ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง 493-495

ตอนที่ 493 รักและสนับสนุนอย่างไร้ข้อแม้

 

กลับเป็นฮ่องเต้ที่อดจะทอดพระเนตรดูอีกให้มากขึ้นอีกนิดไม่ได้


 


 


เมื่อได้ทรงเห็นคนหนุ่มสาวจำนวนมากสวมใส่ชุดฮั่นฝูและตึกรามบ้านช่องแบบโบราณก็รู้สึกคุ้นเคยขึ้นมากนัก


 


 


ชั่วขณะหนึ่งจึงรู้สึกเหมือนกับว่าได้ย้อนกลับไปยังต้าโจว


 


 


ประวัติศาสตร์ของโลกปัจจุบันและโลกโบราณไม่เหมือนกัน….ที่นี่ก็มีเมืองหลวงโบราณที่เคยมีผู้ครองแคว้นแซ่จี…..แต่ก็ไม่เหมือนกับต้าโจวของพวกเขา


 


 


เรื่องสามารถเข้าใจได้….เพราะโลกปัจจุบันกับโลกโบราณเป็นคู่เสมือนในมิติที่ต่างกัน


 


 


ต่างก็มีประวัติศาสตร์ของตนเอง มีทั้งจุดที่เหมือนและแตกต่าง


 


 


ดังนั้นจีเฉวียนย่อมไม่อาจเห็นการล่มสลายของต้าโจวของพระองค์จากในโลกปัจจุบันได้


 


 


ตู๋กูซิงหลันขับรถไปจนถึงโรงถ่ายทำ 《พระสนมคลั่ง》


 


 


จอดรถตรงตำหนักแห่งหนึ่งที่มีป้ายว่า ‘ตำหนักอ๋อง’


 


 


ตำหนักอ๋องแห่งนี้คือบ้านหลังแรกของนางเอกและนางรอง…..ตำหนักจ้านอ๋อง


 


 


ตู๋กูซิงหลันพึ่งจะไปถึงก็เห็นรอบตำหนักจ้านอ๋องรายล้อมเอาไว้ด้วยนักข่าวมากมายชนิดน้ำก็ยังไหลไม่ออกเลย


 


 


เพราะนับตั้งแต่ที่ตู๋กูซิงหลันกลับเข้าสู่วงการก็ยังไม่เคยให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการมาก่อนเลย …..ดังนั้นจึงมีพวกนักข่าวจำนวนมากแอบเข้าไปถ่ายรูปที่หุบเขาปีศาจ


 


 


แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หุบเขาปีศาจนั่น คล้ายจะมีผีอยู่จริงๆ


 


 


พอพวกเขาเข้าไป ก็หลงทิศหลงทาง แถมยังโดนผีหลอกอยู่หลายครั้ง……


 


 


สุดท้ายแม้แต่บ้านพักร้อนของเยี่ยซิงหลันก็ยังหาไม่พบ


 


 


ก็เพราะว่าได้ยินข่าวว่านางรับละครเรื่องใหม่…..แต่ละคนจึงรีบร้อนมาเฝ้ากันใหญ่


 


 


อย่าว่าแต่…..พอนางกลับมาจากที่หายตัวไปสองปี ก็รับเล่นละครประกบคู่กับอดีตเพื่อนสนิท….


 


 


ราชินีจอเงินคนใหม่ซ่งเจียงเสวี่ยกับอดีตราชินีจอเงินเยี่ยซิงหลันจะเล่นละครเรื่องเดียวกัน….


 


 


แค่คิดก็ระเบิดเป็นพลุแล้ว


 


 


ที่นี่มีแฟนคลับของเยี่ยซิงหลันมารออยู่ไม่น้อย ……แต่ละคนต่างก็ถือป้าย ‘ลูกพี่หลันเอ็นดูเราด้วย’ ‘ลูกพี่หลัน พวกเรารักคุณ’ ‘พวกเราเชื่อมั่นในตัวคุณ’ ต่างก็มาให้กำลังใจนางด้วยกันทั้งนั้น


 


 


แฟนคลับในโลกปัจจุบันนั้นยึดมั่นในความรักและความชื่นชมดาราของตนอย่างเหนียวแน่น ช่วงก่อนหน้านี้พอมีข่าวฉาวและใส่ความต่างๆออกมา…..แฟนคลับต่างก็โกรธแค้นกันจนแทบจะระเบิด


 


 


ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนตัดสินใจที่จะสนับสนุนเยี่ยซิงหลันต่อไป รักนาง ปกป้องนาง!


 


 


ตู๋กูซิงหลันมองดูแฟนคลับของตนเองผ่านหน้าต่างรถ ในใจก็อดที่จะอบอุ่นขึ้นมาไม่ได้


 


 


นับตั้งแต่ที่นางถูกสาดสีใส่ข่าว ก็ไม่เคยออกมาแก้ตัวอะไรแม้แต่คำเดียว แต่ว่าแฟนคลับเหล่านี้กลับเชื่อมั่นในตัวนางอย่างไม่มีข้อแม้ …..สำหรับนางแล้ว นี่นับเป็นความอบอุ่นใจอย่างหนึ่ง


 


 


ความรู้สึกที่มีคนเชื่อมั่น รักใคร่ ช่างมีค่าเป็นอย่างยิ่ง


 


 


ฮ่องเต้และท่านอาจารย์ต่างก็มองดูแผ่นป้ายเหล่านั้นผ่านหน้าต่างด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น


 


 


สีหน้าของพวกเขาซีดขาว กล่าวอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว…….เพราะกำลังกลั้นอาเจียนอย่างเต็มที่


 


 


มีแต่วิญญาณทมิฬที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นมาว่า “ตัวน่ารักอย่างข้าก็เคยบอกเอาไว้แล้วนิว่า ศัตรูความรักมีเยอะแยะมากมาย….”


