ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 732-741
บทที่ 732 สนับสนุนการเลือกตั้ง
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อเห็นเหล่ากั้งตีขาเล็กๆ ของมันลอยขึ้นมาจากก้นทะเล ฉินสือโอวก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจ เขาลืมเหล่านักรบผู้เก่งกาจฝูงนี้ไปได้อย่างไรกัน!
แต่ว่ายังดีที่เขาได้ตระหนักถึงวิกฤตที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อน แน่นอน แม้ว่ามันจะเร็วเกินไปก็ไม่เป็นไร ด้วยการพึ่งพาขาสั้นๆ ของพวกมัน หากอยากที่จะไล่ตามหมึกยักษ์ที่อยู่ใต้ท้องทะเลอันกว้างใหญ่นี้ เกรงว่าอาจจะต้องใช้เวลาราวร้อยแปดสิบปี…
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เขามองเห็นความแข็งแกร่งและดุร้ายของเหล่ากั้งตั๊กแตนเจ็ดสีได้อย่างชัดเจน แม้ว่าด้วยตัวของมันจะไม่สามารถกำจัดคราเคนได้ แต่หากเปรียบกับความแค้นของมนุษย์ แรงอาฆาตของคนถือว่ายังห่างกับพวกมันมากนัก
หรือว่า ที่พวกมันไปหาคราเคนอาจจะไม่ได้ต้องการแก้แค้น แต่เพื่อที่จะไปต่อสู้ด้วย การต่อสู้ของกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีนั้นเหมือนกับเจงกีส ข่านนักฆ่าผู้เหี้ยมโหด ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือการได้ไล่ฆ่าศัตรูที่มีอยู่ทุกที่ ทำให้พวกศัตรูต้องกินน้ำตาต่างข้าวทุกวัน!
ฉินสือโอวพากั้งตั๊กแตนเจ็ดสีพวกนั้นกลับไป พวกมันรู้สึกไม่เต็มใจที่จะกลับไป เช่นนั้นเขาคงไม่จัดการอย่างอ่อนโยนเหมือนกับเฮยป้าหวังเป็นแน่
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนโกรธขึ้นมาทันที มันบังคับคลื่นน้ำโหมกระหน่ำ ทำให้กวาดกั้งตั๊กแตนไปจนหมด มีเพียงบางตัวที่โชคร้ายชนเข้ากับแนวปะการังทำให้มีเลือดออกมาบ้าง ต้องทำแบบนี้เหล่ากั้งตั๊กแตนจึงจะหันหลังกลับไปแต่โดยดี
ปลาแฟงค์ทูธตัวหนึ่งว่ายน้ำไม่ระวัง จนชนเข้ากับกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่อยู่ในฝูงนั้นเข้าอย่างจัง
เวลาที่กั้งตั๊กแตนโมโหพวกมันมีวิธีระบายความโกรธ ทันใดนั้นกั้งตั๊กแตนตัวใหญ่ตัวหนึ่งก็มีอะไรบางอย่างงอกออกมาจากร่างของมัน…
เรื่องนี้แม้แต่ฉินสือโอวก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ภายในหนึ่งวินาทีจากทั้งหมดสี่พันวินาที กั้งตั๊กแตนก็ได้ปล่อยพลังงานออกมาถึงสองพันนิวตัน อวัยวะที่งอกออกมาจากกั้งตั๊กแตนตัวนั้นก็เข้าไปอยู่ข้างๆ ตัวปลาแฟงค์ทูธทันที
ที่มันโจมตีไม่โดนปลาแฟงค์ทูธไม่ใช่เพราะว่ากั้งตั๊กแตนเจ็ดสีไม่ได้เล็งเป้า แต่ว่ามันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น
อวัยวะที่งอกออกมาของพวกมันพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว พลังแข็งแกร่ง น้ำทะเลที่อยู่รอบๆ ถูกทำให้แยกออกจากกัน!
ทำให้เกิดโพรงอากาศขึ้นมาทันที!
โพรงอากาศที่เกิดขึ้นทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าในตอนที่แรงดันอากาศเกิดการแยกตัวนั้นความดันของกระแสน้ำจะลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุการก่อให้เกิดการแยกตัวของของเหลวและทำให้เกิดฟองอากาศขึ้น
เมื่อความดันลดลงหรือต่ำกว่าความดันการอิ่มตัวของของเหลว ของเหลวก็จะระเหยกลายเป็นฟองขึ้นมาจำนวนมาก ทำให้เกิดปรากฏการณ์โพรงอาการขึ้นอย่างรุนแรง และทำให้การไหลของของเหลวไม่ต่อเนื่อง
นี่เป็นกลโกงเฉพาะของกั้งตั๊กแตน พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวในธรรมชาติของโลกใบนี้ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่ากลัวออกมาได้เช่นนี้ ภายใต้คลื่นที่สั่นสะเทือนเช่นนี้ ทำให้ทิศทางการว่ายน้ำของปลาแฟงค์ทูธไม่เป็นทิศเป็นทาง
กั้งตั๊กแตนที่อยู่รอบๆ พากันปล่อยอวัยวะที่โผล่ออกมานั้นด้วยความไม่พอใจเพื่อออกไปจับปลาพวกนั้น พวกมันว่ายน้ำไปด้วยพลางกินเหยื่อไปด้วยอย่างลวกๆ เฮ้อ สำหรับความเก่งกาจพวกนี้ ทำให้พวกกั้งนั้นเศร้าสร้อยเป็นอย่างมาก
ฉินสือโอวหมดคำจะพูด แต่ว่าอย่างไรสงครามอันวุ่นวายในครั้งนี้จะต้องถูกยุติลง ถ้าหากว่าเขาไม่ได้จัดการไว้อย่างดีล่ะก็ ไม่แน่ว่าเฮยป้าหวังกับคราเคนคงจะได้ต่อสู้กันตายไปข้างหรือไม่ก็ตายหรือเจ็บหนักทั้งสองฝ่าย ถ้าหากว่าปล่อยให้กั้งตั๊กแตนไปเจอกับเข้ากับคราเคนล่ะก็ รอดูการแสดงอันสนุกสนานได้เลย!
เขาตรวจสอบรอบๆ ฟาร์มปลาอีกครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉินสือโอวก็เรียกจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับ
เขาลืมตาขึ้น ฉินสือโอวก็เห็นลูกบอลขนาดใหญ่ไร้ขนในสายตา ลูกบอลนี้น่าเกลียดชะมัด ผิวด้านบนรอยเหี่ยวย่น มันมีตาสีทองเล็กๆ อยู่คู่หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีจมูกเล็กๆ ที่ดมฟุดฟิดไปมาอยู่ข้างหน้า พร้อมกับน้ำลายที่ยืดออกมาจากปาก…
โดยที่ไม่ต้องคิดเยอะ ฉินสือโอวกำหมัดขึ้นมาตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็อัดเข้าไปยังลูกบอลกลมๆ อันน่าเกลียดนี้ทันที!
“เอ๊ง!..” เสียงร้องตกใจกลัวดังขึ้นมาทันที ฉินสือโอวรู้สึกว่าเสียงที่ดังออกมานั้นคุ้นหูมาก เขามองลงไปที่พื้น ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง “พระเจ้า ฉงต้าเหรอ? แกคือฉงต้าอันเป็นที่รักของฉันงั้นเหรอ? โว้ว ทำไมแกดูน่าสมเพชแบบนี้ล่ะ?!”
วินนี่วางมีดโกนไฟฟ้าที่กำลังโกนขนให้พอสซัมอย่างต้าป๋ายลงทันที เธอเข้าไปกอดฉงต้าพลางลูบหัวอย่างรักใคร่แล้วถามขึ้นมาว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ใครรังแกฉงต้าของแม่กัน? มาๆๆ ไม่ร้องนะไม่ร้อง มาหาแม่นี่มา”
ฉินสือโอวมองไปยังฉงต้าอย่างเศร้าสร้อย แล้วถามขึ้นว่า “วินนี่ เรื่องฉงต้าคุณเป็นคนจัดการหรือ?”
เขามองไปรอบๆ ด้าน ร่างของหู่จือและเป้าจือนั้นเปลือยเปล่า ไม่มีขนเลยสักเส้น เรียกได้ว่าโกร๋นเลยด้วยซ้ำ ทีนี้แม่ของพวกมันก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องขนร่วงอีกต่อไป
นอกจากนี้ยังมีเจ้าลูกบอลสีขาวที่มองไปยังท้องที่โล่งเตียนของตัวเองด้วยความหดหู่ใจ ไม่ต้องคิดเลยว่า นั่นคือเสี่ยวหลัวปอแน่นอน
วินนี่เป่าหัวฉงต้าสองสามที เธอไม่ตอบคำถามของฉินสือโอว แต่กลับพูดออกมาด้วยความโมโหว่า “หึ คุณทำให้หัวของฉงต้าปูดขนาดนี้ คุณนี่ใจร้ายที่สุด!”
ฉินสือโอวคิดในใจว่าเรื่องนี้ต้องโกรธเขาด้วยหรือ? ให้ตายเถอะ เขาพึ่งกลับมาจากทะเลลึก เมื่อลืมตาขึ้นเขาก็เห็นเจ้าตัวน่าเกลียดน่ากลัวนี้ ไม่ตกใจกลัวจนฉี่ราดก็ดีแค่ไหนแล้ว
เต่าอัลลิเกเตอร์อย่างมาสเตอร์เงยหน้าขึ้นมาจากสระน้ำมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสนุกสนาน เพราะว่าร่างกายของมันไม่มีขน เต่าไม่มีขน เรื่องอันตรายพวกนี้จึงไม่ได้ตกมาถึงมัน
ฉินสือโอวอยากที่จะบ่นออกมา แต่น่าเสียดายที่แฮมเล็ตโผล่ออกมาเรียกเขาเพื่อที่จะปรึกษาเรื่องบางอย่างเสียก่อน เขาจึงทำได้เพียงจูบหัวของฉงต้าเบาๆ เพื่อแสดงคำขอโทษ จากนั้นก็เดินกลับไปในบ้าน
แฮมเล็ตกับฉินสือโอวไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก พวกเขาพูดคุยกันเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น นั่นคือเรื่องการปราศรัยรอบที่สองที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เขาเลยเชิญฉินสือโอวไปช่วยสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งนี้
โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก ฉินสือโอวตกลงไปด้วยแน่นอน คิดจะช่วยใครก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเขาลงทุนไปกับแฮมเล็ตแล้วห้าสิบล้าน เขาจึงจำเป็นที่จะต้องเต็มใจช่วยเขาอย่างแน่นอน
ดูเหมือนว่าแฮมเล็ตจะได้คำตอบที่น่าพอใจแล้ว เขากอดฉินสือโอวด้วยความกระตือรือร้น เมื่อดื่มชาจนหมดถ้วยเขาก็กลับบ้านไปพร้อมกับความสุข
ฉินสือโอว แมทธิว พาลีและเออร์บัก ทั้งสี่คนคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ทนายสูงวัยตกปากรับคำจะคอยให้คำปรึกษาแก่แฮมเล็ตในเรื่องนโยบายต่างๆ ของเขา แมทธิวพยักหน้าพลางพูดว่า “มีอาจารย์ร่วมด้วยแบบนี้ ตราบใดที่นายกเทศมนตรีของพวกคุณไม่ได้โง่ อย่างน้อยเขาก็ชนะไปแล้วร้อยละเจ็ดสิบ ต้องแสดงความยินดีกับเขาแล้วล่ะ”
เออร์บักเลิกถ่อมตนทันที เขาพูดกลั้วหัวเราะว่า “คะแนนร้อยละเจ็ดสิบแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา ฉันได้คิดแผนการที่จะใช้โจมตีอ็อกเฟอร์ไว้แล้วเล็กน้อย แต่ว่าต้องมีการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ”
พวกเขาพูดคุยพลางรับประทานอาหารกันจนถึงช่วงค่ำ ฉินสือโอวจึงได้กลับมาที่ห้อง
เมื่อเห็นว่าวินนี่นอนอยู่บนเตียงพร้อมสวมชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็รีบขึ้นเตียงไปด้วยไฟที่ลุกโชนในตัวทันที หลังจากที่จูบอย่างเร่าร้อนกับวินนี่แล้ว ฉินสือโอวก็คิดอยากที่จะก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่ง แต่วินนี่กลับหยุดมือปลาหมึกของเขาไว้พลางถอนหายใจออกมา “อย่าค่ะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ที่รัก วันหลังได้ไหมคะ?”
ฉินสือโอวเป็นคนที่ตามใจวินนี่อยู่แล้ว เมื่อได้ยินว่าภรรยาของตนเองไม่สบาย ก็รีบถามกลับทันทีว่า “ไม่สบายตรงไหนเหรอ? หรือว่าตอนที่อยู่ที่ท่าเรือจะโดนฝนจนทำให้ไข้ขึ้นกัน? ผมพาคุณไปที่เซนต์จอห์นเพื่อหาหมอดีกว่า”
เกาะแฟร์เวลดีหมดทุกอย่าง แต่กลับไม่มีโรงพยาบาลที่เชื่อถือได้ แน่นอนว่า เพราะว่าอากาศรวมถึงอาหารการกินนั้นไม่มีการปนเปื้อนมลภาวะ ดังนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นี่จึงป่วยจำนวนไม่มาก คนที่ป่วยทุกคนจึงต้องเข้าไปรับการรักษาที่เมืองเซนต์จอห์น แบบนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเกาะที่มีแต่น้ำแข็งและภูเขาไฟเลย
ฉินสือโอวใช้มืออังที่หน้าผากของวินนี่เพื่อวัดอุณหภูมิ วินนี่มองไปยังใบหน้าขอฉินสือโอวที่ดูกังวล เธอยิ้มหวานออกมาพลางพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันไม่มีไข้ และไม่ได้ตัวร้อน กลับกัน อือ ฉันไม่ได้ไม่สบายขนาดนั้น”
ฉินสือโอวถามกลับไปอีกครั้ง แต่วินนี่ไม่ยอมตอบกลับ เขาจึงคิดว่าภรรยาของเขากำลังอยู่ในช่วงมีประจำเดือน เมื่อนับดูแล้วคงจะใช้เวลาอีกสองสามวัน เขายิ้มออกมาแห้งๆ จากนั้นก็กอดวินนี่แล้วเข้านอน
งานปราศรัยในครั้งนี้จัดขึ้นที่จัตุรัสอนุสรณ์นิวฟันแลนด์ในเมืองเซนต์จอห์น สถานที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ แฮมเล็ตต้องการที่จะปราศรัยที่นี่ เวลานั้นคงมีผู้เข้าร่วมงานกว่าสี่พันกว่าคน รวมถึงผู้สื่อข่าวอีกมากมาย
หลังจากตื่นนอนแต่เช้าฉินสือโอวก็ออกกำลังกายอย่างง่ายๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จเขาก็ออกเดินทางไปพร้อมกับวินนี่และเออร์บัก เขาเป็นผู้คอยสนับสนุนการเลือกตั้งคนสำคัญในครั้งนี้
บทที่ 733 เปิดประสบการณ์ใหม่
โดย
Ink Stone_Fantasy
แฮมเล็ตและคณะจริงจังกับการกล่าวปราศรัยในครั้งนี้มาก นอกจากจะเชิญฉินสือโอวแล้ว เขาก็ยังเชิญชวนทุกคนในเมืองเข้ามาร่วมสนับสนุนการเลือกตั้งในครั้งนี้อีกด้วย เรือโดยสารหลายลำแล่นออกไปแต่เช้าตรู่ ชาวบ้านเกาะแฟร์เวลต่างพากันออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังเมืองเซนต์จอห์น
ฉินสือโอวยืนอยู่ที่ดาดฟ้าด้านบน มีคนเข้ามาทักทายด้วยความเป็นมิตรอย่างไม่ขาดสาย นิมิตส์ยืนชูคออยู่ที่ไหล่ของเขา ใช่แล้ว นิมิตส์ก็เป็นผู้สนับสนุนคนพิเศษที่แฮมเล็ตเชิญมาด้วยเหมือนกัน สัตว์เลี้ยงของพระเจ้าอย่างนิมิตส์ ชื่อเสียงของมันดังไปทั่วนิวฟันแลนด์ยิ่งกว่าฉินสือโอวเสียอีก
เมื่อเรือสำราญเข้าเทียบท่า ที่ด้านหน้าของพวกเขาคือเรือขนาดใหญ่ที่มีขนาดบรรทุกห้าพันตันก็จอดเทียบอยู่ข้างหน้า
ฉินสือโอวเคยเห็นเรือบรรทุกขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน แต่ที่เรือลำนี้บรรทุกขยะประเภทขวดพลาสติกมากมาย ดังนั้นขนาดของมันจึงยิ่งดูใหญ่มากกว่าเดิม เรือสำราญลำเล็กที่เข้าใกล้มันดูเหมือนพุดดิ้งอันเล็กๆ ไปเลย
เมื่อเห็นเรือบรรทุกที่เต็มไปขยะพลาสติกเหล่านั้น ฉินสือโอวก็พูดกลั้วหัวเราะขึ้นมา “พายุกำลังจะมาแล้ว ทำไมเรือลำนี้ไม่รีบออกจากท่านะ ทำไมยังอยู่ที่นี่อยู่อีก?”
