ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 838-840

 บทที่ 838 ให้ความรู้สึกอีกแบบ

Ink Stone_Fantasy

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แตกต่างจากที่ราบลุ่มตอนเหนือของจีนคือ พื้นที่เพาะปลูกในแฮมิลตันนั้นเป็นระเบียบมาก แปลงเพาะปลูกแต่ละแปลงถูกแบ่งตามแถบสี่เหลี่ยม มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบราวกับช่องสี่เหลี่ยม


แฮมิลตันเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของรัฐออนแทรีโอ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม แต่ภาคการเกษตรกลับถูกทอดทิ้ง เพื่อรับประกันสถานการณ์การจ้างงานของคนในเมือง รัฐบาลท้องถิ่นจึงจำกัดการขายฟาร์มการเกษตร อนุญาตให้ชาวท้องถิ่นเท่านั้นที่สามารถซื้อได้ ดังนั้น ราคาของฟาร์มการเกษตรจึงค่อนข้างต่ำ


ในปีที่ผ่านมาสถานการณ์ของเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดี แฮมิลตันจึงตัดสินใจจะพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ และเริ่มให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร โดยมีนโยบายเปิดการซื้อขายฟาร์มแบบเสรีให้ผู้อพยพและคนที่อยู่ในรัฐอื่นๆ ในแคนาดา แต่การพัฒนาค่อนข้างช้า


พื้นที่การเกษตรในออนแทริโอนั้น โดยทั่วไปแล้วจะยึด 160 เอเคอร์เป็นหนึ่งหน่วย รัฐบาลจะออกใบรับรองอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละหน่วย การซื้อฟาร์มการเกษตรก็เหมือนกับการซื้อบ้าน นายหน้าและทนายความจะช่วยดำเนินขั้นตอนการโอนย้ายที่ดินที่องค์กรของรัฐ


หลังจากโอนย้ายแล้ว ผู้ซื้อถึงจะมีสิทธิ์ถาวรในการใช้ที่ดิน ถ้าเจ้าของเสียชีวิตเขาสามารถมอบให้ลูกชาย และลูกชายก็สามารถมอบให้กับหลานชาย สืบทอดกันไปจากรุ่นสู่รุ่น ในช่วงที่ถือครองสิทธิ์ ของทั้งหมดที่ขุดเจอ และของทุกชิ้นที่พบในบ้าน ล้วนแต่เป็นของเจ้าของ


เหมาเหว่ยหลงถือว่าเกือบจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้แล้ว เขาแนะนำนโยบายธัญพืชในท้องถิ่นให้ฉินสือโอวฟัง “สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ของแฮมิลตันจะต้องขายให้สำนักเกษตรท้องถิ่นเท่านั้น ส่วนพืชชนิดอื่นไม่สำคัญ ต้องการปลูกอะไรและต้องการขายให้ใครก็ตัดสินใจเองได้เลย”


เนื่องจากไม่ได้เข้ามาจากทางประตูหลัก ดังนั้นเมื่อข้ามรั้วไปแล้ว สิ่งที่ฉินสือโอวเห็นเป็นอันดับแรกก็คือโอเอซิส รอบๆ ฟาร์มมีป่าที่ประกอบไปด้วยต้นป็อปลาร์ ต้นสนและต้นเมเปิล


มีสายน้ำเล็กๆ อยู่ที่ริมป่า ร่องน้ำโค้งคดเคี้ยวไปมา ขณะที่ทั้งสองคนเดินไปถึง มีเป็ดป่าหลายตัวกระพือปีกและบินขึ้นไป


“ในปีนี้แฮมิลตันมีฝนตกอุดมสมบูรณ์มาก ดูนั่นสิ ฟ้ามืดครึ้มอีกแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีฝนตกหลายครั้งในเดือนตุลาคมเลยล่ะ แต่ขออย่าให้มีหิมะตกมากในฤดูหนาว การรับมือกับภัยพิบัติจากหิมะในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นเรื่องที่ลำบากมาก” เหมาเหว่ยหลงพูดขึ้นพร้อมกับมองดูท้องฟ้าที่มืดครึ้ม


พิทบูลน้อยสองตัวเดินตามมา พวกมันมุดเข้าไปในรั้วอย่างโง่เขลา แต่ว่าพวกมันอ้วนเกินไป จึงติดอยู่ในช่องว่างของรั้ว และส่งเสียงร้องอยู่ที่นั่นอย่างไม่มีทางเลือก


ฉินสือโอวไปดึงรั้วออก พิทบูลน้อยใช้ขาทั้งสี่เดินออกมา และนั่งลงข้างๆ ฉินสือโอวแล้วกัดขากางเกงของเขาเล่น


เมื่อผ่านป่าผืนเล็กๆ ไป สิ่งที่เตะตาฉินสือโอวไม่ใช่ไร่นาและพืชผลที่อุดมสมบูรณ์ แต่เป็นทุ่งหญ้าที่เขียวขจี


ดูเหมือนว่าตัวเองกำลังอยู่ในทุ่งหญ้า ทุ่งหญ้าราบเรียบสีเขียวอันกว้างใหญ่ นอกจากทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่กลางทุ่งแล้ว พื้นที่ที่เหลือก็เป็นทุ่งหญ้าทั้งหมด และยังมีแพะฝูงหนึ่งที่เดินช้าๆ อยู่บนทุ่งหญ้า เงียบสงบและสวยงามมาก


