หมอดูยอดอัจฉริยะ 556-557

 ตอนที่ 556 มหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง (2)

โดย

Ink Stone_Fantasy

“ศิษย์พี่จั่ว จะ…จะใช่เหรอ? ที่ฮ่องกง พี่ยังจะกลัวใครได้อีก?” เมื่อเห็นสีหน้าตื่นเต้นของจั่วเจียจวิ้น เยี่ยเทียนก็รู้สึกเหลือเชื่อ


แม้ว่าจั่วเจียจวิ้นไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยระดับประเทศขนาดนั้น แต่เขาก็มีเครือข่ายกว้างขวางที่ฮ่องกง ตอนนั้นขนาดผู้ว่าการทางทหารได้เจอเขาก็ยังต้องรู้สึกยำเกรง เยี่ยเทียนจึงคิดไม่ออกว่าใครที่ทำให้เขาหวาดกลัวได้ขนาดนี้?


จั่วเจียจวิ้นส่ายหน้า และพูดว่า “ก็ไม่ถึงกับกลัว แต่ครอบครัวนั้นใหญ่เกินไป ถ้าเผยแพร่ออกไปอาจจะผิดใจคนได้ สู้ให้เรื่องราวมันยุ่งยากน้อยลงไม่ดีกว่าเรอะ”


อาชีพหมอดูฮวงจุ้ยก็คือหาความโชคดีและปัดเป่าความโชคร้าย จั่วเจียจวิ้นที่ทำอาชีพหมอดูฮวงจุ้ยมานานหลายปี หลังจากที่นึกถึงลูกหลานของคนในโลงศพหินได้แล้ว ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือการปกปิดเรื่องนี้


“ได้ งั้นกลับบ้านค่อยว่ากัน” หลังจากที่ฟังจั่วเจียจวิ้นพูดแบบนี้ เยี่ยเทียนจึงพยักหน้า ในใจกลับคิดว่าสถานะของลูกคนที่อยู่ในโลงศพหินต้องมีเรื่องที่แปลกอีกเป็นจำนวนมาก


หลังจากที่ให้เจ้าหน้าที่เฝ้ามองเถ้ากระดูกของซือซานเหลียงที่อยู่ในโลงศพ จั่วเจียจวิ้นจึงพาคนกลับมาที่บ้าน


“เยี่ยเทียน ตัว…ตัวนายไปทำอะไรมา? ทำไมสกปรกอย่างนี้?”


ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน หูก็ได้ยินเสียงตะโกนของแม่ของเขา เยี่ยเทียนจึงเผยใบหน้ายิ้มเจื่อนๆ อย่างช่วยไม่ได้ ตัวเองก็อายุยี่สิบกว่าปีแล้ว และก็ใกล้จะแต่งงานอีกด้วย แต่ในสายตาแม่ของเขาก็ยังเป็นเด็กที่ไม่โตอยู่ดี


ก่อนหน้านี้สามวัน ซ่งเวยหลันและเยี่ยตงผิงก็พาแอนนามาที่ฮ่องกง ที่จริงทั้งสองคนพักที่โรงแรม เพียงแต่ซ่งเวยหลันคิดถึงลูกชาย ถึงได้ย้ายเข้ามาที่บ้านของจั่วเจียจวิ้น


โชคดีที่จั่วเจียจวิ้นที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ในบ้านก็มีห้องหับเยอะแยะ แค่มีคนเข้ามาอยู่อีกสามคนจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร


แต่เยี่ยตงผิงกลับอึดอัดใจ ไหนบอกว่าจะมาเที่ยว แต่คิดไม่ถึงว่าภรรยาจะไม่ไปไหนเลยทั้งวัน เพราะในสายตาก็มีแต่ลูกชายอย่างเดียว


“อ้อ ไม่เป็นไรครับ พ่อ วันนี้พวกคุณไม่ออกไปเที่ยวเหรอ?”


เมื่อเห็นท่าทางของแม่ ในใจของเยี่ยเทียนก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก ตั้งแต่เด็กเขาก็เหมือนกับเด็กป่าเด็กดอย ที่ไม่เคยมีใครดูแล ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชินอยู่บ้าง แต่เยี่ยเทียนกลับรับรู้ถึงความรักของแม่จริงๆ


“ฉันอยากออกไปจะตาย”


เสียงของเยี่ยตงผิงเต็มไปด้วยความโอดครวญ แต่หลังจากที่เห็นภรรยาค้อนใส่ เขาจึงรีบพูดว่า “ฮ่องกงก็ไม่มีอะไรน่าเที่ยวหรอก พักอยู่ในบ้านก็สบายมากแล้ว จะออกไปเที่ยวหรือไม่ออกไปก็ได้!”


