ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 820-828

 บทที่ 820 ค้นหาสมบัติแบบนี้

Ink Stone_Fantasy

ตำนานที่เกี่ยวกับเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์กำลังกระจายไปทั่วพื้นที่ท่าเรือของเมืองแฮลิแฟกซ์ ชาวประมงก็ร่วมกันกระจายข่าวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ฉินสือโอวไม่รู้ว่าผลงานของตัวเองเริ่มแสดงผลแล้ว เขากำลังค้นหาอัญมณีที่จมอยู่ใต้น้ำอย่างยากลำบาก


1200 ตารางไมล์ นี่เป็นพื้นที่ที่มากกว่า 3000 ตารางกิโลเมตร ไม่น่าแปลกที่บริษัทโอดิสซีย์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะใช้เทคโนโลยีค้นหาที่ก้นมหาสมุทรที่ทันสมัยที่สุดในโลก การใช้คลื่นโซนาร์ค้นหาร่องรอยของซากเรืออับปางที่อาจจะถูกจมอยู่ในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่แบบนี้ มันยากเกินไป!


ก้นมหาสมุทรที่เป็นหลุมเป็นบ่อ อาจจะเจอโขดหินเล็กๆ หรือปะการังและอื่นๆ เป็นครั้งคราว ในข้อมูลที่คลื่นโซนาร์สแกนกลับมา ของพวกนี้เหมือนจะเป็นชิ้นส่วนของเรือรบ


หลังจากการกัดเซาะของกระแสน้ำกับคลื่นทะเลที่ผ่านมาศตวรรษครึ่ง ชิ้นส่วนของเรือรบอาจจะเน่าเปื่อย อาจจะถูกฝังไว้ในทราย หรืออาจจะถูกสาหร่ายกับแพลงก์ตอนจำนวนหนึ่งเกาะเพื่อยึดไว้เป็นรัง ในระยะเวลาสั้นๆ จะหาเจอไหมก็พูดได้ลำบาก


ฉินสือโอวใช้วิธีการค้นหาของด้วยการใช้ไซโคลตรอน นี่จะช่วยประหยัดพลังงานและเวลาในช่วงเวลาที่จำกัดได้มากที่สุด


หลังจากพบน่านน้ำที่เป็นที่ตั้งของอัญมณีใต้น้ำอย่างชัดเจน ฉินสือโอวก็กล่าวลาคนในครอบครัวเพื่อพาชาวประมงกับพวกอาสาสมัครแล่นเรือประมงฮาวิซทตรงไปตามเส้นทางทางใต้ เพื่อมุ่งตรงไปยังน่านน้ำของหมู่เกาะเบอร์มิวด้าที่มีชื่อเสียง


น่านน้ำของหมู่เกาะเบอร์มิวด้าเป็นน่านน้ำที่ลึกลับที่สุดในโลกมาจนถึงตอนนี้ อยู่ห่างจากอเมริกาเหนือประมาณ 900 กว่ากิโลเมตร ห่างจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือของไมอามี รัฐฟลอริดา ทางชายฝั่งทิศตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณ 1100 ไมล์ทะเล ห่างจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแฮลิแฟกซ์ รัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดาประมาณ 840 ไมล์ทะเล และเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครสนใจ


ความเป็นมาของดินแดนนี้ หมู่เกาะเบอร์มิวด้าถือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอังกฤษ และเป็นดินแดนโพ้นทะเลของประเทศอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุด


แต่เพราะน่านน้ำผืนนี้มีสภาพอากาศที่รุนแรงและใต้ทะเลก็มีแนวปะการังปกคลุมอยู่ไปทั่ว ดังนั้นประเทศอังกฤษจึงไม่เคยให้ความสำคัญกับสถานที่แห่งนี้เพียงแต่ปกครองในนามเท่านั้น ความจริงหมู่เกาะแห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของใคร ประเทศอังกฤษก็ไม่สนใจอยู่ดี


หมู่เกาะเบอร์มิวด้ามักเกี่ยวข้องกับคำว่าเรือผีสิง การทรยศหักหลัง ความลึกลับและอื่นๆ น่านน้ำผืนนี้เคยเกิดเรื่องประหลาดมากมายจนนับไม่ถ้วน สมบัติของเรือสาธารณรัฐก็เป็นหนึ่งในนั้น


ใช่ ในเวลานั้นกองทัพเรือสหรัฐไล่ตามไปยังตำแหน่งของเรือโจรสลัดบาร์บารีที่บริเวณน่านน้ำของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ไม่สามารถตรวจสอบตำแหน่งที่แน่นอนได้ เพราะตอนนั้นกองทัพเรือสหรัฐไม่ได้เทียบท่าที่หมู่เกาะเบอร์มิวด้า ดังนั้นจึงยากที่จะตรวจสอบ


ตามที่บริษัทโอดิสซีย์ใช้การคาดเดาจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ในตอนแรกตำแหน่งของซากเรืออับปางควรจะอยู่ห่างจากเกาะทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือไป 800 กว่าไมล์ทะเล ครั้งนี้ฉินสือโอวต้องนำเรือประมงไปที่นั่น แน่นอนว่าการผ่านมายังทะเลน้ำลึกในช่วงที่มีลมฤดูใบไม้ร่วงพัดก็เพื่อดูว่าจะตกปลาได้ไหม


ตลอดการเดินทางเขาไม่เกรงกลัวอันตราย เพราะศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเลเคยพยากรณ์ไว้ว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปอีก 20 วันข้างหน้าที่น่านน้ำของมหาสมุทรแอตแลนติกจะเงียบสงบ ดังนั้นฉินสือโอวจึงกล้าขับเรือฮาวิซทที่เป็นเรือลำเล็กขนาดนี้เข้าไปในทะเลลึก ถ้ามีพายุลูกใหญ่ โชคชะตาของเขาก็คงจะไม่เหลือ


ตามที่จีพีเอสบอกตำแหน่ง ฉินสือโอวมั่นใจว่าเรือฮาวิซทจะเข้าไปที่ใจกลางของน่านน้ำตรงซากเรืออับปางได้ก่อนเวลาที่กำหนด หลังจากนั้นก็ใช้จุดนี้เป็นจุดศูนย์กลาง และเริ่มวนรอบนอกเพื่อขยายพื้นที่ในการค้นหา


สิ่งที่เรียกว่าวิธีการค้นหาแบบไซโคลตรอนคือการเลือกใจกลาง หลังจากนั้นวนออกไปตามเข็มนาฬิกาเพื่อค้นหา ถ้าค้นหาที่รอบนอกสุดยังไม่พบ นั่นก็วนทวนเข็มนาฬิกาอีกรอบ ในช่วงนี้ถ้ายังหาของที่ต้องการไม่พบ นั่นคืออาจจะต้องยอมแพ้


ความลึกของน้ำทะเลที่นี่ลึกมากกว่า 4 กิโลเมตร ใต้น้ำทั้งดำมืดและเยือกเย็น มืดขนาดที่ไม่มีแสง แม้แต่สาหร่ายทะเลยังไม่มี ทั้งหมดนั้นก็คือทะเลทรายแห่งชีวิตนั่นแหละ


แต่เมื่อจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปที่ก้นมหาสมุทร คลื่นใต้น้ำก็พุ่งขึ้นมาจากก้นมหาสมุทรที่ไม่ลึกมากทันที จากนั้นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่ลักษณะเหมือนงูไททันโอโบอาตัวหนึ่งก็โผล่ออกมาจากก้นมหาสมุทร


เจ้าตัวนี้ยาวกว่างูทะเลที่ฟาร์มปลาต้าฉิน ฉินสือโอวประเมินด้วยสายตาว่าอาจจะมีความยาว 30 กว่าเมตร ร่างกายแบนราบ ผิวด้านนอกเป็นสีเทาเข้ม หลังจากที่มันปรากฏตัวก็ส่ายไปส่ายมาสองถึงสามครั้งที่ก้นมหาสมุทร มันพุ่งขึ้นมาพร้อมกับคลื่น ท่าทางดูดุร้ายมาก


ฉินสือโอวตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตแบบนี้ และก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน แต่เขาไม่กลัว เขาต้องการเข้าไปดูลักษณะพิเศษของเจ้าตัวนี้ใกล้ๆ ผลคือมันเหมือนจะรู้สึกถึงการมีอยู่ของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน มันจ้องมองไปยังจุดที่ฉินสือโอวอยู่ด้วยความหวั่นเกรงและว่ายหนีไปอย่างรวดเร็ว


ความเร็วในการเคลื่อนที่ของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้เร็วมาก ร่างกายที่แบนราบและเรียวหมุนตัวได้อย่างว่องไว ระหว่างนั้นฉินสือโอวไม่ได้ไล่ตามและปล่อยให้มันหนีไป


มองดูคร่าวๆ ปลาตัวนี้เหมือนปลาออร์นิดหน่อย แต่ปลาออร์ที่เลี้ยงไว้ก็ไม่ได้ยาวถึง 30 กว่าเมตรหรือเปล่า? ฉินสือโอวส่ายหัวและปล่อยความคิดที่จะสำรวจทิ้งไปในที่สุด เขามาเพื่อค้นหาอัญมณีใต้น้ำ ไม่ใช่มาเพื่อค้นหาสายพันธุ์ของสัตว์ทะเล


จนถึงปัจจุบันนี้ มนุษยชาติสามารถขึ้นไปบนดวงจันทร์กับดาวอังคารได้ แต่สำหรับมหาสมุทร มนุษยชาติไม่เคยเข้าใจอย่างถ่องแท้ ทุกครั้งที่ทำการสำรวจมหาสมุทรจะพบปลาสายพันธุ์ใหม่เสมอ ตอนนี้ภายในมหาสมุทรยังมีปลาสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่ถูกค้นพบและไม่มีใครรู้จักอีกมากแค่ไหน


ดังนั้น ฉินสือโอวไม่ประหลาดใจที่ตัวเขาจะพบกับปลาแปลกๆ ที่ไม่รู้จักแบบนี้ นอกจากนั้นนี่คือเบอร์มิวด้า แหล่งกำเนิดของปาฏิหาริย์


จิตสำนึกแห่งโพไซดอนครั้งหนึ่งสามารถปกคลุมได้จำกัดที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร ฉินสือโอวตีวงเพื่อขยายพื้นที่รอบออก แต่ขยายออกไปไม่กี่ 10 กิโลเมตรก็พบซากเรืออับปางลำหนึ่งแล้ว!


เขาเข้าไปมองใกล้ๆ ด้วยความตื่นเต้น ผลคือพบว่านี่เป็นเรือบรรทุกสินค้ายุคใหม่ลำหนึ่ง ภายในเรือกลไฟมีโครงกระดูกที่เน่าเปื่อยมากมาย แต่ไม่ใช่กระดูกของมนุษย์ แต่เป็นกระดูกของหมูกับแกะ


เขามองไปที่ชื่อเรือ และรู้ว่าไม่ใช่เรือที่เป็นเป้าหมายของเขา เรือลำนี้ชื่อ ‘นักรบทะเลทราย’ แต่เรือโจรสลัดบาร์บารีสองลำนั้น ลำหนึ่งชื่อ ‘ดาบแห่งพระอัลเลาะห์’ ส่วนอีกลำชื่อ ‘แส้โครงกระดูก’


เมื่อเห็นชื่อเรืออย่างชัดเจน ฉินสือโอวก็ส่ายหัวอย่างทนไม่ได้ สมองของกัปตันเรือคนนี้คงลัดวงจรไปแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเรือที่แล่นอยู่บนทะเลจะชื่อ ‘นักรบทะเลทราย’ นี่คงไม่ได้ตั้งใจหาความตื่นเต้นโดยการตั้งตัวเป็นศัตรูกับมหาสมุทรใช่ไหม?


เขาใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมองอยู่บนเรือ นอกจากกระดูกสัตว์ขนาดใหญ่ก็ไม่มีของมีค่าอย่างอื่นเลย ดูเหมือนว่าก่อนที่เรือจะจม ลูกเรือก็ขนเงินกับของมีค่าและอย่างอื่นไปเรียบร้อยแล้ว


เขาขยายออกไปรอบนอกต่อ ห่างออกไปอีกประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร เขาพบซากเรืออับปางอีกหนึ่งลำ ภายในเรือก็ยังคงมีกระดูกสัตว์อยู่ไม่น้อย


ฉินสือโอวตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่ง เดิมทีช่วงต้นปีมีคนจำนวนมากค้นพบว่าหมู่เกาะเบอร์มิวด้าตั้งอยู่บนเส้นทางเดินเรือสายหลักของมหาสมุทรแอตแลนติก ดังนั้นจึงคิดที่จะฉวยโอกาสจากเบอร์มิวด้า เขาตั้งใจจะใช้หมูที่เลี้ยงบนเกาะมาทำเป็นเนื้อสดและนำมาขายให้เรือที่ผ่านไปมา


อย่างไรก็ตาม น่านน้ำเบอร์มิวด้าก็มีสภาพอากาศที่รุนแรงจริงๆ เรือหลายลำที่บรรทุกปศุสัตว์ไว้ต่างก็พ่ายแพ้ต่อสภาพแวดล้อมและจมลงไป หลังจากค่อยๆ จม พวกเขาก็ล้มเลิกความคิดที่จะขึ้นฝั่ง


จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเคลื่อนที่ไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว สาหร่ายทุ่นบางส่วนปรากฏขึ้นมาในวิสัยทัศน์ เมื่อแล่นออกไปจากพื้นที่นิดหน่อย ก้นมหาสมุทรก็เริ่มแสดงถึงสัญญาณของสิ่งมีชีวิต


สาหร่ายทุ่นลอยอยู่ที่ก้นมหาสมุทร ปลาตัวเล็กรูปร่างเหมือนมีดสั้นที่ไม่รู้จักบางส่วนซ่อนตัวอยู่ในนั้นเพื่อจับเหยื่อและใช้ชีวิต มูลของพวกมันกลายเป็นสารอาหารของสาหร่ายทุ่นได้อีกด้วย แบบนี้เป็นความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันที่เกิดขึ้นได้ง่าย


ฉินสือโอวเพลิดเพลินอยู่กับสาหร่ายทุ่นสีเขียวเข้มแห่งนี้และใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำ สาหร่ายทุ่นที่ปกคลุมพื้นที่อยู่ถูกยกขึ้น หลังจากนั้นซากเรืออับปางครึ่งลำก็เผยออกมาในลักษณะที่ไม่ชัดเจน


ไม่คาดคิดว่าการค้นพบครั้งนี้จะทำให้มีความสุข ฉินสือโอวไม่ได้คาดการณ์ไว้ว่าข้างใต้ของสาหร่ายทุ่นจะเจอกับอะไร ผลคือหลังจากที่เขายกสาหร่ายทุ่นขึ้น นึกไม่ถึงว่าจะพบอะไรบางอย่าง


เพียงแต่ไม่รู้ว่า นี่ใช่เรือโจรสลัดสองลำนั้นที่เขาตามหาหรือเปล่า…


บทที่ 821 ภารกิจที่สอง

Ink Stone_Fantasy

ส่วนที่ถูกสาหร่ายทุ่นพันเอาไว้คือเรือครึ่งลำหรือครึ่งเดียวของเรือ เรือลำนี้พังจนทรุดโทรมไปแล้ว ทำได้แค่มองดูรูปทรงของมันด้วยความยากลำบากก็พบว่าเป็นส่วนท้ายของเรือลำหนึ่ง


ตัวเรือคว่ำลงติดอยู่กับก้นทะเล ด้านบนเต็มไปด้วยโพรงขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หมึกกระดองตัวเล็กจำนวนหนึ่งเข้าออกจากข้างในนั้น ชัดเจนว่าที่นี่กลายเป็นรังของพวกมันไปแล้ว


นอกจากนั้น บริเวณรอบๆ นี้มีปลาตัวเล็กสีสันสวยงามอาศัยอยู่สายพันธุ์หนึ่ง ปลาพวกนี้กินใบของสาหร่ายทุ่นเป็นอาหาร ส่วนหัวกับส่วนหลังเป็นสีฟ้าอ่อน ลำตัวเป็นสีเหลืองประปราย ส่วนท้องเป็นสีขี้เถ้า ดูเหมือนกับมีดเล่มเล็กเล่มหนึ่ง


โพรงที่ท้ายเรือมีขนาดใหญ่ที่สุด ตัวเรือครึ่งหนึ่งถูกทำลายไป นี่น่าจะเป็นผลงานของกองทัพเรือสหรัฐในตอนนั้น และก็เป็นสาเหตุที่นำไปสู่การจมของมัน


ฉินสือโอวควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้เข้าไปภายในเรือ ด้านในยังคงมีกระดูกที่ผุพัง เขากำลังสังเกตอย่างละเอียด จู่ๆ ส่วนหัวของโครงกระดูกคนคนหนึ่งก็ขยับและหมุนขึ้นมา


สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของฉินสือโอวซีดลงไปด้วยความกลัว ฟัค นี่ต้องเร้าใจขนาดนี้ไหม ยังมีเรือผีอยู่จริงๆ เหรอ?


