ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 612-618
บทที่ 612 ปัญหาของการแต่งงาน
โดย
Ink Stone_Fantasy
เหมาเหว่ยหลงมาอาศัยอยู่ที่ฟาร์มปลาได้ช่วงหนึ่งแล้ว แต่เรื่องส่วนตัวระหว่างฉินสือโอวกับวินนี่นั้น พวกเขาทั้งสองไม่เคยแสดงอะไรให้เหมาเหว่ยหลงเห็นเลย เขาเห็นแต่เพียงความรักอันหวานชื่นของคนทั้งสองแบบฉันมีเธอ เธอมีฉันอะไรพวกนั้น
แม้ว่าเรื่องส่วนตัวของฉินสือโอวและวินนี่บางเรื่องจะไม่สามารถบอกออกมาได้ เช่นว่าฉินสือโอวมีจิตสำนึกโพไซดอน หรือความสัมพันธ์ของวินนี่และครอบครัวของเธอและเรื่องอื่นๆ
เรื่องนี้ทำให้เขาปวดหัวมาตลอด สภาพของประเทศแคนาดาและประเทศจีนไม่เหมือนกัน ไม่น่าแปลกที่ความรักข้ามชาติยากที่จะประสบความสำเร็จ เพราะวัฒนธรรม ความเป็นอยู่และความตระหนักนึกคิดของคนสองคนต่างกัน ทำให้พวกเขาทะเลาะกันได้ง่ายๆ
พูดถึงเรื่องส่วนตัว ชาวแคนาดานั้นให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก พวกเขาคิดว่า ‘อะไรก็ตามที่เป็นของของตัวเอง ทุกสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่นล้วนแล้วแต่อยู่ในขอบเขตของความเป็นส่วนตัวทั้งหมด’
ในทัศนคติของชาวแคนาดา เรื่องของความเป็นส่วนตัวอยู่เหนือเรื่องของศีลธรรม เป็นสิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยุ่งวุ่นวายหรือคุกคามเรื่องของคนอื่น และยิ่งไม่ได้รับอนุญาตให้คนอื่นสอบถามหรือนำไปเผยแพร่โดยเจตนา เกรงว่าแม้แต่สามีภรรยาหรือพ่อแม่ลูก พวกเขาก็ต้องมีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวให้แก่อีกฝ่ายทั้งนั้น
ดังนั้นเมื่อครู่ที่เหมาเหว่ยหลงไม่อยากพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจและเปลี่ยนข้อหัวนั้น ฉินสือโอวเลยตามน้ำไปตามหัวข้อที่เขาเปลี่ยน
ถ้ายังอยู่ที่ประเทศจีน เขาที่ตอนนี้สร้างรายได้ได้หลายร้อยล้านคงยังพยายามถามความต้องการของเหมาเหว่ยหลงในตอนนี้ให้ชัดเจนแน่นอน ในสายตาของชาวจีน สำหรับพี่น้องที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เมื่อไม่มีเงินแล้วไม่มาหาเขาล่ะก็ แบบนั้นก็ไม่ถือว่าอีกฝ่ายปฏิบัติต่อเขาในฐานะน้องชาย
เขามองไปยังฉินสือโอวท่าทีทำอะไรไม่ถูก เหมาเหว่ยหลงถามออกมาอย่างประหลาดใจ “มีอะไรเหรอ? วินนี่ไม่อยากแต่งงานกับนายเหรอ? ไม่ใช่หรอกมั้ง?”
ฉินสือโอวถอนหายใจออกมา เขาส่ายหัวพลางพูดออกมา “ไม่ใช่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน แต่เธอไม่อยากแต่งงานเร็วขนาดนั้น ฉันล่ะไม่เข้าใจความคิดของเธอจริงๆ”
“ไม่ได้ล่ะ แกหาเวลาไปที่บ้านของเธอหน่อยสิ ไปคุยกับพ่อแม่ของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้” เหมาเหว่ยหลงให้การสนับสนุนเขา
ฉินสือโอวกลอกตาพลางโบกมือปฏิเสธแล้วพูดขึ้น “ไปๆ ๆ แกนี่อยากให้ฉันแต่งงานจริงๆ เลยนะ ที่นี่คือแคนาดา ไม่ใช่ประเทศจีน วินนี่จะแต่งงานกับใคร จะแต่งเมื่อไร ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพ่อแม่ของเธอเสียหน่อย”
ในเรื่องนี้เหมาเหว่ยหลงไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้มากนัก เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของประเทศ โดยรวมแล้วชาวแคนาดาไม่พูดถึงเรื่องแต่งงานกันง่ายๆ ดังนั้นเรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับทางที่วินนี่เลือก ฉินสือโอวทำได้เพียงร้อนใจไปวันๆ เท่านั้นและไม่สามารถที่จะไปตำหนิเธอได้
ก่อนจะมาปักหลักอยู่ที่แคนาดา เขาก็เหมือนกับคนทั่วไป เนื่องจากอิทธิพลจากการดูภาพยนตร์ยุโรปและอเมริการวมถึงการอ่านวรรณกรรม ฉินสือโอวมักจะคิดว่าชาวตะวันตกนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดกว้าง มีทัศนคติเรื่องความรักและการแต่งงานที่ค่อนข้างอิสรเสรี รักกันก็แสดงออกมาให้เห็นอย่างเอิกเกริก ไม่รักกันก็เพียง ‘กล่าวลา’ กันไปด้วยดี
พอมาถึงที่นี่ถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่ความจริง ชาวแคนาดาคิดเรื่องแต่งงานอย่างละเอียดรอบคอบ คนที่นี่อาจจะพูดได้ว่าในชีวิตพวกเขานั้นมีเพื่อนต่างเพศที่ดีๆ หลายคน แต่มันกลับเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะเดินเข้าพิธีแต่งงาน
ปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติเรื่องการแต่งงานของชาวแคนาดานั้นมีอยู่หลายประการ อันดับแรกคือปัจจัยเรื่องความเชื่อทางศาสนา แม้ว่าแคนาดาจะเป็นประเทศที่มีคนหลายเชื้อชาติอยู่รวมกัน มีวัฒนธรรมที่หลากหลายรวมถึงศาสนาและนิกายที่มีอยู่อย่างหลากหลาย แต่ศาสนาหลักก็ยังคงเป็นศาสนาคริสต์
ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์นั้น การแต่งงานถูกมองว่าเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ มีการตีความในพระคัมภีร์ไบเบิลบทที่เก้าไว้ว่าความหมายที่แท้จริงการแต่งงานถูกกำหนดขึ้นตั้งแต่ตอนที่พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ครั้งแรกแล้ว
หากมองในมุมของชาวคริสเตียน การแต่งงานไม่ได้มีเพียงการที่คนสองคนรักกันแล้วอยากจะสร้างครอบครัวด้วยกันเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่าเหตุผลพวกนั้นคือความหมายที่แท้จริงของการแต่งงาน การแต่งงานคือพระคุณส่วนหนึ่งที่พระเจ้ามอบให้แก่มนุษย์
การที่คนทั้งสองคนรักกัน กล่าวคำปฏิญาณว่าจะอยู่ร่วมกันไปชั่วชีวิตต่อหน้าพระเจ้า แม้ในยามเจ็บป่วย ยามทุกข์หรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นต่อชีวิต คนทั้งสองก็ปฏิญาณว่าจะอยู่ร่วมกันตราบนิจนิรันดร์ อีกทั้งการแต่งงานของพวกเขายังต้องได้รับการยอมรับจากครอบครัว แสดงให้เห็นถึงความสวยงามและความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
ความรักในโลกใบนี้มีทั้งความรักแบบสามีภรรยา ความรักต่อลูก ความรักที่มีต่อพ่อแม่ ต่อเพื่อน….
ภายใต้คำสอนเหล่านี้ ชาวคริสเตียนจึงไม่สามารถหย่าขาดจากกันได้ นั่นก็เพราะการหย่าไม่เพียงแต่เป็นการทรยศต่อผู้ที่ศรัทธาในคำปฏิญาณที่กล่าวไว้ต่อหน้าพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการปฏิเสธวัตถุประสงค์และของขวัญที่พระเจ้ามอบให้อีกด้วย
นอกจากปัจจัยทางศาสนาแล้ว กฎหมายของประเทศและทัศนคติทางการเงินก็เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะเดินเข้าพิธีแต่งงานกันง่ายๆ เช่นกัน เพราะหลังจากที่แต่งงานแล้ว หากชีวิตไม่ได้สวยงาม สุดท้ายก็ต้องเกิดการหย่าร้างขึ้น นอกจากนี้ยังมีเหตุผลเกี่ยวกับการหาทนายเพื่อขึ้นศาลและขั้นตอนทางศาลอื่นๆ ที่ยุ่งยากและการดำเนินการค่อนข้างช้าด้วย
ดังนั้นในประเทศแคนาดา คนบางคนจึงอยู่ด้วยกันมาหลายปีจนมีลูกโดยที่พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะจัดงานแต่งงาน มีบางคนที่อายุมากกว่าสามสี่สิบปี เมื่อพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นผู้ใหญ่มากแล้วจึงคอยคิดเรื่องแต่งงาน และยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชั่วชีวิตนี้ก็ไม่คิดจะแต่งงาน
อีกทั้งในสายตาของวินนี่ เธอกับฉินสือโอวได้ปลูกบ้านอยู่ด้วยกันแล้วหนึ่งหลัง พวกเขารักกันและใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข มีสัตว์เลี้ยงที่ดูแลราวกับเป็นลูกของตน ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทำไมยังจะต้องหมกมุ่นอยู่กับทะเบียนสมรสเพียงใบเดียวด้วยล่ะ?
แต่คำแนะนำของเหมาเหว่ยหลงที่มอบให้แก่ฉินสือโอวก็ทำให้เขามีความคิดที่ต่างออกไปนิดหน่อย แม้ว่าในประเทศแคนาดาพ่อตากับแม่ยายจะมีสิทธิ์มีเสียงในการแต่งงานเพียงน้อยนิด แต่พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะพูด เขาคิดจะโทรหาสองสามีภรรยามาริโอ้และเซโรวา จากนั้นคงเป็นเรื่องง่ายที่จะคุยเรื่องนี้กับวินนี่อีกครั้ง
พอคิดได้ดังนั้น ฉินสือโอวก็ขับเรือออกทะเลด้วยตัวเอง จิตสำนึกโพไซดอนกำลังคัดเลือกปลาที่อยู่ในฟาร์มปลาอย่างพิถีพิถัน เขาเลือกปลาที่มีสีสันสดใสอย่างปลาตัวเป่ามาสี่ห้าตัว ปลาแฟงค์ทูธตัวอ้วน หอยกูอีดั๊กที่มีลำตัวอวบอิ่ม นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลอื่นๆ ที่ค่อนข้างมีราคาอย่างปูราชินี ล็อบสเตอร์ในน้ำลึก ปลาแซลมอนแปซิฟิก และปลาไหลอเมริกัน
แน่นอนว่าเขาขับเรือยอชต์ออกไปแวะรับถังไวน์ถังเล็กๆ ทั้งสี่ใบที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณฟาร์มปลาขึ้นมาด้วย
เขานำถังไวน์ทั้งสี่วางไว้ในห้องแช่เย็น ฉินสือโอวให้ชาร์คนำปลาพวกนั้นไปแช่แข็งและแพ็กไว้อย่างดี เย็นวันนั้นเขาก็ไปหาวินนี่แล้วพูดว่า “เฮ้ ที่รัก คุณไม่ได้กลับบ้านมานานแค่ไหนแล้วนะ? ลาพักร้อนเถอะ ผมจะพาคุณกลับไปบ้านดีไหม?”