“ได้ งั้นคุณสองคนก็อยู่พักต่อเถอะครับ รอให้คฤหาสน์ของผมตกแต่งเสร็จแล้ว ถึงเวลานั้นค่อยย้ายเข้าไป”


เมื่อเห็นโจวเซี่ยวเทียนย้ายแผ่นศิลาลงมาจากบนรถ เยี่ยเทียนก็พูดกับแม่ว่า “ผมยังมีธุระอีกนิดหน่อย อีกสักพักจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณนะครับ”


“เรื่องอะไร? พวกเราฟังไม่ได้เหรอ?” ที่จริงซ่งเวยหลันไม่ใช่คนที่ชอบซุบซิบอะไร แต่เธอแค่แปลกใจที่ลูกชายยุ่งอะไรทั้งวัน ดังนั้นในใจก็อยากที่จะฟัง


เยี่ยเทียนพูดอย่างง่ายๆ ว่า “ก็ไม่มีอะไร สองสามวันมานี้มีคนงานเจอหลุมฝังศพ จึงเจอเรื่องที่น่าสนใจ ถ้าคุณสองคนอยากฟัง ก็เข้ามาด้วยกันได้ครับ”


หลังจากที่พาพ่อกับแม่เข้าที่อยู่ในคฟหาสน์ จั่วเจียจวิ้นก็แสดงฝีมือการชงชากังฟู และกำลังรอเยี่ยเทียนอยู่


เยี่ยเทียนไม่พูดอ้อมค้อม ถามแบบตรงๆ ว่า “ศิษย์พี่รอง ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว คนรุ่นหลังลูกสาวของซือซานเหลียงเป็นใครกันแน่ ตอนนี้พูดได้แล้วใช่ไหม?”


ในใจของเยี่ยเทียนนึกถึงคนที่อายุช่วงนี้ คนที่รวยที่สุดในฮ่องกงก็คือเปาฉวนหวังที่ตายไปแล้ว หรือไม่ก็หลี่เชาเหรินที่มีอิทธิพลอยู่ในตอนนี้


แต่ทั้งสองคนนี้เพิ่งมาฮ่องกงเมื่อสิบกว่าปีก่อน หากยึดตามหลักที่ช่างหินพูดเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกัน?


จั่วเจียจวิ้นชงชากังฟูให้เยี่ยเทียนและเยี่ยตงผิงสามีภรรยาคนละถ้วย และพูดว่า “ศิษย์น้องเล็ก ฮ่องกงมีตระกูลเฮ่อ นายเคยได้ยินไหม?”


“ตระกูลเฮ่อ? ไม่นะ ไม่เคยได้ยินมาก่อน!” เยี่ยเทียนส่ายหน้า มหาเศรษฐีที่เขารู้จักในฮ่องกง ส่วนใหญ่ก็ได้ยินมาจากปากของถังเหวินหย่วน แต่กลับไม่มีนามสุกลเฮ่อเลย


เยี่ยเทียนไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่โก่วซินเจียกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป เปิดปากถามว่า  “ศิษย์น้องจั่ว นาย…นายหมายถึงโรเบิร์ต เฮ่อตงใช่ไหม?”


“ถูกต้อง ก็คือโรเบิร์ต เฮ่อตง ศิษย์พี่ใหญ่ แม่ของเซอร์เฮ่อ ก็นามสกุลซือ…”


จั่วเจียจวิ้นพยักหน้า เมื่อปริศนาถูกเปิดเผย ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเคยทำนายโชคชะตาให้ตระกูลเฮ่อเมื่อสิบกว่าปีก่อน ก็คงไม่รู้ว่าบรรพบุรุษแม่เขาเป็นคนนามสกุลซือ


ดังนั้นหลังจากอ่านเรื่องราวที่บันทึกไว้ในแผ่นหินศิลาแล้ว จั่วเจียจวิ้นจึงนึกถึงตระกูลเฮ่อก่อนเป็นอันดับแรก ถึงแม้ฮ่องกงจะเต็มไปด้วยมหาเศรษฐี แต่คนชั้นสูงที่ไม่สามารถพูดถึงได้ ก็มีแค่ตระกูลเฮ่อที่เหมาะสมกับเรื่องนี้


“ฉันก็เคยได้ยินโรเบิร์ต เฮ่อตง…”


ถึงแม้ซ่งเวยหลันไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไร แต่หลังจากที่ได้ยินชื่อเฮ่อตง เธอจึงขมวดคิ้ว และพูดว่า “ฉันลงทุนคาสิโนในลาสเวกัส และมีหุ้นส่วนของตระกูลเฮ่อในมาเก๊า แต่เยี่ยเทียน ลูกกับตระกูลเฮ่อมีความสัมพันธ์อะไรกัน?”


“ผม…ผมกับตระกูลเฮ่อไม่มีเกี่ยวข้องอะไรกันเลยครับ!”


เยี่ยเทียนพบว่าในห้องนี้นอกจากอาจารย์และศิษย์ของเขาสองคนแล้วยังมีพ่ออีกคน ทุกคนรู้จักเฮ่อตง แม้แต่หลิ่วติ้ง ติ้งก็ยังทำสีหน้าครุ่นคิด จึงอดพูดไม่ได้ “ฉันว่าพวกคุณอย่ามัวแต่เล่นแง่กันเลย เซอร์เฮ่อตงเป็นใครกันแน่?”


