ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 670-674

 บทที่ 670 มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวมองอย่างละเอียด คนอายุน้อยสองคนนี้มีหน้าตาที่คล้ายกันมาก เขาคิดว่าเป็นคู่รักชายหญิง แต่พอมองเผินๆ ก็เหมือนคู่แฝดพี่สาวน้องชายอยู่


ตอนทักทายกัน ฉินสือโอวจับมือกับทั้งสองคน หวงเฮ่าเจียสูงพอๆ กับโหวจื่อเซวียน ถึงจะเป็นโอตาคุแต่ดันหน้าตาดีมาก ตัวพี่สาวหวงเจียเจียก็พูดจาสุภาพเรียบร้อยไม่มีที่ติ


วินนี่เชิญทั้งสามมานั่งห้องรับแขก พอเห็นความงามของวินนี่ หวงเฮ่าเจียก็เผยความไก่อ่อนหน้าแดงขึ้นมา แล้วเหลือบมองวินนี่อย่างประหม่า


โหวจื่อเซวียนกับวินนี่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เขาจ้องหวงเฮ่าเจียเขม็ง ต่อให้ใช้หอยงวงช้างคิดฉินสือโอวก็รู้ว่าเจ้าหลานกำลังคิดอะไร ตกหลุมรักสาวเข้าให้แล้วไง


ฉินสือโอวเก็บหอยนางรมเตรียมเข้าไปคุยด้วย จู่ๆ โหวจื่อเซวียนก็ดึงเขาไว้อย่างลับๆ ล่อๆ ยื่นหน้ามาพูดว่า “พี่ครับ พี่โอเคกับการที่มาผมอยู่ที่นี่ไหมครับ?”


“แน่นอนสิ ทำไมเหรอ?” ฉินสือโอวถามด้วยความแปลกใจ


ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโหวจื่อเซวียนก็ถือว่าไม่เลว ในฐานะชาวจีนรายที่สองที่มาอาศัยอยู่ในเกาะแฟร์เวล ความสัมพันธ์จะไม่ดีได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้นทั้งสองยังมีงานอดิเรกเหมือนกันอีก ชอบปืน ของกินที่ชอบ โหวจื่อเซวียนยังทำอาหารมาให้เขาที่ฟาร์มปลาบ่อยๆ อีก


“คือ เจียเจียอยากจะขออนุญาตพี่อย่างหนึ่งน่ะครับ รบกวนพี่ช่วยเห็นแก่หน้าผมแล้วตอบตกลงด้วยนะครับ” โหวจื่อเซวียนประสานมือโค้งให้ อีกนิดก็จะคุกเข่าลงไปด้วยแล้ว


ฉินสือโอวตบบ่าเขา ตอบว่า “วางใจเถอะ ไม่ต้องเวอร์ก็ได้”


เขาเดาว่าเด็กนี่เพื่อตามจีบคนที่ชอบแล้ว ต่อหน้าคนอื่นก็คงพูดไปเรื่อยได้ทั้งนั้นแหละ


หลังนั่งคุยไปสักพัก หวงเจียเจียก็เอ่ยว่า “อ้อพี่ฉิน ฉันยังไม่เคยแนะนำตัวเองใช่ไหมคะ ฉันทำงานเป็นบรรณาธิการของเทนเซ็นต์เวยป๋อจีนอยู่ค่ะ คืออย่างนี้ ฉันเห็นว่าพี่ยังไม่เคยใช้เทนเซ็นต์จีนเลย ไม่ทราบว่าอยากให้ฉันช่วยเปิดบัญชีให้ไหมคะ?”


ฉินสือโอวโบกมือปฏิเสธ “ขอโทษด้วยสาวน้อย ฉันไม่ค่อยชอบเล่นอะไรพวกนี้เท่าไร”


ก่อนหน้านี้ก็มีคนโทรมาบอกให้เขาเปิดบัญชีซินล่างเวยป๋อเหมือนกันแต่เขาปฏิเสธไป ฉินสือโอวไม่อยากทำอะไรที่ดูสร้างภาพ แต่ไม่นึกว่าเทนเซ็นต์เวยป๋อจะทำงานเหนือชั้นถึงขั้นส่งคนใกล้บ้านมาขายถึงที่


หวงเจียเจียยิ้มกล่าวต่อว่า “ฉันเข้าใจค่ะ พี่ฉิน คืออย่างนี้ค่ะ ตอนนี้ประเทศจีนเรามีคนมากมายที่กำลังสนใจชีวิตต่างประเทศอยู่ ทางเทนเซ็นต์เราจึงเปิดหัวข้อเฉพาะที่ออนไลน์ได้ทั้งในและต่างประเทศ ให้เพื่อนร่วมชาติของเราได้แนะนำประเพณีและการใช้ชีวิตของตัวเองที่นั่นกับคนในประเทศมากมายที่สนใจกันค่ะ”


“นอกจากนี้เมืองแฟร์เวลเองก็ได้การยอมรับอย่างเป็นทางการจากเวยป๋อเราแล้ว รวมถึงตัวพี่ด้วย การได้ติดต่อกับเพื่อนประเทศเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ดีนะคะ”


“ที่ประเทศเรายิ่งมีฟาร์มปลาทะเลน้อยอยู่ พวกเราเลยยิ่งสงสัยเรื่องวิถีชีวิตฟาร์มปลาที่แคนาดากัน คุณไม่อยากแนะนำฟาร์มปลาต้าฉินหน่อยเหรอคะ?”


ฉินสือโอวนิ่งคิด ถ้าเกิดแค่แนะนำชีวิตในฟาร์มปลากับตอนจับปลา การใช้เวยป๋อก็คงไม่เลว


เขามั่นใจในอำนาจของเวยป๋อดี มันกลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของวัยรุ่นในประเทศ เมื่อก่อนที่เขาไม่อยากใช้เวยป๋อ เพราะเขากังวลว่าอาจไปมีเรื่องกับพวกนักเลงคีย์บอร์ดเข้า คนจีนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศมักชอบมาถกเถียงด้วยเรื่องเล็กน้อยไร้สาระ


แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง เวยป๋อก็เป็นพื้นที่โฆษณาที่ดีมาก เขาสามารถแนะนำปลาที่จับมาได้ของฟาร์มและยังเป็นช่องทางการขายให้แก่คนในจีนได้เช่นกัน


ขณะเขากำลังครุ่นคิด โหวจื่อเซวียนก็กระแอมทีหนึ่งพร้อม ขยิบตายักคิ้วให้ เห็นดังนั้นฉินสือโอวจึงกระจ่างทันที หรือว่านี่คือเรื่องที่จะขออนุญาตหรอกเหรอ?


ที่จริงเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นขออนุญาตด้วยซ้ำ ก็แค่ใช้เวยป๋อแนะนำชีวิตตัวเองเท่านั้น ปกติฉินสือโอวก็โพสต์รูปประจำวันลงในสตอรี่คิวคิวอยู่แล้ว คราวนี้เพียงเปลี่ยนที่โพสต์รูปเอง


เขาเลยตอบอย่างยินดีไปว่า “งั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันเปิดบัญชีหลังกินข้าวเสร็จ”


ได้ยินดังนั้นหวงเจียเจียก็ดีใจมาก ท่าทางฉินสือโอวคงดูเบาอิทธิพลของตนไปหน่อย ทั้งการซื้อฟาร์มปลา เรื่องที่ไปช่วยชีวิตคนในทะเล ทำให้เขากลายเป็นคนดังในสายตาของชาวจีนและคนอเมริกาเหนือไปแล้ว


ยิ่งไม่นานนี้เขาได้เข้าร่วมการประท้วงเจ้าของฟาร์มปลาในเซนต์ลอว์เรนซ์ไป ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไร แต่ที่จริงมีสื่อจีนไปทำข่าวด้วย พวกเขาทำการสัมภาษณ์ชาวประมงส่วนหนึ่งถามว่ารู้สึกอย่างไรกับเขา ซึ่งพวกชาวประมงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคู่ควรเป็นผู้นำของเจ้าของฟาร์มปลาแห่งเซนต์ลอว์เรนซ์


