะ ข้างนอกพูดถึงฉันว่าอย่างไรบ้าง?” เหมยเหมยจงใจถาม
“ไม่มีอะไรหรอก โอหยางซานซานพูดเรื่องเหลวไหล เหมยเหมยก็คิดเสียว่าหล่อนพูดจาไร้สาระแล้วกัน!” จ้าวเสวียหลินไม่อยากให้คำพูดหยาบคาย ลามกเหล่านั้นเข้าหูเหมยเหมย จึงไม่ได้พูดความจริงกับเธอ
เหมยเหมยยักไหล่และไม่ได้ถามต่อ เธอรู้อยู่แล้วต่อให้ถามไปก็ไม่มีความหมาย
เธอไม่คาดหวังให้ตระกูลจ้าวทวงความยุติธรรมแทนตัวเธอ เธอต้องใช้วิธีการของเธอเอง ให้หวงอวี้เหลียนกับโอหยางซานซานได้รับรู้ความร้ายกาจของเธอ!
พวกจ้าวเสวียไห่ไม่ได้พักที่บ้านตระกูลเซียว พวกเขากลับบ้านตระกูลจ้าว เรื่องข่าวลือต้องคุยกับคุณปู่ ถ้ารู้ว่าใครคิดเล่นไม่ซื่อจะไม่ยอมอ่อนข้อให้คนนั้นเป็นอันขาด!
จ้าวเสวียหลินไม่ได้กลับไป เขาอยู่ที่นี่ต่อ ถึงแม้เขาจะไม่ชอบพักที่บ้านตระกูลเซียว แต่เขาเคยรับปากจ้าวอิงหัวไว้ต้องดูแลเหมยเหมยให้ดี
ประสิทธิภาพการทำงานของเสี่ยวกัวยังคงยอดเยี่ยม ผ่านไปเพียงวันเดียวก็มีโทรศัพท์เข้ามา เล่าเรื่องต่าง ๆที่ไปตรวจสอบมาให้ฟัง และให้เซี่ยวเซ่อเตรียมเงิน แล้วไปเจอกันที่เดิมเพื่อคุยรายละเอียด
เซียวเซ่อหยิบสมุดเช็คเล่มหนึ่งออกมาจากห้องของเธอ เหมยเหมยสังเกตเห็นรูปแบบและสีของสมุดเช็คแตกต่างกับที่เธอเห็นบ่อย ๆจึงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เซ่อเซ่อ สมุดเช็คเล่มนี้ของเธอ ของธนาคารอะไร?”
“ของธนาคารยูบีเอส เสี่ยวกัวรับแต่เช็คของธนาคารยูบีเอส” เซียวเซ่อหงุดหงิดเล็กน้อย
เมื่อก่อนเธอเคยเขียนเช็คของซิตี้แบงค์และธนาคารอิมเพอเรียลให้แต่เซียวกัวไม่รับ ต้องเป็นธนาคารยูบีเอสเท่านั้น เธอจนปัญญาจึงจำใจไปหาพ่อเพื่อขอสมุดเช็ค เพราะว่ามีแค่เขาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการเปิดบัญชีกับธนาคารยูบีเอส ขนาดคุณหนูใหญ่เฝิงยังไม่มีสิทธิ์
โชคดีที่คุณพ่อเป็นคนเต็มที่กับการให้เงินมาตั้งแต่ไหนแต่ไร พอได้ยินว่าเธอต้องการสมุดเช็คของธนาคารยูบีเอสเอาไปแกล้งข่มคน ก็ไม่พูดอะไรเลยและให้เธอมาหนึ่งเล่มและยังใจปล้ำเซ็นต์ชื่อบนสมุดเช็คอีก เซียวเซ่อประทับใจกับสิ่งนี้ เขาจึงใช้เวลากับพ่อของเธออย่างอบอุ่นสามวัน
ผลก็คือหลังจากที่ได้เห็นผู้ช่วยใหม่ของเซียวจิ่งหมิง ความอ่อนโยนก็เลือนหายไปหมด ชื่อของเซียวจิ่งหมิงก็กลายเป็นตาแก่แตงกวาแทน!
เหมยเหมยแลบลิ้น ยิ่งรู้สึกว่าเสี่ยวกัวเป็นคนลึกลับ ธนาคารยูบีเอสไม่ใช่แค่มีเงินก็เปิดบัญชีได้ คนที่มีคุณสมบัติในการเปิดบัญชีที่นั่น ถ้าไม่ใช่มีเงินมากมายก็ต้องมีฐานะอยู่ในระดับสากลหรือเป็นคนตระกูลสูงศักดิ์
อย่างเช่นเซียวจิ่งหมิงเป็นคนตระกูลสูงศักดิ์ และเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงระดับสากล ธนาคารยูบีเอสต้องมาเชิญให้เขาไปเปิดบัญชีอยู่แล้ว
“เงื่อนไขของเสี่ยวกัวก็โหดเกินไป แบบนี้เขายังมีกิจการได้อีกเหรอ? เมืองหลวงมีสักกี่คนที่สามารถเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของธนาคารยูบีเอสได้? เหมยเหมยสงสัย
เศรษฐกิจฮวาเซี่ยในปัจจุบันกำลังเติบโตขึ้น หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธนาคารยูบีเอสเปิดอยู่ที่ไหน เปิดบัญชีอย่างไร?
เสี่ยวกัวทำอย่างนี้ไม่ได้เป็นการยกก้อนหินขึ้นทุบเท้าของเขาเองเหรอ!
เซียวเซ่อค้อนเธอแวบหนึ่ง “ เธอดูถูกคนหวาเซี่ยเกินไปแล้ว เท่าที่ฉันรู้มามีลูกค้าประจำของธนาคารยูบีเอสในเมืองหลวงไม่ต่ำกว่า 20 คน ที่อื่นฉันไม่รู้แต่ฉันคิดว่ามีอยู่มาก และเธอคิดว่าเสี่ยวกัวเป็นพ่อค้าแผงลอยข้างถนนเหรอ? “
………………………………
ตอนที่ 844 ประตูสู่โลกใบใหม่
เซียวเซ่อต่อว่าเหมยเหมยยกใหญ่อยู่พักหนึ่งและเปิดประตูโลกใบใหม่แก่เธอ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอายในความโง่ของตัวเอง!
ที่แท้ธุรกิจหลักของเสี่ยวกัวไม่ได้อยู่ในประเทศ สำนักงานนักสืบของเขาอยู่ที่ฮ่องกง แต่เขาชอบอาหารและทิวทัศน์ภายในประเทศ ดังนั้นเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่เมืองหลวง ปกติจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ถ้าหากอากาศหนาวเขาจะกลับไปฮ่องกง
ตามที่เซียวเซ่อเล่า เสี่ยวกัวมีชื่อเสียงมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุกคนเรียกเขาว่าเทพนักสืบ และเขาเป็นคนกว้างขวางมาก รู้จักคนที่มีความสามารถมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ดังนั้นเสี่ยวกัวจึงสามารถค้นหาความจริงที่นักสืบคนอื่นไม่สามารถค้นหาได้ด้วยประสิทธิภาพที่สูงมาก เป็นเพราะว่าเขามีเพื่อนที่เก่งกาจหลายคนคอยช่วยเหลืออยู่
อีกอย่างค่าใช้จ่ายที่เสี่ยวกัวเรียกเก็บก็ค่อนข้างสูง เลขศูนย์ที่เขียนอยู่บนเช็คของเซียวเซ่อ แม้แต่เหมยเหมยยังตกตะลึง และยังเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หากแลกเป็นสกุลเงินฮวาเซี่ยแล้วเกรงว่ายังต้องเพิ่มเลขศูนย์อีกหลายตัว
เหมยเหมยอดรู้สึกกระดากใจไม่ได้ เธอกล่าวเสียงเบา “เซ่อเซ่อ เรื่องเงินให้ฉันจ่ายเถอะ แต่ว่าฉันไม่มีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนะ ฉันให้เธอเป็นสกุลเงินฮวาเซี่ยได้ไหม?”
“เธอบ้าหรือเปล่า? ถ้ายังพูดเรื่องเงินกับฉันอีกก็ออกไปจากบ้านฉันได้เลย!”
เซียวเซ่อส่งสายตาขึงขังใส่เธอ เหมยเหมยหดคอลงด้วยความกลัวแล้วไม่กล้าปริปากพูดสักคำ คุณหนูใหญ่เซียวแสดงอนุภาพอันน่าเกรงขาม ขนาดไท่เฮายังกลัว แล้วเธอจะไม่กลัวเหรอ!
สถานที่ที่เสี่ยวกัวนัดพบคือร้านน้ำชาที่เงียบสงบมากอยู่ในป่าไผ่แห่งหนึ่ง เถ้าแก่เป็นผู้หญิงที่สวยหยาดเยิ้ม ทั้ง ๆ ที่อายุค่อนข้างเยอะแล้ว แต่กลับดูอายุที่แท้จริงไม่ออก
จะพูดได้ว่าอายุยี่สิบปีหรืออายุสามสิบปีก็ยังได้ ถ้ามองดูเฉพาะ ตา จมูก ปากไม่ได้ดูสวย แต่เมื่ออยู่รวมๆ เข้าด้วยกันแล้วกลับมีรสนิยมมาก เป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งทีเดียว!
“เถ้าแก่เนี้ยกับเสี่ยวกัวเป็นชู้กัน เหตุผลหลักที่เสี่ยวกัวอยู่ที่นี่ก็เพราะเถ้าแก่เนี้ย” เซียวเซ่อนินทาเสียงเบาข้างๆ หูเหมยเหมย
เหมยเหมยอดไม่ได้ก็หันไปมองเถ้าแก่เนี้ยกำลังนั่งเท้าค้างอยู่ทางเคาน์เตอร์ เถ้าแก่เนี้ยกระพริบตาให้เธอ เหมยเหมยขนลุกซู่ไปทั้งตัวราวกับถูกไฟฟ้าช๊อต
นี่ก็คือจิ้งจอกสาวที่ยังมีชีวิตอยู่สินะ!
ขนาดเธอที่เป็นผู้หญิงยังทนไม่ไหว ไม่แปลกใจที่เสี่ยวกัวผู้นั้นจะหลงเสน่ห์ได้
เถ้าแก่เนี้ยพาพวกเธอขึ้นไปที่ห้องหรูส่วนตัวชั้นสอง หันมายิ้มหวานให้พวกเธออีกครั้ง เซียวเซ่อสีหน้าเรียบนิ่งเหมยเหมยกลับใบหน้าแดงจรดใบหู เธอเขินจนก้มหน้าลง แอบสวดภาวนาในใจ
เสี่ยวกัวเป็นชายอายุประมาณสามสิบปี เกินความคาดหมายของเหมยเหมย ผู้ชายคนนี้ดูธรรมดามาก หมายความว่าหน้าตาธรรมดามาก ๆ รูปร่างก็แค่ปานกลาง ใบหน้าและรูปร่างไม่มีอะไรน่าจดจำสักนิด
คนทั่วไปถึงแม้จะเคยเห็นเสี่ยวกัวหลายครั้ง แต่เกรงว่าจะบอกไม่ได้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร!
โชคดีที่เหมยเหมยเป็นจิตกร การจดจำรูปลักษณ์ของคนเป็นสิ่งที่เธอต้องมี เธอเห็นบ่อยๆ เธอจึงจำได้
เสี่ยวกัวอดมองเหมยเหมยบ่อย ๆไม่ได้ แต่ก็รีบดึงสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว เขาหยิบซองจดหมายสองซองออกมาจากในกระเป๋าและวางลงด้านหน้าเซียวเซ่อ
“นี่คือของที่คุณให้ผมไปสืบมาอยู่ในนี้ทั้งหมดแล้วครับ” เสียงของเสี่ยวกัวก็ธรรมดามาก เป็นผู้ชายที่ไม่มีอะไรพิเศษเลยสักนิด ไม่เตะตายิ่งกว่าหญ้าที่อยู่ข้างถนนเสียอีก
เหมยเหมยรีบร้อนอยากจะรู้ที่อยู่ของหยียนหมิงซุ่น เธอไม่เปิดซองจดหมายออก เธอเอ่ยถาม “คุณกัวคะ บอกฉันได้ไหมว่าเหยียนหมิงซุ่นเขาไปไหนคะ?”
เสียวกัวยิ้มแต่ไม่พูด เพียงทำปากยื่นหันไปที่ซองจดหมาย เหมยเหมยจึงต้องข่มอารมณ์ไว้และเปิดซองจดหมาย เธอไม่ได้ดูของหวงอวี้เหลียน เธอดูแต่ของเหยียนหมิงซุ่น
ในซองจดหมายมีเพียงโน้ตแผ่นเดียว เขียนประโยคที่ทำให้คนคาดไม่ถึง
ไปเคารพพ่อบุญธรรม ปลอดภัยดี ไม่มีอันตรายใด ๆทั้งสิ้น จะกลับมาวันนี้!
………………………………
ตอนที่ 845 ชู้รักของหวงอวี้เหลียน
เหมยเหมยอ่านเข้าใจเสียที่ไหน ทว่าหลังจากที่เธอเห็นคำว่า ปลอดภัยดี ไม่มีอันตรายใด ๆทั้งสิ้น หัวใจก็หล่นไปอยู่ที่พื้น ไม่ว่าจะทำอะไร ขอเพียงคนปลอดภัยก็พอแล้ว
เซียวเซ่ออ่านแล้วก็จับต้นชนปลายไม่ถูก กล่าวอย่างหงุดหงิด “เขียนตำราสวรรค์เหรอ? เขียนไม่มีที่มาที่ไปอย่างนี้ ฉันจะไปอ่านเข้าใจได้อย่างไร? ไปเคาพพ่อบุญธรรมอะไรกัน?
“คุณเซียวครับ คุณแค่ให้ผมหาที่อยู่ของเหยียนหมิงซุ่น ไม่ได้บอกให้ผมไปหาว่าพ่อบุญธรรมคือใคร ถ้าคุณอยากรู้ก็หาให้ได้ครับ พวกเราคิดบิลต่อบิล!” เสี่ยวกัวยิ้มตาหยีพลางกล่าว คำพูดที่พูดออกมากลับทำให้คนอยากจะต่อยเขา
เซียวเซ่อตบโต๊ะอย่างโมโห จนทำให้ฝาปิดของแก้วน้ำชาสั่นไปหมด และน้ำชากระเด็นลงโต๊ะ
“คุณเซียวครับ โมโหก็ส่วนโมโห อย่าทำแก้วของหลินหลางของผมแตกเลยครับ”
เสี่ยวกัวขยับตัวอย่างรวดเร็ว เขาเก็บรวบรวมแก้วที่อยู่บนโต๊ะทั้งหมด และเอาตั่งที่ทำด้วยไม้ไผ่เล็กๆ ใต้โต๊ะมาวางอย่างรู้ใจ เขาวางไว้ตรงหน้าเซียวเซ่อ และบอกเธอว่าให้เธอเอาไปทุบเล่น
เหมยเหมยกลั้นขำ เธอก้มหน้าลงทันที ไม่กล้าให้เซียวเซ่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ผ่านไปสักพักเธอถึงหยุดขำได้ จึงเงยหน้าขึ้นมาอย่างเงียบๆ
แม้ว่าเซียวเซ่อจะโมโหแต่เธอก็จนปัญญากับเสี่ยวกัว เอาชนะไม่ได้ เถียงสู้ไม่ได้ เซียวเซ่อเคยเรียนรู้ความหน้าด้านไร้ยางอายของเสี่ยวกัวมานานแล้ว เธอขี้เกียจนะเถียงกับเขา
“เซ่อเซ่อ แค่รู้ว่าพี่หมิงซุ่นปลอดภัยดีก็พอแล้ว เรื่องอื่นๆ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร” เหมยเหมยพูดปลอบใจ
ค่าใช้จ่ายที่เสี่ยวกัวเก็บก็แพงไปหน่อย เธอไม่สามารถให้เพื่อนต้องจ่ายมากกว่านี้อีก เซียวเซ่อไม่ใช่แค่เสียดาย แต่เธอเสียดายมาก เลขศูนย์ตั้งหลายตัว!
