หมอดูยอดอัจฉริยะ 516-517

 ตอนที่ 516 เจรจาซื้อขาย

โดย

Ink Stone_Fantasy

ไม่ว่าจะเป็นหินหยกพม่า เพชรหรือโมรา สิ่งที่ถือกำเนิดเป็นรูปร่างขึ้นมาเองโดยบังเอิญ อีกทั้งถูกพลังงานฟ้าดินทะนุบํารุงเป็นหมื่นปี ภายในตัวมันจะต้องประกอบไปด้วยพลังวิญญาณไม่เข้มข้นก็อ่อนบาง เยี่ยเทียนไม่ได้มีตาทิพย์ แต่ยังสามารถอาศัยพลังวิญญาณที่มีหรือไม่มีปรากฏอยู่ มาตัดสินโลกอันส่องประกายภายในหินดิบ


มือขวาลูบด้านเรียบลื่นที่ถูกตัดของหินดิบอย่างเบามือ พลังงานส่วนหนึ่งหลั่งไหลออกมาจากภายในร่างกายของเยี่ยเทียน แทรกซึมเข้าไปภายในหินอย่างเงียบเชียบ


“หือ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?”


เยี่ยเทียนนั่งลงยองๆ ตรวจสอบดูหินก้อนนี้ เพื่อที่จะปลีกตัวออกจากปรมาจารย์อู๋และประธานเจิ้งเท่านั้น แต่เมื่อพลังงานนั้นแทรกซึมเข้าไปภายในหินดิบ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นยินดีขึ้นมาครู่หนึ่ง


นั่นเพราะเมื่อพลังวิญญาณเข้าไปในหินดิบเพียงไม่นาน เยี่ยเทียนก็สัมผัสถึงไอร้อนจางๆ ส่วนหนึ่งมาแตะต้องกับพลังวิญญาณของเขา ไอนั้นหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเยี่ยเทียนอย่างอบอุ่น คล้ายกลับไปถูกโอบอุ้มด้วยน้ำคร่ำในท้องแม่ สุขสบายเป็นที่สุด


เมื่อก่อนเยี่ยเทียนยังเคยตรวจสอบหินดิบ รู้ว่าความแข็งของหยกพม่าเหนือกว่าหยกเหอเถียนหน่อยหนึ่ง ต่ำกว่าแร่อย่างเพชรเพียงเล็กน้อย พลังวิญญาณในหินหยกพม่าเย็นสดชื่น ให้คนรู้สึกถึงความเย็นเหมือนน้ำแข็ง และพลังวิญญาณอย่างในวันนี้เขาเพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก


แม้จะไม่รู้ว่าหินอัปลักษณ์ก้อนนี้หล่อเลี้ยงอะไรไว้ภายใน แต่เยี่ยเทียนก็รู้ว่าทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนมีจิตวิญญาณ  สิ่งของที่บรรจุพลังวิญญาณไว้ยอมไม่ใช่ของธรรมดา แต่ต่อให้ย่ำแย่อย่างไรก็ยังเป็นแร่หินหายากชนิดหนึ่ง


เยี่ยเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตรวจสอบหินดิบลงลึกต่อไป สัมผัสอุ่นสบายนั้นยิ่งรุนแรงมากขึ้น สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเขาเผยแววยินดีออกมา  ดูท่าหินก้อนนี้สามารถหล่อเลี้ยงพลังวิญญาณไว้ได้ปริมาณไม่น้อย อีกทั้งยิ่งดิ่งลงไปภายในระดับความบริสุทธิ์ก็ยิ่งสูงขึ้น


แต่ว่าที่เยี่ยเทียนมาคราวนี้ก็เพื่อหาหินหยกสำหรับใช้เป็นตัวนำกักเก็บพลังวิญญาณ หลังจากครุ่นคิดอยู่สักครู่ มือขวาของเยี่ยเทียนก็ปลดปล่อยพลังชี่แท้บริสุทธิ์ส่งเข้าไปยังด้านในของหินดิบ


หลังจากพลังชี่แท้พุ่งเข้าไปภายในหินดิบหนึ่งระลอก เยี่ยเทียนก็ดึงมือกลับออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อใช้พลังวิญญาณสัมผัสกับพลังชี่แท้ที่เหลือไว้ภายในหินดิบอีกครั้ง เยี่ยเทียนก็พบว่าไออุ่นภายในหินดิบ ผสมผสานเข้ากับพลังวิญญาณที่สกัดออกมาของตัวเองได้อย่างน่าประหลาดใจ


 “ฮะๆ ของดีนี่!”


คราวนี้ในใจของเยี่ยเทียนก็ไม่เหลือความสงสัยใดๆ อีกต่อไป ภายในแร่หินดิบชิ้นนี้ จะต้องเป็นเครื่องมือสำหรับวางค่ายกลที่คฤหาสน์บนเกาะฮ่องกงของเขาได้อย่างแน่นอน อีกทั้งคุณสมบัติของมัน ยังไม่แตกต่างจากหยกเหอเถียนชั้นดีที่สุดเลยแม้แต่น้อย


“ให้ตายสิ การพนันหินนี่ดูกันแต่ภายนอกหรือไง?”