“สายน้ำ ใต้ภูเขา ท้องฟ้าราวกับกระโจมหลังคาบ้านของชาวมองโกล ดั่งกรงที่ครอบอยู่บนทุ่งหญ้าอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้ากว้างใหญ่ไพศาลจนหาที่สุดมิได้ ทุ่งหญ้าอันกว้างไกลไร้ขอบเขต ยามลมพัดโชยมา ต้นหญ้าก็พร้อมกันลู่ตามลม ทำให้ได้เห็นฝูงวัวและแพะ!” ฉินสือโอวอดที่จะรู้สึกตื้นตันใจไม่ได้


เหมาเหว่ยหลงมองเขาด้วยรอยยิ้มจางๆ และพูดว่า “ว่ายังไงล่ะ รู้สึกว่าฟาร์มการเกษตรแห่งนี้สวยงามมากเลยใช่ไหม?”


ฉินสือโอวพูดว่า “มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ ดีกว่าฟาร์มของนายเสียอีก ทำไมนายถึงพูดว่าดินในฟาร์มนี้กลายเป็นดินเสียไปหมดแล้วล่ะ”


เหมาเหว่ยหลงชี้ไปที่ฉินสือโอวและพูดว่า “เจ้าหนู ไม่รู้เรื่องเลยล่ะสิ? ฉันเรียกที่นี่ว่าอะไรมาโดยตลอดล่ะ? ฟาร์มการเกษตร! แต่นายดูสิ ในนี้ไม่มีไร่นา ถ้าไม่มีไร่นาจะเรียกว่าฟาร์มการเกษตรได้ยังไง? ทนายความคนนั้นเจ้าเล่ห์มาก เขารู้ว่าพื้นดินของเขาไม่สามารถปลูกพืชพันธุ์ได้แล้ว จึงปลูกหญ้าเหล่านี้ที่ไม่ต้องการสารอาหารอะไรมากมาย สิ่งนี้แม้จะดูสวยงามมากแต่มันไม่มีประโยชน์เลย!”


“ถ้าอย่างนั้นก็เปลี่ยนเป็นไร่ปศุสัตว์ก็ไม่เลวเหมือนกัน” ฉินสือโอวกล่าว


เหมาเหว่ยหลงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ใช่ ถ้าเปลี่ยนเป็นไร่ปศุสัตว์ได้ก็ไม่เลว แต่ปัญหาคือไม่สามารถทำเป็นไร่ปศุสัตว์ได้น่ะสิ! หญ้าพวกนี้ไม่ใช่หญ้าพืชอาหารสัตว์ นายคิดว่าหญ้าพืชอาหารสัตว์ไม่ได้ต้องการพื้นผิวดินที่มีคุณภาพสูงหรอกเหรอ? มันต้องการพื้นผิวดินที่มีคุณภาพดีกว่าเลยล่ะ! หญ้าที่เห็นอยู่ในตอนนี้ดูสวยงามก็จริง แต่ความจริงแล้วมันไม่มีคุณค่าทางโภชนาการเท่าไร ถ้าเลี้ยงวัวและแพะที่นี่ ก็เตรียมตัวขาดทุนเถอะ”


ฉินสือโอวชี้ไปที่แพะดำฝูงหนึ่งที่อยู่ในระยะที่ไกลออกไปแล้วหัวเราะ เหมาเหว่ยหลงเองก็หัวเราะแล้วพูดว่า “นั่นคือแพะป่า เจ้าสิ่งนี้ในออนแทรีโอมีจำนวนมากจนน่ากลัว เหมือนหมูป่าที่บ้านแกนั่นแหละ พวกมันกินทุกอย่างจริงๆ แต่เติบโตช้า ยังไงก็ไม่ควรเลี้ยงเจ้าพวกนี้เพื่อเก็งกำไรใช่ไหมล่ะ?”


เมื่อได้ยินที่เขาพูด ฉินสือโอวก็รู้สึกสนใจขึ้นมา เขาพูดว่า “ที่นี่แพะป่าเยอะจนน่ากลัวเลยเหรอ?”


เหมาเหว่ยหลงพยักหน้าและตอบว่า “ใช่ เยอะมากจริงๆ ให้ตายเถอะ ตอนแรกฉันรู้สึกว่าแคนาดามีการคุ้มครองรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดี แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะพวกเขาไม่มีเวลาต่างหากล่ะ แพะป่าพวกนี้มีความสามารถในการสืบพันธุ์สูงและกินอยู่ง่าย จึงจัดการได้ยาก”


ทั้งสองคนเดินไปคุยไป พวกเขาเดินเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง จนใกล้จะถึงวิลล่าที่อยู่ข้างๆ ทะเลสาบ


ประตูไม่ได้ล็อกเอาไว้ ดูเหมือนว่าเจ้าของจะไม่กลัวโจรขึ้นบ้านเลยสักนิด ฉินสือโอวเดินเข้าไปดู วิลล่าที่นี่แตกต่างจากที่ฟาร์มปลา มันไม่ได้สร้างจากไม้ทั้งหลัง แต่เป็นวิลล่าที่สร้างจากหินที่สามารถพบได้ทั่วไปในอเมริกาเหนือ


มีไม้เลื้อยบนผนังด้านหลังบ้าน เพราะแฮมิลตันมีความชื้นทางอากาศสูง ทำให้ฐานชั้นล่างเต็มไปด้วยมอสส์