จั่วเจียจวิ้นกำลังเปิดปากพูด โก่วซินจียโบกไม้โบกมือ พูดว่า “ฉันพูดเอง พูดไปพูดมาฉันกับโรเบิร์ต เฮ่อตงก็คบหากันอยู่บ้าง เฮ่อตงเกิดปี 1860 เป็นลูกครึ่งยุโรปกับคนเอเชีย…”


ในใจพลางนึกย้อนไปในความทรงจำ เสียงของโก่วซินเจียโผล่ดูเลื่อยลอย “ในช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่นฉันหนีไปฮ่องกงหลายครั้ง ได้ติดต่อกับโรเบิร์ต เฮ่อตงหลายครั้งเช่นกัน แต่ฉันยังไม่รู้ว่าแม่ของเขานามสกุลซือ…”


ในฐานะพยานที่เห็นประวัติศาสตร์ โก่วซินเจียจึงผ่านเรื่องราวมากมายในยุคปัจจุบัน และในใจของเขาก็มีความลับหลายเรื่องที่บอกใครไม่ได้


คำอธิบายของเขา เหมือนทำให้คนได้ไหลตามแม่น้ำที่ทอดยาวไปตามประวัติศาสตร์ ความรู้สึกนั้นมหัศจรรย์อย่างมาก ตัวละครเฮ่อตงนี้ได้พูดออกจากปากของเขาได้อย่างมีชีวิตชีวา


พ่อของเฮ่อตงชื่อเฮ่อเหวิน เป็นชาวเนเธอร์แลนด์ หลังจากที่ฮ่องกงเปิดเป็นท่าเรือในปี 1842 ดึงดูดนักธุรกิจชาวยุโรปและนักผจญภัยที่มองหาโอกาสทางธุรกิจในฮ่องกงจำนวนหนึ่ง เฮ่อเหวินถึงฮ่องกงในปี 1859 ก็เป็นหนึ่งคนในนั้น


เฮ่อเหวินอยู่ในฮ่องกงเป็นเวลาสิบห้าปี หลังจากนั้นเขาขายทรัพย์สินในฮ่องกงและไปอังกฤษ


แต่เฮ่อเหวินเองก็คิดไม่ถึง ว่าในเวลาสิบห้าปีนี้ลูกชายคนนั้นที่เขาให้กเนิดมา ต่อมาจะได้กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในฮ่องกง และติดอันดับคนร่ำรวยระดับโลก


คนนี้…ก็คือเฮ่อตง เขาก็คือลูกชายคนโตของเฮ่อเหวิน


หลังจากเฮ่อตงเติบโตขึ้น พ่อของเขาได้จากฮ่องกงไปแล้ว สามารถพูดได้ว่า เฮ่อตงเขาได้สร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเองทั้งหมดโดยอาศัยความสามารถของตัวเอง


ในช่วงแรก เฮ่อตงเป็นเพียงพนักงานบริษัทต่างชาติ เนื่องจากมีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด เขาก็ได้สร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และในปี 1906 เขาได้กลายเป็นพลเมืองจีนคนแรกที่อาศัยอยู่บนยอดเขาไท่ผิงซาน


เมื่อก่อนฮ่องกงมีคำพังเพย ว่าคนที่ไม่เจียมตัว ก็จะพูดว่า “คุณคิดว่าตัวเองเป็นเฮ่อตงเหรอ?” จากประโยคนี้ก็พิสูจน์ได้ว่าเฮ่อตงเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในฮ่องกง ทรัพย์สมบัติของเขาพอที่จะต่อสู้กับประเทศศัตรูได้


เฮ่อตงเองมีลูกชายสามคนลูกสาวเจ็ดคน บวกกับพี่ชายคนอื่นก็มีลูกสิบสามคน ตำแหน่งของตระกูลเฮ่อในฮ่องกงทุกตำแหน่งไม่มีใครที่สามารถสั่นคลอนได้ คนในตระกูลเฮ่อก็มีชื่อเสียงไม่น้อย


เช่นเดียวกับบรูซลีดารากังฟูที่มีชื่อเสียงระดับโลก แม่ของเขาก็เป็นหลานสาวของโรเบิร์ต เฮ่อตง คำพังเพยที่พูดว่าคนจนเรียนหนังสือ คนร่ำรวยเรียนศิลปะป้องกันตัว บรูซลีตั้งใจเรียนศิลปะป้องกันตัวตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ของครอบครัวก็ไม่มีทางห่างกันอย่างแน่นอน


ครอบครัวเฮ่อในตอนนั้น มีผลกับทุกวงการสังคมในฮ่องกงจำนวนมาก ความร่ำรวยของตระกูลเฮ่อแพร่กระจายไปทั่วเกาะ


แต่ในช่วงที่ญี่ปุ่นรุกรานประเทศจีน ตระกูลเฮ่อกลับตกต่ำลง โรเบิร์ต เฮ่อตงหนีมาที่มาเก๊า และ โก่วซินเจียก็ไปกลับระหว่างฮ่องกงและมาเก๊าในเวลานั้นเช่นกัน จึงได้รู้จักเฮ่อตง และตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็ได้ต่อต้านสินค้าและวัตถุดิบจากญี่ปุ่นไม่น้อย


