หมอดูยอดอัจฉริยะ 548-549

 ตอนที่ 548 แปลกประหลาด

โดย

Ink Stone_Fantasy

“อ๋อ มีคนทำฮวงจุ้ยอยู่ที่นั่น ศิษย์พี่มองไม่ออก”


เยี่ยเทียนกล่าวพร้อมคิ้วขมวด ศิษย์พี่รองจั่วเจียจวินนั้นก็ไม่เท่าไหร่ แต่โก่วซินเจียคนระดับนี้


ถึงแม้ว่าลัทธิเสื้อป่านไม่ถนัดการดูชัยภูมิฮวงจุ้ย แต่ในปีนั้นโก่วซินเจียพาคนในฉีเหมินต่อต้านญี่ปุ่น ในจำนวนนั้นก็มีอาจารย์ดูฮวงจุ้ย ความรู้นั้นน่าจะได้กันมาบ้าง


“ไม่เหมือนเป็นคนวางหลักฮวงจุ้ยเอาไว้ แต่เหมือนกับเป็นรูปแบบธรรมชาติ…”


โก่วซินเจียพลันหยุดชะงักไปนิดหนึ่ง กล่าวต่อว่า “ศิษย์น้อง นายก็รู้ว่า ชี่พิฆาตธรรมดานั้นหากเข้าสู่ร่างกายเจ็บป่วยเล็กน้อย ศิษย์พี่นั้นสามารถสลายไปได้ แต่สำหรับสถานที่ที่เป็นหยินพิฆาต ฉันก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดี นอกจากว่าเปิดปรัมพิธี แต่นั่นอย่างน้อยจะต้องใช้เวลา 49 วัน การก่อสร้างของพวกเรานั้นรอไม่ได้ขนาดนั้น”


ไม่ใช่ว่าโก่วซินเจียและจั่วเจียจวินหมดหนทางที่จะจัดการสถานที่นั้น แต่หากว่าใช้วิธีการของพวกเขานั้น จะต้องยืดเวลาออกไปอีกนาน เป็นเพราะแบบนี้จึงเรียกให้เยี่ยเทียนกลับมา


“สถานที่ที่เป็นพลังหยิน”


เยี่ยเทียนตะลึงงันไป และเริ่มส่ายหัว ฮวงจุ้ยของสถานที่แห่งนั้น ฉันเคยมองในระยะไกลมาก่อน แต่ไม่ได้เป็นสถานที่ที่เป็นพลังหยินหรอก”


ลักษณะของพื้นที่พลังหยินนั้นการจะเกิดขึ้นได้จะต้องลำบากมาก เช่นกัน…สถานที่หนึ่งจะกลายเป็นสถานที่พลังหยิน ก็จะกลายเป็นพื้นที่แห้งแล้ง เห็นได้ชัดเจนมาก


อาจารย์ฮวงจุ้ยที่เข้าใจการดูพลังชี่นั้น ห่างกันสิบลี้ก็จะต้องเห็นชี่พิฆาตพวยพุ่งขึ้นมา เยี่ยเทียนเคยยืนสังเกตอยู่บนภูเขา ตัวเองถามกับตัวเองแล้วมั่นใจว่าไม่ได้หลงหูหลงตาไป


เห็นสีหน้าเยี่ยเทียนสงสัยไม่คลายนั้น จั่วเจียจวินก็ลุกขึ้นยืน กล่าวว่า “พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราไปดูกันเถอะ!”


เยี่ยเทียนพลิกข้อมือ จานหลัวอันปรานีตขนาดเท่าฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ


มองไปที่จานหลัว โก่วซินเจียและจั่วเจียจวินตื่นเต้นอยู่บ้าง โบราณว่าไว้ เห็นของก็คิดถึงคน เสียงและหน้าตายิ้มแย้มของนักพรตเฒ่าลอยปรากฏอยู่ในความทรงจำ


หลังจากสะอึกสะอื้นกันชั่วครู่ ทั้งหมดก็ออกจากห้อง จั่วเจียจวินขับรถพาเยี่ยเทียนและโก่วซินเจียไป ส่วนเหลี่ยวติ้งติ้งและโจวเส้าเทียนนั้นขับรถสปอร์ตอีกคันตามหลังไป ตรงไปยังสถานที่เกิดเหตุ


ขับรถออกมาจากบริเวณพื้นที่คฤหาสน์ จั่วเจียจวินก็มองไปที่เยี่ยเทียน กล่าวถามว่า “ศิษย์น้อง นายจะดูคนที่ถูกชี่พิฆาตหรือว่าจะไปสำรวจชัยภูมิก่อน”


ถึงแม้ว่าจั่วเจียจวินและโก่วซินเจียจะช่วยเหลือพวกคนที่ “ถูกชี่พิฆาต” ขจัดออกไปจากร่างกาย แต่ชี่หยินพิฆาตนี้ส่งผลกระทบกับร่างกายคนเป็นอย่างมาก คนพวกนั้นไม่แน่ว่าอาจจะต้องนอนพักอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งกว่าจะดีขึ้น