 


 


ใช่แล้ว ศัตรูความรักของท่านอาจารย์ไม่ได้มีแต่ฮ่องเต้สุนัขเพียงผู้เดียว …..ลองหันไปดูเหล่าแฟนคลับพวกนั้นสิ


 


 


ทั้งชายหญิงผู้ใหญ่เด็กล้วนมีหมด…..ในบรรดาคนเหล่านั้นยังมีมหาเศรษฐีที่เป็นคนใหญ่คนโต


 


 


มารอทักทายหลันหลันด้วยตนเองอีกด้วย


 


 


หันไปอีกด้านเป็นกลุ่มแฟนคลับของซ่งเจียงเสวี่ย….ดูเป็นพวกผู้ชายลามก……ราวกับพวกซอมบี้ติดยา


 


 


พวกแฟนคลันของซ่งเจียงเสวี่ยทางด้านโน้นมีจำนวนค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน….แต่ว่าการแสดงพลังไม่ค่อยแข็งขันเท่าไหร่


 


 


พอมาเปรียบเทียบกันแบบนี้ ก็ดูออกเลยว่าใครได้รับความนิยมจากคนหมู่มาก ใครเป็นที่รักของผู้คนมากกว่ากัน


 


 


Sherry ที่หรี่ตาหยี มองออกไปแวบเดียวก็เห็นเฌอรี่QQที่เก่าๆของตู๋กูซิงหลันจอดอยู่ท่ามกลางรถคันอื่นๆ ก็รีบตาลีตาเหลือกออกมา คิดจะพานางลัดเลาะไปทางเล็กๆในวัดด้านข้าง


 


 


“ทูนหัว! บริษัทจัดส่งรถพี่เลี้ยงไปรับ…..ทำไมถึงได้ขับรถมาเองล่ะ?” Sherry กรีดนิ้วดุจดอกกล้วยไม้เคาะลงไปบนกระจกหน้าต่าง ขยับกรอบแว่นตาสีทอง กระซิบกระซาบเสียงเบา


 


 


พอพึ่งจะพูดจบก็รู้สึกว่าร่างกายหนาวยะเยือกขึ้นมาทั้งร่าง


 


 


พอกวาดตามองไป ก็เห็นว่าคนที่นั่งอยู่ข้างคนขับก็คือพ่อคุณทูนหัว (พ่อคุณคุณพี่เขย)


 


 


…………………….


 


 


 


 


ไอ้หนุ่มหน้าขาวคนนี้ไม่เพียงแต่จะกินจะนอนก็ต้องให้ตู๋กูซิงหลันคอยเลี้ยงดู นี่ยังตามติดเป็นแมลงวันตอมก้น ไปไหนมาไหนด้วยตลอดเลยหรือ?


 


 


ดูใบหน้านั่นสิ ว่าตามจริงนะ…..ทูนหัวไม่ยอมให้เขาเข้าสู่วงการบันเทิงช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆ


 


 


พอSherryมองดูจีเฉวียนเต็มตา ก็หันไปมองดูคนที่นั่งอยู่ด้านหลังอีกคน


 


 


ชุดสีม่วงแบบตะวันตก ทรงผมเสยไปด้านหลังที่ให้กลิ่นอายโบราณ…..เนื่องเพราะแสงสว่างด้านหลังมืดมากเกินไป Sherry จึงมองไม่เห็นรูปหน้าของเขาได้ชัดนัก


 


 


แต่จากเค้าโครงที่มองดู ก็เข้าใจว่าไอ้หนุ่มหน้าขาวคงจะพาพี่หรือน้องชายของตนมาด้วย


 


 


ก็ดูจากรูปร่างและโครงหน้า …….หากบอกว่าคนทั้งสองไม่ใช่พี่ชายน้องชายกันละก็ Sherryหวัง ก็จะขอเขียนชื่อแซ่กลับข้างเลยแล้วกัน!


 


 


“ทูนหัว…..ฉันก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะ…..เธอเลี้ยงดูผู้ชายคนหนึ่งก็ถือว่าเสียเปรียบมากแล้ว…..แล้วนี่ยังจะเอาพี่น้องเค้ามาเลี้ยงดูด้วยอีกหรือ?”


 


 


Sherry ปวดใจแทนตู๋กูซิงหลันจริงๆ


 


 


เขายังไม่รู้เรื่องที่เมื่อวันก่อนทูนหัวของตนเองต่อยกำแพงจนเป็นรูโบ๋………


 


 


ช่วงนี้เขากำลังวุ่นวายกับการหาหนทางช่วยนาง ‘ล้างข่าว’ รวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อมา จัดการกับคนที่เผยแพร่ข่าวลือ คืนความยุติธรรมให้กับนาง


 


 


ตู๋กูซิงหลันส่ายหน้า พลางหัวเราะ “ไม่ใช่…..ฉัน….”


 


 


คำพูดยังไม่ทันหลุดจากปาก ก็ไม่รู้ว่าใครที่อยู่ในหมู่ฝูงชนตะโกนขึ้นมาว่า “ดูนั่นเร็ว นั่นเยี่ยซิงหลัน!”