แต่หลังจากที่เฮ่อตงไปจากฮ่องกง สินทรัพย์ของครอบครัวหดหายเป็นอย่างมาก หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมจำนน เฮ่อตงกลับไปที่ฮ่องกงเพื่อจัดการธุรกิจใหญ่ต่อไป


แต่ตอนนั้นเฮ่อตงเป็นชายชราที่มีอายุแปดสิบเก้าสิบปีแล้ว กำลังวังชาไม่เหมือนเมื่อก่อน นักธุรกิจรุ่นหลานก็ทำธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเฮ่อตงจากไป ตระกูลเฮ่อก็ไม่เจริญรุ่งเรื่อเหมือนตอนนั้นแล้ว


อีกทั้งหลังจากที่เฮ่อตงเสียชีวิตไป ตระกูลเฮ่อก็แตกแยก สินทรัพย์ถูกตัดออกเป็นส่วนๆ ดังนั้นตระกูลเฮ่อจึงค่อยๆเสื่อมลงไปเรื่อยๆ


ถึงแม้ว่ารุ่นหลานของตระกูลเฮ่อจะยังคงมีความมั่งคั่งอยู่มาก แต่ในบรรดาพวกเขาไม่มีสักคนที่จะสร้างชื่อเสียงเท่ากับโรเบิร์ต เฮ่อตงในตอนนี้


ในช่วงปี 1980 และ 1990 ชื่อของคนที่รวยที่สุดในฮ่องกงนั้นก็จะประกอบด้วยเปาฉวนหวังและหลี่เฉาเหริน และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เยี่ยเทียนไม่เคยได้ยินชื่อของตระกูลเฮ่อ


แต่ถึงแม้ว่าในฮ่องกงตระกูลเฮ่อจะเสื่อมลง แต่ในมาเก๊า กลับเป็นคนที่ร่ำรวยมากที่สุด นั่นก็คือเจ้าพ่อการพนันเฮ่อหงที่อยู่ในมาเก๊า


สาเหตุที่จั่วเจียจวิ้นหวาดกลัวตระกูลเฮ่อ ไม่กล้าบอกสถานะของซือซานเหลียงต่อหน้าคนอื่น แท้จริงแล้วเป็นเพราะเขาคือเจ้าพ่อการพนันที่มาเก๊าคนนั้น


ต้องรู้ว่า เฮ่อหงได้พัฒนาอุตสาหกรรมธุรกิจการพนันที่นี่มาเป็นเวลาสิบกว่าปี มีรากฐานที่มั่นคงและลึกมาก คำพูดของเขานั้นในมาเก๊าไม่ต่างจากพระราชกฤษฎีกาของจักรพรรดิในสมัยโบราณ ไกลจากที่คนอื่นคิดไว้เยอะ


ถึงแม้จั่วเจียจวิ้นจะมีชื่อเสียง แต่ก็ไม่กล้าที่จะเทียบชั้นกับเขา ถ้าหากเฮ่อหงรู้ว่าหลุมฝังศพของบรรพบุรุษของเขาถูกขุดขึ้นมา อาจจะทำให้เกิดเรื่องที่ยุ่งยากได้


หลังจากที่ได้ยินโก่วซินเจียพูดและการเสริมคำของจั่วเจียจวิ้น เยี่ยเทียนถึงกับอุทานว่า “สำนักเดียวกันเกิดคนร่ำรวยสองแห่ง เส้นสนกลในของตระกูลเฮ่อ ถือว่าลึกซึ้งจริงๆ!”


ตามคำพูดของจั่วเจียจวิ้น อย่ามองว่าตอนนี้ตระกูลเฮ่อทรัพย์สินเสื่อมลง แต่หุ้นบางส่วนที่ถือโดยลูกหลานของตระกูลเฮ่อนั้นมีมูลค่าอย่างน้อยกว่าหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ พวกเขาต่างก็เป็นคนชั้นสูงที่แฝงตัวอยู่ในฮ่องกง


“ตอนที่ครอบครัวเฮ่อตกต่ำลงในตอนนั้น เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ายึดครองฮ่องกง และศพเหล่านั้นก็ถูกฝังอยู่ในเวลานั้นพอดี จึงทำให้ฮวงจุ้ยของตระกูลเฮ่อเปลี่ยนไป”


ในใจของเยี่ยเทียนคำนวณสักพักหนึ่ง และพูดว่า “ถ้าพูดว่าการโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วของตระกูลเฮ่อ เกรงว่าจะเป็นคุณงามความดีของลี่หยวนจึทั้งหมด ถึงแม้เฮ่อหงจะเก่งกาจ แต่หลังจากที่ฮวงจุ้ยของบรรพบุรุษพัง เขาจึงได้แต่ย้ายไปอยู่ที่มาเก๊า!”


