ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 584-590

 บทที่ 584 นรกทุนนิยม

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวยืนอยู่บนผาหาเพรียงเจอก็ใช้มีดสอดเข้าไปช้าๆ พอรู้สึกว่าแรงพอจะได้แล้วก็แงะไปด้านหลังอย่างแรงแล้วใช้แรงนี้ในการแงะเพรียงแข็งๆ ลงมา


เหมาเหว่ยหลงนั่งยองอยู่ข้างบนถามอย่างกังวล “เฮ้ย ไอ้ตัวร้าย แกอยู่ข้างล่างเป็นไงบ้าง แบกไหวไหม?”


ฉินสือโอวพูดอย่างอารมณ์เสีย “แกสนใจตัวเองเถอะอย่ามาข้างหน้ามากเกิน ฉันแบกตัวเองไหวแต่ถ้าแกร่วงลงมาฉันก็แบกไม่ไหว”


ระหว่างพูดเขาสอดมีดไปที่ส่วนท้องของเพรียงที่อยู่ด้านข้างแล้วออกแรงอย่างรวดเร็วอาศัยแรงนั้นแงะมันลงมา


เหมาเหว่ยหลงเห็นท่าทางฉินสือโอวคล่องแคล่วก็ยกนิ้วโป้งชื่นชม ‘สมกับเป็นไอ้ตัวร้าย’


ชาวประมงที่แคะเพรียงอยู่รอบๆ ก็ยกนิ้วชมฉินสือโอวด้วย พวกเขารู้ซึ้งถึงความติดแน่นของเจ้าสิ่งนี้ดี ในกระบวนการเติบโตของเพรียงที่ส่วนท้องจะขับยางออกมาเรื่อยๆ พอนานเข้าพวกมันก็รวมเป็นหนึ่งเดียวกับหิน แกะออกได้ยากมาก


ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวยังสามารถใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนช่วยได้ ตอนนี้น้ำทะเลลงแล้ว เขาได้แต่อาศัยความสามารถตัวเองในการแงะเพรียงเลยเสียแรงไปเยอะ


ครั้งเดียวก็แงะมาได้สิบสี่สิบห้าตัว ฉินสือโอวเหนื่อยจนทนไม่ไหวเลยให้เหมาเหว่ยหลงดึงเชือกแล้วออกแรงปีนหินขึ้นไปเอง


เหมาเหว่ยหลงรู้ลักษณะพิเศษในการดำรงชีวิตของเพรียงตีนเต่าเห็นชาวประมงรอบๆ ได้แต่ปีนขึ้นมาจากหน้าผาหินด้วยความเหนื่อยหอบหมดเรี่ยวหมดแรง เขาก็เข้าใจได้ว่าเจ้าสิ่งนี้แงะยากมากแต่ก็ไม่ถอดใจอยากจะลองดู


ฉินสือโอวอยากให้เขาเข้าใจในความน่าระอาของตัวเองเร็วๆ จนแทบรอไม่ไหว รีบส่งเขาลงไปอย่างเบิกบานใจในทันทีจากนั้นหมอบที่ผาหินมองดูความตลกของเหมาเหว่ยหลง


เหมาเหว่ยหลงช่างโง่แท้ ที่ที่เขาลงไปเป็นบริเวณที่ฉินสือโอวจัดการไปเรียบร้อยแล้ว เพรียงตีนเต่าที่แงะง่ายก็ลงไปอยู่ในถุงของฉินสือโอวหมดแล้วเหลือแต่ที่ติดอยู่กับหินเป็นหนึ่งเดียวกัน


กัดฟันแงะไปครู่หนึ่งข้อมือของเหมาเหว่ยหลงก็อ่อนหมดแรงในที่สุดก็แงะเจ้าตัวเล็กๆ ได้ตัวหนึ่ง


ฉินสือโอวมองดูอย่างสนุกสนานเอาโค้กมาจากในรถขวดหนึ่งดูเหมาเหว่ยหลงเสี่ยงชีวิตอยู่ด้านล่างไปดื่มโค้กไปอย่างสบายใจบางครั้งยังตะโกน ‘ดี’ ไปเหมือนดูละคร


สุดท้ายก็ไม่ไหวแล้วจริงๆ เหมาเหว่ยหลงให้ฉินสือโอวดึงเขาขึ้นไปหลังจากขึ้นมาแล้วก็นั่งเป็นอัมพาตอยู่บนพื้นถือเพรียงขนาดประมาณกำปั้นขึ้นมาแล้วพูดอย่างกระหืดกระหอบ “แม่เอ้ย ใครจะไปรู้ว่าอาหารที่อยู่ในจานจะได้มายากลำบากเลือดตาแทบกระเด็น ไอ้สองตัวนี้ทำฉันเกือบตาย”


ฉินสือโอวถือเหล่าเพรียงขนาดเท่าชามของตัวเองออกมาแล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “โธ่เอ้ย เล็กเป็นพุดดิ้งแบบนี้แกยังมีหน้าเอาขึ้นมาอีก? ฉันว่านะโคโกโร่เพื่อนรัก แกไว้ชีวิตเพรียงพวกนี้ได้ไหม? ฉันฆ่าพ่อมันมาแล้ว ต่อมาแกยังแงะลูกหลานมันมาอีก นี่มันบีบคั้นกันนี่”


พอเห็นว่าพวกเขามีเพรียงตัวใหญ่พวกนักท่องเที่ยวก็รีบมาห้อมล้อมอย่างสนใจฉินสือโอวทำเป็นนักท่องเที่ยวแล้วพูด “พวกคุณสามารถลงไปเก็บเองได้นะ พวกเราเก็บมากินกันเองเท่าไรก็ไม่ขายหรอก”


เหล่านักท่องเที่ยวส่ายหัวอย่างจนใจ “ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากลงไปแต่เป็นกฎของคณะทัวร์ ใครลงไปถ้าถูกพบเข้าต้องถูกส่งกลับประเทศทันที!”


แต่พูดเรื่องพวกนี้กับผมก็ไม่มีประโยชน์ ฉินสือโอวยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ รอให้เหมาเหว่ยหลงพักสักหน่อยเขาก็ลงไปอีกรอบเอาเพรียงขึ้นมากองโต ครั้งนี้มียี่สิบกว่าตัว


เกือบจะพอกินแล้วฉินสือโอวก็ไม่รีบร้อนอีกต่อไป ฮิวจ์ก็เอาเพรียงที่พวกเขาเก็บมาอย่างยากลำบากมาให้ฉินสือโอว พวกเขาไม่ได้กะทำเอารวยแค่มาร่วมสนุกและไม่อยากพลาดโอกาสที่พบได้ในรอบไม่กี่สิบปี


ฉินสือโอวออกปากเชิญพวกเขามาเป็นแขกที่ฟาร์มปลาเมื่อมีเวลาแล้วขับรถกลับไปต้มเพรียงกิน


รสชาติของเพรียงสดอร่อยกว่าพวกหอยแมลงภู่หอยตลับมาก หลังจากตั๋วตั่วชิมไปคำหนึ่งก็หยุดไม่ได้แงะเนื้อกินอย่างอารมณ์ดี


เทียบกับหอยนางรมแล้วเพรียงที่อยู่บนหินเหมือนกันก็เนื้อเยอะไม่น้อยน่าเสียดายที่เจ้าสิ่งนี้ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้โดยมนุษย์ไม่อย่างนั้นคงมีอยู่เต็มตลาดอาหารทะเลแล้ว ฉายา ‘ปีศาจอาหารทะเล’ นี้ไม่เสียเปล่าจริงๆ


ฉินสือโอวกินดื่มอิ่มแล้วก็พาหู่จือและเป้าจือไปเดินเล่นตอนบ่ายยังคงไม่มีอะไรทำ เขาเลยไปหลอกคนที่สนามบาสเกตบอลในเมืองกับเหมาเหว่ยหลง


ตอนนี้ฝีมือการเล่นบาสเกตบอลของเขาดังกระฉ่อนเกาะแฟร์เวลเพราะคนที่ไม่เชื่อก็ถูกทำให้เชื่อหมดแล้ว


เดิมทีฉินสือโอวอยากหลอกนักท่องเที่ยวด้วยเดิมพันที่ถูกมากๆ แค่สิบต่อหนึ่งก็คือเขาจ่ายหนึ่งร้อยดอลลาร์แคนาดาพวกนักท่องเที่ยวจ่ายแค่สิบดอลลาร์ก็พอ


เดิมทีมีนักท่องเที่ยวไม่กี่คนสนใจไม่ใช่เพราะเงินรางวัลแต่เป็นเพราะแฟนบาสเกตบอลในประเทศมีอยู่มากโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ล้วนเคยเล่นที่สนามบาสเกตบอล


ผลสุดท้ายฉินสือดโอวเล่นจนเหนื่อยแล้วลูกสุดท้ายของเกมแรกเหมาเหว่ยหลงโยนบอลไม่ลงห่วงกระเด้งออกมาฉินสือโอวย่ำเท้าทั้งสองอย่างแรงพุ่งตัวไปราวกับจรวดใช้มือเดียวรับลูกไว้แล้วโบกแขนขวาอย่างโฉบเฉี่ยวพุ่งชู้ตไปที่แป้น


การกระทำแบบนี้แม้แต่เหล่าดาวเอ็นบีเอก็ยากที่จะทำได้ในการแข่งขันแฟนบาสเกตบอลที่อยู่รอบๆ ส่วนมากล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ครู่เดียวก็ดูระดับที่แท้จริงของฉินสือโอวออกก่อนจะรีบจากไป แบบนี้ยังจะมาพนันบ้าอะไรนี่มันส่งเงินให้เขาเฉยๆ เลยนี่นา


ฉินสือโอวเล่นคนเดียวอย่างเซ็งๆ อยู่ครู่หนึ่งไม่มีอะไรทำก็ได้แต่สแลมดังก์ระบายอารมณ์บูดบึ้งของตัวเอง นี่กลับเป็นการดึงดูดสาวๆ มาห้อมล้อมแล้วเรียกเขาว่า ‘พี่ชาย’ ด้วยเสียงหวานและต้องทิ้งช่องทางติดต่อไว้แน่นอนเพื่อสะดวกต่อการนัดเดตภายหลัง


พวกเธอไม่ได้มองที่ฝีมือการเล่นบาสของฉินสือโอวแต่เป็นหน้าตาหล่อเหลา ร่างที่สูงสง่าและสมรรถภาพที่คล่องแคล่วกระฉับกระเฉง องค์ประกอบเหล่านี้รวมกันแล้วก็คือคู่ขาชั้นยอด


แน่นอนว่าฝีมือการเล่นบอลของฉินสือโอวก็ทำให้พวกเธอประทับใจบนตัวของพวกเธอก็มีลูกบอลเหมือนกันให้ฉินสือโอวเล่นอย่างเชี่ยวชาญก็คงได้ความรู้สึกไม่เลว


ฉินสือโอวได้แต่ปฏิเสธแล้วพาเหมาเหว่ยหลงที่เริงร่ากลับไปเล่นเกมอย่างไม่ชอบใจ


เหมาเหว่ยหลงที่เล่นอยู่กลั้นความรู้สึกลึกๆ ไม่ได้ “ไอ้ตัวร้ายนะไอ้ตัวร้าย แกใช้ชีวิตเละเทะเกินไปแล้ว ฟุ่มเฟือยสุดโต่ง! เมามายลุ่มหลงเงินทอง! เสเพลทุกคืน! ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปวันๆ! แกพูดสิการไล่ตามความฝันของแกล่ะ? อุดมคติของแกล่ะ? สังคมทุนนิยมนี่ร้อนเร่าเกินไปแล้วฉันต้องเอาคนรุ่นใหม่ดีๆ อย่างแกขึ้นมาจากนรกทุนนิยม!”


