ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง 452-453
ตอนที่ 452 ที่ว่าเกินไปนั้น มันพึ่งจะ...
สองมือของเยี่ยเฉินชุ่มโชกไปด้วยเลือด กระทั่งด้ามจับของง้าวมังกรก็ยังถูกย้อมจนแดงฉาน
เขาเคยปราบกระทั่งสัตว์อสูรบรรพกาลถูซี[1]ด้วยกำลังของตนเองเพียงผู้เดียวมาแล้ว ตอนนั้นถึงจะต้องกระดูกหักสะบั้นไปครึ่งร่างแต่ก็สามารถเอาชนะถูซีได้ในที่สุด ปลายแหลมของง้าวเล่มนี้ใช้เขาของถูซีสร้างขึ้นมา จึงแข็งแกร่งกว่ากระบี่ผงาดฟ้าของเขามากมาย
เพียงทิ่มแทงออกไป แม้แต่ภูเขาทั้งลูกก็ต้องทะลายกลายเป็นที่ราบ
แต่ว่าครั้งนี้พอแทงออกไป ดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ดาบยักษ์เล่มนั้น……มองดูจากวัสดุที่ใช้ ก็เป็นเพียงแค่อาวุธธรรมดาของพวกมนุษย์เท่านั้น……
แต่ว่าเมื่ออยู่ในมือของตู๋กูซิงหลัน ไม่เพียงแต่จะสามารถดูดซับพลังของกระบี่ผงาดฟ้าไป เมื่อเผชิญกับง้าวมังกรของเขาก็ไม่ตกเป็นรอง ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนด้วยซ้ำ!
เยี่ยเฉินกุมง้าวมังกรเอาไว้อย่างแนบแน่น มองดูสาวน้อยที่มีท่าทางอหังการอย่างที่สุด ในใจก็พลันบังเกิดความปรารถนาขึ้นมาอีกครั้ง!
สตรีผู้นี้….คือน้องสาวต่างมารดาของเขา ย่อมไม่อาจให้กำเนิดบุตรกับเขาได้
แต่ว่าพวกเขาสามารถร่วมกันฝึกฝนวิชาซวงซิวได้นี่….ถึงแม้ว่านางจะเกิดจากเผ่ามนุษย์ แต่ดูแล้วยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเสี่ยวอิงหลายเท่าตัว
ขอเพียงยามที่ฝึกฝนวิชาซวงซิว ให้นางกระทำเช่นเดียวกันกับเสี่ยวอิงถ่ายทอดขุมพลังมาไว้ที่เขา….บางทีเพียงไม่นาน เขาอาจจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าก็เป็นได้
พอถึงตอนนั้น ไหนเลยจะยังต้องการพลังของราชามังกรทมิฬอีก! เขาย่อมกลายเป็นเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยตนเอง!
แววตาของเยี่ยเฉินเปล่งประกาย ตอนนี้เขายิ่งทียิ่ง ‘ชื่นชอบ’น้องสาวผู้นี้ขึ้นมาแล้ว!
เยี่ยอิงติดตามเขามานานหลายปี นางย่อมเข้าใจเขาอย่างที่สุด เพียงแค่ได้เห็นแววตาของเขา นางก็รู้สึกได้ว่าแย่แล้ว
“พี่ชาย ท่านอย่าได้ถูกนางแพศยาน้อยนั่นล่อลวงนะ!” นางร้องอย่างเกรี้ยวกราด “หากท่านไม่ฆ่านาง นางก็จะฆ่าพวกเรา!”
ยามนี้ตู๋กูซิงหลันแข็งแกร่งถึงเพียงไหน นางไม่รู้ชัด นางรู้แต่ว่าตนเองเกือบจะต้องตายใต้น้ำมือของนังแพศยาน้อยนั่นแล้ว
พี่ชายรับดาบเดียวของนางที่ฟันลงมายังถึงกับง่ามมือฉีกขาด
นังตัวร้ายนี่ จะต้องไปได้รับอะไรมาจากใต้หุบเหวไร้ก้นเป็นแน่ ถึงได้อยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเข้มแข็งขึ้นมาขนาดนี้ได้
เพราะเมื่อครึ่งเดือนก่อน ยามที่มันเผชิญหน้ากับองค์หญิงเผ่ามังกรทมิฬอย่างตนก็ยังไม่ใช่คู่มือของตนเลย
ไม่เพียงแต่แค่นั้น ยังต้องให้บุรุษชาวมนุษย์ผู้หนึ่งมาคอยปกป้องนางด้วยซ้ำ!