ไม่มีคนมาทำความสะอาดสักพักแล้ว วัชพืชจึงขึ้นเต็มรอบๆ บ้าน เมื่อพวกเขาเดินเข้าไป ทำให้กระต่ายสีเทาสองสามตัวตกใจและโผล่ออกมาจากพุ่มหญ้า


ในเวลาว่างเหมาเหว่ยหลงจะสอนพิทบูลน้อยไล่กระต่ายป่า ทันทีที่เห็นกระต่ายป่าเหล่านี้ พิทบูลน้อยสองตัวก็วิ่งเข้าไป และส่งเสียง ‘โฮ่ง โฮ่ง’ อย่างนุ่มนวล แลดูเหมือนจะน่ากลัว แต่ความจริงแล้วกระต่ายป่าไม่กลัวเลยสักนิด


ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทนายความลากร็องฌ์จะซื้อฟาร์มการเกษตรแห่งนี้ เมื่อเทียบกับมาเธอร์เอิร์ธแล้ว ฟาร์มแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีเนื้อที่กว้างกว่าเท่านั้น สิ่งก่อสร้างที่อยู่ข้างในก็ประณีตมากกว่าเหมือนกัน


แม้ว่าจะไม่มีคนมาดูแลมาเป็นเวลานาน แต่วิลล่าก็ยังคงเต็มไปด้วยความหรูหราโอ่อ่า งานแกะสลักทางศาสนาบนผนังหินอ่อนด้านนอกนั้นชัดเจนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ หินที่ใช้ดูแข็งแรงทนทานมาก หลังจากที่ฉินสือโอวเดินเข้าไปดูในวิลล่าแล้วก็รู้สึกว่าพื้นหินเรียบเนียนราวกับน้ำแข็ง


วิลล่าถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้สีขาว รั้วไม้ขนาดเล็กมีความสูงเพียงแค่ระดับของเอวคนเท่านั้น รั้วไม้ทาด้วยสีที่ละเอียด และมีว่านผักบุ้งเลื้อยอยู่ข้างบน ช่วยเพิ่มความโรแมนติกเล็กน้อย


เหมาเหว่ยหลงนั่งลงตรงบันได ยื่นมือออกไปดึงวัชพืชออกและกำดินขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วพูดว่า “แฮมิลตันไม่มีดินดำมากเท่าไร โดยทั่วไปแล้วธาตุอาหารในดินก็ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดูแลรักษา ไม่อย่างนั้นอีกไม่กี่ปีก็จะเป็นเหมือนฟาร์มการเกษตรแห่งนี้ ที่ปลูกได้แค่วัชพืชเท่านั้น”


วิลล่าหันหน้าไปทางทะเลสาบ หลังบ้านเป็นสนามหญ้า ในสนามหญ้าปลูกต้นผลไม้ไว้นับสิบต้น มีต้นแพร์ ต้นพีช ต้นแอปเปิลและต้นพลัมเป็นต้น ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของชนบท


มีแม่น้ำสายเล็กๆ หลายสายภายในฟาร์ม รวมถึงแม่น้ำสายที่อยู่ริมป่าก่อนหน้านี้ด้วย และท้ายที่สุดก็ได้ไหลมารวมกันในทะเลสาบแห่งนี้ เป็ดป่าและนกป่าบางตัวหยอกล้อกันบนผิวน้ำอย่างมีความสุข พวกมันส่งเสียงร้อง ‘กากา’ ออกมาเป็นครั้งคราว ทำให้ฟาร์มที่เงียบสงบดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา


เมื่อเดินผ่านสวนหลังวิลล่าอีกประมาณสองร้อยเมตรข้างหน้า จะมีคอกวัวที่สูงและกว้างขวางหลายแห่ง เดินผ่านคอกวัวไปก็เป็นโกดังและโรงเก็บอุปกรณ์เครื่องมือที่สร้างจากเหล็กวิลาด


ประตูทุกบานไม่ได้ล็อก เพราะเครื่องมือและเฟอร์นิเจอร์ข้างในถูกขายไปนานแล้ว ทนายคนนี้ร้ายกาจไม่น้อย ไม่คิดว่าเขาจะกวาดฟาร์มแห่งนี้จนหมดจดอย่างนี้ ถือว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งเลยล่ะ!


บทที่ 839 เต่าน้อยฟักออกมาแล้ว

Ink Stone_Fantasy

หลังจากเดินภายในฟาร์มเป็นเวลาหลายชั่วโมง ฉินสือโอวเดินออกจากฟาร์มไปอย่างอาลัยอาวรณ์ เมื่อเทียบกับฟาร์มปลาแล้ว ฟาร์มการเกษตรนั้นให้ความรู้สึกอีกแบบ สำหรับเขาที่เป็นเด็กชนบทแล้ว ฟาร์มการเกษตรน่าดึงดูดมากกว่า


เหมาเหว่ยหลงรู้แล้วว่าเขากำลังคิดอะไร จึงพูดเกลี้ยกล่อมว่า “ถ้าแกอยากจะซื้อฟาร์มการเกษตร ฉันก็เห็นด้วย แต่แกอย่าซื้อฟาร์มนี้เลย ฉันยินดีที่จะเป็นเพื่อนบ้านแก แต่ไม่อยากเห็นแกถูกเอาเปรียบ”


คนที่มาร่วมงานแต่งงานกลับไปกันหมดแล้ว ส่วนพ่อเหมาก็มีคดีที่รอให้กลับไปจัดการ จึงกลับไปก่อน และให้แม่เหมาอยู่เป็นเพื่อนลูกชาย ดังนั้น จึงเหลือคนอยู่ไม่มาก สำหรับอาหารค่ำ ฉินสือโอวรู้สึกว่าการทำอาหารเองนั้นค่อนข้างยุ่งยาก ไม่คุ้มค่า สู้เข้าไปกินในเมืองไม่ได้


