ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 500-510
บทที่ 500 บอสออกโรงเอง
โดย
Ink Stone_Fantasy
และแล้ววินนี่ก็ทิ้งโอกาสที่จะลองเครื่องประดับ เพราะเธอไม่อยากยั่วยวนเหล่าคุณผู้หญิงทั้งหลายที่อยู่ที่นั่นจริงๆ
หลังจากที่ตู้กระจกถูกปิดลง ในล็อบบี้กลับมาเสียงดังอีกครั้ง ทิฟฟานี่เป็นร้านค้าหรูชั้นนำของนิวยอร์ก มักจะมีผู้หญิงมาซื้อหรือดูเครื่องประดับอยู่ตลอดเวลา เมื่อคนเหล่านี้เห็น ‘เจ้าหญิงยามราตรี’ พวกเธอแทบจะเป็นบ้าไปเลย
แม้ว่าคนเหล่านี้จะมีสถานะสูงส่งและมากประสบการณ์ แต่ก็ถูกครอบงำด้วยมนต์เสน่ห์ของ ‘เจ้าหญิงยามราตรี’ สาวเซ็กซี่อวบอ้วนคนหนึ่งมีความสามารถในการพูดคุยเป็นอย่างมาก เธอเดินมาคุยกับวินนี่ไม่กี่คำก็เริ่มสนิทกัน
ผู้หญิงคนอื่นๆ ก็มาร่วมวงด้วย วินนี่กลายเป็นตัวเด่นในวงสนทนาทันที โชคดีที่เธอเคยได้รับการฝึกในด้านมารยาทมามากมาย เธอเริ่มทำการรับมือและแสดงความใจกว้าง
จุดประสงค์ของผู้หญิงเหล่านี้เหมือนกันทุกคน นั่นก็คือถามถึงแหล่งที่มาของไข่มุกดำคุณภาพสูงจำนวนมากเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเธอต้องการ ‘เจ้าหญิงยามราตรี’ ชุดนี้ แต่ถึงแม้จะใช้ก้นคิด พวกเธอก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้
คนที่สามารถเป็นเจ้าของเครื่องประดับไข่มุกดำชุดนี้ เขาจะสนใจเงินเหรอ? อีกอย่าง แม้วินนี่อยากขาย จะมีใครในพวกเธอสู้ราคาได้ไหม?
บิลลี่มองฉินสือโอวแล้วส่ายหน้าไปมา จนทำให้ฉินสือโอวสงสัยและถามเขาว่าทำไม
บิลลี่พูดอย่างยอมแพ้ว่า “ฉิน ฉันคิดมาโดยตลอดว่าฉันเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก และคิดว่าฉันเป็นคนที่ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อผู้หญิง แต่เมื่อเทียบกับนายแล้ว ฉันเทียบไม่ได้เลยล่ะ! นายต่างหากที่เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก! นายยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อผู้หญิง!”
ฉินสือโอวผลักเขาออกด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นบิลลี่หัวเราะและไม่ได้พูดอะไรอีก แต่แววตาของเขาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
วินนี่แลกเปลี่ยนช่องทางติดต่อกับผู้หญิงเหล่านั้น จากนั้นกลับมาหาฉินสือโอวและกอดแขนของเขาไว้อย่างมีความสุข
สาวเซ็กซี่ที่มากับบิลลี่กัดปากแดงก่ำของเธอ แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “คุณเซโรวาคะ ฉันเห็นว่าเครื่องประดับชุดนี้ยังมีไข่มุกดำเหลือใช่ไหม? ฉันขอเม็ดหนึ่งจะได้ไหม? เม็ดที่เล็กที่สุดก็เพียงพอ”
เครื่องประดับไม่ได้ใช้ไข่มุกสีดำทั้งหมด พวกเขาเก็บมันไว้รูปแบบละหลายๆ เม็ด เพราะขณะสวมใส่เครื่องประดับนั้นไข่มุกดำจะครูดไถกัน อย่างนี้จะทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยน
ฉินสือโอวคิดว่าเธอเกิดความโลภ กำลังจะปฏิเสธ หญิงสาวคนนั้นพูดต่อไปว่า “ฉันอยากได้ไข่มุกดำเม็ดหนึ่ง เพื่อจดจำวันนี้ไปตลอดชีวิต สิ่งที่คู่หมั้นของคุณทุ่มเทให้คุณทำให้ฉันเข้าใจหลายๆ เรื่องในทันที ฉันอยากไปจากนิวยอร์ก ไปหาอะไรทำ ไปหาคู่หมั้นที่เขารักฉันเท่ากับฉินรักคุณ”
วินนี่มองหน้าบิลลี่ บิลลี่ยักไหล่และพูดว่า “อีวาพูดถูก ฉันเองก็ต้องไตร่ตรองหลักการใช้ชีวิตที่ผ่านมาของฉันแล้วล่ะ”
เมื่อเป็นอย่างนี้ วินนี่จึงเปิดกล่องเครื่องประดับที่เตรียมไว้พิเศษ และเลือกไข่มุกที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ให้กับหญิงสาวผู้นั้น จากนั้นกอดเธอและพูดว่า “ฉันขออวยพรให้คุณเจอความสุขที่ใช่สำหรับคุณในเร็ววัน เชื่อฉัน เงินเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม อำนาจเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม ชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆ แล้ว มีอย่างอื่นที่เราต้องเห็นคุณค่าเสมอ”
“ขอบคุณ” หญิงสาวยิ้ม บิลลี่ซื้อกล่องคริสตัลเล็กๆ กล่องหนึ่งเพื่อใส่ไข่มุกดำ ในตอนท้ายหญิงสาวกอดและจูบกับบิลลี่หนึ่งครั้งแล้วพูดว่า “ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคุณนั้น ฉันมีความสุขมากเลยล่ะ แต่ท้ายที่สุดแล้วนายก็ไม่ใช่ของฉัน ลาก่อน ชายในฝัน”
หลังจากรับกล่องคริสตัลมา หญิงสาวโบกมือให้ทั้งสามและตัดสินใจเดินจากไป
ฉินสือโอวมองเธอแล้วพูดว่า “ถ้าผู้หญิงคนนี้ตัดสินใจให้ความสำคัญกับงานมากกว่า ฉันกล้าพนันเลยว่าเธอจะมีอนาคตที่ยอดเยี่ยม เธอช่างโหดร้ายกับตัวเอง!”
“แต่มันไม่เกี่ยวกับฉันแล้วล่ะ พวกนายมีแพลนอะไรอีกไหม?” บิลลี่ถาม
ฉินสือโอวมานิวยอร์กหลายครั้งแล้ว แต่ทุกๆ ครั้งที่ผ่านมามักรีบร้อนเกินไปและไม่ได้เที่ยวที่ไหน แต่ครั้งนี้ก็คงจะเป็นเหมือนเดิม เพราะที่บ้านกำลังยุ่งกับการเก็บเกี่ยว
แต่ไม่ว่าจะรีบร้อนแค่ไหนก็ควรจะนอนพักที่นี่สักคืน ในตอนบ่ายฉินสือโอวจับมือของวินนี่ไปเดินควีนส์บูเลอวาร์ด มื้อเย็นของทั้งสองเป็นเหมือนคู่รักวัยเยาว์ที่เดินไปกินไปจนอิ่ม
ขณะที่ไปซูเปอร์มาร์เก็ตเห็นโรงภาพยนตร์อยู่ชั้นบน ทั้งสองไปซื้อตั๋วและเข้าไปดูหนังแนวตลกโรแมนติกเรื่องหนึ่ง เป็นหนังที่ไม่มีอะไรพิเศษ แต่หนุ่มสาวที่มาดูหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้หวังมาดูเนื้อเรื่องอยู่แล้ว หลังแสงไฟหรี่ลงเหล่าชายหญิงก็เริ่มจูบกัน
ฉินสือโอวเองก็หันไปจูบวินนี่ วินนี่อยากสลัดหลุด จึงชี้ไปข้างหลังและกระซิบว่า “ชาวอเมริกันบ้าจริงๆ ”
ฉินสือโอวเหลือบไปมองอย่างเงียบๆ พระเจ้า ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งค่อมผู้ชาย
คืนนี้ก็พักที่โรงแรมเอเคเอเหมือนเดิม บิลลี่จองห้องพักให้พวกเขาแล้ว วันนี้สภาพอากาศในนิวยอร์กไม่เลว สามารถนอนดูดวงดาวกันได้
สมควรแล้วที่ทิฟฟานี่เป็นกลุ่มผู้ให้บริการชั้นนำของโลก เงินของฉินสือโอวได้ใช้ไปอย่างคุ้มค่า เพราะไม่เพียงแต่ออกแบบเครื่องประดับล้ำค่าชุดหนึ่งเท่านั้น และยังให้บริษัทรักษาความปลอดภัยระดับมืออาชีพส่งเครื่องประดับไปที่ฟาร์มปลาด้วย
ตอนที่ฉินสือโอวและวินนี่กลับไปถึงฟาร์มปลา กล่องบรรจุเครื่องประดับได้ถูกส่งมาแล้ว หู่จือและเป้าจือยันขอบโต๊ะไว้เพื่อดูกล่องบรรจุอันงดงาม และคิดว่านี่เป็นของขวัญสำหรับพวกมัน
ฉินสือโอวรีบดึงเจ้าตัวน้อยสองตัวออกไป ขอร้องล่ะ ถ้าพวกแกทำของเหล่านี้ตกแตก พ่อก็ปกป้องพวกแกไม่ได้
เครื่องประดับชุดนี้กลายเป็นสมบัติของวินนี่ไปแล้ว ไม่เพียงเพราะราคาของมัน แต่เพราะเป็นของขวัญที่ดูเข้าท่าชิ้นแรกที่ฉินสือโอวมอบให้เธอ ก่อนหน้านี้หลอกเธอมาได้ด้วยมังกรน้ำเงินตัวเดียว
วินนี่ถือกล่องเครื่องประดับเข้าไปในห้องอย่างมีความสุข และเริ่มลองกับกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง
หลังสวมเครื่องประดับ วินนี่ที่ดูสง่าอยู่แล้ว ดูหรูหราขึ้นมาในทันที ไม่ต่างอะไรจากคุณหนูใหญ่ในตระกูลผู้ดีที่มีวิชาความรู้
วินนี่ให้ฉินสือโอวช่วยถ่ายรูปให้เธอ จากนั้นเธอส่งไปให้แม่ เพื่ออยากให้พวกเขาได้เห็น โดยเฉพาะฟอกส์ผู้เป็นพี่สาว!
ตามที่ฉินสือโอวคิดไม่มีผิด ถ้าเขาไม่ออกโรงเอง คนเหล่านั้นจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้แน่นอน ฝ่ายหนึ่งซุ่มอยู่ในทะเลลึกอีกฝ่ายกำลังโปรยเหยื่ออยู่บนผิวน้ำ ถ้าจับปลาทูน่าได้ถือว่าเก่งเลยล่ะ
ชาร์ค ซีมอนสเตอร์และคนอื่นๆ เข้าใจในจุดนี้ดี แต่พวกเขาใจร้อนเกินไป กลัวปลาทูน่าตัวนั้นจะหนีไปที่อื่น เพราะมันคือราชาแห่งปลาเชียวล่ะ
ฉินสือโอวเห็นพวกเขาไม่ทำอะไรนอกจากออกไปตกปลาเป็นกลุ่มๆ เขาส่ายหน้าอย่างควบคุมไม่ได้ ดูเหมือนว่าเซอร์ไพรส์ของตนใหญ่เกินไป ดีที่ยังไม่ได้เรียกปลาทูน่าออกมา ไม่อย่างนั้นคนเหล่านี้อาจวิ่งตามไปเลยก็ได้
เขาทนไม่ได้ที่ต้องทรมานคนเหล่านี้อีกแล้ว หลังจากกลับมาจากนิวยอร์ก ฉินสือโอวก็ออกทะเลด้วยทุกครั้ง และนี่ก็เป็นความฝันของชาวประมงเหล่านั้นด้วย พวกเขาคิดว่าตอนนี้มีแค่ห้าธาตุพิชิตมังกรของฉินสือโอวเท่านั้นที่จะสามารถหาตำแหน่งของปลาทูน่าตัวนี้ได้
ชาวประมงทั้งหลายกำลังหาวิธีการที่จะหาปลาทูน่าตัวนี้ บูลเสนอให้ใช้วิธีโผปลากระโทงสีน้ำเงิน เขาสามารถควบคุมแหลนด้วยตัวเองได้ สามารถฆ่าปลาตัวนั้นได้แน่นอน
การโผปลากระโทงสีน้ำเงิน ความหมายตามชื่อของมันก็คือ ถือปืนลูกดอกยาวจัดการกับปลากระโทงสีน้ำเงิน ซึ่งโดยทั่วไปก็คือวิธีที่ใช้ในการล่าปลามาร์ลิน ปลากระโทงร่ม เป็นต้น
แลนซ์เกลียดความโง่เขลาของบูลเกินทน “ฟัค คนโง่ สมองของนายถูกยิงออกไปด้วยใช่ไหม? ตอนนี้เรากำลังพูดถึงเรื่องที่ว่า เราจะเจอปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวนั้นได้ยังไง ถ้าเจอมัน…”
“เพื่อน ดูนี่สิ ดูบนจอนี่สิ!” ชาร์คตะโกนด้วยความประหลาดใจ
บทที่ 501 มิสเตอร์บีนออกโจมตี
โดย
Ink Stone_Fantasy
บนจอแสดงผลความละเอียดสูง มีแถบยาวสีแดงปรากฏขึ้น ซึ่งแตกต่างจากจุดสีเขียวโดยรอบโดยสิ้นเชิง
ฟังก์ชันของเครื่องโซนาร์สำหรับหาปลานั้นไม่ใช่การค้นหาอย่างง่าย แต่สามารถทำเครื่องหมายได้ด้วย แค่ทำเครื่องหมายกับปลาที่เคยพบในอดีต เมื่อมันปรากฏอีกครั้งก็จะเป็นสีแดงที่เด่นชัด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ปลาที่เคยถูกทำเครื่องหมายนั้น นอกจากปลาทูน่าครีบน้ำเงินแล้วเป็นใครได้อีก
ฉินสือโอวรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ เขาโบกมือแล้วพูดว่า “นิ่งอะไรกันอยู่ รีบหย่อนเหยื่อสิ!”
ทันใดนั้น ชาวประมงกลุ่มหนึ่งวิ่งออกไปอย่างวุ่นวาย ชาร์คพาชาวประมงคนหนึ่งหย่อนเหยื่อ บูลถือปืนลูกดอกของเขาขึ้นเรือไป เขามองไปบนผิวน้ำอย่างรีบร้อน และมีความคิดที่ว่าถ้าดึงดูดปลาทูน่าตัวนั้นขึ้นมาได้เขาจะยิงมันเสีย
เมื่อเห็นฉากนี้ เบิร์ดอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า ฉินสือโอวถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาพูดสั้นๆ ว่า “พวกหัวมังกุท้ายมังกร! กลุ่มทรายที่กระจัดกระจาย! ”
ฉินสือโอวไม่สามารถควบคุมปลาตัวโตอย่างนี้ให้ติดเบ็ดได้ เพราะมันจะทำลายหัวใจโพไซดอน เขาทำได้เพียงส่งปลาทูน่ามาบนผิวน้ำ ที่เหลือขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ของชาวประมงทั้งหลาย
แต่ไม่ต้องกังวล ชาวประมงที่ฉินสือโอวรวบรวมมานี้เป็นชาวประมงที่ดีที่สุดในเกาะแฟร์เวล ทุกคนต่างมีฝีมือ
ชาร์คหย่อนเหยื่อลงอย่างเป็นจังหวะ เหยื่อเหล่านี้ทำมาจากปลาแฮร์ริ่งสดทั้งหมด มีพลังงานโพไซดอนเล็กน้อย ถ้าอยู่ในน่านน้ำอื่น ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า ฉลาม หรือปลาแซลมอนแปซิฟิก ถูกดึงดูดมาหมดแล้วล่ะ
แต่สำหรับปลาทูน่าในฟาร์มปลาต้าฉินแล้ว มันขาดแรงดึงดูดในส่วนนี้แหละ
ทำไมปลาทูน่าครีบน้ำเงินยอมอยู่ที่ฟาร์มปลาต้าฉินและไม่ไปที่อื่นล่ะ? ฉินสือโอวไม่ได้ผูกพวกมันไว้ เหตุผลง่ายมาก เพราะเหยื่อน่ากิน โดยปกติแล้วพวกมันจะกินปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะ หมึกกระดอง กุ้งแดง และสัตว์ทะเลอื่นๆ ที่มีพลังโพไซดอน ปลาแฮร์ริ่งในปัจจุบันไม่น่าดึงดูดสำหรับพวกมันแล้วล่ะ
อย่างไรก็ตาม ปลาที่ยังมีชีวิตยังไงก็น่าจะอร่อยกว่าปลาที่ตายแล้วใช่ไหมล่ะ?
ปลาทูน่าในชายหาดน้ำตื้นจอร์จถูกดึงดูดโดยปลาที่ตายแล้ว นั่นเป็นเพราะพวกมันต้องอดมื้อกินมื้อไม่มีชีวิตที่สุขสบาย มีให้กินก็ดีแค่ไหนแล้ว มีสิทธิ์เลือกที่ไหนกันล่ะ?
ส่วนปลาทูน่าในฟาร์มปลาต้าฉินนี้ มีสิทธิ์ในการเลือกมากมาย
ชาวประมงหย่อนเหยื่อกันอย่างขยันขันแข็ง ท่อนปลาแฮร์ริ่ง ท่อนปลาซาบะ หมึกกระดอง และสัตว์ทะเลอื่นๆ กล่องใหญ่ ถูกโยนไปรอบๆ เรือประมง
ดูจากจอแสดงผลแล้ว ปลาทูน่าว่ายอยู่รอบๆ แต่ไม่มีวี่แววที่จะกัดเบ็ด
แลนซ์ถือบุหรี่อย่างตื่นเต้น และพึมพำว่า “มาเถอะ มาเถอะ ลูกชายที่รัก ติดเบ็ดเถอะ พ่อจะส่งแกนั่งเครื่องบินไปโตเกียวฟรี อย่าลังเลเลย เพื่อน กัดเบ็ดสิ ดูเหยื่อรสชาติดีเหล่านั้นสิ ฉันเองก็อยากกัดสักคำ รีบสิ พ่อหนุ่ม รีบกัดสิ…”
ชาวประมงเก่าแก่อย่างแซ็กพูดอย่างใจเย็นว่า “ดูสิ เจ้านี่เคยผ่านโลกมาแล้วแน่ๆ มันดูเจ้าเล่ห์อย่างนั้น ผมกล้าพนันเลย มันน่าจะมีชีวิตอยู่มาห้าสิบปีแล้วล่ะ มีอายุมากกว่าเราทั้งหลายในที่นี้ มันเคยเห็นเรือประมง และเคยเห็นเพื่อนของตนติดเบ็ด ดังนั้น วันนี้จะต้องเป็นสงครามระยะยาว!”