หลังจากใช้พลังสัมผัสพื้นผิวของแร่หินซึ่งกักเก็บพลังวิญญาณนั้นอย่างละเอียดแล้ว เยี่ยเทียนก็ลุกขึ้นยืน ไปดูทางหมายเลขข้างหยกหิน ทันทีที่เห็นก็อดทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งอยากร้องไห้ออกมา กลายเป็นว่าหมายเลขของหินดิบนี้คือ 1414


 หมายเลขต้องห้ามที่สุดของทางตะวันตกโดยเฉพาะศาสนาคริสต์นั้นก็คือเลข “สิบสาม” ในชีวิตจริงผู้คนวางแผนร้อยอย่างพันวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงมัน ในฮอลแลนด์ยากที่จะหาชั้นหมายเลขสิบสามและห้องหมายเลขสิบสาม พวกเขาจะใช้เลข “12a” มาแทน โรงละครประเทศอังกฤษก็ไม่มีแถวเลขที่สิบสามหรือที่นั่งเลขที่สิบสาม ส่วนในประเทศฝรั่งเศสระหว่างแถวที่สิบสามกับสิบสี่จะเป็นทางเดิน


และคนจีนโดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตอยู่ทางชายฝั่ง หากเน้นเรื่องความโชคดีที่หนึ่งทะเบียนรถจะต้องเป็นหมายเลขหนึ่งหกแปด หมายเลขโทรศัพท์ยิ่งมีเลขแปดเยอะยิ่งดี แต่เลขต้องห้ามที่สุดก็คือเลขสี่ เช่นเดียวกับทางตะวันตก อาคารใดที่เน้นเรื่องฮวงจุ้ยมักจะไม่มีชั้นที่สิบสี่ และนี่ก็คือความแตกต่างจากวัฒนธรรมตะวันตกนั่นเอง


ชาวพม่านี่ไม่รู้ว่าเพราะวัฒนธรรมแตกต่างกันหรือไม่ จึงกำหนดให้หมายเลขของหินดิบอัปลักษณ์นี้เป็น 1414 เกรงว่านี่อาจเป็นสาเหตุหลักที่พ่อค้าหินดิบซึ่งเดินผ่านไปมาไม่ยอมแวะดูด้วยสาเหตุนี้หรือเปล่า?


แต่ว่านี่ก็ประจวบเหมาะกับความคิดของเยี่ยเทียนพอดี เพราะว่าราคาตั้งของหินวัตถุดิบก้อนนี้เพียงแค่สามร้อยเก้าสิบเก้าดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น สมัยนั้นในยุคปี 98 เมื่อเปลี่ยนเป็นเงินหยวนก็แค่สามสี่พันหยวน และจากสายตาของเยี่ยเทียนก็ไม่ต่างจากยกให้ฟรี ๆ


เหล่าอู๋เห็นเยี่ยเทียนลุกขึ้นยืนแล้ว ก้มมองยังหมายเลขข้างหินซ้ำหลายรอบ ยังอดหัวเราะถามไม่ได้ “น้องชาย เธอคงไม่คิดสนใจหินก้อนนี้จริงๆ ใช่ไหม?”


“หึ ๆ ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจของเล่นพวกนี้หรอกครับ ดูก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ” เยี่ยเทียนยิ้มแย้มแบบยังไม่ตัดสินใจ จดจำหมายเลข 1414 เอาไว้ในใจเดินตรงต่อไปข้างหน้า


จากการแสดงออกของเยี่ยเทียนเมื่อครู่ ประธานเจิ้งคนนั้นราวกับเห็นว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการพนันหินสักเท่าไร จึงเลิกสนใจในตัวเยี่ยเทียนเช่นกัน ดึงตัวปรมาจารย์อู๋ไปเลือกวัตถุดิบที่ดูยอดเยี่ยมอีกจำนวนหนึ่ง ความคลุมเครือในตลาดหยกพม่า เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพ่อค้าใหญ่เงินทุนหนาเช่นเขา


เมื่อปราศจากการวุ่นวายของสองคนนั้น ความเร็วในการตรวจสอบหินวัตถุดิบของเยี่ยเทียนก็ว่องไวขึ้นทันที จากการแผ่การขับเคลื่อนพลังชี่ พลังวิญญาณที่อยู่ในระยะขอบเขตรอบตัวสิบกว่าเมตร ก็ปรากฏขึ้นในวงสัมผัส จนไม่จำเป็นต้องตรวจดูทีละชิ้นอีก


เมื่อเทียบกับงานพนันหินครั้งนั้นที่เกาะฮ่องกง คุณภาพหินดิบของพม่านั้นมีมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย และราวกับภายในหินดิบทุกชิ้นที่ถูกผ่าออก ล้วนกักเก็บหยกพม่าไว้อยู่ภายใน เพียงแต่ว่าหินดิบเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วมีขนาดเล็กมาก  ในจำนวนเหล่านั้นมีหยกพม่าขนาดเพียงแค่เล็บมือ เยี่ยเทียนจึงไม่นึกสนใจเท่าไหร่