ใจกลางเมืองห่างจากฟาร์มมาเธอร์เอิร์ธแค่สิบห้านาทีในการเดินทางโดยรถยนต์ ซึ่งมีระยะทางเท่ากับเมืองแฟร์เวล ที่นั่นเป็นเมืองขนาดเล็ก ขับรถจากฝั่งตะวันออกไปทางฝั่งตะวันตก แทบจะไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ไม่อย่างนั้นก็อาจจะขับเลยไปได้


เหมาเหว่ยหลงยิ้มและพูดว่า “พลเมืองทั้งหมดมีแค่ 400 คน แกอยากให้เมืองนี้ใหญ่แค่ไหนล่ะ?”


เมืองเล็กๆ ก็มีข้อดีของมัน นั่นก็คือผู้คนจะสนิทสนมกันมากกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นทุกคนก็จะรู้ได้ในทันที


หลังจากเหมาเหว่ยหลงลงจากรถ ผู้คนที่เห็นเขาต่างก็ทักทายเขา อวยพรให้เขามีความสุขในวันแต่งงาน มีเจ้าของร้านขายของชำคนหนึ่งมอบตุ๊กตาพลาสติกคู่หนึ่งให้เขาเป็นของขวัญ ของขวัญชิ้นนั้นราคาไม่แพง แต่ทำให้คนรับรู้สึกอบอุ่นหัวใจ


“บรรยากาศในเมืองเล็กๆ นี้ไม่เลวเลย” ฉินสือโอวกล่าว ดีกว่าเมืองแฟร์เวลเล็กน้อย


เหมาเหว่ยหลงยิ้มและพูดอย่างพอใจว่า “ดีมากเลยล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ลากร็องฌ์ไปจากที่นี่แล้ว ทุกคนก็เข้ากันได้ดีกว่าเดิม”


เมืองฟาร์มการเกษตรลักษณะนี้เป็นเหมือนอาณาจักรอิสระเล็กๆ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่มีทุกอย่างครบครัน ในเมืองมีปั๊มน้ำมัน ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของชำและร้านขายพืชผล และแน่นอนว่าธนาคาร ไปรษณีย์และโรงเรียนก็มีไม่น้อย


ถนนสายหลักสายหนึ่งแบ่งเมืองออกเป็นสองส่วน สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของขนาดเล็ก สินค้าส่วนใหญ่มีจำนวนไม่มาก แต่ก็เพียงพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันของผู้คนในเมืองแห่งนี้


คล้ายเกาะแฟร์เวลในอดีตมาก ในเมืองมีแค่ร้านอาหารสองแห่งและร้านขนมหวานหนึ่งแห่ง ตอนที่ฉินสือโอวมาใหม่ๆ ที่เกาะแฟร์เวลก็มีลักษณะอย่างนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นแล้ว นักท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาตลาด บนเกาะมีร้านอาหารอย่างน้อยก็ 20 แห่ง


เหมาเหว่ยหลงพาฉินสือโอวไปที่ร้านอาหารเล็กๆ ร้านหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘เทกซัสสไตล์’ ได้เวลารับประทานอาหารพอดี แต่มีคนไม่มากเท่าไร ในร้านอาหารเงียบมาก พวกลูกค้าต่างก็พูดคุยกันด้วยเสียงเบา


ฉินสือโอวชอบบรรยากาศแบบนี้มาก หลังจากนั่งลงหญิงชราคนหนึ่งก็เดินมารับรายการสั่งอาหาร เมื่อเห็นหลิวซูเหยียนก็กอดเธออย่างอบอุ่นหนึ่งครั้ง และพูดว่า “เป็นสาวน้อยที่น่ารักจริงๆ ยินดีกับหนูที่แต่งงานนะ วันนี้น้าจะทำทาร์ตไข่แห่งความสุขให้หนูทาน หนูอย่าปฏิเสธเชียวล่ะ”


หลิวซูเหยียนเม้มริมฝีปากและยิ้มแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ น้าเดรย์ริล หนูไม่มีทางปฏิเสธของขวัญของคุณน้าค่ะ เพื่อนชาวจีนของหนูนำชาดำมาฝากหนูพอดี กระเพาะของคุณน้าไม่ค่อยดีใช่ไหมคะ? ถ้าอย่างนั้นคุณน้าดื่มน้ำชานี้สักหน่อยในตอนบ่าย  มันดีต่อสุขภาพค่ะ”


พูดจบ เธอก็หยิบชากล่องหนึ่งที่มีบรรจุภัณฑ์สวยงามจากกระเป๋าและมอบให้แก่หญิงชรา หญิงชรายิ้มตาหยีอย่างดีอกดีใจ จากนั้นก็นำทาร์ตไข่สีเหลืองทองที่มีกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทุกสารทิศมาเสิร์ฟ และยังมีน้ำแอปเปิลด้วย พร้อมกับบอกว่าเป็นของขวัญสำหรับเหมาเหว่ยหลงและหลิวซูเหยียน


