ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 417-420

 บทที่ 417 รถกระบะในความคิด

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวเหนี่ยวไกปืนจนส่งเสียงใสดัง ‘แก๊บๆ’  ออกมา เขาพูดด้วยความสนอกสนใจว่า “พอล นายเป็นคนที่เก่งกาจมากจริงๆ ปืนใหญ่ร้ายแรงแบบนี้นายก็หามาได้ด้วยเหรอ?”


ซาโกรพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม “ร้านปืนของพวกเราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง มีอะไรที่เราทำไม่ได้เหรอ? ฉันเดาว่าคนบ้าพลังแบบนายน่าจะชอบปืนแบบนี้เลยเอาออกมาให้นายเล่น แต่ยังไงก็ห้ามเอาออกไปเล่นนอกร้านนะ”


โหวจื่อเซวียนอธิบายให้ฉินสือโอวฟังว่า “พี่ใหญ่ พี่เข้าใจผิดแล้ว ปืนรุ่นนี้มีต้นแบบออกมาตั้งแต่ยุคแปดศูนย์ นักออกแบบชื่อว่ารอนนี่ บาร์เรตต์ ตอนที่ออกแบบปืนรุ่นนี้เขายังเป็นแค่ช่างภาพเชิงพาณิชย์คนหนึ่งในรัฐเทนเนสซี ประเทศอเมริกา ไม่เคยได้รับการฝึกออกแบบอาวุธปืนมาก่อนเลย ดังนั้นความตั้งใจเดิมของการออกแบบปืนรุ่นนี้จึงไม่ได้มีไว้เพื่อบริการกองทัพหรือตำรวจพิเศษ แต่ทำขึ้นเพื่อตีตลาดของพลเรือนเพื่อสร้างแบรนด์”


ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือแคนาดา ร้านปืนสำหรับพลเรือนล้วนแต่มีปืนไรเฟิลซุ่มยิงรุ่นนี้กันทั้งนั้น บนความเป็นจริงแล้วในอเมริกาเหนือเวลาที่คนส่วนใหญ่ซื้อปืน ปืนพกจะเป็นปืนที่ถูกควบคุมอย่างเคร่งครัดที่สุด เป็นเพราะสามารถซ่อนปืนพกได้ ผู้กระทำความผิดล้วนแต่ใช้ปืนพกกันทั้งนั้น ใครจะถือปืนไรเฟิลซุ่มยิงออกไปทำเรื่องผิดกฎหมายกันล่ะ?


ปืนหนักสิบกิโลกรัม ถ้าให้ถือมันวิ่งก็คงวิ่งไม่ไหว ยิ่งถ้าเป็นปืนกลยิ่งใช้อะไรไม่ได้


ทว่าตอนนี้ที่อเมริกาและแคนาดามีการควบคุมปืน M82A1 ที่เข้มงวดมาก สาเหตุหลักๆ ก็เป็นเพราะกองกำลังกบฏในเม็กซิโกและโคลัมเบียกับกองกำลังกบฏต่อต้านรัฐบาลที่พยายามจะหาปืนรุ่นนี้มาไว้ในครอบครอง


ปืนไรเฟิลซุ่มยิงที่มีลำกล้องขนาดใหญ่ มีอำนาจคุกคามต่อประชาชนไม่มากนัก ปืนพกก็ใช้ฆ่าคนได้แล้ว จะเอาปืนไรเฟิลซุ่มยิงไปทำไมกัน? คนที่ต้องกลัวปืนชนิดนี้คือทหารต่างหาก ต้องสู้กับปืนชนิดนี้ ต่อให้สวมชุดกันกระสุนให้หนาเท่าไรก็ไม่มีประโยชน์


พอตรวจสอบแล้วว่าปืนไม่มีปัญหาอะไร ฉินสือโอวก็หมอบอยู่บนพื้นแล้วเล็งไปยังจุดที่อยู่ไกลที่สุด ปืน M82A1 มีกล้องส่องทางไกลกำลังขยายสิบเท่า ต่อให้อยู่ไกลออกไปสักหนึ่งกิโลเมตร กำแพงหินก็ยังปรากฏชัดในทัศนวิสัย


ฉินสือโอวเป่าลมออกจากปากอย่างเรียบนิ่ง ต่อจากนั้นเขาก็หายใจเข้าแล้วลั่นไกปืนอย่างนิ่มๆ ในชั่วพริบตา ‘บูม!’


เสียงระเบิดดังก็ขึ้นมา ต่อให้สวมที่ครอบหูอยู่ แต่ฉินสือโอวก็ยังรู้สึกว่าหูของเขามีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้นมาอยู่ดี นอกจากนี้ ขณะที่ยิงออกไปในชั่วพริบตาเดียวปืนกระบอกนี้ก็ถอยกลับมาชนด้านหลังเต็มๆ แรง ชนเข้ากับไหล่ของฉินสือโอวเจ็บอย่างสาหัส!


เวลาเพียงชั่วครู่ กำแพงหินที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตรก็ระเบิดออกมาเหมือนถูกกำหนดทิศทางไว้ มันถูกยิงจนเป็นรูขนาดเท่าชามใบใหญ่ ฝุ่นควันลอยฟุ้งตลบอบอวล


ตรงหน้าของฉินสือโอวก็มีแต่ฝุ่นควันลอยฟุ้งเช่นกัน แก๊สของดินปืนที่ถูกพ่นออกมาจากมัสเซิลเบรกมีลักษณะคล้ายกันกับเครื่องยิงจรวดขนาดเล็ก ม้วนเอาเศษดินและใบหญ้าที่อยู่ทางด้านขวามือของเขาขึ้นมาทันที


มองดูกำแพงหินที่ถูกเจาะจนเป็นรูอยู่ไกลๆ ฉินสือโอวก็รู้สึกอึ้งมาก เขาพูดขึ้นมาว่า “ไม่แปลกใจเลยที่อนุสัญญาระหว่างประเทศจะห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้ กระสุน .50 บีจีเอ็ม ให้ตายเถอะถ้าปืนกระบอกนี้ยิงโดนตัวคน ก็ต้องระเบิดออกแน่นอน!”