ผลออกมาอย่างรวดเร็ว หมึกกล้วยตัวหนึ่งโน้มตัวออกมาจากข้างในหัวของโครงกระดูกและจ้องมองเขา มันน่าจะรู้สึกถึงจิตสำนึกแห่งโพไซดอน จึงว่ายมาที่นี่โดยเฉพาะ


ฉินสือโอวเขวี้ยงหัวกะโหลกที่หมุนออกไปด้วยความโกรธ แม่งทำให้เขากลัวจริงๆ


สิ่งที่เขาต้องค้นหาคือเหรียญทองกับเหรียญเงิน เพียงแต่เขาเดินอยู่ในเคบินเรือเป็นสัปดาห์ เจอหีบอยู่หลายใบ แต่ด้านในก็มีแค่หมึกกระดองยักษ์ ไม่มีเหรียญทองกับเหรียญเงินเลย


ตอนแรกฉินสือโอวคิดว่าตัวเองค้นหาเรือผิดลำ เขามองดูหีบพวกนี้อย่างละเอียดก่อนที่จะออกไป บนหีบมีตัวอักษรของอเมริกาเหนือคำว่า ยูเอสเอ ชัดเจนว่านี่เป็นของของสหรัฐอเมริกา


ภายในเคบินเรือมีของหลายอย่างเช่นโคลน สาหร่าย มูลสัตว์และอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดชั้นหนาๆ ขึ้นชั้นหนึ่ง


เมื่อเห็นสิ่งนี้ ภายในใจของฉินสือโอวก็เต้นรัว เขาใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนผสมกับคลื่นทะเลเพื่อจัดการสิ่งสกปรกชั้นนี้


คลื่นลูกใหญ่ชะล้างทรายไปพร้อมกับน้ำที่ไหลผ่านไปจนตะกอนลอยขึ้นมา ของที่หนักมากจำนวนหนึ่งก็ตกลงมา ภายในนั้นมีแผ่นโลหะหลาย 10 แผ่น


เมื่อเห็นแผ่นโลหะพวกนี้ ฉินสือโอวประหลาดใจมาก นี่ควรจะเป็นเหรียญทองกับเหรียญเงินไม่ใช่เหรอ?


เมื่อหยิบขึ้นมาดู เขาก็รู้สึกผิดหวัง ของสิ่งนี้เป็นสนิมหมดแล้ว ด้านบนมีคราบสนิมทองแดงเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีซากกับสารหลั่งของพวกแพลงก์ตอนอยู่จำนวนหนึ่งด้วย เขาไม่เคยเห็นลักษณะที่แท้จริงของแผ่นโลหะพวกนี้


ทองกับเงินเป็นโลหะเฉื่อย ยากมากที่จะเป็นสนิม แต่เหรียญทองกับเหรียญเงินของสหรัฐอเมริกาไม่ใช่เหรียญทองคำบริสุทธิ์ ด้านในมีทองแดง เหล็กและดีบุกผสมอยู่เป็นจำนวนมาก ของพวกนี้จะเป็นสนิมง่ายมากเมื่อแช่อยู่ในน้ำ


เขาเก็บกวาดแผ่นโลหะและพยายามปัดกวาดสิ่งสกปรกที่ตกอยู่ด้านบน อินทรีหัวขาวที่มีสีเหลืองเข้มตัวหนึ่งแสดงถึงลักษณะอันน่าเกรงขามและยิ่งใหญ่ของมัน เมื่อเห็นสิ่งนี้ฉินสือโอวก็มั่นใจแล้วว่า เขาหาเรือโจรสลัดหนึ่งในสองลำเจอแล้ว


เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดนิดหน่อยก็คือ เหรียญทองกับเหรียญเงินพวกนี้กลายเป็นสนิมแบบนี้ สุดท้ายจะยังมีมูลค่าอยู่ไหม? เขาไม่ได้คิดว่าค่าใช้จ่ายในการทำงานอย่างหนักเพื่อค้นหาเหรียญทองกับเหรียญเงินพวกนี้ ท้ายที่สุดเขาได้แค่นำไปหลอมและขายทองกับเงิน นั่นไม่มีค่าอะไรเลย


ครั้งก่อนเขาเจอของที่เป็นทองกับเงินมากมายขนาดนั้นจากเรือไททานิค หลังจากนำมาหลอมและขายทั้งหมดยังได้ไม่ถึง 50 ล้าน และทำให้หุ้นส่วนของฉินหดหู่อย่างมาก


อย่างไรก็ตาม เขาเจอส่วนหนึ่งของซากเรืออับปางแล้วจริงๆ และภารกิจของเขาก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนที่เหลือก็ส่งต่อให้บิลลี่และคนอื่นๆ บิลลี่รับผิดชอบค้นหาที่ตั้งของซากเรืออับปางลำอื่นและกู้ซากเรืออับปาง


ส่วนที่ตั้งของซากเรืออับปางส่วนที่เหลืออยู่ที่ไหน กู้ได้หรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่หน้าที่ของฉินสือโอว หน้าที่ของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว


เขากับบิลลี่และคนอื่นๆ เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เขาจะทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว


หลังจากคุยผ่านโทรศัพท์ดาวเทียม บิลลี่ก็รู้ว่าฉินสือโอวเจอหนึ่งในซากเรืออับปางของโจรสลัดแล้ว เขากระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้นในทันทีและพูดว่า “โอเค เพื่อน นายทิ้งทุ่นและจำพิกัดไว้ ฉันจะไปถึงในอีกประมาณห้าวันหลังจากนี้ ส่วนที่เหลือให้ฉันจัดการต่อเอง!”


ภารกิจแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็เข้าสู่ภารกิจที่สอง ฉินสือโอวเดินออกมาจากเคบินเรือและถามว่า “พวกนายหาแหล่งจับปลาเจอแล้วใช่ไหม? พวกเราไม่ได้ออกไปจับปลามานานมาก ก็ควรจะให้มหาสมุทรแอตแลนติกได้รับรู้ถึงความสามารถของพวกเราสักหน่อย!”


ชาร์คแกว่งหมัดและพูดว่า “บอส เห็นความแข็งแกร่งของพวกผมแล้วสินะครับ มหาสมุทรแอตแลนติกใต้ถือเป็นขุมทรัพย์แห่งหนึ่ง ผมคิดว่าการเดินทางครั้งนี้ การเก็บเกี่ยวของพวกเราคงจะไม่แย่มาก…”


บูลและคนอื่นก็แกว่งหมัดส่งเสริมตะโกนดังก้อง ระหว่างนั้นเสียงคำรามเหมือนกับหมาป่าก็ดังไปทั่วทั้งเรือฮาวิซท พวกชาวประมงต่างก็ปลุกใจตัวเอง


แอร์แบ็คมองพวกชาวประมงด้วยความประหลาดใจ เมื่อเสียงตะโกนของพวกเขาเบาลง เขาจึงพูดว่า “งั้นตกลงพวกเราจะไปจับอะไรกัน? หลังจากฟังพวกนายตะโกนอยู่ตั้งนาน ฉันก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย”


ฉินสือโอวจ้องมองพวกชาวประมง ใช่ เขาก็มีคำถามนี้อยู่


ชาร์คกระแอมด้วยความเขินอายออกมาทีหนึ่ง “เจออะไรฉันก็จับอันนั้น น่านน้ำผืนนี้มีอะไรเป็นพิเศษ อันที่จริงพวกเราก็ไม่แน่ใจ…”


สีหน้าของฉินสือโอวไม่สู้ดีนัก พวกนายเป็นชาวประมงมืออาชีพไม่ใช่เหรอ? เขาทุ่มเงินจำนวนมากเลี้ยงดูพวกนาย สุดท้ายเมื่อถึงเวลาใช้งานพวกนาย พวกนายก็พูดประโยคนี้กับฉัน?


ปากของบูลเหยียดตรงอย่างรวดเร็ว เขาเห็นว่าฉินสือโอวไม่ชอบใจจึงพูดด้วยความรู้สึกผิดว่า “บอสครับ นี่ไม่ใช่น่านน้ำที่พวกเราเลือก นี่เป็นน่านน้ำที่คุณเลือก คุณยืนยันว่าต้องมาจับปลาที่นี่ พวกเรายังคิดว่าคุณรู้ว่าที่นี่มีปลาอะไรดีเลยครับ”


พวกชาวประมงพยักหน้าอย่างหนัก บูลพูดคำพูดที่พวกเขาคิดแต่ไม่กล้าพูดออกมา


ฉินสือโอวไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล บูลพูดแบบนั้นเขาก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ ใช่ เขาเป็นคนเลือกน่านน้ำผืนนี้ ไม่ใช่พวกชาวประมงที่เป็นคนเลือก ดังนั้นตามกฎแล้ว มันจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาว่ามาจับอะไร


งั้นจับอะไรล่ะ? ฉินสือโอวเกาที่หลังหัวและพูดว่า “พวกนายรู้จักความเก่งกาจของกัปตันดี ฉันรู้ว่าน่านน้ำผืนนี้มีปลาเศรษฐกิจที่ล้ำค่ามาก แต่ถ้าเจาะจงว่าคืออะไร ฉันยังคิดว่าพวกเราต้องจับมาก่อน เห็นแล้วถึงจะรู้…”


นี่เป็นแค่ข้ออ้างของเขา แต่พวกชาวประมงกลับเชื่อ เพราะพวกเขานึกถึง ‘ห้าธาตุพิชิตมังกร’ ที่ตกทอดกันมาภายในครอบครัวของฉินสือโอว สิ่งนั้นมีประสิทธิภาพอย่างมาก


“อาจจะเป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินใช่ไหมครับ?” พวกชาวประมงถามอย่างมีความหวัง


ฉินสือโอวยักไหล่และพูดว่า “มันไม่เหมือนกัน ต่อจากนี้ทุกคนจะต้องเหวี่ยงแหด้วยความอดทน จนกว่าจะเก็บเกี่ยวได้บ้าง”


ผลจากการเหวี่ยงแหหนึ่งวัน ผลการเก็บเกี่ยวของพวกเขาก็คือปลาจะละเม็ดขาวฝูงหนึ่ง


ปลาจะละเม็ดขาวเป็นปลาทะเลสายพันธุ์หนึ่งที่ชอบอาศัยอยู่ที่ในน่านน้ำระดับกลางถึงบน ผิวของมันเป็นสีเงินสว่าง ทั้งสวยงามและอร่อย ภายในตัวมีก้างน้อย เนื้อเยอะ แม้ว่าขนาดจะไม่ใหญ่ปกติน้ำหนักแค่ 1 ถึง 2 กิโลกรัม แต่คุณค่าทางเศรษฐกิจถือว่าไม่เลว


การจับปลาจะละเม็ดขาวพวกนี้ได้เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ อวนจับปลาถูกลากไปตามทางอยู่พักหนึ่ง เครื่องมือค้นหาปลาด้วยคลื่นโซนาร์ยังไม่ทันเจอฝูงปลาฝูงใหญ่ ชาร์คก็สั่งให้ดึงอวนขึ้น ผลคือด้านในมีปลาพวกนี้อยู่


เพราะปลาสายพันธุ์นี้มีขนาดเล็กเกินไป ฝูงปลาจึงไม่กระจุกตัวกัน ดังนั้นจึงยากเป็นพิเศษที่จะพบพวกมันในการจับปลาที่ทะเลน้ำลึก การจับปลาจะละเม็ดขาวส่วนใหญ่จะได้มาจากริมฝั่ง


หลังจากเจอปลาจะละเม็ดขาว พวกชาวประมงก็ขยายขอบเขตการจับปลา ปลาจะละเม็ดขาวค่อนข้างสงบนิ่ง ไม่ค่อยชอบเคลื่อนไหวไปทั่ว ขอเพียงแค่เจอที่ตั้งคร่าวๆ ก็สามารถจับปลาได้อย่างสบายใจแล้ว


เพียงแต่พวกมันรวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่น้อยมาก เรือฮาวิซทจับปลามาตลอดบ่าย และก็จับได้ตั้งสี่ถึงห้าตัน


บทที่ 822 สมบัติของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้

Ink Stone_Fantasy

ยามกลางคืนคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ ลมทะเลที่มหาสมุทรแอตแลนติกเริ่มพัดหนักขึ้นเรื่อยๆ รัฐนิวฟันด์แลนด์ตอนเดือนกันยายนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ลมทะเลยังคงอบอุ่น พวกชาวประมงหลายคนจึงปล่อยแขนโล่ง


ใกล้ภูเขากินหิน ใกล้ทะเลดื่มน้ำเกลือ สุดท้ายปลาจะละเม็ดที่จับมา ในคืนนั้นพวกชาวประมงก็กินปลาพันธุ์นี้ นอกจากนั้นยังมีปลาหางเหลืองอีกสองตัว แซ็กเคี่ยวมันในหม้อแล้ว หม้อส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่องและมีกลิ่นหอมลอยออกมา


สำหรับปลาจะละเม็ดขาว สูตรที่ฉินสือโอวรู้ก็คือพรมน้ำมันกับทำสตู แซ็กเป็นพ่อครัวเก่า เขาเลือกสูตรที่ค่อนข้างหาดูได้ยากวิธีหนึ่ง นั่นก็คือสลัดปลาจะละเม็ดขาว


พวกชาวประมงเลือกปลาสิบกว่าตัวที่อ้วนที่สุดตามคำแนะนำของแซ็กไปตัดเหงือก ขอดเกล็ด ล้างอวัยวะภายใน หลังจากนั้นก็ตัดออกเป็นส่วนๆ แล้วใช้เกลือ ผงปรุงรส ไวน์สำหรับทำอาหาร ต้นหอม ขิง แล้วนำมาหมักเข้าด้วยกัน


ฉินสือโอวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “นี่ ปกติอาหารสไตล์ตะวันตกที่ทำจากปลาก็ต้องใช้ไวน์สำหรับทำอาหารกับต้นหอม ขิงและกระเทียมด้วยเหรอ? ถือเป็นของหายากหรือเปล่า?”


แซ็กยิ้มอย่างเขินอาย “ไม่ครับกัปตัน สิ่งสำคัญคือผมเห็นคุณชอบกินปลาที่หมักออกมาแบบนี้ ดังนั้นผมก็เลยทำแบบนี้ เพราะผมต้องดูแลเรื่องรสชาติอาหารของคุณ”


“โอ้โห เป็นคำพูดประจบประแจงที่ดังและชัดเจนดี” ชาร์คยิ้มเยาะและคนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะ


แซ็กมองชาร์คและเบ้ปากก่อนพูดว่า “เฮ้ เพื่อน อย่ามาพูดประชดประชันกันเลย ถ้านายเริ่มให้เงินเดือน 6000 ฉันทุกเดือน แน่นอนว่าทุกวันฉันก็จะทำอาหารให้นาย นายอยากกินขี้หมา ฉันก็จะทำขี้หมาทอด…”


“ไปตายซะ นายกินขี้หมาที่เอาไปทอดเองเถอะ” ชาร์คพูด


แซ็กยักไหล่และพูดว่า “โอเค งั้นก็เป็นสลัดขี้หมา แต่พูดถึงรสชาติอาหารของนายก็แปลกจริง ๆ รสชาติของน้ำสลัดที่ผสมกับขี้อร่อยเหรอ?”


พวกชาวประมงหัวเราะออกมาเสียงดังอีกครั้ง บูลผิวปากใส่ชาร์คและหัวเราะเสียงดัง “หัวหน้าชาร์ค คุณถูกเล่นแล้ว!”