วินนี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดออกมา “อือ ก็จริง ฉันคิดถึงปู่กับย่ามากเลย สุดสัปดาห์นี้เป็นไง พวกเราบินไปหาพวกเขากัน แบบนี้จะได้ไม่รบกวนเวลางานด้วย”
ฉินสือโอวอยากจะยกนิ้วให้วินนี่เสียจริง หญิงสาวคนนี้ไม่จำเป็นต้องขยันทำงานตลอดเวลาก็ได้นะ เทียบกับเขาที่เป็นเจ้าของฟาร์มปลาคนนี้สิ วันๆ ก็เอาแต่อู้งาน
สองวันถัดมาทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายกับงานของตัวเอง วินนี่กับหลิวซูเหยียนไปทำงาน เหมาเหว่ยหลงติดต่อกับโอวหยางไห่เรื่องการทำฟาร์ม ส่วนฉินสือโอวก็พาชาวประมงออกไปตกปลาในทะเล หรือไม่ก็ไปขับเรือไล่พวกเรือประมงที่เข้ามาขโมยปลาในฟาร์มปลาของเขา
สองสามวันมานี้ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เรดาห์ก็ตรวจจับเรือประมงที่มาขโมยปลาได้ตลอด เบิร์ดรู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก เขาต้องเตรียมพร้อมตลอดทั้งวัน พอพบปัญหาเขาก็ต้องรีบขับเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปไล่เรือประมงพวกนั้นทันที
ส่วนใหญ่เรือประมงพวกนี้เมื่อถูกพบแล้วก็จะออกไปแต่โดยดี แต่ก็มีพวกหัวแข็งที่ไม่สนอะไรแล้วยังคงขโมยปลาต่อไป หากเป็นเช่นนั้นรถดับเพลิงหัวจรวดก็จะถูกนำมาใช้ประโยชน์ในตอนนั้นทันที
เรือที่เข้ามาขโมยปลาเป็นเรือประมงเล็กๆ เรือประมงพวกนี้เคลื่อนที่ไปมาได้สะดวกกว่า เป้าหมายก็เล็กๆ จึงทำให้สังเกตเห็นได้ยาก
แต่ที่ฟาร์มปลามีเรดาห์ตรวจจับ ดังนั้นอย่าว่าแต่เรือประมงเลย แม้แต่นกตัวใหญ่เพียงหนึ่งตัวบินเข้ามาก็ถูกเรดาห์จับได้แล้ว ดังนั้นต่อให้มีเพียงเรือเล็กๆ เข้ามาในฟาร์มปลาเพียงลำเดียว พวกมันก็จะถูกตรวจจับได้ทันที อีกทั้งเรือประมงพวกนี้ก็กำจัดได้ง่าย รถดับเพลิงหัวจรวดเพียงหนึ่งอันก็สามารถส่งผลกระทบต่อเรือพวกนี้ได้แล้ว
ชาร์ครู้สึกว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เขาจึงติดต่อไปยังบิ๊กฟุตและเรคเพื่อซื้อทุ่นลอยน้ำมานับพันกว่าลูกแล้วเขียนลงไปว่า ‘เขตฟาร์มปลาส่วนตัวห้ามเข้า’ ทุ่นพวกนี้สามารถลอยอยู่บนผิวน้ำและเชื่อมต่อลูกดิ่งหรือหินอะไรพวกนี้ได้ด้วย เมื่อปล่อยมันลงไปในน้ำทะเลพวกมันก็จะลอยอยู่กับที่
บทที่ 613 สีสันแห่งฟาร์มปลา
โดย
Ink Stone_Fantasy
ทุ่นลอยน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่ที่ชายขอบน่านน้ำของฟาร์มปลา บริเวณนี้เป็นบริเวณน้ำลึกอยู่แล้ว ฉินสือโอวยืนมองภาพนั้นลงมาจากบนเรือ ผิวน้ำสีน้ำเงินดูลึกลับ คลื่นทะเลไม่รุนแรง แต่ทุกครั้งที่คลื่นพัดมาพวกมันก็ยังคงเป็นคลื่นที่ทรงพลังอยู่ดี
จิตสำนึกโพไซดอนดำลงไปในน้ำทะเลอีกครั้ง สิ่งแรกที่พบเจอคือปลากระโทงร่มที่มีขนาดยาวกว่าหนึ่งเมตรหลายตัว ปลาชนิดนี้สามารถยาวได้มากสุดถึงสามสี่เมตร แต่ปลากระโทงร่มที่อยู่ในฝูงเล็กๆ นี้เป็นเพียงปลาตัวเล็กๆ เท่านั้น ไม่แน่ว่าพวกมันอาจจะพลัดหลงกับฝูงใหญ่ของพวกมันมา
ปลาพวกนี้มักจะอยู่รวมกันใกล้พื้นผิวน้ำบริเวณน่านน้ำฟาร์มปลา ความเร็วของพวกมันเร็วมากราวกับเป็นตอร์ปิโด การคลี่ครีบบนหลังของพวกมันแสดงให้เห็นว่าพวกมันสามารถว่ายฝ่ากระแสน้ำและคลื่นได้ ท่าทางของพวกมันดูภูมิใจเป็นอย่างมาก
ลึกลงไปอีกประมาณร้อยกว่าเมตร ฝูงปลาอินทรีจุดกำลังหาเหยื่ออยู่ในน้ำ พวกมันมีความยาวประมาณครึ่งเมตร ถือว่าไม่ได้ตัวโตมากนัก แต่นิสัยของพวกมันกลับดุร้าย พวกมันจ้องมองไปยังฝูงปลาแฮร์ริ่ง ปลาแฮร์ริ่งที่โชคร้ายจากการโดนโจมตีหลายครั้งจะถูกปลาอินทรีจุดเฉือนพวกมันออกมาเป็นอาหารของพวกมัน…
จิตสำนึกโพไซดอนดำลึกลงไปอีกราวสองร้อยกว่าเมตร ปลาซันมะจำนวนหนึ่งกำลังว่ายน้ำพเนจรไปมาอย่างอวดดีราวกับไม่รู้ตัวว่าที่ด้านบนของพวกมันมีนักล่าผู้หิวโหยกำลังมองหาอาหารอยู่
ปลาซันมะเป็นปลาที่มีรสชาติอร่อยเมื่อนำไปย่าง เนื้อของมันจะละเอียดอ่อนและมีก้างน้อย มักพบเห็นพวกมันได้ทั่วบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ แต่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี พวกมันจะว่ายน้ำไปทางเหนือ ตอนนั้นจะสามารถเจอพวกมันได้ที่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
เมื่อดำลึกลงมาถึงระดับสี่ห้าร้อยเมตร ฝูงปลาทูน่าก็จะปรากฏตัวขึ้น ปลาพวกนี้ไม่ได้มีราคาเท่ากับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน และนอกจากนี้ยังมีปลาโอแถบที่พบได้ทั่วไปด้วย ก่อนหน้านี้ไม่นานฝูงปลาโอแถบว่ายตามวาฬเข้ามาจนถึงฟาร์มปลา พวกมันจึงกลายเป็นเหยื่ออันดับต้นๆ ของปลาที่ตัวใหญ่กว่า
ปลาโอแถบพวกนี้อยู่รวมกันเป็นฝูง ไม่ว่าจะเป็นการหาอาหารหรือลาดตระเวน พวกมันจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มอย่างแน่นแฟ้น เพราะเหตุนี้หากมองจากที่ไกลๆ จะทำให้ฝูงปลาโอแถบเหมือนงูทะเลขนาดใหญ่ที่มีความยาวหลายร้อยเมตรกำลังว่ายไปมาในน้ำ บางครั้งพวกมันก็สามารถทำให้ฉลามตกใจกลัวได้เหมือนกัน
แม้ว่าเฮยป้าหวังจะไม่ได้มีความกล้ามากนัก แต่มันก็มีสัญชาตญาณที่ค่อนข้างดี หลังจากที่มันเจอฝูงปลาโอแถบ มันก็จะลดความเร็วของตัวเองลงแล้วว่ายไปยังปลายแถวของฝูงปลาโอแถบ จากนั้นก็ว่ายน้ำตามพวกมันไปเงียบๆ ก่อนจะอ้าปากกลืนกินปลาโอแถบที่อยู่บริเวณด้านหลัง
การทำแบบนี้ทำให้ฝูงปลาโอแถบไม่ว่ายหนีกันไปคนละทิศทางเพราะความตกใจ และยังช่วยลดความยากในการหาอาหารของเฮยป้าหวังไปได้มาก มันกินไปด้วยว่ายน้ำไปด้วย เมื่อกินจนอิ่มมันก็สะบัดหางว่ายดำดิ่งลงไปในน้ำ
ตั้งแต่ต้นจนจบ ฝูงปลาโอแถบไม่รู้ตัวเลยว่ามีนักล่ากินพวกของมันที่อยู่ด้านหลัง
ฉินสือโอวหัวเราะอยู่ในใจ เฮยป้าหวังนี่ช่างร้ายกาจจริงๆ ดูเหมือนว่าพลังจิตสำนึกโพไซดอนจะช่วยเพิ่มไอคิวของมันด้วย
ลึกลงไปอีกก็จะมาถึงเขตน้ำลึก แสงแดดไม่สามารถส่องลงมาถึงพื้นที่บริเวณนี้ได้ ดังนั้นน้ำทะเลบริเวณนี้จึงมืดสนิทและเย็นเฉียบ ปลาทั่วไปไม่สามารถอาศัยอยู่บริเวณนี้ได้ ที่เฮยป้าหวังออกมาจากบริเวณนี้ไม่ได้เป็นเพราะมาหาอาหาร แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนโจมตี
อย่าคิดว่าฉลามขาวเป็นนักล่าอันดับหนึ่งในมหาสมุทรแห่งนี้ อันที่จริงแล้วมหาสมุทรแห่งนี้ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ หากฉลามขาวเกิดโชคร้าย ก็อาจจะถูกฝูงแฮ็กฟิชเจาะเข้าไปในร่างกายและกัดกินเนื้อของพวกมันจนตายก็ได้….
จิตสำนึกโพไซดอนล่องลอยไปมารอบๆ บริเวณน้ำลึกแห่งนี้ กว่าจะเจอเข้ากับปลาดาบก็เสียเวลาไปนานพอสมควร
ปลาดาบจำนวนหนึ่งกำลังลอยไปมาอย่างสงบ หัวของพวกมันตั้งตรง ร่างกายตั้งฉากขนานไปกับสายน้ำ พวกมันใช้เพียงครับหลังและครีบอกขยับไปมาเพื่อรักษาสมดุลในการว่ายน้ำ ท่าทางของพวกมันเหมือนกับสาหร่ายทะเลไม่มีผิด
ปลาดาบหลายพันตัวกระจายตัวอยู่ทั่วน่านน้ำแห่งนี้ มองดูเหมือนป่าสาหร่ายที่มีสาหร่ายอยู่อย่างหนาแน่น ดวงตาของพวกมันจ้องมองไปยังการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นบนหัวของมันแล้วรอคอยอย่างอดทน
จากนั้นไม่นานเคยจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งตัวมาจากที่ไกลๆ และว่ายน้ำมาทางนี้
กุ้งลักษณะแปลกๆ เหล่านี้สามารถพบเจอได้บ่อยๆ ในบริเวณนี้ กฎระเบียบของพวกมันคือการไม่มีกฎ
พวกมันมีทั้งเพศผู้เพศเมียและสามารถรวมทั้งสองเพศในตัวเดียวได้ นอกจากนี้ยังสามารถอาศัยอยู่บริเวณริมทะเล ในอ่าวของท่าเรือ บนพื้นผิวของมหาสมุทร บริเวณน้ำตื้นหรือน้ำลึกได้หมดทุกที่ บางตัวก็สามารถอาศัยอยู่ที่ก้นทะเล และอาศัยอยู่ในถ้ำใต้ทะเลลึกได้ด้วย ดวงตาของมันใช้การไม่ได้ ดังนั้นพวกมันจึงหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณตะกอนใต้น้ำ หรือไม่ก็เกาะอยู่ด้านบนของสาหร่าย….
หลังจากที่เจอเข้ากับเคย ครีบหลังของปลาดาบก็ขยับไปมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของพวกมันพุ่งไปราวกับลูกธนู เสียง ‘สวบ’ ดังขึ้นทันทีที่มันพุ่งตัวไปที่อาหารของตัวเอง
ทันใดนั้นทะเลลึกอันเงียบสงบก็ได้เกิดการเคลื่อนไหว การเข่นฆ่าคืบคลานเข้ามายังที่แห่งนี้
ปลาดาบไม่ใช่นักล่าพวกสุดท้าย การกระทำของพวกมันดึงดูดนักฆ่าที่น่ากลัวกว่าให้เข้ามา นั้นก็คือฝูงฉลาม!
ฉินสือโอวไม่สนใจกิจกรรมล่าอาหารพวกนี้ เขายังบังคับจิตสำนึกโพไซดอนให้ดำลึกลงไปอีก ยิ่งดำลึกลงไปเท่าไรก็จะยิ่งเจอสิ่งมีชีวิตน้อยลงเท่านั้น หลังจากว่ายลงไปสักพักเขาก็เจอวาฬหลังค่อมตัวหนึ่ง
ในตอนที่เขากำลังจะกลับ จู่ๆ ก็เกิดแสงสว่างราวกับดวงดาวกลุ่มหนึ่งสว่างวาบขึ้นมาในบริเวณน้ำลึกอันเงียบสงบแห่งนี้
แสงสว่างพวกนี้เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน จากนั้นไม่นานพวกมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ จุดเล็กๆ ที่ส่องแสงพวกนี้กำลังจุดไฟให้กับท้องทะเลอันมืดมิดนี้ มันมีทั้งแสงสีแดง สีเหลือง สีเขียวอ่อน สีขาว และแสงอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนกำลังเคลื่อนไหวไปมาในน้ำ ราวกับเป็นทางช้างเผือกแห่งใต้ท้องทะเลก็ไม่ปาน
หากไม่มองดีๆ ก็จะรู้สึกว่าแสงจากกลุ่มดาวพวกนี้กำลังลอยเคว้งไปมาในน้ำ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นแสงที่อยู่บนแมงกะพรุนตัวใหญ่ตัวหนึ่ง แต่เพราะแมงกะพรุนตัวนั้นโปร่งใส ความโปร่งใสของมันทำให้ร่างกายของมันกลืนไปกับน้ำทะเล….
นี่คือความยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความหลากหลายของโลกใต้ท้องทะเล ฉินสือโอวเรียกจิตสำนึกโพไซดอนกลับ เขาโบกมือส่งสัญญาณให้ชาร์คล่องเรือกลับ
เมื่อเรือฮาวิซทกลับลำ ภาพด้านหลังที่เห็นคือทุ่นลอยน้ำที่ถูกผูกต่อกันเป็นทางยาว บนทุ่นลอยน้ำทุกอันมีข้อความเขียนไว้ทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส และภาษาญี่ปุ่น เป้าหมายหลักของการทำแบบนี้ไม่ได้มีเพียงไม่อนุญาตให้คนเข้ามาตกปลายังพื้นที่ฟาร์มปลาส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกอีกว่า ‘หากกล้าเข้ามาในฟาร์มปลาของฉัน ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็จะต้องได้รับโทษ!’