นีลเซ็นพูดออกมาว่า “แน่นอนว่าเขาทำแบบนี้เพื่อหลีกเลี่ยงพายุ เรือมีพื้นที่ในการรับแรงลมมากเกินไป หากออกไปอาจจะเกิดปัญหาได้”
ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วพูดออกมาว่า “จอดอยู่ที่ท่าก็เกิดเรื่องขึ้นได้ นายดูสิ บนเรือมีขยะพลาสติกตั้งมากมาย ถ้าหากพวกมันถูกพายุพัดลงไปในทะเล เช่นนั้นหน่วยทำความสะอาดของเมืองเซนต์จอห์นคงจะวุ่นเป็นแน่”
“ไม่เป็นแบบนั้นหรอก” ชาร์คพูดกลั้วหัวเราะ “พวกเขาจัดการของที่อยู่บนนั้นอย่างดีแล้ว”
ทุกคนพากันพูดไปหัวเราะไป คนกลุ่มหนึ่งขึ้นเรือไป ส่วนคนอีกส่วนหนึ่งก็นั่งรถประจำทางไปยังจัตุรัสอนุสรณ์นิวฟันแลนด์
จัตุรัสอนุสรณ์นิวฟันแลนด์อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยอนุสรณ์นิวฟันด์แลนด์ไม่ไกลนัก สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหล่าผู้คนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ที่จัตุรัสอนุสรณ์นิวฟันแลนด์มีรูปปั้นอยู่หนึ่งรูป เป็นรูปชายหนุ่มสองคนที่ได้รับบาดเจ็บกำลังช่วยกันพยุงร่างของอีกฝ่าย สายตาทอดมองไปยังที่ไกลๆ อย่างมีความหวัง ที่ฐานของรูปปั้นมีการเขียนจารึกไว้เป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และรัสเซียทั้งสี่ด้านว่า ‘ความยุติธรรมอันแน่วแน่ จะนำมาสู่แสงสว่างในที่สุด’
ฉินสือโอวและคนอื่นๆ กำลังรอเวลากันอยู่ ที่จัตุรัสอนุสรณ์นิวฟันแลนด์เต็มไปด้วยผู้คนที่เข้ามาร่วมดูการปราศรัย จำนวนน่าจะอยู่ที่ประมาณพันกว่าคน คนพวกนั้นจับกลุ่มกันสามถึงห้าคนเพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบันรวมถึงการทำหน้าที่ที่บกพร่องของรัฐบาล บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก
ตำรวจขี่ม้านำแบริเออร์พลาสติกวางไว้รอบๆ จัตุรัสอนุสรณ์นิวฟันแลนด์ เหลือไว้เพียงทางเข้า หากอยากจะเข้าไปร่วมงานคนคนนั้นจะต้องได้รับการตรวจค้นเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดพกปืนเข้างาน
แคนาดาเหมือนกับสหรัฐอเมริกา วิถีการใช้ชีวิตมีผลต่อการเมืองเป็นอย่างมาก ปกติแล้วเวลาที่นักการเมืองกำลังปราศรัยอยู่ มักจะมีคนชักปืนแล้วยิงออกมา ‘ปัง ปัง’ จากฝูงชนที่อยู่ด้านล่าง
ฉินสือโอวที่มีนิมิตส์อยู่บนไหล่ตกเป็นเป้าสายตาทันทีที่เดินเข้าไปในจัตุรัสอนุสรณ์นิวฟันแลนด์ ตำรวจผู้ดูแลงานใช้เครื่องตรวจจับระเบิดมาสแกนผ่านตัวของฉินสือโอว เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถผ่านเข้างานได้
คนที่อยู่รอบๆ ยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพนิมิตส์ไว้ ผู้คนต่างผิวปากและตะโกนออกมาว่า ‘สัตว์เลี้ยงของพระเจ้า’ ไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังมีคนอุ้มลูกของตัวเองขึ้นมาพลางถามว่าสามารถถ่ายรูปคู่กับนิมิตส์ได้หรือไม่
ฉินสือโอวเป็นคนอัธยาศัยดี เขาให้นิมิตส์บินเข้าไปเกาะไหล่ของคนคนนั้น ผลปรากฏว่าอย่าคิดว่าฉินสือโอวให้มันเกาะที่ไหล่อย่างสบายๆ เลย ตอนนี้นกโจรสลัดตัวนี้มีขนาดที่ใหญ่มาก เมื่อมันไปเกาะอยู่ที่ไหล่ของคนคนหนึ่ง ร่างของคนคนนั้นก็เซลงมาเล็กน้อย…
คนที่คิดจะถ่ายรูปคู่กับมันที่อยู่ด้านหลังต้องลองคิดดูอีกครั้ง เพราะชายคนที่ยืนตัวเซคนนั้นเป็นชายร่างใหญ่ที่สูงราวหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเลยนะ
ชายคนนั้นฝืนยิ้มอุ้มลูกของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปกับนิมิตส์ หลังจากนั้นเขาก็รีบคืนนกโจรสลัดใหญ่ให้แก่ฉินสือโอว และรีบบอกให้ลูกชายของตนกล่าวขอบคุณ
ฉินสือโอวตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร เมื่อชายคนนั้นจากไป เขาก็ขยิบตาให้นิมิตส์ นิมิตส์ก็กะพริบตาตอบกลับเขา คนหนึ่งคนกับนกหนึ่งตัวรู้ใจกันและกันโดยที่ไม่ต้องเอ่ยอะไรออกมา เมื่อครู่นี้ตอนที่นิมิตส์บินลงไปเกาะที่ไหล่ของชายคนนมันตั้งใจที่จะลงน้ำหนักอย่างแรง อีกทั้งยังจิกเล็บเพื่อยึดกับไหล่ของชายคนนั้นไว้แน่น เพราะเหตุนี้จึงทำให้ชายคนนั้นไม่สามารถที่จะยืนตัวตรงได้
นี่เป็นสิ่งที่นิมิตส์ตั้งใจทำ มันเกลียดการที่ตัวเองต้องกลายเป็นของเล่นให้ผู้คนมาถ่ายรูปด้วย
เนื่องจากภาพลักษณ์ของเขาในเรื่องการช่วยเหลือคนออกมาจากพายุและเจ้าของฟาร์มปลาแห่งแรกของนิวฟันด์แลน นักข่าวจำนวนมากเข้ามาหาฉินสือโอว บางคนเข้ามาขอสัมภาษณ์ และบางคนก็มาสอบถามความคิดเห็นของเขาในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ครั้งนี้
ฉินสือโอวเอ่ยสนับสนุนแฮมเล็ตอย่างเต็มที่ “ผมไม่ได้มาเพื่อใครสักคน แต่ผมมาเพื่อใช้พลังของพระเจ้าและพลังของรัฐธรรมนูญที่มอบให้ ผมจะมอบคะแนนให้กับผู้นำที่สามารถพาประชาชนที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขาไปสู่การมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม และผมจะไม่ให้คะแนนแก่นักการเมืองที่ดีแต่พูดแน่นอน!”
ภาพลักษณ์ของแฮมเล็ตในตอนนี้ เขาคือบุคคลที่มีประสบการณ์ในการดูแลสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาชน เขาเป็นผู้ที่กู้เศรษฐกิจของเมืองเล็กๆ นี้ที่ทรุดโทรมให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งราวกับตนเองเป็นผู้วิเศษแห่งเศรษฐศาสตร์ ตาต่อตาฟันต่อฟัน พวกเขาทำให้อ็อกเฟอร์กลายเป็นนักการเมืองเลวที่ดีแต่พูดเท่านั้น
ฉินสือโอวเดินนำวินนี่และนิมิตส์ขึ้นไปยังเวลที จากนั้นก็เดินไปนั่งที่ที่นั่งด้านหลัง เขามาที่นี่ในฐานะแขกคนพิเศษ
เมื่อขึ้นเวทีนิมิตส์ก็แสดงตัวออกมาอย่างเปิดเผย ฉินสือโอววางมันลงบนโต๊ะ มันกระพือปีกอันใหญ่โตของมันทั้งที่ยังคงเชิดหน้าชูคออยู่ แววตาอันแหลมคมของมันมองกวาดไปยังผู้ชมที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นเสียงปรบมือก็ดังขึ้นทั่วทั้งห้อง
บุชมองภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความอิจฉา มันบินได้ตั้งสูง ทำไมฉินสือโอวไม่พามันไปเล่นด้วยนะ เรื่องนี้ทำให้หัวใจที่บอบบางราวกับแก้วของมันแตกสลาย
สิบโมงตรง ที่จัตุรัสแน่นขนัดไปด้วยผู้คน แฮมเล็ตที่ก่อนหน้านี้คุยกับนักข่าวอย่างฉะฉานอย่างมีเหตุมีผลกำลังยืนอยู่บนเวทีด้วยท่าทางมีชีวิตชีวา มือข้างหนึ่งของเขาถือไมโครโฟนอยู่ส่วนอีกข้างก็ยกมือขึ้นทักทายผู้คน มือนั้นโบกไปมาทุกทิศทุกทาง
แฮมเล็ตยังคงแต่งตัวเหมือนสุภาพบุรุษเก่าแก่ชาวอังกฤษ ทรงผมถูกจัดแต่งอย่างพิถีพิถัน รองเท้าถูกขัดจนเงาราวกับกระจก เขาสวมเสื้อกั๊กด้านใน สวมทับด้วยสูทและผูกเนกไทสีแดง การแต่งกายของเขาดูดีมากกว่าตอนที่เขาเดินเล่นอยู่บนถนนเสียอีก
เมื่อการปราศรัยเริ่มขึ้น ฉินสือโอวก็เท้าแขนลงกับโต๊ะพลางมองดูการปราศรัยด้วยความสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งของประเทศฝั่งตะวันออก
แฮมเล็ตยังคงรักษาท่าทีสงบนิ่งไว้ไม่เปลี่ยน เสียงของเขาทรงพลังราบรื่นและมั่นคง การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของเขาเรียกเสียงเชียร์จากคนดูได้ทุกครั้ง
แน่นอนว่า เสียงเชียร์ที่ดังขึ้นนั้นมาจากชาวเมืองที่อาศัยอยู่ที่เกาะแฟร์เวล ขณะนี้ชาวเกาะแฟร์เวลราวกับเป็นหน้าม้าที่คอยมาเชียร์แฮมเล็ตในงานปราศรัย
ทันทีที่เริ่มพูด แฮมเล็ตก็เปิดประเด็นทันที เขาไม่รีบร้อนที่จะแนะนำนโยบายของตัวเองทันทีที่ขึ้นเวที สิ่งแรกที่เขาทำคือการโจมตีคู่แข่งก่อน นั่นคือเรื่องข้อบกพร่องของเอกสารทางราชการที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงความเป็นภัยของการปกครองแบบเจ้าขุนมูลนาย
การโจมตีเช่นนี้เป็นสิ่งที่ฝ่ายค้านทุกคนเชี่ยวชาญ โดยเล็งเฉพาะพรรคการเมืองที่เกิดข้อผิดพลาดในขณะที่กำลังดำรงตำแหน่ง เพราะว่าการทำเช่นนี้จะก่อให้เกิดกระแสสะท้อนได้มากที่สุด
แต่ว่าวิธีการแบบนี้มีคนใช้เป็นจำนวนมาก ผลที่ได้จึงไม่ได้มากมายนัก ครั้งนี้แฮมเล็ตจึงได้เปลี่ยนวิธีการ มันไม่ได้เป็นการพูดเกินจริง แต่เป็นการยกตัวอย่างจากคนที่อยู่รอบๆ
“…ผมรู้จักอาจารย์สอนหนังสืออยู่ท่านหนึ่ง เธอมาหาผมที่เกาะแฟร์เวล หลายปีมานี้อาจารย์หญิงผู้น่าเชื่อถือคนนี้ได้รับเอกสารจำนวนหนึ่งอย่างไม่ขาดสาย ทุกปีเธอจะได้รับเอกสารฉบับนี้อยู่จำนวนหนึ่ง เธอจะกรอกรายละเอียดลงเอกสารนั้นทุกครั้ง…และส่งกลับไป”
“แต่ว่า เมื่อผ่านไปได้ไม่นานเอกสารนี้ก็จะส่งมาถึงเธออีกครั้ง ทำให้เธอเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมา เธอค้นพบว่าสิ่งที่อยู่ในเอกสารนั้นเป็นคำถามเก่าๆ ที่เธอเคยกรอกไปแล้วก่อนหน้านี้ เช่นว่าพื้นที่ห้องเรียนของเธอมีขนาดเท่าไร”
“เธอรู้สึกแปลกๆ เพราะว่าเธอถูกถามด้วยคำถามแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ก่อนหน้านี้เธอก็ได้เขียนตอบกลับไปหลายครั้งแล้วด้วย แล้วทำไมถึงยังมีคนมาถามเธอแบบนี้อีกล่ะ? หรือว่าเจ้าหน้าที่รัฐของเมืองเซนต์จอห์นไม่ได้ตรวจการตอบกลับของเธออย่างละเอียดกันนะ?”
บทที่ 734 ความรู้ทางการเมือง
โดย
Ink Stone_Fantasy
เสียงการปราศรัยดังออกมาจากลำโพงที่มีอยู่รอบๆ จัตุรัส ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่างพากันปรบมือขึ้นมา
การปราศรัยของแฮมเล็ตถูกเสียงปรบมือแทรกขึ้นมา เขายิ้มและโค้งตัวคำนับหันไปยังทางที่มีเสียงเชียร์ดังที่สุด หลังจากนั้น ก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นดังไปทั่วจัตุรัสราวกับเสียงฟ้าร้อง
หลังจากที่เชียร์เงียบไปครู่หนึ่ง แฮมเล็ตก็เอ่ยปราศรัยต่อว่า “เมื่ออาจารย์ผู้น่าเชื่อถือคนนี้เกิดความสงสัย ทุกครั้งที่เธอกรอกข้อมูลในเอกสารนั้น เธอก็จะเขียนขนาดพื้นที่ห้องเรียนของเธอให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดห้องเรียนของเธอก็มีขนาดที่ใหญ่เท่ากับโคลอสเซียม แต่ถึงแบบนั้นทางรัฐบาลแห่งเมืองเซนต์จอห์นก็ยังไม่ได้มีการแสดงท่าทีคัดค้านใดๆ”
“และเมื่อเวลาผ่านไปอีกสักพัก เธอก็ใช้วิธีที่ตรงกันข้าม ทุกครั้งที่กรอกรายละเอียดในเอกสาร เธอก็จะลดขนาดห้องเรียนของเธอลงเรื่อยๆ จนห้องเรียนของเธอมีพื้นที่เล็กกว่าเรือประมงเสียอีก รัฐบาลแห่งนครเซนต์จอห์นก็ยังคงไม่มีการตอบกลับใดๆ เอาล่ะ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน?”
“เงินภาษีของพวกเรา ที่แท้ถูกนำไปใช้ทำอะไรกันแน่? ทำไมรัฐบาลของพวกเราที่ให้คำมั่นสัญญาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าจะปฏิรูปการทำงาน ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน กลับไม่สามารถแสดงผลลัพธ์ที่ดีออกมาได้กันล่ะ?”
“เพราะอะไรกัน?!”
“คอร์รัปชัน!” มีคนคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา จากนั้นก็มีคนอีกหลายคนตะโกนออกมาเช่นเดียวกัน
“เพราะระบบเจ้าขุนมูลนาย!” และก็มีคนตะโกนคำนี้ขึ้นมา และเป็นธรรมดาที่มีคนจำนวนไม่น้อยตะโกนเสริมกันมากขึ้น
“ยึดติด!”
ประชาชนแต่ละคนตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่งราวกับสุนัขคลั่งก็ไม่ปาน คนรุ่นใหม่กำลังขึ้นมาแทนที่คนรุ่นเก่า เสียงคนตะโกนดังขึ้นทั่วทิศทางอย่างพร้อมเพรียงกัน ฉินสือโอวยังคงรักษาภาพลักษณ์ของตนไว้โดยการแสดงท่าทีขอโทษก่อนจะยกมือขึ้นอุดหู แต่ว่าตอนนี้คลื่นเสียงพวกนี้ดังไปเสียหน่อย อารมณ์ของประชาชนถูกแฮมเล็ตปลุกขึ้นมาโดยสมบูรณ์ ตอนนี้เหมือนว่าเขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังพัดเข้ามา!