เทียนคิดซักครู่ ก็กล่าวว่า “ยังไงเสียก็ต้องผ่านทางนั้นก่อน ไปดูสถานที่ก่อนแล้วกัน”


ที่พักของจั่วเจียจวินห่างจากคฤหาสน์ใหญ่โตครึ่งหุบเขาของเยี่ยเทียนไม่ไกล หลังจากประมาณยี่สิบนาที รถก็ขับเข้าสู่ตีนภูเขาจากนั้นเลี้ยงซ้ายเข้าไปทางแยกสายหนึ่ง ก็คือถนนเส้นที่เยียเทียนจะติดตั้งลูกหินฮวงจุ้ย


“หยุด เป็นที่นี่ใช่มั๊ย”


เมื่อรถมาถึงยังสถานที่ที่อาคารถูกลื้อระเกะระกะไปหมด เยี่ยเทียนก็เรียกให้หยุดรถ จั่วเจียจวินเปิดไฟกระพริบ ขับรถเข้าไว้ข้างถนน


“นี่…งานนี่ใครเป็นคนทำกันเนี่ย”


เห็นที่พื้นเต็มไปด้วยไม้ผุพังและกระเบื้องและยังมีไม่ไกลกันนักมีหลุมใหญ่ลึกประมาณสามเมตรกว่า เยี่ยเทียนขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ นี่แน่นอนว่าไม่ใช่คนมืออาชีพเป็นคนทำ


ต้องทราบก่อนว่า ทีมผู้รับเหมาก่อสร้างจริงๆ นั้นเคารพกฏเกณฑ์เป็นอันมาก อย่างเข่นข่างไม้ ช่างหิน จริงๆ แล้วก็มีความเข้าใจในการรื้อถอนพื้นที่และเข้าใจข้อควรระวังทั้งหมดอยู่


อาทิเช่นอุปกรณ์รังวัดเส้นตรงของช่างไม้ ตามที่เล่าคือหลู่ปังเป็นคนคิดค้น อุปกรณ์รังวัดปล่อยเส้นด้ายออกมาก็เป็นของดีในการกำจัดชี่หยินพิฆาต


มีหลายตำนานที่กล่าวถึงโรงผีอาฆาต ผีดิบประเภทนี้ ขอแค่ด้านนอกโลงมีการตีเส้นรังวัดเอาไว้ พวกนั้นก็จะออกมาด้านนอกไม่ได้ เพราะเส้นรังวัดเดินไปมาเป็นเส้นตรง มีชื่อเรียกว่าเป็นสิ่งของที่เที่ยงตรงที่สุดในโลก


และคนที่ขุดพื้นที่ มักจะเป็นในตอนที่ชุดเจอวัตถุโบราณ มักจะโรยข้าวเพื่อใช้สำหรับขจัดสิ่งชั่วร้าย หากว่ารื้ออาคารเก่า ก็จะนำคานของอาคารที่ลื้อออกมาวางให้เรียบร้อย ใช้ธูปเทียนไหวบูชาขอให้การก่อสร้างราบรื่น


                แต่ต่อหน้าต่อตาของเยี่ยเทียบริษัทนี้ กลับระเกะระกะไม่เป็นที่เป็นทาง คานทั้งสี่ทิศของห้องวางไว้ ทุกที่นั้นมีกลิ่นเชื้อราของไม่เก่ากระจายเต็มไปหมด


ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นตอนบ่าย แต่เมื่อยืนหายใจอยู่บริเวณนี้ ก็ยังคงสัมผัสได้ว่าตัวเย็น เหมือนกับว่าพระอาทิตย์บนฟ้าไม่ได้อยู่ในภพเดียวกับตัวเอง


“นี่เป็นพวกคนในหมู่บ้านทำ การก่อสร้างเล็กน้อยๆ ฉันไม่ได้ใส่ใจ ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะใจร้อนกันขนาดนี้”


เมื่อได้ฟังข้อสงสัยของเยี่ยเทียน จั่วเจียจวินก็สีหน้าลำบาก หากพูดในฐานะของเขานั้นไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ตลอดวันเหมือนพวกก่อสร้างได้ เช่นงานรื้อถอนพื้นที่พวกนี้ ล้วนแต่ไปหาบริษัทก่อสร้างให้เป็นคนจัดการ


เพียงแต่ว่าพวกชาวประมงที่อยู่ข้างเคียงเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ จึงได้ระบุพื้นที่นี้พวกเขาจะดำเนินการเอง


โบราณว่าไว้มังกรแข็งยากที่จะกดหัวงูให้อยู่กับพื้น บวกกับพื้นที่ที่จะรื้อถอนนั้นก็ไม่กว้าง บริษัทก่อสร้างก็เลิกยกให้พวกเขา จึงได้เกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้นในภายหลัง