บูลหยิบกระป๋องเบียร์บัดไวเซอร์ให้ฉินสือโอวหนึ่งกระป๋อง มันเป็นกระป๋องยาวขนาดบรรจุสี่ร้อยมิลลิลิตร บนกระป๋องเป็นภาพสเก็ตช์ภูเขาน้ำแข็ง มันคือภูเขาน้ำแข็งนิวฟันแลนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบที่สุดของชาวประมงที่อาศัยอยู่ในนครเซนต์จอห์น
เบียร์ยี่ห้อนี้รสชาติไม่ค่อยอร่อย แต่มูลค่าการขายที่นิวฟันแลนด์กลับสูงมาก นั่นก็เพราะมันราคาถูก มีเงินเพียงสองดอลลาร์แคนาดาก็ซื้อมันได้หนึ่งขวดแล้ว
ฉินสือโอวเปิดประป๋อง รสชาติของภูเขาน้ำแข็งค่อนข้างขม นั่นก็เพราะน้ำตาลมอลต์ถูกหมักอย่างถูกวิธี แต่ถ้าหากดื่มตอนที่มันเย็นๆ ก็จะได้กลิ่นหอมของมิ้นต์ออกมาจางๆ เมื่อรวมกับรสชาติขมนี้แล้ว ถือว่าเป็นรสชาติที่เข้ากันได้ดี
ตอนแรกฉินสือโอวรู้สึกไม่คุ้นชินกับรสชาตินี้ แต่ตอนนี้เขาเริ่มชินและหลงรักในรสชาตินี้เสียแล้ว
ในขณะที่ดื่มเบียร์อยู่นั้น ฉินสือโอวก็ถามขึ้นมา “เพื่อน นายกับอันน่าเป็นยังไงบ้าง?”
บูลหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างพอใจแล้วตอบกลับว่า “ดีมากเลยล่ะ กัปตัน ต้องขอบคุณคุณนะ ความสัมพันธ์ของพวกเราดีมากเลย ตอนนี้เธอท้องแล้ว พวกเรากำลังจะมีลูกกันแล้ว”
ฉินสือโอวรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า “พวกนายมีลูกทันทีหลังจากกลับมาแต่งงานกันอีกรอบเลยเหรอ?”
“แน่นอน ตอนนี้ผมมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงพวกเขาแล้ว ผมอยากมีลูก” บูลพูดออกมาอย่างเป็นเหตุเป็นผล
ที่แคนาดาการทำแท้งถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ชาวคริสเตียนถือว่าการทำแท้งนั้นเป็นบาป เป็นการกระทำที่พระเจ้าไม่สามารถให้อภัยได้ เมื่อคุณมีลูกแล้วก็จำเป็นต้องให้กำเนิดเขาเท่านั้น
ฉินสือโอวพูดแสดงความยินดีกับบูล หลังจากนั้นเขาก็พูดถึงเรื่องการแต่งงาน “ฉันจะบอกอะไรให้นะเพื่อน นายเป็นคริสเตียน นายแต่งงานกับอันน่า จากนั้นก็หย่ากัน เรื่องนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไรไม่ใช่เหรอ?”
บูลถอนหายใจออกมาอย่างหดหู่แล้วพูดขึ้น “แล้วจะมีวิธีไหนอีกล่ะ? กัปตัน คุณนึกภาพออกไหม? ผมเคยมีเงินสำหรับใช้ทั้งเดือนไม่ถึงสิบดอลลาร์แคนาดาติดต่อกันมาตั้งหลายเดือน! เพื่อนของผมมาหาผมแล้วบอกให้ผมใช้หนี้เขาห้าสิบดอลลาร์แคนาดา แต่ผมไม่มีเงิน ผมจ่ายเงินให้เขาได้โดยการมอบเบ็ดตกปลาให้เขาเท่านั้น!”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาแห้งๆ ออกมา เขานึกภาพไม่ออกจริงๆ
“ความยากจนถือเป็นบาปดั้งเดิมที่บาปมากที่สุด ไม่มีเงิน พระเยซูก็ช่วยอะไรไม่ได้” บูลพูดออกมาอย่างหมดหนทาง
บทที่ 614 บ้านพัก ณ ฟาร์มปลา
โดย
Ink Stone_Fantasy
จากนั้นบูลก็พูดขึ้นมาในแง่ดีว่า “ตอนนี้ผมเก็บเงินพอที่จะดูแลครอบครัวได้แล้ว กัปตัน ค่าตอบแทนที่คุณให้เรามากมายขนาดนี้ ทุกครั้งที่จับปลาได้ก็ได้เงินโบนัสอีก มันทำให้ผมมีเงินซื้อรถดีๆ สักคันและก็สร้างบ้านได้ตั้งหนึ่งหลัง…”
“เดี๋ยวๆ ” ฉินสือโอวพูดแทรกขึ้นมาทันที “นายจะสร้างบ้านเหรอ?”
บูลเกาหัวอย่างรู้สึกประหม่าแล้วพูดออกมาว่า “ใช่ครับ อันที่จริง ตอนนี้ผมยังอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าอยู่เลย”
แซ็กพูดกลั้วหัวเราะออกมาว่า “บูล นายต้องดูแลอันน่าดีๆ นะ มีแค่หญิงสาวใสซื่ออย่างเธอเท่านั้นแหละที่จะยอมอยู่กับนายในตอนที่นายยังไม่มีอะไรสักอย่าง จะว่าไปอันน่านี่ก็ซื่อบื้อจริงๆ คนโง่อย่างนายที่แม้แต่บ้านก็ไม่มี น่าสงสารจริงๆ แต่เธอก็ยังเต็มใจที่แต่งงานกับนายน่ะนะ”
“พูดเหมือนกับว่านายมีเงินทองมากมายอย่างนั้นแหละ” บูลตอบโต้กลับอย่างหงุดหงิด
แซ็กตอบกลับอย่างไม่รู้สึกเคือง “อย่างน้อยฉันก็มีบ้านอยู่หลังหนึ่งแล้วกัน”
“บ้านเก่าๆ หลังนั้นน่ะนะ หลังคาบ้านนายซ่อมมากี่ครั้งแล้ว? ปีที่แล้วก็ซ่อมไปกว่าสิบครั้งได้มั้ง?” บูลหัวเราะออกมาเสียงดัง
แซ็กตอบกลับอย่างเศร้าๆ “น้อยกว่านั้นอีก แค่แปดครั้งเท่านั้นแหละ!”
ฉินสือโอวยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมาเป็นรั้วกั้นพวกเขาทั้งสองคนพลางพูดขึ้นมา “เฮ้ เฮ้ เฮ้! พวกนายนี่นะ ไว้หน้าฉันบ้าง โอเคไหม? กัปตันกำลังพูดอยู่นะ พวกนายกำลังเถียงกันเพื่อฉันงั้นเหรอ?”
แลนซ์ตะโกนออกมาเพื่อช่วยฉินสือโอว “หุบปาก! กัปตันเป็นพระเจ้า! พวกนายกล้าไม่สนใจพระเจ้าเหรอ? อีวิลสัน ออกมาจัดการพวกเขาซะ!”
ซีมอนสเตอร์ที่พาคนสองสามคนออกมาหัวเราะเสียงดังลั่น จากนั้นเขาก็จับบูลและแซ็กออกมาเหมือนว่ากำลังจะทำร้ายพวกเขา บูลรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เขาร้องออกมาเสียงดัง “ไม่ๆ ๆ เพื่อนยาก พวกนายไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไงก็จะมาลงโทษพวกเราแล้วเหรอ….”
“ฉันรู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง แต่นายทำให้กัปตันไม่พอใจ” แลนซ์หัวเราะฮ่าฮ่าออกมาเสียงดัง
ฉินสือโอวโบกมือไปมาแล้วพูดขึ้น “เดี๋ยวค่อยจัดการกับพวกเขาทีหลัง ที่ฉันอยากจะบอกก็คือบูล นายต้องการสร้างบ้านใช่ไหม? แล้วนายจะสร้างที่ไหนล่ะ นายได้เลือกที่ที่จะสร้างดีแล้วหรือยัง?”
บูลยักไหล่พลางพูดออกมา “ยังไม่ได้เลือกเลยครับ พอถึงเวลานั้นค่อยไปถามผู้ว่าแฮมเล็ต จากนั้นก็ซื้อที่ดินเล็กๆ ในเมืองแล้วสร้างที่บ้านที่นั่นก็คงจะได้”
ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูดออกมา “ไปในเมืองทำไมล่ะ? ที่ฟาร์มปลาแกธเธอริงมีฐานบ้านพักนับสี่สิบหลังที่ยังสร้างไม่เสร็จ นายชอบหลังไหนก็ไปบอกวิลสิ ให้เขาสร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้นาย แบบนั้นน่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”
บูลพูดออกมาด้วยความตกใจ “ผมจะทำแบบนั้นได้ยังไง? กัปตัน ถ้าคุณขายที่ดินพวกนั้น มันจะกลายเป็นเงินหลายสิบล้านเลยนะ!”
ฉินสือโอวส่ายหน้า “แต่ฉันไม่อยากขายที่ดินพวกนั้น เอาล่ะ เอาตามที่ฉันบอกแล้วกัน นายไปเลือกเอาสักที่แล้วกันนะ”
จู่ๆ เขาก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ บ้านพักที่อยู่ที่ฟาร์มปลาแกธเธอริงนั้นได้วางฐานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้พวกมันถูกปล่อยว่าง สู้ให้พวกชาวประมงมาเช่าคงจะดีกว่า อีกอย่างเขาไม่อยากจะขายบ้านพวกนั้นให้พวกอสังหาริมทรัพย์ด้วย เขาไม่มีทางอนุญาตให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามายุ่งวุ่นวายในฟาร์มปลาของเขาแน่
แลนซ์แสดงความยินดีกับบูล “เด็กคนนี้มันโชคดีจริงๆ แบบนั้นก็สร้างตามแบบแปลนบ้านพักหรูหราพวกนั้นไปเลยสิ บลู นายเจียดเงินมานิดหน่อยแล้วสร้างบ้านอีกหลังให้อันน่าเถอะ นี่ถือเป็นของขวัญชั้นดีเลยนะ”
แซ็กถามออกมาตรงๆ “กัปตัน แล้วพวกเราล่ะ?”
ฉินสือโอวพูดกลั้วหัวเราะ “พวกนายน่ะเหรอ? ถ้าพวกนายอยากได้ที่ดินสักผืนก็ไม่มีปัญหา แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าพวกนายสร้างคุณค่าให้ฟาร์มปลา ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันจำเป็นต้องมีพวกนาย ถ้าทำได้ก็เดินสบายๆ มาเอาที่ดินจากฉันไปได้เลยหนึ่งผืน”
แววตาของชาวประมงเหล่านั้นต่างเต็มไปด้วยไฟแห่งการแข่งขัน พวกเขามีเป้าหมายใหม่ในการแข่งขันกันแล้ว
ทันใดนั้นเรือประมงก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมาทันที แลนซ์และซีมอนสเตอร์กวักมือเรียกพวกตัวเองมาแจกแจงงาน “ที่ดาดฟ้ามีน้ำอยู่ ไปทำความสะอาดซะ! แล้วก็ไปทำความสะอาดห้องควบคุมอีกรอบด้วย เฮ้ ชาร์ค นายออกมาก่อนโอเคไหม? อย่ามาขัดขวางการทำงานของคนอื่นสิ! ดูเหมือนว่าแหอวนจะเก็บไม่เรียบร้อยนะ ใครเป็นคนดูแลเรื่องนี้? อย่าแย่งกัน อย่าแย่งกัน บ้าชิบ ใครหน้าไหนมาถ่มน้ำลายบนพื้นเรือ? ครั้งต่อไปถ้าฉันเห็นฉันจะให้มันกลืนกลับลงไปในคอ!”
ฉินสือโอวที่มองดูคนพวกนั้นแสร้งทำเป็นทำงานกันเสียงดังครึกโครมก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง
นี่แหละคือคนงานที่เขาต้องการ เมื่อถึงเวลาทำงานไม่มีใครบ่นโอดครวญและทำมันออกมาอย่างเต็มที่ พอถึงเวลาที่แม้จะไม่ได้ทำงาน แต่บรรยากาศก็ยังคงดูคึกคัก ทุกคนต่อสู้ร่วมกันราวกับเป็นพี่น้อง
เมื่อเห็นบลูเดินกอดลังเบียร์ออกมา ฉินสือโอวก็พูดออกมาด้วยความตกตะลึง “นายจะทำอะไรน่ะ?”
บลูยิ้มออกมาอย่างเก้อเขิน “คือว่ากัปตัน ผมจะดื่มเป็นเพื่อนคุณเอง ผมคิดว่าความสามารถในด้านนี้ของผมใช่ได้ทีเดียว ใช่แล้ว เมื่อกี้พวกเราคุยกันถึงเรื่องอะไรแล้วนะ? เหมือนจะเกี่ยวกับการแต่งงานใช่ไหม?”
ฉินสือโอวกลอกตาแล้วไล่ให้บลูไปทำอย่างอื่น เขาเรียกซีมอนสเตอร์มาหาแล้วพูดขึ้น “ติดต่อบิ๊กฟุตหน่อยสิ ฉันต้องการซื้อเรือความเร็วสูงที่สามารถบรรจุได้ถึงสองร้อยตันสี่ลำ”
ซีมอนสเตอร์ถามออกมาอย่างแปลกใจ “จะซื้อเรือพวกนั้นไปทำไมครับ?”
