อยากกินไหมล่ะ 833-836
บทที่ 833 การปะทะกันของมีทบอลตอนที่ 1
แน่นอนว่าดีนย่อมต้องโทรหาลี่ลี่เอาไว้ล่วงหน้าแล้วเช่นกันและสายก็ถูกรับอย่างรวดเร็ว ดังนั้นก่อนที่พวกเขาจะมาถึงครัว ลี่ลี่ก็ออกมาแล้ว
“ดีน นายอยู่ในประเทศจีนงั้นเหรอนี่?” ลี่ลี่ถามเขาพลางทักทายทั้งดีนและผู้ช่วยของเขาด้วยการกอด
ลี่ลี่เคยเจอดีนมาครั้งหนึ่งระหว่างการแข่งขันทำอาหารในประเทศฝรั่งเศส เขาค่อนข้างชื่นชมในฝีมือการทำอาหารของดีนเอามากๆเลยทีเดียว ระหว่างการแข่งขันในครั้งนั้น ดีนได้อันดับที่หนึ่งส่วนเขาอยู่ในอันดับที่ห้า
“ใช่แล้วล่ะ ลี่ นายดูสบายดีนะ” ดีนยิ้มแล้วเริ่มคุยเรื่องสัพเพเหระ
“ฉันสบายดี คิดว่านะ นายมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ?” ลี่ลี่กล่าวพลางบุ้ยใบ้ไปทางตากล้องที่อยู่ข้างหลังดีน
“ฉันอยู่ระหว่างการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ที่ค่อนข้างน่าสนใจรายการหนึ่งอยู่น่ะสิ” ดีนกล่าว
“ฉันเข้าใจแล้ว นายมีอะไรอยากให้ฉันช่วยไหมล่ะ?” ลี่ลี่มุ่งเข้าประเด็นทันที
“อืม ฉันอยากทำอาหารเองแต่ฉันดันไม่มีวัตถุดิบกับครัวเลยน่ะสิ ฉะนั้นฉันก็เลยมาที่นี่ไงล่ะ” ดีนกล่าวพลางคลี่มือตนเอง
“นายมาที่นี่เพื่อมาขอยืมครัวงั้นรึ?” ลี่ลี่ถามขึ้นมา
“ใช่แล้วก็ไม่ใช่” ดีนเก็บงำความสงสัยเอาไว้ เมื่อเขาเห็นสีหน้าแปลกๆของลี่ลี่แล้วเขาก็พูดต่อไปอีก
“นายก็รู้นี่นา มีภารกิจหนึ่งในรายการนี้ที่อยากให้ฉันกินอาหารกลางวันที่ร้านติดกัน แต่พวกเรามาถึงช้าเกินไปหมายเลขก็เลยหมดไปแล้วน่ะสิ ดังนั้นฉันก็ได้แต่ทำอาหารเอง…” ดีนเริ่มอธิบายอย่างจริงจัง
“ฉะนั้นฉันก็เลยจะทำอาหารเองหน้าร้านของเขาเสียเลย อืม นี่อาจนับได้ว่าเป็นการแก้แค้นเล็กๆน้อยๆของฉันเลยก็ว่าได้” ดีนพูดออกมาตามตรง
“ดีน ฉันไม่แนะนำให้นายทำแบบนั้นเลยนะ” ในฐานที่เป็นเพื่อนกัน ลี่ลี่รีบให้คำแนะนำเพราะเห็นแก่ศักดิ์ศรีของดีนหลังจากที่เขาได้ยินว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหยวนโจว
“ไม่หรอก ลี่ นายต้องเข้าใจสิ คนผู้นั้นเป็นคนที่ฉูให้ความนับถือมากทีเดียว ด้วยเหตุนั้นฉันก็เลยอยากรู้เรื่องเขามากๆเลยล่ะ นอกจากนี้ฉันก็อยากให้เขาได้รู้เอาไว้เลยว่าคู่ปรับตลอดกาลของฉูมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นแหละ” ดีนกล่าว
ถ้าหากหยวนโจวได้ยินเรื่องนี้เข้าล่ะก็เขาคงจะรู้สึกสับสนเป็นแน่เนื่องจากเห็นได้ชัดเลยว่าเขาถูกดึงให้เข้ามาพัวพันในเรื่องคู่ปรับเช่นนี้อย่างไม่เป็นธรรมเอาเสียเลย
“ฉันต้องบอกให้นายรู้ก่อนเลยนะว่าเถ้าแก่หยวนผู้นี้ไม่ใช่เชฟธรรมดาๆเป็นอันขาด” ลี่ลี่กล่าวพลางนึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์บีฟเวลลิงตันกับสวีดิชมีทบอลอันเป็นประสบการณ์อันสุดแสนจะน่าสลดหดหู่สองครั้งก่อนของเขา หยวนโจวเป็นเชฟที่ถนัดทั้งอาหารจีนและอาหารตะวันตก
“นั่นก็แค่ทำให้เรื่องดูน่าสนใจเท่านั้นไม่ใช่หรือไง?” ดีนยืนกราน เขาหวังมานานแล้วว่าหยวนโจวจะไม่ใช่เชฟธรรมดาๆ เขาอยากเผชิญหน้ากับหยวนโจวเช่นเดียวกับที่เขาต้องเผชิญหน้ากับฉูเสี่ยว
“ก็ได้ๆ” ลี่ลี่ยักไหล่
“งั้น ลี่ นายพอจะมีวัตถุดิบดีๆอะไรให้ฉันใช้บ้างไหม?” ดีนถามขึ้นมา
“แหงอยู่แล้ว เมื่อเช้านี้เนื้อวัวล็อตใหม่จากอัลเบอร์ตาเพิ่งจะมาถึงเองนะ รับรองว่านายต้องชอบ” ลี่ลี่แสดงท่าทางเชิญชวนขณะที่เขานำทางดีนไปที่ห้องเก็บของ
“โอ้ แน่นอน หญ้าที่นั่นเขียวขจีมากเชียวล่ะแถมวัวที่เติบโตขึ้นที่นั่นก็ยังเป็นแหล่งที่มาของเนื้อวัวชั้นยอดโดยแท้อีกด้วย สายพันธุ์ไหนรึ?” ดีนถามขึ้นด้วยความเบิกบานเมื่อเขาได้ยินคำพูดของลี่ลี่
“เป็นวัวพันธุ์ชาร์โรเล่ส์พื้นเมืองอันเป็นสายพันธุ์ที่นายคุ้นเคยมากที่สุด ฉันคิดว่านะ” ลี่ลี่ตอบพลางยิ้มออกมา
“แน่นอน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาจากจังหวัดชาร์โรเล่ส์หรือเนียฟวร์ แต่คุณภาพของวัวสายพันธุ์นี้ก็ยังคงยอดเยี่ยมอยู่ดี” ดีนไม่สามารถหยุดพูดได้เลยทันทีที่แตะต้องหัวข้อเรื่องเนื้อวัว เขาลืมเลือนประสบการณ์อันไม่น่าพึงพอใจตั้งแต่เมื่อตอนที่เขาพยายามโทรหาฉูเสี่ยวก่อนหน้านี้
“แหงล่ะ ฉันมีแค่ส่วนหน้าของวัวที่เหลืออยู่ ฉันสงสัยว่านั่นจะเพียงพอสำหรับนายหรือเปล่า?” ลี่ลี่กล่าวขณะเปิดตู้ เนื้อวัวภายในนั้นจัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยล้วนมาจากส่วนหน้าของวัว
“ไม่มีปัญหา” ดีนสวมถุงมือที่ลี่ลี่ยื่นมาให้เขาแล้วเริ่มเลือกเนื้อวัว
“เออนี่ ฉันมีเนื้อหมูล็อตใหม่ด้วยนะ คุณภาพยอดเยี่ยมมากเลยเชียวล่ะ นายอยากดูไหมล่ะ?” ลี่ลี่กล่าวขณะเปิดตู้อีกใบ
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของนายนะ ลี่” ดีนพยักหน้าพลางยิ้มยินดี
“ไม่เป็นไร ฉันมีผักอยู่ตรงนั้นด้วยล่ะ” ลี่ลี่กล่าวขณะที่ชี้ไปทางผักที่จัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยบนชั้นวางของที่อยู่ใกล้ๆ
“ฉันคิดว่าด้วยวัตถุดิบพวกนี้จะทำให้ฉันสามารถทำมีทบอลออกมาได้ แถมรสชาติต้องอร่อยแน่ๆด้วยล่ะ” ลี่ลี่เสนอออกมาด้วยความจริงใจ “นายจำตอนที่พวกเราแข่งกันได้ไหม? นายได้ที่หนึ่งด้วยพาราไดส์ ไอซ์แลนด์ มีทบอล ฉันยังจำได้ชัดเจนเชียวล่ะ”