 


 


ทันใดนั้น เหล่านักข่าวและแฟนคลับที่รายล้อม ‘ตำหนักจ้าน’ เอาไว้ชนิดที่น้ำก็ยังไหลไม่ผ่านต่างก็วิ่งมาทางนี้อย่างบ้าคลั่ง


 


 


ทางเล็กๆด้านหน้าที่เยื้องไปทางขวาก็มีคนหนุ่มสาวในชุดฮั่นฝูวิ่งออกมามากมาย ตู๋กูซิงหลันถึงกับไม่สามารถก้าวเท้าออกจากประตูได้แม้แต่ก้าวเดียว


 


 


เพียงแค่ครู่เดียว รถเฌอรี่QQของนางก็ถูกรายล้อมเอาไว้เรียบร้อย


 


 


แม้แต่ Sherry ก็ยังพลอยถูกผลักออกไปด้วย


 


 


เขาแทบจะกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียว จนได้แต่รีบล้วงเอายาน้ำตราคุณนายหลับง่ายสบายใจออกมากรอกลงไปขวดหนึ่งถึงได้ค่อยหายใจโล่งขึ้นมาบ้าง


 


 


“เยี่ยซิงหลัน……ผมคือนักข่าวXX ขอถามคุณหน่อยว่า ที่กลับเข้ามาวงการบันเทิงอีกครั้งหลังจากที่หายตัวไปสองปี คุณมีอะไรจะบอกกับแฟนคลับและคนอื่นๆบ้างไหมครับ?”


 


 


“ช่วงนี้ในอินเตอร์เน็ตมีข่าวออกมาว่าคุณถูกคุณชายใหญ่Zทอดทิ้ง ก็เลยจำเป็นต้องออกมาหางานทำใหม่อีกครั้ง…..เรื่องนี้จริงหรือเปล่าครับ?


 


 


“เมื่อหลายปีก่อน คุณใช้วิธีการต่างๆมากมายเพื่อข่มทั้งนักแสดงหญิงในวงการ ผู้กำกับหลิวXX ดาราชายแซ่พานXXก็ฆ่าตัวตาย นั่นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”


 


 


“เพื่อความโด่งดัง คุณไม่เสียดายที่ต้องเอาร่างกายเข้าแลก จนมีข่าวคาวกับคนในวงการบันเทิงและนักธุรกิจหลายต่อหลายคน…..”


 


 


นักข่าวมากมายเคาะหน้าต่างรถเสียงดังโป๊กๆ ทุกคำถามล้วนแล้วแต่เป็นข่าวฉาวที่โจมตีตู๋กูซิงหลันทั้งนั้น


 


 


ตู๋กูซิงหลันยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เหลือบไปเห็นว่าฮ่องเต้สุนัขและท่านอาจารย์…..กำจายกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกออกมาทั่วร่าง


 


 


ทั้งๆที่เป็นหน้าร้อนแท้ๆ แต่ว่าทั่วทั้งรถเฌอรี่QQที่ผุๆพังๆกลับมีสภาพเหมือนถูกหิมะแช่งแข็งอย่างไรอย่างนั้น


 


 


นักข่าวทั้งหลายอดที่จะรู้สึกหนาวๆวูบวาบขึ้นมาไม่ได้จนต้องถอยออกไปเล็กน้อย


 


 


ในตอนนั้นเองพวกเขาจึงถูกแฟนคลับของเยี่ยซิงหลันขับไล่ออกไป


 


 


“พวกแกมันนักข่าวไร้จรรยาบรรณ วันๆเอาแต่กุข่าวเล่าเรื่อง”


 


 


“จริงด้วย! พี่หลันของพวกเราตั้งแต่เข้าวงการมา ก็บริสุทธิ์ผุดผ่อง คนรวยๆตั้งมากตั้งมายคิดจะถือรองเท้าให้นางยังไม่คู่ควรเลย!”


 


 


“ขอโทษทีนะ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ตกเป็นข่าวลือ เพื่อจะได้เชิญคุณหลันไปทานข้าวด้วยสักมื้อ ผมไล่ตามเธอมาแล้วครึ่งค่อนโลก ……หากว่าคุณหลันตัดสินใจจะใช้ร่างกายแลกเงินเมื่อไหร่ ต่อให้ต้องทุ่มสมบัติจนหมดตัวผมก็เต็มใจ”

 

 

 


ตอนที่ 494 คนหนึ่งร้อง คนหนึ่งรับ

 

ในบรรดาแฟนคลับของตู๋กูซิงหลัน ไม่เคยขาดคนระดับมหาเศรษฐี


 


 


เนื่องเพราะเหล่าคนที่เป็นมหาเศรษฐีต่างก็ยินดีที่จะได้ผูกมิตรกับมหาเศรษฐีด้วยกัน


 


 


แน่นอนว่า…..ในสายตาของพวกเขา ไอดอลอย่างเยี่ยซิงหลันก็ถือเป็นมหาเศรษฐีนีคนหนึ่ง


 


 


พวกนักข่าวพากันหันไปมอง ก็เห็นผู้ชายที่พึ่งจะพูดออกมาเมื่อครู่นั้น มีอายุประมาณสามสิบกว่าปี เขาสวมใส่เสื้อผ้าเรียบง่าย แต่ว่าขับรถโรลส์-รอยซ์รุ่น Adams ที่มีอยู่เพียงไม่กี่คันในโลก


 


 


ปกติแล้วมหาเศรษฐีเหล่านี้มักไม่ต้องไล่ตามดาราดัง ….เพราะปกติแค่พวกเขาถูกใจดาราหญิงคนไหนพวกเธอก็มักจะส่งตัวเองเข้าอ้อมอกของพวกเขาอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว


 


 


แต่ว่าสำหรับเยี่ยซิงหลันนั้นไม่เหมือนกัน ……. นางคือบุปผางามที่อยู่สูงสุดเอื้อม ….ที่ได้แต่ชื่นชมเท่านั้น


 


 


“คนๆนั้น…คือท่านประธานสือ!”


 


 


สมแล้วที่มีอาชีพเป็นนักข่าว….แค่ได้เห็นหน้า และค้นหารูปภาพมาเทียบเคียงดู ก็สามารถจดจำได้ว่าคนตรงหน้าคือใคร…..คนๆนี้ก็คืออภิมหาเศรษฐีอันดับสิบ…สือเทียนควาง


 


 


เมื่อมีคนระดับนี้พูดออกมา ใครบ้างจะไม่เชื่อถือ?