ฉินสือโอวตอบกลับ “นายดูสิ ตอนนี้เราเจอการบุกรุกบ่อยเกินไปแล้ว การเตือนพวกเขาเพียงอย่างเดียวไร้ประโยชน์ไปแล้ว พวกเราจำเป็นต้องมีเรือประมงติดอาวุธ รู้เหตุผลที่ฉันซื้อรถดับเพลิงเทอร์โบเจ็ทรึยัง? ฉันอยากจะเอาเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ทไปติดตั้งบนเรือประมงเพื่อให้มันเป็นปืนใหญ่น้ำ!”
บนเรือประมงมีปืนฉีดน้ำเฉพาะอยู่แล้ว แต่ต้องยิงในระยะใกล้และมีความแรงต่ำ แบบนั้นจะเอามาเปรียบเทียบกับปืนใหญ่น้ำที่ทำจากเครื่องยนต์ที่ใช้ในการรบได้ยังไง?
ซีมอนสเตอร์พูดออกมาอย่างตกตะลึง “แบบนี้ราคาจะแพงมากเลยนะ บอส คุณดูสิ ฟาร์มปลาของพวกเราทำเงินได้ไม่เท่าไหร่เอง แต่คุณลงทุนไปเยอะมาก หรือว่าเงินพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไร”
ฉินสือโอวนยักไหล่เพื่อให้เขาไม่ต้องคิดมากและไปจัดการตามที่บอก
ความคิดของเขากับซีมอนสเตอร์และคนอื่นๆ แตกต่างกัน พวกเขาคิดว่าฉินสือโอวทำฟาร์มปลาเพียงเพราะต้องการให้มันเป็นสถานที่สำหรับตกปลาและเป็นที่ทำเงินเพียงเท่านั้นเหรอ? ผิดแล้ว ในมุมมองเขา นี่คือที่ดินของเขา ถือว่าเป็นอาณาจักรเล็กๆ ของเขาอาณาจักรหนึ่งก็ว่าได้
เขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะปกป้องที่ดินของเขา และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนเข้ามารุกรานได้เด็ดขาด
ฟาร์มปลาทำกำไรได้เท่าไหร่ ฉินสือโอวไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เมื่อก่อนเขาคิดที่จะครอบครองตลาดปลาทางตะวันออกของแคนาดาทั้งหมด แต่ตอนนี้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปแล้ว หลังจากที่ได้จิตสำนึกโพไซดอนมา สิ่งที่เขาต้องทำคือการปกป้อง ไม่ใช่การเพิ่มผลผลิตอีกต่อไป
ส่วนเรื่องรายได้น่ะเหรอ? ที่ใต้ท้องทะเลมีเรืออับปางอยู่มากมาย ตราบใดที่เขาหาสมบัติด้วยความอดทน เขาจะต้องเจอสมบัติล้ำค่าที่ราคาสูงเป็นแน่
อีกอย่างไข่มุกสีดำของฟาร์มปลาก็สามารถสร้างผลผลิตได้ นี่ก็เป็นรายรับอีกทางหนึ่ง
หลังจากที่กลับขึ้นฝั่ง ซีมอนสเตอร์ก็ติดต่อไปยังบิ๊กฟุตเรค เรคพบว่าผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัท์ต่อเรือของนครเซนต์จอห์นก็คือผู้ออกแบบเรือยอชต์แฮงค์ บรูวเวอร์ เรคเลยบอกความต้องการของฉินสือโอวให้เขาฟัง
แฮงค์ บรูวเวอร์คือคนที่เคยช่วยฉินสือโอวจัดการเรื่องเรือประมงฮาวิซท เขาเข้าใจความต้องการของเจ้าของฟาร์มปลาท้องถิ่นคนนี้เป็นอย่างดี นั่นเพราะข่าวที่สำนักข่าวนครเซนต์จอห์นรายงานมักเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับชายคนนี้เสมอ
เมื่อรู้ว่าฉินสือโอวต้องการประกอบเครื่องเทอร์โบเจ็ทเข้ากับเรือประมง เขาก็มีสองทางเลือกให้เลือก ต้องการเครื่องบินน้ำ หรือต้องการเรือสปีดโบ๊ทลำใหญ่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องที่สุด เขาจึงโทรหาฉินสือโอว
“วัตถุประสงค์ของคุณคือการป้องกันเชิงรุก ดังนั้นจำเป็นต้องเป็นสิ่งที่เคลื่อนไหวได้คล่องตัว เครื่องบินน้ำสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด สามารถบินได้ถึงสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ข้อเสียของมันคือการต้านทานแรงสะท้อนกลับของปืนใหญ่น้ำที่ค่อนข้างต่ำ”
“เรือสปีดโบ๊ทขนาดนั้นก็ค่อนข้างทำความเร็วได้ดี อีกทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องการต้านทานแรงสะท้อนกลับ แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่อัตราราคาเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพก็ยังถือว่าค่อนข้างถูก….”
เมื่อได้ฟังคำแนะนำของแฮงค์ ฉินสือโอวก็ถามแทรกขึ้นมา “บอกผมหน่อยว่าความเร็วมันห่างกันเท่าไร”
แฮงค์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ “ความเร็วค่อนข้างห่างกันมากอยู่ ถ้านำเครื่องบินรุ่นดีเอชซี-ซิกห์ ‘ทวินออตโต’ ที่เป็นแบบเครื่องยนต์เทอร์โบคู่มาดัดแปลงล่ะก็ ความเร็วของมันจะสูงถึงสามร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เรือเร็วขนาดใหญ่สามารถทำความเร็วได้มากสุดราวๆ เจ็ดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น”
บทที่ 615 สาวน้อยขี้อวด
โดย
Ink Stone_Fantasy
“แล้วเรื่องราคาล่ะ?” ฉินสือโอวถามผ่านทางโทรศัพท์
“แตกต่างกันค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน เครื่องบินน้ำรุ่นดีเอชหนึ่งลำราคาสองล้านสี่แสน สามารถปรับแต่งเพื่อใช้ในการพาณิชย์ได้ มีความสะดวกสบายและมีการตกแต่งภายในหรูหรา เรือยนต์ขนาดใหญ่อย่างรุ่นวอเตอร์สไปเดอร์ก็มีการตกแต่งภายในที่หรูหราเหมือนกัน ราคาก็ประมาณสี่ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเรือลำนี้ใช้เครื่องยนต์กับวัสดุภายนอกที่ทำจากไทเทเนียมเลยมีราคาแพงหน่อย” แฮงค์อธิบาย
“ขอฉันลองคิดดูก่อนแล้วกันนะ สัปดาห์หน้าค่อยมาหาฉันแล้วกัน” ฉินสือโอวพูดหลังจากไตร่ตรองดูแล้ว
พอวางสายโทรศัพท์ เขาก็เริ่มค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
เขารู้เรื่องเครื่องบินน้ำไม่มากนัก เมื่อก่อนในสายตาเขาของสิ่งนี้ก็เป็นแค่ของกิ๊กก๊อกเท่านั้น มันไม่มีประโยชน์ที่สามารถใช้ได้จริง คนโซเวียตก็เคยสร้างยานบินผิวน้ำซึ่งเป็นปีศาจแห่งทะเลแคสเปียนอะไรนั่นไม่ใช่เหรอ? ในตอนนั้นมันทำให้อเมริกากับพวกยุโรปตะวันตกใจกลัวจนฉี่แทบราด แต่ต่อมาไม่ใช่เพราะใช้งานไม่ได้หรอกเหรอถึงได้กลายเป็นของไร้ประโยชน์?
แต่พอมาค้นหาในอินเทอร์เน็ตเขาก็กลายเป็นไอ้ทึ่มไปเลย เขาขาดความรู้เรื่องการทหารอย่างหนัก เครื่องบินน้ำอะไรกันล่ะ แบบที่เขารู้จักน่ะมันเรียกว่ายานบินเบาะอากาศ!
เครื่องบินน้ำ ยานบินเบาะอากาศ นอกจากนี้ยังมียานเรี่ยพื้นอีกหนึ่งอย่าง ยานพาหนะทั้งสามแบบนี้ง่ายต่อการจำสลับกันมาก
เครื่องบินน้ำก็คือเครื่องบินที่สามารถขึ้นบิน แลนดิ้งและจอดอยู่บนผิวน้ำได้ หลักการบินไม่ได้แตกต่างอะไรกับเครื่องบินทั่วไป อาศัยความดันแตกต่างของกระแสอากาศส่วนบนและส่วนล่างของปีกในการสร้างแรงยกของเครื่องบิน มันแบ่งออกเป็นสองประเภทได้แก่ ประเภทเรือบินกับประเภททุ่นลอยน้ำ ประเภทแรกมีรูปทรงพิเศษที่ออกแบบให้สามารถไถลไปกับผิวน้ำได้ ส่วนประเภทหลังก็เปลี่ยนแลนดิ้งเกียร์ของเครื่องบินบกให้กลายเป็นทุ่นลอยน้ำ
สาเหตุที่เครื่องบินชนิดนี้สามารถบินได้เร็วขนาดนั้นก็เพราะมันสามารถบินขึ้นมาได้ แต่จะบินในอากาศระดับสูงได้ยาก เนื่องจากส่วนล่างมีทุ่นลอยน้ำขนาดใหญ่
ยานบินเบาะอากาศเป็นยานบินที่สามารถบินเหนือผิวน้ำและสามารถบินติดกับผิวน้ำได้ หลักการในการทำงานก็คือการใช้กราวด์ เอฟเฟกต์กับการเพิ่มพลังงานเพื่อให้เกิดความเร็วสูงในการบินแฉลบผ่านทะเล มันสามารถแล่นทวนผิวน้ำและยังสามารถบินในอากาศระดับต่ำได้อีกด้วย มันทำได้ถึงขนาดลงจอดบนชายหาด บนที่ลุ่ม บนทางลาดที่เป็นน้ำแข็งกับบนสะพานต่ำๆ ได้ตามต้องการเลยทีเดียว
ยานเรี่ยพื้นเป็นยานพาหนะชนิดหนึ่งที่อาศัย ‘เบาะอัดอากาศ’ ที่ถูกบีบอัดระหว่างเรือและผิวน้ำเพื่อลอยออกจากผิวน้ำและลอยติดกับผิวน้ำอีกครั้ง หลักการในการบินเป็นเพราะขณะที่ยานเรี่ยพื้นเข้าใกล้ผิวดินหรือผิวน้ำในระดับความสูงที่คงที่ กระแสอากาศที่ไหลผ่านระหว่างปีกของเครื่องบินกับผิวน้ำจะถูกหยุดยั้งไว้อย่างรุนแรง ความดันใต้ปีกเครื่องบินเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและส่งผลให้แรงยกตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้เรือลำเล็กบินไปบนผิวน้ำได้
ปีศาจแห่งทะเลแคสเปียนที่เขารู้จัก ก็คือยานบินเบาะอากาศ เป็นยานบินคนละแบบกับเครื่องบินน้ำ และสิ่งที่แฮงค์แนะนำให้กับเขาก็คือเครื่องบินน้ำนั่นเอง
สิ่งที่ฉินสือโอวให้ความสำคัญก็คือความสามารถในการบินที่รวดเร็วของเครื่องบินน้ำ ส่วนเรื่องแรงสะท้อนเขาคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากน้ำหนักเครื่องเปล่าของเครื่องบินน้ำ ดีเอชซี-ซิกห์ทวินออตโตอยู่ที่สามตัน น้ำหนักสูงสุดที่สามารถขึ้นได้อยู่ที่ห้าตันครึ่ง สามารถต้านแรงสะท้อนของเครื่องยิงวิทยุเทอร์โบเจ็ทได้
แต่ถ้าต้านไม่ไหวแล้วจะทำยังไงน่ะเหรอ? อย่างมากก็แค่แขวนสมอให้เครื่องบิน หลังจากทอดสมอแล้วก็ค่อยสตาร์ทเครื่องยิงวิทยุเทอร์โบเจ็ทอีกครั้ง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าตัวเองฉลาดเกินไปแล้วจึงอดที่จะชื่นชมตัวเองไม่ได้
ทว่าการใช้เครื่องบินน้ำยังมีปัญหาอยู่อีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือทางฝั่งเขามีนักบินไม่พอใช้ แบบนี้เบิร์ดจะต้องทำงานหนักเกินไป เขาต้องจ้างคนมาเพิ่ม
คราวนี้เขาก็รู้สึกค่อนข้างลังเลแล้ว ตอนนี้กลุ่มของพวกเขามีบรรยากาศที่ดีมาก เขากลัวว่าคนที่รับเข้ามาอาจจะมีพฤติกรรมอะไรบางอย่างที่น่าเอือมระอา ถ้าหากทำให้กลุ่มของเขาแตกกันคงจะเป็นเรื่องวุ่นแน่ๆ
โชคดีที่เขาไม่ต้องรีบตัดสินใจในเวลาอันสั้น ช่วงวันหยุดเขาต้องกลับบ้านไปกับวินนี่ คราวนี้ไปเพียงไม่นานจึงไม่จำเป็นต้องพาพวกหู่เป้าฉงกับลูกหมาป่าไปด้วย น่าเสียดายที่นั่งเครื่องบินโดยสารไม่ได้ จึงต้องจ้างเครื่องบินส่วนตัวเหมือนเดิม
บ้านของวินนี่ที่วินนิเพ็กอยู่ห่างจากนครเซนต์จอห์นค่อนข้างไกล มันตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแคนาดา อยู่ห่างจากนครเซนต์จอห์นที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกสุดเป็นระยะทางประมาณสองพันแปดร้อยกิโลเมตรแบบเส้นตรง
ระหว่างสองเมืองนี้ไม่มีเที่ยวบินตรง ถ้าหากนั่งเครื่องบินของสายการบินจากนครเซนต์จอห์นก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่โทรอนโต ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางสิบกว่าชั่วโมง แต่ถ้านั่งเครื่องบินส่วนตัว ระยะเวลาในการเดินทางก็จะสั้นลงถึงครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะใช้เวลาแค่ห้าชั่วโมงเท่านั้น