ตอนที่ 557 ค่ายกลซานฉาย

โดย

Ink Stone_Fantasy

“ถูกต้อง เทคนิควิชาของอาจารย์ไม่สามารถคาดเดาได้ น่าเสียดายที่ไม่มีการสืบทอดต่อ …”


หลังจากที่ได้ยินคำพูดของศิษย์น้องเล็ก โก่วซินเจียถึงกับถอนหายใจยาว แต่กลับไม่รู้ว่าเยี่ยเทียนได้สืบทอดวิชาหลักของสำนักเสื้อป่านมาตั้งนานแล้ว การฝึกฝนเทคนิควิชา เมื่อเทียบกับลี่หยวนจึนั้นดีกว่าหลายเท่า


แต่เยี่ยเทียนก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้ฟังได้ แค่พูดปลอบใจโก่วซินเจียว่า “ศิษย์พี่ คาถาในปัจจุบันนี้น้อยลงแล้ว นี่ก็เป็นแนวโน้มที่ดีไม่ใช่เหรอ พี่อย่าไปใส่ใจให้มากเลย”


“ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว ศิษย์น้องเล็ก ตระกูลเฮ่ออยู่ในฮ่องกงเป็นเวลาหนึ่งร้อยปีกว่า มีฐานที่ลึกมาก ห้ามแพร่งพรายเรื่องในวันนี้ออกไปเด็ดขาด”


โก่วซินเจียคิดสักพักหนึ่ง หันหน้ามามองที่หลิ่วติ้งติ้ง พูดด้วยน้ำเสียงที่กำชับว่า “ติ้งติ้ง เรื่องสำคัญมาก เธอห้ามเอาเรื่องภายในไปบอกคนอื่นเด็ดขาด!”


ศิษย์ทั้งสองคนของเยี่ยเทียนที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ เยี่ยตงผิงและภรรยาต่างก็เป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนแล้ว รู้ว่าอะไรที่เป็นภัยและเป็นประโยชน์ พวกเขาไม่เอาไปเผยแพร่อย่างแน่นอน มีแค่หลิ่วติ้งติ้งที่ได้สัมผัสกับคนรวยในฮ่องกงเยอะ โก่วซินเจียเลยต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ


“ค่ะ ท่านอาจารย์ลุง!”เมื่อเผชิญหน้ากับโก่วซินเจีย นิสัยที่เย่อหยิ่งของหลิ่วติ้งติ้งกลับไม่กล้าเผยออกมา และได้แต่ตอบรับแต่โดยดี


“พอแล้ว ยุ่งกันมาหลายวันแล้ว ทุกคนเหนื่อยกันหมดแล้ว รีบไปพักผ่อนกันเถอะ”


เมื่อเห็นว่าได้อธิบายเรื่องเหตุผลชัดเจนแล้ว โก่วซินเจียจึงลุกขึ้น การโปรดสัตว์ของโครงกระดูกของซือซานเหลียงในครั้งนี้ พวกเขาศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสามได้หมดพลังอย่างมาก การบาดเจ็บที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เกรงว่าเวลาแค่สามหรือห้าเดือน ก็ยากที่จะฟื้นฟูขึ้นมา


ถ้าไม่ใช่ว่าการดำเนินการก่อสร้างพวกเขาต้องควบคุมอยู่ โก่วซินเจียอยากจะหลบรักษาแผลที่เรือนสี่ประสานของเยี่ยเทียนที่เมืองปักกิ่ง


“เยี่ยเทียน มา มาพูดให้ฉันฟังหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”


หลังจากที่รอทุกคนแยกย้าย ซ่งเวยหลันไปจับลูกชาย เมื่อครู่ที่ซ่งเวยหลันยังฟังพวกเขาสองสามคนคุยกันก็ไม่เข้าใจ ซึ่งความจริงแล้วเธอไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้


เยี่ยเทียนรู้ว่าแม่มีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง ในตอนนั้นก็ไม่ได้ปิดบังอะไร ได้อธิบายเรื่องที่ผ่านไปแล้วให้ฟังอีกรอบหนึ่ง เมื่อซ่งเวยหลันกับซ่งตงผิงทั้งสองได้ฟังก็มองหน้าซึ่งกันและกัน


“ฮวงจุ้ยมหัศจรรย์แบบนี้เลยเหรอ?” ถ้าคนที่พูดไม่ใช่ลูกชาย ซ่งเวยหลันเกรงว่าจะด่าไปตั้งนานแล้ว เพราะเรื่องพวกนี้มันแปลกประหลาดมากเกินไป


“แหะๆ ของที่บรรพบุรุษสืบทอดกันมาหลายพันปี มักจะมีเหตุผลอื่นอยู่ข้างใน ต่อไปคุณเห็นบ่อยเข้าก็จะเข้าใจครับ…”


เยี่ยเทียนยิ้มและไม่ได้อธิบายอะไรมาก คนสำนักฉีเหมินอย่างพวกเขากับคนธรรมดาชีวิตเดิมทีก็อยู่กันคนละโลก ยากที่จะเข้าใจปัญหา


