หมอดูยอดอัจฉริยะ 632-637
ตอนที่ 632 จับเสือมือเปล่า
โดย
Ink Stone_Fantasy
นักมวยที่เตรียมขึ้นสู้ทั้งสองคน ไม่ว่าใครเป็นผู้ชนะ ยังไงก็ไม่ได้เจอกับอันเดรวิช ส่วนฮิราโนะ อิจิโร่กับฟรุสทำการส่งนักมวยไปอย่างละหนึ่งคนแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนคาดเดาไม่ถึงคือ ฮิราโนะ อิจิโร่ดึง ครากุล นักมวยจากอินเดียปัจจุบันอยู่อันดับที่สองของโลกมาแข่ง ทำให้คนที่รู้เบื้องหลังของ ครากุล ถึงกับรู้สึกประหลาดใจกันใหญ่
ครากุลเป็นคนที่เกิดในครอบครัวยากจน วีรบุรุษที่ชอบตั้งเด็กคืออัครากุลนักมวยใต้ดินผู้ยิ่งใหญ่แห่งอินเดีย และด้วยความชอบคน ๆ นี้เขาจึงเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นครากุลตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
ส่วนทักษะของครากุลก็เหมือนกับวีรบุรุษของเขาเป๊ะ มีจุดเด่นในเรื่องการออกท่าที่รวดเร็ว ความเร็วของเขาทำให้นักมวยหลายคนแค่เห็นก็เกิดความกลัวแล้ว ระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา นักมวยที่มีสถิติสังหารคู่ต่อสู้ได้เร็วที่สุด ก็เป็นเขานั่นเอง
เช่นการแข่งขันในปี 1998 วินาทีที่สามหลังจากเริ่มการแข่งขันแค่ท่าแกว่งขาท่าเดียว ครากุลก็สังหารคู่ต่อสู้ตายคาที่ ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าวีรบุรุษของเขาเพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น
การแข่งในครั้งนั้นทำให้ชื่อเสียงของครากุลโด่งดังไปทั่ว ถ้าไม่ใช่เพราะยังมีแอนโทนี มาร์คัส “ปีศาจนักฆ่า”ยังอยู่ ครากุลน่าจะอยู่อันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว
แต่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายฝ่าย นักมวยห้าอันดับแรกมักไม่ค่อยเข้าร่วมการแข่งขันเท่าไหร่ ฉะนั้นหลายคนจึงเข้าใจว่าครากุลเป็นที่หนึ่งของโลกในตอนนี้ และในการแข่งขันที่จัดขึ้นทั้งห้าปีที่ผ่านมา ชื่อของครากุลก็กลายเป็นชื่อแห่งตัวแทนชัยชนะไปเรียบร้อยแล้ว
ฉะนั้นการแข่งขันในค่ำคืนนี้มีครากุลเข้าแข่งด้วย เศรษฐีพวกนั้นจึงลุกฮือกันใหญ่ แน่นอนว่าก็มีคนที่รู้สึกหดหู่ใจ ซึ่งก็คือเจ้าพ่อฟรุสจากอินเดียนั่นเอง
เพราะฟรุสอ้างตัวว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งองค์กรมวยใต้ดินอินเดีย แต่เขากลับดึงตัวครากุลมาอยู่กับเขาไม่ได้ แต่กลับไปอยู่ฮิราโนะ อิจิโร่ซะงั้น ถ้าฮิราโนะ อิจิโร่ส่งครากุลขึ้นชกตั้งแต่รอบแรก ฟรุสอาจจะกระอักเลือดตาย
ฟรุสโมโหก็จริง แต่จู้เหวยเฟิงกลับหน้าซีดยิ่งกว่า เขาก็ไม่คิดว่าฮิราโนะ อิจิโร่จะเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้ ไม่พูดจากลับส่งเสือชีต้าร์ตัวนี้ลงสนามซะอย่างนั้น อารมณ์ของจู้เหวยเฟิงตอนนี้เหมือนกับต่งเซิงไห่เมื่อวันก่อนมาก
จู้เหวยเฟิงเริ่มกล่าวโทษเยี่ยเทียน ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยเทียนอยากแลกเปลี่ยนละก็ น่าจะเอาชนะครากุลได้ แต่คนที่เด่นเรื่องกำลังอย่างอันเดรวิชมาเจอกับครากุลที่เด่นเรื่องความเร็ว ผู้ชมไม่ดูอันเดรวิชแน่นอน
การปรากฏตัวของครากุล ทำให้หลาย ๆ คนคิดว่า ถ้าฮิราโนะ อิจิโร่สามารถเข้าไปถึงรอบสุดท้าย ผู้ชนะในตอนสุดท้ายจะต้องเป็นครากุลอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ว่าอันเดรวิชจะมีชื่อเสียงที่ยุโรปเมื่อหลายปีก่อน แต่หลายปีมานี้เขาเข้าร่วมการแข่งขันของภายในประเทศซะส่วนใหญ่ มีแค่ปีที่แล้วที่เคยเข้าร่วมมวยใต้ดินที่เรือสำราญควีนอลิซาเบธจัดขึ้น แต่ในสายตาของผู้ชมเขาเป็นแค่นักมวยที่ไร้ชื่อเสียงไปแล้ว
ฉะนั้นหลังจากที่รายชื่อผู้เข้าแข่งขันแสดงออกมา ร้อยละ 90 คิดแล้วว่าครากุลชนะ ส่วนการแข่งขันระหว่างสปากส์กับวินเซนต์ หลายคนก็เอียงไปทางสปากส์ตัวแทนจากญี่ปุ่นมากกว่า
แม้ว่าราคาต่อรองจะอยู่ที่ 1 ต่อ 2 แค่นั้น แต่หลายคนก็ได้ทำการเดิมพันแบบรวมสปากส์กับครากุลไปแล้ว และนี่ก็ทำให้ฟรุสที่เพิ่งได้ข่าวของครากุล หน้าเขียวและไม่อยากเสแสร้างทำเป็นอ่อนโยนอีกต่อไป ถึงกับแสดงสายตาที่เหมือนประกายไฟออกมา
ส่วนฮิราโนะ อิจิโร่กลับแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติของญี่ปุ่น เพื่อการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ เมื่อวาน เขาได้ทำข้อตกลงที่คนนอกมองแล้วอาจรู้สึกว่าเขาบ้าคลั่งมาก
ฮิราโนะ อิจิโร่เอาหุ้นส่วนร้อยละ 20 ที่มีมูลค่าสูงถึง 4,000 ล้านดอลล่าร์ แลกกับสิทธิทั้งหมดในตัวของครากุลจากบอสใหญ่ในยุโรปท่านหนึ่ง
สำหรับฮิราโนะ อิจิโร่ ถ้าหากการแข่งขันรอบนี้ได้รับชัยชนะ เขาจะได้รับเงินสดที่มากกว่า 800 ล้าน นอกจากนี้ยังได้สนามมวยใต้ดินของประเทศจีนกับประเทศไทยอีกด้วย คาดว่าใช้เวลาไม่ถึงสามปีเขาก็สามารถเอาเงินก้อนนี้กลับมาได้แล้ว เขาเลยคิดว่านี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุด
“บ้าเอ้ย พวกบ้านั่นเปิดราคาต่อรองอันเดรวิชชนะถึง 1 ต่อ 18 ส่วนครากุลชนะราคาต่อรองอยู่ที่ 1 ต่อ 0.8 แกล้งกันชัด ๆ !”
เมื่อมองดูราคาต่อรองที่แสดงอยู่บนหน้าจอ จู้เหวยเฟิงแทบเป็นบ้า แม้แต่เขาเองก็ยังคิดว่าอันเดรวิชไม่มีโอกาสชนะครากุล เพราะความเร็วของฝ่ายตรงข้ามเป็นสิ่งที่อันเดรวิชสู้ไม่ได้จริง ๆ
สีหน้าของต่งเซิงไห่ไม่สู้ดีเหมือนกัน ถ้าอันเดรวิชแพ้จริง ๆ แม้ว่าเยี่ยเทียนจะชนะแอนโทนี มาร์คัสในวันพรุ่งนี้ได้ เขาก็สูญเสียมหาศาลอยู่ดี นี่เป็นการลงทุนที่ได้ไม่คุ้มเสียเลยจริง ๆ
“ใครจะชนะใครจะแพ้ก็ยังไม่แน่นอนหรอก กำลังที่ไปถึงจุดสูงสุด พวกคุณยังไม่เคยเห็นสักหน่อย”
เยี่ยเทียนหัวเราะ สีหน้าที่เหมือนคนในบ้านตายของต่งเซิงไห่กับจู้เหวยเฟิง และพูดว่า “ฟรุสอาจจะไม่แพ้เสมอไป รอดูการแข่งขันรอบนี้ก่อน!”
ตอนนี้นักมวยของรอบแรกได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว หลังจากกรรมการพูดไร้สาระไม่กี่คำเสร็จ เสียงระฆังก็ดังขึ้น
สปากส์กับวินเซนต์ที่ขึ้นชกรอบนี้ถือว่าเป็นนักมวยที่มีจุดเด่นเรื่องทักษะ ถือได้ว่าเป็นตัวแทนที่มีทักษะการใช้ขาอย่างโดดเด่นในวงการมวยใต้ดินปัจจุบัน
ในด้านความรู้สึกของมนุษย์จะพึ่งร่างกายท่อนบนมากเป็นพิเศษ และด้วยความซับซ้อนและความยืดหยุ่นของแขนขาจึงทำให้มนุษย์แตกต่างไปจากสัตว์ ร่างกายท่อนบนจะมีลักษณะเฉพาะของมันเอง ซึ่งก็คือความเร็วและความยืดหยุ่น แต่กำลังของท่อนบนจะอ่อนแอกว่า ก็เหมือนกับมวยปล้ำที่จะพึ่งพาแค่กำลังไม่ได้ แต่จะพึ่งพาแค่ความเร็วกับความยืดหยุ่นเท่านั้นก็ไม่ได้เช่นกัน
ฉะนั้นทักษะการใช้ขาจึงได้กำเนิดขึ้นมา และในมวยใต้ดินชั้นนำมักเลือกใช้ทักษะขาแบบระยะไกลปราบคู่ต่อสู้ นี่เป็นแนวทางการพัฒนาทักษะของมวยปล้ำ ก็เหมือนกับสงครามยุคปัจจุบันที่การโจมตีระยะไกลเป็นการโจมตีที่ได้ผลและปลอดภัยที่สุด
สปากส์กับวินเซนต์เป็นนักมวยที่เก่งเรื่องทักษะการใช้ขาที่สุด ทันทีที่เริ่มแข่งก็เข้าสู่สภาวะที่ร้อนแรง กำลังโจมตีของนักมวยชั้นนำนั้นแรงมาก การปัดป้องนั้นแทบจะไม่ได้ผลอะไรเลย ต้องโจมตีเท่านั้นถึงจะมีโอกาสชนะ
ทั้งสองฝ่ายเข้าใจทักษะของฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี ถ้าอยากมีชีวิตรอดออกไปก็ต้องโจมตีเพื่อแย่งเวลาจากอีกฝ่ายมาให้ได้ และใช้การโจมตีไปยับยั้งการโจมตีจากคู่ต่อสู้อีกที
แต่ในเหตุการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีกำลังที่แข็งแกร่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการชิงเวลามาให้ได้ ใครโจมตีจุดชนวนแห่งความตายได้ก่อน ผู้นั้นจะมีโอกาสรอดชีวิต
“วินเซนต์จะแพ้แล้ว!”