ฉินสือโอวไม่ทันได้สังเกตว่า วินนี่ที่อยู่ด้านข้างจู่ๆ ก็ยกมือขึ้นปิดปากของตัวเอง ร่างของเธอสั่นเทา ดูเหมือนว่าเธอจะมีอาการเวียนหัวร่วมด้วยเล็กน้อย ไม่นานเธอก็ตกลงมาจากเก้าอี้
นิมิตส์กระพือปีกและส่งเสียงร้องด้วยความตกใจอยู่สองสามครั้ง ฉินสือโอวตกใจเป็นอย่างมาก เขาตอบสนองต่อเหตุการณ์นั้นโดยการคว้าตัวของวินนี่ไว้อย่างรวดเร็ว เขารีบพยุงวินนี่ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ เขาทำอะไรไม่ถูกพลางมองไปยังแฮมเล็ตและประชาชนด้านล่างที่มองมาด้วยความตกตะลึง
ชาวแคนาดามีการแสดงออกที่ดีมากในสถานการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะเหล่าผู้หญิงที่มองไปยังใบหน้าไม่สู้ดีของวินนี่ ด้วยความห่วงใย มีคนปรบมือให้กำลังใจเธอ ดังนั้นคนที่เหลือจึงพากันปรบมือด้วยเช่นกัน
ฉินสือโอวมองไปยังวินนี่ด้วยความเป็นห่วง วินนี่ยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ เธอจับแขนของเขาแล้วขยับตัวนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ดูจากท่าทางแล้วอาการคงจะไม่ได้ดีขึ้นมานัก
แฮมเล็ตมองมายังฉินสือโอว ฉินสือโอวส่งสายตาขอโทษมองกลับไปยังแฮมเล็ต พอเห็นแบบนั้น แฮมเล็ตก็รู้สึกสบายใจขึ้น เขายิ้มออกมาแล้วพูดว่า “คุณหนูที่น่ารัก เมื่อวานเย็นผมคงไม่ได้บอกคุณ ว่าคุณจะทำการแสดงแบบนี้ได้ก็ต่อเมื่อตอนที่ผมไม่ได้รับเสียงปรบมือหรอกเหรอ? ตอนนี้ ดูเหมือนว่าคุณจะแย่งซีนผลหน่อยๆนะ…”
เขาพูดประโยคนี้ออกมาด้วยความสนุกสนาน ทำให้ประชาชนที่อยู่ด้านล่างต่างพากันหัวเราะออกมา และก็มีคนปรบมือขึ้นมาอีกครั้ง ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะปรบมือร่วมด้วย เขาดูไม่ออกเลยว่า คนที่มักจะรักษาภาพลักษณ์อันเคร่งขรึมอย่างแฮมเล็กจะมีอารมณ์สุนทรีย์แบบนี้กับเขาด้วย
โฆษกประจำพรรคนิวเดโมแครตของนิวฟันแลนด์คนนี้ ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ
หลังจากผ่านเหตุการณ์ของวินนี่ไป แฮมเล็ตก็เปลี่ยนหัวข้อปราศรัย เขาเปลี่ยนหัวข้อมาเป็นสิ่งที่รัฐบาลปฏิบัติต่อสตรี เด็กรวมถึงผู้ด้วยโอกาส
ความจริงใจของเขาทำให้ชนะใจของสตรีที่ร่วมงานวันนี้ หลังจากที่แฮมเล็ตเอาใจพวกเธอแล้ว เขาก็ใช้โอกาสในสถานการณ์นี้พูดนโยบายของตัวเองหากเขาได้เป็นนายก เขาอธิบายว่าเขาจะพัฒนาเมืองนิวฟันแลนด์อย่างไรหากเขาได้เป็นผู้นำในรัฐสภา
แฮมเล็ตพูดจาฉะฉานอย่างมีเหตุมีผล เขายกตัวอย่างจากเกาะแฟร์เวลและอธิบายนโยบายของเขา ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน การร่วมมือกันระหว่างประเทศ การพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ การสนับสนุนคนว่างงาน การสนับสนุนการลงทุนของเจ้าของฟาร์มปลา การปกป้องผลประโยชน์ของผู้ย้ายถิ่นที่อยู่ การเพิ่มภาษีสำหรับบุคคลที่มีรายได้สูง การอุดหนุนการศึกษา และการพัฒนาการคุณภาพการรักษาผู้ป่วย
การที่แฮมเล็ตอธิบายเหตุผลทุกด้านขนาดนี้ก็เพราะว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับนโยบายของเขา
เป็นที่รู้กันดีว่า พรรคการเมืองในแคนาดามีค่อนข้างหลายพรรค โดยมีพรรคหลักอยู่ห้าพรรคใหญ่ๆ คือพรรคเสรีนิยม พรรคปฏิรูป พรรคการเมืองของรัฐบาลกลาง พรรคนิวเดโมแครต และพรรคอนุรักษนิยม
นอกจากนี้ยังมีพรรคสังคมเครดิตของแคนาดา พรรคแคนาดา พรรคกรีน พรรคคอมมิวนิสต์แห่งแคนาดาและอื่นๆ แน่นอนสมาชิกพรรคของพวกเขานั้นมีจำนวนไม่มาก พวกเขามีอิทธิพลทางสังคมค่อนข้างมาก แต่อิทธิพลที่ส่งผลต่อระดับประเทศนั้นไม่ได้ใหญ่โตมากนัก ตอนนี้รัฐบาลของประเทศแคนาดาคือคนของพรรคเสรีนิยม ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1873 พรรคเสรีนิยมถือเป็นพรรคที่เก่าแก่พรรคหนึ่ง พวกเขาเป็นตัวแทนของอำนาจผูกขาดของกลุ่มนายทุนและองค์กรขนาดใหญ่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกเขา อ็อกเฟอร์นายกคนปัจจุบันของประเทศแคนาดาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกพรรค
นี่คือเหตุผลว่าทำไมก่อนหน้านี้อ็อกเฟอร์ถึงได้เข้ามาตีสนิทกับฉินสือโอว แรกเริ่มเขามีเพียงฟาร์มปลาต้าฉิน ถือว่าเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในประเทศแคนาดา ซึ่งไม่ได้เป็นพันธมิตรที่ดีที่จะทำให้พรรคเสรีนิยมชนะได้
ส่วนพรรคปฏิรูปแคนาดาปกติแล้วมักจะเป็นฝ่ายค้านในสภา พรรคของพวกเขาก่อตั้งค่อนข้างข้า นั่นคือในปี 1987 ก่อนหน้านี้พรรคของพวกเขาคือสมาคมปฏิรูปแคนาดา
พรรคการเมืองนี้สนับสนุนการปกป้องผลประโยชน์ของชาวแคนาดา วัตถุประสงค์หลักของพวกเขาคือการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์และเป็นกระบอกเสียงให้แก่ชาวบ้านที่อยู่ทางตะวันตก
เนื่องจากชาวอังกฤษอพยพมายังประเทศแคนาดาตั้งนานแล้ว ดังนั้นอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจของพวกเขาจึงแข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าพรรคของพวกเขาจะจัดตั้งขึ้นค่อนข้างช้า แต่พวกเขาก็มีจุดแข็งที่เงินทุนและเครือข่ายแข็งแกร่ง ทำให้อิทธิพลของพวกเขาจึงค่อนข้างใหญ่
พรรคการเมืองของรัฐบาลกลางเป็นพรรคฝ่ายค้านอันดับที่สอง ช่วงเวลาที่ก่อตั้งพรรคนั้นยิ่งช้าเข้าไปใหญ่ พวกเขาก่อตั้งพรรคในปี 1990 พรรคนี้เป็นพันธมิตรร่วมกันกับพรรคปฏิรูปแคนาดา เพราะว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของผู้อพยพชาวฝรั่งเศส และสนับสนุนให้คิวเบกแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระ
พรรคอนุรักษนิยมก้าวหน้าก่อตั้งขึ้นในปี 1854 พรรคนี้เป็นพรรคดั้งเดิมของประเทศแคนาดา พวกเขาถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘พรรคบริการโดยชอบธรรมของแคนาดา’ พรรคนี้เป็นหนึ่งในตัวแทนของพรรครัฐบาล เพื่อใช้รักษาผลประโยชน์และรักษาอำนาจผูกขาดธนาคารและอุตสาหกรรมประกันภัย อุตสาหกรรมการขนส่ง อุตสาหกรรมพลังงานและฟาร์มขนาดใหญ่
เรื่องที่น่าเสียดายก็คือ พรรคนี้มีปัญหาภายในพรรค หลังจากที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งไปในเดือนตุลาคม ปี1993 พวกเขาก็ไม่เคยได้รับชัยชนะกลับมาอีกเลย พวกเขาล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่ากับการพยายามที่จะเป็นพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล
ต่อไปจะเป็นการแนะนำพรรคนิวเดโมแครตที่เป็นพรรคของแฮมเล็ต พรรคนี้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1961 ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ ‘สหพันธ์สหกรณ์เครือจักรภพ’และ ‘สหภาพแรงงานของแคนาดา’ นี่เป็นเรื่องทั่วไปของพรรคประชาธิปไตย พวกเขาเป็นตัวแทนรักษาผลประโยชน์ของคนชั้นกลางและคนชั้นล่าง สนับสนุนองค์กรอิสระ และเน้นไปยังความเป็นสังคมนิยม
ดังนั้น แฮมเล็ตมักจะพูดถึงประชาชนคนชั้นล่างเสมอ นอกจากนี้สมาชิกพรรคนิวเดโมแครตส่วนมากแล้วเป็นผู้อพยพใหม่ ตอนนี้พวกเขาจึงเป็นตัวแทนในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้อพยพใหม่อีกด้วย เรื่องที่เขากล่าวปราศรัยไปเมื่อครู่บนเวทีก็เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ทั้งหมด
จากเหตุผลนี้ แฮมเล็ตถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนทั่วไป ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นประชาชนชั้นล่างจะต้องเทคะแนนให้เขาอย่างแน่นอน เพราะว่านี่เป็นพรรคที่จะมาเป็นตัวแทนในการรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
อันที่จริงแล้ว มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น พรรคนิวเดโมแครตยังไม่ได้รับการไว้วางใจจากชาวแคนาดา เหตุผลหนึ่งในนั้นก็คือการที่เขาเป็นหนึ่งในสหภาพแรงงาน
แม้ว่าฉินสือโอวก็ยังคงไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศแคนาดามากนัก แต่สำหรับสหภาพแรงงาน เขาค่อนข้างคุ้นชินมากกว่า นั่นก็เพราะว่าเวลาที่เขาดูข่าวในโทรทัศน์ อ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ ข่าวที่ปรากฏในนั้นกลับมีแต่ข่าวฉาวของสหภาพแรงงาน
สหภาพแรงงาน จากความเข้าใจของเขา สหภาพแรงงานควรจะเป็นองค์กรที่ปกป้องสิทธิ์ของแรงงาน และต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางสังคม
แต่ว่าเรื่องที่น่าสงสัยมากที่สุดคือ องค์กรนี้ได้เปลี่ยนแปลงพิสัยของประเทศแคนาดา และกลายเป็นองค์กรที่เต็มไปด้วยการทุจริต ยักยอก และเป็นผู้มีอำนาจทางการเงิน ถ้าหากว่าพวกเขาเป็นพวกมีอิทธิพลมืด อาจเป็นไปได้ว่าผู้มีอิทธิพลมืดพวกนั้นรู้สึกผิดขึ้นมา พวกเราเป็นคนเลวที่ไหนกัน?!
บทที่ 735 ช่วงเวลาแห่งชัยชนะ
โดย
Ink Stone_Fantasy
การพูดแนะนำสหภาพแรงงานของแคนาดาแบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการพูดเกินจริงเลย ต้องบอกก่อนว่าฉินสือโอวเคยอ่านหนังสือขายดีเล่มหนึ่ง หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เพื่อเสียดสีและร้องเรียนสหภาพแรงงานของแคนาดาโดยเฉพาะ ชื่ออะไรแล้วนะ? หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า ‘มะเร็งสังคมที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา!’
ประชาชนทั่วไปเหมือนจะหลอกง่ายแต่พวกเขากลับไม่ได้โดนหลอก นักการเมืองสามารถให้คำสัญญาลอยๆ ในนโยบายต่างๆ ของพวกเขาได้หลังจากที่ขึ้นเวทีปราศรัย ประชาชนทั่วไปเชื่อคำพูดของพวกเขา นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนชั้นล่าง เป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างอ่อนแอ นอกจากเชื่อคำพูดหลอกลวงพวกนั้นแล้ว พวกเขายังทำอะไรได้อีกงั้นเหรอ?
แต่ว่าไม่ง่ายนักที่จะหลอกพวกเขาได้ พวกเขาถูกสหภาพแรงงานเอาเปรียบมานาน แล้วยังจะให้เชื่อในสหภาพอีกงั้นเหรอ? คุณคิดว่าชาวแคนาดานั้นเป็นเพียงแมวน้อยอย่างนั้นเหรอ? ต่อให้เป็นลูกแมวน้อย แต่พวกคุณก็ต้องระวังอุ้งเท้าของพวกมันไว้ให้ดี
ดังนั้น ฉินสือโอวได้ถามแฮมเล็ตตั้งแต่แรกแล้วว่าเขามีโอกาสที่จะได้รับเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหน เออร์บักบอกกับฉินสือโอวว่าแฮมเล็ตจะต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่ดีแน่นอน วิกฤตหนี้ในครั้งนี้กระทบทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของแคนาดาตอนนี้ก็ไม่ค่อยดีเช่นกัน นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่พรรคนิวเดโมแครตจะสามารถใช้ประโยชน์ได้
ถ้าหากว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้วิกฤตเช่นนี้ ประชาชนคงจะไม่เลือกสหภาพแรงงานให้มีอำนาจในสภาแน่นอน นี่ไม่คงไม่ได้เป็นการหาเรื่องใส่ตัวหรอกใช่ไหม?
แน่นอนว่า สมาชิกของพรรคนิวเดโมแครตไม่ได้เป็นของสหภาพแรงงานทุกคน และไม่ใช่คนของสหภาพแรงงานจะเป็นคนไม่ดีทุกคน สาเหตุหลักของเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะคนไม่กี่คน ทำให้คนทั้งกลุ่มนั้นถูกคนอื่นมองมาด้วยภาพลักษณ์แบบเดียวกัน
ความสามารถและคุณสมบัติของแฮมเล็ตนั้นไม่เลว ฉินสือโอวกับเขารู้จักกันมาครึ่งปีแล้ว เขารู้สึกว่าชายคนนี้เป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้ อย่างน้อยๆ เขาก็พัฒนาเศรษฐกิจของเกาะแฟร์เวลอย่างสุดกำลัง และไม่เห็นแก่ตัวเลยแม้แต่น้อย เงินที่ได้รับก็ไม่ได้นำเข้าไปเป็นของตัวเอง
ครั้งนี้ความซวยที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวของแฮมเล็ตเอง หากว่าเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับสหภาพแรงงาน บวกกับเรื่องความสำเร็จของเกาะแฟร์เวล อีกทั้งยังมีฉินสือโอวและคนอื่นๆ คอยสนับสนุนเช่นนี้ เขาจะต้องชนะนายกรัฐมนตรีอ็อกเฟอร์ได้อย่างขาดลอยแน่นอน
แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่โอกาสในการชนะของแฮมเล็ตก็ยังคงสูงอยู่ การปราศรัยในครั้งนี้ของเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ถือได้ว่านี่เป็นช่วงเวลาแห่งชัยชนะของเขาได้เลย ชัยชนะครั้งนี้ดูได้จากเสียงปรบมือและเสียงเชียร์โห่ร้องที่ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว
ในช่วงเวลานี้เขาหลีกเลี่ยงหัวข้อที่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานได้อย่างชาญฉลาด การพึ่งพาเสียงของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่อยู่ด้านล่าง ได้ผลหรือไม่นั้นให้ดูอย่างเกาะแฟร์เวลเป็นตัวอย่าง เมื่อรวมกับเสียงผู้สนับสนุนจากเกาะแฟร์เวลแล้ว เหล่าประชาชนที่เข้ามาฟังเขาปราศรัยในวันนี้คงจะได้รับการจุดประกายไปมาก
การปราศรัยจบลงแล้ว กำหนดการต่อไปก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน นั่นคือส่งที่เรียกว่าการถามตอบ ฉายาของทุกคนถูกตั้งขึ้นเพื่อแสดงถึงความแตกต่าง ส่วนชื่อที่เป็นทางการก็หมายถึงสื่อที่ต้องการถามคำถาม
สิ่งที่ยากของกำหนดการนี้คือ สื่อที่เตรียมคำถามมาถามมากมายนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่อ็อกเฟอร์ตั้งใจจ้างมาเพื่อทำให้แฮมเล็ตตกที่นั่งลำบากโดยเฉพาะ แน่นอนว่า ก่อนหน้านี้ที่อ็อกเฟอร์ขึ้นปราศรัย แฮมเล็ตก็ได้ทำแบบเดียวกัน
ถ้าหากว่ากำหนดการนี้ แฮมเล็ตผ่านมันไปได้ กิจกรรมการปราศรัยในครั้งนี้ก็ถือว่าจบได้อย่างสวยงามและสมบูรณ์แบบ
แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พัก แฮมเล็ตที่ยกน้ำแร่ขึ้นจิบหลังจากการปราศรัยจบลงถูกนักข่าวพวกนั้นมองข้ามไป นักข่าวแต่ละคนต่างยิงคำถามออกมาทันทีอย่างรวดเร็ว
สุภาพบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมแว่นตาและมีท่าทีดูดีเป็นคนยิงคำถามขึ้นมาคนแรก เขาถามว่า “นายกเทศมนตรีแฮมเล็ต ผมนักข่าวจากสำนักข่าวเดลี่เอ็กซ์เพรส สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ คุณสุภาพบุรุษ”
“ผมอยากสอบถามท่านสักหน่อย ท่านนายกเทศมนตรี คุณคือผู้เข้าสมัครแข่งขันเลือกตั้งที่มีอายุมากที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 21 นี้ที่ลงสมัครการแข่งขันเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของนครเซนต์จอห์น ตามที่คนของท่านได้ออกมาเปิดเผยว่า ท่านได้รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากจากการหาเสียงในครั้งที่แล้ว และเมื่อครู่ผมสังเกตเห็นว่า หลังจากที่ท่านปราศรัยจบท่านก็จะจิบน้ำทันที จากข้อมูลที่ผมมี ท่านอ็อกเฟอร์เป็นคนที่มีพลังมากมายล้นเหลือ ก่อนหน้านี้ที่สหรัฐอเมริกาเกิดวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ เพื่อให้เศรษฐกิจของนครเซนต์จอห์นยังคงมั่นคง เขาได้ทำงานติดต่อกันและอดหลับอดนอนหลายวัน เช่นนั้น คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า หากคุณตกอยู่ในสถานการณ์นี้คุณจะสามารถทำงานให้สำเร็จได้หรือไม่?”
แฮมเล็ตหัวเราะออกมาอย่างเปิดเผย เขาโบกมือไปมาพลางพูดขึ้นว่า “คุณสุภาพบุรุษ ผมหวังว่าคุณจะรู้ว่า ในการแข่งขันเช่นนี้ผมไม่ยอมให้เอาเรื่องอายุเข้ามาเป็นต้นทุนในการแข่งขัน ผมไม่ได้วางแผนที่จะใช้อายุและประสบการณ์ที่มีไม่มากในการทำงานมาใช้ประโยชน์และใช้เป็นเป้าหมายในการโจมตีคู่แข่ง แบบนั้นมันก็ไม่ยุติธรรมสิ เพราะว่าผมเป็นคนที่โตมาจากเด็กหนุ่มผู้มีผมดกเช่นกัน”
นี่คือศิลปะในการถามตอบของการเมือง ฉินสือโอวนั่งฟังการตอบคำถามบนเวทีด้วยความเพลิดเพลิน
สำนักข่าวเดลี่เอ็กซ์เพรส เป็นหนึ่งในห้าสำนักข่าวที่ใหญ่ที่สุด สถานะของพวกเขาสำคัญมาก เจ้าของของสำนักข่าวนี้เป็นคนของพรรคเสรีนิยม จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะพูดแต่เรื่องดีๆ ของอ็อกเฟอร์
นักข่าวยังคงเรียกแฮมเล็ตว่า ‘นายกเทศมนตรี’ ซึ่งถือว่าเป็นการสบประมาทแฮมเล็ต คุณเป็นเพียงนายกเทศมนตรีไม่ใช่เหรอ? พ่อครัวตัวเล็กๆ อยากจะขึ้นมาเป็นคนคุมครัวแทนงั้นเหรอ?