เสี่ยวกัวเหลือบมองไปที่กระเป๋าเป้สะพายหลังของเหมยเหมย เขาก็แววตาเป็นประกาย ถ้าเขาเดาไม่ผิด ในกระเป๋าใบนั้นคงจะเป็นสิ่งมีชีวิต และบนข้อมือของสาวน้อยแสนงามคนนี้ก็มีสิ่งมีชีวิต
เพื่อนของคุณเซียวน่าสนใจเช่นเดียวกับเธอ!
เซียวเซ่อจ้องเสี่ยวกัวตาเขม็ง เธอเปิดซองจดหมายอีกซอง มีรูปถ่ายหลายใบหล่นลงมา ในรูปคือหวงอวี้เหลียนกับผู้ชายคนหนึ่งกำลังทำสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้
“รูปภาพเหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับเด็ก พวกคุณได้ดูแล้วก็แล้วๆ กันไป อย่าคิดว่าดูหนังสือการ์ตูนล่ะ!” เสี่ยวกัวเตือนด้วยความหวังดี
“อย่ายุ่งเรื่องคนอื่น อย่าพูดไร้สาระ!”
เซียวเซ่อตวาด เสี่ยวกัวถูจมูกแต่ก็ไม่โกรธ เขาก็จิบชาอย่างมีความสุข ศิลปะในการชงชาของหลินหลางนับวันยิ่งยอดเยี่ยม รสชายติยอดเยี่ยมมาก!
ถ้าสามารถไปฮ่องกงกับเขาได้ก็ยิ่งสนุกกว่านี้!
สำหรับหญิงเซียวที่มีผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน การบอกเป็นนัยในรูปถ่ายมันช่างคุ้มค่าจริงๆ เธอมองตาไม่กระพริบ เหมยเหมยหน้าแดงก่ำแต่ก็ไม่หันหน้าหนี เธอไม่ยอมแพ้เซียวเซ่อหรอก!
“หญิงแก่คนนี้ไม่ใส่เสื้อผ้า น่าเกลียดกว่าใส่เสื้อผ้าอีก คุณดูนี่หย่อนคล้อยหมดแล้ว และที่หน้าท้องก็มีแต่ไขมัน เอวเหมือนกับถังน้ำ ผู้ชายคนนี้ตาบอดเหรอ แบบนี้ยังทำได้ลง? “
เซียวเซ่อชี้ไปที่ภาพและวิพากษ์วิจารณ์คนในภาพ เธอพูดถึงหวงอวี้เหลียนจนไม่เหลือชิ้นดี
เหมยเหมยข่มความรู้สึก เธอดูทุกภาพ เซียวเซ่อก็พูดเกินไป ถึงแม้หวงอวี้เหลียนจะอ้วนไปหน่อย และหย่อนคล้อยแต่ยังเหมาะสมกับอายุ ส่วนเว้าส่วนโค้งก็มีเหมาะสม มีเสน่ห์ในแบบของผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่
“ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? น่าจะไม่ใช่โอหยางเซี่ยงหมิงใช่ไหม?”
ทันทีที่เหมยเหมยถาม เธอก็ตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นถามคำถามโง่ๆ พื้นหลังในรูปถ่ายดูก็รู้ว่าเป็นโรงแรม ถ้าหวงอวี้เหลียนทำเรื่องอย่าว่ากับสามีของเธอ เธอจำเป็นต้องไปโรมแรมด้วยเหรอ!
ต้องเป็นชู้รักของเธอแน่นอน!
ผู้หญิงไร้ยางอาย ตัวเองชื่อเสียงเน่าเฟะเหมือนรองเท้าขาด แล้วยังใส่ร้ายป้ายสีเธออีก!
………………………………
ตอนที่ 846 แลกเปลี่ยน
แม้จะตัดสินว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่โอหยางเซี่ยงหมิง แต่เหมยเหมยก็ยังอยากรู้ว่าชู้รักคนนี้วิเศษมาจากไหน เธอครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยถาม “คุณกัวคะ ฉันต้องการรู้ชื่อและประวัติของชายคนนี้ คิดเงินต่างหากใช่ไหมคะ?
เสี่ยวกัวพยักหน้าพลางยิ้มกริ่ม “แน่นอนครับ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาผมทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต บอกราคาชัดเจน!”
เหมยเหมยถอนหายใจด้วยความผิดหวัง เธอมีเงินแต่เธอจะเอาเช็คของธนาคารยูบีเอสมาจากไหน อย่างไรก็ตามได้รูปถ่ายของผู้ชายแล้ว คงไม่ยากถ้าอยากตรวจสอบประวัติของคน ๆนี้ เธอค่อยไหว้วานคนอื่นช่วยตรวจสอบเอาก็ได้!
เสี่ยวกัวก็เหลือบมองที่กระเป๋าเป้สะพายหลังของเหมยเหมยอีกครั้ง เขาพูดขึ้นมาทันที “ในกระเป๋าเป้สะพายหลังใส่อะไรไว้ครับ?”
เหมยเหมยมองเขาอย่างระมัดระวัง เธอเอากระเป๋ามากอดไว้ “ไม่มีอะไรสักหน่อย!”
เสี่ยวกัวยิ้มพลางถูจมูก “คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมไม่ใช่ขโมยสักหน่อย เอาอย่างนี้คุณให้ผมดูของที่อยู่ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของคุณ ผมจะบอกคุณว่าผู้ชายคนนี้คือใครโดยไม่คิดเงิน? คุณตกลงไหม?”
เหมยเหมยปฏิเสธโดยไม่ลังเลสักนิด เธอจะไม่เอาฉิวฉิวไปแลกเปลี่ยนกับสิ่งของใด ๆทั้งสิ้น ฉิวฉิวในกระเป๋าเป้สะพายหลังส่งเสียงออกมาว่า “เจ้านายวางใจได้ ชายคนนี้ไม่ได้มีเจตาร้าย เจ้านายแค่ปล่อยฉันออกไปก็พอ”
ชายผู้นี้ชื่อว่าเสี่ยวกัว ไม่เพียงแต่ไม่มีเจตนาร้าย กลิ่นบนตัวเขานั้นน่าดมมาก ฉิวฉิวมุดออกจากกระเป๋าเป้สะพายไปอย่างวางใจและสะบัดหางใหญ่ใส่เสี่ยวกัว
เสี่ยวกัวคิดประเภทของสัตว์ที่เป็นไปได้ไว้มากมาย ลูกแมว ลูกหมา ลูกเป็ด ลูกลิง ลูกกระต่าย…
เด็กผู้หญิงล้วนชอบสัตว์เล็ก ๆเหล่านี้ แต่มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เขาคิดไม่ถึงคือ กระรอกขาวตัวน้อย กระรอกป่าเลี้ยงให้เชื่องยาก โดยทั่วไปจะไม่ยอมให้คนเลี้ยงขังเอาไว้
โดยเฉพาะกระรอกตัวนี้ที่ขนมีสีขาวเหมือนหิมะ หาได้ยากมาก!
และจากที่เขารู้ที่ฮวาเซี่ยไม่มีกระรอกขาว คิดไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยผู้นี้จะยังเลี้ยงไว้หนึ่งตัว เห็นความใกล้ชิดสนิทสนมของกระรอกน้อยและสาวน้อยดูเหมือนว่าเลี้ยงมานานแล้ว
ไม่นึกเลยว่า โลกกว้างใหญ่ไพศาลจะมีสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงมากมาย!
เสี่ยวกัวยิ้มพลางกล่าว “คุณนับว่ามีโชคไม่น้อย ดูแลเจ้ากระรอกน้อยตัวนี้ให้ดีนะครับ!”
“ฉิวฉิวเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันดูแลมันอย่างดีแน่นอน ไม่ต้องให้คุณกำชับหรอก ตอนนี้คุณจะบอกฉันได้หรือยังว่าชายคนนี้เป็นใคร? เหมยเหมยถาม
“โอหยางปิน!” เสี่ยวกัวเอ่ยชื่อออกมา
เหมยเหมยกระพริบตา โอหยางปินชื่อนี้ฟังแล้วคุ้นหูมาก
เออใช่แล้ว เมื่อก่อนเหยียนหมิงซุ่นเคยถามเธอ บอกว่าเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่สโมสร และตอนนั้นเหยียนหมิงซุ่นก็ท่าทางแปลก ๆ
ตอนนี้นึกออกแล้ว เหยียนหมิงซุ่นคงจะรู้เรื่องฉาวโฉ่ระหว่างหวงอวี้เหลียนกับโอหยางปิน!
“ไร้ยางอาย น่าขยะแขยง!”
เหมยเหมยกับเซียวเซ่อกร่นด่าพร้อมกัน พวกเธอแค่รู้สึกสะอิดสะเอียด อยากจะอาเจียนเหมือนกับว่ากินแมลงวันเข้าไป
เสี่ยวกัวจิบชาอย่าสบายอกสบายใจ พูดพลางยิ้ม “ใจเย็นๆ โลกกว้างใหญ่ไพศาล มีสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงมากมาย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก!”
เขาทำอาชีพนักสืบเอกชนมาหลายสิบปี มีเรื่องแปลกประหลาด คนประหลาดให้เห็นมากมายนับไม่ถ้วน พ่อผัวเป็นชู้กับลูกสะใภ้ ลูกแย่งตำแหน่งพ่อ เรื่องแค่นี้ถือว่าเล็กๆ เขามองว่ามันไม่มีอะไรจะธรรมดาไปกว่านี้อีกแล้วจริงๆ
เสี่ยวกัวก็หันไปมองที่ข้อมือของเหมยเหมยอีกครั้ง เขาเห็นแสงสีเขียวแวบ ๆและดูเหมือนจะเป็นกำไลมือมรกต แต่เขารู้สึกว่ามันคือสิ่งมีชีวิตชัด ๆ เขาพิจารณาอยู่หลายครั้ง แต่วันนี้เหมยเหมยใส่เสื้อแขนยาวซึ่งปกปิดมิดชิด ทำให้เสี่ยวกัวที่กระหายความอยากรู้ รู้สึกเหมือนเหมือนมีอุปสรรคมาขัดขวาง
“ผมบอกความลับแก่คุณอีกเรื่อง ถ้าคุณเอาของที่อยู่บนข้อมือให้ผมดู”
เสี่ยวกัวตัดสินใจทำธุรกิจขาดทุนสักครั้ง อย่างไรก็ตามความลับนี้อยู่กับเขาก็ไร้ประโยชน์ ก็ไม่รู้ว่าจะขายออกเมื่อไหร่
ให้ตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นก่อน ไม่อย่างนั้นคืนนี้เขานอนไม่หลับแน่ๆ ไม่จำเป็นต้องทรมานตัวเองหรอก!
……………………………
ตอนที่ 847 ยืมน้ำเชื้อ
เหมยเหมยเลิกคิ้ว ความลับที่ยิ่งใหญ่? หรือว่าหวงอวี้เหลียนไม่ได้มีผู้ชายคนเดียว?
“ตกลง!”
ในเมื่อฉิวฉิวบอกแล้วว่า ชายคนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย ถ้าอย่างนั้นเอาฉาฉาให้เขาดูก็ไม่เป็นไร
เธอม้วนแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นฉาฉาที่ขดอยู่บนข้อมือขาวผ่อง และเธอหยิบเนื้อแห้งชิ้นหนึ่งออกจากกระเป๋าเป้สะพายหลังวางไว้ที่ปากฉาฉา เจ้าตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น มันกลืนลงไปคราวเดียวและก็นอนขดต่ออย่างเชื่อฟัง
เสี่ยวกัวตาเป็นประกายแวววับ ที่แท้ก็เป็นงูน้อยที่สวยงามนี่เอง แตกต่างกับงูธรรมดาทั่วไปที่ขดตัวนิ่ง งูน้อยตัวนี้ดูเหมือนจะทำให้คนรู้สึกชอบ เกรงว่าแม้แต่ผู้หญิงที่ขี้ขลาดก็ยังจะไม่กลัวด้วยเสียด้วยซ้ำ!
ถ้าสามารถเอางูให้หลินหลางได้สักตัว ไม่แน่หลินหลางคงมีความสุขแล้วกลับไปกับเขา และอาจเป็นไปได้ว่าจะมีลูกให้เขาด้วย!
สายตาที่เร่าร้อนของเสี่ยวกัว ทำให้เหมยเหมยระมัดระวัง เธอรีบดึงแขนเสื้อลงปิดทับฉาฉาไว้
“คุณจ้าวอย่างกังวลไปเลยครับ สุภาพชนไม่แย่งของรักของคนอื่น ผมไม่ทำอะไรสัตว์เลี้ยงของคุณหรอกครับ” เสี่ยวกัวยิ้มพลางกล่าว แต่สายตากลับมองฉาฉาอย่างไม่ละสายตา ทำให้ความน่าเชื่อถือในคำพูดของเขาลดลง
เสี่ยวกัวถามอีกครั้ง “คุณเจ้าจะบอกได้หรือไม่ว่าสัตว์เลี้ยงที่บ้านคุณยังมีอีกตัว? ที่หน้าตาน่ารักเหมือนกับมัน!”
“ไม่มีค่ะ ฉาฉามีเพียงตัวเดียวในโลก” เหมยเหมยส่ายหน้าพลางกล่าว
เสี่ยวกัวหน้าจ๋อย เส้นทางในการจีบภรรยาของเขา ไม่รู้ว่าจะถึงปลายทางเมื่อไหร่!
เหมยเหมยประทับใจต่อการถามซักไซ้ไล่เลียงจนถึงที่สุดของเสี่ยวกัว เธอจึงแนะนำว่า “คุณกัวเลี้ยงงูเขียวหางไหม้ได้นะคะ ถ้าคุณกลัวโดนกัดก็แค่ถอนเขี้ยวพิษออก มันก็สวยมากเช่นกัน
เสี่ยวกัวจ้องเธอด้วยความหงุดหงิด คิดว่าเขาไม่เคยเห็นงูเขียวหางไหม้เหรอ? งูเขียวหางไหม้กับเจ้างูน้อยตัวนี้เป็นชนิดเดียวกันเหรอ?
เห็นความแตกต่างของกระจกกับหยกไหม?
หลังจากเสี่ยวกัวที่ได้รับการตอบสนองความอยากรู้อยากเห็น ก็ไม่ได้มีอารมณ์ล้อเล่นกับหญิงสาวสองคนนี้ ถ้ามีเวลาอย่างนั้น สู้เขาไปจีบกับหลินหลางดีกว่า!
“โอหยางซานซานไม่ใช่ลูกสาวของโอหยางเซี่ยงหมิง โอหยางเซี่ยงหมิงมีลูกไม่ได้แล้วแต่ตัวเขาเองไม่รู้ หวงอวี้เหลียนเพื่อให้ตั้งมั่น ยืนหยัดในตระกูลโอหยาง เธอก็เลยไปยืมน้ำเชื้อคนอื่นมาถึงได้มีโอหยางซานซาน” เสี่ยวกัวพูดความลับที่ใหญ่หลวงนั้นออกมา
เหมยเหมยกับเซียวเซ่อตกตะลึงกับความลับนี้จนตาค้างพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดเลยว่าทำไมหวงอวี้เหลียนถึงได้กล้าขนาดนี้?
“เธอไม่กลัวว่าลูกที่เกิดมาจะหน้าตาไม่เหมือนโอหยางเซี่ยงหมิง และทำให้คนของตระกูลโอหยางสงสัยเหรอ?” เหมยเหมยถาม
“คุณผู้หญิงอย่าแค่ถามเป็นอย่างเดียวสิครับ ตัวคุณเองต้องใช้ความคิดด้วย!”
เสี่ยวกัวขยิบตา แล้วก็ออกไปจีบเถ้าแก่เนี้ย!
เหมยเหมยกับเซียวเซ่อมองหน้ากัน และในเวลาเดียวกันก็ตะโกนพลางชี้ไปที่โอหยางปินในรูปถ่าย ช่างน่าเหลือเชื่อ
มิน่าหวงอวี้เหลียนไม่กังวลว่าความลับจะถูกเปิดเผย เพราะว่าผู้ชายที่เธอน้ำเชื้อมาคือโอหยางปิน โอหยางซานซานเป็นลูกสาวของโอหยางปิน และก็เป็นคนของตระกูลโอหยางด้วยจะทำให้คนสงสัยได้อย่างไร?
ผู้หญิงคนนี้วิธีการเฉียบขาดมาก!
“เชอะ งูเงี้ยวเขี้ยวขออสรพิษในบ่อเดียวกัน ครอบครัวไม่ใช่ของเล่น!”