การปะทะบนเวทีผ่านไปแค่สองนาที เยี่ยเทียนสังเกตเห็นแล้วว่าสปากส์ที่ประทะกับวิเสนไปสองครั้ง ฝีเท้าของเขาวุ่นวายเล็กน้อยและเห็นได้ชัดว่าตำแหน่งที่เขายืนอยู่ใกล้เชือกล้อมเกินไป
การเป็นฝ่ายบุกจะสิ้นเปลืองพลังค่อนข้างมาก น้อยมากที่การแข่งขันจะใช้เวลาที่ค่อนข้างเยอะ ก็เหมือนกับถังหลงในปีนั้น เขาใช้เวลาเอาชนะคู่ต่อสู้เพียง 68 วินาที แต่รอบที่เขาตาย เพราะโดนลูกหลงของฝ่ายตรงข้าม กำลังที่อ่อนลงจึงทำให้เขาต้องตาย
เสียงของเยี่ยเทียนยังไม่สิ้น วินเซนต์ก็ถูกสปากส์บีบจนถอยไปมุมหนึ่งของเวที ตอนที่หลังของเขาแตะที่เชือกล้อม สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
วินเซนต์ไม่มีโอกาสหนีออกจากจุดนี้แล้ว เพราะการโจมตีที่ไม่หยุดและรุนแรงของสปากส์ ทำให้วินเซนต์ไม่สามารถตั้งรับได้เลย “แครก” มีเสียงดังออกมา แขนขวาของเขาถูกสปากส์เตะจนหักไปแล้ว
ฝ่ายที่ป้องกันอย่างเดียวกำลังจะพลาดแล้ว ขาขวาของสปากส์เตะเข้าที่หัวของวินเซนต์อย่างรุนแรง วินเซนต์ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เด้งไปกระแทกใส่เชือกล้อมเวทีอย่างรุนแรง จากนั้นก็เด้งกลับเข้าไปในสนามแล้วล้มลงไปกับพื้น
“สปากส์ เก่งมาก!”
“ฮ่า ๆ ครากุลชนะแน่นอน!”
“อันเดรวิชคือใคร? จะมาเทียบกับครากุลได้ไง?”
เศรษฐีที่อยู่รอบ ๆ เวทีเป็นคนที่ดูมวยใต้ดินเป็นประจำอยู่แล้ว ถึงแม้กรรมการยังไม่ประกาศผู้ชนะ แต่พวกเขาเข้าใจแล้วว่า การโจมตีที่รุนแรงขนาดนี้ วินเซนต์คงไม่มีโอกาสมีชีวิตรอดแล้ว อย่าว่าแต่จะพลิกจากแพ้เป็นชนะเลย
ส่วนชัยชนะของสปากส์ จะเป็นตัวแทนอันดับที่สองของโลกแทนครากุลไปเลย และเขาจะได้เจอกับอันเดรวิชต่อในคืนนี้
แขกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้วางเดิมพัน เริ่มหยิบหน้าจอขึ้นมาและทำการเดิมพัน แม้ว่าราคาต่อรองครากุลชนะจะมีเพียง 1 ต่อ 0.8 แต่ในใจของผู้ชมเหล่านี้คิดว่ามันเป็นเงินที่ได้ฟรี ๆ บางคนถึงขั้นเดิมพัน 1000 ล้าน
“ทำหน้าจะเป็นจะตายกันทำไม?” เยี่ยเทียนมองต่งเซิงไห่กับจู้เหวยเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ และหยิบหน้าจอแสดงผลขึ้นมาจากนั้นกดชื่อของอันเดรวิชและป้อนตัวเลขเข้าไป
จู้เหวยเฟิงสังเกตเห็นสิ่งที่เยี่ยเทียนทำ และพูดอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “เยี่ยเทียน มีเงินก็ไม่ควรโยนทิ้งแบบนั้นรึเปล่า นั่นมัน 50 ล้านเลยนะ!”
สำหรับจู้เหวยเฟิงแล้ว สนามมวยใต้ดินที่ตัวเองดูแลมาอย่างลำบากกำลังจะกลายเป็นของฮิราโนะ อิจิโร่แล้ว ถ้าฟรุสเป็นคนชนะ เขาอาจจะรู้สึกดีกว่านิดหน่อย แต่ดันเสียให้กับคนญี่ปุ่นมันทำให้อกของเขาแทบจะระเบิด
“มีโอกาสจับเสือมือเปล่าแบบนี้ จะไม่ให้เดิมพันได้ยังไง อย่าหาว่าผมไม่เตือนพวกคุณ อันเดรวิชอาจจะไม่แพ้ก็ได้!”
เยี่ยเทียนเบ้ปาก มองดูเงิน 50 ล้านที่วางเดิมพันไป คิดไปสักครู่สุดท้ายก็อดใจไว้ไม่เติม 0 เพิ่มหนึ่งตัว ถ้าตัวเองชนะจริง ๆ แล้วราคาต่อรองอยู่ที่ 1 ต่อ 18 งั้นเรือสำราญควีนอลิซาเบธก็ต้องจ่ายให้เขาถึง 9 พันล้านดอลล่าร์ เยี่ยเทียนไม่รู้ว่าคลีเมตสันจะอุ้มปืนมาเอาชีวิตเขาหรือเปล่า?
แล้วอีกอย่าง อย่าว่าแต่ 500 ล้านเลย แค่ 20 ล้านเขาก็ไม่มี แต่ที่กรอกตัวเลขไปก็แค่เห็นช่องโหว่ของเรือสำราญควีน อลิซาเบธสำหรับการวางเดิมพันที่ไม่ต้องถูกตรวจสอบ จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครกล้าเป็นหนี้สำหรับการพนันของที่นี่เลย
“บัดซบเอ้ย สนามมวยก็เสียไปละ ผมจะบ้าไปกับคุณสักตั้งแล้วกัน แย่สุดก็แค่หลบไปต่างประเทศแค่นั้น!”
จู้เหวยเฟิงกรอกตัวเลขให้อันเดรวิชไปกัดฟันไป เขาบ้ากว่าเยี่ยเทียนอีก เพราะเขากรอกลงไป 100 ล้านดอลล่าร์ ต่งเซิงไห่ที่ดูอยู่ยังต้องส่ายตัว เวลาอยู่บนเวทีความสามารถยังไงก็อยู่อันดับหนึ่ง โอกาสที่อันเดรวิชจะชนะแทบจะไม่มี
ตอนที่ 633 ตีให้แหลก (1)
โดย
Ink Stone_Fantasy
ในการแข่งขันมวยปล้ำผู้ที่มีความสามารถแตกต่างกันในสนามแข่งแม้จะมีเยอะ แต่ความสามารถที่เสมอกันกลับมีค่อนข้างน้อย เพราะเหตุนี้ผู้จัดจึงออกอัตราต่อรองที่เกินไป เพราะพวกเขาก็คิดว่าโอกาสที่อันเดรวิชจะชนะนั้นมีน้อยมาก
คลีเมตสันเดินจากเวทีไปที่ห้องทำงาน มองดูตัวเลขบนหน้าจอที่อยู่ตรงหน้าเม็ดเหงื่อละเอียดปรากฏขึ้นบนหน้าผาก เพราะในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่นาที จำนวนเงินพนันขึ้นสูงถึง 1.20 หมื่นล้านดอลล่าร์
และ1.2 หมื่นล้านนี้ส่วนใหญ่พนันว่าครากุลชนะ แม้จะมี3-5ยอดที่พนันอันเดรวิช แต่คนเหล่านี้แค่อยากจะต่างจากคนอื่น เงินพนันที่รวมแล้วยังไม่ถึง 100 ล้านดอลล่าร์ เมื่อเทียบกับจำนวนเงินมหาศาลนั่นก็แค่น้ำแก้วเดียวดับไฟทั้งคันรถ
ถ้าหากครากุลชนะจริงๆ ก็คงเป็นอัตราต่อรอง 1 ต่อ 0.8 ส่วนเรือสำราญควีนอลิซาเบธต้องจ่ายค่าต่อรองเกือบหมื่นล้านดอลล่าร์ ทำให้คลีเมตรสันเริ่มไม่มั่นใจ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้กำลังอยู่เหนือการควบคุมของเขา
ไม่ใช่ว่าเรือสำราญควีนอลิซาเบธจ่ายเงินจำนวนนี้ไม่ไหว แต่การที่ต้องจ่ายเงินหมื่นล้านออกไปนั้น กำไรของเรือสำราญควีนอลิซาเบธปีนี้จะลดลงฮวบ คลีเมตสันจึงไม่รู้จะอธิบายให้หุ้นส่วนใหญ่เหล่านั้นว่ายังไง หรือเรือสำราญควีนอลิซาเบธที่เขาดูแลกิจการมาตลอด 20 ปี อาจจะถูกคนอื่นรับช่วงต่อก็เป็นได้
แต่การแข่งขันแบบนี้ แม้แต่คลีเมตสันก็ไม่กล้าทำอะไรผิดกฎ จึงได้แต่ภาวนาให้ปาฎิหาริย์เกิดขึ้น
“เยี่ยเทียน จะไปไหน?”
เห็นเยี่ยเทียนลุกขึ้นทันทีที่ลงพนันเสร็จ จู้เหวยเฟิงรู้สึกแปลกใจจึงได้ถามออกไป อีกสองชั่วโมงจะเป็นการแข่งขันของอันเดรวิชแล้ว เยี่ยเทียนคงไม่พลาดการแข่งขันรอบนี้หรอกมั้ง?
“ผมไปดูอันเดรวิชหน่อย ตอนนี้เขาน่าจะอยากได้กำลังใจ!” เยี่ยเทียนยิ้ม และเดินตรงไปห้องพักผ่อนของนักชก
“ขอโทษครับคุณผู้ชาย บริเวณนี้ห้ามคนอื่นเข้า!” ปากกระบอกสีดำของปืนกลมือกำลังเล็งมายังตัวเยี่ยเทียนโดยคนขาวสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ทำให้เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เมื่อก่อน ตลาดมวยปล้ำก็เหมือนกับมวยปล้ำ นั่นก็คือไม่มีกฎเกณฑ์อะไรให้กล่าวถึง ฉะนั้นเพื่อชัยชนะในสนามแข่ง การทำร้าย การฆ่าคู่ต่อสู้บางทีก็เกิดขึ้นในสนาม เพราะเหตุนี้ช่วงเวลาที่ก่อนขึ้นเวที พวกเขาจะได้รับการดูแล การปกป้องในระดับที่สูงกว่าประธานาธิบดีอเมริกา
“ผมชื่อเยี่ยเทียน ต้องการพบอันเดรวิช พวกคุณสามารถถามเขาได้ว่าเขาอยากพบผมหรือเปล่า” เยี่ยเทียนถอยไปข้างหลัง เขาไม่ชอบความรู้สึการถูกปืนเล็งแบบนี้
“รอสักครู่……” การ์ดหนึ่งคนกดไปที่กล่องหนึ่งครั้ง และแจ้งชื่อเยี่ยเทียนไป
“เข้ามาเถอะ เขาเป็นครูฝึกของผม!” เสียงของอันเดรวิชดังออกมาจากห้องพักผ่อน
ก่อนการแข่งขัน นอกจากตำแหน่งครูฝึกก็มีแต่เจ้านายของเขาเท่านั้นที่สามารถพบได้ คำพูดของอันเดรวิชทำให้การ์ดสองคนนั้นวางปืนลงและเปิดประตูให้เข้าไป
ในฐานะเรือสำราญการพนันที่หรูหราที่สุดในโลก ห้องเก็บตัวนักชกของเรือสำราญควีนอลิซาเบธมีสวัสดิการต่างๆมากมาย นอกจากมีสนามฝึกซ้อมเล็กๆแล้ว ยังมีโซฟา เตียง และห้องอาบน้ำสำหรับนักชกอีกด้วย พูดได้ว่ามีพร้อมทุกอย่างจริงๆ
“อันเดรวิช เป็นอะไรรึเปล่า กดดันเหรอ?”
ตอนนี้ความสนใจของอันเดรวิชมีไม่มากนัก เยี่ยเทียนเปิดประตูและเห็นเขานั่งอยู่ตรงโซฟามุมหนึ่งของห้องนอน บนหัวโพกผ้าไว้หนึ่งผืน ให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว
“คุณเยี่ย คู่ต่อสู้รอบต่อไปคือครากุล คุณคิดว่าฉันมีความหวังที่จะชนะเขามั้ย? ”
อันเดรวิชดึงผ้าบนหัวลงและเงยหน้ามองเยี่ยเทียน ในขณะเดียวกันตอนที่การแข่งขันรอบที่แล้วจบลง เขาก็ได้รับแจ้งชื่อคู่ต่อสู้ในรอบต่อไปทันที
พูดตามตรง ถ้าเจอแอนโทนี มาร์คัส อันเดรวิชมั่นใจว่าอาจจะชนะ แต่ถ้าแข่งกับครากุล ใจที่กล้าหาญของอันเดรวิช กลับรู้สึกสั่นคลอน เพราะเขากลัวคู่ต่อสู้ที่ใช้ความเร็วในการโจมตีจริงๆ
พอถึงการแข่งขันระดับนี้ สิ่งที่เรียกว่าทักษะมันไม่สำคัญขนาดนั้นแล้ว แต่จะดูว่าใครสามารถโจมตีได้เร็วกว่ากัน ใครมีกำลังแกร่งกว่า ใครล้มคู่ต่อสู้ได้เร็วกว่าต่างหาก
ส่วนครากุลมีความว่องไวเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว กำลังขาของเขายังแข็งแกร่งมากทีเดียว และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาสามารถอยู่อันดับที่ 2 ของโลกได้ มีคนเคยพูดไว้ว่าถ้าครากุลกับ “ปีศาจฆ่าคน” แอนโทนี มาร์คัสเจอกัน อันดับ 1 ของโลกอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ฉะนั้นในเวลานี้ แม้อันเดรวิชจะรู้สึกไร้กำลังอย่างถึงที่สุดก็ตาม แต่กำลังของเขาแกร่งกว่าครากุลแน่นอน เพียงแต่ว่าคู่ต่อสู้จะโจมตีอย่างรวดเร็วและดุเดือด มันเพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกต้องหนีตายอย่างเหน็ดเหนื่อย
มองดูสีหน้าทรุดโทรมของอันเดรวิชแล้ว เยี่ยเทียนวาดบางอย่างหน้ากระสอบทราย ยิ้มพร้อมพูดว่า “เหล่าอัน คุณคิดว่าถ้าหากมีพลัง 1 ต่อ 10 อย่างผมแล้วละก็ ยังสู้ครากุลไม่ได้อีกเหรอ?”