คำตอบของแฮมเล็ตเป็นการป้องกันการโจมตีอย่างหนึ่ง อันที่จริงเขาอยากจะตอบคำถามของนักข่าวคนนั้นว่า ใช่แล้ว ผมอายุมาก ความแข็งแรงไม่สามารถคู่แข่งได้ แต่ว่าเขาไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน เขากลับตอบว่าอายุที่มากกว่าของเขาถือว่าเป็นจุดแข็ง และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องจริง ทำให้นักข่าวคนนั้นไม่สามารถโจมตีได้อีก
การตอบแบบนี้ถือว่าเป็นการตอบคำถามที่ฉลาดมาก หลังจากที่แฮมเล็ตพูดจบ เขาก็ได้รับเสียงปรบมือมากมายจากประชาชน
ฉินสือโอวก็ปรบมือให้กำลังใจเขาด้วยเช่นกัน เขามองไปยังวินนี่ เธอดูดีขึ้นมานิดหน่อยแล้ว แต่ใบหน้าก็ยังคงซีดเซียวอยู่บ้าง
เรื่องนี้ทำให้ฉินสือโอวไม่สบายใจ แต่งานปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งยังไม่จบ เขาจึงไม่สามารถออกจากงานได้ เขาทำได้เพียงกุมมือวินนี่ไว้
วินนี่ยิ้มหวานให้กับฉินสือโอว พร้อมกับส่งสายตาปลอบประโลมไปให้เขา เพื่อต้องการที่จะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร
หลังจากนั้นก็ยังคงมีนักข่าวถามคำถามอีกเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นคำถามที่จงใจทำให้ลำบากใจและเป็นคำถามที่ตอบยาก แต่ว่าคำตอบของแฮมเล็ตก็เป็นไปด้วยความเหมาะสม และนั่นทำให้เขาได้รับเสียงปรบมือครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเสียงปรบมือเหล่านี้เป็นการสร้างความเชื่อถือให้แฮมเล็ตแค่ไหน เขาสวมใส่หูฟังขนาดเล็กที่ไม่มีใครมองเห็นอยู่ที่หูของเขา เหล่าเจ้าหน้าที่นั่งอยู่หลังเวทีนั้น เมื่อได้ยินคำถามที่นักข่าวถามออกมา พวกเขาก็จะเอ่ยบอกคำตอบที่ต้องตอบให้แก่แฮมเล็ต
อันที่จริงแล้วตอนนี้เหล่าเจ้าหน้าที่ตอบคำถามนั้นเป็นคนกลุ่มหนึ่ง หนึ่งในนั้นคือเออร์บักที่พึ่งจะได้รับหน้าที่นี้ เขาเป็นทนาย เขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในเรื่องการปะทะฝีปาก คำตอบของแฮมเล็ตพวกนั้น ในสิบข้อเออร์บักเป็นคนแนะนำคำตอบให้เขาไปแล้วห้าข้อ
สุดท้าย นักข่าวสาวผู้มีบุคลิกดีคนหนึ่งก็ยกไมโครโฟนขึ้นถามคำถาม “คุณแฮมเล็ต ดิฉันนักข่าวนอกสถานที่จากสำนักข่าวแคนาดานิวส์ ดิฉันอยากสอบถามว่า ตอนนี้คนทั่วโลกออกมาบอกว่าพระเจ้าได้ละทิ้งฟาร์มปลาของนิวฟันด์แลนด์แล้ว แต่คุณบอกว่าหลังจากที่คุณได้รับตำแหน่งคุณจะทุ่มเทเพื่อช่วยให้ฟาร์มปลากลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง หรือว่าคุณเก่งกว่าพระเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”
คำถามนี้ค่อนข้างโหดร้าย ในเมื่อเจอกับคำถามอันน่าประหลาดใจเช่นนี้ แล้วจะตอบคำถามนี้อย่างไรล่ะ หากยอมรับคำถามนั้น ก็เป็นการตบหน้าตัวเอง แต่หากไม่ยอมรับ ก็หมายความว่านายกเทศมนตรียิ่งใหญ่กว่าพระเจ้างั้นเหรอ? แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาก็ยังไม่กล้าตอบแบบนี้
แต่เมื่อแฮมเล็ตได้ยินคำถามนั้นเขากลับไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มแล้วเดินมาเชิญฉินสือโอวให้ลุกขึ้น เขาโอบกอดฉินสือโอวอย่างสนิทชิดเชื้อแล้วพูดขึ้นมา “เอาล่ะ ทุกท่าน ผมจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ให้ฟัง เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วและอยู่ใกล้ตัวพวกเรา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเกาะแฟร์เวล”
“เดือนเมษายนปีที่แล้ว มีชาวจีนคนหนึ่งชื่อว่าฉินสือโอว เขาได้มรดกตกทอดเป็นฟาร์มปลาจากคุณปู่ของเขา พื้นที่ฟาร์มปลาแห่งนั้นได้ถูกทิ้งให้รกร้างมานับสิบปีแล้ว”
“ในตอนนั้นพื้นที่ฟาร์มปลาเต็มไปด้วยหินขรุขระจำนวนมาก มีขยะเต็มไปหมด น้ำทะเลปนเปื้อนมลพิษอย่างหนัก ทรัพยากรประมงก็ขาดแคลน ใช่แล้ว ฟาร์มปลาแห่งนั่นถูกทิ้งร้างจนไม่เหลืออะไรแล้ว! ที่แห่งนี้มีเพื่อนของผมหลายคนที่เคยไปเที่ยวเกาะแฟร์เวล เชื่อพวกเขาเถอะว่าผมไม่ได้พูดเรื่องโกหก!”
“แต่ว่า เจ้าของฟาร์มท่านนี้ที่ไม่เคยย่อท้อและทำงานอย่างขยันขันแข็ง ทุกวันเขาทำงานอย่างหนัก พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงฟาร์มปลาของตัวเอง หลังจากนั้นหนึ่งปี วันหนึ่งรัฐมนตรีกรมประมงของพวกเราก็ได้ไปยังฟาร์มปลาของเขา”
บทที่ 736 จู่ๆ ก็ได้รับข่าวดี
โดย
Ink Stone_Fantasy
แฮมเล็ตที่กระหายต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง ได้ยกคำถามในหัวข้อนี้ไปยังบุคคลที่สามนั่นก็คือฉินสือโอว และเขาก็ประสบความสำเร็จในการสร้างความสนใจให้แก่ประชาชน
“ไม่ต้องถามผมหรอกครับว่าทำไมรัฐมนตรีกรมประมงถึงได้ไปยังฟาร์มปลาของเขา ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นชะตากรรมที่ชาวตะวันตกชอบพูดถึงกันก็เป็นได้? เอาล่ะ อย่างไรก็ตามท่านรัฐมนตรีก็ได้ไปที่นั่นแล้ว…ทุกคนที่ดูข่าวคงจะทราบว่านี่เป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้พูดโกหกเลยใช่ไหม?”
“รัฐมนตรีกรมประมงเดินสำรวจฟาร์มปลาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อเขาพบว่าที่นี่มีปลาค็อดจำนวนมาก เขาก็พูดขึ้นมาว่า ‘โอ้ พ่อหนุ่ม พระเจ้าจะต้องอวยพรให้ฟาร์มปลาของคุณอย่างแน่นอน’ หลังจากนั้น เขาก็เห็นการเก็บเกี่ยวสาหร่าย เขาเลยพูดขึ้นมาอีกว่า ‘โอ้ พ่อหนุ่ม พระเจ้าจะต้องอวยพรให้แก่สาหร่ายทะเลของคุณอย่างแน่นอน’ ”
“หลังจากที่เดินสำรวจฟาร์มปลาแล้ว เขาก็พูดขึ้นมาว่า ‘พระเจ้า พ่อหนุ่ม พระเจ้ากับคุณได้ทำให้ฟาร์มแห่งนี้ได้รับผลผลิตที่มากมายขนาดนี้เลยสินะ สุดยอดไปเลย’ พวกคุณรู้ไหมว่าตอนนั้นฉินสือโอว น้องชายของผมเขาตอบกลับว่าอย่างไร? มา ให้เขาพูดด้วยตัวเอาเองดีกว่า”
ไมโครโฟนถูกยื่นมาที่หน้าของฉินสือโอว ในหูของฉินสือโอวก็มีหูฟังอันเล็กๆ อยู่เช่นกัน เขารู้คำตอบอยู่แล้ว เขาหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่ความเชื่อของพวกคุณนะครับ แต่ในตอนนั้นผมพูดขึ้นมาว่า ‘ท่านรัฐมนตรีที่เคารพ ผมหวังไว้จริงๆ ว่าคุณจะได้มาเห็นจริงๆ ว่าตอนที่พระเจ้าจัดการดูแลที่ดินแห่งนี้เพียงลำพัง เขาได้ทำอะไรไปบ้าง!’ ”
คำตอบนี้เรียกเสียงหัวเราะได้จากทั่วทุกมุมจัตุรัส แต่ว่าครั้งนี้ไม่มีใครผิวปากออกมา
หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ ฉินสือโอวอาจจะรู้สึกไม่ดีที่จะต้องล้อเล่นต่อพระเจ้าในสถานการณ์ที่เป็นทางการเช่นนี้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะถูกชาวคาทอลิกและคริสเตียนร่วมมือกันตบตีเขาก็เป็นได้
ตอนนี้เขาได้ใช้เวลาร่วมกับคริสเตียนมานานจนรู้แล้วว่า พวกเขาไม่ได้ละเอียดอ่อนและเคร่งครัดขนาดนั้น การใช้นามของพระเจ้ามาสร้างบรรยากาศในพิธีการให้ครึกครื้นเล็กน้อย กลับถูกพวกเขามองว่าเป็นวิธีการที่ฉลาดวิธีหนึ่ง
การตอบคำถามสุดท้ายนี้เป็นการแสดงถึงการปิดฉากงานปราศรัยในครั้งนี้ แฮมเล็ตยังคงอยู่ที่จัตุรัสเพื่อกล่าวขอบคุณประชาชนที่มาร่วมงาน การทำแบบนี้ถือว่าเป็นเชื่อมสัมพันธ์ที่สำคัญเป็นอย่างมาก เขามีหน้าที่ตอบคำถามของประชาชนที่มีข้อสงสัย แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแขกผู้ร่วมสนับสนุน
ฉินสือโอวให้นีลเซ็นขับรถตรงไปยังโรงพยาบาลเซนต์แมรี่ที่นครเซนต์จอห์นทันที เมื่อวานตอนเย็นวินนี่บอกว่าเธอรู้สึกไม่สบาย วันนี้ยังเกือบเป็นลมในจัตุรัสอีก เรื่องนี้ทำให้เขาตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
วินนี่ไม่อยากไปโรงพยาบาล เธอพูดปลอบใจฉินสือโอวว่า “ฉันพึ่งไปตรวจร่างกายมาเอง ที่รัก ฉันไม่เป็นอะไร ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอก พวกเรากลับบ้านกันดีไหมคะ?”
ฉินสือโอวพูดจาโน้มน้าวอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าอย่างไรวินนี่ก็ไม่อยากไปโรงพยาบาล เขาก็ขมวดคิ้วแล้วพูดออกมาว่า “ไม่ได้ คุณต้องไปโรงพยาบาล! คุณต้องบอกหมอถึงอาการที่คุณเป็น หมอจะได้ตรวจร่างกายคุณอย่างละเอียด!”
โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ที่มีชื่อดั้งเดิมว่าโรงพยาบาลนิวฟันแลนด์ เซนต์แมรี่ เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นแกนนำในการก่อตั้งมหาวิทยาลัยศูนย์สุขภาพ
ประวัติของโรงพยาบาลนี้มีมาอย่างยาวนาน โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1901 ตอนนั้นมีบาทหลวงท่านหนึ่งเปิดโรงพยาบาลขนาดเล็กแห่งนี้ไว้เพื่อแยกผู้ป่วยโรคติดต่อ ตอนที่เปิดทำการครั้งแรกมีเตียงผู้ป่วยเพียงสามสิบเตียงเท่านั้น โดยเน้นไปที่การรักษาผู้ป่วยโรคติดต่อ เมื่อผ่านการพัฒนามาเป็นร้อยปี ตอนนี้โรงพยาบาลแห่งนี้จึงได้กลายเป็นโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยโรคติดต่อที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในแคนาดา
แน่นอนว่า โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ไม่ได้มีจุดแข็งที่การรักษาโรคติดต่อเพียงอย่างเดียว พวกเขามีความชำนาญในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพของสตรีอีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถเทียบเท่าได้กับศูนย์วิทยาศาสตร์และสุขภาพของมหาวิทยาลัยซันนี่บรู๊คและสตรีอันมีชื่อเสียงได้เลย
โรงพยาบาลไม่ได้อยู่ห่างจากจัตุรัสอนุสรณ์นิวฟันแลนด์มากนัก เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยอนุสรณ์นิวฟันด์แลนด์ และนี่ถือเป็นลักษณะเฉพาะของโรงพยาบาลทางอเมริกาเหนือ เกือบทุกโรงพยาบาลมักจะมีความเกี่ยวข้องกับโรงเรียนที่มีชื่อเสียง เช่นว่าศูนย์วิทยาศาสตร์และสุขภาพของมหาวิทยาลัยซันนี่บรู๊คและสตรีก็มีความเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยโทรอนโต
เมื่อเข้าไปในโรงพยาบาล ฉินสือโอวก็รีบไปลงทะเบียนเพื่อขอทำการตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที พนักงานบริการที่แผนกต้อนรับเอ่ยออกมาด้วยความเสียใจว่าหากต้องการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องทำการนัดล่วงหน้าเสียก่อน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการพิจารณาผู้ลงทะเบียนก่อนนัดหมายอีกครั้ง
ขั้นตอนอันซับซ้อนและยุ่งยากในการใช้บริการโรงพยาบาลรัฐของประเทศแคนาดาถูกวิจารณ์มาตลอด การทำงานของพวกเขาเคร่งครัดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาที่รอพบแพทย์เช่นนี้ พวกเขามักได้รับการวิจารณ์อย่างหนักจากในข่าว
ในหมู่ประชาชน ได้มีการเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปทางการแพทย์มาตลอดโดยไม่เคยหยุดนิ่ง พวกเขามีข้อเสนอแนะมากมาย แต่ว่าเสียงเรียกร้องดังไปก็เท่านั้นเพราะทางโรงพยาบาลไม่เคยปรับปรุงเลย นั่นก็เพราะว่าระบบทางการแพทย์อันยิ่งใหญ่ของแคนาดานี้ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานความเท่าเทียมทางสังคม มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานทั้งหมด
ฉินสือโอวที่กำลังร้อนรนถูกวินนี่คว้ามือไว้ เธอยิ้มให้และพูดออกมาว่า “ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ ต่อให้รอต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา คุณก็รู้นี่ว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจำเป็นต้องดูรายการการตรวจโรคก่อนที่จะทำการนัดหมายได้ หลังจากนั้นเขาจึงจะทำการรักษาได้ ดังนั้นฉันแนะนำว่าพวกเราไปหาแพทย์ทั่วไปดีกว่า”
ฉินสือโอวส่ายหน้า ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสของตัวเองขึ้นมาได้ เขาหัวเราะออกมาหึหึ จากนั้นก็ดึงบัตรใบนี้ออกมายื่นไปที่หน้าพนักงานบริการ พลางถามขึ้นว่า “ผมสามารถแซงคิวได้ไหม?”
บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสนี้มีสิทธิ์ใช้ไม่จำกัด พนักงานต้อนรับคนนั้นรีบลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ทางการของบริษัทเอ็กซ์เพรสของแคนาดาทันที หลังจากที่ตรวจสอบข้อมูลแล้วว่าเป็นบัตรจริง เธอก็รีบให้หมายเลขเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแก่วินนี่ทันที ผ่านไปสองนาทีวินนี่ก็ได้เข้าห้องตรวจ
บางทีนี่อาจจะเป็นการใช้อำนาจกลั่นแกล้งผู้คน ในประเทศจีนอาจจะมีคนรู้สึกว่าฉินสือโอวไม่ทำตามกฎ แต่ที่แคนาดาไม่ได้เป็นเช่นนั้น นั่นก็เพราะว่าสังคมทุนนิยมได้ให้ความสนใจกับทฤษฎีที่ว่าเงินคือทุกสิ่ง แล้วทำไมคนที่ร่ำรวยถึงจำเป็นจะต้องมีบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสด้วยล่ะ? ไม่ได้มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตยิ่งขึ้นหรอกเหรอ?
หลังจากที่วินนี่เข้าห้องตรวจไปได้ไม่นาน แพทย์คนหนึ่งก็ออกมาจากห้องตรวจ แล้วพูดกับฉินสือโอวว่า “เฮ้ เพื่อน ผมกะแล้วว่าต้องเป็นคุณ มาๆ พาภรรยาของคุณไปที่ห้องฉายรังสีนะ พอถึงตอนนั้นผมจะแจ้งผลกับคุณอีกที”
ฉินสือโอวมองไปยังแพทย์คนนั้นพลางยิ้มออกมา บังเอิญเสียจริงที่เป็นคนคุ้นเคยกันนี่เอง โอดอม กู๊ดแล็ค ลูกชายอดีตเจ้าของฟาร์มปลาบ้านเกิดของปลาค็อด ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวยังไปเป็นแขกร่วมรับประทานอาหารเย็นกับเขาอยู่เลย
แต่ว่าเขาไม่มีกะจิตกะใจที่จะคุยเล่นกับโอดอม เมื่อได้ยินว่าต้องไปที่ห้องฉายรังสีเขาก็เกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมา อะไรกำลังรอเขาอยู่ที่ห้องฉายรังสีอย่างนั้นเหรอ?
หลังจากที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานบริการเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกหดหู่ใจ เรื่องบ้าอะไรกันทำไมวินนี่ต้องมาทำอัลตราซาวด์ด้วย ห้องฉายรังสีอะไรกัน?
หลังจากที่ทำการตรวจอัลตราซาวด์เสร็จ โอดอมก็ให้แผ่นผลอัลตราซาวด์ให้แก่ฉินสือโอวพลางพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “ยินดีด้วยนะ เพื่อน คุณจะได้เป็นพ่อคนแล้ว ลูกตัวน้อยสุดแสนน่ารักของคุณกำลังนอนหลับอยู่ในท้องของภรรยาของคุณน่ะ แนอนว่า ตอนนี้ยังดูไม่ออกหรอกว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”
โอดอมพูดอธิบายออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ฉินสือโอวกลับรู้สึกเหมือนเขากำลังโดนทุบลงมาที่หัวอย่างรุนแรง เขาอึ้งจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมาไปชั่วขณะ เขาอ้าปากค้างแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาทั้งสองมองไปข้างหน้าด้วยความว่างเปล่า สายตาของเขาไม่ได้จดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ในหัวของเขาคิดออกอยู่เรื่องเดียว เขามีลูกแล้ว!
ความคิดนี้เป็นความคิดเดียวกันกับตอนที่เขาเห็นกระต่ายทะเลผสมพันธุ์กันเมื่อไม่นานมานี้ แล้วมาเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก อาการตกตะลึงที่เกิดในหัวอย่างเฉียบพลัน ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก
เหมือนว่าโอดอมจะมองออกว่าฉินสือโอวรู้สึกอย่างไร เขาจึงทำเพียงยิ้มให้และรอให้ฉินสือโอวมีปฏิกิริยาตอบสนอง
ฉินสือโอวหายใจเข้าลึก แล้วถามออกมาอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อว่า “วินนี่ คุณท้องงั้นเหรอ? ผม ผมจะได้เป็นพ่อคนแล้วงั้นเหรอ?”