โหวจื่อเซวียนยิ้มเจื่อนๆพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “เรื่องอนุสัญญาที่พี่พูดมันไม่ใช่เรื่องจริงนะ เป็นแค่ความหวังของผู้รักสันติภาพเฉยๆ ในสนามรบขนาดจรวดอาร์พีจีกับรถถังยังถูกเอามาใช้โจมตีทหารราบเลย แล้วนับประสาอะไรกับปืนไรเฟิลซุ่มยิงล่ะ?”


ฉินสือโอวลองคิดดูแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้านี่เป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศจริงก็จะดูกลวงไปหน่อยแล้ว สองกองทัพปะทะกันเพื่อความอยู่รอด ใครจะมาสนใจว่าตัวเองจะใช้อะไรฆ่าศัตรู?


พอเล่นปืนบาร์เรตต์ไปแล้ว ปืนชนิดอื่นก็ไม่น่าสนใจอีกต่อไป ฉินสือโอวยิง ‘ปังๆๆ’ จนหมดกระสุนไปหนึ่งซอง ซาโกรก็ยกนิ้วโป้งชมเขาไม่หยุด ปากก็ร้องตะโกนว่า ‘แมนมากๆ สมกับเป็นลูกผู้ชายตัวจริง’


ปืนชนิดนี้มีแรงสะท้อนกลับสูงอย่างถึงที่สุด มือปืนซุ่มยิงที่ได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะก็ไม่สามารถยิงติดต่อกันได้จนกระสุนหมดซอง แต่ฉินสือโอวสามารถควบคุมปืนกระบอกนี้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าคู่ควรกับความเลื่อมใสของพวกเขาแล้ว โดยเฉพาะคนตัวผอมแห้งแบบเจี้ยนผานโฮ่ว เขาอิจฉาจนลูกตาจะหลุดออกมาอยู่แล้ว


ปล่อยให้โหวจื่อเซวียนอยู่ที่ร้านปืนต่อ ส่วนฉินสือโอวก็กลับไปที่วิลล่า หลังจากนั้นสองวัน เขากับชาร์คก็พากันเรียกรวมกำลังคนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการจับกุ้งมังกรที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์


สิ่งสำคัญในการเตรียมงานก็คือการซื้อกรงตาข่ายจับกุ้ง กรงเหล็กขนาดความยาวครึ่งเมตร กว้างสามสิบเซนติเมตรกับความสูงยี่สิบเซนติเมตร


โดยทั่วไปแล้วกรงจับกุ้งจะอยู่ติดกันหนึ่งคู่ มีปากทางสองด้าน เชื่อมต่อกับฝาปิดแบบผลักทิศทางเดียว ดังนั้นกุ้งมังกรจึงสามารถมุดเข้ามาในกรงได้ แต่หลังจากมุดเข้ามาแล้ว ประตูเป็นแบบเปิดจากทิศทางเดียว พวกมันจึงปีนออกไปไม่ได้อีก


ชาร์คโทรศัพท์หาเรค บิ๊กฟุต ให้เรคเป็นคนช่วยซื้อมาให้พวกเขา ส่วนพวกเขาแค่ตรงไปรับที่ร้านของเรคก็พอแล้ว


ใช้เวลาสองวันในการซื้อกรงตาข่ายจับกุ้งหนึ่งร้อยคู่ ฉินสือโอวพาชาร์คกับนีลเซ็นไปที่นครเซนต์จอห์น นอกจากไปเอากรงตาข่ายจับกุ้งแล้ว เขายังต้องไปซื้อรถกระบะด้วย


เมื่อขับเรือฮาวิซทมาถึงท่าเรือนครเซนต์จอห์น ไทเกอร์ก็ขับรถมารอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว


ไทเกอร์ก็คือพนักงานแนะนำการซื้อคนที่แนะนำให้เขาซื้อรถคาดิลแลควันนั่นเอง เขายังติดต่อกับฉินสือโอวอยู่ตลอด งานหลังการขายของรถคาดิลแลควันเขาก็เป็นคนติดตาม


สำหรับมหาเศรษฐีอายุน้อยอย่างฉินสือโอว ไทเกอร์ให้ความสำคัญเขามากเป็นพิเศษ


ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลากว่าครึ่งปีที่ฉินสือโอวไม่ได้ซื้อรถเลยสักคัน แต่เขาก็ยังให้คอยบริการด้วยความอดทน ปกติถ้าคาร์ซิตี้มีกิจกรรมอะไรเขาก็จะรีบมาบอกฉินสือโอวทันที เมื่อถึงเวลาที่รถต้องได้รับการบำรุงรักษาเขาก็ออกตัวช่วยติดต่อร้านโฟร์เอสให้ฉินสือโอว ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน


พอบอกไทเกอร์ว่าคราวนี้เขาจะซื้อรถกระบะ ฉินสือโอวก็เริ่มฟังข้อมูลที่เขาแนะนำ ไทเกอร์อธิบายเรื่องรถเชฟโรเลต ฟอร์ด ดอร์จกับจีเอ็มซี ผู้ผลิตรถกระบะที่มีชื่อเสียงที่สุดทั้งสี่ยี่ห้อให้เขาฟังอย่างคร่าวๆ จากนั้นก็แนะนำให้ฉินสือโอวซื้อรถฟอร์ด


เมื่อมาถึงคาร์ซิตี้ ฉินสือโอวก็ตามไทเกอร์เข้าไปเยี่ยมชมร้านโฟร์เอสทั้งสี่ร้าน พวกเขาไปดูรถกระบะดอดจ์แรมก่อนเป็นอันดับแรก รถกระบะสีขาวรุ่นหนึ่งที่สวยมากๆ แรงขับเคลื่อนทรงพลัง ตัวรถสูงใหญ่ ดูแล้วเหมาะกับการให้วินนี่ขับมาก


เขาลองถามราคา รถคันนี้ราคาไม่แพงเลย แค่ห้าหมื่นดอลลาร์เท่านั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นเงินหยวนก็ราวๆ สองแสนห้าหมื่นหยวน อีกทั้งในประเทศจีน รถรุ่นนี้ก็มีราคาสูงถึงหกแสนหยวน ต่างกันตั้งครึ่งหนึ่ง!