ชาร์คเขวี้ยงปลาจะละเม็ดขาวชิ้นหนึ่งไปทางแซ็กและทั้งสองคนก็เริ่มต่อสู้กันที่ดาดฟ้าเรือ


แอร์แบ็คหัวเราะคิกคัก เขาเก็บชิ้นปลาที่หมักไว้เป็นอย่างดีและนำไปที่ห้องครัวก่อนจะเริ่มทำอาหาร


ฉินสือโอวยืนอยู่ที่ประตูและถามว่า “นายก็ทำเป็นเหรอ?”


แอร์แบ็คอุ่นน้ำมันให้ร้อนอย่างชำนาญและยิ้ม “แน่นอนครับบอส ทำเป็นแน่นอนครับ ผมคือแอร์แบ็ค ตอนอยู่ที่กองทัพ เรื่องของการขนส่งต้องยกให้ผมทำ เรื่องที่ทุกคนไม่ชอบก็ส่งให้ผมทำ”


ฉินสือโอวชอบทหารวัยกลางคนคนนี้มาก แม้ว่าอายุจะไม่น้อยแล้ว แต่ทัศนคติของเขายังวัยรุ่นมาก เขายิ้มอยู่ตลอดเวลา บางคนตะโกนให้เขาช่วยเหลือก็ไม่เคยพูดอะไรมากและแน่นอนว่าไปช่วยด้วย


แอร์แบ็ครอน้ำมันเริ่มเดือดและนำชิ้นปลาชุบเกล็ดขนมปังใส่เข้าไปในหม้อ หลังจากนั้นก็รอปลาทอดจนสุกและนำออกมา ผสมเครื่องปรุงรสกับน้ำสลัดและปลาเข้าด้วยกันเป็นอันเรียบร้อย


ฉินสือโอวมองดูวิธีการทำอยู่เงียบๆ กับข้าวจานนี้ทำง่ายจริงและไม่ซับซ้อนเหมือนสตูปลาจะละเม็ดขาวเลย


ทว่าหลังจากฉินสือโอวกินไปหนึ่งชิ้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ รสชาติไม่เลวเลย เนื้อปลาจะละเม็ดขาวทั้งอร่อยและชุ่มไปด้วยไขมัน ชิ้นปลาใช้น้ำมันทอดจนกรุบกรอบและใส่น้ำสลัดที่รสชาติแตกต่างกัน เมื่อกินพร้อมกันรสชาติจึงไม่เลว


สตูปลาแมคเคอเรลถูกเทออกจากหม้อ พวกชาวประมงทุกคนนำกล่องอาหารกลางวันมาใส่เนื้อปลากับชิ้นปลา ตามด้วยเนื้อวัวย่างที่นำมาจากเกาะ อีกคนก็นำเบียร์แช่เย็นขวดหนึ่งมาให้ทำให้เป็นอาหารเย็นที่น่าพอใจ


ชาร์คกินไปด้วยและคำนวณบัญชีของครั้งนี้ไปด้วย ราคาขายส่งของปลาจะละเม็ดขาวประมาณหนึ่งปอนด์ขายได้ห้าถึงหกดอลลาร์แคนาดา รัฐนิวฟันด์แลนด์สามารถขายได้แพงขึ้นอีกนิดหน่อย เพราะมหาสมุทรแอตแลนติกไม่ค่อยมีผลผลิตของปลาสายพันธุ์นี้ มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกกับมหาสมุทรอินเดียถึงจะเป็นมหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์


ดังนั้นปลาจะละเม็ดขาว 5 ตันกว่าก็สามารถทำเงินได้ 5 ถึง 6 หมื่นแล้ว


แต่พวกชาวประมงก็ยังไม่พอใจ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวหนึ่งที่จับมาสามารถขายได้แสนกว่าดอลลาร์ พวกเขารีบเดินทางไปยังน่านน้ำแห่งนี้ด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ไม่ใช่เพื่อเงิน 5 ถึง 6 หมื่น เพราะแค่ค่าน้ำมันก็ยังไม่พอ ยังไม่รวมค่าแรงอีก


ฉินสือโอวไม่มีแผนว่าจะทำอะไรกับปลาพวกนี้ ต้องนำกลับไปขายส่งที่รัฐนิวฟันด์แลนด์เหรอ? ไมอามีอยู่ไม่ไกลจากเบอร์มิวด้า เขาส่งไปให้บัตเลอร์โดยตรงก็จบแล้วไม่ใช่เหรอไง?


เนื่องจากปลาจะละเม็ดขาวทั้งตัวเป็นเนื้อ มีก้างน้อยและรสชาติของเนื้อก็อร่อย ดังนั้นไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมื่อเจอแล้วก็จับมาอย่างล้นเหลือ ตอนนี้จำนวนจึงลดลงไปมาก มูลค่าที่อยู่ในรายการของตลาดอาหารทะเลเพิ่มขึ้นอย่างมาก บางพื้นที่มันก็กลายเป็นสินค้าทางทะเลระดับสูง


ถ้าค้าปลีก ปลาจะละเม็ดขาวพวกนี้จะขายได้ตัวละ 2 แสนก็ไม่มีปัญหา นี่ก็คือพลังของช่องทาง ถ้าไม่มีช่องทางก็แค่ขายในราคาที่ถูกลง


แอร์แบ็คกินปลาทอดและดื่มเบียร์ของตัวเองพร้อมกับหัวเราะ บูลที่อยู่ข้างๆ ก็ย้ายก้นไปและพูดว่า “สหาย นายอย่าหัวเราะออกมากะทันหันแบบนี้สิ มันเหมือนกับคนบ้าเลยนะ มันน่ากลัว พระเจ้า มันน่ากลัว!”


แอร์แบ็คหัวเราะฮิฮิและพูดว่า “ถ้าฉันหัวเราะอย่างมีความสุขก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?”


“หัวเราะอย่างมีความสุขเป็นอย่างไร?”


ทริกเกอร์ผู้เงียบขรึมวางกล่องข้าวลงและพูดว่า “สำหรับพวกนาย อาหารเย็นแบบนี้คงเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับพวกฉัน ต้องมีเงินเดือนสูงถึงจะสามารถนั่งรับลมทะเลพร้อมกับกินอาหารทะเลแล้วดื่มเบียร์ไปด้วยได้ แถมไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนออกมาแว้งกัดจากที่ลับอีก แค่นั้นก็มีความสุขแล้ว”


แอร์แบ็คยกขวดเบียร์ขึ้นและพูดเสียงดังว่า “ใช่แล้วสหาย นี่ถือเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก มาเถอะ ดื่มให้กับความสุขของพวกเรา!”


พวกชาวประมงตะโกนเสียงเชียร์และเงยหน้าเทเบียร์ใส่ปาก


ชาร์ควางแผนให้พวกชาวประมงเฝ้าดูตลอดทั้งคืน เพราะบูลพาคนไปทำความสะอาดเบ็ดตกปลาที่อยู่ท้ายเรือ ตอนกลางคืนจึงไม่มีคนดูแล ปลาตัวใหญ่จะติดเบ็ด หลังจากนั้นเบ็ดตกปลาจะพาวิ่งไปรอบๆ ดังนั้นตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องนำออกมา


ตอนที่ทำความสะอาดเบ็ดตกปลา ทันใดนั้นบูลก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “เฮ้ย พระเจ้า ไม่คาดคิดว่าจะมีสิ่งนี้อยู่?!”


เดิมทีฉินสือโอวไม่ได้สนใจ เพราะบูลคนนี้ชอบตกใจเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากที่ชาวประมงคนอื่นๆ เข้าไปมุงดูและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจอย่างต่อเนื่องจึงไปกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเขา เขาจึงเดินไปดู


ภายในมือของบูลถือปลาตัวเล็กขนาดไม่ถึง 20 เซนติเมตรตัวหนึ่งไว้ ปลาตัวนี้คล้ายกับปลากะตักนิดหน่อย ตัวยาวและแบน ความโค้งจากส่วนหัวไปจนถึงส่วนหางจะค่อยๆ เรียว หน้าท้องเรียบและกลม ขากรรไกรยาวเกินฐานของครีบออกไปอีก


มองดูโดยรวมแล้ว ปลาตัวนี้เหมือนเซเบอร์ โดยเฉพาะส่วนหางที่รูปร่างเหมือนกริชอย่างชัดเจนเป็นพิเศษ หัวและหลังของมันเป็นสีฟ้า ลำตัวเป็นสีเหลือง หน้าท้องเป็นสีขาว ส่วนครีบก็เป็นสีเบจ


ฉินสือโอวมองแล้วก็รู้ทันทีว่าสิ่งนี้คืออะไร ปลาสายพันธุ์นี้จำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ในสาหร่ายทุ่นที่อยู่รอบๆ ซากเรืออับปาง เขาเพิ่งจะเคยเจอที่ก้นทะเล เพราะปลาตัวเล็กเกินไป ฝูงปลาก็ไม่ใหญ่จึงไม่ได้สนใจ


ตอนนี้ดูเหมือนปลาสายพันธุ์นี้จะดูแปลกนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นหลังจากที่พวกชาวประมงมองมันก็คงไม่ตื่นเต้นขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงอยากถามลักษณะเฉพาะของปลาตัวนี้ ผลคือยังไม่ทันเปิดปาก แอร์แบ็คที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการประมงก็ถามแทนเขาแล้วว่า “ปลาตัวเล็กตัวนี้คือปลาอะไรเหรอ?”


ชาร์คยิ้มและตอบว่า “นี่ก็คือไข่มุกของมหาสมุทรแอตแลนติกไงสหาย ที่มาของมันนั่นยิ่งใหญ่มาก นี่เป็นปลาสายพันธุ์หนึ่งที่มีค่าอย่างมาก”


“สรุปมันคืออะไร?”


“ปลาคลอเลียนาซัสฟุโชว!”


เมื่อฉินสือโอวได้ยินชื่อ ‘ปลาคลอเลียนาซัส’ นี้ ภายในใจของเขาก็เต้นรัวและถามว่า “ปลาคลอเลียนาซัส? ปลาสายพันธุ์นี้ที่เกิดในแม่น้ำและเติบโตในทะเลใช่ไหม?”


เกิดในแม่น้ำและเติบโตในทะเลเป็นศัพท์สแลงของชาวประมงประโยคหนึ่งที่รัฐนิวฟันด์แลนด์ ซึ่งหมายถึงปลาที่ต้องโยกย้ายไปยังน้ำจืดเพื่อวางไข่แต่สุดท้ายก็กลับมาเติบโตและล่าเหยื่อที่มหาสมุทร ตัวอย่างเช่นปลาเเซลมอนแปซิฟิกก็เป็นปลาประเภทนี้


เหตุผลที่ถามแบบนี้เป็นเพราะฉินสือโอวคิดถึงปลาที่มีชื่อเสียงอีกสายพันธุ์หนึ่ง ‘ปลาดาบแยงซี’


เขาจำได้รางๆ ว่าชื่อทางวิทยาศาสตร์ของปลาดาบแยงซีก็ดูคล้ายกับปลาคลอเลียนาซัส


บทที่ 823 ทีมกอบกู้มาถึงแล้ว

Ink Stone_Fantasy

สาเหตุที่ทำให้เขาประทับใจ เป็นเพราะเรื่องตลกเรื่องหนึ่งที่ฉินสือโอวเคยทำตอนที่ไปโรงเรียน ในตอนนั้นเขาได้ยินเพื่อนร่วมชั้นจากทางใต้พูดว่าปลาดาบแยงซีอร่อยมากๆ ก็เลยพูดออกไปโง่ๆ ว่าปลากะตักมีอะไรอร่อย คงไม่อร่อยเท่าปลาอินทรีบั้งหรอก


เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เพื่อนร่วมชั้นจากทางเหนือยังไม่ทันพูดอะไร เพื่อนร่วมชั้นจากทางใต้ก็หัวเราะขึ้นมา หลังจากนั้นก็บอกเขาว่าปลาดาบแยงซีเป็นปลาทั่วๆ ไปพันธุ์หนึ่ง แน่นอนว่าปลาพันธุ์นี้มีชื่อเรียกจริงๆ ว่าปลาแยงซีคลอเลียซึ่งไม่ใช่ ‘ปลากะตัก’ ท้องถิ่นของเมืองไหเต่า


เมืองไหเต่า ความจริงปลากะตักก็คือปลาดาบ แน่นอนว่าฉินสือโอวไม่รู้ว่าปลาดาบมันอร่อยตรงไหน…


เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ชาร์คก็พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ครับ ปกติปลาคลอเลียนาซัสมักจะอาศัยอยู่ในทะเล ทุกปีเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง พ่อพันธุ์แม่พันธุ์จะว่ายจากทะเลเข้าไปในแม่น้ำซึ่งเป็นการย้ายถิ่นฐานเพื่อทำการสืบพันธุ์ หลังจากไข่ปลาฟักออกมา ปลาตัวเล็กจะถูกเลี้ยงดูจนเติบโตและจะกลับไปใช้ชีวิตที่ทะเลอีกครั้งในปีที่สอง”


“ปลาพันธุ์นี้แพงมากไหม?” แอร์แบ็คถาม ฉินสือโอวมองเขาและพยักหน้า สหายคนนี้มีค่าแก่การเลี้ยงดู ทุกคำถามล้วนเป็นเรื่องที่เจ้านายต้องการรู้


ชาร์คยกนิ้วให้อย่างคุยโว “แน่นอนว่าล้ำค่ามาก ปลาพันธุ์นี้จับยากมาก พวกมันมีจำนวนน้อย เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงมันก็จะว่ายไปที่ก้นทะเลตรงน้ำทะเลลึกเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว นายดูขนาดของพวกมันสิ ปลาตัวเล็กขนาดนี้อาศัยอยู่ที่ก้นทะเลตรงน้ำทะเลลึก พวกเราจะจับได้อย่างไร?”


“ดังนั้น คนที่ต้องการจับปลาคลอเลียนาซัสก็สามารถจับได้ที่แม่น้ำในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือใช้เบ็ดตกปลามาตกเท่านั้น แต่เพราะจำนวนของปลาสายพันธุ์นี้ลดลงอย่างมาก รัฐฟลอริดาก็เลยไม่อนุญาตให้ใช้อวนจับปลาในแม่น้ำแล้ว ตอนนี้ราคาเลยสูงมาก”


บูลเลียริมฝีปากและพูดว่า “รสชาติของปลาสายพันธุ์นี้อร่อยมาก ภายในเนื้อปลาอุดมไปด้วยกรดอะมิโนไฮโดรไลซ์ กรดอะมิโนอิสระ กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว องค์ประกอบทางเคมีของแร่ธาตุและอื่นๆ คนจึงให้ราคาสูงอย่างไม่น่าเชื่อ”


“รู้ไหมว่าปลาตัวเล็กตัวนี้ราคาเท่าไหร่?” ฉินสือโอวชิงลงมือก่อน เขาชี้ไปที่ปลาขนาด 20 กว่าเซนติเมตรตัวนี้ที่บูลถือไว้ในมือแล้วถาม


เขาจำได้ว่าราคาของปลาแยงซีคลอเลียแพงมาก แต่ก็หวังว่าปลาอเมริกาคลอเลียจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง


แอร์แบ็คส่ายหัว บูลให้คำตอบที่น่าพอใจกับฉินสือโอวว่า “กลัวพูดออกมาแล้วคุณจะช็อกตาย ปลาตัวนี้สามารถวางขายที่ตลาดได้ตัวละ 5000 ! ใช่ครับ ปลาตัวเล็กบ้าๆ ตัวนี้ขายได้ 5000!”


