ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 752-758

 บทที่ 752 สร้างเกาะให้คุณหนึ่งแห่ง

โดย

Ink Stone_Fantasy

นีลเซ็นมองแพรีสที่นุ่มนวลราวกับกระต่ายขาวอย่างตกตะลึง


แฮมเล็ตฝืนยิ้มพลางพูด “ผมลืมแนะนำไป น้องสาวผมเรียนมหาวิทยาลัยวิชาเอกสื่อสารมวลชนวิชาโทประวัติศาสตร์ยุโรป ปกติต้องจำชื่อยาวๆ อยู่แล้ว อีกอย่างความสามารถในการจำของนักข่าวไม่เลว พวกคุณก็เข้าใจพวกที่ขึ้นหนังสือพิมพ์อะไรพวกนั้น”


แพรีสรินเบียร์ใส่แก้วเบียร์ตรงหน้าการ์เซียและเซลียาช้าๆ จนเต็มแล้วพูดพลางอมยิ้ม “คนต่อไปคือใครคะ? ข้ามพี่วินนี่ เซโรวาไปแล้วกัน ได้ยินว่าเธอท้องอยู่ อย่างนั้นก็พี่ฟอกส์ เซโรวาไหมคะ?”


ฟอกส์มองแรงใส่นีลเซ็น นายก่อเรื่องไว้เองก็ต้องเล่นให้จบแม้ว่าจะร้องไห้ก็ตาม!


แพรีสโบกมือพลางพูด “คุณนั่งลงเถอะพี่เรจจี้ ดีเจ นีลเซ็นคุณไม่ต้องแนะนำแล้ว เมื่อครู่คุณฉินสือโอวและพี่ชายฉันแนะนำชื่อของทุกคนให้กับฉันแล้ว ฉันทวนซ้ำอีกครั้งก็พอแล้ว พวกคุณจะดื่มกันอย่างไร?”


“นีลเซ็น นายดื่มเอง!” เบิร์ดพูดอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น


คนในงานปาร์ตี้ครั้งนี้มีเกินยี่สิบคน วนครบรอบวงหนึ่งรอบ นีลเซ็นก็ถูกอีวิลสันแบกกลับบ้านไป…


การ์เซียและเซลียาย้ายเข้าไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ในฟาร์มปลา เนื่องจากพวกเขาเดินทางรอบโลกอย่างยากจน ฉินสือโอวรู้เรื่องนี้เลยให้ที่พักกับพวกเขาฟรีๆ จะให้เขาทำอาหารให้กินเปล่าๆ ไม่ได้


อย่างไรเสียห้องพวกนั้นปล่อยว่างไว้ก็เปล่าประโยชน์ มีเตียง ผ้าห่มและที่นอนที่ทั้งสองคนเตรียมมาเอง


ตื่นเช้ามาฉินสือโอวก็ออกไปวิ่ง เห็นว่าการ์เซียตื่นนอนแล้วกำลังเก็บกวาดเรือใบที่รักของเขาโดยไม่ได้สวมเสื้อ


ฉินสือโอวไม่เคยเห็นการดูแลรักษาเรือใบมาก่อนเลยวิ่งไปนั่งย่องๆ ที่ท่าเรือมองการ์เซียทำงาน


เซลียาถือเสาเล็กๆ เดินออกมาจากตัวเรือ พอเห็นฉินสือโอวก็ยิ้มพร้อมพูด “คุณตื่นเช้าเหมือนกันนะคะคุณฉิน”


ฉินสือโอวยักไหล่พลางพูด “เทียบกับพวกคุณแล้วผมยังสายอยู่ไม่น้อยเลย”


เขาเห็นแล้วว่าเรือใบถูกเช็ดถูจนสะอาดหมดจด นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำเสร็จได้ในไม่กี่นาที


เซลียาอธิบาย “พวกเราไม่มีทางเลือกเพราะต้องมาทาสี หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้เรือของเราชนเข้ากับท่าเรือเพราะพายุโซนร้อนลูกนั้น สีเลยหลุดไปนิดหน่อย งานนี้ต้องทำก่อนพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ”


การซ่อมสีเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซลียาก็พ่นสีสเปรย์หุ้มอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันตัวเรือเป็นคราบสกปรก


การ์เซียตรวจสอบตะขอและเสากระโดงเรือ


การ์เซียอธิบายให้ฉินสือโอวฟัง “สำหรับเรือใบแล้วนะเพื่อน ผมต้องบอกว่าการตรวจสอบใบเรือว่าเสียหายหรือไม่อย่างสม่ำเสมอนั้นสำคัญมาก นอกจากที่ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากแล้ว ราคาของมันก็แพงมากด้วย พวกเราคงไม่มีเงินซื้ออันใหม่อีกแล้ว”


ตรวจสอบอุปกรณ์ด้านนอกเสร็จแล้ว การ์เซียเดินเข้าไปในเรือ ฉินสือโอวเลยถือโอกาสตามเข้าไปดู


การ์เซียบอกว่าเรือใบไม่เหมือนพวกเรือประมงหรือเรือสินค้า ตัวเรือจะค่อนข้างเปราะบาง อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงก็สามารถทำให้พวกมันเสียหายได้ ดังนั้นการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันตัวเรือเสียหายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก


ส่วนหลักด้านในตัวเรือของโคลัมบัสแห่งมิตรภาพเป็นไม้ที่ด้านนอกพ่นสีหุ้มไว้ การ์เซียตรวจดูอย่างละเอียดพบว่ามีรอยขีดข่วนที่ประตูเรือจึงรีบเติมสีทันที


“การเติมสีต้องทำให้ทันเวลาและต้องตั้งใจ เพราะในทะเลมีความชื้นสูง ต้องป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าไปตามรอยขีดข่วนเพราะจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง” การ์เซียอมยิ้มพูด


ตรวจสอบเสร็จแล้วการ์เซียก็ตบหางเสือเรือ เซลียากอดเขาจากทางด้านหลัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกสุขใจ ฉินสือโอวเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปให้พวกเขาแล้วหันไปให้การ์เซียดู


ดูรูปแล้วการ์เซียยิ้มพลางพูด “ซาบซึ้งมาก ถ่ายได้สวยมากครับ”


ขึ้นท่าเรือแล้วสายตาก็มองไปเห็นขวดพลาสติกเกลื่อนกลาดอยู่บนชายหาด “นี่คือมาตรการอะไรสักอย่างในการดูแลรักษาฟาร์มปลาหรือเปล่าครับ?”


ฉินสือโอวยักไหล่อย่างจนใจแล้วพูดถึงเหตุการณ์พายุก่อนหน้านี้ เขาอยากจะติดต่อบริษัททำความสะอาดทางทะเลมาจัดการขยะพลาสติกพวกนี้เร็วๆ แต่พายุครั้งนั้นทำให้เกิดความเสียหายแก่ชายหาดของเมืองเซนต์จอห์นเป็นอย่างมาก บริษัททำความสะอาดจึงถูกทางรัฐว่าจ้างไปแล้ว


การ์เซียมองขวดพลาสติกพวกนี้อย่างใจลอย เขาปรึกษากับเซลียาเบาๆ ครู่หนึ่งทั้งสองก็ไปดูขวดและเศษพลาสติกพวกนี้อย่างละเอียด


ฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจนัก หลังมื้อเช้าเขาเตรียมจะไปเก็บองุ่นกับพวกหวังเหล่ย การ์เซียมาหาเขาแล้วถาม “เพื่อน ขอถามหน่อย พวกพลาสติกที่ชายหาดคุณคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร?”


“แน่นอนว่าต้องหาบริษัททำความสะอาดมาจัดการ” ฉินสือโอวยิ้มพลางพูด


การ์เซียถาม “มีค่าใช้จ่ายเท่าไรเหรอครับ”


ฉินสือโอวสงสัยในใจหรือว่าเจ้านี่จะมีวิธีดีๆ ในการกำจัดขยะพวกนี้? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ดีเลย “ประมาณสี่ถึงห้าหมื่น เพื่อน คุณก็เห็นแล้วว่าขยะพวกนั้นมันน่ารังเกียจมาก”


การ์เซียมีท่าทางตื่นเต้นแล้วพูด “แบบนี้ดีไหมครับ พวกคุณยกเรื่องจัดการพวกพลาสติกนี่ให้เรา ผมขอแค่สี่หมื่น เพื่อน เราไม่สามารถส่งพวกมันไปที่อื่นได้ แต่เราสามารถช่วยคุณสร้างเกาะเล็กๆ ได้”


“สร้างเกาะเล็กๆ?! หมายความว่าอย่างไร?” ฉินสือโอวถามอย่างประหลาดใจ


การ์เซียหยิบกระดาษสีขาวใบหนึ่งออกมา บนนั้นมีลายเส้นร่างไว้และตัวเลขเล็กน้อย “ดูสิ นี่คือภาพร่างของเกาะนั้น พวกเราต้องการแค่คีมตัด สลิงตกปลา และกาวกันน้ำก็จะสามารถร้อยพลาสติกพวกนี้ต่อกันเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเล”


ฉินสือโอวมองการ์เซียอย่างประหลาดใจ แล้วคนที่อยู่ด้านหลังก็อมยิ้มพูด “ขอให้คุณเชื่อใจพวกเราเถอะค่ะ แนวความคิดนี้เชื่อถือได้อย่างแน่นอน ความคิดนี้เริ่มต้นมาจากชาวประมงในโมซัมบิก”


“อเมริกาใช้ประเทศโมซัมบิกเป็นที่จัดการขยะ ที่นั่นมีขยะพลาสติกอยู่มากมาย ชาวประมงที่นั่นใช้ไม้และขยะพลาสติกมาทำเป็นเกาะขนาดเล็กลอยอยู่บนทะเล พวกเขาเชื่อมอวนจับปลาระหว่างเกาะเล็กๆ มันได้ผลดีมาก”


“โอ้โห แบบนี้ก็ได้?” ฉินสือโอวตะลึง


การ์เซียยักไหล่พลางพูด “ถ้าใช้ลวดที่ได้จากกองขยะและตาข่ายดักปลาคุณภาพต่ำ เกาะเล็กๆ ที่พวกเขาทำขึ้นก็อยู่ได้อย่างน้อยห้าปี แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นลวดและตาข่ายคุณภาพดีและยังมีกาวกันน้ำผสมอีก ผมกล้าพนันเลยว่าเกาะเล็กๆ นี้จะอยู่ได้ยาวนานเกินสิบปี! เพียงแค่ตั้งใจดูแลรักษายี่สิบปีก็คงไม่มีปัญหา”


ฉินสือโอวพิจารณาสักครู่ อย่างไรเสียเดือนนี้บริษัททำความสะอาดก็คงไม่มีเวลา อย่างนั้นทำไมไม่ลองเชื่อพวกการ์เซียแล้วลองทำดูล่ะ? ถ้าสำเร็จจริงนั่นก็คือเขาจะมีเกาะเล็กๆ ลอยอยู่บนทะเล


“โอเคตกลง ถ้าสำเร็จผมจะให้คุณห้าหมื่นไม่ใช่สี่หมื่น แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่ได้เงินนะ” ฉินสือโอวพูด


ใบหน้าของการ์เซียมีรอยยิ้มบางๆ ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจพร้อมถาม “อย่างนั้นการกินอยู่ของพวกเราในช่วงนี้?”