เซียวเซ่อมองรูปถ่ายบนโต๊ะด้วยความสะอิดสะเอียน ในโลกนี้มีผู้หญิงที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่เพียงแต่มีชู้ และยังให้กำเนิดสายเลือดบาปออกมา นี่มันใจกล้าเท่าฟ้า ไม่สนใจศีลธรรมจรรยาชัดๆ !
“เรื่องนี้ พวกเขาต้องป่าวประกาศ ทำให้นังไร้ยางอายคนนี้ ไม่มีที่ยืนอยู่ในเมืองหลวง!” เซียวเซ่อด่า
เหมยเหมยครุ่นคิด เธอคิดวิธีที่ดีกว่านั้นออก ในเมื่อหวงอวี้เหลียนทำเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก ถ้าอย่างนั้นก็โทษเธอที่ทำเกินไปไม่ได้!
เธอไม่ปล่อยสองแม่ลูกนี้เอาไว้แน่!
…………………………………
ตอนที่ 848 เธอไม่ต้องอัดอั้นตันใจแล้ว
เหมยเหมยห้ามเซียวเซ่อที่ต้องการจะเอารูปถ่ายไปแจก “เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน เรื่องของหวงอวี้เหลียนค่อยๆ จัดการ เริ่มลงมือลูกสาวของเธอก่อน”
เซียวเซ่อมองเหมยเหมยด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่าเธอจะเริ่มลงมืออย่างไร หวงอวี้เหลียนคบชู้ แต่โอหยางซานซานก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
เหมยเหมยไม่กังวลว่าเซียวเซ่อจะคิดว่าเธอจิตใจโหดเหี้ยม เธอคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมน่ะสิ!
เธอเข้าไปพูดข้างเซียวเซ่อและบอกแผนการของเธอทั้งหมด เซียวเซ่อตาลุกลาวยกนิ้วโป้งให้เธอ
“จัดการตามนี้เลย เล่นงานนังสารเลวสองคนนั่นให้น่วม!”
เซียวเซ่อก็ลังเลอีกครั้ง “แต่คนๆ นั้น เอายาน้ำที่ทำให้ตัวมีกลิ่นจากไหน ของแบบนี้หายาก!”
เหมยเหมยยักคิ้วอย่างภาคภูมิใจ “ฉันมี เรื่องยาน้ำฉันรับผิดชอบเอง รับรองว่าทำให้ชื่อเสียงโอหยางซานซาน เหม็นฉาวไปไกล เรี่องสำคัญในตอนนี้คือจะเอายาน้ำไปพรมใส่ตัวโอหยางซานซานได้อย่างไร!”
“เรื่องเล็ก เดี๋ยวกลับไปพวกเราค่อยคุยละเอียดกัน!”
เซียวเซ่อหน้าบานเป็นกระด้ง ท่าทางตื่นเต้น ดีอกดีใจ!
เหมยเหมยก็ตื่นเต้นดีอกดีใจเช่นกันเพราะกำลังจะทำเรื่องชั่วร้าย และเป้าหมายคือโอหยางซานซาน ทำให้เซลล์ในร่างกายของเธอกำลังโห่ร้อง!
แต่ทว่าพวกเธอเพิ่งจะกลับมาถึงบ้านตระกูลเซียว สตีฟเว่นพ่อบ้านก็บอกเหมยเหมยว่า คุณปู่จ้าวโทรศัพท์มา เขาบอกว่าให้เหมยเหมยโทรกลับหาเขาด้วย หลังจากเหมยเหมยกลับมาแล้ว
เมื่อเหมยเหมยได้ยินก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จ้าวเสวียไห่พวกเขามาตั้งแต่เช้ามืดแล้ว บอกว่าเมื่อคืนคุณปู่โมโหมาก เทศนาคุณย่าอย่างรุนแรง คิดว่าที่คุณปู่โทรมาก็คงจะบอกให้เธอกลับบ้าน
แต่เธอไม่ยอมกลับ มีคุณย่าเลอะเลือนอยู่ที่บ้าน เธอไม่อยากไปอยู่สักนิด
ไม่ว่าจะเป็นคุณปู่หรือคุณย่าหรือคนอื่นๆ ในตระกูลจ้าว เธอทำดีที่สุดแล้ว
เธอไม่ได้รู้สึกผิดต่อพวกเขาสักนิด แต่ตอนนี้เธออยู่ที่บ้านตระกูลจ้าวไม่มีความสุขแล้วดังนั้นเธอจึงออกมา ทำไมต้องทำให้ตัวเองอัดอั้นตันใจด้วย!
จ้าวเสวียหลินกับสยงมู่มู่ พวกเขาก็ไม่อยู่ที่บ้านตระกูลเซียว สตีฟเว่นบอกว่าหลังจากพวกเขาคุยโทรศัพท์เสร็จ ก็ออกไปเลยน่าจะกลับไปบ้านแล้ว
พวกเขาไม่เหมือนกับเหมยเหมย เขาเติบโตมากับคุณปู่จึงมีความเคารพต่อท่านอย่างจริงใจ แค่คุณปู่ออกคำสั่ง สองคนนี้ก็ไม่กล้าขัด!
เหมยเหมยไม่เป็นเช่นนั้น ภายนอกเธอดูเหมือนเชื่อฟัง แต่จริงๆ แล้วมีนิสัยดื้อรั้นอยู่ภายในตัว
ความน่ารัก น่าเอ็นดูของเธอในสองปีที่ผ่านมานี้ เพราะว่าคนตระกูลจ้าวไม่ได้ทำไม่ดีต่อเธอ และเธอมีความสุขมากกับความรัก ความอบอุ่นของครอบครัว
หากเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆน้อยที่ไม่มีปัญหาอะไรมาก เธอยังสามารถทนได้ และยังคงเป็นเจ้าหญิงน้อยที่น่ารักน่าเอ็นดูต่อไป
แต่ตอนนี้ เธอไม่อยากจะทนแล้ว และก็ไม่ยอมเป็นเจ้าหญิงน้อยที่อัดอั้นตันใจต่อไปอีกแล้ว!
เหมยเหมยโทรศัพท์ไปที่บ้านตระกูลจ้าว คุณปู่เป็นคนรับสาย ประโยคแรกที่เขาพูดก็คือบอกให้เหมยเหมยกลับบ้าน
“เหมยเหมย ปู่เทศนาย่าไปแล้วนะ ต่อไปย่าจะไม่ทำเรื่องเหลวไหลอีกแล้ว แกรีบกลับบ้าน บ้านตัวเองไม่อยู่ ไปอยู่บ้านคนอื่นเหมือนอะไรก็ไม่รู้!”
เหมยเหมยรู้สึกเสียใจ เธอยังรู้สึกสำนึกในบุณคุณต่อคุณปู่มาก และคุณปู่ก็ดีกับเธอมากจริงๆ แต่เธอก็ยังไม่ยอมกลับไป!
“คุณปู่คะ หนูรู้สึกดีมากที่อยู่ที่บ้านเซียวเซ่อ และมีความสุขมากกว่าอยู่ที่บ้าน คุณปู่ไม่ต้องทะเลาะกับคุณย่าเพราะหนู คุณย่าไม่ชอบหนู หนูไม่อยู่บ้านให้ขวางหูขวางตาคุณย่าจะดีกว่าค่ะ คุณปู่ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมหนูแล้วค่ะ หนูอยู่ที่นี่สองสามวันก็กลับแล้ว ไม่จำเป็นต้องย้ายไปย้ายมาให้มันยุ่งยาก!”
เหมยเหมยน้ำเสียงเรียบ แต่เด็ดเดี่ยวมาก ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่กลับ!
พอคุณปู่ได้ฟังคำพูดที่หนักแน่นของหลานสาวออกก็ไม่เคยคิดว่า หลานสาวที่ปกติดูเหมือนจะพูดง่ายที่สุด แต่พอจะดื้อขึ้นมาก็รั้นที่สุดในบ้านเช่นกัน!
………………………………
ตอนที่ 849 ก็ไม่กลับไป
คุณปู่พูดต่ออีกหลายประโยค แต่เหมยเหมยตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เธอพูดแต่เพียงว่าจะไม่ยอมกลับไปขวางหูขวางตาคุณย่า คุณปู่ก็อย่าเสียเวลาพูดเกลี้ยกล่อมอีกเลย
“ยายตัวดีนี่ ทำไมถึงได้รั้นขนาดนี้นะ ย่าของแกถึงจะเลอะเลือนไปหน่อยแต่เธอก็ยังเป็นย่าของแกนะ ย่าว่าแกไม่กี่ประโยคจะเป็นอะไร? แกจะไปจริงจังกับผู้ใหญ่ทำไมกัน?”
คุณปู่ก็เริ่มโมโห เขารู้สึกว่าเหมยเหมยก่อความวุ่นวายมากเกินไปแล้ว
เมื่อวานคุณย่าเองก็ทำไม่ถูกจริงๆ เขาก็ได้เทศนาไปแล้ว เหมยเหมยไม่พอใจหนีออกจากบ้านไป มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
เด็กน้อยขี้น้อยใจ เป็นปกติที่จะงอน พอผ่านไปก็เบื่อเอง!
ตอนนี้ผู้ใหญ่ก็เอ่ยปากแล้ว แต่เหมยเหมยกลับยังโวยวายไม่เลิก ทำตัวเหมือนตัวอะไร?
คุณปู่น้ำเสียงเฉียบขาด เขาพูดตำหนิ “จ้าวเหมย ฉันสั่งให้แก กลับบ้าน กลับมาก่อนมื้อเย็น!”
“ไม่กลับ หนูไม่ใช่ทหารของคุณปู่ หรือว่าหนูไม่มีแม้กระทั่งอิสระในชีวิต? ที่นั่นไม่ใช่บ้านของหนู ทำไมหนูต้องกลับไปอยู่!” เหมยเหมยตวาดเสียงต่ำ ไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้แต่นิดเดียว
“พูดเหลวไหล จะไม่ใช่บ้านแกได้อย่างไร? ใครบอกว่าไม่ใช่บ้านแก?”
“ถ้าเป็นบ้านของหนูจริงๆ แล้วทำไมหนูไม่มีสิทธิ์ไล่แขกที่หนูไม่ชอบล่ะคะ? เมื่อก่อนบ้านของหนู ตราบใดที่หนูไม่ชอบ พ่อกับแม่ก็จะไม่พามาที่บ้านแน่นอนเพราะทำให้หนูไม่มีความสุข!”
คำพูดของเหมยเหมยทำให้คุณปู่พูดไม่ออกไปชั่วขณะ เดิมทีเขาก็พูดไม่เก่งอยู่แล้ว จะเถียงสู้หลานสาวที่ฝีปากดีได้อย่างไร
เขารู้สึกว่าหลานสาวพูดไม่ถูกต้อง แต่ฟังดูแล้วก็มีเหตุผลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไรดี คุณปู่ก็ทั้งหงุดหงิดทั้งกลัดกลุ้ม เขาก็ยิ่งน้ำเสียงเด็ดขาด
“ทำไมแกดื้ออย่างนี้? ปู่ไม่พูดไร้สาระกับแกแล้ว ก่อนมื้อเย็นรีบกลับบ้าน ไม่อย่างนั้นจะใช้กฎของบ้าน!” คุณปู่ยื่นคำขาด
“ไม่กลับ ตีหนูให้ตายหนูก็ไม่กลับ กลับไปก็โดนรังแกแล้วจะกลับไปทำไม?”
เหมยเหมยไม่ยอม ทำให้คุณปู่ที่กำลังอยู่ในสายโกรธมาก ถ้าเหมยเหมยอยู่ตรงหน้า ไม่แน่เขาอาจจะใช้กฎของบ้านจริงๆ !
พูดจนคอแห้ง คุณปู่ก็ยังไม่สามารถทำให้เหมยเหมยยอมจำนนได้ เขาเกือบจะทุบโทรศัพท์
“น่าโมโหจริงๆ ยายตัวดีนิสัยดื้อรั้นขนาดนี้ อาสี่ อาห้า อาหก พวกแกไปเอายายตัวดีนั่นกลับมา” คุณปู่ตวาด
ถูกคุณปู่เทศนาไปหนึ่งคืน คุณย่าที่รู้สึกว่าอับอายในเวลาดูเหมือนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เธอกล่าวอย่างเบิกบานว่า “ฉันบอกไว้ว่าไงล่ะ ตาเฒ่าคุณก็ยังไม่เชื่อ ไม่รู้ว่ายายตัวดีนิสัยเหมือนใคร มันน่าโมโหจริงๆ!”
“ก็ไม่ใช่เพราะคุณก่อเรื่องเหรอ เอาแต่สร้างเรื่องทุกวี่วัน คุณว่าชาตินี้คุณสร้างเรื่องมากี่เรื่องแล้ว คราวหน้าถ้าให้หวงอวี้เหลียนมาบ้านอีก คุณก็ไปอยู่กับหวงอวี้เหลียนเลย บ้านของเราไม่สามารถทนอยู่กับคนอย่างคุณได้แล้ว!”
แม้ว่าคุณปู่จะโกรธเหมยเหมย แต่เขาโกรธคุณย่ายิ่งกว่า!
ถึงแม้หลานสาวจะทำผิดจริงๆ แต่นั่นก็เป็นความขัดแย้งภายในบ้าน แต่ยายเฒ่าช่วยคนข้างนอกรังแกหลานสาวตัวเอง มันใช่เรื่องเหรอ?
ยายแก่จอมเลอะเลือน!
ก็ไม่แปลกที่หลานสาวจะโมโหจนไม่ยอมกลับบ้าน!
คุณย่าปิดปากเงียบด้วยความโกรธแค้น เธอไม่ยอมแม้แต่นิดเดียว ยิ่งมีอคติต่อเหมยเหมยมากว่าเดิม
รู้สึกว่าถ้าไม่ใช่เหมยเหมยหนีออกจากบ้าน และไม่ยอมกลับมา คุณปู่คงไม่โมโหขนาดนี้ คุณย่าจึงพาลคิดว่า เป็นไปได้ที่เหมยเหมยมีเจตนาบางอย่าง
มีเจตนาต้องการให้เธอถูกตาเฒ่าเทศนา!
คุณย่ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าอาจเป็นเช่นนั้น เธอก็ยิ่งรู้สึกมีอคติกับเหมยเหมยมากขึ้นกว่าเดิม ความรู้สึกชอบก็ลดลงไปมากโข!
………………………………
ตอนที่ 850 พ่อสนับสนุนลูก
วางสายจากคุณปู่ได้ไม่นาน จ้าวอิงหัวก็โทรเข้ามา คุณปู่โทรหาเขาแต่ไม่ได้อธิบายเรื่องราวชัดเจน พูดเพียงว่าลูกสาวของเขาหนีออกจากบ้านและให้เขาเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวกลับบ้าน
จ้าวอิงหัวตกใจจนเกือบหัวใจวาย เขาพูดสวนกลับคุณปู่ที่อยู่ในสายว่า “ต้องมีคนในบ้านที่ทำให้ลูกสาวของผมลำบากใจ พ่อครับ พ่อดูแลครอบครัวอย่างไรถึงได้ทำให้ลูกสาวของผมน้อยใจจนเป็นอย่างนี้!”
คุณปู่โมโหแต่กลับหัวเราะ “ลูกสาวแสนดีของแก นิสัยดื้อรั้นยิ่งกว่าแก ใครกล้าไปทำให้เธอลำบากใจได้?”
จ้าวอิงหัวเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ลูกสาวของเขาว่านอนสอนง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ถ้าไม่ถูกบีบบังคับ แล้วจะหนีออกจากบ้านไปได้อย่างไร?
เขาก็ขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับคุณปู่ จึงโทรไปที่บ้านตระกูลเซียวโดยตรง เขาต้องฟังลูกสาวว่าเธอจะว่าอย่างไร
เขาเชื่อลูกสาวยิ่งกว่าเชื่อพ่อตัวเอง!
เหมยเหมยได้ยินเสียงที่คุ้นหูอยู่ปลายสาย เธอก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที เธอสะอื้นติดอยู่ในลำคอ จ้าวอิงหัวร้อนใจมาก
“เหมยเหมยไม่ต้องร้องไห้นะ บอกพ่อมาว่าใครรังแกลูก!”