เมื่อฉินสือโอวได้ยินประโยคนี้ก็ยินดีปรีดาขึ้นมาในทันที เขาเจอปลาสายพันธุ์นี้หลายตัวอยู่ที่ก้นทะเล แน่นอนว่าขอบเขตของฝูงปลาแสนวิเศษพวกนั้นไม่ใช่ที่ฟาร์มปลาของเขา แต่อย่างน้อยก็มีอยู่เป็นพันตัว


แบบนั้นก็พูดได้ว่ามีเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐนอนอยู่ที่ก้นทะเล


ถ้าจับปลาสายพันธุ์นี้ที่ก้นทะเลทั้งหมดได้ กำไรของการออกทะเลครั้งนี้จะล้นหลามอย่างแน่นอน ฉินสือโอวแค่ต้องเตรียมพูดโกหกว่าเขาใช้เทคนิคห้าองค์ประกอบในการล่ามังกรค้นหาฝูงปลา แต่สิ่งที่คิดได้นั้นมันไม่ถูกต้อง ตัวเขาต้องทำเหมือนเป็นโพไซดอนและการทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่โพไซดอนควรทำ


หลังจากที่เขาเข้าใจนิดหน่อยแล้วว่าปลาคลอเลียนาซัสเป็นปลาทางเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงมาก ก่อนหน้านี้ที่บูลบอกว่าปลาสายพันธุ์นี้เป็นขุมทรัพย์ของมหาสมุทรแอตแลนติกนั้นไม่ได้พูดเกินจริงเลย ตอนนี้ตลาดอาหารทะเลจะมีปลาสายพันธุ์นี้กับปลาทูน่าครีบน้ำเงินถูกนำมาพูดเปรียบเทียบกัน ราคาของปลาคลอเลียที่สภาพดีตัวหนึ่งเมื่อเทียบกับปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็ถูกกว่าไม่เท่าไหร่


เมื่อก่อนฉินสือโอวรู้จักแค่ปลาแยงซีคลอเลีย เดิมทีปลาสายพันธุ์นี้มีหลายสายพันธุ์มาก ทั้งโลกรวมทั้งหมดแล้วค้นพบมากกว่า 20 สายพันธุ์ ประเทศจีนก็มี 4 สายพันธุ์ นอกจากปลาแยงซีคลอเลียยังมีปลาเยลโลว์ริเวอร์คลอเลียกับปลาฟินิกซ์และอื่นๆ


สาเหตุที่ปลาสายพันธุ์นี้แพงขนาดนี้ที่อเมริกาเหนือ ไม่เพียงแค่เพราะมันรสชาติดีมาก แต่ยังเป็นเพราะบางโรงพยาบาลและสถาบันวิจัยได้ทำการวิจัยและค้นพบว่า เนื้อปลาของปลาสายพันธุ์นี้อุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว สำหรับคนที่ดูแลเรื่องระบบทางเดินอาหารถือว่าส่งผลดีต่อการรักษามาก


ประเทศสหรัฐอเมริกามีวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าที่สุดในโลกซึ่งเป็นตัวอย่างของแพทย์ตะวันตกซึ่งผู้เชี่ยวชาญในการใช้มีด มักไม่เชี่ยวชาญในการรักษา ตราบใดที่มันเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบ ไม่ว่าจะระบบประสาทหรือระบบย่อยอาหาร พวกเขาก็ไม่ได้จัดเตรียมไว้ ไม่เหมือนการแพทย์จีนที่เชี่ยวชาญการรักษาแบบนั้น


ดังนั้นสำหรับคนอเมริกา ปลาสายพันธุ์นี้จึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าขึ้นมา


ชาร์คกล่าวว่า ตอนนี้กรมประมงของอเมริกากับแคนาดากำลังดำเนินการโครงการสำคัญอยู่ซึ่งรวมถึงการผสมพันธุ์เทียมของปลาคลอเลียนาซัสด้วย


อย่างไรนี่ก็ยากมาก เพราะปลาสายพันธุ์นี้จะเพิ่มจำนวนในแม่น้ำแต่ต้องเข้าไปอยู่ในทะเลเพื่อเจริญเติบโต และแน่นอนว่าช่วงเวลาหนึ่งก็จะไปที่ทะเลน้ำลึก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ซับซ้อนเกินไปและยากมากที่จะผสมพันธุ์เทียม


ความปรารถนาของโพไซดอนมาถึงแล้ว ฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงสู่ก้นทะเล เขาไปหาที่ซากเรืออับปาง บริเวณรอบน่านน้ำมีปลาตัวเล็กสายพันธุ์นี้กำลังว่ายน้ำไปมาอย่างมีความสุข แต่จำนวนไม่ได้มากมายนัก


ทางลับของฉินสือโอวจะเป็นแสงสว่างให้พวกเขาเพื่อเตรียมตัวรับมือกับการแตกตื่นครั้งใหญ่ หลังจากออกคำสั่ง จิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็ควบคุมน่านน้ำบริเวณรอบๆ ทำให้ฝูงปลารวมตัวกัน มันว่ายขึ้นเหนือไปตลอดทางและไปอาศัยอยู่ที่ฟาร์มปลาของเขา หลังจากนั้นเขาก็ส่งพลังโพไซดอนไปให้ปลาพวกนี้ ถ้าฝูงจะแตกก็เป็นแค่ปัญหาเรื่องของระยะเวลา


หลังจากนั้นไม่กี่วัน เรือฮาวิซทลอยอยู่ที่น่านน้ำบริเวณรอบๆ ช่วงเวลานี้สุดท้ายเขาก็ได้รับรู้ถึงความแปลกประหลาดของน่านน้ำที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ความจริงแนวปะการังที่อยู่ใต้น้ำมีอยู่ทุกที่ แถมยังมีไม่มีกฎออกมาอีก


บ่อยครั้งที่เรือแล่นไปตามทางในทะเลลึก ทันใดนั้นด้านหน้าเขาก็มีที่ราบสูงปรากฏขึ้น แน่นอนนี่ก็คือแนวปะการัง


อย่างไรฉินสือโอวก็ยังมีจิตสำนึกแห่งโพไซดอนซึ่งรู้เรื่องภูมิประเทศรอบๆ เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น


ช่วงเวลานี้พวกเขาเจอฝูงปลาแมคเคอเรลฝูงหนึ่งที่มาจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ พวกมันอาจจะเตรียมตัวไปยังน่านน้ำบริเวณเส้นศูนย์สูตรเพื่อข้ามผ่านหน้าหนาว ผลคือถูกเรือฮาวิซทจับ อวนจับปลาหลายอวนถูกโยนลงไปและได้จับปลาแมคเคอเรลกลับมาหลาย 10 ตัน


หลังจากนั้นเรือกอบกู้ที่นำโดยบิลลี่ก็มาถึง


ส่วนที่ต่างจากที่เขาพูดคือ บิลลี่ใช้เวลาเพียงแค่ 4 วันก็แล่นเรือมาถึงแล้ว ฉินสือโอวขึ้นไปบนเรือลำใหญ่ของเขาและพูดว่า “เพื่อน ฉันคิดว่านายจะมาถึงช้ากว่านี้อีกซะอีก ไม่คิดเลยว่านายจะมาถึงเร็วขนาดนี้…”


บิลลี่พูดว่า “แน่นอน ฉิน แน่นอน เพื่อนที่แสนดีของฉัน ฉันต้องมาถึงเร็วนิดหน่อย เพราะอยากทำงานด้วยกันกับนายและต้องทำอย่างสุดความสามารถ นายมันพวกหวาดระแวงเรื่องแปลกๆ!”


ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดังระหว่างที่เขากำลังทำงาน เงาที่เหลืออยู่สำหรับบิลลี่ค่อนข้างใหญ่ เดิมทีเพื่อช่วยให้หุ้นส่วนทางธุรกิจเข้าใจว่าใครเป็นกัปตันของเรือ ครั้งล่าสุดที่เขาออกทะเลเพื่อค้นหาเหรียญทองที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จ นั่นก็ทำให้บิลลี่เป็นทุกข์ไปไม่น้อย


ครั้งนี้บิลลี่แสดงให้ฉินสือโอวเห็นถึงพลังของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แม้ว่าจะไม่มีหัวใจโพไซดอน คนธรรมดาก็สามารถกู้ของใต้ทะเลให้สำเร็จได้เหมือนกัน ซึ่งกระบวนการนี้ยอดเยี่ยมมาก


ความจริงถ้าแค่ตัวคนเดียว บิลลี่อาจจะใช้เวลาวันครึ่งก็มาถึงอย่างรวดเร็ว แต่ทำไม่ได้ เพราะเขาต้องจัดระเบียบกองเรือกอบกู้และต้องหาทีมที่มีความสามารถ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขาเสียเวลา


อย่างไรการลับมีดโดยไม่ตัดไม้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย


เรือกอบกู้มีความยาวมากกว่า 60 เมตรเป็นเรือขนาดใหญ่ที่ก้าวหน้ามากลำหนึ่ง เรือเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ตามพิกัดที่ฉินสือโอวให้ ในไม่ช้าเขาก็มาถึงน่านน้ำที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งของซากเรือ


เมื่อพวกเขาเจอทุ่นที่ฉินสือโอวทิ้งไว้ก็รู้ว่าที่นี่เป็นที่ตั้งของซากเรือ เรือกอบกู้ทอดสมอลงเพื่อยึดเป็นจุดศูนย์กลางและเริ่มทำการค้นหาและสำรวจที่ก้นทะเล


เรือกอบกู้ประกอบด้วยโครงยกรุ่นเอเครน หุ่นยนต์ปฏิบัติการใต้ทะเลอย่างน้อยสองตัว นอกจากนั้นยังมีเรือดำน้ำที่ลากไว้ท้ายเรือที่กำลังสำรวจด้วยคลื่นโซนาร์กับกล่องอุปกรณ์การสำรวจ แน่นอนว่ายังมีอุปกรณ์ที่ใช้สังเกตการณ์ขนาดใหญ่อีกด้วย


บทที่ 824 วิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงโลก

Ink Stone_Fantasy

“กฎข้อแรกของบริษัทโอดิสซีย์คือ ข้อมูลที่เพียงพอ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้การล่าสมบัติกลายเป็นกระบวนการที่มีเป้าหมายที่ชัดเจน” บิลลี่เดินออกมาจากห้องเครื่อง ภายในมือก็ถือแชมเปญมาด้วยขวดหนึ่ง


ฉินสือโอวยิ้มและรับแก้วมา “โอ้โห ก่อนจะล่าสมบัติยังต้องดื่มสักแก้วอีกเหรอ?”


บิลลี่ยิ้มพร้อมกับเปิดแชมเปญ หลังจากเทใส่ทั้งสองแก้วแล้ว เขาก็เททั้งหมดที่เหลือลงไปในมหาสมุทร สุดท้ายเขายกแก้วขึ้นชนกับฉินสือโอวเล็กน้อยและชนกับมหาสมุทรอีกที เป็นการกระทำเมื่อพบกัน “ถวายแด่โพไซดอนนะเพื่อน”


ฉินสือโอวหัวเราะขึ้นมา ใช่แล้ว แก้วนี้ต้องถวายให้กับโพไซดอน เพราะความจริงนี่คือสมบัติที่เจอโดยโพไซดอน


หลังจากดื่มเหล้าแล้ว บิลลี่สั่งให้วิศวกรกับนักประดาน้ำผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเริ่มทำงาน หลังจากนั้นเขาก็พาฉินสือโอวไปเดินดูรอบๆ เรือกอบกู้ ขณะเดียวกันก็อธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับกระบวนการการกอบกู้ไปด้วย


“ระหว่างการกอบกู้ซากเรืออับปาง การทำงานที่สำคัญที่สุดก็คือการเตรียมตัว โดยเฉพาะงานสำรวจภูมิประเทศที่ก้นทะเล ความจริงมันทั้งสิ้นเปลืองเงินทั้งสิ้นเปลืองพลังงาน เดิมทีถ้าพูดว่าต้องใช้เวลาหลายเดือน เฉลี่ยๆ แล้วทุกวันต้องจ่าย 5000 ดอลลาร์สหรัฐหรือมากกว่านั้น”


“นอกจากนั้นยังต้องพึ่งพาให้สภาพอาการช่วยด้วย เพื่อน นายรู้ไหม บางครั้งซากเรือบางจุดก็แปลกประหลาดมาก มันไม่แสดงที่ผิวน้ำ ดังนั้นเมื่อนายเข้าไปใกล้มัน สภาพอากาศก็จะเปลี่ยนแปลงในทันที พวกเราคิดว่านี่เป็นพลังของภูตผี มันคงไม่อยากให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับสิ่งของของพวกมัน”


ฉินสือโอวพูดว่า “งั้นครั้งนี้ล่ะ นายดูสิ ผีที่อยู่ในซากเรือครั้งนี้เป็นแค่โจรสลัด พวกเขาฆ่าคนขโมยทรัพย์สิน ก่อกรรมทำชั่วทุกอย่าง และภายในเรือก็มีสมบัติของพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขายิ่งไม่ต้องการให้มันถูกผู้คนหาเจอ”


บิลลี่ยักไหล่และพูดว่า “โทษที แค่อยากขอให้สิ่งเหนือธรรมชาติที่อยู่ด้านหน้าเงินหลีกทางให้ ถ้าพวกเราไม่เจอซากเรืออับปาง อาจเพราะพวกเขาหลอกพวกเราก็ได้ แต่ตอนนี้ อะไรก็ไม่สามารถหยุดพวกเราจากการเก็บสมบัติได้”


เมื่อก่อนที่การตรวจสอบก้นทะเลต้องใช้เวลามากขนาดนั้น เป็นเพราะต้องตรวจสอบเป้าหมายที่เป็นไปได้ทั้งหมด จนกระทั่งเป้าหมายได้รับการยืนยันในที่สุด


ตอนนี้ตำแหน่งของซากเรือได้รับการยืนยันแล้ว บิลลี่ไม่จำเป็นต้องใช้เรี่ยวแรงกับเรื่องพวกนี้ เขาส่งหุ่นยนต์ตรวจสอบก้นทะเลขนาดเล็กไปถ่ายวิดีโอใต้น้ำ หลังจากได้รับตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ของซากเรือแล้วก็นำมาตัดสินใจ


ตำแหน่งของซากเรืออยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดลงไป 4 กิโลเมตร นี่ไม่ใช่จุดที่นักประดาน้ำจะสามารถมีส่วนร่วมได้ สถิติโลกของการดำน้ำโดยที่มนุษย์ไม่ได้พึ่งพาเรือดำน้ำตอนนี้ทำได้แค่ 350 เมตรซึ่งไปไม่ถึง 1 ใน 10 ของความลึกของซากเรือด้วยซ้ำ


อย่างไรก็ตามบิลลี่มีหุ่นยนต์ปฏิบัติการใต้ทะเลลึก


นี่คือหุ่นยนต์ที่แปลกมาก ทั้ง 2 ตัวซึ่งดูเหมือนรถหุ้มเกราะรุ่นติดตามนิดหน่อย มันมีความยาวประมาณ 5 เมตร กว้าง 4 เมตร แต่สูงไม่ถึง 1 เมตรซึ่งเป็นเครื่องจักรขนาดเล็กที่เตี้ยมาก


บิลลี่พูดว่า “ฉันเช่าสิ่งนี้มาจากพี่ชายของฉัน ค่าเช่าต่อวันคือ 5 หมื่นดอลลาร์ ดังนั้นครั้งนี้พวกเราต้องได้รับกำไรมหาศาล ไม่อย่างนั้นพวกเราจะสูญเสียย่อยยับอย่างแน่นอน”


ฉินสือโอวไม่ค่อยมั่นใจ ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้จะดีกว่าถ้าเขาพากลุ่มแรงงานหมึกกล้วยมาทำงานด้วย เพราะเท่าที่เขาเห็นเหรียญทองกับเหรียญเงินพวกนั้นที่ก้นทะเลผิดรูปและผุพังไปมากแล้ว กู้ขึ้นมาก็ขายในราคาสูงไม่ออก


บิลลี่พูดแนะนำเขาอีกว่า หุ่นยนต์ทั้ง 2 ตัวนี้อย่ามองว่าพวกมันคือความบุ่มบ่ามมุทะลุ ความจริงทองแพงมาก แต่ละราคาสูงกว่า 2 ล้าน 5 แสนดอลลาร์สหรัฐทั้งนั้นซึ่งเป็นสมบัติที่จัดการโดยบริษัทโอดิสซีย์ ถ้าไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของเขากับผู้ถือหุ้น ต่อให้มีเงินก็คงเช่าไม่ได้


เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ใต้ทะเลลึกมีอุปสรรคอยู่ทั่วโลก ปัจจุบันมีแค่สหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญเรื่องหุ่นยนต์ใต้ทะเลลึก ซึ่งดำได้ถึง 8 กิโลเมตรหรือน้อยกว่านั้น  เทคโนโลยีของยุโรปเพิ่งจะฝ่าฟันได้ 7 กิโลเมตร ส่วนประเทศจีนและโลกที่สามนั้นก็ทำได้น้อยยิ่งกว่า


เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์บนดิน ปัญหาของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ใต้น้ำใหญ่กว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นแขนจักรกล ใบพัด การเพิ่มระดับของระบบทดแทนการดำน้ำที่เป็นแกนกลางของเทคโนโลยีซึ่งถือเป็นความลับของทุกประเทศ


เช่นเดียวกับหุ่นยนต์ใต้ทะเลลึก เทคโนโลยีสำคัญที่เกี่ยวข้องก็เกี่ยวกับพลังงาน การไปที่ตำแหน่งอย่างแม่นยำ การเดินเรือผ่านการมองเห็นเพียงเล็กน้อย ความแข็งแรงสูงกับน้ำหนักเบา และการป้องกันการกัดกร่อน วัสดุของโครงสร้างและเทคโนโลยีวัสดุของการลอยน้ำ เทคโนโลยีการทำงาน เทคโนโลยีเรื่องเสียง เทคโนโลยีการฟื้นตัวและอื่นๆ แต่อย่างไรการควบคุมอุปกรณ์ก็จำเป็นจะต้องมีทีมที่เชี่ยวชาญ


ครั้งนี้บิลลี่พาทีมวิศวกรมาด้วย ซึ่งเขาพามาเพื่อควบคุมหุ่นยนต์ 2 ตัวนี้โดยเฉพาะ


เมื่อจับตาดูหุ่นยนต์ลงไปในน้ำ บิลลี่ก็ถอนหายใจ “ขอบคุณกองทุนในการค้นคว้าของรัฐบาลกับความต้องการที่จะใช้งานของอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ไม่อย่างนั้นพวกเราอาจไม่มีเครื่องมือที่ก้าวหน้าขนาดนี้เอาไว้ใช้งาน รู้ไหมว่าเดิมทีหุ่นยนต์ 2 ตัวนี้ทำอะไรได้บ้าง?”


