ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 710-721

 บทที่ 710 เดิมพันครั้งใหญ่

โดย

Ink Stone_Fantasy

 “ระยะเวลาล่ะ?”


 “ถึงท่าเรือเมื่อไร เกมก็จบเมื่อนั้น”


 “ตกลง!” ชายสวมแว่นดำและชายที่ดูมีอายุตอบตกลงทันที


ปลากะพงญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในปลาที่พบได้ง่ายบริเวณผิวน้ำ มักจะเกาะกลุ่มกันปรากฏตัวบริเวณน่านน้ำนิวฟันด์แลนด์บ่อยครั้ง พวกมันเป็นปลาที่ตะกละ สามารถโตจนมีความยาวถึงหนึ่งเมตรครึ่ง นับได้ว่าเป็นหนึ่งในปลาที่นักตกปลาชื่นชอบมากประเภทหนึ่ง


ปลาชนิดนี้ตกไม่ยาก เป็นปลาที่นักตกปลาในทะเลมักจะตกได้บ่อยครั้ง ดังนั้นเมื่อเห็นฉินสือโอวจะแข่งตกปลาชนิดนี้กับคู่แข่ง เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมที่มีแอนดรูว์เป็นผู้นำจึงพากันร้อนใจขึ้นมาทันที


 “นายล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย?” โดนัลด์ บราวน์ที่ค่อนข้างสนิทกับฉินสือโอวเดินมาพูดเกลี้ยกล่อมว่า “ระหว่างทางเรือของพวกเราจะเจอกับปากทางแม่น้ำมากมาย ปลากะพงญี่ปุ่นไม่ใช่ปลาที่หายากอะไรเลยนะ”


แถวปากทางแม่น้ำเป็นจุดที่ตกปลากะพงญี่ปุ่นได้ง่ายมาก พวกมันมักจะว่ายตามกระแสน้ำขึ้นไปบริเวณผิวน้ำหรือแม้กระทั่งเขตน้ำจืด จากนั้นก็ว่ายตามกระแสน้ำลงกลับไปในทะเล เพื่อที่จะรอรับอาหารที่ถูกกระแสน้ำขึ้นน้ำลงพัดมา ดังนั้นแถวปากทางทะเลจึงเป็นจุดที่ตกได้ง่ายที่สุด


แต่ว่า เนื่องจากมีการจับปลาชนิดนี้กันจำนวนมาก จำนวนปลากะพงญี่ปุ่นของไม่กี่ปีมานี้จึงลดลงอย่างมาก แถบชายฝั่งทะเลจึงตกปลากะพงตัวใหญ่ได้ไม่มากแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ หากทีมของชายสวมแว่นดำสองคนนั้นอยากชนะแล้วล่ะก็ ก็ต้องตกปลากะพงญี่ปุ่นตัวเล็กแทน


ฉินสือโอวยักไหล่ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ว่าจะเป็นปลาอะไรก็ช่าง ถ้ามีฉันอยู่ใครก็อย่าหวังว่าจะตกได้เลย


เจ้าของฟาร์มปลาที่ดูเหมือนจะสนิทกับทีมแว่นดำสองคนนั้นเดินเข้ามาหาแล้วพูดว่า “คุณเป็นหนึ่งในผู้แข่งขัน ไม่เหมาะที่จะเป็นเจ้ามือ ดังนั้นให้ผมเป็นแทนแล้วกันนะครับ”


ฮับเบิลดึงตัวเขาไว้ แล้วพูดว่า “เฮ้ย เซอร์จิโอ ไม่ต้องทำอะไรเกินเหตุหรอก นี่เป็นแค่เรื่องล้อเล่น เข้าใจไหม? ทุกคนกำลังล้อเล่นกันเฉยๆ”


เซอร์จิโอมองไปที่ฉินสือโอวอย่างเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “ใช่ไหมครับ คุณ? เป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่นใช่ไหมครับ?”


ฉินสือโอวแอบคิดในใจว่าโลกนี้ยังมีคนที่ไม่กลัวตายด้วยแฮะ ได้ นายกล้าตายฉันจะไม่กล้าฝังหรือไง? ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว จะหลอกกินนายนี่แหละ


เขาพูดกับฮับเบิลว่า “ไม่เป็นไรเพื่อน พนันกันเล็กๆ น้อยๆ เงินแค่นี้เอง งั้นก็ให้น้องชายคนนี้เป็นเจ้ามือเถอะ มา ถ้าแพ้ต้องเสียเท่าไรครับ? แน่นอนว่าผมวางเดิมพันว่าผมจะชนะ”


แอนดรูว์ดึงตัวฉินสือโอว แล้วพูดเสียงเบาว่า “เรื่องนี้ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ ไอ้สารเลวเซอร์จิโอมันเปิดบ่อนพนันอยู่ เขามีเชื้อสายของชาวอินเดียนแดง บ่อนพนันที่ใหญ่ที่สุดในเซนต์จอห์นก็เป็นของเขานี่แหละ”


เพราะว่าเมื่อก่อนชาวผิวขาวสร้างความเสียหายให้กับชาวอินเดียนแดงเป็นอย่างมาก ภายหลังจึงเริ่มมีการออกนโยบายเพื่อชดเชยให้กับคนพวกนี้ อย่างเช่นธุรกิจการพนัน ในอเมริกากับแคนาดานั้นธุรกิจนี้ไม่ผิดกฎหมาย แต่จะมีการเรียกเก็บภาษีจำนวนมากแทน ซึ่งก็มีแต่ชาวอินเดียแดงเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น


การพนันเป็นกิจกรรมสันทนาการที่ชาวอินเดียนแดงชื่นชอบมาก รัฐบาลของทั้งอเมริกาและแคนาดาต่างก็ทำการยกเว้นให้ บ่อนของพวกเขาเสียภาษีตามปกติก็พอ ดังนั้นกำไรที่เขาได้รับจึงเป็นที่น่าพอใจมาก


เซอร์จิโอมองฉินสือโอวแล้วยิ้ม ฉินสือโอวยักไหล่แล้วพูดว่า “ถ้าเสียจ่ายเท่าไรครับ ผมลงหนึ่งแสนดอลลาร์แคนาดา”


 “เห็นแก่หน้าท่านประธานสภาแมทธิวกับฮับเบิลแล้ว ผมก็ไม่เอาเปรียบคุณเช่นกัน หากคุณชนะ อัตราเล่นเสียคือ 4:1 ลงเงินได้ไม่จำกัด แต่หากฝั่งชาร์ลสกับบัคเคอร์ชนะ อัตราเล่นเสียคือ 1:1.5 ลงเงินได้มากสุดที่ 5 หมื่น มีใครจะเล่นบ้าง?” เซอร์จิโอพูดด้วยท่าทีว่าเขาใจป้ำ


เจ้าของฟาร์มปลาไม่มีคนจน แม้ว่าเงินที่จะโยกมาใช้ได้จะมีน้อย แต่ก็มีถึงแปดหมื่นถึงหนึ่งแสนกันทั้งนั้น แน่นอนว่า พวกเขาอาจจะเป็นหนี้เงินกู้ธนาคารอยู่หลายล้าน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเขาล้วนแต่เป็นคนมีเงินทั้งนั้น


โทรศัพท์มือถือของเซอร์จิโอมีเครื่องมือที่ใช้สำหรับการพนันอันหนึ่ง เขาบันทึกชื่อและจำนวนเงินที่ผู้ร่วมเล่นวางเดิมพันไว้ เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าพวกเขาสามารถเริ่มการพนันได้แล้ว


บนเรือไม่มีกิจกรรมสันทนาการอะไร ดังนั้นเกือบจะทุกคนบนเรือต่างก็ร่วมเล่นการพนันด้วย แม้แต่แมทธิว จินเองก็ลงพนันด้วยหนึ่งพันดอลลาร์


ฮับเบิลจ้องไปที่ฉินสือโอวอย่างมีเลศนัย ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูท่าที่พวกนักข่าวพูดจะเป็นเรื่องจริงนะ ว่าคุณน่ะรวยมาก”


ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วพูดว่า “ไม่หรอก ผมก็แค่มั่นใจในตัวเองเท่านั้น เพื่อน พวกคุณคิดว่าปลากะพงญี่ปุ่นคืออะไร? พวกมันไม่ได้ตกง่ายขนาดนั้น!”


ฮับเบิลลองเชิงเขาต่ออย่างสนใจ จนเซอร์จิโอประกาศว่าจะปิดรับพนันแล้ว เขาจึงเดินเข้าไปเลือกข้างที่จะวางเดิมพัน


ชายสวมแว่นดำกับชายดูสูงอายุปรายตามองฉินสือโอวอย่างได้ใจ พร้อมทำท่าปาดคอมให้ฉินสือโอว แล้วก็ไปยืนที่กราบเรือฝั่งละคนเพื่อเริ่มตกปลา


ทั้งสองคนล้วนเป็นนักตกปลามือฉมัง ชายสวมแว่นดำเลือกใช้เหยื่อตกปลาปลอมแบบหมุนได้กับคันเบ็ดมาตรฐานยาวห้าเมตร ความแข็งแรงของเอ็นตกปลาคือ ATM10 เป้าหมายคือปลาทะเลในน้ำลึกไม่เกินครึ่งเมตร ในสถานการณ์แบบนี้ความหนาของเอ็นประมาณนี้กำลังดี หากว่าหนาเกินไป หลังจากปล่อยสายลงในน้ำแล้วจะทำให้ปลากะพงญี่ปุ่นสังเกตเห็นได้ง่าย


เหยื่อปลอมแบบหมุนได้เป็นเหยื่อที่มักใช้ในการตกปลาในแม่น้ำ มักใช้ตกปลาในแม่น้ำที่น้ำไหลเชี่ยว เพราะมีลูกตะกั่วด้วย ทำให้แม้ว่าจะตกปลาในสภาพน้ำที่เลวร้ายแต่ก็สามารถตรึงเหยื่อไว้ได้อย่างมั่นคง


เรือยอชต์ไม่ได้จอดอยู่กับที่ แต่ขับไปข้างหน้าเรื่อยๆ ทำให้เพิ่มความยากในการตกปลาขึ้นไปอีก แต่หากว่าเลือกใช้เหยื่อปลอมแบบหมุนได้แล้ว สถานการณ์ก็จะดีขึ้นมาอีกหน่อย เรือยอชต์ขับแล่นไปเรื่อยๆ บนทะเล ก็เหมือนกับน้ำแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวไม่ใช่เหรอ? ไม่ว่าจะกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว หรือเรือที่เคลื่อนไปเรื่อยๆ สำหรับนักตกปลากับเหยื่อล่อแล้วก็มีความหมายเท่ากัน


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาล้วนเป็นนักตกปลามือดี เมื่อเห็นชายสวมแว่นดำเลือกใช้วิธีนี้ จึงมีคนผิวปากปรบมือให้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคนช่วยออกความคิดเห็นให้ด้วยว่า “บัคเคอร์ เพื่อน ใช้เหยื่อตกปลาโทบี้สิ ฉันกล้าพนันเลยว่าครึ่งชั่วโมงก็สามารถตกปลากะพงญี่ปุ่นได้แล้ว!”


 “ไม่ครับ ใช้เหยื่อท้องเหลืองของไบโอนิกมินโนว์นี่แหละ ผมเคยใช้มันตกปลากะพงญี่ปุ่นมาก่อน ได้ผลดีมากครับ”


ชายสวมแว่นดำเหวี่ยงสายเบ็ดลงไปในน้ำ รอประมาณหนึ่งถึงสองนาทีให้เหยื่อจมลงไปก่อน เขาจึงค่อยๆ เก็บเชือก เพื่อรอให้ปลากะพงญี่ปุ่นติดเบ็ด


ฉินสือโอวรอให้สองคนนั้นเหวี่ยงเบ็ดลงน้ำก่อนแล้วมองไปที่เซอร์จิโอ ถามว่า  “เพื่อน ตอนนี้ยังสามารถเปลี่ยนเงินเดิมพันได้ไหม? ผมเพิ่งคิดได้น่ะ เมื่อกี้ผมคงใจร้อนไปหน่อย…”


 “คุณอยากจะเรียกเงินคืนเหรอ? ขอโทษนะ แบบนั้นไม่ได้หรอก” เซอร์จิโอมองฉินสือโอวอย่างน่าขัน


ฉินสือโอวพูดต่อว่า “ลงเงินไว้น้อยเกินไปต่างหากครับ ถ้าหากได้ล่ะก็ ผมอยากลงเงินมากอีกหน่อย ลงเพิ่มอีกสักสี่แสน เป็นอย่างไรครับ?”


คำพูดของเขาทำเอาเซอร์จิโอสำลักไปทีหนึ่ง คนอื่นๆ ต่างก็ใช้สายตาที่ไว้มองพวกอวดเก่งมองไปที่ฉินสือโอว แต่บนหน้าฮับเบิลกลับเผยให้เห็นรอยยิ้ม ไม่รู้ว่ากำลังยิ้มอะไร


ตอนแรกบอกว่าเปลี่ยนเงินเดิมพันไม่ได้แล้ว แต่พอได้ยินว่าฉินสือโอวอยากจะวางเงินเดิมพันเพิ่ม เซอร์จิโอจึงเริ่มใจเต้นขึ้นมา รวมทั้งหมดแล้วเป็นเงินถึงห้าแสนเลยนา นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย โดยเฉพาะถ้าเกิดว่าฉินสือโอวชนะขึ้นมา งั้นตัวเขาก็ต้องจ่ายให้ถึงสองล้าน!


แต่ทว่าพอคิดไปคิดมาแล้ว เซอร์จิโอก็ตัดสินใจได้ พูดว่า  “สามารถเปลี่ยนเงินเดิมพันได้ คุณแน่ใจนะว่าอยากบวกเพิ่มอีกสี่แสนดอลลาร์? รวมทั้งหมดก็ห้าแสนดอลลาร์ใช่ไหม?”


 “แน่ใจครับ”


 “ให้ตายเถอะ เอเชียนริชเอ้ย” มีเจ้าของฟาร์มปลารีบมาร่วมดูเรื่องสนุกนี้ด้วย


หลังจากลงเงินพนันเพิ่มแล้ว ฉินสือโอวลากเก้าอี้เอนมาตัวหนึ่งไปหลบอยู่ใต้ร่มกันแดดแล้วเล่นมือถือ ในขณะเดียวกันก็ปล่อยพลังโพไซดอนไปในน้ำ เพื่อดูสถานการณ์ในนั้น


บัคเคอร์กับชาร์ลสพอมีฝีมืออยู่บ้าง พวกเขาไม่ได้ซื้อฟาร์มปลาเพียงเพื่อใช้มาเลี้ยงปลาเท่านั้น แต่ยังซื้อเพื่อนำมาสร้างรีสอร์ตริมทะเลกับสำหรับตกปลาด้วย ดังนั้นหลังจากที่เหวี่ยงสายเบ็ดลงไปไม่ถึงสิบนาที สายเบ็ดของทั้งสองก็เริ่มสั่นขึ้นมา


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาต่างก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที เริ่มด้วยชาร์ลสที่ดึงสายเบ็ดของตัวเองขึ้นมาก่อน แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าตกได้ปลาซาบะตัวใหญ่ เขาส่ายหัว ปลดปลาออกจากตะขอ โยนไปในกล่องแช่แข็ง แล้วก็เหวี่ยงสายเบ็ดออกไปอีกรอบ


ตามด้วยบัคเคอร์ที่ก็เก็บสายเบ็ดตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน แต่ตกได้ฉลามน้ำเงินตัวเล็กมาแทน


บัคเคอร์อยากจะปลดปลาลงมาเก็บไว้ แต่แมทธิว จินกระแอมทีหนึ่ง เขาจึงเพิ่งจะนึกได้ว่าประธานสภาฝ่ายกรมประมงอยู่ข้างๆ ด้วย จึงรีบโยนฉลามน้ำเงินน้อยลงไปในทะเล ฉลามน้ำเงินไม่ใช่ปลาที่ห้ามจับ แต่กฎหมายการประมงของแคนาดาได้กำหนดไว้ว่า ลูกฉลามล้วนห้ามจับทั้งหมด


บทที่ 711 ควักเงินให้ฉันซะดีๆ

โดย

Ink Stone_Fantasy

เรือยอชต์ที่แล่นโต้คลื่นลมบนทะเลไปด้วยความรวดเร็ว ได้ซัดคลื่นทะเลกระเด็นออกไปยังสองฝั่งของเรือ ไม่นานเรือก็ได้แล่นออกห่างจากเซนต์จอห์น มุ่งหน้าตรงไปที่ท่าเรือบาสก์


ฉินสือโอวทำท่าหาวแล้วลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้เอน เขามองไปที่เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาที่กำลังพากันจับจ้องไปในน้ำทะเลกันอยู่ แล้วพูดว่า “เฮ้ แอนดรูว์ นายจะมาเล่นไพ่กับฉันไม่ใช่เหรอ? ไปเล่นไพ่กันสักพักดีไหม?”


แอนดรูว์ไม่ใช่มหาเศรษฐีแบบเขา สำหรับเขาแล้วเงินทองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก จะมีกะจิตกะใจเล่นไพ่ได้อย่างไร? เขายังคงอยู่บนกราบเรือ บอกปัดคำชวนของฉินสือโอวอย่างไม่ไยดี บอกว่าให้เขาไปเล่นเองเถอะ


ฉินสือโอวไปที่ห้องสันทนาการของเรือยอชต์บนชั้นสามเพื่อไปเล่นเกมคนเดียว จากนั้นฮับเบิลก็ตามเข้าไปขอร่วมทีมด้วย ทั้งสองคนจึงเริ่มทำการตามล่าปีศาจบนเกาะร้างด้วยกัน (พูดถึงเรื่องราวในเกม)


ตอนนี้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาที่อยู่บนกราบเรือได้เริ่มรู้สึกชื่นชมขึ้นมาบ้างแล้ว พวกเขาไม่ได้ชื่นชมในสายตาของฉินสือโอวหรอก ถึงแม้ว่าพวกของบัคเคอร์จะยังตกปลากะพงญี่ปุ่นไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้เพิ่งเริ่มยังพอมีเวลา พวกเขาเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วจะต้องตกปลากะพงญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน


แต่สิ่งที่ทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาชื่นชม ก็คือความใจใหญ่และมุมมองการใช้ชีวิตของฉินสือโอวต่างหาก เงินตั้งห้าแสนดอลลาร์แคนาดาเลยนะ เขากลับทำเหมือนขว้างหินให้กระดอนไปบนผิวน้ำอย่างไรอย่างนั้น ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด


เจ้าของฟาร์มปลาเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจนี้ทั้งนั้น สายตาในการมองคนจึงยังพอมีอยู่บ้าง พวกเขาดูออกได้ว่าฉินสือโอวกำลังแกล้งทำเป็นไม่สนใจหรือว่าไม่สนใจกับผลสรุปครั้งนี้จริงๆ กันแน่


เล่นเกมไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ฉินสือโอวได้ทำการกวาดล้างไปทั่วทั้งเกาะร้างแล้ว จึงโยนจอยเกมแล้วขอไอซ์ไวน์จากลูกเรือมาขวดหนึ่ง จากนั้นก็แบกเตาปิ้งย่างเดินขึ้นไปที่กราบเรือ ตั้งเตาเตรียมจะทำปิ้งย่างกิน


ชาร์ลสตกได้ปลาหมึกตัวใหญ่ที่มีความยาวประมาณครึ่งเมตรขึ้นมาหนึ่งตัว ฉินสือโอวจึงเดินเข้าไปถามว่า “เพื่อน เจ้านี่ราคาเท่าไร ขายให้ผมได้ไหม ผมจะเอาไปย่างกินนะ?”


แม้ว่าชาร์ลสจะไม่ชอบฉินสือโอวมากนัก แต่ก็ไม่ได้ขี้เหนียวขนาดนั้น เขาจึงปัดมือออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วพูดว่า “เอาไปเลย อย่ามารบกวนฉัน”


ฉินสือโอวยักไหล่ หยิบปลาหมึกเดินเข้าไปในครัวทำการหมักอย่างง่ายๆ เสร็จแล้วก็เดินถือน้ำมันกับเครื่องปรุงรสขึ้นไปบนกราบเรือแล้วเริ่มย่างทันที


น้ำมันปรุงรสที่ทาไว้บนตัวปลาหมึกทีละชั้นๆ ได้เปลี่ยนให้เนื้อปลาหมึกที่ขาวนวลนั้นเป็นสีเหลืองอ่อนในเวลาไม่นาน ฉินสือโอวจึงรีบทาซอสปรุงรสที่เขาผสมเองตามไปอีกทีอย่างรวดเร็ว น้ำมันหอย ซอสพริก ซีอิ๊วกับซอสเนื้อวัวได้ซึมเข้าไปในเนื้อปลาหมึก ไม่นานก็มีกลิ่นหอมโชยออกมา


ฉินสือโอวย่างตัวปลาหมึกก่อนแล้วค่อยตามด้วยหนวดปลาหมึกอีกสี่แท่ง แล้วใช้ไม้เสียบทั้งหมดไว้ เมื่อย่างเสร็จแล้วก็นั่งอยู่บนเก้าอี้เอน นอนรับลมไปพลางดื่มเบียร์กับกินปลาหมึกย่างไปพลาง สีหน้าดื่มด่ำเป็นอย่างมาก


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาล้วนเป็นพวกที่ชื่นชอบดื่มด่ำกับการใช้ชีวิตกันทั้งนั้น เมื่อพวกเขาเห็นฉินสือโอวกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เริ่มอยากกินขึ้นมาเหมือนกัน จึงพากันมาย่างปลาหมึกกับกุ้งปลาด้วย แถมบนเรือยังมีปูจักรพรรดิอีก จึงมีคนมาย่างปูด้วย ถือว่ามีฝีมือใช้ได้ทีเดียว


ความจริงฉินสือโอวรู้สึกว่าปลาหมึกย่างนี้รสชาติธรรมดามาก ซอสปรุงรสก็ทำอย่างลวกๆ รสชาติของเนื้อปลาหมึกก็ไม่ได้เรื่อง ถ้าอย่างนั้นปลาหมึกกล้วยที่ฟาร์มปลาของเขามีรสชาติดีได้อย่างไร?