เหมยเหมยได้ยินจ้าวอิงหัวพูดเช่นนี้ เธอก็รู้สึกจิตใจสงบทันที
ยังดีที่เธอยังมีพ่อที่อยู่ข้างเธอโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่เหมือนคนอื่น ๆในตระกูลจ้าวไม่ได้ดีกับเธอจริง ๆ
“พ่อคะ หนูไม่อยากอยู่ที่บ้านคุณปู่แล้ว คุณย่าร่วมมือกับหวงอวี้เหลียนรังแกหนู ว่าหนูไม่เป็นกุลสตรีเหมือนโอหยางซานซาน แล้วยังให้หนูไปฝึกกับโอหยางซานซานอีก แล้วหวงอวี้เหลียนยังไปกุข่าวลือข้างนอกพูดว่าหนูเสีย ๆ หาย ๆ…
เหมยเหมยเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และยังบอกเรื่องแพร่ข่าวลือของหวงอวี้เหลียนโดยไม่ปิดบังแม้แต่นิดเดียว
จ้าวอิงหัวโมโหจนทุบที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะ เลขาที่อยู่ด้านนอกกลัวจนไม่กล้าหายใจ เดิมทีคนที่อยากจะเข้าไปเอาเอกสารให้เซ็นชื่อก็หันหลังเดินกลับอย่างไม่ลังเล รอให้ท่านหายโมโหแล้วค่อยมาใหม่ดีกว่า!
”เหมยเหมย หยุดร้องเถอะนะ ถ้าอยู่ที่บ้านคุณปู่แล้วไม่สบายใจ พวกเราก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอย่างนั้นลูกกับพี่ชายกลับบ้านเถอะนะ ต่อไปพวกเราก็ไม่ไปเมืองหลวงแล้วดีไหม?”
จ้าวอิงหัวไม่สงสัยในคำพูดของลูกสาวสักนิด แม่ของเขาก็เลอะเลือนแล้วไม่ใช่เหรอ เดิมทีคิดว่ามีหลานสาวแล้ว จะห่างเหินจากสองแม่ลูกนั่นได้
ไม่คิดเลยว่ายังจะเหมือนเดิม แม้กระทั่งยังทำให้ลูกสาวของเขาต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม!
สิ่งที่ทำให้จ้าวอิงหัวยิ่งโมโหคือ หวงอวี้เหลียน นังสาวเลวนั่น ไม่นึกเลยว่าเจตนาทำให้ลูกสาวเขาเสื่อมเสียชื่อเสียง และมีแม่ของเขาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เรื่องนี้เขาไม่ยอมเลิกราง่ายๆ แน่!
เหมยเหมยพอใจมากกับท่าทีของจ้าวอิงหัว เธอไม่รับปากว่าจะกลับบ้าน” หนูยังไม่กลับค่ะ หนูจะแก้แค้น หวงอวี้เหลียนที่กล้าทำลายชื่อเสียงของหนู หนูต้องทำให้เธอรู้ความร้ายกาจของหนู!”
ต่อหน้าจ้าวอิงหัวเธอไม่ปิดบัง อย่างไรก็ตามเมื่อก่อนเธอโยนความผิดให้เหอปี้อวิ๋น และยังมีเรื่องของอู่เยวี่ยอีก จ้าวอิงหัวรู้เรื่องทั้งหมดและทำใจยอมรับได้!
จ้าวอิงหัวชอบท่าทางเวลาที่ลูกสาวพูดจาดุร้าย พอได้ยินว่าเหมยเหมยอยากจะแก้แค้นด้วยตัวเอง เขาก็ไม่พูดเรื่องให้เหมยเหมยกลับบ้านอีก
“ถ้าอย่างนั้น เหมยเหมยต้องระวังตัวด้วยนะ ต้องการให้พ่อช่วยลูกไหม?” จ้าวอิงหัวถาม
“ไม่ต้องค่ะ หนูคิดวิธีไว้เรียบร้อยแล้ว พ่อไม่ห่วงนะคะ”
เหมยเหมยปฏิเสธ เธอรู้ว่าจ้าวอิงหัวไม่มีอิทธิพลอะไรในเมืองหลวง เธอไม่ทำให้พ่อลำบากใจดีกว่า
จ้าวอิงหัวยังไม่วางใจ หลังจากวางสายเขาก็โทรศัพท์ไปหาคุณปู่ พูดเพียงว่าขอให้คุณปู่อย่าไปบังคับเหมยเหมยทำเรื่องที่ไม่ชอบ เธออยากไปอยู่ที่ไหนก็ให้เธอไป และยังบอกให้คุณปู่ดูแลคุณย่าให้ดี
“พ่อครับ แม่ของเรานิสัยเลอะเลือนเงอะงะเสียอย่างนั้น พ่อต้องอบรมสั่งสอนให้ดี อย่าให้เกิดเรื่องขึ้นในบ้านอีก พ่ออย่าลืมเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นสิครับ!”
จ้าวอิงหัวตักเตือนโดยมีเจตนาบางอย่างแอบแฝงอยู่ คุณปู่สีหน้าเคร่งขรึมมองคุณย่าอย่างลึกซึ้ง
ในเมื่อลูกชายคนเล็กเตือนเขาก็จะให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นอีกไม่ได้!
…………………………………
ตอนที่ 851 ล้างแค้นด้วยตนเอง
เพราะมีจ้าวอิงหัวที่คอยช่วยไกล่เกลี่ย คุณปู่จ้าวจึงเออออไปด้วย ไม่ฝืนบังคับให้เธอต้องกลับไปที่บ้านอีก แต่พอได้ยินเสียงแก่ ๆ ของคุณปู่ที่ลอดมาจากโทรศัพท์ ก็ทำให้เหมยเหมยไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอใจอ่อนอยู่ดี!
ผลของการใจอ่อนเท่ากับการทรมานตัวเอง เธอก็ทำไม่ได้เช่นกัน!
แล้วก็ไม่อยากด้วย!
จ้าวอิงหัวบอกคุณปู่จ้าวเรื่องที่หวงอวี้เหลียนปล่อยข่าวลือ ทำให้คุณปู่จ้าวเกลียดชังหวงอวี้เหลียนเข้ากระดูกดำ เดิมเขาอยากจะสั่งสอนหวงอวี้เหลียนด้วยตนเอง แต่ก็ถูกจ้าวอิงหัวห้ามเอาไว้
“คุณพ่อ เหมยเหมยบอกว่าเธอต้องการจะล้างแค้นด้วยตัวเอง เรารอดูก่อนว่าเธอจะทำอย่างไร หากไม่ไหวจริงๆคุณพ่อค่อยเข้าไปช่วย!”
คุณปู่จ้าวได้ยินก็นึกขบขันขึ้นมา จึงด่าไปพร้อมรอยยิ้ม “เด็กผู้หญิงแบบนั้นจะไปล้างแค้นอะไรได้? เหมยเหมยเหลวไหลแกเองก็บ้าจี้ตาม เลอะเทอะกันทั้งสองคน ”
“คุณพ่อ อย่าประเมินลูกสาวผมต่ำไป อย่างไรเสียคุณพ่อก็อย่าเพิ่งยุ่งกับเรื่องนี้เลย ลูกของผมจะต้องทำให้คุณพ่อตกตะลึงได้แน่นอน ไม่เชื่อก็รอดูเถอะ!” จ้าวอิงหัวออกหน้าแทนลูกสาวเพื่อพยายามโน้มน้าวคุณปู่จ้าว
ถึงคุณปู่จ้าวจะไม่ค่อยเชื่อไหร่ แต่เขาก็ยอมไว้หน้าลูกชายของเขา จึงรับปากว่าจะคอยสังเกตสถานการณ์ไปก่อน
แต่คุณย่า กลับไม่เชื่อแม้แต่น้อยว่าหวงอวี้เหลียนเป็นคนปล่อยข่าวลือพวกนั้น
“เป็นไปไม่ได้ อวี้เหลียนจะทำเรื่อพวกนี้ไปทำไม? เหมยเหมยต้องจงใจพูดเช่นนี้แน่!”
“คุณย่า มิน่าล่ะเหมยเหมยถึงไม่ยอมกลับบ้าน ก็เพราะท่านไปเชื่อคนนอกบ้านแต่ไม่ยอมเชื่อหลานสาวตัวเอง แล้วาจะให้เหมยเหมยกลับบ้านมาทำไม? กลับมาให้ท่านกับหวงอวี้เหลียนรังแกหรือไง? ”
จ้าวเสวียหลินหันหน้าไปบอกกับปู่ตนเอง “ผมต้องไปพักอยู่กับเหมยเหมย ผมไปก่อนล่ะ”
เขาสาวเท้าออกประตูไปโดยไม่แม้แต่จะมองย่าของตัวเอง ความเคารพนับถือที่มีต่ออีกฝ่ายลดน้อยลงไปอีก สยงมู่มู่ที่วิ่งตามออกมา พอเห็นคุณย่าเข้าก็ยิ่งหงุดหงิด สู้ไม่อยู่บ้าน ไม่เห็นเสียน่าจะดีกว่า!
จ้าวเสวียไห่และจ้าวเสวียกงผ่อนลมหายใจออกพร้อมกัน ว่าไปแล้วพวกเขาเองก็อยากไปพักที่บ้านตระกูลเซียว แต่คุณปู่ต้องไม่อนุญาตแน่ๆ พวกเขาอย่ารนหาที่น่าจะดีกว่า!
คุณปู่เองก็ปวดเศียรเวียนเกล้า ชีวิตนี้เขาไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้นแม้แต่การออกรบ แต่ยายแก่ที่บ้านกลับทำเขาปวดหัวนับครั้งไม่ถ้วน จนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับผู้เป็นภรรยาดี!
“เพื่อคนนอก เธอต้องบีบคั้นพวกเด็กๆ จนต้องออกจากบ้านให้ได้ถึงจะยอมเลิกรางั้นหรือ?” คุณปู่เอ่ยถามอย่างสงสัย
คุณย่าเถียงอย่างหงุดหงิดในทันที “ฉันเคยคิดแบบนี้ที่ไหนกัน เป็นเพราะเด็กพวกนี้หัวดื้อทรพี ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา พูดนิดๆหน่อยก็ตีโพยตีพายไม่พอใจ ออกจากบ้าน ขี้หงุดหงิดยิ่งกว่าฉัน หรือว่าฉันไม่มีสิทธิ์จะสั่งสอนลูกหลานแล้วหรือไร?”
“เธอก็ทำไปเถอะ เรื่องตอนนั้นเธอลืมไปแล้วล่ะสิ ตอนนั้นที่เราเกือบตายยกครัวก็เพราะเธอ นี่ไม่คิดจะแก้ไขปรับปรุงเลยหรือ?”
คุณปู่เอ่ยอย่างขึงขัง พอพูดจบก็หายใจฟึดฟัด เดินเข้าห้องหนังสือโดยไม่หันมองผู้เป็นภรรยาอีกเลย
เขายังไม่จบกับหวงอวี้เหลียน เขาต้องหาวิธีดีๆแก้เผ็ดอีกฝ่ายให้ได้ เจ้าพวกนี้หาเรื่องพวกเขาจนไม่เป็นสุข ตอนนี้ยังสาดโคลนใส่หลานสาวเขาอีก
เขาไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้จบง่ายๆ แน่!
ส่วนจ้าวเสวียไห่และจ้าวเสวียหลินต่างแยกย้ายกลับห้องไปแล้ว ส่วนจ้าวเสวียเอ๋อร์หลายวันมานี้ยุ่งหัวหมุนขนาดนอนหลับยังนอนที่ร้าน จึงไม่รู้ว่าบ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
ในห้องรับแขกจึงเหลือคุณย่าที่มีสีหน้าย่ำแย่เพียงคนเดียว!
แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สำนึกถึงความผิดของตน เธอรู้สึกเพียงว่าคนทั้งบ้านกำลังจะเอาชนะเธอ ทำให้คุณย่าหัวเสีย ความชื่นชอบต่อเหมยเหมยยิ่งน้อยลงไปอีก
เหมยเหมยและเซียวเซ่อปรึกษาหารือ ว่าควรทำอย่างไรถึงจะสามารถสาดยาใส่โอหยางซานซานได้โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้
“นึกออกแล้ว เหมือนว่าโอหยางซานซานจะต้องไปเรียนบัลเลต์ที่ห้องเรียนเยาวชนเป็นประจำทุกสัปดาห์ พวกเราก็ไปเรียนพร้อมหล่อนสิ” แววตาเซียวเซ่อทอประกายแวววับเมื่อหาวิธีได้
…………………………………….
ตอนที่ 852 เกลียดโคนมที่สุดเลย
ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์โอหยางซานซานมีเรียนบัลเลต์ที่ห้องเรียนเยาวชนติดต่อกันมาเป็นเวลาเกือบสิบปีแล้ว ถึงแม้จะดูเหมือนไม่ได้ผลอะไรมากนัก แต่หวงอวี้เหลียนก็หมกมุ่นในเรื่องนี้ จึงพยายามฟูมฟักบุตรสาวให้กลายเป็นสุภาพสตรีที่สง่างาม
ทั้งสองเป็นคนพูดจริงทำจริง ในวันถัดมาก็พากันไปสมัครเรียนบัลเล่ต์ที่ห้องเรียนเยาวชน ยิ่งในตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอม ฤดูร้อนจึงมีคนสมัครเรียนหลักสูตรนี้เยอะมาก แต่เซียวเซ่อและเหมยเหมยก็ไม่ได้ทำตัวโดดเด่นแต่อย่างใด
โอหยางซานซานในชุดรัดรูปดูจะตัวหนากว่าบรรดาเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ตอนที่เห็นคุณครูพาเซียวเซ่อและเหมยเหมยเข้ามา สีหน้าก็ดูเคร่งขรึมและมองพวกเขาอย่างเย็นชา
ในตอนที่คุณครูแนะนำเซียวเซ่อและเหมยเหมย บรรดาสาวๆ ต่างปรบมือ ต้อนรับ นักเรียน ใหม่กันอย่างอบอุ่น ยกเว้นโอหยางซานซาน
เหมยเหมยที่มีรูปร่างสูงเพรียว พอใส่ชุดรัดรูปทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของ หญิงสาวได้อย่างชัดเจน แม้ใบหน้าจะยังดูโตไม่เต็มที่นัก แต่ก็ยังงดงามจนยากจะละสายตา ทำให้เด็กสาวคนอื่นๆ ทั้งชื่นชอบทั้งอิจฉา
อันที่จริงเซียวเซ่อก็มีใบหน้าที่งดงาม แต่เจ้าตัวกลับรู้สึกอึดอัดใจ เพราะแต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยใส่ชุดรัดรูปแบบนี้มาก่อน ทำให้ตอนนี้รู้สึกอึดอัดไปหมด แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่าในสายตาคนอื่นเธอก็สวยงามเช่นกัน
เซียวเซ่อรู้สึกเสียใจทีหลังอย่างมาก เธอไม่น่าผลีผลามจนถูกเหมยเหมยหลอกให้มาเรียนบัลเลต์อะไรก็ไม่รู้!
เหมยเหมยเห็นเพื่อนดูกระอักกระอ่วนจึงลอบขำ กระซิบข้างหูเซียวเซ่อ “เซ่อเซ่อวันนี้สวยจังเลย สวยกว่ายัยหมีโอหยางเป็นร้อยเท่า!”
เซียวเซ่อมองเอวและแขนที่ค่อนข้าง อวบของโอหยางซานซาน แล้วก้มศีรษะมองรูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นของตน ก่อนจะย้อนกลับอีกฝ่ายด้วยความเชื่อมั่น
“เธอเอาฉันไปเปรียบกับหล่อนหรอ ดูถูกกันเกินไปแล้ว!” ใบหน้าเซียวเซ่อฉายแววรังเกียจ แล้วกลอกตาใส่เหมยเหมย
เหมยเหมยปิดปากขณะลอบหัวเราะ เหลือบมองหน้าอกเซียวเซ่อก่อนจะแอบเสียดายอยู่ในใจ
เซ่อเซ่ออะไรก็ดีไปหมด แต่หน้าอกนี่ยากจะบรรยายจริงๆ
ตรงๆ ก็คือแบนเสียยิ่งกว่าสนามบินด้วยซ้ำไป!
เด็กอ้วนยังดูมีส่วนนูนมากกว่าเธอเสียอีก!