วินนี่เอื้อมมือมาจับมือของฉินสือโอวและพูดออกมาอย่างไพเราะว่า “คุณไม่ได้เป็นพ่อมาตลอดหรอกเหรอ? คุณก็ดูแลพวกหู่จือเป้าจือและฉงต้าอย่างดีมาโดยตลอดนี่”
ฉินสือโอวส่ายหน้าทันที นี่มันเหมือนกันเหรอ? ใช่แล้ว เขาเลี้ยงดูเจ้าพวกนั้นเหมือนเป็นลูกสาวลูกชายของตนเอง แต่เขาก็รู้สึกว่านี่มันไม่เหมือนกัน!
“ผมจะเป็นพ่อคนแล้ว!” ฉินสือโอวพูดประโยคนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โอดอมช่วยพูดให้เขาแน่ใจขึ้นไปอีกว่า “ใช่แล้ว เพื่อน นายจะเป็นพ่อคนแล้ว!”
บทที่ 737 ชายบ้า
โดย
Ink Stone_Fantasy
ฉินสือโอวดึงวินนี่เข้ามากอดอยู่นานสองนานกว่าจะยอมปล่อย นี่เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก
วินนี่และโอดอมไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของฉินสือโอว นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับจิตสำนึกแห่งโพไซดอน
ในตอนแรกที่ได้ทราบข่าวว่าคุณปู่รองที่ใช้ชีวิตอยู่ในนิวฟันแลนด์อย่างสนุกสนานไม่มีทายาทเลยแม้แต่คนเดียว ฉินสือโอวก็เคยคาดเดาถึงสิ่งที่น่ากลัวมาก่อน นั่นก็คือการที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนอาจจะไม่ต้องการให้เจ้าของถ่ายทอดพลังนี้ให้แก่ทายาทของพวกเขา มันเลยลดความสามารถในการเจริญพันธุ์ของผู้เป็นนาย
ฉินสือโอวมักจะพยายามเลิกคิดเรื่องนี้เสมอ แต่ความคิดนี้ก็ไม่เคยออกจากหัวเขาได้เลย โดยเฉพาะหลายปีมานี้ที่วินนี่ร้องอยากมีลูก ปกติเวลาที่ร่วมรักแล้วเธอจะไม่ให้เขาป้องกัน แต่ผลปรากฏว่าเวลาผ่านมานานแล้วก็ยังไม่มีลูกเสียที
ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ควรเป็นเช่นนี้ ฉินสือโอวมีร่างกายที่แข็งแรงดี ทุกเช้าเขาไปวิ่งและชกมวย บางครั้งก็ยังออกทะเลไปรับลมรับฝนเพื่อฝึกฝนร่างกาย โดยหลักการการทำงานของเซลล์ร่างกายของเขานั้นดีมาก แต่วินนี่ก็ยังคงไม่ตั้งครรภ์
เรื่องนี้กลายเป็นแผลในใจของเขา
ปรากฏว่า การเซอร์ไพรส์กลับมาแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้เขามีลูกแล้ว
สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ไล่ตามเป้าหมายเพียงสองอย่างในชีวิตเท่านั้น หนึ่งคือการกินและมีชีวิตต่อไป และสองคือการให้กำเนิดทายาทผู้เป็นสายเลือดของตนเอง สองข้อนี้คือสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนการไล่ตามเป้าหมายอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการปรนเปรอตัวเองเท่านั้น
ตอนนี้ ฉินสือโอวได้ไล่ตามเป้าหมายสำเร็จทั้งสองข้อแล้ว
อาจจะเป็นเพราะเหตุผลทางจิตใจหรือไม่ก็ภาพมายา เมื่อตอนที่ฉินสือโอวกอดวินนี่ เขาสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่ได้เป็นเพียงความสัมพันธ์แบบชายหนุ่มหญิงสาวทั่วไปอีกแล้ว แต่มันมีพันธะเวทมนตร์บางอย่างที่เชื่อมพวกเขาเข้าด้วยกัน ความรู้สึกนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน
เมื่อความกังวลในใจถูกขจัดไป ต่อไปก็เหลือเพียงแค่รอคอยและรอต้อนรับความสุขที่กำลังจะเกิดขึ้น
ฉินสือโอวจูบวินนี่อย่าลึกซึ้งต่อหน้าโอดอม หลังจากที่ปล่อยวินนี่เขาก็เดินออกไปหานีลเซ็นพร้อมพูดขึ้นมาด้วยเสียงอันดังว่า “ประกาศบอกทุกคนว่า เงินเดือนของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่า!”
เขาต้องการที่จะหาช่องทางการระบายความตื่นเต้นและความสุขของตัวเอง วิธีที่ดีที่สุดคือการทำให้คนที่อยู่รอบๆ นั้นตื่นเต้นและมีความสุขไปด้วยกัน
เมื่อได้ยินดังนั้น นีลเซ็นที่กำลังมองไปยังสาวสวยที่อยู่ตรงแผนกต้อนรับก็ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปยังฉินสือโอวด้วยความสงสัย “บอส เขาอนุญาตให้สูบกัญชาในโรงพยาบาลเหรอครับ?”
“เจ้าโง่! วินนี่ท้องแล้ว! ฉันจะได้เป็นพ่อคนแล้ว! การเพิ่มเงินเดือนให้พวกนายถือว่าเป็นการฉลอง!” ฉินสือโอวพูดออกมาเสียงดัง
นางพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาเตือนเขาให้ลดการใช้เสียง โอดอมมาช่วยฉินสือโอวพูดกับนางพยาบาลคนนั้น เขาบอกว่าให้ปล่อยฉินสือโอวไว้แบบนี้เถอะ
นีลเซ็นสัมผัสได้ถึงคลื่นความสุขที่ท่วมท้นไปทั่วร่างกาย แน่นอนว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการที่วินนี่ตั้งท้อง เขารู้สึกดีใจกับเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ถึงขนาดมีความสุข ไม่เช่นนั้นฉินสือโอวอาจจะตีเขาจนตายก็ได้
ยังไม่ทันขาดคำ นีลเซ็นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเพื่อนร่วมงานทีละคน “เพื่อน นายเงินเดือนขึ้นแล้ว เงินเดือนจะถูกปรับขึ้นหนึ่งเท่า! ใช่แล้ว นายไม่ได้ฟังผิดหรอก พวกเราเงินเดือนขึ้นทุกคน เพิ่มขึ้นหนึ่งเท่า!”
“นายว่าอะไรนะ? ฉันไม่ได้พูดเล่น! ใช่แล้ว ฉันไม่ได้สูบกัญชาอยู่ด้วย! ให้ตายเถอะ บอสไม่อนุญาตให้ฉันสูบเสียหน่อย ฉันรู้น่า ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้ว! ฉันไม่ได้สูบ!”
นางพยาบาลที่อยู่รอบๆ ต่างจ้องเขม็งมายังนีลเซ็นและฉินสือโอว คำว่ากัญชาถือว่าเป็นคำที่ละเอียดอ่อนมากในโรงพยาบาล
หลังจากที่ฉินสือโอวออกจากโรงพยาบาลไป พยาบาลสาวผู้มีท่าทางขี้เกียจคนหนึ่งส่งใบปลิวใบหนึ่งมาให้ฉินสือโอว บนใบปลิวมีคำอธิบายแนะนำเกี่ยวกับโรคเอดส์และไวรัสเอชไอวี ประโยคหนึ่งถูกพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีดำขนาดใหญ่อยู่ที่ด้านบนกระดาษ การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องสามารถป้องกันการติดต่อของโรคเอดส์…
โรงพยาบาลเซนต์แมรี่เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ การรักษาโรคที่เกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบเอและไวรัสตับอักเสบบี รวมถึงการวินิจฉัยและรักษาวัณโรคและโรคเอดส์ของโรงพยาบาลแห่งนี้ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ
ฉินสือโอวหมดคำจะพูด เขาหันไปพูดกับพยาบาลสาวคนนั้นว่า “คุณหนู คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้เป็นเกย์ ดูสิ คนนั้นเป็นภรรยาของผม เธอตั้งท้องแล้ว”
ในประเทศแคนาดา โรคเอดส์นั้นเกี่ยวข้องกับการรักร่วมเพศโดยตรง จากการสำรวจพบว่าชาวอเมริกาเหนือที่ติดเชื้อเอชไอวีเป็นบุคคลรับร่วมเพศถึงร้อยละแปดสิบแปด
พยาบาลสาวชี้ไปยังด้านล่างใบปลิวด้วยความเขินอาย ที่ตรงนั้นมีข้อความเขียนไว้ว่าการใช้กัญชามีผลให้เกิดอาการประสาทหลอน การสูบกัญชามากเกินไปอาจจะทำให้เกิดความผิดปกติในหมู่ผู้ใช้ พอถึงตอนนั้นพวกเขาจะไม่สนใจว่าคนรอบข้างเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง
“ประเด็นหลักคือให้ผู้ชายคนนั้นค่ะ” พยาบาลสาวชี้ไปที่นีลเซ็น
จากที่ไกลๆ นีลเซ็นนั่งลงกับพื้นและอธิบายให้กับคนในสายฟังว่าเขาไม่ได้สูบกัญชา ชายคนนั้นเจอกับโชคร้ายเข้าเสียแล้ว เพราะเมื่อชาร์คถามว่าเขาอยู่ที่ไหนเขาก็ตอบกับว่าอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ หลังจากนั้นเพื่อนชาวประมงต่างก็พากันบอกว่าเขาได้เลือกสิ่งที่ถูกต้องแล้ว โรงพยาบาลเซนต์แมรี่เชี่ยวชาญในการรักษาอาการเสพติดกัญชาเป็นอย่างมาก
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉินสือโอว ตอนนี้เขาสนใจแต่เรื่องของวินนี่และลูกของเขาเท่านั้น เขาลากโอดอมออกมาสอบถามเรื่องที่เขาต้องคอยเอาใจใส่ที่เกี่ยวกับวินนี่
โอดอมบอกว่า “เพื่อน คุณจะคิดเล็กคิดน้อยเกินไปแล้ว วินนี่พึ่งจะท้องได้ไม่นาน เธอสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเมื่อก่อน”
“แล้วเธอสามารถกินอาหารทะเลได้ไหม? เธอยังจะวิ่งได้อยู่ไหม? เธอจะกินไข่ห่านได้ไหม เธอจะเข้าใกล้พวกแลบราดอร์ที่ขนร่วงเยอะได้รึเปล่า?”
“เธอจะต้องนอนหลับก่อนสามทุ่มใช่ไหม? เธอไม่สามารถทำงานได้แล้วใช่ไหม? เธอไม่สามารถที่จะโต้คลื่นทะเลได้ใช่ไหม? เธอ…”
“ที่รัก คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?” วินนี่รู้สึกเหนื่อยใจ เธอจับมือของฉินสือโอวแล้วเขย่าอย่างแรง
ฉินสือโอวลูบผมของวินนี่อย่างอ่อนโยน แล้วพูดขึ้นว่า “อย่าซนสิ คุณมีลูกแล้วนะ ระวังการเคลื่อนไหวของคุณจะไปกระทบถึงลูกในท้องจนได้รับการสั่นสะเทือนสิ….เฮ้อ ให้ตายเถอะ ผมนี่ปากเสียจริงๆ เอาล่ะๆ ไม่ต้องสนใจหรอกว่าผมจะพูดอะไร แต่คุณอยู่นิ่งๆ ก่อนเถอะ”
โอดอมกลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย เขามองไปยังฉินสือโอวที่เคยให้เขากินอาหารทะเลสดใหม่รสชาติเยี่ยมด้วยความอดกลั้น พลางพูดออกมาว่า “เพื่อน ตอนนี้ภรรยาของคุณปกติดีทุกอย่าง ตั้งแต่ผมอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่มาสุขภาพร่างกายของเธอถือว่าดีที่สุดที่ผมเคยตรวจมา”
“ใช่แล้ว คุณไม่ได้เป็นหมอฟันหรอกเหรอ? ไม่ใช่สิ หรือว่าเป็นหมอทางสมองนะ? ทำไมคุณถึงมาทำงานที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ได้ล่ะ? แล้วคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับสตรีเหรอ?” ฉินสือโอวมองไปยังโอดอม ด้วยความสงสัย
โอดอมถอนหายใจออกมา แล้วตอบกลับว่า “ผมทำได้หมดแหละ คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม? ผมไม่ได้สังกัดโรงพยาบาลไหนเลย ผมขึ้นกับมหาวิทยาลัยศูนย์สุขภาพ พวกเราผลัดกันดูแลคนไข้ในโรงพยาบาลใหญ่ๆ เพื่อช่วยเหลือคนไข้ เข้าใจรึยัง?”
ฉินสือโอวเข้าใจขึ้นมาที แล้วพูดกับโอดอมด้วยความยินดีว่า “ผมรู้ว่าคุณน่ะเก่งกาจขนาดไหน น้องรัก มาๆ ผมจะแนะนำแพทย์สตรีที่เก่งกาจที่สุดให้ดีไหม?”
“หากคุณยังไม่กลับผมจะเรียกคนมาจัดการคุณแล้วนะ”
“ฮ่าๆๆ เพื่อนผมที่อยู่ด้านนอกเป็นถึงนายทหารปลดประจำการจากกองกำลังพิเศษเลยนะ”
“งั้นผมจะสูบบุหรี่ต่อหน้าภรรยาของคุณ แล้วให้สารนิโคตินเข้าไปในกระแสเลือดของลูกคุณ”
“แม่แกสิ! ต่อไปไม่ต้องไปที่ฟาร์มปลาเลยนะ!”
เมื่อเห็นว่าโอดอมดึงบุหรี่ออกมาจากลิ้นชักหนึ่งมวน ฉินสือโอวก็ลากวินนี่ให้ออกมาจากบริเวณนั้นทันที ตอนที่ออกมาเขาได้หยิบกุญแจรถของโอดอมออกมาด้วย เขาไม่อยากให้วินนี่สุดที่รักของเขาต้องนั่งรถแท็กซี่
ระหว่างทางกลับบ้าน ฉินสือโอวก็นั่งอ่านผลอัลตราซาวด์อย่างละเอียด นีลเซ็นขับรถไปพลางถามออกมาว่า “บอส คุณอ่านเอกสารพวกนี้ได้ด้วยเหรอครับ?”
ฉินสือโอวตอบกลับอย่างเคร่งขรึมว่า “ตอนขับรถไม่ควรพูดนะ นายต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากที่สุดสิ! วินนี่อยู่ในรถด้วยนะ!”
นีลเซ็น “…”
ฉินสือโอวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดออกมาว่า “ไม่ได้ละ นายลงรถไปเลย ฉันจะขับเอง ต่อไปนี้ถ้าวินนี่นั่งรถ นายกับเบิร์ดห้ามจับพวงมาลัยเด็ดขาด!”
นีลเซ็นมองไปวินนี่ด้วยสีหน้าตกตะลึง คนที่นั่งอยู่ด้านหลังก็มองมาอย่างผิดหวัง ฉินสือโอวบ้าไปแล้ว!
บทที่ 738 ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแม่
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลังจากที่ฉินสือโอวกลับมาที่บ้านเขาก็เรียกทุกคนในบ้านมาประชุม ประเด็นแรกที่เขาเน้นคือ ไม่อนุญาตให้นีลเซ็นและเบิร์ดขับรถพาวินนี่ออกไปข้างนอก!
“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ บอส?” เบิร์ดถามออกมาอย่างอดไม่อยู่
ฉินสือโอวตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “นายกับนีลเซ็นเคยมีประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศหรือเปล่า?”
“แน่นอนว่ามีครับ พวกเราเคยปฏิบัติหน้าที่ที่อิรักและอัฟกานิสถานมาก่อน นอกจากนี้ยังเคยไปจัดการกับคนลักลอบนำเข้ายาเสพติดที่เม็กซิโกและบราซิล” นีลเซ็นพูดขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ
ดังนั้น ฉินสือโอวหยิบโทรศัพท์ออกมาหารายงานฉบับหนึ่งแล้วส่งให้เบิร์ดอ่าน มันคือรายงานจากสำนักข่าวอเมริกันที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ถูกทำขึ้นในปี 2013 ในเอกสารเป็นการรายงานถึงคุณภาพการจราจรของทหารที่ปลดประจำการแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า ครึ่งปีแรกหลังจากที่กลับมาจากปลดประจำการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เฉลี่ยร้อยละสิบสาม แต่ว่าทหารผ่านศึกที่ปฏิบัติการต่างประเทศมานานมากกว่าสามเดือน โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากที่ปลดประจำการมีสูงขึ้นถึงร้อยละสามสิบหก!
“ดูนี่สิ สมาคมกองกำลังติดอาวุธได้อธิบายเรื่องนี้แทนพวกนายหมดแล้ว เขาบอกว่าพวกนายที่ไปปฏิบัติการที่ต่างประเทศ ยานพาหนะที่ใช้ในการขับขี่จะต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อันตรายต่อการระเบิดและการโจมตีอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อกับการขับรถได้ตลอด ดังนั้นการจะที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น การชนท้ายและการชนรถคันอื่นจะเกิดขึ้นได้ง่ายมาก”
“แต่ว่าพวกเรากลับประเทศมาสองปีแล้วนะครับ” นีลเซ็นพูดอธิบาย
เบิร์ดถอนหายใจออกมาพลางโบกมือปัดให้นีลเซ็น บอสเป็นบ้าไปแล้ว นายคิดว่าอธิบายให้คนบ้าฟังจะได้อะไรขึ้นมาเหรอ?
ชาร์ค ซีมอนสเตอร์ แลนซ์ทุกคนต่างมองไปยังเบิร์ดและนีลเซ็นอย่างสนุกสนาน หลังจากที่ปล่อยพวกนายคุยโวความเก่งกาจของตัวเองตอนที่ปฏิบัติงานนอกประเทศมานาน ตอนนี้ยังจะโม้ได้อีกไหมล่ะ?
แต่ว่าไม่นานพวกเขาทั้งสามก็หมดสนุกลง นั่นก็เพราะว่ากฎข้อต่อมา “บริเวณภายในฟาร์มปลา ไม่ว่าใครก็ห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด!”