วินนี่ใช้โอกาสช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กลับบ้าน จะเสียเวลากับการเดินทางไม่ได้ ดังนั้นฉินสือโอวจึงต้องใช้เครื่องบินส่วนตัว ครั้งนี้ยังคงเป็นเครื่องบินโดยสารหลายเครื่องยนต์ พีเอ-42 แบบที่เคยนั่งเมื่อครั้งที่แล้ว
ฉินสือโอวนำของขวัญที่ตั้งใจเตรียมไว้เป็นพิเศษไปด้วย เขาโทรศัพท์ไปหามาริโอ้กับมิแรนด้าไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะเขารู้จักวินนี่ดี วินนี่พอจะกลับบ้านก็จะกลายร่างเป็นเด็กเกเรคิดทำให้คนที่บ้านตั้งตัวรับไม่ทันแน่ๆ เธอไม่มีทางโทรศัพท์ไปบอกก่อนแน่นอน
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ก่อนขึ้นเครื่องบินเขาโทรศัพท์ไปหามาริโอ้ พวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่าวินนี่กำลังจะกลับบ้าน
ทว่าตอนพวกเขาไปถึงที่บ้าน หลังจากวินนี่โทรศัพท์หาที่บ้านขณะที่มาถึงประตูทางเข้าเขตที่พักอาศัยแล้ว มิแรนด้า มาริโอ้และคนอื่นๆ ก็ยังแกล้งเปิดประตูออกมาเหมือนว่าพวกเขาประหลาดใจมากอยู่ดี
เมื่อได้เห็นคนที่บ้านถูกตัวเองแกล้งให้ตั้งรับไม่ทัน ในใจของวินนี่ก็แอบแย้มรอยยิ้มออกมา เขารู้สึกว่าวินนี่ในตอนนี้ก็คือเด็กผู้หญิงดื้อรั้น เจ้าเล่ห์ และใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง
พอเข้ามาในบ้านมาริโอ้ก็ขยิบตาให้ฉินสือโอว ส่วนมิแรนด้าก็พูดขึ้นมาว่า “ลูกกลับมาได้ทันเวลาพอดีเลย วินนี่ คุณปู่กับคุณย่าของลูกก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน วันนี้พวกเราจะได้ทานมื้อเที่ยงอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันพอดี”
เมื่อมองเห็นคุณปู่คุณย่า วินนี่ก็เข้าไปกอดพวกท่านด้วยความดีใจ ทางด้านฉินสือโอวก็หยิบเอาของขวัญที่เตรียมไว้ออกมา
ของขวัญที่เขาเตรียมมาในครั้งนี้เป็นของขวัญที่เขาขบคิดมาอย่างหนัก ได้แก่ผลผลิตล้ำค่าจากฟาร์มปลา ไข่มุกสีดำที่เพิ่งเก็บขึ้นมาหนึ่งกล่อง ไวน์องุ่นคุณภาพสูงสี่ขวดกับผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพจำนวนหนึ่ง เรียกได้ว่ามีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากจริงๆ
หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว วินนี่ก็บอกให้ฉินสือโอวนั่งรอที่ห้องรับแขก เธอบอกว่าเธอจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องสักหน่อย
หลังจากฉินสือโอวนั่งลงแล้ว ว่าที่พ่อตาแม่ยายก็รินน้ำผลไม้ให้เขาหนึ่งแก้วแล้วพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม “ฉันจำได้ว่าวินนี่บอกว่าคุณชอบดื่มน้ำผลไม้ ไม่ชอบดื่มชากาแฟ ถ้าอย่างนั้นก็ลองชิมน้ำทับทิมของพวกเราสักหน่อยเถอะ รสชาติน่าจะไม่เลวเลยล่ะ”
ฉินสือโอวรู้สึกตื่นตะลึงเพราะได้รับความเอ็นดูโดยที่เขาก็คาดไม่ถึง คุณแม่ยายสุภาพเกินไปแล้ว พอดื่มเข้าไปหนึ่งอึกเขาก็รีบเอ่ยชม “รสชาติดีมากๆ เลยครับ อร่อยมาก เปรี้ยวๆ หวานๆ ผมไม่เคยดื่มน้ำผลไม้ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดื่มเยอะๆ เลยนะ ขอบคุณมากๆ นะที่โทรศัพท์มาบอกพวกเราไว้ล่วงหน้า” มาริโอ้พูดพร้อมกับยิ้มจนตาหยี
ฉินสือโอวจึงอธิบายออกไป “นี่เป็นเรื่องที่ผมควรทำอยู่แล้ว อีกอย่างนี่ยังเป็นเรื่องที่วินนี่แอบแนะนำให้ผมทำด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดออกมาชัดๆ แต่ผมรู้ว่าเธอก็อยากให้พวกคุณรู้ล่วงหน้าเหมือนกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มาริโอ้กับมิแรนด้ารวมถึงคนอื่นๆ ก็พากันยิ้มออกมา สิ่งที่พวกเขาปรารถนาก็คือการคลี่คลายความสัมพันธ์ของพวกเขากับวินนี่
ซือลั่วหวาเป็นคนชวนคุยต่อ พวกเขาคุยกันเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างในจีน โดยเฉพาะเรื่องประเพณีในช่วงวันตรุษจีน เขาพูดอย่างทอดถอนใจว่า “ฉันไม่ได้กลับไปฉลองวันตรุษจีนที่จีนมาสิบกว่าปีแล้วล่ะ คิดถึงความรู้สึกของการฉลองตรุษจีนที่บ้านเก่าจริงๆ น่าเสียดาย ตอนนี้บ้านเก่าก็ไม่มีเหลืออยู่แล้ว”
วินนี่ลงรูปที่ถ่ายตอนกลับไปฉลองตรุษจีนที่บ้านของฉินสือโอวลงในทวิตเตอร์ เธอบันทึกรูปภาพในทุกๆ แห่งที่เธอย่างก้าวไปในประเทศจีนอย่างไม่ขาดสาย เห็นได้ชัดว่าคนในครอบครัวของเธอก็ได้ดูรูปภาพของเธอกันหมดแล้ว
ฉินสือโอวจึงกล่าวคำเชิญชวนออกมา “ถ้าหากไม่รังเกียจ ช่วงตรุษจีนปีนี้พวกคุณไปที่บ้านเดิมของผมดีไหมครับ? พ่อกับแม่ของผมชอบฉลองงานตรุษจีนกันอย่างคึกคัก ถ้าหากพวกคุณยินดี… ยินดี… ยินดี…”
คำพูดที่เหลือฉินสือโอวก็พูดไม่ออกแล้ว เพราะเสียงตึงตังที่ดังขึ้นมา วินนี่เดินออกมาจากในห้องแล้ว
ออกมาจากห้องยังไม่เท่าไร แต่วินนี่… สวมเครื่องประดับเทพีแห่งรัตติกาลครบชุด…
ฉินสือโอวถึงกับนิ่งอึ้งพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
บทที่ 616 ของหมั้นไง
โดย
Ink Stone_Fantasy
ไข่มุกสีดำสมกับเป็นอัญมณีที่มีเสน่ห์ลึกลับที่สุดในโลก ถึงแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบบ้านพักธรรมดา แต่พอวินนี่สวมเครื่องประดับลงไปครบชุด เธอกลับไม่ได้ดูโอ้อวดเกินความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย และยังทำให้ดูสง่างามน่าดึงดูดยิ่งกว่าเดิมด้วย
ก็เหมือนกับชื่อของเครื่องประดับชุดนี้นั่นแหละ ขณะที่วินนี่เดินออกมาจากห้องของเธอ เธอก็ดูราวกับเทพีแห่งรัตติกาลผู้ลึกลับที่ค่อยๆ เผยความงดงามโดดเด่นของเธอออกมา
มาริโอ้กับผู้ชายคนอื่นๆ ยังไม่เท่าไร แต่ตอนที่มิแรนด้ากับฟอกส์มองเห็นเครื่องประดับบนร่างกายของวินนี่ ตาของพวกเธอก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที
วินนี่แย้มยิ้มพร้อมยกแขนข้างขวาขึ้นมา ไข่มุกสีดำที่ทอดตัวล้อมรอบแขน ตัดรับกับแพลทินัมที่ส่องประกายสีเงิน
“นี่เป็นของขวัญที่ฉินมอบให้หนู เป็นยังไงบ้างคะ?” วินนี่พูดอย่างมีความสุข พอเห็นท่าทางของแม่กับพี่สาวเธอก็รู้สึกพึงพอใจขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะพยายามรักษาสีหน้าให้สงบนิ่งเอาไว้ แต่หางตาที่หรี่ลงเหมือนลูกจิ้งจอกกับมุมปากที่ยกขึ้นสูงก็เผยความสุขที่อยู่ในใจของเธอออกมาอยู่ดี
ทุกๆ คนมองไปที่ฉินสือโอวด้วยความรู้สึกตกตะลึง พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับสูงมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้นจึงพอจะมีความสามารถในการตัดสินเครื่องประดับอยู่บ้าง เครื่องประดับไข่มุกสีดำชุดนี้ล้ำค่ามากจริงๆ !
มาริโอ้ยิ้มเจื่อนแล้วพูดกับเขา “นี่เจ้าหนุ่ม ฉันมองไม่ผิดจริงๆ นายยอมทุ่มทุนขนาดนี้เพื่อที่จะมัดใจสาวเลยเหรอ”
ฉินสือโอวไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป คุณพ่อตาครับ พ่อพูดแบบนี้ก็ไม่สมกับฐานะของคุณพ่อไปหน่อยนะ
ซือลั่วหวาส่ายหัวน้อยๆ พร้อมกล่าวออกมา “นายตามใจเจ้าหมีน้อยเกินไปแล้วจริงๆ นายทำแบบนี้จะทำให้เธอเอาแต่ใจได้นะ”
ฉินสือโอวถูจมูกหัวเราะแห้งๆ แล้วตอบกลับไป “ที่จริง ไข่มุกดำพวกนี้เป็นของที่ผมบังเอิญหามาได้จากในทะเลน่ะครับ เพราะอย่างนั้นเลยไม่ได้ใช้เงินมากมายอะไร ฮ่าๆ แต่เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะครับ? ตามใจหมีน้อย? ครั้งนี้ผมไม่ได้พาฉงต้ามาด้วยนะครับ”
ซือลั่วหวาหัวเราะฮ่าๆ พลางพูดกับเขา “ไม่ใช่ ฉิน หมีน้อยที่ฉันพูดถึงไม่ใช่หมีสีน้ำตาลที่นายเลี้ยง แต่หมายถึงวินนี่ต่างหาก เธอไม่เคยเล่าที่มาของชื่อนี้ให้นายฟังหรอกเหรอ?”
“อย่าพูดนะคะ!” วินนี่เลิกทำท่าทางโอ้อวดแล้วรีบเข้ามาขวางไว้ทันที เธออยากจะเข้ามาปิดปากคุณปู่ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอมีไข่มุกอยู่เต็มตัวจึงเดินได้ไม่เร็วนัก
ฉินสือโอวแสดงท่าทางสนใจใคร่รู้ออกมา ซือลั่วหวายกยิ้มแล้วพูดขึ้น “Winnie the Pooh (หมีน้อยวินนี่) ชื่อนี้เป็นชื่อย่อของวินนิเพ็ก วินนิเพ็กมีเด็กผู้หญิงที่ชื่อวินนี่อยู่เยอะมาก รวมถึงหมีน้อยของครอบครัวเราด้วย”
คำแปลของชื่อ Winnie ก็คือวีนนี่หรือวินนี่ นี่เป็นชื่อสำหรับผู้หญิง ทว่าเจ้าของชื่อคือหมีตัวผู้ตัวหนึ่ง ดังนั้นที่จีนจึงแปลชื่อนี้ว่าเวยหนี เพื่อให้ดูมีความเป็นผู้ชายมากที่สุด
ฉินสือโอวไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ มาริโอ้จึงเล่าให้เขาฟังว่าการ์ตูนคลาสสิคเรื่องวินนี่เดอะพูห์ถูกสร้างขึ้นในปี 1921 ในตอนนั้นมิลน์ นักวาดชาวอังกฤษทำของขวัญวันเกิดให้กับคริสโตเฟอร์ลูกชายวัยหนึ่งขวบของเขา มันเป็นหมีสีน้ำตาลขนสีเหลืองที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา
ถึงแม้จะมีชื่อว่าหมีสีน้ำตาล แต่แท้จริงแล้วสีขนของหมีชนิดนี้มีสีสันหลากหลาย มีสีดำ สีน้ำตาล และก็มีบางชนิดที่เป็นสีทอง ตอนนี้ขนบนร่างกายของฉงต้าก็อยู่ระหว่างสีน้ำตาลกับสีทองเหมือนกัน
ในตอนนั้นลูกชายของมิลน์ถามชื่อของลูกหมีจากเขา นักวาดชาวแคนาดาที่อพยพมาอยู่ลอนดอนท่านนี้นึกถึงเมืองวินนิเพ็กบ้านเกิดของตัวเอง เขามีความคิดที่ชาญฉลาดจึงบอกกับลูกตัวเองว่า มันชื่อวินนี่
หลังจากนั้น มิลน์ก็เขียนนิทานให้วินนี่เดอะพูห์ไปหลายตอน ปรากฏว่ามันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากจุดนี้ลูกหมีที่มาจากแคนาดาจึงได้ก้าวไปสู่ระดับโลก
“ที่พวกเราตั้งชื่อนี้ให้กับวินนี่ไม่ใช่เพราะตั้งตามคำว่าลม แต่เป็นเพราะตอนเป็นเด็กวินนี่ดูเหมือนกับลูกหมีซื่อบื้อตัวเล็กๆ จริงๆ เธอชอบกินของหวาน ตัวอ้วนจ้ำม่ำ แถมยังขี้หงุดหงิดอีกต่างหาก ฮ่าๆ” มาริโอ้พูดขึ้นในตอนท้าย ขณะที่กำลังพูดก็ปรากฏสีหน้าของความสุขออกมา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังคิดถึงความทรงจำดีๆ ในตอนที่วินนี่ยังเป็นเด็ก
วินนี่จ้องมองพ่อด้วยความไม่พอใจ เธอยกหมัดขึ้นแล้วตะโกนออกมา “อย่ามาทำลายภาพลักษณ์ของหนูนะ หนูไม่ได้ซื่อบื้อ! แล้วก็ไม่ได้ขี้หงุดหงิดด้วย!”