“อะไรนะ?” อันเดรวิชเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว การหายใจเปลี่ยนจังหวะเร็วขึ้น พูดว่า “เยี่ย ฉันมีพลังแบบนั้นได้จริงๆเหรอ?”
เยี่ยเทียนใช้มือข้างเดียวทะลุกระสอบทราย การกระทำนั้นเหมือนกับการเล่นมายากล แม้อันเดรวิชจะไม่เข้าใจพลัง 1 ต่อ 10 คือยังไง แต่อันเดรวิชรู้ว่าพลังที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ ข้อดีของการมีคือความเร็วก็สู้ไม่ได้
เยี่ยเทียนส่ายหัว ตอบว่า “พลังแบบนั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าฉันจะให้พลังกับคุณนะ มันจะมีข้อได้เปรียบที่จะทำให้คุณล้มครากุลได้แน่นอน ถึงเวลานั้นคุณจะสัมผัสได้เอง!”
คะแนนการยกน้ำหนักแบบสคอวทของอันเดรวิชมากกว่า 600 กิโลกรัม ถ้าตัวเขากระตุ้นความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ข้างในออกมาได้ เยี่ยเทียนเชื่อว่าตัวเลขนี้จะมากกว่า 1000 กิโลกรัมแน่นอน มันจะเป็นตัวเลขที่ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อนในสนามการแข่งขันมวยปล้ำ
ถ้าหากมีพลังแบบนี้ แล้วอันเดรวิชยังล้มครากุลไม่ได้ เยี่ยเทียนจะยอมรับเองว่าเจอเรื่องซวย เพราะเขาช่วยอันเดรวิชได้เท่านี้จริงๆ
“ที่จริงก่อนหน้านี้ที่เยี่ยเทียนอยู่ในห้อง เขาเคยทดสอบวิชาชาแมน อยากเรียกพลังลึกลับอย่างนั้นออกมา“
แต่ว่าหนึ่งเขาไม่มีเครื่องรางกลองหนังแพะ สองตัวเขาเองอยู่ต่างประเทศ ไม่รู้ว่ากฎของฟ้าดินที่เปลี่ยนไป อาจทำให้เยี่ยเทียนทำไม่สำเร็จ ฉะนั้นในตอนสุดท้ายจึงตัดสินใจรวบรวมและชี้นำพลังทั้งหมดในตัวของอันเดรวิชที่ซ่อนไว้กระตุ้นมันออกมาทั้งหมด
“ตกลง ขอแค่คุณช่วยให้กำลังช่วงบนของผมแกร่งกว่ากำลังเตะของเขา ผมมั่นใจว่าผมจัดการมันได้!“
หลังจากได้คำมั่นใจของเยี่ยเทียนแล้ว ทันใดนั้นอารมณ์ของอันเดรวิชก็เปลี่ยนไป ดวงตาแสดงความเลือดเย็นออกมา เขายังต้องการที่จะทำให้การแข่งขันครั้งสุดท้ายของอาชีพนักมวยมวยปล้ำของเขาจบลงอย่างยอดเยี่ยมด้วยการจบชีวิตครากุลผู้อยู่อันดับ 2 ของโลก!
“พักผ่อนนะ ยังมีเวลาอีก 2 ชั่วโมง”
เยี่ยเทียนพยักหน้า การแข่งขันในรอบของอันเดรวิชจะเริ่มขึ้นตอนเที่ยงคืนตรง ถึงเวลานั้นเยี่ยเทียนจะทำให้ทุกคนที่ดูถูกอันเดรวิชจะต้องตะลึง เขารอคอยที่จะเห็นสีหน้าของพวกมหาเศรษฐีที่มองชีวิตนักมวยเหล่านี้เป็นแค่ดอกหญ้า
ในเวทีมวยนองเลือดนี้ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แค่พริบตาเดียว 2 ชั่วโมงก็ผ่านไปแล้ว และเข็มนาฬิกาในห้องนอนเวลานี้คือ 11:58 นาที ประตูห้องพักตัวก็ถูกเปิดออกจากข้างนอก
ไม่มีอีกแล้วประตูที่มีประสิทธิภาพการกันเสียงที่ดีเยี่ยม เสียงดังสนั่นดั่งสึนามิดังเข้ามาจากสนามแข่งขัน และในที่สุดการแข่งขันที่รอมานานนี้ก็กำลังจะเริ่มขึ้น
“และผู้ที่เข้าสนามคนแรก ก็คือ ราชามวยรัสเซีย อดีตครูฝึกค่ายไซบีเรียอันเดรวิช ส่วนสูง 2.1 เมตร คะแนนยกน้ำหนักแบบสคอวทมากกว่า 600 กิโลกรัม เคยชนะ 10 ครั้งรวดในสนามแข่งขันราชามวยแห่งยุโรป และเป็นหนึ่งในนักชกแห่งมวยปล้ำ!”
เสียงการแนะนำของพิธีกรดังเข้ามาถึงห้องเก็บตัว อันเดรวิชลุกขึ้นยืน และมองไปยังเยี่ยเทียนอย่างงุนงง เขาไม่รู้ว่าจนถึงป่านนี้ ทำไมเยี่ยเทียนถึงยังไม่กระตุ้นความสามารถที่ซ่อนเร้นอย่างที่เขาพูด ?
“อันเดรวิช ไปเถอะ ตีสมองเขาให้แตก!”
เยี่ยเทียนเดินไปข้างๆอันเดรวิช มือขวาของเขาจี้จุดที่ท้ายทอยของอันเดรวิชเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเก็บมือกลับไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันที่เยี่ยเทียนเก็บมือกลับไป ลำคอของอันเดรวิชได้เปล่งเสียงคำรามออกมาเล็กน้อย ร่างกายกำลังสั่นอย่างไม่หยุดหย่อน แขนสีทองมีเส้นเลือดดำเขียวปรากฏมาให้เห็น ร่างกายกำลังพองขึ้นเหมือนลูกโป่ง
เดิมทีร่างกายของอันเดรวิชก็ใหญ่อยู่แล้ว ตอนนี้กลับน่ากลัวกว่าเดิม ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเหมือนจะแตกระเบิดได้ทุกเมื่อ แม้แต่การ์ดสองคนนั้นที่มองดูอันเดรวิชยังแสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมา
“คุณ ออกมา ถึงคิวคุณขึ้นเวทีแล้ว!” แม้จะรู้สึกกลัว แต่ด้วยหน้าที่ของเขา การ์ดจึงต้องใช้ปืนเล็งอันเดรวิชไว้ เพื่อเป็นการสั่งให้เขาออกจากห้องพักผ่อน
ในประวัติศาสตร์การแข่งขัน มีนักชกบางคนเพราะหวาดกลัวและไม่ยอมขึ้นเวทีสุดท้ายก็ถูกยิงตายในตอนนั้น การ์ดสองคนที่ดูแลความปลอดภัยของอันเดรวิช ในขณะเดียวกันพวกเขาก็มีหน้าที่ที่ต้องทำเช่นกัน
“ฮู่!”
อันเดรวิชเงยหน้ามองเยี่ยเทียน ลำคอเปล่งเสียงฮู่ออกมาดุจสัตว์ป่าดุร้าย ดวงตาสองข้างเต็มไปด้วยเส้นเลือด มองการ์ดสองคนอย่างเลือดเย็น จนปืนกลมือของทั้งสองเกือบตกลงไปกับพื้น
นี่มันดวงตาของคนปกติที่ไหนกัน? เห็นได้ชัดว่าเป็นสายตาของสัตว์ป่าเลือดเย็นที่เต็มไปด้วยความต้องการที่จะฆ่า และไม่มีความรู้สึกของคนอีกต่อไป
“พระเจ้า นี่ใช่คนรึเปล่า?”
“พระเจ้า พวกคุณล้อพวกเราเล่นเหรอ?”
“นี่ไม่ใช่อันเดรวิช ฉันขอคัดค้าน พวกคุณเปลี่ยนนักมวยกระทันหัน!”
เมื่อร่างของอันเดรวิชปรากฏใต้ไฟสปอร์ตไลท์และหน้าจอ ผู้คนที่กำลังโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งก็หยุดชะงักและตะลึงไปทันที อันเดรวิชที่ปรากฏต่อหน้าสายตาพวกเขาเกินกว่าจินตนาการของพวกเขามาก
ตอนที่ 634 ตีให้แหลก (2)
โดย
Ink Stone_Fantasy
ในประวัติศาสตร์มวยปล้ำ คนที่สูงที่สุดคือมองโดเรีย กรอย ชาวกาน่า ส่วนสูงของเขาคือ 210 เซนติเมตร อย่างไรก็ตามอันเดรวิชที่เดินเข้ามาในสนามในเวลานี้ ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและร่างเหมือนยักษ์ของเขา ทำให้ผู้คนตกใจยิ่งกว่ามองโดเรียอีก
อันเดรวิชใส่กางเกงขาสั้นที่หลวมเพียงตัวเดียว ร่างกายส่วนใหญ่เปลือยเปล่าสู่ภายนอก ร่างที่ถูกสปอร์ตไลท์ส่องมายังผิวดุจสีโลหะ เต็มไปด้วยพลังที่เหมือนจะระเบิดออกให้ย่อยยับและฉีกคู่ต่อสู้ออกเป็นชิ้นๆปานนั้น
เวลานี้ ในสนามไร้เสียงผู้คน เพราะผู้ชมคิดไม่ถึงว่าอันเดรวิชที่เหมือนท้องปลา ที่มีแต่ไขมัน ในสายตาพวกเขา จะปรากฏร่างกายเช่นนี้ออกมาให้เห็น เคมสตันที่ออกมาสู้เมื่อวาน ถ้าอยู่ต่อหน้าอันเดรวิชก็เหมือนกับคนแคระเลยทีเดียว
คนที่มั่นใจในตัวครากุลเวลานี้ก็คงสั่นคลอนอยู่บ้าง เพราะในสายตาของพวกเขาอันเดรวิชเหมือนกับเทพเจ้ากรีกโบราณรูปหนึ่งที่ไม่มีวันที่ใครจะเอาชนะเขาได้ เวลาหลายคนเริ่มรู้สึกคิดผิดที่ไม่พนันฝั่งที่มีคนแทงน้อยๆ!
“เขาไม่ใช่อันเดรวิช พวกคุณหลอกพวกเรา!”
“คลีเมตสัน พวกเราต้องการคำอธิบาย พวกคุณหาคนยักษ์คนนี้มาจากที่ไหน?”
หลายคนกลับรู้สึกโมโห พวกเขาคิดว่าผู้จัดโกงการแข่งขัน คนที่ส่งออกมาตอนนี้ไม่ใช่อันเดรวิช จึงใช้เสียงดังสนั่นต่อต้านการแข่งขันรอบนี้ เวลานี้มหาเศรษฐีหมื่นล้านเหล่านี้ก็ไม่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปเหล่านั้น
“คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงทุกท่าน สงบลงก่อน!”
แม้คลีเมตสันจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนไปของอันเดรวิชที่ผิดแปลกจากห้องทำงาน แต่เขาชี้แจงให้ผู้ชมได้ทราบในทันที
“นักชกที่ขึ้นเวทีเป็นอันเดรวิชจริงๆ ทุกคนสามารถเทียบรูปบนหน้าจอได้ วัตถุประสงค์ของความเป็นธรรมของเรือสำราญควีนอลิซาเบธจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!”