พวกเขาจ้องไปที่จอแสดงผลและอภิปรายกันอย่างตึงเครียด ทันใดนั้นก็มีคนร้องอุทานออกมาว่า “พระเจ้า ดูสิ นี่คืออะไร? ฉันกล้าพนันว่าเจ้าตัวนี้มีความยาวกว่าสิบเมตร!”
มีแถบสีเขียวที่มีความยาวเป็นสองเท่าของร่องรอยปลาทูน่าปรากฏบนหน้าจอ ความเร็วในการเคลื่อนที่สูงมากและดูน่ากลัวด้วย!
ฉินสือโอวรีบใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปดู ให้ตายเถอะ มันคือเฮยป้าหวัง! เจ้านี่อ่อนไหวกับกลิ่นมากเกินไป ท่อนปลาที่โยนลงไปนั้นมีคราบเลือดติดไปด้วย คราบเลือดเหล่านั้นดึงดูดมันมาในขณะที่ไม่สามารถดึงดูปลาทูน่ามาได้
น้อยครั้งที่เฮยป้าหวังจะมาในเขตน้ำตื้น มันตัวใหญ่เกินไป ถ้าไม่ระวังก็อาจติดในชายหาดน้ำตื้น อีกอย่าง เขตน้ำตื้นไม่ค่อยมีปลาตัวใหญ่ อยู่ในทะเลลึกอาหารอุดมสมบูรณ์มากกว่า ดังนั้น เหล่าชาวประมงจึงไม่เคยเห็นมัน
และมันก็ทำให้เหล่าชาวประมงหวาดกลัว ถ้านี่เป็นฉลาม เป็นไปได้ว่ามันมาเพราะปลาทูน่า แม้ฉลามตัวนี้จะไล่ตามปลาทูน่าไม่ทัน แต่ก็จะทำให้มันหนีไป
ชาวประมงทั้งหลายจึงทำได้แค่ปลอบใจตนเอง “ไม่ใช่ฉลามหรอก ฉลามที่มีความยาวอย่างนี้สูญพันธุ์ไปหมดแล้วล่ะ น่าจะเป็นปลาวาฬตัวหนึ่ง ช่วงก่อนหน้านี้ฟาร์มปลาของเรามีปลาวาฬหลังค่อมจำนวนมากไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวจะไม่ยอมให้เฮยป้าหวังมาทำลายแผนการของตนเด็ดขาด จึงเตรียมที่จะไล่มันไป ในตอนนี้เองบอลหิมะ ไอซ์สเกต และมิสเตอร์บีนทั้งสามกำลังหยอกล้อกันในพื้นที่ที่ถูกพลังโพไซดอนควบคุม พวกเขารับรู้คำสั่งจากจิตสำนึกแห่งโพไซดอนในทันที นั่นก็คือไล่วายร้ายที่ทั้งน่าเกลียดและตัวใหญ่ตัวนั้นออกไป
โลมาปากขวดมีไอคิวสูงที่สุด และเข้าใจได้ดีที่สุด ดังนั้น มันพุ่งตัวไปในทันที
ส่วนบอลหิมะและไอซ์สเกตนั้นเดิมทีพวกมันก็คิดจะลงมือเหมือนกัน แต่เห็นมิสเตอร์บีนไปแล้ว พวกมันก็หยุดตัวลง และรอดูอยู่ด้านหลังด้วยเจตนาที่ไม่ดีเท่าไร พวกมันอยากเห็นว่ามิสเตอร์บีนจะจัดการกับเฮยป้าหวังยังไง
เมื่อเปรียบเทียบกับเฮยป้าหวังที่มีความยาวกว่าสิบเมตร ความยาวที่ไม่ถึงเมตรของมิสเตอร์บีมเป็นเหมือนเม็ดถั่วขนาดเล็กเม็ดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็มีความกล้าหาญมาก มิสเตอร์บีนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หัวของมันชนเข้ากับช่องท้องของเฮยป้าหวังราวกับลูกธนูดอกหนึ่ง
เฮยป้าหวังรู้สึกเจ็บ มันหันกลับไปอย่างรวดเร็วเพื่อหาสิ่งที่กล้าโจมตีตนเอง นี่ถือเป็นการท้าทายอำนาจ รู้ไหมว่ามันเป็นใคร? มันคือฉลามขาวยักษ์ ฉลามขาวยักษ์ที่เคยโจมตีเรือดำน้ำและคลื่นทะเลมาแล้ว!
ทันทีที่มันหันหลัง ช่องท้องด้านขวาของมันก็ถูกโจมตีอีกครั้ง ครั้งนี้เฮยป้าหวังโมโหแล้วล่ะ ใครกันที่รนหาที่ตาย? อย่าโจมตีแบบหลบๆ ซ่อนๆ สิ แน่จริงก็ออกมาโจมตีต่อหน้า!
สำหรับเหล่าฉลามและปลาวาฬแล้ว เฮยป้าหวังถือว่ามีความคล่องตัวมาก แต่เมื่อเทียบกับโลมาขวดที่ถูกปรับเปลี่ยนโดยพลังงานของโพไซดอนแล้ว มันแตกต่างกันอย่างมาก
โลมาเป็นสัตว์ที่มีความคล่องตัวสูงที่สุดในมหาสมุทร พวกมันเคลื่อนที่เร็ว แต่แรงกระทบไม่สูง แต่ด้วยรูปร่างที่ผอมเพรียว สมองอันฉลาดหลักแหลมและความสามารถในการรักษาสมดุลที่โดดเด่นของพวกมัน ทำให้พวกมันมีความคล่องแคล่วมาก
นอกจากนี้ โลมายังมีกำลังต่อสู้ที่สูงมาก พวกมันไม่เคยหวาดกลัวฉลาม และเก่งในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่ดุร้ายแต่งุ่มง่ามเหล่านี้ ในบางครั้งก็ไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ด้วย แน่นอนว่า มันเป็นกรณีที่ฝูงปลาโลมาโจมตีฉลาม แต่ถ้าหนึ่งต่อหนึ่งปลาโลมาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉลามยักษ์ที่โหดร้ายแน่นอน
เมื่อสู้กันซึ่งๆ หน้า มิสเตอร์บีนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฮยป้าหวังเหมือนกัน แต่มันถูกพลังโพไซดอนปรับเปลี่ยนให้มีความคล่องตัวมากกว่าเดิม เคลื่อนที่เร็ว แรงกระทบสูง มีความสามารถในการโจมตีในระยะอันใกล้ มันใช้วิธีการจัดการกับฉลามของบรรพบุรุษ และความคล่องแคล่ว พุ่งชนไปที่ช่องท้องทั้งสองข้างของฉลามยักษ์ไม่หยุด
ช่องท้องของฉลามเป็นจุดอ่อนของพวกมัน เพราะมีอวัยวะสำคัญในนั้น แต่ไขมันส่วนนั้นกลับบางที่สุด ถ้าฝูงโลมาสลับกันโจมตีที่ช่องท้องของพวกมัน สามารถทำให้ตับของพวกมันแตกและตายในที่สุด
เมื่อเฮยป้าหวังวนอยู่หลายรอบก็ไม่พบมิสเตอร์บีนที่โจมตีตนเอง มันจึงรีบลงไปที่ก้นทะเล อย่างนี้ก็จะสามารถป้องกันช่องท้องของมันได้แล้ว และมิสเตอร์บีนเองก็หมดหนทางแล้วเหมือนกัน
แม้จะเป็นเช่นนี้ กำลังต่อสู้ของมิสเตอร์บินก็เพียงพอที่จะทำให้ไอซ์สเกตและบอลหิมะตะลึงได้แล้ว ตอนนี้พวกมันเข้าใจแล้วว่า น้องสามกล้าหาญอะไรอย่างนี้ นี่มันป้อมปราการชัดๆ!
ฉินสือโอวให้รางวัลมิสเตอร์บีน เขาเติมพลังโพไซดอนให้มันบางส่วน ทำให้มิสเตอร์บีนมีพลังงานมากกว่าเดิม และวนรอบเฮยป้าหวังอย่างรวดเร็ว
เฮยป้าหวังจ้องมันด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม ราวกับกำลังพูดว่า แกตายๆ ไปเถอะ ฉันไม่อยากเสียเวลากับแก!
อันที่จริง ที่ผลออกมาอย่างนี้ ก็เพราะมันถูกฉินสือโอวจำกัดไว้ พลังแห่งโพไซดอนคอยโน้มน้าวมันไม่ให้โจมตีอีกฝ่าย
ไม่อย่างนั้น แค่เฮยป้าหวังอ้าปากแล้วดูดน้ำทะเลและพ่นมันออกไป ไม่ถึงสองนาทีก็จัดการมิสเตอร์บีนได้แล้ว ขนาดของทั้งสองแตกต่างกันเกินไป!
บทที่ 502 ปลาที่มีมูลค่านับล้าน
โดย
Ink Stone_Fantasy
ฉินสือโอวพามิสเตอร์บีนสามตัวป่วนออกไป แล้วปลอบใจเฮยป้าหวังอยู่พักหนึ่ง และเติมพลังโพไซดอนให้มันเล็กน้อย เฮยป้าหวังจึงยอมจากไปอย่างไม่พอใจเท่าไร
เจ็ดพี่น้องฉลามกบซุ่มมองอยู่ใกล้ๆ ตลอด เห็นร่างของเฮยป้าหวังที่เคลื่อนที่อย่างช้าๆ ลูกตาของพวกมันก็หมุนไปมาราวกับกำลังคิดอะไร
พวกมันรู้สึกว่าเฮยป้าหวังเป็นเจ้าโง่ร่างใหญ่ ปล่อยให้โลมาตัวเดียวจัดการอย่างนั้น ไม่น่ากลัวอย่างที่เห็นเลยสักนิด ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นเราก็ไปจัดการกับมันหน่อยดีไหม?
มันเดย์ดูพี่น้องของตัวเอง อืม คนเยอะมักได้เปรียบ และตัวใหญ่กว่าโลมาน้อยตัวนั้นทุกตัว พวกมันต่างคิดว่าทั้งความเร็วและแรงกระแทกไม่น่าจะสู้โลมาน้อยไม่ได้ ดังนั้น จึงตามเฮยป้าหวังไปอย่างไม่เกรงกลัวอะไร
เฮยป้าหวังกำลังปวดหัวกับเรื่องเมื่อครู่ แต่เพียงพริบตาเดียว ก็มีเด็กๆ ปรากฏตรงหน้าอีกเจ็ดตัว
อะไรกัน? เฮยป้าหวังมองฉลามกบเจ็ดพี่น้องอย่างตะลึง มันไม่ค่อยฉลาด คิดไม่ถึงว่าพวกมันจะมาหาเรื่องตนเอง
มันเดย์เผชิญหน้ากับเฮยป้าหวังโดยตรง จู่ๆ มันก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่สูงมาก ที่แท้การได้เผชิญหน้ากับฉลามยักษ์นั้น แตกต่างจากการแอบมองจากระยะไกลอย่างมาก!
ฉลามยักษ์เกิดมาพร้อมกับออร่าที่ดุดัน กระบวนการเอาชีวิตรอดก็คือกระบวนการสังหาร ความดุดันนั้นทำให้คนมองหวาดกลัว
พวกมันก็เหมือนเสือนักล่า ออกมาพร้อมกับมาดที่ทำให้เหยื่อตกใจจนนิ่งงัน พวกมันแค่อ้าปากเพื่อกลืนเหยื่อก็พอ
เมื่อมันเดย์คิดถึงตรงนี้ เลือดของสัตว์ร้ายที่เพิ่งเดือดในเมื่อครู่ได้เย็นลงหมดแล้ว มันสะบัดหางด้วยความยากลำบาก ก้มหน้าก้มตาเตรียมจะหนี
แต่ซันเดย์มีนิสัยมุทะลุ มันจำได้แต่แผนการเริ่มแรก เห็นพี่น้องของมันกำลังล้อมรอบเจ้าโง่ร่างใหญ่นี้อยู่ ก็เลียนแบบมิสเตอร์บีนและพุ่งเข้าใส่…
เฮยป้าหวังเห็นมันพุ่งเข้ามา ก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ‘ให้ตายเถอะ เหยื่อเหล่านี้กล้าโต้กลับเชียวเหรอ?’
เฮยป้าหวังถอยออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร การกระทำของมันเป็นแรงบันดาลใจให้ฉลามกบตัวอื่นๆ เฮ้ เจ้าโง่ร่างใหญ่นี้อ่อนหัด…
ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นมาในหัว เฮยป้าหวังที่ถอยออกไปมีระยะทางที่เพียงพอต่อการพุ่งชน มันอ้าปากกว้าง และพุ่งไปข้างหน้า ปากที่กว้างราวกับหลุมดำนั้น เต็มไปด้วยฟันรูปสามเหลี่ยมคว่ำที่น่ากลัว
พี่น้องทั้งเจ็ดขำท้องแข็ง พวกมันอยากเลียนแบบความคล่องแคล่วของมิสเตอร์บีน แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? เมื่อครู่เพราะฉินสือโอวระงับความคิดโจมตีของเฮยป้าหวังเอาไว้จึงทำให้มิสเตอร์บีนสามารถอวดดีได้ แต่เฮยป้าหวังในขณะนี้ เต็มไปด้วยความดุเดือด
ยังไงก็หนีไม่ได้ พี่น้องทั้งเจ็ดเพิ่งจะหันหลัง เฮยป้าหวังก็อยู่ข้างหลังของพวกมันแล้ว พวกมันมีเวลาทำอย่างอื่นที่ไหนกัน? ฝันไปเถอะ รีบหนีกันเถอะ!
พี่น้องทั้งเจ็ดมีประสบการณ์ในการหลบหนีชีวิต ห้ามวิ่งเป็นเส้นตรง ห้ามวิ่งแค่ทางเดียว พี่น้องทั้งเจ็ดเลือกไปคนละทาง พวกมันวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
เฮยป้าหวังกัดฟันไล่ตามอยู่ข้างหลัง พวกแกมาเพื่อโจมตีฉันไม่ใช่เหรอ? มา มา มา ฉันจะสู้กับพวกแกแปดร้อยครั้ง ไม่สิ ครั้งเดียวก็เขมือบพวกแกได้แล้ว!
สิ่งที่เกิดขึ้นใต้ทะเลไม่สามารถเห็นผ่านจอภาพได้ สิ่งที่เหล่าชาวประมงเห็นก็คือปลารูปร่างใหญ่ตัวนั้นกำลังถูกจุดเล็กๆ ดึงดูดไป
ในที่สุดพวกเขาก็สบายใจแล้วว่า “ให้ตายเถอะ นั่นต้องเป็นปลาวาฬแน่ๆ มันไปล่าปลาค็อดแล้วล่ะ!”
ตามคำพูดที่ว่า ‘เรื่องที่ดีสามารถมีตอนจบที่แย่ได้ และเรื่องที่แย่ก็สามารถมีตอนจบที่ดีได้เช่นกัน (สุขทุกข์เป็นสิ่งไม่เที่ยง)’ การต่อสู้กันระหว่างเฮยป้าหวังและมิสเตอร์บีนและเจ็ดพี่น้องในใต้ทะเลนั้น ทำให้ปลาทูน่าตกใจและหนีมาบนผิวน้ำ
บนผิวน้ำเต็มไปด้วยท่อนปลาที่ไม่รู้จักหลบหนี มันจึงอ้าปากกินปลาเหล่านั้น พนันกันไปสักวันก็แพ้ ไม่นานเบ็ดคันหนึ่งก็ถูกดึงไปจนงอ
“ฟัคคคคคค! มันติดเบ็ดแล้ว!” ชาร์คกดที่ตั้งคันเบ็ดเอาไว้พร้อมกับตะโกนออกมา
เนื่องจากรู้ขนาดของปลาทูน่า ครั้งนี้จึงใช้สายเบ็ด 9A ที่หนาที่สุด สายเบ็ดชนิดนี้ใช้สำหรับตกฉลามในนิวฟันด์แลนด์โดยเฉพาะ มีความหนาเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของตะเกียบใช้แล้วทิ้ง
แลนซ์โยนบุหรี่อันเป็นที่รักของมันทิ้ง แล้วควบคุมเรือไปแล่นไปตามเส้นทางหนีของปลาทูน่าด้วยตนเอง
ตาของเขาจับจ้องไปที่จอภาพไม่ปล่อย เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนคาดเดาเส้นทางหนีของปลาทูน่าอย่างต่อเนื่อง เรือประมงแล่นตามมันไม่ห่าง ดังนั้น ชาร์คจึงไม่ต้องปล่อยสายเบ็ดมักนัก ไม่อย่างนั้นถ้าปล่อยสายเบ็ดจนสุด มันอาจขาดได้
ไม่เพียงแต่ทำงาน แลนซ์ยังสอนฉินสือโอวด้วยว่า “ท่านกัปตันดูสิ ปลาตัวนี้เจ้าเล่ห์มาก มันหลบหนีไปตามเส้นทางรูปตัวเอส ดังนั้นเราต้องรักษาจังหวะกับชาร์คให้ดี เรือแล่นเร็วไม่ได้ ไม่อย่างนั้นปลาอาจหลุดไปได้ และแน่นอนว่าช้าเกินไปก็ไม่ได้ เพราะมันจะใช้สายเบ็ดจำนวนมาก…”
หลังจากพัวพันกันพักใหญ่ ปลาทูน่าคิดว่าตนหนีไปทางเดียวไม่น่าจะมีหวัง จึงหันหลังและวิ่งไปทางตรงกันข้าม
“ปลาเจ้าเล่ห์!” แลนซ์เปลี่ยนทิศทางการเดินเรืออย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “ชาร์ค เก็บสายเบ็ด!”