แต่ทว่าเมื่อคิดถึงว่าอีกไม่นานก็จะมีเงินสองล้านดอลลาร์แคนาดาเข้ากระเป๋าแล้ว เขาจึงอารมณ์ดีขึ้นมาทันที พลันรู้สึกว่ารสชาติของปลาหมึกก็ดีขึ้นมาด้วย


กลายเป็นบัคเคอร์กับชาร์ลสที่น่าสงสาร อย่านึกว่าการนั่งนิ่งๆ ตกปลาโดยไม่ขยับเขยื้อนเลยจะไม่ใช้พลังงานนะ ทั้งสองคนได้ตกปลาติดต่อกันเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว ในถังแช่แข็งก็เต็มไปด้วยปลาหลากหลายชนิด แม้แต่ปลาแฮดดัคกับปลาอลาสก้าพอลล็อคก็ตกได้ แต่ทว่ากลับไม่มีปลากะพงญี่ปุ่นเลย


ความจริงความมั่นใจของทั้งสองคนนั้นได้เริ่มสั่นคลอนไปแล้ว บวกกับพวกสารเลวกลุ่มนี้ที่ทั้งปิ้งย่างทั้งดื่มเบียร์อีก ช่างไม่มีคุณธรรมเสียจริงๆ ทำให้ความมั่นใจที่สั่นคลอนของทั้งสองคนตอนนี้ได้ถูกทำลายลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง


 “ช่างเถอะ อย่างไรเสียกว่าจะถึงบาสก์ก็ยังอีกตั้งไกล กินก่อนค่อยว่ากัน!” บัคเคอร์โยนแว่นดำออกไปแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น


ชาร์ลสเองก็รอคำพูดนี้ของเขาเช่นกัน เมื่อเห็นเพื่อนเก็บสายเบ็ดขึ้นมา เขาจึงรีบเก็บตามทันที


ฉินสือโอวตัดสินใจจะหยอกเขาเล่น พอดีกับมีปลากะพงญี่ปุ่นตัวค่อนข้างใหญ่ที่มีความยาวขนาดสี่สิบกว่าเซนติเมตรกำลังว่ายตามเหยื่อตกปลาอยู่ เขาได้ทีจึงควบคุมปลาตัวนี้ให้ว่ายเข้าไปกัดตะขอเบาๆ ทีหนึ่ง


เมื่อเป็นแบบนี้ พอชาร์ลสเก็บสายเบ็ด จึงดึงให้ปลากะพงญี่ปุ่นตัวใหญ่นี้โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำด้วย


ลำตัวสีน้ำเงินของปลากะพงญี่ปุ่นที่ถูกแสงแดดยามบ่ายสาดส่องไปส่องประกายวิบวับ แต่น่าเสียดาย ชาร์ลสยังไม่ทันได้ตื่นเต้นเลย มันก็สะบัดตัวอย่างแรงทำให้หลุดออกจากตะขอลงน้ำไปอย่างสง่างามทันที เหลือไว้แต่เพียงเงาหลังที่สวยงามให้กับกลุ่มคนที่มองดูเท่านั้น


 “แม่งเอ๊ย! พระเจ้า! ปลากะพงญี่ปุ่น ปลากะพงญี่ปุ่นที่สวยงามมากด้วย!” ชาร์ลสตะโกนออกมาอย่างร้อนรน


คนอื่นๆ เองก็เห็นด้วยเหมือนกัน เสียดายที่ปลาไม่อยู่แล้ว…


ดังนั้น คนทั้งกลุ่มจึงพากันมองไปที่ชาร์ลสกับบัคเคอร์อย่างเห็นใจ บัคเคอร์ที่รู้สึกเสียดายสุดขีด ได้พูดขึ้นมาอย่างโกรธเคืองว่า “นายจะรีบเก็บสายทำไม?”


ชาร์ลสที่หัวเสียยิ่งกว่า ได้ตะโกนพูดว่า “นายไม่ต้องมาพูดเลย ก็เพราะนายนั่นแหละที่เริ่มเก็บสายก่อนเพราะบอกว่าจะไปย่างของกินกันน่ะ! ถ้าหากว่านายไม่เก็บสายเบ็ดก่อน ฉันก็คงกำลังตกปลาอยู่อย่างแน่นอน ต้องตกปลาตัวนี้ขึ้นมาได้อย่างแน่นอน!”


เซอร์จิโอเข้ามาพูดปลอบทั้งสองคนว่า ไหนๆ ก็มีปลากะพงญี่ปุ่นมาติดเบ็ดแล้ว บ่งบอกว่าเป็นสัญญาณดี โอกาสมาถึงแล้ว


ชาร์ลสกับบัคเคอร์เถียงกันต่อสักพัก ก็ไปย่างของกินกันด้วยความหัวเสีย แต่ดูท่าทางแล้วก็คงไม่มีกะจิตกะใจกินเป็นแน่


ฉินสือโอวรู้สึกว่าปลาหมึกไม่อร่อย จึงเริ่มย่างข้าวโพดแทน การทาน้ำมันกับซอสปรุงรสบนข้าวโพด แม้ตอนย่างจะไม่ได้มีกลิ่นหอมออกมาก็เถอะ แต่ตอนกินอยู่ปากกลับทั้งหอมทั้งอร่อยมากๆ เลย


เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ ไม่นานพวกเจ้าของฟาร์มปลาทั้งหลายก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขกันขึ้นมา เพราะแม้ว่าชาร์ลสกับบัคเคอร์จะตกปลาได้ไม่น้อย แต่ว่านอกจากปลากะพงญี่ปุ่นที่หลุดไปได้ตัวนั้นแล้ว ก็ไม่มีปลากะพงญี่ปุ่นมาติดเบ็ดอีกเลย!


ฝั่งชาร์ลสกับบัคเคอร์ร้อนรนยิ่งกว่า ภายหลังพวกเขาถึงขึ้นว่าทำข้อห้ามที่มีแต่นักตกปลามือใหม่ชอบทำกัน นั่นก็คือเก็บเบ็ดขึ้นมาเพื่อเช็กว่าเหยื่อยังอยู่หรือเปล่า พอทำแบบนี้ก็ยิ่งไม่มีปลามาติดเบ็ดอีกเลย


ในที่สุด ท่าเรือบาสก์ก็ได้ปรากฏให้เห็นในสายตาของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ทำเอาบางคนถึงกับหน้าถอดสีเลย


เซอร์จิโอที่เป็นเจ้ามือ ต้องเสียเงินให้กับฉินสือโอวถึงสองล้านดอลลาร์แคนาดาเลยนะ!


ฉินสือโอวยืนอยู่ท้ายเรือจ้องมองไปที่ท่าเรือที่คุ้นเคยนี้ หัวเรือได้เข้าเทียบท่าที่ท่าหมายเลขสี่


หอประตูบานเล็กที่สร้างอย่างประณีตได้ตั้งตระหง่านอยู่ที่ท่าเรือนั้น บนหอประตูด้านหน้ามีชื่อเรือที่เขียนด้วยตัวย่ออยู่ว่า ‘เรือฮาวิซท’ ส่วนด้านหลังก็เป็นชื่อของคนกลุ่มหนึ่ง: ฉินสือโอว ชาร์ค ซาร์ดเซ็น คราเคน อัลเฟรด อีวิลสัน วาร์ยัก เฮอร์แมน รูเพิร์ต กับเวเบอร์ เบนจามิน…


 “นี่คือท่าเทียบเรือของเรือฮาวิซท พวกเราได้เข้าสู่ท่าเรือบาสก์แล้วครับทุกท่าน” แมทธิว จินมองไปที่เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม


คนกลุ่มใหญ่พากันเบ้ปากถอนหายใจ บัคเคอร์กับชาร์ลสได้โยนเบ็ดตกปลาในมือลงในทะเลอย่างโกรธเคือง ส่วนเซอร์จิโอก็จ้องไปที่ทั้งสองคนด้วยสีหน้าดูหมิ่น นี่แหละที่เรียกว่ารังสีอำมหิต แม่งเอ๊ย พวกนายทำฉันซวยแล้ว!


ฉินสือโอวส่งข้อความให้กับเซอร์จิโอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือเลขที่บัญชีของผม สองล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อนเอ๋ย สองล้านเลยนะ!”


ฮับเบิลพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “ของผมสี่แสนนะ”


แมทธิว จินก็ดีใจมากเช่นกัน พูดว่า “ของผมน้อยหน่อยครับ แค่สองหมื่นเท่านั้น แต่ว่าก็ไม่เลวแล้วล่ะ นี่น่ะคือเงินเดือนทั้งเดือนของผมแล้ว”


ฉินสือโอวมองไปที่พวกของเจ้าของฟาร์มปลาที่เชื่อฟังเขาทุกอย่างอย่างโดนัลด์ บราวน์กับแอนดรูว์ ทัคเกอร์ แล้วพูดให้กำลังใจว่า “พวกนายชนะไปเท่าไร? ไม่เป็นไรพูดออกมาเถอะ”


โดนัลด์กับแอนดรูว์ทำท่าทางอ้ำอึ้งแล้วมองไปที่ฉินสือโอว ทั้งสองคนเดี๋ยวหน้าแดงเดี๋ยวหน้าซีด จากนั้นก็รีบหลบหน้าหนีไปเลย


 “ให้ตายเถอะ ไอ้พวกเลวนี่!” ฉินสือโอวก่นด่าออกมาอย่างเหลืออด ส่วนทางฮับเบิลกับแมทธิวกลับดีใจหัวเราะร่าออกมา


เห็นได้ชัดเลย ว่าพวกเจ้าของฟาร์มปลาที่ชอบพูดว่าจะอยู่ฝั่งเขาต่างก็คิดว่าเขาต้องแพ้อย่างแน่นอน ไม่มีใครเดิมพันว่าเขาจะชนะ ต่างก็พากันเดิมพันว่าเขาจะแพ้เพราะอยากจะได้เงินมาสักก้อน แต่สุดท้าย กลับแพ้เสียจนแทบจะตัว


บทที่ 712 หมู่บ้านประมงที่เงียบราวกับป่าช้า

โดย

Ink Stone_Fantasy

เรือยอชต์แล่นจากเซนต์จอห์นไปที่ท่าเรือบาสก์ พวกเขาออกเดินทางกันตอนบ่าย ตอนที่เรือเข้าเทียบท่าก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว


แมทธิว จินทำการจัดแจงให้คนทั้งกลุ่มไปทานอาหารค่ำกัน ส่วนฉินสือโอวอยู่ถ่ายรูปหมู่ที่ท่าเรือก่อน ในการเดินทางครั้งนี้มีนักข่าวตามพวกเขาไปด้วย ทำให้ถ่ายรูปได้สะดวกมาก


ฉินสือโอวยืนถ่ายรูปอยู่ที่ใต้หอประตูบานเล็ก ลูบไปบนตัวหนังสือที่เขียนคำว่าท่าเรือฮาวิซทอย่างตื้นตันใจ และอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมา


คนมักจะพูดว่าคนแก่มักจะคิดถึงวันเวลาเก่าๆ แต่ฉินสือโอวที่มองดูหอประตูอยู่ในตอนนี้นั้น กลับอดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ระทึกใจในตอนนั้น


 “ตอนที่ผมเห็นข่าวนั้น รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อมาก ความจริงแล้วจนถึงวันนี้ ผมก็ยังรู้สึกนับถือคุณมากนะครับ เพราะผมรู้ว่า หากเป็นผมที่อยู่ในสถานการณ์แบบนั้น คงไม่มีทางตัดสินใจไปช่วยเรือที่กำลังจะจมโดยไม่รู้ถึงสถานการณ์กับตำแหน่งที่แน่นอนอย่างนั้นแน่นอน” เสียงของฮับเบิลพูดดังขึ้นมาจากด้านหลัง


จากการได้รู้จักกันในระหว่างการเดินทาง ฉินสือโอวมีความรู้สึกดีกับฮับเบิลขึ้นมากว่าเมื่อก่อนมาก


เมื่อได้ยินคำชม เขาจึงฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าหากให้ผมเลือกอีกครั้ง เกรงว่าผมคงไม่ไปแสดงเป็นฮีโร่อีกแล้วล่ะ แต่ว่าตอนนั้นน่ะนะ เพื่อน ผมรู้ว่าผมควรจะต้องทำแบบนั้น  อีกอย่างผมกล้าพนันเลยว่า หากว่ากัปตันในตอนนั้นเป็นคุณ คุณก็ต้องเลือกที่จะเสี่ยงเหมือนกัน!”


หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้ว ฉินสือโอวกับฮับเบิลก็ขึ้นรถ ระหว่างทางฉินสือโอวก็ถามออกมาอย่างแปลกใจว่า “คุณซื้อพนันข้างผมถึงหนึ่งแสนเลย? ทำไมครับ? ดูจากสถานการณ์ตอนนั้นแล้ว ตัวผมไม่มีแววว่าจะชนะเลยสักนิด”


ฮับเบิลหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณก็รู้ว่าผมทำงานอะไร ผมทำงานด้านการลงทุนที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะในการใช้ชีวิตหรือการทำงานของผม ผมจำเป็นต้องตัดสินใจในทุกเรื่อง จึงจะสามารถใช้ชีวิตต่อได้ คุณเชื่อเรื่องสัมผัสพิเศษไหมครับ?”


พอได้ฟังประโยคสุดท้าย สีหน้าของฉินสือโอวก็เปลี่ยนไปทันที ดีที่ตอนกลางคืนในรถค่อนข้างมืด จึงไม่มีคนสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา


ฮับเบิลพูดต่ออีกว่า “ผมคิดว่าตัวเองมีสัมผัสพิเศษอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือการตัดสินใจ หลายๆ ครั้งที่ผมทำการลงทุน ผมไม่ได้ใช้การวิเคราะห์เลย ใช้เพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้น ตอนนั้นความรู้สึกที่ตัวคุณให้กับผม ก็คือคุณชนะได้ ดังนั้นผมจึงพนันข้างคุณ”


เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดขอบคุณจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขารู้สึกว่าต่อไปคงต้องเพลาๆ ไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจจะดีกว่า


ผู้คนของท่าเรือบาสก์ให้ความสำคัญกับกลุ่มของพวกเขาเป็นอย่างมาก ถึงขึ้นจัดแจงภัตตาคารที่โด่งดังให้กับพวกเขา เพื่อเชิญพวกเขาไปลิ้มรสซุปเนยหอยกาบยักษ์กับล็อบสเตอร์ย่างบนกระดาษ


ตอนนี้ทั่วทั้งอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ไม่มีกุ้งล็อบสเตอร์ปรากฏให้เห็นแล้ว ราคาของล็อบสเตอร์ได้ขึ้นสูงที่สุดในช่วงสี่ห้าปีมานี้ จากอาหารที่คนทั่วไปหากินได้ไม่ยากได้กลายเป็นอาหารจานเด็ดที่มีเฉพาะในภัตตาคารหรูเท่านั้น


ก่อนจะทานอาหาร เซอร์จิโอได้ทำการโอนเงินสองล้านให้กับฉินสือโอว สำหรับคนที่เป็นถึงเถ้าแก่บ่อนพนันที่ใหญ่ที่สุดในเซนต์จอห์นอย่างเขาแล้วนั้น ความกล้าได้กล้าเสียแบบนี้จึงพอมีอยู่บ้าง อีกอย่างเขาจะกล้าผิดคำพูดเหรอไง? เจ้าหนี้ของเขายังรวมไปถึงท่านประธานสภาระดับประเทศอีกตั้งคนหนึ่งด้วย


หลังจากโอนเงินแล้วเซอร์จิโอก็ไม่ได้ดูเจ็บปวดมากนัก จนถึงตอนทานข้าว ฉินสือโอวถึงได้รู้ว่า ความจริงเงินที่เขาเสียไปไม่ได้มากเลย รวมๆ ก็เพียงสี่แสนเท่านั้น อีกล้านกว่าๆ ที่เหลือล้วนเป็นเงินของพวกเจ้าของฟาร์มปลาทั้งนั้น คนพวกนั้นคิดอยากจะได้เงินสักก้อน จึงลงเงินพนันกันไว้ไม่น้อยเลย


หลังจากทานมื้อค่ำแล้ว ทางกรมประมงยังมีกิจกรรมต่อ พวกเขาตั้งใจว่าจะนั่งรถบัสกันทั้งคืนเพื่อไปยังที่ที่ไม่คุ้นเคยที่หนึ่ง


รถบัสขับออกไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็หยุดลง ฉินสือโอวเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ท้องฟ้ามืดมากแล้ว เขามองไปรอบๆ มองเห็นแสงจันทร์ส่องแสงไปยังเกลียวคลื่น สามารถได้ยินเสียงคลื่นที่กระทบกับชายฝั่งที่เขาคุ้นเคย


ที่นี่ก็คือริมทะเล อย่างไม่ต้องสงสัย


เมื่อหาที่พักได้แล้ว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาที่เหนื่อยล้าทั้งกายและใจต่างก็พากันไปล้างหน้าล้างตาแล้วเข้านอนกันทันที


ฉินสือโอวเองหลังโทรวิดีโอหาวินนี่เพื่อบอกว่าเขาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว ก็หลับตาเตรียมเข้านอนเช่นกัน เพราะแมทธิว จินบอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะเริ่มการเดินชมอย่างเป็นทางการ


เมื่อคุ้นเคยกับทะเลแล้ว ฉินสือโอวจึงสามารถนอนหลับได้สนิทกว่าที่เคยภายใต้เสียงคลื่นที่กระทบชายฝั่ง จนกระทั่งมีคนมาเคาะประตู เขาเปิดตามองดูเวลาเป็นเวลาตีห้า ดูท่าว่าการเดินชมจะเริ่มแล้วนั่นเอง


หลังทำกิจวัตรเสร็จ ฉินสือโอวเดินออกไปจากที่พัก มองออกไปรอบๆ ก็รู้สึกอึ้งเล็กน้อย ที่นี่ที่ไหนกัน?  นี่มันอ้างว้างเกินไปแล้วไหม?


ห่างจากที่พักไม่ไกลนั้นก็คือชายหาด คุณภาพของชายหาดผืนนี้ไม่ดี บนทรายเต็มไปด้วยหินกรวด และพอมองออกไปด้านข้าง ชายหาดได้อันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนไปเป็นหินผาเล็กๆ ที่ลาดชันแทน เสียงคลื่นทะเลที่สาดกระทบไปที่หินผานั้น ได้ปล่อยเสียงที่น่ากลัวเยือกเย็นออกมา


มีบ้านตั้งอยู่บนพื้นที่นี้กันประปราย ส่วนมากจะเป็นบ้านเล็กสองชั้นที่มีเนื้อที่เพียงแค่ไม่กี่ตารางเมตร สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดก็คือที่พักของพวกเขานั่นแหละ ที่มีทั้งหมดสามชั้นครึ่ง แต่มีเพียงชั้นหนึ่งกับชั้นสองเท่านั้นที่ใช้เป็นห้องพัก ตั้งแต่ชั้นสามขึ้นไปนั้นได้ใช้เป็นโกดังเก็บของแทน


ในบรรดาบ้านเหล่านี้มีน้อยหลังที่จะเป็นบ้านใหม่ ส่วนมากจะเป็นบ้านเก่าที่สีซีดเซียว แต่ว่าถนนถือว่ากว้างพอดู แต่ว่าไม่ค่อยมีรถขับผ่านสักเท่าไรนัก ฉินสือโอวมองดูสักพัก ก็เห็นเพียงรถกระบะเก่าๆ จอดอยู่ที่หน้าบ้านเหล่านั้น


แสงอาทิตย์ยามเช้าเริ่มสาดส่อง เริ่มมีคนออกมาทำงานกันแล้ว มีพวกแม่บ้านบางส่วนได้ออกมาตากปลาแห้งกันที่หน้าบ้าน มีปลาเศรษฐกิจจำพวกปลาแฮดดัค ปลาอลาสก้าพอลล็อค ปลาหิมะ ปลาช่อนทรายแก้วและปลากระบอกเทา แต่ที่เยอะกว่าจะเป็นปลาที่ไม่ค่อยมีราคาจำพวกปลาซาบะตัวเล็กๆ กับปลาแฮร์ริ่งมากกว่า


เมื่อมองไปในทะเล จะเห็นท่าเรือไม้เก่าโทรมยื่นเข้าไปในทะเล มีเรือลำเล็กๆ ที่ถูกผูกไว้กับท่าเรือไม้นั้นกำลังขยับไปมาตามกระแสคลื่นทะเล และยังมีเรือบางลำที่คว่ำอยู่บนชายหาด เผยให้เห็นถึงท้องเรือที่เก่าโทรมน่ากลัวของมัน


ฉินสือโอวมองดูที่นี่แล้วรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของความเก่าโทรมทันที ทำให้เขาคิดถึงความรู้สึกที่เพิ่งไปถึงเกาะแฟรเวล์ครั้งแรก


ความจริงแล้ว แม้จะเป็นตอนที่เขาเพิ่งไปถึงเกาะแฟร์เวล สภาพในเมืองก็ดีกว่าที่นี่ อย่างน้อยในเมืองก็ยังมีร้านซูเปอร์มาร์เก็ต บาร์ แถมยังมีเรือหาปลาออกทะเลไม่ขาดสาย แต่ว่าที่นี่ในตอนนี้ไม่มีอะไรเลย


ที่นี่เป็นเหมือนหมู่บ้านชาวประมงที่ตายไปแล้ว ไม่รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาเลย


โดนัลด์ บราวน์เดินเข้ามาหาฉินสือโอวแล้วหัวเราะแห้งๆ ออกมาสองที แล้วพูดว่า “แย่พอดูเลย ใช่ไหม? นายต้องคิดไม่ถึงแน่ว่าที่นี่ที่ไหนแน่”


 “ที่นี่คือที่ไหนเหรอ?” ฉินสือโอวถามออกไปทันที โดนัลด์เป็นเจ้าของฟาร์มปลาพักร้อนเท่านั้น ก็คือเขามีเพียงฟาร์มปลาเล็กๆ อยู่ แต่จะกลับมาจัดการฟาร์มปลาเฉพาะวันสุดสัปดาห์หรือวันหยุดเท่านั้น ปกติจะทำงานเป็นเซลล์ขายประกันอยู่ที่ท่าเรือบาสก์ ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับท่าเรือนี้อยู่บ้าง


โดนัลด์ถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วพูดว่า “ที่นี่เรียกว่าท่าเรือน็อดดี้เบย์ควีน ใช่แล้ว ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ ที่นี่เองก็เคยเป็นท่าเรือเหมือนกัน ตอนนี้คนส่วนมากจะเรียกที่นี่ว่าหมู่บ้านชาวประมงน็อดดี้เบย์แทน”


 “หมู่บ้านชาวประมงน็อดดี้เบย์ควีน!” เถ้าแก่หญิงของโรงแรมที่กำลังจะออกไปข้างนอกได้พูดแก้ไขคำพูดของโดนัลด์อย่างดื้อดึง


โดนัลด์พยักหน้ายิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ครับ หมู่บ้านชาวประมงน็อดดี้เบย์ควีน”


เจ้าของโรงแรมเป็นคนผิวขาวหัวโล้นอายุหกสิบห้าปีได้ทำหน้าที่เป็นคนนำเที่ยวให้กับการเยี่ยมชมของพวกเขาในครั้งนี้ เขาพาพวกของฉินสือโอวเดินอ้อมไปรอบๆ เพื่อเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวประมงเล็กที่ทรุดโทรมแห่งนี้ ระหว่างทางก็ได้มีการบอกเล่าข้อมูลให้ฟังมากมาย เป็นข้อมูลที่ยากจะเชื่อได้ลง


ท่าเรือน็อดดี้เบย์ควีนได้มีขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่19 หลังสงครามโลกครั้งที่สองนั้นที่นี่เฟื่องฟูมาก เคยเป็นที่ที่เหมาะจะจับปลาค็อดกับปูที่ดีที่สุดในอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์


ตอนนั้นมีเรือและผู้คนมากมายได้เดินทางมายังท่าเรือนี้อย่างไม่ขาดสาย จากที่เถ้าแก่หัวโล้นแนะนำ ช่วงที่เฟื่องฟูที่สุดคือช่วงกลางของปี 70 ในเมืองมีประชากรมากกว่าหนึ่งพันคน บ้านเรือนก็มีมากกว่าสองร้อยหลัง


น่าเสียดาย เพราะการจับปลากันอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ปลาค็อดของที่นี่ลดลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งหมดไปในปัจจุบัน


บทที่ 713 ของแห้งชั้นดี

โดย

Ink Stone_Fantasy

ท่าเรือน็อดดี้เบย์ควีนเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ถูกปิดโดยกรมประมง นับตั้งแต่สิบปีก่อนที่นี่ก็ไม่อนุญาตให้มีการจับปลาค็อดเพื่อธุรกิจอีกเลย


