ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง 448-449
ตอนที่ 448 เครื่องจักรสังหารที่ไร้ควา...
ประโยคนั้น ชือหลีเพียงแต่ขยับริมฝีปากเท่านั้น ไม่ได้ออกเสียงแม้แต่น้อย
คนที่กำลังจะตายอยู่แล้ว ไยจะต้องไปเพิ่มความกังวลและภาระให้กับเขาอีก
นางยิ้มแล้ว เส้นผมสีแดงปลิวไสวราวเริงระบำ แย้มยิ้มอย่างงดงามที่สุด
รอยยิ้มนั้นถูกดาบที่ไร้น้ำใจของเยี่ยอิงทำลายลงไป
ดาบโซ่ของนางเป็นดาบโค้งที่มีขนาดเท่าๆกันสิบสองเล่มร้อยเรียงกัน ยามเก็บกลับมาจะรวมเข้าอยู่เป็นชุด ยามฟาดฟันออกไปคล้ายดั่งกลุ่มมีดบินที่สามารถปาดเนื้อคนจนเหลือแต่กระดูกขาวโพลน
ครั้งนี้ พอดาบนั้นถูกฟาดออกมาใส่ชือหลี ก็ฟันกระหน่ำลงไปบนแขนขาของนาง
ฟันนางจนยับเยินทั้งร่าง ต่อหน้าต่อตาของตู๋กูเจวี๋ย!
ดวงตาของเยี่ยอิงไม่มีความปราณีแม้แต่น้อย ทั้งยังลำพองอย่างยิ่ง
นางเหลือบตามองดูชือหลี พลางยิ้มเย็นชา “ก็แค่ขยะชิ้นหนึ่ง ยังคิดจะมาเปรียบเทียบกับข้าหรือ? เจ้าคิดว่าข้าเป็นสวะเหมือนกับลู่กว่างหรืออย่างไร?”
ชือหลีไม่ได้เอ่ยอะไรทั้งนั้น ทั้งสองมือและสองเท้าของนางถูกตัดจนขาด คนมีแต่เลือดท่วมตัว นอนแผ่แน่นิ่งอยู่บนพื้น
ตู๋กูเจวี๋ยเห็นภาพนั้นกับตา ชั่ววินาทีนั้น เขาตื่นตระหนกจนสมองว่างเปล่า!
บนใบหน้าของเขามีแต่เลือดของชือหลี
ตั้งแต่เล็กจนโตเขาก็ไม่สามารถกินเนื้อสัตว์ ไม่อาจเห็นเลือด…..ยามนี้กลับต้องมาเห็นคนที่หัวใจเฝ้าคำนึงหา ถูกทำร้ายจนร่างเลอะเลือนราวกับกระเบื้องที่แหลกละเอียดต่อหน้าต่อตาของตนเอง
ร่างของเขายังลอยคว้างอยู่ในอากาศ ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามากมายมาจากด้านหลังของตนเอง
นางกำนัลประจำตัวของราชินีมังกรทมิฬกำลังนำพาผู้คนเข้ามา ตระเตรียมจะแล่เนื้อของเขา
บนร่างของพวกเขาพกพามีดดาบที่คมกริบ แม้แต่ถังที่ใช้รองเลือดก็เอามาพร้อมกันด้วย
ตู๋กูเจวี๋ยไม่ได้มองดูพวกนางแม้แต่น้อย ในสายตาของเขามีแต่ชือหลี
ขณะที่เลือดกำลังสูบฉีดไปทั่วร่างกาย สายตาก็เห็นแต่เพียงภาพดวงตาที่งดงามคู่นั้นกลายเป็นสีแดงประดุจเลือดเท่านั้น
พลังทั้งหมดของชือหลีถ่ายเทเข้าสู่ร่างกายของเขา ทันใดนั้นเองร่างกายของเขาก็เหมือนกับประตูที่ถูกคนเปิดออก พลังที่ไร้ขีดจำกัดสายหนึ่งไหลทะลักออกมาจากส่วนลึกในดวงจิต
ทะลวงเข้าไปยังทุกรูขุมขนภายในร่างกาย
ภายในคุกไม่มีสายลม แต่ว่าเสื้อผ้าที่อาบย้อมไปด้วยเลือดของเขากับกระพือขึ้นมา