หลังจากมองดูเขตพนันผ่าหินรอบหนึ่งแล้ว เยี่ยเทียนก็เลือกเอาหยกดิบน้ำหนักประมาณเจ็ดสิบกว่ากิโลกรัมอีกหนึ่งชิ้น วัตถุดิบชิ้นนี้แม้พลังวิญญาณจะไม่ใสบริสุทธิ์เท่าหมายเลข 1414 แต่ว่าชนะกันที่มีปริมาณมาก ดูเหมือนภายใต้ผิวหินจะมองเห็นเนื้อหยก สามารถขุดเอาหยกพม่าหนักสี่ห้าสิบกิโลกรัมออกมาใช้ในการวางค่ายอาคมได้พอดิบพอดี


อีกทั้งผิวตัดของหยกชิ้นนี้แสดงออกมาไม่ดีนัก แม้จะเผยให้เห็นเนื้อหยกหน่อยเดียว แต่ก็ไม่ใช่หยกพม่า จึงมีราคาแค่หนึ่งหมื่นสองพันดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น คนที่สนใจมันจึงมีไม่มากเช่นกัน


หลังจากสนใจหินสองชิ้นนี้แล้ว เยี่ยเทียนก็เตร็ดเตร่อีกหนึ่งรอบ และเจอหลิ่วซีกั๋วในเขตพนันหินเข้า


“ท่านอา ผมกำลังหาท่านอยู่พอดี เป็นอย่างไรบ้าง? เจอวัตถุดิบที่เหมาะสมหรือยังครับ?”


พอเห็นเยี่ยเทียนมาเดินมา หลิ่วซีกั๋วก็รีบลุกขึ้นยืนจากหินหยกก้อนหนึ่งด้านหน้า “ผมคุยกับพ่อแล้ว เขาเองก็เห็นด้วยกับความคิดของท่าน  ตัดสินใจเอาเงินสามล้านดอลลาร์สหรัฐกว้านซื้อหินดิบทั้งหมด”


ร้านอัญมณีของจั่วเจียจวิ้น ส่วนมากทำเครื่องเงินเครื่องทอง ธุรกิจหยกพม่าเพิ่งจะเริ่มขยับขยายเมื่อไม่กี่ปีนี้ แต่ว่าเครื่องประดับหยกจักรพรรดิของเยี่ยเทียนเพิ่มสีสันให้ร้านอัญมณีของเขาได้ไม่น้อย  ดังนั้นจั่วเจียจวิ้นจึงเน้นการขายในอนาคตของร้านไปทางหินหยกพม่า


สามล้านดอลลาร์สหรัฐนับว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลสำหรับงานนี้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ตลาดหยกพม่ายังไม่ชัดเจน หากมีวิสัยทัศน์ที่ดี สามารถกอบโกยสินค้าหินดิบล็อตใหญ่ได้ทีเดียว


“ผมเลือกหินวัตถุดิบไว้สองชิ้น ซีกั๋ว ของสิ่งนี้ซื้อขายยังไงหรือครับ?”


พูดตามความจริงแล้ว ในใจเยี่ยเทียนยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง เสาะหาจนทั่วทั้งเขตพนันหิน ยังไม่มีหินดิบที่ดีกว่าสองชิ้นนี้เลย  หากถูกคนตัดหน้าแย่งชิงไป เยี่ยเทียนถึงขั้นคิดว่าอาจต้องพบทางตัน ด้วยเหตุนั้นถึงได้ร้อนรนวิ่งมาหาหลิ่วซีกั๋ว


“ท่านอา ท่านจะซื้อวัตถุดิบอะไร? รวมกันเป็นเงินเท่าไหร่ครับ?”


ได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียนแล้ว หลิ่วซีกั๋วชะงักไปครู่หนึ่ง เดิมทีเขานึกว่าเยี่ยเทียนเองก็แค่ดูให้ครื้นเครง คงไม่ลงมือ แต่ไม่นึกว่าเยี่ยเทียนกลับคิดจะซื้อจริงๆ?


ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เงินทุนของหลิ่วซีกั๋วอาจจะขัดสนสักหน่อย เนื่องจากงานนี้เขาเองก็เลือกซื้อวัตถุดิบพนันหินไปไม่น้อย  รวมกันแล้วมูลค่าถึงประมาณสองล้านกว่าดอลลาร์สหรัฐ


เยี่ยเทียนไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของหลิ่วซีกั๋ว เอ่ยปากว่า “ไม่แพงครับ วัตถุดิบชิ้นหนึ่งราคาหนึ่งหมื่นสองพันดอลลาร์สหรัฐ อีกหนึ่งชิ้นราคาสามร้อยดอลลาร์สหรัฐ รวมกันแล้วก็หนึ่งหมื่นสองพันสามร้อย ซีกั๋ว เงินนี้ผมออกเอง ใช้บัญชีพวกคุณจ่ายไปก่อนได้ไหม”


“วัตถุดิบราคาสามร้อยดอลลาร์สหรัฐหรือครับ?”


