หมอดูยอดอัจฉริยะ 628-629
ตอนที่ 628 ความต้องการ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เหงียนเซียงเกินเพิ่งฆ่าเคมสตันอย่างโหดร้ายและดูเหมือนว่าเขากำลังจะสูญเสียการควบคุม หลังจากได้ยินกรรมการพูดเสร็จ สายตาที่เหมือนงูพิษคู่นั้นก็จ้องไปที่กรรมการจนกรรมการถึงกับถอยหลังไปหลายก้าว
นักมวยฆ่าคู่ต่อสู้จนเสียชีวิตและทำกรรมการตายเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่านักมวยคนนั้นก็ถูกปืนยิงตายในตอนสุดท้าย
“การแข่งขันจบแล้ว กลับไปห้องพัก!” ความกล้าของกรรมการเพิ่มมากขึ้นเมื่อยืนอยู่ใกล้ ๆ กับการ์ดที่สะพายปืนพร้อมกระสุน
ส่วนการ์ดสองคนก็ชักปืนขึ้นมาตามเสียงของกรรมการ ถ้าเหงียนเซียงเกินยังไม่ทำตามคำสั่งอีก พวกเขามีสิทธิยิงทันที เพราะค่าตัวของผู้ชมที่อยู่ในสนามแพงกว่าค่าตัวของเหงียนเซียงเกินอีก
เสียงปืนขึ้นลำที่ดังขึ้นทำให้เหงียนเซียงเกินกลับมามีสติ เขามองดูเคมสตันที่ไร้ชีวิตเสร็จ ดวงตาของเขาแสดงสายตาที่ไม่รู้จะอธิบายยังไงออกมา จากนั้นเขาก็กลับไปยังห้องพักนักมวยตามคำสั่งของกรรมการและมีการ์ดคอยคุ้มกันอยู่
“การแข่งขันใช้เวลา 3.28 นาที เคมสตันตาย เหงียนเซียงเกิน ชนะ!”
หลังจากเหงียนเซียงเกินเดินออกไปแล้ว กรรมการถึงกล้าเดินขึ้นไปบนเวที เขาพลิกดูหน้าของเคมสตันอย่างไม่มีความรับผิดชอบและประกาศการตายออกไป ที่จริงหลายครั้งที่ผู้เข้าแข่งขันไม่ได้ตายสนิท แต่เพราะอาการบาดเจ็บที่รุนแรงขนาดนี้มันหมายถึงความตายอยู่แล้ว
“นักมวยปล้ำระดับโลกไม่ได้เรื่องขนาดนี้เลยเหรอ? ผิดหวังจริง ๆ !”
“นั่นนะสิ ตัวใหญ่ซะเปล่า ฉันวางเดิมพันไปตั้ง 50 ล้าน!”
“ผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง ไอ้หนูของแกก็อ่อนเหมือนกับแกเลยใช่มั้ย? ฉันกล้าพนันแกไป 30 ล้านได้ยังไง?”
ตอนที่เคมสตันถูกเจ้าหน้าที่หลายคนยกลงไป มีเสียงด่าดูถูกดังขึ้นเต็มสนาม แน่นอนว่าคนพวกนี้ก็คือคนที่พนันว่าเคมสตันจะชนะ ตอนนี้พวกเขามีแต่ความโมโหและไม่มีความเห็นใจผู้ตายเลยแม้แต่นิดเดียว
“บัดซบเอ้ย เหล่าต่ง บอกคลีเมตสันหน่อย ตอนที่ผมเข้าแข่งขัน ผู้ชมทั้งหมดต้องเซ็นข้อตกลงความตายนะ ถ้าพวกเขากล้าดูถูกผมละก็ ผมจะฆ่าพวกเขาให้หมด!”
สีหน้าของเยี่ยเทียนเปลี่ยนไปทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคนพวกนี้ พลังจิตสังหารของเขาถูกแสดงออกมาผ่านสายตา ความรู้สึกเยือกเย็นที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ต่งเซิงไห่กับจู้เหวยเฟิงรู้สึกตกใจกันทั้งคู่
ภาพการต่อสู้นี้ทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกพลุ่งพล่านจริง ๆ แต่การที่คนเหล่านี้เย็นชาต่อชีวิตของคนทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกโกรธมาก มวยปล้ำไร้กฎเป็นกีฬาชนิดนึงที่ท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ ในใจของเยี่ยเทียนมีแต่ความเคารพ เขารับไม่ได้ที่ผู้ชมดูถูกนักมวยแบบนี้
“คุณเยี่ย คนพวกนี้ฆ่าไม่ได้นะ ไม่งั้นจะเกิดปัญหาใหญ่แน่ ๆ !”