 


 


รู้หรือไม่ว่า…..เขามีทรัพย์สินระดับพันล้านเลยนะ!


 


 


พอประธานสือเอ่ยปากออกมา นักข่าวเหล่านั้นก็ไม่กล้าพูดมากอีก ….ที่จริงเรื่องที่เยี่ยซิงหลันใช้ร่างกายแลกกับความโด่งดัง…พวกเขาเองก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว


 


 


เพียงแต่เรื่องนี้แพร่สะพัดอยู่ในอินเตอร์เน็ต จึงจำเป็นจะต้องจับมาเป็นประเด็น เพื่อไล่ตามกระแสก็เท่านั้น


 


 


ว่าตามจริงก็คือเพื่อเงินนั่นแหละ


 


 


ตู๋กูซิงหลันอดจะมองดูสือเทียนควางแวบหนึ่งไม่ได้….อืม คนคนนี้เป็นรองประธานกลุ่มแฟนคลับของนางน่ะเอง….


 


 


ก่อนนั้นเขาเดินทางไปดูการขุดเหมืองของบริษัทที่ซีหลิง เขากับพวกคนงานตกลงไปในเส้นทางที่ดำมืดใต้ดิน ส่วนนางก็บังเอิญโผล่ขึ้นมาจากสุสานโบราณพอดี…..จึงได้บังเอิญช่วยชีวิตน้อยๆของเขาเอาไว้ จากนั้นก็ได้ให้คำแนะนำกับเขาว่าตรงไหนขุดได้ ตรงไหนไม่ควรไปขุด


 


 


ผู้ชายคนนี้ถึงกับยึดถือคำพูดของนางเป็นบัญชาของเทพเซียน เพียงในชั่วเวลาสั้นๆก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยขึ้นมา


 


 


ดังนั้นนับแต่นั้นเป็นต้นมาเขาจึงนับถือผู้มีพระคุณอย่างนางเป็นเทพเจ้าสมบัติ ให้ความเคารพกราบกรานหัวปักหัวปำ


 


 


ตอนนี้เขาก้าวออกมาพูดแก้ต่างแทนนาง ย่อมถือว่าเป็นคนดีที่ไม่ลืมตัว


 


 


“ประธานสือ…..ในเมื่อคุณพูดถึงขนาดนี้ ก็แสดงว่าข่าวคาวเกี่ยวกับการขายเรือนร่างพวกนั้นก็คงจะเป็นเรื่องกุขึ้นมาแล้วสินะครับ”


 


 


พวกนักข่าวต่างก็ส่งยิ้มออกมา จากนั้นก็ปัดหัวข้อนี้ทิ้งไป


 


 


แต่ก็ยังคงไม่คิดจะทิ้งโอกาสดีๆเช่นนี้ไปอย่างแน่นอน


 


 


“พวกเราเองก็ต้องการจะเปิดโอกาสให้คุณซิงหลันได้อธิบายและแสดงความบริสุทธิ์…. เรื่องที่คุณหลิงXX และคุณพานXXฆ่าตัวตาย จะว่าอย่างไรก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับคุณซิงหลันอยู่บ้างใช่ไหมละครับ?”


 


 


“คุณหลิวXXเป็นนางเอกในละครเรื่องแรกที่คุณซิงหลันเล่น ตอนนั้นพอละครออนแอร์ได้ไม่นาน …..หลิงXXก็แขวนคอฆ่าตัวตายเสียแล้ว ทั้งๆที่เรื่องนี้เธอเล่นเป็นนางเอกแท้ๆ แต่เพราะถูกคุณซิงหลันทั้งเล่นข่มและแย่งซีน จึงกลายเป็นว่าพอละครของเธอออกฉาย เธอก็ถูกรัศมีของคุณข่มจนหมด คนในอินเตอร์เน็ตก็เยาะเย้ยเธอ ด่าทอเธอ…..จนสุดท้ายเธอถึงกับทนต่อไปอีกไม่ไหวต้องฆ่าตัวตายไป”


 


 


นักข่าวคนนั้นเกรงว่าผู้คนจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไม่ค่อยได้แล้ว จึงได้ฉวยโอกาสย้ำเตือนขึ้นมาอีกประโยคหนึ่งว่า “เรื่องนี้คุณซิงหลันสมควรจะมีคำอธิบายใช่ไหมเล่า?”


 


 


ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองดูนักข่าวคนนั้นแวบหนึ่ง รูปร่างหน้าตาของเขาดูไม่เลวเลยแต่ว่าแววตากลับฉายแววชั่วร้ายแปลกๆ


 


 


เห็นชัดว่ามาเพื่อหาเรื่องกันอย่างแน่นอน


 


 


ในรถของนางยังมีภูเขาน้ำแข็งอีกสองลูก ตู๋กูซิงหลันย่อมไม่คิดที่จะรั้งอยู่นานเกินไป


 


 


เพราะฉะนั้นตั้งแต่ตอนที่ฝูงคนรายล้อมเข้ามา นางก็รีบปิดหน้าต่างหมดทุกด้านแล้ว เพราะไม่อยากให้พวกเขามองเห็นภูเขาน้ำแข็งทั้งสองที่อยู่ในรถ


 


 


ไม่อย่างนั้นนางก็คงจะยิ่งยุ่งยากกว่าเดิม


 


 


พอSherryถูกผลักออกมาอยู่นอกวงล้อม และได้ยินพวกนักข่าวตั้งคำถามหาเรื่อง เขาก็โกรธเสียจนต้องดื่มยาน้ำตราคุณนายหลับง่ายสบายใจลงไปสองขวดติดๆกัน


 


 


ตอนนั้นที่ยายหลิวXXนั่นแขวนคอตาย ก็เพราะไปกลายเป็นมือที่สามในครอบครัวของผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง… พอเห็นว่าเรื่องราวกำลังจะแดงขึ้นมา จึงถูกพวกผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงบีบจนตายน่ะสิ!