“ผมจัดการเอง!” ห้องหับมีแล้ว อาหารทะเลก็มีกินได้จนพุงแตก แถมบนเขาก็ยังมีอาหารป่าอีก


บทที่ 753 บ้านของเต่ามะเฟือง

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฤดูกาลนี้พวกเต่ามะเฟืองคงไม่อยู่ที่แคนาดาแล้ว ตามเกณฑ์ในอดีตพวกมันจะทยอยเคลื่อนที่เดินทางไปทางซีกโลกใต้ตั้งนานแล้ว


อินโดนีเซียและออสเตรเลียเป็นสองบริเวณสำคัญที่เต่ามะเฟืองจะไปวางไข่ เริ่มไปทางใต้ประมาณช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมก็จะถึงอินโดนีเซีย อุณหภูมิของชายหาดที่อินโดนีเซียในช่วงเวลานี้เหมาะสำหรับการวางไข่พอดี


ถ้าไม่ทันโอกาสนี้พวกเต่ามะเฟืองก็จะเดินทางต่อไปจนถึงออสเตรเลีย ซึ่งฤดูกาลของที่นี่ตรงข้ามกับที่ซีกโลกเหนือพอดี โดยในช่วงเดือนธันวาคมและมกราคมจะมีแดดจัด


แบบนี้พวกเต่ามะเฟืองก็สามารถวางไข่ที่ออสเตรเลียได้ เพื่อรักษาการสืบสายพันธุ์ของพวกมัน


แต่ตอนนี้มีเกาะแฟร์เวลแล้ว แม้ว่าแสงแดดและอุณหภูมิบนเกาะจะไม่ได้ดีที่สุดสำหรับการวางไข่ แต่ก็มีพลังโพไซดอนอยู่ พวกมันจึงมีพละกำลังดีมาก แบบนี้ไข่ที่วางก็จะแข็งแรงไปด้วย อีกอย่างชายหาดที่ฟาร์มปลาต้าฉินก็ปลอดภัยกว่า


นิโคลัส กูสปีนขึ้นมาที่ชายหาดทุกวันเพื่อตรวจตราบ้านของลูกน้อยดูว่ามีศัตรูทางธรรมชาติมาขโมยกินไข่ไหม


ฉินสือโอวไม่ยอมให้สิ่งมีชีวิตอะไรมาขโมยกินไข่เต่าแน่นอน เขาถึงขนาดส่งมือดีไปนั่งรักษาการณ์ หากมีปูเสฉวนหรือปูก้ามดาบขุดทรายไปกินไข่เต่าก็ไม่ต้องพูดอะไร จัดการได้ทันที!


ตอนนี้เต่ามะเฟืองเป็นดวงใจของฉินสือโอว เพราะแผนการใหญ่ของเขาขึ้นอยู่กับราชาตัวน้อยเหล่านี้


รอคอยมานานแสนนาน ในที่สุดในช่วงปลายเดือนสิงหาคม คำร้องขอการรับรองแหล่งอาศัยสัตว์หายากที่เออร์บักยื่นไปก็ผ่านแล้ว องค์กรพิทักษ์สัตว์ป่าหายากนานาชาติ องค์กรพิทักษ์สัตว์ป่าหายากของแคนาดา และกรมประมงล้วนส่งคนมาตรวจดูสถานการณ์


ฉินสือโอวคิดว่าจะมีคนในคณะที่มาอย่างน้อยสี่ห้าสิบคน อย่างไรเสียหลังจากการรับรองแหล่งอาศัยนี้สำเร็จ เขาก็จะสามารถติดตั้งกองกำลังอาวุธ นี่เป็นเรื่องที่ต้องจริงจัง!


ผลสุดท้ายพวกเขามากันแค่แปดคน ใช่ แปดคน และอีกสี่คนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ส่งมาจากฮังการีโดยองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าหายากนานาชาติ ทางกรมประมงและรัฐบาลแคนาดาส่งมาแค่สองคนเท่านั้น…


นึกถึงที่ตัวเองช่วยแฮมเล็ตตอนเลือกตั้ง ก็เคยว่าพนักงานรัฐว่าจู้จี้จุกจิกอยู่บ่อยๆ ฉินสือโอวรู้สึกขายหน้า คนน้อยเรียบง่ายถึงขนาดนี้เขายังจะพูดอะไรได้อีก?


หลังจากฉินสือโอวรับทั้งแปดคนมาแล้วก็ยังไม่ค่อยเชื่อเลยโทรหาแมทธิว แมทธิวให้เขาส่งข้อมูลของเจ้าหน้าที่กรมประมงทั้งสองคน ส่งให้เขาแล้วบอกเขาว่า ใช่ ไม่ผิด อย่างน้องที่กรมประมงส่งมาก็มีแค่สองคนจริงๆ


“แค่สองคนเหรอ?”


“ถ้าเป็นเรื่องจริง อย่างนั้นตรวจสอบแค่คนเดียวก็พอแล้ว ที่มาสองคนก็เพื่อความมั่นใจ”


ฉินสือโอวรู้สึกเคารพขึ้นมา เขานึกถึงคำสแลงคำหนึ่งของแคนาดา ความจริงคนคนเดียวพูดก็เพียงพอ เรื่องโกหกหมื่นคนพูดซ้ำกันก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นความจริงได้


พวกผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่เอาเครื่องมือและยามาด้วยจำนวนมาก พอถึงฟาร์มปลาพวกเขาเห็นขยะพลาสติกที่เกลื่อนเต็มชายหาดก็ขมวดคิ้ว


ฉินสือโอวเห็นสถานการณ์ไม่ดี เวรละ ต้องโทษพายุนั่นแหละ อย่ามาทำลายแผนการใหญ่ของตัวเองเด็ดขาด


ดีที่เขามากับนักการทูตเออร์บัก ทนายเก่ารู้ว่าคณะผู้ตรวจสอบมาถึงแล้วก็ตั้งใจกลับมาจากทางแฮมเล็ต เพราะเขารู้ว่าฉินสือโอวไม่ค่อยชำนาญในการรับมือเรื่องพวกนี้


คุณทนายเก่าเอาหนังสือพิมพ์มาฉบับหนึ่ง เป็นฉบับก่อนหน้านี้กว่าครึ่งเดือนตีพิมพ์ในวันที่สองที่พายุเข้า เขาอธิบายเรื่องความเสียหายจากพายุ ในนั้นมีข่าวของเรือบรรทุกขยะลำนั้นด้วย


บนหนังสือพิมพ์บอกว่าเรือขนส่งขยะลำนี้ถูกพายุพัดจนผ้าใบที่คลุมปลิวออกขยะพลาสติกเลยร่วงลงสู่ทะเล ในที่สุดก็มารวมกันที่ชายฝั่งของเกาะแฟร์เวล ให้ทางรัฐบาลรีบจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน


อ็อกเฟอร์กรุปไม่ใส่ใจ เกาะแฟร์เวลกลายเป็นหนามยอกอกในสายตาของพวกเขา แฮมเล็ตสร้างตัวตนจากที่นี่ ถ้าที่นี่ยิ่งวุ่นวายก็ยิ่งดี ดังนั้นกว่าครึ่งเดือนผ่านมาทางรัฐบาลไม่เพียงไม่จัดการกับขยะพลาสติกที่นี่ แต่ยังใช้บริษัททำความสะอาดทางทะเลไปหมดเลยด้วย


หลังจากเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับนี้แล้ว คนในคณะผู้ตรวจสอบที่ขมวดคิ้วก็คลายออก ชายชราเชื้อสายเยอรมันที่ดูเข้มงวดคนหนึ่งพูด “เพื่อน พวกคุณต้องจัดการกับขยะพวกนี้โดยเร็ว ใครจะรู้ว่ามีไวรัสอะไรมาด้วยบ้าง? ถ้าเต่ามะเฟืองติดเชื้อขึ้นมาจะทำอย่างไร?”


ฉินสือโอวพูดรับประกัน “จะรีบจัดการโดยด่วน! จะรีบจัดการโดยด่วนเลยครับ!”


อันที่จริงที่คณะผู้ตรวจสอบกังวลคือถุงพลาสติกที่มีในขยะพลาสติกพวกนี้ นั่นถึงจะเป็นมือสังหารเต่ามะเฟืองที่แท้จริง


ดีที่ไม่รู้ว่าพายุพัดถุงพลาสติกไปถึงไหน ที่เหลือไว้ก็มีแต่ขวดพลาสติกและแผ่นพลาสติกใหญ่ๆ คณะผู้ตรวจสอบหาแล้วไม่เจอถุงพลาสติกก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้ว


เต่ามะเฟืองไม่กินขวดพลาสติก ฟันและช่องปากของพวกมันไม่ได้ดีขนาดนั้น


จากนั้นก็ตรวจสอบคุณภาพน้ำ ที่จริงเต่ามะเฟืองค่อนข้างที่จะอึดมาก พวกมันไม่ใช่แมงกะพรุนน้ำจืด ที่แม้ว่าน้ำจะเน่าเสีย แต่ก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดี


แหล่งที่อยู่อาศัยไม่เพียงแต่ต้องให้เต่ามะเฟืองอยู่ได้เป็นอย่างดี แต่ยังต้องให้ใช้ชีวิตอยู่สุขสบาย กินดีอยู่ดีอย่างครบสมบูรณ์ ดังนั้นคุณภาพน้ำจึงค่อนข้างสำคัญ


จุดนี้ฉินสือโอวมั่นใจเต็มที่ ก็ในทะเลของเขาปลูกพวกสาหร่ายพวกหญ้าทะเลเยอะขนาดนั้น รอบๆ เกาะแฟร์เวลก็ไม่มีท่อน้ำทิ้ง คุณภาพน้ำจะไม่ดีได้เหรอ? ถ้าที่นี่คุณภาพน้ำไม่ดี อย่างนั้นพื้นที่ทะเลทั้งแคนาดาก็ต้องเป็นเขตที่มีมลพิษอย่างหนักแล้ว


หลังตรวจสอบแล้วพอผลออกมา คนในคณะผู้ตรวจสอบต่างตาโตด้วยความตะลึง “น้ำทะเลของพวกคุณเกือบจะมีมลพิษเป็นศูนย์เลยเหรอ? นี่ทำได้อย่างไรเนี่ย? พระเจ้า ผมเคยเห็นคุณภาพน้ำแบบนี้แค่ที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้เท่านั้น”


เออร์บักเอาหนังสือพิมพ์ออกมาอีกฉบับนี่คือ ‘หนังสือพิมพ์นิเวศวิทยาแคนาดา’ เป็นวารสารด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่มีชื่อเสียงมากฉบับหนึ่งของอเมริกาเหนือ


หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงานทุกอย่างทุกการกระทำหลังจากที่ฉินสือโอวเข้ามาเป็นเจ้าของฟาร์มปลาต้าฉิน ซื้อสาหร่ายและหญ้าทะเลจำนวนมากมาปลูกบนไหล่ทวีป กลายเป็นบริเวณทะเลที่มีแหล่งหญ้าที่ก้นทะเลหนาแน่นที่สุดในนิวฟันด์แลนด์


“ทุกท่านคงไม่ทราบว่าเจ้าของฟาร์มปลาหนุ่มของเราเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวยง เขาทนไม่ได้กับการทำลายธรรมชาติโดยประเทศของเขา จากนั้นเขาก็มาที่เกาะแฟร์เวลของพวกเราอย่างเด็ดเดี่ยว เพราะเขารักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ที่นี่!” เออร์บักใช้น้ำเสียงที่ชื่นชม


ฉินสือโอวพยักหน้าอย่างแรงเผยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ชีวิตคนก็เหมือนละครที่ต้องอาศัยการแสดง


ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดคนในคณะผู้ตรวจการคงเย้ยหยันไปแล้ว คิดว่าหลายปีมานี้ฉันกินหญ้าเหรอ?