รูปภาพหน้าตรงของอันเดรวิชปรากฏบนหน้าจอพร้อมกับเสียงพูดของคลีเมตสัน แน่นอนว่าร่างกายของเขาไม่เว่อร์เท่าตอนนี้ แต่ก็ยังพออธิบายกันได้ เพราะรูปกับตัวจริงเมื่อเอาเทียบกันแล้วยังไงก็ไม่มีความแตกต่าง
เมื่อเปรียบเทียบกับรูปภาพ ผู้ชมในสนามก็เริ่มเงียบ พวกเขาดูออกว่าคนที่อยู่บนเวทีกับในรูปบนหน้าจอเป็น อันเดรวิชคนเดียวกันจริงๆ แต่ในหน้าจอไม่น่าตะลึงเท่ากับอันเดรวิชที่อยู่ตรงหน้า
ตอนนี้คนที่ลงพนันไว้จำนวนมหาศาล ได้แค่หวังว่าอันเดรวิชจะเหมือนกับเคมสตัน ภายนอกดูแข็งแกร่งแต่ภายในไม่ได้เรื่อง……สวยแต่รูปจูบไม่หอม ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
ไม่รู้ว่าเยี่ยเทียนกลับถึงที่นั่งแขกพิเศษตั้งแต่เมื่อไหร่ มองดูอันเดรวิชที่ร่างกายกำลังสูบฉีดไปด้วยเลือดอย่างพลุ่งพล่าน ในใจก็คิดว่า “อันเดรวิช ขอโทษนะ ครั้งนี้คุณคงต้องนอนบนเตียง 1 เดือน !”
ก่อนที่อันเดรวิชจะปรากฏตัวสู่สนามแข่ง ท้ายทอยที่เยี่ยเทียนแตะเบาๆที่จริงเขานำเข็มเล็กดุจขนวัว 3 อันฝังเข้าไป เป็นวิธีที่สืบทอดมาจากอาจารย์ เป็นการกระตุ้นความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในของอันเดรวิช
ตอนนี้เท่ากับว่าอันเดรวิชกำลังแผดเผาชีวิตของตัวเองอยู่ เลือดลมพลุ่งพล่าน ให้เยี่ยเทียนรับมือก็คงรับไม่ไหวเช่นกัน ถ้าความรุนแรงนี้ผ่านไป พลังชีวิตที่อันเดรวิชใช้ไปทั้งหมดจะทำให้ชีวิตของเขาจบลงอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้เยี่ยเทียนได้ป้อนพลังลมปราณชีวิตดั้งเดิมเข้าสู่ภายในร่างกายของอันเดรวิชมากมาย ในเวลานี้พลังลมปราณชีวิตดั้งเดิมได้ถูกกระตุ้นหมดแล้ว และกำลังบรรเทาการสูญเสียพลังชีวิตของอันเดรวิชอยู่ หลังจบเรื่องนี้แล้วอาจจะป่วยหนักครั้งใหญ่ แต่อย่างน้อยชีวิตของอันเดรวิชก็ถูกปกป้องไว้แล้วเช่นกัน
“ท่านเยี่ย คุณ……คุณทำยังไง? นั่นยังใช่อันเดรวิชมั้ย?”
ถ้าจะพูดว่าคนในสนามตะลึง ก็คงสู้ต่งเซิงไห่ที่คุ้นเคยอันเดรวิชดีที่สุดคนนี้แล้ว คนตัวใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเขารู้สึกทั้งคุ้นเคยและไม่รู้จัก ต่งเซิงไห่อยากจะขึ้นไปดูให้ชัดๆซะเดี๋ยวนี้เลย
“ผมกระตุ้นความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในของเขา หลังจากการแข่งขัน เขาน่าจะต้องนอนเตียง 1-2 เดือน”
เยี่ยเทียนกดเสียงต่ำลง พูดว่า “เหล่าต่ง หลังจากการแข่งขันครั้งนี้จบลง อันเดรวิชจะออกจากวงการนี้แล้ว อย่าให้ใครทำร้ายเขาได้!”
เยี่ยเทียนรู้ว่า รอบนี้คนพนันครากุลซะส่วนใหญ่ ถ้าอันเดรวิชชนะ คนเหล่านั้นจะโกรธเขาและด้วยสัญชาตญาณของคนแบบนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะถึงขั้นว่าจ้างมือปืนฆ่าอันเดรวิชก็เป็นได้
“ท่านเยี่ย สบายใจได้ อันเดรวิชขึ้นชกให้ผมมา 10 ปี ผมไม่ทำเรื่องไม่ยุติธรรมแน่นอน”
ต่งเซิงไห่พยักหน้า พูดว่า “อันเดรวิชเองมีชื่อเสียงพอสมควร เป็นวีรบุรุษของคนรัสเซียหลายคน ถ้าอยู่ที่รัสเซียไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาเลย ถ้าการแข่งขันครั้งนี้จบลงผมจะยกคฤหาสน์ที่มอสโคหลังนั้นให้เขาเป็นเรือนหอ!”
เมื่อเทียบกับผู้ดูแลมวยปล้ำของวรอตสวัฟแล้ว คนจีนในต่างแดนอย่างต่งเซิงไห่มีความเป็นคนมากกว่าอีก เงินรางวัลสำหรับรอบนี้สูงถึง 5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ขอแค่อันเดรวิชชนะก็สามารถใช้ชีวิตอีกครึ่งได้อย่างสะดวกสบาย
“ลำดับต่อไป ขอเชิญครากุลผู้ครองอันดับ 2 ของโลก และนี่จะเป็นรอบการแข่งขันที่ดุเดือด! เราไปดูพร้อมกันเลยครับ มาดูกันว่าใครจะเป็นผู้ที่เดินออกไปจากสนามแห่งนี้!”
อันเดรวิชให้ความรู้สึกตะลึงมากเกินไป ฉะนั้นตอนที่แนะนำครากุล พิธีกรใช้ประโยคที่เรียบง่ายกว่ามาก และบรรยากาศการเข้าสู่สนามของครากุลก็สู้อันเดรวิชไม่ได้
ครากุลสูง 1.85เมตร น้ำหนักสูงถึง 96 กิโลกรัม วิดพื้นยกดับเบล 120 กิโลกรัม ยกน้ำหนักแบบสควอทได้ 560 กิโลกรัม ด้วยความเร็วที่มากกว่าคู่แข่ง ตัวเลขที่แสดงเหล่านี้เป็นสิ่งที่แสดงถึงพลังอันแข็งแกร่งของครากุลเช่นกัน
การเตะหลังคู่ต่อสู้ รวมกับพลังที่เอาชนะการป้องกันของคู่ต่อสู้ได้ทั้งหมด เป็นชื่อเสียงอันเลื่องลือของครากุลไปแล้ว ด้วยคะแนนการล้มคู่ต่อสู้ 216 ครั้งนี้ ทำให้เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวอันเดรวิชที่อยู่บนเวที ดวงตาส่องประกายความแหลมคมออกมาอย่างน่าเกรงขาม
“ไอ้ยักษ์ ฉันจะเตะสมองแกออกมา แล้วป้อนเข้าปากของแก ให้แกลิ้มรสว่ามันรสชาติยังไง!”
ความหึกเฮิมตอนเข้าสู่สนามไม่เท่าอันเดรวิช ทำให้ครากุลรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนกระโดดเข้าเวทีเขาเอ่ยปากข่มขู่อันเดรวิชทันที เป็นสิ่งที่พบได้ประจำในการแข่งขันเช่นนี้ บางคู่ยังไม่ทันขึ้นเวทีก็เริ่มต่อสู้กันก็มี
“แกได้ชิมแน่ๆ!”
อันเดรวิชแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก แผลเป็นบนใบหน้าของเขาเหมือนไส้เดือนที่ปูดขึ้นเป็นสีแดง ทำให้สีหน้าของเขายิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ ผู้คนไม่รู้สึกสงสัยเลยว่าหมีขั้วโลกเหนือตัวนี้ก็อาจจะถูกเขาฉีกเป็นชิ้นๆ
ตอนที่เยี่ยเทียนกระตุ้นความสามารถที่ซ่อนอยู่ข้างในอันเดรวิช ในเวลาเดียวเขายังป้อนพลังพิฆาตเข้าไปด้วย ทำให้ความโหดเหี้ยมที่ซ่อนอยู่ก็ถูกกระตุ้นออกมาเช่นกัน เวลานี้สิ่งที่อันเดรวิชมองเห็นตรงหน้าเป็นสีแดงทั้งหมด ในสมองของเขาเต็มไปด้วยความหิวโหยในการฆ่า
“ตกลง ขอให้นักชกทั้งสองคนขึ้นมาบนเวที!”
มองเห็นคู่ต่อสู้สองคนเริ่มแข่งกันด้วยฝีปาก ทำให้กรรมการตกใจไม่เบา ถ้าสองคนนี้เริ่มสู้กันขึ้นมาตอนนี้ เขาอาจจะโดนลูกหลงได้ ไม่มีเวลาแนะนำกฎเกณฑ์อะไรอีกต่อไป จึงเชิญทั้งสองคนขึ้นเวทีเลย
“แก๊ง!” เสียงกระดิ่งการแข่งขันดังขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ตัวของครากุลได้กลายเป็นเงาไปแล้ว เขาเคลื่อนย้ายไปยังตรงหน้าอันเดรวิชระยะ 2 เมตรเร็วดุจฟ้าผ่า เตะเข้าน่องข้างซ้ายของอันเดรวิชอย่างจัง
ตอนที่ครากุลเด็กๆ เขาเคยเรียนโยคะกับอาจารย์คนหนึ่งชาวอินเดีย ทำให้เขาตัวอ่อนมาก เมื่อขานี้เตะออกไป ตรงเอวมีการบิดเล็กน้อย มันเป็นท่าบิดที่ดูไม่ออกว่าบิด แต่ที่จริงแล้วกลับซ่อนพลังทั้งหมดของร่างกายไว้ที่ขาข้างขวาหมดแล้ว
ตอนที่ขาข้างขวาเตะออกไป ใบหน้าของครากุลแสยะยิ้มออกมา ในเวทีมวยแบบนี้สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ใครตัวใหญ่กว่า แต่ใครเร็วกว่าคือผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ครากุลเชื่อว่าขาที่เตะแท่นหินหักได้ของเขา สามารถทำให้อันเดรวิชคุกเข่าลงต่อหน้าตั้งแต่ยกที่ 1
เป็นไปตามที่ครากุลคิด ร่างใหญ่ของอันเดรวิชหลบไม่ทัน แต่ขาข้างขวายกขึ้นป้องกันตัวเล็กน้อย เสียงดัง “ปัง” สองขาปะทะกัน
ผู้ชมข้างล่างเวทีถึงกับหยุดหายใจ พวกเขามองภาพนั้นผ่านหน้าจอทำให้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นชัดเจนมาก คนหนึ่งรุก อีกคนป้องกัน บางคนเตรียมเฮ้แล้ว เพราะเขาเชื่อว่าการเตะรอบนี้จะทำให้ขาของอันเดรวิชหักอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น กลับทำให้ครากุลที่มั่นใจเต็มเปี่ยมก็ยังคิดไม่ถึง ตอนที่สองขาปะทะกัน ความเจ็บปวดถึงที่สุดของครากุลก็เกิดขึ้น และความเจ็บปวดนี้ก็ถูกส่งผ่านเส้นประสาทขึ้นสู่สมอง
“เป็น……เป็นไปได้ยังไง?”
ครากุลตะลึงไปครู่นึง เขานึกว่าตัวเองเกิดภาพหลอน พลังที่ถูกรวบรวมไว้ที่ขาสามารถเตะเสาหินน้ำหนัก 20 กิโลกรัมหักได้ ทำไมเขาถึงรู้สึกเจ็บล่ะ?
แต่เรื่องจริงก็ไม่อาจเปลี่ยนได้เพราะความคิดของครากุล ตอนที่ขาทั้งสองแยกออกจากกัน เสียง “แคร็ก” ก็ดังขึ้นเข้าไปที่ไมค์ ผู้ที่มีประสบการณ์มากจะฟังออก หนึ่งในสองคนนั้นน่าจะมีอยู่หนึ่งคนเสียเปรียบ
“ครากุล ฆ่ามัน ตีให้น้ำในสมองมันไหลออกมา!”
