หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา 432-433

 บทที่ 432 ชัยชนะของเจ้าลา!

โดย

Ink Stone_Fantasy

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หวังเป่าเล่อเตรียมใจสู้โดยเอาชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน เขาตั้งใจจะใช้ไพ่ตายสุดท้ายที่เหลืออยู่โดยการเปลี่ยนนครให้เป็นปราการนิรันดร์เพื่อตอบโต้งูเหลือมยักษ์


การจะทำเช่นนั้นต้องอาศัยเวลา นครใหม่มีขนาดใหญ่เกินไป และการแปลงรูปนั้นต้องเป็นไปทีละขั้น หลังจากเปลี่ยนเป็นปราการนิรันดร์โดยสมบูรณ์แล้วพลังของมันจะเพิ่มขึ้นทวีคูณ แต่การแปลงรูปนั้นจะทำให้ตัวนครได้รับความเสียหายอย่างหนัก


ตอนนี้เขารอให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ เมื่อชายหนุ่มเริ่มกระบวนการแล้ว ตัวนครจะถูกทำลายทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่ายืนรอความตายโง่ๆ ดังนั้นหวังเป่าเล่อจึงตัดสินใจจะสู้จนตัวตาย!


ทว่า…เมื่อเห็นท่าทีแปลกๆ ของงูเหลือมยักษ์ เขาก็ยั้งมือไม่ทำตามแผน ยิ่งพอเห็นงูเหลือมแลบลิ้นออกมาแล้ว…แม้จะดูเป็นพฤติกรรมของสัตว์ตามปกติ แต่หวังเป่าเล่อกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด


ชายหนุ่มไม่ได้เป็นคนเดียวที่นิ่งอึ้งไป ทุกคนที่อยู่รอบๆ ก็ตกอยู่ในอาการเดียวกัน แม้แต่ชายในชุดคลุมสีดำที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แถวนั้นก็ผงะไปเช่นกัน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงและดูจะงงงวยเล็กน้อย


ขณะที่ฝูงชนกำลังนิ่งอึ้งเมื่อได้เห็นท่าทางประหลาดของงูเหลือมยักษ์ แววตาดิ้นรนของงูเหลือมก็หายวับไป และแทนที่ด้วยแสงสว่างเป็นประกาย มันอ้าปากขึ้นก่อนจะร้องดังลั่น!


“ลูกข้า!”


เสียงนั้นดังสนั่นไปทั่วทุกสารทิศเสียดแทงเข้าแก้วหูทุกคนในบริเวณ งูเหลือมยักษ์หันหัวไปอีกทาง เลิกสนใจหวังเป่าเล่อ มันเคลื่อนตัวไปทางฟากฟ้าไกลออกไปเบื้องหน้า ที่ในสายตาทุกคนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดอยู่เลย แต่มันกลับมุ่งหน้าไปทางนั้นไม่หยุดหย่อน!


เจ้างูยักษ์เคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว เร็วยิ่งกว่าก่อนเสียอีก ความเร็วของมันทวีคูณเพิ่มมากขึ้นจากปกติ ฝูงชนสัมผัสได้ว่าก่อนหน้านี้งูเหลือมถูกใครบางคนควบคุมอยู่ แต่บัดนี้สติของมันได้ตื่นขึ้นมาแล้ว!


ชายในชุดคลุมสีดำไม่สามารถทำใจให้เชื่อสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าได้ ทั้งความเร็ว ทั้งเสียงคำราม ไม่มีเวลาให้เขาได้หลบหนีเลยแม้แต่น้อย พริบตาเดียว งูเหลือมยักษ์ก็เคลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมอ้าปากกว้าง!


เขาตื่นตะลึง พยายามจะถอยหนี แต่ก็ช้าเกินไป งูเหลือมยักษ์อ้าปากเขมือบชายในชุดคลุมสีดำเข้าไปทั้งเป็น!


ขณะนั้นเอง ลึกเข้าไปในสุสานอาวุธเทพใต้ดิน เบื้องหลังกำแพงน้ำแข็ง ในบริเวณที่ไม่มีใครล่วงรู้ว่ามีอาวุธเวทหลับใหลอยู่เสียงร้องคำรามมีอายุเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวก็ดังก้องออกมา


“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!”