ชาวแคนาดาให้ความสำคัญกับการปฏิบัติต่อกันและกันมากเหมือนกัน ทุกคนในเมืองนี้ใจดีและมีน้ำใจอย่างนี้ทุกคนไหม? แน่นอนว่าไม่ นี่เป็นผลจากการทำงานอย่างหนักของเหมาเหว่ยหลงและหลิวซูเหยียนในช่วงที่ผ่านมา พวกเขามอบมิตรภาพของตัวเองให้ทุกคน จึงได้รับมิตรภาพจากคนเหล่านี้


ไม่มีความกรุณาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และไม่มีความอาฆาตพยาบาทที่ถาวร ถ้าให้ด้วยใจ ก็จะได้รับมิตรภาพกลับคืนมา


ฉินสือโอวพักที่ฟาร์มการเกษตรอีกหนึ่งคืน จากนั้นก็กลับไปที่ฟาร์มปลา เดิมทีเขาอยากอยู่ต่ออีกสองวัน แล้วกลับประเทศจีนกับพ่อแม่ จากนั้นก็จะไปร่วมงานแต่งงานของซ่งจวินเหมยและเยียนเฟยในวันชาติ


แต่เออร์บักที่กลับไปที่ฟาร์มปลาก่อนแล้วโทรศัพท์หาเขา บอกว่ามีคนมาหา และให้เขากลับไป


ฉินสือโอวกลับไปถึงฟาร์มปลา เห็นว่าคนที่กำลังรอเขาคือพาลี ลาร์ค นายกเทศมนตรีของเมืองกาบีลาของเกาะไอซ์ไฟเออร์


“เฮ้ เพื่อน ลมอะไรพัดคุณมาที่ฟาร์มปลาของผม? การเยี่ยมชมที่นี่ในครั้งก่อนเป็นยังไง? ได้ความคิดใหม่ๆ ไหม?” ฉินสือโอวพูดอย่างกระตือรือร้น


เมื่อเทียบกับใบหน้าบึ้งตึงในตอนนั้น พาลีในตอนนี้อารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย เขาพูดในแง่ดีว่า “ไม่เลว ฉิน เมืองของผมในช่วงนี้ไม่เลวเลย เพื่อนของพวกคุณไปเปิดร้านเบเกอรี่ในเมืองของเรา มีเพื่อนอีกคนที่กำลังสร้างบ่อนพนัน ถ้าสร้างสำเร็จ เมืองก็จะสามารถอยู่รอดต่อไปได้”


ฉินสือโอวบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ จากนั้นก็ถามถึงจุดประสงค์ที่เขามาในครั้งนี้


พาลีมาพร้อมกับชาวประมงชราที่มีสุขภาพแข็งแรงคนหนึ่ง ข้างๆ ชาวประมงชรามีกระเป๋าหนังใบใหญ่ใบหนึ่งวางอยู่ เขาเดินไปเปิดดู เผยให้เห็นมีดสั้นเป็นเล่มๆ ที่เปล่งแสงหลากสี ใบมีดคม ฝีมือประณีต


ฉินสือโอวกะพริบตา และไม่เข้าใจว่าหมายความว่ายังไง


พาลียิ้มและพูดว่า “คือว่า เราต้องการเปิดร้านหัตถกรรมในเมืองของพวกคุณ ไว้สำหรับขายของที่ผลิตในเกาะของเราโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่นมีดสั้นที่ทำมาจากฟันฉลามเหล่านี้ น่าจะเก็งกำไรได้ไม่น้อย”


ฉินสือโอวรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ไม่เลวจริงๆ มีดสั้นเหล่านี้ถือเป็นงานฝีมือ น่าจะเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว แม้แต่เขาเองก็ยังอยากจะซื้อมาประดับวิลล่าสักเล่มสองเล่ม


แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขายังไงล่ะ?


พาลีอธิบายว่า “ผู้ว่าการของพวกคุณกำลังอยู่ในระหว่างการส่งมอบตำแหน่งนายกเทศมนตรี แต่รองผู้ว่าของพวกคุณไม่มีอำนาจและความสามารถมากพอ ดังนั้น ถ้าต้องการมาเปิดตลาดที่นี่ ผมคงต้องให้คุณช่วย ”


ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “มีอะไรให้ช่วยเหรอ? เรามีสุภาษิตจีนที่ว่า สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก คุณไปเช่าบ้านเคลื่อนที่สักหลัง จากนั้นก็ไปขายตามทาง ธุรกิจต้องไปได้ดีแน่นอน!”


บ้านเคลื่อนที่เป็นบ้านที่สามารถลากไปไหนต่อไหนได้เหมือนรถเสบียง แต่แน่นอนว่าต้องกว้างกว่ามาก และเพียงพอสำหรับใช้ในการขายงานฝีมือ


ฉินสือโอวให้พาลีอยู่กินข้าวที่ฟาร์มปลา จากนั้นก็โทรศัพท์หาฮิวจ์ ให้เขาช่วยหาตำแหน่งที่ตั้งทำเลดีๆ ให้พาลี เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น


หลังจากจัดการกับเรื่องนี้ ฉินสือโอวก็มีเวลาว่างแล้ว จากนั้นเขาได้รับข้อความจากพวกชาวประมงว่า ‘ไข่ของเต่ามะเฟืองเริ่มฟักตัวแล้ว!’