“เอ๋ ไม่ถูก เหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องของอาคาร”


เมื่อสายตาของเยี่ยเทียนไปสบกับของกว้างเจ็ดแปดเมตร ความลึกประมาณสองสามเมตรแล้ว ส่งเสียงตกใจร้องออกมาจากปาก รีบเดินรุดไป


ฮ่องกงนั้นฝนตกชุก แม้แต่หน้าหนาวก็ไม่เว้น ตั้งแต่ขุดปากหลุมนี้จนถึงตอนนี้ ในระหว่างนั้นก็มีฝนตกตลอด ทำให้ในหลุมนั้นเต็มไปด้วยน้ำ ด้านบนมีเศษไม้ลอยอยู่


สำหรับโครงกระดูกนั้น ถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บไปหมดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงกระดูกพวกนี้อยู่ เพื่อจะหาช่วงเวลาและสาเหตุในการเสียชีวิต


จั่วเจียจวินเดินมาด้านข้างของเยี่ยเทียน กล่าวว่า “เยี่ยเทียน หลุมนี้พวกเราตรวจสอบแล้ว จุดที่ลึกที่สุดคือสามเมตรหนึ่ง”


“ศิษย์พี่ใหญ่ พี่ว่าอย่างไง” เยี่ยเทียนหันหน้ากลับไปมองโก่วซินเจีย


โก่วซินเจียขมวดคิ้ว กล่าวว่า “หลุมนี้มีอะไรแปลกๆ ว่ากันแล้วกระดูกถูกนำออกมาแล้ว ชี่พิฆาตไม่ควรจะหนาแน่นแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าด้านล่างอาจจะมีตาของชี่พิฆาตอยู่…”


พื้นที่โดยรอบสิ่งของไม่ใช้เต็มไปด้วยชี่พิฆาต ล้วนแล้วแต่มาจากหลุมนี้ โก่วซินเจียเคยสวด “คัมภีร์เทพ”รอบ ๆ บริเวณ แต่ผลที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้


ในตอนที่โก่วซินเจียสวดนั้น ชี่พิฆาตพวกนั้นถูกทำให้หายไป แต่เพียงโก่วซินเจียหยุดสวด ชี่พิฆาตเหล่านั้นก็กลับมารวมกันใหม่ คล้ายกับว่าในหลุมนั้นมีตาของพลังหยินอยู่ก็ไม่ปาน


ไม่ใช่ว่าโก่วซินเจียไม่มีทาง หากว่าสามารถใช้เวลานานในการเปิดปรัมพิธีได้ มีเวลา 49 วัน ต่อให้สถานที่นี้เป็นตาของพลังหยินก็สามารถสะกดเอาไว้ได้


“เยี่ยเทียน ฉันได้ฟังจากผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้านพวกนั้นบอกว่า จริง ๆ แล้วคนตายที่ขุดขึ้นมานั้น ไม่ใช่ตายที่นี่ แต่เป็นหลังจากตายแล้วถูกอาจารย์ฮวงจุ้ยดูแล้วก็ค่อยย้ายมาที่นี่”


เสียงของโก่วซินเจียเพิ่งจะพูดจบ จั่วเจียจวินก็พูดเสริมตามมา


มุมมองของเขาและโก่วซินเจียนั้นเหมือนกัน เพราะสถานที่ที่เป็นตาของพลังหยินนั้นเป็นสถานที่ที่เหมาะในการฝังคนตาย ต่อให้พวกนี้เป็นพวกศพนิรนาม ก็สามารถให้ชีวิตในโลกหน้าของพวกเขานั้นมีความสุขได้


“ไม่ใช่ตาของพลังหยิน ตาของพลังหยินจะทำให้ชี่พิฆาตและแรงโกรธผสานกัน กลายเป็นชี่ที่เกิดมงคล ค่อยๆ ทำให้คนตายที่เอาความแค้นเคืองติดตัวมาแปรเปลี่ยนไป แน่นอนว่าไม่ใช่ด้วยจุดประสงค์ให้พวกเขาไปเกิดใหม่ ทำให้เกิดชี่พิฆาตเกาะติดร่างกาย”


เยี่ยเทียนส่ายหัว ปฏิเสธแนวคิดของศิษย์พี่ทั้งสอง เดินรอบหลุมนี้ที่กลายเป็นบ่อน้ำขนาดเล็กแล้วหนึ่งรอบ กล่าวว่า “ศิษย์พี่ ไปกันเถอะ พวกเราไปบ้านดูชาวประมงพวกนั้นกัน”


“ทำไมเหรอ มีความคิดแล้วเหรอ”


โก่วซินเจียมองค้อนเยี่ยเทียนไปหนึ่งที แต่ก็มีหลายส่วนที่ยังไม่เชื่อ เขานั้นชำนาญในการวางค่ายกล ซึ่งเกี่ยวพันกับชัยภูมิฮวงจุ้ย ในใจนั้นมั่นใจมากว่าสถานที่นี้เป็นตาของพลังหยิน