ฉินสือโอวพูดล้อเล่นกับหมาเหว่ยหลงพลางปรายตาสังเกตหลิวซูเหยียน ในมือของเธอถือหนังสือค่านิยมทางความคิดในวัฒนธรรมแคนาดาที่กำลังอ่านอยู่ท่าทางตั้งใจมาก ดูบุคลิกท่าทางของเธอแล้วเหมือนกับแม่เล้าไนต์คลับตรงไหนกัน? แทบจะบอกว่าเธอเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยคนสวยได้เลย


ฉินสือโอวพยายามจับผิดว่าเธอกำลังแสดงละครผลสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรตอนที่หลิวซูเหยียนอ่านหนังสือดูตั้งใจกว่าเขาเสียอีก


บางทีผู้หญิงคนนี้อาจไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคิดไว้ในตอนแรก? ฉินสือโอวคิดอย่างเงียบๆ ตอนนี้เขาหวังว่าหลิวซูเหยียนจะเป็นเพชรในตมเหมือนที่เหมาเหว่ยหลงพูด


แบบนี้เป็นบทสรุปที่ดีที่สุด เพราะเขามองออกว่าตอนนี้เพื่อนรักของตัวเองมีความรู้สึกต่อเธอจริงๆ


บทที่ 585 รีบแจ้งตำรวจ

โดย

Ink Stone_Fantasy

ในตอนค่ำฉินสือโอวกอดร่างอรชรของวินนี่พลางถามด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด “หวานใจ คุณกับหลิวซูเหยียนคุยกันเยอะ คุณคิดว่าเธอเป็นคนยังไง?”


วินนี่ยื่นมือมาคลายคิ้วที่ขมวดกันของเขาแล้วพูดปลอบ “โอเคแล้วโอเคแล้ว ไม่ต้องกังวล ฉันเข้าใจความหมายของคุณ คุณเป็นห่วงความสุขของโคโกโร่ แต่การพิจารณาคนคนหนึ่งในเวลาไม่กี่วันจะพอได้อย่างไร?”


เธอหยุดแล้วพูดต่อ “ฉันรู้จักโคโกโร่ดีกว่าหลิวซูเหยียน ฉันไม่รู้ว่าหลิวซูเหยียนเป็นคนอย่างไรแต่ฉันเชื่อว่าโคโกโร่ไม่ได้สายตาแย่ เขาฉลาดกว่าคุณมากไม่โดนหลอกง่ายๆ แน่นอน ในเมื่อเขาคิดว่าหลิวซูเหยียนไม่เลว พวกเราก็ควรเชื่อใจเขาไม่ใช่เหรอ?”


ฉินสือโอวหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “คุณมองผิดไปจริงๆ ที่รัก โคโกโร่ฉลาดกว่าผมเหรอ? ผมน่ะไม่ว่าจะเป็นการสอบระดับท้องถิ่นหรือการจีบสาวก็เก่งกว่าเขาทั้งนั้น…”


“จีบสาว”


“คนที่ผมจีบติดคือวินนี่ เซโรวา ดอกไม้แห่งที่ราบแพร์รี่แคนาดาที่เขาจีบไม่ติดแน่ หรือว่านี่ไม่ได้พิสูจน์แล้วว่าผมเจ๋งกว่าเขา?”


“ที่รัก ฉันชอบความหน้าไม่อายแล้วยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ของคุณนี่แหละ คุณจีบฉันติด? แน่ใจเหรอว่าเป็นอย่างนี้? ทำไมฉันรู้สึกว่าเป็นฉันที่จีบคุณติด?”


“เอ่อ ไม่ต่างกันเท่าไรหรอกมั้ง?”


“แน่นอน…”


“ไม่ต้องพูดแล้วที่รัก อืม พวกเรารีบผลิตลูกกันดีกว่า…”


ร่วมรักกับวินนี่ไปยกหนึ่งฉินสือโอวก็กล่อมวินนี่จนหลับ ตอนนี้เขาไม่ง่วงเลยปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนใส่ฟาร์มปลา


ยามเที่ยงคืน ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงเริ่มเคลื่อนไหวน้ำทะเลค่อยๆ ลดลงไปด้านหลังอย่างเงียบๆ ฟาร์มปลาเผยให้เห็นปะการังเกลื่อนพื้นทะเล


ฉินสือโอวตรวจดูฟาร์มปลาของตัวเอง ตอนที่เขาเตรียมจะย้ายจากฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอทไปที่ฟาร์มปลาแกธเธอริงก็สังเกตเห็นเรือสปีดโบ๊ทลำหนึ่งบนผิวน้ำกำลังเข้าใกล้ชายหาดที่ค่อนข้างสงบแถวๆ โรงงานเคมีชุนเทียนด้วยความเร็ว


มีเรือสปีดโบ๊ทปรากฏในเวลานี้ฉินสือโอวต้องระแวงเป็นธรรมดาเพราะสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเมืองเซนต์จอห์นเตือนระดับคลื่นทะเลร้องขอเรือประมงหรือเรือสินค้าพยายามอย่าออกทะเลในช่วงนี้ อย่างนั้นเรือสปีดโบ๊ทลำนั้นมาทำอะไรตอนเที่ยงคืน?


และยิ่งเรือเข้าใกล้ฝั่งความเร็วก็ยิ่งช้าลงภายหลังยังมีคนปิดเครื่องยนต์ติดท้ายที่เสียงดังแล้วอาศัยเครื่องยนต์ในเรือที่แรงไม่เยอะและเสียงไม่ดังในการเคลื่อนไปข้างหน้า


หลังจากเข้าใกล้ชายฝั่งก็มีคนไม่กี่คนลงจากเรือ คนพวกนี้ทำอะไรฉินสือโอวก็ไม่เห็นเขาเห็นเพียงว่าหลังจากที่คนพวกนี้เดินไปแล้วประมาณสิบกว่านาทีก็มีลำแสงไม่กี่ลำส่องออกมาจากห้องสุดท้ายของโรงงานเคมีชุนเทียน


หลังจากนั้นที่โรงงานเคมีชุนเทียนก็สงบลงเรือสปีดโบ๊ทจอดซ่อนอยู่บนชายหาดไม่ขยับฉินสือโอวรอเกือบหนึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นคนด้านในทำได้แค่ออกไปก่อน


หลับไปตื่นหนึ่งฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปอีกรอบกลับพบว่าเรือสปีดโบ๊ทลำนั้นหายไปแล้ว


ไปมาอย่างไร้เงาราวกับเรื่องเมื่อคืนทั้งหมดฉินสือโอวแค่ฝันไปแต่เขารู้ว่านั้นไม่ใช่ฝันเพราะตอนเช้าเขาไปดูที่ชายหาดนั้น บนหาดมีรอยลากของท้องเรืออยู่


ชัดเจนว่าเพราะน้ำลงเมื่อคืนเรือลำนั้นเลยค้างเติ่งอยู่ที่นี่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ใช้คนดันมันเข้าไปในน้ำ


ฉินสือโอวรู้สึกว่าเรือลำนี้ต้องมีอะไรผิดปกติต้องการทำอะไรเขาก็เดาไม่ได้แต่ชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องดีไม่อย่างนั้นทำไมต้องถือโอกาสช่วงน้ำลงตอนเที่ยงคืนมาที่เกาะแฟร์เวลและยังไปที่โรงงานเคมีชุนเทียนด้วย?


เขาคิดแล้วคิดอีกตัดสินใจพาคนไปตรวจดูด้านในโรงงานเคมีไม่ใช่ว่าเขาคิดมากแต่เขามีความคาดเดาที่ค่อนข้างน่ากลัวอย่างหนึ่ง…


จิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่มีต่อฟาร์มปลาในที่สุดก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนก่อนหน้านี้มีคนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตะไคร่น้ำและหญ้าทะเลที่ฟาร์มปลาแต่ฉินสือโอวใช้ข้ออ้างว่าไม่รู้โรงงานเคมีปล่อยเคมีของเสียอะไรลงทะเลมาเบี่ยงเบน


อย่างนั้นอาจจะมีคนจริงจังแล้วตั้งใจมาที่โรงงานเคมีเพื่อตรวจสอบอะไร?


พอคิดถึงด้านนี้ฉินสือโอวก็ให้เบิร์ดและนีลเซ็นพาหู่จือและเป้าจือฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีคนสนใจปีนกำแพงเข้าไปในโรงงานเคมี


โรงงานเคมีรกร้างมากแล้วด้านในมีแต่วัชพืชสูงแค่เข่า ของที่โรงงานเคมีผลิตอาจจะมีปัญหาจริงๆ หญ้าพวกนี้แม้จะงอกงามดีแต่สีกลับเป็นสีเทาอ่อนที่แตกต่างเหมือนสีเถ้ากระดูก…


ฉินสือโอวคิดได้อย่างนี้ก็ตัวสั่นเทาจับปืนเรมิงตันในมือแน่น


“คิดว่าไงครับ?” เบิร์ดถามฉินสือโอว “แยกกันไปสามทางไหม?”


ฉินสือโอวพูด “บุกไปที่โรงงานสุดท้ายก่อน ถ้าไม่เจออะไรพวกเราค่อยแยกกัน”


เมื่อวานเขาสังเกตเห็นลำแสงส่องออกมาจากโรงงานสุดท้าย เขาเชื่อว่าที่นั่นต้องมีปัญหาแน่ๆ


เครื่องยนต์ด้านในโรงงานถูกย้ายไปหมดแล้วเหลือแต่พวกอะไหล่พังๆ และกระดาษห่อที่ขาดพัง ไม่มีคนดูแลรักษามาเป็นเวลาหนึ่งปี แก้วที่ผนังแตกร่วงลงมาหลายชิ้นลมทะเลพัดโชยทำให้คนกลัว


ฉินสือโอวกวาดสายตามองด้านในโรงงานด้านในไม่มีอะไรเขาเลยส่ายหน้าแล้วคิดจะออกไป


เบิร์ดและนีลเซ็นย่อลงดูร่องรอยฝุ่นบนพื้นอย่างละเอียดไม่นานก็มองตากัน เบิร์ดพูด “มีผู้ชายห้าหรือหกคนมาที่นี่เมื่อไม่นานนี้ ในกลุ่มคนพวกนี้มีหนึ่งคนสูงร้อยห้าหรือหกสิบเซนติเมตรใส่รองเท้าปีนผาเบอร์38 ส่วนอีกไม่กี่คนสูงร้อยแปดสิบเซนติเมตรขึ้นไปสวมรองเท้าปีนผารุ่นคาเมลเอชแปดสิบ”


ฉินสือโอวตะลึง “ดูออกหมดเลยหรอ?”