“นายอย่าทำเหมือนฉันเป็นคนบ้านนอกสิ นายบอกว่าเกิดจากการที่รัฐบาลทำการวิจัยความต้องการของออุตสาหกรรมปิโตรเลียม พวกมันเคยถูกใช้สำรวจแหล่งน้ำมันในทะเลลึกกับติดตั้งท่อลำเลียงน้ำมันที่ก้นทะเลและอื่นๆ ด้วยถูกไหม?” ฉินสือโอวถาม


บิลลี่พยักหน้าและหัวเราะ “ก็เกือบจะทำแบบนั้น”


แรงดันของน้ำทะเลลึกลงไป 4 กิโลเมตรนั้นน่ากลัวมาก เพื่อป้องกันหุ่นยนต์ พวกมันจะดำลงไปอย่างช้าๆ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงก็จะลงไปถึงก้นทะเลและสามารถดูทัศนียภาพได้จากคอมพิวเตอร์บนเรือกอบกู้


กล้องเว็บแคมของหุ่นยนต์ทั้ง 2 ตัวใช้เทคโนโลยีการแพร่ภาพผ่านใยแก้วนำแสงและภาพถ่ายวิดีโอใต้ทะเลความละเอียดสูงก็จะถูกส่งไปที่ห้องควบคุมบนเรือ ลักษณะของเรือครึ่งลำก็จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ


หุ่นยนต์ไม่ได้รีบเข้าไปและวนอยู่รอบๆ ซากเรือหลายรอบก่อน บนหน้าจอเผยให้เห็นภาพ 3D ของซากเรือที่ได้รับความเสียหาย


จากนั้นส่วนหลักของซากเรือที่ได้รับความเสียหายลำนี้ซึ่งทำหน้าที่เป็นแกนกลางก็ถูกจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ รูปร่างอันสมบูรณ์ของซากเรือปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ


บิลลี่นำพิมพ์เขียวมาใบหนึ่ง ด้านบนมีภาพของซากเรืออยู่ นี่คือพิมพ์เขียวที่กองทัพเรือสหรัฐทิ้งไว้เมื่อ 200 ปีก่อน


หลังจากทำการเปรียบเทียบอย่างระมัดระวัง บิลลี่ก็พยักหน้าและพูดว่า “นี่คือเรือดาบแห่งพระอัลเลาะห์ เป็นเรือธงของกลุ่มโจรสลัดบาร์บารี เพื่อน พวกเราโชคดีแล้ว พวกเราพบสมบัติใต้ทะเลของโจรสลัดแล้วจริงๆ”


ฉินสือโอวพูดอย่างขุ่นเคือง “โชคดีอะไรกัน? เห็นได้ชัดว่านี่เป็นความสามารถของคู่หูตัวน้อยของฉัน!”


บิลลี่รีบประจบสอพลอทันที “ใช่ๆ คู่หูตัวน้อยวาฬเบลูกากับปลาโลมาของนายทรงพลังมากจริงๆ ฉันคิดแล้วว่าหลังจากกู้สมบัติใต้ทะเลขึ้นมาได้ ฉันจะนำเงิน 5 หมื่นดอลลาร์จากส่วนแบ่งของฉันไปซื้ออาหารมาเป็นรางวัลให้กับพวกมัน”


เมื่อหาเรือครึ่งลำนี้เจอ ถัดไปไม่ใช่การขุดหาสมบัติ แต่เป็นการใช้คอมพิวเตอร์จำลองภาพขึ้นมา


บนเรือกอบกู้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ก้าวหน้า เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์มากกว่า 10 เครื่อง วิศวกรหลายคนก็กำลังยุ่งอยู่กับการป้อนค่าพารามิเตอร์ชุดหนึ่งลงในคอมพิวเตอร์


ฉินสือโอวเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ทันใดนั้นเขาก็แลบลิ้นออกมา ช่างเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ !


ข้อมูลที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องการเยอะมากเกินไป รวมถึงความเร็วของกระแสน้ำที่ก้นทะเลที่บริเวณใกล้ๆ น่านน้ำ 250 ปีที่ผ่านมา จำนวนครั้งกับลำดับของพายุที่ทะเล ที่ตั้งกับตำแหน่งของซากเรือครึ่งลำ และค่าพารามิเตอร์อีกหลายร้อยชุด


ทว่าก็ยังคงเป็นประโยคนั้น ลับมีดโดยไม่ต้องตัดไม้ หลังจากค่าพารามิเตอร์พวกนี้ถูกป้อนเข้าไป ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะเริ่มจำลองจุดสิ้นสุดของซากเรือทั้ง 2 ลำเมื่อ 250 ปีก่อนเพื่อให้เห็นถึงจุดที่จมของซากเรือโดยประมาณ


จากแบบการจำลอง เรือดาบแห่งพระอัลเลาะห์ที่ถูกยิงจมเป็นลำแรกถูกกองทัพเรือสหรัฐระเบิดกลายเป็น 2 ส่วนบนผิวน้ำ เรือครึ่งหลังจมลงไปในทันที ส่วนครึ่งแรกยังแล่นไปข้างหน้าได้อีก 1 กิโลเมตรกว่าและเริ่มจมลงสู่ใต้น้ำ


เรือแส้โครงกระดูกที่ถูกยิงด้านหลังค่อนข้างเลวร้ายกว่านั้น มันถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงจมลงไปในทันที แต่หลังจากเรือจมลงไปที่ใต้ทะเล 1 กิโลเมตร ก็ไปปะทะกับแรงดันน้ำกับคลื่นใต้น้ำจนกลายเป็น 2 ส่วน หลังจากนั้นก็จมลงสู่ก้นทะเลภายใต้ความพยายามในการต่อต้าน


บทที่ 825 ตราของต้าฉิน

Ink Stone_Fantasy

ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการล่าสมบัติในยุคปัจจุบันคือการร่างแผนที่ก้นทะเลได้


หลังจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้ตำแหน่งที่จมโดยประมาณของซากเรือ บิลลี่ก็สั่งเรือกอบกู้ให้ปล่อยเรือสปีดโบ๊ทสำรวจ 2 ลำออกไปทันที บนเรือสปีดโบ๊ททุกลำติดตั้งอุปกรณ์โซนาร์ที่ผลิตโดยบริษัทเอดจ์เทคเอาไว้สองเครื่อง


ด้วยวิธีการสำรวจผ่านคลื่นโซนาร์ คอมพิวเตอร์จะระบุภูมิประเทศบริเวณรอบๆ ที่ตั้งของซากเรือและร่างออกมาได้อย่างสมบูรณ์ แล้วจะมองเห็นความโค้งกับความนูนของมิติใต้ก้นทะเลสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน จากสิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนว่าพลังของวิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันทรงพลังมากขนาดไหน


ตามธรรมชาติ ลักษณะของซากเรือทั้ง 3 ลำที่ยังหลงเหลืออยู่แสดงออกมาแล้ว ความลึกลับเรื่องรูปร่างของพวกมันที่ถูกปกปิดไว้ได้ถูกเปิดเผยแล้ว


ฉินสือโอวอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เดิมทีบิลลี่ไม่ได้ทำอะไรเลยก็แค่ป้อนชุดคำสั่งลงไปเท่านั้น ทุกอย่างก็อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ไม่อยากจะยอมรับ เขาประเมินพลังของเทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบันต่ำไป


จริงสิ ถ้าพึ่งพาแค่หัวใจโพไซดอน การค้นพบซากเรือทั้ง 3 ลำก็ไม่ใช่ปัญหา แม้ว่าระยะเวลาในการใช้จะสั้นมาก แต่พลังที่ใช้ก็จะยิ่งใหญ่กว่า ซากเรือทั้ง 3 ลำอยู่ไกลจากกันและกันมาก ระหว่างซากเรือ 2 ลำที่ไกลที่สุดมีระยะห่างถึง 10 กิโลเมตร!


ซากเรือถูกพบแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือขนสิ่งของทุกอย่างที่มีค่าขึ้นมาบนเรือ บิลลี่ชวนฉินสือโอวให้อยู่ต่อและคอยดู แต่กระบวนการนี้ซับซ้อนและช้าเกินไป เพียงแค่ควบคุมหุ่นยนต์ใต้ทะเลลึกให้ลงไปที่ซากเรือทั้ง 4 ส่วนก็ใช้เวลาถึง 40 ชั่วโมงกว่าแล้ว


ฉินสือโอวไม่ได้มีความอดทนมากขนาดนั้น เขาถามบิลลี่ว่าใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะจัดการสมบัติใต้ทะเลที่อยู่ด้านในนั้นได้จนเสร็จสมบูรณ์ บิลลี่ประเมินดูนิดหน่อยและตอบว่าอย่างน้อยก็ประมาณ 5 ถึง 6 วัน


เมื่อเห็นอย่างนั้น ฉินสือโอวก็ตบไปที่หลังและพูดว่าเขาขอไปไมอามีจัดการเรื่องสินค้าที่อยู่บนเรือก่อน ให้บิลลี่จัดการที่นี่ด้วยตัวเอง เขาต้องไปพักผ่อนนิดหน่อย


หลังจากล่องลอยอยู่บนทะเลมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าการกลับขึ้นฝั่งครั้งนี้ค่อนข้างดี อย่างไรปลาบนเรือที่จับมาได้ก็เพียงพอแล้ว


นอกจากปลาจะละเม็ดขาวกับปลาแมคเคอเรล เรือฮาวิซทยังจับปลาดุกทะเล ปลามะได ปลาดาบและอื่นๆ ได้อีกจำนวนมาก น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมามากกว่า 60 ตันจึงต้องกำจัดทิ้งไปบ้าง ไม่อย่างนั้นน้ำมันดีเซลที่ใช้ในการทำความเย็นทุกวันจะน่ากังวลมาก


ระหว่างทางฉินสือโอวโทรศัพท์หาบัตเลอร์ ลุงดำหนวดใหญ่แห่งไมอามีเก่งกาจจนน่าสับสนจริงๆ แถมมีความสัมพันธ์อันเป็นพิเศษและใกล้ชิดกับพวกยามชายฝั่งอีก ช่วงเวลานั้นจะเจอยามชายฝั่งมาตรวจสอบเรือ แต่เมื่อลุงดำหนวดใหญ่พูดกับพวกยามชายฝั่งไม่กี่ประโยค ประสิทธิภาพของพวกยามชายฝั่งก็เร็วขึ้นมาก


มันน่าทึ่งมาก ถ้าเรือต่างประเทศลำหนึ่งต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการซักถามของยามชายฝั่งกับศุลกากรอย่างสมบูรณ์ นั้นเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าเกิดเรื่องขึ้นยามชายฝั่งกับเจ้าหน้าที่จะต้องถูกไล่ออกเพื่อเป็นการรับผิดชอบ


ดังนั้นการดูซีรีส์อเมริกันทีวีกับหนังฮอลลีวูด บางครั้งก็มีพล็อตเรื่องที่เล่าว่าเมื่อเอฟบีไอหรือเจ้าหน้าที่พิเศษอะไรนั่งเรือเข้าประเทศพร้อมกับข้อมูลลับสุดยอด ยังต้องได้รับการตรวจสอบจากยามชายฝั่ง ถึงแม้ว่าจะแสดงหนังสือรับรองที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้รับการยกเว้น


ทว่านี่ไม่ใช่หนังที่ฉายในโทรทัศน์ที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐดูดี แต่เพราะนี่เป็นกฎที่บังคับใช้กฎหมาย การละเมิดกฎหมายบางอำนาจหรือบางส่วนอย่างมากที่สุดก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถ้ามีช่องโหว่การบังคับใช้กฎหมายเกิดขึ้นก็จะถูกไล่ออกจากงาน


บัตเลอร์รอผู้สัญจรอย่างฉินสือโอวอยู่บนท่าเรือ เมื่อเห็นเรือฮาวิซทเข้ามาเทียบท่า ลุงดำหนวดใหญ่ก็ถอดแว่นกันแดดสีดำเข้มออกและขึ้นไปต้อนรับฉินสือโอว หลังจากเจอกันก็ให้อ้อมกอดทีหนึ่งกับเขา


“ผมพึ่งพูดกับเพื่อนว่าในที่สุดคุณก็ยอมออกเดินทางจากเกาะสมบัติเล็กๆ นั่น มาเถอะ ผมจะพาคุณไปดูร้านค้าสุดพิเศษของพวกเรา ผมกล้าพนันเลยว่าคุณจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน!” บัตเลอร์กอดคอฉินสือโอวและพูดอย่างใกล้ชิด


ตั้งแต่รู้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างฉินสือโอวกับตระกูลมอร์รี่ บัตเลอร์ก็มีความประทับใจต่อฉินสือโอวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หากไม่ใช่เพราะสีผิวของทั้งสองคนแตกต่างกัน พวกเขาอาจจะกลายเป็นพี่น้องกันไปแล้วก็ได้


บัตเลอร์ไม่ได้พาฉินสือโอวไปที่ร้านขายอาหารทะเลสุดพิเศษในทันที แต่ส่งพวกเขาไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน บนเรือมีห้องโดยสาร แต่ที่ทะเลมีลมและคลื่น คุณภาพการพักผ่อนบนเรือที่สั่นสะเทือนอย่างไม่หยุดหย่อนคงพักได้ไม่เท่าไหร่อย่างแน่นอน


ฉินสือโอวพักไปแล้ว 2 ชั่วโมง พลังก็เกือบจะฟื้นตัวแล้ว บัตเลอร์กลับไปจัดการเรื่องธุรกิจและปล่อยให้คนขับรถคนหนึ่งรอให้เขาตื่นขึ้นมาและติดต่อกับคนขับรถโดยตรง


ลุงดำหนวดใหญ่มองดูเหมือนคนหยาบคาย แต่ความจริงแล้วเป็นคนเอาใจใส่ คนขับรถที่เขาจ้างก็เป็นคนสัญชาติจีนคนหนึ่ง ฉินสือโอวคุยเล่นกับเขาหลังจากขึ้นไปบนรถ ไม่คาดคิดว่ายังเป็นคนบ้านเดียวกันที่เพิ่งจะย้ายมาอยู่ที่ไมอามีได้ไม่ถึง 2 ปี


หลังจากพูดคุยก็ได้รู้ว่า ตอนที่เพื่อนบ้านคนนี้อยู่ประเทศจีนเคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยอีกด้วย ฉินสือโอวประหลาดใจในทันทีและถามว่า “ไมอามีตอนนี้เงินเดือนต่างกันขนาดนี้? ปกติอาจารย์ยังต้องทำงานส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือครอบครัวด้วยใช่ไหม?”