“ทำไมหุ่นเชิดถึงหลุดการควบคุมไป บ้าจริง มันเห็นข้าได้อย่างไร ทำไมถึงทำร้ายกายวิญญาณของข้าได้”


“ต้องไม่ใช่เช่นนี้ มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”


เสียงร้องคำรามโหยหวนดังมาจากส่วนลึกสุดของสุสานอาวุธเทพใต้ดินไม่หยุดหย่อน หากหวังเป่าเล่ออยู่บริเวณนั้นเขาคงได้ยินเสียงนั้นแน่ เสียงนั้นแฝงไปด้วยความคลุ้มคลั่ง เหมือนจะไม่สามารถทำใจเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ร่างจริงของชายในชุดคลุมสีดำไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่าเหตุใดร่างแยกของตนจึงโดนเขมือบไปได้


ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตามแผนที่วางไว้ ขณะที่กำลังจะได้รางวัลแห่งความสำเร็จมาไว้ในมือ…ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น!


อาจจะเป็นเพียงความบังเอิญก็เป็นได้ ทว่าชายในชุดคลุมสีดำไม่รู้ว่าเจ้าลาสามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายของเขาได้ตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาในนครใหม่ และคอยตามติดมาตั้งแต่นั้น…


ด้านนครใหม่ งูเหลือมยักษ์เพิ่งจะเขมือบชายในชุดคลุมสีดำที่ไม่มีใครมองเห็นเข้าไป จากนั้นมันก็สะบัดหางไปมาในอากาศขณะหันขวับกลับมา ดวงตาของมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจ เมื่อหันมาเห็นหวังเป่าเล่อ มันก็รีบหดคอมองอีกฝ่ายตาใสในทันใด ดูหวาดระแวงว่าชายหนุ่มจะจับได้ว่าตนเพิ่งเขมือบของอร่อยลงท้องไป


หวังเป่าเล่องุนงงอย่างหนัก เสียงร้องเมื่อสักครู่ยังดังก้องอยู่ในหัว ขณะกำลังงุนงงเขาก็สังเกตุเห็นสีหน้าของงูเหลือมยักษ์ ชายหนุ่มไม่สามารถทำใจเชื่อกับภาพตรงหน้าไม่ต่างกับชายในชุดคลุมสีดำ


เขาคุ้นเคยกับสีหน้าและเสียงร้องนั้นเป็นอย่างดี จึงหลุดพูดออกไปในทันใด


“เจ้าไสหัวไปหรือ”


เมื่อได้ยินหวังเป่าเล่อพูดเช่นนั้น เฉินมู่ที่เก็บตัวอยู่ในห้องลับก็มีสีหน้าเหยเก เส้นเลือดปูดโปนไปทั่วใบหน้า เขาร้องคำรามลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว ดวงตาฉายแววคลุ้มคลั่ง ชายหนุ่มรีบตั้งผนึกฝ่ามือพยายามควบคุมหุ่นเชิดอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่จู่ๆ เขาก็ไม่สามารถควบคุมหุ่นเชิดได้ ราวกับว่ามีใครบางคนแย่งชิงอำนาจในการควบคุมไป!


เฉินมู่โกรธจัด ไม่สามารถทนรับสถานการณ์นี้ได้จึงพยายามสู้กลับ แต่จิตที่เข้าควบคุมหุ่นเชิดอยู่ตอนนี้แข็งแกร่งเกินไปทำให้ไม่สามารถเรียกการควบคุมกลับมาได้ เขาร้องคำรามขึ้นอีกครั้ง


 “หุ่นเชิดของข้า! ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งมันไปทั้งนั้น!” ชายหนุ่มหยิบกลองใบน้อยที่ใช้ควบคุมหุ่นเชิดออกมา จากนั้นก็กัดปลายลิ้นถ่มเลือดที่ผสมพลังปราณและพลังชีวิตของตนลงบนกลอง เลือดที่หยดเปื้อนลงบนกลองใบน้อยเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการควบคุมขึ้นอย่างยิ่งยวด


เฉินมู่เห็นว่าการกระทำของตนได้ผลจึงตั้งใจจะลองเสี่ยงดูสักตั้ง เขาถ่มเลือดที่เต็มไปด้วยพลังกายออกมาอีกสามกอง รอยย่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าทุกครั้งที่ชายหนุ่มถ่มเลือดออกมา ทันทีที่ถ่มเลือดกองที่สี่ เฉินมู่ก็ไม่ใช่ชายหนุ่มอีกต่อไป เขากลายสภาพเป็นชายผมขาวอายุราวห้าสิบปี!