ปลาทูน่าอยากมุดไปอยู่ใต้เรือ แต่แลนซ์ถอยเรืออย่างรวดเร็ว เมื่อมันว่ายมาใต้เรือ ก็ถึงเขตน้ำตื้นพอดี
ซึ่งหมายความว่ามันถึงทางตันแล้วล่ะ สุนัขจิ้งจอกที่ฉลาดมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะพรานเก่าได้
เมื่อเข้าไปในเขตน้ำตื้น ปลาทูน่ายังคงพยายามอย่างบ้าคลั่ง และในตอนนี้มันก็มีความอดทนที่เพียงพอ ถ้าต้องการจับปลาตัวใหญ่อย่างนี้ได้ ต้องใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงเลยล่ะ
ชาร์คผ่อนสายเบ็ดและเก็บสายเบ็ดเพื่อต่อสู้กับมัน เมื่อมันเหนื่อยแล้วบูลก็รับมันขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีชาวประมงร่างกายกำยำอีกกลุ่มหนึ่งที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่สิบโมงเช้าจนจึงบ่ายสองโมง ในที่สุดปลาทูน่าก็เหนื่อยล้า และสายเบ็ดก็ถูกเก็บมาเกือบหมดแล้ว ซึ่งเหลือไม่ถึง 100 เมตรที่ยังอยู่ในน้ำ
ในเวลานี้ ซีมอนสเตอร์และชาวประมงอีกหลายคนลงทะเลจากแพหนังเล็กๆ พวกเขาเปิดอวด เมื่อพวกเขาล้อมรอบปลาทูน่าแล้ว ชาร์คก็ให้แรงทั้งหมดไปในการเก็บสายเบ็ด
ใช้เวลาไม่นาน ปลาทูน่าก็เผยให้เห็นร่างที่แข็งแกร่งและกว้างใหญ่ของมัน แลนซ์ถอนหายใจว่า “เป็นร่างที่สวยอะไรอย่างนี้ พระเจ้าต่างหากที่เป็นจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”
ฉินสือโอวพูดว่า “รออะไรกันอีก ทำไมไม่จัดการมันด้วยฉมวกล่ะ?”
บูลที่ถือปืนลูกดอกในมือพูดว่า “ไม่ได้ครับ กัปตัน ตอนนี้เราสามารถจับเป็นมันได้ และสามารถจับมันได้โดยไม่ทำร้ายมัน ราคาของปลาตัวนี้จะต้องเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จากหนึ่งล้านเป็นสองล้าน!”
ฉินสือโอวมองเขาอย่างประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้น นายจะถือปืนลูกดอกไปทำไมกัน?”
“แหะๆ” บูลเกาหัว “ถือแล้วอุ่นใจ ไม่อย่างนั้นผมตื่นเต้นจนโดดลงน้ำไปแล้วล่ะ”
แม้จะหว่านอวนเรียบร้อยแล้ว ปลาตัวนี้ก็ติดกับแล้ว ชาร์คกัดฟันหนุนที่ตั้งคันเบ็ด และกำลังจะดึงปลาทูน่ากลับมา แต่เขาเหนื่อยเกินไป ส่วนปลาทูน่าเองก็รู้ชะตาชีวิตของตนเองแล้ว จึงดิ้นรนอย่างดุเดือด!
ฉินสือโอวขึ้นไปจับที่ตั้งคันเบ็ดไว้แล้วพูดว่า “ให้ผมจัดการเถอะ!”
สายเบ็ดถูกดึงจนตึง ความหนาลดลงครึ่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าพลังของปลาตัวนี้น่ากลัวแค่ไหน
ฉินสือโอวกดคันเบ็ดไว้อย่างใจเย็น และหมุนที่ตั้งคันเบ็ดอย่างรวดเร็ว เก็บสายเบ็ดกลับมาได้ครั้งละหนึ่งเซนติเมตร
ในที่สุดปลาทูน่าก็หมดแรง ยี่สิบเมตรสุดท้าย ฉินสือโอวได้ออกแรงมากกว่าเดิม และได้รับชัยชนะในเกมสงครามชักเย่อครั้งนี้ และเขาสามารถดึงปลาทูน่าเข้ามาในอวนได้ในครั้งเดียว!
บทที่ 503 ผ่อนคลายสักครู่
โดย
Ink Stone_Fantasy
ในฐานะที่เป็นนักล่าเคลื่อนที่เร็วและผู้เชี่ยวชาญวิ่งระยะไกลที่ต้องว่ายน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อรับออกซิเจนเพื่อความอยู่รอด เพื่อปรับให้เข้ากับการเคลื่อนไหวความเร็วสูง ในปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีกล้ามเนื้อสร้างความร้อน ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่ามันคือปลา ‘เลือดร้อน’
หลังจากจับปลาทูน่าได้ด้วยวิธีนี้ ต้องระบายเลือดของมันออกทันทีที่มันตาย มิฉะนั้นความร้อนในเลือดจะถูกถ่ายโอนไปยังเนื้อปลา จะทำลายคุณภาพของเนื้อปลาได้
หลังเก็บอวน ปลาทูน่าตัวใหญ่ยังคงดิ้นรนถูกลากขึ้นไปบนเรือประมง โชคดีที่ครั้งนี้ฉินสือโอวออกจากท่าเรือพร้อมเรือฮาวิซท แต่ถ้าเป็นเรือตกปลาก็ต้องลำบากแล้วล่ะ เพราะมันไม่สามารถรองรับปลาทูน่าขนาดใหญ่ที่มีความยาวมากกว่าสี่เมตรได้
แนวคิดของปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่มีความยาวมากกว่าสี่เมตรคืออะไร? ขณะที่ปั้นจั่นยกปลาขึ้น ฉินสือโอวและคนอื่นๆ จำเป็นต้องเงยหน้าให้สุด จึงจะสามารถมองเห็นปลาทั้งตัวได้!
หลังจากยกปลาขึ้นไปแล้ว ชาร์และซีมอนสเตอร์ตัดเหงือกปลาออกอย่างรวดเร็ว และผ่าท้องของมันออกอย่างระมัดระวังเพื่อเอาอวัยวะภายในออกและระบายเลือด
แน่นอนว่า ก่อนจะลงมือทำสิ่งนี้ พวกเขาได้ถ่ายรูปร่วมกับปลาตัวนี้ พวกเขาเป็นผู้ทำลายสถิติของขนาดปลาทูน่าที่รักษามาอย่างน้อยสองทศวรรษในนิวฟันด์แลนด์ ครั้งล่าสุดที่จับปลาทูน่าที่มีความยาวสี่เมตรได้ เกิดขึ้นในยุค 90
ดูชาร์คและซีมอนสเตอร์จัดการกับปลาตัวนี้ แลนซ์พูดด้วยน้ำเสียงน่าเสียดายว่า “น่าเสียดายจริงๆ กัปตัน ถ้าตอนนี้คือฤดูของปลา เราสามารถนำปลาตัวนี้ไปบันทึกไปที่สมาคมการประมง ได้เงินรางวัลหลักล้านเลยล่ะ”
การตกปลาในอเมริกาเหนือเป็นกีฬาประจำชาติ แต่คนที่สนใจในด้านนี้จริงๆ ก็ยังคงเป็นคนรวย สมาคมการประมงเกิดจากคนน่าเบื่อเหล่านี้แหละ คนเหล่านี้มีเงินจำนวนมาก มีปลาหลายชนิดที่มีรางวัล และเงินรางวัลสะสมก็สูงด้วย
ปลาทูน่าตัวนี้ที่ฉินสือโอวพวกเขาจับมาได้ไม่เพียงแต่สามารถทำลายสถิติของนิวฟันด์แลนด์ได้ ยังสามารถทำลายสถิติโลกได้อีกด้วย สถิติโลกก่อนหน้านี้ถูกรักษาโดยชาวประมงหญิงชาวนิวซีแลนด์
ชาวประมงหญิงที่ชื่อ ดอนน่า พัสค์คนนี้ จับปลาทูน่าครีบน้ำเงินแปซิฟิกน้ำหนัก 411.6 กิโลกรัมเมื่อปีก่อน ได้รับเงินรางวัล 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปั้นจั่นในเรือฮาวิซทไม่มีฟังก์ชันการชั่งน้ำหนัก แต่ปลาทูน่าตัวนี้ต้องมีความยาวมากกว่าสี่เมตร ยาวกว่าปลาทูน่าของดอนน่าครึ่งเมตรกว่า และมีน้ำหนักอย่างน้อย 550 กิโลกรัม ดังนั้นการทำลายสถิติโลกนั้นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
แต่น่าเสียดาย ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่แคนาดากำหนด จึงไม่สามารถนำปลาตัวนี้ไปแสดงให้ใครเห็นได้ แม้จะบอกว่าปลาตัวนี้ได้มาจากฟาร์มปลาส่วนตัว แคนาดาไม่สนใจหรอก เนื่องจากในปัจจุบันนี้ การเพาะเลี้ยงปลาทูน่าครีบน้ำเงินเป็นเพียงตำนานเท่านั้น และมันเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะเพาะเลี้ยงปลาชนิดนี้
อเมริกาเหนือมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากสำหรับการจับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวหญิงนิวซีแลนด์คนหนึ่งที่ชื่อพัสค์เคยตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินขนาด 400 กิโลกรัมได้ แต่เนื่องจากในเวลานั้นเธอไม่ได้อยู่ในเรือประมงเชิงพาณิชย์ จึงไม่สามารถขายปลาเพื่อเก็งกำไรได้ ดังนั้น นอกจากเงินรางวัลแล้ว เธอทำได้แค่แปลงปลาตัวนั้นให้เป็นรูปปั้น และนำกลับไปเป็นของที่ระลึก
แต่ฉินสือโอวไม่สนใจเรื่องนี้ เขามีวิธีที่จะส่งปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวนี้ไปตลาดโตเกียว มิฉะนั้น เขาไม่มีทางจับมันขึ้นมาหรอก
แน่นอนว่า สำหรับสถิติโลกนั้นเขาเองก็ต้องการบันทึก เพราะนี่เป็นการทำลายสถิติโลกครั้งแรกของเขา
ยัดน้ำแข็งจำนวนมากเข้าไปในเหงือกและช่องท้องของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ฉินสือโอวและเหล่าชาวประมงกลับไปถึงฟาร์มปลากันอย่างมีความสุข
เนื่องจากจับได้ในฟาร์มปลา ดังนั้นปลาตัวนี้เป็นของฉินสือโอว การทำงานครั้งนี้ของเหล่าชาวประมง ไม่มีเงินโบนัสแล้วล่ะ
ฉินสือโอวเป็นคนใจกว้าง แต่เขาไม่ได้ตาบอด เขาจะเพิ่มรายได้ของชาวประมงในช่วงสูงสุดที่กฎอนุญาต แต่ถ้าอิงตามกฎแล้ว ถ้าเขาไม่จำเป็นต้องแบ่งเงินให้ชาวประมง เขาก็จะไม่จ่ายเงินให้ชาวประมงเพิ่ม
เขาเข้าใจถึงหลักเหตุผลในการช่วยเหลือคนอื่นเป็นอย่างดี
แม้จะไม่ได้เงินเพิ่ม แต่เหล่าชาวประมงก็ยังคงมีความสุขมาก เพราะว่า ตราบใดที่กัปตันมีเงิน ก็จะรับประกันค่าจ้างของพวกเขาได้ กัปตันยิ่งมีเงินมากเท่าไร หลักประกันในค่าจ้างของพวกเขาก็จะยิ่งสูงขึ้น การได้มาอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วัน ดีกว่าการรวยในชั่วข้ามคืน
“กัปตัน จงเจริญ!” เหล่าชาวประมงส่งเสียงโห่ร้อง
เมื่อใกล้ถึงฝั่ง ชาวประมงลากปลาทูน่าครีบน้ำเงินไปยังห้องเย็น จากนั้นก็รวมตัวกันและตรงไปที่ผับดาราประกาย
หลังจากเข้าไปในเมืองแล้ว ฉินสือโอวเห็นมีเครื่องจักรกองหนึ่งไว้อยู่บนถนน และรู้ว่านี่เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างสถานีฐานที่ส่งมาจากโมโตโรล่า จึงเข้าไปถามความคืบหน้าของโครงการ
แฟรงค์ เคนต์ไม่อยู่ พนักงานคนหนึ่งที่กำลังตรวจแก้จุดบกพร่องซอฟต์แวร์บอกว่าเขาไปสำรวจจุดที่เหมาะสำหรับติดตั้งสถานีฐานกลางบนเขาเคอร์บัลแล้ว แต่เขาก็รู้ความคืบหน้าของโครงการเหมือนกัน ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงสิบวันในการสร้างสถานีฐานคลัสเตอร์ให้เสร็จ
ฉินสือโอวมองไปที่ส่วนประกอบ ส่วนประกอบหลักของสถานีฐานคลัสเตอร์นั้นส่วนมากก็ครบแล้ว สถานีฐานกลาง เครื่องควบคุม เครื่องส่งสัญญาณ เครื่องขยายสัญญาณ การรวมสัญญาณ แหล่งจ่ายไฟ ฯลฯ จัดเรียงอย่างเรียบร้อยและเป็นระเบียบ ตัวเครื่องใหม่ และมีสัญลักษณ์ ‘M’ ที่โดดเด่น
ในเมื่อตัดสินใจสร้างสถานีฐานคลัสเตอร์ ฉินสือโอวได้กลับไปทำความเข้าใจกับมัน เขาไม่รู้หลักการทำงานของส่วนประกอบเหล่านี้ แต่ดีหรือไม่ดีนั้นเขาดูออก
เห็นได้ว่าแฟรงค์ เคนต์มีความน่าเชื่อถือ คอนโทรลเลอร์สถานีฐานใช้ซีรีส์ BSC-AA101 ซึ่งมันเป็นเครื่องจักรที่ทันสมัยและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในปัจจุบัน มีฟังก์ชันสำหรับจัดการสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับสถานีฐาน นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาภายในสำหรับจัดการความสอดคล้องกันระหว่างเวลาและความถี่
เพื่อเพิ่มสัญญาณของทั้งระบบ แฟรงค์ได้ติดตั้งสถานีฐานพร้อมตัวควบคุมที่ซ้ำซ้อน ด้วยวิธีนี้ในกรณีที่เกิดความล้มเหลวคอนโทรลเลอร์สถานีฐานซ้ำซ้อนจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องการการแทรกแซงของมนุษย์
เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับสภาพแวดล้อมของเกาะแฟร์เวล หมู่เกาะมีความเสี่ยงต่อสภาพอากาศที่รุนแรงเช่นพายุและสึนามิ ภายในของตัวควบคุมและตัวรับสัญญาณ GPS มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาได้ง่าย เมื่อมีสถานีฐานสำรอง จึงดูน่าเชื่อถือมากกว่าเดิม
เมื่อรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร ฉินสือโอวขอบคุณเขาและตรงไปที่บาร์ ชาวประมงกำลังพูดคุยกัน บาร์เทนเดอร์นีลได้เก็บที่นั่งตำแหน่งดีไว้ให้ฉินสือโอวที่หนึ่ง
บาร์แห่งนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ถ้าตอนกลางคืนไม่มีกิจกรรม นักท่องเที่ยวก็จะมาดื่มที่บาร์ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลายของบาร์เล็กๆ ที่แตกต่างจากประเทศจีน
นีลได้ปรับเปลี่ยนบาร์อย่างง่าย บาร์มีสไตล์ใกล้ชิดธรรมชาติและเงียบสงบ เพลงส่วนใหญ่จะนุ่มนวล เปลี่ยนร้านเหล้าเป็นร้านพูดคุย
หลังจากที่ฉินสือโอวนั่งลง นีลก็ส่งไอซ์ไวน์ให้เขาแก้วหนึ่ง และถามเขาอย่างสนอกสนใจว่า “ได้ยินมาว่านายได้ปลาตัวใหญ่ที่สามารถทำลายสถิติโลกมาตัวหนึ่งเหรอ? เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? นายก็รู้ หลังดื่มเหล้าเขาเหล่านั้นกล้าพูดทุกเรื่อง”
“ครั้งนี้เป็นเรื่องจริง” ฉินสือโอวยิ้ม “ถือว่าฉันโชคดี ที่ได้ปลาทูน่าตัวใหญ่มาตัวหนึ่ง”
บทที่ 504 ฉินสือโอวผู้ชั่วร้าย
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลังจากดื่มไปสองแก้ว ฉินสือโอวเดินออกจากบาร์อย่างเกียจคร้าน ชาวประมงกลุ่มหนึ่งเดินตามรอบๆ เขาด้วยความมึนเมา พวกเขาพูดคุยเสียงดัง ปล่อยเนื้อปล่อยตัว เต็มไปด้วยความกล้าหาญของชาวประมง
ในเมืองไม่มีปัญญาเมาแล้วขับ หลังจากฉินสือโอวขับรถกลับไปถึงบ้าน แต่เห็นออดี้คิว 5 คันใหม่คันหนึ่งจอดไว้หน้าประตู
ยังไม่มีป้ายทะเบียนรถ เมื่อเห็นรถ เขาก็สร่างในทันที บ้าเอ้ย นี่น่าจะเป็นรถที่ขยะคนนั้นมอบให้วินนี่ใช่ไหม? ทำไมมาจอดไว้หน้าประตูตนเองล่ะ?