ต่งเซิงไห่อยู่ในวงการมวยใต้ดินมานานหลายปี เกือบทุกปีเขาเจอมหาเศรษฐีจากประเทศต่าง ๆ และรู้จักอำนาจอันยิ่งใหญ่ของคนพวกนี้เป็นอย่างดี ฉะนั้นอย่ามองว่าพวกเขามีนักมวยปล้ำผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงทั่วโลกอยู่ในมือ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ฆ่าคนแบบไม่เห็นเลือดพวกนี้ ยังห่างหลายระดับมาก
“บนโลกนี้ไม่ว่าใครหายไปโลกก็ยังหมุนเหมือนเดิม ชีวิตของพวกเขาคือชีวิต แล้วคนพวกนั้นไม่ใช่เหรอ?” เยี่ยเทียนชี้ไปที่เคมสตัน ถ้าเขาเป็นแค่ผู้ชมคนนึงอาจจะพอทนได้ แต่เพราะเขาจะขึ้นแข่งในวันมะรืน เยี่ยเทียนทนไม่ได้แน่ ๆ ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเขา
“คุณเยี่ย ไม่เคยมีกฎแบบมานี้มาก่อนนะ” ต่งเซิงไห่เริ่มแสดงสีหน้าเคร่งเครียด เขาก็เป็นแค่เจ้าของสนาม ตัวเขาเองก็ไม่มีความสามารถถึงขั้นไปบอกให้คลีเมตสันพูดขัดใจเศรษฐีพวกนั้นหรอก
“คุณบอกคลีเมตสัน สิ่งที่พวกเราทำอยู่คือการท้าปะลอง บนสัญญาไม่ได้เขียนสถานที่แข่งไว้เลย!”
เยี่ยเทียนหัวเราะแห้ง ๆ และพูดต่อว่า “ถ้าเขาไม่เห็นด้วย ผมคิดว่าพวกเรามีสิทธิเลือกสถานที่แข่งขันเป็นที่อื่น
อยู่มั้ง? ผมมาชกมวย ไม่ได้มาชกเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับคนอื่น !”
ข้อตกลงสามฉบับของเยี่ยเทียนลงนามโดยจู้เหวยเฟิง ในข้อตกลงมีเพียงเวลาแข่งขัน แต่ไม่ได้เขียนไว้ว่าให้ใครขึ้นชกและสถานที่ชกอยู่ที่ไหน ถ้ามองจากตรงนี้ความต้องการของเยี่ยเทียนถือว่าเป็นไปได้
“ตกลง ผมจะลองดู!”
ต่งเซิงไห่ทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาเดิมพันเยี่ยเทียนชนะจนหมดตัว ถ้าเยี่ยเทียนไม่ขึ้นชกกับแอนโทนี มาร์คัสละก็ ความพยายามทุ่มเทสิบ ๆ ปีก็จะสูญไปเปล่า ๆ
การต่อสู้อันโหดร้ายเพิ่งสิ้นสุด ต้องใช้เวลาสักนิดเพื่อให้อารมณ์สงบลง การแข่งขันรอบต่อไปจึงจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ จากนั้นหน้าจอยักษ์ก็เริ่มแนะนำผู้เข้าแข่งขันรอบต่อไป
ในเวทีมวยใต้ดิน ไม่เพียงแต่มีการสู้แบบเดี่ยว ยังมีการสู้แบบคู่และแบบสามคน แต่การสู้แบบมีอาวุธค่อย ๆ หายไปจากวงการนี้แล้ว เพราะการต่อสู้แบบนั้นมันโหดร้ายและเลือดเย็นกว่ามาก
เมื่อ 5 ปีก่อนเรือสำราญควีนอลิซาเบธเคยจัดการแข่งขันแบบใช้อาวุธ มีหัวของนักมวยคนนึงถูกฟันจนตกลงมา แล้วผู้ชมที่เป็นเศรษฐีคนนึงเกิดโรคหัวใจกำเริบขึ้นมา ทำให้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ฉะนั้น 5 ปีที่ผ่านมาจึงน้อยมากที่จะต่อสู้โดยสามารถใช้อาวุธได้
การแข่งขันรอบต่อไปเป็นการแข่งขันแบบคู่ ผู้เข้าแข่งขันมาจากประเทศบัลแกเรีย แยงเกอวิช เจอกับฉัตรชัย ข่าโท คู่กับ ลิเฟีย ปาหนันจากประเทศไทย