“รีบจับตัวเขาเอาไว้ องค์ราชินีทรงมีรับสั่ง ให้จับเขามาแล่เนื้อป้อนให้ปลากิน!” นางกำนัลผู้นั้นร้องตะโกนออกมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอได้เห็นท่าทางเช่นนั้นของตู๋กูเจวี๋ย ในใจของนางก็พลันเกิดลางสังหรณ์อัปมงคลขึ้นมา
โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นว่าเส้นผมสีดำของหนุ่มน้อยผู้นั้นกำลังค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเงินยวง อยู่ดีๆหัวใจของนางก็เต้นโครมครามขึ้นมา
เยี่ยอิงเองก็หันกลับไปมองเช่นกัน นางกุมดาบโซ่เอาไว้ในมือ เสื้อผ้าบนร่างยังคงรุ่ยร่ายจนเปิดเผยท่อนขาเรียวยาว
พึ่งจะก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ก็เห็นเส้นผมบนศีรษะของตู๋กูเจวี๋ยทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีเงินยวงไปแล้ว จากนั้นร่างทั้งร่างก็ลอยขึ้นไป
ร่างของเขาลอยคว้างอยู่กลางอากาศ พอมองดูให้ละเอียดถึงได้เห็นว่ากระทั่งดวงตาทั้งสองก็กลายเป็นนัยตาสีเงินไปแล้ว!
เมื่อถูกกลิ่นอายของเลือดครอบงำ เพราะความโกรธเกรี้ยว จึงได้กลายเป็นเสียสติไปแล้วกระมั้ง!
“นี่มัน….” เยี่ยอิงขมวดหัวคิ้ว ชั่ววินาทีหนึ่ง นางรู้สึกคล้ายกับว่าได้เห็นเงาของพระบิดาอยู่ด้านหลังของคนผู้นั้น!
ราชามังกรทมิฬผู้ทอดทิ้งภรรยาและบุตรธิดาไป!
นางกำนัลผู้นั้นนำพาผู้คนเข้ามาคิดจะจับตัวตู๋กูเจวี๋ย กลับเห็นเขาคำรามด้วยเสียงเกรี้ยวกราดครั้งหนึ่ง ก็ยื่นฝ่ามือออกมาคว้าคน แล้วฉีกคนผู้นั้นเป็นสองส่วนในทันที!
คนของเผ่ามังกรทมิฬ ต่อให้เป็นเพียงพวกเวรยาม ร่างกายก็ยังแข็งแกร่งอย่างที่สุด ยิ่งกว่ากำแพงเหล็กกล้าเสียอีก แต่ว่าเมื่อยู่ในมือของเขา กลับถูกฉีกจนขาดวิ่นได้ราวกับกระดาษแผ่นหนึ่ง!
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังคว้าคนมาอีกคนหนึ่ง พลางฉีกกระชากด้ายที่เย็บเอาไว้ที่ปากออก พออ้าปากได้ก็กัดลำคอของอีกฝ่ายลงไป ดูดกลืนเพียงครั้งเดียวร่างของคนผู้นั้นก็กลายเป็นศพที่แห้งเหือด
สีหน้าของเขาไร้ความรู้สึก แววตาคุ้มคลั่ง ไม่สนใจสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น!
ตอนนี้เขากลายเป็นคนที่สูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว เอาแต่ไล่คว้าผู้คนมากมายติดต่อกัน เหล่าคนที่นางกำนัลผู้นั้นนำทางมา เพียงครู่เดียวก็ถูกเขาจับดื่มกินจนกลายเป็นศพแห้งๆ!
มนุษย์ธรรมดาผู้นั้น….เขาคุ้มคลั่งกระหายเลือดไปแล้ว!
ชือหลีที่จมอยู่ในกองเลือดยังลงเหลือลมหายใจอยู่ พอได้เห็นสถานการณ์ที่พลันเปลี่ยนแปลงไป หัวใจของนางก็ตกตะลึงไปแล้ว
ในร่างของตู๋กูเจวี๋ยมีพลังที่แข็งแกร่งของเผ่ามังกรไหลเวียนอยู่…..
เขาเป็น…เผ่ามังกร?