ด้วยเหตุนี้ทางสื่อในประเทศจึงเริ่มวุ่นวายอีกครั้ง เขาถูกทำข่าวว่าเป็นผู้จัดการกิจกรรมขบวนพาเหรด เป็นผู้มีอิทธิพลที่สามารถเจรจากับรัฐบาลนิวฟันด์แลนด์ได้ หวางเหล่ยกับเหยาลี่ลี่ก็รู้จักเขาผ่านทางรายงานข่าวพวกนี้นั่นเอง


เทนเซ็นต์เวยป๋อตระหนักถึงคุณค่าทางสังคมที่เขาเป็นตัวแทนดี และไม่ลังเลที่จะส่งคนมาเชิญเขาเปิดบัญชีเวยป๋อโดยเฉพาะ การปฏิบัติแบบนี้แม้แต่ดาราระดับสองในประเทศก็ยังไม่ได้รับมีเพียงดาวดังเท่านั้นที่มีสิทธิ์


เมื่อฉินสือโอวตกลงทั้งสองก็หมดธุระกัน หวงเจียเจียและโหวจื่อเซวียนต่างถอนหายใจโล่งอก จากนั้นหวางเหล่ยกับเหยาลี่ลี่ก็ทำงานประจำวันเสร็จพอดี ฉินสือโอวจึงเชิญพวกเขามากินข้าวด้วยกัน โดยมีบิลลี่มาแจมที่โต๊ะเพิ่ม


ก่อนหน้านี้บิลลี่ได้รับโทรศัพท์ให้กลับไปทะเลสาบเฉินเป่าเพื่อจัดการเรื่องด่วน หลังกลับมาเขาก็รีบเดินเข้าวิลล่า เอ่ยอย่างจนใจว่า “บ้าเอ้ย ไอ้หมอนั่นมันเรียนดำน้ำมายังไงกัน…”


เมื่อเห็นบิลลี่ พวกหวงเจียเจียก็ลุกขึ้นตามมารยาท จังหวะที่บิลลี่เงยหน้าขณะเดินเข้ามา และหวงเจียเจียกำลังหมุนตัวยืนขึ้น ทั้งสองก็ประจันหน้ากันพอดี


พอเห็นหน้าหวงเจียเจีย คำพูดของบิลลี่ก็ชะงักค้างกลางคัน


ฉินสือโอวไม่ทันใส่ใจ ถามต่อว่า “นักประดาน้ำพวกนั้นทำไมเหรอ?”


บิลลี่ปรับสีหน้าก่อนพยายามฉีกยิ้มสดใส “ไม่มีอะไรหรอก ฮะฮะ ก็แค่ไปพิจารณาประสบการณ์การดำน้ำของทุกคนเอง นายมีแขกอยู่ด้วยนี่นาฉิน ใครเหรอ?”


“ผมโหวจื่อเซวียน พวกเราเคยเจอกันหลายครั้งแล้ว พวกธุระเยอะอย่างคุณจำไม่ได้หรือไง?” ไม่รู้ว่าทำไมสหายเจี้ยนผานโฮ่วอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา จู่ๆ ถึงพูดอะไรแปลกๆ


บิลลี่ฉีกยิ้มสดใสตอบ “จำได้อยู่แล้ว ฉันก็เคยไปเล่นร้านปืนพวกนายอยู่ แล้วสองคนนี้ล่ะ?”


ฉินสือโอวกล่าวแนะนำ บิลลี่และหวงเฮ่าเจียจับมือทักทายเสร็จ แววตาเขาพลันกลายเป็นอ่อนโยน เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ผมบิลลี่ บิลลี่ สเต็มเมอร์ ชอบดำน้ำกับโต้คลื่น ถ้ามีโอกาสพวกเรามาเรียนรู้ด้วยกันได้นะครับ”


ฉินสือโอวมองบิลลี่แบบมองคนสติไม่สมประกอบ “สมองนายเน่าแล้วเหรอไง? ผู้หญิงเขาจะไปเรียนดำน้ำโต้คลื่นกับนายทำไม?”


บิลลี่ตอบอย่างมั่นใจ “อย่างน้อยทักษะว่ายน้ำของเธอจะได้ดีขึ้นไง สาวน้อยน่ารักคนนี้มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับท้องทะเลอยู่ ฉันสัมผัสถึงความลึกลับแห่งทะเลจากตัวเธอได้”


หน้าโหวจื่อเซวียนแดงก่ำ


หวงเจียเจียหัวเราะ “คุณชมเกินไปแล้ว แต่ฉันก็เคยเรียนว่ายน้ำมาจริงๆ ความจริงเมื่อก่อนพวกเราเคยเป็นนักกีฬาระบำใต้น้ำประจำจังหวัดด้วย เพิ่งออกเมื่อปีที่แล้ว”


ฉินสือโอวกระจ่างทันที เขาเอ่ยยิ้มๆ “ที่แท้พวกเธอทั้งคู่ก็เป็น…”


เขายังพูดไม่ทันจบ บิลลี่ก็หัวเราะเสียงดัง โหวจื่อเซวียนเหมือนอยากร้องแต่ร้องไม่ออก ส่วนวินนี่ขยิบตาให้เขา จากนั้นเขาถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง


บทที่ 671 สงครามที่ไม่เกี่ยวด้วย

โดย

Ink Stone_Fantasy

พอบิลลี่มา บรรยากาศรอบๆ ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป


ฉินสือโอวรู้สึกแปลกๆ แต่บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร ได้แต่หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “เอาล่ะ ไหนๆ ก็ได้มาเจอพร้อมหน้ากันทั้งที งั้นถือโอกาสมากินดื่มมื้อนี้ให้เต็มที่ด้วยกันดีกว่า เดี๋ยวผมทำอาหารเลี้ยงเอง!”


เขากล่าวจบ โหวจื่อเซวียนก็รีบลุกขึ้นพับแขนเสื้อเอ่ยว่า “พี่ฉินพูดถูก มื้อนี้ผมจะแสดงฝีมือด้วยคน เดี๋ยวผมทำอาหารตะวันออกเฉียงเหนือดั้งเดิมให้ชิมกันเอง”


ฉินสือโอวดีใจมาก ดูท่าเจ้าหนุ่มยังมีสติอยู่ แต่ตอนนายยืนนี่มันรุนแรงไปหน่อยนะ ฉันนึกว่านายจะทุ่มสนามเสียอีก


บิลลี่ยืนตาม เอ่ยยิ้มๆ “วันนี้ฉันกับฉินไปดำน้ำมาได้อาหารทะเลมาเยอะเหมือนกัน จะทำอาหารจีนคงไม่เหมาะ เดี๋ยวฉันเข้าครัวให้ทุกคนได้ชิมอาหารทะเลสูตรไมอามีกัน”


ฉินสือโอวดีใจ อาหารทะเลไมอามีก็อร่อยเหมือนกัน แต่บิลลี่นายพูดเสียหน้าไม่อายเลยนะ? ไหนบอกว่าไปดำน้ำกับฉันแล้วจับอาหารทะเลได้ไม่เยอะไง? แล้วนายจับอะไรได้บ้างไหมล่ะ!


แต่ท่านฉินเป็นคนใจกว้าง ไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้หรอก มีของให้กินก็พอ


โหวจื่อเซวียนมองบิลลี่อย่างเย็นชาพลางเอ่ยว่า “พวกเราส่วนใหญ่มีแต่คนจีนกัน ก็ต้องกินอาหารตะวันออกเฉียงเหนือดั้งเดิมสิ”


“ก็เพราะเพื่อนชาวจีนเยอะไง ถึงต้องได้ชิมอาหารทะเลสูตรไมอามี ฉันคิดว่าเพื่อนนายกลับประเทศไปก็ยังมีโอกาสได้กินเจ้า ‘อาหารจีนแอฟริกัน’ ของนายอยู่นะ แต่อาหารทะเลไมอามีไม่ใช่จะมีโอกาสกินบ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ?” บิลลี่หัวเราะ


หน้าโหวจื่อเซวียนยิ่งแดงกว่าเดิม สิวบนหน้าดูห้อเลือดแทบระเบิด “เป็นอาหารตะวันออกเฉียงเหนือต่างหาก! ตะวัน! ออก! เหนือ! ไม่ใช่อาหารจีนแอฟริกัน!”