แต่ปลาค็อดถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์หลักของท่าเรือแห่งนี้ การที่ผลผลิตได้รับความเสียหายแบบนี้ ทำให้เศรษฐกิจของท่าเรือที่นี่ถึงขั้นล้มละลาย เริ่มจากปริมาณการจับปลาที่ลดลง ทำให้โรงงานแปรรูปต่างๆ ได้ทยอยปิดตัวลง ต่อด้วยผู้คนจำนวนมากที่พากันย้ายออกไป ทำให้ร้านค้าก็ปิดกิจการไปตามๆ กัน จนกระทั่งถึงปีที่แล้วโรงเรียนเพียงแห่งเดียวของที่นี่ก็ได้ปิดตัวลง


พอพูดถึงตรงนี้ เถ้าแก่หัวโล้นก็เริ่มหดหู่ เขาพูดว่า “พวกคุณดูสิ บ้านเรือนที่นี่ที่สร้างอยู่ประปรายนั้น มองดูไปเก่ามากใช่ไหมครับ? แต่ความจริงแล้วเมื่อก่อนไม่ใช่อย่างนี้นะครับ ที่ว่างที่เห็นอยู่นี้เมื่อก่อนได้เต็มไปด้วยบ้านเรือน บ้านเรือนของพวกเราได้ถูกออกแบบให้สร้างอยู่ตามแนวถนน แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นพวกชาวบ้านที่ตัดสินใจย้ายออกไป ก็ถึงขั้นย้ายบ้านออกไปด้วยทั้งหลัง”


ฉินสือโอวเดินไปตามทางอย่างเงียบๆ ฟาร์มปลาเล็กๆ แห่งนี้มีหลายจุดที่คล้ายกับเมืองแฟร์เวลเมื่อปีครึ่งก่อนมาก ทั้งเศรษฐกิจที่ถดถอย ประชากรที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุและชาวประมงที่ลำบากแร้นแค้น


แต่ทว่า สภาพแวดล้อมของประเทศอย่างแคนาดานั้นดีมาก สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้ริมทางที่สีสันสวยงาม แถมยังมีผลไม้ตระกูลเบอร์รีพวกแบล็กเบอร์รีและบลูเบอร์รีอีกด้วย


รถรางก็น้อย จึงทำให้มลภาวะน้อย ผลไม้ที่ฉินสือโอวเด็ดออกมาจึงสามารถกินได้ทันที


เมื่อเห็นเขาเด็ดผลไม้ป่าพวกนี้มากิน บัคเคอร์ที่เมื่อวานเสียเงินมากที่สุดก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ขึ้นมาว่า “บ้านนอก”


ฉินสือโอวยิ้มๆ ไม่เอาเรื่อง ตอนนี้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จึงไม่อยากสนใจคนจำพวกนี้เท่าไร จึงพูดขึ้นมาว่า “ฉันชนะได้เงินมาสองล้าน”


ตาของบัคเคอร์แดงก่ำขึ้นมาทันที


ระหว่างที่เดินไปตามทาง พวกเขาได้พบกับชาวประมงเก่าแก่ที่สวมชุดดำน้ำอยู่บ้าง เถ้าแก่หัวโล้นพูดทักทายคนพวกนี้ พวกเขาก็พยักหน้าให้กับกลุ่มของฉินสือโอวอย่างเป็นมิตร จากนั้นก็กลับบ้านไปอย่างใจเย็น เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ว่าที่นี่เหมือนเป็นดินแดนในอุดมคติขึ้นมานิดนึง


ในตอนนี้หมู่บ้านชาวประมงที่นี่มีเพียงคนแก่กับเด็กๆ ที่ยังอาศัยอยู่เท่านั้น เพื่ออนาคตของพวกเขาเอง เหล่าคนหนุ่มสาวที่มีความรู้มีวัฒนธรรมต่างก็พากันไปเติบโตในเมืองใหญ่กันหมด ส่วนคนที่ไม่มีทั้งความรู้และวัฒนธรรมไม่ทำงานที่ฟาร์มปลา ก็ขายแรงงานโดยการไปทำงานบำรุงซ่อมแซมที่แท่นขุดเจาะน้ำมันบนทะเลกันหมด


 “ตอนนี้มีเด็กอยู่ทั้งหมดหกคน หลังจากพวกเขาออกไปจากที่นี่แล้ว หมู่บ้านชาวประมงของพวกเราก็คงต้องบอกลาประวัติศาสตร์กันจริงๆ แล้วล่ะ” เถ้าแก่หัวโล้นพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น


ระหว่างทางตอนที่เดินผ่านร้านขายของแห้งนั้น เถ้าแก่หญิงที่ผมขาวโพลนได้มองไปที่กลุ่มของพวกเขาแล้วทักทายอย่างเป็นมิตร “คุณๆ ทั้งหลาย สนใจพวกปลาตากแห้ง แผ่นปลา หรือกุ้งฝอยไหมคะ? ล้วนแต่เป็นของธรรมชาติที่ทำเองกับมือทั้งนั้น รสชาติดีแถมสะอาด พวกคุณไม่ซื้อไปหน่อยเหรอคะ?”


แต่คนกลุ่มนี้ไม่ได้ขัดสนพวกผลิตภัณฑ์ทางทะเลเลย ของที่มีอยู่ในฟาร์มปลาของพวกเขาเองก็ยังไม่รู้จะขายให้ใครเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะส่ายหัวกัน


ฉินสือโอวมองดูผิวพรรณที่หยาบกร้านกับหลังที่โค้งโก่งของเถ้าแก่หญิง ก็ส่ายหัวเช่นกัน จากนั้นหลังจากที่คนทั้งกลุ่มพากันกลับไปถึงโรงแรมและพักผ่อนตามอัธยาศัยแล้ว เขาก็ย้อนกลับไปที่แผงขายของแห้งของเถ้าแก่หญิงอีกครั้ง


เมื่อเห็นการมาถึงของเขา เถ้าแก่หญิงก็รีบเข้ามาทักทาย มีสุนัขนิวฟันด์แลนด์สีดำตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาดูลาดเลา แล้วดมกลิ่นเขาด้วยความแปลกใจ เถ้าแก่หญิงตะโกนออกมาคำหนึ่งว่า ‘เรือรบ’ เจ้าหมาน้อยตัวสีดำจึงรีบวิ่งหนีออกไปทันที


ปลาตากแห้งพวกนี้เป็นของที่คนทำเองจริงๆ ปลาค็อดสีขาวสะอาดถูกตากจนมีสีออกเหลือง นี่เป็นเพราะน้ำมันในเนื้อปลาที่ซึมออกมา แบบนี้รสชาติจะดียิ่งกว่า


เนื้อปลาสีเหลืองที่พบเห็นในท้องตลาดนั้นเป็นสีจากสีผสมอาหารทั้งนั้น เพราะการจะตากให้ได้สีแบบนี้นอกจากต้องใช้ทั้งเวลาและแรงแล้ว ยังต้องทำความสะอาดเนื้อปลาอยู่ตลอด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะใช้วิธีนี้ในการผลิตปริมาณมากๆ


ฉินสือโอวลองชิมพวกกุ้งฝอยและหอยตากแห้ง ในความสดนั้นแฝงไปด้วยรสเค็มปนหวาน คุณภาพดีมาก


เขาถามราคา เถ้าแก่หญิงให้ราคาที่ถูกกับเขา ปลาค็อดตากแห้งราคาเพียงชั่งละ14ดอลลาร์แคนาดา กุ้งฝอยชั่งละ42ดอลลาร์แคนาดา ส่วนเนื้อหอยตากแห้งราคาชั่งละ70ดอลลาร์แคนาดา ของตากแห้งอื่นๆ ก็ราคาถูกมากเช่นกัน


ฉินสือโอวเหมาทั้งหมด เขาให้ที่อยู่ของเขากับเถ้าแก่หญิงไว้ ให้เธอส่งขนส่งไปให้เขาแทน


 “เหมาหมดเลยเหรอคะ?” เถ้าแก่หญิงถามอย่างแปลกใจ เพราะของแห้งที่เขามีในร้านนั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว


ฉินสือโอวพยักหน้า หลังจากชั่งน้ำหนักเรียบร้อยแล้ว ปลาค็อดมีทั้งหมด 400 กว่าชั่ง กุ้งฝอยมีเก้าสิบกว่าชั่ง เนื้อหอยตากแห้งก็มีถึงห้าสิบกว่าชั่ง จากนั้นยังมีพวกลูกปลาตากแห้ง ปลิงทะเลตากแห้งกับกระดูกปลาย่าง เถ้าแก่หญิงคิดๆ รวมเป็นเงินทั้งหมดหนึ่งหมื่นหกพันกว่าดอลลาร์แคนาดา


บวกค่าขนส่งแล้ว ฉินสือโอวให้เงินเถ้าแก่หญิงไปหนึ่งหมื่นแปดพันดอลลาร์ เถ้าแก่หญิงบอกว่าค่าขนส่งเธอเป็นคนออกเองก็ได้ ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่าไม่เป็นไรหรอก ให้เขาออกเถอะ


ค่าขนส่งของพวกนี้นั้นไม่ได้ถูกเลย อย่างน้อยๆ ก็หลักพันดอลลาร์ สำหรับฉินสือโอวแล้วก็แค่ค่าข้าวไม่กี่มื้อเท่านั้น แต่สำหรับเถ้าแก่หญิงแล้ว คงเป็นค่าครองชีพสำหรับหนึ่งถึงสองเดือนเลย


หลังซื้อของพวกนี้แล้ว ฉินสือโอวยังถ่ายรูปไว้ด้วย จากนั้นก็ส่งรูปไปให้กับบัตเลอร์ แล้วโทรไปบอกเขาว่า “ผมมาที่หมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่งได้ของแห้งที่คุณภาพดีมาจำนวนหนึ่ง คิดว่าอีกสองวันของก็ถึงเซนต์จอห์นแล้ว ครั้งหน้าที่คุณมารับปลา ก็เอากลับไปที่ไมอามีด้วยเลยนะ เอาไปขายราคาสูงได้ไม่มีปัญหาแน่นอน”


บัตเลอร์มีจรรยาบรรณในอาชีพสูงมาก เขาจึงพูดอย่างลำบากใจว่า “ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีมั้งครับ? ร้านของผมขายโดยใช้ชื่อของฟาร์มปลาของคุณนะครับ ผมบอกลูกค้าของเราทุกคนว่าอาหารทะเลของเราล้วนเป็นของที่เลี้ยงในเขตน้ำทะเลที่ได้รับการควบคุมทั้งนั้นนะครับ”


ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ง่ายมาก? แบรนด์ของเราคงไม่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มาจากฟาร์มปลาของตัวเองได้ตลอดไปหรอกใช่ไหม? เพราะประเภทของผลิตภัณฑ์มีน้อยเกินไป คงไม่ไหวแน่! ดังนั้นแบรนด์ของเราต้องแบ่งเป็นสองแบบ แบบแรกคือผลิตภัณฑ์ที่เราผลิตเอง อีกแบบคือสินค้าคุณภาพดีที่ผ่านการรับรองจากเราแล้ว!”


เมื่อได้ยินฉินสือโอวพูดแบบนี้ บัตเลอร์ก็หัวเราะขึ้นมา บอกว่าคุณนี่เป็นนักธุรกิจโดยกำเนิดจริงๆ


ฉินสือโอววางสายแล้วยิ้มเจื่อนๆ นักธุรกิจโดยกำเนิดอะไรกัน อเมซอนไชน่าของบริษัททีมอลในประเทศจีนเอง ก็ล้วนมีช่องทางที่จัดจำหน่ายเองกับฝากคนอื่นขายทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? เขาเองก็แค่ทำการเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์เท่านั้น


คุณภาพของของแห้งพวกนี้เขาตรวจสอบแล้ว แม้ว่าจะให้ฟาร์มปลาของเขาทำการตากแห้งเอง ก็ไม่แน่ว่าจะได้คุณภาพระดับนี้มา เพราะว่าไม่ได้มีแรงกับความอดทนขนาดนั้น ดังนั้นขอแค่สามารถหาช่องทางจัดจำหน่ายที่เหมาะสมได้ ก็จะทำกำไรได้อย่างแน่นอน


มื้อกลางวันทานที่โรงแรม ก่อนจะทานข้าว เถ้าแก่ได้มาหาฉินสือโอวแล้วพูดกับเขาว่า “พ่อหนุ่ม คุณซื้อของจากร้านโอลิเวียเหรอครับ?”


ฉินสือโอวเดาว่าเขาน่าจะพูดถึงของแห้งพวกนั้น จึงพยักหน้าแล้วถามว่าทำไมเหรอครับ


เถ้าแก่หัวโล้นจึงหัวเราะขึ้นมา ตบไหล่เขาเบาๆ แล้วพูดอย่างซาบซึ้งใจว่า “ขอบคุณคุณมากครับ ผมได้ยินมาว่าคุณให้ราคาที่ดีกับโอลิเวียมาก ผมไม่ได้เจอคนที่ใจดีเหมือนคุณมานานมากแล้ว เดี๋ยวกลางวันผมจะเลี้ยงปูคางคกคุณเอง (หมายถึงเชิญให้เล่นการพนัน)”


ทุกคนเข้าใจในความหมายของเถ้าแก่หัวโล้นทันที บัคเคอร์มองฉินสือโอวด้วยสายตาไม่สบอารมณ์อีกครั้งแล้วพูดว่า “เสแสร้ง!”


ฉินสือโอวหัวเราะอย่างดีใจแล้วพูดว่า “ฉันใช้เงินไปแล้วหนึ่งหมื่นแปดพันกว่าดอลลาร์ ยังเหลืออีกหนึ่งล้านเก้าแสนแปดหมื่นสองพันดอลลาร์ ฉันชอบการพนัน”


ตอนนี้ไม่เพียงแต่บัคเคอร์ แม้แต่ชาร์ลสเองก็ตาแดงก่ำขึ้นมา แล้วตะโกนว่า “เมื่อวานถือว่าแกดวงดี มาพนันกันอีกครั้ง กล้าหรือเปล่า?”


 “พวกนายว่ามาเลย พนันอะไร?” ฉินสือโอวพูดอย่างสบายใจ


 “เท็กซัส โฮลเอ็ม!”


 “ไม่เอา! การพนันด้วยไพ่เป็นเด็กเลว!”


 “ไฟฟ์การ์ดสตัด!”


 “ไม่มีสมองเหรอไง? ก็บอกแล้วไงว่าการเล่นพนันด้วยไพ่มีแต่เด็กเลวเล่น!”


 “พนันแข่งม้า!”


 “พนันประตูถัดไป!”


 “อะไรนะ?”


 “หมายความว่าไม่พนัน พวกแกไปคิดเองแล้วกัน ถ้าคิดอะไรที่ฉันสนใจได้แล้วค่อยมาหาฉัน ตอนนี้ฉันจะไปจับปูคางคกกับเถ้าแก่แล้ว” ฉินสือโอวโบกปัดมือไปมา รู้สึกว่าหยอกเจ้าพวกนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ จึงท่าท่าเลียนแบบคนที่เหงาเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ก็คือเอามือไขว้หลังแล้วเดินจากไป


บทที่ 714 จุดประสงค์คือสิ่งนี้

โดย

Ink Stone_Fantasy

ปูคางคกคือปูที่มีเฉพาะในอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ มีจำนวนค่อนข้างน้อย ดังนั้นจึงไม่มีการส่งออกไปขาย ทำให้ไม่มีชื่อเสียง นอกจากคนพื้นที่แล้วก็มีน้อยคนนักที่จะรู้จักปูชนิดนี้ ส่วนคนที่เคยกินนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง


ฉินสือโอวเคยได้ยินเกี่ยวกับปูชนิดนี้ ก็ครั้งที่แล้วที่มาจับกุ้งล็อบสเตอร์ที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์แล้วได้ยินคนในบาร์พูดถึงกัน แต่ว่าตอนนั้นไม่มีโอกาสได้ลองชิม ในโรงแรมมีแต่ปูเก่าที่แช่แข็งไว้ เขาในตอนนี้ได้กลายเป็นคนเลือกกินมาก เขาจะเลือกกินแต่ของสดไม่กินของเก่า


ตอนนี้พอได้ยินว่าในทะเลหน้าหมู่บ้านมีปูชนิดนี้ ฉินสือโอวดีใจมาก นี่เป็นเรื่องประหลาดใจที่คาดไม่ถึงจริงๆ


ปูคางคกเป็นชื่อที่ฉินสือโอวแปลเอง ปูชนิดนี้ไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ เรื่องแบบนี้มีบ่อยไปในท้องทะเล มีสัตว์มากมายที่มีจำนวนน้อยและไม่มีราคาได้ดำรงชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ


แต่ทว่ามีหรือไม่มีชื่อสำคัญจริงเหรอ? สำหรับสัตว์ในทะเลแล้ว การที่ไม่เป็นที่สนใจของเผ่าพันธุ์มนุษย์สิจึงจะดำรงชีวิตอยู่ได้ง่ายกว่า


คนพื้นที่เรียกปูชนิดนี้ว่า ‘Toad-Crab’ หากแปลตรงตัวก็คือปูคางคก ขนาดรูปร่างของพวกมันถือว่าเล็กในบรรดาปูทะเลทั้งปวง ขาเรียวยาว ดูไปมีส่วนคล้ายปูจักรพรรดิรุ่นมินิ มีศัตรูธรรมชาติมากมาย ทำให้จำนวนไม่เพิ่มขึ้นมาสักที


การจับปูคางคกจะใช้การหว่านแห เถ้าแก่หัวโล้นขับเรือออกทะเล สายตาจับจ้องไปที่ผิวน้ำ ปากก็พูดพล่ามไปเรื่อย ฉินสือโอวมองเขาอย่างสงสัย หรือว่าคุณลุงคนนี้ก็มีพลังโพไซดอนเหมือนกันเหรอ?


พลังโพไซดอนได้แผ่ไปทั่วใต้ท้องทะเล ฉินสือโอวมองเห็นปูขนาดประมาณกำปั้นจำนวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวอยู่ใต้ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว น่านน้ำรอบๆไม่มีกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตเลย จำนวนปลาค็อดมีน้อยจริงๆ แม้แต่ปลาแฮร์ริ่งกับปลาซาบะที่พบเห็นได้ง่ายในน่านน้ำอื่นๆก็มีน้อยมากเช่นกัน


แต่ทว่าคงเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้ปูคางคกยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้ พวกปูถือเป็นสัตว์ระดับล่างในระบบห่วงโซ่อาหาร อย่างเช่นปลากระโทงสีน้ำเงินหรือแม้แต่ปลากะพงญี่ปุ่นก็กินพวกมันเป็นอาหารเช่นกัน ปูทะเลส่วนมากจะสามารถเติบโตจนมีขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นเป็นธรรมดาของปูคางคกที่ตัวไม่โตมากจึงดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างยากลำบาก


น่านน้ำรอบๆหมู่บ้านควีนมีปลาไม่มากนัก เป็นธรรมดาที่ระบบห่วงโซ่อาหารจะเสียไป แต่ทว่านี่กลับทำให้ปูคางคกมีโอกาสรอดมากขึ้น หากว่านำพวกมันไปปล่อยไว้ที่ฟาร์มปลาต้าฉินแล้วล่ะก็ คิดว่าแค่ไม่กี่วันก็คงจะสูญพันธุ์กันหมดแล้ว


พลังโพไซดอนหากลุ่มปูคางคกเจอกลุ่มหนึ่ง ตอนนี้เองที่เถ้าแก่หัวโล้นก็หยุดเรือเช่นกัน เขาหันกลับมาหัวเราะแล้วพูดว่า “ที่นี่มีปูคางคก พวกเราก็แค่หว่านแหลงไปทีเดียว เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับมื้อกลางวันแล้ว”


ฉินสือโอวมองไปที่เถ้าแก่หัวโล้นอย่างประหลาดใจ ให้ตายเถอะ ตอนนี้เขารู้สึกยอมรับเถ้าแก่คนนี้จริงๆ เขาเองยังต้องพึ่งพลังโพไซดอนช่วยถึงจะหาปูคางคกพวกนี้เจอ แต่เถ้าแก่คนนี้ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีจิตสัมผัสอะไรนี่นา ทำไมถึงหาปูกลุ่มนี้เจอล่ะ?


เถ้าแก่หัวโล้นหว่านแหจับปลาลงไป จากนั้นก็นั่งลงตรงหัวเรือเริ่มสูบบุหรี่


ฉินสือโอวถามเรื่องที่เขาสงสัยออกไป เถ้าแก่หัวโล้นหัวเราะแล้วพูดอย่างได้ใจว่า “นี่เป็นประสบการณ์ พ่อหนุ่ม นี่ก็คือประสบการณ์ของชาวประมงแก่! ผมบอกคุณได้นะ แต่ก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะนี่น่ะต้องใช้ทั้งความรู้สึกแล้วก็การสังเกต ถ้าเพียงได้รู้ว่าทำได้อย่างไรนั้นไม่ค่อยมีประโยชน์หรอก”


ฉินสือโอววางตัวนอบน้อมให้ได้มากที่สุด ตัวเขาไม่ได้มีดีอะไรเลย การจับปลาได้ก็เพราะพึ่งพลังโพไซดอน แต่เถ้าแก่หัวโล้นนี่สิถึงจะเรียกว่าเก่งจริง!