“ตายให้หมด ไปตายให้หมด เฮอะ เฮอะ เฮอะ!” ร่างกายของตู๋กูเจวี๋ยอัดแน่นไปด้วยพลังที่ไม่หมดสิ้น ร่างกายที่เคยผ่ายผอม ยามนี้มองดูแล้วไม่เพียงแต่แข็งแกร่งบึกบึนเท่านั้น บนแขนและหัวไหล่ของเขายังมีเส้นเลือดสีเขียวปูดโปน เส้นผมทั่วศีรษะปลิวไสว กลางหน้าผากปรากฏตราประทับรูปมังกรชนิดหนึ่ง
เขาแยกเขี้ยวหัวเราะ ทั่วทั้งร่างมีแต่ไอสังหารพวยพุ่งทะลุฟ้า ราวกับว่าเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไร้ชีวิตจิตใจ
ยามที่ดวงตาของเขากวาดมองออกไป ทั้งหมดล้วนคือเหยื่อที่ต้องล่า
ยกเว้นแต่สตรีผมแดงที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น
เขายังคงหลงเหลือสติอยู่เล็กน้อย…..แต่ในช่วงเวลาสั้นๆก็ไม่สามารถจดจำได้ว่านางคือใคร รู้แต่ว่าก้นบึ้งของหัวใจบอกไม่ให้ทำร้ายนาง
สุดท้ายสายตาของเขาก็เลื่อนมายังร่างของเยี่ยอิง
ทันใดนั้นแววตาก็เปลี่ยนเป็นเ**้ยมโหดขึ้นมา จนเยี่ยอิงอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้
มนุษย์ธรรมดาผู้นี้อยู่ๆก็ระเบิดพลังของเผ่ามังกรออกมาจากในร่าง …..ทั้งยังเป็นพลังของเผ่ามังกรทมิฬอีกด้วย!
พลังที่คล้ายจะถูกผนึกมานานหลายปี อยู่ๆก็ทะลักออกมา!
นางกำดาบโซ่ในมือเอาไว้แนบแน่น ถอยหลบออกจากคุกอย่างรวดเร็ว
ร่างของตู๋กูเจวี๋ยลอยค้างอยู่ในอากาศ เขายิ้มอย่างลึกลับชั่วร้าย พลิกตัวไล่ติดตามไปในทันที
ชือหลีใช้กำลังขุมสุดท้ายเรียกดาบกระดูกมังกรออกมาอีกครั้ง
ดาบกระดูกมังกรนี้คล้ายดั่งสามารถรับรู้ความคิดของผู้เป็นนาย มันติดตามตู๋กูเจวี๋ยไปในทันที
มันหล่นลงในมือของเขา แสดงพลังเช่นเดียวกับยามแรกที่อยู่ในมือของตู๋กูซิงหลันออกมา
ในขณะเดียวกัน ทั้งบนหอสูง ตำหนักของไท่จื่อและ หุบเหวไร้ก้นต่างก็มีปฏิกริยาขึ้นมา
หวาชางสุ่ยลุกขึ้นยืนในทันที ในหัวใจอยู่ๆก็รู้สึกปวดแปลบขึ้นมา
เยี่ยเฉินเองก็พุ่งเข้ามายังคุกด้วยความรีบร้อน
ใต้หุบเหวไร้ก้น…..สีหน้าของเยี่ยจ้านเปลี่ยนแปลงไปแล้ว อยู่ๆผนึกที่เขาสร้างเอาไว้….ก็สลายหายไป?
เขาเงยหน้าขึ้นมองด้านบนของหุบเหวไร้ก้น ขนตากระพริบน้อยๆ ….เสี่ยวหลันพึ่งจะถูกเขาส่งออกไปจากหุบเขาไร้ก้น ผนึกทั้งสองชุดต่างก็คลายออกแล้ว เผ่ามังกรทมิฬ…..คงจะถึงคราวต้องกลายเป็นทะเลเลือดไปเสียแล้ว
…………………………….
สายลมยามค่ำคืนพัดโหมรุนแรง ในทันใดนั้น เกิดความเคลื่อนไหวไปทั่วทั้งวังมังกร
ชาวมนุษย์ที่ถูกกักขังอยู่ในคุกของเผ่ามังกรทมิฬอยู่ๆก็เกิดคุ้มคลั่งขึ้นมา….กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ดื่มกินเลือดเนื้อ
เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็ไล่ดื่มกินผู้คนจากในคุกออกมายังด้านนอกคุก เวรยามนับร้อยถูกเขาสูบกินจนกลายเป็นศพแห้ง!