พาราไดส์ ไอซ์แลนด์ มีทบอลเป็นอาหารที่เพิ่งจะถูกรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ พูดให้ถูกก็คือมันเป็นการผสมผสานระหว่างของหวานกับอาหารจานหลักนั่นเองเพราะมันเป็นอาหารที่มีทั้งมีทบอลและไอศกรีม
“นายยังจำเรื่องนั้นได้อยู่อีกเหรอ? ใช่แล้ว นั่นเป็นความคิดที่ดีเลยเชียวล่ะ ฉันเคยได้ยินมาว่าคนจีนชอบลูกชิ้นนี่นา” ดีนยิ้มด้วยความภาคภูมิใจก่อนที่จะยอมรับคำแนะนำของลี่ลี่
“ใช่ พวกเรามีลูกชิ้นอยู่มากมายหลายชนิดในประเทศจีนเลยล่ะ” ลี่ลี่กล่าวพลางยิ้มออกมา
“ก็น่าจะเป็นงั้นแหละนะ” ดีนบอกผู้ช่วยของเขาหลังจากหยิบวัตถุดิบออกมาแล้ว
“เอาล่ะ ฉันจะให้คนมาช่วยถือไปนะ” ลี่ลี่หันกลับมาบุ้ยใบ้ให้เชฟร่างอ้วนที่อยู่ด้านหลังเขา
“ครับ หัวหน้าเชฟ ผมจะช่วยยกให้นะครับ” เชฟร่างอ้วนพยักหน้ายอมรับ
“ขอบใจนะ ลี่” ดีนกล่าวขอบคุณ
“ด้วยความยินดีเลย มีอะไรอยากให้ช่วยอีกก็บอกนะ” ลี่ลี่โบกมือแล้วขอตัว
เนื่องจากเขากำลังเร่งรีบ ดีนจึงออกไปทันทีที่เลือกวัตถุดิบเสร็จแล้ว ส่วนเชฟร่างอ้วนเองก็กลับไปทันทีหลังจากช่วยยกวัตถุดิบไปให้แล้ว
“เอาล่ะ ได้เวลากลับไปทำงานแล้ว” ลี่ลี่หันหลังเดินจากไป
เชฟร่างอ้วนเหลือบมองลี่ลี่อยู่ซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยสีหน้าสงสัย
“หัวหน้าเชฟครับ ผมนึกอยู่เลยว่าพวกเรามีสเต็กเกรด A5 หรือเปล่านะ? ให้ดีนทำสเต็กแทนไม่ดีกว่าเหรอครับ?” เขาไม่อาจเก็บคำถามเอาไว้ได้จึงถามออกมาในที่สุด
เชฟร่างอ้วนแน่ใจว่าลี่ลี่ไม่ได้เกรงใจหรอกเพราะเขาไม่อาจทนมอบวัตถุดิบของตัวเองได้ต่างหากเล่า ถึงอย่างไรลี่ลี่ก็อนุญาตให้เชฟร่างอ้วนใช้วัตถุดิบทั้งหมดได้ระหว่างการฝึกฝนเพื่อให้เขาคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง
แล้วชายคนก่อนหน้านี้ก็เป็นถึงเชฟชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย ลี่ลี่ควรจะเสนอให้เขาทำสเต็กแทนไม่ใช่หรือ?
“มีทบอลแบบไหนจะดีกว่ากันก็ได้แต่ต้องเปรียบเทียบกันแล้ว” ลี่ลี่ชะงักแล้วกล่าวออกมา
“เป็นเพราะเถ้าแก่หยวนรู้วิธีทำสวีดิชมีทบอลหรือเปล่าครับ?” เชฟร่างอ้วนถามขึ้นมา
ลี่ลี่หันมามองเชฟร่างอ้วนด้วยสายตาเย็นชา “นายรู้ไหมว่าสักแต่พูดพล่อยๆอาจจะทำให้เดือดร้อนได้นะ?”
เชฟร่างอ้วนหุบปากในทันที บางครั้งรู้มากไปก็ใช่ว่าจะดี
“ใกล้จะได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว กลับไปที่ครัวได้แล้ว” ลี่ลี่มองไปทางดีนที่กำลังตื่นเต้นด้วยความเวทนาก่อนที่จะกลับไปทำงานต่อ
มีดที่ดีนใช้ล้วนแล้วแต่เป็นมีดของเขาเอง ส่วนเรื่องที่เขานำเข้ามาประเทศได้อย่างไรน่ะเหรอ? เขาได้เจรจาเรื่องของบรรทุกพิเศษกับแอร์ไชน่าเพื่อส่งมอบให้เขาในประเทศ แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่แทบจะไม่ค่อยได้รับการอนุมัติสักเท่าไหร่ โชคดีที่ดีนเป็นเชฟชื่อดังจึงได้รับความช่วยเหลือ
ต้องขอบคุณความมีน้ำใจของลี่ลี่และการประสานงานของผู้จัดการร้านหลิวรั่วอวี๋ พวกเขาจึงไม่ต้องไปหาอุปกรณ์ทำอาหารจากที่อื่นอีก ด้วยความช่วยเหลือของสมาชิกในทีมงานถ่ายทำ พวกเขาจึงตั้งครัวกลางแจ้งชั่วคราวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
บทที่ 834 การปะทะกันของมีทบอลตอนที่ 2
โชคดีที่ถนนเถ่าซือค่อนข้างกว้างใหญ่และบรรดาลูกค้าก็ฉลาดพอที่จะไม่จอดรถริมถนน อันที่จริงแล้วถนนเถ่าซือเป็นสถานที่ที่ตำรวจจราจรมีปัญหาน้อยที่สุดเนื่องจากยวดยานพาหนะที่นั้นมักจะปฏิบัติตามกฎอยู่เสมอ
เดิมทีมีแผงลอยมากมายอยู่รอบร้านหยวนโจว แต่โปรดิวเซอร์ได้จ่ายเงินชดเชยให้พวกเขาย้ายที่ให้ทีมงานถ่ายทำสักวันหนึ่ง
เมื่อหลี่เหอและคณะเกือบจะทำภารกิจสำเร็จแล้ว พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ดังนั้นพวกเขาจึงเอาแต่ถามดีนว่าอยากให้ช่วยอะไรหรือไม่ด้วยความตื่นเต้น
“วันนี้ผมจะทำอิตาเลียนมีทบอลแบบใหม่ให้ทุกท่านได้ชิมนะครับ” ดีนเริ่มแนะนำ “อิตาเลียนมีทบอลเป็นหนึ่งในเมนูอาหารอิตาเลียนสูตรดั้งเดิมที่สุด ผมจะไม่พูดถึงต้นกำเนิดและประวัติความเป็นมาของอาหารจานนี้เนื่องจากนี่ไม่ใช่รายการภาพยนตร์สารคดีอาหาร ผมจะให้คำแนะนำสั้นๆเฉพาะสาเหตุที่ทำให้อิตาเลียนมีทบอลของผมเป็นที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่าอิตาเลียนมีทบอลแบบใหม่ ผมได้เปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในอาหารให้ต่างไปจากวิธีเตรียมอิตาเลียนมีทบอลสูตรดั้งเดิม”
สิ่งที่ดีนทำสร้างความตกใจให้ลูกค้าทุกคนในแถว แรกเริ่มเดิมทีหลายๆคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นการติดตั้งของทีมงานถ่ายทำ มีเพียงเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วเท่านั้นจึงทำให้พวกเขาสังเกตเห็นว่าได้มีการจัดตั้งครัวที่จัดขึ้นอย่างกะทันหัน และเมื่อดีนเริ่มพูดถึงอิตาเลียนมีทบอลขึ้นมา พวกเขาก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
“ไอ้หมอนี่จะทำอิตาเลียนมีทบอลที่นี่ เขาพยายามที่จะท้าทายเถ้าแก่หยวนงั้นรึ?”