หลิ่วซีกั๋วได้ยินแล้วหัวเราะเสียงดังออกมา แม้ว่าครั้งนี้จะกว้านซื้อหินดิบจำนวนไม่น้อย แต่ว่าเขายังโอนเงินสมทบได้อีกหลายแสน จึงรีบบอกทันที “ท่านอา อย่าพูดถึงเรื่องมีเงินหรือไม่มีเลยครับ หากพ่อรู้ว่าผมถามท่านเรื่องต้องการเงินหนึ่งหมื่นดอลลาร์สหรัฐนี้หรือเปล่า กลับบ้านไปจะต้องนัดคิดบัญชีกับผมแน่”


 “เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลังเถอะครับ วัตถุดิบสองชิ้นนั้นซื้อยังไงหรือ? ผมได้ยินว่าดูเหมือนจะต้องประมูลกันหรือครับ?” ตอนนี้เยี่ยเทียนกลัวว่ายิ่งปล่อยไว้นานจะยิ่งเสียการณ์ มีเพียงแต่ต้องให้หินสองก้อนนั้นมาเป็นของตัวเองเขาจึงจะสงบใจลงได้


“หากเป็นเมื่อสองวันก่อนยังต้องประมูลจริงๆ ครับ แต่ว่าตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว” หลิ่วซีกั๋วยิ้มตอบ “ท่านอา คุณเอาหมายเลขของดิบนั่นให้ผม ผมจะไปเจรจาซื้อขายเอง”


ที่แท้งานประมูลที่ผ่านมาล้วนมีธรรมเนียมอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือหลังผ่านการซื้อขายหินดิบขนาดใหญ่ไปแล้วสามวันสุดท้ายจะจัดให้มีการซื้อขายกันอย่างอิสระ


เจ้าของหินดิบจะนำวัตถุดิบของตัวเองมาตั้งราคา ขอเพียงคุณสามารถเสนอเงินนี้ออกมาได้ ก็สามารถเจรจาซื้อขายกับผู้จัดหาได้โดยตรง อย่างแรกคือเพื่อดึงดูดลูกค้าที่มาท่องเที่ยวพม่าเหล่านั้น อย่างที่สองคลับคล้ายจะเป็นการเช็ดน้ำตาเลหลังขาย กำจัดหินดิบที่ไม่สวยงามของตัวเอง


หลิ่วซีกั๋วพาเยี่ยเทียนมายังเคาน์เตอร์กรรมการผู้จัดงานช่องหนึ่ง นำกระดาษโน้ตเขียนหมายเลขหยกดิบสองชิ้นและหมายเลขเจรจาซื้อขายของตัวเองส่งเข้าไป เพียงไม่นานรถขนหินสองคันก็ขับมาหาด้วยเสียงดังกระหึ่ม ที่วางอยู่ข้างบนก็คือหินสองก้อนนั้นนั่นเอง


เพื่อเป็นการรับประกันเหตุการณ์ส่งคืนสินค้าจากพ่อค้าหินดิบเหล่านี้หรือลูกค้า การเจรจาสองสามวันสุดท้าย ล้วนต้องผ่านการยืนยันของทั้งสองฝ่ายถึงจะดำเนินการได้


ทว่าหลังจากหลิ่วซีกั๋วเห็นหินดิบสองชิ้นบนรถขนหินแล้ว  สองตาอดเบิกกว้างไม่ได้ หลังขยี้ตาตัวเองว่าไม่ได้ตาฝาดแล้วก็แค่นหัวเราะมองมาทางเยี่ยเทียน กล่าวว่า “ท่านอา นี่…นี่คือหินดิบที่ท่านต้องการซื้อหรือครับ?”


“ใช่แล้วครับ? ทำไมหรือ?”


เยี่ยเทียนเหลือบมองหลิ่วซีกั๋วแวบหนึ่ง รู้สึกไม่พอใจกับการแสดงออกของเขา ตอนที่เขาเห็นว่าคนรอบข้างดูเหมือนจะเข้ามารอมุงดู ก็รีบร้อนพูดขึ้น “ผมว่าคุณรีบยืนยันใบเสร็จเถอะ ถ้าหากถูกคนตัดหน้าไปก่อนล่ะก็ ผมไม่ไว้หน้าคุณแน่ !”


“ได้ ได้ครับ ขอแค่คุณถูกใจก็พอ!”


เมื่อเห็นเยี่ยเทียนเบิ่งตาโต หลิ่วซีกั๋วเองก็ไม่กล้าพูดจาเหลวไหล แค่นหัวเราะดำเนินการยืนยันการซื้อขายตรงช่องบริการ ด้วยจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องไม่มากนัก เขาจึงไม่ได้โอนจากบัญชี แต่จ่ายเงินสดโดยตรงเป็นจำนวนหนึ่งหมื่นสองพันสามร้อยกว่าดอลลาร์สหรัฐ


“ของชิ้นนี้เป็นของพวกเราแล้วหรือครับ?” หลังจากรอหลิ่วซีกั๋วเจรจาซื้อขายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เยี่ยเทียนจึงเผยรอยยิ้มออกมา ราวกับได้สมบัติล้ำค่าหายากอย่างไรอย่างนั้น