ผลลัพธ์เป็นที่ประจักษ์ เมื่อเลือดหยดลงเปรอะบนกลองใบน้อย งูเหลือมบนสนามรบที่กำลังจะตอบสนองต่อหวังเป่าเล่อก็หยุดชะงักไป ประกายในดวงตาที่เป็นของเจ้าลาน้อยเริ่มหรี่แสง มีแววบ้าคลั่งของเฉินมู่เข้ามาแทน!


เจ้าลาไม่ยอมจำนน พยายามสู้กลับ งูเหลือมยักษ์ตัวสั่นเทิ้ม เริ่มเสียสติ ดวงตาฉายแววดิ้นรน


ฝูงชนรอบๆ มองเห็นโลกภายในร่างกายของงูเหลือมยักษ์ ภายในนั้นมีวิญญาณสีเลือดหลายหมื่นดวงอยู่ เหล่าวิญญาณว่ายวนอยู่รอบๆ พยายามต้านและกลืนกินเจ้าลาที่มีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่าตัว!


เจ้าลาตัวใหญ่และแข็งแกร่งกว่า แต่เหล่าวิญญาณสีเลือดก็มีจำนวนมากกว่า เจ้าลากำลังจะถูกกลืนกินไป…


เหตุการณ์เบื้องหน้าทำให้ทุกคนพรั่นพรึง ไม่ต้องให้ใครอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดพวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามีคนใช้วิธีการบางอย่างในการรวบรวมเหล่าวิญญาณมาสร้างเป็นหุ่นเชิด และเจ้าลาก็เป็นหนึ่งในเหยื่อเหล่านั้น


ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ใช้วิญญาณที่รวบรวมมาทั้งหมดเข้าควบคุมหุ่นเชิด สังหารหมู่และทำลายล้างนครใหม่ แต่ตอนนั้นเองเจ้าลาก็ได้สติและเริ่มสู้กลับ


เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าตอนนี้…พวกเขาจะต้องขัดขวางไม่ให้ผู้บงการอยู่เบื้องหลังเข้าควบคุมหุ่นเชิดได้อีก มิเช่นนั้นด้วยระดับความสามารถของหุ่นเชิด พวกเขาจะไม่สามารถสู้กลับและทำลายมันลงได้ และจะถูกฆ่าตายกันทั้งหมด!


ขณะที่คิดเช่นนั้น หวังเป่าเล่อก็หายใจถี่รัว รีบพูดออกไปโดยไม่ลังเลใจ


“เจ้าไสหัวไป ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าจะไม่ได้กินอะไรอีกเลยชั่วชีวิตนี้!”


เมื่อได้ยินหวังเป่าเล่อพูดเช่นนั้น เจ้าลาก็ตัวสั่นเทิ้ม พยายามดิ้นรนหนีเหล่าวิญญาณสีเลือดอย่างบ้าคลั่ง มันพยายามหาทางเข้าควบคุมหุ่นเชิดอีกครั้ง ชายหนุ่มตื่นเต้นเมื่อได้เห็นผลลัพธ์จากสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป


“เจ้าไสหัวไป ทุ่มพลังทั้งหมดเสีย! ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะเตรียมอาหารสุดเลิศหรูให้เจ้าได้กินตลอดทั้งเดือน! เจ้าจะได้กินอะไรก็ได้ตามที่นึกอยากตลอดหนึ่งเดือน เอาให้อิ่มหนำสำราญไปเลย!”


เจ้าลาได้รับการกระตุ้นหนักขึ้น มันตัวสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น พยายามดิ้นรนสุดแรง จนเกือบจะชนะศึกครั้งนี้ได้ แต่เฉินมู่ก็ไม่ยอมแพ้ ถมเลือดใส่อีกกองเพื่อพลิกสถานการณ์กลับ


ไม่มีใครรู้ว่าเฉินมู่กำลังทำอะไรอยู่ พวกเขาเห็นเพียงว่าเจ้าลากำลังเพลี่ยงพล้ำ กงเต๋ากัดฟันแน่น ความแน่วแน่เด็ดเดี่ยวฉายวาบในดวงตา เขาลูบกระเป๋าคลังอสูร ทันใดนั้น…ปักษาเพลิงขาวก็พลันปรากฏกาย!