บิลลี่รีบขอโทษ “ขอโทษที นายก็รู้ว่าฉันเพิ่งเรียนภาษาจีนไม่นาน แถมยังเรียนไม่เก่งอีก ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด ฉันว่าฉันคงต้องหาครูภาษาจีนที่ดีกว่านี้แล้วล่ะ”


บิลลี่พูดพลางจ้องหวงเจียเจีย


พอมองทั้งสองที่เหมือนกำลังชนไก่กัน ถ้าฉินสือโอวยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นอีก เขาก็คงโง่เง่าแล้ว


บิลลี่นั้นถูกใจอะไรหวงเจียเจียเข้าแล้วแน่นอน โหวจื่อเซวียนที่รู้ตัวเลยระแวง ทั้งสองคนจึงมีท่าทีแบบนี้ใส่กัน


ฉินสือโอวยิ้มภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง วินนี่ถอนหายใจส่ายหน้า คนโง่ไม่ใช่ปัญหา แต่คนที่โง่แล้วยังคิดว่าคนอื่นโง่กว่านั้นแย่ยิ่งกว่า ตั้งแต่บิลลี่เข้าประตูมา เธอก็รู้ทันทีว่าบิลลี่สนใจหวงเจียเจีย ส่วนผู้ชายของเธอนั้นกลับเพิ่งมารู้ตัวเอาป่านนี้…


หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า หลัวปอวิ่งมานั่งเรียงแถวตรงข้างเท้าวินนี่เพื่อชมละครด้วย พวกมันชอบดูคนเถียงกันที่สุด


พอเห็นสองหนุ่มต่างไม่ยอมกันเช่นนั้น ฉินสือโอวคิดว่ายามนี้เจ้าบ้านอย่างเขาคงต้องออกหน้าแล้ว จึงพูดว่า “เอาล่ะเอาล่ะ ถ้าเราเลือกอาหารกันไม่ได้ งั้นก็อาหารตะวันออกเหนือครึ่งหนึ่งอีกครึ่งก็อาหารทะเลสูตรไมอามีสิ ฮ่า เป็นมิตรภาพจีนอเมริกันไปเลย”


ปรากฏบิลลี่กับโหวจื่อเซวียนล้วนปฏิเสธที่จะสงบศึก และยังตอบเป็นเสียงเดียวกัน “ไม่!”


ฉินสือโอวจึงคร้านจะใส่ใจ ฉันเป็นเจ้าภาพ ฉันอายุมากสุด ฉันคือเทพแห่งท้องทะเล พวกเจ้าบังอาจขัดบัญชาของข้า? ย่อมได้ งั้นข้าก็จะชมละครต่อแล้วกัน


วินนี่ทำการไกล่เกลี่ยเอง “แคนาดาเป็นประเทศแห่งประชาธิปไตย เพราะงั้นพวกเรามาคุยกันดีกว่า หวางเหล่ย นายกับเหยาลี่ลี่อยากกินอะไร?”


หวางเหล่ยและเหยาลี่ลี่มองหน้ากันก่อนตอบเสียงเบา “พวกเรากินอะไรก็ได้”


ดีมาก สละสิทธิ์ออกเสียง


คราวหวงเจียเจียเลือก เขาย่อมเลือกเพื่อนตัวเองอยู่แล้ว “กินอาหารตะวันออกเหนือกัน พี่โฮ่วทำอาหารอร่อยมากเลย!”


ทีแรกตั้งใจจะเลือกตามหวงเจียเจีย แต่บิลลี่กลับหันมาพูดกับฉินสือโอวว่า “ฉิน หอยงวงช้างกับหอยนางรม นายจะกินยังไง?”


ฉินสือโอวชะงักไปก่อนตอบ “หา? ฉันก็นั่งกินไง”


ทุกคน “…”


พอเห็นท่าทางเหนื่อยหน่ายของทุกคน ฉินสือโอวถึงรู้ว่าตัวเองดันตอบไม่ตรงคำถาม เลยรีบเสริมว่า “ก็ต้องอาหารทะเลสูตรไมอามีอยู่แล้วสิ”


บิลลี่ยิ้มภูมิใจ โหวจื่อเซวียนทำหน้าเศร้ารู้สึกเหมือนโดนทำร้ายจิตใจ


ฉินสือโอวจึงรู้ตัวว่าตัวเองตกหลุมพรางบิลลี่เข้าแล้ว เขารีบอธิบายอย่างผู้บริสุทธิ์ว่า “ก็หอยงวงช้างกับหอยนางรมมันต้องใช้วิธีทำแบบตะวันตกเท่านั้นนี่ อาหารภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ได้ใช้สองอย่างนี้เสียหน่อย”


“ทำไมจะไม่มี? หอยงวงช้างตุ๋น หอยนางรมตุ๋นไง!” โหวจื่อเซวียนงัดทีเด็ดของอาหารตะวันออกเฉียงเหนือออกมา ไม่ว่าอะไรก็เอามาตุ๋นเอานั่นเอง!


ด้วยเหตุนี้หวงเจียเจียเลยต้องเป็นฝ่ายเลือกอีกครั้ง หญิงสาวมองพวกคนที่ตีกันเป็นไก่ชนด้วยสายตาว่างเปล่า ขณะที่เธอลังเลจะยืนขึ้นพูด วินนี่ก็ดีดนิ้วลงมติ “โอเคมื้อนี้ไม่ต้องกินอาหารตะวันออกเหนือหรืออาหารทะเลไมอามีทั้งนั้น ที่รัก คุณไปทำกับข้าวเถอะ คุณอยากกินอะไรก็ทำเลย”


ฉินสือโอวไม่เต็มใจ ตอบว่า “แต่ผมอยากกินสองอย่างนั้นนี่นา!”


วินนี่ฉีกยิ้มน่ารักใส่


เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น หู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอก็พากันตัวสั่น แล้วพร้อมใจกระโจนแปรพักตร์ฉินสือโอว “บรู๊วบรู๊ว! เอ๋งเอ๋งเอ๋งเอ๋ง! โฮ่งโฮ่ง! แกว๊กแกว๊ก!”


เสียงสุดท้ายเป็นเสียงของเจ้าบุชที่บินกลับมาพอดี


ฉินสือโอวทำหน้าสิ้นหวัง ฉันเป็นคนพาแกมาเมื่อปีที่แล้วแท้ๆ แบบนี้ควรเรียกว่าปัญหาของตัวผู้นำมีอิทธิพลกับลูกน้องหรือเปล่าเนี่ย?


โชคดีที่มื้อเย็นเขาไม่ได้ทำคนเดียว วินนี่วิ่งวุ่นไปมาคอยช่วยด้วย สมเป็นมิตรภาพจีนอเมริกันอย่างแท้จริง เขารับผิดชอบอาหารจีน วินนี่รับผิดชอบอาหารอเมริกัน โดยทั้งสองแอบขโมยจูบกันอยู่เรื่อยๆ จนฉินสือโอวยิ้มแย้มอารมณ์ดีในที่สุด


ขณะเดียวกันบนโต๊ะอาหารก็เริ่มละครขึ้นอีกครั้ง


“นี่เจียเจีย ลองถั่วแขกผัดที่ฉินทำดูสิ อร่อยนะ!”


“คุณหวง กินหอยนางรมนี่สิ ช่วยบำรุงผิวดีนะครับ”


“เจียเจียดื่มน้ำผลไม้ด้วยสิ คั้นสดๆ เลย เข้มข้นดีนะ”


“คุณหวงจะเติมไวน์แดงไหมครับ? มันช่วยบำรุงความงามผิวได้นะครับ”


ฉินสือโอวมองจานอาหารที่ว่างเปล่าแล้วถอนหายใจ พลันตะเกียบคู่หนึ่งก็คีบหอยงวงช้างจิ้มฮอสแรดิช(วาซาบิ)มาตรงหน้า เขาหันไปมองรอยยิ้มอ่อนโยนของวินนี่ ดีจริงที่มีภรรยา!


พอกินเสร็จชิ้นหนึ่ง วินนี่ก็คีบให้เพิ่มอีก กิน คีบ กินแล้วก็คีบอย่างนั้น…..


ฉินสือโอวจนใจ นี่มันงานกินหอยงวงช้างหรือไง?