เมื่อขับรถผ่านไป เห็นชายในชุดสูทตนหนึ่งยืนคุยกับวินนี่อีกฝั่งของคิว 5 ฉินสือโอวจอดรถและปรับกระจกรถลงเพื่อดูละคร นีลเซ็นที่นั่งอยู่เบาะหลังพูดเตือนว่า “บอส มีคนแย่งแฟนของคุณ”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะมีดีอะไร” ฉินสือโอวเบะปากและดูละครต่อไป
เมื่อเห็นรถคาดิลแลควัน ชายในชุดสูทถอยหลังสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่างกับวินนี่ ฉินสือโอวมองว่าเขายังคงหลงเสน่ห์วินนี่หัวปักหัวปำ ใบหน้าของวินนี่ก็มักเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
คาดว่ารอยยิ้มของวินนี่เองที่ทำให้ชายในชุดสูทเข้าใจผิด คงคิดว่าสาวงามมีใจ จึงไล่ตามอย่างไม่หยุดหย่อน
ฉินสือโอวมองอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด เขารู้สึกไม่น่าสนใจแล้ว จึงลงจากรถไป
ชายในชุดสูทมองเขาด้วยความระมัดระวัง ฉินสือโอวทำท่าหาวแล้วพูดว่า “อย่ากลัวเลยเพื่อน ฉันไม่ตบนายหรอก กำลังจีบสาวเหรอ? ต่อสิ”
“นายเป็นใคร?” ชายในชุดสูทถาม
เมื่อฉินสือโอวได้ยินประโยคนี้ก็ชะงัก ให้ตายเถอะ เขาปัญญาอ่อนเหรอ? กล้าจีบวินนี่ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เบื้องหลังของเธอ เขาสามารถตัดสินจากคำถามนี้ของผู้ชายคนนี้ว่า เขาไม่รู้สถานการณ์ของวินนี่
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพูดขึ้นว่า “เพื่อน ฉันพูดภาษาจีนดีกว่า ดูเหมือนว่านายจะยังไม่รู้จักสาวสวยนะ นายรู้ไหมว่าเธอแต่งงานแล้ว? มีสามีแล้ว”
ชายในชุดสูทพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “แล้วยังไงล่ะ? ฉันไม่รังเกียจหรอก”
รอยยิ้มบนใบหน้าของวินนี่เริ่มจางหายไป
ฉินสือโอวชะงักอีกครั้ง เขาคิดว่าคิดพูดของชายในชุดสูทฟังดูประหลาด แต่เขายังมึนจากเมื่อครู่ ไม่รู้ว่าปัญญาอยู่ตรงไหน
ชายในชุดสูทยังคงมองไปที่วินนี่ด้วยสายตาหวานชื่น “คุณเซโรวาครับ ผมรักคุณจริงๆ คุณให้โอกาสผมได้ไหม? ผมกล้าพนันเลยว่าถ้าคุณรู้จักผมมากกว่านี้ ต้องตกหลุมรักและอยากแต่งงานกับผมแน่นอน”
ฉินสือโอวรู้ปัญหาของชายในชุดสูทแล้วล่ะ ให้ตายเถอะหลงตัวเองจริงๆ ต้องมีความมั่นใจแค่ไหนจึงจะสามารถพูดได้ว่าตนไม่รังเกียจวินนี่?
วินนี่ไม่อยากปั้นหน้าแล้ว เธอพูดว่า “คุณหม่าคะ ฉันรู้ว่าคุณดี คุณเก่ง และโดดเด่น แต่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน ฉันไม่เพียงแต่แต่งงานแล้วเท่านั้น แต่ยังมีลูกแล้วด้วย คุณไม่รังเกียจฉันเหรอ?”
“แค่คุณไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีก มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร” ชาวชุดสูทพูดอย่างไม่เต็มใจเท่าไร
วินนี่ถอนหายใจ เธอชี้ไปที่ฉินสือโอวแล้วพูดว่า “คนนั้นคือสามีของฉัน คุณบอกฉันให้เลิกติดต่อกับสามีฉันต่อหน้าเขา คุณไม่กลัวเขาต่อยคุณเหรอ?”
ครั้งนี้เป็นตาของชายในชุดสูทบ้างที่ชะงัก เขาถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณแต่งงานกับคนจีนเหรอ?”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าชายคนนี้นับวันยิ่งน่ารังเกียจ ทำไมแต่ละคำที่ออกมาจากปากของเขาฟังไม่เข้าหูอย่างนี้ล่ะ? แต่ยังไงเขาก็เป็นนักท่องเที่ยว ฉินสือโอวตัดสินใจที่จะสุภาพกับเขา เจรจาด้วยเหตุผลก่อนจะใช้กำลังละกัน “นี่ นาย นายรีบไปจากที่นี่เถอะ ฉันไม่อยากเจอนายที่หน้าประตูบ้านฉัน”
“ฉันแค่มาตามหาความสุขของฉัน เกี่ยวอะไรกับนายล่ะ” ชายในชุดสูทพูดอย่างนิ่งเฉย
ฉินสือโอวยักไหล่และพูดว่า “เตือนครั้งสุดท้ายนะ ถ้านายไม่ยอมไป ฉันจะให้ลูกของเรากัดนายให้ตาย”
ชายในชุดสูทและฉินสือโอวเป็นคนคนละโลกกัน ไม่สามารถเจรจากันได้
ฉินสือโอวไม่ให้โอกาสเขาตอบ ยกนิ้วขึ้นมาวางในปากแล้วทำเสียงนกหวีด
เสียงนกหวีดนี้นำมาซึ่งความคึกคัก ปอหลัวที่กำลังดูแลโรงเก็บของวิ่งเข้ามา หู่จือและเป้าจือวิ่งมาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันส่งเสียงเห่าในขณะที่วิ่ง “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!”
สีหน้าของชายในชุดสูทเปลี่ยนไปเมื่อเห็นสัตว์ป่าฝูงหนึ่งวิ่งออกมา เขารีบถอยหลัง แต่ฉินสือโอวชี้มือไปทางเขา ปอหลัวกะพริบตาสองที จากนั้นก้มหน้าแล้วกระโจน…
กวางมูสมีพลังมาก เขากวางของมันทำให้ชายในชุดสูทล้มคว่ำกับพื้น หลังจากหู่จือและเป้าจือวิ่งออกมาแล้ว พวกมันก็กระโดดใส่ชายในชุดสูท เขาตกใจและกรีดร้องไม่หยุด และอยากหนีไปจากที่นี่โดยเร็ว
ฉินสือโอวมองแล้วหัวเราะเสียงดัง วินนี่เข้าไปห้ามเด็กทั้งสาม หู่จือยังอยากกัดเขาอีกคำ แต่วินนี่เจ็บมันไว้และตบไปที่ก้นของมันสองที จากนั้นเธอแกล้งทำเป็นโมโหและพูดว่า “อย่าดื้อ รีบกลับบ้านเร็ว!”
อย่างนี้ ชายในชุดสูทจึงสามารถลุกขึ้นยืนได้ เขาจัดเสื้อที่เปื้อนฝุ่นเล็กน้อย และพูดว่า ‘ฉันจะแจ้งตำรวจ’ จากนั้นก็รีบขับคิว 5 จากไป
ฉินสือโอวเมาเล็กน้อย และในตอนนี้เขากำลังฮึกเหิม เมื่อได้ยินประโยคที่ชายหนุ่มฝากเอาไว้ เขาตะโกนบอกนีลเซ็นว่า “ขับรถชนมัน! ไปชนมัน!”
วินนี่รีบโบกมือห้าม นีลเซ็นอยากทำตามจริงๆ เบิร์ดค่อนข้างหนักแน่น เขากดนีลเซ็นไว้ และตะโกนว่า “ไปไกลๆ เลย คนขี้เมา! ถ้าจะขับรถให้ฉันขับดีกว่า ฮ่าๆ …”
สามารถคาดหวังอะไรจากทหารสองคนที่เมาเหล้าล่ะ รถคาดิลแลควันคำราม และกลับรถตามคิว 5 ไปในทันที
วินนี่หมดหนทางแล้วจริงๆ และใช้ปลายรองเท้าเตะน่องของฉินสือโอวเบาๆ หนึ่งที และเริ่มตำหนิเขาว่า “ดูคุณสิ สร้างแต่ปัญหาให้ฉัน!”
ฉินสือโอวกอดวินนี่ และพูดโดยใช้อารมณ์อย่างเด็กๆ ว่า “เขาคิดจะแย่งเมียผม ผมไม่ควรสั่งสอนเขาหน่อยเหรอ?”
“ควรอย่างยิ่ง คุณน่ะ ไม่รู้จักโต! ไปกันเถอะ กลับไปดื่มชาสักหน่อย”
“ไม่ ผมจะจูบคุณที่นี่”
“กลับไปก่อนดีไหม? ฉันซื้อเสื้อผ้าใหม่มาด้วย”
“ได้ครับ”
ฉินสือโอวดื่มชาไปแค่ครึ่งถ้วย ก็มีสายหนึ่งโทรเข้ามา “ฉิน นี่โรเบิร์ตนะ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมนีลเซ็นและเบิร์ดเมาแล้วขับล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้นคือชนเข้ากับผู้โชคร้ายด้วย!”
เมื่อครู่ฉินสือโอวฮึกเหิมเพราะฤทธิ์เหล้า และยังไม่ได้เมาจนไม่ได้สติ เมื่อได้ยินเรื่องนี้เขาสร่างในทันที เขาขมวดคิ้วและถามว่า “เกิดเรื่องอะไรไหม?”
โรเบิร์ต แคริแลนด์ผู้เป็นสารวัตรใหญ่ของเมืองแฟร์เวลพูดว่า “ขอบคุณพระเจ้า คนไม่เป็นอะไร แต่รถของนายและเขาคนนั้นเสียหายเล็กน้อย ด้านหน้าสีถลอก ท้ายรถยุบ”
“ฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ”
ฉินสือโอวบอกเรื่องนี้กับวินนี่ วินนี่เปลี่ยนเสื้อแขนยาวแล้วไปกับเขา ครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นรถคันอื่น ถ้าไม่ใช่รถพอร์ช 918 ก็เอฟ 650 ไม่สะดวกกลับรถในสถานีตำรวจ ดังนั้นวินนี่จึงเลือกขับรถพอร์ช 918
“เมื่อครู่ผมโง่ไปหน่อย ไม่น่าดื่มเลย” ฉินสือโอวพูดอย่างร้อนใจ เพราะการประสบอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับเป็นเรื่องใหญ่ในแคนาดา
หลังจากวินนี่สตาร์ทรถ เธอก็เอื้อมมือไปจับมือหนา เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร คุณเป็นคู่หมั้นที่ดีแล้วค่ะ”
ไม่เป็นไรจริงๆ รถคาดิลแลควันและคิว 5 จอดอยู่หน้าประตู แค่มีรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น และในตอนนี้รถไม่น่าจะชนกัน
เมื่อเข้าไปในสถานีตำรวจเล็กๆ เบิร์ด นีลเซ็นและตำรวจหลายคนกำลังพูดคุยกัน “ไอ้คนเม็กซิกันนั่นอยู่ห่างจากผมไปสิบเมตร เขาถือ M16 อยู่ในมือ ผมจำไม่ผิดแน่ๆ เพราะในตอนนั้นปากกระบอกปืนกำลังหันมาทางผม…”
บทที่ 505 ขนมหนิวผีถัง
โดย
Ink Stone_Fantasy
สารวัตรโรเบิร์ตก็เข้าไปมีส่วนร่วมในการคุยด้วย ตำรวจกลุ่มนั้นหัวเราะเสียงดังเป็นครั้งคราว บรรยากาศค่อนข้างดีเลยทีเดียว
คนที่เข้ากับใครไม่ได้คือหนุ่มหล่อในชุดสูท เขาที่ใบหน้าซีดเซียวนั่งโกรธอยู่มุมห้อง เมื่อเห็นวินนี่และฉินสือโอว เขาทำเสียง ‘หึ’ และหันหน้าไปทางอื่น
โรเบิร์ตทักทายฉินสือโอวและถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินสือโอวเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง โรเบิร์ตหัวเราะแล้วพูดว่า “เป็นเพราะนายหึงนี่เอง แต่นายก็ไม่ควรสั่งบอดี้การ์ดให้ติดตามและฆาตกรรมคุณผู้ชายท่านนี้นะ”
ชายในชุดสูงสีหน้าซีดเซียวกว่าเดิมเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แทบจะไม่มีสีบนใบหน้า
ไกด์นำเที่ยวที่ได้รับข่าวทีหลังก็มาถึงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการไกล่เกลี่ยระหว่างทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเป็นกรณีแรกที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว แฮมเล็ตเองก็มาเหมือนกัน และถามว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากให้ความสำคัญกับคดีนี้ จู่ๆ ชายในชุดสูทก็แข็งกร้าวขึ้นมา เขาปฏิเสธการไกล่เกลี่ยด้วยความโกรธเคือง และต้องการสืบสวนเบิร์ดและนีลเซ็นที่เมาแล้วขับ
การบังคับใช้กฎหมายของแคนาดาไม่ยุติธรรมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเมืองเล็กๆ มักจะเอียนไปตามประเพณีมากกว่า เห็นได้ชัดว่าโรเบิร์ตเข้าข้างฉินสือโอว เขาจึงถามถึงความรับผิดชอบของชายในชุดสูทก่อน “คุณผู้ชาย คุณขับรถที่ไม่มีป้ายทะเบียน และประสบอุบัติเหตุในฟาร์มปลาส่วนบุคคล นี่มันผิดกฎหมายแล้ว คุณเข้าใจไหม?”
ชายในชุดสูทโมโหและพูดว่า “ฉันไม่ได้อยู่ในฟาร์มปลาส่วนบุคคล ฉันถูกผู้ชายสองคนนั้นชนขณะขับอยู่บนถนนต่างหาก ไม่ได้อยู่ในฟาร์มปลาต้าฉินแล้ว!”
โรเบิร์ตชี้ไปที่แผนที่เมือง วงบนพื้นที่เกือบครึ่งและพูดกับชายในสุดสูทว่า “สถานที่เหล่านี้ล้วนแต่เป็นถิ่นของฉินสือโอว ฟาร์มปลาเหล่านี้ เขาซื้อไปตั้งนานแล้ว ดังนั้น คุณประสบอุบัติเหตุในพื้นที่ฟาร์มปลาของเขาจริงๆ”
ฉินสือโอวถามอย่างสงสัยว่า “ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายท่านนี้ซื้อรถคันนี้มาได้ยังไง? เขามาเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่น่าจะซื้อรถได้ใช่ไหม?”
เวลานี้แม้แต่ไกด์นำเที่ยวเองก็เริ่มสับสนแล้วเหมือนกัน ในแคนาดา เมื่อถือหนังสือเดินทาง คนถือทำได้แค่เช่ารถยนต์ได้เท่านั้น ไม่สามารถซื้อขาดได้ เนื่องจากรถยนต์ไม่สามารถลงทะเบียนได้
เมื่อไกด์นำเที่ยวตรวจเช็กอย่างละเอียด ที่แท้ชายในชุดสูทคนนี้ไม่ได้มากับกลุ่มทัวร์ในประเทศจีน เขาสมัครกลุ่มทัวร์ออนไลน์และมารวมกันที่โทรอนโต เขาเป็นผู้อพยพเช่นเดียวกับฉินสือโอว และถือกรีนการ์ดของแคนาดา
อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับประเทศจีนแล้ว และไม่ส่งผลกระทบต่อการร่วมมือกันระหว่างกลุ่มทัวร์ด้วย แฮมเล็ตเดินออกไปในทันที เขาไม่สนใจตลาดแคนาดาหรอก
โรเบิร์ตเองก็ไม่ยอมรับฟ้องคดี เพราะถ้าต้องสืบหาคนรับผิดชอบจริงๆ เบิร์ดและนีลเซ็นจะโดนข้อหาเมาแล้วขับ และต้องเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เป็นเรื่องธรรมดาที่ชายในชุดสูทจะโมโหเมื่อเขาไม่ได้รับความยุติธรรม เขาชี้ไปทางโรเบิร์ตและถามว่า “คุณคือตำรวจ คุณต้องรักษาความยุติธรรม ไม่อย่างนั้นผมจะร้องเรียนคุณ!”
“ตามสบาย เพื่อน คุณร้องเรียนผมได้เลย แต่ขอแก้อะไรหน่อยนะ ตำรวจไม่ได้มีไว้รักษาความยุติธรรม นั่นเป็นหน้าที่ของศาลและผู้พิพากษา หน้าที่ของตำรวจคือรักษาความสงบของผู้คน” โรเบิร์ตพูดอย่างไม่สนใจ
ฉินสือโอวคิดว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากฝั่งของตน ถ้าอย่างนั้นตนจะทำการขอโทษและจ่ายค่าปรับก็สิ้นเรื่อง
แต่หลังจากนั้นนีลเซ็นพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เด็กน้อย เฮ้ มองฉันสิ นายบอกว่าเราเมาแล้วขับ ใช่ นี่เป็นความจริง แต่นายจะบอกว่าเราขับรถไปชนนายเหรอ? เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ขอสาบานต่อพระเจ้าเลยว่า นายเป็นคนถอยรถมาชนเราเอง!”
ชายในชุดสูทไม่ยอมรับ บอกว่านีลเซ็นบิดเบือนความจริง ใครชนใครกันแน่?
โรเบิร์ตเริ่มปวดหัวกับเรื่องนี้ เนื่องจากเมืองนี้ไม่ใช่เมืองใหญ่ จะมีกล้องวงจรมากมายขนาดนั้นให้ตรวจสอบได้ยังไง? ดังนั้นหาหลักฐานได้ยาก
เมื่อพูดถึงกล้องวงจร ฉินสือโอวก็นึกถึงกล้องวงจรเหล่านั้นในฟาร์มปลาของตน ของเหล่านั้นไม่เคยได้ทำหน้าที่ของมัน เขาเกือบลืมไปเลย
เมื่อได้วิดีโอจากกล้องวงจรในฟาร์มปลา เห็นได้ชัดว่าใกล้ๆ ทางผ่านฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอท รถคาดิลแลควันตามคิว 5 ไม่ห่าง รถทั้งสองคันอยู่ใกล้กันมาก เห็นได้ชัดว่าเบิร์ดใช้ทักษะที่ยอดเยี่ยมของเขากดดันชายในชุดสูท
ขณะที่กำลังจะเลี้ยว ชายในชุดสูทบังคับพวงมาลัยรถได้ไม่ดี รถสะดุดและเกือบหลุดจากถนน เขาเหยียบเบรกในทันที และชนเข้ากับรถคาดิลแลควันพอดี และในตอนนั้นเอง เมื่อรถคาดิลแลควันเห็นเขาลื่นก็ได้เหยียบเบรกแล้ว
คราวนี้คนที่บิดเบือนความจริงก็ได้กลายเป็นชายในชุดสูท โรเบิร์ตยักไหล่แล้วพูดว่า “ดูสิ เพื่อน เรื่องนี้คุณต้องรับผิดชอบ เห็นได้ชัดว่าคนที่บิดเบือนความจริงไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นคุณ!”