“แหงล่ะ สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ไม่ต่างอะไรกับการควงดาบต่อหน้ากวนอูหรือท่องตำราต่อหน้าขงจื๊อ”
“ฉันลองเช็คในอินเตอร์เน็ตดูแล้วนะ ฝรั่งคนนี้ดูเหมือนจะเป็นเชฟที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในต่างประเทศมากเชียวล่ะ”
“เขามีชื่อเสียงแล้วไงล่ะ? จะบอกว่าเขาเก่งกว่าเถ้าแก่หยวนของเราเพียงเพราะเขามีชื่อเสียงน่ะเหรอ? ก่อนหน้านี้เถ้าแก่หยวนเอาชนะเชฟชื่อดังมาได้ตั้งหลายคนแล้ว ลืมเรื่องเชฟฉูเสี่ยวในประเทศของเราที่โด่งดังไกลออกไปไกลถึงต่างประเทศก็ยังเชื่อมั่นในความสามารถของเถ้าแก่หยวนเลย เขามักจะแวะมาเยี่ยมเถ้าแก่หยวนทุกทีที่มีโอกาสอยู่เสมอ”
บรรดาลูกค้าต่างเปี่ยมไปด้วยความขุ่นเคือง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงคนในคณะกรรมการจัดระเบียบแถวอย่างอู๋ไห่ เจียงฉางซี่และหลิงหงเลย ทั้งสามคนมองไปทางดีนด้วยสายตาไม่เป็นมิตรพลางนึกถึงเรื่องแปลกๆอยู่ในใจ ทุกคนที่นี่ต่างรู้สึกว่าจำเป็นต้องปกป้องเถ้าแก่หยวน
“เจ้าฝรั่งคนนี้คิดว่าเขาจะสามารถเอาชนะเถ้าแก่หยวนได้เพียงเพราะเขาพูดภาษาจีนได้คล่องงั้นน่ะเหรอ?”
ไม่รู้เหมือนกันว่าการพูดภาษาจีนได้คล่องเกี่ยวอะไรกับการเอาชนะหยวนโจว คนที่กล่าวออกมาเช่นนั้นก็คือฉูเต้าเฮ่าผู้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้กินอะไรสักอย่างที่ร้านหยวนโจวก่อนเวลาอาหารกลางวันจะหมดลง ตัวเขามีสมญานามว่าเมาส์ทว่าตัวกลับใหญ่เท่าช้างตัวย่อมๆ
“ในเมื่อเจ้าฝรั่งคนนี้กำลังจะทำอิตาเลียนมีทบอล ฉันก็ต้องสั่งสวีดิชมีทบอลเพื่อแสดงให้เขารู้เสียบ้างว่ามีทบอลที่แท้จริงมันเป็นแบบไหนกัน!” เมาส์กล่าวอย่างแน่วแน่
“เมาส์ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ สวีดิชมีทบอลราคาโหดเอาเรื่องเลยนะ” เพื่อนร่วมงานของเขาเตือน “แถมวันเกิดของแฟนนายก็คือเดือนนี้ด้วย นายจะไม่ประหยัดเงินเอาไว้ซื้อกระเป๋าถือใบใหม่ให้เธอเลยงั้นรึ? นายคิดว่าไงล่ะ?”
“ถ้านายสั่งขึ้นมาจริงๆ ฉันคิดว่านี่คงจะเป็นอาหารที่แพงที่สุดที่นายจะสามารถจ่ายได้ไหวในเดือนนี้แล้วล่ะนะ” เพื่อนร่วมงานพูดต่อไป
“ยังไงฉันก็ต้องซื้อกระเป๋าถือให้เธออยู่แล้วแหละน่า แต่ฉันก็จะสั่งสวีดิชมีทบอลด้วย อย่างมากก็แค่ไม่ซื้อหุ่นยนต์ในเดือนนี้เท่านั้นแหละน่า!” เมาส์ลั่นวาจาออกมาด้วยดวงตาแดงก่ำ
เพื่อนร่วมงานรู้สึกได้ว่าเมาส์คลุ้มคลั่งไปแล้ว ควรรู้ว่าเจ้าหมอนี่เป็นคนที่จะรู้สึกไม่สบายเอามากๆแม้ว่าเขาจะไม่ซื้อหุ่นยนต์แค่อาทิตย์เดียว แต่ตอนนี้เขากลับคิดที่จะหยุดซื้อไปเป็นเดือนๆ
“งั้นนายพักเรื่องกระเป๋าถือเอาไว้ก่อนดีไหม? ยังไงนายก็สามารถซื้อกระเป๋าถือเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ…”
ก่อนที่ผู้ร่วมงานจะทันกล่าวจบประโยค เมาส์ก็ขัดจังหวะเขาขึ้นมาว่า “ไม่ได้หรอก แฟนฉันชอบกระเป๋าถือใบนั้นมาก อีกอย่างฉันก็ไม่สามารถดึงเจ้าสิ่งนี้ออกไปได้หรอกในเมื่อมันเป็นเรื่องของแฟนฉัน อย่าพยายามเกลี้ยกล่อมฉันเสียให้ยากเลยน่า ฉันตัดสินใจแล้ว”
หลังจากนั้นประมาณสองนาที ลูกค้าบางคนกินอาหารเสร็จแล้วก็ออกไป ถึงคราวที่เมาส์กับเพื่อนร่วมงานจะได้เข้ามาเสียที เมื่อพวกเขาเข้ามาแล้ว เมาส์ก็สั่งสวีดิชมีทบอล
เมื่อเจียงฉางซี่และคนอื่นๆรู้ว่าดีนกำลังจะทำอะไร พวกเขาก็บอกให้บรรดาลูกค้าในแถวหลีกทางให้ดีนเห็นเถ้าแก่หยวนทำอาหารได้ชัดๆ
พวกเขาตัดสินใจรับคำท้าของดีนโดยหาได้เกรงกลัวแต่อย่างใดไม่ เมื่อทีมงานถ่ายทำเห็นเช่นนี้เข้า พวกเขาก็รู้สึกพอใจมาก ดังนั้นทีมงานจึงแบ่งออกเป็นสองฝ่ายเพื่อถ่ายทำสถานการณ์ของทั้งสองฝ่าย สงครามครั้งใหญ่พร้อมจะปะทุขึ้นได้อยู่ทุกเมื่อ แต่จะพูดให้ถูกก็คือดีนเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ดูจะตื่นเต้นกับสิ่งนี้มากเหลือเกิน ส่วนหยวนโจวกำลังทำงานของตัวเองต่อไปและเพิ่งจะเริ่มทำสวีดิชมีทบอลเมื่อตอนที่เขาเห็นว่ามีคนสั่งนั่นเอง