บุหรี่ที่อยู่ในมือของแลนซ์ร่วงลงพื้นทันที เขาถามออกมาด้วยสีหน้าตกอกตกใจว่า “ภายในฟาร์มปลางั้นเหรอ? บอส พื้นที่ฟาร์มปลาเป็นที่ดินกว้างร้อยกว่าตารางกิโลเมตรเลยนะ”
ฉินสือโอวตอบกลับด้วยความเศร้าว่า “ไม่ได้ ฉันไม่ได้หมายถึงเพียงพื้นที่ดินในฟาร์มปลาเท่านั้น รวมถึงน่านน้ำของฟาร์มปลาด้วย”
คนที่ไม่สูบบุหรี่อย่างนีลเซ็นและเบิร์ดใจชื้นขึ้นมา นักแม่นปืนถูกห้ามไม่ให้สูบบุหรี่ ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงเริ่มเลิกบุหรี่ตั้งแต่ที่เข้ารับราชการในกองทัพ
ชาวประมงทุกคนในฟาร์มต่างสูบบุหรี่ การทำงานในทะเลค่อนข้างน่าเบื่อ การสูบบุหรี่และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานทั้งสองกิจกรรมนี้สามารถทำให้พวกเขาหายเบื่อได้ แม้ว่าชาวประมงจำนวนไม่น้อยจะบอกว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดอาการแพ้ แต่พวกเขาก็เปลี่ยนมาสูบกัญชา อีกอย่างพอออกทะเลไปก็ไม่มีใครสนใจพวกเขาแล้ว
“ถ้ามีคนสูบบุหรี่ แล้วฉันจับได้ฉันจะทำให้มันเจ็บเจียนตาย! ทุกคนต้องรายงานเรื่องพวกนี้เข้าใจไหม? ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริง คนที่มารายงานจะได้รับเงินรางวัลหนึ่งหมื่นดอลลาร์”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าชาวประมงก็ตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิม ฉินสือโอวเอาจริงแล้ว!
แลนซ์มองบุหรี่ในมืออย่างสิ้นหวัง บูลเสียสติไปแล้ว เขาวิ่งไปบอกเรื่องนี้ให้วินนี่ฟัง
วินนี่มาหาฉินสือโอวด้วยท่าทีโมโห เธอตะโกนออกมาว่า “คุณฉิน ขอร้องล่ะคุณทำทุกอย่างให้เป็นปกติได้ไหม? ฉันตั้งท้อง แต่ว่าฉันก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ได้เป็นหมีแพนด้า ไม่ต้องทำเรื่องบ้าขนาดนี้หรอก!”
“ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อแม่เป็นสำคัญนะ!” ฉินสือโอวตอบกลับเสียงแข็ง
“ถ้าหากว่าคุณไม่อยากให้ฉันโมโห เช่นนั้นก็อย่าทำอะไรแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นฉันจะโกรธคุณไปจนตายเลย นอกจากนี้ถ้าฉันโมโหก็จะส่งผลไม่ดีต่อลูกในท้องอีกด้วย” วินนี่พูดพลางยิ้มออกมาเบาๆ
ฉินสือโอวรีบทำตัวดีทันที เขาพูดออกมาว่า “ถ้าอย่างนั้นรอบตัววินนี่ในระยะหนึ่งตารางกิโลเมตร ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่!”
เหล่าชาวประมงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มีที่ให้สูบบุหรี่ก็ยังดี
เพราะว่าวินนี่ยืนมือเข้ามา การประชุมบ้าบอนี้ก็ได้สิ้นสุดลงเสียที แต่ว่าเรื่องที่ทำให้วินนี่กลัวก็คือ ฉินสือโอวที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาที่บ้านของเธอและครอบครัวของเขาแล้วบอกว่า “วินนี่ท้องแล้ว!”
วินนี่แทบจะเป็นบ้าขึ้นมา “คุณบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของฉันทำไมกัน? เอาล่ะ บอกพ่อแม่ของคุณนั้นเป็นเรื่องที่สมควร แต่บอกพ่อแม่ของฉันทำไม? คุณยังให้พวกเขามาที่ฟาร์มปลาอีกเหรอ?! ไม่รู้หรือว่าเวลาที่ฉันเห็นฟอกส์แล้วฉันจะโมโห!”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ “พี่สาวของคุณไม่มีลูกนี่ ที่รัก เธออาจจะอิจฉาคุณ แต่คุณสามารถที่จะแชร์เรื่องลูกเพื่อให้คุณรู้สึกเหนือกว่าได้นะ”
วินนี่กะพริบตา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มออกมาว่า “ฟอกส์จะมาเมื่อไรงั้นเหรอ? ฉันรอแทบไม่ไหวแล้วล่ะ”
อันที่จริงแล้วฉินสือโอวไม่ได้บ้าขนาดนั้น การประชุมต่อกับเหล่าชาวประมงเป็นเพียงเรื่องสนุกเท่านั้น เรียกได้ว่าเรื่องนี้เป็นเพียงการระบายความตื่นเต้นในใจของเขาเท่านั้น
การบอกเรื่องนี้ให้แก่พ่อแม่ของวินนี่เป็นการเชื้อเชิญให้พวกเขามาที่ฟาร์มปลา ทันใดนั้นฉินสือโอวก็คิดขึ้นมาได้ว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของวินนี่และครอบครัวของเธอดีขึ้น
ฉินสือโอวได้ให้สัญญากับพ่อตาแม่ยายไว้แล้ว ว่าเขาจะช่วยสานสัมพันธ์คนในครอบครัว ตอนนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้ว
เมื่อพ่อแม่ของฉินสือโอวรู้ว่าวินนี่ท้องก็รู้สึกดีใจจนออกนอกหน้านอกตา ให้ไปทำนา ให้ไปเก็บผัก ให้ไปจับปลาในคลอง พวกเขาก็ไม่สนใจแล้ว สู้ไปดูแลลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งท้องดีกว่า
แต่เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ของวินนี่จะไปที่ฟาร์มปลาด้วย พ่อแม่ของฉินสือโอวปรึกษากันอยู่หนึ่งคืน สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ตอบกลับไปว่า ช่วงนี้พวกเขาจะยังไม่ไปหา ให้อยู่กับพ่อแม่ของวินนี่ไปก่อน
ความคิดของคนแก่ทั้งสองนั้นซื่อตรงและเรียบง่ายมาก ลูกสะใภ้จะต้องสนิทกับครอบครัวของเธอให้มากขึ้น หากพวกเขาไปฟาร์มปลาล่ะก็ เกรงว่าวิถีการใช้ชีวิตของพวกเขาหรือวิธีการต่างๆ อาจจะทำให้ขัดแย้งกันได้ เรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ได้เป็นคนประเทศเดียวกัน
พวกเขาไม่ได้ต้องการให้วินนี่ลำบากใจ ดังนั้นต้องให้ครอบครัวของวินนี่ดูแลลูกสะใภ้เสียก่อน เมื่อครอบครัวของวินนี่กลับไปพวกเขาค่อยไปหา
นี่เป็นการแสดงความรักต่อลูกแบบฉบับพ่อแม่คนจีน อาจไม่ได้บอกรักมากมาย แต่พวกเขาก็คิดการเพื่อลูกอย่างรอบคอบ ตราบใดที่ลูกของพวกเขาประสบความสำเร็จ ไม่ว่าตัวเองจะทุกข์แค่ไหนก็ยอม!
ฉินสือโอวยิ้มแหยออกมา เขาอธิบายความขัดแย้งระหว่างวินนี่และครอบครัวของเธอ แม่ของฉินสือโอวที่รับโทรศัพท์ถอนหายใจออกมา “เสี่ยวโอว แกจะเป็นพ่อคนอยู่แล้วยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เลือดข้นกว่าน้ำ แม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่นั่นเป็นเพียงการหยอกล้อของพ่อแม่กับลูกเท่านั้น ความรู้สึกของวินนี่ที่มีต่อพ่อแม่ของเธอไม่ต่างอะไรกับที่แกรู้สึกกับพ่อแม่หรอก หากเธอได้อยู่กับพ่อแม่ของเธอ เธออาจจะมีความสุขมากก็ได้”
วินนี่เกือบจะร้องไห้เมื่อรู้เรื่องนี้ พลางบอกว่าถ้าพ่อแม่ของเธอดีให้ได้ครึ่งหนึ่งของพ่อแม่ฉินสือโอว เธอก็คงไม่ต้องหนีออกมาจากบ้านและไม่ยอมกลับบ้านไปเป็นปีๆ แบบนี้
ฉินสือโอวปรึกษากับวินนี่ เขาไม่สามารถที่จะบินไปรับพ่อแม่ของวินนี่มาได้ทันที เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากที่พ่อแม่ของวินนี่รู้ว่าเธอตั้งท้องพวกเขาจะรีบมาหากันด้วยความดีใจ แต่ปรากฏว่าระหว่างพวกเขากลับยังมีความกังวลใจกันอยู่ค่อนข้างมาก
แต่ว่า พวกเขาไม่สามารถมายังฟาร์มปลาได้ในเวลาอันใกล้นี้ เพราะว่าพายุหมุนเขตร้อนพัดเข้ามาถึงนิวฟันแลนด์แล้วตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศไว้ เมื่อพายุหมุนเขตร้อนพัดเข้ามาปะทะกับพายุไซโคลนจากทางเหนือ พายุทั้งสองลูกก็รวมกันจนเกิดเป็นพายุเฮอร์ริเคน!
พึ่งจะเข้ากลางเดือนกรกฎาคม พายุจากทะเลอันบ้าคลั่งก็เข้าปกคลุมนิวฟันแลนด์เสียแล้ว
ตกเย็นในขณะที่ฉินสือโอวกำลังจะหลับ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหู่จือ เป้าจือ ฉงต้า หลัวปอทั้งสี่ตัวส่งเสียงเห่าหอนออกมา
วินนี่ตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือพลางถามว่า “ที่รัก เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”
ฉินสือโอวที่กำลังฝันหวาน ถูกเสียงเห่าหอนอันเสียงดังของเจ้าพวกนั้นทำให้ตกใจตื่น วินนี่ถามออกมาเบาๆ เขาจึงรีบลุกขึ้นมา พลางถามกับว่า “เกิดอะไรงั้นเหรอ?”
“พวกเด็กๆ กำลังเห่าน่ะ” วินนี่ลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้า
ฉินสือโอวที่สวมชุดนอนอยู่ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วพูดว่า “คุณไม่ต้องลงไป เดี๋ยวผมไปดูเอง”
บทที่ 739 ปลาตกลงมาจากท้องฟ้า
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อลงมาชั้นล่าง ฉินสือโอวก็เห็นว่าหู่จือและหลัวปอใช้ร่างดันที่ประตูบานหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนฉงต้าและเป้าจือก็อยู่ที่ประตูอีกบาน ต้าป๋ายใช้แก้มของตัวเองดันที่ก้นของฉงต้าอย่างสุดกำลัง ราวกับพวกมันกำลังดันประตูอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?” ฉินสือโอวถามพลางยิ้มออกมา
เมื่อเห็นว่าฉินสือโอวปรากฏตัว นิมิตส์และบุชก็รีบบินมาหาเขาทันที มันกระพือปีกบินเข้ามาหาพร้อมกับร้องใส่เขา ท่าทางดูร้อนรนเป็นอย่างมาก
จู่ๆ เสียง ‘ปัง’ ก็ดังขึ้นมา ฉินสือโอวตกใจกับเสียงนั้น เขาหันไปมองยังหน้าต่างบานหนึ่งที่ไม่ได้ปิดสนิท เมื่อบานหน้าต่างทั้งสองข้างกระทบกับขอบหน้าต่าง กระจกทั้งสองข้างที่ติดอยู่กับหน้าต่างก็แตกกระจาย!
ทันใดนั้นเอง ลมทะเลพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างอย่างบ้าคลั่ง แรงลมนั้นน่ากลัวมาก ทำให้ผ้าม่านนั้นสะบัดเสียงดังพรึ่บพับ ใช้เวลาไม่กี่วินาที ผ้าม่านพันเข้าหากันจนกลายเป็นแส้ ผ้าม่านสะบัดไปมาโดนผนังและขอบหน้าต่างด้านข้าง
ฉินสือโอวรู้ทันทีว่าเจ้าพวกนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ พวกมันกำลังกั้นประตูอยู่ ถ้าหากว่าพวกมันไม่กั้นประตูไว้ ลมทะเลคงจะพัดประตูจนพังไปแล้ว
ฉินสือโอวรีบล็อกประตูอย่างรวดเร็ว พวกเด็กๆ ต่างพากันนั่งลงและถอนหายใจออกมา ปรากฏว่าที่นอกประตูนั้นเกิดเสียงเคาะประตูดัง ‘ปังๆๆๆ’ อยู่หลายที ฉินสือโอวแง้มประตูมองออกไปข้างนอก เสี่ยวหมิงกำลังพาพวกกระรอกดินทั้งหลายใช้อุ้งมือตบเข้าที่ประตู
เขาเปิดประตูออกไป ลมทะเลก็ปะทะหน้าเขาเข้ามาทันที ลมแรงที่พัดเข้ามาเกือบทำให้ฉินสือโอวหงายหลัง
ฉินสือโอวไม่สามารถปิดประตูได้ เขาเปิดประตูให้กว้างขึ้นเล็กน้อย เพื่อที่จะให้เสี่ยวหมิงและพวกกระรอกดินเข้ามาข้างใน
ในเวลานี้ที่ด้านนอกมีทั้งพายุลมและฝน นอกจากลมจะพัดมาอย่างแรงแล้ว ก็มีฝนเม็ดเล็กๆ ตกลงมาเสริมด้วยเช่นกัน
เมื่อล็อกประตูเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็ตรวจสอบดูหน้าต่างบานอื่นๆ ในขณะเดียวกันเขาแจ้งเออร์บักและพวกเด็กๆ แต่ละคนให้ปิดหน้าต่าง
แต่แล้วเชอร์ลี่ย์และเด็กคนอื่นๆ ก็วิ่งมาหาเขาด้วยความตกใจ พลางตะโกนออกมาว่า “ฉิน ลมแรงมากเลย!”
ใช่แล้ว ข้างนอกนั้นลมแรงมาก ฉินสือโอวมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพที่เห็นด้านนอกเป็นสีดำสนิท ไม่สามารถมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้เลยแม้แต่ดวงเดียว เมฆดำปกคลุมกลืนกินเมืองแห่งนี้ไปแล้ว!
ต้นชูการ์เมเปิลขนาดใหญ่สั่นไหวไปมาภายใต้พายุลูกใหญ่ เสียงเสียดสีของใบไม้ดัง ‘พั่บๆ’ ไปมาเสียงดังลั่น สร้างความตื่นตระหนกใจให้แก่ผู้คนที่พบเห็น
พวกของเชอร์ลี่ย์เป็นห่วงกระท่อมหลังเล็กที่อยู่ใต้ต้นไม้ กระท่อมหลังนั้นสร้างเสร็จแล้ว แต่การที่มันจะสามารถเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่แบบนี้ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก
ฉินสือโอวไม่ให้พวกเขาออกไปข้างนอกอย่างแน่นอน เขาหาไม้กระดานแผ่นหนึ่งมากั้นหน้าต่างบานที่แตก ลมทะเลที่พัดเข้ามารุนแรงเกินไป หากไม่ระวังแล้วโดนผ้าม่านที่ม้วนตัวเป็นแส้ฟาดเข้ามาที่ใบหน้าของเขา คงจะเจ็บหน้าดู!
นิมิตส์และบุชบินไปยังหน้าต่างบานนั้นแล้วอ้าปากกัดผ้าม่านไว้อย่างทันถ่วงที ฉินสือโอวจึงได้เอาแผ่นไม้ไปตอกไว้ที่หน้าต่างได้อย่างปลอดภัย การทำแบบนี้สามารถกันลมทะเลที่พัดเข้ามาได้ชั่วคราวเท่านั้น
เมื่อมือว่าง ฉินสือโอวก็โทรหาชาร์คและคนอื่นๆ ผลปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือไร้สัญญาณ เห็นได้ชัดว่าหอสัญญาณในเมืองพังไปแล้ว
เหตุการณ์เช่นนี้พบได้บ่อยๆ เรียกได้ว่าหอสัญญาณแทบจะเสียทุกสองเดือน ครั้งนี้เนื่องจากมีพายุขนาดใหญ่ลูกนี้พัดเข้ามา การที่หอสัญญาณพังก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ยังดีที่ยังมีสถานีสัญญาณไร้สายของพวกโมโตโรล่าอยู่ สัญญาณพวกนี้ค่อนข้างเสถียร อีกทั้งนี่ยังเป็นสถานีที่ฉินสือโอวลงทุนลงแรงสร้างมันขึ้นมา มันไม่เหมือนกับหอสัญญาณสาธารณะที่ถูกจัดตั้งโดยเงินของประเทศ
สัญญาณไร้สายถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ฉินสือโอวแจ้งให้ชาร์คและคนอื่นๆ ถึงเรื่องนี้ และบอกให้พวกเขาปิดหน้าต่างให้ดี เหล่าชาวประมงต่างพากันถอนหายใจออกมาผ่านวิทยุสื่อสารไร้สายสาธารณะนี้ “พายุครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย ทุกคนต้องดูแลตัวเองให้ดี หากไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน ระวังถูกพัดจนตกลงไปเป็นอาหารปลาด้วยล่ะ!”
ฉินสือโอวให้เด็กๆ กลับไปนอน สาวน้อยโลลิต้าถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “ฉิน กระท่อมจะยังอยู่ดีไหม? ถ้าหากว่ามันถูกลมพัดไป จะทำยังไงดีล่ะ?”
ฉินสือโอวบอกอย่างให้คำมั่นสัญญาว่า “ตอนที่ฉันไปซื้อฉันได้ถามคนขายแล้ว มันสามารถต้านแรงลมได้แน่นอน ดังนั้นพวกเธอไม่ต้องกังวลนะ พรุ่งนี้เช้าตื่นมา พายุก็หยุดแล้ว กระท่อมก็ยังจะต้องอยู่ที่เดิมแน่นอน”
เมื่อได้รับคำสัญญาจากเขา พวกเด็กๆ ก็กลับไปนอนได้อย่างสบายใจ
ตอนนี้ข้างนอกนั้นมืดสนิท กระท่อมเป็นอย่างไรก็ไม่สามารถมองเห็นได้ พวกเด็กๆ กังวลใจไปก็เท่านั้น
ฉินสือโอวใช้พลังโพไซดอนเคลื่อนไปยังใจกลางฟาร์มปลา กระแสลมในทะเลนั้นรุนแรงกว่ามาก คลื่นลูกใหญ่กระหน่ำซัดกันไปมา!