 


 


ตอนหลังจุดจบของผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นก็ได้รับกรรมถึงขั้นเมียทิ้งลูกๆหนีหาย


 


 


อืม……เป็นฝีมือของทูนหัวจัดการนั่นแหละ!


 


 


เรื่องของคนหลอกลวง…..แค่ตบหน้าครั้งเดียวมันจะไปพออะไร ยัยมือที่สามกับผู้ชายหลอกลวงนั่นต่างก็ไม่ใช่คนดีอะไร!


 


 


ยัยมือที่สามถูกผู้ชายหลอกลวงจนต้องฆ่าตัวตาย ผู้ชายที่หลอกลวงคนนั้นจึงถูกลูกพี่หลันใช้เล่ห์กลเล็กๆน้อยทำให้เขาถูกขับไล่ออกจากวงการบันเทิง สุดท้ายต้องมีจุดจบที่ลูกเมียทอดทิ้ง


 


 


และเพราะเห็นแก่ที่ลูกชายของเขายังเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ จึงไม่ได้เอาเรื่องชั่วร้ายของเขาออกมาประกาศให้สาธารณะชนได้รับรู้


 


 


ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าความใจดีของลูกพี่หลันในตอนนั้น ย้อนกลับมาแทงนางเสียแล้ว?


 


 


Sherry แทบอยากจะพ่นความจริงที่เกิดขึ้นออกไปเสียเดี๋ยวนี้


 


 


นักข่าวคนนั้นเห็นตู๋กูซิงหลันรีรอไม่ยอมตอบคำถาม ก็อดจะกล่าวอย่างหยามใจไม่ได้ว่า “ยังมีเรื่องของคุณพานXX ที่เดิมทีก็กำลังจะแต่งงานกับคู่หมั้นอยู่แล้ว ……. แต่เพราะว่าคู่หมั้นของเธอเกิดเปลี่ยนใจมาหลงรักคุณซิงหลัน สุดท้ายคุณพานXXก็เลยไปกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายที่ภูเขาX”


 


 


หากฟังจากที่เขาพูดเพียงฝ่ายเดียว เยี่ยซิงหลันก็ถือว่าเป็นนางมารที่ทำร้ายผู้อื่นจริงๆ!


 


 


พานXXเป็นดาราหญิงระดับสาม…..คู่หมั้นของเธอก็เป็นแบบเดียวกับเธอ เป็นดาราชายที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ จะดังก็ไม่ดังจะดับก็ไม่ดับ


 


 


ดังนั้นเรื่องนี้ตอนที่เธอกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย จึงไม่ค่อยจะเป็นกระแสสักเท่าไหร่


 


 


ตอนนี้กลับมีคนขุดคุ้ยขึ้นมา ทั้งใส่สีตีไข่จงใจสาดโคลนลงมาบนหัวของตู๋กูซิงหลัน


 


 


คู่หมั้นของของคุณพานXXเป็นไอ้หนุ่มเจ้าชู้ เพราะอยากจะมีชื่อเสียงจึงคิดจะเข้าหาตู๋กูซิงหลัน แต่พอไม่สำเร็จ ก็เลยคิดจะจัดการกับคู่หมั้น แล้วมาใส่ความตู๋กูซิงหลัน วางแผนชั่วสร้างสถานการณ์ให้เกิดชื่อเสียงขึ้นมา…..


 


 


แต่ว่าสิ่งที่คนทำย่อมอยู่ในสายตาของเทวดาฟ้าดิน พอเขาวางแผนจัดการผลักคู่หมั้นของตนเองตกหน้าผาไป ตนเองก็ถูกรถชนตาย ดับอนาถตามไปอย่างรวดเร็ว…….เรื่องก็เลยจบไปตั้งแต่ตอนนั้นแบบไม่มีอะไรอีก


 


 


ภายในรถ……สีหน้าของจีเฉวียนและซื่อมั่วอึมครึมไม่น่าดูอย่างที่สุด


 


 


แต่ว่านักข่าวคนนั้นกลับเขยิบเข้ามาใกล้อีก “คุณซิงหลันเป็นเหตุให้ผู้หญิงถึงสองคนตายไป….แล้วก็ไปแต่งงานเป็นภรรยาน้อยของตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง สองปีมานี้เคยรู้สึกสำนึกเสียใจบ้างหรือไม่ครับ? หรือว่าคุณชายZเกิดตาสว่างขึ้นมา …..ก็เลยขับไล่คุณออกจากบ้าน ดูรถที่คุณขับตอนนี้สิผุพังขนาดไหนแล้ว….”


 


 


เหล่าแฟนคลับอยากจะตบปากคนคนนี้ให้ปากฉีกนัก! ไอ้นักข่าวหน้าเหม็นคนนี้มาจากที่ไหนกัน บ้านมันถูกขายทิ้งไปแล้วหรือไง?


 


 


เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ได้ยินเสียง ‘บรึ้ม’ ติดๆกัน


 


 


ทันใดนั้นรถQQผุๆของตู๋กูซิงหลันก็ระเบิดขึ้น!


 


 


ใช้แล้ว มันระเบิด!