“พี่ชาย ฆ่านางเสีย ค่อยยึดครองขุมกำลังในร่างของนางมา จะได้ลดทอนเวลาฝึกฝนไปอีกหลายพันปี!” เยี่ยอิงว่าต่อไป
นางรู้ดี เยี่ยเฉินกำลังรู้สึกเสียดาย ไม่อยากจะฆ่านังแพศยาผู้นี้!
เพราะว่ามันงดงามเกินไป!
เรื่องนี้เยี่ยอิงจำต้องยอมรับ….พี่ชายชื่นชอบสตรีโฉมงาม นางเข้าใจกระจ่างอยู่แล้ว
แต่ว่านางก็รู้ดีว่า พี่ชายไม่ใช่คนที่หลงใหลงมงายในความงาม เขายังให้ความสำคัญกับความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจมากกว่า
“หนวกหู!” ตู๋กูซิงหลันคร้านจะทนฟังพวกนางพูดพล่ามอีกต่อไป นางถือดาบยักษ์เอาไว้ ร่างลอยอยู่กลางอากาศ สองมือกุมด้ามดาบมั่น พลังของจิตมังกรขับเคลื่อนออกมาทางฝ่ามือ
นั่นเป็นคลื่นพลังสีดำจากจิตวิญญาณมังกรที่แข็งแกร่งก่อตัวจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
มันถ่ายทอดลงไปในตัวดาบยักษ์ จากนั้นระเบิดออกพร้อมกับสองมือของนางที่ฟันลงมา!
เป้าหมายนั้นชัดเจนที่สุด คือเยี่ยอิง!
บัญชีของชือหลี!
ทำร้ายนางไปหนึ่ง ก็ต้องเอาความตายมาชดใช้!
ดาบนี้พอฟันลงมาก็ทำให้ภูเขาถูกเขย่า แผ่นดินสะท้านสะเทือน ตำหนักทะลายลง ปฐพีแยกเป็นช่องแตกยาว
รอยแยกบนพื้นดินลากยาวถึงสิบกว่าเมตร ตำหนักที่เยี่ยเฉินอาศัยยืนอยู่พังทะลายลงมาทั้งหลัง!
ฝุ่นละอองที่ลอยคละคลุ้งขึ้นมา ถูกพลังของดาบยักษ์ขับดันออกไปจนไกล
เยี่ยเฉินไหนเลยจะยอมให้นางสมใจได้ง่ายๆ เขาขับพลังของจิตมังกรไปทั่วร่าง ที่ด้านหลังของเขาปรากฏร่างของมังกรสีครามตัวหนึ่ง
เมื่อเขาอ้าปากคำราม มังกรตัวนั้นก็ส่งเสียงคำรามเช่นกัน แสดงพลังที่สามารถสั่นสะเทือนตั้งแต่ภูเขาไปยังท้องทะเลออกมา
เขาเคลื่อนไหวง้าวในมือ เข้ารับดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันอย่างตรงๆ
ยามเมื่อทั้งสองปะทะกัน ทั้งฝุ่นดินและก้อนหินก็ฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้า!
ตำหนักต่างๆถูกพลังที่รุนแรงบดขยี้จนย่อยยับลงไปราวกับสร้างด้วยกระดาษ ชั่วขณะนั้น ทั้งหินและดินปลิวกระจายไปทั่วทุกทิศทาง วังมังกรกว่าครึ่งถูกทำลายลงไป!
คนที่อยู่ใกล้ล้วนกลายเป็นเนื้อแหลกเหลว!
พี่รองที่คุ้มคลั่งกระหายเลือดยังคงไล่คว้าเหยื่อของเขาต่อไป แต่ละคนหากมิใช่ว่าถูกบดขยี้จนเนื้อแหลกเหลว ก็ต้องถูกเขาดูดเลือดจนเป็นศพแห้งกรัง!