“ไม่แน่ใจ พวกเราไปดูกันก่อนเถอะ” เยี่ยเทียนไม่ได้ว่าจะปกปิดไม่ยอมบอก แต่ตอนนี้เขามีหลายอย่างที่ไม่แน่ชัด


จั่วเจียจวินขับรถไปทางริมทะเล ในตอนที่ห่างจากทะเลใหญ่ร้อยกว่าเมตรนั้น ก็สามารถได้กลิ่นคาวของน้ำทะเล และต่อหน้าของพวกเขาก็ปรากฏสวนน้ำที่ทันสมัยขึ้น


เพียงแต่ว่าน้ำทะเลที่นี่ถึงจะเป็นสีน้ำฟ้า แต่กลับไม่มีคน แม้กระทั่งสถานที่อาบน้ำนั้นก็ดูทรุดโทรมอยู่บ้าง สำหรับพื้นที่ราคาแพงหูฉี่อย่างฮ่องกงนั้น นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก


จากสวนน้ำเลี้ยวเข้าขวาเข้าสู่ทางแยกสายหนึ่ง จากนั้นขับตรงต่อไปอีกประมาณห้าหกร้อยเมตร ก็มีหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่กันหลายร้อยหลังคาเรือน


ฮ่องกงในสมัยก่อนนั้น หมู่บ้านชาวประมงแบบนี้นั้นมีค่อนข้างเยอะ เหมือนกับหนานยาเต่าที่ดาราโจวเหวินฟะนักแสดงภาพยนต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอาศัยอยู่ ชาวบ้านด้านบนก็อาศัยการจับปลาประทังชีวิต แต่ตอนนี้ถูกสร้างให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนว่ายน้ำ


“พี่จั่วมาแล้วเหรอ ยังมีคุณตาเคราขาวก็มาด้วย!”


จั่วเจียจวินและโก่วซินเจียเพิ่งลงจากรถ เด็กที่เล่นซนกันอยู่ปากทางหมู่บ้านก็ล้อมกันเข้ามา และยังมีคนที่พอมีอายุอยู่ด้วย แต่วิ่งแน่บกลับไปแจ้งข่าวในหมู่บ้านแล้ว


“อาจารย์จั่ว คุณมาแล้วเหรอ เร็ว…เชิญเข้าไปด้านใน!”


ไม่รอให้เยี่ยเทียนพวกเขาได้เดินเข้าหมู่บ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ก็เดินออกมาต้อนรับกันแล้ว ท่าทางนั้นยินดีเป็นอย่างมาก


ต้องทราบก่อนว่า ในตอนนั้นหลังจากพวกคนหนุ่มในหมูบ้านถูกของแล้ว. ส่งไปโรงพยาบาลหมอยังหาทางไม่ได้ หากว่าไม่ใช่จั่วเจียจวินและคนสูงอายุที่อยู่ด้านข้างออกหน้าช่วย หลายคนน่าจะร้ายมากกว่าดีแล้ว


จั่วเจียจวินหัวเราะ กล่าวว่า “ผู้ใหญ่บ้านอู๋ ไม่ต้องเกรงใจ ฉันมาดูอาการพวกเขา สองสามวันนี้ไม่มีอาการอะไรกลับมาอีกใช่มั๊ย”


“ไม่มี ฟื้นตัวดี ตอนนี้ลุกจากที่นอนได้แล้ว นี่ต้องขอบคุณอาจารย์จั่วมากมาก”


ผู้เฒ่าคนแรกหลังจากตอบแล้ว ก็ใช้เท้าแตะไปยังเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปี กล่าวว่า “ให้เหล่าโต้วเอาของทะเลที่ได้มาเมื่อเช้าออกมา คืนนี้พวกเราต้อนรับแขก”


จั่วเจียจวินรีบกล่าวห้าม “ไม่ต้อง ผู้ใหญ่บ้านอู๋ ฉันมาดูเดี๋ยวเดียวก็ไป ยังมีธุระอื่นอีก”


“นั่นไม่ได้นะ!”


ผู้ใหญ่บ้านอู๋ก็ไม่ได้สงวนท่าทีเกรงใจแล้ว ใช้มือหนึ่งจับจั่วเจียจวินไว้ กล่าวว่า “อาจารย์จั่ว คุณดูสถานที่นั้นเรื่องยังไม่มีทางออก พวกเราคนในชุมชนก็ไม่กล้าออกนอกบ้าน ก็หวังว่าคุณจะช่วยพวกเราด้วย ทำให้ที่นั่นสะอาดเถอะ!”