 


 


ประตูรถระเบิดจนกระเด็นออกมา กระแทกเข้าใส่ร่างของนักข่าวคนนั้น


 


 


แรงกระแทกทำเอาเขาถึงกับกระอักเลือดสดๆออกมาในทันที เขาล้มลงไปบนพื้น พักใหญ่ก็ยังลุกไม่ขึ้น


 


 


ทุกคนต่างก็ตกตะลึงอยู่กับที่ ……. บริเวณโดยรอบเงียบสงบราวกับลานประหารไปในทันที


 


 


“เปิดปากขึ้นมา ก็มีแต่เรื่องโป้ปด….” น้ำเสียงที่เย็นชาของบุรุษผู้หนึ่งดังมาจากในรถ


 


 


เป็นเสียงของซื่อมั่ว ถึงแม้ว่าประตูรถจะถูกระเบิดออกไปแล้ว แต่ว่าผู้คนก็ยังไม่อาจมองเห็นตัวของเขาที่อยู่ภายในรถได้


 


 


หากซื่อมั่วไม่ต้องการให้ใครเห็นเขา ก็ไม่มีใครสามารถมองเห็นเขาได้ทั้งนั้น


 


 


“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่คนอ้าปากพ่นเรื่องโป้ปดได้…..โดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆกับการกระทำของตน” น้ำเสียงของเขาเย็นชาอย่างที่สุด เพียงแต่เมื่อได้ยินแล้ว ก็จะรู้สึกว่าเขาคงจะระคายคออยู่บ้าง


 


 


และในขณะที่ผู้คนยังไม่ทันได้มีปฏิกริยาใดๆอยู่นั้น ก็เห็นบุรุษในชุดสีดำน้ำเงินแบบตะวันตกผู้หนึ่งก้าวลงมาจากที่นั่งข้างคนขับ


 


 


ชายผู้นั้น…..หล่อเหลาเกินไปแล้ว


 


 


รูปร่างของเขาสูงโปร่งดุจพู่กัน ไม่พูดไม่จาก็เดินไปยังนักข่าวที่นอนอยู่บนพื้น ยกหมัดต่อยลงไปหมัดหนึ่ง


 


 


ต่อยลงบนหน้า


 


 


จนฟันของนักข่าวแทบจะร่วงหมดปาก เขาถึงได้ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาหงส์กวาดมองไปยังผู้คนรอบๆด้วยแววตาเย็นยะเยือก

 

 

 


ตอนที่ 495 ได้รับการปกป้องคุ้มครองจาก...

 

ฮ่องเต้มิได้ทรงปิดบังพระพักตร์ ประกายแสงในดวงเนตรคมกริบดุจมีดดาบ ทันทีที่กวาดพระเนตรออกไป ก็แผ่ราศีของผู้ปกครองใต้หล้าออกมาโดยรอบ จนคนที่ได้สบตาพลันเกิดความรู้สึกสั่นสะท้าน


 


 


หมัดของพระองค์ยังคงเปรอะเปื้อนเลือดของนักข่าวคนนั้น แววเนตรทอประกายคุกรุ่นจางๆ


 


 


พระองค์จะไม่ทรงทนให้ผู้ใดกล่าววาจาว่าร้ายซิงซิงแม้แต่คำเดียว


 


 


พระองค์ไม่เหมือนกับซือมั่ว หากได้ลงมือย่อมไม่รีรอแม้แต่น้อย


 


 


ฮ่องเต้ทรงเติบโตมาในโลกที่ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ กฏหมายของโลกปัจจุบันช่างไร้ค่า ใครที่กล้าหาเรื่องก็จัดการมันให้จบไป


 


 


แต่ว่าพระองค์ก็ทรงมีขอบเขต เพียงต่อยนักข่าวผู้นั้นจนฟันร่วงหมดปาก ไม่ถึงกับเอาชีวิต เพียงแต่ว่าครึ่งปีนับจากนี้ นักข่าวผู้นั้นคงไม่อาจใช้ปากกล่าวอะไรได้อีกแม้แต่ครึ่งคำ


 


 


ภายในรถ ซื่อมั่วหรี่ดวงตาลง ดวงตาภายใต้ขนตายาวเป็นแพนั้นมีประกายมืดครึ้มที่ยากจะมองเห็นได้


 


 


วิญญาณทมิฬยังคงตัวสั่นเทาอยู่บ้าง “อาจารย์ ท่านปล่อยให้ฮ่องเต้สุนัขชิงทำคะแนนไปแล้ว….”


 


 


ซื่อมั่วก็ยังคงเป็นซื่อมั่ว ไม่เคยลงมือง่ายๆ แต่หากเขาลงมื่อเมื่อไหร่…..ก็ต้องมีคนตายเมื่อนั้น


 


 


ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีเรื่องที่ต้องขบคิดมากกว่าจีเฉวียน มิว่าทำสิ่งใดล้วนคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา


 


 


โลกปัจจุบันมีกฏระเบียบของมัน ซื่อมั่วมีความเข้าใจในเรื่องนี้มากกว่าจีเฉวียน…..ดังนั้นเขาจึงไม่หาเรื่องให้กับลูกศิษย์ของตนง่ายๆ


 


 


แต่ว่ายามที่มีคนมาหาเรื่องถึงตรงหน้าเช่นนี้ เขาย่อมไม่ใช่คนที่ปล่อยเรื่องให้ผ่านพ้นไปอย่างง่ายๆเช่นกัน….. ไม่มีใครรู้หรอกว่า เดิมทีเขาได้คิดจุดจบที่น่าอนาถของนักข่าวปากเหม็นผู้นั้นเอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว


 


 


และแม้แต่พวกคนที่อยู่เบื้องหลังของเขาทั้งหมด…..ก็จะต้องได้รับบทลงโทษเช่นกัน


 


 


เพียงแต่พออยู่ๆก็มีจีเฉวียนเพิ่มขึ้นมา ทุกอย่างจึงวุ่นวายไปหมด


 


 


ตู๋กูซิงหลันมือหนึ่งจับพวงมาลัย อีกมือหนึ่งก็นวดขมับไปด้วย ขณะเดียวกันก็เหลือบไปเห็นสายตาสุดเย็นชาของอาจารย์จากกระจกหลังพอดี