ไม่ว่าจะเป็นปลาโอแถบ ปลาค็อด หรือแม้แต่ปลาแซลมอนโคโฮ พวกมันต่างก็พากันว่ายดำลงไปยังก้นทะเลด้วยความเต็มใจ ในตอนนี้ผิวน้ำยังคงมีคลื่นพัดไปมาอยู่ตลอดเวลา ปลาทะเลจำนวนมากถูกเกลียวคลื่นพัดไปจนใกล้ชายฝั่ง มีปลากระโดดขึ้นมาจากผิวน้ำไม่หยุด อันที่จริงแล้วพวกมันไม่ได้ต้องการกระโดดขึ้นมาเอง แต่ว่าพวกมันถูกคลื่นซัดจนตัวลอยขึ้นมา
พลังของธรรมชาตินั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก!
ฉินสือโอวตรวจสอบรอบๆ บ้านอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหน้าต่างทุกบานถูกปิดอย่างแน่นหนาแล้ว เขาจึงกลับไปนอน
ฉินสือโอวตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เสียงลมพายุพัดไปมาดังอยู่ข้างนอก เมฆดำขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ทำให้ท้องฟ้ามืดสนิท
ฉินสือโอวมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ถึงได้แน่ใจว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้ว อันที่จริงท้องฟ้าควรจะสว่างแล้ว แต่นี่เขายังคิดว่าเป็นเวลาตีสี่อยู่เลย
พวกของเชอร์ลี่ย์รีบวิ่งมาหาอย่างรวดเร็ว เมื่อเชอร์ลี่ย์เขย่งเท้ามองออกไปข้างนอก สาวน้อยโลลิต้าก็เบะปากราวกับจะร้องไห้
ฉินสือโอวมองไปยังกระท่อมที่อยู่ใต้ต้นเมเปิ้ล พลางสบถขึ้นมาในใจ เขานี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ นี่คือกระท่อมที่บอกว่าสามารถทนแรงลมได้งั้นเหรอ?
กระท่อมขายเครื่องดื่มเล็กๆ ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นบ้านเก่าๆ ที่หลังคาถูกลมพัดปลิวหายไป ไม่มีหลังคาแล้ว และก็ไม่รู้ว่ามันพัดหายไปไหน แม้โครงสร้างบ้านทั้งสี่ด้านจะมีเหล็กรองรับ แต่มันก็เอนเล็กน้อย พวกเขาไม่สามารถมองเห็นโต๊ะเก้าอี้และเฟอร์นิเจอร์ข้างในได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถมองเห็นได้ว่าข้างในยังอยู่ดีหรือไม่
ฉินสือโอวทำได้เพียงกอดสาวน้อยโลลิต้าและตบหลังเธอเบาๆ เป็นการปลอบใจ “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร แค่ไม่มีหลังคาเท่านั้น รอพายุหยุดก่อนฉันจะโทรศัพท์เรียกให้ผู้ผลิตส่งหลังคามาให้พวกเราประกอบใหม่”
เมื่อเปิดโทรทัศน์ มีหลายช่องที่ไม่สามารถดูได้ ยังดีที่ยังสามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้จากสายเคเบิลใยแก้วที่ถูกดึงออกมาจากก้นทะเล
ฉินสือโอวดูข่าวไปเรื่อยๆ หัวข้อข่าวจากหลายๆ สำนักที่รายงานข่าวในอินเทอร์เน็ตต่างพูดถึงแต่เรื่องพายุ พายุไต้ฝุ่นฉลามหางยาวพัดเข้ามายังเซนต์จอห์น ณ เวลาประมาณตีหนึ่ง ความแรงลงอยู่ที่ระดับสิบเอ็ด พลังงานการทำลายรุนแรงมาก!
ว้าว มิน่าล่ะกระท่อมหลังเล็กนั้นจึงได้ถูกทำลายขนาดนั้น ฉินสือโอวพึ่งจะรู้ว่าพายุไต้ฝุ่นมีความแรงขนาดนี้ ตั้งระดับสิบเอ็ดเลยนะ!
จากการจัดอันดับความแรงของพายุของประเทศแคนาดา ความแรงของพายุมีทั้งหมดสิบเจ็ดอันดับ พายุระดับสิบเอ็ดลูกนี้ดูไม่ค่อยรุนแรง แต่ว่า ระดับพายุทั้งสิบเจ็ดอันดับนี้ครอบคลุมถึงพายุที่เกิดจากธรรมชาติทั้งหมด ลมพายุที่เกิดขึ้นบนพื้นดินสามารถแรงสุดถึงระดับสิบเอ็ด ซึ่งนั่นก็คือพายุเฮอร์ริเคนที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน!
ลมแรงระดับสิบสามารถทำลายบ้านเรือนได้ เมื่อถึงระดับสิบเอ็ด มันสามารถที่จะโค่นต้นไม้บางต้นได้
ยังดีที่บ้านเรือนที่สร้างบนเกาะแฟร์เวลนั้นมักถูกคิดเผื่อไว้เวลาเผชิญกับพายุอยู่แล้วในตอนที่กำลังสร้าง บ้านเรือนพวกนี้แข็งแกร่งมาก เช่นบ้านหลังนี้ โครงสร้างหลักนั้นเป็นไม้ แต่ว่าถูกเสริมไว้หลายชั้น ทำให้บ้านมีความมั่นคงสูงมาก
ภายใต้พายุเช่นนี้ ตามธรรมดาแล้วโรงเรียน และโรงงานจะทำการหยุดงาน ฉินสือโอวประชุมผ่านทางอินเทอร์เน็ต จากนั้นก็มองไปยังนอกหน้าต่างเพื่อดูพายุข้างนอก
หลังจากที่พายุกินเวลาไปถึงสิบสองชั่วโมง รวมถึงฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ท้องฟ้ามืดสนิท ก่อนหน้านี้สองสามวันก่อนตอนที่พวกเขากลับมาจากแหลมเซนต์ชาร์ลสตอนนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก
ฉินสือโอวมองออกไปยังภาพเหตุการณ์ด้านนอกที่เหมือนโลกกำลังจะแตกอย่างตกตะลึง แล้วเขาก็ตะโกนออกมาว่า “แม่งเอ๊ย มาสเตอร์ล่ะ? มาสเตอร์ยังอยู่ด้านนอกไหม?!”
วินนี่รีบเอ่ยปลอบเขาทันที “ไม่เป็นไรนะ มาสเตอร์สามารถขุดหลุมลงไปอยู่ที่สนามหญ้าได้ ต้องเป็นพายุทอร์นาโดเท่านั้นถึงจะทำร้ายมันได้ มันจะต้องปลอดภัยแน่นอน แม้ว่าพายุด้านนอกจะรุนแรง แต่ว่าไม่ได้เป็นพายุทอร์นาโด…”
“ดูสิ! ข้างนอกมีปลาหล่นลงมาจากบนฟ้าด้วย!” เชอร์ลี่ย์ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
บทที่ 740 ขยะลอยน้ำ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อเชอร์ลี่ย์พูดจบ ก็เกิดเสียงกระจกแตกดังขึ้น กระจกหน้าต่างอีกบานแตกอีกแล้ว!
เพราะลมที่แรงบวกกับน้ำฝน ทำให้ปลาเทราต์สายรุ้งตัวหนึ่งกระเด็นชนหน้าต่างเข้ามา มันนอนอยู่ท่ามกลางเศษกระจกที่แตกบนพื้น
หัวของปลาตัวนี้มีรูปร่างที่เปลี่ยนไป มันสะบัดหางของตัวเองไปมาบนพื้นสองสามที จากนั้นก็ไม่ขยับตัวอีก ดูเหมือนว่ามันจะตายไปแล้ว
กอร์ดอนลูบปลาที่อยู่ด้านหน้าของตน ดวงตาเบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจ “พระเจ้า ปลาจริงๆด้วย!”
อีวิลสันใช้ร่างกายอันใหญ่โตของตัวเองบังไว้ที่หน้าต่าง ทำให้ลมพายุและฝนนั้นไม่สามารถเข้ามาได้
ไม้กระดานที่เมื่อวานฉินสือโอวหามายังใช้ไม่หมด วินนี่ช่วยเขาตัดไม้อย่างรวดเร็ว เมื่ออีวิลสันถอยออกมา เขาก็ใช้ไม้กระดานนั้นตอกเข้าไปยังหน้าต่าง
เมื่อมองมาจากที่ไกลๆ หน้าต่างอันสวยงามของบ้านหลังนี้ตอนนี้ถูกเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด ระหว่างกระจกมีแผ่นไม้สองแผ่นอยู่ตรงกลาง ราวกับว่ามันถูกปะแบบชุ่ยๆ
เสียงร้องของเชอร์ลี่ย์ดังขึ้นมาอีกครั้ง “รีบมาดูเร็วเข้า มีปลาตกลงมาอีกแล้ว!”
ฉินสือโอวไปยืนมองที่ประตู ปรากฏว่าที่สวนด้านนอกนั้นมีปลามากมายกำลังกระโดดไปมาอยู่บริเวณแอ่งน้ำตื้น พวกมันเป็นปลาเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ผิวน้ำอย่างพวกปลาแฮร์ริ่งหรือปลาเทราต์
จู่ๆ หัวหัวหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจากแอ่งน้ำ มันมองไปรอบๆ ท่าทางวางก้ามใหญ่โต ปากของมันอ้ากว้างราวกับเหยี่ยว มันกัดปลาแฮร์ริ่งตัวหนึ่งจากนั้นก็เคี้ยวและกลืนลงท้องไป จากนั้นมันก็คลานเข้าไปหาปลาอีกตัวหนึ่ง
นี่จะต้องเป็นมาสเตอร์แน่ๆ วินนี่พูดถูก มาสเตอร์ปีนขึ้นมาจากสนามหญ้าไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากพายุเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้มันยังเดินไปมาอย่างอิสระอีกด้วย
เชอร์ลี่ย์มองดูปลาที่ตกลงมาจากท้องฟ้าเป็นครั้งคราวด้วยความสงสัย พลางถามออกมาว่า “ทำไมปลาพวกนี้ถึงตกลงมาจากฟ้าละคะ? พวกมันมาจากสวรรค์เหรอ?”
เมื่อได้ยินดังนั้นมิเชลล์ก็รีบพูดขึ้นมาว่า “มาสเตอร์กำลังกินปลาที่ตกลงมาจากสวรรค์ ทำแบบนี้มันจะได้ไปพบกับพระเจ้าใช่หรือเปล่า?”
“อ้อ พระเจ้า ปล่อยมาสเตอร์เสียเถอะ” เด็กสาวโลลิต้าพึมพำประโยคนี้ออกมา
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา “ไม่ต้องกังวลไป นี่ไม่ใช่ปลาที่ตกลงมาจากสวรรค์ พวกนี้เป็นปลาจากทะเล พวกมันถูกพายุทอร์นาโดพัดลอยมาจากฟ้า ตอนนี้พวกมันเลยตกลงมาเหมือนกับฝน เรื่องพวกนี้พวกเธอน่าจะได้เรียนในอนาคต มันเรียกว่าฝนปลา”
ฝนปลาเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นบริเวณประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐอเมริกาอย่างประเทศอังกฤษ อิตาลีและแคนาดาได้ โดยเฉพาะอิตาลี ที่สามารถพบเจอเรื่องเหตุการณ์นี้ได้บ่อยครั้ง หนังสือพิมพ์หลายสำนักไม่มีการลงข่าวที่น่าเบื่อพวกนี้อีกแล้ว
นอกจากนี้ ที่ประเทศแถบลาตินอเมริกาก็สามารถพบเจอเหตุการณ์พวกนี้ได้บ่อยเช่นกัน นับตั้งแต่ปี 1998 ที่เกิดปรากฏการณ์ฝนปลาครั้งแรก เมืองโยโรในประเทศฮอนดูรัสก็เกิดปรากฏการณ์ ‘ฝนปลา’ ขึ้นทุกปี แม้ว่าบางครั้งจะไม่มีปรากฏการณ์ฝนปลา พวกเขาก็มักจะจ้างเครื่องบินและบอลลูนเพื่อปล่อยปลาลงมาจากท้องฟ้า
“ทำไมกันล่ะ?” เด็กๆ ต่างพากันถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
ฉินสือโอวไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์พวกนี้มากนัก ยังดีที่เออร์บักอยู่ด้วย ชายแก่ผู้ติดตามคุณชายฉินหงเต๋อที่ออกทะเลมาครึ่งชีวิต ทำให้เขามีความรู้ทางทฤษฎีและประสบการณ์ตรงในหลายๆ เรื่อง เขาอธิบายเรื่องนี้ราวกับกำลังพูดคุยเล่นอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“พวกเธอต้องรู้ก่อนนะ เด็กๆ พายุทอร์นาโดนั้นถือว่าเป็นกระแสน้ำวนชนิดหนึ่ง อากาศที่อยู่ด้านในหมุนไปมาด้วยความเร็วสูง ใจกลางทอร์นาโดลูกนั้นมีแรงกดดันค่อนข้างน้อย เพราะเหตุนี้ทำให้แรงดันที่อยู่ใจกลางพายุลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเจอเข้ากับน้ำทะเลที่มีแรงดันสูง ทำให้การไหลเวียนของน้ำวนไปมาจนเกิดเป็นกระแสน้ำวน และจากนั้นก็จะเกิดขึ้นเป็นน้ำที่วนขึ้นมาบนอากาศที่ข้างในใจกลางพายุ”
“ปลาและกุ้งตัวเล็กๆ ที่อยู่ในกระแสน้ำเหล่านั้น สามารถถูกสายน้ำพัดขึ้นไปด้านบนและลอยหายเข้าไปในกลุ่มเมฆได้ จากนั้นด้วยแรงลมที่พัดเข้ามา พวกมันก็จะลอยตามกลุ่มเมฆไปเรื่อยๆ เมื่อกลุ่มเมฆพวกนั้นควบแน่นจนกลายเป็นเม็ดฝน ปลาและกุ้งตัวเล็กๆ เหล่านั้นก็จะตามฝนลงมา”
ที่แคนาดาพบเจอเหตุการณ์ฝนปลาได้น้อยมาก ดังนั้นพวกเด็กๆ จึงพึ่งรู้จักเรื่องนี้ เพราะว่าปลาและน้ำนั้นลอยจากทะเลขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อเมฆควบแน่นจนเกิดความเย็นพวกมันจึงกลายเป็นฝนที่ตกลงมา อากาศที่แคนาดาค่อนข้างหนาวเย็น ทำให้เมฆไม่ต้องลอยต่ำจนเกือบถึงดินก็สามารถเกิดฝนได้แล้ว
ฝนปลาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้นที่นครเซนต์จอห์นอย่างแน่นอน แต่เพราะเกาะแฟร์เวลอยู่กลางทะเล จึงสามารถพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ได้
พายุยังคงพัดต่อจนถึงช่วงกลางวัน พอตกบ่าย แรงลมก็ค่อยๆ ลดลง ฉินสือโอวกลัวว่าถ้าออกไปแล้วจะถูกลมพัดปลิวไป เขาจึงยังไม่วางใจที่จะให้เด็กๆ ออกจากบ้าน เมื่อพายุหยุดสนิทแล้วในช่วงเย็น เขาจึงเปิดประตูบ้านออก
แม้ว่าพายุและฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจะน่ากลัว แต่ว่าเมื่อพายุฝนผ่านไป ท้องฟ้าก็กลับมาสดใสอีกครั้ง
ฉินสือโอวออกมายืนอยู่ที่หน้าประตู สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด ไม่มีกลิ่นน้ำทะเลอีกแล้ว ตอนนี้มีเพียงกลิ่นดินกลิ่นหญ้าที่หอมหวานสดชื่น ทันใดนั้นเอง เขาก็จำสิ่งที่เออร์บักพูดกับเขาเมื่อตอนที่เขามาถึงสนามบินโทรอนโตในครั้งแรกขึ้นมาได้ อากาศที่เกาะแฟร์เวลนั้นหอมหวาน
เด็กๆ ต่างพากันกรีดร้องและวิ่งไปยังกระท่อมขายน้ำเล็กๆ ของพวกเขา หู่จือและเป้าจือวิ่งออกไปกลิ้งเล่นบนสนามหญ้าที่เต็มไปด้วยดินโคลนจากนั้นก็เริ่มวิ่งไล่กัน
ฉงต้าสะบัดขนหนึ่งที จากนั้นก็ออกตัววิ่งไปด้านนอกพลางร้องออกมา ท่าทางของมันดูเหมือนกำลังระบายความอึดอัด
เสี่ยวหลัวปอเดินก้าวออกมาจากบ้านด้วยท่าทีสง่างามราวกับแมว วินนี่มักจะฝึกให้มันมีความเป็นกุลสตรีอยู่เสมอ ฉินสือโอวรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก คุณว่าหมาป่ามันจำเป็นต้องเดินเหมือนแมวเหรอ? เห็นอยู่ชัดๆ ว่ามันเป็นหมาป่าเพศเมียที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ แล้วจะให้แสร้งทำแบบนั้นไปทำบ้าอะไร?