เบิร์ดพยักหน้าแล้วพูดอย่างเรียบๆ “สามารถดูออกได้ชัดเจนมาก ดูความเล็กใหญ่ของรอยเท้าที่ย่ำลงบนฝุ่นหนาประเมินความสูงและน้ำหนักของพวกเขาได้ไม่ต่างไปมากนัก”


นีลเซ็นให้หู่จือและเป้าจือดมที่รอยเท้าพวกนี้เจ้าสองตัวเงยหัวขึ้นมองไปรอบทิศแล้ววิ่งไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของโรงงาน


ฉินสือโอวยกปืนตามไปเดินไปใกล้แล้วถึงพบว่ามีแผ่นไม้วางตั้งอยู่ตรงมุม เอาแผ่นไม้ออกก็มีประตูเล็กๆ ปรากฏออกมา


ประตูเล็กถูกล็อกด้วยโซ่เหล็กเบิร์ดทำสัญญาณมือให้นีลเซ็นคนหลังถือลวดเหล็กโค้งสองเส้นเข้าด้วยกัน ผ่านไปประมาณสิบกว่านาทีก็มีเสียง ‘แกร๊ก’ โซ่ถูกปลดออกแล้ว!


หลังประตูบานนี้คือทางใต้ดินที่มืดมิด หู่จือและเป้าจือน้ำเข้าไปก่อน พวกฉินสือโอวทั้งสามคนตามไปอย่างระมัดระวัง


ถึงสุดทางก็มีประตูอีกบาหนึ่งหู่จือกระโดนดันออก แสงสว่างจ้าและคลื่นความร้อนที่อบอ้าวพ่นออกมาทำให้ดวงตาของทั้งสามคนมืดไปชั่วครู่แสงด้านในช่างรุนแรงเหลือเกิน!


หลังจากปรับตัวเข้ากับแสงแล้วฉินสือโอวก็มองไปด้านในเห็นห้องใต้ดินขนาดใหญ่ประมาณสี่ห้าพันตารางเมตร


ด้านบนของห้องใต้ดินมีหลอดไฟแบบหลอดไส้หลอดทังเสตรนและหลอดไฮโลเจนเปิดช่องระบายอากาศไม่กี่ช่องรอบทิศแต่ช่องระบายอากาศถูกพัดลมดูดอาการปิดหมด แบบนี้สามารถรักษาให้อากาศหมุนเวียนได้และสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้หลอดไฟระเบิดได้ด้วย


อีกอย่างที่พื้นมีกะละมังใหญ่วางเรียงเป็นระเบียบมากมายเป็นพันเป็นหมื่นด้านในปลูกพืชสีเขียวขจีน่าตกใจ…


“นี่คืออะไร?” ฉินสือโอวถามจากจิตใต้สำนึก


เบิร์ดและนีลเซ็นพูดด้วยสีหน้าไม่ดี “บอส พวกเราไปกันกันเถอะ รีบแจ้งตำรวจ!”


บทที่ 586 ปิดโรงงานเคมี

โดย

Ink Stone_Fantasy

พืชเขียวขจีสูงชะลูดที่ปลูกอยู่ในกะละมังสูงกว่าสองเมตรแตกใบเป็นแฉกขอบใบหยักแผ่นใบเป็นรูปหอกยาวสิบกว่าเซนติเมตรเจริญงอกงาม


ฉินสือโอวไม่ค่อยคุ้นเคยกับพืชชนิดนี้แต่ฟังจากการเตือนที่จริงจังของเบิร์ดแล้ว เขานึกถึงพืชชนิดหนึ่งโดยสัญชาตญาณ “อย่าบอกนะว่านี่คือไอ้ต้นกัญชาบ้านั่น!”


เบิร์ดพักหน้าอย่างแน่วแน่ นีลเซ็นพูด “ใช่ครับ นี่คือต้นกัญชาที่ยังไม่โตเต็มที่ บ้าจริง โรงงานกลายเป็นสวนปลูกกัญชาตั้งแต่ตอนไหน? พวกเราไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรสักนิดเลย!”


ฉินสือโอวก็คิดไม่ถึงว่าที่ตัวเองมาตรวจดูอย่างไม่ได้ตั้งใจจะมาพบกับสิ่งนี้ เขาเข้าไปดูใกล้ๆ พืชลึกลับที่ขนส่งมาในประเทศอย่างประหลาดใจมาก


อันที่จริงที่แคนาดาการปลูกกัญชาในที่ร่มกลายเป็นวิธีผลิตกัญชาแบบใหม่ของพ่อค้ายา การผลิตวิธีนี้เรียกว่าไร่กัญชาในร่ม


ไร่กัญชาในที่ร่มเริ่มปรากฏที่ชายฝั่งทางตะวันตกของแคนาดาและชายฝั่งทางตะวันตกของอเมริกาและเมืองนิวฟันด์แลนด์ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นแหล่งกำเนิด


ฉินสือโอวไม่กล้าชะล่าใจหลังออกมาจากโรงงานแล้วก็โทรบอกโรเบิร์ตว่าเขาสงสัยว่าจะมีการปลูกกัญชาที่ในโรงงานร้าง


พอได้รับข่าวโรเบิร์ตก็ขับรถตำรวจมาที่โรงงานเคมีชุนเทียนทันที พอเห็นฉินสือโอวเขาก็ถาม “พวก ทำไมนายสงสัยว่ามีการปลูกกัญชา?”


ฉินสือโอวอธิบาย “จะว่าไปแล้วก็บังเอิญช่วงนี้ทุกคนต่างถือโอกาสช่วงน้ำลดไปเก็บเพรียงตีนเต่าใช่ไหม? นายก็รู้ว่าฉันชอบกินสิ่งนี้มากและที่ฟาร์มปลาของพวกเราก็คนเยอะเพรียงตีนเต่าแค่นิดเดียวไม่พอกินฉันก็เลยอยากหาที่คนน้อยๆ มีเพรียงตีนเต่าเยอะไปเก็บ”


“สุดท้ายฉันก็เลือกที่ลาดชันด้านหลังโรงงานเคมีตอนที่ฉันเตรียมลงไปก็เห็นมิเตอร์ไฟฟ้าของโรงงานเคมีนี้พอดี ตอนนั้นเข็มมิเตอร์ขยับเร็วมากชัดเจนว่านี่ไม่ปกติ มันใช้ไฟฟ้าเยอะเกินไปฉันเลยอดสงสัยไม่ได้ว่าที่นี่ทำธุรกิจสกปรกอะไรกัน!”


เหตุผลของเขาเป็นไปไม่ได้เท่าไรเพราะแค่โรงงานร้างใช้ไฟเยอะเกินก็สงสัยว่าปลูกกัญชาเลย? แต่ที่นิวฟันด์แลนด์เหตุผลนี้ใช้ได้


การปลูกกัญชาในที่ร่มต้องมีเครื่องมือเพาะปลูกที่สมบูรณ์ประกอบด้วยห้องที่ภายในมีโคมไฟสว่างประสิทธิภาพสูง ระบบรดน้ำอัตโนมัติ และระบบระบายอากาศที่ยอดเยี่ยมเป็นต้น


อุปกรณ์พวกนี้ต้องใช้กำลังไฟฟ้ามากเป็นพิเศษดังนั้นสิ่งก่อสร้างใดที่ใช้ไฟฟ้าเยอะอย่างไม่มีเหตุผลที่เข้าใจได้ก็สามารถถูกสงสัยว่าด้านในปลูกกัญชา


ได้รับคำตอบจากฉินสือโอวแล้วโรเบิร์ตก็ไปตรวจดูที่มิเตอร์ด้วยท่าทีเคร่งขรึม


พลังงานไฟฟ้าของเมืองเล็กๆ ลากผ่านสายเคเบิลที่ก้นทะเลมาจากนครเซนต์จอห์น ดังนั้นค่าไฟเลยไม่มีความเกี่ยวข้องกับเมืองเล็กๆ ในเมืองไม่สามารถรู้ได้ว่าการใช้ไฟฟ้าของบ้านหรือผู้ใช้คนไหนมีความเปลี่ยนแปลงอะไร


ดูอย่างตอนนี้โรงงานเคมีร้างใช้ไฟฟ้าเยอะขนาดนี้ชัดเจนว่าต้องมีปัญหา โรเบิร์ตเห็นด้วยกับคำพูดของฉินสือโอวแล้วก็โทรหาสำนักงานตำรวจกลางของนครเซนต์จอห์นให้พวกเขารวบรวมตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาตรวจสอบเรื่องนี้


อันที่จริงการทำให้แน่ใจว่าในโรงงานเคมีมีกัญชาหรือเปล่านั้นง่ายมากแค่ดำเนินการตรวจดูหน่อยเท่านั้น


แต่โรเบิร์ตไม่สามารถทำแบบนี้ได้ อันดับแรกตามกฎหมายแคนาดาไม่สามารถบุกรุกทรัพย์สินส่วนบุคคลได้ เขาไม่มีหมายค้นก็ไม่มีสิทธ์เข้าไป


สอง อาชญากรมักจะชั่วช้าโหดเหี้ยม กำลังปืนล้ำหน้ากว่าตำรวจเมืองเล็กๆ อย่างแน่นอน ถ้าโรเบิร์ตเข้าไปก็เสี่ยงเกินไป


จะให้ตำรวจธรรมดาเสี่ยงไปปราบปรามยาเสพติดนั้นเป็นไปไม่ได้และนี่ก็เกี่ยวกับสถานการณ์ในแคนาดา มีหน้าที่อะไรก็ทำสิ่งนั้นไม่ใช่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดไม่มีคำสั่งพิเศษก็ไม่สามารถไปยุ่งกับปัญหาการปลูกสิ่งและค้าเสพติดได้ นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีการค้ากัญชาอย่างบ้าคลั่งในแคนาดา


สำนักงานกลางตำรวจเมืองเซนต์จอห์นให้ความสำคัญกับปัญหานี้มาก ไม่นานก็มีเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอคลำหนึ่งบินมาอย่างเร็ว พวกตำรวจยังไม่สามารถเข้าโรงงานเคมีได้ต้องหาหลักฐานก่อน


หาหลักฐานอย่างไรล่ะ? ง่ายมากก็เหมือนที่ฉินสือโอวเห็นในห้องใต้ดินมีแสงไฟมากมายเพราะการเพาะปลูกกัญชาต้องใช้แสงส่องมากพวกพ่อค้ายาต้องใช้หลอดไฟส่องกัญชากระตุ้นการเติบโตของพวกมัน


ทุกคนต่างรู้ความร้อนของหลอดไส้นั้นน่ากลัวสามารถทำให้ภายในห้องร้อนระอุมาก เช่นนี้แค่เพียงใช้เครื่องตรวจจับรังสีอินฟราเรดตรวจดูก็พอแล้ว เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอคลำนี้ติดตั้งเครื่องตรวจจับรังสีอินฟราเรดที่ไวต่อความรู้สึกสามารถทะลุผ่านชั้นคอนกรีตหนาห้าเมตรและชั้นดินหนาสิบเมตรได้


เฮลิคอปเตอร์บินร่อนอยู่สองรอบแล้วร่อนลงจอดไม่ไกล ตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่สวมหมวกเหล็กมือถือปืนกลมือหรือปืนสั้นกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมาปืนกลมือ


โรเบิร์ตคุยกับหัวหน้าตำรวจไม่กี่ประโยคแล้วพาฉินสือโอวไป ตำรวจคนขาวคนนั้นถามอย่างเข้มงวด “ขอถามหน่อยครับว่าพวกคุณเฝ้าดูโรงงานนี้นานแค่ไหนแล้ว พบอะไรบ้างไหม?”