ดาบโซ่ของเยี่ยอิงฟาดออกไปนับครั้งไม่ถ้วน ถึงจะกรีดร่างของเขาเป็นแผล แต่ว่าบาดแผลเหล่านั้นก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
พี่ชายของนางเยี่ยเฉินเองก็มีพลังในการฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว แต่ว่ามองดูแล้ว….ไอ้หน้าอ่อนที่กำลังคุ้มคลั่งผู้นี้ยังสามารถฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็วกว่าพี่ชายเสียอีก!
ในมือของตู๋กูเจวี๋ยกุมดาบกระดูกมังกรเอาไว้ ฟาดฟันออกไปอย่างไม่มีกระบวนท่าใดๆทั้งสิ้น แต่ดาบมังกรในมือของเขาก็ระเบิดพลังได้อย่างทรงอานุภาพ ทำเอาตำหนักต่างๆที่อยู่ตรงหน้าพังทะลายลงไป
เขาจ้องมองเยี่ยอิงด้วยสายตาเย็นชา พอดาบโซ่ของเยี่ยอิงพุ่งเข้ามาอีกครั้ง เขาก็ยื่นมือไปรับเอาไว้
ใบดาบฝังเขาไปในเนื้อ แทบจะเฉือนมือของเขาออกมาครึ่งหนึ่ง
ตู๋กูเจวี๋ยกลับไม่แสดงความรู้สึกว่าเจ็บปวด เขากระชากแรงๆครั้งหนึ่ง ทั้งดาบและเจ้าของก็ลอยลงมาตรงหน้าพร้อมๆกัน
มืออีกข้างยื่นออกไปในพริบตา คว้าลำคอของเยี่ยอิงเอาไว้อย่างแน่นหนา
ปลายเล็บของเขาจิกฝังลงไปในผิวเนื้อของเยี่ยอิง จนเลือดสดๆไหลนองออกมา
ตอนที่ 449 ดาบยักษ์จากฟากฟ้า!
ตู๋กูเจวี๋ยเลียริมฝีปาก ดาบกระดูกมังกรในมือขยับครั้งหนึ่ง ฟันแขนของเยี่ยอิงข้างหนึ่งขาดลงมา
เยี่ยอิงเจ็บปวดจนทั้งร่างสั่นสะท้าน ก่อนนี้เพียงครู่เดียวนางยังสามารถบดขยี้คนผู้นี้จนติดพื้นได้อยู่เลย ใครจะไปรู้ว่าเพียงชั่วพริบตานางจะกลายเป็นฝ่ายถูกเขาไล่บี้จนถึงขนาดนี้
พละกำลังของเขาแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทั้งยังไม่กลัวเจ็บไม่กลัวตาย! การฟื้นฟูก็รวดเร็ว!
เยี่ยอิงถูกเขาคว้าเอาไว้ในมือ ไม่ว่านางจะพยายามโจมตีอย่างไร ฝ่ายตรงข้างก็ไม่รู้สึกกระทบกระเทือนใดๆทั้งนั้น…
อีกทั้งไม่ว่าจะขัดขืนอย่างไร ก็ไม่เป็นผล ยิ่งขัดขืนกรงเล็บนั้นก็ยิ่งจิกลึกลงไปในลำคอ
นางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองใกล้จะขาดใจตายเข้าไปทุกทีแล้ว
และในตอนนั้นเอง เยี่ยเฉินก็รีบรุดมาถึง เขาขมวดคิ้วมุ่น มองดูท่าทางของตู๋กูเจวี๋ยด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยว่า…..มนุษย์ผู้นี้มีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับพระบิดา
ตอนนั้นเขารู้มาว่า ยามที่พระบิดาอยู่ในแดนมนุษย์ถูกสตรีเผ่ามนุษย์ผู้หนึ่งล่อลวง จนมีบุตรกับนาง…..
นี่เป็นเรื่องน่าละอายของเผ่ามังกรทมิฬ!
คิดไม่ถึงว่าพอผ่านไปหลายปีเข้า ไอ้ลูกนอกสมรสผู้นั้นจะพาตนเองมาจนถึงเผ่ามังกรทมิฬ!