“นั่นแหละที่รัก กินเยอะๆ เลย นี่เป็นของจากทะเลที่คุณหามาอย่างยากลำบากนี่นะ” ความรักของวินนี่ แทบทำฉินสือโอวรู้สึกหลงหัวปักหัวปำทีเดียว


หลังกินดื่มกันเรียบร้อย สงครามระหว่างบิลลี่และโหวจื่อเซวียนยังคงดำเนินต่อไป แถมประเด็นการโต้เถียงยังกว้างขึ้น ก่อนทั้งสองจะเริ่มพูดถึงปืนคู่ใจของตัวเองกัน ฉินสือโอวก็ปลีกตัวจากโต๊ะไปอย่างไม่แยแส


ก่อนแยกย้าย หวงเจียเจียเอ่ยด้วยความลำบากใจว่า “ขอโทษด้วยนะคะ พี่ฉิน ขอบคุณสำหรับการต้อนรับจริงๆ แต่ฉันไม่น่ามาเลย เรื่องมันถึงเป็นอย่างนี้”


ฉินสือโอวตบหลังเธอปลอบใจ “เด็กโง่ ไม่ต้องคิดมากหรอก…”


ไม่ทันไรก็มีประกายแหลมคมของมีดบินสี่เล่มพุ่งผ่านไป


พอเห็นท่าทางโกรธจัดของโหวจื่อเซวียนกับความดุร้ายของบิลลี่ ฉินสือโอวจึงดึงมือบนไหล่หวงเจียเจียกลับเงียบๆ ก็ได้ พวกนายจะไปมีเรื่องกันที่ไหนก็ไปเถอะ ข้าไม่ยุ่งด้วยแล้ว


วินนี่มองฉินสือโอวอย่างอนาถใจ คุณคิดว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกจะยอมให้คุณจับตัวตามใจชอบแบบฉันหรือไงกัน?


บทที่ 672 เปิดตัวเวยป๋อ

โดย

Ink Stone_Fantasy

เทนเซ็นต์เวยป๋อดำเนินการรวดเร็วมาก วันแรกเพิ่งบอกจะเปิดบัญชีไป เช้าวันที่สองก็จัดการให้เสร็จสรรพ แถมยังรับรองสถานะวีไอพีให้เขาเองเรียบร้อย


เมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์ ฉินสือโอวก็ถอนหายใจอย่างจนใจ สุดท้ายตนก็เข้าร่วมกลุ่มวีไอพีเวยป๋อที่แสนชั่วร้ายจนได้ ก็ปล่อยให้จอมมารเขาแสดงฝีมือไปแล้วกัน


เทนเซ็นต์เวยป๋อนอกจากตั้งสถานะวีไอพีให้เขาแล้ว ยังทำหัวข้อโฆษณาแนะนำราชาฟาร์มปลาแห่งแคนาดาบนเวยป๋อ สำหรับพูดคุยโดยตรงเรื่องประสบการณ์การเพาะพันธุ์ปลาต่างถิ่นการซื้อรถหรูบ้านและดื่มด่ำกับสาวงาม


ชื่อเสียงของฉินสือโอวบนเวยป๋อไม่ได้น้อยดังที่เขาคิดไว้ ขนาดเกาะแฟร์เวลยังเป็นที่โด่งดังบนเว็บทางการเวยป๋อจนตอนนี้มีแฟนคลับกว่าหนึ่งล้านคนให้ความสนใจ โดยมีเขาเป็นตัวเต็งหลัก


ด้านฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้และไม่รู้ว่าจำนวนแฟนคลับตัวเองมันเกินหมื่นคนได้อย่างไร ทว่าตอนนี้เขาคงยังโพสต์อะไรไร้สาระไม่ได้


ไม่ใช่ไม่อยากทำแค่ฉินสือโอวไม่รู้จะเริ่มเปิดตัวยังไง จะโพสต์ว่าสวัสดีทุกคนฉันคือฉินสือโอวตัวจริงเสียงจริงก็คงไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?


ขณะที่เขากำลังกังวล เสียงชาร์คก็ดังขึ้นจากวิทยุสื่อสาร “เฮ้ บอสช่วยมาที่ท่าเรือเสาสูงหน่อยครับ มีเต่ามะเฟืองตัวหนึ่ง เอ่อ คือมันดูแปลกๆ น่ะครับ”


เต่ามะเฟืองกับเต่าลายจุดล้วนเป็นสัตว์คุ้มครองของฟาร์มปลา ห้ามยิงโดยเด็ดขาดต้องปกป้องไว้ พวกชาวประมงเลยดูแลพวกมันอย่างดี เวลามีปัญหาก็จะรายงานฉินสือโอวทันที


พอฉินสือโอวได้ยินว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับเต่ามะเฟืองก็รีบวิ่งไปยังท่าเรือเสาสูง หู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอและปอหลัวที่เล่นกันตรงสนามหญ้าเห็นเขาวิ่งก็พากันวิ่งแข่งตามอยู่ด้านหลัง


พื้นที่ฟาร์มปลากว้างมาก ท่าเรือเสาสูงอยู่ห่างจากวิลล่าหนึ่งกิโลเมตรกว่า แต่ฉินสือโอวกลับวิ่งมาถึงอย่างรวดเร็ว จากการออกกำลังกายทุกวันและพละกำลังที่เพิ่มขึ้นด้วยจิตสำนึกแห่งโพไซดอน เลยไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร


ณ ชายฝั่งท้ายท่าเรือ มีชาวประมงเกือบทุกคนมุงอยู่ ฉินสือโอวดันพวกเขาเปิดทางเข้าไปดู เต่ามะเฟืองตัวเท่าฝาหม้อกำลัง กำลัง กำลัง…


เขาเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน ขาที่เหมือนไม้พายทั้งสี่ของเจ้าเต่ากางแผ่อยู่บนทรายโบกสะบัดไปมา หัวหดเข้าออกเดี๋ยวก็แกว่งซ้ายขวา กระดองโยกขึ้นลงเป็นจังหวะ เหมือนคนกำลังเต้นแถมยังเต้นฮิปฮอปอีก


ถ้าเกิดคนเต้นได้หมายความว่าเต่าก็เต้นได้เหมือนกันเหรอ?


พวกชาวประมงต่างไม่แน่ใจจึงเรียกฉินสือโอวมา พอเห็นเขามาสมทบจึงเริ่มปรึกษากันอย่างอุ่นใจ


“เต่ามะเฟืองนี่มันเมาเหรอไง? ดูมันโซเซเหมือนบูลตอนเมาเลย”


“ไอ้เวร ไม่ต้องมาว่าฉันเลย นี่มันเมากัญชาชัดๆ จำสภาพแลนซ์ครั้งล่าสุดที่พี้กัญชาไปเยอะได้ไหม? ฮ่าฮ่า!”


“ไอ้บ้า นั่นมันหมัดเมาต่างหาก! พูดถึงหมัดเมา หรือมันก็กำลังต่อยอะไรอยู่เหมือนกัน? อะต๊าอะต๊า! ฉันล่ะอยากต่อยเป็นชะมัด! หรือว่ามันกำลังฝึกกังฟูจีนอยู่?”


ฉินสือโอวจำอีกฝ่ายได้ทันที มันคือเจ้าตัวที่โชคร้ายโดนบิลลี่ทำไฟดูดเมื่อวานไม่ใช่เหรอ? ราชานักเต้นแห่งฟาร์มปลาต้าฉินนิโคลัส กูส แล้วมันปืนขึ้นมาถึงบนหาดข้างท่าเรือได้ยังไงกัน?


เขาลูบคางด้วยความสงสัย ฉินสือโอวนั่งยองมองท่าเต้นแปลกๆ ของเจ้าเต่า เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้อยู่ดี


ที่จริงเขารู้ว่าเต่ามันไม่ได้กำลังเต้นหรือต่อยหมัดเมาหรอก ไร้สาระทั้งเพ มันน่าจะโดนไฟช็อตมาแน่ บิลลี่คงไปทำมันไฟดูดเข้าเลยมีสภาพเช่นนี้


ฉินสือโอวงุนงง ชาวประมงที่มากประสบการณ์ก็ยังไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ทุกคนได้แต่ยักไหล่ให้กัน


ทว่าฉินสือโอวพลันตระหนักได้ว่า ตัวเองนั้นมีเพื่อนในประเทศตั้งร้อยล้านกว่าคนอยู่ไม่ใช่เหรอ? เขาเชื่อว่าเพื่อนร่วมชาติในอินเทอร์เน็ตที่เปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถ ต้องสามารถอธิบายอาการแปลกของนิโคลัส กูสได้แน่นอน


หลังพยายามอยู่สักพัก ฉินสือโอวก็เข้าใจวิธีโพสต์วิดีโอลงเวยป๋อเสียที เขาถ่ายวิดีโอในมุมต่างๆ และโพสต์ลงทีละคลิป แล้วพิมพ์หัวข้อตัวเองว่า ‘ช่วยด้วย เต่ามะเฟืองบ้านผมเป็นอะไรไม่รู้’


พอลงเสร็จฉินสือโอวก็ปล่อยทิ้งไว้ เมื่อตอนเขาลงสตอรี่คิวคิวก็ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงจะมีคนมาคอมเมนต์ เขาจึงมาตั้งใจดูเต่าที่กำลังดิ้นทุรนทรายแทน


หู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอและปอหลัวที่เดิมกังวลว่าจะมีตัวมาแย่งความเพิ่มอีก แต่พอเห็นสภาพเต่าที่โงนเงนไปมา พวกมันก็พากันแสยะยิ้ม พ่อเราคงไม่ได้รสนิยมพิสดารขนาดนั้นหรอกมั้ง? ไม่ใช่ว่าอะไรก็เอากลับบ้านหมดหรอกจริงไหม?