…………………


ตอนที่ 517 ผ่าหิน (1)

โดย

Ink Stone_Fantasy

 “ท่านอา ไปเถอะครับ เจรจาซื้อขายเสร็จแล้วก็อย่ารั้งอยู่ที่นี่ต่อเลย”


เห็นเยี่ยเทียนท่าทางอย่างนั้นแล้ว หลิ่วซีกั๋วอยากจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขา  เลือกเอาหินสองก้อนนี้ที่แม้แต่หมายังเมิน ก็เหมือนกับโดนเอาเปรียบอย่างหนัก เรื่องนี้หากแพร่ออกไปเกรงว่าตระกูลจั่วค้าอัญมณีในเกาะฮ่องกงจะได้โด่งดังขึ้นมาอีก


ที่สำคัญ วัตถุดิบหมายเลข 1414 ก้อนนั้นราวกับของบางอย่างที่ถูกขับจากร่างกายมนุษย์ งานประมูลสาธารณะที่พม่าครั้งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง อาจจะมีคนไม่รู้ว่าราคาประมูลหินดิบครั้งนี้สูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ว่าน้อยคนที่ไม่เคยได้ยินว่ามีหินดิบคุณภาพดี


 “ซีกั๋ว หาคนส่งวัตถุดิบสองชิ้นนี้ไปทางฮ่องกงทั้งหมดเลยนะครับ!”


หลังจากได้ยินคำพูดของหลิ่วซีกั๋วแล้ว เยี่ยเทียนก็ลุกขึ้นยืน มองซ้ายมองขวารอบหนึ่ง กระซิบย้ำเสียงต่ำว่า “ส่งไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของถังเหวินหย่วนนะครับ ไปช่องทางอื่นผมไม่ค่อยวางใจ”


สถานการณ์ในพม่าช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยสงบนัก พื้นที่ซึ่งรัฐบาลทหารควบคุมอยู่ขยายไปถึงย่างกุ้งและมัณฑะเลย์สองพื้นที่นี้ หากทำหินดิบหายไประหว่างขนย้าย เยี่ยเทียนคงต้องร้องไห้แบบไร้น้ำตา


“ของชิ้นนี้พวกเรายังเอากลับไปด้วยเหรอครับ?”


หลิ่วซีกั๋วได้ยินแล้วแค่นหัวเราะออกมา เหลือบไปยังหยกดิบสองก้อนนั้น กล่าวว่า “ท่านอา ก็…ก็แค่วัตถุดิบสองก้อนเท่านั้น ท่านผ่าเอาที่นี่ก็ได้ครับ ขนไปฮ่องกงจะคุ้มหรือ?”


ส่วนใหญ่แล้วพ่อค้าที่เข้ามาร่วมงานประมูลสาธารณะในพม่า หากซื้อหยกดิบพนันที่มีมูลค่าสูงเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยส่วนใหญ่แล้วจะนำมันกลับไปดำเนินการผ่าภายในประเทศ โดยไม่คิดเสียดายค่าขนส่งอันแพงลิบลิ่ว


แต่สำหรับพวกที่ดูธรรมดาโดยเฉพาะหินดิบที่มีขนาดใหญ่ยักษ์ พวกเขามักจะผ่ากันในลานพนันหิน อีกทั้งยังมีพ่อค้าขายหินดิบจำนวนหนึ่ง หลังจากผ่าแล้วได้ราคาก็จะนำหินดิบขาย ณ ตรงนั้นเลย นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีเรื่องราวมากมายเล่าสู่กันฟังในวงการพนันหิน


แน่นอนว่า เรื่องราวเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นใครสักคนซื้อหินดิบในราคาต่ำ พนันได้กำไรมหาศาล กลายเป็นเศรษฐีสิบล้านภายในข้ามคืน แต่ว่าคนที่พนันหินจนล้มละลายเหล่านั้นมักจะถูกผู้คนลืมค่อยๆ ลบเลือนหายไปจากวงการพนันหิน


 “ผ่าหินตรงนี้เลยเหรอครับ?”


เยี่ยเทียนได้ยินแล้วก็ลังเลขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรเสียหยกพม่าในหินดิบเหล่านี้ล้วนเป็นของที่ตัดสินใจไว้ใช้เอง จึงไม่อยากดึงดูดสายตาผู้คนที่นี่ จะว่าไปแล้วอาชีพเดิมของเยี่ยเทียนก็คือหมอดูฮวงจุ้ยภูมิลักษณ์ศาสตร์เสี่ยงทายทำนายโหงวเฮ้ง ไม่ใช่ปรมาจารย์พนันหินอย่างเหล่าอู๋


แต่ว่าคำพูดของหลิ่วซีกั๋วก็มีเหตุผล หากหินดิบก้อนนั้นมีน้ำหนักเพียงเจ็ดแปดสิบกิโลกรัมยังพอว่า ขนย้ายไปมาไม่ลำบาก แต่จะขนย้ายหยกดิบขนาดยักษ์น้ำหนักเป็นร้อยกิโลกรัมออกจะยุ่งยากเล็กน้อย เกรงว่าเมื่อถึงเวลาอาจต้องตามรถขนหินมายังสนามบิน


“เฮ้ย เจ้าหนู เธอซื้อหินก้อนนี้มาจริงๆ หรือ?”