“พี่ชาย!” ใบหน้าของเยี่ยอิงแดงก่ำ นางพยายามใช้แขนที่เหลือโบกเรียกเขาอย่างวุ่นวาย
เยี่ยเฉินมิได้ลังเล เขาดึงกระบี่ออกมาเล่มหนึ่ง ขยับร่างวูบเดียวก็พุ่งเข้าไปจะฟันตู๋กูเจวี๋ยเป็นแปดส่วน
เสี่ยวอิงมักจะฝึกวิชาซวงซิวกับเขา พละกำลังที่แข็งแกร่งจึงถูกถ่ายเทมาที่เขา ส่วนร่างกายของเสี่ยวอิงไม่นับว่าแข็งแกร่งสักเท่าไร
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ…..บุตรของราชามังกรที่กำลังคุ้มคลั่ง ในช่วงเวลาสั้นๆนางย่อมไม่อาจรับมือได้
แต่ว่าเขาไม่เหมือนกัน เขาคือบุตรของราชามังกรที่ถูกต้องอย่างแท้จริง มารดาก็คือเผ่าสวรรค์ที่สูงส่งที่สุด
เขาฝึกฝนตนเองอยู่ใต้ก้นทะเลลึกแห่งนี้มานานนับพันปีแล้ว
แค่สวะเผ่ามนุษย์ผู้หนึ่ง ไหนเลยจะเปรียบเทียบกับเขาได้กัน
“เสี่ยวอิงไม่ต้องกลัว พี่ชายจะปกป้องเจ้าเอง!” เยี่ยเฉินปลอบใจเยี่ยอิง เขามีน้องสาวเพียงแค่คนเดียว ย่อมไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นกับนาง
พอได้ยินประโยคนี้ของเขา เยี่ยอิงก็เบาใจขึ้นมาไม่น้อย
ใช่แล้ว….พี่ชายจะต้องปกป้องนางอย่างแน่นอน ตั้งแต่เล็กจนโตพี่ชายล้วนปกป้องนางอยู่เสมอ
ไม่ว่าที่ไหนหรือว่าเมื่อไหร่ ขอเพียงนางถูกรังแก พี่ชายมักจะปรากฏตัวขึ้นมาที่ข้างกายนางเป็นคนแรกและระบายความโกรธให้นางอยู่เสมอ
พอนานวันเข้า ในสี่ทะเลนี้ ก็ไม่มีผู้ใดที่กล้าไม่เคารพนางอีกต่อไป!
มนุษย์ผู้นี้ก็เป็นเพียงแค่สวะชิ้นหนึ่ง ไหนเลยจะแข็งแกร่งไปกว่าพี่ชายได้อีก!
อีกเดี๋ยวพี่ชายจะต้องฉีกมันจนกลายเป็นเศษเนื้อ เพื่อแก้แค้นให้กับแขนที่ขาดไปของนาง!
เหอะ เหอะ เหอะ!
ความเจ็บปวดนี้ พี่ชายจะต้องทวงคืนจากร่างของมันร้อยเท่าพันเท่า!
เยี่ยเฉินกล่าวแล้ว ก็ขยับกระบี่ในมือ ขับพลังในร่างออกมา พุ่งตรงเข้าสู่ทรวงอกของตู๋กูเจวี๋ย
ตู๋กูเจวี๋ยคว้าคอของเยี่ยอิงเอาไว้ หันไปมองดูด้วยแววตาเ**้ยมโหด
กระบี่เล่มนั้นยังไม่ทันมาถึงตรงหน้าของเขา จิตกระบี่ที่แข็งแกร่งก็พุ่งเข้ามาถึงก่อน จนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดบนร่างของเขาฉีกขาดออกไป เส้นผมที่พลิ้วอยู่ก็ขาดออกไปบางส่วน หล่นลงสู่พื้น
จิตกระบี่แข็งแกร่งเสียดแทงร่างกายของเขาจนชาวาบไปถึงกระดูก เขารีบเขวี้ยงเยี่ยอิงที่อยู่ในมือทิ้งไป
เยี่ยอิงลอยออกไปเหมือนดั่งตุ๊กตาผ้าในทันที ขณะเดียวกัน มังกรดำหลายตัวก็เหาะตามไป รับร่างของนางเอาไว้ ป้องกันไม่ให้ร่างของนางกระแทกเข้ากับสิ่งก่อสร้างในวังหลวงจนได้รับบาดเจ็บหนัก
ถึงกระนั้น เยี่ยอิงก็ยังกระอักเลือดออกมาคำโต
ลำคอแทบจะถูกเล็บของตู๋กูเจวี๋ยแทงจนทะลุออกไป เลือดยังไหลนองไม่ยอมหยุด
พอมองดูแขนที่ขาดไปของตนเอง ในดวงตาของนางก็มีแต่เส้นเลือด ไอ้ลูกนอกสมรสที่สมควรตาย!