และเนื่องจากบรรดาลูกค้าพากันหลีกทางให้จึงทำให้ดูเหมือนหยวนโจวกับดีนกำลังประชันการทำอาหาร โดยที่ลำตัวของหยวนโจวโน้มเอียงไปทางด้านข้างส่วนดีนหันหน้าตรงไปทางเข้าร้าน
“ดีน ของครบแล้วล่ะ” ผู้ช่วยพูดขึ้นมา
“อืม” ดีนพยักหน้า จากนั้นเขาก็จัดวางกระเป๋าเอาไว้ตรงหน้าแล้วเปิดออก
มีดจำนวนนับไม่ถ้วนถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ภายในกระเป๋า เพียงมองแค่ปราดเดียวก็จะเห็นว่ามีดกว่า 20 เล่มอยู่ในนั้นล้วนมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันไป บางเล่มถึงกับมีรูปร่างที่แปลกประหลาดมากอีกด้วย
“เร็วหน่อย ใกล้เข้ามาอีก” ผู้กำกับรีบสั่งช่างกล้องทันที
“ว้าว เหมือนเขาจะรู้ว่าต้องทำอะไรเลย” เจียงเหม่ยซือกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“นั่นเป็นเรื่องธรรมดา ในร้านอาหารชั้นสูงหลายๆแห่ง เครื่องครัวที่พวกเขาใช้ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์สไตล์ตะวันตก แม้แต่การปฏิบัติขั้นพื้นฐานอย่างการหั่นมะเขือเทศและหน่อไม้ฝรั่งก็ยังต้องใช้มีดที่เฉพาะเจาะจง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้รู้ว่าแถบตะวันตกเอาจริงเอาจริงกับการทำอาหารของพวกเขามากเพียงใด” หลี่เหออธิบาย
“ดูเหมือนว่าอาหารกลางวันของเราจะพร้อมแล้วล่ะ” ไป๋กั้วกล่าวออกมาอย่างมีความสุข
ในขณะนี้ดีนเริ่มจริงจังขึ้นมาแล้วเช่นกัน เขาหยิบมีดออกมาจากกระเป๋า ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีดจะคมสักขนาดไหน แต่กลับดูงดงามมากทีเดียว
ตัวมีดถูกตีขึ้นมาจากเหล็กดามัสกัสขณะที่ด้ามจับทำมาจากไม้มะเกลือ ส่วนบริเวณผิวของใบมีดมีการสลักลายกุหลาบเอาไว้ทำให้แลดูสวยสดงดงาม และช่วยเสริมส่งรูปลักษณ์อันหล่อเหลาที่ดีนมีอยู่ได้อีกด้วย
ดีนหยิบเนื้อวัวที่ล้างทำความสะอาดแล้วด้วยมือซ้าย สามารถมองเห็นชั้นไขมันสีขาวสวยงามบนเนื้อวัวได้อย่างชัดเจน เห็นได้ชัดเลยว่านี่คือเนื้อวัวคุณภาพสูง
ดีนเริ่มหั่นเนื้อวัวด้วยมีด ควับ! ควับ! ควับ! เขาควงมีดด้วยท่วงท่าอันแม่นยำ
“ฉันหิวแล้วนะ” ไป๋กั้วมองไปทางเนื้อวัวที่ค่อยๆกลายเป็นเนื้อบด
“เช่นกัน” เจียงเหม่ยซือพยักหน้า
“ดูเหมือนมีทบอลจานนี้จะสมแก่การรอคอยเลยเชียวล่ะ” หลี่เหอพยักหน้าเห็นด้วย
อิตาเลียนมีทบอลมักจะเป็นอาหารที่หนักท้อง แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของแถบตะวันตก อิตาเลียนมีทบอลแบบใหม่ของดีนเองก็มีลักษณะที่ไม่ต่างไปจากนี้สักเท่าไหร่นัก มิหนำซ้ำยังเพิ่มคุณลักษณะด้านนี้ลงไปอีกต่างหาก
ความหนักท้องของอาหารสามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วยการควบคุมความร้อนเป็นพิเศษ และเมื่อผสมผสานเข้ากับรสชาติของมะเขือเทศสด กลิ่นของเนื้อวัวตามธรรมชาติก็ยิ่งรุนแรงขึ้นไปด้วย
ในตอนนี้ดีนกำลังจัดการกับเนื้อวัวอยู่ ขั้นแรกเขาหันเนื้อวัวให้เป็นชิ้นเล็กๆด้วยมีดหลัก แล้วค่อยใช้มีดสับเพื่อเปลี่ยนเนื้อวัวชิ้นเล็กๆให้กลายเป็นเนื้อบด
จากนั้นดีนก็ดำเนินขั้นตอนเดิมกับเนื้อหมู
เมื่อตอนที่กำลังจัดการกับวัตถุดิบอยู่นั้น ทุกท่วงท่าของดีนก็เป็นไปอย่างมีจังหวะจะโคนตามลำดับ และเนื่องจากหน้าตาหล่อเหลาประกอบกับนิ้วเรียวยาวจึงทำให้ยามที่เขาทำอาหารช่างดูมีเสน่ห์เหลือเกิน
สิ่งนี้ช่างแตกต่างไปจากหยวนโจวที่ทุกท่วงท่ายามทำอาหารเป็นไปอย่างลื่นไหลทว่ารวดเร็วโดยปราศจากท่วงท่าอันแพรวพราว อันที่จริงแล้วยามที่ทำอาหารเขาถึงกับลืมตัวไปได้เสียง่ายๆเลยทีเดียว เนื่องจากมัวแต่จดจ่อกับอาหารที่เขากำลังทำอยู่นั่นเอง
พวกเขาทั้งสองคนช่างมีสไตล์การทำอาหารที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจริงๆ
บทที่ 835 แข่งขันการตกแต่งอาหารงั้นเหรอ?