ตอนที่ 549 ชี่ของศพ

โดย

Ink Stone_Fantasy

คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านประมงริมทะเลอย่างจะออกไป ถนนเส้นนั้นเป็นเส้นที่จะต้องผ่าน แต่ว่าพอมาเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น พวกชาวบ้านก็รู้สึกกลัว ยอมขับเรืออ้อมออกทะเล แต่ไม่ยอมเดินผ่านทางนั้น


สำหรับคนทีเดิมทีก็ไม่ได้มีเงินทองอย่างหมู่บ้านประมงเล็ก สถานการณ์นี้ยิ่งทำให้การใช้ชีวิตของพวกเขายากยิ่งเข้าไปใหญ่ หมู่บ้านที่มีร้อยหลังคาเรือน ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่สิบครัวเรือนเท่านั้นเอง


ในฐานะที่เป็นผู้นำอาวุธโสของชุมชน ผู้ใหญ่บ้านอู๋มองเห็นและในใจก็ร้อนรน สองสามวันมานี้วิ่งรอกไปยังหน่วยงานราชการหลายแห่ง แต่ก็ไม่มีใครสามารถหาแผนที่มีประสิทธิภาพออกมาได้


ดังนั้นผู้ใหญ่อู๋ดูแล้ว ก็มีแต่บุคคลด้านหน้าที่รักษาพวกคนในชุมชุน “อาจารย์โย่ว” ถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาของหมู่บ้านที่เผชิญอยู่ในตอนนี้ได้ ทำลายสิ่งร้ายๆในสถานที่นั้น


“ผู้ใหญ่บ้านอู๋ ถนนเส้นนั้นเป็นผมเองที่แนะนำให้ทำการก่อสร้าง แน่นอนว่าจะต้องรับผิดชอบจนกว่าจะเรียบร้อย…”


ในตอนที่จั่วเจียจวินพูดคุยนั้นหันมองไปทางเยี่ยเทียนหนึ่งที เห็นเขายิ้มน้อยๆ ถึงได้กล่าวต่อว่า “พวกคุณวางใจ อีกไม่นานสถานที่นั้นก็จะกลับมาเหมือนเดิม และจะไม่ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของทุกคนอีก”


หากว่าเปลี่ยนเป็นตัวจั่วเจียจวินคนเดียวนั้น เขาไม่กล้าที่จะโฆษณาขนาดนี้หรอก แต่ว่าเยี่ยเทียนพยักหน้าแล้ว แน่นอนว่าต้องมีวิธีการแก้ไข สำหรับศิษย์น้องผู้นี้ จั่วเจียจวินไม่เคยมองออกทะลุปรุโปร่งเลย


“ไปดูพวกคนเหล่านั้นก่อนแล้วกัน” ในใจของเยี่ยเทียนนั้นถึงแม้จะมีข้อสันนิษฐานอยู่หลายส่วน แต่ก็ไม่กล้าที่จะฟังธง อยากจะรีบเจอเหล่าคนที่ถูกชี่พิฆาตเข้าสู่ร่างกายก่อน


“ผู้ใหญ่พูดกัน เด็กเข้ามาสอดอะไรด้วย”


ผู้ใหญ่บ้านอู๋กำลังฟังจั่วเจียจวินคุยรับปากอยู่นั้น กลับถูกเยี่ยเทียนขัด ทำให้รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ตามที่เขาดู เยี่ยเทียนอายุน้อยเพียงแต่เป็นเด็กรับใช้ของอาจารย์จั่วหรือไม่ก็รุ่นหลังเท่านั้น


ในความหมายด้านหนึ่ง ฮ่องกงเป็นเมืองที่รักษาขนบธรรมเนียมของประเทศจีนเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จนถึงทุกวันนี้ยังใช่ตัวเต็มและอ่านจากบนลงล่าง


ในภูมิหลังลักษณะนี้ ในครอบครัวของคนฮ่องกงการสั่งสอนคนรุ่นหลังนั้นเข้มงวดมาก ในครอบครัวปกติ ในตอนที่ผู้ใหญ่พูดอยู่นั้น รุ่นหลังห้ามพูดสอดแทรกโดยเด็ดขาด


“เด็กรุ่นหลัง หมายถึงฉันเหรอ”


เยี่ยเทียนฟังภาษาฮ่องกงไม่ค่อยเข้าใจ หลังจากชะงักไปซักครู่ถึงรู้ว่าผู้เฒ่าสั่งสอนตนเอง ก็อดยิ้มแข้นขึ้นมาไม่ได้ ส่ายหน้ายืนปิดปากอยู่ด้านหนึ่ง


“ผู้ใหญ่อู๋ เขานั้นถึงแม้จะเป็นเด็กรุ่นหลัง แต่ว่าเป็นศิษย์น้องของผมนะ…”


จั่วเจียจวินมองไปที่ผู้ใหญ่บ้านอู๋อย่างไม่พอใจ กล่าวว่า “ไปเถอะ ตามที่ศิษย์น้องผมบอก ไปดูคนที่ถูกชี่พิฆาตเล่นงานก่อน”