หลังจากที่แก้ปัญหาการก่อสร้างถนนที่ยากนี้เสร็จ ต่อไปการพัฒนาโครงการวิศวกรรมก็คงจะราบรื่นเยอะ เร็วสุดต้องใช้เวลาสองอาทิตย์ ซากปรักหักพังพวกนั้นจะกลายเป็นสวนริมถนนขนาดใหญ่


ตรงกลางสวนดอกไม้ สร้างฐานหินอ่อนสูงประมาณห้าเมตร ลูกบอลคริสตัลขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสามสิบเซนติเมตรอยู่เหนือฐาน


ด้านนอกของลูกบอลคริสตัลเป็นงานฝีมือทรงกลมทำจากโลหะผสมที่มีลักษณะเหมือนดวงอาทิตย์


ของสิ่งนี้เยี่ยเทียนได้ออกแบบมา มันไม่เพียงแต่กำจัดพลังพิฆาตและระงับพลังหยิน ในขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันการโจรกรรมได้ แค่ลูกคริสตัลนี้มีมูลค่าสูงลิบลิ่วแล้ว


หลังจากที่สร้างฮวงจุ้ยบอลแล้ว รถที่เข้าออกที่นี่ ต้องผ่านลูกบอลฮวงจุ้ยด้านซ้ายและด้านขวาทั้งสองด้าน ก็เหมือนกับการนวดจากซ้ายไปขวา ทำให้ลูกบอลฮวงจุ้ยเคลื่อนไหวไปมา


เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่เพียงแต่พลังหยินในบริเวณนี้ทั้งหมดจะกลายเป็นพลังของความมงคล และยังพัดพาพลังวิญญาณที่ยุ่งเหยิงไปยังทะเลด้านหน้า พลังระหว่างฟ้าดินที่แน่นขนัดได้ส่งไปที่อยู่อาศัยของเยี่ยเทียนที่อยู่ตรงไหล่เขานั้นไม่ขาดสาย


ก่อนอื่นชาวบ้านที่เดินทางบนถนนสายนี้รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมสวนน้ำ จู่ๆ ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ชาวบ้านบางคนขายงานหัตถกรรมเปลือกหอยที่ทำด้วยตัวเองก็ขายได้จำนวนไม่น้อย


นี่ทำให้สองสามหมูบ้านละแวกนี้ค่อยๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น คนหนุ่มสาวบางคนที่ออกไปทำงานในเขตเมือง ก็กลับมาที่หมู่บ้านเพื่อเตรียมงานใหญ่


คนที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงคนต่อไป ก็คือพวกคนที่มีบ้านหรูที่อยู่กลางภูเขา ตอนที่พวกเขาออกมากำลังกายทุกเช้า ก็จะพบอากาศบนภูเขา ที่ดูเหมือนว่าจะสดชื่นกว่าทุกวัน ทุกครั้งที่ออกกำลังกาย ในทุกๆ วันก็จะรู้สึกกระปี้กระเปร่าขึ้นมา


คนพวกนี้ต่างก็เป็นคนที่รอบรู้ เมื่อถามข่าวคราว ก็รู้ว่าเป็น“ปรมาจารย์จั่ว”ที่เป็นคนจัดฮวงจุ้ย ทำให้มีผลต่อภูเขาเช่นนี้ หลังจากนั้นสองสามวัน ชื่อของปรมาจารย์จั่วจึงกลายเป็นคำพูดติดปากของคนพวกนี้


และมีคนเสนอเงินก้อนใหญ่เชิญจั่วเจียจวิ้นมาช่วยดูฮวงจุ้ยที่บ้านให้ตลอด แต่ก็ถูกจั่วเจียจวิ้นปฏิเสธ ตอนนี้เขากำลังเตรียมก่อสร้างเสาฮวงจุ้ยให้กับศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองคน แล้วจะมีเวลาไปจัดการเรื่องที่ไร้สาระแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ?


จัตุรัสฮวงจุ้ยได้เริ่มก่อสร้างเมื่อสามวันก่อน ประการแรกคือวางรากฐานก่อน แต่รากฐานนี้ก็ต้องประณีตเช่นกัน กระทั่งการออกแบบสวนจัตุจักร ทั้งหมดต่างก็แแฝงไปด้วยค่ายกลคาถา


สามวันมานี้ ศิษย์น้องของโก่วซินเจียสองสามคนต่างก็อยู่ที่นี่ตลอด เยี่ยเทียนเข้มงวดกับพวกคนงานมากกว่าเดิม เพราะมุมหนึ่งของสวนผิดไปสามเซนติเมตร จึงถูกสร้างใหม่


เมื่อมีจั่วเจียจวิ้นคอยคุมค่ายกล บวกกับเยี่ยเทียนที่รู้การเรื่องงานอย่างมาก เมื่อชี้ถึงความผิดพลาด ทำให้พวกคนงานเหล่านั้นพูดไม่ออก ดังนั้นจึงได้แต่กลับไปทำใหม่แต่โดยดี


“เยี่ยเทียน ค่ายกลที่คุณวางไว้มันค่อนข้างที่จะวุ่นวายหรือเปล่า? ด้านในสุดก็คือค่ายกลการซานฉาย ถัดไปข้านอกคือสี่ปรากฏการณ์ สุดท้ายก็เป็นปากั้วแปดเอกลักษณ์ ค่ายกลในสวมอยู่ในค่ายกลนี้ มีวิธีการพูดอะไรไหม?”