พวกมันเดาถูกแล้ว ฉินสือโอวไม่ได้คิดจะรับเลี้ยงนิโคลัส กูสไว้ ไม่ใช่เพราะมันดูสติไม่สมประกอบ แต่เต่ามะเฟืองเป็นจอมลอยชายที่มีศักดิ์ศรี พวกมันมีใจรักอิสระ หากจับมาอุดอู้อยู่ที่เดียวจะทำให้มีลูกยากได้!


ฉินสือโอวไม่อยากทำบาป ตอนนี้เขายังไม่มีลูกเลย


เจ้าเต่ามะเฟืองเต้นไปได้สักพักก็เหมือนเริ่มเหนื่อยจึงนอนลงกับพื้นทราย ตอนนั้นเองมีเต่าน้อยตัวหนึ่งโผล่ขึ้นจากน้ำแล้วพยายามปีนไปบนกระดองของเต่าใหญ่ ดวงตาดำจิ๋วมองฝูงคนอย่างเหยียดหยาม


ทำเพื่อนฉันเป็นอัมพาตอย่างนี้ คอยดูเถอะเดี๋ยวฉันจะกลับไปเรียกพวกเต่ามะเฟืองมาถล่มพวกแกให้จมเลย!


นั่นคือความรู้สึกที่พวกชาวประมงสัมผัสได้จากแววตาของเต่าน้อย


แต่อย่างว่ากรรมตามสนอง เมื่อวานเต่าน้อยก็แกล้งบิลลี่ไปเยอะแล้ว วันนี้ดูท่าคงจัดเต็มกว่าเดิม


ใช่ เต่าอัลลิเกเตอร์ผู้น่าเกรงขามมาแล้ว!


มาสเตอร์มักมาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดูเปล่าเปลี่ยวสันโดษเย็นชา มันก้าวอย่างมุ่งมั่นไปบนหาดทราย แล้วมองเต่ามะเฟืองพ่อลูกนิ่งๆ พร้อมสีหน้าที่เริ่มไม่สบอารมณ์


เต่าอัลลิเกเตอร์ถือเป็นเต่าเจ้านักรบ จนทุกวันนี้ก็ยังมีตำนานกล่าวขานมากมาย ไม่ว่าจะรบกับหมาบนฝั่ง เห็นทุกคนเป็นปลานิลไปหมด แถมยังกัดไม่ปล่อย ฯลฯ


เมื่อนิโคลัส กูสเห็นสถานการณ์ท่าไม่ดีจึงรีบพาเต่าน้อยกลับลงทะเลทันที ส่วนเจ้าเต่าน้อยอินดี้ที่ดุร้ายเหี้ยมโหดนั่นน่ะเหรอ? ตอนนี้เห็นแต่กระดอง หัวกับขาหดหายไปเรียบร้อย…


ฉินสือโอวลูบๆ หัวของเจ้ามาสเตอร์ พูดอย่างไม่พอใจว่า “ทำตัวดีๆ เป็นมิตรกันหน่อยสิ เข้าใจไหม? ทีหลังไม่ต้องไปขู่เพื่อนแกอีกนะ”


มาสเตอร์ทำหน้าใสซื่อใส่ฉินสือโอว ใครขู่พวกมันเหรอ? ฉันแค่กำลังจะเตรียมอัดพวกมันเท่านั้นเองนี่?


พอเห็นนิโคลัส กูสที่ขยับตัวได้คล่องแคล่วขนาดนั้นแม้ขาจะยังกระตุกอยู่บ้างระหว่างหลบหนี ฉินสือโอวก็วางใจ อีวิลสันเอาเก้าอี้เอนกับร่มกันแดดมาให้ เขาจึงนั่งลงเปิดโทรศัพท์ ดูเวยป๋อตัวเองว่ามีคนมาเมนต์หรือยัง


ปรากฏเขาแทบสะดุ้งทันทีที่เปิด เมื่อเห็นแจ้งเตือนสองร้อยกว่าข้อความ เยอะยิ่งกว่าในสตอรี่คิวคิวเสียอีก!


เหล่าเพื่อนร่วมชาติรู้ทางแก้กันสินะ ฉินสือโอวอ่านข้อความพวกนั้นด้วยความซึ้งใจ แต่ยิ่งอ่านกลับยิ่งรู้สึกว่างเปล่าแทน


“แม่เจ้าโว้ย เต่ายักษ์ เอาไปตุ๋นในซุปเครื่องเทศจีนสิบสามชนิดต้องอร่อยแน่!”


“คอมเมนต์ด้านบนไม่มีใครมีสาระเลย มันเรียกว่าเต่า จัดเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ตระกูลเต่า! ส่วนเต่ากระดองอ่อนคือตะพาบ และตะพาบก็ไม่ใช่เต่าด้วย!”


“เลิกไร้สาระน่า ฉันอยากรู้ว่าเจ้าเต่านี่ตัวสั่นทำไมมากกว่า? หรือมันกลัวเจ้าพ่อฉิน? เจ้าพ่อจะกินซุปเต่าเหรอ?”


“ว้าว นั่นฟาร์มปลาของเจ้าพ่อฉินเหรอ? สวยจัง ฉันล่ะอยากแต่งกับคุณชะมัด!”


“ถ้าให้พูดจริงจัง เต่านี่น่าจะเป็นโรคลมชัก ฉันรู้จักหมอทหารเก่าคนหนึ่งที่รักษาโรคลมชักโดยเฉพาะอยู่”


“ลมชักบ้าอะไร ไร้สาระ อะไรเนี่ย ตอนนี้ปู่ฉันก็กำลังยืนขึ้นด้วยสภาพแบบนั้นเลย!”


“น่าจะเป็นกระดูกอักเสบหรือเปล่า? ดูจากที่มันยืนไม่ขึ้น…”


“โอ้โห ยงเจ้ง! นิโคลัส จอชนี่หว่า! ราชานักเต้นแห่งเอเชียเลยนะ ไหนว่าจัดคอนเสิร์ตที่เถียหลิ่งไงทำไมไปจัดที่เมืองอเมริกาเหนือแทนแล้วล่ะ?”