ฉินสือโอวส่ายหน้าทำเป็นไม่เข้าใจสถานการณ์ของโรงงานแล้วพูด “พวกผมก็เพิ่งสังเกตเห็นวันนี้ ปกติไม่มีคนเข้าออกที่โรงงานแห่งนี้เท่าไร”


หัวหน้าทีมตำรวจพยักหน้าขอบคุณเขาแล้วโบกมือ พวกตำรวจปราบปรามยาเสพติดจูงสุนัขกระแทกเปิดประตูใหญ่มุ่งไปทางโรงงานสุดท้าย


เรื่องหลังจากนั้นเรียบง่ายมากเข้าไปที่ชั้นใต้ดินของโรงงานแล้วพบกัญชาพวกนั้น พวกตำรวจปราบปรามยาเสพติดก็อายัดโรงงานเคมีชุนเทียน


ฉินสือโอวถามโรเบิร์ต “พวกเขาจับเจ้าของกัญชาได้ไหม?”


โรเบิร์ตส่ายหน้าอย่างท้อใจพลางพูด “ไม่ได้ ฝ่ายตรงข้ามเจ้าเล่ห์มากใช้ปัญญาประดิษฐ์ทำระบบเพาะปลูกทั้งหมด เพียงแค่ใช้เวลาตรวจดูระบบสักระยะหนึ่งก็พอไม่ต้องอยู่ที่นี่”


หัวหน้าทีมตำรวจมาขอบคุณเขาตามมารยาทพร้อมพูดถึงเบาะแส “พวกเราจะอายัดโรงงานนี้ไว้และจับกุมผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องทันที อีกอย่าง คุณทั้งสองช่วยแจ้งชาวเมืองไม่ให้เข้าใกล้ที่นี่ในช่วงนี้”


แม้ว่าภายในประเทศแคนาดาทั้งหมดจะมีการโต้แย้งกันเรื่องกัญชาแต่การใช้กัญชานอกเหนือจากทางการแพทย์ถือว่าผิดกฎหมาย ตามกฎหมายแล้วการครอบครองกัญชาไม่เกินสามสิบกรัมมีโทษจำคุกหกเดือนปรับหนึ่งพันดอลลาร์ ปลูกกัญชามีโทษจำคุกสูงสุดสิบสี่ปี


ตามจำนวนกัญชาที่ปลูกในห้องใต้ดินถ้าเจ้าของถูกจับได้ต้องต้องโทษจำคุกสิบสี่ปีอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้


เจ้าของโรงงานเคมีชุนเทียนก็ซวยไปด้วยถึงเขาจะไม่รู้เห็นกับเรื่องนี้อย่างน้อยเขาก็รักษาโรงงานเคมีไว้ไม่ได้ รัฐบาลแคนาดาจริงจังกับการตรวจสอบการปลูกกัญชาในร่มมากไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรสิ่งก่อสร้างที่ใช้ปลูกกัญชาก็ต้องถูกอายัดเป็นของประเทศ


ทำลายกัญชาที่มีในห้องใต้ดินทั้งหมดแล้วพวกตำรวจปราบปรามยาเสพติดคนอื่นๆ ก็นั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากเกาะแฟร์เวลไป เหลืออยู่จัดการงานที่เหลืออีกไม่กี่คน


ฉินสือโอวเดินไปก่อนที่จะมีคนมุงดูระหว่างทางขณะเดียวกันก็กำชับโรเบิร์ตไม่ให้แพร่งพรายว่าตัวเองเป็นคนแจ้งตำรวจ เขาไม่อยากไปท้าทายพ่อค้ายาที่โหดเหี้ยมพวกนั้น ถ้ามาเอาคืนก็คงวุ่นวาย


กลับถึงบ้านฉินสือโอวก็เปิดท้ายรถแล้วเอาต้นกล้าสีเขียวขจีออกมาจากด้านใน เป็นต้นกล้ากัญชา


บทที่ 587 อุปกรณ์ขั้นเทพ

โดย

Ink Stone_Fantasy

กล้ากัญชาพวกนี้ฉินสือโอวเอาออกมาจากห้องที่ปลูกก่อนหน้านี้ เป็นเพียงกล้าต้นเล็กๆ ขุดออกมาก็ไม่มีใครสังเกตเห็นได้


ฉินสือโอวต้องการปลูกกัญชาไม่กี่ต้นนี้เพราะต้องใช้ตอนทำอาหารในภายหลัง กัญชาและฝิ่นออกผลเหมือนกันเปลือกผลที่บดแล้วใช้เป็นเครื่องปรุงบาร์บีคิวได้ดี


ตอนเอากล้าสิบกว่าต้นปลูกในโรงเรือน ฉินสือโอวทำไปหัวเราะพลางพูดกับนีลเซ็นไป “แบบนี้พวกเราถือว่าทำผิดกฎหมายด้วยไหม?”


นีลเซ็นยักไหล่พลางพูด “นี่ปกติมาก พวกเราบอกว่าเป็นไม้ประดับก็ได้ อันที่จริงถ้าบอสสนใจกัญชา ผมให้เพื่อนเอามาให้ลองหน่อยก็ได้ เป็นของดีของอ่าวเม็กซิโกแน่นอน”


ฉินสือโอวส่ายหัวเขาไม่สนใจของพวกนี้ เขาเป็นนักกิน สนใจแค่เรื่องกินเท่านั้น


หลังประสบกับเรื่องนี้แล้วฉินสือโอวก็สนใจอุตสาหกรรมการปลูก เขาดูปัญหาที่เกี่ยวข้องในอินเทอร์เน็ตพบว่าตอนนี้ที่ปลูกกัญชาในนิวฟันด์แลนด์นั้นมากล้น ปีที่แล้วเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดตรวจสอบพบกัญชาที่ปลูกในร่มถึงสองล้านต้น ซึ่งสามปีที่แล้วตรวจสอบพบสี่หมื่นต้น


ปีนี้ปัญหาการปลูกกัญชาในร่มรุนแรงขึ้นในเดือนเมษายนตำรวจปราบปรามยาเสพติดของนิวฟันด์แลนด์ตรวจพบสถานที่ปลูกกัญชาขนาดใหญ่ถึงสี่สิบแห่งมูลค่ากัญชาในตลาดมืดที่จับได้สูงถึงหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์แคนาดา


ทำไมการปลูกกัญชาในร่มที่นิวฟันด์แลนด์ถึงรุ่งเรืองได้ขนาดนี้? สาเหตุนั้นง่ายมากก็คือกำไรสูง ขนส่งสะดวกและขอบเขตกว้างง่ายต่อการปกปิด


ตามที่ฉินสือโอวเห็นถ้าคนคนหนึ่งเชี่ยวชาญในการปลูกกัญชากัญชาเพียงไม่กี่พันต้นก็ทำกำไรได้เป็นสิบล้านดอลลาร์ และหากส่งไปที่เพื่อนบ้านอย่างอเมริกากำไรก็ยิ่งสูง ราคากัญชาที่แคนาดาหนึ่งปอนด์สองพันดอลลาร์ ที่อเมริกาคือสามพันดอลลาร์


พอดีกับที่ทั้งสี่ทิศรอบนิวฟันด์แลนด์ติดทะเลการขนส่งของพวกนี้ผ่านทางทะเลทำได้อย่างสะดวก


อีกอย่างกัญชาไม่เหมือนยาเสพติดชนิดอื่นมันมีผลน้อยไม่อันตรายกับผู้คนมากขนาดพวกยาเสพติดอย่างโคเคน ถึงขนาดมีนักวิจัยคิดว่าผลเสียของกัญชาที่มีต่อร่างกายมนุษย์น้อยกว่านิโคตินเสียอีกการปลูกกัญชาจึงแบกรับความกดดันทางศีลธรรมไม่มากนัก


มีผู้ปลูกกัญชามากมายที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิดจากเรื่องนี้และสนับสนุนให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายอย่างกระตือรือร้น


เห็นคำแนะนำที่เกี่ยวข้องแล้วฉินสือโอวก็ส่ายหน้าฝ่ายโฆษณาของนิวฟันด์แลนด์ทำอะไรกันอยู่โฆษณาพวกนี้แทนจะแทนที่จะเตือนไม่สู้เป็นการกระตุ้นเสียมากกว่าหลังเห็นผลกําไรที่เกี่ยวกับกัญชาทางเขาก็รู้สึกหวั่นไหว


แน่นอนว่าหวั่นไหวอยู่แค่ครู่เดียวฉินสือโอวไม่อยากไปแตะต้องกัญชาในตอนที่มันยังไม่ถูกกฎหมาย ตอนนี้เขาใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายจะหาเหาใส่หัวไม่ได้เด็ดขาด


กล้าองุ่นปลูกเสร็จแล้วผลกระทบของน้ำขึ้นน้ำลงยังคงมีอยู่แบบนี้ฉินสือโอวก็ยังออกทะเลจับปลาไม่ได้ เขาไม่มีอะไรทำเห็นอากาศอุ่นขึ้นแล้วก็พาพวกชาวประมงขึ้นไปเอาแผ่นพลาสติกที่คลุมโรงเรือนออก


ไม่กี่วันจากนั้นผลกระทบจากกระแสน้ำขึ้นน้ำลงเริ่มลดลงขนาดของน้ำลงเล็กลงบ้างแล้วเวลาน้ำขึ้นคลื่นก็ไม่รุนแรงขนาดนั้นแล้ว ในพลบค่ำของทุกวันคลื่นทะเลเล็กๆ ซัดไม่หยุดดูแล้วรู้สึกเพลิดเพลิน


คลื่นแบบนี้เหมาะกับการโต้คลื่นและการเล่นสกีน้ำเหมาเหว่ยหลงให้ฉินสือโอวพาเขาไปซื้อสกีบอร์ดกะว่ารอน้ำขึ้นแล้วจะไปเล่น


ฉินสือโอวกลอกตายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วทำเป็นพูดอย่างเคร่งขรึม “แกแน่ใจนะว่าจะเล่นสกีน้ำ?นี่เป็นกีฬาที่ยากนะ แกจะเล่นได้หรือเปล่า”


เหมาเหว่ยหลงรู้จักเขาดีที่สุดพอเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของเขาก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่จึงเอ่ยปากเตือนเขา “คิดไม่ดีกับฉันให้น้อยๆ หน่อย ฝีมือสกีน้ำของฉันไม่มีปัญหาหรอกแกอย่างทำอะไรฉันก็พอ”


พอเห็นว่าแผนร้ายของตัวเองโดนมองออกฉินสือโอวก็พูดด้วยความโกรธ “แกเห็นฉันเป็นคนอย่างไรเนี่ย?ไปเถอะ ฉันจะพาแกไปซื้อสกีบอร์ด”


เขาพาเหมาเหว่ยหลงไปร้านอุปกรณ์ทางน้ำที่เขาซื้อสกีบอร์ดครั้งแรกตอนนี้ในเมืองร้านค้าประเภทนี้มีหลายร้านการมาของพวกนักท่องเที่ยวกระตุ้นให้ร้านค้าประเภทนี้ผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด


คาร์สันเจ้าของร้านเห็นฉินสือโอวก็โผกอดพลางหัวเราะ “เราไม่เจอนายเสียนานเลย ช่วงนี้ทำอะไรล่ะ?ไม่ถือโอกาสตอนน้ำขึ้นเล่นสกีน้ำเหรอ?”