ก่อนที่จะมีการผสมเนื้อวัวและเนื้อหมูนั้น ดีนได้ล้างมือก่อนที่จะนวดเนื้อวัวและเนื้อหมูที่บดแล้วทีละขั้นทีละตอนอย่างเอาจริงเอาจังจนกลายเป็นมีทบอล
ระหว่างนั้นจะมีการผสมไข่ไก่กับพริกไทยดำลงไปเช่นกัน
แคร๊ง! แคร๊ง! ดีนหยิบอุปกรณ์ทรงกลมสีเงินออกมาแล้วสอดเข้าไปในอุปกรณ์ทรงกลมอีกอันหนึ่งหลังจากใส่ชีสลงในมีทบอลแต่ละลูกแล้ว
จะเห็นได้ว่ามีทบอลแต่ละลูกจะพอดีกับอุปกรณ์ทรงกลมเลย ด้วยเหตุนี้เองมีทบอลทั้งหมดจึงมีขนาดเท่ากันราวกับว่าผลิตมาจากโรงงานก็ไม่ปาน
“ปั้นมีทบอลให้มีขนาดเท่ากันด้วยมืองั้นรึ? เขาเก่งจังเลย” เจียงเหม่ยซือร้องอุทานด้วยความชื่นชม
“สมควรแล้วที่เขาจะเป็นเชฟชื่อดังจริงๆ” ไป๋กั้วเองก็ร้องอุทานด้วยความชื่นชมออกมาเช่นกัน
“ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ทว่าก็ยังแสดงให้เห็นถึงว่าเขาเก่งขนาดไหนด้วย” หลี่เหอพยักหน้า
“ที่สำคัญเขายังหล่อมากอีกต่างหากแน่ะ” เจียงเหม่ยซือกล่าวพลางเอามือกุมหน้าตนเองเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าตกหลุมรักเพราะหน้าตาของเขาเข้าแล้ว
“เธอตกหลุมรักไวขนาดนี้เชียวหรือนี่? ฉันจำได้ว่าเมื่อวันนั้นเธอยังบอกว่าชอบบอสหลี่อยู่เลยนี่นา” ไป๋กั้วล้อเลียนด้วยสีหน้าราวกับจะบอกว่า “เธอมันนอกใจ”
“ช่วยไม่ได้นี่นา ผู้หญิงก็เอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้แหละ” เจียงเหม่ยซือพยักหน้าแล้วยอมรับโดยไม่ลังเลสักนิด
“ฉันก็หล่อเหมือนกันไม่ใช่หรือไง?” ไป๋กั้วกล่าวขึ้นมาทันทีราวกับไม่พอใจกับเรื่องนี้เสียเต็มประดา
“แต่นายทำอาหารไม่เป็นนี่นา” เจียงเหม่ยซือแสดงสีหน้าเยาะเย้ยไป๋กั้วแล้วกล่าวออกมา
“แต่ฉันกินได้นะ” ไป๋กั้วพูดออกมาหน้าตาเฉย
“ดูสิ ดีนเริ่มทำสตูว์มะเขือเทศแล้ว น้ำสตูว์น่าจะถูกนำไปผสมกับมีทบอลนะ” หลี่เหอขัดจังหวะพวกเขาแล้วชี้ไปที่ดีน
“ว้าว เขามีมีดสำหรับมะเขือเทศด้วยล่ะ” เจียงเหม่ยซือรำพึงพลางมองไปที่มีดเล่มใหม่
ใช่แล้วล่ะ ในขั้นตอนของการทำอาหารจานนี้ ดีนใช้มีดไปถึงหกชนิดแล้ว นี่เป็นมีดชนิดที่เจ็ดของเขาซึ่งก็คือมีดสำหรับมะเขือเทศนั่นเอง
ทุกคนสังเกตพบเรื่องแปลกประหลาดเข้าเรื่องหนึ่ง ในอาหารจีน หากเชฟไม่สามารถจัดการกับวัตถุดิบได้ด้วยมีดเพียงเล่มเดียวแล้วล่ะก็เชฟคนนั้นก็จะถูกเย้ยหยันเนื่องจากไม่มีฝีมือ แต่สำหรับอาหารสไตล์ตะวันตก ถ้าหากเชฟสามารถสลับใช้มีดได้จะดูมีความเป็นมืออาชีพเป็นอย่างยิ่ง
ช่างเป็นมุมมองที่แตกต่างกันมากเหลือเกิน แม้จะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่ผลลัพธ์ของความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมด้านอาหารเท่านั้น
คมมีดหั่นมะเขือเทศที่พริ้วไหวราวกับคลื่นนั้นช่วยให้ฝานผิวมะเขือเทศออกได้อย่างราบรื่นก่อนที่จะหั่นมะเขือเทศให้เป็นชิ้นบางๆ และเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้มีน้ำมะเขือเทศไหลออกมามากเกินไป ส่วนปลายของมีดก็จะต้องเป็นง่ามเพื่อช่วยให้เชฟจิ้มชิ้นมะเขือเทศขึ้นมาได้
ถูกต้องแล้ว มะเขือเทศที่นำมาใช้กับสตูว์จะต้องหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก สิ่งนี้จะช่วยร่นเวลาที่จำเป็นต่อการปรุงมะเขือเทศได้
ถัดมาก็จะหั่นหัวหอมใหญ่กับใบโหระพาให้เป็นชิ้นบางๆก่อนที่จะนำไปทอดพอสุก จากนั้นก็ผสมเข้ากับชิ้นมะเขือเทศที่เอามาผัดแล้ว สุดท้ายค่อยเติมน้ำสต็อกไก่ลงไป
แน่นอนอยู่แล้วว่าลี่ลี่ก็เป็นคนเตรียมน้ำสต็อกไก่เช่นกัน หลังจากเขารู้ว่าดีนตัดสินใจที่จะทำมีทบอล ลี่ลี่ก็ชักจะสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างที่กำลังต้มสตูว์อยู่นั้น ดีนก็เริ่มทอดมีทบอล ทุกท่วงท่าของเขาผ่อนคลายและมีเวลาเงยหน้าขึ้นมามองหยวนโจวเป็นครั้งคราว
แน่นอนว่าหยวนโจวย่อมไม่ละความสนใจไปจากการทำอาหาร ถึงจะมีคนสั่งสวีดิชมีทบอล แต่ก็ยังมีอาหารจานอื่นๆที่เขาต้องทำให้เสร็จด้วย
ดังนั้นหยวนโจวจึงได้แต่แก้ไขลำดับขั้นตอนการเตรียมมีทบอลนิดๆหน่อยๆเพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้าใจขั้นตอนได้ง่ายขึ้น นอกเหนือไปจากนั้นเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่แตกต่างกันแต่อย่างใด
เนื่องจากอยู่ไกล ดีนจึงไม่สามารถมองเห็นการทำอาหารของหยวนโจวได้อย่างชัดเจนนัก แต่บรรดาลูกค้าที่นั่งอยู่ใกล้ๆกลับมีสีหน้าที่ดีทีเดียว
เมื่อตอนที่เตรียมสวีดิชมีทบอลอยู่นั้น นอกจากตอนที่เขาปอกเปลือกออกจากวัตถุดิบแล้ว ทุกขั้นตอนการเตรียมรวมไปถึงการหั่นและการบดจะกระทำโดยที่มือของเขาไม่ได้สัมผัสกับวัตถุดิบเลย
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครัวแบบเปิด ถ้าหากลูกค้าเห็นเชฟหยิบเนื้อบดด้วยมือก็คงไม่นึกอยากกินอีกต่อไปแล้วล่ะ
ดังนั้นเมื่อตอนที่กำลังนวดเนื้อบดอยู่นั้น หยวนโจวจะใช้ไม้มาคนเร็วๆและในระหว่างที่กำลังคน เขาก็จะใช้ช้อนตักเนื้อบดเป็นบางครั้งบางคราว ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีทบอลมีขนาดเท่าๆกัน
ทุกขั้นตอนทั้งรวดเร็วและเพลินตา เมื่อมองมาทางนี้แล้ว บรรดาลูกค้าก็เริ่มน้ำลายสอ