แต่ความจริงก็อยู่ตรงหน้า คุณภาพน้ำของเกาะแฟร์เวลดีมากถึงระดับสุดยอด สาหร่ายที่ไหล่ทวีปเยอะมากเยอะจนทำให้พวกเขาคาดไม่ถึง อีกอย่างบนหนังสือพิมพ์ยังมีรายงานที่ฉินสือโอวเข้าร่วมประท้วงแล้วปิดกิจการโรงงานสารเคมีที่เกาะเล็กๆ สองแห่ง พวกเขาจะไม่เชื่อก็คงไม่ได้


ยังมีการตรวจสอบความหนาแน่นของแมงกะพรุนที่ฟาร์มปลา แม้เต่ามะเฟืองจะกินสาหร่ายปลาและกุ้ง แต่อาหารหลักก็คือแมงกะพรุน


ปัญหานี้ยิ่งง่าย ฉินสือโอวส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปรวบรวมแมงกะพรุนไว้นานแล้ว เจ้าตัวนี้ที่ฟาร์มปลาถูกเต่ามะเฟืองกินจนเหลือไม่เท่าไรแล้ว ฉินสือโอวเลยต้องใช้พลังโพไซดอนเร่งการขยายพันธุ์ของพวกมัน


แบบนี้ไม่ว่าเรือของคณะวิจัยจะแล่นไปที่ไหน ขอเพียงวางตาค่ายลงไปจะต้องจับแมงกะพรุนได้อย่างแน่นอน จะใหญ่จะเล็กจะมากจะน้อยก็ได้เยอะอยู่


บทที่ 754 ชัยชนะขั้นที่สอง

โดย

Ink Stone_Fantasy

“นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว” ผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมันจ้องไปที่ฉินสือโอวด้วยสายตาประหลาดๆ หลังจากที่เขาขึ้นฝั่ง “เพื่อน ฟาร์มปลาของคุณมีแมงกะพรุนเยอะขนาดนี้ได้อย่างไรกัน? คุณไม่เอาออกบ้างเหรอ?”


แน่นอนว่าต้องเอาออก การที่มีแมงกะพรุนเยอะไม่เพียงแย่งอาหารของพวกปลา แต่ยังก้าวร้าวและเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของชาวประมงอีกด้วย


ฉินสือโอวไม่สามารถพูดแบบนั้นได้ เขาแสดงท่าทางใสซื่อแล้วเอ่ยถาม “เอาออกยังไงเหรอครับ? ให้ทะเลเป็นผู้ตัดสินว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตนี่จะอยู่เหรอไปเองไม่ดีกว่าเหรอครับ?”


ชายชราถูกคำพูดของเขาทำให้ตื้นตันจนนิ่งไปห้าวินาทีเต็ม แล้วจึงพูดว่า “คุณพูดถูก เพื่อน คุณนี่เป็นคนดีคนหนึ่งเลย”


พวกเขาถือโอกาสเลือกแมงกะพรุนจำนวนหนึ่งเพื่อตรวจสอบปริมาณสารอาหารและโปรตีนที่มีอยู่ในเนื้อ ฉินสือโอวเห็นขั้นตอนการตรวจสอบที่เข้มงวดของคนพวกนี้ก็ค่อนแคะอยู่ในใจ อาหารที่คนทั่วไปในแคนาดากินคงไม่ตรวจสอบเข้มงวดขนาดนี้เลยมั้ง?


แต่นี่ก็ไม่มีอะไร อย่างไรเสียเขาก็ไม่กลัว


คณะผู้ตรวจสอบตรวจดูของอื่นๆ อีกเล็กน้อย สิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือปริมาณของเต่ามะเฟืองและไข่เต่า


เรื่องนี้ง่ายดายมาก ตอนที่พวกเขาตรวจดูแมงกะพรุนก่อนหน้านี้ก็เจอเต่ามะเฟืองไม่ต่ำกว่าห้าสิบตัวแล้ว และเรื่องนี้เรือวิจัยของบาลซักก็เคยเก็บสถิติเอาไว้ บาลซักมีอำนาจเบ็ดเสร็จในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้นหลังจากได้เห็นสถิติของบาลซักแล้วคณะผู้แทนจึงเชื่อว่ามีเต่ามะเฟืองที่โตเต็มวัยมากกว่า 240 ตัวอยู่ในฟาร์มปลาแห่งนี้


สถิติของจำนวนไข่เต่าดียิ่งกว่า ฉินสือโอวทำสัญลักษณ์ที่ที่วางไข่เอาไว้ทั้งหมดเพื่อให้มือดีดูแลพื้นที่เหล่านี้ ถ้ามีอะไรกล้าเข้าใกล้ก็จำกัดได้เลย!


ฉินสือโอวไม่ได้ตามคณะผู้เชี่ยวชาญไปตลอด เขากลับไปกลางคันเพราะเรดาห์ตรวจพบว่ามีเรือหาปลากำลังเข้ามาใกล้ฟาร์มปลาของเขาอีกแล้ว


ผลสุดท้ายตอนที่เขากำลังเตรียมตัวออกทะเล คณะผู้ตรวจสอบก็วิทยุมาขอความช่วยเหลือจากเขา “อ้อ เวรเอ๊ย! ทำไมฟาร์มปลาของคุณถึงมีเต่าอัลลิเกเตอร์ที่โหดร้ายอย่างนี้! พระเจ้า รีบหาวิธีหยุดมันเร็ว มันกำลังจะฆ่าพวกเรา!”


ฉินสือโอวรีบขับเจ็ทสกีไป เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท มาสเตอร์ได้รับคำสั่งให้กำจัดผู้ที่กล้าเข้าใกล้ไข่เต่า


หลังจากมาถึงหาดทรายตรงมุมทางตะวันออกเฉียงใต้ของฟาร์มปลา ฉินสือโอวมองไปก็กลั้นขำไม่อยู่ เพียงแค่เห็นเต่าอัลลิเกเตอร์ขนาดใหญ่กำลังขยับขาสั้นๆ ไล่โจมตีชายสูงใหญ่คนหนึ่ง ชายคนนั้นร้องสุดชีวิต เขาวิ่งเร็วราวกับกำลังบิน


เต่าอัลลิเกเตอร์นอกจากตอนโจมตีในระยะสั้นแล้ว เวลาอื่นมันก็ไม่ได้วิ่งเร็ว ดังนั้นเลยยังไม่ได้ทำร้ายใคร


ฉินสือโอวขึ้นมาแล้วผิวปาก มาสเตอร์ก็หยุดแล้วเอียงตามองคณะผู้ตรวจสอบอย่างดูถูก ตลกจริงๆ โง่เง่า เจ้าพวกเต่าตุ่นยังกล้ามาขโมยไข่เต่าของข้าอีก? เอ๊ย ไม่ใช่ไข่เต่าของข้าแต่เป็นของเต่ามะเฟือง!


พอตะโกนให้มาสเตอร์ลงมาแล้ว ฉินสือโอวก็อธิบายว่าสมองของเจ้าเต่าอัลลิเกเตอร์ตัวนี้ไม่ปกติ คิดว่าตัวเองเป็นเต่ามะเฟืองตลอด มันปะปนอยู่กับฝูงเต่ามะเฟืองนานมากแล้ว ตอนนี้ก็เลยออกโรงช่วยเต่ามะเฟืองปกป้องไข่


ชายสูงใหญ่วัยกลางคนที่ถูกไล่พูด “เป็นไปไม่ได้น่า เต่าอัลลิเกเตอร์เป็นพวกสันโดษ พวกมันจะคบค้ากับเต่ามะเฟืองได้อย่างไร?”


ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วพูด “ความจริงเป็นอย่างนี้ครับ เต่าอัลลิเกเตอร์ตัวนี้ถูกคนเลี้ยงจนโต จากนั้นคงพบว่ามันกินเก่งเกินไปจนเลี้ยงไม่ไหวเลยแอบเอาไปปล่อย ไม่รู้ว่ามาถึงที่เกาะเล็กๆ ของพวกเราได้อย่างไร”


“พวกคุณก็รู้ เต่ามะเฟืองเป็นเต่าน้ำจืดไม่สามารถลงทะเลไปหาอาหารได้ หลังจากที่ฝูงเต่ามะเฟืองพบมันก็จะให้ปลาและกุ้งกับมัน ทั้งสองฝ่ายก็กลายเป็นเพื่อนกันเพราะแบบนี้แหละ”


“มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ มิตรภาพข้ามเผ่าพันธุ์!” ผู้เชี่ยวชาญวัยชราชาวเยอรมันที่เป็นหัวหน้าคณะถอนหายใจ


ตอนนี้บนชายหาดของฟาร์มปลาต้าฉินมีไข่เต่าทั้งหมด 76 ฟอง พวกผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ขุดทั้งหมดหลังจากตรวจดูว่าไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ การตรวจสอบพื้นฐานก็สิ้นสุดลง


แต่การรับรองไม่ได้สิ้นสุดลงแค่นี้ คณะผู้ตรวจสอบจะอยู่ที่เมืองอีกระยะหนึ่งเพื่อรวบรวมผลลัพธ์เข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ในท้ายที่สุดถึงจะถือว่ามีประโยชน์


ทำแบบนี้เพื่อป้องกันการใช้วิธีล่อหรือบังคับให้สัตว์หายากมาอยู่ชั่วคราวเพื่อการรับรองเป็นแหล่งอาศัยสัตว์ป่า


ฉินสือโอวไม่หวั่น คณะผู้เชี่ยวชาญจะอยู่ที่นี่นานเท่าไรก็ได้ อย่างไรเสียเต่ามะเฟืองก็เต็มใจอยู่ที่นี่เอง


การดำเนินการเรื่องการรับรองของฟาร์มปลาเป็นไปอย่างคึกคัก การต่อสู้ในการเลือกตั้งของพวกแฮมเล็ตและอ็อกเฟอร์ก็เป็นไปอย่างคึกคัก


ฉินสือโอวคิดว่าตัวเองช่วยหาเสียงแล้วก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องอีก ใครจะรู้ว่าตอนเช้าในวันที่ 23 เดือนกรกฎาคมอยู่ๆ ก็มีนักข่าวจากสื่อหลายสำนักมาที่ฟาร์มปลาของตัวเอง เพื่อต้องการให้เขาช่วยรับรองเรื่องเรื่องหนึ่ง


ฉินสือโอวสับสน ตัวเองต้องรับรองอะไร?


นักข่าวคนหนึ่งพูด “คุณฉิน คุณยังจำเรื่องราวตอนที่คุณไปร่วมงานประกาศรางวัลทูลา รีฟส์ อวอร์ดเมื่อช่วงครึ่งปีแรกของปีที่แล้วได้ไหม? ว่ากันว่าคุณบันทึกวิดีโอไว้ทั้งหมด?”


รางวัลทูลา รีฟส์ อวอร์ดคือรางวัลผลงานพิเศษในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นของนครเซนต์จอห์น เพราะปีที่แล้วฉินสือโอวใช้เงินกับฟาร์มปลาไปสามพันล้านเลยได้รับรางวัลนี้ นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาและอ็อกเฟอร์พบกัน แต่ก็แค่พบกันพูดคุยกันไม่กี่คำ นายกเทศมนตรีก็ไปแล้ว


ฉินสือโอวจำเรื่องนี้ได้แม่น เพราะเรือประมงทูน่าสโนว์บอลของเขาก็เป็นรางวัลที่ได้มาจากเรื่องนี้ ผ่านมาปีหนึ่งแล้วนักข่าวจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกทำไม?