ขณะที่เยี่ยเฉินรับดาบนั้นของตู๋กูซิงหลันไว้ คนก็ร่วงไปทั้งร่าง ตกลงไปกระแทกพื้นจนกลายเป็นหลุมลึกหลายเมตร
กระดูกทั่วร่างของเขาส่งเสียงเลื่อนลั่นออกมา ถูกตู๋กูซิงหลันกดดันจนหายใจไม่ออก
ทำเอาเขาคาดไม่ถึงเลยว่า น้องสาวต่างมารดาผู้นี้จะแข็งแกร่งถึงระดับนี้ได้!
มือข้างหนึ่งของเขายังคงโอบอุ้มเยี่ยอิงเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะใช้จิตมังกรมาเป็นเกราะกำบัง แต่ว่าเยี่ยอิงก็ยังคงถูกพลังที่แข็งแกร่งนั่นกระแทกจนเลือดทะลักทั้งเจ็ดทวาร
ตัวดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันไม่ได้กระทบถูกนาง แต่ว่าเสื้อผ้าบนร่างของนางฉีกขาดจนรุ่ยร่าย ผิวเนื้อก็แตกจนมีเลือดออกทั่วทั้งตัว
นางเจ็บปวดจนกรีดร้องออกมาสุดเสียง เกือบจะสลบตายไปแล้ว
ดวงตาทั้งคู่ที่มีเลือดไหลออกมามองออกไป ยังเบื้องบนเหนือศีรษะ เห็นสาวน้อยที่ควงดาบยักษ์เอาไว้อยู่บนนั้น ในใจของนางหวาดผวาขึ้นมา
เมื่อครู่นี้……หากว่าเกิดขึ้นในดินแดนของมนุษย์ พลังนั่นเพียงพอที่จะทำลายเมืองทั้งเมืองให้พินาศ!
พี่ชายที่รับพลังนั้นเข้าไป ต้องการเวลาพักหายใจ
แต่ว่านางกลับบุกเข้ามาอีกครั้งแล้ว?
ทันใดนั้นเยี่ยอิงก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายส่งเสียงเย็นชาออกมาคำหนึ่ง ดาบยักษ์เปล่งประกายฟาดฟันลงมาอีกครั้ง
ยังคงเล็งมาที่นางเช่นเดิม!
“ตู๋กูซิงหลัน เจ้าทำเกินไปแล้วนะ!” เยี่ยเฉินขุ่นเคืองนางขึ้นมาจริงๆแล้ว
เขาเป็นถึงไท่จื่อผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรแห่งเผ่ามังกรทมิฬ มีหรือที่จะถูกลูกสาวนอกสมรสของบิดาไล่บี้จนไม่อาจโต้ตอบกลับไปได้?
เขาก็แค่เกรงว่าจะควบคุมพลังของตนเองไม่ได้ พลั้งมือฆ่านางไปเท่านั้น?
เพราะว่า…..เขาต้องการเก็บ “น้องสาว” ผู้นี้เอาไว้ฝึกฝนซวงซิว จึงไม่อาจดับชีวิตของนางไปง่ายๆ
แต่ว่าเมื่อถูกไล่บี้อยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่อาจอดทนต่อไปได้แล้ว
เขาคือองค์ไท่จื่อ หากว่าแม้แต่น้องสาวแท้ๆของตนเองก็ยังไม่อาจปกป้องได้ เช่นนั้นมิกลายเป็นที่ขำขันของผู้อื่นหรือ?