และเนื่องจากการแก้ไขลำดับขั้นตอนการเตรียมของหยวนโจว พวกเขาทั้งสองคนก็ทำมีทบอลเสร็จเกือบจะพร้อมๆกัน
ตอนที่หยวนโจวเริ่มแกะสลักหางนกยูง ดีนก็ทำสตูว์เสร็จแล้ว
ในขณะเดียวกัน กลิ่นหอมของมีทบอลก็เริ่มฟุ้งกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง การผสมผสานกลิ่นหอมของเนื้อ ชีสและมะเขือเทศตลบอบอวลไปจนถึงนอกร้านเลยทีเดียว
“อิตาเลียนมีทบอลแบบใหม่เสร็จแล้วครับ” ดีนกล่าวพลางพยักหน้าให้ผู้ช่วยของเขา
“โอเคค่ะ” ผู้ช่วยเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อแล้วรีบยกจานไปวางอยู่ข้างๆตัวดีน
“ฉันกำลังตั้งตารอคอยเจ้าสิ่งนี้แหละ หอมดีจัง” เจียงเหม่ยซือแทบอยากจะเอาหน้าตัวเองไปแนบติดกับจานอาหารอยู่รอมร่อแล้ว
“ฉันรอกินอยู่นะ” ไป๋กั้วขยับมาข้างหน้าแล้วเริ่มรอคอย
แม้แต่หลี่เหอก็ยังจ้องมองดีนไม่หยุดหย่อน
ในอาหารฝรั่งเศส การตกแต่งอาหารจะต้องสวยงามอยู่เสมอ ในฐานที่เป็นเชฟชื่อดัง ดีนมีความภาคภูมิใจในตนเอง แม้ว่าเขาจะใช้แค่เพียงครัวชั่วคราวเท่านั้นหรือแม้แต่นี่จะเป็นอาหารกลางวันธรรมดาๆก็ตามที แต่เขาก็ยืนกรานที่จะตกแต่งอาหารอยู่ดีนั่นแหละ
มีทบอลถูกจัดวางอยู่บนจานรูปสี่เหลี่ยมโดยมีมีทบอลจัดเรียงอยู่ในรูปทรงครึ่งวงกลม ส่วนบริเวณรอบๆมีทบอลจะเป็นพาร์สลีย์ ใบพืชชนิดต่างๆและโรสแมรี่อีกนิดหน่อย เมื่อรวมเข้ากับสตูว์แล้วกลับทำให้อาหารทั้งจานดูราวกับท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับ
นี่ก็คือจักรวาลอันลึกลับไร้ที่สิ้นสุดโดยมีมีทบอลที่นำมาเสิร์ฟเป็นดาวเคราะห์
สมกับที่บิดาของดีนเป็นจิตรกรเลื่องชื่อ ก่อนหน้านี้ดีนก็เคยทะเลาะกับลี่ลี่ในเรื่องการตกแต่งอาหารมาแล้ว
“ว้าว สวยจัง” เจียงเหม่ยซือถึงกับร้องออกมาเมื่อผู้ช่วยยื่นจานอาหารมาให้เธอ “ฉันไม่กล้ากินเลยนะเนี่ย”
“ดูสวยจริงๆ คุณคู่ควรแก่ชื่อเสียงของตัวเองจริงๆดูจากการที่คุณสามารถเตรียมบางสิ่งบางอย่างที่มีกลิ่นและหน้าตาน่ารับประทานขนาดนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้นเช่นนั้นได้” ไป๋กั้วไม่ตระหนี่คำชมเช่นกัน
“อืม เจ้าสิ่งนี้ดูเหมือนจะกระตุ้นความอยากอาหารมากเลย เข้าไปกินกันเถอะ” หลี่เหอกล่าวขณะที่กำลังถือจานมีทบอล ถึงอย่างไรภารกิจก็ต้องการให้พวกเขากินอาหารในร้านอยู่แล้วนี่นา
ไป๋กั้ว เจียงเหม่ยซือและหลี่เหอที่กำลังถือจานมีทบอลของพวกเขาอย่างมีความสุขพากันมุ่งหน้าเข้าไปในร้านอาหาร โดยมีดีนเดินตามอยู่หลังพวกเขาอีกที บรรดาลูกค้ารอบกายพวกเขาต่างกำลังเหลือบมองไปที่จานอาหารของพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นายว่าแบบนี้สวยแล้วงั้นเหรอ? นายคงไม่เคยเห็นฝีมือของเถ้าแก่หยวนมาก่อนสินะ?” ลูกค้าบางคนกล่าวด้วยความดูหมิ่นดูแคลน
“ใช่ ฉันก็คิดว่ายังไงอาหารของเถ้าแก่หยวนก็สวยกว่าตั้งเยอะแน่ะ” ลูกค้าอีกคนเห็นด้วย
“เอาล่ะ ขอบอกตามตรงเลยนะ มันก็สวยจริงๆ มิหนำซ้ำยังดีกว่าพวกร้านมิชลินที่ได้หลายๆดาวที่ฉันเคยไปเยือนที่ต่างประเทศเสียอีก น่าเสียดายที่วันนี้เขาดันเลือกคู่ต่อสู้ผิดไป” หลิงหงประเมินอย่างเป็นกลางพลางอวดโอ่ความร่ำรวยไปด้วย ถึงอย่างไรเขาก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอันมากเนื่องจากไม่ได้กินอาหารที่มีให้ส่วนลดในวันนี้
“ลองคิดดูสิ ยังไงก็เทียบไม่ได้กับของเถ้าแก่หยวนแน่นอน หรือฉันควรจะบอกว่าไม่อาจเทียบกันได้” เจียงฉางซี่กล่าวขึ้นมา
พวกเขาทั้งสี่คนได้ยินคำพูดนี้กันอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าดีนจะไม่มีท่าทีตอบสนองแต่อย่างใด แต่อีกสามคนดูเหมือนไม่พอใจมากทีเดียว แต่เนื่องจากเป็นดาราดังก็คงไม่เหมาะสักเท่าไหร่นักที่พวกเขาจะมาทุ่มเถียงกับคนพวกนี้ สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้ก็คือส่งเสียงให้ดังขึ้นตอนที่พูดว่ามีทบอลอร่อยมากขนาดไหนเพื่อปกป้องดีน
ทันทีที่พวกเขาผ่านเข้าประตูมา สวีดิชมีทบอลของเมาส์ก็ถูกยกมาเสิร์ฟแล้ว
สวีดิชมีทบอลของหยวนโจวหน้าตาไม่เลวเลยทีเดียว จากคะแนนโหวตทางอินเตอร์เน็ต นอกเหนือไปจากกุ้งหางหงส์แล้วก็มีสวีดิชมีทบอลนี่แหละที่เป็นอาหารที่สวยงามที่สุดในร้านหยวนโจวเลยก็ว่าได้
บทที่ 836 ความแตกต่างเพียงน้อยนิด
“เรามาเปลี่ยนที่นั่งกันเถอะ นายมานั่งตรงนี้สิ”
โจวเจียยังไม่ได้ยกจานลงมาวางบนโต๊ะของเมาส์เมื่อตอนที่ลูกค้าผู้มีตากลมโตที่นั่งอยู่ใกล้กับตำแหน่งยืนอยู่เริ่มพูดขึ้นมา
“ได้ๆ” เมาส์รู้สึกงงงันในทีแรก แต่เมื่อเขาเข้าใจความหมายที่ลูกค้าผู้มีตากลมโตที่อยากจะชมดูฉากตื่นเต้นหลังจากนี้ ทันใดนั้นเขาก็พลันนึกถึงสิ่งที่ควรจะทำขึ้นมาได้ เขาตอบตกลงทันทีแล้วเปลี่ยนที่ด้วยความรวดเร็ว แน่นอนว่าเพื่อนของเมาส์ก็ย่อมต้องตามเขาไปอีกด้านเช่นกัน
แม้จะมีคนแลกที่นั่งกันไปถึงสองที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีที่นั่งว่างๆให้เหล่าดาราที่เข้ามาในร้านเลย บรรดาลูกยังเต็มร้านมาจนถึงตอนนี้
หลี่เหอ ไป๋กั้วและเจียงเหม่ยซือมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะกำลังถ่ายทำรายการกันอยู่ แต่พวกเขาก็หาได้ฉวยโอกาสจากความเป็นดาราแย่งที่ผู้อื่นแต่อย่างใด