ฉินสือโอวพูด “เมื่อเร็วๆ นี้ที่ฟาร์มปลาต้องทำประมง ฉันไม่ค่อยมีเวลาเล่นเท่าไร แต่ตอนนี้เล่นได้แล้ว ฉันพาเพื่อนมาซื้อสกีบอร์ด แนะนำให้เขาหน่อยสิ”


คาร์สันจับมือกับเหมาเหว่ยหลงถามถึงงานอดิเรกของเขาและประวัติการเล่นสกีน้ำแล้วก็แนะนำให้เขา ‘ยี่ห้อบัฟฟาโล’ กระดานมาตรฐานยาวหนึ่งเมตรครึ่งทำจากไฟเบอร์กลาสสวยและใช้ดีด้วย


นอกจากสกีบอร์ดแล้วเหมาเหว่ยหลงยังซื้อกระดานโต้คลื่นที่ทำจากคาร์บอนเป็นงานฝีมือชิ้นเอกของคาร์สัน เพราะฉินสือโอวเลยขายให้เหมาเหว่ยหลงแบบกึ่งขายกึ่งให้


คิดเงินแล้วฉินสือโอวเตรียมจะไปแต่คาร์สันรั้งเขาไว้พลางขยิบตาแล้วยิ้ม “ฉันเพิ่งได้ของดีมา ไม่อยากดูเหรอพวก?”


ฉินสือโอวถามเขาว่าคืออะไร คาร์สันหยิบกล่องใบหนึ่งออกมาจากตู้แล้วหยิบสกีบอร์ดสีแดงออกมา


เห็นสกีบอร์ดอันนี้แล้วฉินสือโอวก็ผิดหวัง “ฉันมีแล้วชุดหนึ่งและรูปร่างของสกีบอร์ดอันนี้ก็ดูกลางๆ เกินไปนะ? ไม่ค่อยเหมาะกับฉัน”


คาร์สันหยิบด้ามจับไร้สายออกมาจากกล่องพลางยิ้มแล้วพูด “ไม่ พวก นายมีสกีบอร์ดชุดหนึ่งแล้วแต่ไม่มีสกีบอร์ดชุดไหนมีสิ่งนี้ ฉันแนะนำให้นายฟังหน่อยแล้วกัน สกีบอร์ดไฟฟ้าอันนี้ไม่ต้องใช้แรงจากภายนอกก็สามารถพานายเพลิดเพลินอยู่บนน้ำได้ เป็นของดีที่ไวต่อแรงกระเพื่อมของน้ำด้วย”


ได้ยินคาร์สันพูดฉินสือโอวก็ตาเป็นประกายเขายังไม่เคยสัมผัสสกีบอร์ดไฟฟ้ามาก่อนเลยสนใจเจ้าสิ่งจริงๆ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ


คาร์สันบอกเขาว่าสกีบอร์ดไฟฟ้ายังไม่เป็นที่นิยมเพราะเหตุผลเรื่องราคา เห็นได้บ่อยในเมืองใหญ่ๆ ของอเมริกาอย่างไมอามี ลอสแอนเจลิส และซานฟรานซิสโกเท่านั้น ทั้งเมืองเซนต์จอห์นมีอยู่แค่ไม่กี่ชิ้น


สกีบอร์ดประเภทนี้ให้นักเล่นสกียืนอยู่บนบอร์ดใช้รีโมตในการกำหนดความเร็วแรงขับเคลื่อนเป็นใบพัดกันน้ำแบบพ่นอาศัยแรงอัดของอากาศดันสกีบอร์ดไปข้างหน้าแม้ไม่มีคลื่นก็สามารถไถลไปได้และความเร็วก็เร็วมากสามารถไปได้ถึงห้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง


ฉินสือโอวเสมอกันมองดูสกีบอร์ดอันนี้ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ยาวประมาณสองเมตร กว้างครึ่งเมตร ส่วนล่างมีใบพัดกันน้ำแบบพ่นกระจายอยู่เสมอกันดูแข็งแรงมาก ลองยกขึ้นมาแล้วหนักมาก ต้องมีน้ำหนักประมาณสามสิบกิโลกรัมได้


ใบพัดกันน้ำแบบพ่นใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในการจ่ายไฟตัวแบตเตอรี่อยู่ในแคปซูลกันน้ำตอนชาร์จไฟสามารถถอดออกได้ติดตั้งแบตเตอรีทั้งหมดห้าก้อน ชาร์จไฟเต็มทั้งหมดสามารถไถลอยู่บนน้ำต่อเนื่องได้นานสองชั่วโมงครึ่ง


คุยกับคาร์สันเรื่องสกีบอร์ดอันนี้สักพักฉินสือโอวก็ซื้อมา


มิน่าเจ้าสิ่งนี้ถึงไม่เป็นที่นิยมราคาแพงเหลือเกิน สกีบอร์ดทั่วไปก็เป็นร้อยดอลลาร์แล้ว ส่วนสกีบอร์ดไฟฟ้าอันนี้หนึ่งหมื่นแปดพันดอลลาร์แคนาดา แปลงเป็นเงินหยวนก็คือเก้าหมื่น สามารถซื้อรถเก๋งที่ผลิตในประเทศได้เลย


บทที่ 588 เลียนแบบเสียงหมาเห่า

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวเอาอุปกรณ์ขั้นเทพชิ้นใหม่กลับฟาร์มปลาอย่างมีความสุข เหมาเหว่ยหลงมองสกีบอร์ดไฟฟ้าอันนั้นก็รู้สึกว่าแปลกใหม่คุยกับเขาระหว่างทาง “ไอ้เพื่อนรัก พวกเราเป็นเพื่อนกันมาเป็นสิบปีแล้วใช่ไหม?”


“ใช่ก็ใช่ แต่ฉันไม่ให้แกยืมสกีบอร์ดอันนี้หรอก” ฉินสือโอวหมุนพวงมาลัยพลางพูดอย่างพอใจทำลายฝันเขาจนสลาย


เหมาเหว่ยหลงหัวเราะเจื่อน “ใครจะยืมสกีบอร์ดของแกล่ะ?”


“ขอเพียงไม่ยืมสกีบอร์ดของฉันก็พอ ว่ามาสิเพื่อน แกจะเอาอะไร? ยืมเงินฉัน? ล้านหนึ่งพอไหม? ไม่พอก็ห้าล้าน”ฉินสือโอวจงใจทำเป็นพูดอย่างใจป้ำ


ในที่สุดเหมาเหว่ยหลงก็โกรธ “ไปให้พ้น! ใครจะยืมเงินแก? ก็ได้ พูดจริงๆ ฉันอยากเล่นสกีบอร์ดของแก!”


ฉินสือโอวขับรถเข้าฟาร์มปลาจอดรถพลางพูด “ฉันไม่ได้ไม่อยากให้แกยืม พูดจริงๆ นะโคโกโร่ ไม่แน่ว่าใจแกจะขี่เจ้าเครื่องสังหารนี่ได้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นพวกเราค่อยเป็นค่อยไปเถอะ แกโต้คลื่นไปก่อน อย่างไรเสียแกก็ซื้อกระดานโต้คลื่นมาแล้ว ถูกไหม?”


เหมาเหว่ยหลงอุ้มกระดานโต้คลื่นเดินไปชายหาดพลางพูด “แล้วยังไงต่อ?”


“แล้วแกก็ต้องโต้คลื่นให้ดี แล้วฉันก็จะให้แกเล่นสกีบอร์ดไฟฟ้าของฉัน”


“พูดแล้วห้ามกลับคำนะ!”


“ไอ้งั่ง!”


การโต้คลื่นต้องใช้แรงภายนอกช่วยเช่นใช้เจ็ตสกีลาก ฉินสือโอวขับเทพเจ้าสายฟ้าสีดำมาให้เหมาเหว่ยหลงจับที่จับด้านหลังไว้แล้วพาเขาลงทะเลไป


เหมาเหว่ยหลงรู้จักสันดานของฉินสือโอวดีเหลือเกินเขาพูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น “แกคิดว่าฉันโง่เหรอ?ไม่ได้ถ้าแกขับเจสกีฉันว่ายน้ำไปเองดีกว่า เบริ์ดอยู่ที่นี่ฉันจะให้เบิร์ดพาฉันไป”


ฉินสือโอวมองเบิร์ดเจ้านี่ไม่เป็นสับปะรดเลยแม้ว่าตัวเองจะสั่งให้เขาแล้วเหมาเหว่ยหลงเขาก็อาจจะไม่ทำ เช่นนี้เขาเลยได้แค่ขับเจสกีเข้าเขตน้ำลึกไปด้วยความโกรธ


เหมาเหว่ยหลงหัวเราะชอบใจชี้ไปที่ด้านหลังของฉินสือโอวแล้วพูดกับเบิร์ด “บอสของพวกนายนี่เหมือนเด็กดื้อเลยนะตั้งแต่ช่วงมหาวิทยาลัยเขาก็อยากแข่งกับฉัน แข่งโต้วตี้จู่ [1] การสอบ เล่นเกมเขาก็อยากชนะฉัน แต่เขาน่ะโง่เกินไป อยากจะชนะฉันก็เป็นแค่ฝัน”


เบิร์ดมองเหมาเหว่ยหลงแล้วพูดอย่างสุขุม “ตามที่ผมรู้ บอสเขาไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่ายๆ”


คนที่จัดการได้ง่ายจะสามารถเอาฟาร์มปลาทั้งเกาะแฟร์เวลมาได้โดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อ? คนที่จัดการได้ง่ายจะสามารถกดดันให้สองโรงงานอันธพาลล้มเลิกกิจการได้? คนที่จัดการได้ง่ายจะสามารถได้เปรียบในการจับปลาทั้งในชายหาดน้ำตื้นจอร์จและอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์


เหมาเหว่ยหลงไม่รู้เรื่องพวกนี้ที่เขารู้จักคือเจ้าเด็กชนบทที่หัวอ่อนไร้เดียงสาคนนั้น


ฉินสือโอวชอบความรู้สึกของการขับเจสกีฉวัดเฉวียนไปในทะเลมาก เร่งความเร็วสูงที่สุดไม่ต้องกังวลเหตุร้ายอย่างรถคว่ำรถชนเพียงควบคุมที่จับเล็กๆ ก็สามารถตากลมโต้คลื่นได้ราวนกอินทรี


และบนหัวของเขาก็มีนกอินทรีอยู่สองตัวบุชและนิมิตส์โบยบินอยู่แนบผิวทะเลบางครั้งยังร้องขู่นกทะเลที่อยู่รอบๆ จนพวกมันบินแตกซ่านไปแล้วร้องแกว๊กแกว๊กอย่างดีใจ