เซียวเซ่อสังเกตเห็นจุดที่เหมยเหมยจ้อง ก็ทั้งอายและหงุดหงิด เธอรู้ตัวดีว่าหน้าอกของเธอมันทั้งแบนและราบเรียบ และเพราะเหตุนี้คุณป้าซูซี่ถึงได้ให้เธอดื่มนมมะละกอทุกวัน
แต่ก็ไม่ได้ผลอะไร ส่วนที่มันแบนมันก็ยังคงแบนเหมือนเดิม
“มองอะไร เธอคิดว่าใหญ่เหมือนโคนมนี่ดีมากหรืออย่างไร? ตามหลักของแรงกิริยาเท่ากับแรงปฏิกิริยา ในอนาคตบรรดาโคนมทั้งหลายยังไงก็ต้องเจอกับแรงโน้มถ่วงอย่างแน่นอน แล้วมันก็จะกลายเป็นเหมือนถุงกระสอบห้อยโตงเตงไปจนถึงสะดือ เหอะ!”
เซียวเซ่อจ้องหน้าอกเหมยเหมยด้วยความโมโห แม้ว่าเปรียบเทียบกับเด็กสาวคนอื่นแล้วอาจจะไม่ใหญ่นัก แต่ถ้าเทียบกับเธอแล้ว เหมยเหมยก็ถือว่าเป็นโคนมได้เหมือนกัน!
เซ็ง!
เหมยเหมยยักไหล่อย่างไม่สนใจ อย่างไรเสียเธอก็ไม่ใช่โคนมเสียหน่อย หน้าอกก็ไม่ใหญ่ไม่เล็ก กำลังพอดี เรียกว่าเพอร์เฟคต่างหาก!
คุณครูชอบเหมยเหมยและเซียวเซ่อมาก ถึงแม้สองคนนี้จะมาใหม่ แต่ร่างกาย พวกหล่อนก็มีความยืดหยุ่น สามารถทำท่าทางต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย คุณครูประทับใจอย่างมากจึงชมเชยพวกเธออยู่หลายครั้งตลอดคาบเรียน
มันทำให้โอหยางซานซานอิจฉาริษยา อย่างมาก เธอเรียนกับคุณครูท่านนี้มาก็หลายปี แต่ยังไม่เคยได้รับคำชมสักครั้ง จ้าวเหมยนังตัวดีจงใจมาเยาะเย้ยทำให้เธอต้องอับอาย
ช่วงเวลาพักโอหยางซานซานเดินมาหาจ้าวเหมยกับเซียวเซ่อด้วยความโกรธ “พวกเธอมาทำไม?”
ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีผู้ใหญ่และผู้ชายอยู่ด้วย โอหยางซานซานไม่ปกปิดโทสะของตัวเองแม้แต่น้อย แถมตอนนี้ยังดูหัวฟัดหัวเหวี่ยงจากการโดนพวกเหมยเหมยยั่วยุอีก ไหนเลยจะมีอารมณ์สนใจภาพลักษณ์ของตนเอง
“ตลกละ ที่นี่ บ้านเธอหรือไง? ฉันอยากมาฉันก็มา เธอจะยุ่งอะไรด้วย?” เหมยเหมยพูดเยาะๆ
…………………………………..
ตอนที่ 853 จะเอาให้ตาย
เซียวเซ่อที่ยืนฟังอยู่ด้านข้างจึงชิงเถียงขึ้นก่อน “นั่นสิ โอหยางซานซานเธอชักจะยุ่งมากเกินไปแล้วมั้ง? พวกเราอยากไปไหนพวกเราก็ไปที่นั่น เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย!”
“เซียวเซ่อเธออย่าแส่หาเรื่องนักเลย นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” โอหยางซานซานตำหนิอีกฝ่าย เธอไม่ได้อยากจะมีปัญหากับเซียวเซ่อเท่าไหร่
เซียวเซ่อยกมือขึ้นกอดอกมองอีกฝ่ายเหยียดๆ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงออกจะเยาะๆ “ก็ฉันเห็นความอยุติธรรม เลยทนเห็นคนที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจรังแกคนอื่นไม่ได้ โอหยางซานซาน เธอดูตัวเธอก่อน เธอยังมีหน้ามารังแกเหมยเหมยอีกหรอ?
อันที่จริงโอหยางซานซานไม่ได้อ้วนขนาดนั้น เพียงแต่กระดูกใหญ่ไปสักหน่อย ถ้ามองผ่านๆอาจจะดูค่อนข้างผอม แต่พอยืนกับเหมยเหมยก็จะเห็นความแตกต่าง
คนหนึ่งร่างกายอ้อนแอ้นบอบบางราวกับนางฟ้า แต่อีกคนกลับหนาเหมือนผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
ส่วนเด็กผู้หญิงคนอื่นที่มุงดูเหตุการณ์ตรงหน้า ส่วนมากก็ไม่ได้สนิทสนมกับโอหยางซานซานมากนัก พอได้ยินคำพูดของเซียวเซ่อก็หัวเราะกันครืน พากันวิจารณ์โอหยางซานซานสนุกปาก
โอหยางซานซานก้มหน้าลงมองขาช้างแขนกิเลนและเอวที่เท่าถังน้ำของตนเอง ก็ยิ่งหัวเสียมากไปกว่าเดิม เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนักว่า “พวกเธอเป็นพวกเดียวกัน?”
“แย่แล้ว นี่เธอเพิ่งรู้สึกตัวหรอ เหอะเหอะ เธอว่ามันสมองแบบเธอเนี่ย ฉันควรจะทำอย่างไรกับเธอดีนะ!” เซียวเซ่อเยาะเย้ยโอหยางซานซาน สมองแม่นี่ยังห่างชั้นกับแม่ตัวเองอีกเยอะ
เหมยเหมยกลอกดวงตายิ้มหยันพลางเอ่ย “เซ่อเซ่อเธอควรจะบอกว่า เธอนั่นแหละโง่เหมือนหมู ขนาดเรียกเธอว่าหมู ยังน่าสงสารหมูเลย”
นี่เป็นคำด่าที่นิยมอย่างมากในโลกยุคใหม่ พอคนในตอนนี้ได้ยินก็รู้สึกแปลกใหม่ ทุกคนชะงักนิ่งก่อนจะหัวเราะครืนเสียงดังกันอย่างรวดเร็ว
เซียวเซ่อกลั้นขำ ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้เหมยเหมย ด่าคนแบบไร้คำหยาบแบบนี้ นับถือ!
โอหยางซานซานน้ำตาคลอเบ้า เธอรู้แล้วว่า เซียวเซ่อและเหมยเหมยจงใจมาหาเรื่องตนเอง
“จ้าวเหมยเธอมันนังจิ้งจอกหน้าไม่อาย วันๆ เอาแต่อ่อยผู้ชาย…”
โอหยางซานซานตะโกนเสียงกร้าว เหมยเหมยพุ่งไปด้านหน้าถีบเข้าท้องของโอหยางซานซาน อีกฝ่ายคิดไม่ถึงว่าพอพูดว่าจะลงไม้ลงมือก็ลงไม้ลงมือในทันที ไม่ส่งสัญญาณอะไร ก็ถูกเหมยเหมยเตะเข้าจัง ๆ จนตัวงอ
“ฉันว่าที่เธอมันปากเสีย เพราะพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนของคนในบ้าน แม่เป็นโสเภณี ส่วนพ่อก็โดนสวมเขาไปวันๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแกเป็นใครกันแน่!”
เหมยเหมยยันเท้าเข้าใส่โอหยางซานซานอย่างสุดแรง จิกผมหล่อนดึงทึ้งไปมา และตบใส่บ้องหูอีกฝ่ายไปหลายที จนมือตัวเองชาเห่อร้อนไปหมด
“จ้าวเหมยเธอกล้าตบฉัน เดี๋ยวฉันจะให้คุณย่าสั่งสอนเธอ รอดูก็แล้วกัน!”
โอหยางซานซานทั้งโกรธทั้งอาย แต่ดิ้นรนอย่างไรก็สลัดจากเหมยเหมยไม่พ้น
จนหนังหัวแสบไปหมด บนใบหน้าก็ปวดระบม โอหยางซานซานอ้างถึงหญิงชราอีกครั้ง
เพราะหวงอวี้เหลียนเคยพูดกับหล่อนมาก่อน บอกว่าคุณย่าก็คือจุดอ่อนของจ้าวเหมย ขอแค่ประจบประแจงคุณย่าเอาไว้ให้ดี จ้าวเหมยก็จะกลายเป็นไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด!
โอหยางซานซานกลับไม่รู้เลยว่าตอนนี้เหมยเหมยไม่แยแสย่าตัวเองอีกต่อไป ถ้าหล่อนไม่พูดถึงอีกฝ่ายก็ยังดีอยู่หรอก พออีกฝ่ายพูดเหมยเหมยก็ยิ่งหัวเสียกว่าเดิม
“ไปเรียกสิ เอาเลย เรียกให้ย่าฉันมาช่วยสิ เหอะ ไร้ยางอาย หน้าดานเหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิด!”
เหมยเหมยฟาดฝ่ามือใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างแรง แต่ก็ยังไม่หายแค้น จึงยืนขึ้นและประเคนฝ่าเท้าไปยังใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม
ถึงแม้เหมยเหมยจะใส่รองเท้าบัลเล่ต์ แต่แรงของฝ่าเท้านั้นทำให้โอหยางซานซานต้องร้องอย่างเจ็บปวด บรรดาเด็กผู้หญิงพวกนั้นเห็นสถานการณ์เริ่มไปกันใหญ่ ก็กลัวจะเกิดเรื่องจึงออกไปตามคุณครูให้เข้ามาดู
………………………
ตอนที่ 854 เจ็บไหม
เซียวเซ่อขวางพวกผู้หญิงที่คิดจะไปตามคุณครูด้วยสีหน้าเฉยชา “ไม่อยากดูเรื่องสนุกๆ ก็หลบไป!”
เหมยเหมยไม่ให้เธอซ้อมโอหยางซานซานด้วยกัน เซียวเซ่อถึงได้คันไม้คันมือ จึงกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์หงุดหงิดอยู่ น้ำเสียงจึงฟังดูไม่สบอารมณ์เท่าไร
เดิมเซียวเซ่อก็เป็นคนหน้านิ่งบวกกับอารมณ์ไม่ดีเลยยิ่งทำให้ภายนอกดูเย็นชากว่าเก่า ผู้หญิงกลุ่มนั้นจะกล้าไปตามคุณครูที่ไหนได้อีก ได้แต่ยืนตัวหดอยู่มุมกำแพงอย่างหวาดกลัว
พวกเธอมองโอหยางซานซานที่กำลังถูกเหมยเหมยคร่อมอยู่ใต้ร่างและร้องโหยหวนอย่างเห็นใจ นักเรียนหญิงที่เพิ่งเข้ามาใหม่คนนี้ทั้งหน้าตาสวย ทั้งอ่อนโยนขนาดนั้น แต่ตอนต่อสู้กลับดุดันเหลือเกิน!
น่ากลัวชะมัด!
อย่างไรเสียโอหยางซานซานก็อายุมากกว่าและขนาดรูปร่างแข็งแรงกว่าแต่เพราะไม่ทันระวังตัวเลยพลาดท่าให้เหมยเหมย โดนเหมยเหมยซ้อมอย่างน่าสงสาร แต่พอเธอดึงสติกลับมาได้ก็เริ่มเอาคืน
เหมยเหมยแพ้ที่แรงน้อยและรูปร่างตัวเล็กกว่า หลายครั้งแทบจะถูกเหวี่ยงออกไปเพราะเริ่มควบคุมโอหยางซานซานไม่อยู่
เซียวเซ่อตาลุกวาวอยากจะพุ่งตัวไปช่วย เหมยเหมยตะโกนขึ้นว่า “ไม่ต้อง นี่เป็นความแค้นส่วนตัวของฉันกับโอหยางซานซาน เธออยู่เฉยๆ ไป!”
นางแพศยาหวงอวี้เหลียนฝีมือร้ายกาจและจิตใจคับแคบ เธอจะลากเซียวเซ่อเข้ามาพัวพันด้วยไม่ได้!
สบถด่าหน่อยไม่เป็นไรแต่จะให้ลงไม้ลงมือเองไม่ได้ เธอจะทำร้ายเพื่อนไม่ได้ อีกทั้งเธออยากลงมือสั่งสอนนังสารเลวโอหยางซานซานเองกับมือ!
เป็นไฟโทสะที่อดกลั้นมาถึงสองปีแล้ว!
ครั้งนี้เธอจะต้องเอาคืนให้สาสม!
เหมยเหมยสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่และเผยยิ้มร้ายกาจให้โอหยางซานซานที่กำลังตะเกียกตะกาย รอยยิ้มที่ทำเอาโอหยางซานซานขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“ภูเขาไท่ซานกดทับ!”
จู่ๆ เหมยเหมยก็พูดเสียงดังและเด้งตัวขึ้นมาก่อนจะล้มลงไปแรงๆ อีกที!
เหอะ ขนาดแรงของเธอไม่พอไม่เป็นไร แต่หากพูดถึงความเร็วล่ะก็อย่าคิดดูถูกเธอว่าอ่อนวิชาฟิสิกส์!
เด็กผู้หญิงในห้องซ้อมเต้นทุกคนต่างเอามือปิดปากด้วยความตกใจทั้งสะดุ้งจนหลับตาแน่น ไม่กล้าดูฉากที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“อ๊าก!”
โอหยางซานซานร้องโหยหวน น้ำหูน้ำตาไหลพราก ท่าภูเขาไท่ซานกดทับของเหมยเหมยกระแทกจนกระดูกเธอเกือบแตกหัก อวัยวะภายในร่างกายของเธอเองก็เหมือนจะเคลื่อนย้ายตำแหน่ง โอหยางซานซานงอตัวและอดร้องครวญครางเจ็บปวดออกมาไม่ได้
เซียวเซ่อยกแขนขึ้นมาดูเวลาแวบหนึ่งก่อนจะโบกมือให้เหมยเหมยเป็นเชิงให้เธอเร่งมือหน่อย เวลาพักระหว่างคาบเรียนใกล้จบลงแล้ว ไม่นานคุณครูก็จะมาแล้ว
เหมยเหมยเข้าใจความหมายเลยรีบทำเวลากระทืบซ้ำอีกหลายที กัดฟันกระทืบสุดแรงราวกับอีกฝ่ายเป็นกระสอบทราย โอหยางซานซานร้องไม่ออก ได้แต่ครางฮึมในลำคอและใบหน้าที่เริ่มซีดเซียว
เหมยเหมยที่ระบายอารมณ์จนหน่ำใจแล้ว เธอคุกเข่ากับพื้นกระชากผมโอหยางซานซานมาแล้วกระซิบชิดหูเธอ “เจ็บมั้ย? นี่เพิ่งเริ่มต้นเองนะ หลังจากนี้ฉันจะทำให้เธอเจ็บยิ่งกว่านี้!”
ครั้นโอหยางซานซานมองเหมยเหมยที่สายตาเยือกเย็นเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงก็อดตัวสั่นสะท้านไม่ได้ เผลองอตัวมากกว่าเดิมอย่างไม่รู้ตะว
“จ้าวเหมยเธอรอดูเถอะ แม่ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่!”
โอหยางซานซานพูดเสียงร่ำไห้ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยโดนรังแกขนาดนี้มาก่อน นังตัวดีจ้าวเหมย เธอจะต้องให้คุณแม่สั่งสอนยัยนี่ให้หนัก!
ให้นังแพศยาคนนี้ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีก!
เหมยเหมยแค่นเสียงแล้วกระชากผมอย่างแรงก่อนจะกระทืบเท้าลงกลางอกโอหยางซานซานอีกที จนโอหยางซานซานร้องเสียงหลง ใบหน้าขาวซีดมากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาชั่วขณะ
“คุณครูมาแล้ว!” มีคนพูดขึ้น
เหมยเหมยรีบลุกขึ้น แล้วปัดตัวโอหยางซานซานแรงๆ อยู่หลายทีก่อนจะมัดผมให้เธอลวกๆ และเธอกับเซียวเซ่อก็ช่วยกันพยุงโอหยางซานซานที่เกือบสลบเหมือดอยู่รอมร่อ
……………………….