ชายในชุดสูทชี้ไปที่เบิร์ดและพูดว่า “เขาเมาแล้วขับก่อน…”
“มันเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับเรา คดีเมาแล้วขับเป็นหน้าที่ของตำรวจจราจร ถ้ามีปัญหา เชิญคุณไปหาตำรวจจราจรที่เซนต์จอห์น” โรเบิร์ตกล่าว “เรามีหน้าที่พิพาท และเรื่องนี้ไม่สามารถพิพาทได้ คุณต่างหากที่ไปชนรถของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ต้องการสืบสวนคดีนี้ ดังนั้น ปิดคดีได้”
ชายในชุดสูทไม่มีทางเลือก นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรและเขาก็เป็นคนผิดก่อน แต่ข้อได้เปรียบของเขาก็คือการเมาแล้วขับของเบิร์ด
แต่ในเมืองชนบทอย่างเกาะแฟร์เวลแห่งนี้ ใครไม่เคยเมาแล้วขับบ้างล่ะ? สารวัตรโรเบิร์ตเองก็ไม่มีความยุติธรรม บนโต๊ะทำงานของเขาก็มีแชมเปญหนึ่งขวดวางอยู่
ภายใต้การไกล่เกลี่ยของโรเบิร์ต เรื่องนี้ก็กลายเป็นโมฆะ ชายในชุดสูทจากไปด้วยความโกรธ แต่ฉินสือโอวกลับมีความสุขมาก
ในเรื่องนี้ เขาเป็นผู้รับผลประโยชน์ที่มีส่วนได้เสีย โรเบิร์ตในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รักษาความยุติธรรม แต่ช่วยเขาทุกเรื่อง
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องเหนือคาดในเมืองชนบท ดังที่โรเบิร์ตกล่าวว่า เป็นแค่ตำรวจในเมืองชนบท คุณยังคาดหวังให้พวกเขาจัดการกับเรื่องต่างๆ อย่างยุติธรรมอีกเหรอ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉินสือโอวที่ทั้งบูรณะโบสถ์และช่วยสร้างสถานีฐานวิทยุ สำหรับคนในเมืองแล้วเขาเป็นคนกันเองมากกว่า
ไม่อย่างนั้นฉินสือโอวจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและอำนวยความสะดวกสาธารณะในเมืองไปทำไม? เพราะมีความเมตตาเหรอ? ขอที ในยุคเศรษฐกิจอย่างนี้ ถ้าไม่เป็นเทวดาก็อย่าแกล้งเป็นคนดีเลย
เรื่องนี้ก็ไม่ได้ไม่ยุติธรรมกับชายในชุดสูท อย่าว่าแต่ผู้อพยพแสนธรรมดาอย่างเขา ถ้าวันนี้เป็นชาวอังกฤษหรือชาวฝรั่งเศส โรเบิร์ตก็จะเข้าข้างฉินสือโอวเหมือนกัน
ดังนั้นการอยู่ในเมืองชนบท การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ
ว่ากันถึงแก่นแท้แล้ว เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากความงามของวินนี่ ก่อนหน้านี้โรเบิร์ตได้ทำการตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วว่าชายในชุดสูทหลงเสน่ห์วินนี่ตั้งแต่เห็นเธอในอินเทอร์เน็ต จึงสมัครกลุ่มทัวร์เพื่อมาทำความรู้จักกับวินนี่โดยเฉพาะ เขาเห็นวินนี่ขับรถฟอร์ดคันเก่าไปทำงานก็คิดว่าวินนี่เป็นมัคคุเทศก์ที่ไม่มีเงิน จึงซื้อคิว 5 มาคันหนึ่งเพื่อแสดงตัว
หลังจากกลับไปถึงบ้านฉินสือโอวมอบบอร์ดควบคุมระยะไกลของรถพอร์ชให้วินนี่ ให้เธอขับรถคันนี้ไปทำงาน อย่างนี้ เมื่อมีคนต้องการจีบเธอก็ต้องไตร่ตรองก่อนว่าตัวเองสามารถให้รถพอร์ช 918 เธอได้หรือไม่
เดิมทีวินนี่ไม่ยอม แต่วันรุ่งขึ้นที่เธอไปทำงานและเห็นชายในชุดสูทยังรอเธออยู่ จึงทำให้เธอรู้สึกจนปัญญา เธอกลับรถกลับไปที่บ้านแล้วขับรถพอร์ช 918 เข้าไปในเมืองด้วยความเร็วสูง โดดเด่นเป็นบ้า!
แต่นี่ก็ไม่สามารถหยุดความชื่นชอบของชายในชุดสูทได้ ขณะที่วินนี่กำลังทำงานเขาก็ได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานอย่างชัดเจน “คุณเซโรวาครับ ผมขอโทษสำหรับความเข้าใจผิดเมื่อวานนี้ แต่ผมคิดว่าผมเหมาะสมกับคุณมากกว่าคนหยาบคายคนนั้น”
“คุณมีปัญญาซื้อ รถพอร์ช 918 ไหม? คุณมีพื้นที่ฟาร์มปลาที่มีชายฝั่งยาวถึงห้าสิบกิโลเมตรหรือเปล่า? ถ้ามี คุณค่อยมาจีบฉัน ฉันก็เป็นคนเห็นแก่เงินอย่างนี้แหละ” วินนี่ยิ้มขื่นๆ
“ผมไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นหรอก แต่ผมรักคุณมากกว่าเขา! อีกอย่าง ผมแค่ยังไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น ถ้าคุณรู้ประสบการณ์ของผมคุณจะเข้าใจเอง ผมไม่เหมือนทายาเศรษฐีเหล่านั้น ทุกสิ่งที่ผมมีในตอนนี้ผมล้วนแต่หามันมาได้ด้วยตัวของผมเอง ผมเชื่อว่าสักวันผมจะกลายเป็นมหาเศรษฐีด้วยตัวของผมเอง!”
“ฟัค คุณไปเป็นมหาเศรษฐีของคุณเถอะ ถ้ามายุ่งกับฉันอีก ไม่งั้นฉันเอาหมามากัดคุณแน่!”
บทที่ 506 ส่งไปยังโตเกียว
โดย
Ink Stone_Fantasy
“พระเจ้า ฉันจะบ้าแล้ว” ทันทีที่วินนี่กลับมาก็นอนลงบนโซฟา หน้าของเธอดูเหนื่อยๆ
หลัวปอมองวินนี่อย่างนิ่งๆ นี่คือแม่ที่แสนอ่อนโยนคนนั้นใช่ไหม? กลับมาแล้วต้องกอดและจูบมันก่อนเป็นอันดับแรกไม่ใช่เหรอ? หน้าของมันเต็มไปด้วยความสงสัย มันวิ่งเข้าไปดม ยังคงเป็นกลิ่นที่คุ้นเคย คือแม่จริงๆ ด้วย
หลัวปอใช้อุ้งเท้าดึงรองเท้าส้นสูงของวินนี่ วินนี่หันไปมองอย่างหมดหนทางและอุ้มมันขึ้นมา หลัวปอคิดว่าจะได้รับความรักจากแม่แล้ว แต่วินนี่กลับกดมันลงบนโซฟาและมุดหน้าเข้าไปในขนสีขาวอันอ่อนนุ่มของมัน
ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แน่นอน หลัวปอพยายามดิ้นรน มันรู้สึกไม่สบายตัวเท่าไร
ฉินสือโอวแค่มองก็รู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไรแล้ว เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “บ้าเอ้ย ไอ้นั่นยังมายุ่งกับคุณอยู่อีกเหรอ?”
“พระเจ้าลงโทษฉัน! ฉิน ฉันต้องทำอะไรผิดแน่ๆ พระเจ้าลงโทษฉันที! ฉันไม่เคยเจอใครที่หลงตัวเองเท่าเขามาก่อน! คุณรู้ไหมว่าเขาพูดอะไรกับฉันบ้าง? เอาเถอะ ไม่พูดแล้ว ในที่สุดฉันก็รับรู้ถึงความน่ากลัวของ ‘หงส์หนุ่ม’ แล้วล่ะ” วินนี่พูดอย่างเศร้าใจ
ฉินสือโอวหัวเราะและพูดว่า “ผมเองก็เป็น ‘หงส์หนุ่ม’ นะ หงส์หนุ่มผู้มาจากชนบทไง”
“คุณยังมีอารมณ์ที่จะพูดเล่นอีกเหรอ เขาเป็นหงส์หนุ่มที่บ้า เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เย่อหยิ่ง และอ่อนไหวง่าย ความมั่นใจที่เขาแสดงต่อฉันนั้น ฉันความรู้สึกว่ามันเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจเสียมากกว่า!” วินนี่อุ้มหลัวปอขึ้นและส่ายไปมา ราวกับกำลังระบายบางสิ่ง
หลัวปอส่งเสียงร้อง ‘โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง’ ฉินสือโอวรีบเข้าไปช่วยแกะหลัวปอออกอย่างรวดเร็วและพูดว่า “โอเค โอเค เรื่องนี้ต้องคุยกันยาวๆ แต่คุณกำลังทำหลัวปอตกใจ จนเด็กน่าสงสารตัวนี้กำลังเลียนแบบการเห่าของสุนัขแล้ว”
วินนี่อุ้มหลัวปอขึ้นมาใหม่ และพูดด้วยความรักว่า “ที่รัก ขอโทษ วันนี้แม่รู้สึกเศร้ามาก ขอแม่กอดหน่อย ขอหอมหน่อย”
ดวงจิตอันบอบบางของหลัวปอกำลังตกอยู่ในความกลัว ในที่สุดมันก็รู้สึกถึงความดีของฉินสือโอว แม้คุณพ่อมักจะหลอกมัน แต่เมื่อมันคิดไตร่ตรองอีกที ก็ยังหาข้อดีของคุณพ่อไม่เจอ เอาเถอะ โลกนี้มีเพียงคุณแม่เท่านั้นที่ดีที่สุด
เมื่อไม่สามารถระบายกับหลัวปอได้ วินนี่ก็เปลี่ยนไปทรมานฉงต้า ฉงต้าปล่อยให้วินนี่ทำตามใจอย่างนิ่งๆ ใบหน้าอ้วนกลมของมันเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์
ฉินสือโอวพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “ผมจะให้เบิร์ดและนีลเซ็นไปจัดการกับมัน ให้ตายเถอะ นี่มันกลายเป็นสันดานอันธพาลไปแล้ว อย่างน้อยก็เป็นการล่วงละเมิด เราฟ้องร้องมันได้นะ”
วินนี่พูดอย่างเศร้าใจว่า “อย่า ที่รัก เขาบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริงๆ เรารับมือไม่ไหวหรอก หลีกเลี่ยงกันก่อนดีกว่า”
รับมือไม่ไหวเหรอ? ฮ่าๆ ฉินสือโอวหัวเราะ ถ้าคุณพานักท่องเที่ยวไปเล่นน้ำทะเล ผมจะปล่อยงูเหลือมทะเลออกมาเอามันให้ตาย!
เขามีวิธีฆ่าชายในชุดสูทไม่ต่ำกว่า 1,086 วิธี แต่วิธีที่จะทำให้เขาเลิกยุ่งกับวินนี่ได้ ไม่มีเลยจริงๆ
“งั้นก็ไม่มีทางอื่นแล้วล่ะ ขอลาสิ สัปดาห์หน้าผมจะไปงานประมูลปลาทูน่าฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่นพอดี ไปเที่ยวโตเกียวกัน ผมจะพาคุณไปช้อปปิ้งที่โตเกียว”
“ไม่อยากช็อปปิ้ง ฉันพอใจแล้วล่ะกับเจ้าหญิงยามราตรีที่คุณมอบให้ฉัน แต่การลาก็เป็นวิธีที่ไม่เลวเหมือนกัน หวังให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กลับไปเร็วๆ นะ” วินนี่พูดด้วยสีหน้าคาดหวัง
เพื่อปลอบใจวินนี่ ในตอนเย็นฉินสือโอวได้ทำผัดเห็ดหอมที่เธอชอบ เห็ดเหล่านี้เขาเด็ดมาจากป่ารอบๆ ขณะที่ไปดูฟาร์มเพาะเลี้ยง เนื่องจากฝนไม่ตก เขาจึงเด็ดมาได้แค่ 10 ดอก
การทอดเห็ดหอมคล้ายๆ กับการทอดหมู หั่นเห็ดหอมเป็นสี่แผ่น จากนั้นผสมแป้งกับไข่ นำเห็ดเข้าไปชุบแล้วทอดในน้ำมันมะกอก ใช้เวลาไม่นานก็สุกแล้ว
หลังจากทอดเห็ดหอมเสร็จแล้วก็ใส่เครื่องเคียง วินนี่อารมณ์ดีขึ้น เธอคลอเคลียในอ้อมแขนของฉินสือโอวและกินเห็ดทอดไปด้วย ทำให้ลืมความไม่สบายใจทั้งหมดในที่ทำงาน
ฉินสือโอวได้โทรหาบัตเลอร์ชายหนุ่มผิวดำและมีเครายาวที่อยู่ตลาดอาหารทะเลในนิวยอร์กแล้ว บอกเขาว่าตนตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้ ความยาว 4.2 เมตร หนัก 560 กิโลกรัม และให้เขาคิดหาวิธีเอาไปขายที่โตเกียว
ถ้าใช้วิธีการขาวสะอาด ปลาตัวนี้ไม่สามารถออกจากแคนาดาได้แน่นอน ไม่สามารถล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้ในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูล่าปลา แน่นอนว่าถ้าคุณล่ามากินเองก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะเอาออกนอกประเทศนั้นเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะเอาไปขายหรือกินเอง
แต่ที่ใดมีมนุษย์อาศัยที่นั่นมักมีช่องโหว่ ด่านศุลกากรไม่ใช่ปัญหาของบัตเลอร์ตั้งนานแล้ว การขนปลาออกไปไม่ใช่ปัญหา
แคนาดาและสหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและเข้มงวด แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น สำหรับคนธรรมดาและคนจน กฎหมายก็ถือว่ายุติธรรม แต่สำหรับคนรวย กฎหมายเป็นแค่เครื่องมือในการปกป้องพวกเขา และในบางครั้งก็เป็นแค่กระดาษเปล่าแผ่นหนึ่ง
ตามกฎ ถ้าฉินสือโอวให้บัตเลอร์ช่วยเขาขนปลาทูน่าตัวนี้ จะต้องให้ส่วนแบ่งร้อยละ 22 ของราคาประมูลท้ายสุด และแน่นอนว่าแค่ราคาประมูล ไม่รวมเงินรางวัลที่ทำลายสถิติโลกที่ได้จากสมาคมการประมงระหว่างประเทศ
ตอนที่บัตเลอร์รู้เรื่องที่ฉินสือโอวตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่มีความยาวกว่าสี่เมตรนั้นเขาก็ยังไม่เชื่อเท่าไร หลังจากบินกลับมาจากนิวยอร์ก ตอนที่เขาเจอฉินสือโอวเขาถามฉินสือโอว่า “นายแน่ใจว่าเป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินไหม? หรือมันอาจเป็นปลาทูน่าครีบเหลือง ปลาทูน่าตาโตก็ยังด่วนสรุปไม่ได้ ใช่ไหม?”
“ฉันเป็นเจ้าของฟาร์มปลา เพื่อน ฉันเป็นมืออาชีพ!” ฉินสือโอวพูดออกไปอย่างไม่มีทางเลือก
หลังจากพาเขาเข้าไปในห้องเย็น เห็นปลาทูน่าตัวใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง บัตเลอร์พูดด้วยสีหน้าตะลึงว่า “พระเยซู เป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินจริงๆ ! ฉันไม่ได้เห็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่มีขนาดใหญ่อย่างนี้มาห้าสิบปีแล้ว นายได้มันมาจากไหน?!”
“ฟาร์มปลาจัดการโดยชาวประมงของฉัน พวกเขาพบมันในขณะที่กำลังลาดตระเวน จากนั้นตกมันขึ้นมาด้วยแรงมหาศาล เป็นยังไง มีค่าไหม?” ฉินสือโอวถาม
บัตเลอร์ถอนหายใจและพูดว่า “ไม่ใช่แค่มีค่า เพื่อน มันคือทองคำ น่าจะประมูลได้ไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้าน แต่เสียดายที่ตลาดโตเกียวถูกควบคุม ไม่อย่างนั้น 5 ล้านก็ไม่มีปัญหา!”
“เยนหรือดอลลาร์แคนาดาล่ะ?”
“ล้อฉันเล่นใช่ไหม? ดอลลาร์สหรัฐฯสิ!”
“โห พระเยซู ไม่เลวเลย”
“โอเค ฉันจะรีบหาเพื่อนขนมันไป นายเตรียมรับเงินเถอะ”
เนื่องจากได้รับการแนะนำมาโดยตระกูลสเตราส์ ทั้งสองเคยร่วมมือกันหลายครั้ง บัตเลอร์เคยแนะนำให้เขารู้จักกับพ่อค้าอาหารทะเลในควิเบกเช่นฟิลิปป์ ดังนั้นฉินสือโอวเชื่อมั่นในตัวเขามาก และเอาปลาให้เขาจัดการเลย
บัตเลอร์ยุ่งกับการจัดการปลาตัวนี้ โดยไม่ได้อยู่ค้างที่ฟาร์มปลา เขากลับไปในวันเดียวกัน เขากำชับก่อนไปว่า “ฉิน ฟาร์มปลาของนายยังมีปลาแลมป์เพรย์ไหม? ถ้ามี ตอนขายโปรดติดต่อฉัน ปลาแลมป์เพรย์ของนายรสชาติดีมาก ร้านอาหารชั้นนำในนิวยอร์กต่างกำลังรอ”
“แล้วราคาล่ะ?”