มาริโอ้ยิ้มพร้อมพยักหน้า เขาพูดขึ้นมา “เอาล่ะๆ เมื่อกี้พ่อแค่พูดไปเรื่อย ใช่แล้วล่ะฉิน นายรู้จักที่มาของชื่อฟอกส์ไหม?”
ฉินสือโอวตอบออกไปด้วยจิตใต้สำนึกว่า “เป็นเพราะเธอสวยแล้วก็ฉลาดเหมือนจิ้งจอกใช่หรือเปล่าครับ?”
ฟอกส์เป็นชื่อสำหรับผู้หญิงที่ชอบใช้กันในอเมริกา มาจากการทับเสียงคำว่า Fox (สุนัขจิ้งจอก) ในใจของชาวอเมริกัน สุนัขจิ้งจอกไม่ใช่หมาตะกละที่ชอบขโมยกินไก่ และก็ไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอกที่ชอบล่อลวงผู้ชาย แต่เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีความเฉลียวฉลาดและสง่างาม
มาริโอ้ส่ายหัว เขากล่าวว่า “ไม่ใช่ ฮ่าๆ นายโดนหลอกแล้ว เป็นเพราะวินนิเพ็กมีอำเภอหนึ่งที่ชื่อว่าฟอกส์ เมื่อก่อนพวกเราอาศัยอยู่ที่นั่น!”
คนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะออกมา ฉินสือโอวก็หัวเราะออกมาเช่นกัน ว่าที่พ่อตาขี้เล่นเกินไปแล้ว
มิแรนด้ามองดูเครื่องประดับบนร่างกายของวินนี่แล้วถามขึ้นมา “นี่คือของที่ฉินมอบให้ลูกเหรอ?”
วินนี่พยักหน้าด้วยความภาคภูมิใจ “ใช่แล้วค่ะ เขาเก็บรวบรวมไข่มุกสีดำมาจากทะเล หลังจากนั้นก็ไปนิวยอร์กเพื่อให้หัวหน้านักออกแบบร้านแฟล็กชิพสโตร์ของทิฟฟานี่แอนด์โคเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง สวยไม่ซ้ำกับคนอื่นบนโลกนี้แน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นนี่น่าจะเป็นของขวัญที่ฉินใช้ขอหมั้นหนูหรือเปล่า?” มิแรนด้าเอ่ยถามพร้อมกับใบหน้าที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ฉินสือโอวพยักหน้าอย่างแรง เขาอยากจะแต่งงานกับวินนี่จริงๆ นี่นา
วินนี่ไม่ได้ตอบคำถามของคุณแม่ในทันที แต่เธอนั่งลงข้างๆ ฉินสือโอวอย่างสง่างามแล้วจับมือใหญ่ๆ ของเขาไว้ก่อนจะถามเขาออกไป “นี่เป็นของหมั้นจริงๆ หรือเปล่าคะ ที่รัก? ฉันความจำไม่ค่อยดี จำได้ว่าเหมือนจะมีคนพูดว่าของหมั้นเป็นของอย่างอื่น?”
ฉินสือโอวทำได้แค่ยิ้มแหยๆ ตอนนั้นเขาขี้เวอร์เกินไปหน่อย ที่จริงตอนที่วินนี่เห็นเครื่องประดับพวกนี้เธอก็รู้สึกประทับใจมากๆ อยู่แล้ว ถ้าตอนนั้นเขาขอหมั้นก็คงสำเร็จหมื่นเปอร์เซ็นต์ แต่เขาดันบอกเธอว่าต่อไปของหมั้นจะสวยยิ่งกว่าเดิม
ถ้าไม่หาเรื่องใส่ตัวก็คงไม่เดือดร้อนหรอก!
วินนี่เห็นเขายิ้มเจื่อนๆ อย่างจนปัญญาก็ใช้ฟันขาวกัดริมฝีปากสีแดงสดเบาๆ แล้วโน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูเขาว่า “ฉันรักคุณนะคะ ที่รัก แต่ฉันยังไม่อยากแต่งงานเร็วขนาดนั้น ถ้าเรามีลูกด้วยกันหนึ่งคน พอถึงตอนที่เขาเดินได้แล้ว ฉันก็จะตกลงแต่งงานกับคุณ ดีไหมคะ?”
ฉินสือโอวไม่เข้าใจวิธีคิดของวินนี่จริงๆ ผู้หญิงคนอื่นล้วนต้องแต่งงานก่อนถึงจะมีลูก ไม่อย่างนั้นถ้าผู้ชายเล่นด้วยจนเบื่อแล้วหนีไปจะทำยังไงล่ะ? ทว่าวินนี่มีความมั่นใจมาก เธออยากมีลูกด้วยกันก่อนแล้วค่อยแต่งงาน เธอไม่เชื่อว่าฉินสือโอวจะหนีไปไหนได้
ฉินสือโอวรู้สึกไม่สบอารมณ์จึงใช้น้ำเสียงเหมือนกำลังพูดเล่นพูดเรื่องนี้ แต่วินนี่กลับตอบเขาอย่างจริงจังว่า “คุณคือสามีที่ฉันเลือก ไม่ว่าหลังจากนี้จะต้องพบกับอะไร ฉันก็จะอยู่กับคุณจนถึงท้ายที่สุด นอกเสียจากว่าคุณอยากจะทิ้งฉันไปจริงๆ ”
เห็นท่าทางจริงจังของวินนี่ ในใจของฉินสือโอวก็รู้สึกซาบซึ้ง เขาดึงวินนี่เข้ามากอดแล้วพูดกับเธอ “จะเป็นไปได้ยังไง วินนี่ ผมอาจจะยอมทิ้งได้ทุกอย่างรวมถึงฟาร์มปลาต้าฉินด้วย แต่ผมไม่มีวันทิ้งคุณแน่นอน!”
เขาก็ตอบเธอกลับไปอย่างจริงจังเช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคลอเคลียกันอยู่ มิแรนด้ากับมาริโอ้ที่ไปซื้ออาหารมาไว้ก่อนแล้วก็พากันเข้าครัวไปทำอาหาร
เมื่อถึงเวลาทานอาหาร ในที่สุดวินนี่ก็เอาเครื่องประดับล้ำค่าชุดนี้ไปเปลี่ยน ฉินสือโอวผ่อนลมหายใจออกมาหนึ่งครั้ง พอวินนี่เห็นเธอก็ถามเขาอย่างไม่พอใจ “คุณหมายความว่ายังไงคะ? ฉันใส่เครื่องประดับไม่สวย หรือคุณกลัวว่าฉันจะทำมันเปื้อนเวลาทานอาหาร”
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆ แล้วตอบเธอกลับไป “พูดตามตรงนะครับ ผมกลัวว่าคุณจะไม่ได้ทานอาหารอย่างมีความสุข!”
วินนี่สะบัดผมสีดำอย่างเอาแต่ใจ เธอหันไปพูดกับเขา “ฉันแค่ไม่อยากจะไปกระตุ้นฟอกส์ นางปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นต่างหาก! ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่าฉันเคยเป็นครูสอนมารยาทของแอร์โฮสเตสสายการบินแอร์แคนาดามาก่อน ดังนั้นต่อให้ใส่หมวกเหล็กกับเสื้อเกาะฉันก็ทานอาหารได้อย่างสง่างามและเป็นธรรมชาติ!”
“คุณเก่งจริงๆ แต่นี่คืองานเลี้ยงอาหารค่ำที่ไหนกัน นี่มันมื้อค่ำในครอบครัวของคุณเองนะ!” ฉินสือโอวหมดคำจะกล่าว
บทที่ 617 มวลคลื่นปลาแมคเคอเรล
โดย
Ink Stone_Fantasy
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมครั้งนี้ฉินสือโอวถึงเกลี้ยกล่อมให้วินนี่ยอมกลับบ้านได้ง่ายดายขนาดนี้ ที่แท้หนูน้อยนี่ก็ตั้งใจกลับบ้านมาอวดชุดเครื่องประดับเทพีแห่งรัตติกาลของเธอนั่นเอง
ตอนที่ฉินสือโอวพูดเรื่องนี้ออกไป วินนี่ก็ยอมรับอย่างง่ายดาย “กลับบ้านทั้งทีก็ต้องเอาของดีมาโชว์หน่อยสิ! คุณให้เครื่องประดับสวยขนาดนี้ ฉันก็ต้องโชว์ให้ฟอกส์เห็นอยู่แล้ว เธอจะได้รู้ว่าตอนนี้น้องสาวอ้วนๆ ของเธอมีความสุขแค่ไหน”
“ตอนเป็นเด็กคุณอ้วนมากเลยเหรอครับ?” ฉินสือโอวถามด้วยความประหลาดใจ
วินนี่ตีหลังของเขาอย่างไม่พอใจ เธอเม้มปากแล้วไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก ดูท่าว่านี้คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วินนี่รู้สึกเจ็บปวดจริงๆ
พวกเขาค้างที่บ้านแค่คืนเดียวเท่านั้น ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์พวกเขาทั้งสองคนก็นั่งเครื่องบินกลับไปที่นครเซนต์จอห์น
ทว่าผลลัพธ์ของค่ำคืนนี้ก็ไม่เลวเลย หลังจากวินนี่ได้โม้เรื่องเครื่องประดับเทพีแห่งรัตติกาล ในที่สุดเธอก็ไม่ได้ทำตัวเกเรขนาดนั้นแล้ว โดยรวมแล้วก็แสดงออกอย่างปกติ แถมยังพูดเล่นกับฟอกส์อีกต่างหาก
สำหรับผลลัพธ์แบบนี้ มาริโอ้กับมิแรนด้าก็แสดงออกว่าพวกเขารู้สึกพึงพอใจมากๆ เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกสาวพวกเขาก็รู้สึกห่วงใยจริงๆ
พอกลับมาถึงฟาร์มปลา ในตอนกลางคืนฉินสือโอวก็ส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปในมหาสมุทรเหมือนที่ทำเป็นประจำ
ครั้งนี้เขาไม่ได้ว่ายน้ำลาดตระเวนอยู่ในฟาร์มปลา ดูจากข้อมูลที่ส่งมาจากเรดาห์ก็ไม่พบการบุกรุกจากเรือขโมยปลาแต่อย่างใด เขาจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาและตรงไปยังเขตทะเลลึกได้เลย
พื้นที่บริเวณชายขอบของฟาร์มปลาต้าฉินมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินฝูงใหญ่อาศัยอยู่ ทว่าพวกมันก็ไม่ได้มีอยู่แค่ฝูงเดียว ปลาทูน่าที่ว่ายน้ำมาจากญี่ปุ่นไม่ได้เข้าร่วมกับฝูงปลาที่อยู่ที่นี่มาก่อน แต่กลับสร้างฝูงของตัวเองขึ้นมาใหม่
ฉินสือโอวมองออกว่าปลาที่ถูกเพาะเลี้ยงพวกนี้ถูกกีดกันจากปลาที่เกิดตามธรรมชาติ เนื่องจากพวกปลาธรรมชาติจากฟาร์มของเกาะโอชิมะก็เข้าไปรวมกับฝูงปลาที่อยู่มาก่อน ปลาทูน่าฝูงใหม่จึงล้วนเป็นปลาที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงทั้งนั้น
เมื่อเทียบกับปลาตามธรรมชาติ ปลาเลี้ยงพวกนี้จะโง่เง่าและเซ่อซ่ากว่าเล็กน้อย พวกมันค่อนข้างกลัวที่จะเข้าไปวุ่นวายกับโลกใต้ทะเล ไม่มีพลังความกล้าที่จะบุกไปข้างหน้าอย่างองอาจเหมือนปลาทูน่าตามธรรมชาติ นอกจากนี้ระดับความเร็วในการว่ายน้ำของพวกมันก็ยังช้ากว่ามาก ลักษณะก็ไม่สวยงามเท่าปลาทูน่าตามธรรมชาติ
แต่ฉินสือโอวก็ให้ความสำคัญกับพวกมันอย่างเท่าเทียมกัน หลังจากได้พบกัน เขาก็ถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้กับพวกมัน เพราะต่อจากนี้ไปปลาพวกนี้จะเป็นไพ่ตายของฟาร์มปลาต้าฉิน
แต่มันก็น่าแปลกใจอยู่นิดหน่อยที่บรรดาปลาทูน่าไม่ได้แสดงออกถึงความอาลัยอาวรณ์และความปรารถนาต่อพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเหมือนเมื่อก่อน หลังจากพวกมันสัมผัสได้ถึงจิตสำนึกแห่งโพไซดอน ก็ยังพากันว่ายน้ำไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่
ฉินสือโอวรู้ได้ทันทีว่าในน่านน้ำข้างหน้าคงจะมีเหยื่อคุณภาพดีที่ดึงดูดพวกมันเป็นแน่
ใช่อย่างนั้นจริงๆ จิตสำนึกแห่งโพไซดอนติดตามฝูงปลาไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว แค่ครู่เดียวมวลคลื่นของฝูงปลาทะเลสีน้ำเงินดำก็ปรากฏขึ้นสู่กรอบสายตาของเขา
ปลาชนิดนี้มีลักษณะลำตัวเรียวยาวคล้ายทรงกระสวย บริเวณส่วนหัวถึงส่วนหลังเป็นสีน้ำเงินดำ ด้านข้างลำตัวมีจุดกลมๆ สีน้ำเงินดำอยู่หลายแถว บริเวณท้องปรากฏเป็นสีขาว ส่วนครีบหลังกับครีบส่วนทวารก็มีหนามแหลม ร่างกายมีความเรียบลื่นและโค้งเว้า พวกมันดูสวยงามทั้งยังดูกระปรี้กระเปร่าทรงพลัง