รอให้พี่ชายเอาชนะมันได้แล้ว นางจะต้องสับมันเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น ถึงจะชำระความแค้นในหัวใจของนางได้!
คราวนี้ ตู๋กูเจวี๋ยกุมดาบกระดูกมังกรในมือเอาไว้อย่างแนบแน่น เตรียมปะทะกับเยี่ยเฉิน
เขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปจนหมดแล้ว พลังแห่งความกระหายเลือดของราชามังกรทมิฬ ถูกเยี่ยจ้านถ่ายเทจากร่างของตู๋กูซิงหลันมาไว้ในร่างกายของเขา
วันนี้ผนึกถูกทำลายแล้ว จึงระเบิดออกมา
ทำให้เขากลายเป็นเครื่องจักรสังหารไปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่รู้จักญาติมิตรอีกต่อไป! มีแต่ความโหดเ**้ยมต้องการทำลายล้างทุกสิ่งแม้กระทั่งตนเอง!
เนื่องเพราะพลังนี้น่ากลัวอย่างที่สุด น่ากลัวจนถึงขนาดที่ว่า แม้เขาพึ่งจะได้รับการคลายผนึก ทั้งยังไม่เคยฝึกฝนวรยุทธ์ใดๆ ก็ยังสามารถใช้เพียงกำลังนี้กำราบเยี่ยอิงได้
แต่ว่าผลสะท้อนของมันก็รุนแรงมากเช่นกัน ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่มแล้วเยี่ยจ้านจึงได้ถ่ายพละกำลังส่วนนี้มาไว้ที่ร่างกายของเขา
เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว…..บุตรสาวคือองค์หญิงน้อยที่น่าทนุถนอม ส่วนบุตรชายสมควรฝึกฝนให้มากเข้าไว้
ให้ลูกชายได้รับความยากลำบากเสียบ้าง….ไม่ถือว่ามากเกินไป
คนในเผ่ามังกรทมิฬต่างก็เร่งรุดมามองดูเหตุการณ์เบื้องหน้า
ต่อให้พวกเขาดวงตามืดบอกเพียงไร พอได้เห็นรูปลักษณ์ภายนอกก็ยังดูออกว่า นี่จะต้องเป็น ‘บุตรนอกสมรส’ จาก ‘เผ่ามนุษย์’ ที่ราชามังกรไปมีอยู่ภายนอกอย่างแน่นอน
คนหนึ่งคือบุตรชายที่ถูกต้องตามธรรมเนียมของราชามังกร คนหนึ่งคือลูกนอกสมรสกับเผ่ามนุษย์ที่ไม่เคยฝึกฝนสิ่งใด
แต่ทำไมดูอย่างไรก็สูสีกันมาก!
หวาชางสุ่ยที่อยู่บนหอสูงไม่ได้รีบร้อนลงมือ
บุตรชายและบุตรสาวของนางไม่ได้รับถ่ายทอดพลังที่กระหายเลือดเหล่านั้นมา ทั้งยังไม่ได้รับพลังของเผ่าทมิฬ แต่คิดไม่ถึงว่าไอ้เด็กนอกสมรสผู้นั้นจะได้สืบทอดพลังกระหายเลือดของเยี่ยจ้านไป
ในใจของนางรู้สึกไม่ยินยอมอย่างที่สุด
แต่พอคิดๆดูแล้ว ไอ้เด็กนอกสมรสนั่นได้รับพลังกระหายเลือดแล้วจะอย่างไร?