ถ้าดูข้อมูลที่โชว์อยู่บนหน้าจอแล้ว ฉัตรชัย ข่าโท กับ ลิเฟีย ปาหนันเป็นคู่หูที่ติดอันดับที่หนึ่งของโลก จนถึงวันนี้บันทึกของเขาสองคนคือ ชนะทั้งหมด 158 ครั้ง ขอแค่ได้ขึ้นแข่งอีกเจ็ดรอบก็จะสามารถทะลุสถิติของอาจารย์ที่เป็นคนปั้นพวกเขามากับมือ
ในงานแข่งมวยใต้ดินระดับโลกครั้งที่แล้ว ฉัตรชัย ข่าโทกับลิเฟีย ปาหนัน เข้าร่วมการแข่งขันอยู่สองรอบ ซึ่งทั้งสองรอบล้วนแต่ฆ่าคู่ต่อสู้ตายคาที่ และหลังจากที่ข้อมูลของพวกเขาแสดงบนหน้าจอเสร็จ ก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาทั่วสนามในทันที
บริกรผิวขาวเดินเข้ามาหาเยี่ยเทียนในขณะที่เสียงจากทั่วสนามกำลังโห่ร้องอยู่ และพูดด้วยเสียงค่อนข้างเบาว่า “คุณเยี่ย คุณคลีเมตสันขอเชิญคุณหน่อยครับ!”
“โอเค พาผมไปเลยครับ!” เยี่ยเทียนพยักหน้า และเดินตามพนักงานไป จากนั้นก็เข้าไปยังห้องทำงานห้องหนึ่งของสนาม
“คุณเยี่ย นี่คุณให้โจทย์ยากผมนะ คุณก็รู้ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคนพวกนั้นได้เลย……”
เยี่ยเทียนเพิ่งเข้าประตูมาก็ได้ยินเสียงลำบากใจของคลีเมตสันดังขึ้น เขาอยากพูดหว่านล้อมให้คนหนุ่มยกเลิกความคิดที่น่าตลกนี้ นักมวยในสนามมวยใต้ดินเกิดมาเพื่อคนใหญ่คนโตทั้งนั้น อย่าว่าแต่ด่าเลย แม้แต่การมีชีวิตอยู่หรือตายของนักมวยก็อยู่ที่การตัดสินใจของคนพวกนั้น
เมื่อก่อนก็มักจะมีเศรษฐีที่แพ้จนตาลุกเป็นไฟ จ้างคนไปฆ่านักมวยที่ชนะ ซึ่งนักมวยที่ตายด้วยปืนอย่างน้อยก็สิบกว่าคนแล้ว
ก็เหมือนกับถังหลงที่มีชื่อเสียงมากในประวัติศาสตร์ เขาเริ่มชกมวยใต้ดินที่สนามไต้หวัน ส่วนพ่อของเขาถูกลอบฆ่าโดยเศรษฐีบางคน ด้วยความโกรธเพียงวูบเดียวของถังหลง เขาได้ฆ่าคนทีเดียวทั้งหมดหกคน จากนั้นก็หนีจากไต้หวันไปที่สหรัฐอเมริกา พอไปถึงชีวิตมวยใต้ดินของเขาจึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
แน่นอนว่าหลังจากที่เข้าสู่ยุค 90 โดยฉพาะหลายปีที่ผ่านมานี้เรื่องของนักมวยที่ถูกลอบฆ่ามีน้อยมากแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านักมวยจะมีฐานะเท่าเทียมกับพวกเศรษฐีเหล่านั้น นักมวยก็ยังคงเป็นเครื่องมือของนักพนันเศรษฐีเหล่านั้นอยู่ดี
หลังจากได้ยินคลีเมตสันอธิบายให้ฟังเสร็จ เยี่ยเทียนหัวเราะแห้ง ๆ และพูดว่า “คุณคลีเมตสัน ทำได้หรือทำไม่ได้ นั่นเป็นเรื่องของคุณ ไม่งั้นผมก็ยินดีนะถ้าจะเปลี่ยนเวทีแข่ง เพราะมีเพียงเดิมพันเท่านั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับผม คนพวกนี้เกี่ยวอะไรกับผมเหรอ?”
“เจ้าหนุ่ม นี่คุณขู่ผมเหรอ?”