พูดง่ายๆก็คือแฟนๆของพวกเขาไม่ควรจะหลีกทางให้พวกเขาในสถานการณ์แบบนั้นหรอกใช่ไหมล่ะ? บรรดาลูกค้าในร้านนี้ช่างแสนเย็นชาแถมยังอวดดีมากเหลือเกิน อันที่จริงแล้วหลี่เหอถูกบรรดาลูกค้าในร้านปรักปรำอยู่จริงๆ พวกเขาเพียงแค่จดจ่ออยู่กับอาหารอร่อยมากไปหน่อยจนไม่ทันสังเกตสิ่งใดเลย
ตอนที่ทั้งสามคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความอึดอัดใจและไม่รู้จะทำอะไรดีอยู่นั้น ลูกค้าสองคนที่กำลังยืนกินอยู่ทางด้านข้างก็เริ่มคุยกัน มีตำแหน่งยืนอยู่สองที่ในร้านหยวนโจว
“พวกคุณเป็นดาราดาวรุ่งนี่นา เข้ามากินเถอะครับ พวกเราจะหลีกทางให้พวกคุณเอง” คนหนึ่งในนั้นกล่าว
“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” เจียงเหม่ยซือเผยรอยยิ้มงดงามออกมาแล้วกล่าวขอบคุณพวกเขา
“ด้วยความยินดีครับ ตรงนี้แคบไปสักหน่อย หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะครับ” ลูกค้าอีกคนกล่าวอย่างสุภาพ
เจียงเหม่ยซือยกจานวางลงเบาๆแล้วกล่าวว่า “ไม่หรอกค่ะ ขอบคุณเช่นกันนะคะ”
ลูกค้าทั้งสองคนลอบยิ้ม
หลังจากนั้นไป๋กั้วกับหลี่เหอก็ถือชามของตัวเองมาแล้วเดินไปกินอยู่ตรงตำแหน่งยืนในตอนนั้น ถึงอย่างไรร้านหยวนโจวก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรจริงๆนั่นแหละ
“มาเร็ว มาดูสวีดิชมีทบอลของฉันนี่ ฉันกำลังจะได้กินมันเป็นครั้งแรกแล้ว นายไม่เคยกินมาก่อนเลยงั้นรึ?” จู่ๆเมาส์ที่นั่งอยู่ทางด้านข้างก็ดึงตัวเพื่อนร่วมงานของเขามาใกล้ๆแล้วกล่าวเสียงดังลั่น
เสียงของเมาส์ค่อนข้างดังมากทีเดียว ทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็ได้ยินเขาแล้วจึงหันไปมองที่โต๊ะ
ถ้าหากพวกเขาไม่เคยเห็นการตกแต่งสวีดิชมีทบอลอันแสนงดงามของหยวนโจวมาก่อนแล้วล่ะก็อิตาเลียนมีทบอลแบบใหม่ของดีนก็คงจะดูสวยมากทีเดียวเช่นเดียวกับหลี่เหอกับอีกสองคนชื่นชมไปเมื่อก่อนหน้านี้ ในแง่ของจุด เส้นและระนาบอาจจะฟังดูกล่าวเกินจริงไปสักหน่อยที่จะบอกว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมาด้วยสัดส่วนทองคำ แต่กลับไม่มีปัญหาเลยที่จะบอกว่าท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับช่างสวยงามราวกับภาพเขียนก็ไม่ปาน
ด้วยประการทั้งปวง การนำเสนอจานของดันได้คะแนนถึง 9.5 เต็ม 10 แต่เมื่อเทียบกับสวีดิชมีทบอลแล้ว อิตาเลียนมีทบอลของดีนกลับไม่มีความพิเศษอันใด แถมยังรู้สึกว่าด้อยกว่าอย่างน้อยระดับหนึ่งด้วย
ดีนที่มาช้าเองก็เห็นสวีดิชมีทบอลบนโต๊ะของเมาส์แล้วเช่นกัน
“การนำเสนอจานช่างแสนสมบูรณ์แบบ” ดีนโพล่งออกมา
ดีนมองไปที่อาหารแล้วขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ดังเช่นที่เขาได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ บิดาของเขาเป็นจิตรกรจึงทำให้เขามีพรสวรรค์ในการนำเสนอจานไปด้วย อาจะถือได้ว่าเป็นจุดแข็งข้อหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้ แม้แต่ฉูเสี่ยวก็ยังทำไม่ได้อย่างเขาเลยด้วยซ้ำไป
เขาไม่คาดว่าจะล้ำหน้าได้โดยปราศจากคำถามในร้านเล็กๆแห่งนี้
ทว่าดาราทั้งสามคนกลับไม่คิดเช่นนั้น ถึงแม้ว่าร้านหยวนโจวจะได้รับความนิยมเป็นอันมาก แต่การตกแต่งและทำเลที่ตั้งหาได้คล้ายคลึงกับร้านอาหารฝรั่งเศสอันงดงามหรูหราแต่อย่างใด
นอกเหนือไปจากนั้นยังไม่มีใครคิดว่าจะมีคนที่สามารถทำอาหารอร่อยที่สร้างความเพลินตาได้มากกว่าอิตาเลียนมีทบอลแบบใหม่
แน่นอนว่าไป๋กั้วกับเจียงเหม่ยซือย่อมพยายามหลีกเลี่ยงจากคำชมในที่สาธารณะเนื่องจากดีนอยู่กับพวกเขา และหลี่เหอผู้อ่อนโยนและสามารถเอาชนะใจทุกคนได้ก็เริ่มพูดขึ้นทางด้านข้าง
“ซือซือ รีบชิมดูเถอะ เธอน้ำลายแทบหกอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?” หลี่เหอส่งสัญญาณให้เจียงเหม่ยซือรีบกิน
“อืม ใช่ ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันของคุณนะ ดีน พวกเรามีความสุขกันมากเลย ผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าฝ่ายรายการจะเชิญคุณมาที่นี่ด้วย” ไป๋กั้วแสดงความขอบคุณแก่ดีนอย่างจริงจัง
“ใช่ครับ ผมล่ะตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นฝีมือของคุณมาตั้งนานแล้ว แต่ร้านของคุณจองยากสุดๆไปเลยล่ะครับ” หลี่เหอเองก็กล่าวกับดีนพลางอมยิ้ม
“ด้วยความยินดีครับ ถึงอย่างไรก็เป็นภารกิจของเรานี่ครับ” มีความภาคภูมิใจเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงตาสีฟ้าของดีน
“ถึงฉันจะไม่ได้เอ่ยปากชมอะไรออกมาเลย แต่อันที่จริงแล้วฉันเองก็น้ำลายสอให้กับมีทบอลอยู่ตั้งนานแล้วแหละค่ะ” เจียงเหม่ยซือม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วเตรียมที่จะกินให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถกินได้
“จริงสิ ตอนนี้พวกเราจะกินกันได้หรือยัง? ผมหิวมากเลยนะ” ไป๋กั้วกล่าว
“ดีน พวกเรากำลังจะเริ่มกินแล้วนะครับ” หลี่เหอกล่าวกับดีน
“โอเค เชิญชิมดูเลยครับ” ดีนกล่าวด้วยความมั่นใจ
จากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มลิ้มลองรสชาติ