ดูเหมือนว่าหู่จือจะมองไม่ออก เสี่ยวหลัวปอมองหาพื้นที่สะอาดๆ บนสนามหญ้าที่จะสามารถย่ำลงไปได้ด้วยท่าทีลังเล จู่ๆ เงาดำเงาหนึ่งพุ่งก็ขึ้นมา เสี่ยวหลัวปอร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ มันกระโดดถอยหลังหางจุกตูด
ผลปรากฏว่า ตอนนี้ทั่วทั้งสนามหญ้าที่เต็มไปด้วยกับดัก ทำให้เสี่ยวหลัวปอเหยียบลงไปยังพื้นหญ้าที่ลื่นอย่างไม่ระวังจนล้มลง เสียงน้ำกระเด็นแสดงให้เห็นว่ามันตกลงไปในแอ่งน้ำทั้งตัว
หู่จือนอนลงกับพื้น มันยิ้มเหยาะเย้ยออกมาพลางมองไปที่เสี่ยวหลัวปอ ในที่สุดเธอก็หมดท่า
เสี่ยวหลัวปอโกรธมาก มันลุกขึ้นด้วยท่าทีขึงขัง จากนั้นก็ร้องขู่เสียงดังใส่หู่จือ
หู่จือโน้มตัวมาข้างหน้าแล้วสะบัดขนของตนเองไปมา น่าเสียดายที่มันไม่มีขนสีทองแล้ว ไม่เช่นนั้นน้ำโคลนที่ติดอยู่ที่ขนของมันจะต้องกระเด็นใส่หน้าเสี่ยวหลัวปอแน่นอน แต่ว่าผิวหนังของสุนัขนั้นตอนนี้จะมีหญ้าติดตามตัวได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นเมื่อมันสะบัดขนของมันเศษใบไม้ใบหญ้าจึงไปติดตามตัวของเสี่ยวหลัวปอ
เสี่ยวหลัวปอเบิกตากว้าง มันลังเลอยู่นานจนในที่สุดก็ตัดสินใจรักษาภาพลักษณ์อันเป็นกุลสตรีของตัวเองไว้ มันเดินจากหู่จือออกมาทั้งที่ยังโกรธอยู่ ไม่อยากจะเห็นหน้าพวกหยาบคายไร้การสั่งสอนอย่างหู่จืออีกแล้ว
เป้าจือที่ตามหู่จือมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าหู่จือออกตัววิ่ง มันก็วิ่งตามหลังหู่จือไป ปรากฏว่าหู่จือที่มีไหวพริบในการหลบหนีอย่างดีนั้น ทำให้เป้าจือไม่สามารถหยุดขาตัวเองได้ทัน มันจึงกลิ้งไถลลื่นไปตามพื้นหญ้าราวกับลูกบอล มันกลิ้งไปชนเข้ากับเสี่ยวหลัวปอผู้โชคร้ายอย่างจังจนทำให้มันรู้สึกขายหน้า!
ร่างของเสี่ยวหลัวปอสั่นเทาไปด้วยความโกรธ ฉินสือโอวมองดูพวกมันอยู่ข้างๆ ผิวของหมาป่าสีขาวน้อยตัวนั้นกำลังสั่นไหว ดวงตาเต็มไปด้วยประกายไฟ ดวงตากลมโตคู่นั้นกำลังจ้องไปยังศัตรูอย่างเป้าจืออย่างดุร้าย
แต่เป้าจือไม่ได้สังเกตเห็น ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ของมัน เท้าของมันจึงเหยียบเข้าที่หัวของเสี่ยวหลัวปอที่กำลังลุกขึ้นมา และวิ่งไปหาหู่จืออย่างรวดเร็ว
คุณหนูบ้าบออะไรล่ะ เสี่ยวหลัวปอวิ่งพุ่งเข้าไปหาหู่จือเป้าจือที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ฉินสือโอวมองเหตุการณ์ด้วยความสนใจ แต่จู่ๆ อินเตอร์คอมของเขาก็ดังขึ้น น้ำเสียงว้าวุ่นของแลนซ์ดังออกมา “บอส รีบมาที่ชายหาดเร็วเข้า! พระเจ้า หมดกัน!”
ฉินสือโอวออกตัววิ่งไปยังชายหาดที่ปกคลุมไปด้วยหมอกทันที เมื่อมองจากที่ไกลๆ เขาเห็นสิ่งของจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีสีสันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสีขาวเขียวหรือแดงลอยอยู่ทั่วริมชายหาด บนหาดทรายก็มีของพวกนี้อยู่เยอะเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสิ่งเหล่านั้นอีกจำนวนมากที่พึ่งถูกพัดขึ้นมาบนชายหาด
เมื่อวิ่งเข้ามาใกล้ ฉินสือโอวก็มองไปยังทะเลด้วยสายตาตกตะลึง พระเจ้า พวกนี้เป็นขยะพลาสติกทั้งนั้น โดยเฉพาะขวดพลาสติก พวกมันเยอะเกินไปแล้ว!
บทที่ 741 งานการกุศล
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อเห็นขยะพลาสติกเหล่านั้นที่ขณะนี้กองอยู่ที่ริมทะเล ฉินสือโอวก็เข่าแทบทรุด!
บูลที่อยู่ที่ริมทะเลพึมพำออกมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวว่า “โว้ว ขยะมาจากไหนมากมายกันเนี่ย? โว้ว แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้? โว้ว ฟาร์มปลากลายเป็นฟาร์มขยะแล้วเหรอ? โว้ว…”
“ถ้านายยังร้องโว้วออกมาอีก ฉันจะจัดการนายก่อนเลย” ฉินสือโอวมองไปยังบูลด้วยแววตาที่กำลังโมโหพลางตะโกนออกมาว่า “หุบปากซะ!”
นีลเซ็นค่อยๆ มองไปยังฉินสือโอวด้วยความระมัดระวัง และค่อยๆ พูดออกมาอย่างระวังว่า “บอส คุณยังจำเรือขนสินค้าลำนั้นที่เราเห็นตอนที่เราไปนครเซนต์จอห์นได้หรือเปล่าครับ? ตอนนั้นบนเรือลำนั้นมีขยะพลาสติกอยู่เต็มไปหมด คุณว่า…”
ถ้าฉินสือโอวจำเรือขนสินค้าขนาดใหญ่มหึมาลำนั้นไม่ได้ คงจะเป็นเรื่องน่าหัวเราะเหลือเกิน ตอนนั้นเขายังพูดออกมาอย่างไม่คิดอยู่ว่าหากขยะพลาสติกที่อยู่บนเรือลำนี้ตกลงสู่ท้องทะเลละก็จะน่าเป็นอย่างไรอยู่เลย ตอนนี้เขาเห็นภาพนั้นแล้ว เขานี่ปากเสียจริงๆ!
ชาร์คหยิบโทรศัพท์ออกมาพลางพูดว่า “ไม่เป็นไรนะครับ บอส ดูสิผมโทรหาพวกบิ๊กฟุตแล้ว ให้เขาช่วยติดต่อกับบริษัททำความสะอาดทะเลให้ ใช้เงินประมาณหมื่นกว่าดอลลาร์แคนาดาก็สามารถจัดการได้หมดจดเลยครับ”
ปรากฏว่าเมื่อชาร์คกดโทรออก กลับไม่มีการตอบรับ เขาจึงค่อยๆ เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าเหมือนเดิมอย่างเงียบๆ ฉินสือโอวมองเขาด้วยท่าทีสงสัย ชาร์คจึงพูดออกมาด้วยความเสียใจว่า “บ้าบอจริงๆ สัญญาณมีอยู่ขีดเดียว โทรติดก็แปลกแล้ว!”
หอรับสัญญาณในเมืองพังแล้วนี่นา ฉินสือโอวก็พึ่งจะนึกออกเช่นกัน
นีลเซ็นยกมือขึ้นโบกปัดไปมาแล้วพูดออกมาว่า “ทำไมพวกเราไม่จัดการทำความสะอาดขยะพวกนี้ซะเองเลยล่ะ? ตอนนี้พวกเราก็เจอเจ้าของของพวกมันแล้ว แบบนั้นก็ควรจะให้พวกเขาเป็นคนจ่ายเงินไม่ใช่เหรอ? หรือว่าคุณคิดว่า ขยะพวกนี้ถูกพายุพัดมาจนถึงฟาร์มปลาของพวกเราที่นี่งั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง?”
ฉินสือโอวมองไปรอบๆ ด้วยแววตาเศร้าสร้อย บริเวณรอบๆ ชายฝั่งที่ทอดยาวนี้ มีขยะพลาสติกอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด ยังดีที่คลื่นทะเลได้ซัดพวกมันมานานกว่ายี่สิบชั่วโมงแล้ว ขยะพลาสติกพวกนี้จึงถูกน้ำทะเลทำความสะอาดไปหมดแล้ว ถ้าหากว่ายังมีกลิ่นเหม็นเหมือนตอนที่ถูกทิ้งลงมาใหม่ๆล่ะก็ แบบนั้นฉินสือโอวคงได้ร้องไห้ออกมาเป็นแน่
ที่แห่งนี้คือฟาร์มปลาที่เขารักมากที่สุดเชียวนะ!
ในตอนที่มีพายุคลื่น ชาร์คและซีมอนสเตอร์ก็ยังคงออกไปขุดเพรียง ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะแก่การขุดเพรียง ปีที่แล้วในช่วงนี้ฉินสือโอวก็ออกไปขุดเพรียงเช่นกัน
พูดถึงเพรียง ฉินสือโอวก็ตบหัวตัวทันที เขาได้เลี้ยงเพรียงตีนเต่าจำนวนหนึ่งแถวที่บริเวณน่านน้ำปะการัง พอมาคำนวณดูนี่ก็ใกล้ถึงเวลาวางไข่ของพวกมันแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องย้ายตัวอ่อนเพรียงมาใกล้ๆ ท่าเรือแล้ว เนื่องจากว่าพวกมันไม่สามารถที่จะฝังตัวไปกับแนวปะการังได้
เพรียงเป็นสัตว์เพศผสม แต่พวกมันสามารถผสมพันธุ์ข้ามตัวได้ พวกมันจะรับสเปิร์มที่ถูกปล่อยมาตามน้ำทะเล เนื่องจากหากอยู่ในช่วงระหว่างการผสมพันธุ์ พวกมันจะไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้ พวกมันจึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาอวัยวะเพศที่สามารถยืดหยุ่นได้ เพื่อที่จะสามารถส่งสเปิร์มไปเพื่อผสมพันธุ์กับเพรียงตัวอื่นๆ
นี่ถือว่าเป็นวิธีการผสมพันธุ์แปลกประหลาดวิธีหนึ่ง ยังดีที่ฉินสือโอวคุ้นชินกับมันแล้ว จึงไม่ได้รู้สึกประหลาดอะไร
เวลาผ่านมาจนถึงกลางเดือนกรกฎาคมแล้ว ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงที่เพรียงจะอวบอ้วนและมีรสชาติอร่อยที่สุด และก็เป็นช่วงที่พวกมันเริ่มผสมพันธุ์ด้วยเช่นกัน
แนวปะการังที่พวกมันอาศัยอยู่มีขนาดกว้างใหญ่ จำนวนเพรียงที่อยู่บนนั้นนับคร่าวๆ ได้เกือบหมื่นตัว และตอนนี้พวกมันก็มีจำนวนตัวอ่อนของเพรียงเพิ่มมากขึ้นด้วย ฉินสือโอวถ่ายพลังโพไซดอนให้พวกมันด้วยจำนวนหนึ่ง เมื่อพวกมันได้ให้กำเนิดตัวอ่อนเพรียง เขาก็จะพามันไปย้ายไปยังท่าเรือ
ตอนนี้เรื่องที่ต้องรีบจัดการก็คือขยะพวกนี้ ปรากฏว่าพวกเขาที่ยังไม่ทันจะได้หาเจ้าของเรือขนขยะลำนั้น เขากลับถูกเจ้าของเรือมาหาเสียเอง
เจ้าของเรือเป็นชายชราชาวละตินร่างเล็กคนหนึ่ง เขาสวมแจ็กเกตสีเดนิมที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ามันผ่านการซักมาแล้วหลายครั้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น กระดูกมือทั้งสองข้างมีขนาดใหญ่ ผิวแห้งกร้าน มองดูก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนที่ทำงานหนักคนหนึ่ง
หลังจากที่พบหน้ากัน ชายชราคนนั้นก็เอ่ยขอโทษฉินสือโอวทันที “ผมเป็นเจ้าของเรือ ผมต้องขออภัยคุณด้วยนะครับ พวกเราไม่ได้คิดว่าพายุจะรุนแรงจนสามารถพัดของของพวกเราที่อยู่บนเรือมาได้ไกลถึงขนาดนี้”
ที่แท้พวกเขาก็มาเพื่อขอโทษ ฉินสือโอวไม่อยากที่จะรังแกคนอื่นมากเกินไป เรื่องนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรมากมาย แค่ทำความสะอาดก็จบเรื่องแล้ว เขาจึงพูดออกมาว่า “ไม่เป็นไรครับ คุณ จะมีใครบ้างอยากเจอกับอุบัติเหตุเช่นนี้? นครเซนต์จอห์นมีบริษัทกู้ขยะทางทะเลที่เชี่ยวชาญอยู่ คุณให้พวกเขามาจัดการก็เพียงพอแล้ว”
ชายชราพยักหน้าด้วยความขอบคุณ หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอย่างไม่สบายใจว่า “ผมขอถามอะไรสักหน่อย คุณจะรอไปอีกสักหน่อยได้เหรอไม่? เรือของพวกเราถูกชนจนเสียหาย จำเป็นต้องซ่อมแซม ผมจะรีบไปกู้เงินมาจากธนาคารขอเพียงได้รับเงินนั้นมา ผมก็จะจ้างบริษัททำความสะอาดมาจัดการ แบบนี้ได้หรือไม่ครับ?”
ฉินสือโอวเบิกตากว้าง “พวกคุณไม่มีแม้แต่เงินจำนวนไม่กี่หมื่นดอลลาร์เลยเหรอ?”
ต้องรู้ก่อนว่า เรือขนสินค้าประเภทนั้น เมื่อออกทะเลครั้งหนึ่งจำเป็นที่จะต้องเสียค่าน้ำมันอย่างน้อยหมื่นกว่าดอลลาร์ ดังนั้นคนที่สามารถล่องเรือขนสินค้าแบบนั้นได้ไม่ใช่คนไม่มีเงินอย่างแน่นอน
ชายชราถอนหายใจออกมา แล้วพูดขึ้นว่า “ต้องขออภัยด้วยครับ คุณสุภาพบุรุษ เงินค่าน้ำมันเรือที่ทำให้เราออกเรือได้นั้นมาจากการบริจาคทั้งสิ้น อันที่จริงแล้วพวกเราไม่มีเงินให้ใช้จ่าย เดิมทีพวกเราหวังว่าการขนย้ายขยะจะสามารถทำเงินให้เราได้ แต่ปรากฏว่า พวกเราโชคไม่ดี”
เบื้องหลังคำอธิบายของชายชรา ในความเป็นจริงแล้วเขาพึ่งจะเป็นกัปตันเรือได้ไม่นาน และเขาก็ไม่ได้เป็นเจ้าของเรือด้วย เรือลำนั้นเป็นของบริษัททำความสะอาดบริษัทหนึ่ง ปรากฏว่าเมื่อบริษัทนั้นล้มละลายเจ้าของก็หนีหายไป
เพราะเหตุนี้ จึงมีการประมูลเรือหลายลำภายใต้ชื่อบริษัทแห่งนี้ เรือลำนี้เป็นเรือที่ชายชราและคนงานที่ทำงานบนเรือได้ร่วมกันประมูลมา หลังจากที่พิจารณาเงินเดือนที่บริษัททำความสะอาดติดค้างพวกเขาอยู่แล้ว พวกเขาจึงสามารถประมูลเรือลำนี้มาได้ในราคาที่ค่อนข้างต่ำ
แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าของเรือขนสินค้ากับราคาที่ประมูลมาค่อนข้างต่ำแล้ว อันที่จริงแล้วเรือลำนี้มีมูลค่าถึงหนึ่งล้านดอลลาร์ ซึ่งชายชราและพวกของเขาไม่มีทางยอมรับกับราคานี้แน่นอน รัฐบาลแคนาดายังถือว่ามีความเห็นอกเห็นใจพวกเขาอยู่ จึงให้พวกเขาสมทบเงินร่วมกัน และยังให้ยืมเงินอีกก้อนหนึ่งอีกด้วย นอกจากนี้ยังอนุญาตให้พวกเขากู้เงินเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงออกเรือได้
ฉินสือโอวถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ? ถือว่าเขาโชคร้ายแล้วกัน เงินค่าทำความสะอาดคงต้องเป็นเขาที่จ่ายเองเสียแล้ว
เมื่อพายุหยุดลง แมทธิว จินก็กลับไปยังเมืองออตตาวาทันที ฉินสือโอวและเออร์บักไปส่งเขาที่สนามบิน สุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งสองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
แม้ว่าฉินสือโอวจะไม่ได้ต้องการประจบประแจงแมทธิว จิน แต่การรักษาความสัมพันธ์ไว้ให้ดีก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ
กรมประมงของประเทศแคนาดาถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1979 กรมประมงเป็นภาครัฐที่คอยดูแลจัดการเรื่องการประมงทั่วประเทศ หน้าที่ของพวกเขาคือการรับผิดชอบการประสานงานด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับมหาสมุทรแก่รัฐบาล อย่ามองว่าแมธทิว จินเป็นคนที่มีทัศนคติค่อนข้างอ่อนโยนและเรียบง่าย อันที่จริงแล้วอำนาจของเขานั้นมีมากกว่าที่คิด เขามีแม้กระทั่งกองกำลังติดอาวุธอยู่ในมือของตนเอง
กองกำลังติดอาวุธก็คือหน่วยกองทัพที่คอยดูแลชายฝั่งทะเลของแคนาดา นอกจากจะเป็นช่วงที่เกิดสงคราม เหล่ากองทัพทั้งห้าพันคนต่างก็อยู่ภายใต้การดูแลของเขา ขอเพียงแค่เขาฝากฝังกับเหล่าตำรวจในนิวฟันแลนด์ ต่อไปฟาร์มปลาของฉินสือโอวก็จะสงบมากขึ้น
อันที่จริงแล้ว แมธทิว จินได้ช่วยฝากฝังฉินสือโอวไว้แล้ว ช่วงนี้เรือประมงที่เข้ามาจะขโมยปลาที่ฟาร์มปลาของเขาจึงได้มีจำนวนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ในความเป็นจริงแล้วฉินสือโอวเป็นคนดี เมื่อชายชราคนนี้ต้องการกลับไปที่นครเซนต์จอห์นแล้ว เขาก็ได้จัดการเรื่องให้เรียบร้อย อีกทั้งเขายังใช้เฮลิคอปเตอร์สำหรับสามที่นั่งในครั้งนี้อีกด้วย
เมื่อเฮลิคอปเตอร์จอดลงที่ท่าเรือ ชายชราก็โค้งคำนับด้วยความขอบคุณ เขาพูดขอบคุณฉินสือโอวที่ใจกว้างและจิตใจดี
มีหญิงชราชาวละตินคนหนึ่งที่ดูอายุน่าจะไม่ห่างกับชายชราคนนี้มากนักนั่งรออยู่บนฝั่ง เห็นได้ชัดว่าเธอมารอรับชายชราคนนี้ ท่าทางของเธอดูค่อนข้างร้อนรน เห็นได้ชัดว่าเธอกังวลว่าคำขอโทษของสามีเธอนั้นจะไม่ได้รับการยอมรับ
ฉินสือโอวส่งชายชราลงจากเฮลิคอปเตอร์ ในตอนที่เขากำลังจะเดินออกมา เขาก็มองไปยังทางที่หญิงชราชาวละตินยืนอยู่ และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น