บทที่ 673 ขโมยปลาไม่หยุด

โดย

Ink Stone_Fantasy

เมื่อเห็นคอมเมนต์ตั้งแต่เต่าเทพยงเจ้งจนราชานักเต้นแห่งเอเชียนิโคลัส จอช ฉินสือโอวก็หลุดหัวเราะ ดูแล้วสายตาตัวเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร


แต่พอดูดีๆ เขาก็เริ่มหัวเราะไม่ออก ไอ้พวกนี้ไม่ไหวเลยเอาแต่ล้อเลียนเขาทั้งนั้น ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ขนาดสัตว์อนุรักษ์ชื่อดังอย่างเต่ามะเฟืองพวกเขายังไม่รู้จักเลย


ฉินสือโอวไปที่หน้าหลักเวยป๋อเลื่อนดูผ่านๆ จนเจอข่าวต่างประเทศ ที่แท้เวยป๋อมันสนุกเพราะอย่างนี้นี่เอง มีทั้งหัวข้อข่าว บันเทิง ความงาม อาหารและมากมายให้ดู


เวยป๋อมีประโยชน์มากจริงๆ ไม่ใช่แค่ฆ่าเวลาได้ แต่ยังสามารถหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้หลายอย่างด้วย ขณะฉินสือโอวเลื่อนดูไปเรื่อยๆ ก็เจอข่าวเด่นหนึ่งเข้า


“กระทรวงการประมงจีนรายงานว่า ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป โควตาการจับลูกปลาทูน่าครีบน้ำเงินแปซิฟิกประจำปีจะให้จับได้ไม่เกิน 4007 ตัน ขณะที่ทางเม็กซิโกในปีนี้ได้กำหนดพื้นที่การจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินแปซิฟิกไว้โดยมีโควตาจับได้ไม่เกิน 5000 ตัน…”


การจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินเป็นหนึ่งในปัญหาที่กวนใจเจ้าของฟาร์มปลาแคนาดามากที่สุด ทุกปีพอถึงฤดูจับปลาทูน่าเจ้าของฟาร์มประมงต้องตรวจสอบฟาร์มตัวเองอย่างละเอียดว่าปลาทูน่าจะทำเงินคุ้มค่าหรือไม่


ฉินสือโอวได้อ่านก็ไม่แปลกใจว่าทำไมข่าวปลาทูน่าถึงดัง ที่แท้เดี๋ยวก็จวนจะถึงกำหนดฤดูจับทูน่าที่อเมริกาเหนือแล้วนี่เอง


ทว่าไม่เห็นมีข่าวเกี่ยวกับการจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินแอตแลนติก ที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับฉินสือโอวเลย


ฉินสือโอวเปิดกูเกิ้ล หา ICCAT [1]คณะกรรมาธิการว่าด้วยการอนุรักษ์ปลาทูน่าในแอตแลนติก ที่รับผิดชอบคุ้มครองทรัพยากรปลาทูน่าในทะเลแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้ออกข้อตกลงในการจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาเมื่อวาน


ICCAT ยังคงเป็นไปตามสนธิสัญญาว่าด้วยการอนุรักษ์ปลาทูน่าครีบน้ำเงินในแอตแลนติกของปี 2010 ซึ่งปีนี้โควตาการจับปลาชนิดนี้ยังอยู่ที่ 14900 ตัน


แต่ทาง ICCAT กล่าวว่าจากการที่ทรัพยากรปลาทูน่าในพื้นที่ทะเลแอตแลนติกค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น จึงมีแนวโน้มว่าปีหน้าอาจเพิ่มโควตาเป็น 23000 ตัน ภายในสามปีโควตาการจับปลาทูน่าต่อปีในทะเลแอตแลนติกตะวันออกก็จะเพิ่มเป็น 20% และ 14% ในทะเลแอตแลนติกตะวันตก


สำหรับฉินสือโอวการที่โควตาจับปลาทูน่าฝั่งแอตแลนติกทั่วโลกเพิ่มขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรการประมง โควตาที่ตั้งไว้จึงให้อยู่ในระดับอิ่มตัวทั้งหมด หรือก็คือ ทุกปีจะมีการตั้งมาตรฐานโควตาไว้ก่อนหมดช่วงฤดูจับปลาทูน่า


พอเป็นอย่างนั้นเวลามีคนจับทูน่าครีบน้ำเงินได้ ก็จะไม่สามารถส่งขายตามช่องทางทั่วไปได้ หรือต่อให้ไปขายในตลาดมืดราคาก็ยังต่ำเกินไปซึ่งไม่คุ้มเลย


เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉินสือโอวก็กลับไปเลื่อนดูในเวยป๋ออีก แต่ก็ไม่พบข่าวอะไรที่เป็นประโยชน์ เขาจึงถอดรองเท้าเดินเล่นไปบนชายหาดในฟาร์มปลา


แสงต้นฤดูร้อนอันอบอุ่นสาดส่อง ทำให้ทรายเนียนละเอียดอุ่นตาม เท้าที่เหยียบย่างสัมผัสได้ถึงความร้อนจากพื้น ให้ความรู้สึกสบาย


ลมทะเลจากแอตแลนติกพัดผ่าน ฉินสือโอวถอดเสื้อออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อบนตัวเพื่อรับลมทะเลเต็มที่


เหนือผิวน้ำไม่ไกลนัก ฝูงนกนางนวลเล็กๆ กระพือปีกบินว่อน พร้อมส่งเสียงร้องกังวาน


ฉินสือโอวชูเสื้อในมือขึ้น ลมทะเลพัดมันจนปลิวไหว โดยมีหู่จือกับเป้าจือมองตามอย่างสนใจ อยากกระโดดใส่เสื้อ แต่ฉินสือโอวก็ยกแขนหลบทุกครั้งที่พวกมันพยายามกระโดดขึ้นมา เจ้าแลบราดอร์สองตัวเลยทำไม่สำเร็จ


หู่จือครางหงิงหงิงด้วยความขัดใจ ฉินสือโอววิ่งถอยหลังพลางสะบัดเสื้อล่อทั้งสองตัวให้ไล่ตาม


น้ำทะเลที่ฟาร์มปลาใสเสียจนเหมือนเยลลี่สีเขียวใหญ่ยักษ์ มองลงไปก็เห็นสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแถวชายฝั่งอย่างปลาเล็ก สาหร่าย หรือกุ้งอาร์กติกที่ผ่านมา


ฉินสือโอววิ่งหยอกหู่จือกับเป้าจืออยู่สักพัก ทิ้งรอยเท้าไว้มากมายบนหาด ทันใดปูเสฉวนที่ซ่อนอยู่ในพื้นทรายก็โผล่ขึ้นมา เจ้าปูหน้าตาประหลาดลอบสังเกตสถานการณ์โดยรอบ ก่อนจะผวารีบมุดกลับลงไป


หู่จือและเป้าจือที่เจอของเล่นน่าสนใจกว่าต่างหยุดไล่ตามฉินสือโอว แล้วใช้อุ้งเท้าขุดทรายอย่างมุ่งมั่น จนเจอปูเสฉวน ปูนิ่ม และปูก้ามดาบอีกหลายตัว พวกมันเล่นกันสนุกสนาน


ฉงต้าวิ่งเหยาะอยู่บนชายหาด มันเงยมองทะเลอย่างเศร้าสร้อย ค่อยๆ นึกถึงแซลมอนชัมของฟาร์มปลา เป็นอาหารที่อร่อยแท้ๆ แต่มันกลับไม่สามารถดำน้ำลงไปหากินเองได้


หลัวปอมองมันด้วยสายตาเย้ยหยันก่อนกระโดดลงน้ำว่ายไปไกลชิลๆ น้ำทะเลใสแจ๋วจนเห็นสาหร่ายทุ่นกับโนริน่าอร่อยชัดเจน มันรีบดำลงไปและกลับขึ้นมาพร้อมสาหร่ายพวกนั้นในปาก


ฉินสือโอวเห็นฉงต้าไม่ร่าเริงจึงโบกเสื้อไปมาเพื่อหยอกให้มันวิ่งตาม เขารู้ว่าขาสั้นๆ ของฉงต้ายังไงก็กระโดดแตะไม่ถึงเสื้อเขาหรอก


ฉงต้าเริ่มสนใจ มันแลบลิ้นเลียอุ้งมือเหมือนคนยืดเส้นเตรียมตัว จากนั้นก็วิ่งพุ่งเข้ามาอย่างกระตือรือร้น


ฉินสือโอวจงใจวางเสื้อลงต่ำรอจนฉงต้าก้มตัวจะกระโดดใส่ ก็รีบดึงเสื้อกลับมาพลางหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆ ! เจ้าโง่…..เวรแล้ว!”


ฉงต้าไม่ได้คิดจะคว้าเสื้อแต่แรกอยู่แล้ว นั่นมันก็แค่วิธีชั่วคราว มันพุ่งใส่ฉินสือโอวเต็มๆ เจ้าก้อนแป้งหนักร้อยกว่ากิโลกรัมกระแทก ‘โครม’ ใส่เขาเต็มแรง ฉินสือโอวพยายามยืนทรงตัวบนทรายอันอ่อนนุ่ม แต่ก็ไม่ไหว!