ขับด้วยความเร็วมากกว่ารถสปอร์ทไปบนท้องทะเลสักครู่ฉินสือโอวเล่นจนสมใจไม่ได้ขับเจสกีมาทั้งฤดูหนาวตอนนี้ในที่สุดก็สามารถพุ่งทะยานไปบนท้องทะเลอีกครั้งความรู้สึกนั้นหยุดไม่ได้เหมือนกับการเคี้ยวสไตรด์[2]


แต่เมื่อเขาหันกลับมามองเห็นเหมาเหว่ยหลงจับเชือกเป้สามเหลี่ยมโต้คลื่นอยู่บนท้องทะเลก็หัวเราะพลางเลี้ยวรถมาดู ในขณะเดียวกันก็ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเรียกบีนมาจัดการเหมาเหว่ยหลง


เหมาเหว่ยหลงกำลังดื่มด่ำกับการตากลมโต้คลื่นรับสายลมโชยในใจของเขารู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาจนอดอ้าปากโห่ร้องออกมาไม่ได้ “อาอาอาอาอา… บ้าเอ้ย! ”


บีนมาอย่างมุทะลุกระโดดขึ้นมาจากตรงกลางสำเร็จอย่างสวยงามแล้วดึงเชือกจากเหมาเหว่ยหลงมาอย่างแรง


เหมาเหว่ยหลงตกใจจนตัวสั่น ขาทั้งสองข้ายืนบนสกีบอร์ดไฟฟ้าไม่อยู่แล้วไถลลงทะเลในชั่วพริบตาและสำลักน้ำไปอึกหนึ่ง


ฉินสือโอวขับเจสกีไปทันที วนสองรอบแล้วพูดพลางหัวเราะ “เสื้อไหมพรม แกเก่งมากไม่ใช่เหรอ? แกเป็นเทพของการโต้คลื่นไม่ใช่เหรอ? ท่าลูกหมาตกน้ำนี่ไม่เลวจริงๆ เก่งกว่าหู่จือและเป้าจือของฉันตั้งเยอะ”


เหมาเหว่ยหลงกอดกระดานโต้คลื่นของตัวเองลอยตามคลื่นมาถึงชายหาดเขามองฉินสือโอวแล้วพูดด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี “ชอบใจอะไร?เมื่อครู่มีฉลามกระโดดออกมากะทันหันเกือบจะทำฉันตกใจจนตายแล้ว!”


ฉินสือโอวชูนิ้วกลางพลางพูด “สมกับที่เป็นนักการเมือง ความหน้าไม่อายของแกนี่ถึงขั้นสุดยอดแล้วนะ! เห็นฉันตาบอดเหรอ? เห็นชัดๆ ว่าเป็นโลมาปากขวดและก็ไม่กัดคนด้วย ตาขาวจริงๆ!”


เขาไม่ให้โอกาสเหมาเหว่ยหลงได้อธิบายก็เปลี่ยนไปขึ้นสกีบอร์ดไฟฟ้าเขาเหยียบบนคลื่นเตรียมตัวเริ่มอย่างองอาจ


ปีที่แล้วฉินสือโอวเล่นสกีบอร์ดไฟฟ้าอยู่ตลอดแต่เขาไม่ค่อยได้ออกแรงเท่าไรอย่างน้อยก็สู้วินนี่ไม่ได้ยิ่งไม่ต้องไปเทียบกับมืออาชีพอย่างนีลเซ็นและเบิร์ด


สาเหตุหลักๆ คือการรักษาสมดุลที่ขาทั้งสองข้างของเขานั้นไม่ค่อยดีแบบนี้ควบคุมการไหลบนคลื่นของสกีบอร์ดไฟฟ้าได้ยากง่ายที่จะตก


ครั้งนี้เขาไม่จำเป็นต้องออกแรงเองเพียงแค่ควบคุมสกีบอร์ดไฟฟ้าและองศาของคลื่นให้ดีส่วนเรื่องการเคลื่อนไปข้างหน้าปล่อยให้สกีบอร์ดไฟฟ้าจัดการเอง


ตอนนี่น้ำค่อยๆ เริ่มขึ้นขนาดฟองคลื่นกำลังพอเหมาะไม่มีคลื่นยักษ์กำลังฟองเคลื่อนแรงเพียงพอเป็นช่วงที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นสกีน้ำ


ฉินสือโอววางสกีบอร์ดไฟฟ้าบนผิวน้ำทะเลแล้วขึ้นไปนั่งคร่อมที่ด้านบนพอรู้สึกว่าสกีบอร์ดไฟฟ้ามั่งคงแล้วถึงยืนขึ้นอย่างระวัง


รีโมตถูกมัดอยู่ที่ข้อมือของเขา เขาปรับความเร็วแล้วเครื่องพ่นก็เริ่มพ่นน้ำเพื่อให้แรง สกีบอร์ดบินออกไปอย่างรวดเร็วแต่ท่านขุนนางใหญ่ฉินกลับยังอยู่ที่เดิม…


“ปัดโธ่!” ฉินสือโอวร่วงลงไปในน้ำแล้วรีบลดความเร็วของสกีบอร์ด บีนโผล่หัวดันกลับมาให้เขาแล้วว่ายอยู่รอบๆ ด้วยความดีใจ


ฉินสือโอวเช็ดน้ำออกแล้วยืนขึ้นไปบนสกีบอร์ดไฟฟ้าใหม่อย่างไม่ยอม จริงอยู่สกีบอร์ดไฟฟ้าสามารถให้แรงกับตัวเองได้แต่ถ้าต้องการเหยียบอยู่ด้านบนเล่นอย่างปลอดภัยก็ยังยากสกีบอร์ดเพิ่งจะเร่งความเร็วคลื่นลูกหนึ่งก็ซัดมาเขาร่วงลงน้ำไปอีกครั้ง…


ครั้งนี้วนมาเป็นเหมาเหว่ยหลงที่หัวเราะ ฉินสือโอวตะเกียกตะกายขึ้นชายหาดด้วยใบหน้ามอมแมม เหมาเหว่ยหลงชูนิ้วกลางให้เขา “ที่แท้แกมันก็มือใหม่ ทำเป็นเก่งสิ ทำเป็นเก่งต่อไป”


ฉินสือโอวโยนสกีบอร์ดไฟฟ้าลงบนผิวน้ำทะเลเขาหันมองเหมาเหว่ยหลงแล้วพูด “แกเชื่อไหมว่าครั้งนี้ฉันจะสามารถเล่นได้?”


เหมาเหว่ยหลงหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ฉันเชื่อ ฉันเชื่ออยู่แล้ว ถ้าฉันบอกว่าไม่เชื่อก็เป็นการไม่รักษาหน้าแกเกินไปแล้วล่ะ”


ฉินสือโอวพาลโกรธ “พนันกัน ครั้งนี้ถ้าฉันยืนอยู่บนบอร์ดได้ไม่เกินห้านาที บอร์ดนี่ฉันให้แก เป็นไง?”


“ตกลง!”


“ถ้าฉันยืนอยู่ได้ห้านาทีล่ะ?”


“ฉันเลียนแบบหมาเห่า โอเคไหม?”


เหมาเหว่ยหลงมั่นใจเต็มที่การเคลื่อนไหวของเจ้าตัวแสบฉินสือโอวเมื่อครู่แข็งทื่อมากไม่ใช่การแสดงแน่นอน เจ้านี่เป็นมือใหม่ในการเล่นสกีเขามั่นใจในจุดนี้


ฉินสือโอวหัวเราะเขาถือโอกาสตอนที่แรงคลื่นอ่อนวางสกีบอร์ดไฟฟ้าขึ้นไปนั่งด้านบนแล้วยืนขึ้นอย่างระมัดระวังจากนั้นเร่งความเร็วไปตามคลื่นข้างหน้าที่ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนควบคุมให้ราบเรียบเหมือนเล่นฮอทวีลอยู่บนพื้น


เขามีประสบการณ์ในการเล่นฮอทวีล[3]โชกโชน


“มา เห่าสักสองทีสิ!” ฉินสือโอวหัวเราะฮ่าฮ่า


………………………………………………….


[1] โต้วตี้จู่ เกมไพ่ของจีน


[2] สไตร์ด หมากฝรั่งยี่ห้อหนึ่ง


[3] ฮอทวีล รถของเล่น


บทที่ 589 ธนาคารแห่งประเทศแคนาดา

โดย

Ink Stone_Fantasy

เห็นฉินสือโอวก้มตัวโค้งเอวเล่นขี่สกีบอร์ดไฟฟ้าอย่างสง่างาม เหมาเหว่ยหลงจ้องมองอ้าปากค้างรอจนเขาขึ้นฝั่งแล้วก็ไม่อ้าปากไม่ได้ “โฮ่งๆๆๆ…”


“ไม่ได้ๆ ไม่เหมือนอะ” ฉินสือโอวส่ายหัว “แต่ไม่เป็นไร ฉันจะหาครูให้แกสองตัว”


เขาพูดพลางผิวปาก หู่จือและเป้าจือที่กำลังขุดหลุมอยู่ที่หาดได้ยินเสียงผิวปากก็ส่ายหัวกระดิกหางวิ่งกลับมาทันที


ฉินสือโอวลูบหัวของเจ้าตัวแสบทั้งสองแล้วเสียงหมาเห่าก็ดังขึ้นเกรียวกราว “โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!“


เหมาเหว่ยหลงโกรธจนคันรากฟัน ทางด้านฉินสือโอวยังคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “มาๆๆ ฟังเข้าใจแล้วหรือยังว่าเสียงหมาเห่าเป็นอย่างไร? ยังฟังไม่เข้าใจอย่างนั้นก็เรียนต่อไป ฉันบอกเคล็ดลับให้แกอย่างหนึ่ง แกต้องใช้ลมจากกะบังลมกลั้นไว้แล้วค่อยๆ ปล่อยจากอกขึ้นมาให้ลมหายใจไหลพุ่งไปที่คออย่างอิสระ…”


“ไสหัวไป!” เหมาเหว่ยหลงตะคอก


ฉินสือโอวทำเป็นพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่แล้ว ต้องมีพลังและโทนเสียงแบบนี้แหละ มา เห่าให้ฉันฟังหน่อย”


เหมาเหว่ยหลงไล่ผลักเขาล้มลงบนหาดทราย หลิวซูเหยียนพาตั๋วตั่วที่ใส่ชุดว่ายน้ำเดินมา เห็นชายสองคนตีกันก็รีบปิดตาตั๋วตั่วไว้


ตั๋วตั่วสะบัดหัวน้อยๆ ด้วยความอยากดูหลิวซูเหยียนเลยตีที่ก้นเบาๆ “ไม่ควรดู เด็กดูแล้วจะเป็นตากุ้งยิง”


ฉินสือโอว “…”


สนุกพอแล้วฉินสือโอวก็เอาสกีบอร์ดไฟฟ้าให้เหมาเหว่ยหลง เปรียบเทียบกับเขาแล้วฝีมือการเล่นสกีน้ำของเหมาเหว่ยหลงดีมาก ไม่มีจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็สามารถเคลื่อนที่ไปมาระหว่างคลื่นในทะเลได้


พอคุ้นเคยกับสกีบอร์ดไฟฟ้าแล้วเหมาเหว่ยหลงก็อุ้มตั๋วตั่วขึ้นมาเล่นสกี เขาไม่ต้องออกแรงอย่างนี้การเล่นสกีน้ำก็ง่ายขึ้นเยอะเพียงแค่รักษาความสมดุลของร่างกายและควบคุมทิศทางของสกีบอร์ดไฟฟ้าก็พอ