ไม่นานเขาก็รู้ว่าทำไม เพราะนักข่าวต้องการดูวิดีโอในตอนนั้น


ฉินสือโอวบันทึกวิดีโอเอาไว้จริงๆ อย่างไรเสียก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับนายกเทศมนตรีและยังเป็นการได้รับรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ตอนนั้นเขายังเป็นคนบ้านนอกคอกนาที่ไม่เคยเห็นโลกก็เลยบันทึกการประกาศรางวัลและงานแถลงข่าวแล้วอัปโหลดขึ้นสเปซของตัวเอง


หลังจากอัปโหลดวิดีโอนี้แล้วเขาก็ลืมไปเลย เพราะไม่ได้มีความหมายอะไร


หลังจากเปิดแล้วพวกนักข่าวก็ดูอย่างละเอียด ที่สำคัญคือตอนที่รถยนต์ที่นายกเทศมนตรีนั่งมาถึงงานประกาศรางวัล


ฉินสือโอวดูไปด้วยก็รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็เป็นรถเอสยูวี อินฟินิที แต่เขาดูรุ่นไม่ออก ดูท่าทางแล้วก็น่าจะหรูพอตัว


แต่พอพวกนักข่าวเห็นภาพนี้เข้าก็คึกคักขึ้นมาในพริบตา มีคนส่งเสียงออกมา “อ็อกเฟอร์งานเข้าแล้ว”


ฉินสือโอวถาม “นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอเพื่อน?”


นักข่าวคนหนึ่งพูดด้วยท่าทางเบิกบาน “คุณยังมองไม่เห็นปัญหาอีกเหรอ? ดูให้ละเอียด ดูให้ดี!”


ฉินสือโอวดูอย่างละเอียดแล้วก็ยังไม่เห็นปัญหาอะไร ได้แต่เดาว่า “รถรุ่นนี้แพงมาก?”


“อินฟีนิที คิวเอ็กซ์แปดศูนย์ ก็ต้องแพงมากอยู่แล้ว แต่นี่ไม่สำคัญ ปัญหาคือเครื่องยนต์ 5.6 ของรถรุ่นนี้ ดูรูปถ่ายนี่ให้ดีๆ นี่เป็นทะเบียนรถ” นักข่าวคนนั้นกล่าวอย่างยินดี


ฉินสือโอวไม่ได้สังเกตตรงจุดนี้ จริงๆ หลังกลับด้านดูแล้วก็เป็นความจริงรถคันนี้มีทะเบียน!


นักข่าวอธิบาย ฉินสือโอวจึงรู้ว่าครั้งนี้อ็อกเฟอร์เจอเรื่องยุ่งยากเข้าแล้ว


ตามกฎของนิวฟันด์แลนด์เครื่องยนต์ของรถสาธารณะห้ามเกิน 5.0 รถรุ่นนี้เครื่องยนต์เกินมาตรฐานและตามกฎทางทหารของแคนาดา ไม่อนุญาตให้ใช้ยานพาหนะทางทหารสำหรับพลเรือนและไม่สามารถกลายเป็นยานพาหนะของรัฐบาลได้!


บทที่ 755 สถานการณ์ที่กำหนดไว้แล้ว

โดย

Ink Stone_Fantasy

การกำกับดูแลรถของทางรัฐบาลของชาวแคนาดานั้นค่อนข้างที่จะเข้มงวดมาก หน่วยงานต่างๆ มีบทลงโทษอย่างรุนแรงสำหรับการใช้รถของทางการอย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการนำรถของทางการมาใช้ส่วนตัว


นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ อย่างไรเสียแคนาดาก็เป็นประเทศผู้อพยพ ประชาชนขาดความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรัฐบาล หากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามวินัยในตนเองอย่างเคร่งครัด อย่างนั้นในมือประชาชนเองก็มีปืน ถ้าพวกเขาจะรวมตัวกันล้มรัฐบาลก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้


ส่วนทางการทหารของแคนาดานั้นเข้มงวดกับการจัดการรถของทางการมากยิ่งกว่า


พอข่าวเรื่องอ็อกเฟอร์นั่งรถที่ใช้ทางการทหารออกไปก็เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ในทันที


ผู้ที่เริ่มจุดประเด็นนี้คือ ‘นิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์นิวส์’ ฉินสือโอวรู้ว่าสื่อเจ้านี้กลายเป็นหน้าม้าของแฮมเล็ตไปแล้ว


นี่เป็นหนึ่งในสามสื่อท้องถิ่นของนิวฟันด์แลนด์ที่มีอิทธิพลมากที่สุด แฮมเล็ตจ่ายเงินเดือนละสิบห้าล้านดอลลาร์แคนาดาเพื่อซื้อสิทธิ์ในการใช้สื่อนี้ชั่วคราว หน้าที่ของหนังสือพิมพ์สำนักนี้ก็คือการโจมตีพวกอ็อกเฟอร์


‘นำรถทางทหารมาใช้ส่วนตัว ฝ่ายทหารของแคนาดากลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองไปแล้ว?’ นี่คือพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ของสื่อเจ้านี้ หัวข้อข้าวนี้ค่อนข้างรุนแรงมาก


หลังจากนั้นพวกสื่อที่นครเซนต์จอห์นก็จุดประเด็นนี้ต่อ ประกอบด้วย ‘หนังสือพิมพ์ภาคค่ำนครเซนส์จอห์น’ ‘หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ภาคตะวันออก’ ‘หนังสือพิมพ์ประจำเมืองหลวงนิวฟันด์แลนด์’ สื่อจำนวนมากเริ่มรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้กระทั่งช่องข่าวภาคค่ำนครเซนต์จอห์นก็เอาเรื่องนี้มารายงานอย่างต่อเนื่อง


อ็อกเฟอร์ก็มีหน้าม้าเหมือนกัน เป็นสื่อรายใหญ่อีกสองเจ้าคือ ‘หนังสือพิมพ์ประจำวันเมืองนิวฟันด์แลนด์’ และ ‘หนังสือพิมพ์แรงงานนครเซนต์จอห์น’ ที่เริ่มล้างมลทินให้กับอ็อกเฟอร์


อ็อกเฟอร์เองก็แถลงข่าวอธิบายว่ารถคันนี้ไม่ใช่รถทางการของนครเซนต์จอห์นแต่เป็นของทางทหาร ตอนนั้นรถของเขาเกิดปัญหาพอดีเลยยืมมาใช้


นครเซนต์จอห์นมีกองทัพบกแห่งชาติของแคนาดาประจำการอยู่ อีกอย่างที่นิวฟันด์แลนด์ก็มีทหารรักษาการณ์ของกองทัพเรือแห่งชาติแคนาดาอยู่


ป้ายทะเบียนของรถอินฟินิทีคันนี้ก็เป็นทะเบียนรถทหารเรือ


กองทัพเรือของแคนาดาแบ่งเป็นระบบใหญ่ๆ มีมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติก กองบัญชาการกองทัพเรือมหาสมุทรแปซิฟิกตั้งอยู่ที่เมืองวิกตอเรีย รัฐบริติชโคลัมเบียห่างจากนิวฟันด์แลนด์หนึ่งแสนแปดหมื่นไมล์ ทั้งสองฝ่ายไม่มีความเกี่ยวข้องกัน


และกองบัญชาการกองทัพเรือมหาสมุทรแอตแลนติกตั้งอยู่ที่เมืองแฮลิแฟกซ์ รัฐโนวาสโกเชียใกล้นิวฟันด์แลนด์มาก ตอนสงครามเย็นศูนย์กลางกองทัพเรือของแคนาดาก็อยู่ที่แอตแลนติกเหนือ เพราะอย่างนี้กองบัญชาการทางทะเลจึงตั้งอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพเรือแอตแลนติก


ดังคำที่ว่าไว้ กระต่ายเจ้าเล่ห์มีสามโพรง ในตอนนั้นเพื่อป้องกันการโจมตีกะทันหันของกองทัพเรือสหภาพโซเวียตและสูญเสียกำลังที่จะโต้กลับ กองบัญชาการกองทัพเรือมหาสมุทรแอตแลนติกเลยมีสามที่ หนึ่งคือที่แฮลิแฟกซ์ สองคือที่สำนักงานป้องกันประเทศที่เมืองออตตาวา และอีกที่คือที่นครเซนต์จอห์น รัฐนิวฟันด์แลนด์แต่ละที่เป็นกองย่อยของกองต่อสู้ภาคสนามกองทัพเรือแห่งชาติ


เช่นนี้ความกดดันเลยมาอยู่ที่กองทัพเรือ ทางกองทัพเรือไม่อยากพัวพันกับเรื่องการเมืองพวกนี้ พวกเขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แถลงข่าวว่าทหารที่ดูแลรถคันนี้ในตอนนั้นปลดประจำการไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้อะไรแน่ชัด


ฉินสือโอวเห็นแบบนี้ก็เกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ แคนาดาก็น่าสนใจมากเช่นกัน ประเทศจีนเวลามีเรื่องอะไรก็ผลักให้เป็นความผิดพลาดของพนักงานชั่วคราว ในขณะที่แคนาดาผลักให้คนที่ปลดประจำการไปแล้ว มีความเหมือนไปในทางเดียวกัน


แบบนี้อ็อกเฟอร์และกองย่อยต่อสู้ภาคสนามของกองทัพเรือแห่งชาติก็เริ่มแตกหักกันแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในการเลือกตั้งและเขาไม่อาจยอมรับผลลัพธ์ที่ขมขื่นได้


กองทัพเรือก็ยิ่งไม่เต็มใจนัก ตอนที่คุณใช้รถ คุณมาหาพวกเรา พอต้องรับผิดชอบก็โยนความผิดมาให้พวกเรางั้นเหรอ? ขอโทษที พวกเราไม่ใช่แพะรับบาป!


และข่าวที่เกี่ยวข้องก็มีการรายงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้คนชอบดูการต่อสู้สกปรกๆ แบบนี้มาก และอ็อกเฟอร์ก็เป็นคนที่ชอบเล่นสกปรกคนหนึ่ง เดิมทีเรื่องนี้แค่ขอโทษและยอมรับผิดก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว แค่ทำให้ผลกระทบน้อยลงก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ


แต่เขาไม่ยอมเพราะรถรุ่นนี้เขาไปยืมกองทัพเรือมาใช้จริงๆ เขาไม่สามารถทำพลาดในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างนี้ได้เลยอยากให้ทางกองทัพเรือยอมรับแทน


กองทัพเรือจะยอมรับได้อย่างไร? หนึ่งรถคันนี้มีกำลังเครื่องยนต์เกินมาตรฐาน สองมีกฎของทหารว่ารถของทหารไม่สามารถให้คนนอกยืมใช้ได้ ถ้าพวกเขายอมรับก็เท่ากับว่าจะต้องรับมือกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง!