คนขับรถวัยกลางคนยิ้มอย่างขมขื่น “ผมตอนนี้ไม่ใช่อาจารย์แล้ว บางครั้งก็รับงานติวเตอร์นิดหน่อย แต่ก็เป็นติวเตอร์สอนคนดำ เอเจนซี่รับเงินไปพวกเราก็ได้เงินไม่เท่าไหร่ ตอนนี้คนขับรถก็ถือเป็นงานหลักของผม”


ฉินสือโอวถามว่า “งั้นในกรณีแบบนี้ ทำไมคุณไม่อยู่ที่ประเทศจีนล่ะ? ย้ายมาที่นี่มีความจำเป็นอะไร?”


คนขับรถวัยกลางคนถอนหายใจอย่างผิดหวัง “ทุกอย่างเกิดจากภรรยาของผมเอง เธอถูกส่งมาสหรัฐอเมริกาเพื่อทำธุรกิจ หลังจากมาถึงแล้วก็รู้สึกว่าทุกอย่างดีและเธอต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ ผมไม่มีทางเลือก นอกจากจะต้องทำเรื่องย้ายมาด้วยกันกับภรรยา ผลคือเมื่อมาถึงไมอามีและพบว่าหนังสือรับรองส่วนใหญ่ของผมที่ประเทศจีนไม่มีประโยชน์ โรงเรียนของผมก็ไม่เป็นที่รู้จัก กลับกันก็มีแค่ใบขับขี่ใบนั้นที่ใช้งานได้”


หลังจากพูดจบ เขาก็ยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นมาอีกครั้ง


ฉินสือโอวมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจและพูดว่า “งั้นทำไมไม่กลับไปล่ะ? ก็ทำเหมือนว่ามาสหรัฐอเมริกาเพื่อท่องโลกรอบหนึ่งก็ได้”


คนขับรถวัยกลางคนส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่ได้ครับ หนึ่งคือไม่สามารถรักษาหน้าได้ สองคือไม่สามารถกลับไปได้ การนำสัญชาติของประเทศแม่กลับมาไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น ผมเคยลองมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง!”


ฉินสือโอวไม่มีอะไรจะพูดอีก เขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับด้านนี้ นอกจากนี้เขากับคนขับรถก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นอย่างดี


ตรงกันข้ามคนขับรถวัยกลางคนกลับสนุกสนานกับการสนทนาเป็นอย่างมาก และคุยเล่นกับเขาไปตลอดทาง ก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเจอเพื่อนที่สามารถใช้ภาษาบ้านเกิดสื่อสารกันได้ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แปลกเหมือนกัน


เขาถามถึงความสัมพันธ์ของฉินสือโอวกับบัตเลอร์ ฉินสือโอวจึงถามเขากลับว่ารู้จักบัตเลอร์ด้วยเหรอ เขาก็พูดว่านั่นเป็นหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของเขา ภายในหนึ่งเดือนธุรกิจ 1 ใน 4 ต้องให้บัตเลอร์เป็นคนดูแล


ได้ยินความหมายของคนขับรถวัยกลางคน ตอนนี้บัตเลอร์เป็นคนที่เก่งมากในไมอามี เขาเปิดทางที่จะนำเขาไปสู่วงชั้นสูงผ่านอาหารทะเล ทุกๆ วันจะมีงานปาร์ตี้ งานสังสรรค์และกิจกรรมอื่นๆ ยิ่งกว่านั้นยังมีรสนิยมสูงมาก


ที่ตั้งของร้านขายอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินนั้นตั้งอยู่ที่ปลายถนนแอนท์ของเมืองไมอามี อีกชื่อหนึ่งของถนนสายนี้ก็คือตลาดอาหารทะเล ซึ่งไม่ใช่ถนนตลาดที่สกปรกแบบนั้น บนถนนสายนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้าอาหารทะเล กลุ่มลูกค้าที่สำคัญคือการทำธุรกิจของร้านอาหารนักท่องเที่ยวกับชนชั้นสูง


ถนนแอนท์มีความยาวประมาณ 200 เมตรกว่า นักท่องเที่ยวกับรถขนส่งอาหารทะเลมักจะมาตามถนนสายนี้ ที่ปลายทางของถนนเป็นอาคารเล็กๆ 2 ชั้นที่กว้างมาก บนอาคารขนาดเล็กมีป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่อยู่ ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษกับภาษาจีนเขียนไว้ว่า ‘ต้าฉินอาหารทะเลพรีเมียม’


ฉินสือโอวลงจากรถและเงยหน้าขึ้นดูป้ายนี้พลางคิดว่าการทำงานร่วมกับบัตเลอร์เป็นการหาคนที่ถูกต้องแล้วจริงๆ ภาษาจีนที่เพื่อนคนนี้ใช้ไม่ใช่อักษรจีนตัวย่อ แต่เป็นตัวอักษรจีนที่ใช้ในราชวงศ์ฉินเหมือนกับบอร์ดที่ปู่คนที่ 2 ของฉินสือโอวที่ทิ้งไว้ให้ที่ฟาร์มปลาต้าฉินซึ่งตัวอักษรที่ใช้ก็คือตัวอักษรจีนที่ใช้ในราชวงศ์ฉิน


พื้นหลังของป้ายเป็นนักกีฬาคนหนึ่งซึ่งเป็นฮีโร่ประจำเมืองไมอามี ‘ดเวน เวด’


เมื่อเห็นคนดังคนนี้ยิ้มบนป้ายบิลบอร์ดและมองดูตัวเอง ฉินสือโอวก็เสียวสันหลังขึ้นมานิดหน่อย


บทที่ 826 ความทะเยอทะยานของบัตเลอร์

Ink Stone_Fantasy

เมื่อมองอาคารสองชั้นจากด้านนอกพื้นที่ดูไม่ค่อยใหญ่ แต่หลังจากเดินเข้าไปจะพบว่ากว้างขวางมาก การตกแต่งภายในอาคารใช้สไตล์เรียบง่าย พื้นเรียบแต่หยาบ เข้ากับบ่อน้ำขนาดเล็กแต่ละบ่อได้เป็นอย่างดี ด้านในเป็นผลผลิตทางทะเลเช่นกุ้งลอบสเตอร์ ปลาแฟงค์ทูธ ปลาแลมป์เพรย์ และอื่นๆ ที่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำตื้นได้


นอกจากนั้นเขตแต่ละเขตแบ่งเป็น เขตปลาค็อด เขตปลาซาร์ดีน เขตผักทะเล เขตปลาน้ำลึกและอื่นๆ ด้านในคือปลาทะเลที่สภาพสมบูรณ์ทุกตัว ชัดเจนว่าพวกมันถูกนำมาทำเป็นตัวอย่าง


เดิมทีบัตเลอร์กำลังพูดคุยอยู่กับคนอ้วนผิวขาวคนหนึ่ง เมื่อเห็นฉินสือโอวเขาก็เดินมาหาด้วยความกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา ก่อนจะพูดว่า “เฮ้ เพื่อน พักผ่อนช่วงเวลาสั้นๆ แค่นี้เองเหรอ? ใจร้อนอยากสัมผัสกับบรรยากาศของไมอามีด้วยตัวเองขนาดนั้นเลย?”


ฉินสือโอวยิ้ม “ไม่หรอก ช่างเถอะ ความรู้สึกของฉันที่มีต่อไมอามีไม่ค่อยดีเท่าไร”


เขาพูดถึงเรื่องราวครั้งแรกที่เขามาไมอามีเพื่อตามหาวินนี่นิดหน่อย ในตอนนั้นเขาเกือบถูกปล้นและทำร้ายจนหัวแตกที่ภัตตาคาร ประสบการณ์ครั้งนั้นไม่ค่อยดีนัก


บัตเลอร์ยักไหล่และพูดว่านายโชคร้ายเกินไปแล้ว ที่ไมอามี ครึ่งเดือนจะมีการปล้นในที่สาธารณะสักครั้งหนึ่ง ผลคือนายมารอบเดียวก็เจอเลย


ทั้ง 2 คนพูดคุยกันไม่กี่ประโยค บัตเลอร์พาฉินสือโอวเดินทัวร์ร้านขายอาหารทะเลสุดพิเศษเล็กน้อย ลุงดำหนวดยาวมีความทะเยอทะยานที่แข็งแกร่ง เขาอยากทำให้ร้านนี้เป็นศูนย์กลางของอาหารทะเลในไมอามีที่ชายฝั่งทิศตะวันออกของมหาสมุทรแอตแลนติก


“เมื่อถึงต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า พวกเราต้องเตรียมการสำหรับงานประมูลอาหารทะเลหลายครั้ง ตัวอย่างเช่นงานประมูลปลาทูน่าครีบน้ำเงิน งานประมูลปลิงทะเลคุณภาพดีเยี่ยมและงานอื่นๆ พวกเราจะไม่ไปยึดตลาดของคนญี่ปุ่น แต่จะให้พวกเขามาทำการซื้อที่ตลาดของพวกเราเป็นยังไง?”


ฉินสือโอวคิดและพูดว่า “ก็ไม่เลว แต่ฉันเกรงว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นงานประมูลอาหารทะเลของญี่ปุ่นหรือนอร์เวย์ ล้วนมีเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ในความคิดของพวกร้านอาหารทะเลจึงเกิดแบบแผนขึ้นโดยธรรมชาติ”


บัตเลอร์โบกมือและยิ้ม “ไม่มีปัญหา เพื่อน ตราบใดที่พวกเรามีผลผลิตที่ดีอยู่ในมือ เมื่อถึงเวลานั้นแค่เชิญคนดังบางคนมาทำโฆษณาและก่อให้เกิดความคิดเห็นต่อสาธารณชนอย่างบ้าคลั่ง แค่นั้นทุกอย่างก็โอเคแล้ว”


พูดถึงคนดัง ฉินสือโอวก็คิดถึงคนดังวงการบาสเกตบอลที่ชื่อ เวด บนป้ายบิลบอร์ดและพูดว่า “เพื่อน พวกเราควรลบภาพโปรไฟล์ของเวดจะดีที่สุด นี่เป็นการละเมิดสิทธิ์รูปของบุคคลอื่น ถ้าถูกตรวจสอบขึ้นมา ไม่สนุกแน่นอน”


คนผิวดำชอบทำงานตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวอะไรแม้แต่น้อย เพราะพวกเขายากจนและกลัว และก็แค่กลัวความจน ดังนั้นตราบใดที่สามารถทำเงินได้ อะไรพวกเขาก็กล้าทำทั้งนั้น


การเชิญเวดมารับรองชื่อแบรนด์ อย่างน้อยต้องจ่ายค่ารับรองหนึ่งล้าน ฉินสือโอวไม่เคยเห็นสิ่งนี้ในบิล ดังนั้นจึงรู้ว่าชื่อแบรนด์ของตนเองไม่ได้เชิญเวดมารับรอง


เขาพูดอย่างเป็นกังวลนิดหน่อย บัตเลอร์หัวเราะออกมาเสียงดัง “ใครบอกว่าฉันไม่ได้รับคำยินยอมจากเวดที่ใช้โปรไฟล์ของเขา? เขายินยอมแล้ว ฉิน นายวางใจเถอะ เขายินยอมแล้ว นอกจากนั้นยังเคยมาร้านค้าสุดพิเศษของพวกเราหลายครั้งแล้ว เขามาซื้อเกือบทุกสัปดาห์เลย”


ฉินสือโอวถามด้วยความประหลาดใจว่า “ไม่ต้องจ่ายค่ารับรองเหรอ?”


บัตเลอร์พูดว่า “พวกเรารู้จักกันมา 20 ปีแล้ว นายคิดว่า เขาจะถามฉันว่าจะจ่ายค่ารับรองไหมงั้นเหรอ? ตอนที่เด็กคนนั้นเรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยมาร์แกตต์ ฉันให้ความช่วยเหลือเขาอย่างน้อย 2000 ทุกเดือน ตอนนั้นฉันไม่ต้องให้เขาตอบแทนอะไรเลย!”


เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ บัตเลอร์ตั้งท่าให้ฉินสือโอวขึ้นไปข้างบนกับเขา ชั้นนี้หากมองจากด้านนอกจะเป็นชั้นที่ 2 ความจริงอาคารนี้มี 4 ชั้น ชั้นที่ 3 กับชั้นที่ 4 เล็กมาก ชั้นหนึ่งเป็นสำนักงาน อีกชั้นเป็นหอพักของพนักงานซึ่งจะมองจากด้านนอกไม่เห็น


เมื่อเข้าไปในสำนักงาน บัตเลอร์ก็เปิดคอมพิวเตอร์ ภายในคอมพิวเตอร์ของเขามีอัลบั้มรูปอยู่ ในอัลบั้มมีรูปถ่ายคู่ของเขากับคนดังผิวดำหลายภาพ โดยเฉพาะคนดังด้านกีฬา ไม่ว่าจะเป็นบาสเกตบอล เบสบอลและรักบี้ เขาล้วนมีรูปคู่ของพวกดาวกีฬาผิวดำทั้งหมดซึ่งดูเป็นกันเองมากๆ


“นี่คือเครือข่ายทางสังคมของฉัน ฉิน นี่คือหนึ่งในเครือข่ายความสัมพันธ์ของฉัน จำสิ่งที่พวกเราพูดกันในตอนนั้นได้ไหม? นายจัดหาอาหารทะเล ฉันจัดหาช่องทาง ช่องทางที่ฉันพูดถึงไม่ใช่แค่ภัตตาคารกับโรงแรมไม่กี่แห่งหรอกนะ”บัตเลอร์พูดและยิ้มออกมาอีกครั้ง


จากนั้นหัวข้อการสนทนาก็ถูกเปลี่ยน บัตเลอร์พูดอีกว่า “ฉิน ฉันเข้าใจพลังของนายแล้วจากตัวตนและสถานะทางสังคมของนาย ฉันสามารถบุกเบิกเครือข่ายความสัมพันธ์ที่มีค่ายิ่งกว่าฉันให้ได้ แต่ฉันไม่เข้าใจ เพราะอะไรนายถึงไม่เต็มใจไปบุกเบิก หรือนายเหมือนจะมีความสุขที่ได้อยู่บนเกาะเล็กๆ ?”


ฉินสือโอวตบที่ไหล่ของเขาพร้อมรอยยิ้ม “ใครพูดว่าฉันไม่ได้บุกเบิก? ดูสิ นายไม่ใช่โหนดเครือข่ายความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์กับฉันเหรอ?”


“ครอบครัวสเตราส์ยิ่งมีประโยชน์ นายควรจะไปเยี่ยมพวกเขาให้มากขึ้นนะ”บัตเลอร์พูดแนะนำ เขากับครอบครัวสเตราส์มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกัน แต่เดิมก็เป็นครอบครัวสเตราส์ที่แนะนำให้เขารู้จักกับฉินสือโอว


นี่ก็ถือเป็นผลของเครือข่ายทางความสัมพันธ์ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด


ฉินสือโอวยิ้มและไม่ได้พูดอะไรอีก ในแง่ของเครือข่ายทางสังคม ความจริงเขาเป็นคนเฉยเมยและยึดมั่นอยู่มุมหนึ่ง คนอเมริกามองดูเหมือนจะคิดไม่ถึงและไม่สามารถเข้าใจได้


ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาได้ติดต่อกับคนระดับสูงมากมาย และยังมีเจ้าชายจากตะวันออกกลางกับเจ้าชายจากประเทศอังกฤษอีก ถ้าเป็นคนทั่วไปคงจะโยนตัวเองเข้าไปสานสัมพันธ์อย่างแน่นอน แล้วฉินสือโอวล่ะ? คิดถึงกันดีกว่าได้พบกันและลืมกันไปเลยหลังจากหันหลังกลับ!