“เตะสมองมันให้แตก เตะไข่มันให้แตก ฆ่ามัน!”
ตอนที่เสียงกระดูกหักดังออกมา ผู้คนที่นั่งอยู่รอบทิศของสนามต่างก็ลุกฮือ ในใจของเขาคิดว่าคนที่ขาหักต้องเป็นอันเดรวิชแน่ๆ ในการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถระดับสูงขนาดนี้ ถ้าสูญเสียการเคลื่อนไหวแล้ว ผลที่ตามมามีแค่ตายเท่านั้น
ตอนที่ 635 ตีให้แหลก (3)
โดย
Ink Stone_Fantasy
ครากุลเป็นคนบุก ส่วนอันเดรวิชเป็นคนป้องกัน เสียงกระดุกหักที่ดังขึ้น ไม่มีใครคิดว่าคนที่เสียเปรียบจะเป็นครากุล
ผู้ชมในสนามเริ่มบ้าคลั่ง พวกเขากำลังรอการบุกอย่างรวดเร็วและดุเดือดของครากุล จัดการอันเดรวิชให้เป็นซากเนื้อ ถ้าให้ดีคือทำได้อย่างที่พูดเมื่อสักครู่ เอาน้ำสมองของอันเดรวิชป้อนไปที่ปากของเขา
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
แค่นัดแรกดูเหมือนว่าอันเดรวิชจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต่งเซิงไห่กับจู้เหวยเฟิงนั่งเฉยไม่ได้อีกต่อไป ก้นเหมือนไฟกำลังลนและเด้งขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็ว มองดูคนสองคนที่ยังไม่แยกจากกันบนเวที
“ใจเย็นก่อน!” สายตาของเยี่ยเทียนดีมาก แม้ระยะห่างจากเวทีเกือบ 20 กว่าเมตร แต่เขาสามารถเห็นความเจ็บปวดในตาของครากุลได้
ล้อเล่นเหรอ? พลังของอันเดรวิช ถือว่ามีระดับหนึ่งในวงการมวย ยิ่งได้รับการกระตุ้นความสามารถที่ซ่อนเร้นไว้ข้างในแล้ว ในเวลาอันสั้นนี้พลังของเขาจะพุ่งสูงขึ้นเป็นหลายเท่า
อย่าว่าแต่ครากุล แม้แต่เยี่ยเทียนเองถ้าปะทะกับอันเดรวิชตอนนี้ก็ยังต้องหลบ ใช้การหลบหนีให้อันเดรวิชสูญเสียพลัง รอพลังของเขาถูกใช้จนหมดไป ก็สามารถเอาชนะได้โดยไม่ต้องสู้
แน่นอนว่า ครากุลไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นบนตัวของอันเดรวิช เดิมทีเขาคิดว่าจะจบเกมส์ด้วยความเร็ว ใช้เวลาที่สั้นที่สุดจัดการอันเดรวิช แต่ใครจะคิด ตัวเองกลับขุดหลุมศพให้ตัวเองซะงั้น
สองขาปะทะกัน ครากุลส่งเสียงเจ็บปวดออกมา ร่างกายล้มไปด้านหลังสายล้อมเวทีอย่างรุนแรง ทำให้มีระยะห่างไกลออกจากอันเดรวิชไปกว่า 4-5เมตร
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ครากุลเสียเปรียบ?”
“เหมือนจะใช่ ร่างของรัสเซียคนนั้นไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว!”
“พระเจ้า เป็นแบบนี้ได้ยังไง? ที่เตะออกไปเมื่อกี้ แม้แต่ก้อนหินยังต้องแหลกสลายเลย?”
ท่าทีของครากุล คนที่ไม่รู้จักมวยปล้ำก็ดูออกว่าเขากำลังเสียเปรียบ เพราะตอนที่ครากุลยืนนิ่งแล้วนั้น เห็นได้ชัดเลยว่าขาของเขากำลังสั่นและยังเหยียบที่พื้นไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก
มีแค่ครากุลเท่านั้นที่รู้ว่าหลังเท้าและกระดูกน่องของเขาน่าจะแตกร้าว นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหวาดกลัว เพราะปกติแล้วการฝึกฝนการเตะ ล้วนฝึกกับเสาหินและเสาเหล็กทั้งนั้น เขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
ขาของอันเดรวิชไม่เหมือนคนที่มีเลือดเนื้อ แต่มันแข็งกว่าเหล็กแข็งเสียอีก เวลาที่เตะไปบนนั้น ครากุลกลับรู้สึกเหมือนมีคนเอาค้อนใหญ่ทุบไปที่ขาของเขา
“ย๊าก!”
อันเดรวิชที่ยืนอยู่ที่เดิม จู่ ๆ ก็ส่งเสียงคำรามเหมือนสัตว์ป่าดุร้ายออกมา ตอนนี้เขารู้สึกแค่ว่ามีพลังมากมายที่ยังใช้ไม่หมด อยากจะระบายมันออกมาในทันใด และการปะทะของขาเมื่อครู่ ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดกำลังจ้องมองไปที่ครากุลที่ถอยหลังไปอยู่มุมหนึ่งของเวที ร่างของอันเดรวิชเริ่มขยับแล้ว เหมือนรถถังขนาดใหญ่ปานนั้นกำลังขยายและย่ำไปยังทิศทางที่ครากุลยืนอยู่
จุดเด่นของอันเดรวิชคือพลังที่มีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าความเร็วของเขาจะช้าลง นี่เป็นเพียงการเปรียบเทียบเท่านั้น แค่ประมาณก้าวเดียวเท่านั้น อันเดรวิชจะสามารถพุ่งเข้าหาร่างของครากุลได้ แรงขาอันหนักอึ้งได้เตะออกไป
ครากุลในเวลานี้ จะกล้าปะทะกับอันเดรวิชอย่างจังอีกเหรอ? เขาจึงหันข้างและหลบได้ทัน การเตะของอันเดรวิชรอบนี้เตะลงไปยังเสาหินของเวทีเข้าเต็มๆ
“ปัง!” เสียงดังขึ้น เสาหินที่มีความหนาเกือบ 40 เซ็นติเมตรสองข้างถูกผูกมัดล้อมไว้ด้วยเชือก ถูกอันเดรวิชเตะจนหัก หินก้อนเล็ก ๆ ที่กระเด็นแตกกระจายไปถึงที่นั่งแขกและเชือกที่ล้อมรอบเวทีนี้ก็ถูกทำลายด้วยท่าเตะเพียงท่าเดียว
นี่ไม่ใช่พลังของคนปกติ แม้แต่คนดูยังตกตะลึงจนอ้าปากค้าง แรงเตะที่มากขนาดนี้คาดว่าคงต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์แล้ว ถ้าหากครากุลถูกเตะเข้าจังๆ เกรงว่าร่างกายของเขาคงจะถูกฉีกออกเป็นสองท่อนโดยอันเดรวิชแน่ ๆ
“เตะมันให้ตาย ไอ้ยักษ์ เตะมันให้ตาย!”
“ดึงหัวมันออกมา ไอ่โง่เอ้ย!”
มหาเศรษฐีในสนามไม่ได้มาเพื่อสนุกกับการพนัน แต่ต้องการสัมผัสกับความตื่นเต้นของการฆ่านองเลือดระหว่างชีวิตกับความตาย
ฉะนั้นตอนที่อันเดรวิชแสดงท่าทีที่ไม่เหมือนคนปกติออกมา พวกมหาเศรษฐีก็ลืมเรื่องการพนันไปหมด และได้ตะโกนเสียงดังออกมา และยังหวังว่าอันเดรวิชที่เหมือนคิงคองจะฉีกครากุลออกเป็นชิ้นๆบนเวที
แน่นอนว่ามีหลายคนที่วางเดิมพันหนักกับครากุล สวดภาวนาให้ครากุลเปลี่ยนความพ่ายแพ้ให้เป็นชัยชนะ แม้จะมีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่พวกเขาจะรู้สึกเป็นทุกข์กับการเดิมพันเมื่อครู่เช่นกัน
“คิดจะหนี?”
อันเดรวิชเตะออกไปไม่โดนอะไร เขาแสยะยิ้มออกมาและเก็บขาข้างขวาเข้าไป ส่วนร่างกายเข้าใกล้ครากุลอย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์มากมายในมวยปล้ำ เพียงแค่ไม่กี่ก้าวเขาก็สามารถบีบบังคับให้ครากุลไปอยู่อีกมุมได้
ครั้งนี้อันเดรวิชไม่ได้ใช้ขาแต่ใช้สองมือกำหมัดไว้แน่น หมัดข้างขวากำลังปกป้องร่างกายด้านขวาของตนเอง หมัดข้างซ้ายที่ดูเหมือนพลังไม่เยอะ
“บ้าเอ้ย ฉันจะจัดการแกแน่!”
ในใจของครากุลที่เริ่มหวาดกลัว แม้มีใจที่อยากจะกระโดดลงจากเวที แต่เขารู้กฎของมวยปล้ำเป็นอย่างดี ถ้าไม่ถูกตีจนล้มลงไปแต่สมัครใจยอมแพ้ละก็ ไม่ถึง 3 วัน ศพของเขาจะถูกประจานตามข้างถนนอย่างแน่นอน
การแข่งขันมวยปล้ำมีความเกี่ยวพันกับเงินพนันจำนวนมหาศาล และนี่จึงเป็นสาเหตุที่นักชกสามารถตายในการแข่งขันได้ แต่ห้ามยอมแพ้ง่ายๆเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะถูกพวกมหาเศรษฐีเหล่านั้นไล่ฆ่า
พอคิดถึงเช่นนี้ก็รู้สึกโกรธ ครากุลจึงตัดสินใจลองกันสักตั้ง เวลาเดียวกันกับตอนที่หมัดแย๊บของอันเดรวิชต่อยเข้ามา ครากุลกลั้นความเจ็บปวดที่ส่งขึ้นมาจากขาข้างขวาเอาไว้ หมอบลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง ร่างกายหมุน 180 องศา ส่วนขาข้างซ้ายเหมือนแส้ที่ฟาดออกไปยังเป้าหมายโดยตรง ซึ่งก็คือหัวของอันเดรวิช
ถ้าพูดถึงความว่องไวของครากุลนั้น เขาเร็วจริง ๆ แม้เขาจะออกท่าช้ากว่าหมัดแย๊บของอันเดรวิช แต่ขาข้างซ้ายของครากุลเตะเข้าขมับของอันเดรวิชตั้งแต่หมัดของอันเดรวิชยังอยู่ห่างจากตรงหน้าเกือบ 20 เซนติเมตร
นักมวยปล้ำทุกคนมีท่าไม้ตายของตัวเอง ครากุลก็มีเช่นกัน ใคร ๆ ก็คิดว่าขาของเขาเยี่ยมมาก เพราะคู่ต่อสู้เกือบ80เปอเซ็นต์จบชีวิตด้วยขาข้างขวาของเขาเกือบทุกรอบการแข่งขัน
แต่ไม่มีใครรู้ นักอาวุธตัวจริงของครากุลคือขาข้างซ้ายต่างหาก ตอนที่ฝึกเขาเคยใช้ขาข้างซ้ายเตะวัวคลั่งที่วิ่งเข้าหาเขาจนตาย เขาเชื่อว่าถ้าเขาเตะอันเดรวิชจังๆ หัวของอันเดรวิชจะเหมือนแตงโมที่ถูกเตะจนแตกแน่นอน
ความคาดหวังเป็นสิ่งที่สวยมาก แต่ความจริงเป็นสิ่งที่โหดร้าย ตอนที่ขาข้างซ้ายของครากุลกำลังเตะเข้าขมับข้างขวาของอันเดรวิช ปรากฏว่าอันเดรวิชใช้แขนข้างขวาบังเอาไว้
ก่อนหน้านี้ได้กล่าวไปแล้วว่าพลังช่วงบนของคนแรงไม่เท่าช่วงล่าง ยิ่งไปกว่านั้นครากุลได้ใช้ประโยชน์จากแรงหมุนแล้ว ถ้าเป็นไปตามความคิดเบื้องต้น เขาน่าจะเตะแขนของอันเดรวิชให้หักก่อน จากนั้นค่อยเตะสมองให้แหลก
แต่สิ่งที่ทำให้ครากุลตะลึงถึงที่สุดก็คือแขนข้างขวาของอันเดรวิชแข็งมากและกันขาของเขาเอาไว้ได้ ร่างของเขาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เหมือนเตะผ่านเหล็กเข้าไปอย่างนั้น
ครากุลสัมผัสได้ว่าแย่แล้ว และกลั้นความเจ็บปวดของขาข้างขวาเอาไว้ เตรียมจะแยกออกจากอันเดรวิชแต่รู้อีกทีก็สายไปแล้ว เพราะหมัดธรรมดาของอันเดรวิชต่อยเข้าหน้าของครากุลอย่างจัง
ในการชกมวย ท่าหมัดเสยเป็นท่าที่ทรงพลังที่สุด หมัดแย๊บเป็นท่าที่ใช้ลองเชิงคู่ต่อสู้ แต่ท่านี้กลับมีพลังมหาศาลเมื่อคนที่ใช้คืออันเดรวิช และพลังนั้นใหญ่เกินกว่าจินตนาการของผู้อื่น
“ปัง!”