พอชนฉินสือโอวล้มเรียบร้อย ฉงต้าก็งับเสื้อแล้วออกวิ่งต่อ


ฉินสือโอวตกใจ ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย เมื่อไม่มีเสื้อเขาก็ต้องวิ่งไปทั้งเปลือยท่อนบนพลางตะโกนตามหลัง “ฉงต้าหยุดนะ! เจ้าดื้อแกคิดจะหาเรื่องกันเหรอไง?! หยุดวิ่งได้แล้ว ไว้หน้าพ่อบ้างเถอะ หยุดสักที! ฉงต้า พ่อยอมแล้ว วิ่งช้าๆ หน่อย เอาเสื้อพ่อคืนมา…..”


กว่าจะได้เสื้อคืนอย่างยากลำบาก ฉินสือโอวก็พบว่าเสื้อนั้นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายฉงต้าหมดแล้ว เขาเลยใช้น้ำทะเลซักแก้ขัด สะบัดจนแห้งก่อนเอากลับมาใส่


ช่วงเวลาสงบสุขมักสั้นเสมอ ฉินสือโอวพาเจ้าสามตัวเดินเลียบชายฝั่งมาไกลพอสมควร แต่กลับไม่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานขนาดนั้น


ทันใดวิทยุสื่อสารขนาดเล็กที่ห้อยไว้ตรงเอวก็ส่งเสียง เขารู้ว่าคงเกิดเรื่องแล้ว “มีเรือขโมยปลาอีกแล้ว คงต้องลุยเต็มที่แล้วครับบอส คราวนี้มันมาเป็นกองทัพเลย!”


ฉินสือโอวทนไม่ไหวแล้ว มันจะจริงจังอะไรขนาดนั้น? นี่เอาจริงเหรอเนี่ย? ฉันเลี้ยงปลาแต่ละตัวมาอย่างยากลำบาก พวกนายจะมาขโมยกันแบบนี้เลยเรอะ? เพิ่งสงบสุขได้ไม่กี่วันกลุ่มเรือหัวขโมยก็โผล่มาอีกแล้ว


เขาไปดูที่ห้องเรดาร์ รอบนี้มีเรือประมงมาทั้งหมดห้าลำ มีลำหนึ่งเป็นเรือทะเลลึกลำใหญ่พันตัน และที่เหลืออีกสี่ลำไม่ต่ำกว่าห้าร้อยตัน


เบิร์ดขับเฮลิคอปเตอร์ออกมา ที่ทำฉินสือโอวเหนื่อยใจคือ ไอพ่นแรงดันน้ำของเรือยนต์ความเร็วสูงที่ให้อุตสาหกรรมโพไซดอนไปเปลี่ยนยังไม่เสร็จดี ถ้ามีของน่าสะพรึงพวกนั้นล่ะก็ เหล่าหัวขโมยคงอยากกลับตัวกันก็ได้


ด้วยเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก พอมีเรดาร์แล้วทุกอย่างก็สะดวกขึ้น อย่างน้อยก็พบเรือประมงผู้บุกรุกก่อนพวกมันได้เข้ามาในฟาร์มปลา ซึ่งช่วยเลี่ยงปัญหาได้หลายอย่าง ไม่ต้องให้ฉินสือโอวเปลืองแรง


ตอนเฮลิคอปเตอร์บินโฉบเข้าไปใกล้กองทัพเรือ ฉินสือโอวพลันรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก


บทที่ 674 สงครามกลางทะเล

โดย

Ink Stone_Fantasy

เรือประมงห้าลำดูเหมือนมาจากรัฐโนวาสโกเซีย บนดาดฟ้าหัวเรือมีรถเข็นคันหนึ่งหน้าตาเหมือนปืนใหญ่ที่มีปากกระบอกยื่นออกมา มีชาวประมงสองคนคอยคุมอยู่คนละด้าน ดูท่าทางภูมิใจมาก


เฮลิคอปเตอร์บินวนรอบเรือประมงหลายตันที่ลำใหญ่ที่สุด ฉินสือโอวเห็นดังนั้นก็อดสบถไม่ได้ ‘แม่แกเถอะ’ ไอ้นี่มันยังเล่นแรงกว่าเขาอีกเหรอ เรือประมงติดอาวุธเลยนะ!


“รีบโทรเรียกหน่วยยามฝั่งเร็ว บ้าจริง เดี๋ยวพ่อจะจัดการไอ้พวกเวรนี่ให้เข็ดเลย!”ฉินสือโอวเอ่ยอย่างโมโห ถึงกับพากองทัพเรือมาบุกฟาร์มปลานี่คือจะประกาศสงครามใช่ไหม?


ถึงแคนาดาจะอนุญาตให้ประชาชนครอบครองอาวุธหนักโบราณได้ แต่ก็ไม่ได้อนุญาตให้นำออกมาในที่สาธารณะ


นีลเซ็นส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับบอส นั่นไม่ใช่ปืนใหญ่แต่เป็นปืนสุญญากาศแบบหนึ่งครับ”


ฉินสือโอวกะพริบตาปริบๆ ถามอย่างสงสัย “ปืนสุญญากาศ? บ้าน่า แบบเรื่อง ‘หน่วยสกัดอาชญากรรม ล่าอนาคต'(Minority Report) น่ะเหรอ? นั่นมันก็แค่อาวุธในนิยายวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เหรอไง? ไปคิดค้นของพรรค์กันได้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย?”


‘หน่วยสกัดอาชญากรรม ล่าอนาคต’ เป็นหนังฮอลลีวูดไซไฟฟอร์มยักษ์ นำแสดงโดยทอม ครูซ กำกับโดยสตีเวน สปีลเบิร์ก เป็นเรื่องในช่วงเวลาครึ่งศตวรรษต่อมา ที่ตำรวจใช้อาวุธเป็นปืนสุญญากาศซึ่งทรงพลังมาก


นีลเซ็นยิ้มขมตอบว่า “เป็นไปได้สิครับ ปืนสุญญากาศเป็นของที่ใช้กันทั่วไป สามารถยิงแรงอัดอากาศรุนแรงไปยังทิศทางที่ต้องการได้ สามารถใช้ป้องกันตัวหรือทำลายสิ่งของเพื่อแยกส่วน ทำให้ของที่อุดตัน ติดผนัง หรือห้อยอยู่ในท่อหลุดออก”


พอได้ฟังนีลเซ็นอธิบาย ฉินสือโอวจึงเข้าใจ ไอ้เวรพวกนี้มันเตรียมพร้อมมาปะทะกับเขาโดยเฉพาะนั่นเอง


นีลเซ็นอธิบายเพิ่มซึ่งยิ่งช่วยยืนยันอีกเรื่อง ปืนสุญญากาศนั้นถูกออกแบบด้วยหลักการอากาศพลศาสตร์โดยมีสื่อเป็นอากาศตามธรรมชาติ เมื่อเปิดเครื่องมันก็จะดูดอากาศเข้าไปเองทันที พริบตาเดียวอากาศที่ไหลเข้าไปนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นความดัน แล้วสามารถสร้างกระแสลมกระแทกใส่อย่างรุนแรงได้


ปืนแบบนี้ย่อมทำอะไรเรือประมงไม่ได้ ต้องใช้กระแสลมสักเท่าไรกันถึงจะพัดเรือประมงหนักหลายตันได้? มันต้องเอามาใช่กับเฮลิคอปเตอร์อยู่แล้ว กระแสลมที่แรงพอสามารถทำให้เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมได้


ฉินสือโอวโกรธจัด นี่มันจะเกินไปแล้ว นายมาขโมยปลาบ้านฉัน แถมยังจงใจเตรียมอาวุธแบบพิเศษมาอีก?


ที่ทำเขาโมโหยิ่งกว่าคือ ปืนสุญญากาศถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวไม่นับว่าผิดกฎหมาย เป็นเครื่องมือทั่วไปสำหรับโรงงานอาหารสัตว์และฝ่ายก่อสร้างของเทศบาล ไม่เป็นอันตรายต่อคน ต่อให้หน่วยยามฝั่งมาก็จับพวกเขาไม่ได้


เหนือฟ้ายังมีฟ้า เฮลิคอปเตอร์ที่ไม่เกรงน้ำหรือปีนใหญ่ กลับแพ้ปืนสุญญากาศที่สามารถยิงแรงดันได้แบบนี้ มิน่าเบิร์ดถึงไม่กล้าเข้าใกล้


ถึงจะใช้ปืนใหญ่หัวจรวดที่นีลเซ็นพกมาด้วยยิงแต่วิถีกระสุนก็ยังสั้นเกินไป แถมไม่มีระบบเล็งอัตโนมัติให้ ยิงระยะไกลไปก็ไม่โดน ใช้ขู่เรือประมงพวกนั้นไม่ได้


เมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์ที่บินวนถอนตัวกลับไป พวกชาวประมงบนเรือจึงรู้ว่าพวกเขาขู่เฮลิคอปเตอร์สำเร็จแล้ว จึงพากันโห่ร้องยินดี บางคนใช้ปืนฉีดน้ำที่ใช้ล้างดาดฟ้าเรือฉีดน้ำขึ้นฟ้าเพื่อฉลองอย่างท้าทาย


ฉินสือโอวโกรธจริงๆ แล้ว!