ฉินสือโอวลากฉงต้ามาให้มันนอนคว่ำบนชายหาดแล้วตัวเองก็ไปนั่งอยู่บนตัวมันอย่างสบาย สบายมากเหมือนนอนอยู่ที่โซฟา


หลิวซูเหยียนเดินมาช้าๆ เธอย่อขานั่งลงอย่างสง่าแล้วพูดเสียงทุ้ม “เสี่ยวโอว ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยหน่อย”


“มีอะไรเหรอ?” ฉินสือโอวมองไปทางเธอ


หลิวซูเหยียนยิ้มอ่อน “คืออย่างนี้ ฉันเห็นว่าในเมืองมีรับสมัครครูสอนภาษาจีน มีพลเมืองที่เรียนภาษาจีนกลางอยู่ใช่ไหม? ถ้าได้ ฉันอยากลองสมัครงานนี้ หลายวันมานี้ฉันเรียนรู้ภาษาอังกฤษของแถบนี้รวมถึงตัวย่อและคำที่ใช้แทนกันได้ของนิวฟันด์แลนด์จากวินนี่ ฉันว่าฉันสามารถทำงานนี้ได้”


ฉินสือโอวพูด “งานนี้น่าเบื่อมาก เธออยู่ที่ฟาร์มปลารู้สึกเบื่อเหรอ? ที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องทำงานหรอก เธออาจจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับโคโกโร่ ขอเพียงฉันยังมีกินพวกเธอก็ไม่ต้องอด”


หลิวซูเหยียนพยักหน้าแล้วพูด “ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจแต่ฉันอยากลองงานนี้ดู” เธอพูดพลางยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันรู้ ก่อนหน้านี้ฉันมีอดีตที่ไม่ดีมากมาย ตอนนี้คบกับเสี่ยวหลงฉันก็อยากเปลี่ยนแปลงเรื่องพวกนี้”


เห็นความตั้งใจจริงของหลิวซูเหยียนแล้ว ฉินสือโอวก็ไม่พูดอะไรมากบอกว่าจะถามแฮมเล็ตให้ ถึงตอนนั้นแล้วจะบอกเธออีกที


หลิวซูเหยียนยิ้มอย่างซาบซึ้งปรบมือพลางมองไปเหมาเหว่ยหลงที่อุ้มตั๋วตั่วฉวัดเฉวียนอยู่บนผิวน้ำในทะเล บนหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ


ค่ำวันนั้นฉินสือโอวโทรหาแฮมเล็ตสอบถามเรื่องที่ในเมืองรับสมัครครูสอนภาษาจีน แฮมเล็ตบอกว่าเพื่อให้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวจีนได้ดีพวกเขาก็เลยจ้างครูคนจีนจากสถาบันการศึกษาเมืองเซนต์จอห์นมาสอนภาษาจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว


ฉินสือโอวแนะนำหลิวซูเหยียนให้แฮมเล็ตอีกฝ่ายรีบบอกว่าไม่มีปัญหาเงินเดือนคือแปดร้อยห้าสิบดอลลาร์สอนที่ห้องเรียนห้าคาบต่ออาทิตย์วันละคาบสุดสัปดาห์และวันหยุดสามารถพักผ่อนได้


สรุปเรื่องนี้เสร็จฉินสือโอวก็ไปคุยกับเหมาเหว่ยหลง เหมาเหว่ยหลงตบที่ไหล่เขาอย่างเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “คำพู ดที่ซาบซึ้งใจ…”


“คำพูดที่ซาบซึ้งใจแกเก็บไว้ในใจเถอะ ฮ่าๆ” ฉินสือโอวหัวเราะพลางลักเขาออกแล้วเดินขึ้นบันได จากนั้นนึกขึ้นได้ว่าอีกสองวันจะมีงานจัดแสดงสินค้าอุปกรณ์ดับเพลิงที่เมืองมอนทรีออลก็พูดเพิ่ม “ถ้าแกซาบซึ้งใจจริงๆ ก็ไปงานแสดงสินค้าที่เมืองมอนทรีออลเป็นเพื่อนฉันหน่อย ฉันอยากซื้ออะไรหน่อย”


เมืองมอนทรีออลเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของควิเบกมีฉายาว่า ‘เมืองแห่งความโรแมนติก’ เครื่องบินลำแรกของฉินสือโอวก็ซื้อที่นี่ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการเงินของแคนาดาตะวันออก แต่ในเมืองไม่พลุกพล่านวุ่นวาย กลับมีกลิ่นอายความสวยงามและหรูหราของความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเจริญรุ่งเรืองมากกว่า


ที่แคนาดาเมืองมอนทรีออลเป็นตัวแทนของความสุขและความสวยงามของความทรงจำและความฝัน มันให้ความรู้สึกถึงความโอหังของอารยธรรมโลกใหม่และประวัติศาสตร์ยุโรปที่เก่าแก่ทำให้เมืองนี้มีเอกลักษณ์และเสน่ห์


แต่ฉินสือโอวจนปัญญาทุกครั้งที่มาที่มอนทรีออลเพราะภาษาถิ่นของที่นี่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษแต่เป็นฝรั่งเศสยากลำบากมาก เขาต้องหาคนไว้คอยสอบถามไม่อย่างนั้นก็จะฟังไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรกัน


พื้นฐานเศรษฐกิจของเมืองมอนทรีออลมาจากธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตเช่นธุรกิจสิ่งทอและผลิตเสื้อผ้าที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในอเมริกาเหนือ อีกอย่างการบินและอวกาศ การวิจัยผลิตยา ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจโปรแกรมของเมืองก็เจริญรุ่งเรืองมาก


ฉินสือโอวและเหมาเหว่ยหลงนั่งเฮลิคอปเตอร์จากเกาะแฟร์เวลไปเมืองมอนทรีออลตอนนี้การเดินทางทุกประเภทของเขาสะดวกสบาย ก่อนหน้านี้ที่ไม่มีเครื่องบินรู้สึกว่าเกาะแฟร์เวลห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่จะทำอะไรก็ยุ่งยากพอมีเครื่องบินแล้วแป๊บเดียวก็แก้ปัญหาการจราจรได้


เมืองก็ย่อมเป็นมอนทรีออล สำนักงานใหญ่ของธนาคารมอนทรีออล สำหรับสมาชิกบัตรแบล็กอาเม็กซ์อย่างฉินสือโอว ธนาคารให้ความสำคัญมาก พอรู้ว่าเขาจะมาร่วมงานแสดงสินค้าอุปกรณ์ดับเพลิงก็ตั้งใจส่งคนมาต้อนรับเขา


ฉินสือโอวให้เบิร์ดเอาเฮลิคอปเตอร์ไปจอดที่สนามบินนานาชาติมอนทรีออล เพิ่งจะออกจากสนามบินก็มีสจ๊วตมาหาพวกเขาแล้วพาไปที่ห้องรับรองแขกระดับสูง


“ธนาคารมอนทรีออลส่งคนมาจริงๆ ด้วย ในประเทศเราไม่ต้องหวังเลย” เหมาเหว่ยหลงอุทาน


ฉินสือโอวคิดอยู่แล้วว่าต้องมีบริการนี้ ในหนึ่งปีตัวเองใช้จ่ายเงินเกินห้าสิบล้านดอลลาร์แคนาดา แค่ที่จ่ายภาษีก็ยี่สิบกว่าล้านแล้ว พวกเขาไม่ให้ความสำคัญกับตัวเองได้เหรอ?


ผลสุดท้ายก็มาถึงห้องรับรองแขกระดับสูงคนขาวสวมชุดสูททางการที่รออยู่ด้านในยิ้มพลางพูด “สวัสดีครับคุณฉิน ผมคือปีเตอร์ลาสผู้อำนวยการฝ่ายจัดเก็บข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศแคนาดา เป็นตัวแทนธนาคารของเราในการต้อนรับคุณมาที่เมืองมอนทรีออลที่สวยงาม”


ฉินสือโอวจับมือกับปีเตอร์ลาสตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่ธนาคารมอนทรีออลที่ส่งคนมารับตัวเอง? ทำไมกลายเป็นผู้อำนวยการฝ่ายของธนาคารแห่งประเทศแคนาดา?


ธนาคารแห่งประเทศแค่นาดาก่อตั้งเมื่อปี 1869 เป็นธนาคารที่มีทุนและทรัพย์สินมากที่สุดในแคนาดาและก็เป็นสถาบันบริการทางการเงินครบวงจรชั้นหนึ่งในอเมริกาเหนือ ปีที่แล้วอยู่อันดับที่ 282 จาก 500 อันดับในการจัดอันดับบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดของโลก


เป็นอันดับต้นๆ ของธนาคารพาณิชย์และวาณิชธนกิจ[1]ที่แคนาดา ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาเป็นเลิศในธุรกิจจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และการควบรวมกิจการและเป็นแนวหน้าของโลกในธุรกิจคัสโตเดียน[2]


ในขณะเดียวกันที่นี่ก็ถือหุ้นบริษัทประกันภัยให้บริการประกันภัยชีวิต ความมั่นคง สุขภาพ การท่องเที่ยวและการประกันภัยต่อแก่ทั้งลูกค้าส่วนบุคคลและองค์กร ธนาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงมากที่แคนาดาถูกยกให้เป็น ‘บริษัทที่ได้รับความเคารพมากที่สุดในแคนาดา’ ติดต่อกันสี่ปี


แต่ฉินสือโอวไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่นี่ เขาใช้บริการที่ธนาคารมอนทรีออลตลอด


………………………………………


[1] วาณิชธนกิจ ธุรกรรมทางการเงินที่ให้บริการโดยธนาคารการลงทุน


[2] ธุรกิจคัสโตเดียน ธุรกิจรับฝากทรัพย์สิน


บทที่ 590 นี่คืออุปกรณ์ดับเพลิง?