เยี่ยเฉินพึ่งจะสิ้นเสียง ดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันก็ฟาดลงมาเหนือศีรษะของเขาแล้ว
ดาบที่เฉียดผ่านปลายจมูกของเขาลงไปยังเยี่ยอิงที่อยู่ในอ้อมอกของเขา
บนตัวดาบยักษ์แฝงด้วยพลังดำมืดสุดหยั่ง พอดาบนี้กวาดลงมา เยี่ยอิงก็ไร้หนทางหลบหนี
ดาบนี้ทิ่มแทงลงไปกลางกระโหลก
โชคดีที่เยี่ยเฉินปฏิกริยาว่องไว เขาอุ้มเยี่ยอิงถอยหลังไปก้าวหนึ่งได้ทัน เยี่ยอิงจึงรอดจากศีรษะระเบิดไป เพียงถูกกรีดใบหน้ายาวลงมา
ทันใดนั้นก็เห็นด้านบนเหนือศีรษะ มีพายุยันต์สีเหลืองจำนวนนับไปถ้วนพุ่งลงมายังพื้นดินใต้ฝ่าเท้าของเขา
ทันทีที่ยันต์สีเหลืองสัมผัสพื้นดิน ก็ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น กำแพงยันต์สีเหลืองผุดขึ้นมาจากพื้นดินในทันที กลายเป็นสนามพลังกระหายเลือดที่รายล้อมเยี่ยเฉินและเยี่ยอิงเอาไว้ภายใน
ตู๋กูซิงหลันเป็นเสมือนดั่งผู้สูงส่งจากฟากฟ้า ดาบของนางฟาดลงมาจากสวรรค์สะเทือนจนถึงปฐพี สายตาของนางจับจ้องอยู่ที่คนทั้งสองอย่างไร้ความรู้สึก
พลังของจิตมังกรบนฝ่ามือถ่ายทอดลงไปในตัวดาบยักษ์อีกครั้ง ฟาดฟันลงไปยังเยี่ยเฉินอย่างโหดเ**้ยม
พลังนี้ทำลายเกราะจากจิตมังกรของเยี่ยเฉิน ดาบมังกรผ่ากลางกระโหลกของเยี่ยอิงลงไป ฉีกร่างออกเป็นสองส่วน!
จากนั้น นางค่อยขยับริมฝีปากสีแดง มองดูเยี่ยเฉินที่ตกตะลึงจนแข็งค้างไปแล้วด้วยสายตาเย็นชา “ที่ว่าเกินไปนั้น ตอนนี้พึ่งจะเริ่มขึ้นต่างหาก!”
ตอนที่ 453 “ในใจของนางมีทั้งส่วนที่ห่...
เยี่ยเฉินถึงกับโง่งมไปแล้ว!
เขามองดูง้าวมังกรในมือที่ยังไม่ทันได้ฟาดออกไป แล้วก็หันมามองดูเยี่ยอิงที่ถูกผ่าเป็นสองส่วนในอ้อมแขนของตนเอง……
เสื้อผ้าทั้งร่างของเขาถูกเลือดของเยี่ยอิงย้อมจนเป็นสีแดง……เยี่ยอิงถูกกรีดผ่าตั้งแต่ศีรษะจรดหน้าขา ร่างถูกแบ่งครึ่งกลายเป็นสองส่วน!
แม้แต่กระดูกสันหลังยังแหลกละเอียด เครื่องในไหลออกมากองอยู่บนตัวเขา เลือดอุ่นๆที่สาดกระจายจนทั่วร่างของเขาเย็นลงอย่างรวดเร็ว
นางเบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร!
สวะที่มาจากเผ่ามนุษย์ผู้หนึ่ง ไยจึงสามารถสังหารนางที่เป็นองค์หญิงผู้สูงส่งจนกลายเป็นสองส่วน?
ร่ายกายของนางยังแข็งแกร่งยิ่งกว่ากำแพงเมือง…….จะถูกผ่าเป็นสองส่วนได้อย่างไร…
เยี่ยอิงไม่หลงเหลือพลังที่จะขบคิดปัญหาอีกต่อไปแล้ว
ร่างกายของนางถูกผ่าออกเป็นสองส่วนไปแล้วแท้ๆ แต่ว่านางก็ยังไม่ตาย จิตวิญญาณคล้ายดั่งถูกกักขังเอาไว้ในร่าง ไม่เคลื่อนออกไปแม้แต่น้อย
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ปากแผลบนร่างกายที่ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนมีไฟสีน้ำเงินกำลังลุกไหม้ขึ้นมา
ไม่รู้ว่าลูกไฟนี้มาจากที่ใด มันค่อยๆเผาไหม้จนลามไปตามร่างกายที่ถูกผ่าของนาง
ทั้งนางกลับยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดนี้ ไฟนั้นคล้ายจะแทรกจากรอยแผลแผดเผาลึกเข้าไปในผิวเนื้อของนาง จนแม้แต่จิตวิญญาณของนางก็ยังถูกแผดเผาไปด้วย แต่ว่านางกลับร้องไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
นังแพศยาน้อยนั่นเป็นตัวปีศาจ!