“เขา…เขาเป็นศิษย์น้องของอาจารย์จั่วเหรอ”


ผู้ใหญ่บ้านอู๋มองไปที่เยี่ยเทียนอย่างไม่เชื่อสายตา หันกลับไปมองจั่วเจียจวิน อายุของทั้งสองนั้นต่างกันมากไปหน่อย


แต่หากว่าเขารู้ว่าคนที่อายุมากที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้นก็เป็นศิษย์พี่ของเยี่ยเทียน ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่บ้านอู๋จะทำสีหน้ายังไงออกมา


จั่วเจียจวินเอ่ยปากแล้ว ผู้ใหญ่อู๋ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เดินนำหน้าไป พาทุกคนเข้าไปในหมู่บ้าน


“ฟาจั่ย อาจารย์จั่วมาเยี่ยมนายแหนะ รีบให้เมียนายรินน้ำชาให้อาจารย์เร็วเข้า!”


เดินเข้ามาในบริเวณบ้านของครอบครัวหนึ่ง ผู้ใหญ่อู๋ก็รีบเรียกให้เตรียมเครื่องดื่ม หันกลับมากล่าวกับจั่วเจียจวินว่า “ด้านในรก ทุกคนนั่งกันด้านนอกลานกันเถอะ”


“ไม่เป็นไร นั่งตรงนี้ก็ได้” จั่วเจียจวินโบกไม้โบกมือ หลังจากเสียงตะโกนของผู้ใหญ่บ้านอู๋ ผู้ชายอายุราวสามสิบกว่าก็เดินออกมา


ผู้ชายคนนี้ส่วนสูงประมาณเมตรเจ็ดสิบเซ็นต์ ทำงานกลางแดดจนผิวเป็นสีดำคล้ำ แต่หน้าตานั้นปรากฏความซีดเซียวที่ดูแล้วสุขภาพไม่ดี ในตอนที่เดินออกมาจากประตู มือขายังจับประตูค้ำยัน ตลอดทั้งร่างนั้นให้ความรู้สึกว่าอ่อนแอมาก


“เป็นเขานั่นแหละใช่มั๊ย” เยี่ยเทียนหันข้างไปถามศิษย์พี่


โก่วซินเจียพยักหน้า กล่าวว่า “อืม เจียจวินเป็นคนจัดการ ถึงแม้ว่าจะเอาชี่พิฆาตออกจากร่างกายแล้ว แต่ว่าร่างการของเขานั้นได้รับบาดเจ็บอยู่”


ร่างกายอวัยวะภายในทั้งห้า เหมือนกับธาตุทั้งห้าหยินหยางผสมผสานกัน เมื่อถูกชี่พิฆาตแทรกซึมเข้าร่างกาย ก็จะทำให้สมดุลถูกทำลาย ถึงแม้ว่าจะช่วยเหลือแล้ว คนที่ถูกแทรกซึมก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีอาการเจ็บป่วย


เหมือนกับที่ตอนนั้นเยี่ยเทียนลงมือสั่งสอนเริ่นเจี้ยน ก็ทำให้นอนฝันร้ายไปหลายเดือน รวมถึงหวังซือจื้อคุณชายหวังก็เช่นกัน เพียงแต่ว่าเยี่ยเทียนนั้นลงมือกับเขาหนักไปบ้าง จนถึงตอนนี้คนนั้นยังนอนแบบอยู่กับเตียงอยู่เลย


เยี่ยเทียนมองไปที่ผู้ชายคนนั้น พลันกล่าว “พี่ชายท่านนี้ ในตอนที่ทำงานอยู่นั้น ได้กลิ่นเหม็นสายโขยมาใช่หรือเปล่า”


“ใช่สิ กลิ่นนั้นเหม็นมาก ทำให้คนตายได้เลย” ผู้ชายคนนั้นพยักหน้า สีหน้าเหมือนจดจำได้อยู่


“โอเค คุณพักรักษาตัวเถอะ อีกไม่กี่วันก็ไม่มีปัญหาแล้ว” เยี่ยเทียนพยักหน้า และดึงแขนจั่วเจียจวิน ไปยังนอกประตูเรือน


“เฮ้อ ผมว่า อาจารย์จั่ว คุณ…คุณจะทำอะไรล่ะนั่น”


เห็นอาจารย์จั่วที่เดินเข้ามาในลานบ้านแล้วยังไม่ทันได้นั่งก็จะไป ผู้ใหญ่อู๋ก็รีบเดินตามออกไปเป็นพัลวัน สีหน้าหวาดกลัว เกรงว่าตัวเองนั้นไปทำอะไรให้ “อาจารย์จั่ว” ไม่พอใจตอนไหน