ตาของคลีเมตสันหรี่ลง เรือพนันลำนี้หลังจากได้ลงสู่น้ำเมื่อปี 80 เขาก็เริ่มควบคุมทุกสิ่งอย่างบนเรือแล้ว หลายปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาถึงเพียงนี้
“คุณจะคิดแบบนั้นก็ได้ คุณคลีเมตสัน กฎของโลกใบนี้ ไม่ได้กำหนดโดยผู้ที่แกร่งกว่าเหรอ?”
เยี่ยเทียนแสดงสายตาอันแหลมคมออกมา “สำหรับคุณ บางทีอาจจะควบคุมชีวิตของนักมวยเหล่านั้นได้ แต่คุณคลีเมตสัน คุณเชื่อมั้ยว่าผมก็สามารถควบคุมชีวิตของคุณได้?”
ตอนที่พูด เยี่ยเทียนแตะนิ้ว พลังพิฆาตในห้องถูกเขารวบรวมเอาไว้ คลีเมตสันที่ยืนอยู่ด้านหน้ารู้สึกเย็นยะเยือกในทันใด แม้แต่การหายใจก็เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น คนที่เคยเห็นความตายจนชิน ยังรู้สึกขนลุกแบบนี้ได้ด้วย
จนถึงเวลานี้คลีเมตสันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เยี่ยเทียนไม่เพียงแต่เป็นแขกที่มาเข้าร่วมงานมวยใต้ดิน เขายังเป็นนักมวยที่เข้าร่วมการแข่งขันอีกด้วย เขาจึงมีอำนาจที่จะจัดการเขาให้ตาย
“คุณเยี่ย ใจเย็นก่อน มีอะไรค่อย ๆ คุยกัน ข้อแนะนำของคุณไม่ใช่ว่าทำไม่ได้!”
เหงื่อคลีเมตสันไหลลงมาจากหน้าผาก โบราณว่าไว้เมื่อตกอยู่ในที่นั่งลำบากต้องสามารถยอมถอยเพื่อที่จะไม่เป็นเบี้ยล่างในขณะนั้นได้ ในห้องทำงานห้องนี้ไม่มีการ์ดรักษาความปลอดภัยอยู่เลยสักคน
ที่จริงถึงแม้จะมีการ์ด คลีเมตสันก็ไม่กล้าทำอะไรเยี่ยเทียนอยู่ดี เพราะเยี่ยเทียนมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นซ่งเฮ่าเทียนจากประเทศจีนหรือซ่งเวยหลันจากสหรัฐอเมริกา ล้วนแต่เป็นคนที่คลีเมตสันไม่กล้าก่อเรื่องด้วย แล้วถ้าคลีเมตสันใช้วิธีอื่นฆ่าเยี่ยเทียน อำนาจที่อยู่ด้านหลังของเขาจะต้องส่งเขาไปให้กับพวกนั้นแน่ ๆ
“คุยกันได้ก็ดี ผมเชื่อว่าคุณคลีเมตสันจะตอบสนองความต้องการเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผมได้!” เยี่ยเทียนยิ้มให้กับคลีเมตสัน ลมอันเยือกเย็นเมื่อสักครู่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้คลีเมตคิดว่าเมื่อสักครู่คงจะเป็นภาพลวงตา
“ให้ผมคิดสักครู่……”
คลีเมตสันขมวดคิ้วและใช้เวลาคิดไปสักครู่ ไม่นานตาก็ลุกวาวและพูดว่า “สิ่งที่คุณเยี่ยขอ เท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับคนพวกนั้นนะครับ ผมเชื่อว่าลูกค้าที่กล้า ๆ หน่อย จะชอบวิธีนี้มากกว่านะครับ?”
บนเรือสำราญควีนอลิซาเบธแห่งนี้ แขกพิเศษทุกท่านจะได้รับการรักษาความปลอดภัยแบบ100% พวกเขาจึงไม่ต้องเป็นกังวล แต่ถ้าเพิ่มปัจจัยที่กระตุ้นความเร้าใจเข้าไป คลีเมตสันคิดว่ามีคนบางคนน่าจะโอเค
“คุณเยี่ย ผมตอบรับความต้องการของคุณได้ งั้นเอางี้ ตอนที่คุณกำลังแข่ง แขกทุกท่านต้องเซ็นสัญญาแห่งความตาย!”
คลีเมตสันไตร่ตรองเสร็จ ก็ตอบรับเงื่อนไขของเยี่ยเทียน
ตอนที่ 629 เดิมพันมหาศาล
โดย
Ink Stone_Fantasy
“สุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ทุกท่าน เนื่องด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง ในการแข่งขันของเราจะมีแขกพิเศษที่อยู่ท่ามกลางพวกคุณขึ้นมาแข่งขันด้วยตัวเขาเองครับ นี่เป็นสิ่งที่ตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันมวยใต้ดินมา ก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!”