ที่แคนาดา ฉินสือโอวสามารถซื้อของราคาแพงได้อย่างมือเติบ เนื่องจากเขาคุ้นชินกับการเปรียบกับราคาขายที่จีนแล้ว เลยมักจะรู้สึกว่ารถกับเครื่องบินที่นี่มีราคาถูก


ชาร์คอยากให้ฉินสือโอวซื้อรถฟอร์ด เอฟ 150 เลยแนะนำว่า “นั่นถึงจะเป็นเพื่อนคู่ใจของชาวประมง ทนทาน แรงขับเคลื่อนก็ยอดเยี่ยม มีที่ว่างกว้างขวาง ขับสบายแถมยังใช้งานได้เยอะ”


ไทเกอร์ถูจมูกไปมา แล้วพูดขึ้นมาว่า “ใช่แล้วครับ เอฟ 150 เป็นสัตว์ป่าดุร้ายขนานแท้ เป็นรถที่ดีรุ่นหนึ่งเลย แต่ว่าบอสครับ ถ้าคุณจะซื้อรถฟอร์ด ผมยังมีคำแนะนำที่ดีกว่านั้น ซึ่งก็คือรถฟอร์ดเอฟ 350!”


ราคารถยิ่งสูงเท่าไร เปอร์เซ็นต์ขายก็ยิ่งสูงเท่านั้น รถฟอร์ดเอฟ 350 แพงกว่ารุ่นเอฟ 150 อยู่เยอะ แน่นอนว่า สมรรถนะก็ดีกว่ามาก


ไม่ว่าจะซื้อรุ่นไหนก็ต้องตรวจสอบดูก่อน ฉินสือโอวตามไทเกอร์ไปที่ร้านของฟอร์ด นี่ถึงจะเป็นบอสใหญ่ของวงการรถกระบะ


แต่ปรากฏว่าพอเข้ามาตรงโซนรถกระบะในร้านโฟร์เอสของฟอร์ด ฉินสือโอวก็ถูกรถคันใหญ่ทำให้เขาต้องรู้สึกตื่นตะลึง!


ที่บริเวณทางเข้าโซนสำหรับขายรถกระบะโดยเฉพาะ สัตว์ร้ายสีดำคันหนึ่งกำลังจำศีลอยู่ มันมีความยาวกว่าเจ็ดเมตร มีความสูงสามเมตร กว้างสองเมตรครึ่ง ความสูงของล้ออยู่ที่ราวๆ หนึ่งเมตร รถฟอร์ดเอฟ 150 กับรถคันอื่นๆ ที่จอดอยู่ข้างมัน ก็ดูเหมือนกับน้องชายตัวเล็กๆ ที่เงยหน้ามองพี่ชายตัวโต


รถรุ่นนี้ใช้การออกแบบแบบสี่ประตู มีตัวรถขนาดใหญ่มหึมากับโครงเส้นหยาบๆ ที่บริเวณหน้ารถมีกันชนอันใหญ่ที่มีความแข็งแรง ตัวกรองดูดอากาศที่ทำงานอย่างแข็งขัน รวมถึงไฟด้านหน้าดวงใหญ่ที่ถูกติดตั้งไว้บนซุ้มล้อของรถ รถคันนี้ให้ความรู้สึกถึงการโจมตีที่รุนแรง ถึงแม้จะยังไม่ได้สตาร์ทเครื่อง แต่ก็ให้ความรู้สึกดุดันเหมือนสัตว์โบราณ


มองเห็นรถกระบะคันนี้ ชาร์คกับนีลเซ็นก็ร้องออกมาพร้อมกันด้วยความตื่นเต้นและแปลกใจ “พระเจ้า เอฟ 650 ออกขายในตลาดแล้วเหรอ?!”


…………………………………………


บทที่ 418 เตรียมพร้อม

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฟอร์ดเอฟ 650 มีโค้ดเนมในอเมริกาเหนือว่า ‘เดอะ เทอร์มิเนเตอร์’ รถกระบะเหนือชั้นรุ่นใหม่ที่บริษัทฟอร์ดเปิดตัว โดยมีจุดประสงค์เพื่อมาเป็นเจ้าแห่งวงการรถกระบะแทนที่รถฟอร์ดเอฟ 150


รถกระบะรุ่นนี้ได้รับความนิยมในอเมริกาเหนือเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มออกแบบก็สามารถดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชนและผู้ที่ชื่นชอบรถกระบะได้ไม่น้อย ในที่สุดก็ได้ออกมาพบกับผู้คนแล้ว และก็ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย


พอได้เห็นรถกระบะรุ่นนี้ ฉินสือโอวและพวกผู้ชายตัวโตทั้งหลายก็รู้สึกลุ่มหลงเข้าแล้ว เซลล์สาวสวยหุ่นดีคนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับพวกเขา ถามพวกเขาว่ามีอะไรให้เธอช่วยไหม


บริษัทฟอร์ดเจ้าเล่ห์จริงๆ จับคู่สาวสวยเข้ากันกับรถฟอร์ดเอฟ 650 ให้พวกผู้ชายได้สัมผัสกับความรู้สึกที่มาจากสาวสวยและสัตว์ร้าย ยิ่งสร้างความน่าตื่นเต้นในการขายได้มากกว่าเดิม