 


 


“หลันหลัน ท่านอาจารย์ไม่อาจถ่ายทอดความรู้และสติปัญญาให้กับฮ่องเต้สุนัข นี่ไม่ใช่ความผิดของท่านอาจารย์นะ” วิญญาณทมิฬที่อยู่ด้านข้างรีบเข้าข้างซื่อมั่วก่อนใคร


 


 


“เล่นต่อยหน้านักข่าวต่อหน้าฝูงชน ….เกรงว่าอีกสักครู่ข่าวล่ามาแรงที่เกิดขึ้นในตอนนี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของเจ้าแล้วล่ะ”


 


 


น้ำครำตรงหน้ายังไม่ทันได้ล้างออก ก็เติมหมึกใหม่ลงไปอีก ….. นี่มิเท่ากับว่ารีบร้อนออกไปให้คนทิ่มแทงหรอกหรือ?


 


 


ซื่อมั่วไม่ว่าอะไร เพียงรักษาสีหน้าเฉยชาตลอดพันปีเอาไว้ดุจเดิม


 


 


ตู๋กูซิงหลันอยากจะจับปากของวิญญาณทมิฬมาเย็บเข้าด้วยกัน เจ้าสัตว์เลี้ยงตัวแสบนี้ไม่ต่างอะไรกับไม่กวนปุ๋ย เอาแต่รักสนุกโดยไม่คิดถึงเรื่องใหญ่


 


 


…………………………


 


 


 


 


 


 


ยามนี้ ทุกสายตาต่างก็จับจ้องไปที่ร่างของจีเฉวียน


 


 


ขณะที่ฝูงชนต่างอยู่ในความตกตะลึง พวกนักข่าวก็เป็นกลุ่มแรกที่มีปฏิกริยาขึ้นมา


 


 


แต่ละคนคว้ากล้อง ยกขึ้นใส่จีเฉวียน ซูมเข้าไปที่ใบหน้า


 


 


ตอนแรกก็พยายามจะถ่ายหน้าตรง แต่ไม่รู้ว่าทำไม? พอถ่ายไปเรื่อยๆ….ก็พบว่าชายผู้นี้ไม่ว่ามุมไหนๆก็ดูดีด้วยกันทั้งนั้น


 


 


ถ่ายกันชนิดว่า360° กันไปเลย ต่อให้ถ่ายมั่วๆไปก็ยังออกมาดูดียิ่งกว่ารูปสวยๆที่ผ่านการตกแต่งด้วยฝีมือของมืออาชีพเสียอีก


 


 


สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ไม่สบพระทัย พระองค์ไม่โปรดเสียงแช๊ะๆเหล่านี้เลย หนวกหูอย่างยิ่ง


 


 


อีกด้านหนึ่ง Sherry แทบจะเป็นลมล้มพับลงไปแล้ว …..คิดไม่ถึงเลยว่าไอ้หนุ่มหน้าขาวที่เอาแต่ขอข้าวกินคนนั้น….ที่จริงแล้วจะมุทะลุขนาดนี้?


 


 


ภายในรถ ตู๋กูซิงหลันคิดจะออกไปดึงตัวไอ้หนุ่มหน้าขาวของตนเองกลับเข้ามา แต่ปรากฏว่าซื่อมั่วกลับยื่นมือออกมา คว้าหลังคอเสื้อของนางเอาไว้ ดึงตัวนางกลับไป


 


 


“อาจารย์….” ตู๋กูซิงหลันไม่เข้าใจ


 


 


ซื่อมั่วก็ไม่อธิบาย


 


 


เพียงคีบนางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย


 


 


…………………………


 


 


 


 


ที่ด้านนอกรถ พวกนักข่าวถ่ายรูปกันไปสักพักใหญ่ ก็ค่อยคิดเรื่องสำคัญขึ้นมาได้


 


 


“คุณผู้ชายท่านนี้ ขอถามหน่อยว่า คุณมีความสัมพันธ์ใดกับคุณซิงหลันหรือครับ?”


 


 


ไมโครโฟนด้ามหนึ่งพุ่งเข้าหาฮ่องเต้


 


 


“เป็นแฟน” ฝ่าบาทตรัสตอบอย่างตรงไปตรงมา


 


 


“ตูม!” ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนกับว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศ นี่มันอะไรกัน?


 


 


แฟนหรือ?!


 


 


ไม่ใช่ว่าเยี่ยซิงหลันพึ่งจะถูกคุณชายZไล่ออกมาจากบ้าน จนต้องย้อนกลับเข้าวงการบันเทิงหรอกหรือ? ทำไมถึงได้มีแฟนใหม่เร็วขนาดนี้?


 


 


แถมยัง….เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาขนาดกระชากวิญญาณได้เลยอีกด้วย


 


 


ว่าตามจริงแล้ว ผู้ชายที่ดูดีขนาดนี้ ต่อให้สวมใส่กระสอบป่านเดินอยู่ตามท้องถนน คนร้อยทั้งร้อยก็ยังต้องหันกลับไปมองเลย


 


 


ทำไมถึงได้ไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อนนะ?


 


 


พวกนักข่าวต่างก็พยายามถ่ายรูปใบหน้านั้นอย่างบ้าคลั่งกันต่อไป ราวกับกลัวว่าจะพลาดอะไรไป


 


 


ภายในรถ ตู๋กูซิงหลันปวดศีรษะแทบจะระเบิด


 


 


ตัวร้ายผู้นี้…….


 


 


ที่นอกรถ Sherry ดื่มยาบำรุงหัวใจตราคุณนายนอนหลับสบายไปห้าหกขวดติดๆกัน ค่อยได้สติขึ้นมา หายใจได้คล่องหน่อยแล้ว


 


 


พ่อทูนหัวทำไมถึงได้ตรงไปตรงมาขนาดนี้? ใครถามอะไรเขาก็ตอบแบบทื่อๆอย่างนั้นเลยหรือ?