อย่างไรเขาก็มีปัญหาในแบบของตัวเอง อันดับแรกถ้าพูดถึงเนื้อแท้เขาก็ยังเป็นหนุ่มจีนระดับล่าง เพียงแค่โชคดีที่มีนิ้วทองคำ ถ้าเขารีบรุกล้ำเข้าไปในสังคมชนชั้นสูง แน่นอนว่าเขาจะทำเรื่องให้คนอื่นเยาะเย้ยไม่น้อย


ดังนั้นจากความคิดเห็นของฉินสือโอว การหลบซ่อนตัวดีกว่าการเผชิญหน้า เขาเดินเลี่ยงขอบเขตของวงชนชั้นสูง การซ่อนตัวบางครั้งอาจจะแสดงให้เห็นถึงความคมชัด แบบนี้กลับจะทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความลึกลับอีกแบบหนึ่ง


ทำไมครอบครัวสเตราส์กับผู้กำกับคาเมรอนถึงยินดีที่จะมาเยี่ยมเขาที่นี่? เพราะความเก็บตัวของเขา คนพวกนี้ไม่เข้าใจเขาและรู้สึกว่าเขาลึกลับมากเหมือนกับตัวละครในตำนานสไตล์ตะวันออกซึ่งมีแรงดึงดูดมากสำหรับพวกเขา


ต่อมาฉินสือโอวยังเป็นคนขี้กลัวอีกด้วย เพียงแค่มีใจมุ่งมั่นตรวจสอบนิดหน่อยและสามารถค้นหาปัญหาในเรื่องราวของเขาได้จะเห็นว่าจากเด็กยากจนที่มีเงินฝาก 5 หมื่นหยวนคนหนึ่งเปลี่ยนมาเป็นเจ้าของฟาร์มปลาขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของรัฐนิวฟันด์แลนด์ได้ในเวลาไม่ถึง 2 ปี


เวลาไม่ถึง 2 ปี ฟาร์มปลาที่ล้มละลายแห่งหนึ่งถูกเปลี่ยนมาเป็นฟาร์มปลาที่มีมูลค่ามากที่สุดในแคนาดา นี่ไม่สอดคล้องกับเหตุผลนิดหน่อย


ความจริงคิดดูแล้ว ฉินสือโอวกับหอยนางรมลอยที่อยู่ในแนวปะการังไม่ได้แตกต่างกันเลย สมบัติที่อยู่ในอ้อมแขนช่างล้ำค่ายิ่งนัก ต้องเอาตัวรอดอย่างระมัดระวัง เมื่อโลกภายนอกเกิดความวุ่นวายก็ต้องซ่อนตัวเองอยู่ภายในเปลือก


ฟาร์มปลาต้าฉินก็เป็นเปลือกของฉินสือโอว


ตราบใดที่อยู่ภายในเปลือก เขาก็จะรู้สึกสบายใจ


บัตเลอร์ไม่ได้เข้าใจสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเข้าใจทางเลือกของฉินสือโอว เขาคิดได้เพียงว่าหุ้นส่งทางธุรกิจคนนี้เป็นฤๅษีที่ตกปลาท่ามกลางหิมะในฤดูหนาว มีจิตใจสูง และวิถีต่างจากคนอื่น


เว้นแต่กับคนที่คุ้นเคย ไม่อย่างนั้นฉินสือโอวจะเป็นคนที่พูดน้อยมากในโลกภายนอกซึ่งง่ายมากที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด


ตอนนี้บัตเลอร์ถือเป็นเพื่อนของฉินสือโอวแล้ว เขารู้ถึงพลังทางเครือข่ายสังคมอันน่ากลัวที่อยู่ในมือของหุ้นส่วนทางธุรกิจคนนี้ ต่อมายังแสดงความสำเร็จทางเครือข่ายสังคมของตัวเองให้เขาเห็นมาโดยตลอดอีก เพื่อนจากทุกสายอาชีพ คนรู้จักในทุกวงสังคม และหวังว่าจะกระตุ้นความสนใจของฉินสือโอวได้


ฉินสือโอวสนใจนิดหน่อย จริงๆ การได้เจอผู้คนมากมายที่ปกติจะเห็นได้แค่ในข่าว เขาก็รู้สึกสนใจมากเหมือนกัน เพียงแต่จะให้เขาไปทำความรู้จัก เขาก็ไม่สนใจอีกแล้ว…


บทที่ 827 บรรยากาศของเมืองไมอามี

Ink Stone_Fantasy

ในเวลากลางคืน อุณหภูมิข้างนอกของเมืองไมอามีจะเริ่มลดต่ำลง แต่เพราะอยู่ใกล้กับมหาสมุทร ดังนั้นอุณหภูมิจะลดลงช้ามาก ทำให้ผู้คนได้สัมผัสกับบรรยากาศอันอ่อนโยนของเมืองชายทะเลโดยไม่รู้ตัว


ช่วงเวลานี้ร้านอาหารทะเลจะไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายนัก ช่วงที่ยุ่งมากที่สุดคือตอนเช้าและตอนบ่าย พ่อครัวของแต่ละโรงแรมจะมาตรวจสอบคุณภาพของทะเลเพื่อซื้อกลับไป ช่วงมื้อกลางวันและมื้อค่ำก็จะเวียนมาเป็นร้านอาหารกับโรงแรมที่จะยุ่งมาก ส่วนร้านอาหารทะเลธรรมดาแล้วก็จะไม่มีคน


แน่นอนว่าธุรกิจเป็นไปได้ด้วยดี นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาท่องเที่ยวที่ไมอามีก็จะมาที่ร้านอาหารทะเลเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบบางอย่าง หลังจากนั้นก็จะไปร้านอาหารด้านนอกเพื่อนำไปทำอาหาร


บัตเลอร์มีความสามารถมาก ชื่อเสียงของอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินได้แพร่กระจายออกไปแล้ว พูดตามตรงว่าอาหารทะเลที่มาจากฟาร์มปลาต้าฉินนั้นมีรสชาติที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ดังนั้นแม้ว่าราคาจะสูงกว่าราคาตลาดที่คล้ายกัน แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังชื่นชอบอาหารทะเลของที่นี่


สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับแนวความคิดในการบริโภคของคนอเมริกา ตราบใดที่เงินในมือของพวกเขาเอื้ออำนวย พวกเขาก็จะกินของที่ดีที่สุด ไม่ใช่ของที่ราคาถูกที่สุด


เมื่อฉินสือโอวลงมาข้างล่างเขาเห็นว่ายังมีคนสองสามคนที่แต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยวกำลังชมอาหารทะเลภายใต้คำแนะนำของคู่มือช้อปปิ้งอยู่ บัตเลอร์แนะนำเขาว่า “พวกเราทำธุรกิจร้านอาหารกับโรงแรมระดับไฮเอนด์เป็นหลัก ส่วนใหญ่ที่มาซื้อนานๆ ทีจะเป็นคนระดับกลาง พวกเขาถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าลำดับที่สอง”


อำนาจในการใช้จ่ายในเมืองไมอามีนั้นค่อนข้างดีมาก ก่อนที่ฉินสือโอวจะออกเดินทางก็ถามพนักงานแคชเชียร์ว่า ยอดของวันนี้ได้เท่าไหร่


พนักงานแคชเชียร์คนนั้นพูดว่า “415,000 ดอลลาร์สหรัฐครับบอส”


บัตเลอร์เคยแนะนำให้พนักงานที่อยู่ในร้านทุกคนรู้ว่าชายหนุ่มชาวจีนคนนี้เป็นบอสใหญ่ของพวกเขา


ฉินสือโอวถอนหายใจ “แย่จริงๆ!”


บัตเลอร์มีท่าทีไม่พอใจและพูดว่า “มันมีอะไรอย่างนั้นเหรอ? โรงแรมขนาดใหญ่จะซื้ออาหารทะเลวันละสองหมื่นดอลลาร์ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก นั่นหมายความว่าพวกเราทำธุรกิจกับโรงแรม 20 แห่ง ร้านอาหารกับโรงแรมไฮเอนด์ในไมอามีมีทั้งหมดกี่แห่ง? มากกว่า 200 แห่ง! พวกเราพึ่งจะทำได้แค่ 1 ใน 10 เท่านั้นเอง”


หลังจากขับรถออกจากถนนแอนท์ ฉินสือโอวเริ่มมองเห็นเสน่ห์ของเมืองไมอามีซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก


เดิมทีเขาคิดว่าจะได้เห็นความงดงามของชายหาด รถยนต์หรูพร้อมกับเหล้าอย่างดี แต่ผลลัพธ์ที่เขาได้เห็นก็คือบ้านหลังเก่าๆ หลายๆ หลัง


วงกบประตูไม้บิดเบี้ยวเนื่องจากสภาพที่ทรุดโทรม บันไดหน้าประตูเก่าๆ โทรมๆ เผยให้เห็นอิฐที่อยู่ด้านใน นอกจากนี้ยังมีผนังที่เต็มไปด้วยกราฟฟิตีอันยุ่งเหยิง เด็กวัยรุ่นแต่งตัวเรียบง่ายหลายคนกำลังตะโกนเชียร์เสียงดังและเล่นบาสเกตบอลกับรักบี้กันอยู่ แม้ว่าเมืองที่อยู่นอกเขตถนนแอนท์จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่ก็ทรุดโทรมไปหน่อย


“นี่ยังไม่ใช่สลัมหรอกนะ ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับไมอามีนะ” บัตเลอร์ที่กำลังควบคุมพวงมาลัยพูดแซวฉินสือโอว เขาอ่านความคิดภายในใจจากสีหน้าของหุ้นส่วนของเขา


ฉินสือโอวยักไหล่ “ใช่ เพื่อน ผมคิดว่าไมอามีจะมีแค่ตึกสูงๆ”


บัตเลอร์หัวเราะเสียงดัง “ที่ใดมีแสงแดดก็ย่อมมีร่มเงา สหรัฐอเมริกาไม่มีเมือง ไม่มีสลัม มีแค่ตึกสูงๆ โดยเฉพาะเมืองที่ยิ่งร่ำรวยก็ยิ่งหรูหรา ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ”


ต่อมาบัตเลอร์แนะนำฉินสือโอวว่า เขตนี้เรียกว่าเมืองแอนท์ซึ่งเป็นเขตที่เก่าแก่ของเมืองไมอามี สำหรับคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับทะเล อาหารทะเลถือว่าเป็นอาหารที่แย่ที่สุด ดังนั้นเมื่อก่อนถนนแอนท์จึงเคยเป็นถนนที่ใช้ทำธุรกิจสำหรับคนระดับล่าง


ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไมอามี นอกจากจะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นแล้ว สถานะของถนนแอนท์ก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อเมืองแอนท์มากนัก


ที่จริงแล้วฉินสือโอวได้มองดูอย่างละเอียด โครงสร้างของบ้านหลายหลังที่นี่ หากดูแค่รูปลักษณ์ภายนอกหรือในแง่ขนาดของที่ดินก็ยังสามารถจับร่องรอยความรุ่งโรจน์ในอดีตของพวกมันได้ เพราะถึงแม้ว่าบ้านพวกนี้จะมีลักษณะทรุดโทรม แต่ก็มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และลักษณะภายนอกยังให้ความรู้สึกของสถาปัตยกรรมยุโรปกับอเมริกาอย่างลึกซึ้ง


สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวประหลาดใจก็คือ เมืองเก่าขนาดใหญ่อย่างนี้ ทำไมถึงไม่มีนักพัฒนามาสร้างซีบีดีหรือพัฒนาเขตที่อยู่อาศัย?


บัตเลอร์ยิ้มและถามว่า “ใครจะกล้ามาล่ะ? รู้ไหมว่าสถานีตำรวจของที่นี่จัดสรรอะไรไว้บ้าง? รถหุ้มเกราะกันระเบิด! เมื่อถึงตอนกลางคืนคุณจะได้รู้ว่ามันวุ่นวายแค่ไหน เสียงกระสุนปืนราวกับเสียงประทัด ในร้านค้าของเราซ่อนปืนเอาไว้หลายสิบกระบอก คุณได้สังเกตหรือเปล่า ว่าพนักงานที่ผมรับเข้ามาล้วนเป็นพวกคนหนุ่มหัวแข็ง?”


“ผมสังเกตนะ ผมคิดว่านี่เป็นลักษณะพิเศษของคุณ”


“ไม่ ไม่ใช่ลักษณะพิเศษ พวกเขาทั้งหมดเป็นมือดีด้านการต่อสู้ กองทหารจำนวนไม่น้อยเพิ่งจะถอยทัพออกไป มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่สามารถยับยั้งคนร้ายที่อยู่รอบๆ ได้”


ฉินสือโอวถามด้วยความไม่เข้าใจว่า “งั้นเพราะอะไรถึงยังเลือกตั้งร้านค้าที่นี่?”


ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจ ขณะที่รถกำลังเลี้ยว ท่าเรือเล็กๆ แห่งหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาของเขา รถขับไปตามถนนสายหลักติดริมทะเล


“การขนส่งอาหารทะเลของที่นี่สะดวกสบายที่สุด นอกจากความรุ่งโรจน์ของถนนแอนท์ที่มีมา 200 กว่าปีแล้ว นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้ดีว่า ถ้าพวกเขามาที่ไมอามีเพื่อกินอาหารทะเลก็ต้องไปที่ถนนแอนท์ แล้วพวกเราจะไม่ใช่ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างไรล่ะ? ที่สำคัญที่สุดก็คือ ภาษีของที่นี่ต่ำ ฮ่าๆ พวกเราเปิดร้านขายอาหารทะเลที่นี่ก็จะสามารถประหยัดภาษีได้ถึง 40%!”


บัตเลอร์หัวเราะออกมาเสียงดังอีกครั้ง รัฐบาลไมอามีมีความต้องการอยากที่จะพัฒนาเมืองแอนท์เป็นอย่างมาก แต่ที่นี่ยุ่งเหยิงเกินไป นอกจากนั้นคนส่วนใหญ่ยังเป็นผู้อพยพและมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในการต่อต้านรัฐบาล


ดังนั้นรัฐบาลเมืองไมอามีจึงคิดจะมาพัฒนาเมืองนี้ผ่านวิธีการซึมซับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมและสิ่งอื่นๆ เข้าไปโดยไม่ให้รู้ตัว พวกเขาให้ผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อดึงดูดบริษัทกับโรงงานให้เข้ามาและปล่อยให้เมืองเติบโตด้วยตัวเอง


จากมุมมองในปัจจุบัน เคล็ดลับนี้ก็มีประสิทธิภาพอยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุดถนนภายในเมืองก็เป็นระเบียบขึ้นมา


ระหว่างขับรถบัตเลอร์พูดว่า “ที่ไมอามี การรับประทานอาหารเป็นวิธีสุดท้ายในการทำความเข้าใจและสัมผัสกับสไตล์ที่แตกต่างกันของเมืองนี้ มาสิ ผมจะพาคุณไปสัมผัสอย่างมันอย่างช้าๆ อาหารมื้อนี้อาจจะใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ดังนั้น เพื่อน คุณจะต้องอดทนหน่อยนะครับ”


ฉินสือโอวยิ้ม “งั้นคุณก็ไม่ต้องกังวล เพราะผมเป็นคนมีความอดทน”


อาหารมื้อนี้นานพอสมควรแน่นอน บัตเลอร์พาฉินสือโอวเข้าไปในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งก่อน สวนสาธารณะมัสซิโม โกเมซตั้งอยู่ในย่านลิตเทิลฮาวานา เขาสั่งกาแฟคิวบาสองแก้วและนั่งอยู่ข้างแปลงดอกไม้ดูพระอาทิตย์ตกไปพลางดื่มกาแฟไปพลาง


“นี่ถือว่าเป็นชายามบ่าย เพื่อน นี่ยังไม่ใช่อาหารค่ำหรอกนะ” บัตเลอร์ยิ้ม


ฉินสือโอวยกแก้วกาแฟขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้เขา “กาแฟรสชาติไม่เลว เป็นชายามบ่ายที่เยี่ยมมาก”


ด้านข้างสวนสาธารณะมีร้านอาหารกลางแจ้งขนาดเล็กแห่งหนึ่งชื่อว่าภัตตาคารหูอาน บัตเลอร์โบกมือเรียกให้บริกรสั่งเป็ดย่างไร้กระดูกลองไอแลนด์ และเนื้อกระต่ายย่างน้ำมันพริกกับเชอร์รี นี่คืออาหารสำหรับน้ำชายามบ่าย