“ปลาแมคเคอเรล!” แค่ครู่เดียวฉินสือโอวก็รู้พันธุ์ของปลาพวกนี้ได้ จิตใจของเขาก็สั่นไหวขึ้นมาทันที
ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของธรรมชาติ ปลาแต่ละพันธุ์จะมีสีสันและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ หรือมีสีสันที่สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม นี่คือผลลัพธ์ของการคัดสรรโดยธรรมชาติ เพราะปลาต้องซ่อนตัวอยู่ในน้ำเพื่อป้องกันตัวเองหรือทำให้ศัตรูสับสนและเพื่อง่ายต่อการซุ่มโจมตีเหยื่อ
ถ้ามองจากจุดนี้ ปลาแมคเคอเรลก็ถือว่าสามารถวิวัฒนาการได้อย่างประสบความสำเร็จ ส่วนหลังของพวกมันเป็นสีเข้ม ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสีน้ำเงินดำ สีกรมหรือไม่ก็สีเขียวอมน้ำเงินเข้ม ส่วนบริเวณท้องจะเป็นสีอ่อน อย่างสีเงินขาว สีขาวหรือสีขาวปนเหลือง สีประเภทนี้เรียกว่าการกำจัดสีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับไบโอนิกส์
สีแบบนี้ช่วยปกป้องปลาแมคเคอเรลได้ทุกด้าน เนื่องจากพวกมันเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในผืนน้ำชั้นบน ด้านบนคือท้องฟ้าที่เป็นสีขาว ส่วนบริเวณรอบๆ ก็เป็นน้ำทะเลสีฟ้าคราม
ดังนั้นเมื่อมองจากด้านบนลงมาด้านล่าง บริเวณส่วนหลังของปลาจะกลมกลืนไปกับสีของน้ำทะเลใต้แสงธรรมชาติ ถึงจะมีปลานักล่าขนาดใหญ่ที่มีสายตาไม่ดีอยู่ห่างออกไปไม่มากก็ยังยากที่จะแยกออกได้ ถ้ามองดูลำตัวของปลาจากด้านล่างสู่ด้านบน บริเวณท้องของปลาก็จะมีสีคล้ายคลึงกันกับผิวน้ำและท้องฟ้า ทำให้แยกได้ยากยิ่งกว่า
น่าเสียดายที่พวกมันหลอกปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้
แท้จริงแล้วปลาทูน่าเป็นหนึ่งในนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเล และเนื่องจากพวกมันมีความชำนาญในการว่ายน้ำ มีความอดทน มีระดับความเร็วและพลังการพุ่งตัวชั้นยอด ดังนั้นฝูงปลาที่ถูกพวกมันหมายตาไว้จึงน่าสงสารยิ่งกว่าถูกฉลามจับจ้องเสียอีก
มีปลาจำนวนมากที่สามารถหนีรอดจากการล่าของฉลามได้ แต่ปลาที่สามารถหนีรอดจากสายตาของปลาทูน่ากลับมีอยู่น้อยมาก ปลาแมคเคอเรลก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีลักษณะการกินที่หลากหลาย เป็นที่รู้กันดีว่าพวกมันชอบกินปลาซาร์ดีนที่เป็นหนึ่งในปลาวงศ์ปลาแฮร์ริ่ง แต่จากการค้นคว้าของผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงของญี่ปุ่น พวกเขาเชื่อว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินชอบพลังที่ออกมาจากปลาแมคเคอเรลมากกว่า
ที่ประเทศจีน คิดว่าปลาแมคเคอเรลกับปลาอินทรีบั้งเป็นปลาชนิดเดียวกัน ทว่าที่แคนาดา ปลาสองชนิดนี้มีชื่อเรียกแตกต่างกัน ปลาแมคเคอเรลจะถูกแยกออกมาโดยเฉพาะ ปลาอินทรีหมายถึงปลากุเลาสี่หนวด ปลาอินทรีบั้งสีทอง ปลาแมคเคอเรลญี่ปุ่น ปลาอินทรีจุด ปลาเบกาเป็นต้น ส่วนปลาแมคเคอเรลจะเป็นปลาอีกชนิดหนึ่ง
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ปลาแมคเคอเรลมีรสชาติดีกว่าปลาพันธุ์อื่นๆ ในวงศ์ปลาอินทรีอยู่มาก เนื้อปลาเนียนละเอียดขาวสะอาด นุ่มหนึบสดอร่อย อุดมไปด้วยสารอาหาร โดยเฉพาะปลาแมคเคอเรลนิวซีแลนด์ที่ได้รับสมญานามว่าเป็นแร่เงินแห่งมหาสมุทร
เมื่อเทียบกับปลาอินทรีบั้งแล้ว ปลาแมคเคอเรลมีจำนวนน้อยกว่ามาก ราคาก็สูงยิ่งกว่า ถึงจะเทียบกับปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้ แต่ปลาแมคเคอเรลหนึ่งตัวที่มีน้ำหนักห้ากิโลขึ้นไปก็อาจจะขายได้หลายร้อยหลายพันดอลลาร์เลยทีเดียว
น่าเสียดายที่เป็นไปได้ยากมากที่ปลาแมคเคอเรลจะสามารถเติบโตจนมีขนาดใหญ่ถึงขนาดนั้น โดยทั่วไปพอโตได้ถึงประมาณครึ่งเมตรหรือมีน้ำหนักสองสามกิโลมันก็จะตายหมดแล้ว
เนื่องจากการแบ่งชนิดพันธุ์ที่ไม่ชัดเจน การคุ้มครองปลาชนิดนี้ของอเมริกาและแคนาดาจึงเป็นงานที่ทำได้ยาก พวกชาวประมงที่เห็นช่องโหว่พวกนี้ก็พากันไล่จับพวกมันอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้ปลาแมคเคอเรลพันธุ์แท้ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
และอาจจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วย ที่ทำให้หลายๆ คนเรียกปลาแมคเคอเรลกับปลาอินทรีบั้งรวมกัน
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝูงปลาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของฉินสือโอวในตอนนี้ก็คือปลาแมคเคอเรลนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นฝูงปลาแมคเคอเรลที่มีลำตัวขนาดใหญ่อีกต่างหาก
ปลาแมคเคอเรลก็เหมือนกันกับปลาอื่นๆ อีกหลายชนิด พวกมันล้วนมีความคุ้นเคยกับการอพยพในฤดูร้อนทั้งสิ้น พวกมันไม่ได้อพยพจากมหาสมุทรไปสู่แม่น้ำ จากน้ำเค็มไปสู่น้ำจืด แต่จะว่ายน้ำเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่จากมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ไปสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
พอได้เห็นปลาพวกนี้ ฉินสือโอวก็ไม่สงวนท่าทีอีกแล้ว เขาไล่ปลาทูน่าตะกละพวกนั้นออกไปแล้วเข้าควบคุมปลาตัวใหญ่ฝูงนั้นก่อนออกคำสั่งให้พวกมันเปลี่ยนเส้นทางอย่างเฉียบขาด เขาสั่งให้พวกมันเปลี่ยนทิศทางจากทิศเหนือมาสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะเข้าสู่ขอบเขตของฟาร์มปลาต้าฉินแล้ว
ความล้ำค่าของปลาแมคเคอเรลก็เกี่ยวข้องกับการที่ไม่สามารถเพาะเลี้ยงมันได้เช่นกัน ตอนนี้แม้กระทั่งปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็ยังสามารถเพาะเลี้ยงได้แล้ว มีแต่ปลาชนิดนี้ที่มนุษย์ไม่สามารถเพาะเลี้ยงมันได้และทำได้แค่ไปจับมาจากทะเลเท่านั้น
เขาพาฝูงปลาเข้ามาสู่เขตทะเลน้ำตื้นที่เป็นที่อยู่อาศัยของฝูงปลา ที่นี่มีนักล่าขนาดใหญ่อยู่ค่อนข้างน้อย ถึงแม้ว่าปลาค็อดจะสามารถเติบโตได้ถึง 1-2 เมตร แต่พวกมันก็ไม่ได้รู้สึกสนใจปลาแมคเคอเรล เนื่องจากปลาแมคเคอเรลมีนิสัยค่อนข้างดุร้าย ไม่ง่ายดายเท่าการล่าปลาแฮร์ริ่งกับปลาซาบะ
หลังจากรวบรวมปลาแมคเคอเรลมหาสมุทรแอตแลนติกฝูงนี้ได้แล้ว งานของฉินสือโอวในค่ำคืนนี้ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
เขาจัดหาแหล่งหาอาหารให้ฝูงปลาเสร็จแล้ว และให้พวกมันจับปลากับกุ้งตัวเล็กๆ ในฟาร์มปลากินไปก่อน ส่วนตัวเขาก็เริ่มหลับตานอน พรุ่งนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า
บทที่ 618 เรือกำปั่นทะเล
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฉินสือโอวนัดกับแฮงค์ไว้ว่าวันจันทร์นี้จะตัดสินใจว่าที่ฟาร์มปลาจะซื้อเครื่องบินน้ำหรือเรือยนต์ความเร็วสูง
ไม่ต้องสงสัยเลย แฮงค์หวังไว้ว่าฉินสือโอวจะเลือกซื้อเรือยนต์ความเร็วสูง เนื่องจากอุตสาหกรรมหนักทางทะเลนครเซนต์จอห์นบอสตันสามารถต่อเรือได้ แต่พวกเขาต่อเครื่องบินไม่ได้ เครื่องบินน้ำยังไม่หลุดจากหมวดหมู่เครื่องบิน มันจึงยังคงเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบินอยู่
แต่สำหรับเรือแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือประมง ต่างก็มีปัญหาที่แก้ได้ยากอยู่ข้อเดียวเท่านั้น นั่นก็คือมีระดับความเร็วที่ช้าจนเกินไป
ฉินสือโอวไม่อยากเจอกับโจรขโมยปลาแล้วทำได้แค่ลอยลำเรือออกไปอย่างช้าๆ เขาต้องขับไปตั้งครึ่งค่อนวันกว่าจะหาเรือขโมยปลาลำนั้นเจอ
ใช่แล้ว ถ้าหากเรือพวกนั้นแค่อยากมาขโมยจับปลา ไม่ได้ทิ้งอวนไว้สักวันสองวันก็คงจับอะไรไม่ได้มาก
แต่จากชื่อเสียงเรื่องการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ดีเยี่ยมของฟาร์มปลาต้าฉินที่แพร่สะพัดออกไป เรือขโมยปลาพวกนั้นยังจำเป็นต้องรออยู่บนทะเลถึงวันสองวันตามปกติอยู่อีกเหรอ? พวกมันแค่ต้องรีบทิ้งอวน จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็หนีไปได้แล้ว
แผนเดิมที่ฉินสือโอวเคยวางไว้ก็คือการติดตั้งเรือยนต์ความเร็วสูงสี่ลำ หลังจากนั้นก็หาตำแหน่งจากสี่ทิศของฟาร์มปลาให้กับพวกมัน พอถึงตอนนั้นก็ใช้เรดาห์กำหนดตำแหน่ง เมื่อพบเรือขโมยปลาจากทิศทางไหนก็จะสามารถส่งเรือยนต์ความเร็วสูงจากทิศทางนั้นไปลงมือได้โดยตรง
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเรือก็ไม่มากพออยู่ดี
หลังจากแฮงค์ได้ยินการซักถามของฉินสือโอว เขาก็รู้แล้วว่าตัวเองคงทำเงินก้อนนี้ได้ไม่ง่ายแล้ว แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพนักงานส่งเสริมการขายที่เก่งกาจ เขาจึงเปลี่ยนรูปแบบการแนะนำการขายทันที “มิสเตอร์ฉินครับ คุณต้องรู้ไว้ก่อนว่ายิ่งมืดเท่าไร ก็ยิ่งเป็นเวลาที่อากาศเลวร้ายมากเท่านั้น เรือขโมยปลาก็จะยิ่งกำเริบเสิบสานไปด้วย ใช่ไหมล่ะครับ?”