ในเหล่าชาวประมงและลูกเรือที่หากินบนท้องทะเลนั้น คนที่น่านับถือที่สุดก็คือคนที่มีความสามารถจริงๆ ดังนั้นทั้งอายุและประสบการณ์ของฉินสือโอวจึงไม่ถือว่าเพียงพอใช้ได้ แต่เขาก็ยังสามารถจัดการเหล่าคนเถื่อนที่ฟาร์มปลาได้ เพราะอะไร? ก็เพราะเขาสามารถจับกุ้งปลาได้มากที่สุด สามารถตกปลาที่ตัวใหญ่ที่สุดได้


เถ้าแก่หัวโล้นสูบบุหรี่พร้อมอธิบายสูตรลับวิธีการหาปูคางคกให้เขาฟัง ปูชนิดนี้มักจะอาศัยอยู่ในน้ำตื้น และมีนิสัยเฉพาะในการเลือกที่พักเท้า พวกมันชอบกินหญ้าทะเลชนิดหนึ่ง ดังนั้นต้องสังเกตดูว่าบนผิวน้ำมีเศษหญ้าทะเลอยู่หรือเปล่า หากว่ามีเศษหญ้าทะเลมากก็เท่ากับว่าปูอยู่ใต้นั้นมากเช่นกัน


นี่คือการวิเคราะห์ที่ง่ายที่สุด ที่เหลือก็ต้องพึ่งน้ำทะเล แสงสว่าง การขึ้นลงของคลื่นทะเลหรือแม้กระทั่งสัมผัสที่หกเพื่อวิเคราะห์อีกที เรื่องนี้แหละที่เป็นเรื่องยาก รวมๆคือหลังฉินสือโอวตั้งใจฟังแล้วก็รู้สึกว่ายากเหมือนกัน


หลังจากคุยกันไปยี่สิบกว่านาที เถ้าแก่หัวโล้นกับฉินสือโอวก็ช่วยกันดึงแหปลาขึ้นมา ในแหปลาสีเขียวนั้นมีปูสีส้มอ่อนกำลังเกาะอยู่


ฉินสือโอวจับมาดูตัวหนึ่ง ไม่แปลกที่ปูนี่จะเรียกว่าปูคางคก เพราะตัวมันเตี้ยและอ้วน บนเปลือกก็เต็มไปด้วยหลุมขรุขระ เหมือนกับผิวของคางคกอย่างไรอย่างนั้น ขนาดตัวก็พอๆกับคางคก ชื่อนี้ช่างเรียกได้เหมาะสมกับรูปลักษณ์ของมันเสียจริง


เถ้าแก่หัวโล้นจับปูออกมาทีละตัว ตัวที่เล็กกว่ากำปั้นของเด็กได้ถูกเขาโยนลงไปในน้ำ เก็บไว้แต่ตัวใหญ่ แบบนี้หลังหว่านไปหนึ่งแหก็จับได้จำนวนไม่น้อยเลย มีถึงสี่สิบกว่าตัว


เถ้าแก่โล้นขับเรือกลับไปพร้อมปูพวกนี้ พอถึงชายฝั่งได้เจอกับเด็กสิบกว่าขวบสองคน กำลังช่วยกันถือแหไว้ในมือ ในนั้นเป็นหอยหวานที่พวกเขาช่วยกันจับมา


ฉินสือโอวถามพวกเขาว่าจะขายไหม เด็กสองคนพยักหน้าตอบอย่างดีใจ เขาควักเงินมาสองร้อยดอลลาร์ยื่นให้กับเด็กทั้งสองคน นี่ไม่ใช่เพราะเขาสงสารเด็กสองคนนี้ ความจริงแล้วหอยกาบในแหของพวกเขานั้นก็น่าจะมีประมาณสิบกว่าชั่งได้ ราคาชั่งละสิบกว่าดอลลาร์ ทั้งหมดก็น่าจะราคาประมาณสองร้อยดอลลาร์


ทางกรมประมงได้เตรียมมื้อกลางวันไว้ เป็นอาหารที่ภรรยาของเถ้าแก่หัวโล้นเป็นคนทำ เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาได้ถูกแบ่งให้นั่งกันสี่โต๊ะ โต๊ะหนึ่งนั่งกันประมาณสิบกว่าคน อาหารที่เสิร์ฟส่วนมากจะเป็นผักและหอยสังข์ที่พบเจอได้ง่ายในทะเล


บนโต๊ะของฉินสือโอวได้เสิร์ฟปูคางคกกับหอยหวานด้วย พวกของบัคเคอร์ต่างก็ถามอย่างไม่พอใจว่าทำไมพวกเขาไม่มี เถ้าแก่หัวโล้นใช้หางตามองไปที่พวกเขาทีหนึ่ง แล้วบอกว่า “นี่น่ะเป็นของที่เขาเอาไว้เลี้ยงคนที่เขาถูกชะตา เกี่ยวอะไรกับพวกนายด้วย”


พวกฮับเบิล แอนดรูว์ที่นั่งโต๊ะเดียวกับฉินสือโอวต่างก็ทำท่าเห็นด้วยกับฉินสือโอวและเถ้าแก่หัวโล้น แมทธิว จินเองก็พูดออกมาอย่างมีอารมณ์ขันว่า “ดูนะ ถ้าหากยังมีคนบอกว่าพวกเราคนแคนาดาเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติอีก งั้นต้องให้พวกเขามาดูภาพในวันนี้ ความจริงได้ปรากฏแล้วว่าขอแค่คุณยอมเสียสละให้กับคนรอบข้างแล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะไม่ดูถูกคุณแน่นอน”


แคนาดามีการเหยียดเชื้อชาติ แต่คนที่เหยียดคนผิวเหลืองที่สุดนั้นไม่ใช่คนผิวขาว แต่เป็นคนอินเดีย คนอเมริกันใต้กับคนเม็กซิโก ส่วนคนที่เหยียดคนจีนมากที่สุดคือคนญี่ปุ่นกับคนเกาหลี แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่เหยียดผิว แต่เป็นดูถูกมากกว่า


เนื้อของปูคางคกจะไม่เยอะเหมือนปูจักรพรรดิและปูราชินี แต่ว่าเนื้อแน่นมาก ตอนเนื้อเข้าปากแล้วมีความรู้สึกนุ่มมาก ตอนเคี้ยวก็มีความสดใหม่อย่างบอกไม่ถูก ต่างจากเนื้อปูทะเลทั่วไปที่พอเข้าปากก็ละลายอย่างสิ้นเชิง


ฉินสือโอวกินปูคางคกไปห้าหกตัวก็อิ่มแล้ว ไม่ใช่เพราะเขาอิ่มง่าย แต่เพราะเบื้องหน้าเขากองพะเนินไปด้วยหอยหวานมากมาย เจ้าสิ่งนี้หากได้จิ้มกับซอสวาซาบิแล้วล่ะก็รสชาติดีมากๆ ความรู้สึกที่ผสมผสานกันระหว่างความเผ็ดร้อนกับความสดใหม่นั้นช่างน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ


หลังออกจากหมู่บ้านควีนแล้ว คนทั้งกลุ่มก็ได้ไปหมู่บ้านชาวประมงอีกที่ที่อยู่ไม่ไกลนัก นี่คือหมู่บ้านชาวประมงในเขตนิวฟันด์แลนที่เคยมีชื่อเสียงมาก ตอนนี้พอไม่มีอุตสาหกรรมประมงแล้ว ก็ได้กลายเป็นเมืองทรุดโทรมไปอีกแห่งหนึ่ง ทั่วทั้งหมู่บ้านมีคนอาศัยอยู่เพียงสองครอบครัวเท่านั้น


 “ดูสิ ที่นี่ต่างก็เคยเป็นฟาร์มปลาที่ดีที่สุดทั้งนั้น ตอนนี้กลายเป็นแบบไหนไปแล้วพวกคุณดูเองแล้วกัน” แมทธิว จินพูดพร้อมถอนหายใจ


ฉินสือโอวพูดกับเขาเสียงเบาว่า “หลังจากผมได้มาเยี่ยมชมที่นี่แล้ว ก็มีความคิดที่ลึกซึ้งต่อการบริหารฟาร์มปลามากกว่าแต่ก่อนมาก แต่ว่าผมไม่คิดว่านี่จะส่งผลอะไรต่อคนพวกนั้นหรอกนะ พวกเขาเป็นพวกไม่มีสามัญสำนึก!”


นี่ไม่ใช่คำใส่ร้ายลับหลังของเขา แต่เป็นความคิดที่ออกมาจากใจจริงของเขา เหมือนคุณไปบอกให้นักเพชฌฆาตว่าการฆ่าคนนั้นโหดร้ายนั่นแหละ ไม่คิดว่าเป็นคำพูดที่เสียเปล่าเหรอ?


แมทธิวหัวเราะ แล้วพูดช้าๆว่า  “ผมไม่สนหรอกว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร ผมแค่อยากใช้หมู่บ้านชาวประมงเหล่านี้บอกกับพวกเขา ถ้าไม่มีฟาร์มปลา งั้นเศรษฐกิจตามแนวชายฝั่งของแคนาดาก็จะล่มไปด้วย ทางประเทศแคนาดากับทางกรมประมงจะไม่มีทางยอมให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่! ดังนั้น ถ้าหากพวกเขายังคงทำลายฟาร์มปลา งั้นก็อย่ามาหาว่าพวกเรากรมประมงใจร้ายก็แล้วกัน!”


บทที่ 715 พนันกันอีกรอบ

โดย

Ink Stone_Fantasy

เสียงพูดของแมทธิว จินไม่ได้ดัง แต่เขาพูดคำพวกนี้ออกมาช้าๆ ทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง


ในสภาวะที่เงียบสงบมีสายฟ้าฟาดลงมากะทันหัน เบื้องหลังความดีนั้นก็มีความชั่วร้ายแฝงอยู่ ฉินสือโอวรู้สึกมาตลอดว่าแมทธิว จินเหมือนกับศาสตราจารย์ที่อายุห้าสิบกว่า ทั้งใจดีและสุขุม


แต่ทว่าในตอนนี้ที่คุณประธานสภาได้เผยให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงแล้วนั้น เขาถึงจะเพิ่งรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่รัฐคนนี้เป็นถึงคนที่เหยียบศพของศัตรูเพื่อมาถึงจุดนี้เลย เขาทำงานมาสิบกว่าปี ศพที่เขาเหยียบขึ้นมาจะมีเท่าไรแล้วนะ? ไม่รู้สิ แต่ที่แน่ๆ ต้องมีมากกว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่ท่านฉินคนนี้รู้จักอย่างแน่นอน


เมื่อได้ฟังคำพูดของแมทธิวแล้ว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาต่างก็พากันกลืนน้ำลายพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แม้แต่พวกของบัคเคอร์ ชาร์ลสและเซอร์จิโอที่วางท่ามาตลอดก็เริ่มเงียบลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่


หลังเที่ยวชมท่าเรือบาสก์มาตลอดทั้งวัน คืนวันนั้นพวกเขาก็กลับไปพักผ่อนในโรงแรมของท่าเรือ วันรุ่งขึ้นยังต้องออกเดินทางกันต่ออีก จุดหมายปลายทางในครั้งนี้เป็นที่ที่ฉินสือโอวคุ้นเคย นั่นก็คือแหลมเซนต์ชาร์ลส ที่ที่เขาเคยคิดจะมาซื้อฟาร์มปลานั่นเอง


เห็นทีคำพูดที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดของของท่านประธานสภาเมื่อวานจะทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาตกใจกันพอดู แม้ว่าแคนาดาจะเป็นสวรรค์ของเหล่านักลงทุน แต่ถ้าคิดถึงว่าเพื่อนร่วมทางอย่างท่านประธานสภาเองก็คงเป็นนักลงทุนมือฉมังเช่นกันแล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าคนแบบนี้เป็นธรรมดาที่จะไม่มีความมั่นใจ


ไม่ใช่ทุกครอบครัวที่จะเป็นเหมือนตระกูลรอธส์ไชลด์ ดังนั้นหากไม่ได้มีวาสนาที่จะเป็นเจ้าหญิงแล้วก็อย่าแม้แต่จะคิดที่จะทำตัวเหมือนเจ้าหญิงเด็ดขาด


อยู่บนเรือค่อนข้างน่าเบื่อ ฉินสือโอวจึงอยากเล่นไพ่กับพวกแอนดรูว์ แต่สุดท้ายฮับเบิลก็เข้ามาหา แล้วถามว่า “มีเวลาไหมครับ มาคุยกันหน่อย?”


ฉินสือโอวรู้ว่าเขาต้องมีเรื่องอยากคุยกับตัวเองมากแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ขึ้นเรือปุ๊บก็มาหาตัวเอง ดังนั้นจึงทำทีนิ่งเพื่อดูว่าเขาจะมาไม้ไหน


 “คุณก็รู้นะ ฉิน ผมเป็นนักลงทุนที่เล่นกับความเสี่ยง ธุรกิจอะไรก็ตามที่มีผลกำไร ผมก็ล้วนอยากจะลงทุน” ฮับเบิลพูดพร้อมรอยยิ้ม


ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วพูดว่า “เรื่องนี้ผมรู้ แล้วเกี่ยวอะไรกับผม?”


ฮับเบิลนำสมุดบันทึกที่พกติดตัวอยู่ออกมาเปิดดู ในนั้นเต็มไปด้วยข่าวสารมากมาย ตัวหลักของเรื่องนั้นก็คือบัตเลอร์ ส่วนหัวข้อหลักในนั้นก็คือโรงแรมระดับหรูในนิวยอร์กได้ทำให้ทั้งเมืองสั่นสะเทือนไปกับอาหารทะเลที่ไร้สารปนเปื้อนจากนิวฟันด์แลนด์


 “ผมอยากลงทุนกับธุรกิจของพวกคุณ” ฮับเบิลพูดพร้อมรอยยิ้ม


 “จะลงเงินเท่าไรครับ?” ฉินสือโอวถามออกไปด้วยสีหน้านิ่ง


ฮับเบิลปิดสมุดบันทึก พูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า “ตามที่พวกคุณต้องการ งวดแรกของการลงทุนอยู่ที่สิบห้าล้านดอลลาร์ขึ้นไป”


ฉินสือโอวยังคงมีสีหน้านิ่งไม่เปลี่ยน เขาหยิบบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสออกมาจากกระเป๋าเงินให้ฮับเบิลดู แตะไปที่บัตรไม่พูดอะไร เพื่อการเป็นบอกเป็นนัยว่านายทำตามที่เห็นสมควรแล้วกัน


เมื่อได้เห็นบัตรใบนี้แล้ว ฮับเบิลตะลึงจนตาค้าง และเมื่อเขาหยิบบัตรขึ้นมาดู ก็ยิ่งแปลกใจแล้วถามออกไปว่า “บัตรของLV2เหรอครับ? ถ้าหากผมจำไม่ผิด ทั่วทั้งนิวฟันด์แลนด์ มีบัตรแบบนี้ไม่เกินสามใบนี่!


ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “ตัวผมเองก็มีเหมือนกัน ดังนั้นคุณคงเข้าใจความหมายของผมใช่ไหม?”


ฮับเบิลเก็บสีหน้าแปลกใจลง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ได้เปล่งประกายมากกว่าเก่า เขาพูดว่า “งั้นผมขอเปลี่ยนวิธีการร่วมธุรกิจใหม่ ลืมคำพูดที่ผมพูดเมื่อกี้ไป ตอนนี้จะพูดใหม่แล้ว ได้ไหมครับ?”


 “คุณพูดมาเลย”


 “คุณก็รู้นะ ฉิน ผมเป็นนักลงทุนที่เล่นกับความเสี่ยง ธุรกิจอะไรก็ตามที่มีผลกำไร ผมก็ล้วนอยากจะลงทุน” ฮับเบิลทวนคำพูดของเขาเมื่อกี้ใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็เปลี่ยนคำพูดต่อท้ายใหม่ว่า “ผมมีหลายธุรกิจที่อยากลงทุน แต่ผมขาดผู้ร่วมธุรกิจที่มีความสามารถที่มากพอ!”


ฉินสือโอวรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่เป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง ไม่เหมือนกับเจ้าของฟาร์มปลาที่มาพักร้อนคนอื่นๆ ดังนั้นเขาเองก็กลับไปทำหน้านิ่งเหมือนเดิม แล้วถามว่า “จะลงเงินเท่าไรครับ?”


 “หน่วยลงทุนคือสิบล้าน ถ้าเป็นหลักร้อยล้านจะดีที่สุด” ฮับเบิลพูด


ฉินสือโอวไม่สามารถทำหน้านิ่งต่อไปได้แล้ว เขารู้ว่าการวางมาดอวดรวยของเขาเมื่อกี้ทำเกินไปนิด แม้แต่ฮับเบิลที่ผ่านคนมามากมายยังถูกเขาสยบได้ ดังนั้นไม่ควรจะวางมาดอีก จึงพูดว่า “ขอผมคิดก่อนแล้วกันนะ ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินร้อยล้านที่สามารถโยกมาใช้ได้”


ฮับเบิลไม่รีบร้อนให้เขาตัดสินใจ เขายิ้มพร้อมพยักหน้า ดวงตาเปล่งประกายไม่หยุด ไม่รู้ว่ากำลังคิดแผนเจ้าเล่ห์อะไรอยู่


ฉินสือโอวเดินออกไปจากห้องโดยสารบนเรือ เห็นเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาเริ่มส่งเสียงเอะอะกันที่กราบเรืออีกแล้ว จึงปัดมืออย่างรำคาญแล้วตะโกนออกไปว่า “เฮ้ เพื่อน เงียบๆ หน่อยได้ไหมครับ? อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์เกือบจะเกิดพายุเพราะเสียงของพวกคุณแล้ว ไหนพูดสิ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”


เนื่องด้วยขนาดที่ใหญ่ของฟาร์มปลาของฉินสือโอว ทรัพย์สินของเขา ความสัมพันธ์ของเขากับแมทธิว จิน และเนื่องด้วยครั้งที่แล้วที่สามารถชนะเงินมาจากเหล่าเจ้าของฟาร์มปลามาได้ถึงสองล้านในการพนันแค่ครั้งเดียว จึงทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาทั้งหมายตกลงปลงใจให้เขาเป็นหัวหน้า


เมื่อเห็นเขาปรากฏตัว พวกของแอนดรูว์ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คนพวกนี้ไม่รักษาคำพูด พวกเราชนะการพนัน แต่ว่าพวกเขากลับเบี้ยวไม่ยอมจ่าย ไอ้พวกสารเลว!”


 “พูดดีๆ นะ แกว่าอะไรนะ?” เซอร์จิโอจ้องด้วยสายตาเยือกเย็น “เชื่อไหมว่าหลังลงเรือฉันสามารถทำให้ลิ้นแกไปเลียหัวแกได้?”


คำพูดนี้เป็นสุภาษิตของชนพื้นเมืองอเมริกัน หมายความว่าจะตัดลิ้นของคนคนหนึ่งไปติดไว้บนหัว บ่งบอกถึงการข่มขู่ได้อย่างชัดเจน


ฉินสือโอวรู้ว่าตัวเองต้องพูดอะไรบ้างแล้ว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาทั้งหลายแม้จะดูป่าเถื่อน แต่ลึกๆ แล้วต่างก็เป็นคนซื่อกันทั้งนั้น อย่างพวกเขาสามารถต่อกรกับพวกชาวประมงได้ไม่มีปัญหา แต่เมื่อมาเจอกับคนที่ทั้งดำมืดและโหดร้ายแล้วก็หมดทางรับมือเหมือนกัน


แต่ฉินสือโอวไม่กลัว นี่ก็เพราะมีพลังโพไซดอน ขอแค่นี้พลังวิเศษนี้ เขาก็คือหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้


แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้มั่นใจก็คือความเชื่อใจต่อคนรอบข้าง นี่ก็คือเหตุผลที่เขายอมให้ฟาร์มปลาเป็นที่พักพิงของเต่ามะเฟือง ถ้าหากว่าเขาสามารถสร้างหน่วยจู่โจมกองทัพบกกับกองทหารรักษาการณ์ขึ้นมาได้แล้วล่ะก็ ยังจะต้องกลัวพวกกลุ่มใช้ความรุนแรงอีกเหรอ?


ฉินสือโอวชี้นิ้วไปที่เซอร์จิโอ แล้วพูดคำต่อคำว่า “ฆ่าคนต้องชดใช้! ติดหนี้ต้องจ่ายคืน! แพ้พนันแล้วก็ต้องควักเงินจ่าย อย่ามาเงอะงะพูดไร้สาระ! ถ้านายอยากจะใช้กำลังล่ะก็ ฉันจะเล่นเป็นเพื่อนนายเอง! แต่ฉันกลัวว่านายจะไม่กล้าเล่น!”


เซอร์จิโอหัวเราะเยือกเย็นทีหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “พวกคนผิวเหลือง นายคิดว่าตัวเอง…”


เขายังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกหยุดไว้เสียก่อน ทุกคนไม่ทันมองได้ชัด เงาของฉินสือโอววิ่งผ่านไป จากนั้นเซอร์จิโอก็ถูกคนกำคอขึ้นมาแล้วผลักไปที่หัวเรือ ร่างกายท่อนบนของเขาได้ถูกผลักออกไปห้อยคาไว้เหนือผิวน้ำ เผชิญหน้ากับคลื่นทะเลที่ปั่นป่วน


พวกของฮับเบิลรีบเข้ามาห้ามไว้ ทั้งดึงทั้งลากเพื่อพาเซอร์จิโอกลับเข้ามา บัคเคอร์ตะโกนออกมาว่า “ทุกคนต่างก็เป็นเจ้าของฟาร์มปลาเหมือนกัน มีปัญหาอะไรก็จัดการให้สมกับเป็นนักล่องเรือบนท้องทะเลหน่อย….”


ฉินสือโอวถอดเสื้อออก เผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อตัวสีดำคล้ำที่แข็งแรงราวกับเหล็กออกมา เขาจ้องไปที่บัคเคอร์อย่างเยือกเย็นแล้วพูดว่า “นักล่องเรือบนท้องทะเลใช้อาวุธอะไร?”


เมื่อได้เห็นรอยกล้ามเนื้อเป็นเส้นชัดเจนที่เต็มไปด้วยพละกำลังของฉินสือโอวแล้ว บัคเคอร์ก็ตกตะลึงจนแว่นกันแดดของเขาแทบจะแตกกระจาย


เมื่อถูกฉินสือโอวจ้อง เขาก็พูดด้วยเสียงอึกอักว่า “นั่น ไม่ใช่ ไม่ได้ใช้อาวุธ แต่ใช้การตกปลา! ใช่แล้ว ตกปลา พวกเราใช้การตกปลาในการแก้ปัญหากัน!”


ชาร์ลสก็พูดว่า “ครั้งที่แล้วนายชนะไม่ใช่เหรอ? ดีมาก ถือว่านายชนะไปก่อนตาหนึ่ง วันนี้พวกเรามาพนันกันอีกรอบ กล้าหรือเปล่า?”


ฉินสือโอวเองก็ไม่อยากมีเรื่องชกต่อย อย่างไรเสียนี่ก็เป็นกิจกรรมที่ทางกรมประมงจัดขึ้น จะต้องไว้หน้าแมทธิว จินด้วย จึงถามขึ้นว่า “แข่งอย่างไร? ฉันยินดีอย่างยิ่ง!”


บทที่ 716 มาพนันให้ฉันชนะกัน

โดย

Ink Stone_Fantasy

จากคำพูดของผู้ช่วย ทำให้แมทธิวเดินลงมาจากชั้นสอง จ้องมองไปที่กลุ่มพวกเจ้าของฟาร์มปลาด้วยสายตาที่แน่นิ่ง แต่แฝงไปด้วยพลังอำนาจ


เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้การทะเลาะวิวาทของทั้งสองฝ่ายหยุดลง แต่ทว่าได้เกิดความขัดแย้งใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือการพนันครั้งที่สอง


ถ้าจะพนันพวกไฟฟ์การ์ด สตัด หรือเท็กซัส โฮลเอ็มแล้วล่ะก็ ฉินสือโอวไม่ขอร่วมด้วยอย่างแน่นอน แต่ถ้าคนกลุ่มนี้อยากหาเรื่องใส่ตัวโดยการแข่งการตกปลาแล้วล่ะก็ งั้นเขาก็ไม่มีอะไรให้กลัว อย่างไรเสียเขาก็ชนะใสๆ ได้อยู่แล้ว


กลุ่มของพวกบัคเคอร์เองก็มีความมั่นใจมากเช่นกัน การตกปลาถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีความพิเศษในตัว ขอแค่สามารถยกเบ็ดตกปลาขึ้นมาได้ก็พอแล้ว ฉะนั้นยิ่งอายุมากก็จะยิ่งเก่งมาก เพราะการตกปลาจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ เทคนิคและความอดทนของผู้ตกสูงมาก


ชัยชนะของฉินสือโอวก่อนหน้านี้ ในสายตาของทุกคนรวมไปถึงฮับเบิลกับแมทธิว มองว่าเขาโชคดี เพราะตลอดทางพวกบัคเคอร์ก็เจอกับปลากะพงญี่ปุ่นแค่ตัวเดียวแถมยังหนีไปได้อีก เห็นได้ชัดว่าเป็นสถานการณ์ไม่ปกตินั่นเอง


ดังนั้นในครั้งนี้ เพื่อที่จะให้ได้ชัยชนะมา พวกของบัคเคอร์กับชาร์ลสจึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ในกลุ่มพวกเขาล้วนแต่เป็นพวกผู้บริหารระดับสูงกับเถ้าแก่ใหญ่ทั้งนั้น จึงมีวิธีการหาทางหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ดีมาก หลังจากพูดตกลงกันสักพักพวกเขาก็คิดวิธีที่ดีที่สุดในการพนันได้แล้ว


นั่นก็คือพนันกันตกปลาเทราต์ทะเล!