อย่างไรเสียพวกอ็อกเฟอร์ก็เป็นพรรคที่ใหญ่อันดับหนึ่งของแคนาดา มีกองกำลังที่เข้มแข็ง พวกเขามีทางเลือกอยู่สองทาง หนึ่งคือโกหกไปกับทางกองทัพเรือ สองคือเปิดโปงความผิดของแฮมเล็ต โดยเอาเรื่องที่เขาเมาแล้วขับเมื่อสิบปีก่อนออกมาแฉ


มีบทเรียนจากอ็อกเฟอร์ที่จมอยู่ในหลุมอย่างทุเรศแล้ว เมื่อแฮมเล็ตต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์นี้ เขาจัดแถลงข่าวต่อเพื่อแสดงความตรงไปตรงมาต่อประชาชนว่า ตอนนั้นเป็นเพราะเขาตื่นเต้นมากที่มีลูกสาวคนแรก ดังนั้นเขาจึงขับรถหลังจากที่ไปดื่ม


นอกจากนี้เขายังยอมรับว่าตอนนั้นตัวเองทำผิดจริงๆ และยังรับรองอีกว่าหลังจากมีบทเรียนครั้งนั้นแล้วเขาก็ไม่ดื่มเหล้าอีกเลย และขอร้องกับประชาชนให้เคารพกฎจราจร อย่าเมาแล้วขับและพยายามดื่มเหล้าแต่น้อย


ฉินสือโอวรู้ว่าแฮมเล็ตกำลังโกหก สิ่งที่เขาพูดเออร์บักเป็นคนคิดให้ ลูกสาวของเขาคลอดเมื่อสิบปีก่อนก็จริง แต่ประวัติการเมาแล้วขับของเขาก็ห่างจากตอนที่ภรรยาเขาคลอดลูกสาวตั้งนาน


แต่ใครสนเรื่องพวกนี้กันล่ะ? สิ่งที่ประชาชนต้องการคือทัศนคติ ก็เหมือนที่ ‘นิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์นิวส์’ ว่าเอาไว้ ใครไม่เคยมีช่วงคึกคะนองตอนวัยเยาว์กันบ้างล่ะ? โอบามาพี่ชายคนโตผู้นำของลุงแซมตอนวัยรุ่นยังเคยสูบกัญชาเลย


สรุปครั้งนี้พวกอ็อกเฟอร์เดินหมากพลาด แล้วพลิกร้ายกลายเป็นดีให้แฮมเล็กไปเปล่าๆ ภายในหนึ่งชั่วโมงคะแนนนิยมของเขาก็ลดลงไปอย่างมาก


ตามการสำรวจของสำนักสำรวจประชาชน ความเป็นไปได้ที่แฮมเล็ตจะถูกเลือกมีเกือบ 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่น่ากลัวมาก ถ้าพวกอ็อกเฟอร์ไม่มีไม้ตาย โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาก็คงจะต้องพ่ายแพ้ไป


ความจริงอ็อกเฟอร์ไม่สมควรที่จะแพ้ เรื่องครั้งนี้เออร์บักเป็นคนจัดการ ตอนนั้นนายกเทศมนตรีนั่งรถคันนี้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ มีเพียงเออร์บักเท่านั้นที่สังเกตเห็นเหตุการณ์นี้


และตอนนั้นหลังจากที่จุดประเด็นเรื่องอื้อฉาวนี้ ‘หนังสือพิมพ์ประจำวันเมืองนิวฟันด์แลนด์’ ที่เป็นเจ้าแรกในการวิจารณ์อ็อกเฟอร์ก็เป็นฉบับหนึ่งที่ได้รับเงินใต้โต๊ะจากพวกแฮมเล็ต เขาใช้วิธีทางอ้อมบีบให้อ็อกเฟอร์ต้องขัดแย้งกับกองทัพเรือ


อีกอย่างข่าวเรื่องเมาแล้วขับของแฮมเล็ตก็เป็นเออร์บักที่เป็นคนเปิดเผยออกไป เป้าหมายคือการใช้วิธีเปรียบเทียบมาแสดงให้เห็นถึงความเปิดเผยและตรงไปตรงมาของแฮมเล็ต นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง


ฉินสือโอวเป็นคนที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไรนัก พอเข้าใจแล้วก็ถอยห่างจากพวกแฮมเล็ตไปไกล การเมืองนี่เป็นเรื่องสกปรกจริงๆ


แฮมเล็ตยังอยากให้ฉินสือโอวไปช่วยหาเสียง อย่าคิดว่าฉินสือโอวเป็นแค่เจ้าของฟาร์มปลาเชื้อสายจีน ที่จริงแล้วเขาเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างสูงในนครเซนต์จอห์น ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่เขาตั้งใจทำฟาร์มปลาและช่วยชีวิตคนจากพายุ


ยังมีอีก ไม่นานมานี้ฉินสือโอวก็ค่อนข้างมีหน้ามีตา เพราะเจ้าของเรือขยะคือลุงกับป้าชาวละตินที่ถูกสัมภาษณ์


ก่อนหน้านี้ตอนที่นักข่าวถามว่าพวกเขาจัดการกับขยะพลาสติกที่ถูกพายุพัดอย่างไร พวกเขาก็บอกว่าฉินสือโอวปฏิเสธที่จะรับการรับผิดชอบและยังชมเขาไปยกใหญ่บอกว่าเขาช่างมีน้ำใจ


นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับประชาชนชั้นรากหญ้า เศรษฐีที่มีน้ำใจมักจะได้รับการสนับสนุนจากพวกเขาอย่างง่ายดาย


ฉินสือโอวปฏิเสธที่จะช่วยงานหาเสียงต่อ เหตุผลก็คือผลการตรวจสอบแหล่งอาศัยเต่ามะเฟืองออกมาแล้ว และเขาจำเป็นต้องจัดการเรื่องนี้!


บทที่ 756 ทหารลาดตระเวน

โดย

Ink Stone_Fantasy

กระบวนการตัดสินว่าสถานที่ที่หนึ่งจะสามารถเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์หายากได้หรือไม่นั้นยุ่งยากมาก ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างน้อยแปดสัปดาห์ หรือก็คือเกือบสองเดือน


แต่ของฉินสือโอวเป็นกรณีพิเศษ สาเหตุอยู่ที่คณะตรวจสอบของบาลซักที่ตอนนั้นพวกเขาไล่ตามหาเต่ามะเฟืองจนมาถึงที่ฟาร์มปลา สถิติการวิจัยทั้งหมดของศาสตราจารย์ที่ส่งมาที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าหายาก และข้อมูลพวกนี้มีอำนาจยิ่งกว่าอะไร


ดังนั้นคณะผู้ตรวจสอบจึงอยู่ที่ฟาร์มปลาแค่เพียงสี่วัน หลังตัดสินได้ว่าเต่ามะเฟืองดำรงชีวิตและวางไข่อยู่ที่นี่จริงๆ ก็เริ่มติดต่อกับรัฐบาลของนิวฟันด์แลนด์กำหนดให้ฟาร์มปลาต้าฉินเป็นแหล่งอาศัยของเต่ามะเฟือง


แม้คนที่สนใจเรื่องนี้จะมีไม่มาก แต่สำหรับสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์หายากแล้วเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะแบบนี้กรมประมงจึงจัดงานแถลงข่าวที่นครเซนต์จอห์นเพื่อให้ฉินสือโอวปรากฏตัว


ช่วงนี้ชาวนครเซนต์จอห์นไม่ได้สนใจงานแถลงข่าวเท่าไรนัก อ็อกเฟอร์โต้ตอบกับทางทหารไปมา แฮมเล็ตก็เสนอหน้าออกมาอีก เอะอะอะไรก็จัดแถลงข่าว พวกเขาดูกันจนพอแล้ว


สื่อที่มาเข้าร่วมงานแถลงข่าวก็มีน้อยมาก มีเพียงแค่สิบกว่าสำนักที่กรมประมงเชิญมา ในโถงมีนักข่าวยืนประปรายอยู่สิบกว่าคน และมีแพรีสนักข่าวที่เป็นน้องสาวของแฮมเล็ตมาด้วย ท่าทางยังคงเงียบๆ นิ่งๆ จนคนไม่กล้าเข้าใกล้


ความจริงแล้วฉินสือโอวรู้ว่าผู้หญิงพวกนี้รับมือได้ยาก ดูได้จากนีลเซ็นที่โชคร้าย เขายังถูกจัดการจนแย่ไม่พออีกเหรอ?


หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของกรมประมงประกาศเรื่องนี้ไปแล้ว สมาคมอนุรักษ์สัตว์หายากก็มอบป้ายสเตนเลสให้กับฉินสือโอวอย่างเป็นทางการ ด้านบนเขียนว่า ‘แหล่งอาศัยเต่ามะเฟืองของอเมริกา’ และต่อไปต้องแขวนเจ้าสิ่งนี้ไว้ที่หน้าประตูฟาร์มปลา


สิ่งที่ฉินสือโอวคาดหวังคือของอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือจดหมายแต่งตั้งจากกองบัญชาการกองทัพบกแห่งชาติ (LFC) ที่จะมอบให้เขา อำลาผู้บัญชาการกองร้อยทหารพรานเมือง


แม้จะเป็นองค์กรที่มีแต่ชื่อ แต่ LFC ก็ยังตั้งใจในการทำเรื่องนี้ พวกเขาส่งผู้บังคับบัญชาทหารบก พลตรีคนขาวสูงวัยที่แข็งแรงมาเป็นเจ้าภาพในการสถาปนาทหารบก


ทหารลาดตระเวนในสายตาของผู้ที่หลงใหลในการทหารแล้วถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะกองทหารบกที่เกรียงไกรที่สุดของอเมริกาก็ใช้ชื่อนี้


มีน้อยคนที่รู้ว่าทหารบกของแคนาดาก็เรียกว่าทหารลาดตระเวน ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับการฉลองเทศกาลของทั้งสองประเทศในหลายปีก่อนหรือไม่ ฝ่ายทหารของแคนาดารังเกียจทหารบกของอเมริกาอยู่มาก


ฉินสือโอวกลายเป็นหัวหน้าของกองทหารบก ฟังดูน่าเกรงขามราวกับว่าเก่งกาจมาก ที่จริงแล้วเขาไม่ได้จัดว่าเป็นทหารและกองกำลังนี้ของเขาก็มีกำลังเพียงสิบสองคน…


ใช่แล้วทหารบกของแคนาดาหนึ่งกองยังมีจำนวนไม่ถึงจำนวนคนของกลุ่มปลดแอกหนึ่งกลุ่มเลย


สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวประสาทกินยิ่งกว่าคืออย่าได้คิดว่าเป็นทหารบกแล้วจะสามารถขับรถทหารหรือแบกปืนไรเฟิลไปไหนมาไหนได้ ฝ่ายทหารไม่ได้ให้สิทธิในการครอบครองอาวุธที่ทันสมัยอะไรแก่พวกเขา อาวุธที่ทหารบกของเขาใช้ได้คือปืนไรเฟิลลี-เอ็นฟิลด์


ใช่แล้วปืนไรเฟิลลี-เอ็นฟิลด์ เป็นหนึ่งในสี่ปืนที่มีชื่อเสียงเกรียงไกร แต่ ‘ชื่อเสียงเกรียงไกร’ นี้ต้องย้อนไปตอนช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากนั้นอาวุธชนิดนี้ก็ถูกกำจัดไปแล้ว


ไม่ใช่ว่าฝ่ายทหารของแคนาดาต่อต้านเกาะแฟร์เวล แต่กฎทหารกำหนดไว้แบบนี้ เดิมทีทหารบกไม่ได้มีอาวุธอะไรเลย ตอนสงครามโลกครั้งที่สองก็สู้รบกันอย่างลำบากยากเข็ญ กองทัพเรือของฮิตเลอร์ถึงขนาดบุกมาถึงมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ


เพื่อป้องกันทหารเยอรมันขึ้นฝั่ง แคนาดาจึงระดมพลทหารบก กำหนดให้พวกเขาสามารถใช้และใช้ได้แค่เพียงปืนไรเฟิลลี-เอ็นฟิลด์


เดิมทีการกำหนดเช่นนี้ก็เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ สมัยสงครามฝ่ายทหารของแคนาดามีอำนาจต่อทหารบกโดยตรง มีเบี้ยเลี้ยงและเสบียง ถ้าหากทหารบกต้องการใช้ปืนอะไรแล้วต้องได้ใช้ปืนอันนั้น ต่อให้พวกเขาฆ่าฝ่ายสวัสดิการของแคนาดาให้ตายก็คงจัดหามาให้ไม่ไหว


ผลสุดท้ายหลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลง กฎที่เกี่ยวกับทหารบกในกฎหมายทหารของแคนาดาก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ทหารบกทั้งหมดจึงได้แต่ใช้ปืนไรเฟิลลี-เอ็นฟิลด์


ฉินสือโอวไม่ได้ไม่พอใจกฎหมายทหารบก ชาวเอสกิโมทางเหนือใช้ปืนไรเฟิลลี-เอ็นฟิลด์มากว่าหกสิบปี แล้วพวกเขาก็ไม่เคยรังเกียจมัน!