ตอนที่ผู้ชมทั้งสนามรอคอยการปรากฏตัวของการแข่งขันประเภทคู่ จู่ ๆ คลีเมตสันก็โผล่ขึ้นกลางเวที
“ใคร? ทำไมมีแขกเข้าร่วมการแข่งขันด้วย?”
“พระเจ้า เขาไม่รักชีวิตเขาแล้วเหรอ? จะไปสู้กับคนป่าเถื่อนพวกนั้นเนี่ยนะ?”
“โลกใบนี้มันบ้าไปแล้ว มีคนกล้าขึ้นไปสู้เองด้วย กลัวมีชีวิตยาวเกินไปเหรอ?”
ตอนแรกผู้ชมก็ไม่เข้าใจการปรากฏตัวของคลีเมตสันอยู่แล้ว หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมา ทำให้บรรยากาศในสนามยิ่งพลุกพล่าน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ก็ยิ่งดังขึ้น
นอกจากรูดอล์ฟกับฮิราโนะ อิจิโร่แล้ว เศรษฐีที่มาจากทั่วโลก เพิ่งเคยได้ยินแบบนี้เป็นครั้งแรก จึงทำให้พวกเขานอกจากจะตกใจและแปลกใจแล้ว ในใจของพวกเขาไม่มีความรู้สึกอย่างอื่นเลย
การชมการแสดงและวางเดิมพันเป็นเรื่องเดียวกัน พวกเขาแค่ต้องการมาตามหาความรู้สึกโหดร้ายที่มาจากการต่อสู้ของคนอื่น แต่พวกเขาไม่มีความคิดที่อยากจะสัมผัสความรู้สึกแบบนั้นด้วยตัวของพวกเขา แม้จะบ้าแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่เคยคิดแบบนั้น
“คลีเมตสัน ผู้ชายที่คุณพูดถึงคือใครกัน?”
ผู้หญิงรูปร่างเซ็กซี่สุด ๆ ลุกขึ้นจากที่นั่งและตะโกนอย่างเสียงดัง “เขาเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ คลีเมตสัน คุณช่วยแนะนำเขาหน่อยได้มั้ย? ฉันจะทำให้เขาสนุกก่อนขึ้นไปตาย โอ้ว มันน่าตื่นเต้นมากจริง ๆ !”
“เยี่ยเทียน เธอน่าจะพูดถึงคุณอยู่รึเปล่า?”
จู้เหวยเฟิงจ้องที่เยี่ยเทียนอย่างไม่ละสายตา หัวเราะและพูดว่า “แม้ว่าผมจะไม่เคยมีอะไรเธอ แต่ผมเคยได้ยินว่าตอนที่อยู่บนเตียงผู้หญิงคนนี้เก่งมากเลยนะ คุณลองดูหน่อยมั้ยล่ะ เธอเป็นผู้หญิงที่มีสไตล์อยู่น้ะ ! ”
“บ้าเอ้ย ไร้ยางอายที่สุด บนโลกนี้มีผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
เยี่ยเทียนที่อยู่ข้างล่างเวทีโกรธจนหน้าเขียว เขาสาบานเลยว่าถ้าคลีเมตสันกล้าพูดชื่อของเขาออกมา เยี่ยเทียนจะขึ้นไปบีบคอเขาให้ตายคามือ อย่างน้อยก็ดีกว่าถูกข่มขืนโดยผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาเป็นพัน ๆ คน
“คุณคริสติน่า ต้องขอโทษด้วยครับ ผมยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อของคุณผู้ชายคนนี้ได้”
คลีเมตสันเหมือนสัมผัสได้ถึงพลังงานความแค้นบางอย่างจากเยี่ยเทียน จึงส่ายหัวตอบไปว่า “แขกพิเศษท่านนี้มีความต้องการหนึ่งข้อ ตอนที่เขาขึ้นแข่งขัน เขาต้องการให้ผู้ชมที่เข้าชมเซ็นสัญญาแห่งความตาย!”
“อะไรนะ? ให้พวกเราเซ็นสัญญาแห่งความตาย คลีเมตสัน คุณบ้าไปแล้วรึเปล่า?”
“นั่นนะสิ คนที่แข่งขันไม่ใช่พวกเราสักหน่อย มีสิทธิอะไรให้พวกเราเซ็นสัญญาบ้าบอนั่น?”