“เจ้าลา ถ้าเจ้าชนะ ต่อจากนี้…ตั้งแต่นี้ต่อไป…เรื่องระหว่างเจ้ากับปักษาเพลิงขาว…ข้า…ข้าจะไม่เข้าไปขัดขวางเรื่องของพวกเจ้าทั้งสองอีกต่อไป!”


คำพูดของเขาเป็นดังท่าไม้ตายพิฆาต ดวงตาของเจ้าลาแดงก่ำ พลังพวยพุ่งออกมาจากร่าง มันร้องคำรามลั่น ปลดปลอยพลังทั้งหมดที่มี จากนั้นก็ยกเท้าเหยียบขยี้วิญญาณสีเลือดซึ่งเป็นจิตของเฉินมู่จนสิ้นซาก มันเอาชนะเหล่าวิญญาณและเข้าควบคุมหุ่นเชิดได้อีกครั้ง


เมื่อเจ้าลาเข้าควบคุมหุ่นเชิดได้ กลองสีเลือดใบน้อยเบื้องหน้าเฉินมู่ก็ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดจึงร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด เขากระอักเลือดกองใหญ่ ตัวสั่นระริก แต่ดวงตายังลุกโชนไปด้วยเพลิงแค้น


“ไม่!”


ชายหนุ่มเจ็บแค้นยิ่งนักที่ต้องพ่ายแพ้ให้เจ้าลา แค้นเคืองตนเองที่คิดผิดพลาดพลั้งไปข้องแวะกับเจ้าสัตว์นี่ เขาไม่คิดว่าเจ้าลาที่กลืนกินละอองปีศาจไปนับหมื่นจะรอดชีวิตและเข้าควบคุมหุ่นเชิดได้!


“ยอมรับไม่ได้!”


บทที่ 433 ยอดฝีมือ!

โดย

Ink Stone_Fantasy

วิสัยทัศน์ของเฉินมู่ดับลงขณะที่เขากระอักเลือดออกมา แรงปะทะจากระเบิดนั้นรุนแรงมาก ความโกรธแค้นคุกรุ่นสุมอยู่เต็มอก ชายหนุ่มโอนเอนไปมาก่อนจะล้มลงหมดสติไป


ระหว่างที่เฉินมู่หมดสติอยู่ ณ สนามรบในนครใหม่ ทุกคนรวมถึงหวังเป่าเล่อต่างจ้องมองตาค้างไปยังงูเหลือมยักษ์พร้อมอ้าปากเหวอ แม้จะสัมผัสได้ว่าลาของหวังเป่าเล่อควบคุมหุ่นเชิดได้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังหวาดระแวงงูเหลือมยักษ์น่าสะพรึงกลัวเบื้องหน้าอยู่ดี


ขณะที่ฝูงชนกำลังจับตาดูสถานการณ์อยู่อย่างระแวดระวัง หวังเป่าเล่อก็กลับมาหายใจเป็นปกติ งูเหลือมยักษ์ที่เจ้าลาเข้าควบคุมตัวสั่นระริก ค่อยๆ หดเล็กลง ภาพของงูเหลือมยักษ์ค่อยๆ เลือนหายไปขณะที่ตัวของมันหดเล็กลงเรื่อยๆ


ในที่สุด…ขาสี่ข้างก็พลันปรากฏ…ศีรษะของงูยักษ์หดเล็กลงและค่อยๆ ยืนยาวออกไป การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่นาน งูยักษ์เบื้องหน้าหายวับไปต่อหน้าฝูงชนก่อนจะกลายร่างเป็น…เจ้าลา!


มันสะบัดตัว ปรับสายตา ก่อนก้มลงสำรวจร่างกายตนเอง ดวงตาของมันฉายแววว่างเปล่าราวกับว่าเพิ่งตื่นจากฝัน มันยังปรับตัวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้ เจ้าลาตาเบิกกว้างเมื่อเห็นสายตาประหลาดมากมายที่จับจ้องมา มันรีบไปหลบข้างๆ หวังเป่าเล่อ ดูยังระแวดระวังแต่ก็พยายามตีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ มันจ้องหวังเป่าเล่อ จากนั้นก็เอาหัวถูหน้าขาพยายามอ้อนเอาอกเอาใจชายหนุ่ม