ฉินสือโอวพยักหน้ารับ แฮงค์เริ่มพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นก็มีเรื่องที่คุณจะต้องระวังอยู่นิดหน่อย เครื่องบินน้ำไม่สามารถออกเดินทางในเวลากลางคืนได้ และยังไม่สามารถบินลงบนผิวน้ำในสภาพอากาศที่เลวร้ายได้ด้วย ถ้าอย่างนั้นผมขอถามคุณหน่อยว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คุณจะจัดการยังไงครับ?”
“แต่ระดับความเร็วของเรือสปีดโบ๊ทมันช้าเกินไป ความเร็วเจ็ดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาตั้งห้าชั่วโมงถึงจะแล่นได้ถึงสามร้อยห้าสิบกิโลเมตร แต่เครื่องบินน้ำใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงก็จัดการได้แล้ว!”
“พวกเราไม่มีวิธีที่จะปรับแก้ระดับความเร็ว แต่พวกเราสามารถปรับปรุงองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องให้คุณได้ คุณสามารถใช้ปืนใหญ่ตัวหลักของคุณ อีกทั้งพวกเรายังจะติดตั้งปืนใหญ่ตัวรองให้คุณได้อีกสี่ตัว การยิงของปืนใหญ่ตัวสำรองก็จะมีรัศมีไกลถึง 120 เมตร”
“นอกจากนี้ ถ้าหากว่าคุณติดตั้งเครื่องยิงวิทยุเทอร์โบเจ็ทให้เป็นแค่ปืนใหญ่น้ำ ก็คงค่อนข้างสิ้นเปลืองไปหน่อย พวกเราสามารถปรับแต่งเรือของคุณให้กลายเป็นเรือสำราญที่มีการตกแต่งอย่างหรูหราได้ ดังนั้นในเวลาปกติก็จะสามารถขับเรือออกไปตกปลากับโต้คลื่นได้ด้วย นี่คือข้อได้เปรียบที่เครื่องบินน้ำเทียบกันไม่ติดเลยนะครับ”
แฮงค์กล่าวอธิบายทีละข้อๆ เขาแนะนำการขายให้กับเรือสปีดโบ๊ทของบริษัทตัวเองด้วยความรวดเร็ว พอฉินสือโอวฟังมาถึงตอนท้ายก็คิดที่จะเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้วจริงๆ
เครื่องบินน้ำมีปัญหาแบบนั้นอยู่จริง มันไม่สามารถลงจอดบนผิวน้ำในตอนกลางคืนได้ ในสภาพอากาศที่เลวร้ายก็ไม่สามารถขึ้นบินจากบนผิวน้ำได้เช่นกัน
“ผมขอลองดูเรือสปีดโบ๊ทของพวกคุณหน่อย” ในที่สุดฉินสือโอวก็ตัดสินใจซื้อเรือสปีดโบ๊ท ยังไงเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินอยู่แล้ว
ถ้าจะซื้อเครื่องบินน้ำ ซื้อแค่ลำเดียวก็พอแล้ว แต่ถ้าจะซื้อเรือสปีดโบ๊ท นั่นจำเป็นต้องซื้อมาประจำการไว้บนผืนน้ำของฟาร์มปลาถึงสี่ลำ ทว่าแบบนี้ก็เท่ไม่หยอกเหมือนกัน วางเรือรบและกำลังทหารไว้ทั้งสี่ด้านของฟาร์มปลา แบบนั้นมันดูแข็งแกร่งและทรงพลานุภาพสุดๆ ไปเลย
แฮงค์เอาเรือยนต์ความเร็วสูงรุ่นใหม่ที่ชื่อว่าเรือสปีดโบ๊ท ‘พีกาซัส’ ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของอุตสาหกรรมหนักทางทะเลบอสตันให้ฉินสือโอวดู
แรงขับของเรือประเภทนี้ได้รับการควบคุมเต็มรูปแบบจากเครื่องกังหันไฮโดรฟอยล์ทวินออตโตกับปั๊มเจ็ท ตัวเรือเป็นแบบรวมโมเดล ส่วนหัวเรือเป็นทรงเรียวแหลมรูปตัว V ซึ่งจะช่วยในการระบายน้ำเพื่อการเดินเรือที่ดี
บริเวณท้ายเรือเป็นหางสี่เหลี่ยมสั้นๆ เมื่อรวมกับกราบเรือที่เรียวแหลมก็จะช่วยลดแรงต้านทานความเร็วสูงขณะที่กำลังเปลี่ยนเป็นการเดินเรือโดยใช้ปีกใต้น้ำให้เหลือน้อยที่สุด
นอกจากนี้แฮงค์ก็ไม่ได้คุยโว นี่เป็นเรือสปีดโบ๊ทประเภทหนึ่งที่มีความหรูหรามาก ตัวเรือของเรือสปีดโบ๊ทพีกาซัสมีความยาวทั้งหมด 24 เมตร กว้าง 8.5 เมตร กินระดับความลึกของน้ำ 3.2 เมตร ปริมาตรการระบายน้ำอยู่ที่ 280 ตัน ทั้งหมดแบ่งห้องกั้นน้ำออกเป็น 5 ห้อง ในบริเวณท้ายเรือมีห้องเคบินอยู่สามห้อง ห้องพักสำหรับลูกเรือ ห้องรับประทานอาหารและห้องสำหรับการดำเนินงานอื่นๆ
ส่วนห้องเคบินอีกสองห้องก็แบ่งเป็นห้องเชื้อเพลิงกับห้องขับเรือตรงบริเวณหัวเรือ น้ำจืดสำรองถูกเก็บไว้ใต้ห้องเคบินสองชั้น ดังนั้นมันจึงสามารถลดจุดศูนย์ถ่วงของเรือเพื่อรักษาความมั่งคงของเรือท่ามกลางคลื่นลมได้อย่างง่ายดาย
ปืนใหญ่ตัวหลักถูกติดตั้งไว้ที่บริเวณด้านหน้าของดาดฟ้าเรือ ขอเพียงเล็งไปที่เป้าหมายก็จะสามารถควบคุมทุกสิ่งได้จากในห้องขับเรือ ส่วนปืนใหญ่สำรองอีกสี่อันถูกติดตั้งแยกกันไว้ที่ส่วนหน้าและหลังกับส่วนซ้ายและส่วนขวา รับประกันได้ว่าสามารถเริ่มการโจมตีได้ไม่ว่าเรือจะอยู่มุมไหนก็ตาม
อัตราการไหลของปืนใหญ่ตัวหลักอยู่ที่ 3200 ลูกบาศก์เมตรต่อหนึ่งชั่วโมง ทุกนาทีสามารถปล่อยน้ำทะเลออกไปได้มากกว่า 50 ลูกบาศก์เมตร อัตราการไหลของปืนใหญ่ตัวสำรองอยู่ที่ 600 ลูกบาศก์เมตร ทุกๆ นาทีจะสามารถปล่อยน้ำได้ 10 ลูกบาศก์เมตร มันรับน้ำจากมหาสมุทรโดยตรงจึงลดปริมาตรการบรรทุกน้ำหนักของเรือได้อย่างมหาศาล
หลังจากให้ฉินสือโอวดูเรือสปีดโบ๊ทพีกาซัสไปแล้ว แฮงค์ก็แนะนำเรือรุ่นอื่นๆ ให้เขาฟังเพิ่มเติม รวมถึงเรือบางลำที่โรงงานของพวกเขาไม่สามารถผลิตเองได้ ทำได้แค่เป็นผู้ค้าคนกลางแล้วสั่งทำจากโรงงานขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองบอสตันประเทศสหรัฐอเมริกา
ในที่สุดฉินสือโอวก็ตัดสินใจเลือกเรือสปีดโบ๊ทพีกาซัส มันเป็นเรือที่มีระดับความเร็วสูงที่สุดแล้ว แถมยังใช้พลังงานแบบไฮบริดที่ใช้ในเรือรบ ภายใต้สภาวะที่บรรทุกปืนใหญ่ฉีดน้ำแค่ไม่กี่อัน ระดับความเร็วของมันสามารถพุ่งสูงถึงสี่สิบห้านอตได้เลยทีเดียว
ซื้อเรือสี่ลำในครั้งเดียวกันจะได้รับส่วนลด ราคาอยู่ที่สามล้านแปดแสนดอลลาร์ ฉินสือโอวกดปากกาวางเงินมัดจำ เพื่อสั่งซื้อเรือยนต์ความเร็วสูงพีกาซัสจำนวนสี่ลำ เขาตั้งชื่อให้พวกมันว่า ‘เรือกำปั่นทะเลตะวันออก’ ‘เรือกำปั่นทะเลตะวันตก’ ‘เรือกำปั่นทะเลใต้’ และ ‘เรือกำปั่นทะเลเหนือ’
พอรู้เรื่องแผนการครั้งใหญ่ของฉินสือโอว พวกชาวประมงก็ได้แต่ตกใจจนพูดไม่ออกอยู่เงียบๆ นี่เขาเป็นเจ้าของฟาร์มปลาหรือเป็นกษัตริย์ของประเทศขนาดเล็กกันแน่
หลังจากแฮงค์ได้รับเช็คเงินสดมาแล้ว เขาก็โทรศัพท์ไปหาโรงงานทันที จากนั้นเรือขนส่งลำหนึ่งก็ขับออกมาลากรถดับเพลิงจำนวนสี่คันออกไปเพื่อเตรียมตัวเริ่มการก่อสร้าง
ฉินสือโอวถามเขา “ผมจะได้เห็นเรือของผมเร็วที่สุดตอนไหน?”
แฮงค์บอกกับเขาว่า “ถ้าจะดูแค่เรือลำแรก จะใช้เวลามากที่สุดหนึ่งสัปดาห์ พวกเรามีเรือที่สร้างเสร็จแล้ว ตอนนี้ขาดแค่ติดตั้งปืนใหญ่ฉีดน้ำทั้งห้าอันครับ แต่ถ้าคุณต้องการจะดูทั้งหมด ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน เนื่องจากพวกเรามีเรือที่ต่อเสร็จแล้วแค่สองลำ เรืออีกสองลำที่เหลือต้องลงมือตัดและขึ้นรูปโลหะตั้งแต่ตอนนี้”
ฉินสือโอวพยักหน้ารับ ความเร็วเท่านี้ยังถือว่ารับได้อยู่
ในเมื่อฉินสือโอวเสียเงินซื้อเรือยนต์ความเร็วสูงไปเยอะขนาดนี้แล้ว ดังนั้นฉินสือโอวจึงคิดจะซื้อเครื่องบินมาด้วยซะเลย ต่อไปนี้เวลาเดินทางจะได้ประหยัดค่าเช่าเครื่องบิน
ปรากฏว่าพอลองค้นหาดู ฉินสือโอวก็ต้องปิดเว็บไซต์ของมอนทรีออลสกายซิตี้ลงอย่างเงียบๆ แม่แกสิ ราคาโคตรแพงเลย!
เครื่องบินรุ่นที่ดูดีที่สุดคือกัฟสตรีม G650ER ภายใต้ระดับความเร็ว 0.85 มัค เครื่องบินรุ่นนี้มีระยะทางการบินถึง 7500 ไมล์ทะเลหรือใกล้เคียงกับ 14000 กิโลเมตร เพิ่มสูงขึ้นจากโมเดลพื้นฐาน G650 ที่นำมาใช้งานเมื่อสองปีก่อนอยู่เกือบ 1000 กิโลเมตร มันเป็นเครื่องบินพาณิชย์รุ่นเดียวในโลกที่มีระยะทางในการบินถึง 7500 ไมล์ทะเล
ทว่าราคาของเครื่องบินรุ่นนี้ก็แพงเกินไป มันมีราคามากถึงเจ็ดสิบสี่ล้านดอลลาร์แคนาดาเลยทีเดียว!
ไม่ใช่ว่าฉินสือโอวซื้อไม่ไหว หลังจากซื้อเรือไปแล้วเงินทุนในมือของเขาก็ยังเหลืออยู่อีกเก้าสิบกว่าล้าน แต่ถ้าซื้อเครื่องบินลำนี้จริงๆ คงเป็นการใช้เงินทั้งหมดภายในครั้งเดียว
ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรเยอะ ตอนนี้ฉินสือโอวยังซื้อเครื่องบินลำนี้ไม่ได้ เนื่องจากในหนึ่งปีเขาก็นั่งเครื่องบินแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ผลลัพธ์ของมันนอกจากเขาจะต้องเสียเงินหลายร้อยล้านหยวนแล้ว ทุกๆ วันยังต้องเสียเงินหลายแสนมาบำรุงรักษามันด้วย หาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองจริงๆ
แต่นอกจากกัฟสตรีม G650ER ฉินสือโอวก็ไม่ได้สนใจเครื่องบินลำอื่นแล้ว ถ้าไม่ได้มีระดับความเร็วที่ค่อนข้างช้า ก็มีระยะการบินที่สั้นเกินไป ไม่เหมาะกับตัวเลือกของเขา
เศรษฐีบ้านนอกก็เอาแต่ใจแบบนี้แหละ จุดประสงค์ในการซื้อเครื่องบินลำนี้ของฉินสือโอวก็เพราะเขาจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านได้บ่อยๆ นั่นเอง…
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น