“อาริชา ช่วยฉันแนะนำเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ให้เพื่อนๆ ของผมฟังหน่อยสิ” ไทเกอร์พูดกับสาวสวยคนนั้น


สาวสวยเผยยิ้มกว้าง แล้วพูดขึ้นมาว่า “ฟอร์ดเอฟ 650 ไม่ใช่สัตว์ร้ายหรอกค่ะ มันเป็นเดอะ เทอร์มิเนเตอร์ (ผู้ยุติ) ที่แท้จริงเลยต่างหาก เมื่อขับขี่มันคุณจะสามารถยุติได้ทุกสิ่ง ถึงแม้จะเป็นการเผชิญหน้ากับรถถังหลัก T-90 ของรัสเซีย มันก็สู้ได้ทั้งนั้น”


ฉินสือโอวแอบแบะปากในใจ กล้าโม้จริงๆ ถ้าขับรถถัง T-90 ที่หนักกว่าหกสิบตันเข้ามาจริงๆ คิดว่าคนพวกนี้แค่พูดก็คงพูดไม่ออก


แต่ก็เป็นปกติที่สาวสวยคนนี้จะพูดแบบนี้ ยายหวังขายแตง จะชมของที่ตัวเองขายหน่อยไม่ได้เหรอ?


รถฟอร์ดเอฟ 650 คันนี้ แทนที่จะบอกว่ามันเป็นรถกระบะ สู้บอกว่ามันเป็นรถเอสยูวีสำหรับขับบุกตะลุยยังดีกว่า ที่จริงแล้วคนส่วนใหญ่ที่ซื้อรถรุ่นนี้ไปไม่ได้ซื้อไปใช้ทำงาน แต่ซื้อไปปรับแต่ง


รถคันนี้มีสมรรถนะที่แข็งแกร่งเหนือชั้น ตัวรถกว้างขวาง ใช้การออกแบบ แบบบอดี้ออนเฟรมของรถออฟโรด มีฐานรถที่ยอดเยี่ยม สามารถปรับแต่งให้กลายเป็นรถประเภทเอสยูวี หรือเอ็กซ์ยูวีหรูเหนือระดับ ขับออกไปสำรวจธรรมชาติก็ดูเท่ไม่หยอก


อาริชาแนะนำอะไหล่รถให้พวกเขาฟังทีละชิ้น มีการติดตั้งหลังคาท้ายกระบะ ถังน้ำมันแบบ 700L ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินแบบ ABS + EBD มีระบบแทรคชั่นคอนโทรล กับระบบถุงลมนิรภัย รวมถึงระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฮดรอลิก สรุปโดยรวมแล้วนี่ก็คือผลิตภัณฑ์ทันสมัยที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง จนดูเหมือนรถที่น่าจะอยู่ในหนังฮอลลีวูดมากกว่าในชีวิตจริง


“ผมขอลองหน่อยได้ไหมครับ?” ฉินสือโอวถาม


อาริชาแย้มรอยยิ้มมีเสน่ห์ เธอส่งกุญแจรีโมทให้กับเขา เปิดประตูรถแล้วเชิญให้เขาเข้าไปข้างใน


ในรถมีแผงหน้าปัดแสดงข้อมูลแบบมัลติฟังก์ชัน ระบบปรับอากาศแบบดูออล-โซน และแผงแสดงหน้าจออื่นๆ อีกหลายอัน หลังจากสตาร์ทเครื่องแล้วแผงหน้าปัดพวกนี้ก็ปรากฏลำแสงหลากสีสันออกมา ดูเหมือนกับห้องนักบินบนเครื่องบิน


สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวไม่ค่อยชอบใจนักก็คือ พวงมาลัยบังคับทิศทางของรถคันนี้มันกระจุ๋มกระจิ๋มเกินไป แต่ด้านบนก็ยังมีฟังก์ชันการใช้งานรอบด้าน สามารถควบคุมมัลติมีเดีย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ มีเบาะหนังคุณภาพสูงแท้ๆ ทั่วทั้งคัน รวมถึงแตรรถเป็นต้น


ขณะที่กำลังหมุนพวงมาลัย ทันใดนั้นฉินสือโอวก็มีความรู้สึกที่ว่า สำหรับผู้ชายแล้วพวงมาลัยของรถคันนี้อาจจะกระจุ๋มกระจิ๋มเกินไป แต่สำหรับผู้หญิงแบบวินนี่แล้ว นี่คงกำลังพอดี


ขับรถวนไปแล้วหนึ่งรอบ เขาก็รู้สึกสนุกมาก ตัวรถสูงใหญ่ทัศนวิสัยที่มองเห็นจึงกว้างไกล เหมือนกันกับการขับรถบรรทุก อีกทั้งการตกแต่งภายในของรถคันนี้ก็สะดวกสบายกว่ารถกระบะทั่วไป ฉินสือโอวกดเปิดเครื่องเสียง ก็พบว่ามีประสิทธิภาพที่ดีมาก เป็นของจากแบรนด์ดังทั้งสิ้น


พอขับกลับไปถึงร้านโฟร์เอสของฟอร์ด ฉินสือโอวก็กล่าวว่า “โอเค ใช้เจ้านี่ล่ะ ราคาเท่าไรครับ?”