มันกำลังทรมานนาง! ให้นางไม่อาจส่งเสียง เจ็บปวดก็ไม่อาจบอกออกไป ร่างกายก็ไม่อาจเคลื่อนไหว ให้นางต้องนอนมองดูตนเองถูกแผดเผาไปทั้งๆอย่างนี้…….
ดวงวิญญาณของเยี่ยอิงได้แต่ตะโกนกรีดร้อง แต่ว่านอกจากตู๋กูซิงหลันแล้วก็ไม่มีผู้ใดได้ยินนางทั้งสิ้น
ตู๋กูซิงหลันถูกซื่อมั่วเลี้ยงดูจนเติบใหญ่มากับมือ อุปนิสัยจึงค่อนไปทางซื่อมั่วอยู่หลายส่วน
ผู้อื่นไม่ทำร้ายข้าข้าก็ไม่ทำร้ายผู้ใด ใครกล้าทำร้ายข้า ต้องทบยอดกลับไปร้อยเท่าพันทวี
ไม่มีผู้ใดเห็นว่า ในตอนที่ร่างของเยี่ยอิงถูกผ่าออกเป็นสองส่วน นางได้ผนึกยันต์สีแดงแผ่นหนึ่งลงไปในร่างของเยี่ยอิง
ตอนนี้นางแข็งแกร่งมากกว่าเดิมจนสามารถใช้ยันต์สีแดงได้วันละสิบใบแล้ว
รอให้ร่างของเยี่ยอิงถูกแผดเผาจนหมดสิ้น วิญญาณของนางก็จะต้องตกนรกขุมที่สิบแปด
มองดูทุกสิ่งที่นางรักทุกสิ่งที่อาลัยทอดทิ้งนางไป มองดูทุกสิ่งที่นางอาวรณ์แตกสลายลงไปตรงหน้านางทุกๆวัน
ท่ามกลางความสิ้นหวังที่ไร้จุดสิ้นสุดนั้น นางจะต้องทนรับความเจ็บปวดจากพันดาบหมื่นกระบี่ ถลกหนังและควักหัวใจ
จนกว่าขุมนรกจะว่างเปล่า ใต้หล้าไม่เหลือผู้ที่ใจดำอำมหิตอีก จึงจะได้รับการปลดปล่อย
แน่นอนว่า ตู๋กูซิงหลันย่อมเหมือนกับซื่อมั่ว มีความโหดเ**้ยมอยู่ในกระดูก
นางไม่ได้เหลือทางรอดเอาไว้ให้เยี่ยอิงเลยแม้แต่น้อย นรกจะปราศจากวิญญาณได้อย่างไร ใต้หล้าหรือจะหมดสิ้นคนไร้น้ำใจ?
ฝีมือในการสาปแช่งเช่นนี้ ย่อมเท่ากับชั่วกัปชั่วกัลป์
ในใจของนางมีทั้งส่วนที่ห่วงใยสรรพชีวิตใต้หล้า และส่วนที่เป็นจอมมารอันโหดเ**้ยม
ทั้งสว่างและมืดมิด
นางกับซื่อมั่วนั้นแม้แต่กระดูกก็ยังเป็นชนิดเดียวกัน
สตรีผู้นี้ เป็นทั้งผู้ปกป้องและผู้ทำลาย!
จุดจบของผู้ที่ต่อต้านนางย่อมเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!
บนหอสูง หวาชางสุ่ยนั่งไม่ติดอีกต่อไปแล้ว นางลุกขึ้นมา เกือบจะลงมือออกไปแล้ว
นางเห็นบุตรสาวของตนเองถูกนังแพศยาน้อยนั้นฟันเป็นสองส่วนกับตา!