เจ้าลาดู…เชื่องมาก ราวกับกำลังเว้าวอนขอไม่ให้หวังเป่าเล่อกินมัน


ชายหนุ่มยกเท้าเตะเจ้าลาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นภาพความสยองขวัญของงูเหลือมยักษ์ก็พลันปรากฏขึ้นในหัวทำให้เขาชะงักไป…กลัวว่าเจ้าลาจะกลายร่างเมื่อโดนเตะเข้า


เจ้าลาก็ไม่ได้แย่ ข้าจะทำร้ายมันตลอดก็ไม่ดี แต่ก็ไม่ได้เพราะว่าข้ากลัวอะไรหรอกนะ… หวังเป่าเล่อพูดปลอบตนเอง ความอดสูที่อัดแน่นอยู่ภายในทำให้เขาทนแทบไม่ไหว เจ้าลาได้พัฒนาตนจากอาวุธกระจอกๆ ไปเป็นอาวุธพิฆาต ไม่ใช่ลาตัวเดิมอีกต่อไป ชายหนุ่มกลัวว่าหากตนยังรังแกมันอยู่เช่นนี้ มันอาจจะสู้กลับเข้าสักวัน เขายังอยู่เพียงขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นสมบูรณ์ ในขณะที่งูเหลือมยักษ์มีปราณขั้นกำเนิดแก่นในชั้นสมบูรณ์ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกเป็นรอง…


ระหว่างที่หวังเป่าเล่อกำลังอดสูอยู่ ฝูงชนรอบๆ ก็เฝ้าจับตาดูสถานการณ์ไม่ห่าง เหล่าคนที่สูญเสียมิตรสหายไปเพราะงูเหลือมยักษ์ต่างเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกมากมาย เจ้าลาเองก็เป็นกังวลไม่แพ้กัน มันสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารจากสายตาของบางคนได้ อีกทั้งเจ้านายก็ยังไม่ลงไม้ลงมือกับตน ซึ่งถือว่าแปลกมาก


จิตวิญญาณของมันสั่นคลอน ดวงตาฉายแววหวาดหวั่นเมื่อสัมผัสได้ถึงภัยอันตราย มันผุดคิดได้ว่าหวังเป่าเล่อเคยพูดว่าจะเชือดมันมาทำเป็นอาหารจึงเริ่มกระวนกระวาย พยายามออดอ้อนหวังเป่าเล่อหนักขึ้น ถึงกับแลบลิ้นเลียมือชายหนุ่ม…


หวังเป่าเล่อเริ่มหงุดหงิดเมื่อโดนเลีย แต่เจ้าลาก็เป็นกังวลและหวาดกลัวมาก มันเลียไม่หยุดจนมือเขาชุ่มไปด้วยน้ำลาย ชายหนุ่มหันไปจ้องเจ้าลา และไม่อาจห้ามใจตัวเองได้จึงยกเท้าเตะอีกฝ่ายด้วยความเคยชิน


เขาเพิ่งจะรู้ตัวเอาก็ตอนที่ได้ยกขาเตะออกไปแล้ว ในใจคิดอยากจะยั้งขาตนไว้ ทว่าดวงตาของเจ้าลากลับฉายแสงวาบ มันรีบปลดปล่อยความเร็วทั้งหมดที่มี…ไม่ได้เพื่อหลบ แต่พุ่งเข้าใส่ลูกเตะ ก่อนจะโดนส่งลอยไปไกล


หวังเป่าเล่อมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าประหลาด เจ้าลาดูจะสบายใจขึ้น ตราบเท่าที่มันโดนทุบตี ทุกสิ่งก็จะไม่เป็นปัญหา มันกระโดดหย็องแหย็งไปมาพร้อมกับร้องลั่นด้วยความสุขใจ


“ลูกข้า! ลูกข้า!”


หวังเป่าเล่อเริ่มโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของเจ้าลา ทว่าเขาก็สังเกตเห็นใบหน้าที่ซับซ้อนและรังสีอาฆาตของผู้ฝึกตนคนอื่นๆ รู้ดีว่าเจ้าลาอาจเป็นชนวนทำให้เพลิงแค้นในใจใครหลายคนปะทุขึ้น แม้มันจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ความเจ็บแค้นของฝูงชนนั้นเป็นเรื่องที่จัดการได้ยากยิ่ง


ความแตกต่างระหว่างงูเหลือมยักษ์ที่มีพลังอำนาจล้นเหลือและเจ้าลาที่มีท่าทีว่านอนสอนง่ายอาจจะทำให้ฝูงชนคิดเอาความแค้นมาลงที่มันแทน