เมื่อมองภาพวาดในมือ โก่วซินเจียถึงกับขมวดคิ้วขึ้น ค่ายกลเหล่านี้ถ้าวาดเดี่ยวๆ เขาก็ดูออกทั้งหมด แต่เยี่ยเทียนกลับเอาค่ายกลใหญ่ทั้งสามมารวมกัน ทำให้โก่วเจียซินถึงกับงงดูไม่ออก


เยี่ยเทียนยิ้มแล้ว พูดว่า “ศิษย์พี่ ลูกบอลฮวงจุ้ยหมุนเวียนเปลี่ยนพลังความโชคดีค่อนข้างน้อย ผมจัดตั้งค่ายกลสามแบบนี้ ก็มีชื่อเรียกเหมือนกัน มันเรียกว่าค่ายกลซานฉายเปลี่ยนสุริยัน ทั้งสามขั้วนี้แบ่งเป็นฟ้า ดิน และคน จางจิ้งเคยพูดในตำรา ‘กวนเซี่ยงฟู่’ แม้ว่าเสาทั้งสามนั้นจะแตกต่างกัน แต่ใช้เวทย์มนตร์ก็เหมือนกัน ผมตั้งชื่อมาจากหลักการพวกนี้ครับ…”


ค่ายกลที่เยี่ยเทียนเลือกใช้ทั้งหมด ที่อยู่ในสมองเขาทั้งหมดสืบทอดออกมาได้ยากที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นรูปแบบที่ดีที่สุดในการรวบรวมพลังวิญญาณ


ทั้งสามวิธีอยู่ตรงจุดล่างสุดของเสาฮวงจุ้ย จะแกะสลักหน้าคนสามคน แบ่งเป็นจักรพรรดิหยาน หวงและฝูซี พวกเขาสามคนเป็นตัวแทนของสวรรค์และโลกและยังสามารถปราบปรามวิญญาณชั่วร้ายในโลกมนุษย์ได้


ส่วนบนพื้นที่ตั้งอยู่นอกซานฉาย จำเป็นต้องแกะสลักสัตว์เทพทั้งสี่คือมังกรฟ้า เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำ พวกมันจะคอยปกป้องคุ้มครองแต่ละทิศ พลังชี่แท้จะคอยดูดซับค่ายกลปากว้าผสมผสานเข้าไปในค่ายกล กำจัดพลังพิฆาตและเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความโชคดีและสิริมงคล


ส่วนค่ายกลปากว้าที่อยู่ด้านนอกสุด สามารถเรียกว่าค่ายกลจิ่วกงปากว้า


เก้าคือจำนวนที่มากที่สุด นำลิ่วเหยาแบ่งเป็นอย่างละสามของป้ากว้า พูดได้ว่า หนึ่งให้กำเนิดสอง สองให้กำเนิดสาม สามให้กำเนิดทั้งหมายทั้งปวง และยังเรียกว่าหลักการของไท่จี๋ ทวิภาวะให้กำเนิดสี่ปรากฏการณ์  สี่ปรากฏการณ์ให้กำเนิดแปดเอกลักษณ์ปากว้า ปากว้าเปลี่ยนเส้นเหยาไขว้หกสิบสี่เส้น นับตั้งแต่นั้นก็เกิดการหมุนเวียนรอบแล้วรอบเล่าไม่รู้จบ


ที่ตั้งมังกรของค่ายกลนี้ หันหน้าเข้าหาปากแม่น้ำ ราวกับมังกรที่ดูดซับน้ำดูดพลังแห่งท้องทะเล พลังแห่งท้องทะเลคลื่นโหมซัดเข้ามาไม่หยุด หมุนเวียนเป็นวัฏจักรอย่างไม่ขาดสาย


ค่ายกลทั้งสามค่ายนี้มีหน้าที่แตกต่างกันไป แต่ละค่ายกลต่างก็รับผิดชอบแต่ละส่วน ถ่ายทอดพลังมงคลเข้าสู่เสาหลักของฮวงจุ้ย จากนั้นเยี่ยเทียนก็จะสร้างค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณตรงกลางบ้าน โดยที่ให้เสาฮวงจุ้ยดูดพลังมงคลทั้งหมดเข้ามา


แต่เยี่ยเทียนจะสามารถวางค่ายกลให้สมบูรณ์แบบได้หรือไม่ ในใจของเยี่ยเทียนเองก็ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่มีเงินทุนที่เพียงพอและจั่วเจียจวิ้นก็รู้จักคนที่ฮ่องกง เขาเองก็ไม่กล้าที่จะสร้างค่ายกลนี้ขึ้นมา