อาริชาแย้มรอยยิ้ม แล้วพูดด้วยเสียงนิ่มนวลว่า “น่าเสียดายมากค่ะ คุณผู้ชาย รถคันนี้เป็นแค่รถตัวอย่าง ตอนนี้ยังไม่สามารถจำหน่ายได้ชั่วคราว”


นีลเซ็นกับชาร์คยักไหล่ ทั้งสองคนส่ายหน้าพร้อมกันแล้วพูดขึ้นมาว่า “น่าเสียดายจริงๆ”


ฉินสือโอวก็รู้สึกเสียดายเช่นกัน เขาไม่ยอมแพ้แล้วถามต่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะขายรถคันนี้บ้างไหม อาริชาจึงพาผู้จัดการร้านโฟร์เอสมาช่วยอธิบาย “ต้องขออภัยจริงๆ ครับ คุณผู้ชาย รถฟอร์ดเอฟ 650 เพิ่งจะเปิดตัวสู่ตลาด จึงขาดแคลนสินค้าอย่างหนักเป็นระยะเวลาชั่วคราว ร้านของพวกเราก็ได้โอกาสที่จะจัดแสดงรถคันนี้มาอย่างยากลำบากเช่นกัน”


เห็นท่าทางที่ดูผิดหวังเป็นอย่างมากของฉินสือโอว ผู้จัดการคนนั้นก็พูดอย่างเสียดายว่า “ตามกฎแล้ว นอกจากพวกคุณจะสั่งรถมาจากสำนักงานใหญ่ได้อีกคัน ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงจะขายรถรุ่นนี้ให้ไม่ได้”


ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ฉินสือโอวก็นึกวิธีที่จะสามารถประนีประนอมขึ้นมาได้ เขาโทรศัพท์หาเจนนิเฟอร์ ถามเธอว่าพอจะมีวิธีช่วยให้เขาสั่งรถฟอร์ดเอฟ 650 จากอเมริกาให้มาส่งที่นครเซนต์จอห์นบ้างไหม เขาต้องการรถรุ่นนี้หนึ่งคัน


แค่ครู่เดียว เจนนิเฟอร์ก็โทรศัพท์กลับมาหาเขา “ไม่มีปัญหาค่ะ มิสเตอร์ รบกวนท่านทิ้งที่อยู่ไว้นะคะ หลังจากนั้นอีกสองวันรถก็จะไปถึงแล้วค่ะ”


ต่อจากนั้นผู้จัดการร้านก็ได้รับโทรศัพท์จากสำนักงานใหญ่ บอกให้เขาขายรถตัวอย่างออกไปได้เลย แล้วจะส่งรถคันใหม่มาให้แทน


ผลสรุปแบบนี้ทำให้ผู้จัดการร้านดีใจมาก ในเมืองเล็กๆ อย่างนครเซนต์จอห์นแห่งนี้สามารถขายรถหรูแบบนี้ได้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ส่วนคนที่ดีใจที่สุดก็คือไทเกอร์ เขามองฉินสือโอวด้วยความอิจฉาแล้วพูดกับเขาว่า “คุณมีความสามารถมากๆ เลย ฉิน ดูท่าว่าคุณกับเดอะ เทอร์มิเนเตอร์จะมีวาสนาต่อกันนะครับ พระเจ้าเลยช่วยคุณไว้”


สาวสวยเซ็กซี่คนนั้นก็พินิจมองฉินสือโอวด้วยความสนอกสนใจ ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ แล้วเริ่มส่งสายตาเชิญชวน


ราคาตามมาตรฐานของรถฟอร์ดเอฟ 650 อยู่ที่สองแสนแปดหมื่นดอลลาร์แคนาดา แต่รถตัวแสดงต้องใช้เงินสามแสนสี่หมื่นดอลลาร์แคนาดาถึงจะซื้อได้ ตามระเบียบปฏิบัติแล้วร้านโฟร์เอสจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องป้ายทะเบียนกับประกันของรถหรูคันนี้


ฉินสือโอวรูดบัตรจ่ายเงินอย่างมีความสุข ต่อจากนั้นก็ขึ้นรถ แล้วออกเดินทาง!


ระหว่างทางชาร์คกับนีลเซ็นก็ผลัดกันขับรถ รถฟอร์ดเอฟ 650 ร้องคำรามอย่างดุดันขณะที่ขับทะยานไปบนทางหลวง เปิดหน้าต่างรับลมแรงที่พัดเข้ามากระทบกับใบหน้า ฉินสือโอวรู้สึกว่าขับรถแบบนี้ดูเด่นกว่าขับรถสปอร์ตเสียอีก


ปฏิกิริยาของผู้คนบนท้องถนนก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองเล็กๆ แล้ว รถกระบะเหนือชั้นรุ่นนี้ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงยิ่งกว่ารถสปอร์ตเสียอีก ฉินสือโอวขับรถพอร์ช 918 ก็ไม่ได้มีคนมาถ่ายรูป แต่พอขับรถคันนี้ไปบนถนน กลับมีคนยื่นโทรศัพท์ออกมาจากตัวรถเพื่อถ่ายรูปถ่ายวิดีโออยู่เรื่อยๆ


ขับมาถึงร้านของเรค พอเขามองเห็นฉินสือโอวขับรถกระบะคันใหญ่มาเขาก็ตาเป็นประกาย แล้วตะโกนขึ้นมาว่า “เพื่อน นายไปหายักษ์ใหญ่คันนี้มาจากที่ไหนกัน? เร็วๆๆ ให้ฉันได้ลองเล่นหน่อย!”


เห็นได้ชัดว่าเรคเป็นแฟนรถกระบะ หลังจากที่เขาขึ้นมานั่งบนรถแล้วเขาก็ไม่ยอมลงอีกเลย ชาร์คดึงเขาก็ไม่ไป เรคไม่ลังเลที่จะหยิบประแจออกมาขู่


ฉินสือโอวถามเขาว่า “นายชอบรถคันนี้มากเลยเหรอ?”