 


 


พวกแฟนคลับก็ระเบิดตัวเองกันใหญ่แล้ว…..พวกเขามองดูจีเฉวียน จากนั้นก็หันกลับไปมองดูเฌอรี่QQผุๆคันนั้น….


 


 


ด้วยความคาดหวังว่าลูกพี่หลันจะออกมาอธิบายอะไรบ้างสักเล็กน้อย….


 


 


ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนี้จะไม่มีที่มาที่ไป….แต่ว่าหากมองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก ….เขาก็ดูเหมาะสมกับลูกพี่หลันดีอยู่


 


 


เพราะตลอดหลายปีมานี้ ในวงการบันเทิงก็ไม่มี ผู้ชายคนไหนที่ดูงดงามคู่ควรกับลูกพี่หลันเลย


 


 


หากว่าลูกพี่หลันได้พบกับรักแท้…เช่นนั้นต่อให้พวกเขาต้องหลั่งน้ำตาก็จะขออวยพรให้กับทั้งคู่!


 


 


แต่ว่าลูกพี่หลันกลับเอาแต่นั่งอยู่ในรถไม่ยอมขยับ ไม่มีปฏิกริยาใดๆทั้งนั้น


 


 


พวกนักข่าวรีบสอบถามต่อไปว่า “คุณผู้ชาย…….ขอสอบถามหน่อยว่าคุณทำงานอะไรครับ?”


 


 


จีเฉวียน “ฮ่องเต้”


 


 


นักข่าว “…..” อะไรนะ


 


 


แผ่นดินต้าชิงล่มสลายไปกี่ปีมาแล้ว ยังจะมีคนกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นฮ่องเต้อยู่อีกหรือ?


 


 


ผู้ชายคนนี้…..คงจะไม่ได้เอาสติปัญญาทั้งหมดไปแลกกับหน้าตามาหรอกนะ?


 


 


“นับจากวันนี้เป็นต้นไป เราไม่ต้องการได้ยินคนในโลกนี้พูดถึงซิงซิงในทางไม่ดีอีกแม้แต่ครึ่งคำ….” แต่ว่าฮ่องเต้กลับมิได้ทรงรู้สึกว่ามีสิ่งใดไม่ถูกต้องเลยสักนิด


 


 


สายพระเนตรเย็นชากวาดมองไปยังฝูงชน “ซิงซิงของเรานั้นเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตา รักใคร่ห่วงใยผู้คนใต้หล้า และงดงามอย่างไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน”


 


 


“เรารักนาง เคารพนาง จะไม่ยอมให้ผู้ใดรังแก หรือใส่ความนาง หากว่ายังมีเรื่องสกปรกเช่นในวันนี้เกิดขึ้นอีก เราก็ไม่เสียดายที่จะลงมือกับพวกเจ้าทั้งตระกูล”


 


 


ซิงซิงบอกเอาไว้ว่า……ในโลกปัจจุบันไม่อาจใช้วิธีฆ่าคนโดยง่าย


 


 


เช่นนั้นพระองค์ทุบตีคนคงพอได้กระมั้ง?


 


 


ต่อยมันให้ฟันร่วงหมดปาก…..ลงไปคลุกดินขอชีวิตเช่นนั้นเป็นไร….


 


 


หมัดแข็งย่อมได้ผลกว่ามิใช่หรือ?


 


 


ผู้คนทั้งหมด “……”


 


 


บรรดาแฟนคลับ “…….” แม่เจ้า ทำไมอยู่ๆถึงได้รู้สึกขึ้นมาว่าคนผู้นี้เท่มากเกินไปแล้ว ทำไงดี?


 


 


ถึงแม้ว่าสมองของเขาดูเหมือนว่าจะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตามเถอะ


 


 


ภายในรถ ตู๋กูซิงหลันรู้สึกว่าจิตใจสับสนวุ่นวายไปหมด…..


 


 


จะว่าอย่างไรดี เมื่อวานนางพึ่งจะตกลงเรื่องความสัมพันธ์ฉันแฟนกับฮ่องเต้เรียบร้อย…..ในฐานะที่นางเป็นแฟนของเขา เมื่อได้รับการปกป้องเช่นนี้ นางก็อยากจะให้คะแนนฮ่องเต้สุนัขในฐานะที่เป็นแฟนแบบเต็มMAXไปเลย


 


 


“อาจารย์…..ท่านไม่รู้สึกว่าเสี่ยวเฉวียนเฉวียนเท่มากๆเลยหรอ?”


 


 


ตู๋กูซิงหลันถามออกไปเบาๆครั้งหนึ่ง


 


 


ซื่อมั่วที่อยู่บนเบาะด้านหลัง……ถึงกับขมจนหน้าเขียวแล้ว


 


 


“ไม่เห็น จะทำไม” เขาทำสีหน้าเฉยเมย น้ำเสียงเย็นชา ในมือของเขามีโทรศัพท์มือถือเก่าๆยุคเก้าศูนย์เครื่องหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จากนั้นเห็นเขากดหมายเลขบางอย่างสุ่มๆไป


 


 


ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงใครบางคนร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น


 


 


“โห ที่แท้แล้วตอนนั้นหลิงXX กับพานXXก็ตายเพราะแบบนี้นะเอง…..ไม่เกี่ยวอะไรกับเยี่ยซิงหลันเลยสักนิดนึงนิ?”


 


 


“คุณชายZลงโพสในIns ด้วยตัวเองเลย ประกาศว่าเขากับเยี่ยซิงหลันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย…..ยิ่งไม่มีทางมีเรื่องไล่ออกจากบ้านด้วยซ้ำ”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)