การพนันครั้งนี้จะเกี่ยวกับว่าจะตกได้หรือเปล่า แต่พนันกันว่าใครจะตกขึ้นมาได้ก่อนแทน เซอร์จิโอเข้ามาพูดว่า  “พวกฉันจะส่งคนมาคนหนึ่งเพื่อแข่งตกปลาเทราต์ทะเลกับนาย ว่ายังไง? ใครตกขึ้นมาได้ก่อนก็เป็นฝ่ายชนะ โอเค?”


ฉินสือโอวตอบรับอย่างทันทีว่า “ตกลงตามนั้น นายยังคงเป็นเจ้ามือใช่ไหม?”


เซอร์จิโอขบฟันแน่น แล้วพูดว่า “แน่นอน!”


ครั้งที่แล้วเขาเสียเงินไปถึงสี่ห้าแสนดอลลาร์แคนาดา แม้ว่าสำหรับคนระดับเขาแล้วเงินจำนวนนี้จะไม่ได้มีค่ามากมาย แต่มันเจ็บใจนี่นา อีกอย่างเงินจำนวนสี่ห้าแสนดอลลาร์นั้นก็สามารถซื้อบ้านเดี่ยวเล็กๆ ในเซนต์จอห์นได้หลังหนึ่งแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นเงินเล็กน้อยเสียทีเดียว


 “อัตราเล่นเสียคิดยังไง?” ฉินสือโอวถาม


 บัคเคอร์พูดแทรกขึ้นมาว่า “พวกเราควรจะตั้งกติกากันก่อนไม่ใช่เหรอ?”


 “กติกาพวกแกตั้งเลยแล้วกัน ฉันเอาด้วยทั้งนั้น” ฉินสือโอวจงใจวางมาดหยิ่งยโส เขามองไปที่กลุ่มคนพวกนั้นอย่างดูหมิ่นแล้วพูดว่า “อย่าหาว่าฉันไม่ได้เตือนพวกแกก่อนนะ ทุกท่าน ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวชาวประมงมาแต่ไหนแต่ไร ฟาร์มปลาของฉันในตอนนี้ก็ได้รับตกทอดมาจากคุณปู่ของฉัน ดังนั้นพวกแกไม่มีทางตกปลาชนะฉันได้อย่างแน่นอน”


 “ช่างเป็นคนหนุ่มที่โอหังเสียจริง!” คนหนุ่มที่มีเชื้อสายอิตาเลียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มว่า “บางทีพวกเราควรจะไปให้บทเรียนกับเขาเสียหน่อย ไปช่วยพระเจ้าสั่งสอนพ่อหนุ่มนั่นให้ได้รับบทเรียนเสียบ้าง”


 “หากพระเจ้าอยากให้เขาล่มจม จะต้องทำให้เขาบ้าคลั่งเสียก่อน!”


เทียบกับครั้งก่อน การแข่งตกปลาครั้งนี้จะดุเดือดกว่ามาก ครั้งก่อนก็เป็นเพียงแค่การแข่งขันที่เกิดจากคุยเล่นกันเท่านั้น แต่ครั้งนี้พวกเจ้าของฟาร์มปลาต่างก็จริงจังกันอย่างมาก แถมการแข่งขันครั้งนี้ยังได้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่คาดเดาไม่ได้ออกไปแล้ว เหลือไว้ก็เพียงแต่การแข่งขันที่พึ่งความสามารถกันจริงๆ


การแข่งขันตกปลาในทะเล เริ่มจากเลือกเขตพื้นที่ที่จะตก จากนั้นใครจะตกปลาได้ก่อนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนคนนั้น


เป้าหมายในครั้งนี้คือปลาเทราต์ทะเล เป็นปลาเทราต์สีน้ำตาลประเภทหนึ่งที่อาศัยอยู่ในทะเล ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนของทุกปีจะเป็นฤดูวางไข่ของพวกมัน ในช่วงเวลานั้นพวกมันจะว่ายออกจากทะเลไปสู่แม่น้ำ และมักจะปรากฏตัวให้เห็นอยู่บนผิวน้ำเสมอ เป็นปลาทะเลที่นิยมตกกันมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน


ฉินสือโอวเลือกเบ็ดตกปลาที่ทำจากไม้มาคันหนึ่ง เนื่องด้วยทักษะการประดิษฐ์สมัยใหม่ที่พัฒนาขึ้น และการประดิษฐ์แบบดั้งเดิมที่ค่อยๆ จางหายไป ทำให้เบ็ดไม้คันนี้มีขนาดเล็กลงเรื่อย ตรงข้ามกับราคาที่ไม่ได้น้อยลงตามเลย บนเรือยอชต์มีเบ็ดไม้อยู่เพียงแค่สองคัน ฉินสือโอวเลือกใช้คันที่มีความยาว5. 6เมตร


ก่อนหน้านี้ได้คุยอวดไว้มาก ฉินสือโอวจึงจำเป็นต้องวางท่าทางให้เหมือนมืออาชีพ เขาพึมพำบอกตัวเองว่าชีวิตคนก็เหมือนดั่งละครล้วนต้องพึ่งทักษะการแสดงทั้งนั้น เขาจึงปั้นหน้าที่เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวแล้วยืนอยู่ที่ฝั่งซ้ายของกราบเรือ ใช้หนวดปลาหมึกเป็นเหยื่อ แล้วเหวี่ยงลงไปในน้ำ


พวกบัคเคอร์ส่งคนอิตาลีที่บอกว่าฉินสือโอวโอหังก่อนหน้านี้ แอนดรูว์ไม่อยากให้เขาขาดความมั่นใจเพราะไม่รู้จักคู่ต่อสู้ จึงเข้าไปให้คำแนะนำเขาว่า “เจ้าหมอนี่ชื่อว่านิโคลัส ทิชซีโม วิลเลียม เป็นนักตกปลาอาชีพ เขาเคยได้รับรางวัลนักตกปลามือทองมาแล้วในการแข่งขันตกปลานานาชาติ มีความเชี่ยวชาญในการตกปลาน้ำตื้นมาก นายต้องระวังด้วยล่ะ”


นิโคลัสไม่เสียชื่อที่ถูกเรียกว่านักตกปลาอาชีพ ตัวเขานั้นได้พกเบ็ดตกปลาติดตัวมาด้วย เป็นเบ็ดตกปลาที่ทำจากเหล็กคาร์บอนที่ใช้พอลิเมอร์ผสมคาร์บอนไฟเบอร์เป็นวัสดุในการผลิต น้ำหนักเบาใช้งานง่าย แข็งแรง ต้านแรงดึงของปลาได้ดี ราคาของเบ็ดประเภทนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณคาร์บอนที่ใช้ในการผลิต ดูจากความยืดหยุ่นของเบ็ดเขาแล้ว ราคาไม่เบาแน่นอน


ในฐานะนักตกปลาอาชีพ นิโคลัสจึงมีจรรยาบรรณในอาชีพมาก เขาเริ่มจากเดินเข้ามาจับมือทักทายกับฉินสือโอวก่อน จากนั้นก็พูดว่า “คุณแน่ใจเหรอครับว่าจะตกปลาที่นี่? ตามกติกาแล้ว พวกเราจะต้องพายเรือเล็กออกไปเองเพื่อไปตกปลานะครับ”


ริมฝีปากของฉินสือโอวกระตุกขึ้นมา ให้ตายสิแล้วทำไมไม่รีบบอกกัน ให้เขาเก๊กท่าอยู่ได้ตั้งนาน


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาที่รอดูเรื่องสนุกกันอยู่ต่างก็พากันหัวเราะร่าออกมา ฝั่งนิโคลัสไม่ได้หัวเราะฉินสือโอว แต่ยังคงพูดเตือนอย่างใจดีว่า “ผมเลือกใช้เหยื่อปลอมรูปแมลง พ่อหนุ่ม คุณต้องระวังนะครับ ผมเคยใช้เหยื่อแบบนี้ทำสถิติการตกปลาได้ใน 22 วินาทีมาแล้ว”


นี่เป็นเพียงการเสแสร้งว่าใจดีเท่านั้น การที่นิโคลัสพูดแบบนี้ เป็นการบ่งบอกว่าฉินสือโอวไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา แล้วใช้สถิติการตกปลาของเขามาสร้างความกดดันให้กับฉินสือโอวเสียมากกว่า


แต่ว่าฉินสือโอวไม่ได้สนใจ เขาเก็บสายเบ็ดไปพลางหัวเราะไปแล้วพูดว่า “สถิติของผมคือ 2 วินาที มีครั้งหนึ่งผมเห็นฝูงปลาค็อด ผมโยนตะขอลงไปก็ตกได้ตัวหนึ่งเลยทันที”


นิโคลัสทำใจดีต่อไม่ไหวแล้ว นี่มันเป็นการพูดยั่วโมโหกันชัดๆ ไม่ใช่เหรอไง? ฉันพูดถึงสถิติในการแข่งขันตกปลา ใครจะไปหย่อนเบ็ดใส่ฝูงปลาในการแข่งขันแบบนั้นกัน?


เซอร์จิโอที่เป็นเจ้ามือได้กำหนดอัตราการได้เสียอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้ตัวเขาเองก็เลี่ยงความเสี่ยงด้วยเช่นกัน กติกามีหลากหลายมาก เป็นการลงเงินพนันตามช่วงเวลา เช่นถ้าหากว่าฉินสือโอวสามารถตกปลาได้ภายในครึ่งชั่วโมง อัตราการได้เสียคือ 1 ต่อ 10 แต่หากตกได้หลังผ่านไปห้าชั่วโมงแล้วล่ะก็ อัตราการได้เสียคือ 1 ต่อ 1.2


ส่วนฝั่งนิโคลัสนั้นอัตราได้เสียจะน้อยกว่า หากตกนิโคลัสตกปลาได้ภายในครึ่งชั่วโมง อัตราได้เสียคือ 1 ต่อ 2.2 และหากตกได้หลังจากเวลาผ่านไปห้าชั่วโมงแล้ว อัตราการได้เสียคือ 1 ต่อ 1.1 อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงนักตกปลาอาชีพที่เคยได้รับรางวัลนักตกปลามือทองมาก่อน อัตราการได้เสียจึงต่ำเป็นธรรมดา หากไม่นับฉินสือโอวแล้ว แม้แต่ฮับเบิลกับแมทธิวเองก็คิดว่าเขาจะชนะเช่นกัน


นอกจากนี้แล้ว เซอร์จิโอเองก็เริ่มมีประสบการณ์เช่นกัน การลงพนันให้กับทั้งสองฝ่ายมีข้อกำหนด สามารถลงได้สูงสุดที่หนึ่งแสนดอลลาร์


ฉินสือโอวยักๆ ไหล่ ช่างน่าเบื่อเสียจริง ชนะก็ได้เงินไม่เท่าไรเอง เขาหยิบกระดาษมาใบหนึ่งเขียนชื่อตัวเองลงไปแล้วยื่นให้กับเซอร์จิโอ เขาวางเดิมพันข้างตัวเอง ว่าจะตกปลาได้ภายในครึ่งชั่วโมง เงินเดิมพันคือหนึ่งแสนดอลลาร์แคนาดา!


ครั้งนี้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมจำเป็นต้องสนับสนุนเขาแล้ว เพราะการพนันครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากพวกเขาเอง ถ้าไม่ใช่เพราะอยากจะออกหน้าให้กับพวกเขา ฉินสือโอวก็คงไม่มีเรื่องขัดแย้งกับพวกคนของเซอร์จิโอแน่นอน


พวกของแอนดรูว์กำลังเตรียมจะลงเงินเดิมพัน ฉินสือโอวลากเขาไว้ พูดกับเขาเสียงเบาว่า “บอกทุกคนด้วยนะว่าไว้ใจฉันได้! ครึ่งชั่วโมงจบการแข่งขันแน่นอน!”


คนทั้งกลุ่มพากันกัดฟัน แล้วยื่นกระดาษที่วางเดิมพันว่า ‘ฉินสือโอวจะชนะภายในครึ่งชั่วโมง’ ให้เซอร์จิโอ นี่ถือว่าเป็นการสนับสนุนเขาแล้วกัน อย่างไรเสียเขาก็ถือว่าออกหน้าให้พวกเขานี่นา


ทางฝั่งของพวกเจ้าของฟาร์มปลาที่มีฟาร์มเพื่อพักร้อนพากันยิ้มแหยๆ และส่ายหน้า ถ้าปลาเทราต์ทะเลตกง่ายขนาดนั้นพวกเขาจะเลือกปลาชนิดนี้ในการแข่งตกปลาเหรอไง? เหมือนกับปลาแซลมอนแปซิฟิก ไม่กี่ปีมานี้ปลาเทราต์ทะเลที่ว่ายกลับไปวางไข่ได้เผชิญกับความเสี่ยงในการดำรงชีวิต


ตั้งแต่ที่ราบแพร์รีแคนาดาจนถึงแนวชายฝั่งทะเลของนิวฟันด์แลนด์ จำนวนปลาเทราต์ทะเลได้ลดลงไปถึงแปดส่วน ทำให้ทางกรมประมงจำเป็นต้องจำกัดปริมาณในการจับปลาประเภทนี้ลง ถึงขั้นยอมที่จะปิดฟาร์มปลาแซลมอนแปซิฟิกที่กำลังรุ่งโรจน์ในช่วงนี้ลงด้วย


เพื่อเป็นการสนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้ เรือยอชต์ได้ลดความเร็วลงมา หยุดเรือไว้บริเวณชายฝั่งทะเลให้กับทั้งสองคน ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่ได้อยู่บนเรือเช่นกัน พวกเขาต่างคนต่างพายเรือลำเล็กออกไปคนละลำ เพื่อไปหาจุดที่ตกปลาด้วยตัวเอง


บทที่ 717 ถามคำเดียวว่าพวกคุณยอมแพ้หรือยัง

โดย

Ink Stone_Fantasy

นิโคลัสได้เลือกตกปลาในจุดที่ห่างจากแม่น้ำไม่ไกลมาก ในฤดูแบบนี้จุดแบบนี้จะต้องมีปลาเทราต์ทะเลอาศัยอยู่แน่นอน


ไม่เสียแรงที่เจ้าหมอนี่ได้ชื่อว่าเป็นนักตกปลาอาชีพ แค่ตกปลาก็ยังต้องงัดกลยุทธ์ออกมาใช้ เขาบอกฉินสือโอวว่าจะใช้เหยื่อปลอมแมลงบิน แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้ใช้เหยื่อนี้ในการตกปลาเทราต์ทะเล แต่ใช้เป็นเหยื่อตกปลาไหลทรายก่อน


แต่เรื่องตกปลาเขาไม่ได้พูดเกินจริงเลยจริงๆ หลังจากเหยื่อลงน้ำไปแล้วไม่ถึงสองนาที สายเบ็ดก็ตึงแล้ว นิโคลัสรีบยกเบ็ดขึ้นมา บนนั้นมีปลาไหลทรายตัวขนาดกลางตัวหนึ่งห้อยอยู่


เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมต่างก็พากันใจเต้นรัวขึ้นมา ส่วนทางฝั่งชาร์ลสนั้นกลับเปี่ยมไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจ


ปลาไหลทรายเป็นอาหารที่ปลาเทราต์ทะเลชอบมากที่สุด หากมีปลาตัวเล็กชนิดนี้อยู่ในมือแล้ว การตกปลาครั้งนี้ก็เท่ากับว่านิโคลัสนำไปก้าวหนึ่งแล้ว


การใช้เหยื่อปลอมแมลงบินในการตกปลาไหลทราย ก็ถือได้ว่านิโคลัสนั้นมีฝีมือที่ดีแล้ว


ปลาประเภทนี้มีรูปร่างทรงหลอดที่ปกคลุมไปด้วยลายจุดแนวตั้งลายใหญ่สีส้มกับสีเทา บริเวณด้านล่างของกลางลำตัวจะมีลายจุดสีฟ้าอยู่ ครีบบริเวณด้านหน้ามีขนาดยาวมาก หน้าตาค่อนข้างคล้ายกับปลาไหลทั่วไป


การจับปลาชนิดนี้สามารถจับได้โดยการหว่านแหหรือไม่ก็รอจนน้ำลดแล้ว ไปขุดหาในทรายบริเวณเส้นต่อระหว่างน้ำทะเลกับแนวชายหาด เพราะพวกมันสามารถมุดเข้าไปในทรายได้ โดยปกติพวกมันมักจะมุดเข้าไปในผิวทรายเพื่อหลบศัตรูตามธรรมชาติ การจะใช้เบ็ดตกปลาจับพวกมันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


โดยปกติแล้วพวกปลาไหลทรายจะอาศัยอยู่กันเป็นฝูง หลังจากตกได้แล้ว นิโคลัสจึงโยนเหยื่อลงไปต่ออีก ทำให้สามารถตกได้ติดต่อกันอีกหลายตัว เสร็จแล้วก็จับพวกมันไปไว้ในตะกร้าเหยื่ออย่างมืออาชีพ


ตะกร้าเหยื่อเป็นกล่องไม้กล่องหนึ่ง ด้านข้างกล่องมีรูที่เล็กมากอยู่เพื่อให้น้ำทะเลสามารถซัดเข้าไปแล้วก็ไหลออกมาได้ เพื่อให้ปลาไหลทรายสามารถมีชีวิตอยู่ได้


นิโคลัสทั้งตกเหยื่อล่อทั้งจัดการตะกร้าใส่เหยื่อ จากนั้นก็นำทุ่นลอยน้ำออกมา นำตะกร้าใส่เหยื่อไปผูกไว้แล้วให้มันลอยอยู่ข้างๆ แบบนี้ไม่ว่าเมื่อไรถ้าเขาต้องการจะใช้เหยื่อล่อ แค่ยื่นมือออกไปก็ได้แล้ว


เมื่อเทียบกับความเป็นมืออาชีพของอีกฝ่ายแล้ว ทางฉินสือโอวก็เสแสร้งเข้าขั้นเช่นกัน เขาพายเรือแล่นไปบนทะเลเรื่อยๆ ทำทียื่นมือลงไปในน้ำเพื่อสัมผัสอะไรสักอย่างบ้าง ไม่ก็เพ่งมองลงไปในน้ำบ้าง ไม่ก็ขยับจมูกดมกลิ่นบ้าง เหมือนกับว่ากำลังหาอะไรอยู่


แน่นอนว่า ความจริงแล้วฉินสือโอวได้แอบปล่อยพลังโพไซดอนลงไปในน้ำเพื่อควบคุมน่านน้ำทะเลบริเวณรอบๆ และเพื่อหาปลาเทราต์ทะเลเรียบร้อยแล้ว


พวกฝูงปลาแฮร์ริ่งกับปลาซาบะฝูงใหญ่ได้มาปรากฏตัวอยู่ในเขตน้ำที่พลังโพไซดอนควบคุมอยู่ ฉินสือโอวไล่พวกมันไป ให้ตายเถอะ ไม่ว่าจะที่ไหนก็มีแต่เจ้าพวกนี้เต็มไปหมด


ฉินสือโอวเริ่มตามหาปลาเทราต์ทะเลก่อนทันที สุดท้ายได้ไปเจอกับปลากะพงญี่ปุ่นที่ไม่กี่วันก่อนพวกของบัคเคอร์อยากตกได้มากแม้แต่ในฝัน ปลาพวกนี้ก็ชอบกินปลาไหลทรายเช่นกัน เขาจึงไล่พวกมันไปยังจุดที่นิโคลัสอยู่ ให้ปลาเทราต์ทะเลหาอาหารเจอ


ในเมื่อที่นี่มีปลาไหลทรายและยังมีปลากะพงญี่ปุ่นอีก งั้นก็คงมีปลาเทราต์ทะเลไม่น้อยเช่นกัน เขาจึงอดทนแล้วตามหาต่อไป


สายเบ็ดของนิโคลัสถูกดึงเข้าไปในน้ำ แม้สีหน้าเขาจะไม่เปลี่ยนไปแต่สายตากลับดูเฉียบคมขึ้นมาทันที เขาวิเคราะห์ดูแรงดึงของปลาที่อยู่ในน้ำ จากนั้นก็รีบหมุนรอกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว


พวกของบัคเคอร์นั้นเต็มไปด้วยสีหน้าดีใจสุดขีด ตะโกนออกมาพร้อมกันว่า “ต้องเป็นปลาเทราต์ทะเลติดเบ็ดแล้วแน่เลย!”


 “ชนะแล้ว!”


 “จัดการเจ้าหมอนั่นเลย!”


เวลาที่พวกเขาเดิมพันไว้ข้างนิโคลัสนั้นไม่เหมือนกัน แต่พวกเขาไม่สนใจเรื่องการแพ้ชนะแล้ว ขอแค่นิโคลัสตกปลาเทราต์ทะเลขึ้นมาได้ก่อนฉินสือโอว นั่นก็เท่ากับชนะแล้ว!


น่าเสียดาย หลังจากนิโคลัสดึงปลาขึ้นมาได้แล้ว กลับเป็นปลากะพงญี่ปุ่นที่มีลำตัวสีน้ำเงินเสียอย่างนั้น ปลากะพงญี่ปุ่นตัวนี้ขนาดตัวไม่เล็กเลย เกือบจะมีขนาดยาวครึ่งเมตรได้ มันสะบัดหางอยู่ตรงนั้น เหมือนกำลังตบหน้าบัคเคอร์กับชาร์ลสอยู่อย่างไรอย่างนั้น


เมื่อวานซืนนี้ พวกเขาตกมาตลอดทางก็ยังตกปลาชนิดนี้ไม่ได้เลยนี่นา


แต่ทว่าการมีปลามาติดเบ็ดก็คือเรื่องดี ทางฝั่งฉินสือโอวเพิ่งจะหย่อนเบ็ดลงเท่านั้นเอง ดังนั้นพวกเจ้าของฟาร์มปลาพักร้อนจึงดีใจขึ้นมาอีกรอบ


พวกของแอนดรูว์นั้นดีใจไม่ออก ท่าทีของฉินสือโอวนั้นดูไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย พวกเขาต่างก็รู้ว่าการใช้ปลาไหลทรายมาตกปลาเทราต์ทะเลนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงพากันส่งสายตาต่างๆ นานาให้กับเขา เพื่อบอกเขาว่าให้ไปตกปลาไหลทรายสักสองตัวตามนิโคลัส


บัคเคอร์มองไปที่พวกของแอนดรูว์อย่างเย้ยหยัน ยิ้มแล้วพูดว่า “ต่อให้เขาตกปลาไหลทรายได้ แต่เขามีตะกร้าใส่เหยื่อเหรอ? เขาได้เตรียมน้ำมันหมักเหยื่อไหม? ต้องรู้เรื่องพวกนี้ถึงจะเรียกว่ามืออาชีพ ทุกท่าน บางทีพวกแกอาจจะรู้ว่าควรจะจับปลาอย่างไร…”


 ‘ซู่’ เสียงน้ำดังขึ้นตัดบทคำพูดของบัคเคอร์ เขาหันหน้ากลับไปมอง มองเห็นที่ปลายสายเบ็ดของฉินสือโอวมีปลาอยู่ตัวหนึ่ง ลำตัวคล้ายกระสวย เกล็ดปลาสีเทาดำออกขาว ลำตัวเต็มไปด้วยลายจุดสีเข้ม–ปลาเทราต์ทะเล!