ขณะที่เยี่ยเทียนยังคงยังลังเลตัดสินใจไม่ถูก ปรมาจารย์อู๋ผู้นั้นก็ไม่รู้โผล่มาจากไหน ทันทีที่มองเห็นหินดิบก้อนนั้นบนรถขนหิน ก็อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าหนุ่ม เธอนี่น่าสนใจจริง แต่ว่าหินก้อนนี้เองก็ราคาถูก เพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น คิดเป็นค่าศึกษาเล่าเรียนแล้วกัน”


“อ้าว เหล่าอู๋ คุณพูดอะไรน่ะ? คนผู้นี้เป็นรุ่นพี่ของผม ผมยังต้องเรียกเขาว่าอาเลย คุณพูดจาให้ระวังหน่อย”


เยี่ยเทียนกลับไม่สนใจใยดีการเรียกขานของเหล่าอู๋ แต่ว่าหลิ่วซีกั๋วไม่เห็นดีด้วย พ่อตาของเขามีสถานะสูงส่งบนเกาะฮ่องกง ในฐานะศิษย์น้องของพ่อตา เยี่ยเทียนจะมาถูกปรมาจารย์พนันหินคนนี้ดูถูกได้อย่างไร? ต่อให้เป็นท่านประธานเจิ้งที่ยืนอยู่ข้างกายเขาก็ยังยอมไม่ได้!


“อะ…อะไรนะ? ประ…ประธานหลิ่ว คุณบอกว่าเขาคือรุ่นพี่คุณหรือ?” เหล่าอู๋ตกใจสะดุ้งเฮือกด้วยคำพูดของหลิ่วซีกั๋ว เมื่อเห็นหลิ่วซีกั๋วพยักหน้ายืนยัน ก็รีบพูดขึ้นว่า “ขออภัยครับท่าน ผมเหล่าอู๋ปากเสียเอง ขอท่านอย่าถือสาเลยนะครับ!”


หากเยี่ยเทียนเป็นเด็กรุ่นหลังของสกุลจั่ว เหล่าอู๋ยังสามารถอวดศักดาต่อหน้าเขา แต่เมื่อเขาเป็นรุ่นพี่ของหลิ่วซีกั๋ว คำทักทายของเหล่าอู๋จึงออกจะไร้มารยาท


ที่สำคัญ ตระกูลจั่วค้าอัญมณีมีอิทธิพลปานกลางบนเกาะฮ่องกง แต่ยังเทียบกับหน้าตาของจั่วเจียจวิ้นไม่ได้ หากว่าเขาไม่พอใจใคร ตัวเองไม่จำเป็นต้องออกหน้าต่อกร ขอเพียงข่าวแพร่กระจายออกไป เกรงว่าคนผู้นั้นจะได้รับความกดดันบนเกาะฮ่องกงไม่น้อย เนื่องจากบนเกาะฮ่องกงมีคนอยากประจบประแจงปรมาจารย์จั่วอยู่มากมาย


“หึๆ เหล่าอู๋ก็เป็นคนอย่างนี้เอง ไม่มีเจตนาร้ายอะไรหรอก”


ขณะที่เหล่าอู๋ขอโทษเยี่ยเทียน เจิ้งต้าจวินที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เลิกคิ้ว ในสมองเขาพลันนึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา ใบหน้าเผยรอยยิ้มกล่าวต่อว่า “ท่านนี้คงจะเป็นคุณเยี่ยใช่ไหมครับ? ผมเคยได้ยินคุณเหวินพูดถึงท่าน”


“คุณเหวิน? เหวินหลนสง?” เยี่ยเทียนได้ยินแล้วชะงักงันครู่หนึ่ง อ้ำอึ้งตอบว่า “ผมไม่ค่อยสนิทกับเขานัก ประธานเจิ้งยังมีธุระอื่นอีกไหมครับ?”


เยี่ยเทียนไม่ชอบพูดนินทาว่าร้ายคนอื่น แต่เหวินหลนสงกลับกล้าเอาเรื่องของเขาไปพูดมั่วซั่ว จึงทำให้ความรู้สึกดีๆ อันน้อยนิดที่เยี่ยเทียนมีต่อเขาไม่หลงเหลืออีก


 “เปล่า เปล่าครับ คุณเยี่ยผ่าหินได้หยกจักรพรรดิออกมาหนึ่งชิ้นที่ฮ่องกง ในวงการมีแต่คนรู้เห็นทั้งนั้นครับ”


เจิ้งต้าจวินไม่กล้าหาเรื่องเด็กหนุ่มเบื้องหน้าคนนี้ ในแวดวงสังคมบนเกาะฮ่องกง ใครบ้างจะไม่รู้ว่าปรมาจารย์จั่วมีศิษย์น้องวัยหนุ่มเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน


อีกทั้งศิษย์น้องคนนี้ยังเป็นคนร้ายกาจ อยู่เกาะฮ่องกงไม่กี่วันยังไปหาเรื่องเถ้าแก่หัวคนนั้นที่ทำธุรกิจวงการบันเทิง เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนตกอกตกใจกันหมดก็คือ เถ้าแก่หัวกลับยอมซับน้ำตาขับไล่ผู้กำกับเหรียญทองหม่าซู่ของตัวเอง แต่กลับไม่กล้ามีเรื่องกับเจ้าหนุ่มคนนี้


แต่ว่าภายหลังเยี่ยเทียนก็ไปจากฮ่องกง ผู้คนมากมายเพียงรู้เรื่องนี้แต่กลับไม่มีใครเคยพบเยี่ยเทียนมาก่อน


ตระกูลเจิ้งเองก็เป็นมหาเศรษฐีแห่งเกาะฮ่องกง ฐานะยิ่งอยู่เหนือกว่าเหวินหลนสง  ส่วนเจิ้งต้าจวินเป็นลูกหลานแท้ๆ ในตระกูลเจิ้ง จึงรู้เรื่องราวพวกนี้เป็นอย่างดี เมื่อได้พบตัวละครนำชายในตำนาน จึงเกิดความสงสัยเป็นธรรมดา


“หึๆ คุณจำคนผิดแล้วล่ะครับ ผมไม่เคยพนันหินมาก่อน ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรก”


เยี่ยเทียนส่ายหน้า โบราณว่าคนกลัวชื่อเสียงหมูกลัวอ้วนพี เขาไม่คิดจะคลุกคลีในวงการพนันหิน แล้วจำเป็นจะต้องโดดเด่นไปทำไม พอเอ่ยปากขออภัยแล้วก็เตรียมตัวหมุนตัวจากไป


เพียงแต่เยี่ยเทียนยังเดินไปไม่ถึงสองก้าว ด้านหลังก็มีเสียงของหลิ่วซีกั๋วดังมา “ท่านอา หินก้อนนี้ จะส่งขึ้นเครื่องบินจริงๆ หรือครับ? งั้นพรุ่งนี้เราคงยังกลับไม่ได้ ยังมีขั้นตอนบางอย่างต้องจัดการ…”


ภายใต้การแทรกแซงของรัฐบาลทหาร การส่งออกหินดิบเข้มงวดอย่างหนัก หยกพม่าดิบกรณีที่ไม่ได้ซื้อขายผ่านศูนย์กลางการค้าหยกประจำชาติพม่า จะถูกตัดสินว่าลักลอบซื้อของเถื่อน ดังนั้นขั้นตอนของศุลกากรจึงซับซ้อนวุ่นวาย หากว่าเอาหินไปผ่าแล้วถือหยกพม่าเดินเข้าไปข้างในไปเพียงอย่างเดียว จะง่ายดายกว่าเป็นหินดิบมาก


“หือ? ยุ่งยากขนาดนั้นเลยหรือ?”


หลังจากฟังหลิ่วซีกั๋วอธิบายจบ เยี่ยเทียนก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “งั้นผ่าหยกพม่าถือออกไปแล้วกัน ซีกั๋ว คุณติดต่อทางถังเหวิน   หย่วนที ให้เขาสื่อสารกับทางเครื่องบินว่า คืนนี้กลับไปพวกเราจะเดินทางทันที!”


การเดินทางในหุบเขาปีศาจผ่านมาหลายวันแล้ว เยี่ยเทียนก็กลัวจะเกิดเรื่อง สามารถจากไปเร็วหน่อยได้เป็นดี ต่อให้ผ่าหยกพม่าในหินดิบแล้วจะทำให้เกิดเสียงฮือฮา เขาก็ไม่มีเวลาจะสนใจแล้ว ว่ากันว่าที่งานประมูลมีผู้คนผ่าหินหยกชั้นดีออกมาได้ทุกวัน เยี่ยเทียนอย่างเขาพนันหินได้กำไรสองชิ้นคงไม่นับว่าเป็นเรื่องประหลาดหรอกมั้ง?


“ได้ครับ พวกเราจะไปผ่าหินกันเดี๋ยวนี้ แล้วค่อยกลับโรงแรมเก็บของ ตรงไปสนามบินทันที!”


หลิ่วซีกั๋วพยักหน้า เยี่ยเทียนเป็นรุ่นพี่ ต้องว่าตามการวางแผนของเขาอยู่แล้ว ดีที่หินดิบที่ตัวเองซื้อล้วนจัดการลงทะเบียนขั้นตอนขนส่งระหว่างประเทศเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เก็บข้าวของง่ายๆ ก็เสร็จ


อีกทั้งหลิ่วซีกั๋วเองก็ไม่ได้นึกพิศวาสอะไรหินสองก้อนนี้เท่าไร คาดว่าคงแค่ใช้มีดตัดสองสามครั้ง ให้ท่านอาคนนี้ของเขาได้เล่นสนุกก็พอ


“คุณเยี่ย ไม่ทราบว่าพวกเราขอตามดูให้เป็นความรู้หน่อยได้ไหมครับ?” เจิ้งต้าจวินได้ยินว่าเยี่ยเทียนจะผ่าหิน ในใจจึงอดหวั่นไหวไม่ได้


“ไม่ได้ครับ…” เยี่ยเทียนตอบอย่างไม่สบอารมณ์นัก “คุณอยากจะไปไหนก็ไปเถอะ ตามพวกเราไปจะได้ประโยชน์อะไร?”