“เพิ่มขึ้นร้อยละ 20”
“รอข่าวดีจากฉันแล้วกัน”
การประมูลฤดูใบไม้ผลิที่โตเกียวจะเริ่มประมาณกลางเดือนเมษายน เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วัน ฉินสือโอวต้องการทำความสะอาดฟาร์มปลาสักหน่อยแล้วพาวินนี่ไปเที่ยว
หลังจากส่งปลาทูน่าครีบน้ำเงินไปแล้ว ในตอนเช้าฉินสือโอวชงกาแฟแล้วนั่งพูดคุยกับวินนี่ วินนี่ที่สลัดชายในชุดสูททิ้งไปได้กลับมามีออร่าอีกครั้ง เธอหยอกล้อกับฉินสือโอวอย่างมีความสุข
ฉินสือโอวเองก็มีความสุขเหมือนกัน จู่ๆ วิทยุสื่อสารบนโต๊ะก็ดังขึ้น “ติ๊ดด บอส ติ๊ดด ผม… ติ๊ดด เบิร์ด ติ๊ดด เกิดเรื่องแล้ว ติ๊ดด เกิดเรื่องแล้ว มีเรือประมง ติ๊ดด มีเรือประมงเข้ามาในฟาร์มปลา…”
บทที่ 507 เรือไดโตะโชวะมารุ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เนื่องจากคลัสเตอร์สถานีวิทยุของโมโตโรล่ายังไม่ได้เปิดใช้งาน ฉินสือโอวจึงได้สั่งการเฮลิคอปเตอร์ที่มีวิทยุไร้สายเข้าสู่มหาสมุทร ซึ่งทำให้รับสัญญาณได้ไม่ค่อยดีนัก
เบิร์ดพยายามใช้คำพูดที่ทำให้คนเข้าใจง่าย ฉินสือโอวจึงเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่แท้ก็มีเรือประมงบุกรุกเข้าไปในเขตเพาะพันธุ์ของเขา แถมยังเป็นเรือประมงขนาดใหญ่อีกด้วย
เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉินสือโอวก็โมโหขึ้นมาทันที ให้ตายเถอะ! มาในช่วงเก็บเกี่ยวพอดีเนี่ยนะ? สงสัยคงจะเล็งไว้ตั้งแต่แรกแล้วสินะ
เมื่อเฮลิคอปเตอร์บินวนกลับมา ฉินสือโอวก็โดดขึ้นไปนั่ง เสียงตะโกนของวินนี่ก็ดังตามหลังขึ้นมา “ฉินสือโอว เจรจาก่อนอย่าเพิ่งใช้ความรุนแรงล่ะ ระวังตัวด้วย!”
ระหว่างที่เฮลิคอปเตอร์กำลังเคลื่อนตัว ฉินสือโอวก็ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของตนสำรวจน่านน้ำไปด้วย
ห่างจากชายฝั่งเขตเพาะเลี้ยงไปประมาณ 350 กิโลเมตร มีเรือประมงที่มีความยาวประมาณ 60-70 เมตรจอดลอยลำอยู่ หลังจากที่ฉินสือโอวรู้น้ำหนักและโครงสร้างของเรือลำนั้นผ่านจอเรดาร์ เขาจึงได้เบาใจเรา
ฉินสือโอวประเมินจากโครงสร้างและความยาวของเรือขนาด 60-70 เมตร น้ำหนักเหลือมากสุดก็แค่ 2,000 ตัน ของที่บรรจุได้สูงสุดไม่เกิน 1,000 ตัน ซึ่งต่างจากเรือประมงยักษ์ขนาดหมื่นตันที่สามารถกวาดผลผลิตไปจนหมดแหล่งเพาะได้
ถึงแม้จะเป็นเพียงเรือขนาดพันตัน แต่ฉินสือโอวก็ไม่อาจชะล่าใจได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรนั้นมันก็เป็นปลาในฟาร์มเพาะเลี้ยงของเขา
ฉินสือโอวมีหัวใจแห่งโพไซดอน แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เจ้าสมุดทั่วโลก แต่ก็ถือเป็นเจ้าสมุทรในเขตปกครองนี้
เพราะในตัวของสัตว์ทะเลทุกชนิดในฟาร์มเพาะเลี้ยงมีพลังแห่งโพไซดอนซ่อนอยู่ ดังนั้นฉินสือโอวจึงสามารถส่งจิตเข้าไปในร่างของสิ่งมีชีวิตนั้นได้ตามต้องการ ในทะเลลึกก็มีปลาที่เขาสิงจิตเข้าไปได้เช่นกัน นั่นก็คือปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือที่หายากมากๆ ฉินสือโอวจึงรีบส่งจิตเข้าไปในตัวทูน่าทันที
เมื่อวานมาดูรอบๆ เรือก็สังเกตเห็นบอลหิมะที่อยู่รอบเรือลำนี้ ไอซ์สเกตและมิสเตอร์บีนก็ว่ายวนอยู่รอบๆ ด้วยความกังวล
เพียงชั่วครู่ฉินสือโอวก็รู้ถึงสาเหตุที่ปลาโลมาทั้ง 2 ตัวนั้นกังวล เพราะบอลหิมะกำลังใช้หัวชนเข้าที่ใต้ท้องเรือประมงด้วยความบ้าคลั่ง!
ฉินสือโอวปลอบขวัญแล้วรีบพาเจ้าสามตัวนั้นลงสู่ใต้ทะเล ถึงแม้ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบอลหิมะจนต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือต้องทำความเข้าใจกับเรือประมงนี้เสียก่อน
หลังจากปรับขวัญเจ้า 3 ตัวนั้นแล้ว ฉินสือโอวก็ไหว้สำรวจรอบเรือประมง สักพักสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง บ้าเอ้ย! วันนี้ฉันจะฆ่าคนพวกนี้ซะ!
บนเรือไดโตะโชวะมารุ กัปตันโชเอกำลังยืนรับลมอย่างสบายใจ สายลมพัดผมของเขาพลิ้วไหวไปมา ทำให้เห็นจิตวิญญาณอันแน่วแน่ของเขา
แม้เขาจะเป็นถึงกัปตันเรือประมงขนาด 1,500 ตันนี้ก็เถอะ แต่การแต่งตัวของเขาก็เหมือนนักดำน้ำธรรมดาทั่วไปที่สวนเพียงชุดดำน้ำสีดำและรองเท้าบูตยางหนา
สิ่งที่แตกต่างจากนักดำน้ำทั่วไปคงเป็นจิตวิญญาณของเขา ซาโต้ ไทชิเป็นคนที่ไม่ว่าทำอะไรก็จะดูมีชีวิตชีวาและมุ่งมั่นอยู่เสมอ เพราะเขาคิดว่าแบบนี้จึงจะถือเป็นลูกผู้ชายตัวจริง
ส่วนดาราชายท่าทางเกย์ทั้งหลายที่วัยรุ่นชื่นชอบ เขากลับรู้สึกสะอิดสะเอียน ความบ้าเลือดและครอบครองเท่านั้นจึงจะถือเป็นสัญลักษณ์ของลูกผู้ชาย และนี่คือความเชื่อของเขาตลอดมา
ลมทะเลแรงพัดเข้าหน้า ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บบ้างแต่ซาโต้ ไทชิไม่เคยกลัว เขาชอบความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ เพราะมันจะกระตุ้นจิตวิญญาณนักสู้ของเขาออกมา ทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ เพราะเหตุนี้ลูกเรือของเขาจึงชอบเรียกเขาว่า ‘คุณพายุผู้เตรียมพร้อมเสมอ’
ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินกับลมทะเล ชายร่างสูงผู้หนึ่งก็เดินมายืนด้านหลังของเขา พร้อมกับก้มตัวคำนับแล้วพูดว่า “กัปตันโชเอ คุณยามาโมโตะพบปลาโลมา 3 ตัวใต้ท้องเรือครับ จะลงมือล่าเลยไหมครับ?”
ซาโต้ ไทชิหันหลังกลับไปมองชายร่างสูงแล้วหัวเราะ “ที่แท้ก็รองกัปตันทามุระนี่เอง ก็แค่โลมา 3 ตัวเท่านั้นไม่ต้องรีบล่าหรอก ปล่อยให้พวกมันทำตัวโอหังไปก่อน ล่าวาฬหลังค่อมก่อนดีกว่าเพราะนั่นคือเป้าหมายในการล่าครั้งนี้”
ทามุระพยักหน้าแล้วพูดอย่างนอบน้อม “ครับ! ผมจะรีบไปรายงานคำสั่งของคุณให้กับลูกเรือคนอื่นเดี๋ยวนี้ครับ”
ซาโต้ ไทชิยกมือห้าม “รองกัปตันทามุระ ไม่ต้องรีบหรอก มานี่ มาสัมผัสลมทะเลนี้ก่อน ทั้งเนื้อวาฬและหูฉลามพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ท้องทะเลแห่งนี้มอบให้กับเราทั้งนั้น”
ทามุระเดินไปยืนหัวเรือด้วยความเกรง ซาโต้ ไทชิหลับตาสัมผัสลมทะเลแล้วพูดขึ้น “ถ้าหากตอนนี้มีบุหรี่สักม้วนคงจะดี นี่ต่างหากที่เรียกว่าชีวิต”
สิ้นเสียง ทามุระรีดหยิบยาสูบออกมาพร้อมกับหันหลังให้กับลม แล้วม้วนยาสูบยื่นให้กับซาโต้ ไทชิด้วยสองมือ “นี่ครับกัปตันโชเอ นี่เป็นยาสูบที่ปลูกเองที่บ้านผมครับ แม้จะไม่ดีเท่าของฮอกไกโดบ้านเกิดของท่าน แต่รสชาติก็ไม่เลว หวังว่าท่านจะชอบนะครับ!”
ซาโต้ ไทชิรับบุหรี่มาจุดไฟแล้วสูบ หลังจากที่พ่นควันออกมาลมทะเลก็พัดควันนั้นหายไปทันที ซาโต้ ไทชิพยักหน้าด้วยความพอใจ “เป็นความหอมที่เข้มข้นมาก รองกัปตันทามุระ ผมเริ่มสนใจบ้านเกิดของคุณเสียแล้ว”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านชื่นชอบครับ!” ทามุระพูดด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้ม
ทามุระเป็นรองกัปตันคนใหม่บนเรือไดโตะโชวะมารุ ก่อนหน้านี้เขาทำงานอยู่ในเรือล่าวาฬขนาด 500 ตัน เนื่องจากรองกัปตันคนเก่าถูกจับกุมโดยกรมทางทะเลในข้อหาลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมาย เขาจึงได้รับโอกาสขึ้นเรือลำนี้
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีแผ่นดินขนาดเล็กแต่มีพื้นที่ทะเลขนาดใหญ่ พวกเขาเชื่อว่าก่อนจะครอบครองโลกต้องครอบครองทะเลให้ได้ก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงศรัทธาในทะเล เมื่อเทียบกับพื้นบกคนญี่ปุ่นจะเคร่งด้านการทะเลมากกว่า บนเรือกัปตันเรือก็คืออำนาจทุกอย่าง แม้จะมียศสูงกว่าเพียงชั้นเดียวก็สามารถข่มได้ตามใจชอบ
ทามุระเองก็เพิ่งขึ้นเรือล่าวาฬชื่อดังนี้ได้ไม่นาน การออกล่าปลาวาฬและฉลามไกลขนาดนี้ถือเป็นครั้งแรกของเขา
ใช่แล้ว! เรือไดโตะโชวะมารุเป็นเรือล่าวาฬลำหนึ่ง แถมยังเป็นเรือล่าวาฬที่ขึ้นชื่อมากอีกด้วย จนถูกขนานนามว่า ‘หน่วยล่าวาฬแห่งทะเลลึก’ ในฮอกไกโด ทุกครั้งที่ออกล่าก็จะได้เนื้อปลาวาฬและหูฉลามกลับมาไม่ต่ำกว่าพันกิโล
เดือนมีนาคมและเดือนเมษายนของทุกปี เรือไดโตะโชวะมารุก็จะออกล่าปลาวาฬและฉลามไปไกลถึงมหาสมุทรแอตแลนติก ซาโต้ ไทชิรู้พฤติกรรมของกลุ่มปลาคาพีลินเป็นอย่างดี ทุกปีจะมีวันหลังค่อยมารวมตัวที่นี่เพื่ออาหารอันโอชะ
สำหรับวาฬหลังค่อมการปรากฏตัวของกลุ่มปลาคาพีลินถือเป็นอาหารอันโอชะ ในทางกลับกัน การปรากฏตัวของวาฬหลังค่อมและวาฬอื่นๆ รวมถึงฉลามหูฉลามและเนื้อฉลามก็ถือเป็นอาหารอันโอชะสำหรับซาโต้ ไทชิเช่นกัน
ปีที่ผ่านมาซาโต้ ไทชิมักจะออกเรือในเดือนมีนาคม เพื่อหากลุ่มปลาคาพีลินแล้วเฝ้ารอเหยื่อรายใหญ่ รอล่าปลาวาฬตัวใหญ่ที่กินปลาคาพีลินจนอิ่มและล่าขึ้นเรือขณะที่ปลาไร้การป้องกันตัว ปีที่แล้วเขาล่าวาฬขาวได้ตัวหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาโด่งดังไปทั่ว
ปีนี้โชคไม่ดี เมื่อเรือไดโตะโชวะมารุออกทะเลก็พบว่ากลุ่มปลาคาพีลินย้ายที่ผสมพันธุ์ใหม่ ไม่ได้ผสมพันธุ์ในเขตพัฒนานิคมพ้นทะเลแซงปีแยร์และมีเกอลงตามเดิม แต่กลับไปผสมพันธุ์ทางตอนใต้ในเขตฟาร์มเพาะนิวฟันด์แลนด์แทน
ซาโต้ ไทชิพาลูกเรือวนหาเป็นอาทิตย์ กว่าจะมาเจอที่นี่ก็เสียเวลาไปไม่น้อย
“สุริยเทพียุติธรรมกับเราเสมอ เมื่อผ่านความยากลำบากก็จะเก็บเกี่ยวได้มากขึ้น ปีนี้เราพบปลาวาฬและฉลามที่มากกว่าปกติ ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวของพวกเรานะ” ซาโต้ ไทชิพูดจากใจ
“จริงด้วยครับ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกัปตันโชเอทั้งนั้นเลยนะครับ” ทามุระก้มตัวพูดอย่างนอบน้อมและแสดงสีหน้าเชิดชู
บทที่ 508 ความพิโรธแห่งโพไซดอน
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลังจากผลสำรวจรอบเรือประมงลำนี้เสร็จ เส้นเลือดทุกจุดบนตัวของฉินสือโอวก็เดือดพล่าน ราวกับถูกเผาจนตัวแดง
โกรธจนสุดขีด!
รอบเรือลำนี้เต็มไปด้วยเลือดแดงเข้ม แม้แต่คลื่นในทะเลก็ซัดเลือดในน้ำให้จางไปไม่หมด
ปลาวาฬหลังค่อมตัวหนึ่งลอยส่งเสียงโหยหวนอยู่ด้านหน้า เสียงหัวเราะของคนบนเรือแหลมจนแสบแก้วหู พวกเขาเคลื่อนเครื่องยิงออกมา แล้ววางหอกแหลมที่หนาเท่าแขนยาวประมาณ 2 เมตร พร้อมกับยิงไปบนตัววาฬหลังค่อมตัวนั้น เมื่อเครื่องค่อยๆ ขดโซ่กลับมา ปลาวาฬตัวนั้นก็ถูกลากขึ้นเรือไปด้วย
บัดนี้วาฬหลังค่อมตัวนั้นก็ใกล้จะสิ้นลมแล้ว เมื่อถูกลากขึ้นเรือก็คงต้องยอมรับชะตากรรม ลูกเรือคนหนึ่งเดินถือปืนงันเข้าไปช็อตบริเวณหัวใจของวาฬรอบแล้วรอบเล่า
แม้จะเป็นวาฬตัวใหญ่แต่ก็ทนความทรมานไม่ไหว สุดท้ายหัวใจก็หยุดเต้นและตายไปในที่สุด…
ยังมีการตายที่ทรมานกว่านี้อีกเหรอ?
มี! ยังมีจริงๆ!
ในทะเลใต้เรือประมงนี้ มีฉลามที่ขาดครีบลอยรอความตายอย่างสิ้นหวังอยู่ 10 กว่าตัว เลือดของพวกมันค่อยๆ ไหลออกจากแผลที่น่ากลัวบนตัว จนพรากชีวิตของพวกมันไปในที่สุด
ฉลามที่ไร้ครีบก็เหมือนเสือที่ไร้แขนขา พวกมันไม่ใช่นักล่าผู้ห้าวหาญในทะเลอีกต่อไป เป็นเพียงปลาที่ลอยรอความตายอยู่นิ่งๆ เท่านั้น บาดแผลขนาดใหญ่เพียงนี้ ถึงแม้ไม่ตายเพราะขาดเลือดพวกมันก็คงอดตายอยู่ดี
เลือดบนตัวของฉลามและปลาวาฬไหลรวมกันในทะเล ดึงดูดให้ฉลามที่ไม่รู้สาเหตุว่ายเข้ามา เมื่อเครื่องมือสำรวจตรวจพบ แหและหอกบนเรือประมงก็จะพุ่งออกมาในทันที เครื่องมือการล่าครบครันทำให้ปลาวาฬและฉลามที่ถูกตรวจพบไม่มีที่ให้หนี
ระหว่างที่เพ่งจิตสำนึกโพไซดอน ฉินสือโอวก็พบกับฉลามขาวที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่กำลังว่ายเข้ามา พวกมันเป็นสัตว์นักล่าในท้องทะเลที่มีจมูกที่ไวต่อกลิ่นเลือดเป็นพิเศษ
สัมผัสนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกมันล่าอาหารได้ง่ายขึ้น แต่ในตอนนี้กลับถูกคนไม่หวังดีใช้ประโยชน์เพื่อล่าพวกมันเป็นอาหารแทน
ทางออกไปไม่ไกล ผู้ควบคุมกางในห้องควบคุมก็สังเกตเห็นฉลามขาวตัวนั้นพอดี จึงรีบประกาศขึ้น “ทุกคนเตรียมพร้อม! ฉลามขาวตัวใหญ่ว่ายเข้ามาใกล้แล้ว!”