เพราะค่ายกลซานฉายเปลี่ยนสุริยันนี้ต้องประกอบไปด้วยซานฉายสี่ปรากฏการณ์รวมทั้งค่ายคลปากว้า แต่ละค่ายกลกจะต้องใช้วัสดุที่ไม่เหมือนกัน ก็เหมือนพวกทอง หิน หยกพวกนี้ ที่เป็นวัสดุพื้นฐานในการสร้างค่ายกล ซึ่งไม่ใช่คนธรรมดาที่จะซื้อได้


และในค่ายกลของค่ายกลนี้ จะต้องให้มันสอดคล้องกัน ตอนที่ทำการสร้างค่ายกลนั้นจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ถ้าผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็เท่ากับทุกอย่างเสียเปล่า


“มีค่ายกลที่น่ามหัศจรรย์แบบนี้ด้วยเหรอ?”


เมื่อเยี่ยเทียนได้อธิบายให้โก่วซินเจียและจั่วเจียจวิ้นฟังก็ถึงกับตกตะลึง เขาสองคนมีอายุรวมกันได้หนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดปีแล้ว แต่ค่ายกลแบบนี้ อย่าว่าแต่เคยเห็นเลย แม้แต่ได้ยินก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน


“ศิษย์พี่ ค่ายกลนี้มีอยู่ก็จริง แต่จะทำได้สำเร็จหรือไม่นั้น ผมเองก็ไม่ได้แน่ใจ”


เยี่ยเทียนยิ้มเจื่อนๆ ในใจ ถ้าสร้างค่ายกลทั้งสามแยกกัน เขามีความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้กลับต้องนำทั้งสามค่ายกลรวมเป็นหนึ่ง ในใจของเยี่ยเทียนกลับไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไร


“ไม่กลัว พวกเราสนับสนุนนาย ศิษย์น้องเล็ก จะต้องสร้างค่ายกลซานฉายเปลี่ยนสุริยันอกมาให้พวกเราเห็นได้แน่นอน!” จั่วเจียจวิ้นตบบ่าของเยี่ยเทียนเบาๆ และพูดให้กำลังใจสนับสนุน


“ได้ ศิษย์พี่ คงต้องให้พวกพี่ออกแรงช่วยด้วยนะครับ”


เยี่ยเทียนแบะปาก ถ้าเขาอยู่ที่นี่คนเดียว ก็คงไม่คิดเพ้อฝันเรื่องค่ายกลนี้ และจากวรยุทธของเขา จึงไม่สามารถสร้างสามค่ายกลรวมเป็นหนึ่งได้


โครงสร้างพื้นฐานทางวิศวกรรมใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ เมื่อเสาหลักฮวงจุ้ยมีความลึก 8.8 เมตรและกว้าง 3.6 เมตรขุดเสร็จ เยี่ยเทียนก็ไล่ทีมงานวิศวกรออกไปให้หมด และให้จั่วเจียจวิ้นส่งคนมาล้อมรอบในระยะหนึ่งร้อยเมตร


“เยี่ยเทียน การทำแบบนี้คุ้มค่ามากจริงๆ!”


เมื่อมองไปเห็นวัตถุที่คลุมด้วยผ้าไหมสีแดงบนรถเข็น แม้แต่จั่วเจียจวิ้นก็อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปาก


ไม่แปลกใจเลยที่เยี่ยเทียนจะระมัดระวังแบบนี้ หากมีคนรู้ว่ามีทองคำสามตันซ่อนอยู่ใต้เสาฮวงจุ้ยนี้ เกรงว่าพวกอันธพาลอย่างเยี่ยจี้ฮวนก็ไม่ต้องไปปล้นร้านทองแล้ว แค่ระเบิดเสาฮวงจุ้ยนี้ก็สิ้นเรื่อง


“ศิษย์พี่ อย่าพูดจาไร้สาระเลย รีบมาช่วยแขวนลงไปเถอะ”


เยี่ยเทียนยกผ้าสีแดงบนรถ น้ำเต้าฮวงจุ้ยอันหนึ่งที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์มาปรากฎต่อหน้าสองสามคน ถึงแม้ตอนนี้เป็นเวลาใกล้มืด แต่ในดวงตาทั้งสองสามคนก็ยังเห็นประกายสีทองอร่าม


ด้านล่างสุดของเสา ทำตามคำของเยี่ยเทียนที่ให้ขุดเป็นรูปน้ำเต้า เหมาะที่จะเอาน้ำเต้าฮวงจุ้ยนี้วางไว้ในนี้ เพื่อให้เป็นฐานของเสาฮวงจุ้ย


อย่ามองว่าเต้าหู้ฮวงจุ้ยอันนี้บรรจุทองคำสามตัน ที่จริงแล้วเยี่ยเทียนไม่สนใจสิ่งนี้ แต่ที่ทำให้เขาเจ็บปวดใจ ก็คือวัตถุที่จำเป็นต้องใช้ของค่ายกลที่เหลืออีกสองอัน


………………………….

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)