พัดวายุในมือถึงกับถูกกำแนบแน่นจนสั่นสะท้าน แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พัดออกไป
“องค์ราชินีเพคะ….องค์หญิงนาง…….” นางกำนัลผู้นั้นก็ตกตะลึงจนวิญญาณหลุดลอยเช่นกัน แต่กลับเห็นว่าหวาชางสุ่ยยังคงอดกลั้นเอาไว้ได้อยู่
“ขอเพียงนางยังเหลือปลายนิ้วอยู่ข้อหนึ่ง ข้าก็สามารถทำให้นางฟื้นคืนมาได้ ไม่ต้องรีบร้อน” หวาชางสุ่ยแววเนตรเย็นชา ถึงจะเอ่ยออกไปเช่นนั้น แต่ว่าปลายนิ้วของนางกลับสั่นสะท้าน
นางถึงกับก็ต้องทนดูบุตรสาวถูกฟันเป็นสองส่วน ต่อให้จิตใจของนางเข้มแข็งสักเพียงไร หัวใจก็ย่อมไม่อาจทนอยู่เฉยๆได้
นังแพศยาน้อยนั่น…..ปล่อยให้นางได้เหลิงลำพองไป อีกเพียงไม่นาน ตนจะต้องให้นางร่างสลายกระดูกกลายเป็นผง!
ความลำพองของนางจะต้องได้รับค่าตอบแทนอันแสนเจ็บปวด!
เมื่อสิบสองปีก่อน นางบีบคับตู๋กูชิงชิงด้วยตนเองจนต้องกระโดดลงไปในหุบเหวไร้ก้น ตนเองถูกเยี่ยจ้านทุบตีจนปางตาย กลายเป็นบาดแผลที่ไม่อาจรักษาหายขาดไปจนชั่วชีวิต เส้นผมที่ขาวโพลนทั่วศีรษะก็เกิดขึ้นหลังจากที่บาดเจ็บคราวนั้นเป็นต้นมา
พัดวายุเล่มนี้แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ แต่ว่าตอนนี้นางไม่อาจใช้ออกไปได้ตามใจปรารถนา เมื่อครึ่งเดือนก่อนตอนที่ปะทะกับบุรุษเผ่ามนุษย์ผู้นั้น นางใช้มันติดต่อกันไปถึงห้าครั้ง ต้องสูญเสียพลังวิญญาณของนางไปอย่างมากมาย ตอนนี้จึงไม่อาจลงมือได้อย่างง่ายๆอีกต่อไป
นางกำนัลที่ยืนอยู่ข้างกายได้แต่เหลือบตามองดูนาง แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
คนที่เป็นมารดาผู้หนึ่ง กลับสามารถยืนมองดูบุตรสาวของตนเอง….. ยากนักที่นางจะเข้าใจได้ว่าในพระทัยขององค์ราชินีนั้นที่จริงแล้วกำลังทรมานถึงเพียงไร
แต่ว่าก็ยังดีอยู่…..ขอเพียงดวงวิญญาณขององค์หญิงยังไม่สลาย องค์ราชินีย่อมต้องทรงมีวิธี ‘คืนชีพ’ให้กับนางอย่างแน่นอน
นี่คือวิชาลับสุดยอดของเผ่าสวรรค์อันยิ่งใหญ่เกรียงไกร! หมื่นปีก่อนที่จะผละจากเผ่าสวรรค์ลงมาอยู่ในเผ่ามังกรทมิฬนั้น มีแต่องค์ราชินีเพียงผู้เดียวที่รู้จักวิชานี้
……………………..
อีกด้านหนึ่ง เยี่ยเฉินเองก็พึ่งจะวาง ‘ร่าง’ ของเยี่ยอิงลงไปข้างๆ
ดวงตาสีครามของเขาคู่นั้นทอประกายเอาจริงเอาจังขึ้นมา……
เขาจ้องมองดูชุดสีแดงที่พลิ้วไหวของตู๋กูซิงหลัน เมื่อครู่นี้ เขาพึ่งจะต้องยอมรับว่า ‘น้องสาว’ ผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่สมควรจะไปตอแยด้วย
นี่เป็นสตรีที่มีหนามแหลมคมทั่วร่างผู้หนึ่ง หากไปตอแยเข้า มีแต่จะต้องถูกทิ่มแทงเป็นร้อยเป็นพันแผลเท่านั้น
ความเร็วที่นางใช้ผ่าเสี่ยวอิงเมื่อครู่นั้น รวดเร็วมากเสียจนแม้แต่เขาเองก็ยังไม่ทันได้มีปฏิกริยาใดๆ
กว่าพันปีมาแล้ว นี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่เยี่ยเฉินถูก ‘หยามหมิ่น’ ถึงเพียงนี้
น้องสาวแท้ๆของเขา ถูกฆ่าตายในอ้อมแขนของเขาเอง!