เรคลูบคลำหน้ารถคันใหญ่ด้วยความหลงใหล เขาถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมาว่า “นายไม่เข้าใจหัวอกคนรักรถกระบะอย่างพวกเราหรอก ฉิน รถคันนี้ก็เหมือนกับสาวสวยแบบวินนี่เลย นายเห็นวินนี่ครั้งแรกนายรู้สึกยังไง ตอนนี้ฉันก็รู้สึกแบบนั้นนั่นล่ะ”


ฉินสือโอวทำตัวเป็นคนดี เขาโทรหาเจนนิเฟอร์อีกครั้ง ถามเธอว่าจะช่วยเขาซื้อรถฟอร์ดเอฟ 650 มาจากอเมริกาอีกคันหนึ่งได้ไหม


เจนนิเฟอร์หัวเราะพร้อมทั้งบอกกับเขาว่า “มิสเตอร์ฉินคะ คุณประเมินบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรสของพวกเราต่ำไปแล้ว ถึงแม้ว่าที่แคนาดาจะยังไม่ได้มีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ฟอร์ดก็มีรถรุ่นนี้อยู่หลายคันแล้ว ต่อให้คุณจะอยากเปิดร้านร้านโฟร์เอสเพื่อขายฟอร์ดเอฟ 650 ก็ไม่มีปัญหาค่ะ”


เป็นอีกครั้งที่ฉินสือโอวได้สัมผัสกับความสามารถที่แข็งแกร่งของบัตรแบล็ก อาเม็กซ์ระดับ2 ก็เหมือนกับที่เขาบอกกับโหวจื่อเซวียนว่าประเทศในอเมริกาเหนือก็คือสวรรค์ของคนมีเงิน ทรัพยากรทั้งหมดก็แทบจะไปกองรวมกันอยู่ในมือของคนรวยทั้งหมดแล้ว


ฉินสือโอวให้หมายเลขยืนยันกับเรค บอกเขาว่าอีกสองวันให้ไปรับรถที่ร้านโฟร์เอสก็เรียบร้อยแล้ว “จำไว้ว่าต้องเอาเงินไปให้พอนะ สามแสนดอลลาร์กว่าๆ”


เรคหัวเราะเสียงดังออกมา “ฉันไม่ใช่คนรวยแบบนายนะ ฉิน ฉันต้องผ่อนจ่าย ซื้อด้วยเงินเต็มจำนวนแบบนายไม่ได้หรอก”


ช่วยเรคซื้อรถฟอร์ดเอฟ 650 เสร็จแล้ว ก็ได้น้ำใจเป็นการซื้อกรงตาข่ายจับกุ้งกลับคืนมา เรคหาคนมาช่วยฉินสือโอวขนกรงตาข่ายจับกุ้งทั้งหมดขึ้นไปไว้บนเรือฮาวิซท จากนั้นก็สามารถออกทะเลได้


……………………………………………….


บทที่ 419 ต้นอ่อนผักเป็นโรคใบจุด

โดย

Ink Stone_Fantasy

วินนี่เลิกงานกลับมา เธอจอดรถคาดิลแลควันไว้ที่สนามหญ้าตรงด้านหน้าวิลล่า ถือกระเป๋าลงมาจากรถ มองดูรถคันนี้แล้วส่ายหัวอย่างจนปัญญา


เธอไม่อยากไปทำงานด้วยรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักขนาดนี้ ในสายตาของใครหลายคนที่มองมา ก็มักจะแฝงความหมายอย่างหนึ่งไว้ว่า ‘เธอเป็นคุณนาย มีสามีเป็นคนรวย เธอไม่ได้มาทำงาน แค่มาหาอะไรทำฆ่าเวลาเฉยๆ’


วินนี่อดทนกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ เนื่องจากเธอคิดว่าเธอทุ่มเทให้กับงานชิ้นนี้อย่างเต็มร้อย นานๆ ครั้งที่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงสำคัญกับฉินสือโอวเท่านั้นเธอถึงจะขอลางาน นอกเหนือจากนั้นแม้กระทั่งประจำเดือนมา เธอก็ไม่เคยขอลางานเลย


และที่จริงแล้วการทำงานของเธอก็โดดเด่นที่สุด เธอเป็นไกด์ที่นักท่องเที่ยวพึงพอใจที่สุด เธอได้รับคะแนนจากการวิจารณ์สูงที่สุดบนเว็บไซต์ lvy.cn ของจีน เธอทำถึงกระทั่งใช้เวลาว่างของตัวเองไปช่วยฝึกผู้คนในเมือง ช่วยสอนภาษาจีนให้กับพวกเขา และสอนให้พวกเขาได้รู้จักกับประเทศจีน


แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ ทุกๆ คนก็ยังเอาแต่สนใจรูปร่างหน้าตาสวยๆ กับสามีฐานะร่ำรวยของเธอ จนเธออยากจะบ้าตายอยู่แล้ว


เธอเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้ วินนี่จึงทำได้แค่เปลี่ยนภาพความจำของผู้คนที่มีต่อจุดประสงค์ในการทำงานของเธอ ดังนั้นเธอจะไม่ยอมขับรถหรูไปทำงานอีกแล้ว


วินนี่เพิ่งจะจอดรถ พวกหู่จือ เป้าจือ ฉงต้ากับปอหลัวก็พากันกระโดดโลดเต้นเข้ามาต้อนรับเธอ โดยที่มีหลัวปอเด็กหญิงตัวน้อยวิ่งตามมาท้ายสุด ขาสั้นๆ ทั้งสี่ข้างวิ่งทะยานเข้ามาเหมือนลูกบอลขนสัตว์สีขาวๆ


วินนี่เห็นเรือจอดอยู่ที่ท่าเรือเลยรู้ว่าฉินสือโอวและคนอื่นๆ กลับมาถึงแล้ว แต่เขากลับไม่ได้ออกมารอรับเธอ นั่นก็เห็นได้ชัดว่าเขาน่าจะไม่ได้อยู่ในวิลล่า ไม่อย่างนั้นเขาคงจะโผล่หน้ามาพร้อมกับเหล่าสัตว์เลี้ยงแล้ว


เธอจูบและลูบขนพวกมันทีละตัว จากนั้นก็อุ้มลูกสาวขึ้นมา วินนี่ถามมันว่า “ป๊ะป๋าล่ะคะ? ป๊ะป๋าไปไหนแล้ว?”