เมื่อกำปั้นซ้ายของอันเดรวิชต่อยเข้าหน้าของครากุล ทุกคนก็ได้ยินเสียงดังเหมือนแตงโมสุก ๆ ระเบิดออกอย่างกระทันหัน
เมื่อมองตามที่มาของเสียงก็มีการร้องอุทานดังขึ้นในสนาม เพราะครากุลซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าอันเดรวิช ศีรษะของเขาหายไปแล้ว มีเพียงร่างไร้หัวที่พิงอยู่เชือกล้อมด้านหลังเขา แม้กระทั่งบนเวทีมวยที่มีแสงจ้าแต่มันทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวเหน็บไปเลยทีเดียว
“แหลก!” คำดังกล่าวปรากฏอยู่ในใจของทุกคน หมัดที่ดูอ่อนแอของอันเดรวิช ดูเหมือนจะตีหัวของครากุลจนแหลกจริง ๆ
พลังอันยิ่งใหญ่ไม่เพียงแต่ทำลายกระดูกใบหน้าครากุล แต่ยังทำให้ทวารทั้ง7เลือดไหลออกมา กระดูกส่วนคอของเขาก็ยังรับแรงไม่ไหว เนื้อหนังของเขาก็ถูกฉีกขาดอย่างเป็นๆ ส่วนกะโหลกที่ไม่สมบูรณ์ค่อย ๆตกลงไปที่หน้าอกของครากุล
“พระเจ้า เขาต่อยครากุลจนแหลกจริง ๆ?”
พวกเศรษฐีเหล่านั้นซึ่งเคยชินกับภาพใหญ่เช่นนี้ ยังต้องมองอย่างตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า รอบที่ดูเอียงไปด้านเดียว ผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นครากุลที่ถูกชกจนสมองแหลกเช่นนี้
“ฉันเคยพูดแล้วว่าจะให้นายชิมรสชาติน้ำสมองของแกเอง ผู้ชายพูดอะไรไว้ต้องทำให้ได้!”
อันเดรวิชแสยะยิ้มออกมา ยื่นมือไปคว้าร่างของครากุล และหยิบบางอย่างสีขาวแดงตรงที่เลือดกำลังพุ่ง และนำสิ่งนั้นยัดใส่ปากของครากุล
ภาพนี้ทำให้ทุก ๆ คนรู้สึกขนลุก บางคนถึงขั้นรับไม่ได้และอาเจียรออกมาตอนนั้นเลย เพราะว่าเวลานี้ อันเดรวิชในสายตาพวกเขาเหมือนปีศาจซาตานที่มาจากนรก ไม่สามารถใช้คำอธิบายใด ๆ มาบรรยายความโหดเหี้ยมของคนๆนี้ได้อีกแล้ว
ตอนที่ 636 ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร
โดย
Ink Stone_Fantasy
ความโหดเหี้ยมของอันเดรวิช ไม่ว่าจะเป็นคนที่พนันให้เขาชนะหรือว่าแพ้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ส่วนมหาเศรษฐีที่แพ้พนันกว่าพันล้านดอลล่าร์ แม้แต่สายตาของอันเดรวิชที่จ้องเขม่นพวกเขาอยู่ ก็ไม่มีใครกล้าด่าเลยสักคน เหมือนกับกลัวว่าอันเดรวิชจะหมายหัว
“คุณอันเดรวิช ขอเชิญคุณลงมาก่อน!”
ครากุลล้มลงไปและลุกขึ้นไม่ได้อีกแล้ว ผู้ชมเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ายังมีกรรมการอยู่ด้วยก็ตอนที่กรรมการลุกขึ้นยืน
แต่ดูเหมือนว่าอันเดรวิชยังหมกหมุ่นอยู่กับการฆ่านองเลือด ตอนที่ได้ยินคำพูดของกรรมการ ความสนใจของเขาเปลี่ยนไปทันที ดวงตาที่เยือกเย็นไร้ความเป็นมนุษย์คู่นั้นกำลังจ้องไปที่กรรมการ สภาพเหมือนดั่งสัตว์ร้ายกินคนในป่า
“คุณ……คุณจะทำอะไร?”
ตอนที่กรรมการสบตากับอันเดรวิช กรรมการเหมือนคนถูกโยนเข้าห้องเย็นในฤดูหนาวเก้าวันสามรอบ ตั้งแต่หัวจรดเท้าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เยือกเย็น จึงรีบถอยหลังไปสามก้าวและพูดกับการ์ดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า “ถ้าเขาไม่เชื่อฟังคำสั่ง ฆ่าให้ตายทันที!”
คำพูดของกรรมการทำให้เยี่ยเทียนตกใจมาก กว่าเขาจะรักษาชีวิตของอันเดรวิชไว้ได้มันไม่ง่ายเลย จะเซ็งมากถ้าต้องมาตายด้วยปืน
อันเดรวิชที่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ต่อคำพูดของกรรมการ เยี่ยเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมลมปราณจนเป็นเส้น และเป่าออกไปให้อันเดรวิชที่ห่างออกไประยะ 20 เมตร “อันเดรวิช กลับไปห้องเก็บตัว!”
อันเดรวิชที่หมกหมุ่นอยู่กับการฆ่านองเลือด จู่ ๆ เหมือนได้ยินเสียงระฆังดังขึ้นที่ข้างหู เสียงที่ดังขึ้นพร้อมการสั่นจนสติของเขาค่อย ๆ กลับมา และเริ่มรู้สึกตัวตามเสียงของเยี่ยเทียน
สองมือของตัวเองเต็มไปด้วยเลือดและยังมีศพของครากุลอยู่ตรงหน้า อันเดรวิชมีสีหน้าสับสนและงุนงงกับทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ภายในใจรู้สึกเสียใจและรู้สึกไม่เชื่อ แต่สิ่งที่มีมากกว่าคือการได้ปลดปล่อย
ตั้งแต่มีกำเนิดมวยปล้ำ น้อยคนมากที่สามารถออกจากเวทีมวยปล้ำด้วยคะแนนที่สมบูรณ์เช่นนี้ นักชกที่ยิ่งใหญ่ส่วนมากสุดท้ายก็จบชีวิตลงที่เวทีแห่งนี้ ส่วนคะแนนของพวกเขา ที่จริงแพ้เพียงครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวที่แพ้นั่นแหละเป็นครั้งที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาจบลงไปด้วย
ตั้งแต่เริ่มชกครั้งแรก อันเดรวิชก็ทำตัวเป็นคนตายอยู่แล้ว เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะออกจากวงการนี้ได้จริง ๆ เวลานี้ความฝันของเขาเป็นจริงแล้ว มันทำให้อันเดรวิชยังรู้สึกงุนงงเล็กน้อย จนถึงตอนที่กรรมการเรียกเขาลงจากเวที เวลานั้นเขาเพิ่งจะรู้สึกตัวอย่างเต็มที่
“ขอบคุณ!”
อันเดรวิชหันไปทางเยี่ยเทียนและอ้าปากเบา ๆ จากนั้นหันตัวกลับและลงจากเวทีไป นี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตของเขา ในเวลาเดียวกันก็เป็นวันสิ้นสุดเส้นทางการชกของอันเดรวิชเช่นกัน
สปอร์ทไลท์หนึ่งดวงส่องไปตามจังหวะการก้าวของอันเดรวิช เงาร่างที่ใหญ่และหนักแน่นของเขา ถูกตราตึงและฝังอยู่ในใจของผู้ชมไปแล้ว
“ล้มคู่ต่อสู้ด้วยเวลา 3:28 วินาที อันเดรวิชชนะ!”
บนเวทีจะเหลือไว้เพียงชื่อของผู้ชนะเท่านั้น แม้ครากุลจะมีอันดับสองของโลก แต่ในเวลานี้เขาเป็นเพียงผู้แพ้เท่านั้น แม้แต่ชื่อก็จะไม่ถูกกล่าวถึง หลักการชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจรได้ถูกยืนยันอีกครั้งบนเวที
ต่อจากนี้ การแข่งขันในรอบนี้จะถูกพูดถึงไปอีกนาน และผู้คนจะนำอันเดรวิชไปเปรียบเทียบกับผู้ชนะคนต่อไป แต่ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าอันเดรวิชชนะเพราะคนหนุ่มคนนั้นเป็นผู้ให้
“ชนะ……ชนะแล้วจริง ๆ เหรอ?!”
หลังจากที่กรรมการประกาศผลแพ้และชนะแล้ว จู้เหวยเฟิงไม่เชื่อสายตาตัวเอง แม้เขาจะพนันอันเดรวิชไป 100 ล้านดอลล่าร์ แต่สิ่งที่ทำลงไปเป็นเพียงการระบายเท่านั้น ถ้าพูดตามความจริง เขาไม่คาดหวังในตัวอันเดรวิชเท่าไหร่
แต่ความจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว จู้เหวยเฟิงจะไม่เชื่อก็คงไม่ได้ และเงิน 100 ล้านดอลล่าร์ของเขากำลังจะกลายเป็น 1800 ล้าน ยังไม่พูดถึงรอบนี้เอาชนะมวยปล้ำประเทศไทยและญี่ปุ่นยังไง แต่จู้เหวยเฟิงได้กำไรมา 1800 ล้านดอลล่าร์
“นี่เรื่องจริงเหรอ?” จู้เหวยเฟิงหยิกขาตัวเองหนึ่งที ใบหน้ามีอาการผิดหวังออกมา “บ้าเอ้ย คิดอยู่แล้วต้องเป็นแค่ฝัน การหยิกในฝันไม่มีวันเจ็บหรอก”
“นี่ น้องจู้ ขาที่หยิกหน่ะ ขาฉันรึเปล่า?”
ต่งเซิงไห่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จู้เหวยเฟิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉาไอ้หนุ่มโชคดีคนนี้ เพราะผลสุดท้ายเกินความคาดหมายของเขาเช่นกัน ต่งเซิงไห่ไม่คิดเลยว่าครากุลที่มีอันดับสองของโลก จะไม่มีแรงสู้กลับอันเดรวิชเลยแม้แต่น้อย
พอคิดถึงตรงนี้ ต่งเซิงไห่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบดูเยี่ยเทียน ภายในใจรู้สึกเกรงกลัวคน ๆ นี้ขึ้นมาเล็กน้อย เขาเข้าใจเป็นอย่างดี การเปลี่ยนแปลงของอันเดรวิชต้องเกี่ยวข้องกับเยี่ยเทียนเป็นแน่
“แฮะๆ เจ็บจริงด้วย เมื่อสักครู่เป็นเรื่องจริง จริง ๆ เหรอ?”