เห็นท่าทางมือที่เยี่ยเทียนทำใส่ตัวเอง จั่วเจียจวินก็กล่าวว่า “ผู้ใหญ่อู๋ น้องชายคนนั้นฟื้นตัวไม่เลว ฉันก็วางใจแล้ว รอผมกลับไปก็จะสลายชี่พิฆาตบริเวณนั้น อย่างน้อยก็สามวัน อย่างมากก็ห้าวัน จะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย


“นี่…นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ ” ผู้ใหญ่บ้านอู๋ตกตะลึง ถามอย่างไม่อยากเชื่อ


“แน่นอน พวกเราตอนนี้กลับไปหารือกัน” จั่วเจียจวินพยักหน้า


“ได้ ได้ พวกคุณรอผมซักครู่ แป๊บเดียวเดี๋ยวมา ต้องรอผมนะ”


ผู้ใหญ่อู๋ดีใจใหญ่ พลันก็คิดเรื่องอะไรขึ้นมา กำชับให้จั่วเจียจวินรอตัวเองอยู่หลายรอบ จากนั้นก็หมุนกายวิ่งจากไป ความเร็วนั้นไม่เหมือนคนที่อายุหกสิบเจ็ดสิบเลยซักนิด


“เยี่ยเทียน นายมั่นใจจริงๆ นะ”


รอจนผู้ใหญ่อู๋ออกไปแล้ว โก่วซินเจียก็มองไปที่ศิษย์น้องของตัวเอง เขารู้ว่าในเรื่องวิชานั้นตบะของเยี่ยเทียนสูงกว่าของเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าระยะเวลาสามถึงห้าวันจะสามารถทำลายชี่พิฆาตได้


เยี่ยเทียนหัวเราะ “แปดส่วนก็เป็นไปตามนั้น ศิษย์พี่ใหญ่ พี่ถูกเส้นผมบังภูเขาแล้ว”


เห็นสีหน้าของศิษย์พี่ใหญ่ไม่เข้าใจ เยี่ยเทียนก็กำลังจะกล่าวต่อไปนั้นเอง ในหมู่บ้านก็มีคนหนุ่มแข็งแรงสี่คนแบกห่ออะไรใหญ่ออกมา ในตอนนั้นไม่ได้พูดต่อ


“ผู้ใหญ่อู๋ นี่คืออะไร” จั่วเจียจวินรับของนั้นมา จึงได้พบว่าสี่คนนั้นจับผ้าปูที่นอนผืนใหญ่ ด้านในนั้นมีของสีดำอยู่


“อาจารย์จั่ว คุณดู พวกเราหมู่บ้านนั้นยากจนไม่มีอะไรต้อนรับคุณ นี่เป็นเต่าทะเลตัวใหญ่ ก่อนหน้านั้นที่ออกทะเลไปจับมาได้ ส่งให้คุณไปลองดู”


ผู้ใหญ่อู๋พูดไปพลางก็สั่งให้ทั้งสี่คนนั้นวางผ้าปูเตียงผืนใหญ่ เต่าทะเลตัวหนึ่งที่ความยาวเกือบหนึ่งเมตร ก็ปรากฏต่อหน้าธารกำนัล


ภายใต้แสงส่องเต่าทะเลตัวนี้ปรากฏสีเขียว บนขาทั้งสี่ข้างของเต่าทะเล มีรอยตาข่ายจับปลาทำให้เป็นแผล หัวและขาทั้งสี่นั้นออกมาด้านนอก แต่กลับไม่สามารถหดเข้าไปด้านในเหมือนเต่าปกติทั่วไป ท่าทางกำลังหวาดกลัว


“ลิ้มลองรสชาติ พวกคุณแม้แต่สิ่งนี้ก็กินเหรอ”


เห็นเต่าทะเลสีเขียวตัวนี้ ตาของเยี่ยเทียนก็แทบถลน เมื่อก่อนเคยได้ยินว่าคนกว่างตงที่อยู่ติดทะเลนั้นกินอะไรหลายอย่าง วันนั้นตัวเองได้มาเห็นกับตาแล้ว


“แน่นอนสิ เนื้อเต่าทะเลสีเขียวแบบนี้นุ่มละมุน รสชาติอร่อยมาก ทำเป็นน้ำแกงอร่อยที่สุด” ผู้ใหญ่อู๋หลังจากรู้ว่าเยี่ยเทียนเป็นศิษย์น้องอาจารย์จั่วแล้ว คำพูดที่ใช้ก็เกรงใจเป็นอย่างมาก


“ศิษย์…ศิษย์พี่ ไม่…ไม่ได้บอกว่าคนแถวทะเลมองเต่าทะเลเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนเหรอ ทำไมมีคนกินไอ้ตัวนี้ด้วยล่ะ ” เยี่ยเทียนถามโก่วซินเจียอย่างสงสัย