เสียงของคลีเมตสันยังไม่ทันสิ้น ก็มีเสียงโวยดังขึ้นมาจากด้านล่างเวที เศรษฐีพวกนี้สามารถดูถูกชีวิตของนักมวยได้ แต่ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะไม่รักชีวิตน้อย ๆ ของพวกเขาเอง เพราะว่าเรือสำราญควีนอลิซาเบธยืนยันว่าสามารถรักษาความปลอดภัยของพวกเขาได้ พวกเขาถึงได้ไม่พาบอดี้การ์ดลงเรือมาด้วย
ตอนที่คลีเมตสันยื่นข้อเสนออกไป ทำให้ทั้งสนามเกิดลุกพล่านขึ้นมาอย่างกับระเบิดลงอีกครั้ง มีบางคนเตรียมตัวฟ้องเจ้านายของคลีเมตสันแล้ว เพราะคนที่ไม่สามารถปกป้องความปลอดภัยของพวกเขาได้ ไม่สมควรที่จะมาดูแลเรือสำราญ ควีนอลิซาเบธเลยแม้แต่น้อย
“ทุกท่านครับ ใจเย็น ๆ กันก่อนนะครับ ความปลอดภัยของพวกคุณบนเรือสำราญ จะได้รับตามที่แจ้งไปอย่างแน่นอนครับ !”
คลีเมตสันรู้ดีว่าการที่เขาพูดแบบนี้ออกไปจะได้รับการตอบสนองกลับมายังไง เขาจึงพูดอย่างค่อย ๆ ว่า “เพราะแขกพิเศษท่านนี้มีฐานะเดียวกันกับพวกคุณ ตอนที่เขากำลังแข่งขันเขาไม่อยากให้มีคนใช้คำพูดดูถูก รบกวนการแข่งขัน เขาก็เลยขอแบบนี้ครับ
หรือพูดอีกอย่างนึงก็คือ ขอแค่คนที่เข้าชมการแข่งขันไม่ทำอะไรกับผู้เข้าแข่งขันที่เป็นแขกคนนั้น ผมยืนยันได้ว่าผู้ชมจะไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ !”
คำพูดสุดท้ายของคลีเมตสันทำให้ทั้งสนามนิ่งลง ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาพูดจะมีเหตุผล กับคนที่มีฐานะเท่าเทียมกับพวกเขา มีสิทธิที่จะขอความต้องการแบบนี้ออกมา และคำพูดที่หยาบคายเหล่านั้นไม่ควรเกิดขึ้นกับพวกเขาจริง ๆ
“ทุกคนครับ พวกคุณไม่รู้สึกเหรอครับว่า การที่ตัวเองได้เข้าร่วมและสัมผัสสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น จะเป็นประสบการณ์ที่หายากอีกแบบนึง?”
คำพูดหว่านล้อมของคลีเมตสันยังคงวนเวียนอยู่ข้าง ๆ หูของผุ้ชม “พวกคุณลองจินตนาการว่าตัวเองเป็นแขกคนนั้นสิครับ แล้วตัวเองก็จัดการคู่ต่อสู้คาเวทีด้วยมือของตัวเอง โอ้ว พระเจ้า มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเสียจริง ๆ ”
สิ่งที่คลีเมตสันพูดออกไปเหมือนจะโน้มน้าวใจได้มากทีเดียว เศรษฐีที่แสวงหาความเร้าใจพวกนี้ น่าจะร่วมสนุกกับกีฬาที่กระตุ้นต่อมอะดรีนะลีนมาแล้วทั่วโลกแล้ว แต่การที่เอาตัวเองเข้าร่วมในกีฬาที่อยู่ใกล้ความตายนั้น พวกเขากลับยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“คลีเมตสัน ถ้าคน ๆ นั้นถูกฆ่าตายล่ะ ? พวกเราไม่อยากสัมผัสการถูกฆ่าตายแบบนั้นหรอกนะ ! ”
ชายอายุสี่สิบกว่าคนนึงลุกขึ้นมา คำพูดของเขาทำให้คนหลายคนรู้สึกเห็นด้วย หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือพวกเขาก็ยังไม่อยากเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงในที่แบบนั้น
“คุณคลีโอ พัต ครับ ขอแค่คุณไม่ทำอะไรกับแขกคนนั้น ความปลอดภัยของคุณก็หายห่วงได้เลยครับ”
คลีเมตสันมองไปยังคริสติน่าที่ยังยืนอยู่ ยิ้มด้วยมุมปากพูดว่า “คุณคริสติน่าครับ ผมว่าถ้าคุณอยากเข้าร่วมการแข่งขันด้วย คุณช่วยใส่หน้ากากสองชั้นด้วยนะครับ เพราะในสายตาของนักมวยคนนี้ มีเพียงคนตายและคนเป็นเท่านั้น ไม่แบ่งแยกว่าเป็นหญิงหรือชายนะครับ!”