ตอนที่ 855 เรียนเต้นรำ
คุณครูเดินยิ้มเข้ามาในห้องเพื่อเตรียมสอนคาบต่อไป แต่สังเกตเห็นโอหยางซานซานที่กำลังพาดตัวอยู่ตรงไหล่ของเซียวเซ่อแล้วขมวดคิ้วแน่น
“โอหยางเป็นอะไรไป? ไม่สบายเหรอ?” คุณครูถามเสียงอ่อนโยน
สำหรับโอหยางซานซานนั้นคุณครูไม่สามารถทำใจให้ชอบลงได้จริงๆ เรียนบัลเล่ต์มาเกือบสิบปีแต่ยังตัวแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ยังสู้เด็กนักเรียนสองคนที่เพิ่งมาใหม่วันนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
อีกทั้งโครงร่างของโอหยางซานซานใหญ่เกินไปจริงๆ ไม่เหมาะสำหรับการเรียนเต้นรำ อย่าว่าแต่เต้นบัลเล่ย์เลย ต่อให้เป็นการเต้นแบบอื่นก็ไม่เหมาะ ซึ่งจะเป็นจุดเด่นที่ต่างจากพวกทำให้เห็นง่ายจนเกินไปอยู่แล้ว ดังนั้นนักเต้นรำที่ดีต้องมีใบหน้าเล็กรูปร่างผอมบาง
แตกต่างจากจ้าวเหมยที่เป็นนักเต้นพรสวรรค์ที่เพิ่งมาวันนี้ ซึ่งมีใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ หุ่นผอมเพรียว กลายเป็นภาพที่สวยงามเมื่ออยู่บนเวที
ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของเธอราวกับน้ำ ที่ไม่ว่าจะท่าไหนก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เกิดมาเพื่ออยู่บนเวทีโดยเฉพาะ
นักเรียนอย่างโอหยางซานซานหากไม่เห็นแก่พื้นหลังครอบครัว เธอไม่มีความอดทนจะสอนได้มากขนาดนี้หรอก
วันๆ ได้แต่มองดูหงส์ตัวใหญ่เรียนท่าเต้นแสนสง่าของหงส์ตัวน้อย
คุณครูรู้สึกปวดใจเหลือเกิน!
โอหยางซานซานอยากบอกคุณครูเหลือเกินว่าเมื่อครู่จ้าวเหมยทำร้ายร่างกายเธอแต่เธอไม่มีแรง อีกอย่างเซียวเซ่อเป็นคนร้ายกาจ ดูเหมือนกำลังโอบไหล่เธอแต่ที่จริงกลับกำลังใช้ข้อศอกกดตรงลำคอเธอไว้ เธอจึงไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้
“เด็กดี เดี๋ยวให้กินขนม”
เซียวเซ่อพูดยิ้มตาหยีให้คนภายนอกเห็นว่าพวกเธอกำลังกระซิบกระซาบคุยกันอย่างสนิทสนม คิดว่าต้องเป็นเพื่อนสนิทกันแน่ๆ
“คุณครูคะ โอหยางซานซานปวดท้องจนพูดไม่ได้อยู่แล้ว” เหมยเหมยเอ่ยเสียงดัง
โอหยางซานซานก้มตัวอยู่หน่อยๆ และมือที่กุมท้องน้อยใบหน้าขาวซีดดูเหมือนกำลังปวดท้องจริงๆ คุณครูไม่ได้สงสัยสักนิด เดินมาลูบหน้าผากโอหยางซานซานที สัมผัสที่ออกจะเย็นเสียหน่อยและเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก
“โอหยางทำไมผมยุ่งขนาดนี้?”
คุณครูมองกลุ่มผมที่ถูกเหมยเหมยมัดลวกๆ เป็นก้อนอย่างฉงนพลางรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกไป
“คุณครูคะ เมื่อกี้โอหยางซานซานปวดจนกระชากหัวตัวเอง ครูดูสิ ผมหลุดไปเป็นจุกเลย เพราะหนูกับเซียวเซ่อช่วยกันห้ามเธอถึงช่วยชีวิตผมเธอไว้ได้”
เหมยเหมยอ้าปากพูดโป้ปดอย่างไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
ด้วยหน้าตาของเธอเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน และท่าทางที่เหมือนเด็กว่านอนสอนง่าย คุณครูเลยไม่คิดจะสงสัยในคำพูดเธอแม้แต่น้อย แถมยังชมเธอว่า “จ้าวเหมยกับเซียวเซ่อเป็นห่วงเพื่อนดีจัง ครูจะต้องชมเชยพวกเธอหน่อยแล้ว!”
เซียวเซ่อกับจ้าวเหมยยืนนิ่งคอยฟังคำชมของคุณครูอย่างไม่ละอายใจและไม่รู้สึกผิดเลย
โอหยางซานซานโกรธจนแทบกระอักเลือดและได้แต่ดิ้นรนสุดแรงเพราะอยากเปิดโปงธาตุแท้ของนังแพศยาสองคนนี้ แต่กลับเสียแรงเปล่าเพราะไม่สามารถหลุดจากการถูกควบคุมได้
“ครูคะ โอหยางซานซานเริ่มปวดอีกแล้ว หนูกับเซียวเซ่อพาเธอไปส่งที่บ้านเองค่ะ!” เหมยเหมยเสนออย่างหวังดี
คุณครูออกจะลังเลอยู่นิดหน่อย เหมยเหมยเลยรีบพูดขึ้น “ครูไว้วางใจได้ บ้านหนูอยู่หมู่บ้านเดียวกับโอหยางซานซาน พ่อของเธอชื่อโอหยางเซี่ยงหมิง แม่ชื่อหวงอวี้เหลียน โอหยางซานซานกับแม่ของเธอมาเที่ยวบ้านหนูบ่อยค่ะ!”
คุณครูได้ยินเหมยเหมยบอกชื่อพ่อแม่โอหยางซานซานได้ถูกเผง และโอหยางซานซานเองก็ไม่ได้ปฏิเสธเลยค่อยวางใจ ยอมปล่อยให้พวกเหมยเหมยพาโอหยางซานซานกลับบ้านไป
เหมยเหมยกับเซียวเซ่อช่วยกันพยุงโอหยางซานซานที่ยังดิ้นไม่หยุดมาเปลี่ยนเสื้อที่ห้องรับรอง เพิ่งเข้าห้องเธอกับเซียวเซ่อก็ปล่อยมืออย่างพร้อมเพรียงให้โอหยางซานซานล้มหน้าคะมำจิ้มพื้น
ไม่รอโอหยางซานซานตั้งสติได้เหมยเหมยกับเซียวเซ่อก็พุ่งตัวไปพร้อมกัน คนหนึ่งตรึงแขนไว้อีกคนกดศีรษะไว้ไม่ให้โอหยางซานซานขยับตัวได้อีก
………………………
ตอนที่ 856 สร้างหลักฐานเพิ่ม
“พวกแก พวกแกคิดจะทำอะไร”
โอหยางซานซานรู้สึกสังหรณ์ใจ พูดเสียงแหบออกมาด้วยความยากลำบาก
“ถอดเสื้อผ้าให้เธอยังไงล่ะ”
เหมยเหมยหัวเราะอย่างเยือกเย็น ถอดชุดฝึกซ้อมของโอหยางซานซานออกอย่างรวดเร็วและง่ายดาย จากนั้นก็เอาเสื้อผ้าปิดตาของหล่อนไว้ ไม่มีอะไรปกปิดร่างกายของหล่อนเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ความหนาวเย็นบนร่างกายทำให้โอหยางซานซานรู้สึกกลัว หล่อนพยายามดิ้นหนักขึ้น เด็กสาวคนนี้โตขึ้นมาได้ไม่เลว เหมือนกับแม่ของหล่อน กระต่ายที่อยู่ตรงข้างหน้าหน้าอกเด้งไปมาไม่หยุด
เมื่อเหมยเหมยนึกถึงข่าวฉาวโสมมยิ่งกว่าอุจจาระที่หวงอวี้เหลียนสาดใส่หัวหล่อน หล่อนก็ยิ่งใจแข็งมากขึ้น จะไม่ออมมือให้กับโอหยางซานซานโดยเด็ดขาด
คำพูดไร้สาระที่ว่าความผิดไม่เกี่ยวกับรุ่นลูกหลาน ทำผิดเองก็ต้องรับผิดเองพวกนั้น อย่าเสียเวลาพูดกับหล่อนเลย
ตอนที่หวงอวี้เหลียนใส่ร้ายป้ายสีหล่อน ก็ควรจะนึกถึงว่าความผิดที่ตัวเองสร้างขึ้น จะไม่ทำให้ลูกของตัวเองเดือดร้อนได้อย่างไร
อีกอย่าง โอหยางซานซานก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีส่วนรู้เห็น เรื่องใส่ร้ายป้ายสีหล่อนเธอเองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกับอู่เยวี่ย มีนิสัยร้ายกาจโดยกำเนิด การใจอ่อนให้กับคนพวกนี้ ก็เท่ากับการทำร้ายตัวเอง
เหมยเหมยลุกขึ้นยืน เหยียบลงกลางอกของโอหยานซานซานที่กำลังดิ้นพล่าน โอหยางซานซานหายใจไม่ทัน จนสลบไป
“อ่อนแอเสียจริง ๆ”
เซียวเซ่อใช้ขาเตะไปสองสามที โอหยางซานซานนอนนิ่งราวกับศพไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เซียวเซ่อเตะหล่อนอีกสองสามทีด้วยความรังเกียจ โอหยางซานซานก็ไม่ปริเสียงร้องเลยสักแอะ นิ่งราวกับศพ
เหมยเหมยถอดเสื้อผ้าหล่อนออกจากตัวจนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว จากนั้นก็หยิบขวดรูปทรงสวยงามออกมาจากกระเป๋า เป็นขวดน้ำหอมเปล่าที่เซียวเซ่อไปหามาได้จากโต๊ะเครื่องแป้งของแม่ของหล่อน
เมื่อคืนเหมยเหมยจงใจให้ฉิวฉิวทำอาหารเม็ดหกใส่เข้าไปในขวด เก็บไว้ทั้งคืนก็เพิ่งจะได้ครึ่งขวด วันนี้จะได้นำออกมาใช้แล้ว
เหมยเหมยส่งสายตาให้เซียวเซ่อ ฉีดลงไปที่หัวของโอหยางซานซานอย่างไม่ลังเลใจ คุณชายฉิวที่โตแล้ว อาหารเม็ดพวกนั้นก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นตาม หากฉีดไว้ที่หัวหมดเกรงว่าจะดูชัดเจนเกินไป
หล่อนลองขบคิดดูครู่หนึ่ง จากนั้นก็ฉีดที่เหลือทั้งหมดลงบนตัวของโอหยางซานซาน เซียวเซ่อสูดดมกลิ่นแล้วพูดขึ้นด้วยความสงสัยว่า “ไม่เหม็นเลยนะ เหมยเหมย เธอทำผิดหรือเปล่า”
“นี่คือน้ำยาระดับสูง เดี๋ยวพอรอออกไปเจอกับแสงอาทิตย์ เธอก็จะรู้เลยว่าอะไรที่เรียกว่าเหม็นจนไม่อยากจะดม”
เหมยเหมยนำขวดเปล่าใส่เข้าไปไว้ในกระเป๋า รอ ‘น้ำหอม’ บนตัวของโอหยางซานซานแห้งเอง หล่อนกับเซียวเซ่อเอามือกอดอก มองก้อนเนื้อที่นอนสลบไม่ได้สติอยู่บนพื้นด้วยความรังเกียจ
“ทำแค่นี้มันคงจะน้อยเกินไปสำหรับคนอย่างยัยนี่ ฉันจะต้องสร้างหลังฐานที่ชัดเจนกว่านี้”
เหมยเหมยใช้หัวคิด ให้ฉิวฉิวที่อยู่ในกระเป๋าส่งกล้องถ่ายรูปออกมา โอกาสดีขนาดนี้จะพลาดไม่ได้
“ทำไมเธอถึงพกกล้องถ่ายรูปมาด้วยล่ะ”
เซียวเซ่อเบิกตาโตมองเหมยเหมยที่หยิบกล้องโพลารอยด์ออกมาจากกระเป๋า จ้าวอิงหัวซื้อมาให้หล่อนตอนที่กลับจากไปทำงานที่ต่างประเทศ ใช้งานได้ดีมาก
“ออกไปข้างนอกของทุกอย่างต้องเตรียมให้พร้อมสิ เซ่อเซ่อ เธอช่วยจัดท่าให้ยัยนี่หน่อย ฉันจะเก็บภาพให้เขาเป็นที่ระลึก”
เซียวเซ่อปกติก็เป็นเด็กสาวหัวแข็ง ไม่ได้ยึดมั่นในหลักความถูกผิดอะไร มักจะทำอะไรตามใจตัวเอง ตอนนี้เห็นว่าเหมยเหมยเล่นหนักเสียยิ่งกว่าหล่อนอีก สาวน้อยเซียวก็คงไม่มีทางยอมหรอก
“รอก่อน”
เซียวเซ่อลอกเลียนแบบท่าของสาว ๆ ในสโมสร ใช้ขาจัดท่าให้กับโอหยางซานซาน ดูแล้วเป็นเรื่องเป็นราว เหมยเหมยกดถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง เสียงลั่นชัตเตอร์ดังแว่วลอยมาข้างหูไม่หยุด
“ต่อไปหากหวงอวี้เหลียนกล้ามาใส่ร้ายป้ายสีฉันอีก ฉันก็จะเอารูปพวกเขาสองแม่ลูกแฉไปทั่วทั้งเมือง ทุกคนมีกันคนละใบ จะคอยดูว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองต่อไปกันอย่างไร”
เหมยเหมยพูดเสียงลอดไรฟัน จากนั้นก็ใช้ขาถีบโอหยางซานซานด้วยความรุนแรงอีกรอบ
ใครมาทำร้ายหล่อนสิบเท่า หล่อนจะเอาคืนเป็นร้อยเท่า
หวงอวี้เหลียน เธอก็คอยรอดูได้เลย
…………………………………..
ตอนที่ 857 ชั่วร้ายเกินไป
เหมยเหมยไม่ยอมรามือถ่ายรูปจนฟิล์มหมดม้วน
ล้วนเป็นภาพเปลือยของโอหยางซานซานทั้งสิ้น แม้จะเป็นวิธีที่ต่ำทรามมากแต่เหมยเหมยไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิด
เธอไม่เคยทำร้ายใครก่อน แต่ก็ไม่มีวันยอมปล่อยให้คนอื่นขี้ใส่หัวเธอโง่ๆ เธอในอดีตโหยหาความรักจากครอบครัว อยากสวมบทเป็นเจ้าหญิงน้อยที่น่ารักใจดีต่อหน้าคนตระกูลจ้าว
ได้แต่คิดว่าตระกูลจ้าวจะปกป้องเธอได้ แต่ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเธอใสซื่อเกินไป…
ตระกูลจ้าวปกป้องเธอไม่ได้ พึ่งฟ้าพึ่งดินพึ่งบรรพบุรุษ สู้พึ่งตัวเองยังจะน่าเชื่อถือกว่า!
เซียวเซ่อช่วยเธอใส่เสื้อให้โอหยางซานซานแต่พวกเธอกลัวสัมผัสโดน ‘น้ำหอม’ ของฉิวฉิวเลยไม่กล้าใช้มือแตะโดนตัวโอหยางซานซาน แค่ใส่กระโปรงให้เธอลวกๆ ชุดชั้นในกางเกงชั้นในเองก็สวมให้ลวกๆ จนตกอยู่ในสภาพหละหลวมเช่นกัน บวกกับผมยุ่งเหยิงที่ดูแล้วเหมือนเพิ่งถูกข่มขืนมา
เหมยเหมยเกิดผุดความคิดชั่วร้ายขึ้นมาใหม่ เธอกระซิบข้างหูเซียวเซ่อไม่กี่ประโยคจนเซียวเซ่อพยักหน้าหงึกหงักอย่างทึ่งในความคิด “เหมยเหมยเธอนี่ร้ายจริงๆ เมื่อก่อนทำไมฉันไม่รู้เลยว่าเธอร้ายขนาดนี้!”