“เหอะๆ ที่พูดพูดกันก็เป็นแบบนั้น แต่ว่าเต่าทะเลนี่ขาเต่า น้ำมันเต่า เลือดเต่า ตับเต่า กระเพาะเต่า น้ำดีเต่าและอวัยวะภายในของเต่านั้นสามารถนำมาทำเป็นยาได้ เมื่อกินแล้วจะมีประโยชน์กับร่างกาย พวกเขาไม่มีตัวเลือกให้เลือกมากนัก”


จั่วเจียจวินถูกเยียเทียนถามจนยิ้มแข้นออกมา ทุกปีนั้นเขาจะไปตามหมู่บ้านประมงซื้อเต่าทะเลมาปล่อย แต่ว่าก็ยังมีเต่าทะเลที่หายากหลายสายพันธุ์ถูกฆ่าตาย


หลังจากได้ฟังคำของจั่วเจียจวินแล้ว เยียเทียนก็ไม่ได้เกรงใจ เดินตรงไป กล่าวว่า “ได้ เต่าทะเลตัวนี้ผมเอา เส้าเทียน มา มาช่วยกันยกไปไว้ที่รถ”


เต่านั้นเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของเทพ เลี้ยงเต่าสามารถทำให้โชคด้านการเงินคล่องขึ้น ดูอายุของเต่าทะเลตัวนี้แล้วน่าจะไม่น้อยร้อยกว่าปีขึ้น สามารถนำไปเลี้ยงในคฤหาสน์ใหม่ของเยี่ยเทียนได้พอดี นี่เป็นทางในการเพิ่มโชคลาภและอายุยืน


หัวของเต่าตัวนี้นั้นไม่เล็ก ต้องออกแรงมากหน่อยถึงจะยัดเข้าไปในกล่องหลังรถได้ เยี่ยเทียนและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้อยู่ต่อ สตาร์ทรถขับออกมารีบไปยังบ้านของจั่วเจียจวิน


แต่คฤหาสน์ของจั่วเจียจวินนั้นไม่มีสระน้ำ มีแต่บ่อน้ำเล็กๆ และภูเขาปลอม เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร เยี่ยเทียนจึงได้แต่ใส่ลงในบ่อน้ำ ปริมาณน้ำในนั้นท่วมหลังกระดองเต่าอยู่


“ทนลำบากอยู่ในนี้ไปก่อนนะ”


เยี่ยเทียนยื่นมือไปตบหัวใหญ่โตของเต่าทะเล ใส่พลังธาตุสายหนึ่งเข้าไป เต่าทะเลตัวนั้นพลันผงกหัวขึ้นมา พยักนหน้ามาทางเยี่ยเทียนอย่างไม่หยุด ทำให้คนที่รายล้อมนั้นแตกตื่นกับเหตุการณ์ประหลาดนี้


“เลี้ยงเต่านั้นช่วยเรื่องโชคลาง คฤหาสน์ของนายนั่นพอดีเลยขาดอันนี้อยู่ แต่ว่าศิษย์น้อง นายรีบอธิบายมาสิว่าที่นั่นมันเกิดเหตุการณ์ประหลาดอะไรขึ้นกันแน่”


เมื่อกลับมานั่งในห้องเรียบร้อย โก่วซินเจียก็กล่าวอะไรเรื่อยเปื่อยไม่กี่ประโยค แต่ก็อดไม่ได้รีบเปลี่ยนมาถามเรื่องสถานที่ที่มีชี่พิฆาตอยู่หนาแน่น


“ศิษย์พี่ใหญ่ สถานที่นั้นที่มีชี่พิฆาตหนาแน่นไม่สลายไป ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะธรรมชาติ แต่เป็นเพราะคนทำ!”


เห็นคนเหล่านั้นกลั้นหายใจฟังที่ตัวเองกล่าว เยี่ยเทียนก็ไม่ได้กั๊กอีกต่อไป กล่าวตรงประเด็นว่า “คนที่ถูกสิ่งไม่ดีนั้น ชี่พิฆาตในตัว ยังมีชี่ของศพอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าศิษย์พี่จับได้หรือไม่”


“ศพ…ชี่ศพเหรอ”


โก่วซินเจียกล่าวอย่างตกตะลึง รีบพยักหน้ากล่าต่อ “เป็นไปไม่ได้หรอก คนพวกนั้นตายไปสิบกว่าปีแล้ว ทำไมยังมีชี่ของศพหลงเหลืออยู่ได้”


ที่เรียกว่าชี่ของศพนั้น ก็คือร่างกายคนเริ่มเน่าเปื่อยจะมีการส่งกลิ่นแก๊สชนิดหนึ่งออกมา เหมือนกับในปิระมิดอียิปต์ ที่มีชี่ของศพอยู่หนาแน่น


แต่สถานที่ฝังคนพวกนั้น แม้แต่โลงก็ยังไม่มี ถึงแม้จะมีชี่ของศพ ผ่านไปสิบปีก็จะถูกทำให้ระเหยหายไป ไม่มีทางคงอยู่มาถึงตอนนี้ได้


……………………………..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)