แต่สรุปแล้วเขาก็ได้อำนาจของทหารบกมาแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็หมายความว่าเขาจะสามารถรับสมัครกองกำลังทหารบกไม่เกินยี่สิบคนได้ และฝ่ายทหารแคนาดาจะให้เบี้ยเลี้ยงและประกันสุขภาพแก่พวกเขา


เบี้ยเลี้ยงห้าสิบสองดอลลาร์ต่อเดือน ถ้าตายจากการรบมีค่าชดเชยสี่พันสองร้อยห้าสิบดอลลาร์แคนาดา…


แน่นอนว่านี่ก็เป็นค่าตอบแทนของทหารบกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตั้งแต่สงครามจบนโยบายเกี่ยวกับทหารบกก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอีกเลย


แต่ประกันสุขภาพนั่นก็น่าสนใจอยู่บ้าง


ที่แคนาดาพลเมืองสามารถยื่นคำขอเข้าสู่โครงการประกันค่ารักษาพยาบาลของประชาชนได้ จากนั้นจะได้รับบัตรประกันค่ารักษาพยาบาลประจำเมือง ต่อไปเวลาไปหาหมอ ตรวจรักษาโรค ตรวจแลป เอกซเรย์ ผ่าตัด นอนโรงพยาบาลต่างๆ ก็จะสามารถได้รับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ประกันสุขภาพ


อย่างไรก็ตามประกันค่ารักษาพยาบาลประชาชนไม่ได้ “ครอบคลุมทั้งหมด” มีบางรายการที่ไม่ได้ครอบคลุม เช่นค่าบริการพิเศษของห้องพักผู้ป่วย ค่าโทรศัพท์ ค่าพยาบาลส่วนตัว ค่ายาหลังออกจากโรงพยาบาล การทดสอบทางจิตและค่าบริการการรักษาอื่นๆ เช่น ค่ารักษาฟัน เป็นต้น


อยู่ดูถูกรายการค่าใช้จ่ายพวกนี้เชียว อย่างเช่น ค่ารักษาฟัน คนแคนาดาให้ความสำคัญกับฟันมาก หนึ่งคือความสวยงาม สองคือความสุขในกินอาหารก็ต้องพึ่งพาฟัน ที่แคนาดาทันตแพทย์จะได้รับการเคารพและมีรายได้มากเพราะนี่เป็นสิ่งสากลและค่าบริการก็แพง


ตามที่ฉินสือโอวเข้าใจ การรักษาฟันอย่างครบวงจรหนึ่งครั้ง ถ้าจ่ายเองก็ต้องจ่ายประมาณสี่ถึงแปดร้อยดอลลาร์แคนาดา ถ้าให้ทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญมาตรวจขั้นต่ำก็หนึ่งพันดอลลาร์แคนาดา!


เงินพวกนี้ต้องอาศัยประกันสุขภาพจ่ายให้ ก่อนหน้านี้ที่นีลเซ็นเข้ามาทำงานในฟาร์มปลาก็เคยถามว่ามีประกันสุขภาพไหม ฉินสือโอวเป็นคนซื้อให้พวกชาวประมงเอง เฉลี่ยต่อคนต่อปีแล้วต้องจ่ายไปสองหมื่นสี่พันดอลลาร์แคนาดา


ประกันของแคนาดาค่อนข้างแพงและแน่นอนว่ากำลังการจ่ายค่าชดเชยก็มีมากและรวดเร็วด้วยเช่นกัน ต่างจากประเทศจีนโดยสิ้นเชิง


ธุรกิจประกันในอเมริกาเหนือเจริญเต็มที่แล้ว เหมือนกับพวกธุรกิจทางการเงินที่พนักงานทุกคนเป็นคนที่มีการศึกษาดีมีความสามารถ พวกเขาไม่ต้องไปเคาะประตูทุกๆ บ้าน เพียงแค่นั่งให้คำแนะนำอยู่ในห้องทำงานก็พอ


นิสัยการจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ของคนจีนคือหนึ่งในห้าเป็นรายจ่ายต่อเดือน สี่ในห้าเป็นเงินเก็บ ต่างจากคนแคนาดาพวกเขาใช้เงินหนึ่งในห้าจ่ายให้ประกัน สามในห้าใช้จ่ายรายเดือนและหนึ่งในห้าเป็นเงินเก็บ


เพราะทุกคนทุกบ้านในแคนาดาต้องมีประกันทุกแบบทุกชนิด ประกันสุขภาพ ประกันทรัพย์สิน ประกันการรักษาพยาบาล หรือแม้แต่ไปเรียนก็ต้องมีประกัน เกิดเรื่องอะไรพวกเขาก็จะอาศัยประกันตัดสิน


ขอบคุณการพัฒนาของยุคสมัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ธุรกิจประกันในแคนาดายังไม่รุ่งเรืองขนาดนี้ ดังนั้นฝ่ายทหารเลยไม่มีข้อกำหนดนี้สำหรับทหารบก ตอนนี้เป็นการแบ่งสันตามมาตรฐานทางธุรกิจที่นับว่าเป็นสวัสดิการเพียงอย่างเดียวของทหารบก


ได้หนังสือรับรองแผนการตั้งกองกำลังมาแล้ว ฉินสือโอวก็เรียกรวมชาวประมงในคืนนั้น เขาตบลงที่หนังสือรับรองแผนบนโต๊ะด้วยความเกรี้ยวกราดแล้วถามโพล่งออกไปว่า “มา พวกนายมาแย่งกันเลย ใครอยากเป็นทหารลาดตระเวนบ้าง?”


   เหล่าชาวประมงต่างมองกันและกันแล้วส่ายหัว…


บทที่ 757 ผู้บังคับการกองมาตรวจเยี่ยม

โดย

Ink Stone_Fantasy

เห็นท่าทางไม่สนใจไยดีของพวกชาวประมงแล้ว ฉินสือโอวก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองแล้วถามว่า “พวกนายไม่อยากเป็นทหารลาดตระเวนกันเหรอ?”


พวกชาวประมงใช้สายตาแปลกๆ มองไปที่ฉินสือโอว พวกเขาไม่พูดอะไร ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิเสธ เหมือนต้องการใช้ความเงียบต่อต้านเขา


ฉินสือโอวยังคงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ยังไม่ต้องพูดถึงเบี้ยเลี้ยงที่จะได้ทุกเดือนและประกันสุขภาพ ฉันแค่อยากถามว่าพวกนายไม่รู้สึกอยากจะเป็นเลยเหรอ? สวมเครื่องแบบทหารลาดตระเวน กลายเป็นนายทหารที่มีเกียรติ…”


“นั่นไม่ดีเท่าเป็นชาวประมงเลย” บูลพูดขยับปากมุบมิบ


แลนซ์ก็ช่วยพูด “ก็คือว่า เบี้ยเลี้ยงเดือนละห้าสิบหยวนยังไม่พอค่าเบียร์หนึ่งคืนเลยนะ”


จากนั้นฉินสือโอวก็ถามต่ออีกหน่อย สาเหตุที่พวกชาวประมงไม่อยากเป็นทหารบกนั้นเรียบง่ายมากก็คือไม่สนใจ พวกเขาไม่ยอมเป็นทหารลาดตระเวนแบบนี้ไม่เหมือนกับที่ฉินสือโอวคิดไว้เลย


ก่อนออกจากประเทศฉินสือโอวไม่เคยแตะต้องปืนและระเบิดของจริงมาก่อน เป็นเพราะการโฆษณาของประเทศจีน การเป็นทหารสำหรับเขาจึงเป็นเรื่องที่ดูดีและมีแรงดึงดูดมาก


ต่างจากพวกชาวประมง พวกเขาเล่นปืนมาตั้งแต่เด็กจนโตแล้วไม่ใช่เหรอ? จะเป็นทหารลาดตระเวนไปทำไม เพื่อจับปืนไรเฟิลลี-เอ็นฟิลด์งั้นเหรอ? ถ้าชื่นชอบปืนรุ่นคุณปู่อย่างนั้น ของเรมิงตันก็มี ใครจะอยากได้ไรเฟิลลี-เอ็นฟิลด์กัน?


ฉินสือโอวมองไปที่เบิร์ดและนีลเซ็น พร้อมกับตบไปที่ไหล่ของทั้งสองคนอย่างกระตือรือร้นแล้วพูดว่า “พวกนายไม่โหยหาชีวิตในค่ายทหารเมื่อปีนั้นเหรอ? ดูสิ ตอนนี้มีโอกาสมาถึงแล้ว เป็นทหารได้เหมือนกันแถมยังไม่ต้องฝึกอีกด้วย”


“ไม่ได้เป็นเพราะการฝึกหรอกนะครับบอส พวกเราฝึกกันเองทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? หลักๆ คือคุณต้องรู้ว่าพวกเรารู้สึกว่าการเป็นชาวประมงมันก็ดีอยู่แล้ว การเป็นทหารลาดตระเวนมันไม่น่าสนใจเลย” นีลเซ็นพูดตามจริง


ดูท่าทางเบิร์ดเองก็ไม่สนใจเหมือนกัน “ถ้าคุณชอบการเป็นทหาร อย่างนั้นผมกับนีลเซ็นยื่นคำร้องขอทะเบียนรถทหารให้ก็ได้ ถึงตอนนั้นก็เอาทะเบียนไปแขวนไว้ที่รถของคุณ ทีนี้คุณก็ไม่ต้องให้พวกเราเป็นทหารลาดตระเวนแล้วได้ไหม?”


ฉินสือโอวฟังไปได้แค่ครึ่งเดียวเขาก็ถามอย่างสนใจ “พวกนายปลดประจำการมานานมากแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังสามารถขอทะเบียนรถได้?”


นีลเซ็นและเบิร์ดอธิบายเป็นต่อยหอยอยู่ครู่หนึ่ง ฉินสือโอวก็เข้าใจ ที่แท้ป้ายทะเบียนนี่ก็เป็นแค่เกียรติภูมิอย่างหนึ่งที่ทางกองทัพมอบให้แก่ทหารปลดประจำการเพื่อตอบแทนความดีความชอบ


ที่ป้ายประเภทนี้จะมีธงของแคนาดาและสัญลักษณ์หน่วยที่เจ้าของรถประจำการอยู่ในตอนนั้น การจะได้สิ่งนี้มามีสองวิธี หนึ่งคือเป็นทหารที่ปลดประจำการ สองคือเคยเข้าร่วมการรบ ไม่นับการปราบปรามยาเสพติดและการค้าของเถื่อน


เบิร์ดและนีลเซ็นเคยร่วมรบที่ต่างประเทศถึงได้รับเกียรตินี้ ทหารที่ไม่เคยไปรบและไม่ได้ปลดประจำการ ไม่ว่ายศสูงแค่ไหนก็จะไม่มีสิทธิ์ใช้


และที่จริงป้ายทะเบียนทหารประเภทนี้ก็ไม่ได้มีอำนาจพิเศษอะไร ประชาชนก็ขับได้ แต่การขับรถแบบนี้ไปบนถนนก็ดูเด่นมาก คนส่วนมากที่เห็นรถที่แขวนป้ายทะเบียนแบบนี้ก็จะผิวปากให้หรือไม่ก็จับมือทักทาย


ฉินสือโอวไม่เคยรู้เลย แต่ตอนนี้เมื่อรู้แล้วก็ไม่สามารถปล่อยไปได้ เขาให้ทั้งสองคนรีบยื่นคำร้องทันที แล้วหันไปถอดทะเบียนรถพอร์เชอ 918 และฟอร์ดเอฟ 650 ออก ต้องติดตั้งนี่เข้าไปถึงจะเรียกว่ามีอำนาจ


ทุกคนไม่สนใจฉินสือโอวก็ไม่ได้บังคับ ถึงอย่างไรเขาก็ได้หนังสือรับรองมาแล้ว ต่อไปแค่รายงานข้อมูลของสมาชิกให้กองบัญชาการทางทะเลของ LFC ก็พอแล้ว


พวกชาวประมงไม่อยากเป็นทหารลาดตระเวน ฉินสือโอวก็ไม่ฝืนใจ ดังนั้นเขาเลยพาเจ้าพวกตัวแสบในบ้านมารวมตัวกันกะว่าจะปลูกฝังความรักในการเป็นทหารตั้งแต่เด็ก


เขาสั่งชุดทหารของสุนัขขนาดต่างๆ จากในอินเทอร์เน็ตให้กับหู่จือ เป้าจือ หลัวปอ ผู้ใต้บังคับบัญชาน้อยทั้งสามใส่พร้อมกับหมวกเล็กๆ อีกตัวละหนึ่งใบ


หู่จือและเป้าจือทำหน้ารังเกียจ อากาศร้อนขนาดนี้พวกเราตัดขนกันก็เพื่อคลายร้อนไม่ใช่เหรอ? ทำไมนายจะต้องให้พวกเราใส่เสื้อผ้าแถมต้องใส่หมวกอีก? ออกไปโดนแดดหน้าผากก็ร้อนโคตรแล้ว โอเคไหม?


แต่พวกมันก็ไม่มีหนทางต่อต้านฉินสือโอวได้ เพราะเขาใช้วิธีตบหัวแล้วลูบหลังได้อย่างฉลาดด้วยการเพิ่มอาหารให้พวกตัวแสบแต่ละตัวตลอดสองวันมานี้


ฉงต้าเห็นว่ามีของกินก็เข้ามาร่วมด้วย ฉินสือโอวสั่งชุดทหารที่เพิ่มความกว้างและความใหญ่แล้วถึงเอาให้มันใส่พร้อมสั่งหมวกด้วยหนึ่งใบ ฉินสือโอวคิดไปคิดมาแล้วก็มัดของเล่นรูปจรวดติดไปที่ร่างกายทั้งสองฝั่งของมัน


ปอหลัวโล่งใจที่ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับมันเพราะบนหัวของมันมีเขา…


เดิมทีเสี่ยวหมิงและพวกกระรอกดินก็คิดว่าไม่เกี่ยวอะไรกับพวกมัน เพราะเห็นว่าฉินสือโอวไม่ได้ซื้อชุดทหารและหมวกที่เล็กขนาดนั้นมา


ผลสุดท้ายความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด ฉินสือโอวใช้เปลือกไข่ห่านทำเป็นหมวกเล็กๆ ไม่กี่ใบ ใช้ดินสอสีสีเขียวระบายและวาดดาวห้าแฉกสีแดงลงไปบนนั้น ดูแล้วช่างสดใสมีชีวิตชีวา


วินนี่ทำได้แค่เล่นไปกับฉินสือโอวด้วย เธอช่วยเย็บชุดทหารตัวจิ๋วให้เสี่ยวหมิงและพวกกระรอกดิน แบบนี้เจ้าพวกตัวแสบก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว


แม้แต่มาสเตอร์ก็ยังมีเอี่ยวไปด้วย ฉินสือโอวใช้กระดาษแข็งทำล้อสี่ล้อไว้ที่ลำตัวทั้งสองด้านของมันและบนหลังก็ยังมัดท่อพลาสติกที่ทำเป็นลำปืนไว้ด้วย แบบนี้มาสเตอร์ก็เลยกลายเป็นทหารนักรบหุ้มเกราะที่แสนเกรียงไกรไปเลย


ความบ้าคลั่งของฉินสือโอวทำให้บุชและนิมิตส์กลัว จนเจ้าสองแสบนี้ไม่กล้ากลับบ้าน


แบบนี้ฉินสือโอวเลยได้แต่จำใจล้มเลิกความคิดที่จะทำให้เจ้าสองตัวนี้กลายเป็นทหารอากาศ อันที่จริงเขาใช้กระดาษลังทำเครื่องบินรบทิ้งระเบิด B-52 และ Su-30 จำลองทั้งสองลำไว้แล้ว


ในขณะที่พวกตัวแสบกำลังเล่นกันอย่างสนุก ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมฉินสือโอวก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เป็นสายจากเจมส์ คาเมรอนโทรมาถามว่าว่างหรือเปล่า เพราะเขาจะมาหา


ฉินสือโอวว่างแน่นอนอยู่แล้ว นี่คือเจมส์ คาเมรอนผู้กำกับหนังอันดับต้นๆ ของโลกเชียวนะ ถ้าต่อไปเขาถ่ายหนังแล้วเอาตัวเองไปเล่นด้วยก็คงจะเท่ไม่เบาไม่ใช่เหรอ?


เขานึกไม่ถึงเลยว่าความปรารถนานี้จะเป็นจริงขึ้นมาในทันที


คาเมรอนไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนที่ฉินสือโอวนึกไม่ถึงมาด้วยอีกหนึ่งคนก็คือ เคอร์ สเตราส์ผู้บริหารรุ่นต่อไปของตระกูลสเตราส์ ซีอีโอของห้างสรรพสินค้า เมย์ซี


“เฮ้ เจมส์ เคอร์ ไม่ได้เจอนานเลยนะ” ฉินสือโอวเห็นทั้งสองมาด้วยกันก็นิ่งไปเล็กน้อยแล้วดีใจอย่างกับลิงโลด


เคอร์และฉินสือโอวกอดกันแล้วหยอกล้อ “ดูท่าทางคุณจะชอบชีวิตสันโดษแบบนี้มากเลยนะ นานขนาดนี้แล้วยังไม่ไปที่นิวยอร์กบ้างเลย?”


ฉินสือโอวยิ้มเจื่อน อันที่จริงเขาไปนิวยอร์กมาหลายครั้งแล้วเพียงแต่ไม่ได้ไปหาเคอร์


คาเมรอนมองพวกตัวแสบที่แต่งตัวประหลาดด้วยสายตาแปลกๆ แล้วถามขึ้นมาอย่างสงสัย “นี่คุณกำลังเล่นแต่งคอสเพลย์อยู่เหรอ?”


ฉินสือโอวอธิบายอย่างกระตือรือร้น “แน่นอนว่าไม่ใช่ อันที่จริงพวกเขาคือทหาร มาสิ ผมจะแนะนำให้ฟัง หู่จือและเป้าจือคือสุนัขทหารของผม พวกคุณเรียกพวกมันว่า ‘สุนัขอเมริกัน’ ก็ได้ นี่คือฉงต้าเป็นหมีสงครามของผม พวกคุณรู้จักหมีสงครามไหม? กำลังรบหลักของสหภาพโซเวียต…”


คาเมรอนและเคอร์อ้าปากค้าง เพราะเมื่อฉินสือโอวแนะนำถึงตัวไหนตัวนั้นก็จะยกอุ้งเท้าขึ้นมาทำท่าเคารพแบบทหาร


“พระเจ้า พวกคุณชาวแคนาดานี่ช่างคิดจริงๆ นะ” เคอร์เห็นหู่จือและเป้าจืออันเป็นที่รักถูกปู้ยี่ปู้ยำจนกลายเป็นสภาพนี้ก็เจ็บปวดหัวใจ


คุณชายสเตราส์เป็นพวกรักสุนัข ครั้งก่อนที่มาพวกเขาก็อยากจะซื้อเจ้าลูกหมาแสนฉลาดสองตัวนี้กลับไปในราคาแพง แต่น่าเสียดายที่ฉินสือโอวบอกว่าเจ้าสองตัวนี้คือลูกชายของตัวเอง จึงขายให้ไม่ได้


ตอนนี้เขาเกิดคำถามขึ้นมาแล้วว่า มีพ่อที่ทำกับลูกตัวเองขนาดนี้ด้วยเหรอ?


บทที่ 758 แต่ละขวดมีค่าหนึ่งล้าน

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวเชิญทั้งสองคนเข้าไปที่ห้องรับแขก หู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอมาสเตอร์และเจ้าตัวแสบตัวอื่นๆ พอเห็นพ่อเดินไปก็แยกย้ายกันสับขาเตรียมจะวิ่ง


เห็นแบบนั้นฉินสือโอวก็มีสีหน้าไม่พอใจ เขากระแอมหนึ่งครั้งแล้วหันไปทำหน้าบึ้ง “ลืมไปแล้วเหรอว่าฝึกทหารต้องทำยังไง? สองตัวตั้งแถวแนวตั้ง อีกสามตัวตั้งแถวหน้ากระดาน อยากไปยืนแถวกลางแจ้งกันหรือไง?”


จากนั้นคาเมรอนและเคอร์ก็ยังคงตะลึงอ้าปากค้างต่อไป พวกตัวแสบวิ่งกลับมากันอย่างหมดอาลัยตายอยาก เสี่ยวหมิงและเจ้ากระรอกดินอยู่หน้าสุด หลัวปออยู่ถัดไป ด้านหลังยังมีหู่จือและเป้าจือ ส่วนท้ายสุดคือมาสเตอร์ฉงต้าและปอหลัว


พวกตัวแสบตั้งแถวหน้ากระดานเดินไปทางด้านนอกจริงๆ คาเมรอนถือว่าเป็นคนที่รู้เห็นอะไรกว้างไกลแล้วแต่ก็ยังตะลึงงันจนหุบขาไม่เข้าและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแชะๆ


เคอร์ถูกความแสนรู้ของหู่จือและเป้าจือล่อใจ หลังจากเข้าบ้านไปเขาก็ถาม “เพื่อน เจ้าหมาน้อยของคุณถึงช่วงอายุที่จะผสมพันธุ์ได้แล้วใช่ไหม? ถ้าคุณไม่รังเกียจ ให้พวกมันไปผสมพันธุ์กับหมาที่บ้านของผมได้ไหม?”