ฉินสือโอวยกปลาเทราต์ทะเลในมือขึ้นมา ตะโกนไปทางพวกเจ้าของฟาร์มปลาทั้งหลายว่า “ตอนนี้ฉันจะถามพวกแกแค่ว่า ยอม! หรือ! ยัง?!”


ดั่งนกแก้วไร้เสียง!


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาที่มีเซอร์จิโอเป็นแกนนำต่างก็จ้องไปที่ปลาเทราต์ทะเลที่กระโดดโลดเต้นอย่างตกตะลึง ใบหน้าข้างซ้ายเขียนไว้ว่าไม่อยากจะเชื่อ ส่วนใบหน้าข้างขวาก็เขียนไว้ว่าเหลวไหลสิ้นดี คิดว่าในใจคงกำลังด่าแม่กันอยู่เป็นแน่


บัคเคอร์อยากจะพูดอะไรบ้าง แต่สุดท้ายก็แค่ลูกกระเดือกสั่นไปมา แล้วพบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออกเลย


หลังเจ้าของฟาร์มปลาของพวกแอนดรูว์กับโดนัลด์เงียบไปได้ชั่วครู่ ก็ส่งเสียงโห่ร้องยินดีออกมา คนทั้งกลุ่มพากันโห่ร้องเสียงหลง ทั้งแท็กมือทั้งปรบมือ เจ้าของฟาร์มปลาที่ใส่เสื้อยืดสกรีนลายลูฟี่ไว้ก็ร้องหอนเลียนแบบหมาป่าออกมา


 “บรู้ววว! ทำได้ดีมาก ฉิน คุณคือที่หนึ่ง! คุณคือสุดยอดนักตกปลา!”


 “สมาคมนักตกปลานานาชาติควรจะมอบเบ็ดตกปลาระดับไดมอนด์ให้คุณ! รางวัลนักตกปลามือทองอะไรกัน เทียบกับคุณแล้วก็ขี้หมานี่เอง!”


 “ใครก็ได้บอกผมทีสิ นับจากเวลาเริ่มแข่งตอนนี้ผ่านมากี่นาทีแล้ว?!”


 “12 นาที! บรู้ววววววว!”


นิโคลัสที่มองปลาเทราต์ทะเลตัวใหญ่ที่กระโดดโลดเต้นในมือของฉินสือโอวก็ตกตะลึงเช่นกัน โอ้พระแม่มารี เจ้าหมอนี่มันโชคดีหรือว่ามีประสบการณ์มากกว่าตัวเองเยอะกันแน่? หรือว่าเขาจะเป็นนักตกปลามือดีที่กลับชาติมาเกิดหรืออย่างไร?


นี่มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย!


การพนันไม่พึ่งหลักวิทยาศาสตร์ นักพนันคือกลุ่มคนที่งมงายที่สุด ดังนั้นฉินสือโอวชนะก็คือชนะ พวกของเซอร์จิโอจึงทำได้แค่ยอมรับในความพ่ายแพ้!


แน่นอนว่า พวกเขาจะเบี้ยวไม่ยอมจ่ายอีกก็ได้ แต่ครั้งนี้แมทธิว จินเองก็เดิมพันว่าฉินสือโอวจะชนะเช่นกัน


ฉินสือโอวถือปลาเทราต์ทะเลที่กระโดดโลดเต้นขึ้นไปบนเรือ แล้วถามเซอร์จิโอว่า “เพื่อน ฉันชนะแล้ว ใช่ไหม?”


เซอร์จิโอฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “เหอๆ เหอๆ”


ฉินสือโอวหันไปถามนิโคลัสที่เพิ่งขึ้นเรือมาอีกว่า “นี่คือปลาเทราต์ทะเลใช่ไหม?”


นิโคลัสค่อนข้างไม่ค่อยพอใจ จำเป็นต้องหยามหน้ากันขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่มีจรรยามารยาท


แต่ทว่าเขาก็ยังต้องพูดตามความจริง จึงพูดออกไปอย่างเลือกไม่ได้ว่า “ใช่แล้ว นี่คือปลาเทราต์ทะเล คุณชนะแล้ว”


ฉินสือโอวปลดตะขอออกมาจากปากของปลา สะบัดมือปล่อยปลากลับลงไปในทะเล เขาเห็นนิโคลัสมีสีหน้าประหลาดใจ จึงยิ้มแล้วพูดว่า “คุณไม่เห็นเหรอว่าสีลำตัวของมันเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแล้ว? นี่ก็หมายความว่ามันใกล้จะวางไข่แล้ว ในเมื่อพวกเรารู้ผลการแข่งขันแล้ว ก็ต้องปล่อยมันกลับไป”


ปลาเทราต์ทะเลก็เหมือนกับปลาแซลมอนแปซิฟิก เป็นปลาที่เกิดในแม่น้ำและโตในทะเล พวกมันอาศัยอยู่ในทะเล แต่จำเป็นต้องไปวางไข่ในแม่น้ำ แต่ไม่เหมือนกับปลาแซลมอนแปซิฟิกก็ตรงที่แม้ว่าจะไปวางไข่ที่แม่น้ำ แต่ก็ยังต้องว่ายกลับมาในทะเลเป็นครั้งคราวเพื่อหาอาหาร


ปลาชนิดนี้ตอนที่อาศัยอยู่ในทะเลนั้น ลำตัวจะมีสีเงินเป็นประกาย แต่พอเข้าไปสู่น้ำจืดแล้วสีจะเข้มขึ้น และยิ่งอาศัยอยู่ในน้ำจืดนานเท่าไรสีก็จะยิ่งเข้มมากขึ้นเท่านั้น นี่ก็หมายความว่าใกล้จะถึงเวลาที่จะวางไข่แล้ว


ปลาตัวนี้ที่ฉินสือโอวตกได้ เป็นสีน้ำตาล ก็หมายความว่ามันใกล้จะวางไข่แล้วนั่นเอง


แมทธิว จินรู้ถึงเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าด้วยความชื่นชม เขารู้สึกว่าความคิดในการอนุรักษ์ปลาของเพื่อนฉินนั้นไม่เลวเลย เป็นคนที่ควรค่าแก่การส่งเสริม


ทั้งปลาเทราต์ทะเล ปลาแซลมอนแปซิฟิกและยังมีปลาไหลทรายที่เป็นอาหารของพวกมันอีก ตอนนี้ปลาพวกนี้ล้วนเป็นทรัพยากรที่ต้องคุ้มครองในอุตสาหกรรมประมง หากจับได้ตามปริมาณที่กำหนดแล้วก็ห้ามจับอีกเป็นอันขาด ห้ามจับลูกปลา ปลาที่กำลังจะวางไข่ยิ่งห้ามจับ


บทที่ 718 เกาะน้ำแข็งอัคคี

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอววางเดิมพันไม่เยอะ แค่หนึ่งแสนดอลลาร์แคนาดา ตกปลาเทราต์ทะเลได้ในครึ่งชั่วโมง ก็ชนะได้มาแค่หนึ่งล้านดอลลาร์ ครั้งที่แล้วเขาแทบจะไม่ต้องออกแรงเลยยังได้มาตั้งสองล้านดอลลาร์


แต่ผลกระทบในครั้งนี้ต่างกับครั้งก่อนมาก เพราะครั้งที่แล้วพวกของแอนดรูว์ต่างก็พากันเดิมพันว่าเขาจะแพ้ แต่ครั้งนี้กลับเดิมพันว่าเขาจะชนะ ทำให้ได้กำไรมาพร้อมกันกับเขาด้วย!


เงินที่เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาวางเดิมพันไว้ไม่ถือว่ามาก แอนดรูว์เดิมพันไว้สองหมื่น โดนัลด์เดิมพันไว้สองหมื่นห้า ที่เดิมพันไว้เยอะที่สุดคือผู้ชายที่ใส่เสื้อยืดสกรีนลายลูฟี่ เขาเดิมพันไว้สี่หมื่นดอลลาร์ สุดท้ายจึงได้เงินมาสี่แสน


 “ทำไมคุณถึงมั่นใจในตัวผมขนาดนี้ครับ?” ฉินสือโอวพูดพร้อมกับมองไปที่ชายคนนั้นอย่างตื้นตัน


 เขาพูดว่า “ตอนเหตุการณ์พายุที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ครอบครัวของน้องสาวผมทั้งครอบครัวอยู่บนเรือลำน้ำ คุณช่วยชีวิตพวกเขาไว้ แน่นอนว่าผมต้องเดิมพันว่าคุณจะชนะ!”


ฉินสือโอวถามอย่างแปลกใจว่า “แล้วทำไมครั้งที่แล้วคุณถึงไม่วางเดิมพันข้างผมล่ะครับ?”


เขาจำได้แม่นเลยว่าพนันครั้งก่อน คนที่วางเดิมพันว่าเขาจะชนะมีแค่ฮับเบิลกับแมทธิวเท่านั้น


“ครั้งที่แล้วน่ะคุณเป็นคนหาเรื่องเอง ใครจะไปคาดคิดว่าไอ้คนโชคร้ายสองคนนั้นจะตกปลากะพงญี่ปุ่นไม่ได้เลยตลอดทาง?! แม้ผมจะสนับสนุนคุณ แต่ก็ไม่ควรจะหาเรื่องตายไปพร้อมกับคุณนี่นา!”


นี่ก็คือวิธีคิดของคนแคนาดา มิตรภาพก็ส่วนมิตรภาพ ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ มิตรภาพสามารถส่งผลต่อธุรกิจได้ก็จริง แต่ก็มีขีดจำกัดเช่นกัน


อย่างเช่นการพนันครั้งก่อน ชายลูฟี่คิดว่าฉินสือโอวต้องแพ้อย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกดีให้กับฉินสือโอวแค่ไหน แต่ก็ยังเดิมพันว่าเขาจะแพ้ ครั้งนี้ฉินสือโอวมีโอกาสที่จะชนะ แม้ว่าโอกาสชนะจะมีน้อย แต่เพราะมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ส่งผลให้เขาพร้อมที่จะสนับสนุนฉินสือโอว


เซอร์จิโอโทรศัพท์หาเลขาให้ทำการโอนเงินให้ด้วยสีหน้าซีดเซียว เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาที่ได้รับเงินต่างก็พากันโห่ร้องยินดีออกมา ดีใจกันสุดขีด


นิโคลัสเข้ามาแสดงความยินดีกับฉินสือโอวที่เขาชนะ จากนั้นก็ถามต่อด้วยความอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงตกปลาเทราต์ทะเลได้เร็วขนาดนั้น


นี่ไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์เอาเสียเลย ตอนกลางวันปลาเทราต์ทะเลจะหลบซ่อนตัวอยู่ใต้ท้องทะเล พอหิวก็จะไปหาปลาไหลทรายที่อยู่ในทรายใต้ท้องทะเลกินเป็นอาหาร ถึงตอนกลางคืนจึงจะว่ายขึ้นมาหาอาหารกินบนผิวน้ำ ดังนั้นเวลาที่เหมาะแก่การตกปลาเทราต์ทะเลมากที่สุดก็คือตอนกลางคืน


แน่นอนว่าคำอธิบายที่ฉินสือโอวให้ไปนั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เขาเริ่มพูดถึงตั้งแต่รุ่นทวดของเขา แล้วก็ยกหลักการที่เถ้าแก่หัวโล้นสอนเขาหาปูคางคกมาอ้าง หลักๆ ก็คือยกเรื่องจิตนิยมต่างๆ นานามาอ้างไปเรื่อย


นิโคลัสฟังคำพูดของเขาอย่างงุนงง สุดท้ายฉินสือโอวจึงตบไปที่บ่าเขาเบาๆ แล้วพูดว่า “ไว้วันหลังผมให้บันทึกลับกับคุณเล่มหนึ่ง ชื่อว่า ‘บทคุณธรรม’ ขอแค่คุณศึกษาให้ถ่องแท้ รับรองเลยว่าแม้แต่ปลาหมึกยักษ์ในทะเลลึกก็ตกได้สบายๆ ไม่มีปัญหา!”


 “ขอบคุณครับ ฉิน ทำไมคุณถึงดีกับผมแบบนี้ครับ?” นิโคลัสพูด


ฉินสือโอวถอนหายใจเฮือกหนึ่ง พูดว่า “คงเป็นพรหมลิขิตมั้งครับ ฟาร์มปลาของผมก็มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่านิโคลัสเหมือนกัน แต่ทว่าเขาเป็นนักเต้นนะครับ พวกคุณมีชื่อเดียวกัน ทำให้ผมมีความรู้สึกดีๆ ให้ด้วย”


นิโคลัสเป็นคนค่อนข้างหยิ่งผยอง แต่เขาก็เหมือนกับนักกีฬาทั่วไป เข้ากับคนได้ง่าย คุณเก่งผมจึงนับถือคุณ และพร้อมจะเป็นเพื่อนกับคุณ


ดังนั้น เขาจึงรีบย้ายข้างอย่างรวดเร็ว ไปคลุกคลีอยู่กับฝั่งเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมแทน อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้สนิทสนมกับพวกชาร์ลสอยู่แล้ว


พอเป็นแบบนี้ทำเอาฉินสือโอวรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเลย เมื่อกี้ที่ตัวเองใช้นิโคลัสเต่ารุ่นที่สี่เพื่อพูดแกล้งเขา ไม่ค่อยดีหรือเปล่า?


ฮับเบิลเองก็ย้ายพวกมาอยู่กับเขาด้วย เขาเข้ามาแสดงความยินดีกับฉินสือโอว ฉินสือโอวถามเขาว่าได้เงินมาเท่าไร ฮับเบิลหัวเราะร่าออกมาแล้วพูดว่า “ครั้งนี้ผมคาดการณ์ผิดไป เสียไปห้าหมื่นดอลลาร์…”


“คุณเดิมพันว่าผมจะแพ้เหรอครับ?!” ฉินสือโอวรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่น่าสนใจจริงๆ ความคิดช่างแตกต่างกับคนทั่วไปเสียจริง


 “ไม่ใช่ครับ ผมเดิมพันว่าคุณจะตกปลาได้ภายในหนึ่งชั่วโมงครับ”


“ก็เข้าใจได้ครับ คุณยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวผมมากนักนี่นา ผมเห็นใจคุณนะ แต่ดีที่ห้าหมื่นก็ไม่ถือว่าเยอะมาก“


“ไม่ครับ เงินห้าหมื่นนี่เสียได้คุ้มค่ามากครับ ถือว่าเป็นค่าเล่าเรียนแล้วกันครับ ผมเองได้รู้เกี่ยวกับตัวคุณมากขึ้น ทำให้เริ่มมีความมั่นใจในหลายๆ เรื่องด้วย” ใบหน้าของฮับเบิลเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อย่างกับว่าเขาชนะได้เงินมาอย่างไรอย่างนั้น


ปลายทางในครั้งนี้คือแหลมเซนต์ชาร์ลส์ เรือแล่นออกจากเซนต์ลอว์เรนซ์เข้าไปทางฝั่งเหนือ เลียบไปทางช่องแคบกาบีลาเพื่อเลี้ยวเข้าไปทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากแล่นผ่านแม่น้ำสายยาวไปก็ถึงท่าเรือของเมืองนี้แล้ว


นิวฟันด์แลนด์เป็นเกาะขนาดใหญ่ นอกจากเซนต์จอห์นแล้ว เมืองใหญ่ๆ ส่วนมากก็แทบจะเป็นเมืองท่าเสียหมด


ทางตอนเหนือของแหลมเซนต์ชาร์ลส์ ห่างจากพื้นดินออกไปประมาณสี่สิบกิโลเมตร มีเกาะเล็กๆ อยู่เกาะหนึ่ง เป็นเกาะที่มีตำแหน่งคล้ายๆ กับเกาะแฟร์เวล เกาะนี้มีชื่อว่า ‘เกาะน้ำแข็งอัคคี’


พอได้ยินชื่อนี้เท่านั้น ฉินสือโอวก็หัวเราะจนหยุดไม่อยู่ นี่ไม่ใช่เกาะที่มีชื่อเสียงในนวนิยายของคุณปู่จินย้งเหรอ? คนแคนาดาตั้งชื่อได้น่าสนใจจริงๆ แถมยังให้ความรู้สึกเหมือนบทกวีอีกต่างหาก


สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ เหตุผลที่ตั้งชื่อเกาะนี้ว่าเกาะน้ำแข็งอัคคี ที่เป็นชื่อเดียวกับคุณปู่จินย้งตั้ง ก็คือเกาะเล็กๆ เกาะนี้ตั้งอยู่ในเขตขั้วโลกเหนือ ทำให้มีแผ่นน้ำแข็งลอยมาบนน้ำทะเลตลอดปี และบนเกาะยังมีภูเขาไฟที่ดับไปแล้วอยู่ลูกหนึ่งด้วย ชื่อน้ำแข็งอัคคีจึงถูกตั้งขึ้นมาเพราะเหตุนี้


พื้นที่ของเกาะน้ำแข็งอัคคีมีขนาดเล็กกว่าเกาะแฟร์เวล มีความยาวเพียงแค่สิบกว่ากิโลเมตร ความกว้างก็ประมาณห้ากิโลเมตรกว่าๆ เท่านั้น เป็นเกาะขนาดเล็กในตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ที่แทบจะหาเกาะนี้ไม่เจอบนแผนที่


เกาะเล็กๆ เกาะนี้มีหลายจุดที่คล้ายคลึงกับเกาะแฟร์เวล บนนั้นก็มีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่เช่นกัน ชื่อว่าเมืองกาบีลา เห็นได้ชัดว่าได้ชื่อมาจากช่องแคบกาบีลาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนั่นเอง


คนที่รับผิดชอบต้อนรับพวกเขาก็คือนายกเทศมนตรีของเมืองนี้ชื่อว่าพาลี ลาร์ค เป็นชายผิวขาวชาวอารยันอายุสี่สิบกว่าปี


ที่แคนาดาไม่มีธรรมเนียมว่าเจ้าหน้าที่รัฐในท้องที่จะต้องเลี้ยงอาหารกลางวันต้อนรับ พวกของฉินสือโอวจึงต้องจัดการเรื่องนี้กันเอง บนเรือมีพ่อครัวอยู่ อยากทานอะไรก็บอกเขาก็พอ ขอแค่สามารถทำได้เขาก็จะพยายามทำออกมาให้ตามความต้องการของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลา


พาลี ลาร์คก็มาร่วมทานอาหารกับพวกเขาด้วย เขาทานสเต๊กเนื้อแพรมโรสแมรีกับสลัดไก่สไตล์บราซิล ท่านนายกทานด้วยความรู้สึกที่อิ่มอกอิ่มใจ ท่าทางเต็มไปด้วยความดีอกดีใจ


ดูจากเรื่องนี้ ทำให้ฉินสือโอวรู้ว่าท่านนายกคนนี้คงไม่ได้มีชีวิตที่ดีมากนัก ตัวเขาที่เป็นถึงนายกเทศมนตรีแต่กลับใช้ชีวิตแบบนี้ คงเหนื่อยมากพอดู


ระหว่างทานข้าวกัน พาลีได้พูดแนะนำให้พวกเขาฟังว่า เมืองกาบีลาเป็นเมืองที่เล็กที่สุดเขตนิวฟันด์แลนด์กับเขตแลบราดอร์ มีประชากรอาศัยอยู่เพียงแค่สองร้อยกว่าคนเท่านั้น


ที่เมืองกาบีลาเล็กที่สุดนั้น ไม่ได้วัดแค่จากจำนวนประชากรเท่านั้น แม้แต่อายุของเมืองก็น้อยที่สุดด้วย


เมืองเล็กนี้ก่อตั้งขึ้นมายังไม่ถึงห้าสิบปี เป็นเกาะที่ตั้งขึ้นมาเมื่อปี 60 ถึง 70 ในศตวรรษก่อนหน้าที่อุตสาหกรรมประมงกำลังรุ่งเรือง เนื่องด้วยรอบๆ เกาะเล็กๆ แห่งนี้มีทรัพยากรปลาที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้มีเรือหาปลาของแคนาดา อเมริกา และกรีนแลนด์มาที่นี่กันมากมาย ทำให้มีอุตสาหกรรมการบริการเกิดขึ้นมามากมาย จึงก่อให้เกิดเมืองเล็กๆ แห่งนี้ขึ้นมา


ตอนนั้นเมืองเล็กแห่งนี้เฟื่องฟูมาก มีประชากรอาศัยอยู่ถึงห้าพันกว่าคน สำหรับเมืองนิวฟันด์แลนด์ที่มีผู้คนน้อยอยู่แล้วนั้นจำนวนประชากรขนาดนี้ก็ถือว่าไม่น้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ที่เมืองเซนต์จอห์นมีคนอยู่สักกี่คนกันเชียว? ก็แค่แปดหมื่นกว่าคนเท่านั้น


ผ่านไปไม่กี่ปีหลังจากสร้างเมืองเสร็จไม่นาน ทรัพยากรทางด้านการประมงที่อุดมสมบูรณ์จึงร่อยหรอลงในช่วงที่เฟื่องฟูนั่นเอง เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้เมืองเล็กแห่งนี้ตกต่ำลงตาม


ความจริงแล้วสภาพภูมิประเทศของเกาะน้ำแข็งอัคคีนั้นดีมากเลยทีเดียว ไปทางใต้เป็นฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ ไปทางเหนือเป็นฟาร์มปลากรีนแลนด์


ชื่อเสียงของฟาร์มปลากรีนแลนด์ไม่ดังเท่ากับฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ แต่ก็เป็นฟาร์มปลาขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ทั้งชนิดและคุณภาพของปลาน้ำเย็นนั้นถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว


น่าเสียดาย ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถทัดทานความน่ากลัวของแหลากกับแหอวนได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเทคโนโลยีของการจับปลากับเครื่องโซนาร์สำหรับหาปลาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปลาน้ำตื้นหรือปลาน้ำลึก ล้วนก็ต้องเผชิญกับการถูกจับที่ทำให้สูญพันธุ์กันทั้งนั้น


 “ในตอนที่คนเยอะที่สุด ในเมืองท่าเล็กๆ นี้มีเรือหาปลาเข้าออกถึงสองพันลำ!” พอพาลีพูดถึงตรงนี้ก็ส่ายหัว


ฉินสือโอวอดไม่ได้จึงถามออกไปว่า “ในตอนนั้นทางสภาเมืองกับกรมประมงไม่ได้กำหนดบทบัญญัติอะไรเหรอครับ?”