ครั้งนี้จู้เหวยเฟิงจับขาของตัวเองแล้ว และลองหยิกลงไปแรง ๆ หนึ่งทีจนต้องร้องออกมา แต่ครั้งนี้ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะชัยชนะในรอบนี้ทำให้บุคคลธรรมดาคนหนึ่งอย่างเขาก้าวกระโดดกลายเป็นเศรษฐีมวยปล้ำไปในพริบตา
เนื่องจากระบบเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วของญี่ปุ่น ในส่วนของตลาดมวยปล้ำนั้นเป็นระบบที่สามารถดึงดูดนักพนันจำนวนมากรวมถึงประเทศไทยด้วย นักมวยผู้รุ่งโรจน์ทั้งสองคนในแถบเอเชียอยู่ในกำมือของจู้เหวยเฟิงพร้อมกัน เท่ากับว่ากระดานของตลาดมวยปล้ำในแถบเอเชียกำลังจะเปลี่ยนโฉมใหม่
เนื่องจากว่าคู่ของอันเดรวิชและครากุลเป็นคู่สุดท้ายของวันนี้ ถ้าการแข่งขันจบลง และอันเดรวิชเดินกลับไปยังห้องพักผ่อนเสร็จ ไฟทั้งสนามจะถูกเปิดทั้งหมดและแน่นอนว่ามหาเศรษฐีหลายคนไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยใบหน้าออกสู่สาธารณะ พวกเขาจึงออกจากสนามอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่แรกแล้ว
“บัดซบ! คนจีนอย่างพวกคุณ เล่นไม่ซื่อ การแข่งขันรอบนี้ไม่นับ!” จู่ ๆ สำเนียงที่ผสมระหว่างญี่ปุ่นกับอังกฤษก็ดังขึ้น จนทำให้ผู้คนหันไปมองตามเสียง
“ฮิราโนะ อิจิโร่ แพ้ไม่เป็นเหรอ? ”
คนญี่ปุ่นหนึ่งคนหน้านิ่ง จู้เหวยเฟิงหัวเราะขึ้นมา เขารู้ว่าเยี่ยเทียนทำบางอย่างกับอันเดรวิชก่อนจะขึ้นเวที และทำให้เขาชนะในการแข่งขันครั้งนี้
แต่เป็นเช่นนั้นแล้วยังไง? มวยปล้ำไม่มีกฎตายตัวอยู่แล้ว ผู้ชมยอมรับเพียงผลของการแพ้และชนะเท่านั้น เรื่องอื่น ๆ พวกเขาไม่สนใจอยู่แล้ว แม้แต่นักชกที่ฉีดยากระตุ้นก่อนขึ้นแข่ง พวกเขาก็มองว่าเป็นเรื่องทั่วไป
ฉะนั้นคำพูดของฮิราโนะ อิจิโร่ มีแต่จะทำให้จู้เหวยเฟิงรู้สึกว่าเขาระบายอารมณ์ คนญี่ปุ่นที่หยิ่งยโสโอหังสุดท้ายก็จะกลืนน้ำขมที่ตัวเองหมักเอาไว้เท่านั้น และมันสะใจกว่าจู้เหวยเฟิงที่ได้เงินมา 1800 ล้านดอลล่าร์เสียอีก
“พวกคุณใช้ยากระตุ้น มันไม่ยุติธรรม!”
ฮิราโนะ อิจิโร่กำลังจะเสียสติแล้ว เขาไม่คิดว่านักแข่งที่เขาแลกมาด้วยสมบัติที่บ้าน และขึ้นชกเป็นตัวแทนจะถูกล้มตั้งแต่ครั้งแรก แม้แต่ธุรกิจมวยใต้ดินของเขาก็กำลังจะกลายเป็นธุรกิจของคนอื่น
สิ่งที่เปลี่ยนไปกะทันหันเช่นนี้ ทำให้ฮิราโนะ อิจิโร่เหมือนตกนรกทั้งเป็น ถึงกับทำให้เขาสูญเสียสติและการตัดสินไปทีเดียว เพราะเขานำกฎทั่วไปของโลกนี้มาใช้ในมวยปล้ำ
คำพูดของฮิราโนะ อิจิโร่ทำให้เจ้านายเหล่านั้นมีสีหน้าเหยียดหยามออกมา การแข่งมวยปล้ำนอกจากปืนที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้แล้ว เคยมีกฎเกณฑ์ที่ไหนกัน? การไม่มีกฎคือกฎเกณฑ์ของมวยปล้ำนั่นเอง
“ฮิราโนะ อิจิโร่ หรือคุณอยากฉีกสัญญาทิ้ง?”
จู้เหวยเฟิงหน้านิ่ง และพูดกับคลีเมตสันที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานว่า “คุณคลีเมตสัน ผมอยากทราบว่าสัญญาที่ผมเซ็นเกี่ยวกับบุคคลที่สาม จะเป็นไปตามนั้นมั้ย? คุณฮิราโนะ อิจิโร่ดูเหมือนไม่อยากทำตามสัญญานะ?”
“คุณจู้ สัญญาที่เซ็นบนเรือสำราญควีนอลิซาเบธ จะถูกดำเนินการตามนั้น ใครก็ห้ามผิดสัญญา”
คลีเมตสันส่งสายตาเป็นการแจ้งเตือนและพูดกับฮิราโนะ อิจิโร่ว่า “คุณฮิราโนะ อิจิโร่ ภายใน 1 เดือน ผมหวังว่าคุณจะนำข้อมูลของนักมวยญี่ปุ่นและลูกค้าส่งมอบให้กับคุณจู้จากประเทศจีน ผมจะส่งคนที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ”
สำหรับคลีเมตสัน การที่อันเดรวิชชนะทำให้เรือสำราญควีนอลิวาเบธได้รับเงินกว่าหมื่นล้านดอลล่าร์ ช่วยบรรเทาความกดดันของเขาไปได้เยอะมาก ฉะนั้นคลีเมตสันไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ และยินยอมที่จะช่วยจู้เหวยเฟิงสักครั้ง เขาก็เอื้ออาทรผู้อื่นอย่างมีจุดประสงค์
“ผม…..ผมจะทำตามสัญญา!”
การปรากฏตัวของคลีเมตสัน ทำให้ฮิราโนะ อิจิโร่รู้สึกตัว แม้เขาจะเป็นบุคลลสำคัญของประเทศญี่ปุ่น แต่ด้วยพื้นหลังของเรือสำราญควีนอลิซาเบธที่ยิ่งใหญ่นั้น เขาทำได้เพียงตีฟันให้หลุดและกลืนเลือดลงไปเท่านั้น จึงกลืนความโกรธนี้เข้าไปอย่างไม่เต็มใจ
“คุณฮิราโนะ อิจิโร่ ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่มั้ยว่าประเทศจีนหรือประเทศญี่ปุ่นใครอ่อนแอและแข็งแกร่ง?”
เสียงของจู้เหวยเฟิงดังขึ้นอย่างภาคภูมิใจ เขาเก็บความโกรธนี้ไว้ตั้งแต่ที่ฮิราโนะ อิจโร่ขอท้า แม้จะต้องแสดงออกมาเหมือนคนใจแคบ แต่ความอัดอั้นที่อยู่ในใจของจู้เหวยเฟิงยังไงก็จะระเบิดออกมาให้ได้ เขาจึงฟาดไปที่หน้าของฮิราโนะ อิจิโร่อย่างแรง
แม้ตัวแทนจากประเทศจีนจะเป็นอันเดรวิชชาวรัสเซีย แต่ตัวแทนจากญี่ปุ่นคือครากุลซึ่งมาจากอินเดียเช่นกัน ทั้งสองคนเป็นคู่ต่อสู้ที่ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ไม่มองว่าใครเป็นใคร แต่ตัดสินจากการแพ้และชนะก็พอ
“บัดซบ คุณ…คุณทำเกินไป!”
เดิมทีฮิราโนะ อิจิโร่กระหืดกระหอบอยู่แล้ว พอถูกจู้เหวยเฟิงกระตุ้นอีก ใบหน้าก็แดงระรื่ออย่างไม่ปกติ ต่อจากนั้นเลือดก็พุ่งออกมาและล้มลงไปกับพื้นสลบไป
“คุณภาพจิตใจแย่เกินไปมั้ง?”
จู้เหวยเฟิงส่ายหัวอย่างไร้เดียงสา หันหน้าไปสบตากับคุณฟรุสที่แสดงความสะใจผ่านสายตาคู่นั้น และพูดว่า “คุณฟรุส ไม่ทราบว่าสนามมวยของคุณจะส่งต่อให้ผมได้เมื่อไหร่?”
ตอนที่ 637 แบ่งผลประโยชน์ (1)
โดย
Ink Stone_Fantasy
“คุณจู้ คุณสามารถเอาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสนามมวยของประเทศไทยได้ทุกเมื่อ แต่ก่อนที่จะเอาไป ผมมีเรื่องจะปรึกษาคุณหน่อย ตอนนี้คุณว่างมั้ย?”
ไม่ว่าจะเป็นสมัยก่อนหรือสมัยปัจจุบัน ใคร ๆ ก็เชิดชูผู้ที่แข็งแกร่งกว่า แต่คุณฟรุสในเวลานี้ไม่มีท่าทีกินบนเรือนขี้บนหลังคาเหมือนตอนแรกแล้ว ส่วนวาจาของเขาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนน้อมผิดปกติ
“ตอนนี้เหรอ? ดึกเกินไปหรือเปล่า?” จู้เหวยเฟิงอึ้งไปสักครู่ เขาไม่รู้ว่าคุณฟรุสมีเรื่องอะไร ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองมีเพียงการพนันนี้เท่านั้น
“ไม่……ไม่ ตอนนี้บนเรือสำราญควีนอลิซาเบธ เป็นเพียงการเริ่มต้นของวันนี้เท่านั้น!”
ฟรุสส่ายหัวพูดว่า “ขอเชิญคุณเยี่ยและคุณต่งมาด้วยกันเลย ผมมีไวน์ ลาฟีตต์ ปี1892 อยู่ขวดนึง เป็นหนึ่งในยี่ห้อไวน์แดงที่มีประวัติยาวนานที่สุดในโลก ขอเชิญทุกท่านร่วมชิมด้วยกัน”
“เยี่ยเทียน?”
จู้เหวยเฟิงมองดูข้างๆ และพูดอย่างแปลก ๆ ว่า “เอ๋ เมื่อกี้เขายังอยู่กับคุณไห่ตรงนี้เลย เผลอแป๊ปเดียวหายไปไหนแล้วล่ะ?”
คลีเมตสันเห็นเยี่ยเทียนและอีกสองคนเดินไปทางไหน จึงเอ่ยปากพูดว่า “คุณจู้ คุณเยี่ยกับคุณต่งเดินไปทางเดินนักชกแล้ว น่าจะไปเยี่ยมอันเดรวิช”
จู้เหวยเฟิงนึกคิดสักครู่และพูดว่า “คุณฟรุส แบบนี้ดีกว่า รออีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวคุณไปห้องพวกเรา”
ที่จริงในใจของจู้เหวยเฟิงเข้าใจจุดประสงค์ที่คุณฟรุสอยากพบเขา ก็คงไม่พ้นเรื่องสนามมวยใต้ดินที่ประเทศไทย
ก่อนที่จู้เหวยเฟิงจะชนะการแข่งขันรอบนี้เขาไม่คิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้คงต้องคิดแล้วล่ะ เพราะว่าในวงการสนามมวยใต้ดินยังถือว่าเป็นมือใหม่ แม้แต่องค์กรมวยใต้ดินในจีนก็ยังทำได้ไม่ดีนัก แล้วนับประสาอะไรกับการเชื่อมสนามมวยใต้ดินขนาดใหญ่สองเวทีนี้ล่ะ
หลังจากลาคุณฟรุสและคนอื่น ๆ เสร็จ จู้เหวยเฟิงกลับไปยังห้องเก็บตัว และแน่นอนว่าเยี่ยเทียนกับต่งเซิงไห่ก็อยู่ที่นั่น
“เป็นยังไงบ้าง อันเดรวิช ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
ตัวของอันเดรวิชที่ใหญ่ดุจยักษ์ตอนนี้เริ่มกลับสู่สภาพปกติแล้ว แต่คนที่สูงถึง 2 เมตรเวลานั่งตรงโซฟาก็สามารถสร้างความกดดันให้กับผู้อื่นได้เช่นกัน ใบหน้าของเขาแสดงความเหน็ดเหนื่อยและสายตาที่ไร้จิตวิญญาณออกมา
“ดีกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ เขาต้องใช้เวลาพักพื้นประมาณ 1 อาทิตย์! ”
เยี่ยเทียนจับชีพจรให้อันเดรวิชเสร็จ สีหน้าแสดงความตกใจออกมา บางทีที่เป็นแบบนี้อาจจะเพราะเขาป้อนพลังลมปราณชีวิตดั้งเดิมเข้าสู่ร่างกายของอันเดรวิช ตัวของอันเดรวิชจึงไม่ได้รับอันตรายเท่าไหร่ ถึงแม้จะไม่สามารถขึ้นแข่งขันอีกได้ แต่ชีวิตประจำวันของเขาก็ไม่ได้รับผลกกระทบใด ๆ
หลังจากได้ยินสิ่งที่เยี่ยเทียนพูด จู้เหวยเฟิงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี คุณไห่ คุณเอาเลขที่บัญชีของอันเดรวิชให้ผม เดี๋ยวผมโอนเงิน 10 ล้านดอลล่าร์ให้เขา”
สิ่งที่เกิดขึ้นบนเรือสำราญควีนอลิซาเบธเกินความคาดหมายของจู้เหวยเฟิง แม้ว่าอันเดรวิชจะชนะได้อย่างราบคาบเพราะเยี่ยเทียน แต่จู้เหวยเฟิงก็อยากทำอะไรให้เขาบ้าง
“ถ้ารู้ว่าการกระตุ้นความสามารถที่ซ่อนเร้นไว้จะมีพลังต่อสู้ขนาดนี้ ผมคงให้อันเดรวิชแข่งกับแอนโทนี มาร์คัสแล้ว”
ต่งเซิงไห่พูดไม่ออกว่าตอนนี้รู้สึกยังไงเมื่อเห็นสภาพอ่อนโรยของอันเดรวิช เรื่องของจู้เหวยเฟิงจัดการเสร็จแล้ว แต่เรื่องของเขากับรูดอล์ฟยังไม่ได้เริ่ม และใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้เยี่ยเทียนจะเป็นยังไง?