เมื่อได้รับข่าวนี้ ฉินสือโอวรีบวิ่งไปเฝ้าดูที่ริมหาด


เนื่องจากเพศของเต่ามะเฟืองนั้นสัมพันธ์กับอุณหภูมิในการฟักตัว ฉินสือโอวจงใจติดตั้งเครื่องทำความร้อนไฟฟ้าบนชายหาดก่อนหน้านี้ เครื่องนี้จะเพิ่มความร้อนให้ชายหาดตลอด 24 ชั่วโมง อุณหภูมิคงที่ที่ประมาณ 30 องศา


ฉินสือโอวเคยปรึกษากับองค์กรคุ้มครองสัตว์ป่า ภายในช่วงอุณหภูมิของการฟักตัว อุณหภูมิยิ่งสูงมากเท่าไร การพัฒนาของตัวอ่อนก็จะยิ่งเร็วมากขึ้นเท่านั้น และใช้เวลาในการฟักตัวสั้นลง ตรงกันข้าม อุณหภูมิยิ่งต่ำมากเท่าไร การพัฒนาของตัวอ่อนก็จะยิ่งช้าลงเท่านั้น และใช้เวลาในการฟักตัวนานขึ้น


สำหรับอุณหภูมิการฟักตัวของเต่ามะเฟืองนั้น เมื่ออุณหภูมิอยู่ระหว่าง 23–27 องศา ตัวอ่อนส่วนใหญ่จะเป็นเพศผู้ และเมื่ออุณหภูมิอยู่ระหว่าง 30–35 องศา ตัวอ่อนส่วนใหญ่จะเป็นเพศเมีย


ถ้าต้องการขยายพันธุ์เต่ามะเฟือง แน่นอนว่าต้องการเพศเมีย ดังนั้นฉินสือโอวจึงควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 30 องศา


อุณหภูมินี้ยังเหมาะสำหรับการฟักตัวของเต่ามาก เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ ไข่เต่าเหล่านี้จะใช้เวลาในการฟักตัวน้อยลงหนึ่งเดือน เนื่องจากฉินสือโอวได้เติมพลังโพไซดอนให้กับแม่เต่าก่อนหน้านี้ด้วย ทำให้อัตราการฟักตัวสูงมาก และลูกเต่าเองก็แข็งแรงมาก


เต่ามะเฟืองน้อยที่เพิ่งฟักออกมานั้นมีขนาดเท่าฝ่ามือของทารกเท่านั้น หลังจากที่กระดองสีดำสนิทมุดออกมาจากทราย พวกมันเงยหน้ามองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง หลังจากไม่รู้สึกถึงอันตรายใดๆ ก็จะขยับขาสั้นๆ ของพวกมันตรงไปยังทะเล


พวกมันเคลื่อนที่เร็วมาก!


บทที่ 840 ‘ความประทับใจ’ และ ‘ความกล้า’

Ink Stone_Fantasy

เต่ามะเฟืองมีสัมผัสที่หกที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งก็คือ ทันทีที่ลูกเต่าฟักออกมา ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ห่างกันไกลกันแค่ไหน พวกมันก็จะหาทางไปที่มหาสมุทรด้วยเส้นทางที่ใกล้ที่สุด


นักชีววิทยาทางทะเลเคยพยายามศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ รู้แค่ว่ามันเกี่ยวข้องกับแม่เต่า นั่นก็คือ เต่ามะเฟืองตัวเมียสามารถว่ายน้ำในมหาสมุทรเป็นระยะทางหลายพันไมล์โดยว่ายเป็นเส้นตรง ซึ่งเต่าตัวผู้ไม่สามารถทำได้


สัญชาตญาณนี้ของเต่ามะเฟืองตัวเมียเป็นทักษะไบโอนิกส์ที่มีประโยชน์มากสำหรับมนุษย์ ถ้าสามารถศึกษาจนรู้ผลลัพธ์ จะสามารถทำให้เรือไปถึงจุดหมายในระยะทางที่สั้นที่สุด โดยใช้เวลาและต้นทุนที่ต่ำที่สุด


แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถหาคำตอบได้ในตอนนี้ มันยังคงเป็นปริศนา โดยทั่วไปนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอาจเป็นเพราะพวกมันสามารถหาตำแหน่งที่ตั้งของดวงอาทิตย์และดวงดาวได้ หรือใช้คุณสมบัติของสนามแม่เหล็กโลกเพื่อทำการนำทางแบบเส้นตรง


อย่างไรก็ตาม ฉินสือโอวเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า เหมือนว่าฝนกำลังจะตก ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดวงอาทิตย์ และแน่นอนว่าในตอนนี้ไม่มีดวงจันทร์และดวงดาว…


หลังจากที่เต่าน้อยตัวแรกลงสู่ทะเล ฝูงเต่าที่อยู่รอบๆ ก็คลานขึ้นมาบนชายหาด ลุงนิโคลัส กูสกำลังเต้นบิดตัวไปมาอยู่ที่นั่น ท่าทางตลก แต่สายตาเคร่งขรึม


สำหรับสัตว์ป่าแล้ว การสืบพันธุ์ของเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องใหญ่


พฤติกรรมผู้พิทักษ์ของมาสเตอร์ในช่วงนี้ทำให้ได้รับมิตรภาพจากพวกเต่ามะเฟือง ขณะที่เต่าตัวหนึ่งคลานขึ้นมาจากทะเลในปากของมันคาบแมงกะพรุนมาด้วย จากนั้นมันก็นำไปวางไว้ตรงหน้ามาสเตอร์


แต่ไม่ใช่เต่าทุกตัวที่ชอบกินแมงกะพรุน มาสเตอร์มองสิ่งโปร่งแสงนี้แล้วชะงักไป ดวงตาสีดำเล็กๆ กะพริบอย่างรวดเร็ว แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มกินยังไง


หู่จือและเป้าจือเห็นว่ามาสเตอร์ไม่กิน ก็เข้าไปใช้จมูกแหย่แมงกะพรุนเล่น แต่ทันทีที่สัมผัสแมงกะพรุน พวกมันก็ส่งเสียงร้อง ‘เอ๋ง เอ๋ง’


ฉินสือโอวตกใจ เขาตะโกนว่า “กลับมา รีบกลับมาเร็วเข้า!”