“ครับ! คุณยามาโมโตะไว้ใจได้เลย พวกผมจะรีบเชิญมันขึ้นมาบนเรือเอง!” ทุกคนหัวเราะเสียงดัง
เมื่อผู้ควบคุมกลางประกาศเตือน ลูกเรือก็รีบเก็บเครื่องมือล่าวาฬแล้วเปิดช่องดึงฉลามออกมา เพื่อเตรียมดึงฉลามขาวที่ถูกลิขิตให้ติดแหนั้นขึ้นมา
ระหว่างที่ลูกเรือกำลังเตรียมแห ผู้ควบคุมกลางก็ขึ้นแท่นประกาศอีกครั้ง : “ทุกคนเตรียมตัว! ด้านหน้าห่างออกไปประมาณ 500 เมตรมีวาฬโผล่มา! จากการสังเกตคาดว่าจะเป็นวาฬแอตแลนติกเหนือ!”
หอสังเกตการณ์ของเรือไดโตะโชวะมารุอยู่บนเสากระโดงเรือ จึงมองเห็นรอบๆ ได้อย่างชัดเจนแถมยังมีกล้องโทรทรรศน์อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยในการสังเกตอีกด้วย
เมื่อได้ยินคำพูดของนักสังเกต ลูกเรือทุกคนก็รีบเร่งมือกันทันที สักพักก็มีคนถามขึ้น “พวกเราต้องล่าฉลามหรือล่าวาฬก่อนดี? ชินากาว่าไปถามกัปตันพายุให้ที!”
“ได้ครับรุ่นพี่อินุคามิ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ!” วัยรุ่นคนหนึ่งวิ่งไปยังหัวเรือ
บนเรือไดโตะโชวะมารุยศตำแหน่งเป็นสิ่งที่เคร่งครัด ไม่เพียงแต่ยศตำแหน่งเท่านั้นที่สำคัญ ยังมีตำแหน่งอื่นอีกด้วย ซึ่งแยกได้จากการขานนาม
ลูกเรืออาวุโสจะเรียกซาโต้ ไทชิว่ากัปตันพายุด้วยความสนิทสนม ซึ่งลูกเรือใหม่ต้องเรียกว่ากัปตันโชเอเท่านั้น ซึ่งงานนี้เกี่ยวข้องกับอายุงานบนเรือเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับยศบนเรือ ดังนั้นทามุระที่เป็นรองกัปตันจึงต้องเรียกซาโต้ ไทชิว่ากัปตันโชเอ
เมื่อได้ยินคำรายงาน ซาโต้ ไทชิก็สูบบุหรี่คำสุดท้ายแล้วโยนทิ้งพร้อมกับพูดว่า “ดีมาก! พบปลาวาฬและฉลามในเวลาเดียวกันอย่างนั้นเหรอ? แถมยังเป็นวันแอตแลนติกอีกด้วย? สุริยาเทพีช่างมีเมตตากับพวกเราเหลือเกิน”
“กัปตันครับ พวกเราควรล่าตัวไหนก่อนดีครับ? รบกวนสั่งการด้วย” ลูกเรือถามอย่างตื่นเต้น
ซาโต้ ไทชิหัวเราะอย่างมั่นใจ “คุณชินากาว่า ดูเหมือนว่าคุณไม่กล้าหาญสักเท่าไรเลยนะ ทำไมเราต้องเลือกว่าจะล่าตัวไหนล่ะ? เอาเถอะ! ผมจะไปควบคุมเครื่องหอกล่าวาฬด้วยตัวเอง เราล่าปลาใหญ่ทั้ง 2 ตัวในทีเดียวไม่ดีกว่าเหรอ?”
“กัปตันโชเอช่างฉลาดเหลือเกินครับ!” ทามุระพูดเลียแข้งเลียขาจนชินากาว่าที่ยืนอยู่ด้านข้างเบ้ปากมองบน
ฉินสือโอวสังเกตเห็นปลาทั้ง 2 ตัวนั้นก่อนคนบนเรือด้วยซ้ำ เมื่อเจอตัวปลาทั้งสองเสียงก็แยกจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกเป็น 2 ส่วน แล้วควบคุมปลา 2 ตัวนั้นดำลงใต้ทะเลลึก
เมื่อปลาวาฬว่ายลึกลงไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำรวจหรือเครื่องส่งเสียงเตือนก็ไม่มีประโยชน์ นอกเสียจากว่าพวกเขาก็มีจิตสำนึกแห่งโพไซดอน
เมื่อซาโต้ ไทชิมาถึงดาดฟ้าเรือ ก็ไม่พบฉลามและปลาวาฬเลยแม้แต่ตัวเดียว เขาถึงทำหน้าดุแล้วพูดขึ้น : “พวกโง่! พวกแกกำลังล้อเล่นกับฉันเหรอ? ยามาโมโตะยูกิ! อิจิมะยูยะ! พวกบ้าใส่หัวมาเดี๋ยวนี้! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
ซาโต้ ไทชิโกรธจนหน้าแดง ฉินสือโอวก็โกรธไม่แพ้กัน ไม่เห็นฉลามที่รอคอยความตายอยู่ใต้ทะเล และปลาวาฬที่ตายอย่างน่าสงสาร ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือของคนญี่ปุ่นพวกนี้ คนบนโลกนี้ก็มีแต่คนหน้าด้านกลุ่มนี้เท่านั้นที่จะทำเรื่องพวกนี้ได้
ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกาและแคนาดาก็มีกฎหมายที่ห้ามล่าปลาวาฬและฉลามทั้งนั้น
เมื่อขยับขึ้นไปเป็นค่ามาตรฐานโลก คนที่ยังคงล่าวาฬและฉลามก็ยังคงเป็นคนญี่ปุ่นอยู่ดี พวกเขาใช้ปลาวาฬและฉลามในการทำวิจัย แถมยังใช้ข้ออ้างที่ว่าประชาชนญี่ปุ่นต้องการโปรตีนจากปลาวาฬ ผู้คนห้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยังทำ ทำให้คนทั้งโลกพากันเกลียดชัง!
นี่ก็ถือว่าเป็นโชคชะตาอย่างหนึ่ง เพราะฉินสือโอวกำลังเตรียมที่จะไปทำธุรกิจที่ญี่ปุ่นพอดี คนญี่ปุ่นส่งคนมาล่าวาฬในเขตของเขาก่อนเสียแล้ว ดีมาก! ในเมื่อได้รับมาเราก็ต้องตอบแทนกลับบ้าง พวกสุนัขญี่ปุ่นเตรียมตัวรับความพิโรธแห่งโพไซดอนได้เลย!
ฉินสือโอวไม่เคยโมโหขนาดนี้มาก่อน ราวกับว่ามีไฟกำลังลุกลามจากจิตใต้สำนึกแห่งโพไซดอนเข้าสู่หัวใจของเขา เผาไหม้จนเขารู้สึกทรมานไปทั้งตัว เผาไหม้จนเขาอยากที่จะถล่มเรือลำนี้ไปซะ!
ใต้ความโกรธที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คลื่นน้ำค่อยๆ ขยายตัวเป็นวงกว้าง พลังแห่งโพไซดอนค่อยๆ ผลักคลื่นให้เชี่ยวจนชนกัน ทำให้กลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ใต้ท้องทะเล!
เมื่อรับรู้ถึงความน่ากลัวของแรงพิโรธนี้ ฉลามขาวและปลาวาฬแอตแลนติกต่างก็พากันมุดตัวอยู่ใต้ทะเล พยายามแนบชิดกับก้นทะเลเพื่อไม่ให้ตนถูกพัดไปกับคลื่นอันน่ากลัวนี้ ถึงแม้ว่าคลื่นนี้จะทำอะไรทั้งคู่ไม่ได้ แต่พวกเขาก็กลัวอยู่ดี ความกลัวจากจิตใต้สำนึกค่อยๆ โผล่ขึ้นในตัวของทั้งคู่
‘โครม!’ เสียงคลื่นซัดดัง คลื่นลูกแรกซัดขึ้นบริเวณผิวน้ำราวกับระเบิดที่พุ่งเข้าหัวเรือไดโตะโชวะมารุ
เมื่อโดนคลื่นซัด เรือไดโตะโชวะมารุที่มีขนาดเพียงพันกว่าตันก็สั่นสะเทือนไปทั้งลำ จนลอยถอยหลังไป 10 กว่าเมตรราวกับเรือกระดาษ
เรือสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซาโต้ ไทชิและลูกเรือถูกแรงกระแทกเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว พวกเขาถูกซัดจนกลิ้งไปมาบนเรือราวกับลูกน้ำเต้า
ทามุระผู้โชคร้าย ชนเข้าใต้คางของซาโต้ ไทชิจนหัวโนเป็นซาลาเปา ซึ่งซาโต้ ไทชิเองก็ปากแตกจากการกระแทกของฟันเช่นกัน
“ฝาคายาโหล!” ซาโต้ ไทชิปวดจนพูดไม่ชัด คำว่า ‘บากะยาโร่’ ถูกกลืนเข้าไปในลำคอแทน เมื่อเขากำลังจะเปิดปากด่าอีกครั้ง คลื่นรอบ 2 ก็ซัดเข้ามาพอดี…
บทที่ 509 โจมตีด้วยอาวุธ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เพื่อนค่อยๆ ชัดขึ้นทีละชั้น น้ำทะเลเย็นเฉียบกระทบเข้าบนร่างของคนที่อยู่บนเรือ ทำให้พวกเขาหนาวเหน็บไปทั้งกายและใจ
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้เมื่อกี้จะมีคลื่นแต่ก็เป็นคลื่นธรรมดา ซึ่งขึ้นในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นคลื่นรุนแรงระดับ 7-8 ด้วยซ้ำ เป็นคลื่นที่มีความสูง 7-8 เมตรได้ ซัดมาทีก็หลายลูกติดกันจนเรือไดโตะโชวะมารุแทบล่ม!
ซาโต้ ไทชิเริ่มไม่มั่นใจจึงพูดเสียงดัง “จับสิ่งที่อยู่ข้างตัวไว้ให้แน่น! ใครรู้บ้างว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!”
ร่างกายที่สูงใหญ่ของทามุระบัดนี้ถูกใช้จนเกิดประโยชน์เสียที เขาจับขอบเรือจนยืนนิ่งแล้วตอบ “กัปตันโชเอ ผมว่าใต้ทะเลนี้คงจะมีภูเขาไฟที่กำลังระเบิดแน่นอน! หรือไม่ก็แผ่นดินไหวใต้ผิวทะเล! เราต้องรีบ…”
โครม!
เสียงคลื่นลูกใหญ่ซัดแรง ครั้งนี้คลื่นกระทบเข้าขอบเรือทั้ง 2 ฝั่ง จนทำให้โครงเครงไปทั้งเรือ ทามุระยังไม่ทันพูดจบหัวก็โขกเข้ากับขอบเรือจนเลือดไหลเต็มหน้า
ซาโต้ ไทชิเห็นด้วยกับคำพูดของทามุระ เพราะนอกจากภูเขาไฟใต้ทะเล และแผ่นดินไหวใต้ผิวทะเลแล้ว จะมีอะไรที่จะทำให้เกิดขึ้นใหญ่ขนาดนี้ได้อีก?
สิ่งสำคัญในตอนนี้คือต้องขับเรือออกจากที่นี่ด่วน! แต่สิ่งที่โชคร้ายกว่านี้ก็คือ ผู้ควบคุมเรือทุกซาโต้ ไทชิเรียกมาด่าจนตอนนี้กลิ้งหายไปไหนก็ไม่รู้
ในเวลาสำคัญแบบนี้ ซาโต้ ไทชิที่เป็นกัปตันก็ต้องลุกขึ้นให้ได้ เขาไม่สนใจเลือดที่ไหลออกจากปาก พร้อมกับลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลแล้วพุ่งเข้าไปในห้องควบคุม เมื่อจับหางเสือได้เขาก็หมุนเพื่อควบคุมเรือทันที
กระแสคลื่นใต้น้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้มีเพียงรอบๆ ของเรือเท่านั้น กระแสคลื่นยังกระจายไปทั่วท้องทะเลเป็นระยะหลายตารางกิโลเมตร
ซาโต้ ไทชิล่องเรือมา 20 กว่าปี ผ่านลมผ่านฝนมาก็เยอะ มรสุมใหญ่กว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว ดังนั้นแม้ว่าคลื่นที่ฉินสือโอวสร้างขึ้นจะน่ากลัว แต่ซาโต้ ไทชิก็ยังรับมันไหว
พลังจิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่อยู่ในตัวของฉินสือโอวก็มีจำกัด การทำคลื่น 6-7 เมตรก็นับว่าแสดงพลังสูงสุดภายใต้ความพิโรธแล้ว แต่น่าเสียดายที่ทำอะไรเหลือขนาด 1,500 ตันอันนี้ได้ไม่มาก อย่าว่าแต่ถล่มมันเลยแค่ห้ามไม่ให้มันล่องออกจากที่นี่ก็ทำไม่ได้
หากคิดจะถล่มเรือขนาดพันตันธรรมดา ความแรงเท่านี้ก็น่าจะพอ แต่หากจะทำเรือล่าวาฬคงจะยากไปหน่อย โดยเฉพาะเรือล่าวาฬสมัยใหม่อย่างเรือไดโตะโชวะมารุลำนี้
เรือไดโตะโชวะมารุลำนี้มีขนาดสั้น พลังของเครื่องควบคุมก็แรง การหมุนตัวและการหักเหของมันก็ดีเป็นอย่างมาก รูปแบบของเรือมีหัวเรือที่สูงกว่าหางเรือบวกกับรูปร่างขนาดสั้นกะทัดรัด จึงทำให้เรือลำนี้ทนต่อแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี คลื่นทะเลส่วนใหญ่จึงถล่มมันได้ยาก
จะปล่อยให้หนีไปแบบนี้จริงหรอ? ฉินสือโอวแอบโกรธในใจ เมื่อเห็นว่าเรือไดโตะโชวะมารุกำลังมุ่งไปในทิศทางเดียวกับกระแสคลื่น ฉินสือโอวก็ทำตาวาวขึ้นมาทันที เขาควบคุมกระแสคลื่นให้ไหลไปทางฟาร์มเพาะเลี้ยง เพียงเท่านี้เหลือแต่ตัวก็ต้องเข้าสู่ฟาร์มเพราะอย่างเลี่ยงไม่ได้
เฮลิคอปเตอร์บินบนฟ้าด้วยความเร็ว ฉินสือโอวสั่งให้เบิร์ดเร่งเครื่องเร็วขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเขาก็พบกับเรือลำนี้อีกครั้ง
ถึงแม้เบิร์ดจะไม่ใช่ชาวประมง แต่เขาเคยฝึกกับหน่วยตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายในเขตชายแดน จึงรู้ได้ในทันทีที่เห็นเรือลำนี้ “บอส เรือลำนี้เป็นเรือล่าวาฬ ไม่เป็นภัยคุกคามกับฟาร์มเพาะเลี้ยงของเราหรอก”
“ไม่! ฟาร์มของเราก็มีวาฬและฉลามเหมือนกัน! ให้ตายเถอะ กล้าดียังไงถึงได้มาขโมยปลาของเรา? เบิร์ด หาวิธีถล่มมันซะ!” ฉินสือโอวสั่งเสียงดังด้วยความโมโห
เบิร์ดเป็นทหารชั้นยอด เขาจึงทำตามคำสั่งของฉินสือโอวราวกับเป็นคำสั่งทางทหาร เขาไม่คิดจะถามสาเหตุที่บอสสั่งให้ถล่มเรือล่าวาฬที่ไม่คิดจะสนใจกุ้งปลาธรรมดาในฟาร์ม ได้แต่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ถ้าจะถล่มมันต้องใช้อาวุธครับ! บนเฮลิคอปเตอร์ AC-310N เครื่องนี้ไม่มีอาวุธอะไรเลย เราต้องกลับไปเปลี่ยนเป็นเครื่องบินรบรุ่น AT-802C ก่อนครับ”
“ถ้างั้นก็บินกลับไป!”
เบิร์ดหันวนกลับไปทันที ฉินสือโอวใช้วิทยุไร้สายติดต่อนีลเซ็นแล้วสั่งเสียงดัง “หาวิธีติดอาวุธบนเครื่องบินรบด่วน! ย้ำอีกรอบ! นีลเซ็นหาวิธีติดอาวุธบนเครื่องบินรบด่วน! ฟาร์มเพาะถูกจู่โจม เราต้องเตรียมอาวุธโต้กลับ!”
“รับทราบ! จะรีบเตรียมการครับ” นีลเซ็นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกที่เป็นปฏิกิริยาปกติของผู้เป็นทหาร
คนบนเรือไดโตะโชวะมารุยังไม่รู้ว่าตนกำลังจะเผชิญกับอะไร เมื่อเหล่าลูกเรือเห็นเฮลิคอปเตอร์ก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ
คลื่นที่ใหญ่ขนาดราวกับว่าเรือกำลังจะล่มทำให้พวกเขารู้สึกกลัว
สุดท้ายเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ห่างออกไปก็ไปเลี้ยวกลับไปซะงั้น
จึงทำให้เหล่าคนบนเรือโกรธเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มชินากาว่าที่ส่งเสียงด่าตามหลัง
เมื่อเบิร์ดจอดเฮลิคอปเตอร์บนลานเสร็จ ก็พบว่าเครื่องบินรบสีเหลืองอ่อนจอดรออยู่ด้านหน้าพอดี นีลเซ็นและกลุ่มชาวประมงยืนรออยู่ด้านข้าง วินนี่เองก็รอด้วยความกังวล
เมื่อเห็นฉินสือโอวลงจากเฮลิคอปเตอร์ วินนี่ก็รีบเดินเข้าไปถาม “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องเตรียมเครื่องบินรบลำนี้ด้วย?”
ฉินสือโอวตอบ “เรือล่าวาฬลำหนึ่งของญี่ปุ่นล่าและฆ่าสัตว์ทะเลในฟาร์มอย่างบ้าเลือด! แม่ง! คุณไม่เห็นว่าพวกมันฆ่าวาฬและฉลามไปตั้งเท่าไร ไอ้พวกระยำ! ต้องจัดการพวกมันให้หมด!”
วินนี่มีสีหน้าปกติ แต่เหล่าชาวประมงนี่สิอารมณ์ฉุนกันเป็นอย่างมาก บูลพูดขึ้นเสียงดัง “เดี๋ยวฉันจะกลับไปเอาเรมิงตันที่พ่อให้ไว้ไปยิงสมองพวกมันให้เละ! การล่าวาฬในเขตฟาร์มเนี่ยนะ? ต้องเอามันให้ตาย!”