อย่าคิดว่าพวกสัตว์เลี้ยงพูดไม่ได้แล้วจะตอบคำถามกลับมาไม่ได้ พวกมันสามารถตอบคำถามผ่านสายตาหรือท่าทางได้ อย่างเช่นตอนนี้ สายตาของสัตว์เลี้ยงทุกตัวต่างก็มองไปที่ด้านหลังวิลล่า ความหมายก็คือพ่อหลบอยู่ตรงนั้นล่ะ


เสียงเครื่องยนต์ร้องคำรามขึ้นมา พอวินนี่ได้ยินเสียงรถก็ยิ้มออกมาทันที เธอรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินสือโอวซื้อรถกระบะมาแล้วทำเซอร์ไพรส์ให้เธอ


วินนี่เกาหัวหลัวปอ เธอพูดหยอกมันว่า “ดูสิ ป๊ะป๋าของหนูก็ไร้เดียงสาเหมือนกันกับหนูเลยนะ แค่รถกระบะคันเดียวเอง ทำไมต้องทำให้มันลึกลับขนาดนี้? ฉันกล้าพูดเลยว่า เขาต้องซื้อฟอ… พระเจ้า!”


หลังจากติดเครื่องรถกระบะขับอ้อมมาจากวิลล่าก็เผยเงาร่างของมันขึ้นมา ปรากฏอยู่ต่อหน้าวินนี่อย่างดุร้ายและป่าเถื่อน ความสูงสามเมตร ล้อที่มีขนาดหนึ่งเมตรครึ่ง เงางามเหมือนเปียโน เสียงเครื่องยนต์คำรามราวกับสัตว์ร้าย ทั้งหมดทั้งมวล น่าตื่นตกใจเป็นอย่างมาก!


วินนี่ตกตะลึงจนตาค้าง หลัวปอมองแม่ของมันอย่างสับสนงงงวย พูดต่อสิคะ อีกครึ่งประโยคที่เหลือคืออะไรเหรอ?


ตัวรถขนาดมหึมาของรถฟอร์ดเอฟ 650 ขับเข้ามาอย่างเชื่องช้าแต่หนักแน่น ฉงต้าตกใจจนไปแอบหลบอยู่ข้างหลังวินนี่ แล้วโผล่หน้าอ้วนๆ ของมันออกมาครึ่งหนึ่งเพื่อแอบมอง หู่จือกับเป้าจือกล้าหาญกว่ามาก พากันส่ายหางมองดูรถคันนั้นด้วยความตื่นเต้น พวกมันรู้ว่าฉินสือโอวนั่งอยู่ข้างใน


พอจอดรถแล้ว ฉินสือโอวก็เปิดประตูรถออก ประตูของรถฟอร์ดเอฟ 650 มีวิธีเปิดเหมือนกันกับรถซูเปอร์คาร์ ใช้วิธีเปิดแบบปีกนก


ที่จริงตั้งแต่ยุคของรถฟอร์ดเอฟ 150 การเปิดประตูรถด้วยวิธีแบบนี้ก็พบได้บ่อยแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกมันคงไม่ได้โค้ดเนมว่า ‘แร็ปเตอร์’ (นกนักล่า) รถที่ไม่มีปีกจะเรียกว่านกนักล่าได้ยังไงกันล่ะ?


ถ้าหากจะพูดว่าฟอร์ดเอฟ 150 เป็นนกนักล่า ถ้าอย่างนั้นฟอร์ดเอฟ 650 ที่แผ่ประตูออกกว้างก็คงเป็นมังกรติดปีก


ฉินสือโอวกระโดดลงมาจากรถ เขายิ้มหน้าบานพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “วินนี่ รถคันนี้เป็นยังไงบ้างครับ?”


เขาชอบท่าทางของวินนี่ที่ตะลึงจนตาค้างมากๆ ริมฝีปากเอิบอิ่มสีแดงเธอ ช่างน่าหลงใหลจริงๆ


ขนตาเรียวงอนของวินนี่กะพริบขึ้นลงด้วยความรวดเร็ว เหมือนผีเสื้อที่กำลังสั่นน้อยๆ แต่หลังจากนั้นคิ้วของเธอกลับตั้งขึ้นมา เธอยิ้มน้อยๆ แล้วถามขึ้นมาว่า “ที่รักคะ คุณจะให้ฉันขับรถคันนี้ไปทำงานเหรอคะ?”


ฉินสือโอวตอบเธอกลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม “ใช่แล้วครับ รถกระบะไง เป็นยังไงบ้าง?”


รอยยิ้มหวานหยดย้อยเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว เปลี่ยนไปเป็นความสวยงามที่อันตราย “พระเจ้า ที่รักคะ สมองของคุณล่ะ? สมองของคุณหายไปไหนแล้ว? คุณกินมันเข้าไปแล้วเหรอคะ? นี่เหมือนกับคุณซื้อรถถังให้ฉันเลย ที่ฉันอยากได้คือรถกระบะถูกๆ คันละหมื่นสองหมื่น แต่คุณกลับซื้อรถกระบะแบบซูเปอร์ทรัคมาเนี่ยนะ? แถมยังเป็นฟอร์ดเอฟ 650 ที่ยังไม่มีขายในตลาดรถด้วย? ฉันขับรถไปทำงานหรือขับไปอวดรวยกันแน่?”


“เอ่อ คุณรู้จักรถคันนี้ด้วยเหรอ?”


“ก่อนที่ฉันจะรู้จักคุณ ฉันก็รู้จักรถคันนี้แล้ว!”


“แล้วมันไม่ดีตรงไหนกันล่ะครับ?”