พาลีพูดอย่างหมดหนทางว่า “มีครับ แต่ทุกคนต่างก็เหมือนบ้ากันไปแล้ว พวกเขาคิดว่าสามารถจับปลาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ใครจะสนใจบทบัญญัติการจับปลากันครับ? ปลาใหญ่ ปลาเล็ก หรือแม้แต่แมวน้ำ ก็ยังไม่เว้น! เวลาผ่านไปนานเข้า ทุกคนเริ่มรู้สึกว่าปลาที่ตัวเองหาได้นั้นนับวันยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ จนมาถึงวันที่มีคนออกไปหาปลาแต่จับปลากลับมาไม่ได้เลย ตอนนั้นพวกเราถึงเพิ่งจะรู้ว่ามีปัญหาแล้ว แต่ตอนนั้นก็ได้สายเกินแก้เสียแล้ว”


บทที่ 719 แฟนคลับที่บ้าคลั่ง

โดย

Ink Stone_Fantasy

การมาเยือนเกาะน้ำแข็งอัคคีในครั้งนี้ จุดประสงค์ก็คือการมาเยี่ยมชมรอบเกาะเล็กๆ เกาะนี้ กับฟาร์มปลาของที่นี่


พาลี ลาร์คได้เตรียมรถชมเมืองมาห้าคัน เป็นรถไฟฟ้าแบบที่มีหลังคา หลังจากนั่งลงแล้วสามารถนั่งรับลมได้รอบทิศ สะดวกต่อการชมวิวด้วย


รถชมเมืองล้วนเป็นรถรุ่นเดียวกันหมด การดูแลรักษาค่อนข้างดี แต่น่าจะเป็นรถรุ่นเก่าพอสมควรแล้ว


ตอนที่ฉินสือโอวซื้อรถเอทีวีก็เคยหาข้อมูลของรถชมเมืองมาก่อนบ้าง ปัจจุบันรถประเภทนี้ต่างก็ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับเลี้ยวและความมั่นคงของพวงมาลัย ส่วนระบบตัวถังนั้นจะใช้เทคโนโลยีเดียวกับตัวถังของรถไมโครคาร์ที่มีระบบเบรกไฟฟ้าทั้งหน้าและหลังที่เป็นระบบแบบเก่า ซึ่งรถทั้งห้าคันนี้ยังใช้งานอยู่


หลังแมทธิว จินมองดูรถแล้วก็ถามขึ้นมาว่า “นี่คือรถประจำเมืองหรือเปล่าครับ?”


พาลีเข้าใจว่าท่านประธานสภากำลังสงสัยอะไร จึงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วอธิบายกลับไปว่า “ใช่ครับ ซื้อมาเมื่อหกเจ็ดปีที่แล้ว ตอนที่ฟาร์มปลาทรุดโทรมลง พวกเราคิดอยากจะพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแทน แต่ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวที่สนใจจะมาเที่ยวเลย”


เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงยักไหล่เท่านั้น ใครก็รู้ว่าสุดท้ายแล้วผลลัพธ์เป็นยังไง


 “การจะเปลี่ยนรูปแบบระบบเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ” ฮับเบิลตบบ่าพาลีเบาๆ อย่างเห็นใจ เขาทำงานด้านการลงทุนมีความเสี่ยงอยู่แล้ว เรื่องพวกนี้เขาย่อมเข้าใจดีกว่าใคร


พาลีพูดว่า “แม้จะยาก แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะสำเร็จนะครับ เมื่อต้นปีผมได้ข่าวว่าเกาะแฟร์เวลที่อยู่ทางใต้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนรูปแบบระบบเศรษฐกิจแล้ว พวกเขากับบริษัทท่องเที่ยวของจีนทำสัญญาที่ดีต่อกันเลยทีเดียว เฮ้อ ช่างน่าอิจฉาเสียจริง”


หลังพูดจบ คนทั้งกลุ่มรวมถึงแมทธิว จินก็จ้องไปที่ฉินสือโอวที่นั่งอยู่บนรถอย่างสงสัย พวกเขาเป็นคนเซนต์จอห์น ดังนั้นจึงรู้ถึงสถานการณ์ของการพัฒนาการท่องเที่ยวของเกาะแฟร์เวลเป็นอย่างดี


พาลีเองก็จับจ้องไปที่ฉินสือโอวเหมือนกับคนอื่นๆ ด้วย จากนั้นก็กะพริบตาด้วยความสงสัย แล้วถามออกไปว่า  “เจ้าของฟาร์มปลาตะวันออกคุณฉินสือโอวใช่ไหมครับ?”


ฉินสือโอวที่ขึ้นไปนั่งอยู่บนรถแล้ว พอเจอแบบนี้ก็จำเป็นต้องลงรถมา ยิ้มแห้งๆ แล้วพูดว่า “สวัสดีครับ ท่านนายกเทศมนตรี คุณรู้จักผมด้วยเหรอครับ?”


หลังได้ฟังคำพูดนี้แล้ว ใบหน้าของพาลีก็เผยความดีใจออกมาทันที เขารีบยื่นมือออกไปทางฉินสือโอวอย่างกระตือรือร้น แล้วพูดว่า “ใช่ครับ คุณฉิน ผมรู้จักคุณ หรือจะพูดว่าผมเป็นแฟนคลับของคุณก็ได้ครับ แน่นอนว่า เป็นเพียงการรู้จักคุณผ่านทางข่าวสารเท่านั้น เป็นเกียรติมากจริงๆ ที่ได้พบคุณที่เกาะน้ำแข็งอัคคีนี้!”


ฉินสือโอวจับมือกับเขา พาลีเริ่มพูดไม่หยุดปากว่า “สถานการณ์ของเกาะแฟร์เวลนั้นผมทราบดี พวกเขาก็เหมือนกับพวกผม ต่างก็อยู่ในแผนการโยกย้ายที่ของรัฐบาลเหมือนกัน ผมกับแฮมเล็ตนายกเทศมนตรีของพวกคุณสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเลย เมื่อครึ่งปีก่อนตอนที่ผมได้รู้เรื่องการเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจของเมืองพวกคุณ ตอนนั้นผมตกใจมากจริงๆ ครับ”


 “ผมคิดอยากจะไปที่เกาะคุณเพื่อทำการสำรวจและเก็บข้อมูลมาตลอด แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีโอกาสสักที การได้มาเจอกับคุณที่นี่ช่างดีจริงๆ ครับ ผมมีหลายคำถามเลยที่อยากจะขอคำปรึกษา เผื่อว่าคุณจะพอช่วยชี้แนะแนวทางให้ได้ครับ”


 “อ่อ พวกคุณอยากจะไปสำรวจเก็บข้อมูลที่ฟาร์มปลาในเมืองของเราใช่ไหมครับ? เชิญเลยครับ เดี๋ยวผมจะเป็นไกด์ให้พวกคุณเอง ความจริงแล้วเมืองของเรานั้นมีเอกลักษณ์มากเลยนะครับ ก่อนหน้านี้ตอนที่ทรัพยากรปลาค็อดยังไม่ได้ทรุดโทรมลง ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีศักยภาพที่ดีที่สุดของฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์เลยทีเดียว”


พาลีเองก็ไม่ได้พูดเกินจริงเช่นกัน เขาพาเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาไปที่สภานายกเทศมนตรีของเมือง เป็นตึกเล็กสามชั้นสไตล์กอทิก สีนอกตึกเต็มไปด้วยรอยด่าง เป็นการบอกให้กับผู้มาเยือนถึงประวัติศาสตร์ที่มันผ่านพ้นมา


มีเจ้าของฟาร์มปลาคนหนึ่งที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสี เขารู้เรื่องสีเป็นอย่างดี จึงถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “พวกคุณใช่สีคุณภาพต่ำเหรอครับ? แค่ไม่กี่ปีสีไม่น่าจะลอกขนาดนี้ได้นะครับ”


พาลีพูดพร้อมรอยยิ้มที่สดใสว่า “เหอๆ พวกเราจงใจเลือกใช้สีแบบนี้เองครับ เพราะอยากจะสร้างความรู้สึกเหมือนผ่านร้อนผ่านฝนมามากมาย แบบนี้จะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีกว่า”


ฉินสือโอวหมดคำจะพูด เพื่อจะเปิดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เกาะน้ำแข็งอัคคีเองก็ทุ่มสุดตัวเหมือนกันนะ


ในสภานายกเทศมนตรีมีบ้านหลังหนึ่งที่แขวนรูปเก่าๆ ไว้บนผนัง รูปมีตั้งแต่ภาพสีขาวดำที่นิยมใช้กันในยุคเจ็ดแปดศูนย์จนถึงภาพถ่ายสีที่ใช้กันในปัจจุบัน


ดูจากภาพถ่ายพวกนั้นแล้ว เมื่อก่อนเกาะน้ำแข็งอัคคีถือว่ารุ่งเรืองจริงๆ หลายภาพเป็นภาพที่ถ่ายทางอากาศ เมืองเล็กๆ ถูกถ่ายออกมาดูเหมือนกับเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งเลย คาดว่าน่าจะมีถึงหลักพันครัวเรือนมาก่อน มีเรือหาปลาน้ำลึกขนาดหมื่นตันหลายลำเคยจอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือด้วย


ฉินสือโอวเห็นภาพถ่ายปลายักษ์ใหญ่หลายใบ เป็นภาพแห่งความทรงจำของเหล่าชาวประมงที่จับปลาตัวใหญ่ยักษ์ได้ ในนั้นกว่าครึ่งเป็นภาพของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ล้วนแล้วแต่เป็นปลาใหญ่ขนาดมากกว่าสามเมตรครึ่งทั้งนั้น หากเป็นตอนนี้แค่หนึ่งตัวก็สามารถขายได้ในราคาถึงหลักล้านดอลลาร์เลยทีเดียว


พาลีเดินมาข้างเขา มองไปที่รูปปลาทูน่าพวกนั้น เขาถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “ตอนนั้นปลาแบบนี้ไม่มีค่าเลย มีหลายคนจับได้ก็เอาไปเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ใครจะคาดคิดว่าตอนนี้พวกมันจะมีมูลค่าถึงหลายแสนกัน?”


ฉินสือโอวถามว่า “ดูจากภาพถ่ายแล้ว ที่ฟาร์มปลาของพวกคุณน่าจะมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินอยู่ไม่น้อยเลย ถึงแม้จะพึ่งแค่การจับปลาชนิดนี้อย่างเดียว จำนวนปลาที่ชาวประมงหาได้ก็น่าจะไม่น้อยเลยทีเดียว ใช่หรือเปล่าครับ?”


พาลียิ้มขมขื่นแล้วพูดว่า “เคยมีจำนวนมากครับ อย่างที่คุณเห็น ทางฝั่งตะวันตกของฟาร์มปลาของเราเชื่อมต่อกับอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ที่นั่นก็เคยเป็นแหล่งที่อยู่ของปลาทูน่าด้วย แต่เสียดายที่ก็ถูกจับจนสูญพันธุ์แล้วเช่นกัน”


ถ้าไม่ใช่เพราะทรัพยากรปลาค็อดร่อยหรอแล้วล่ะก็ สถานการณ์ของเกาะน้ำแข็งอัคคีต้องดีกว่าเกาะแฟร์เวลหลายเท่าอย่างแน่นอน เพราะตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของทั้งสองนั้นไม่เหมือนกัน


เกาะแฟร์เวลตั้งอยู่ทางทิศใต้ของฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ พึ่งพาปลาจากกระแสน้ำเย็นของแลบราดอร์กับกระแสน้ำอุ่นของเม็กซิโก แต่เกาะน้ำแข็งอัคคีกลับตั้งอยู่ในตำแหน่งทองของฟาร์มปลา นั่นก็คือมีฟาร์มปลากรีนแลนด์อยู่ทางทิศเหนือ และฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์อยู่ทางทิศใต้ ทางทิศตะวันตกเป็นอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ เรียกได้ว่าเป็นตำแหน่งที่อยู่ใจกลางขุมสมบัติก็ว่าได้


แต่น่าเสียดาย ที่พอทรัพยากรอุตสาหกรรมการประมงร่อยหรอลง ที่แบบนี้แหละกลับเป็นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะว่าเหล่าผู้คนคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่ครึกครื้นสุขสบายไปแล้ว เมื่อที่นี่กลายเป็นเมืองที่เงียบเหงาราวกับป่าช้า ทำให้พวกเขาทนไม่ไหวและพากันย้ายออกไปจากที่นี่


สุดท้ายก็อย่างที่รู้ๆ กัน หลังจากบ้านเมืองตกต่ำลงอย่างรวดเร็วแล้วก็ยังคงตกต่ำลงเรื่อยๆ พวกคนหนุ่มสาวต่างก็พากันออกไปจากเกาะนี้กันหมด คนที่เหลือก็แทบจะมีแต่พวกคนสูงอายุ จากที่พาลีบอก อายุเฉลี่ยของประชากรในเมืองคือ 65 ปีขึ้นไป


ฉินสือโอวแอบยิ้มมุมปาก ที่นี่อาการร้ายแรงกว่าเกาะแฟร์เวลมากจริงๆ ก่อนหน้านี้เหล่าคนหนุ่มสาวในเกาะแฟร์เวลก็เลือกที่จะย้ายออกไปเหมือนกัน แต่ว่าก็ไม่ร้ายแรงเท่าที่นี่ ยังคงมีชาวประมงวัยกลางคนหลายคนที่เลือกที่จะอยู่ต่อ


ที่นี่ค่อนข้างคล้ายกับหมู่บ้านควีน ถนนทั้งสองฝั่งของเมืองมีบ้านเรือนอยู่ประปราย ยังมีบางจุดที่บ้านทั้งแถวล้วนเป็นบ้านเก่าผุพังไม่มีคนอาศัยอยู่


พาลีเล่าว่า จุดที่ว่างเปล่าพวกนี้ก็คือบ้านที่ย้ายออกไปทั้งหลังไม่ก็ถูกรื้อทิ้งทั้งนั้น ตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว ทางรัฐบาลของเขตนิวฟันด์แลนด์กับแลบราดอร์ก็ออกแผนการ ‘ย้ายบ้าน’ มาแล้ว หากว่าผู้คนบนเกาะนี้ยอมที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น ทางรัฐบาลเขตสามารถให้ค่าชดเชยได้


การทำแบบนี้ รัฐบาลสามารถหยุดการให้บริการจากทางรัฐทั้งหมดให้กับผู้คนบนเกาะ เป็นการลดค่าใช้จ่ายไปด้วย


การเยี่ยมชมครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งที่ไปหมู่บ้านชาวประมง ครั้งนี้เป็นการเยี่ยมชมตามอัธยาศัยไม่ใช่แบบหมู่คณะ หลังจากที่ฟังพาลีพูดแนะนำตอนอยู่ที่สภานายกเทศมนตรีแล้ว พวกเจ้าของฟาร์มปลาก็ถูกบอกให้แยกย้ายกันได้ พวกเขาต้องอยู่บนเกาะต่ออีกสามวัน ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถพักผ่อนตามอัธยาศัยได้


ครั้งนี้ทางกรมประมงไม่ได้จัดสรรที่พักให้พวกเขา เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาจึงจำเป็นต้องไปขอพักอาศัยกับครอบครัวชาวประมงแทน ในเมืองมีโรงแรมเล็กๆ อยู่สองที่ เป็นโรงแรมแบบที่เล็กมากๆ สามารถพักได้แค่ยี่สิบห้าคนเท่านั้น จึงเต็มไปตั้งนานแล้ว


ฉินสือโอวลากกระเป๋าเพื่อจะไปหาที่พัก พาลีดึงตัวเขาไว้ บอกเขาว่าจะอาสาพาเขาไปเยี่ยมชมรอบเกาะ แล้วให้เขาช่วยออกความเห็นกับข้อเสนอแนะให้ อย่างไรเสียเขาก็ยังอยากจะพัฒนาการท่องเที่ยวของเมืองนี้อยู่


ฉินสือโอวจะไปมีความสามารถขนาดนั้นได้ยังไง? จึงรีบบอกกลับไปว่าเขายังต้องไปหาที่พักอีก


พาลีพูดอย่างดีอกดีใจว่า “คุณยังไม่มีที่พักเหรอครับ? งั้นก็เยี่ยมเลย”


ฉินสือโอวรู้สึกว่าคำพูดนี้ทะแม่งๆ ถ้าเป็นเซอร์จิโอหรือบัคเคอร์เป็นคนพูดแล้วล่ะก็ เขาคงจะฟาดมือออกไปเต็มแรงแล้ว


แต่คำพูดถัดมาได้ปรากฏให้เห็นแล้วว่าความใจร้อนคือปีศาจ เพราะพาลีพูดต่อออกมาด้วยความดีใจว่า “งั้นคุณก็มาพักที่บ้านผมแล้วกันนะครับ พอดีเลย กลางคืนพวกเราจะได้หารือกันเรื่องการจะเปิดการท่องเที่ยวของเกาะนี้ด้วย”


ฉินสือโอวหัวเราะตาม เขารู้สึกว่าตัวเลือกนี้ดูเหมือนจะสู้ให้เขาไปกางเต็นท์นอนกลางแจ้งไม่ได้ยังไงไม่รู้?


บทที่ 720 เมืองที่เงียบเหงา

โดย

Ink Stone_Fantasy

ตอนเย็นแสงอาทิตย์ไม่ถือว่าแรงมาก ตัวเกาะน้ำแข็งอัคคีก็ตั้งอยู่ด้านบนเส้นศูนย์สูตรด้วย ทำให้อุณหภูมิไม่สูงนัก เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะจะเดินเล่นบนเกาะที่สุด


การฟื้นฟูเศรษฐกิจของเกาะแฟร์เวลไม่ได้ส่งผลกระทบกับที่อื่นมากนัก แต่สำหรับเกาะน้ำแข็งอัคคีกับเมืองกาบีลาแล้ว ถือได้ว่าได้รับผลกระทบไม่น้อยเลยทีเดียว


พาลีได้ทำการวิเคราะห์เรื่องการเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจของเกาะแฟร์เวลมาอย่างละเอียด เขารู้ว่าฉินสือโอวเป็นส่วนสำคัญมากในการเปลี่ยนแปลงนั้น ที่เขาทำการลงทุนกับฟาร์มปลาเรื่อยๆ นั้น ก็เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการรักษาความมั่นใจของผู้คนในเมือง


แม้ว่าเหล่าผู้คนในเมืองไม่ได้รับผลกำไรจากฟาร์มปลาต้าฉิน แต่ฟาร์มปลานี้แหละคือเกาะแห่งความกล้าของพวกเขา เมื่อมีคนยอมที่จะลงทุนเป็นจำนวนมากให้กับฟาร์มปลาแห่งนี้ ก็เท่ากับว่าฟาร์มปลารอบๆ ก็ยังมีหวัง ยังคงมีค่า เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องย้ายออกจากเกาะไป


อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การที่ฉินสือโอวเป็นแกนนำพานักท่องเที่ยวมาจากประเทศจีน ทำให้การเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวประสบความสำเร็จด้วยดี


แน่นอนว่า พาลีไม่รู้ว่านี่เป็นผลงานของเหมาเหว่ยหลงที่ใช้เส้นสายของลูกชายคนโตในครอบครัวระดับสูงในการหาทัวร์มาลงให้กับเมืองต่างหาก แน่นอนว่า ฉินสือโอวเองก็ออกแรงช่วยเหลือไม่น้อยด้วยเหมือนกัน


สรุปก็คือพาลีได้ถือว่าฉินสือโอวเป็นฟางข้าวที่ช่วยชีวิตเมืองเล็กนั้นไว้


 “ความจริงแล้วนะ เพื่อน เกาะนี้เริ่มมีลางร้ายมาตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นก็ได้มีคนเสนอให้เหล่าชาวประมงแยกย้ายกันไปอยู่ที่อื่น ให้รัฐบาลออกเงินช่วยเหลือค่ารถที่ไว้ลากบ้านไปอยู่ที่อื่น” พาลีพูดพลางเดินไปด้วยพลาง “แต่ว่าขอแค่มีความหวัง ใครล่ะจะอยากออกไปจากบ้านเกิดตัวเอง คุณว่าจริงไหมครับ?”


ฉินสือโอวยืนอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งแล้วมองไปทางตัวเมือง แสงอาทิตย์เจิดจ้า อากาศปลอดโปร่ง เมื่อกวาดสายตาออกไปดู ก็มองเห็นตัวเกาะนี้ได้แทบทั้งเกาะ


บ้านเรือนสีขาวหลังเล็กๆ ที่กระจัดกระจายกันอยู่บนผืนดินแห่งนี้ ต้นไม้ใบหญ้าที่เติบโตกันเรื่อยๆ และมีสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์กับสุนัขพันธุ์นิวฟันด์แลนด์เดินไปมาบนถนนอย่างเกียจคร้านเป็นครั้งคราว ทุกอย่างช่างให้ความรู้สึกที่สุขและสงบเสียจริง


แต่นี่ก็เป็นแค่ความรู้สึกจากผู้มาเยือนเท่านั้น เหล่าผู้คนในเมืองนั้นมีชีวิตที่ลำบากยากเข็ญมาก การอาศัยอยู่ที่เกาะนี้ต้องสูญเสียอะไรไปมากเช่นกัน


ความสูญเสียที่ว่านี้ได้เผยออกมาให้เห็นแล้วในตอนกลางคืน ตอนฉินสือโอวจัดเก็บของอยู่นั้นก็พบว่าน้ำยาบ้วนปากหมดแล้ว จึงถามพาลีว่าในเมืองมีขายที่ไหน


พาลียิ้มขมขื่นแล้วบอกกับเขาว่า ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองนั้นมีขายเพียงแค่ของใช้ในชีวิตประจำวันแบบทั่วไป อย่างเช่นน้ำมัน ข้าว และเกลือเท่านั้น ของจำพวกน้ำยาบ้วนปากนั้นจะต้องขับเรือไปซื้อตรงเมืองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับช่องแคบ


 “คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ว่าบางครั้งที่พวกเราอยากจะกินขนมปังกับพิซซ่าร้อนๆ ที่เพิ่งออกจากเตา ก็ยังต้องนั่งเรือข้ามฟากไปถึงเมืองฝั่งตรงข้ามเหมือนกัน ทุกอาทิตย์ที่จะต้องกักตุนผัก เนื้อวัวหรือไข่ไก่ ก็ต้องไปที่นั่นด้วยเช่นกัน ดังนั้นทุกครัวเรือนที่นี่จึงมีตู้แช่เย็นใหญ่ๆ แบบนี้กันหมด ออกไปซื้อของทีหนึ่ง จึงจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างสะดวกสบายไปได้ช่วงหนึ่ง”


สีหน้าตอนที่พาลีพูดคำพูดพวกนี้ออกมานั้นเต็มไปด้วยความหดหู่อย่างเหลือล้น


เจ้าของฟาร์มปลาคนอื่นๆ ก็ประสบกับปัญหานี้เหมือนกัน พวกเขาเคยชินกับการไปซื้อของใช้เพิ่มเมื่อไปถึงที่นั้นๆ แล้ว แต่ของที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้นั้นเมืองเล็กๆ แห่งนี้กลับไม่มีให้


สุดท้ายแม้แต่คนที่ปกติเป็นคนทนความยากลำบากได้มากที่สุดอย่างแอนดรูว์ก็ยังทนไม่ไหวจนถึงขั้นพูดออกมาว่า “ผมก็แค่อยากซื้อบุหรี่สักซองเท่านั้น เพื่อน ที่นี่ก็ไม่มีเหรอครับ? พระเจ้า คนที่นี่ไม่สูบบุหรี่กันเหรอครับ? พวกคุณนี่เป็นพ่อพระแม่พระกันเสียจริง”


 “พวกเราปลูกใบยาสูบกันเองครับ คุณจะลองดูไหม?” ชาวประมงชายแก่อายุประมาณเจ็ดสิบกว่าปียิ้มพร้อมกับโบกปล้องสูบในมือไปมา


ใบหน้าแอนดรูว์เต็มไปด้วยสีหน้าอ่อนแรง ดีที่ว่าในเมืองนี้มีเรือข้ามฟากกับเรือหาปลาให้พวกเขานั่งไปเกาะหลักของนิวฟันด์แลนด์เพื่อซื้อของได้


ส่วนเรือยอชต์ที่นั่งมาที่นี่น่ะเหรอ? เสียใจด้วย หลังจากมาถึงเกาะน้ำแข็งอัคคีแล้ว แมทธิวบอกว่าเรือต้องทำการซ่อมบำรุง ไม่สามารถใช้ได้เป็นเวลาสามวัน