คำพูดของคลีเมตสันทำให้ผู้ชมตกตะลึงกันไปทีเดียว พวกเขาเคยเห็นความโหดเหี้ยมในมวยใต้ดินมาแล้วนับไม่ถ้วน สิ่งที่คลีเมตสันพูดพวกเขาพอสัมผัสมาแล้วบ้าง ถ้าแขกคนนั้นไม่ใช่คนบ้า เขาเชื่อว่าก็น่าจะเป็นคนที่ชอบความรู้สึกการได้ฆ่าคน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่สรรหาความเร้าใจแบบนี้หรอก
“ฉันให้ความเคารพผู้ชายมาตลอด ถ้าเขาไม่ตาย ฉันยินดีนะถ้าจะได้พูดคุยเรื่องโครงสร้างของร่างกายผู้ชายและผู้หญิงกับเขาสักหน่อย!”
คริสติน่าเป็นผู้หญิงที่บ้าคลั่งเสียจริง ผู้ชายที่อยู่ในสนามได้ยินดังนั้นตาลุกวาว หญิงสาวคนนี้มีความต้องการผู้ชายถึงขั้นนี้ ไม่ต่างจากพวกโรคจิตเลยสักนิด
“ทุกท่าน เนื่องจากว่านี่เป็นการแข่งขันแบบท้าปะลอง ฉะนั้นพวกเราต้องให้ความเคารพเรื่องความต้องการของแขกผู้นั้นด้วย แน่นอนว่า ถ้าพวกคุณคิดว่าไม่สามารถควบคุมฝีปากของตัวเองได้ พวกคุณจะไม่เข้าชมการแข่งขันก็ได้ครับ”
คลีเมตสันไม่สนใจที่คริสติน่าพูดและพูดต่อว่า “นอกจากนี้ เดิมพันการแข่งขันรอบนี้ขั้นต่ำ 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ต่ำกว่านี้ทางเราขอไม่รับนะครับ ส่วนข้อมูลของผู้เข้าแข่งขันทั้งสองฝ่าย จะประกาศออกมาในวันที่สามช่วงเช้า ผมเชื่อว่า พวกคุณจะเกิดความสนใจการแข่งขันรอบนี้แน่นอนครับ !”
หลังจากตอบตกลงเยี่ยเทียนเสร็จ คลีเมตสันไม่ได้เดินไปที่เวทีโดยตรง แต่เขาไปคุยกับเจ้านายก่อน
ในสายตาของคนตะวันตก สัญญาและความน่าเชื่อถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม หลังจากได้ยินว่าเยี่ยเทียนมีความต้องการให้เศรษฐีเหล่านั้นเซ็นสัญญาแห่งความตาย เจ้านายของคลีเมตสันก็ยินดีและตอบตกลง เพราะถ้าสัญญายังอยู่ เขาสามาถจัดการทุกสิ่งได้แน่นอน
แน่นอนว่าการทำเช่นนี้ ถ้าไม่ฉวยโอกาสคว้าเงินมาสักก้อน ก็คงเป็นการไม่ให้เกียรติชื่อเสียงเรือพนันอันดับหนึ่งของโลกได้หรอก และเดิมพันขั้นต่ำ 100 ล้านก็ถูกกำหนดโดยเจ้านายคนนั้นแหละ
“บ้าเอ้ย พวกฉวยโอกาส ไม่งั้นก็คงไม่ตกลงเร็วขนาดนี้!”