“หึๆ คุณเยี่ยล้อเล่นแล้ว”


เจิ้งต้าจวิ้นยิ่งแน่ใจว่าเยี่ยเทียนก็คือคนที่ทำให้เหวินหลนสงและเถ้าแก่หัวขายหน้าบนเกาะฮ่องกงขึ้นไปอีก ทำหน้าหนาตามหลังรถขนหินสองคันนั้น ไปยังเขตผ่าหินตรงลานประชุมที่จัดไว้ด้านนอกทันที


มีธุรกิจค้าอัญมณีตระกูลเจิ้งหนุนหลัง เจิ้งต้าจวินจึงมีอิทธิพลยิ่งใหญ่ในวงการพนันหิน เมื่อเห็นเขาสนอกสนใจในหินดิบอัปลักษณ์จนไม่น่ามองแบบนั้น พวกชาวมุงทั้งหลายจึงเดินตามกันมาทีละคน เนื่องด้วยเป็นช่วงวันสุดท้ายของงานประมูลสาธารณะ จึงมีคนว่างงานจำนวนไม่น้อย


เขตผ่าหินอยู่ไม่ไกลจากทางเข้างานประมูลสาธารณะเท่าไร เครื่องตัดหินเจ็ดแปดตัววางอยู่ตรงนั้น เคียงข้างเครื่องตัดหินยังมีเครื่องมือสำหรับเจียระไนชิ้นเล็ก ของชิ้นเล็กบางอย่างเยี่ยเทียนยังไม่รู้วิธีใช้ของมัน เพียบพร้อมกว่าบนเกาะฮ่องกงที่เขาเคยเห็นอยู่มาก


หลังจากขอเครื่องตัดหินหนึ่งตัวแล้ว หลิ่วซีกั๋วก็มองมายังเยี่ยเทียน ถามขึ้นว่า “ท่านอา ท่านจะตัดชิ้นไหนก่อนครับ?”


เยี่ยเทียนตอบ “ชิ้นใหญ่นั่น ตัดมันออกมาก่อนเลย!”


ความจริงแล้วในใจเยี่ยเทียนเองก็สงสัยอยู่มาก ของที่ครอบครองพลังวิญญาณอบอุ่นนั้นแท้จริงแล้วคือหยกพม่าหรือว่ายังมีแร่อื่นอีก นำของชนิดนี้มาวางค่ายกลส่งผ่านพลังวิญญาณ เชื่อว่าประสิทธิภาพในการสร้างค่ายกลรวมวิญญาณในบ้านเขาจะต้องดีขึ้นหลายส่วน


“ได้ครับ!”


ได้ยินคำสั่งของเยี่ยเทียนแล้ว หลิ่วซีกั๋วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ให้รถขนหินขับตรงไปยังข้างเครื่องตัดหิน เรียกพนักงานมาเจ็ดแปดคน รวมกำลังยกหินดิบอัปลักษณ์ชิ้นนั้นลงมายังเครื่องตัดหิน


“ผมเอง!”


เห็นหลิ่วซีกั๋วจะกระชับหินดิบให้แน่นขึ้น เยี่ยเทียนก็เดินเข้าไป ฟันเฟืองของเครื่องตัดหินนี้แน่นหนา เพียงแค่ขยับหินดิบด้านล่างมายังตำแหน่งซึ่งต้องการตัดแบ่งที่แน่นอน เขาจึงไม่อาจปล่อยให้หลิ่วซีกั๋ววางตำแหน่งยังจุดที่มีเนื้อหยกอยู่


“ตัดเจ้าหินเส็งเคร็งก้อนนี้ยังต้องวาดเส้นหาตำแหน่งอีกเหรอ?”


“นั่นสิ ถ้าหินดิบอย่างหมายเลข 1414 นี่ยังผ่าหยกพม่าออกมาได้ เหล่าหวังอย่างฉันจะกินเศษหินพวกนั้นเข้าไปเลย”


“ระวังอย่าคุยโม้ดีกว่า ไม่เห็นเหรอว่าประธานเจิ้งยังไม่พูดอะไร ไม่แน่ภายในวัตถุดิบก้อนนี้อาจมีของจริงอยู่นะ”


เห็นเยี่ยเทียนเปรียบเทียบตำแหน่งหินดิบกับฟันเฟืองแล้ว ผู้คนรอบๆ ที่ไม่รู้จักสถานะของเยี่ยเทียนพลันส่งเสียงเยาะเย้ยขึ้นมา หินชิ้นนี้ที่ถูกผู้คนคิดว่าเป็นเศษขยะหินดิบ หากผ่าหยกพม่าออกมาได้จริงๆ ก็บอกได้เพียงแค่ทุกคนที่เข้าร่วมงานประมูลสาธารณะในพม่าครั้งนี้ล้วนตาบอดกันหมด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)