“เมื่อก่อนไม่มีใครมาหาเรื่องฉันไง!” เหมยเหมยแค่นเสียงพูด
เธอกับเซียวเซ่อเองก็เปลี่ยนเป็นชุดอื่นใส่หมวกกับผ้าปิดปาก หามโอหยางซานซานที่ยังไม่ได้สติออกจากห้องรับรอง ขณะนี้ศูนย์เด็กเล็กกำลังอยู่ในระหว่างคาบเรียน บนทางเดินเลยไม่มีใครจึงเป็นโอกาสที่ดีของพวกเธอ
“ถนนเมืองหลวงสายไหนที่คึกคักที่สุด?” เหมยเหมยถาม
“ตลาดตงต้า ที่นั่นไม่ว่าเวลาไหนคนก็เยอะ” เซียวเซ่อคุ้นเคยกับเมืองหลวงอย่างมาก แค่อ้าปากก็สามารถบอกชื่อสถานที่ได้ทันที
“ได้ งั้นไปตลาดตงต้า เราเรียกรถไปกัน”
ทั้งคู่โชคดีไม่น้อยที่เพิ่งก้าวออกจากศูนย์เด็กเล็กก็เห็นรถคันสีเหลืองผ่านมาพอดี ทั้งคู่แบกห้ามโอหยางซานซานขึ้นรถขณะที่คนขับรถมองโอหยางซานซานในชุดหลุดลุ่ยอย่างสงสัยจนอดคิดไปในทางที่เลวร้ายไม่ได้
“นี่พี่ของฉันเอง เธอไม่สนการเรียนมัวแต่ไปมั่วสุมกับพวกอันธพาลพวกนั้น ฉันกับพี่ชายฉันตามหาเธอกลับมาจนได้ คุณลุงอย่าไปบอกใครนะ!”
เหมยเหมยกดเสียงให้เบาลง วันนี้เธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ ทั้งสวมหมวกและผ้าปิดปาก ส่วนเซียวเซ่อแค่ดูรูปลักษณ์ภายนอกก็เหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นทั่วไป ส่วนโอหยางซานซานที่สลบไม่ได้สติมีผมยาวคอยปิดหน้า ดูจากรูปร่างของเธอแล้วไม่แตกต่างอะไรจากสาววัยรุ่นทั่วไป
คนขับรถไม่ได้สงสัยในคำพูดของเหมยเหมยเลยสักนิด โอหยางซานซานอยู่ในสภาพอย่างนั้นแล้วแค่ดูก็รู้ว่ายายหนูคนนี้เพิ่งทำอะไรมา
ไม่รู้ว่ามีอะไรกับผู้ชายกี่คน ดูสิถึงขั้นสลบไสลปขนาดนี้!
คนขับรถส่ายหน้าแต่สายตากลับมองผ่านกระจกหน้าเพื่อชมต้นขาขาวเนียนของโอหยางซานซานอย่างอดไม่ได้
อย่างไรก็ไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวแล้ว ให้เขาชมสักหน่อยจะเป็นไรไป!
เพียงแต่ยายหนูคนนี้ตัวเหม็นไปหน่อยนะ เขาเปิดหน้าต่างรถหมดแล้วแต่กลิ่นเหม็นที่ตลบอบอวลในรถยังทำเอาเขาแทบอ้วก แม่เจ้า เขาโตมาอายุขนาดนี้เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้หญิงตัวเหม็นขนาดนี้!
แต่หุ่นนี่ดีจริงๆ มิน่าผู้ชายพวกนั้นถึงยอมมีอะไรด้วยทั้งที่ตัวเหม็นขนาดนี้!
หากเป็นเขาก็ยอม อย่างมากก็แค่อุดจมูกไว้ก็พอนี่นา!
ไม่นานก็ถึงปากตลาดตงต้า ตอนนี้เป็นเวลาใกล้พลบค่ำแล้วเลยมีคนเดินอยู่บนทางเท้าค่อนข้างมาก เหมยเหมยให้คนขับรถจอดรถข้างถนน เธอกับเซียวเซ่อช่วยลากตัวโอหยางซานซานลงจากรถ
“เราทิ้งไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวก็มีคนมา”
เซียวเซ่อขมวดคิ้วเป็นปมแน่นเพราะรู้สึกคลื่นไส้ น้ำยาสูตรพิเศษที่เหมยเหมยทำเองมันแรงจริงๆ เธอเกือบขย้อนเอาอาหารที่กินไปข้ามวันออกจากท้องออกมาหมด
เหมยเหมยเองก็เหม็นจนรู้สึกไม่สบายตัว เห็นโอหยางซานซานตากะพริบหน่อยๆ เห็นท่าทีคงใกล้ตื่นแล้วเลยกระทืบซ้ำอีกหลายที โอหยางซานซานที่ยังไม่ทันฟื้นก็สลบไปอีกครั้ง
……………………….
ตอนที่ 858 สร้างข่าวลือใหม่
“เหมยเหมยเธอเร็วหน่อย มีคนมาแล้ว!”
เซียวเซ่อพูดเร่งเสียงเบา เหมยเหมยกับเซียวเซ่อก้มตัวแอบย่องวิ่งหนีไป ทิ้งโอหยางซานซานนอนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่บนพื้น เหมยเหมยยังอุตส่าห์ช่วยจัดผมทรงใหม่ให้เธอเพื่อเปิดใบหน้า
หากมีคนที่เดินผ่านบังเอิญรู้จักโอหยางซานซานก็จะดีมาก!
ไม่มีก็ไม่เป็นไร นี่เป็นแค่ออเดิร์ฟของเธอเท่านั้น อาหารจานหลักที่แท้จริงอยู่หลังจากนี้ต่างหาก!
“เหม็นจัง คนเลวที่ไหนมาทิ้งขยะในวันอากาศร้อนๆ แบบนี้ ไร้จิตสาธารณะเสียจริง!”
มีคนร้องโวยเสียงดังเพราะอยากตามหาต้นทางของกลิ่นเหม็นแต่กลับเจอโอหยางซานซาน
“โอ้ มีคนตาย รีบแจ้งตำรวจเร็ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว นี่มันข่มขืนแล้วฆ่า!”
คนแรกที่เจอโอหยางซานซานคือผู้ชายคนหนึ่ง เวลาพลบค่ำที่มีเพียงแสงสลัวๆ เขาที่ไม่ทันสังเกตให้ดีเลยหลงคิดว่าร่างโอหยางซานซานคือศพ ตกใจจนล้มก้นจิ้มพื้นฉี่ราดกระเสือกกระสนวิ่งหนีไป
เซียวเซ่อกับเหมยเหมยที่ยืนดูอยู่ห่างๆ แสร้งทำเป็นเดินผ่านก่อนจะเข้าไปมุงด้วย โดยรอบโอหยางซานซานในเวลานี้มีคนยืนล้อมไปหมดและชี้นิ้วซุบซิบโอหยางซานซานที่นอนบนพื้น
มีคนใจกล้าเอานิ้วไปวัดลมหายใจตรงปลายจมูกโอหยางซานซานแล้วตะโกนเสียงดังอย่างดีใจ “ไม่ใช่ศพ ยังมีชีวิตอยู่!”
ผู้คนที่กำลังยืนมุงเอามืออุดจมูกก็เกิดความคิดบางอย่าง–
“โอ้ ไม่รู้ว่าลูกสาวบ้านไหนกลางวันแสกๆ ก็โดนคนย่ำยีเสียแล้ว น่าสงสารจริงๆ!”
“นั่นสิ คนร้ายสมัยนี้ยิ่งนับวันก็ยิ่งเหิมเกริม นี่มันกลางวันแสกๆ เลยนะ!”
“คนร้ายพวกนี้ก็ไม่เลือกหน่อย เด็กผู้หญิงที่ตัวเหม็นขนาดนี้ก็ทำได้ลงคอ จริงๆ เลยนะ!”
……
ทุกคนมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าโอหยางซานซานถูกข่มขืนโดยไร้เสียงคัดค้าน พวกเขาแสดงความเห็นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวโอหยางซานซานอย่างมาก
“มีคนรู้จักเด็กผู้หญิงคนนี้มั้ย? ต้องแจ้งผู้ปกครองเธอ!” มีคนเอ่ยขึ้น
เหมยเหมยกดเสียงต่ำตะโกน “ฉันรู้ว่าเธอคือใคร เธอชื่อโอหยางซานซาน พ่อชื่อโอหยางเซี่ยงหมิง แม่ชื่อหวงอวี้เหลียน พักอยู่ตึกบริหารวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ”
“โอ้ ผู้อำนวยการโอหยางฉันรู้จัก ทำไมลูกสาวเขา…ฉันต้องรีบโทรหาเขา!”
นับว่ายังโชคดีไม่น้อยที่คนกลุ่มนี้รู้จักโอหยางเซี่ยงหมิงเลยรีบไปใช้โทรศัพท์สาธารณะ เหมยเหมยขยิบตาให้เซียวเซ่อก่อนที่ทั้งสองจะรีบจากไปโดยเร็ว
“โอ้พระเจ้า เหม็นจะตายอยู่แล้ว น้ำยาของเหมยเหมยใช้ดีจริงๆ มันอยู่ได้นานแค่ไหนเหรอ?”
หลังจากเดินออกมาไกลแล้วเซียวเซ่อถึงถอดผ้าปิดปากออกพรูลมหายใจยาว
“อย่างน้อยก็สักสี่ห้าวัน โอ๊ย วันนี้ซ้อมโอหยางซานซานรุนแรงเกินไป ถ้าเกิดวันหลังเธอไม่ไปซ้อมเต้นแล้วฉันจะฉีดน้ำยาให้เธอยังไงเนี่ย!”
เหมยเหมยคิดอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อครู่อารมณ์ร้อนเกินไปเลยไม่ทันคิดให้รอบคอบจนเพิ่งมานึกขึ้นได้ตอนนี้
เซียวเซ่อไม่ค่อยสนใจเท่าไร “ไม่เป็นไร นอกจากว่าโอหยางซานซานขังตัวเองอยู่บ้านไม่ออกมา ถ้าออกมาก็ไปดักรอได้ ต่อจากนี้เราจะทำอะไรต่อ?”
เหมยเหมยคิดๆ แล้วก็เห็นด้วย อีกอย่างสี่ห้าวันก็เพียงพอแล้ว น้ำวิเศษของฉิวฉิวในตอนนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ไม่แน่อาจอยู่นานขึ้นก็ได้!
“ไม่รีบ เรารอดูเรื่องสนุกๆ กันก่อน เซ่อเซ่อเธอรอดูเถอะ พรุ่งนี้ข่าวลือที่ว่าโอหยางซานซานโดนข่มขืนต้องว่อนไปทั้งเมืองแน่!”
เหมยเหมยทำหน้ามุ่งมั่น ไม่ได้มีแค่หวงอวี้เหลียนที่ใส่ร้ายป้ายสีได้ ตอนนั้นเธอลงมือจัดการกับอู่เยวี่ยได้อย่างใจเหี้ยม ตอนนี้ก็จัดการโอหยางซานซานได้อย่างใจเหี้ยมเช่นกัน!
วิธีที่จะหยุดข่าวลือได้ดีที่สุดก็คือสร้างข่าวลือใหม่ที่น่าสนใจกว่า!
นี่เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่เธอได้มาจากการดูข่าวซุบซิบเมื่อชาติที่แล้วนั่นแหละ!
เชื่อว่าข่าวเสียหายที่หวงอวี้เหลียนกุมาใส่สีตีไข่ให้เธอ ไม่นานจะโดนล้างโดยข่าวใหม่ของโอหยางซานซานที่ถูกข่มขืนแทน!
………………………
ตอนที่ 859 พระเจ้าเข้าข้าง
รอบข้างโอหยางซานซานเริ่มมีคนเข้ามามุงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานอากาศที่ร้อนอบอ้าวก็ทำให้เธอตื่น ทั้งตัวปวดเมื่อยเหมือนโดนรถทับ จนเธอครางออกมาอย่างอดไม่ได้
“น่าสงสารออก คนชั่วพวกนี้ต้องโดนฟ้าผ่าแล้ว!” คนอื่นกลับเข้าใจผิดว่าโอหยางซานซานถูกข่มขืนมาเลยรู้สึกเห็นใจเธอกันถ้วนหน้า
โอหยางซานซานยังสับสนพร่าเบลออยู่ เธอรู้สึกเพียงแค่ปวดไปทั้งตัวและอากาศที่อบอ้าว ยังจำได้ว่านังแพศยาจ้าวเหมยถอดเสื้อเธอออกหมดใจก็กระตุกวูบ รีบก้มดูถึงเห็นว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบถึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่ตอนนี้เธออยู่ไหน?
จ้าวเหมยไปไหนแล้ว?
โอหยางซานซานกวาดตามองไปรอบข้างอย่างแค้นใจแต่กลับเห็นขาเป็นหลายคู่ พร้อมสติที่เริ่มกลับคืนมา ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้างเธอถึงจับผิดสังเกตได้
นี่เธออยู่ที่ไหนกัน?
“ยายหนู เดี๋ยวตำรวจก็มาแล้ว เธออดทนหน่อยนะ อย่าอาย คนผิดไม่ใช่เธอแต่เป็นคนร้ายพวกนั้นต่างหาก เธอควรบอกชื่อคนร้ายที่รังแกเธอออกมาอย่างกล้าหาญ ให้พวกมันโดนลงโทษตามกฎหมาย” ชายวัยกลางคนที่ดูมีการศึกษาคนหนึ่งโน้มตัวลงคุยกับเธออย่างใจดี
ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำพูดที่อยู่ในใจของโอหยางซานซานเหมือนห่วงยางช่วยชีวิตที่อยู่ในมหาสมุทร เหมือนน้ำในทะเลทรายที่มอบความอบอุ่นแก่หัวใจเธอ
คนผิดก็คือนังแพศยาจ้าวเหมยนั่นไง!
และปีศาจเซียวเซ่อที่ผู้หญิงก็ไม่ใช่ผู้ชายก็ไม่เชิงนั่น!
“จ้าวเหมยเป็นคนทำ เธอซ้อมฉันแล้วถอดเสื้อผ้าฉันด้วย ตำรวจล่ะ? รีบจับตัวเธอเดี๋ยวนี้!” โอหยางซานซานร้องตะโกนด้วยความโกรธ แต่เพราะอารมณ์ที่ดุเดือดเกินไปเลยพูดไม่ค่อยชัดถ้อยชัดคำ
ผู้คนที่รอฟังอยู่กลับได้ยินเป็นจ้าวเหว่ย และยิ่งยืนยันตอกย้ำการคาดเดาของพวกเขาที่ว่าแม่หนูคนน่าสงสารคนนี้ถูกข่มขืนจริงๆ ด้วย แต่ฟังแล้วเหมือนจะเป็นเพื่อนของแม่หนูด้วยซ้ำ!
ไม่อย่างนั้นจะบอกชื่อคนร้ายออกมาได้อย่างไร?
ไม่แน่อาจเป็นแฟนหนุ่มที่เธอกำลังคบหาอยู่ก็ได้?
เฮ้อ เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ไม่ขยันเรียน อายุน้อยๆ ก็มีแฟนแล้ว เลียนแบบในหนังกันทั้งนั้น!
ความเห็นใจที่ทุกคนมีต่อโอหยางซานซานจืดจางลงมากทีเดียว ใครใช้ให้เธอไม่รู้จักแยกแยะเป็นคนเดินไปให้เขาข่มขืนเองล่ะ!
แมลงวันไม่มีทางตอมไข่ที่ไม่มีรูโหว่ ปรบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก บ่งบอกว่าแม่หนูคนนี้ไม่ใช่คนดีเด่อะไร!
ต้องบอกว่าทุกคนในที่นี้สายตาแหลมคม ไม่ต้องให้เหมยเหมยพูดอะไรก็ดูออกถึงตัวตนที่แท้จริงของโอหยางซานซาน สุดยอดไปเลย!
จนถึงตอนนี้โอหยางซานซานก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์และยังร้องโวยวายอยู่ได้ว่าจ้าวเหมยรังแกเธอ แต่ทุกคนได้ยินเป็น ‘จ้าวเหว่ย’ กันหมด หลงคิดว่าคนที่รังแกเธอคือผู้ชายเลยคิดไปถึงเรื่องนั้นอย่างไม่ต้องนัดหมาย
โอหยางเซี่ยงหมิงมาถึงพร้อมกับตำรวจ โอหยางเซี่ยงหมิงในวัยห้าสิบกว่าตัวจริงดูจะมีอายุมากกว่าเสียหน่อย หลังค่อมเล็กน้อย เขารักและทะนุถนอมลูกสาวคนเล็กพอสมควร พอได้รับสายก็รีบมาทันทีแต่พอเห็นสภาพย่ำแย่ของโอหยางซานซานผู้ชายคนนี้เกือบจะเป็นลมคาที่
ลูกรักของเขา ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขากลับถูกคนสารเลวย่ำยี!