เหล่าชาวประมงที่พึ่งทะเลในการใช้ชีวิต พวกเขาไม่ได้มองว่ามันเป็นเพียงแหล่งหากิน แต่กลับมองว่ามันเป็นผู้อาวุโสที่คอยเลี้ยงดูตน ดังนั้นพวกเขาจึงล่าแค่สิ่งจำเป็นเท่านั้น และอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นในทะเลเป็นอย่างดี เช่นเต่ามะเฟือง เต่าบึงจุด ฉลามและวาฬ
พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้มีการศึกษาที่สูงมากนัก แต่กลับรู้เรื่องสัตว์ในทะเลเสียยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญเสียอีก รู้ว่าสัตว์ทุกชนิดถือเป็นสิ่งสำคัญในห่วงโซ่อาหาร หากมีปัญหาส่วนใดส่วนหนึ่งก็จะเกิดปัญหาไปทั้งมหาสมุทรได้
ซึ่งฉลามและวาฬถือเป็นสัตว์ที่สำคัญมากในห่วงโซ่อาหาร
นอกจากนี้วาฬและฉลามตัวเป็นๆ ก็มีคุณค่าทางเศรษฐกิจเช่นกัน นิวฟันด์แลนด์เป็นจุดชมวาฬขนาดใหญ่ที่ดีที่สุด และในตอนนี้เกาะแฟร์เวลก็กำลังพัฒนาโครงการเที่ยวเกาะชมวาฬหลังค่อมพอดี ถ้าวาฬและฉลามถูกล่าจนหมดแล้วจะเอาอะไรทำเงินล่ะ?
ไม่ว่าจะเพื่อส่วนรวมหรือส่วนตัว เหล่าชาวประมงก็ยังคงเกลียดชังนักล่าวาฬล่าฉลามอยู่ดี ประเทศญี่ปุ่นที่เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงแง่ลบในด้านนี้ก็ยิ่งทำให้พวกเขารังเกียจเข้าไปใหญ่
เมื่อวินนี่เห็นว่าทุกคนกำลังโมโหจัด ถึงรีบพูดห้ามให้ทุกคนใจเย็นลง ถึงแม้คนญี่ปุ่นที่ล่าวาฬจะน่ารังเกียจ แต่หากชาวประมงฆ่าพวกเขาจริงก็จะต้องรับโทษทางกฎหมาย
วินนี่นับถือพวกเขาราวกับคนในครอบครัว ถึงไม่อยากเห็นคนในครอบครัวต้องรับโทษเพราะคนน่ารังเกียจพวกนั้น
ฉินสือโอวพูดให้วินนี่วางใจได้เพราะเขาจัดการเองได้ แล้วหันไปถามนีลเซ็นว่าเตรียมการไปถึงไหนแล้ว
นีลเซ็นเปิดประตูห้องโดยสารพร้อมกับพูดขึ้น “ผมไปยืม m60 จากคลังอาวุธแห่งหนึ่งของซาโกรมา หลังจากแก้ไขปรับเปลี่ยนเสร็จก็ติดบนเครื่องบินเรียบร้อย แต่มันโจมตีอัตโนมัติเองไม่ได้ ซึ่งผมว่าไม่น่าจะได้ใช้มันหรอก”
ชาร์คพูดขึ้น “พวกผมเตรียมสารกำจัดศัตรูพืชที่ผสมให้เจือจางไว้ในคลังอาหารแล้ว แม้จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่หากคนญี่ปุ่นกลุ่มนั้นไม่ยอมแต่โดยดี โรยลงบนเรือก็ทำให้พวกเขาทรมานได้ไม่น้อย”
บทที่ 510 กักตัวเอาไว้
โดย
Ink Stone_Fantasy
เครื่องบินแทรกเตอร์สีเหลืองอ่อนกำลังบินด้วยความเร็วสูง วิสัยทัศน์บนเครื่องบินดีมาก ฉินสือโอวนั่งอยู่ในตำแหน่งด้านข้างคนขับเครื่องบินข้างๆ เบิร์ด เบิร์ดคอยขับเครื่องบิน ส่วนเขาก็นั่งเฉยๆ
นีลเซ็นถือปืนกลดัดแปลง M60 นั่งตรงตำแหน่งประตูผู้โดยสาร พูดกับชาร์คที่นั่งด้านหลัง “โอว เพื่อน มันสุดยอดจริงๆ! ฉันเหมือนได้กลับมาอยู่ที่กองทัพเลย แต่ว่าตอนนั้นฉันถือปืนไรเฟิลซุ่มยิงไม่ใช่ปืนกลหรอกนะ!”
ชาร์คหัวเราะเสียงดัง “นายกลับไปได้นะ ฉันคิดว่าที่แคนาดาตอนนี้ยังขาดแคลนทหารอีกมาก”
นีลเซ็นส่ายหัวไปมาเหมือนของเล่นป๋องแป๋ง “ พูดเป็นเล่น! ฉันไม่กลับไปหรอก ไม่มีเหล้า ไม่มีสาวสวย ไม่มีรายได้ที่สูงขนาดนี้ แล้วยังต้องทะเลาะกับพวกทหารกันเองอีก เซ็งตายเลยแบบนั้น!”
เบิร์ดขับเครื่องบินไปอย่างเงียบๆ เขามองไปที่ฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “บอส คุณสีหน้าไม่ค่อยดีเลย ไหวไหมครับ?”
เขานึกว่าฉินสือโอวกลัวความสูง แต่จริงๆ แล้วกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตอนนี้อารมณ์ความรู้สึกปนเปไปหมด ภายในใจของฉินสือโอวมีทั้งความโศกเศร้าที่ฉลามและวาฬตายไปจำนวนมาก ความโกรธแค้นต่อเรือที่มาจับวาฬไป ทำให้เขาลืมโรคกลัวความสูงไปเสียสนิท
ฉินสือโอวหน้าซีดเผือด เพราะพลังโพไซดอนเกินขีดจำกัด ตราบใดที่ไม่ใช่ตอนที่เครื่องบินบินขึ้นหรือลงจอด อยู่แค่บนเครื่องบินเฉยๆ เขาจะไม่กลัวการบินที่ความสูงระดับนี้เลย
คลื่นยังคงเคลื่อนไหวเป็นระลอกอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ พาเรือไดโตะโชวะมารุไปสู่ส่วนที่ลึกของฟาร์มปลา ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากเกาะแฟร์เวลไม่ถึง 200 กิโลเมตร นับว่าได้รุกล้ำพื้นที่ฟาร์มปลาส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว
แผนการของฉินสือโอวก็คือ ต้อนพวกมันไปที่ฟาร์มปลา หลังจากนั้นก็กักตัวเอาไว้ และดำเนินคดีกับพวกมันสำหรับความผิดในการจับกุมข้ามแดน!
ชาวประมงบนเรือไดโตะโชวะมารุรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ซาโต้ ไทชิมีความกังวลเพราะเขารู้ดีว่าเรือของเขาได้เข้าสู่น่านน้ำของประเทศแคนาดาแล้ว ถ้าตอนนี้เกิดมีหน่วยยามชายฝั่งมาพบเข้า คงเกิดเรื่องไม่ดีตามมาแน่
เรือของเขาแล่นในทะเลหลวงได้อย่างอิสระเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะข้ามมาในเขตสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดาไม่ได้หรอกนะ แต่ก่อนข้ามจะต้องไปที่กรมศุลกากรเพื่อทำบันทึกและตรวจสอบหนังสือเดินทางก่อน มิเช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการลักลอบข้ามแดน!
ซาโต้ ไทชิไร้หนทางอื่น คลื่นยังหมุนวนเป็นเกลียวอย่างต่อเนื่อง ระลอกคลื่นที่ซัดมาทีหลังแม้จะเบาลงหน่อย แต่เมื่อมองไปรอบๆ กลับยังเห็นเพียงน้ำทะเลที่ปั่นป่วน และเพื่อความปลอดภัยเขาก็ไม่กล้าขับกลับไปตอนนี้ เพราะใครจะรู้ว่าในที่ไกลโพ้นออกไปอาจจะมีคลื่นยักษ์รออยู่หรือไม่?
ตอนนี้ยิ่งขับมาใกล้ชายฝั่ง คลื่นก็ยิ่งเบาลง ซาโต้ ไทชินึกว่าเขาออกมาจากแนวแผ่นดินไหวของประเทศเฮติหรือไม่ก็ตำแหน่งภูเขาไฟใต้น้ำได้แล้ว แต่ที่จริงแล้วนี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ เพราะพลังโพไซดอนของฉินสือโอวเริ่มไม่เพียงพอ จึงก่อคลื่นสูงไม่ได้
รอจนคลื่นเบาลงจนไม่เป็นอันตรายต่อเรือประมงแล้ว ซาโต้ ไทชิก็ให้ทามุระ อาโออิ เปลี่ยนทิศทางหางเสือมุ่งหน้าไปเมืองเซนต์จอห์นที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อไปกรมศุลกากรลงทะเบียนทันที
โชคดีที่ว่า พวกเขาไม่ได้พบเข้ากับหน่วยยามชายฝั่ง จึงทำให้ซาโต้ ไทชิที่ตอนแรกรู้สึกกังวลดีขึ้น พูดกับลูกเรือที่อยู่ข้างกายด้วยรอยยิ้มว่า “หากลืมที่จะเตรียมพร้อมเมื่อมีภัยมาย่อมตกอยู่ในอันตราย! ชีวิตของคนแคนาดาสบายมากไปแล้ว กองทัพเรือของพวกเขาไม่สามารถป้องกันแม้แต่ชายแดนของตัวเองได้ ถ้าอยู่ในช่วงสงครามแล้วละก็…”
“กัปตันหนุ่มลมทะเล มีเครื่องบินลำหนึ่งบินมาทางนี้!” ทามุระ อาโออิตะโกนบอก เขาคิดว่าตัวเขาเองก็เคยร่วมผ่านอุปสรรคทั้งความเป็นความตายมากับซาโต้ ไทชิ ความสัมพันธ์จึงแนบแน่นขึ้นมาอีกขั้น การที่เรียกชื่อเล่นว่า ‘หนุ่มลมทะเล’ ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
ซาโต้ ไทชิที่กำลังโอ้อวดยกใหญ่ กลับถูกทามุระ อาโออิมาขัดจังหวะทำให้เขาไม่พึงพอใจ แต่เนื่องด้วยมีเครื่องบินกำลังบินมาทางนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นตำรวจทะเลส่งมาหรือเปล่า เขาจึงเริ่มรู้สึกประหม่า จึงไม่ได้ก่นด่าทามุระ อาโออิแต่มองไปทางทิศเหนือแทน
เครื่องบินแทรกเตอร์สีเหลืองอ่อนลักษณะน่าเกรงขามปรากฏตัวออกมา แต่พอซาโต้ ไทชิเห็นชัดก็ถอนใจโล่งอก ตะโกนใส่ด้วยความโกรธ “แหกตาหมาๆ ของนายดูก่อน คุณทามุระ! ช่วยดูให้ชัดก่อนว่าเป็นใครแล้วค่อยรายงาน ฉันตอนนี้เริ่มสงสัยความสามารถในการทำงานของนายแล้วล่ะ ไอ้โง่!”
“โอเค โอเค! ผมไม่รู้จักกาลเทศะเอง ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยหนุ่มลมทะเล!” ทามุระ อาโออิตื่นตระหนกในทันที
แต่เสียงที่ดังออกมาจากวิทยุหลังจากนั้นทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าเดิม “คนญี่ปุ่น ทอดสมอแล้วหยุดเรือเดี๋ยวนี้ ตอนนี้พวกคุณได้รุกล้ำมาที่น่านน้ำประเทศแคนาดาและฟาร์มปลาส่วนตัวของพวกเราแล้ว พวกเราจำเป็นต้องยึดเรือของพวกคุณซะ!”
การเดินทางไกลในมหาสมุทรจำเป็นต้องมีล่าม การที่ทามุระ อาโออิสามารถเปลี่ยนจากเรือลำเล็กขึ้นไปที่เรือไดโตะโชวะมารุได้ หลักๆ แล้วก็พึ่งพาภาษาอังกฤษอันคล่องแคล่วของเขาทั้งนั้น หลังจากที่เบิร์ดอธิบายทุกอย่างช้าๆ ชัดๆ ให้ฟังจนหมด หลังของเขาก็ท่วมไปด้วยเหงื่อเย็นยะเยียบ
พอซาโต้ ไทชิกำลังจะสั่งสอนลูกเรือของเขาต่อ ทามุระ อาโออิก็ตะโกนลงมาจากห้องคนขับด้วยความหวาดกลัว “กัปตัน คนที่อยู่บนเครื่องบินลำนั้นบอกว่าพวกเรารุกล้ำเขตแดนฟาร์มปลาของพวกเขาแล้ว และจะกักตัวพวกเราไว้!”
พอได้ยินทามุระ อาโออิบอกเช่นนี้ ซาโต้ ไทชิก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะยังไงก็อยู่ต่างแดนไกลจากบ้าน จึงง่ายนักที่จะถูกคนรังแก
อย่างไรก็ตามเขาก็ผ่านโลกและรู้อะไรมามาก จึงรู้ว่าความสัมพันธ์ทางการทูตของญี่ปุ่นและอเมริกาเหนือมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยทั่วไปก็ไม่มีข้อขัดแย้งอะไรในเรื่องใหญ่ๆ ดังนั้นจึงไม่ได้ตื่นตระหนกเท่ากับทามุระ อาโออิ
บนเครื่องบินแทรกเตอร์ หลังจากที่เบิร์ดตะโกนเสร็จก็รีบกดแท่นบังคับลง เครื่องบินจึงค่อยๆ บินต่ำลง ฉินสือโอวแบกปืนไว้ และยืนเรียงกันสี่คนอยู่ตรงประตูทางออกกับนีลเซ็น บูล และซีมอนสเตอร์
นีลเซ็นอธิบายจุดที่สำคัญในการกระโดดร่มให้ทุกคนฟัง “กางแขนออกไปด้านหน้า พอลงไปในน้ำอย่าเพิ่งรีบร้อนลอยตัว ปล่อยตัวว่ายไปอย่างอิสระสักพักค่อยถีบตัวลอยขึ้นมา ไม่ต้องตื่นเต้นนะ เพราะว่าทักษะในการขับของเบิร์ดยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ระยะห่างจากผิวน้ำจึงไม่สูงมาก ทุกคนแค่กระโดดลงไปอย่างไม่ต้องกังวลก็พอแล้ว…”
แล้วก็จริงอย่างที่ว่า เบิร์ดสามารถขับเครื่องบินแทรกเตอร์ราวกับเป็นเครื่องบินที่แล่นบนผืนน้ำ เขาบังคับให้เครื่องบินแล่นลงจนสามารถอยู่เหนือผิวน้ำเพียงสามถึงสี่เมตร ถ้ายังดิ่งลงไปอีกก็คงจะมุดลงไปในน้ำเรียบร้อยแล้ว
ฉินสือโอวหลับตา เหยียดแขนสองข้างออกแล้วกระโดดลงไป
ความสูงต่ำมาก เพียงชั่วพริบตา เขาก็รู้สึกได้ถึงน้ำทะเลที่ให้ความรู้สึกสบาย
หัวใจโพไซดอนไม่ได้ทำให้เขาแค่ควบคุมน้ำทะเลได้เท่านั้น แต่ยังสามารถว่ายไปมาได้อย่างอิสระได้อีกด้วย เขาไม่จำเป็นต้องว่ายลงไปใต้น้ำเพื่อปรับพลังงานศักย์โน้มถ่วงที่อยู่ในร่างกายก่อน เพราะน้ำทะเลจะชดเชยพลังงานส่วนนี้ให้เขา เขาจึงว่ายผุดขึ้นมาเหนือผิวน้ำได้เลย
ทั้งสี่คนกระโดดตามกันมา เบิร์ดดึงแท่นบังคับขึ้นอย่างใจเย็น เครื่องบินแทรกเตอร์ที่เกือบจะแนบติดผิวน้ำส่งเสียงดังก่อนที่จะโบยบินขึ้นไป!
ชาวประมงที่อยู่บนเรือไดโตะโชวะมารุต่างตกตะลึง นี่มันเครื่องบินที่ใช้ในเกษตรกรรมหรือว่าเครื่องบินรบกันแน่? ยังสามารถทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?
หลังจากที่ทะยานขึ้นไปแล้ว เบิร์ดจึงใช้วิทยุออกคำสั่งอีกครั้งหนึ่ง “โปรดจอดเรือ! คนญี่ปุ่น โปรดทอดสมอแล้วจอดเดี๋ยวนี้! ถ้ายังจะขับต่อไปอีก พวกเราจะถือว่าพวกคุณจงใจยั่วยุ และในฐานะผู้มีอำนาจอธิปไตย พวกเรามีสิทธิ์ตอบโต้ได้ทันที!”
แน่นอนว่าซาโต้ ไทชิหยุดเรือไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไร? เขารู้แค่ว่าพวกเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่แคนาดากับอเมริกาเป็นประเภทคุยด้วยง่าย ดังนั้นจึงตะโกนบอกทามุระ อาโออิว่า “เร่งเครื่อง! เร่งเครื่องมุ่งไปที่เมืองเซนต์จอห์นเลย!”
แต่ความเร็วมากสุดของเรือล่าปลาวาฬก็ไม่เกิน 20 นอต จะเร็วกว่าเครื่องบินได้อย่างไรกันเล่า? ต่อให้นี่เป็นแค่เครื่องบินเกษตรกรรมก็ตาม!
เบิร์ดพยักหน้าให้ชาร์ค หลังจากนั้นบังคับให้เครื่องบินบินเป็นวงรอบใหญ่หนึ่งรอบ ไปที่เรือประมง
ชาร์คเปิดช่องประตูส่งอาหารออก แล้วเปิดลังน้ำทะเลที่ได้ผสมยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์แกโนฟอสฟอรัสอยู่ออกมาด้วย เพียงพริบตาก็เหมือนฝนตกลงมาห่าใหญ่ น้ำยาฆ่าแมลงจำนวนมากเทสาดลงมาจากเครื่องบิน ทุกคนเปียกชุ่มเหมือนลูกหมาตกน้ำ ยกเว้นแต่ทามุระ อาโออิที่หลบอยู่ในห้องคนขับ…
……………………………………….
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น