ฉินสือโอวยิ้มและพูดว่าเขาคิดเสมอว่าน้ำชายามบ่ายจะต้องคู่กับของหวาน คิดไม่ถึงว่าจะยังสามารถคู่กับเนื้อย่างได้ด้วย บัตเลอร์บอกให้เขาลองชิม


หลังจากเนื้อย่างแสนประณีตทั้งสองจานมาเสิร์ฟซึ่งเป็นรสชาติอาหารสไตล์สเปนที่ย่างกับน้ำมัน แต่เมื่อกินเข้าไปแล้วกลับไม่รู้สึกถึงน้ำมันเลย ดังนั้นกินคู่กับกาแฟก็ถือว่าไม่เลวเลยจริงๆ


ในช่วงเวลานั้นฉินสือโอวโทรหาพวกชาวประมง คนพวกนี้ตื่นกันเรียบร้อยแล้ว แต่วิ่งไปที่บาร์เต้นเปลื้องผ้าเพื่อดื่มเบียร์กันหมด เมื่อรับโทรศัพท์แต่ละคนก็ตะโกนโหวกเหวก ดูเหมือนจะกำลังเติมพลังอยู่


ดังนั้นฉินสือโอวจึงไม่ได้เรียกพวกเขาให้มาทานอาหาร เขารู้ว่าคืนนี้คนพวกนี้คงไม่มีเวลามาทานของพวกนี้แล้ว


บทที่ 828 ไม่ใช่แค่เหรียญทองกับเหรียญเงิน

Ink Stone_Fantasy

อาหารค่ำที่บัตเลอร์พาฉินสือโอวไปทาน เป็นถนนที่ขายอาหารว่างสายหนึ่ง และไม่ใช่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ในโรงแรมขนาดใหญ่


แน่นอนว่า ที่นี่กับถนนสายนั้นที่นครเซนต์จอห์นมีความแตกต่างจากแผงลอยขายอาหารว่าง และเป็นถนนสายหนึ่งที่เต็มไปด้วยร้านอาหารชั้นเลิศที่มีสไตล์อาหารที่หลากหลาย


อาหารกลางวันกับอาหารค่ำในอีกไม่กี่วันต่อมา ฉินสือโอวพาพวกชาวประมงมาทานอาหารที่ถนนสายนี้เพื่อลิ้มรสความอร่อยของอาหารทุกชาติ


ที่ร้านอาหารเวลบาเล็น เขาดื่มน้ำผลไม้กลิ่นวานิลลาของท้องถิ่นจากเมืองไมอามี กินข้าวผัดมะพร้าวกับปลาจานแดงสไตล์เอเชีย


ที่ร้านอาหารพิจเจิน ภายในร้านอาหารขนาดเล็กที่ขายอาหารสวิตเซอร์แลนด์เป็นหลักแห่งนี้ เขาได้ลิ้มรสเนื้อแกะสับสไตล์สวิตเซอร์แลนด์ สเต๊กเนื้อนุ่มซาบีน่ากับเป็ดย่างในซอสส้มทั้งตัว


สุดท้ายคือร้านอาหารวิชชิ่ง รสชาติจะผสมกันระหว่างอาหารสไตล์ลาตินอเมริกากับอาหารสไตล์เขตร้อน รสชาติของแตงโม ผักชี เมล็ดงา กุ้ง และหอยย่างถ่านราดด้วยน้ำเห็ดหอมรมควันนั้นยอดเยี่ยมมาก ฉินสือโอวกับพวกชาวประมงมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้มาทาน


แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะสั้นเสมอ พวกเขาขึ้นฝั่งมาได้สี่วัน บิลลี่ก็โทรศัพท์มาว่า “ฉิน ฉันกู้ของที่มีประโยชน์ขึ้นมาได้ นายรีบมาดูเถอะ”


ฉินสือโอวบอกลาบัตเลอร์ และขับเรือกลับไปที่น่านน้ำเบอร์มิวด้าเพื่อไปดู ‘ของมีประโยชน์’ ที่บิลลี่พูดถึง


บิลลี่ทำงานด้วยความเฉียบขาดและรวดเร็ว ใช้เวลาแค่สี่วันกว่า เขาก็กู้ซากเรืออับปางทั้งสองลำได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งของมีค่าเกือบทั้งหมดก็ถูกกู้ขึ้นมาด้วย


เมื่อขึ้นไปบนเรือกอบกู้ สิ่งแรกที่ฉินสือโอวเห็นคือเหรียญทองกับเหรียญเงินกองใหญ่ที่เจ้าหน้าที่กำลังจัดการ


เป็นอย่างที่เขากังวล เหรียญทองกับเหรียญเงินพวกนี้กลายเป็นสนิมไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหรียญหลายเหรียญที่ติดอยู่ด้วยกัน


บิลลี่เดิมเข้ามากอดฉินสือโอว ฉินสือโอวส่งกล่องเก็บความร้อนให้เขาและพูดว่า “ข้างในเป็นเป็ดย่างสไตล์จีนจากพวกเรา รีบเอาไปอุ่นกินเถอะ ฉันเดาว่าหลายวันมานี้อาหารที่นายกินในทะเลคงจะไม่ค่อยดีเท่าไรนัก”


เมื่อบิลลี่ได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันทีและพูดว่า “เพื่อนที่แสนดีของฉัน ฉันรักนายมากจริงๆ นายคงไม่รู้ว่าหลายวันมานี้อาหารที่ฉันกินมีแต่อาหารขยะทั้งนั้น! แฮมเบอร์เกอร์ แซนด์วิช พิซซ่า พาสต้า มีแต่อาหารขยะพวกนี้ อาหารพวกนี้!”


เมื่อเปิดกล่องเก็บความร้อนออก บิลลี่ก็ไม่ได้เอาไปอุ่น เขาฉีกเนื้อเป็ดย่างเป็นชิ้นเล็กพอดีคำและจิ้มซอสกินในทันที นอกจากเป็ดย่าง ฉินสือโอวยังเอาอาหารรสเลิศ เช่นลูกชิ้นสี่สุขกับสเต๊กเนื้อวัวสไตล์เม็กซิโกมาด้วย ทั้งหมดเป็นอาหารที่ห่อมาจากถนนอาหารว่าง ข้างในกล่องแช่แข็งก็ยังมีอาหารอยู่อีกกอง


ของพวกนี้สามารถแช่แข็งและนำไปอุ่นได้ รสชาติอาจจะต่างไปเล็กน้อย แต่นั่นก็อร่อยกว่าแฮมเบอร์เกอร์กับพิซซ่าเยอะ


ฉินสือโอวเดินไปดูเหรียญทองกับเหรียญเงิน เขาหันกลับมาส่ายหน้าและพูดว่า “ดูเหมือนว่าของพวกนี้จะขายได้เงินไม่เท่าไร”


ภายในปากของบิลลี่เต็มไปด้วยสเต๊กเนื้อวัว เขาก่นด่าออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้ว่า “สหรัฐอเมริกาแม่งโคตรห่วย โรงงานทำเหรียญก็โคตรขยะ พวกเขาแอบลดวัสดุกับขั้นตอนการผลิตลงอย่างแน่นอน! ฟัค ปริมาณของทองแดงกับเหล็กที่อยู่ในเหรียญทองกับเหรียญเงินพวกนี้ต่ำเกินค่ามาตรฐาน ไม่งั้นคงไม่กลายเป็นสนิมแบบนี้!”


ฉินสือโอวถามว่า “เหรียญทองกับเหรียญเงินจะขายได้ประมาณเท่าไร?”


บิลลี่กลืนสเต๊กเนื้อวัวลงไปและคิดทบทวน “ยี่สิบล้านมั้ง? ต้องดูช่องทางของเบลค ถ้าช่องทางดีก็อาจจะเพิ่มสองเท่า ก็เป็นสี่สิบล้าน ถ้ารวมทุกงานประมูลก็คงได้สักยี่สิบล้าน”


“ดอลลาร์แคนาดาเหรอ?”


“ดอลลาร์สหรัฐสิ”


ฉินสือโอวตกตะลึง “จะได้ราคามากขนาดนั้นเลยเหรอ?”


บิลลี่หัวเราะออกมา เขาพาฉินสือโอวไปที่ห้องกัปตันเรือและเปิดตู้เซฟ ข้างในคือเหรียญทองกับเหรียญเงินที่กองเป็นระเบียบกองหนึ่ง เหรียญพวกนี้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี บางเหรียญเป็นสนิมนิดหน่อย แต่โดยรวมก็ถือว่าสภาพยังดีอยู่


“เหรียญที่ฉันพูดถึงคือเหรียญพวกนี้ พวกมันถูกเก็บรักษาไว้นานกว่า 250 ปีมาแล้ว เหรียญหนึ่งก็มีค่าอย่างน้อยหนึ่งหมื่นดอลลาร์สหรัฐ!” บิลลี่พูดอย่างพึงพอใจ


แต่ทันใดนั้น เขาก็ไม่มีความสุขอีกครั้ง “ฟัค ถ้าเหรียญทองที่กู้ขึ้นมาถูกปกป้องไว้เป็นอย่างดี เพื่อนรัก ครั้งนี้พวกเราคงจะทำกำไรได้มากกว่าห้าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ!”


บิลลี่กัดฟันพูดด้วยความขุ่นเคือง เขาหันมาด่าโรงงานทำเหรียญที่ใจดำเกินไป นึกไม่ถึงว่าจะใช้ทองแดงกับเหล็กหลอมเป็นทองกับเงินเพื่อหลอกลวงผู้เสียภาษี


ฉินสือโอวรู้สึกพึงพอใจจึงถามว่า “นี่ไม่เลวเลย เพื่อน ยี่สิบล้านดอลลาร์สหรัฐยังไม่พออีกเหรอ?”


บิลลี่หัวเราะออกมาและพูดว่า “ไม่พอแน่นอน ฉิน ไม่พอแน่นอน! พระเจ้าก็คงรู้เรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาถึงนำของอีกอย่างที่ไม่เลวมาให้พวกเรา มาสิ ไปเปิดตาของนายกับฉัน!”


ฉินสือโอวคิดว่าของที่ไม่เลวที่บิลลี่พูดถึงคือเหรียญทองกับเหรียญเงิน ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แบบนั้น


ทั้งสองคนเดินไปที่ดาดฟ้าเรือ ซึ่งมีหีบขนาดใหญ่ใบหนึ่งที่มีขนาดยาว 5 ถึง 6 เมตร กว้างกับสูงประมาณ 2 เมตรกว่าถูกกันน้ำด้วยผ้าใบกันน้ำที่ปกคลุมเอาไว้ บิลลี่สั่งให้คนดึงผ้าใบออก ข้างใต้ผ้าใบกันน้ำเป็นหีบโปร่งใสใบหนึ่ง และข้างในหีบมีรูปปั้นไม้ขนาดใหญ่ที่ใช้พลาสติกห่อเอาไว้อยู่


ไม้แกะสลักสีดำทั้งแท่ง ความยาวประมาณ 4 เมตร เหมือนกับงูเหลือมตัวหนาตัวหนึ่ง แต่รูปร่างแปลกมาก หัวเหมือนจระเข้ แต่มีหูที่เหมือนกับม้า ฟันที่เหมือนกับใบมีด บนหัวยังมีเขาที่แหลมคมและยาวอยู่ด้วย บนตัวก็มีเกล็ดที่หยาบ ใต้คางแกะสลักเป็นวงกลมคล้ายกับแผงคอของสิงโต


“นี่คืออะไร?” ฉินสือโอวถาม เขามองว่าของชิ้นนี้ก็คือสัตว์สี่ชนิดที่แตกต่างกัน มันดูดำมืดจนทำให้ผู้คนรู้สึกกลัว ไม่เห็นว่าจะมีค่าตรงไหน


บิลลี่ตบหีบด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า “พูดออกไปนายก็คงไม่เชื่อแน่นอน เพื่อน นี่คือเครื่องเสาหัวเรือ! นายรู้จักเครื่องเสาหัวเรือไหม? โอ้ แน่นอนสิ ฉันนี่พูดอะไรไร้สาระ นายต้องรู้จักของสิ่งนี้แน่นอนอยู่แล้ว ใช่ นี่ก็คือเครื่องเสาหัวเรือเมื่อ 500 ปีก่อน!”


มองดูก็รู้ว่าของสิ่งนี้คงจะมีมูลค่าอย่างมาก หลังจากที่บิลลี่มองมันก็พูดเรื่องไร้สาระออกมาด้วยความตื่นเต้น


ฉินสือโอวบอกให้เขาใจเย็น และให้เขาอธิบายสักหน่อยว่าเครื่องเสาหัวเรือมีอะไรพิเศษ “พิเศษแน่นอน! เพื่อน พิเศษแน่นอน! รู้ไหมว่าเครื่องเสาหัวเรืออันนี้ปรากฏขึ้นมาครั้งแรกตอนไหน? ตอนนั้นเลโอนาร์โด ดา วินชีกับคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสยังมีชีวิตอยู่เลย!”


บิลลี่ตบไปที่หีบทีหนึ่ง เมื่อถึงใจกลางก็ให้ฉินสือโอวเข้ามาดู “ดูสิว่า ที่แกะสลักด้านบนนี้คืออะไร?”


ฉินสือโอวมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ด้านหลังของเครื่องเสาหัวเรือแกะสลักเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษไว้ว่า ‘กริบฮันเดน’


“หมายถึงอะไร?” เขาไม่รู้ความหมายของภาษาอังกฤษประโยคนี้จริงๆ


บิลลี่พูดว่า “นี่คือชื่อของเรือที่เป็นที่ตั้งของเครื่องเสาหัวเรือ เรือกริบฮันเดน เมื่อสมัยศตวรรษที่ 15 ชื่อของเรือธงในกองทัพเรือของกษัตริย์จอห์น แห่งนอร์เวย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด!”


“ฉันเคยตรวจสอบข้อมูลแล้ว บนเรือกริบฮันเดนมีเครื่องเสาหัวเรือแบบนี้อยู่จริงๆ ตอนนั้นมันมีชื่อเสียงมาก เครื่องเสาหัวเรือนี้ถูกเรียกว่า ‘อสูรของกษัตริย์’”


“แต่เรือลำนี้จมลงไปที่ก้นมหาสมุทรภายในกองเพลิง เมื่อปี 1495 เครื่องเสาหัวเรือก็หายไปทันทีหลังจากนั้น ทุกคนต่างก็คิดว่ามันถูกเผาไปแล้ว แต่ในตอนนั้นก็เป็นยุคสมัยที่วุ่นวายมากเพราะมีสงครามเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เรือลำนี้เป็นเรือที่ถูกเผาตรงท่าเรือ นั่นเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากทั้งธรรมชาติและฝีมือของมนุษย์ ไฟเผาไหม้เรือทุกลำที่อยู่ตรงท่าเรือ ทำให้กษัตริย์จอห์นผิดหวังกับแผนการที่จะรวมเดนมาร์ก นอร์เวย์และสวีเดน เพื่อเปลี่ยนประวัติศาสตร์ยุคกลางของทวีปยุโรป!”


“เพื่อน ตอนนี้พวกเรากำลังยืนอยู่กับสิ่งที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์! โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันไม่เพียงแค่เป็นหลักฐานจากการไฟไหม้ที่เดนมาร์กในครั้งนั้น แต่ยังเป็นหลักฐานที่แสดงถึงอำนาจของกองทัพเรือสหรัฐอีกด้วย!”


ฉินสือโอวเข้าใจเรื่องนี้แล้ว เครื่องเสาหัวเรืออันนี้กู้ขึ้นมาจากเรือธง ‘ดาบแห่งพระอัลเลาะห์’ ของโจรสลัด เขาคาดเดาว่าพวกโจรสลัดก็ไม่รู้ว่าได้มันมาอย่างไร และติดเครื่องเสาหัวเรือไว้บนเรือธงเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้แก่ศัตรู ผลคือตอนนี้มันกลายเป็นของเชลยศึกของพวกเขาแล้ว


“งั้นมันมีมูลค่าเท่าไร?” ฉินสือโอวยังค่อนข้างให้ความสนใจกับเรื่องนี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)