อิตาเลียนมีทบอลของดีนถูกเคี่ยวอยู่ในน้ำอย่างช้าๆด้วยไฟอ่อน เดิมทีผู้คนจะใช้เตาอบในการทำอิตาเลียนมีทบอล แต่ดีนเชื่อว่าเตาอบไม่สามารถควบคุมชีสที่อยู่ในมีทบอลได้อย่างแม่นยำเท่าไหร่นัก
เพื่อทำให้ชีสมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น ดีนจึงเลือกที่จะเคี่ยวมีทบอลในน้ำด้วยไฟอ่อนเพื่อให้ควบคุมอุณหภูมิได้ดีขึ้น
เมื่อเจียงเหม่ยซือตักมีทบอลขึ้นมาแล้วอ้ามันออกเล็กน้อย ชีสที่อยู่ด้านในก็จะไหลออกมาราวกับซุบข้นหนืด แต่เมื่อเจอเข้ากับอากาศเย็นก็จะกลายเป็นมอสซาเรลลาชีสที่มีลักษณะเป็นเส้น
“ว้าว! ชีสหอมชะมัด! อร่อยมากเลย” เจียงเหม่ยซือยกมีทบอลขึ้นมาตรงหน้าเลนส์กล้องแล้วเผยท่าทีเบิกบานใจออกมาให้เห็น
“ชีสหอมมากเลย มันสามารถระเบิดออกมาได้เหมือนน้ำเกรวี่เลยล่ะ แต่เมื่อไหลออกมาแล้วก็กลายเป็นเส้นบางๆเช่นนี้ทันที น่าสนใจจริงๆ” เจียงเหม่ยซืออธิบายรายละเอียด
“นอกเหนือไปจากนี้มีทบอลก็มีขนาดกะทัดรัดมาก เมื่อตอนที่เคี้ยวก็ให้รสชาติที่อร่อยหนึบหนับ ฉันล่ะอยากจะยกนิ้วหัวแม่มือให้อิตาเลียนมีทบอลเสียจริงๆเชียว” คำอธิบายง่ายๆของเจียงเหม่ยซือทำให้ผู้ชมต่างหิวขึ้นมาแล้ว
ถึงอย่างไรเธอก็มีหน้าที่ในการอธิบายของอร่อยที่พวกเขาลิ้มลองในหลายๆตอนก่อนหน้านี้ สาวสวยที่มาพร้อมอาหารอร่อยมักจะสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้ไม่ยากนัก
คราวนี้เจียงเหม่ยซืออธิบายได้อย่างชัดเจนมากเนื่องจากมีทบอลรสชาติอร่อยมาก แม้แต่ชายหนุ่มที่ยกกล้องขึ้นยังอดที่จะน้ำลายสอไม่ได้
“ซือซือ เธอยังจำสิ่งที่บอกเมื่อคราวที่แล้วได้ไหม?” ทันทีที่เจียงเหม่ยซือกินมีทบอลด้วยความเบิกบานอยู่นั้น จู่ๆไป๋กั้วที่อยู่ข้างๆก็กล่าวกับเธอขึ้นมา
“อะไรงั้นรึ?” เจียงเหม่ยซือเบิกตามองไปทางไป๋กั้วและเผยท่าทีสับสนออกมาให้เห็น
“ซือซือ หลังจากเธอกินเข้าไปก็จะเข้าใจเองแหละ” หลี่เหอที่อยู่ข้างๆกล่าวอย่างสุภาพแล้วขายไป๋กั้วเสียเลย
เจียงเหม่ยซือก้มหน้าลงและพบว่าจานของไป๋กั้วว่างเปล่า แม้แต่น้ำซอสที่ออกแบบเป็นท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับอันแสนสวยงามก็ถูกกินจนเกลี้ยง
“ว้าว! ไป๋กั้ว นายเป็นเดอะแฟลชรึไงกัน? นายกินเร็วมากขนาดนั้นได้ยังไงกันนะ?” เจียงเหม่ยซือกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“เปล่าหรอก ก็แค่มันอร่อยเกินไปก็เท่านั้นแหละ แถมยังอร่อยและสวยอีกต่างหากแน่ะ อันที่จริงแล้วยามปกติฉันก็ออกจะเป็นผู้ใหญ่และใจเย็นแท้ๆ” ไป๋กั้วกล่าวพร้อมแสดงความจริงจังออกมา
“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ นายอยากจะขโมยมีทบอลของฉันสินะ? ไม่ทีทางเสียหรอก” เจียงเหม่ยซือปฏิเสธเสียงแข็ง
“ก็คราวที่แล้วเธอบอกว่าอยากลดน้ำหนักนี่นา มีทั้งเนื้อทั้งชีสเลยนะ เธอกินให้น้อยหน่อยจะดีกว่า” ไป๋กั้วแนะนำเขาอย่างจริงจัง
“ไม่ ไม่ ไม่ นี่เป็นอาหารที่ดีนทำและมีมีทบอลแค่สามลูกเท่านั้น อย่างมากฉันก็น่าจะน้ำหนักขึ้นอีกแค่ 1.5กก.แหละน่า” เจียงเหม่ยซือพ่นลมหายใจออกทางจมูกแล้วปกป้องจานอาหารของตนเองทันที
เจียงเหม่ยซือกับไป๋กั้วกำลังต่สู้แย่งชิงมีทบอลกันอยู่ขณะที่หลี่เหอกำลังแอบคุยกับดีนอยู่ทางด้านข้าง
“ดีน อาหารที่คุณทำอร่อนเกินไปแล้ว แม้แต่ผมเองก็ยังอยากกินอีกที่เลย” หลี่เกอกล่าวอย่างจริงใจ
“ขอบคุณครับ” ดีนพยักหน้าและดูเหมือนจะคุ้นเคยกับคำชมแบบนั้นอยู่แล้ว
“ผมหวังว่าคราวหน้าจะมีโอกาสได้กินอาหารของคุณอีกนะ” หลี่เหอกล่าว “อาหารอร่อยสามารถพิสูจน์ได้ด้วยการกินเท่านั้นจริงๆ”
“แน่นอนว่าต้องมีโอกาสอีกหลายครั้งเลยล่ะครับ” ดีนพยักหน้าโดยไม่ถ่อมตัวแต่อย่างใด
การสื่อสารกันระหว่างดาราทั้งสามคนกับแขกรับเชิญพิเศษเป็นไปอย่างค่อนข้างเป็นกันเอง นอกจากนี้หลี่เหอกับไป๋กั้วเองก็ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ดีนไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ช่าง การนำเสนอจานอันสวยงามไม่ได้หมายความว่าอาหารจะอร่อยเสมอไป สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือรสชาติอร่อย ในขณะนั้นเองจู่ๆก็มีเสียงดังขึ้น ใช่แล้วล่ะ เป็นเสียงทุ้มลึกของเมาส์นั่นเอง
“ฉันเคยได้ยินมาว่ามีวิธีการบางอย่างในสวีดิชมีทบอลด้วย ฉันจะแสดงให้นายดูนะ”
“ไม่มีปัญหา” เพื่อนร่วมงานของเขาตอบอย่างให้ความร่วมมือทันที
ใช่แล้วล่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าเมาส์กับเพื่อนร่วมงานของเขากำลังป่าวประกาศให้อีกฝ่ายได้รับรู้และเตรียมที่จะปล่อยให้ดีนได้สัมผัสกับจุดแข็งของพวกเขา การกระทำเช่นนี้ถูกวางแผนเอาไว้แล้วเมื่อตอนที่ดีนทำอาหารอยู่หน้าร้านหยวนโจวและพยายามยั่วยุเขา เถ้าแก่หยวนอาจจะไม่สนใจเรื่องนี้ แต่การยั่วยุก็คือการยั่วยุซึ่งสมควรต้องจ่ายค่าตอบแทน
พวกเขาอยากให้ดาราพวกนี้กับแขกรับเชิญพิเศษรู้ว่าสวีดิชมีทบอลไม่เพียงแค่หน้าตาน่ากินเท่านั้น แต่ยังเทียบกันไม่ได้เลยในด้านความช่างประดิษฐ์ประดอยอีกด้วย
ในฐานที่เป็นลูกค้า พวกเขาเองสามารถต่อว่าเถ้าแก่หยวนได้สารพัดสารเพ แต่ถ้าหากผู้อื่นอยากจะทำเช่นนั้นแล้วล่ะก็พวกเขาจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น