ฉินสือโอวยักไหล่แล้วพูด “พวกมันเพิ่งจะขวบเดียวยังเป็นเด็กอยู่เลย เอาไว้โตอีกหน่อยเถอะนะ รอให้พวกมันมีความต้องการแล้วผมจะพาไปหาคุณเอง”


“ต้องมาหาผมนะ” เคอร์ย้ำแล้วย้ำอีก


หลังจากมานั่งกันแล้ว ฉินสือโอวก็ถามคาเมรอนถึงเป้าหมายในการมาครั้งนี้ ผลที่ได้คือเสียงถอนหายใจหนึ่งเฮือกของเคอร์พร้อมชี้ไปที่ขวดไวน์เล็กๆ สี่ขวดที่วางประดับอยู่บนโต๊ะแล้วถาม “ผมขอดูพวกมันหน่อยได้ไหม?”


พอฉินสือโอวเห็นว่าที่เขาพูดถึงคือขวดไวน์เล็กๆ สีทองและสีเงินสี่ขวดที่ตัวเองได้มาจากเรือไททานิกก็พยักหน้าพลางพูด “ได้สิ นี่เป็นของที่ผมได้มาเพราะโชคช่วย ว่ากันว่าผลิตโดยชาโต เปตรุส แต่ไม่รู้ว่าของจริงหรือปลอม ”


เคอร์มีความรู้เรื่องไวน์และไร่องุ่นอย่างกว้างขวาง เขามองดูอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ลูบด้านนอกของขวดที่เป็นสีทองและเงินแวววาวอย่างเบามือแล้วพูดขึ้นช้าๆ “ไวน์ชาโต เปตรุสที่ผลิตล็อตแรกของปี 1895 กลั่นจากดอกลินเดน นี่เป็นของแท้!”


ฉินสือโอวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แน่นอนว่าของแท้อยู่แล้ว ที่ตัวเองพูดไปว่าไม่รู้ว่าของแท้หรือปลอมก็แค่ถ่อมตัวเท่านั้นเอง เศรษฐีบนเรือไททานิกคงไม่เอาไวน์ปลอมขึ้นเรือหรอกใช่ไหม? ตอนนั้นเจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ได้มีราคาแพงอะไร


ดูขวดไวน์พวกนี้เสร็จเคอร์ก็วางลงแล้วถาม “คุณอย่าบอกผมนะว่าไวน์ที่อยู่ด้านในก็เป็นของปี 1895 จริงๆ!”


ฉินสือโอวตอบ “ก็น่าจะใช่? คุณดูที่ขี้ผึ้งที่ใช้ปิดผนึกขวดไวน์เอาไว้สิ เห็นได้ชัดว่ายังไม่เคยถูกเปิดออกมาเลยใช่ไหม?”


คาเมรอนหัวเราะพลางพูด “คุณพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะฉิน เทียบกับครั้งแรกที่เจอกันแล้วยิ่งนานวันคุณก็ยิ่งมีราศีของเศรษฐี ผมนึกว่าคุณจะเลือกใช้พวกงานศิลปะมาเป็นของประดับ นึกไม่ถึงเลยว่าคุณกลับใช้ไวน์โบราณเหล่านี้แทน”


ฉินสือโอวตั้งใจทำหน้าเศร้า “ไม่หรอกคาเมรอน ที่ผมไม่ใช้งานศิลปะมาเป็นของประดับเป็นเพราะว่าผมไม่มีเงิน”


มาตรฐานการใช้ชีวิตของเขายังอยู่ในระดับเกษตรกร สำหรับเขาแล้วการเสียเงินมากขนาดนั้นเพื่อซื้อรูปที่ไม่รู้ว่าวาดอะไรนั้นมันจะมีค่าอะไร? สู้ภาพวาดตอนงานตรุษจีนยังไม่ได้เลย ทั้งสวยกว่าทั้งถูกกว่า นีลเซ็นเองก็ชอบมาก


เพราะพื้นเพและนิสัยการทำงานของเคอร์ที่ชอบเถียงเพื่อเอาชนะ เขาเลยพูดขึ้นมา “นี่คุณเหน็บพวกเรานี่ ขวดไวน์ทั้งสี่ของคุณนี่แพงกว่างานศิลปะที่บ้านผมมีเสียอีก! พวกมันแต่ละขวดมีค่าตั้งหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐ!”


ครั้งนี้ฉินสือโอวตะลึงจริงๆ เขาชี้ไปที่ขวดไวน์ทั้งสี่แล้วถาม “พวกมัน ราคาหนึ่งล้านเหรียญ?”


“ตอนนั้นคุณซื้อมาเท่าไร?” ในใจของเคอร์เกิดความสงสัย เจ้าหนุ่มนี่คงไม่ได้โชคดีขนาดนั้นหรอกนะ?


แน่นอนว่าฉินสือโอวไม่ได้บอกว่าได้เจ้าสิ่งนี้มาจากเรือไททานิกโดยไม่ได้จ่ายสักเหรียญ เขาใช้ไหวพริบนึกถึงสร้อยข้อมืออำพันที่เจ้าของเรือขยะให้ตัวเองขึ้นมาได้ก็เลยแต่งเรื่องขึ้นใหม่


“หลังจากนั้นผมก็ขึ้นไปบนเรือของพวกเขา ทีแรกคิดว่าไปบอกพวกเขาว่าไม่เป็นไร ผมไม่เรียกค่าชดเชยจากพวกเขา แต่ไปเห็นเจ้าขวดไวน์ทั้งสี่ขวดนี้ในเรือ ผมรู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้ดูสวยดีเจ้าของเรือก็เลยเอาให้ผม บอกว่านี่เป็นสิ่งที่พวกเขาเก็บได้จากทะเลไม่ได้มีราคาอะไร…”


“แบบนี้ คุณก็ได้ขวดไวน์แดงของชาโต เปตรุสที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์มาโดยไม่ได้จ่ายสักเหรียญเลยเหรอ? แถมในขวดยังมีไวน์อายุร้อยกว่าปีอีกต่างหาก?” เคอร์พูดด้วยความตกใจ “คุณนี่ดวงดีเกินไปแล้ว!”


คาเมรอนพูด “ไม่หรอกเคอร์ คุณบอกว่าทั้งหมดนี้คือความโชคดี แต่ผมว่ามันคือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้ฉินสือโอวมากกว่า คนดีก็มักจะได้รับความเมตตาและพรจากพระเจ้า”


ฉินสือโอวก็พูดขอบคุณพระเจ้า ฮาเลลูยาตามน้ำไป ที่อเมริกาเหนือก็เป็นแบบนี้ มีเรื่องอะไรที่อธิบายไม่ได้ก็จะโยนให้พระเจ้า


ขณะที่เคอร์พิจารณาไวน์ทั้งสี่ขวดนี้ ฉินสือโอวก็ถามถึงเป้าหมายในการมาของคาเมรอน คาเมรอนตอบว่า “คุณก็รู้ว่าผมหลงใหลท้องทะเลมากขนาดไหน ช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้ผมไปสำรวจร่องลึกบาดาลมาเรียนาแล้วถ่ายสารคดีเรื่องหนึ่งมา…”


“ผมรู้ ทะเลลึกที่ท้าทาย ผมและคนที่บ้านก็ชอบกันมาก” ฉินสือโอวพูดพลางยิ้ม


ต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน สารคดีเรื่องนี้ด้านเทคนิคเนื้อหาไม่ได้มีเทคโนโลยีพิเศษอะไร ก็แค่ดูคาเมรอนใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงดำลงไปในร่องลึกบาดาลมาเรียนา ทั้งหมดก็คือการได้ดูเขาเที่ยวเล่น


จิตสำนึกด้านกรรมสิทธิ์ของแคนาดาเข้มงวดมาก พวกภาพยนตร์ ละครและสารคดีจะต้องจ่ายเงินถึงจะดูได้ การออกอากาศสารคดีเรื่องนี้ที่อเมริกาเหนือมีการเก็บค่าบริการและก็ได้รายได้สูงซะด้วย เห็นได้ชัดเลยว่าสาวกของคาเมรอนนั้นมีอยู่มาก


“ขอบคุณครับ” คาเมรอนพูดขอบคุณด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ แล้วพูดต่อ “ประสบการณ์ที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ของพวกคุณเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วยังดึงดูดความสนใจของผมอยู่ตลอด ช่วงนี้ผมไม่มีบทภาพยนตร์ดีๆ เลย เลยอยากถ่ายทำประสบการณ์ช่วงนั้นของคุณ”


ฉินสือโอวรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ได้แน่นอน ผมไม่มีปัญหาเลยเพื่อน ผมอนุญาตให้คุณถ่ายทุกอย่างเลย แต่คุณต่อราคาผมไม่ได้นะ”


ที่อเมริกาเหนือภาพยนตร์ที่มีเค้าโคลงมาจากเรื่องจริงถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่อง แม้จะถ่ายทำออกมาแล้วก็ไม่สามารถออกอากาศได้ และเจ้าของเรื่องก็ยังสามารถเก็บค่าลิขสิทธิ์ได้ด้วย ถ้าดวงดีก็ได้เงินก้อนโตเลย


คาเมรอนโบกมืออย่างจนใจพลางพูดว่า “ดูสิเจ้าหนุ่ม คุณทำให้ผมมองคุณได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว ในบ้านคุณมีไวน์โบราณราคาหนึ่งล้านสี่ขวดนี้วางอยู่ สุดท้ายคุณยังต้องการค่าลิขสิทธิ์จากผมอีกเหรอ? อันที่จริงนี่ผมประชาสัมพันธ์ให้คุณเลยนะ เผยแพร่เรื่องราวของพวกคุณไปทั่วโลก”


ฉินสือโอวหัวเราะยกใหญ่พร้อมชี้ไปยังพวกตัวแสบที่นอนหมอบพลางมองเข้ามาข้างในอยู่ที่หน้าประตู แล้วพูด “ช่วยไม่ได้ ลูกผมเยอะและวินนี่ก็ท้องแล้วด้วย ผมต้องการค่านม คุณรู้ใช่ไหม นมผงนี่ราคาไม่ถูกเลยนะ”


คาเมรอนได้ยินว่าวินนี่ท้องก็แสดงความยินดีตามมารยาทพร้อมกับเคอร์ แล้วบอกกับเขาว่า “ภายหลังจะมีฝ่ายลิขสิทธิ์มาคุยเรื่องนี้กับคุณ ผมบอกคุณคร่าวๆ ได้ว่าทีมของพวกเราคิดว่าจะให้คุณสักห้าแสน คิดคุณว่าไง?”


“ธุรกิจก็คือธุรกิจเอาไว้ฝ่ายลิขสิทธิ์มาค่อยคุยกันเถอะ พวกเราชาวจีนพูดกันว่า การคุยเรื่องเงินกับเพื่อนฝูงเป็นการทำร้ายความรู้สึก ดังนั้นเมื่อพวกคุณมาหา ก็ให้ผมได้รับรองพวกคุณ ให้พวกคุณได้ลองของพิเศษของฟาร์มปลาผมเถอะ เรื่องเงินไม่ต้องพูดแล้ว” ฉินสือโอวพูด


เคอร์ขยับตาให้เขาอย่างมีเลศนัยพลางพูด “ผมเคยศึกษาวัฒนธรรมการทำธุรกิจของพวกคุณชาวจีน แต่ไม่เคยได้ยินว่าการคุยเรื่องเงินกับเพื่อนฝูงเป็นการทำร้ายความรู้สึก เคยได้ยินแต่ว่าแม้แต่กับพี่น้องแท้ๆ ก็ต้องคิดบัญชีให้ชัดเจน”


“กินเนื้อกินปลากินผัก ดื่มเหล้าดื่มเบียร์ดื่มไวน์กันเถอะ ไม่ต้องพูดเรื่องเงิน โอเคไหม?” ฉินสือโอวหัวเราะพร้อมยืนขึ้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)