ความคิดมากมายผุดขึ้นในหัว ชายหนุ่มใช้สมองคิดอย่างหนัก เขาก้าวออกไปยืนหน้าเจ้าลา ก่อนจะเตะอัดมันเข้าอีกครั้ง และร้องคำรามขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด


“เจ้ายังจะกล้าร้องอยู่อีกหรือ”


เจ้าลากรีดร้องออกมาเมื่อโดนเตะ มันไม่ได้เจ็บ เพียงแต่เคยชินกับการส่งเสียงร้องเมื่อโดนลงไม้ลงมือ ขณะที่มันร้องลั่น หวังเป่าเล่อก็จับหมับเข้าที่หูยาวของมันก่อนจะลงมือทุบตี


เจ้าลาตัวสั่นเทิ้ม เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ก่อนจะคิดดิ้นรนขัดขืน แต่ก็หันไปเห็นสายตาดูหมิ่นของชายหนุ่ม


“เจ้าอาจจะบริสุทธิ์ เป็นเพียงเหยื่อตัวหนึ่งที่โดนงูเหลือมยักษ์กลืนเข้าไป แต่ขณะที่ทุกคนกำลังเศร้าโศก เจ้ากลับกล้าดีเปล่งเสียงร้องออกมาหรือ” หวังเป่าเล่อตะโกนเสียงดัง เขาลงมือต่อยตีเจ้าลา ไม่ได้เสแสร้ง แต่กำลังทุบตีสั่งสอนอยู่จริงๆ


เจ้าลารู้สึกผิด แต่เมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายก็เหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมา จึงเริ่มกรีดร้องสุดเสียง ถึงกับดิ้นรนเว้าวอนร้องขอให้ไว้ชีวิต


“อ้อนวอนไปก็เปล่าประโยชน์ แม้เจ้าจะทุ่มเทอย่างหนักเพื่อช่วยพวกเราไว้ แม้ว่าถ้าขาดเจ้าไปพวกเราคงจะตายกันหมดแล้ว ข้าก็ยังต้องทุบตีสั่งสอนเจ้า!”


“และแม้เจ้าจะกัดฟันสู้จนเข้าควบคุมหุ่นเชิด ช่วยนครใหม่รวมถึงชีวิตของพวกเราทั้งหมดไว้ได้ ข้าก็ยังต้องสั่งสอนเจ้าอยู่ดี!” หวังเป่าเล่อทุบตีเจ้าลาไม่หยุดพร้อมกับเหลือบมองท่าทีของคนรอบๆ เจ้าลาเหมือนจะเข้าใจว่าชายหนุ่มกำลังทำอะไรจึงกรีดร้องลั่นอย่างน่าเวทนา


ฝูงชนรอบๆ ต่างตื่นตกใจกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่นานสีหน้าทุกคนก็เริ่มแปรเปลี่ยน พวกเขาตระหนักแล้วว่าหวังเป่าเล่อตั้งใจจะสื่ออะไร ชายหนุ่มพยายามจะบอกว่าอ้อมๆ ว่าทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของเจ้าลาเลยแม้แต่นิด จริงๆ แล้วมันได้สร้างบุญคุณครั้งใหญ่ในการช่วยชีวิตทุกคนไว้ต่างหาก


นอกจากนี้เขายังได้สั่งสอนเจ้าลาไปแล้วด้วย พวกเขาจึงไม่ควรเอาความเจ็บแค้นของตนไปลงที่เจ้าลาโดยไม่มีเหตุผล…ข้อความที่ชายหนุ่มต้องการจะส่งผ่านการกระทำเป็นที่ประจักษ์ต่อทุกคน เหล่าคนที่สูญเสียสหายไปในสนามรบได้แต่ถอนหายใจเงียบๆ อยู่ภายใน


หวังเป่าเล่อเห็นสีหน้าของพวกเขาก็เริ่มรู้สึกโล่งใจ แต่ว่าเขาต้องแสดงต่อให้จบจึงเตะอัดเจ้าลาและมองจ้องมันอีกครั้ง จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้น พลันกระบี่อาวุธเวทก็ปรากฏขึ้นในมือ ชายหนุ่มจับหัวเจ้าลา ยกกระบี่ขึ้นพร้อมตะโกนเสียงดัง


“เหล่าสหายเต๋า แม้เจ้าลาจะช่วยชีวิตพวกเราไว้ แม้ว่าเราจะเป็นหนี้บุญคุณมหาศาล แม้ว่ามันจะตกเป็นเหยื่อเช่นกัน แต่งูเหลือมยักษ์ก็ได้กลืนกินผู้ฝึกตนไปมากมาย ข้าต้องฆ่าเจ้าลาที่แสนใสซื่อบริสุทธิ์ตัวนี้เพื่อแก้แค้นให้สหายที่เสียชีพไป!”