แน่นอนว่าเรือยอชต์ไม่ได้ซ่อมบำรุงอยู่หรอก เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาเข้าใจสิ่งที่แมทธิวอยากจะสื่อ ท่านประธานสภาอยากให้พวกเขาได้ลิ้มรสชีวิตของประชาชนในฟาร์มปลาที่ตกต่ำนั่นเอง


หากว่าการไปหมู่บ้านชาวประมงควีนได้มอบความรู้สึกหดหู่ให้กับเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาแล้วล่ะก็ งั้นความรู้สึกที่เกาะน้ำแข็งอัคคีมอบให้นั้นก็คือความสิ้นหวังละล่ะ


เมืองกาบีลานั้นทรุดโทรมเป็นที่สุด ไม่มีชีวิตชีวาเลยสักนิด ตอนพวกเขาเดินอยู่ในเมืองนั้น พบเจอเพียงเด็กกำลังโต ไม่ก็คนแก่อายุหกสิบกว่าปีแล้วทั้งนั้น ที่พาลีบอกว่าอายุโดยเฉลี่ยของผู้คนที่นี่คือ 62 ปีนั้นไม่ใช่เรื่องพูดเกินจริงแต่อย่างไรเลย


 “เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ย้ายออกไปล่ะครับ? ไม่มีความจำเป็นที่จะอยู่ที่เมืองเล็กเมืองนี้ต่อไปเลย” โดนัลด์พูดด้วยความรู้สึกเศร้าๆ


คนสูงอายุจะเข้าใจคนสูงอายุด้วยกัน ชาร์ลสกับผู้คนในเมืองมีอายุพอๆกัน ดังนั้นจึงเข้าใจถึงความคิดของพวกคนแก่ดี


เขาที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมมาตลอดทางได้ถอนหายใจแล้วพูดว่า “แกมองไม่ออกเหรอ คนแก่ที่อยู่ต่อในตอนนี้ส่วนมากต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาทั้งชีวิตกันแล้วทั้งนั้น พวกเขานี่แหละเป็นประชากรของเกาะนี้อย่างแท้จริง”


เกาะแห่งนี้ตั้งขึ้นมาได้เพียงแค่สี่ห้าสิบปี แต่ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เป็นหมู่บ้านชาวประมงอยู่แล้ว คนเหล่านี้เขาใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านชาวประมงนี้มาหลายชั่วอายุคนแล้ว


พาลีพูดกับฉินสือโอวอย่างหมดหนทางว่า “ถ้าหากไม่สามารถหาวิธีกู้ชีวิตเกาะนี้กลับมาได้ งั้นอีกไม่นานเกาะนี้ก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นเกาะร้างจริงๆ แล้วล่ะครับ”


ฉินสือโอวถามว่าเพราะอะไร พาลีอธิบายว่า รัฐบาลของเขตนิวฟันด์แลนด์กับแลบราดอร์ได้สนับสนุนให้พวกเขาย้ายที่อยู่กันตลอดมา ถ้าหากว่าผู้คนที่นี่ยอมที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น ทางรัฐบาลก็พร้อมที่จะให้เงินชดเชย


การที่รัฐบาลกระตือรือร้นแบบนี้ ไม่ได้เป็นเพราะเป็นห่วงชีวิตของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการสาธารณูปโภคบนเกาะด้วย ทางรัฐบาลได้สร้างโรงไฟฟ้าน้ำมันดีเซล โรงพยาบาลเล็กๆ กับโรงเรียนบนเกาะไว้ เพื่อรักษาสาธารณูปโภคบนเกาะ ซึ่งทุกปีทางรัฐบาลจะต้องใช้เงินถึงหลักล้านดอลลาร์แคนาดาไปกับที่แห่งนี้


หากว่าผู้คนในเมืองพากันย้ายออกไปแล้ว ทางรัฐก็จะสามารถหยุดให้บริการทุกอย่าง เป็นการตัดค่าใช้จ่ายออกไป


คนที่มีเหตุผลหน่อยต่างก็รู้ว่าชะตาชีวิตของเกาะนี้นั้นได้จบลงแล้ว แต่พวกเขาไม่สามารถย้ายออกไปได้ ก็เหมือนกับที่ชาร์ลสพูด สำหรับคนที่อายุหกสิบกว่าปีแล้วนั้น จะให้พวกเขาย้ายไปที่ไหนได้อีก?


รัฐบาลของแคนาดามีข้อดีอย่างหนึ่ง ก็คือไม่มีการบังคับให้ย้าย ในเมื่อในเมืองนี้ยังมีประชาชนที่เลือกจะอยู่ต่อ เมื่ออิงจากกฎหมายรัฐธรรมนูญแล้ว สิบครัวเรือนขึ้นไปสามารถยื่นเรื่องขอสร้างหมู่บ้าน ห้าสิบครัวเรือนขึ้นไปสามารถยื่นเรื่องขอสร้างเมือง เมื่ออยู่ในระดับเมืองแล้ว ทางรัฐบาลก็จำเป็นจะต้องให้บริการโดยการจัดสรรสาธารณูปโภคให้


เมืองกาบีลามีคนอยู่ไม่เยอะ ประมาณสองร้อยต้นๆเท่านั้น แต่หลายๆครอบครัวจะมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่เพียงคนเดียว คู่ชีวิตไม่เสียชีวิตไปก่อนก็ย้ายออกไปพร้อมคนในครอบครัวคนอื่นๆ แล้ว ทำให้แม้ว่าจะเป็นในเมืองเล็กๆ แบบนี้แต่ก็ยังมีถึงหนึ่งร้อยกว่าครัวเรือน เมื่ออิงจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงยังคงสามารถรักษาสิทธิประโยชน์ของการเป็นเมืองไว้ได้


เหตุผลที่ต้องมีกฎหมายแปลกๆ พวกนี้ ก็เพราะเมื่อก่อนแคนาดามีพื้นที่มากแต่มีประชากรน้อย เพื่อเป็นการดึงดูดชาวอพยพ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องออกเงื่อนไขเหล่านี้ ไม่อย่างนั้นหากว่าประชาชนในประเทศต่างพากันอพยพออกไปหมด งั้นประเทศนี้ก็ล่มสลายกันพอดี


เพื่อเป็นการโน้มน้าวประชาชนในเมือง หนึ่งปีก่อนทางรัฐบาลเขตได้เพิ่มเงินช่วยเหลือในการย้ายออก เงินชดเชยสำหรับการย้ายออกต่ำสุดคือสามแสนดอลลาร์แคนาดาต่อครัวเรือน หากว่าในหนึ่งครัวเรือนมีสมาชิกสองคน ก็จะเพิ่มเป็นสามแสนดอลลาร์แคนาดา หากว่าในหนึ่งครัวเรือนมีสมาชิกสามคน ก็จะสามารถได้รับเงินค่าชดเชยในการย้ายออกเป็นสามแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา


สำหรับคนสูงอายุในเมืองแล้ว เงินจำนวนนี้ถือเป็นเงินก้อนโตเลยทีเดียว พวกเขาอายุมากแล้ว ตอนนี้หาเงินไม่ได้แล้ว เมื่อก่อนตอนเป็นชาวประมง ก็ไม่ได้หาเงินได้มากมายอะไร


ดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้ว การได้รับเงินชดเชยเพื่อย้ายออกจากเกาะไปเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลย ถือซะว่าเป็นเงินบำนาญก็ได้ อย่างไรเสียหากยังอยู่ที่นี่ต่อล่ะก็ จะให้พวกเขาหาเงินจากไหนมาใช้ประทังชีวิตกันล่ะ?


เมื่อมีเงินก้อนโตเป็นแรงกระตุ้น เป็นธรรมดาที่จะมีประชาชนที่อยากจะย้ายออกเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังคงมีคนที่ไม่ยอมออกจากเกาะแห่งนี้ คนก็แบบนี้ยิ่งแก่ก็ยิ่งรั้น


สิ่งที่กวนใจชาวเมืองที่อยากจะย้ายออกก็คือ เงินชดเชยของรัฐบาลจะจ่ายให้ในกรณีที่ย้ายออกไปทั้งเมืองเท่านั้น ก็คือจำเป็นต้องย้ายออกไปทุกคนรัฐจึงจะจ่ายเงิน ไม่อย่างนั้นรัฐจะจ่ายให้เฉพาะค่าช่วยย้ายบ้านสำหรับคนที่จะย้ายออกเท่านั้น


นี่ก็คือจุดที่ทำให้พาลีลำบากใจ คนที่อยากย้ายออกเพราะอยากได้เงินโทษเขาที่ทำงานช้า ไม่เด็ดขาด คนที่ไม่อยากย้ายก็โทษว่าเขาเลือดเย็น ไม่สนใจบ้านเกิด ตอนนี้จึงเป็นเขาที่ติดอยู่ตรงกลางที่ลำบากใจที่สุด


บทที่ 721 ทะเลแปลกหน้า

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวขอพักอาศัยอยู่ที่บ้านของพาลี จึงต้องทานอาหารพร้อมกับเขาไปด้วยเป็นธรรมดา


ค่าครองชีพในเมืองกาบีลานั้นไม่สูง แต่ก็ไม่ต่ำ เพราะยังมีมาตรฐานทางสังคมของแคนาดาอยู่ ขอแค่ยังมีงานที่ดี รายได้ก็ถือว่าดีเลยทีเดียว


อย่างไรเสียก็เคยเป็นถึงหนึ่งในฟาร์มปลาที่ดีที่สุดของนิวฟันด์แลนด์มาก่อน น่านน้ำรอบเกาะน้ำแข็งอัคคีไม่สามารถจับปลาค็อด ปลาทูน่า ปลาแฮร์ริ่งและปลาซาบะเพื่อประคองเศรษฐกิจก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปลาอะไรเลย ดังนั้นตอนกินข้าวจึงยังมีอาหารทะเลมากมายให้กินอยู่


ปกติพาลีเองก็ไม่ได้ทำอะไร งานของเขาก็คือการดูแลความสมดุลทางอารมณ์ของผู้คนในเมืองไม่ให้พวกเขาทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น ดังนั้นเมื่อมีเวลาว่างเขาก็จะทำอาหาร พอเวลานานเข้าทำให้เขามีฝีมือทำอาหารที่ดีเลยทีเดียว


 “เพื่อน คืนนี้คุณจะได้ชิมปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือกับหอยกาบขั้วโลกเหนือแช่แข็ง ผมกล้าพนันเลยว่าคุณต้องไม่เคยชิมอาหารที่รสชาติพิเศษแบบนี้มาก่อนแน่นอน รสชาติมันยอดมากเลยครับ” พาลีอยู่ในครัวพูดพลางพร้อมกับคาดผ้ากันเปื้อนไปพลาง


เมื่ออีกฝ่ายส่งความรู้สึกที่แรงกล้านี้มาแล้ว ก็ยากที่จะปฏิเสธได้ ฉินสือโอวจึงจำเป็นต้องทำท่าทางแปลกใจแล้วพูดว่า “ยังมีปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือด้วยเหรอครับ? โอ้ ดีจริงๆครับ ผมคิดอยากจะชิมปลาชนิดนี้มาตลอด แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที”


โดนัลด์ที่ตามมาด้วยหัวเราะเหอๆแล้วพูดว่า “ฉิน คุณชอบกินปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือเหรอครับ? เรื่องนี้ไม่ยากเลย ผมมีเพื่อนอยู่ที่กรีนแลนด์ ไว้ผมจะให้เขาหาปลาไธมัลลัสเกรดดีมาให้คุณชิม”


เนื้อของปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือนั้นอร่อยมาก เป็นปลาที่มีชื่อเสียงในการนำมาประกอบอาหาร ฟังจากชื่อแล้ว เหมือนว่าปลาชนิดนี้จะมีเฉพาะในเขตขั้วโลกเหนือเท่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น มันก็เป็นแค่ปลาที่อาศัยในน้ำเย็นเท่านั้น ในแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลผ่านขั้วโลกเหนือล้วนมีปลาประเภทนี้ทั้งนั้น ถึงขั้นว่าสามารถพบได้มากในแม่น้ำอีร์ติชด้วย แต่กลับเป็นขั้วโลกเหนือที่พบเจอได้น้อย


แต่ทว่า ปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือที่ดีที่สุดก็ยังคงมาจากเกาะกรีนแลนด์ ปลาไธมัลลัสของที่นั่นมีขนาดใหญ่ เติบโตเร็ว วางไข่ได้จำนวนมาก เนื้อแน่น เหมาะแก่การนำไปทำอาหารหลายรูปแบบ


เหมือนกับปูคางคก จำนวนของปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือมีไม่มาก จึงไม่ได้ปรากฏในรายการปลาที่ถูกจับ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีชื่อเสียงในโลกสักเท่าไร แต่ว่ารสชาติของปลาชนิดนี้นั้นไม่ต้องพูดถึงเลย ของอร่อยหลายๆอย่างในโลกนี้มักจะเป็นแบบนี้ มักจะมีชื่อเสียงแค่ในวงแคบๆ และจะมีแค่คนชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะได้ลองชิม


ฉินสือโอวเคยได้ยินชื่อปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือมาก่อน แต่ก็ไม่ถึงขั้นว่าหากินไม่ได้เลย การที่เขาพูดแบบนี้ก็เพื่อรักษาหน้าพาลี อย่างไรเสียเขาก็เชิญเขากินข้าว ใครจะรู้ว่าโดนัลด์เจ้าคนไม่มีสมองคนนี้จะพูดประโยคนี้ออกมา


แอนดรูว์จ้องตาเขม็งไปที่โดนัลด์เพื่อนของเขาทีหนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่ต้องถึงมือนายหรอก โดนัลด์ มีแค่นายที่มีเพื่อนอยู่ที่เกาะกรีนแลนด์หรือไง? ใช่ไหมครับ ท่านนายก?”


พาลียิ้มแล้วพยักหน้า ฉินสือโอวแอบคิดในใจว่าดีนะที่แอนดรูว์นั้นมีสายตาเฉียบคม ทำได้ไม่เลว


สุดท้าย แอนดรูว์ก็ยิ้มที่ได้ใจฉินสือโอวแล้วพูดว่า “ความจริงแล้วพวกคุณอาจจะไม่รู้ ตระกูลของผมมาจากเกาะกรีนแลนด์ ตอนนี้ผมก็ยังมีญาติอยู่ที่นั่น  ดังนั้นแล้ว ฉิน ถ้าหากคุณชอบปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือ เดี๋ยวผมให้ลูกพี่ลูกน้องผมส่งไปให้คุณเอง!”


ฉินสือโอวถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เขาไม่น่ายอมให้เจ้าของฟาร์มปลาพวกนี้ตามเขามากินอาหารด้วยเลย


เนื่องด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง บวกกับที่พวกเขาเพิ่งจะได้เงินจำนวนไม่น้อย มาจากเซอร์จิโอกับบัคเคอร์เพราะฉินสือโอว ทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมตัดสินใจที่จะให้ฉินสือโอวเป็นผู้นำ


แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดแบบนี้ มีเจ้าของฟาร์มปลาที่เหยียดเชื้อชาติ และรู้สึกว่าการให้คนผิวเหลืองคนหนึ่งมาเป็นหัวหน้านั้นทำให้เสียหน้า แต่ก็ถูกพวกของแอนดรูว์กับโดนัลด์พากันด่าว่าไปชุดหนึ่ง ทำให้ฉินสือโอวได้กลายเป็นพี่ใหญ่ไปโดยปริยาย


การมาร่วมทานอาหารกับพี่ใหญ่ ก็เป็นกฎเหล็กของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์


ในกลุ่มของเจ้าของฟาร์มปลาดั้งเดิมไม่ได้สามัคคีกันหมด มีชายคนหนึ่งชื่อว่ามินสกี้ที่เคยถูกแอนดรูว์ด่าว่าให้ ได้พูดออกไปอย่างดุดันว่า “ตระกูลของคุณอยู่ที่เกาะกรีนแลนด์เหรอครับ? แล้วคุณก็เป็นคนไวกิ้งด้วยใช่ไหมครับ? งั้นคุณต้องเป็นลูกหลานของอีริคแน่เลย!”


อีริคคือคนไวกิ้งคนแรกที่ไปถึงเมืองกรีนแลนด์ ตอนนั้นเป็นช่วงปลายของศตวรรษที่แปด ซึ่งคนไวกิ้งในสมัยนั้นล้วนเป็นโจรสลัด อีริคเองก็ไม่ต่างกัน เขาเป็นหนึ่งในโจรสลัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในมหาสมุทรระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือกับเขตขั้วโลกเหนือ


ความคิดของชาวไวกิ้งนั้นมักจะต่างจากคนทั่วไปเสมอ ซีมอนสเตอร์กับชาร์คเป็นแบบนั้น แอนดรูว์ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เขาจึงพยักหน้าแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ใช่ครับ ตระกูลของผมเป็นลูกหลานของอีริค! เป็นลูกหลานของโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่!”


ฉินสือโอวกระแอมทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “เรื่องนี้ไม่น่าใช่เรื่องที่จะเอามาอวดได้หรือเปล่า?”


แอนดรูว์จ้องตาเขม็งแล้วพูดว่า “ทำไมล่ะ? ก็บรรพบุรุษของฉันเป็นคนค้นพบเกาะกรีนแลนด์จริงๆ นี่นา ชื่อของเกาะก็เป็นชื่อที่เขาตั้งให้ด้วย”


ชื่อของเกาะกรีนแลนด์เป็นชื่อที่อีริคตั้งจริง ชื่อภาษาอังกฤษคือ ‘Greenland’ หมายความว่าเมืองแห่งสีเขียว เป็นชื่อเกาะที่โรแมนติกมาก สามารถทำให้คนฟังรู้สึกถึงความงดงามที่หาที่เปรียบไม่ได้ หากฟังจากชื่อแล้วคนจะมีความรู้สึกถึงภาพทิวทัศน์ที่สวยงาม เขียวขจีตลอดปี


แต่ความจริงแล้วเกาะกรีนแลนด์ตั้งอยู่ในเขตขั้วโลกเหนือ กว่า90% ของผืนดินถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ สภาพอากาศบนเกาะหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุดสามารถต่ำได้จนถึง-70 องศาเซลเซียสแน่นอน เป็น ‘เขตหนาวจัด’ ของโลกที่หนาวรองลงมาจากขั้วโลกใต้


ที่อีริคตั้งชื่อให้แบบนี้ สอดคล้องกับงานของเขา เขาเป็นโจรสลัด จำเป็นจะต้องดึงดูดให้คนมาที่เกาะนี้เพื่อเขาจะได้มีโอกาสปล้นได้ จุดนี้มีหลักฐานปรากฏอยู่ชัดเจนในบันทึกการเดินทางของเขา ในบันทึกของเขาเขียนไว้ว่า “หากว่าที่แห่งนี้มีชื่อที่ไพเราะจับใจคนแล้วล่ะก็ จะต้องดึงดูดคนมากมายมาที่นี่ได้เป็นแน่ เมื่อเป็นแบบนั้นก็จะมีธุรกิจมากมายให้ผมทำแล้ว”


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาที่นั่งอยู่ที่นี่ทุกคนต่างก็รู้ถึงเรื่องเล่านี้ ทำให้มินสกี้กับคนอีกหลายคนพากันหัวเราะเยาะแอนดรูว์ แอนดรูว์เริ่มไม่พอใจจึงหยิบมีดบนโต๊ะอาหารขึ้นมา แล้วตะโกนออกไปว่า “พวกนายอยากมีเรื่องเหรอ?”


ฉินสือโอวยื่นมือกดไปที่ไหล่ของแอนดรูว์อย่างแรง แรงจนทำให้เจ้าของฟาร์มปลาที่ร่างกายกำยำคนนี้นั่งลงไปได้ จากนั้นก็ปั้นหน้าถมึงทึงแล้วพูดว่า “ใครอยากมีเรื่อง ก็ออกไปมีเรื่องข้างนอก! วันนี้พวกเรามาเป็นแขก เข้าใจไหม?”


เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาจึงเงียบลงชั่วขณะหนึ่ง พากันพยักหน้าแล้วรอทานอาหาร


นอกจากปลาไธมัลลัสขั้วโลกเหนือแล้ว พาลียังมีหอยมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือด้วย เป็นหอยที่เติบโตในน้ำเย็นจัดที่สะอาดบริสุทธิ์ รสชาติดีมาก


ของแบบนี้เป็นของที่ต้องลวกแล้วกินเลย ก็คือเบื้องหน้าของทุกคนจะมีหม้อเล็กๆ คนละหนึ่งใบ ในนั้นจะเป็นน้ำร้อน ตอนกินก็จุ่มหอยลงไปวนในนั้นรอบหนึ่ง นำออกมาจิ้มกับน้ำจิ้มก็กินได้แล้ว


หลังกินดื่มกันพอแล้ว ฉินสือโอวติดนิสัยที่จะต้องไปเดินเล่นริมทะเล พาลีพูดด้วยท่าทีเก้ๆกังๆ ว่า “หากว่าอยากจะหาชายหาดเพื่อรับลมทะเลแล้วล่ะก็ ต้องขอโทษด้วยนะเพื่อนฝูง ที่นี่ไม่มีชายหาดเหมือนที่เกาะแฟร์เวลหรอก”


เหตุผลที่เกาะน้ำแข็งอัคคีพัฒนาการท่องเที่ยวไม่ได้สักที ข้อแรกคือสภาพอากาศ ที่นี่อยู่ใกล้กับเกาะกรีนแลนด์ ในหนึ่งปีมีครึ่งปีที่ต้องใส่เสื้อขนห่าน สองก็คือสภาพแวดล้อม ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำ ไม่มีชายหาด แล้วนักท่องเที่ยวจะมาทำอะไรล่ะ? มาหาอุทกภัยธรรมชาติเหรอ?


แต่ฉินสือโอวไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขายิ้มแล้วพูดว่า “หลังกินข้าวเสร็จ ผมชินที่จะต้องออกไปเดินเล่นน่ะครับ”


แนวชายฝั่งของเกาะน้ำแข็งอัคคีค่อนข้างชัน เนินเขาเล็กๆ เรียงรายต่อกันเป็นแถว ตอนคลื่นทะเลซัดไปบนนั้น ได้ส่งเสียง ‘ซ่าๆ’ ออกมา อันตรายเป็นที่สุด


ฉินสือโอวเดินไปริมทะเลสูดดมกลิ่นอายทะเลที่คุ้นเคย ถ่ายโอนจิตสำนึก ให้พลังโพไซดอนเข้าไปในน้ำ


นี่คือน่านน้ำแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย เขาอยากรู้ว่าจะค้นพบอะไรใหม่ๆได้บ้างหรือเปล่า


เกาะกรีนแลนด์กับเกาะนิวฟันด์แลนด์เคยเป็นรังของโจรสลัดไวกิ้ง น่านน้ำระหว่างทั้งสองเกาะนั้นเป็นจุดสำคัญที่เชื่อมระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับทวีปยุโรปไว้ ที่นี่มีทั้งการบุกปล้นของโจรสลัดกับสภาพอากาศที่เลวร้ายของขั้วโลกเหนือ เมื่อก่อนมีเรือไม่รู้เท่าไรที่ต้องจมอยู่ที่นี่


เป้าหมายของฉินสือโอวก็คือเรือที่จมลงไปสู่ก้นทะเลนั่นเอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)