แถมยังอยู่ภายใต้สายตาสาธารณชน–
มีคนคอยจับตาดูอยู่มากมาย!
โอหยางเซี่ยงหมิงกัดปลายลิ้นจนเลือดซิบกว่าจะใจเย็นลงได้ เขาไม่อยากให้ลูกสาวไปสถานีตำรวจ เรื่องนี้เขาต้องสืบเอง เขาจะปล่อยให้ข่าวเสียหายนี้หลุดไปได้
ตระกูลโอหยางไม่อยากขายขี้หน้า!
เขาเองก็เช่นกัน!
โอหยางเซี่ยงหมิงบอกชื่อสารวัตรและบอกชื่อตัวเองไปถึงสามารถพาลูกสาวกลับบ้านได้อย่างราบรื่น แต่เขากลับไม่รู้ว่าหากโอหยางซานซานไปสถานีตำรวจและตรวจร่างกายให้ลูกสาวเขาโดยเฉพาะ ไม่นานก็จะพบว่า–
ความจริงลูกรักของเขาไม่เคยถูกข่มขืนมาก่อน!
อีกทั้งมีการยืนยันจากสถานีตำรวจ ข่าวเสียหายที่ถูกใส่ร้ายของโอหยางซานซานหากต้องการทำให้สะอาดล่ะก็ ความจริงนั้นทำง่ายนิดเดียว
แต่ตอนนี้โอหยางเซี่ยงหมิงพาลูกสาวกลับบ้านก่อน ในความจริงก็เท่ากับว่าเสียโอกาสยืนยันความบริสุทธิ์ให้แก่ลูกสาว
บอกเลยว่าพระเจ้ากำลังช่วยเหมยเหมยอยู่!
………………….
ตอนที่ 860 รักแท้
เหมยเหมยกับเซียวเซ่อแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนและเห็นทุกเหตุการณ์เองกับตา พอโอหยางเซี่ยงหมิงกลับไปพวกเธอแตะมือกันแล้วเฮลั่น
“ไปกินไอติมกัน ร้อนจะตายชัก!”
เซียวเซ่อผิวปากอย่างดีใจ ได้ทำเรื่องร้ายๆ กับเพื่อนมันสร้างความตื่นเต้นและสร้างความสนิทกับเพื่อนมากกว่าเดิม
“เซ่อเซ่อ เธอจะรู้สึกว่าฉันร้ายกาจมากหรือเปล่า?” เหมยเหมยถาม
“ร้ายสุด ๆ แต่ฉันกลับชอบ ถ้าเธอไม่ร้ายฉันคงไม่เป็นเพื่อนเธอ!” เซียวเซ่อเชิดปลายคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง ก่อนจะพูดเสริมอีกประโยค “เรากำลังช่วยพระเจ้าผดุงความยุติธรรมต่างหาก สมัยโบราณจะถูกเรียกว่าเป็นจอมยุทธ์หญิงด้วย!”
เหมยเหมยหลุดขำ “ใช่ เราเป็นจอมยุทธ์หญิงที่ช่วยผดุงความยุติธรรม เธอคือเซียวสืออี้หลาง ฉันคือกันสือจิ่วเม่ย ฮ่าฮ่า! ”
ทั้งคู่กุมท้องหัวเราะเสียงดัง ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกว่าเก่า
กลับถึงบ้านเหมยเหมยไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้จ้าวเสวียหลินฟังเพราะพี่ชายคนนี้ของเธอเป็นคนเที่ยงธรรมเกินไป จ้าวเสวียกงกับพวกสยงมู่มู่เองก็เช่นกัน เป็นคนไม่ชอบทำสิ่งที่ชั่วร้าย หากบอกให้พวกเขารู้อาจโดนตำหนิได้ สู้ไม่บอกจะดีกว่า
ต่อกรกับคนชั่วร้ายก็ต้องใช้วิธีการชั่วร้าย เธอลงโทษใครก็ต้องดูว่าเจ้าตัวเป็นใครก่อน!
กลางคืนเธอรอสายโทรศัพท์ รอสายจากคุณย่า
หวงอวี้เหลียนต้องโทรไปร่ำไห้กับคุณย่าแน่ๆ ส่วนคุณย่าที่เอ็นดูโอหยางซานซานขนาดนั้นจะไม่โทรมาเรียกร้องความยุติธรรมให้สุดที่รักของท่านได้อย่างไร?
ดูเหมือนสายจากคุณย่าจะมาถึงเร็วกว่าที่เหมยเหมยคาดไว้ เพิ่งทานมื้อเย็นไปได้ไม่นานโทรศัพท์ก็แผดเสียงดังให้เธอกับจ้าวเสวียหลินรีบกลับไปทั้งคู่
ตอนแรกจ้าวเสวียหลินยังคิดจะเกลี้ยกล่อมน้องสาว แต่รอบนี้เหมยเหมยกลับรับปากอย่างตรงไปตรงมา เธออยากทำตัวผยองต่อหน้าหวงอวี้เหลียนสักหน่อย
ชัยชนะจะแอบซุ่มเก็บไว้ดีใจคนเดียวไม่ได้นี่นา!
เซียวเซ่ออยากไปพร้อมกับเธอแต่เหมยเหมยไม่ให้เธอตามไป บอกให้เธอรอยู่บนรถ เธอกับจ้าวเสวียหลินแล้วก็สยงมู่มู่เดินเข้าไปตรงลานบ้านตระกูลจ้าว
ยังไม่ถึงห้องรับแขกเสียงร้องไห้ของโอหยางซานซานก็ดังแว่วออกมา เหมยเหมยยิ้มชอบใจยิ่งกว่าเดิม
อนาคตเธอยังต้องร้องไห้ยิ่งกว่านี้อีก!
“เหมยเหมย เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” จ้าวเสวียหลินสังเกตถึงความผิดปกติเลยถามเสียงเบา
เหมยเหมยยักไหล่ “หนูจะรู้ได้ยังไง อาจจะโดนใครข่มขืนหรือโดนรุมหมู่?”
จ้าวเสวียหลินหน้าแดงพูดตำหนิเสียงเบา “คำพูดหยาบคายพวกนี้เธอเรียนมาจากไหน? ห้ามพูดต่อหน้าคุณปู่คุณย่านะ”
“พี่ใสซื่อจริงๆ!”
เหมยเหมยยกนิ้วให้จ้าวเสวียหลินและแค่นเสียงหัวเราะเยาะใส่ ทำเอาจ้าวเสวียหลินโกรธจนแทบหงายหลังพลางกัดฟันมองเหมยเหมยที่เดินนำไปก่อน
ห้องรับแขกตระกูลจ้าวครึกครื้นดีจริง ๆ ไม่ได้มีเพียงหวงอวี้เหลียนกับโอหยางซานซานที่มา โอหยางเซี่ยงหมิงเองก็อยู่ด้วย ระดมคนมากันมากดีจริงๆ
โอหยางซานซานร้องไห้ซบอกคุณย่า คุณย่าปลอบเธอเสียงเบา เห็นเหมยเหมยที่เดินเข้าบ้านมาคุณย่าตะโกนด่ากราด “วันนี้เธอทำอะไรซานซาน? ทำไมเธอถึงกลายเป็นคนแบบนี้?”
คุณปู่กระแอมไอเสียงดังแล้วถลึงตาใส่ คุณย่าเลยได้แต่ระงับความโกรธไว้แต่ก็จ้องเหมยเหมยอย่างขุ่นเคือง
คุณย่าไม่เคยคิดเลยว่าหลานสาวของเธอจะทำตัวเหมือนอันธพาลแบบนั้น ทั้งเรื่องชกต่อยและแก้ผ้าคนอื่น…
ทำไมเมื่อก่อนเธอไม่เคยรู้พฤติกรรมเลวร้ายของหลานสาวเลยนะ!
“ทำไมเหม็นขนาดนี้? ปู่คะ หนูเพิ่งออกจากบ้านไปไม่ถึงสองวันทำไมถึงเหม็นเหมือนกองขยะแบบนี้ล่ะ?”
เหมยเหมยเพิ่งเหยียบเข้าประตูมาก็อุดจมูกไว้แล้วพูดเสียงดังเกินจริง ไม่รู้ว่าหวงอวี้เหลียนพรมน้ำหอมใส่ตัวโอหยางซานซานไปเท่าไร กลิ่นที่คลุกเคล้ากับน้ำสูตรวิเศษของฉิวฉิว ช่างเกินจะอธิบายจริงๆ
แต่คุณย่ากลับยังโอบโอหยางซานซานไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่นึกรังเกียจ ดูเหมือนจะเป็นรักที่แท้จริง!
……………………..
บทที่ 861 ไม่ไว้หน้า
คำพูดของเหมยเหมยได้ทำให้สีหน้าของโอหยางเซี่ยงหมิงเปลี่ยนไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บนตัวของลูกสาวตนนั้นถึงมีกลิ่นเหม็นชวนอ้วกขึ้นมากระทันหัน กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนเสียยิ่งกว่ากลิ่นกุ้งเน่าเหม็นและปลาตาย ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองยังทนกับกลิ่นนั้นไม่ได้
หวงอวี้เหยียนกัดฟันแน่นจนฟันแทบหักอย่างโกรธแค้น เป็นเพราะเธอประเมินยัยตัวดีจ้าวเหมยนี่ต่ำเกินไป!
เธอควรจะคิดคำนึงว่ายัยเด็กบ้าจ้าวเหมยนี่เคยคลุกตัวอยู่กับพวกชาวบ้าน ทำไมจะเล่นวิธีสกปรกแบบนี้ไม่ได้ล่ะ?
สงสารซานซานของเธอนัก ถูกยัยเด็กชั่วช้านั่นรังแกจนไม่มีแม้แต่หนทางที่จะเอาคืนได้
รวมทั้งชื่อเสียงของซานซาน เธอนั้นใช้เท้าเหยียบหัวนั่นยังพอเข้าใจได้ เรื่องที่ซานซานของเธอถูกขมขื่นไป ข่าวจะต้องถูกกระจายไปทั่วแล้วแน่ ต่อให้เทวดานางฟ้าลงมายังโลกมนุษย์ได้ก็คงห้ามไว้ไม่อยู่แล้ว
ยัยเด็กชั่วช้าจ้าวเหมยนี่ใช้วิธีการที่โหดร้ายทารุณแบบนี้ เธอต้องจงใจที่จะกำจัดซานซานของเธอเป็นแน่!
หวงอวี้เหลียนกลับลืมไปว่าเธอเองนั่นแหละที่เป็นคนเริ่มต้นที่จะกำจัดเหมยเหมยก่อน
ปล่อยให้ขุนนางวางเพลิงได้ แต่กลับไม่ยอมให้สามัญชนจุดตะเกียงงั้นหรือ?
“ไม่ไหว กลิ่นในห้องนี้เหม็นเกินไป คุณปู่มีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดเถอะค่ะ ห้องเหม็นๆแบบนี้หนูนั่งไม่ลงหรอก”
เหมยเหมยใช้มือพัดโบกไปมาไม่หยุด อิทธิฤทธิ์ของน้ำหอมธัญพืชทั้งห้าของฉิวฉิวนี่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อครู่เธอควรจะหยิบหน้ากากป้องกันพิษมาด้วย
สยงมู่มู่เองก็ปิดจมูกไว้ตลอด จากนั้นเขาตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ “คุณยายคงเป็นห่วงเป็นใยคนบ้านนี้มากสินะ พวกเราก้าวขาออกจากบ้านไปปุ๊บ ก็เรียกคนนอกเข้ามาในปั๊บเลย เหอะ ผมว่าใจทั้งหัวใจของคุณยายคงลอยไปอยู่ที่ตระกูลโอหยางแล้วมั้ง?”
คุณย่าจ้องตาเขม็งพร้อมกับจะอ้าปากจะสั่งสอนสยงมู่มู่ แต่คุณปู่ดันอ้าปากพูดขึ้นเสียก่อน ด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเกรงใจสักนิด “ฉันให้พวกเขาเข้ามาเอง จัดการเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจนแล้วค่อยไป ต่อไปนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขามาที่บ้านเราอีก”
“ตาแก่…”
คุณย่าส่งเสียงร้องอย่างไม่พอใจ คุณปู่จึงตีหน้านิ่งขรึม และพูดตำหนิอย่างดุดัน “ถ้าเธอทำใจไม่ได้ ก็ออกไปพร้อมกับพวกเขาซะ ให้พวกเขาเลี้ยงดูเธอจนแก่เฒ่าตายไปเลย แล้วไม่ต้องกลับมาที่บ้านหลังนี้อีก!”
หวงอวี้เหลียนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “ลุง…”
“ฉันไม่ใช่ลุงของเธอ แล้วเธอก็ไม่ต้องมาเรียกฉัน หวงอวี้เหลียนเธอทำอะไรไว้ ในใจเธอรู้ดี ยายแก่เลอะเลือน แต่ฉันไม่ได้เลอะเลือนด้วย วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะยอมให้เธอเข้ามาเหยียบบ้านได้ ต่อไปนี้หากว่าเธอและลูกสาวกล้าเหยียบเข้าประตูบ้านของฉันแม้แต่ครึ่งก้าว ใครเป็นคนให้เข้ามา คนนั้นก็ไสหัวออกไปพร้อมกันเลย!”
คุณปู่ดูถูกดูแคลนหวงอวี้เหลียนเป็นอย่างมาก นางผู้หญิงคนนี้กล้าที่จะลองดีกับตระกูลจ้าว ตัวเขาจำเป็นต้องไว้หน้าให้ด้วยหรือ?
รอยยิ้มบนใบหน้าของโอหยางเซี่ยงหมิงได้ปิดผนึกไปเป็นที่เรียบร้อย เขานึกไม่ถึงว่าคุณปู่จะกล้าพูดจาแบนี้ต่อหน้าเขา ไม่ไว้หน้าภรรยาเขาเลยแม้แต่น้อย แตกต่างจากที่หวงอวี้เหลียนพูดให้ฟังต่อหน้าเขาอย่างสิ้นเชิง
ปกติแล้วหวงอวี้เหลียนมักจะพูดเสมอว่าคุณปู่และคุณย่านั้นคิดว่าเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆ และซานซานก็เหมือนกับหลานสาวแท้ๆ ซึ่งเขาเองไม่ได้นึกสงสัยแต่อย่างใด และเป็นเพราะเหตุนี้เขาจึงใส่ใจต่อหวงอวี้เหลียนมากขึ้น
แต่ตอนนี้…
“ลุงจ้าว มีเรื่องอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่า? อวี้เหลียนเธอมองว่าลุงและอาสะใภ้เป็นเหมือนลุงป้าแท้ๆ มาตลอด” โอหยางเซี่ยงหมิงทำใจไม่ได้ที่จะตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลจ้าว พยายามที่จะทำให้ทุกอย่างกลับคืนมาเหมือนเดิม
คุณปู่พูดขึ้นเสียงนิ่ง “ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด เซี่ยงหมิงต่อไปนี้นายเองอย่าเอาแต่ทำงาน หัดใส่ใจเรื่องราวในบ้านเสียบ้าง ความจริงแล้วมีผู้หญิงบางคนขาดการอบรมสั่งสอน!”
หวงอวี้เหลียนหัวใจหล่นวูบ เธอคิดไม่ถึงว่าคุณปู่จะกล้าพูดคำหยาบคายและพูดจาโผงผางออกมาเช่นนี้ ซึ่งเธอรับรู้ได้ถึงลางร้าย
หรือว่าคนในตระกูลจ้าวจะรู้ว่าเธอเป็นคนปล่อยข่าวลือ?
ไม่…เป็นไปไม่ได้!
เธอเก็บเป็นความลับขนาดนั้น คนตระกูลจ้าวไม่มีทางรู้ได้ ต้องไม่ใช่เรื่องนี้แน่ จะต้องเป็นเพราะยัยเด็กชั่วจ้าวเหมยเป็นคนทำแน่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่!
“ลุงจ้าว เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยกัน เราพูดเรื่องของซานซานก่อนดีไหม ลุงดูแผลตามตัวของซานซานสิ ทั้งหมดเป็นเพราะเหมยเหมยทำ” หวงอวี้เหลียนพยุงซานซานให้ลุกขึ้น และชี้ไปยังร่องรอยบาดแผลบนใบหน้า
………………………………………
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น