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวและปีเตอร์ลาสเพิ่งจะพูดคุยทักทายกันโทรศัพท์ของเขาก็ดัง ปลายสายมีเสียงแหลมใสดังขึ้นเป็นพนักงานผู้ช่วยที่โรงแรมมอนทรีออลส่งมากำลังตามหาเขาที่สนามบิน


วางสายเสร็จฉินสือโอวก็พูดกับปีเตอร์ลาสพลางยักไหล่อย่างจนใจ “ขอโทษนะครับ เพื่อนผมกำลังรอพวกเราอยู่ เกรงว่าผมคงต้องขอตัวก่อน”


ปีเตอร์ลาสส่งนามบัตรให้เขาพร้อมยิ้มอ่อนๆ “อย่างนั้นดูแล้วโอกาสที่ผมเลือกวันนี้คงไม่ค่อยถูกเท่าไร หวังว่าต่อไปจะมีโอกาสได้เยี่ยมเยียนคุณอีกนะครับ”


ฉินสือโอวแลกนามบัตรกับเขาตามมารยาทแบบนี้เป็นการตอบรับคำขอของอีกฝ่ายอย่างอ้อมๆ และนี่ก็บรรลุเป้าหมายของปีเตอร์ลาสแล้ว ถ้าจะบอกว่าเจอกันครั้งแรกก็สามารถดึงลูกค้ารายใหญ่อย่างฉินสือโอวมาฝ่ายตัวเองได้ก็ไม่สมจริง


เดินออกมาจากห้องรับรองเหมาเหว่ยหลงตบไหล่ฉินสือโอวพร้อมพูดอย่างปลื้มใจ “ไม่เบาเลยนะไอ้น้อง มีชาวต่างชาติสนใจแกเยอะขนาดนี้ แกไม่ทำให้ประเทศที่ชุบเลี้ยงแกมาและรัฐบาลที่เฝ้ารอแกผิดหวังจริงๆ”


ฉินสือโอวกำลังทะเลาะกับเขาสาวสวยผมทองร่างสูงที่สวมชุดทำงานเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงทรงสอบดูสวยฉลาดและเซ็กซี่คนหนึ่งก็เดินมาอย่างสง่า นี่คือผู้ช่วยสาวที่ธนาคารมอนทรีออลจัดแจงมา


ดูแล้วธนาคารไม่ได้แค่ส่งคนมารับเขาไปที่โรงแรมแต่ช่วยหาคู่นอนที่โรงแรมให้เขาด้วย


น่าเสียดายที่ฉินสือโอวมีเพื่อนและลูกน้องมาด้วยเลยไม่สามารถก่อเรื่องอะไรกับสาวสวยคนนี้ได้


มอนทรีออลเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าที่สุดในอเมริกาเหนือถนนส่วนใหญ่ในเมืองตรงและแคบเรียงตามพิกัดผังเมือง


รถตู้ลอดผ่านถนนเซนต์ลอว์เรนซ์มาถึงเมืองเก่าเป็นจุดชมวิวหลักของเมืองมอนทรีออลมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์มากมาย


เมืองเก่าอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองถูกล้อมรอบถนนเรเดอวัสบูลวาลด์ที่โด่งดัง ทัศนียภาพงดงามมันคือเส้นแบ่งเขตไปทางเหนือจะเป็นสิ่งก่อสร้างโบราณแบบดั้งเดิมและแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ไปทางใต้จะเป็นเขตศูนย์กลางธุรกิจสมัยปัจจุบัน


สำนักงานใหญ่ของธนาคารมอนทรีออลก็อยู่ที่นี่ผู้ช่วยสาวชี้ให้ฉินสือโอวดูนั่นคืออาคารหลักรูปไม้กางเขนที่สวยงามอยู่ตรงข้ามจตุรัสแมรีที่เลื่องชื่อด้านข้างคือตึกระฟ้าไปทางใต้อีกหน่อยจะมีดาวน์ทาวน์ที่มีร้านค้าหาบเร่แผงลอยนับไม่ถ้วน


งานจัดแสดงเริ่มแล้วพวกฉินสือโอวไปพักผ่อนที่โรงแรมพักหนึ่งก็ตรงไปที่โอลิมปิกคอมเพล็กซ์ซึ่งเป็นที่จัดแสดง


สถานที่จัดแสดงก็อยู่ในเขตเมืองเก่ารถตู้ขับออกมาไม่ถึงห้านาทีก็ถึงแล้วสะดวกต่อการไปมาของฉินสือโอวมากแบบนี้พอดูจนเหนื่อยแล้วเขาก็สามารถกลับไปพักผ่อนแล้วค่อยกลับมาที่งานเมื่อต้องการบริการอย่างใส่ใจที่สุด


แต่ไหนแต่ไรแคนาดาเป็นประเทศที่ไม่ได้มีคนเยอะแม้ว่าจะมีงานจัดแสดงสินค้าก็ไม่ได้มีคนมาดูเยอะเท่าไร ตัวอย่างเช่นงานจัดแสดงสินค้าอุปกรณ์ดับเพลิงนานาชาติครั้งนี้มีห้าสิบประเทศและเขตปกครองมาจัดแสดงสินค้าของพวกเขาผลสุดท้ายนอกจากผู้ผลิตอุปกรณ์ดับเพลิงแต่ละประเทศแล้วคนที่มาดูมีไม่เยอะ


โอลิมปิกคอมเพล็กซ์ที่ใหญ่โตแบ่งเป็นไม่กี่สิบส่วนแยกเป็นการจัดแสดงสีกันไฟ ประตูกันไฟ อุปกรณ์ดับเพลิง ระบบกันไฟเป็นต้นทั้งหมดเป็นตัวแทนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูงสุดของโลกในปัจจุบัน


ฉินสือโอวเดินเที่ยวชมอยู่สักพักพนักงานนำชมที่นัดหมายไว้ก็พาไปที่เขตแสดงอุปกรณ์ดับเพลิงแบบโจมตี


เขตแสดงสินค้านี้อยู่ที่ชั้นสองเมื่อขึ้นมาจะเห็นรถถังที่ทรงอานุภาพสูงตระหง่านอยู่ตรงข้ามบันได ขนาดใหญ่โตมโหฬาร กระบอกปืนแข็งแกร่งทำให้ทุกคนที่ขึ้นมาต้องตกตะลึงกันยกใหญ่


“เช็ด!” ฉินสือโอวเห็นรถถังที่ตกแต่งด้วยสีเขียวก็ตกตะลึงนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นรถถัง มันช่าง… ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!


ลำโพงห้องจัดแสดงชั้นสองกำลังเปิดเสียงที่ทรงพลัง “…ตามความเจริญก้าวหน้าของแต่ละประเทศบนโลกไม่ว่าจะประเทศไหนเมืองไหนก็มีประชากรหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ สิ่งก่อสร้างก็สูงขึ้นเรื่อยๆ”


“…แทบจะทุกครั้งที่เกิดไฟไหม้จะมีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ถ้าดับไฟได้เร็วขึ้นก็เป็นการลดการบาดเจ็บล้มตายสูญเสียทรัพย์สิน นี่เป็นการสร้างความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ดับเพลิง และสิ่งที่เป็นตัวแทนความต้องการนี้ก็คืออุปกรณ์ดับเพลิงแบบโจมตี…”


เสียงดังชัดเจนประกอบกับฉากไฟลุกไหม้ที่กำลังฉายอยู่ที่จอบนผนังรอบๆ แบบนี้เรียกความฮือฮาได้อย่างดี ฉินสือโอวอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าโอกาสเกิดเหตุร้ายในชีวิตนั้นมีมากมาย


ห้องจัดแสดงชั้นสองเป็นกำลังหลักของงานแม้ว่าของที่ชั้นหนึ่งจะมีความก้าวหน้าแต่ก็ไม่มีอะไรดึงดูดคนธรรมดาได้ ใครจะอยากสังเกตดูขวานดับเพลิงลิเธียมผสม? ใครจะอยากค้นคว้าเครื่องส่งสัญญาณเตือนควัน? ของบนชั้นสองพวกนี้ถึงจะมีแรงจูงใจต่อคนทั่วไปได้ นี่ไม่ใช่ห้องจัดแสดงอุปกรณ์ดับเพลิงแต่เป็นห้องจัดแสดงอาวุธ!


ใช่แล้วของที่ชั้นสองดูแล้วไม่เหมือนของใช้ดับเพลิงแต่เหมือนของที่ใช้รบมากกว่า ที่อยู่ตรงกลางคือรถดังดับเพลิงไม่กี่คันด้านหลังมีปืนครกดับเพลิงและยังมีรถบรรทุกแปดล้อที่บรรจุบาซูก้าดับไฟ


ถ้าของพวกนี้ไม่สามารถทำให้คนตะลึงได้อย่างนั้นรถมิสไซล์ดับเพลิงคงทำให้ผู้ชมตื่นเต้นได้?


ฉินสือโอวเดินดูผ่านๆ ไปก่อนรอบหนึ่งเขามองดูยี่ห้อของเครื่องมือดับเพลิงในงานก็ทำให้ตัวเองภูมิใจ อุปกรณ์ดับเพลิงแบบโจมตีส่วนมากล้วนติดสัญลักษณ์ธงแดงห้าดาว ถัดมาเป็นสินค้าของอเมริกาลุงแซมก็เปลี่ยนจากเทคโนโลยีทางทหารมาเป็นทางพลเรือนแล้ว ตอนนี้เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงเพียงรุ่นเดียวเป็นของพวกเขา


ตั้งแต่ต้นจนท้ายฉินสือโอวเริ่มดูจากมิสไซล์ดับเพลิงก่อน เจ้านี่มีประโยชน์ต่อฟาร์มปลาที่สุด


เพราะความเร็วเรือค่อนข้างช้าพื้นที่ของฟาร์มปลากว้างใหญ่ เมื่อพบว่ามีคนมาขโมยปลาแล้วขับเรือไปกว่าสี่ร้อยกิโลเมตรก็ตั้งเจ็ดแปดชั่วโมง


เจ็ดแปดชั่วโมงเลย ตอนนั้นพวกเรือประมงคงขโมยปลาเสร็จจนกลับบ้านไปกินข้าวแล้ว…


มีมิสไซล์ดับเพลิงก็ง่ายแล้วฉินสือโอวคิดภาพที่หรรษาที่สุดนั้นคือเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงออกตัวไปหนึ่งชั่วโมงก็เข้าใกล้เรือขโมยปลาแล้วยิงมิสไซล์ดับเพลิงจากนั้นใช้บาซูก้าดับเพลิงเก็บกวาดติดตั้งกระสุนปืนใหญ่ดับเพลิงได้ยิ่งดี กระบวนการแบบนี้เรือยักษ์หนักหมื่นตันก็ยังต้องยอมจำนน


มิสไซล์ดับเพลิงที่ใหญ่ที่สุดใหญ่เท่ากับมิสไซล์ที่ใช้บนเครื่องบินและภาคพื้นยาวสองเมตรกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางสามสิบกว่าเซนติเมตรหัวกระสุนทั้งสี่ติดตั้งที่รถปล่อยกระสุนพุ่งทะยานไปอย่างองอาจฉินสือโอวดูแล้วเดือดพล่านอย่างไม่อาจต้านทาน


รถมิสไซล์ดับเพลิงรุ่นนี้ผลิตในประเทศจีนฉินสือโอวถามเหมาเหว่ยหลงด้วยความสงสัย “ทำไมประเทศเราวิจัยอุปกรณ์ดับเพลิงแบบโจมตีเยอะขนาดนี้? ฉันเห็นประเทศอื่นๆ มีไม่เยอะ”


เหมาเหว่ยหลงมักจะเห็นคนวงในอยู่บ่อยๆ รู้เรื่องนี้อยู่บ้างเขาพูดเบาๆ “อุปกรณ์ดับเพลิงแบบนี้ล้วนใช้อาวุธที่คัดออกแล้วมาทำ เปลี่ยนจากใช้ทางทหารเป็นทางพลเรือน นายก็รู้ช่วงยุคเก้าสิบประเทศเราทำของพวกนี้เยอะจะคัดทิ้งไปเลยก็สิ้นเปลืองใช้ผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยไม่เยอะแค่ครึ่งเดียวของพวกอาวุธชั้นยอดออกมาเป็นของพวกนี้”


ฉินสือโอวรู้สึกว่าไม่ถูกพลางพูด “ไม่น่าใช่นะ ประเทศอื่นไม่มีอาวุธที่คัดออกเหรอ? รัสเซีย อเมริกา ประเทศทางยุโรปก็มีทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?”


……………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)