ถึงแม้ว่าเขาจะอยากจะครอบครองตู๋กูซิงหลันมากเพียงใด ตอนนี้ก็คิดแต่จะฉีกนางให้เป็นชิ้นๆเท่านั้น!
จิตมังกรที่อยู่ด้านหลังของเขากลายร่างเป็นมังกรยักษ์ที่ส่งเสียงคำรามกึกก้อง มันก้มศีรษะที่ใหญ่โตลงมา พลางทะยานลงไปในร่างของเยี่ยเฉิน
จากนั้นตลอดท่อนแขนของเขาก็ปรากฏเกล็ดมังกรสีครามขึ้นมามากมาย
บนใบหน้าของเขาก็มีตราประทับมังกร ทั่วทั้งร่างระเบิดพลังที่โหดเ**้ยมออกมา
ง้าวในมือกวัดแกว่งออกไปรอบหนึ่ง ร่างของเขามีประกายสีทองทั่วทั้งร่าง ดวงตาคู่นั้นจับจ้องอยู่ที่ตู๋กูซิงหลัน ปลายง้าวชี้เข้าใส่หน้าผากของนาง
“เจ้าทำให้ข้าผู้เป็นไท่จื่อพิโรธแล้ว!”
ว่าแล้ว เขาอ้าปากส่งเสียงคำรามที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
ทันทีที่เสียงนั้นสะท้อนออกไป ผืนแผ่นดินที่พึ่งจะสงบนิ่งก็ต้องสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ตำหนักที่อยู่ห่างไกลออกไปโคลงเคลงจนล้มระเนระนาดลงมา
ชาวเผ่ามังกรทมิฬที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงต่างก็เลือดออกทั้งเจ็ดทวารจนต้องแยกย้ายแตกกระเจิงกันออกไป
องค์ไท่จื่อทรงพิโรธเข้าจริงๆแล้ว
เสียงคำรามของเชื้อพระวงค์ในเผ่ามังกรทมิฬ ……เพียงส่งเสียงครั้งเดียวก็สามารถทำลายเมืองเมืองหนึ่งลงไปได้ ยามนี้แม้แต่วังมังกร องค์ไท่จื่อก็ไม่ทรงคิดจะรักษาเอาไว้อีกแล้ว ต้องการแต่เพียงทำลายสตรีต่ำต้อยผู้นั้นจนแหลกละเอียดเท่านั้น!
เสียงคำรามนี้ ทำให้แสงสีเงินอมดำที่ครอบคลุมอยู่บนร่างของนางสั่นสะท้านจนจางลงไปหลายส่วน
พลังที่แข็งแกร่งนั่นแทบจะสามารถทะลวงผ่านพลังบนร่างเข้าไปถึงชั้นเนื้อและกระดูกของนาง
ทำให้นางสั่นสะเทือนไปทั้งร่างจนถึงกระดูก
เยี่ยเฉินมิได้ให้เวลาแก่นางแม้แต่น้อย มือของเขากำง้าวมังกรเอาไว้พุ่งเข้าไปที่หน้าผากของตู๋กูซิงหลันในทันที
ง้าวมังกรยังไม่ทันมาถึง ก็เห็นพลังที่พุ่งออกมากลายเป็นร่างของแรดขนาดใหญ่ นอที่แหลมคมของแรดพุ่งเข้าทำลายจิตมังกรของบนร่างของนางจนแตกออก
“ไปตายเสียเถอะ” แววตาของเยี่ยเฉินมีแต่ความโหดเ**้ยม ทั้งยังแดงก่ำดุจเลือด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น