ในขณะที่ตะโกนเขาก็วิ่งเข้าไปหา แมงกะพรุนส่วนใหญ่มีพิษ แม้มันจะตายไปแล้วก็ไม่ควรไปแตะ นับประสาอะไรกับแมงกะพรุนตัวนี้ที่เต่ามะเฟืองเพิ่งคาบขึ้นมา คาดว่ามันน่าจะยังไม่ตาย


หู่จือและเป้าจือวิ่งมาพร้อมส่งเสียงร้องโหยหวน ปากของเด็กน้อยทั้งสองบวมขึ้น เริ่มแรกบวมแค่เล็กน้อย แต่หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ริมฝีปากด้านข้างก็บวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


ฉินสือโอวตกใจมาก ชาร์ควิ่งมาหาเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเขา หลังจากที่รู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว เขาก็เดินไปดูแมงกะพรุนตัวนั้น จากนั้นก็พูดอย่างจนปัญญาว่า “ขอโทษครับ บอส ผมไม่รู้จักมัน เดี๋ยวผมจะเรียกคนอื่นๆ มา…แต่ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะมันไม่ใช่แมงกะพรุนกล่อง”


แมงกะพรุนกล่องมีฉายาว่าต่อทะเล เป็นสัตว์ที่อันตรายมาก มันมีหนวดจำนวน 60 เส้นที่มีความยาวเส้นละ 3 เมตร หนวดแต่ละเส้นเต็มไปด้วยกระเปาะที่ภายในมีสารพิษบรรจุอยู่ ซึ่งนับเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก


ฉินสือโอวเคยอ่านมาว่าสารพิษที่บรรจุอยู่ภายในกระเปาะของแมงกะพรุนมีพิษร้ายแรงกว่างูเห่า นิวโรทอกซินในพิษของมันสามารถทำให้คนตายได้ภายใน 30 วินาที!


หู่จือและเป้าจือถูกพิษมาพักหนึ่งแล้ว แต่ยังสามารถกระโดดโลดเต้นและยังมีอารมณ์เข้าไปอ้อนฉินสือโอว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่พิษที่น่ากลัว แต่ฉินสือโอวกลัวว่าจะมีปัญหาอื่นตามมา จึงพาพวกมันไปที่ริมทะเล ให้พวกมันลงไปในน้ำแล้วเติมพลังโพไซดอนให้พวกมัน


ชาร์คถามว่าให้สุนัขลงไปในน้ำทำไม ฉินสือโอวบอกเหตุผลไปว่า เพื่อล้างปากให้พวกมัน


ฉินสือโอวไม่รู้ว่าพลังโพไซดอนสามารถรักษาได้ทุกโรคหรือไม่ แต่มันมีประโยชน์มากสำหรับสารพิษที่ปล่อยออกมาจากแมงกะพรุนชนิดนี้ อาการบวมบนปากของหู่จือและเป้าจือเริ่มคลายลง แม้แต่สภาพจิตใจก็ดีขึ้นเหมือนกัน


ฉินสือโอวมองแมงกะพรุนบนชายหาดด้วยความหวาดผวา ลำตัวของมันโปร่งแสง ส่วนที่เป็นเมดูซามีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 20 เซนติเมตร ใต้เมดูซาเต็มไปด้วยหนวด ซึ่งดูน่ากลัวมาก


หนวดเหล่านี้เป็นอวัยวะย่อยอาหารของแมงกะพรุน ในขณะเดียวกันก็เป็นอาวุธของมันด้วย บนหนวดเต็มไปด้วยกระเปาะเข็มพิษ ซึ่งเป็นเหมือนกับไหมพิษที่สามารถพ่นพิษออกมาได้


เมื่อครู่หู่จือและเป้าจือผู้โชคร้ายก็ถูกหลอกด้วยวิธีนี้ แต่โชคดีที่แมงกะพรุนตัวนี้ไม่อันตรายถึงตาย พิษเพียงแค่ทำให้ผิวหนังบวมขึ้นแต่ไม่ได้เน่าเปื่อย ซึ่งถือเป็นความโชคดีในความโชคร้าย


ชาร์คถามว่าให้ฝังแมงกะพรุนไหม โดยปกติเมื่อพบแมงกะพรุนที่ไม่รู้จัก จะฝังในทราย เพื่อให้มันตายอย่างรวดเร็วและย่อยสลายไป เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บ


ฉินสือโอวบอกว่าไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนั้น เขาลากลุงกูสมา ลุงกูสยื่นหัวออกมา และเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย


เต่าตัวน้อยทยอยมุดเข้าไปในน้ำ เต่าตัวเมียและเต่าตัวใหญ่นำพวกมันขึ้นไปอยู่บนตัว เต่าน้อยในช่วงอายุนี้มีความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ พวกมันมีแขนขาแบนและกว้าง สามารถเกาะติดกับกระดองของผู้อาวุโสกว่าราวกับเป็นยางที่เหนียวหนึบ


วินนี่เศร้าเล็กน้อยและพูดว่า “เมื่อเต่าน้อยฟักออกมาหมดแล้ว พวกมันก็จะไปจากที่นี่ใช่ไหมคะ? ไปใช้ชีวิตช่วงฤดูหนาวแถวเส้นศูนย์สูตรหรือไม่ก็ซีกโลกใต้ใช่ไหมคะ?”