หลังจากได้ยินสิ่งที่คลีเมตสันพูดเยี่ยเทียนก็อดไม่ได้ที่จะด่าในใจถ้ารู้แบบนี้ตั้งแต่แรกจะขอส่วนแบ่งมาสักหน่อยก็ยังดี
เพราะในเวลานี้มีเศรษฐีจากประเทศต่าง ๆ ร้อยกว่าคนมาเข้าชมการแข่งขัน ขอแค่มีผู้เข้าชมเพียงครึ่งเดียว นั่นก็คือเดิมพันมหาศาลที่อาจมากถึงหมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ เงินจำนวนเงินมหาศาลนี้ยังไม่เคยถูกบันทึกในประวัติศาสตร์มาก่อน
สิ่งที่คลีเมตสันพูดออกไปทำให้ผู้ชมในสนามแสดงสีหน้าที่ตื่นเต้นออกมา 100 ล้านสำหรับพวกเขาก็ไม่เท่าไหร่ และมีหลายคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะมาดูการแข่งขันรอบนี้แน่นอน
มองดูเวลาไปสักครู่ คลีเมตสันพูดต่อว่า “เอาล่ะ การแข่งขันรอบต่อไปก็ถึงเวลาแล้ว เป็นการท้าดวลระหว่าง พี่น้องแยงเกอวิชจากประเทศบัลแกเรีย เจอกับฉัตรชัย ข่าโทคู่กับลิเฟีย ปาหนัน จากประเทศไทย และนี่จะเป็นมวยแบบคู่ที่มันส์ที่สุดในโลก ผมมั่นใจว่าทุกท่านจะพึงพอใจ!”
แสงไฟเริ่มหรี่ลงตามจังหวะการก้าวลงจากเวทีของคลีเมตสัน และผู้เข้าแข่งขันทั้งสี่คนเดินออกมาจากทางเดินจนมาถึงทั้งสองฝั่งของเวที
กฎเกณฑ์ง่าย ๆ ชัดเจน หลังจากที่เสียงระฆังดังขึ้น ทั้งสี่คนก็กระโดดเข้าไปข้างในสนาม
พี่น้องแยงเกอวิชจากประเทศบัลแกเรียส่วนสูงประมาณ 1.9 เมตร รูปร่างใหญ่โตแข็งแรง ส่วนฉัตรชัยกับลิเฟียส่วนสูงประมาณ 1.7 เมตร และการแข่งขันครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นการแข่งขันแบบอ่อนเจอกับแบบแข็งอีกครั้ง
แม้ว่ารูปร่างจะได้เปรียบกว่า แต่ด้วยชื่อเสียงอันดับหนึ่งของโลกจากนักมวยไทย พี่น้องแยงเกอวิชระมัดระวังตัวมากหลังจากที่เข้าไปในเวที พวกเขาเกือบจะเป็นฝ่ายตั้งรับการโจมตีดุจพายุจากนักมวยไทย
เมื่อเทียบกับการชกแบบเดี่ยวครั้งที่แล้วการชกแบบคู่ครั้งนี้ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่เมื่อการแข่งขันดำเนินไปได้แปดนาที เหตุการณ์ทุกอย่างก็พลิกผันไปหมด
แม้ว่าหมัดและขาของนักมวยจากไทยจะดุร้าย แต่มันไม่สามารถรับประกันได้ว่ากำลังของเขาจะคงอยู่ตลอดไป
แม้ว่าในแปดนาทีที่ผ่านมา พวกเขาได้เปรียบตลอด เตะจนแขนของแยงเกอวิชคนโตหักไป แต่พวกเขาประเมินความรู้ใจของสองพี่น้องคู่นี้ต่ำเกินไป
เมื่อการโจมตีไม่เป็นไปตามที่คิด ลิเฟีย ปาหนันที่หอบอยู่ถึงขั้นถอยหลังไปหนึ่งก้าว เวลานี้คู่ต่อสู้ของเขาแยงเกอวิชคนโตก็ถอยหลังอยู่เช่นกัน ดูจากสถานการณ์แล้วน่าจะไม่มีการคุกคามเกิดขึ้นกับเขาแต่ใครจะคิดว่าแยงเกอวิชสองพี่น้องจะเปลี่ยนตำแหน่งกัน
แยงเกอวิชคนเล็กที่เปลี่ยนตำแหน่ง เตะเข้าไปที่หัวของลิเฟียอย่างจังจนหลบไม่ทัน กำลังมหาศาลนั้นทำให้ลิเฟียปาหนันไม่แม้แต่จะส่งเสียงออกมา แต่ร่างใหญ่ของเขากลับล้มลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง เวลาผ่านไปไม่นาน เวทีก็ถูกย้อมไปด้วยเลือดสดสีแดง
นี่แหละคือการแข่งขันมวยใต้ดิน ขอแค่ยืนอยู่บนเวที ความละเลยและไม่ระวังเป็นสิ่งที่ไม่ควรมี ไม่เช่นนั้นก็ต้องพบเจอกับความตาย และหลักฐานที่ดีที่สุดก็คือลิเฟีย ปาหนัน ผู้ที่ติดอันดับหนึ่งของโลกประเภทการสู้แบบคู่นั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น