“สบายใจเถอะ เยี่ยเทียนสามารถสั่งสอนฝรั่งให้คึกได้ขนาดนี้ แล้วตัวเขาล่ะ?”
จู้เหวยเฟิงรู้ว่าต่งเซิงไห่ตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและพูดว่า “คุณไห่ เมื่อกี้คุณฟรุสมาหาผม น่าจะอยากมาคุยเรื่องสนามมวยที่ประเทศไทย ผมไม่ค่อยรู้องค์กรมวยใต้ดินต่างประเทศเท่าไหร่ คุณต้องช่วยผมดูหน่อยนะ”
“ฟรุสน่าจะเสียดายมวยใต้ดินที่ประเทศไทย คงอยากจะเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับคุณเท่านั้น” ต่งเซิงไห่พยักหน้าและพูดว่า “ไป เดี๋ยวผมไปฟังกับคุณด้วย”
พูดตามตรง เงินพนันที่จู้เหวยเฟิงได้รับครั้งนี้ ต่งเซิงไห่รู้สึกอิจฉาอยู่ในใจเล็กน้อย เขาสู้มาตั้งหลายปีก็เป็นได้แค่ผู้บริหารมวยใต้ดินมอสโคกับต่างประเทศรอบ ๆ ส่วนองค์กรมวยใต้ดินก็อยู่แค่ระดับกลางถึงสูง
ส่วนจู้เหวยเฟิงที่เพิ่งเข้าร่วมสมาคมมวยใต้ดินระดับโลกครั้งแรก กลับเอาสนามมวยใต้ดินที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเอเชียมาได้ เขาทำได้เพียงถอนหายใจให้กับหนุ่มผู้โชคดีคนนี้ และรู้สึกว่าเขาเก่งมากที่สามารถหาเยี่ยเทียนมาเป็นคนช่วยได้
“เยี่ยเทียน นายไปด้วยกันสิ” จู้เหวยเฟิงหันไปหาเยี่ยเทียน
“ผมไปทำไม?” เยี่ยเทียนส่ายหัวและพูดว่า “ผมไม่สนใจเรื่องพวกนี้ คุณกับเหล่าต่งก็พอแล้ว”
“อย่าสิ! นายเห็นฉันเป็นคนยังไง?”
จู้เหวยเฟิงหันไปจับแขนของเยี่ยเทียนเอาไว้และพูดว่า “ฉันพูดตั้งนานแล้ว ถ้าการแข่งขันรอบนี้ชนะ หุ้นส่วนสนามมวยในประเทศทั้งหมด ฉันจะโอนให้นาย สนามมวยในประเทศไทยและญี่ปุ่นก็เป็นของนายทั้งหมด ตอนนี้ฉันแค่ต่อสู้เพื่อสิทธิของนายเท่านั้น!”
จู้เหวยเฟิงเป็นนักธุรกิจ และเขาเป็นนักธุรกิจที่ฉลาดมาก หลังจากที่เข้าร่วมการแข่งขันมวยใต้ดินระดับโลกหลายวันนี้เสร็จ จู้เหวยเฟิงสัมผัสได้ว่าหากไม่มีการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ประเทศจีนจะไม่มีสถานะใด ๆ ในองค์กรมวยใต้ดินระดับโลกเลย
จู้เหวยเฟิงเกิดในค่ายทหาร เขาชอบกีฬาที่เต็มไปด้วยการฆ่าและความตื่นเต้น เพื่อที่จะเชื่อมโยงมวยใต้ดินของจีนกับระดับโลกเข้าด้วยกัน เขากล้าทิ้งผลประโยชน์ทั้งหมดแม้จะเป็นการทำงานให้กับเยี่ยเทียนก็ตาม
“เป็นของผมทั้งหมด?”
เยี่ยเทียนอึ้งไปสักครู่ และรีบสะบัดมือทันที “ล้อเล่นหน่า ผมมีเวลาไปดูที่ไหนกัน หยุด ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไม่เช่นนั้นการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ผมจะไม่เข้าร่วมนะ เหล่าต่งคุณพาคนแซ่จู้ไปเช็คบิลเถอะ!”
จริง ๆ เยี่ยเทียนก็ชอบเงิน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาชอบความเดือดร้อนที่เกิดจากเงิน
เยี่ยเทียนรู้ดีว่าหากเขาปนเปื้อนกับสนามมวยใต้ดินพวกนี้ ในอนาคตเขาจะมีปัญหาไม่รู้จบแน่นอน ถึงเวลานั้นเขาไม่สามารถหลุดพ้นจากปัญหานี้ได้ ถ้าต้องเลือกแค่หนึ่งอย่างและทิ้งหนึ่งอย่าง เยี่ยเทียนยอมทิ้งความร่ำรวยที่น่าตกใจนี้ ดีกว่าต้องไปรับภาระปัญหาเหล่านั้น
“จะ……เป็นแบบนี้ได้ไงล่ะ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียน ต่งเซิงไห่ร้อนรนขึ้นมาทันทีทันใด วันนี้จู้เหวยเฟิงชนะอย่างราบคาบ และได้อำนาจการบริหารสนามมวยของประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยมาเต็มๆ แต่การแข่งขันของเขากับรูดอล์ฟยังไม่ได้เริ่ม ถ้าเยี่ยเทียนไม่สนใจขึ้นมา ต่งเซิงไห่ยอมกระโดดลงจากเรือสำราญควีนอลิซาเบธยังจะดีกว่า
“เยี่ยเทียน นี่นายทำให้ฉันอึดอัดใจนะ?”
จู้เหวยเฟิงไม่คิดว่าเยี่ยเทียนจะปฏิเสธเช่นนี้ มองจากหน้าแล้วน่าจะไม่ได้ล้อเล่น จนจู้เหวยเฟิงไม่รู้จะทำยังไงต่อ “เยี่ยเทียน สนามมวยแห่งนี้นายเป็นคนได้มา ตามหลักเหตุผลแล้วมันควรจะเป็นของนาย นายทำแบบนี้ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยนะ!”
เยี่ยเทียนเม้มปากพูดว่า “อย่าพูดไร้สาระ จะทำยังไงก็เป็นเรื่องของคุณ ถ้าคุณรู้สึกผิดต่อผม เอาเงิน 1000 กว่าล้านให้ผมก็ได้ ผมไม่เอาอะไรมากมายหรอก!”
สิ่งที่เยี่ยเทียนฝึกฝนคือวิชาเต๋าที่สืบทอดต่อกันมา “สมบัติ” คำนี้เป็นคำที่สำคัญมาก เพราะตั้งแต่เขาปรับแก้ฮวงจุ้ยที่เกาะฮ่องกงเสร็จ กระเป๋าก็แฟบไปพอสมควร
แน่นอนว่าการแข่งขันรอบนี้ เงินลงทุนจำนวน 50 ล้านดอลล่าร์ที่เยี่ยเทียนลงทุนไป มันจะสร้างกำไรหลายร้อยล้านให้กับเขา แต่เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายจากจู้เหวยเฟิง เยี่ยเทียนจึงพูดว่าจะเอาเงินด้วยความตั้งใจ
“นายจะเอาเงินอันนั้น?”
จู้เหวยเฟิงไม่คิดว่าเยี่ยเทียนจะขอเงื่อนไขนี้ เพราะว่าสนามมวยใต้ดินทั้งสองแห่งที่ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น สามารถผลิตเงินออกมาได้ถึง 1000 ล้านดอลล่าร์ ฉะนั้นเงื่อนไขของเยี่ยเทียนเหมือนกับการทิ้งแตงโมแต่เก็บเม็ดงา
“ใช่ เอาเงิน 1800 ล้านที่คุณได้มาให้ผม ส่วนสนามมวยสองแห่งนั้นคุณเอาไปได้อย่างสบายใจ ไม่มีใครติดค้างใคร”
เยี่ยเทียนพยักหน้าและจ้องจู้เหวยเฟิงอย่างจริงจัง พูดต่อว่า “ผมเล่นมวยใต้ดินเพราะความสนุกเท่านั้น เรื่องแบบนี้ในอนาคตไม่ต้องคิดถึงผมนะ จะมาหาก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ หลังจากการแข่งขันพรุ่งนี้จบลง ผมจะไม่โผล่ไปวงการมวยใต้ดินอีก คุณจำคำของผมวันนี้เอาไว้เลย”
เยี่ยเทียนเดาความคิดของจู้เหวยเฟิงออกบ้าง ก็คงหนีไม่พ้นลอกหนังเสือมาทำธง พอถึงเวลาที่ตัวเองรับมือไม่ไหวแล้วค่อยเรียกเขาออกมาช่วย
แต่เยี่ยเทียนเป็นคนที่ยอมให้ผู้อื่นจัดแจงได้ที่ไหน? เขาพูดดักเอาไว้ทันที และไม่เหลือโอกาสให้จู้เหวยเฟิงอีกเลย
“เอาเถอะ พูดขนาดนี้แล้ว พวกคุณลองปรึกษาแล้วจัดการเองเลย ผมจะกลับไปพักผ่อนแล้ว”
มองดูต่งเซิงไห่กับจู้เหวยเฟิงที่ทำได้เพียงมองตากันไปมา เยี่ยเทียนส่ายหัวและลุกขึ้นเดินออกไป ส่วนฟรุสอยากพบเขาทำไม เยี่ยเทียนไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
หลังจากกลับมาถึงในห้อง เยี่ยเทียนกำจัดความคิดที่ว้าวุ่นในใจของเขาออกไปและตั้งสมาธิอยู่กับการโคจรลมปราณ เวลาผ่านไปไม่นานก็นิ่งไป เมื่อลืมตาขึ้นท้องฟ้าก็สว่างแล้วและมีแสงแดดสาดส่องจากปลายมหาสมุทรเข้ามา
หลังจากแสงตะวันที่เข้าออกตามร่างกาย เยี่ยเทียนรู้สึกสดชื่นไปทั้งตัว การแข่งขันที่กำลังจะมาถึงในค่ำคืนนี้ เขามีความคาดหวังอยู่เล็กน้อย
อย่ามองว่าครากุลถูกฆ่าตายโดยอันเดรวิชเพียงไม่กี่วินาที แต่เยี่ยเทียนมองออกว่าความสามารถจริง ๆ ของครากุล ไม่ได้ด้อยไปกว่านักต่อสู้ชั้นยอดคนอื่น ๆ เลย แม้แต่จั่วเจียจวิ้นก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ฉายา “นักฆ่าปีศาจ” ผู้อยู่อันดับที่หนึ่งของโลกอย่างแอนโทนี มาร์คัส ทำให้เยี่ยเทียนเกิดความสนใจเป็นอย่างมาก เขาหวังว่าการแข่งขันในค่ำคืนนี้จะทำให้ระดับการฝึกของเขาที่หยุดการพัฒนามายาวนานสามารถบรรลุได้จากความเป็นและความตาย
หลังจากฝึกยามเช้าเสร็จ เยี่ยเทียนก็ลงไปกินอาหารเช้า ไม่มีใครสามารถมองออกจากใบหน้าของเขาว่าเยี่ยเทียนกำลังจะต่อสู้กับความเป็นและความตายในอีกสิบชั่วโมงหลังจากนี้
“เยี่ยเทียน หาตั้งนาน ไป กลับไปคุยกันที่ห้องนาย!”
ตอนนี้เพิ่ง 6 โมงเช้า ในร้านอาหารมีคนอยู่ไม่กี่คน เยี่ยเทียนที่เพิ่งกินอิ่มก็ถูกจู้เหวยเฟิงดึงเอาไว้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น