ทันทีที่หวังเป่าเล่อพูดจบ หลินเทียนหาวก็ก้าวออกมาข้างหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะพูดเสียงดัง “ท่านเจ้าเมือง เจ้าลาตัวนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ เราไม่ควรจะเอาความแค้นไปลงกับมัน!”


กลุ่มคนจากสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าต่างรีบก้าวออกมาด้วยสีหน้าแปลกแปร่งเพื่อขอให้หวังเป่าเล่อยั้งมือ กงเต๋าถอนหายใจก่อนจะพึมพำกับตัวเอง แม้ทุกคนจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นเพียงการแสดง แต่ก็เข้าใจดีว่าหวังเป่าเล่อต้องการจะทำอะไร


จินตั้วหมิงยิ้มกริ่ม รู้ดีว่าเหตุผลหลักที่หวังเป่าเล่อทำเช่นนี้ก็เพราะเขาเอง แต่ชายหนุ่มไม่ใช่คนไม่สนเหตุสนผลจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เป่าเล่อ เจ้าจะโทษเจ้าลาไม่ได้ มันมีบุญคุณกับเรามาก!”


ทันทีที่จินตั้วหมิงพูดจบ ผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะถอนหายใจพร้อมจ้องไปทางเจ้าลา


“เจ้าลาตัวนี้มีความพิเศษ แม้จะโดนหลอมรวมกับหุ่นเชิดก็ยังสามารถต้านทานการควบคุมของหุ่นเชิด กลืนกินวิญญาณตนอื่นๆ และเข้าควบคุมหุ่นเชิดแทน มันพังแผนทั้งหมดของผู้ที่อยู่เบื้องหลังทิ้ง ทุกสิ่งที่คนผู้นั้นทำไปถือว่าสูญเปล่าหมด กลายเป็นประโยชน์ต่อเจ้าลาแทน!”


“แม้ตอนนี้มันจะอยู่เพียงขั้นรากฐานตั้งมั่น แต่ใครจะรู้เล่า วันหนึ่งมันอาจจะสามารถแปลงกายเป็นงูเหลือมยักษ์…ขั้นกำเนิดแก่นในชั้นสมบูรณ์ได้!” พูดจบ ผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในก็หันไปมองหวังเป่าเล่อ เขาไม่คิดเก็บซ่อนความอิจฉาที่สะท้อนผ่านในแววตา ไม่ใช่แค่เพียงเขา ทุกคนต่างมีสีหน้าเช่นเดียวกัน แม้แต่ต้วนมู่ฉี ประธานสหพันธรัฐบนโลกก็ต้องนึกอิจฉาไม่ต่างจากพวกเขา


เหตุเพราะเจ้าลาตัวนี้เป็นสัตว์อสูรที่สามารถกลายเป็นอสูรขั้นกำเนิดแก่นในได้!


ทุกคนต่างคิดคำนวณราคาของเจ้าลาหลังจากข่าวเหตุการณ์นี้แพร่สะพัดออกไป ปัจจุบันค่าตัวของมันก็อยู่แล้ว แต่หลังจากวันนี้ไป มูลค่าของมันจะพุ่งสูงขึ้นไปอีกมาก…


“มันคือยอดฝีมือ!” หลินเทียนหาวสูดหายใจลึกก่อนจะพูดออกไป


“ฝีมือของมันช่างเหนือชั้นเกินบรรยาย!” จินตั้วหมิงได้ข้อสรุปในทันที ดวงตาฉายแสงวาบขณะที่กำลังพึมพำกับตนเอง ชายหนุ่มคิดว่าตนควรหารือกับหวังเป่าเล่ออีกครั้งเผื่อจะมีโอกาสขอซื้ออสูรยอดฝีมือตัวนี้มาเป็นของตน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)