ใช่ ถึงเฮลิคอปเตอร์ฉันทำอะไรพวกนายไม่ได้ แต่คิดว่าฉันจะมีแค่อย่างเดียวเหรอไง?


เขารีบโทรหาแฮงค์ฝ่ายขายของอุตสาหกรรมโพไซดอนอย่างฉุนเฉียว “เฮ้ พวก เรือกำปั่นสี่ลำของผมอยู่ไหนแล้ว? พับผ่าเถอะ ฟาร์มปลาผมจะโดนบุกมาถึงอวนปลาแล้ว! เข้าใจหรือเปล่า อวนปลาเลยนะ! แต่เรือประมงติดอาวุธผมดันไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้!”


แฮงค์ไม่กล้าขัดผู้สนับสนุนรายใหญ่ จึงเอ่ยด้วยความลังเลว่า “ขออภัยครับคุณฉิน ผมเข้าใจว่าคุณอยากรับทั้งสี่ลำกลับไปทีเดียว ทำให้การผลิตล่วงเวลามาขนาดนี้ ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้ ตอนนี้มีสองลำที่พร้อมส่งไปได้ทันทีครับ!”


“ขับส่งมาให้ผมที่ฟาร์มปลาเลย!”


“คุณจะไม่เช็กก่อนเหรอครับ?”


“ไม่ต้อง ขับมาวันนี้เลย!”


“ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวรบกวนรอสักครู่ ตอนนี้เรือจอดเทียบท่าเติมน้ำมันเรียบร้อยแล้วครับ”


แม้ทั้งสี่ลำจะเป็นเรือความเร็วสูง แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าหกชั่วโมงจากท่าเรือเซนต์จอห์นมายังน่านน้ำฟาร์มปลาทิศใต้


หลังตกลงกับแฮงค์เรียบร้อย ฉินสือโอวก็ส่งสัญญาณให้เบิร์ดขับเฮลิคอปเตอร์กลับก่อน แล้วรอเรือกำปั่นทะเลมา


ก่อนที่จะขับเฮลิคอปเตอร์ออกทะเล ฉินสือโอวได้โทรแจ้งความไว้แล้ว หน่วยยามฝั่งจึงนั่งสปีดโบ๊ทตามมา ทว่าเรือประมงห้าลำนั้นเพียงลอยอยู่นอกเขตฟาร์มปลา ไม่มีทีท่าจะเข้ามาในอาณาเขตฟาร์มปลาต้าฉิน พวกเขาเลยทำได้เพียงตักเตือนเท่านั้น ไม่สามารถช่วยฟาร์มปลาดำเนินคดีได้


ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ฟาร์มปลาส่วนบุคคลทั่วโลกเติบโตไม่ได้เสียที การขโมยปลาเป็นเรื่องที่ยากจะป้องกัน โดยเฉพาะฟาร์มปลาขนาดใหญ่ซึ่งป้องกันได้ไม่ทั่วถึง


ทว่าปัญหาในตอนนี้กำลังจะหมดไป เมื่อเรือความเร็วสูงทรงเรียวยาวสองลำทะยานฝ่าลมโต้คลื่นเข้ามา ฉินสือโอวยืนอยู่บนดาดฟ้าทิศตะวันออกของเรือกำปั่นด้วยความกระตือรือร้น


เรือกำปั่นเป็นเรือความเร็วสูงรุ่นใหม่ล่าสุดของอุตสาหกรรมทางทะเลบอสตัน ได้ชื่อว่าเป็น ‘พีกาซัส’ แห่งอเมริกาเหนือ ไม่ถึงครึ่งปีก็ขายสินค้าได้มากมาย


รูปทรงของเรือกำปั่นสองลำสวยงามมาก หัวเรือเรียวเล็กเป็นตัววี ลวดลายข้างเรือเรียบง่าย ทนทานการหดตัวและมีพื้นที่กว้าง ส่วนท้ายเรือเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมเล็กแบบที่เรือรบใช้กัน ให้ความรู้สึกเหมือนไซไฟ


ในด้านของการขับเคลื่อน เรือทั้งสองลำใช้แบบผสม คือ เครื่องยนต์กังหันก๊าซไฮโดรฟอยล์ที่ควบคุมอัตโนมัติและขับเคลื่อนด้วยแรงดันน้ำซึ่งสามารถรับประกันความเร็วระยะยาวของเรือเล็กได้ว่าจะไม่มีตกเมื่อเร่งความเร็ว ราวได้ขี่ม้าอย่างสง่างามบนทะเล อารมณ์เดียวกับตอนขับเบนซ์


บนดาดฟ้า ด้านหลังฉินสือโอวคือปืนใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าหนึ่งเมตร เป็นเครื่องยนต์ทูมันสกี(Tumansky)r-27-f2m-300 ที่แยกส่วนมาจากเครื่องบินรบมิก(MIG)-23S และผ่านการดัดแปลงมาแล้ว เป็นกำลังรบหลักของเรือความเร็วสูง


สองฝั่งของข้างเรือยังมีปืนใหญ่ติดตั้งไว้อีกฝั่งละสองกระบอก ปืนสี่กระบอกนี้คือปืนสนับสนุน แต่ก็สามารถใช้เป็นปืนหลักในการป้องกันเรือได้เช่นกัน


ในที่สุดเรือประมงผู้บุกรุกห้าลำก็ปรากฏแก่สายตา ฉินสือโอวใช้กล้องส่องทางไกลประมาณระยะห่าง เรือห้าลำนั้นล้วนเข้ามาในเขตฟาร์มปลาเขาแล้ว


อย่างที่เคยอธิบายไว้ ทะเลไม่เหมือนบนบก ฟาร์มปลาไม่เหมือนฟาร์มทั่วไป เขตแดนนั้นค่อนข้างคลุมเครือไม่ชัดเจน


เรือพวกนี้ก็ช่างเจ้าเล่ห์มาก พวกเขาไม่ได้เข้ามาในฟาร์มปลาอย่างโดยตรง เพียงแฉลบผ่านไปมาตรงขอบของเขตแดนฟาร์มปลาต้าฉิน เพราะเวลาฝูงปลาปรากฏบริเวณน่านน้ำนั้น มันก็กลายเป็นแหล่งจับปลาอีกแห่งเช่นกัน


ด้วยเหตุนี้ แม้ตามกฎหมายฉินสือโอวทำอะไรไม่ได้มากนัก แต่จากสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องพูดกันแล้ว จัดการเลยดีกว่า ช่างกฎมัน!


เงื่อนไขแห่งชาติโดยรวมที่แคนาดาเลือกใช้คือกลยุทธ์การป้องกันเชิงรับ หมายถึงเมื่อคุณถูกคนบุกรุกพื้นที่ คุณต้องเจรจากับอีกฝ่ายก่อนโดยมีบุคคลที่สามเป็นพยาน จากนั้นพอยืนยันแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นภัยต่อความปลอดภัยของคุณ จึงจะสามารถตอบโต้ได้


ส่วนฟาร์มปลาและฟาร์มสัตว์ส่วนบุคคลถือเป็นข้อยกเว้น จะใช้กลยุทธ์การป้องกันเชิงรุกแทน นั่นคือเมื่อคุณรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังคุกคามความปลอดภัยในพื้นที่ของคุณ คุณก็สามารถโต้ตอบได้เลย


เหตุผลก็เรียบง่าย เจ้าของฟาร์มปลาต้องปกป้องผลประโยชน์ตัวเองไว้ ทรัพยากรประมงและทรัพยากรปศุสัตว์ล้วนเป็นสิ่งไม่แน่นอน ไม่สามารถใช้วิธีป้องกันเชิงรับได้


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)