ฉินสือโอวกอดเธอและพูดปลอบโยนว่า “ไม่เป็นไรนะ ที่รัก พวกมันจะกลับมาใหม่ภายในปีหน้าไม่ใช่เหรอ? หลังจากที่เต่ามะเฟืองเลือกสถานที่วางไข่แล้ว ตราบใดที่พวกมันไม่เจอวิกฤติการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พวกมันจะจดจำสถานที่แห่งนี้”


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการของการตั้งครรภ์หรือไม่ ช่วงนี้วินนี่อ่อนไหวง่าย หลังจากที่ฉินสือโอวปลอบโยนเธอแล้ว เธอก็ยังคงรู้สึกโศกเศร้า “แต่ถ้าพวกมันไปจากฟาร์มปลา พวกมันจะกินถุงพลาสติกในระหว่างทางไหม?”


ฉินสือโอวเห็นว่าถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่เป็นผลดีแน่นอน วินนี่กำลังจะเป็นโรคโฟเบียแล้ว ทะเลเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความอันตราย อย่าว่าแต่เต่ามะเฟืองเลย แม้แต่หมึกยักษ์ถ้าว่ายในเจ็ดคาบมหาสมุทรครึ่งรอบก็เกือบไม่รอดเหมือนกัน


ถ้าวินนี่ยังคงคิดอย่างนี้ต่อไป เธอต้องรู้สึกกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นแน่ ดังนั้น ฉินสือโอวจึงผิวปากหนึ่งครั้ง หู่จือและเป้าจือรีบวิ่งมาขอความเห็นใจ


ปากของพวกมันหายบวมเล็กน้อย แต่ดูแล้ว ก็ยังบวมมาก…


เมื่อเทียบกับเต่ามะเฟือง แลบราดอร์ต่างหากที่เป็นลูกรัก วินนี่รีบกอดพวกมันไว้และพูดปลอบโยน แลบราดอร์ร้องเสียงเบา ทำให้วินนี่รู้สึกสงสารพวกมันมาก จะให้เอาเวลาที่ไหนไปสนใจเต่ามะเฟืองอีกล่ะ?


พวกเต่ามะเฟืองกำลังจะไปจากที่นี่ ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอน ตรวจสอบจำนวนแมงกะพรุนในน่านน้ำใกล้ๆ แมงกะพรุนพวกนี้มีพิษจริงๆ ไม่ควรประมาทเลินเล่อ


พวกเต่ามะเฟืองทำตัวเป็นเด็กดี ก่อนจะจากไปพวกมันได้จัดการกับแมงกะพรุนทั้งหมดที่ค้นเจอ ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกสบายใจมากขึ้น


ในฟาร์มปลาไม่มีปัญหาอะไร ฉินสือโอวจึงพาพ่อแม่และคนในครอบครัวนั่งเครื่องบินกลับบ้าน กลับไปฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่บ้าน และไปร่วมงานแต่งงานของซ่งจวินเหมยและเยียนเฟยด้วย


ครั้งนี้กลับไปกันหลายคน รวมครอบครัวของเหมาเหว่ยหลงด้วย แน่นอนว่าเหมาลำเหมาะสมกว่า หลังจากที่เครื่องบินขนาดใหญ่ลงจอดที่สนามบินนานาชาติปักกิ่ง เหมาเหว่ยหลงเชิญครอบครัวของฉินสือโอวไปกินข้าวที่บ้านก่อน พวกเขาจึงเดินออกจากสนามบินไป


ช่างเหมาะเจาะที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางกำลังทำการสัมภาษณ์นอกสนามบิน เครื่องบินของพวกเขาลงจอดพร้อมกับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ไปยังสหรัฐอเมริกา ทั้งสองฝ่ายรวมเข้าด้วยกัน มีนักข่าวเห็นฉินสือโอว จึงเข้าไปถามว่า “สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นนักข่าวนอกสถานที่จากสถานีวิทยุโทรทัศน์กลาง ไม่ทราบว่าคุณเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศใช่ไหมคะ?”


ฉินสือโอวชะงัก แล้วพูดว่า “สวัสดีครับ คุณนักข่าว ใช่ครับ เพิ่งกลับมา”


“อะไรคือวัตถุประสงค์ในการกลับมาคะ?”


“คือว่า หลักๆ แล้วก็เพื่อมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อน แล้วก็ร่วมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์กับครอบครัวครับ”


นักข่าวถามต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นขอถามหน่อยค่ะว่า ตอนอยู่ต่างประเทศมีคนที่ทำให้คุณรู้สึกประทับใจไหมคะ? และคุณทำให้ใครรู้สึกประทับใจบ้างคะ?”


ฉินสือโอวรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่ได้เป็นคำถามเชิงบวกเท่าไร แต่เขาก็ยังคงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ที่นั่นคนที่กล้าเข้ามายุ่งกับผมมีไม่มาก คนที่ผมกล้าเข้าไปยุ่งด้วยส่วนมากก็จะเป็นพวกเหล่าอาชญากรที่เป็นอันธพาลต่างประเทศ…”


นักข่าว “…”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)