เฉินเอ๋อร์ที่โดดเด่นและแข็งแกร่งของนางก็สามารถตบมันให้ฟันร่วงกระแทกพื้นได้อยู่ดี!
เยี่ยจ้านมีใจลำเอียงแล้วจะอย่างไร? ลูกนอกสมรสก็ยังเป็นลูกนอกสมรส! ไก่ป่าย่อมไม่อาจจะกลายเป็นหงส์ฟ้าไปได้!
นี่เป็นการต่อสู้ที่ไม่จำเป็นต้องกังวลสนใจ
กระบี่ของเยี่ยเฉินพุ่งเข้าสู่หัวใจของตู๋กูเจวี๋ย ตู๋กูเจวี๋ยก็ไม่ได้ยกดาบกระดูกมังกรขึ้นป้องกัน แต่ว่าแทงดาบกระดูกมังกรออกไปในช่วงเวลาเดียวกันมุ่งเป้าไปยังคอหอยของเยี่ยเฉิน
ตอนนี้เขากลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไร้อารมณ์และความรู้สึกไปแล้ว ย่อมไม่สนใจใยดีความเป็นความตายของตนเองแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงไม่คิดจะป้องกันใดๆ
เยี่ยเฉินหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา มือข้างหนึ่งของเขากลายเป็นกรงเล็บมังกร และคว้าดาบกระดูกมังกรเอาไว้ในทันที
ขณะที่ดาบกระดูกมังกรและกรงเล็บของเขาปะทะกันจนเกิดสะเก็ดไฟฟุ้งกระจายดั่งดอกไม้ไฟ ส่งเสียงราวทองคำกับโลหะปะทะกัน
มืออีกข้างของเขากุมกระบี่เอาไว้ สายตาจับจ้องไปยังทรวงอกของตู๋กูเจวี๋ย
มุมปากของเขาขยับยิ้มเย็นชาออกมา
หนึ่งกระบี่แทงทะลุหัวใจ!
ให้ไอ้ลูกนอกสมรสผู้นี้ต้องตายอย่างอนาถ!
กระบี่แหลมแทงเข้าไปในผิวเนื้อของตู๋กูเจวี๋ย
เยี่ยเฉินเกลียดชังไอ้ลูกนอกสมรสผู้นี้อย่างยิ่ง กระบี่นี้จึงใช้ออกอย่างสุดกำลัง
ขณะที่เห็นอยู่ว่ากำลังจะแทงเข้าไปแล้ว
ทันใดนั้น!
ดาบยักษ์เล่มหนึ่งก็หล่นลงมาจากฟากฟ้า!
“ปง!” เสียงสะท้อนดังสะท้านไปทั่ว ดาบยักษ์ที่พุ่งเข้ามาอย่างลึกลับนั้นตอกลงมาบนตัวกระบี่ของเขา
กระบี่ยาวที่แหลมคมก็หักสะบั้นลงไปทันที กระบี่ผงาดฟ้าที่ไท่จื่อแห่งเผ่ามังกรทมิฬเคยภาคภูมิใจอย่างที่สุดหักแตกละเอียดเป็นเศษเล็กเศษน้อย!
ฝูงชนทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง!
ท่ามกลางสายลมที่พัดโหม พวกเขารู้สึกได้แต่เพียงว่าในอากาศมีกลิ่นหอมของดอกฮว๋ายฮวาที่เย็นยะเยือกแทรกอยู่
ในชั่วพริบตา กลิ่นหอมนั้นคล้ายดั่งจะกระจายออกมาจากทั่วทุกมุม
จากนั้นท่ามกล่างสายลมที่บ้าคลั่ง สีแดงดุจกองเพลิงกลุ่มหนึ่งก็ลงมาจากท้องฟ้า!
สาวน้อยผู้นั้นสวมใส่ชุดสีแดงตลอดร่าง เส้นผมสีดำยาวที่ด้านหลังพลิ้วไหวราวกับเริงระบำอยู่ท่ามกลางสายลม
ขณะที่พลิ้วร่างอยู่เหนือดาบยักษ์ ดวงตาดอกท้อที่มีไอสังหารเข้มข้นสุดหยั่งคู่นั้นทั้งเย็นชาและเ**้ยมโหด นางยังดูน่ากลัวกว่าเพชรฆาตอย่างตู๋กูเจวี๋ยเสียอีก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น