“พระเจ้า ฉันจะกลับไปทำกับข้าวแล้ว คุณขับมันไปเล่นคนเดียวเถอะค่ะ จากนั้นก็จะได้ถูกคนมองเหมือนเป็นสัตว์ประหลาด ใช่แล้ว คุณปู่เออร์ก็มีรถฟอร์ดเก่าๆ อยู่คันหนึ่งใช่ไหม? ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ฉันจะขับมันไปทำงาน”


วินนี่อุ้มหลัวปอเข้าไปในวิลล่า ฉินสือโอวอยู่ข้างๆ รถ มองวินนี่สลับกับรถคันนี้ จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา


ฉงต้ากับหู่จือเป้าจือก็นั่งอยู่ตรงหน้าเขา พวกมันอ้าปากถอนหายใจตามเขา


ฉินสือโอวกอดเหล่าสัตว์เลี้ยงไว้ แล้วพูดเตือนพวกมันว่า “อย่าเลียนแบบฉันนะ รีบหาเมียเร็วขนาดนี้ เห็นหรือยังล่ะว่าเป็นยังไง? เมียก็คือคนที่พระเจ้าส่งลงมาเพื่อลงโทษแกโดยเฉพาะ พวกเธอไม่มีเหตุผล แถมยังดุมากๆ อีกต่างหาก ถ้าหากต่อไปพวกแกมีเมีย เดี๋ยวพวกแกก็ซวยแล้วล่ะ จริงๆ นะ ไม่ต้องทำหน้าสงสัยเลย ฉันจะหลอกพวกแกหรือยังไงล่ะ?”


เตรียมพร้อมทำงานได้พอสมควร ชาร์คเองก็รวบรวมแรงงานมาแล้ว ซึ่งก็คืออาสาสมัครสิบคนที่ไปช่วยซ่อมโบสถ์นั่นเอง โดยมีชาร์คกับแลนซ์ เฮอร์แมน รูเพิร์ตเป็นคนนำทีม รวมเขากับอีวิลสันเข้าไปด้วยก็ครบแล้ว


ถึงแม้ว่าตอนแรกเธอจะโกรธที่ฉินสือโอวใช้เงินไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อหันกลับมาวินนี่ก็ให้อภัยเขาแล้ว ทานข้าวเสร็จเธอก็จับแขนฉินสือโอวไว้ตลอดเวลา ไม่อยากพบกับการแยกจากกันที่กำลังจะมาถึง


ในตอนกลางคืน ฉินสือโอวกอดวินนี่เอาไว้แล้วพูดกับเธอว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไปอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์แค่รอบเดียวเอง คนเยอะขนาดนี้ ต้องหาเงินได้เยอะแน่ๆ”


วินนี่จูบปากเขา เธอพูดกับเขาด้วยความเป็นห่วง “นี่เป็นฤดูหนาวแรกตั้งแต่ที่คุณมาถึงนิวฟันด์แลนด์ คุณไม่เข้าใจความน่ากลัวของมหาสมุทรในฤดูหนาวหรอก ฉันกลัวว่าคุณจะเจอกับพายุหิมะ เรือฮาวิซทลำเล็กเกินไป ต้านทานพายุหิมะไม่ไหวหรอกค่ะ”


ฉินสือโอวปลอบเธอ บอกเธอว่าพวกเขาไปทำงานหาเงินไม่ได้ไปเสี่ยงชีวิตเล่นๆ พวกเขาจะคอยระวังการเปลี่ยนแปลงของอากาศอยู่ตลอดเวลาอย่างแน่นอน ถ้าอากาศไม่ดี พวกเขาไม่มีทางออกทะเลแน่ๆ


มีแค่แบบนี้ ที่ทำให้วินนี่ไม่สามารถอยู่ข้างๆ กันกับฉินสือโอว


ก่อนออกเดินทาง ฉินสือโอวเข้าไปดูโรงเรือนเพาะปลูกก่อน ความเข้มแข็งของพลังจิตสำนึกแห่งโพไซดอนแสดงออกผ่านพืชพันธุ์พวกนี้อย่างเต็มเหนี่ยว แค่ปลูกเมล็ดพันธุ์ลงไป ตอนนี้พวกมันแตกหน่อออกมาแล้ว กระทั่งแตงกวากับพริกก็เริ่มโตแล้วเหมือนกัน


ตอนแรกที่ฉินสือโอวได้เห็นการเจริญเติบโตของต้นอ่อนผักพวกนี้ก็เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อมองดูอย่างละเอียดเขาก็รู้สึกกลัดกลุ้มขึ้นมาทันที ต้นอ่อนที่งอกออกมาจากเมล็ดพันธุ์ยังดีอยู่ แต่บนใบอ่อนของพวกมันกลับมีจุดสีขาวๆ อยู่ด้านบน ยิ่งเดินเข้าไปตรงกลาง จุดสีขาวก็ยิ่งเยอะ ยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้น อยู่ๆ ผักหลายใบก็เป็นโรคใบจุด!


“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ต้องรีบโทรหาบิลลี่” ฉินสือโอวพูดขึ้นมาอย่างร้อนรน


วินนี่โทรศัพท์ไปหาบิลลี่ แต่ไม่มีคนรับสาย ต่อมาจึงโทรไปที่บริษัทผลิตภัณฑ์ทางทะเล พนักงานต้อนรับบอกกับเธอว่าบิลลี่ลาพักร้อนเพื่อพาภรรยากับลูกไปพักผ่อนที่ไมอามี…


ฉินสือโอวก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เขาโบกมือปัดแล้วพูดขึ้นมาว่า “คิดว่าคงจะขาดน้ำ พวกเรามารดน้ำกันเถอะ”


เขาวางแผนไว้ว่าจะถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปในน้ำ ในใจของเขา ไม่มีอะไรที่พลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทำไม่ได้


วินนี่กลับมาถึงวิลล่า พอกลับมาถึงแล้วได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอจึงกลอกตาใส่เขาหนึ่งครั้ง แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “พูดอะไรไร้สาระ นี่เกี่ยวอะไรกับการขาดน้ำกันล่ะคะ? ให้ฉันดูเองเถอะ”


“คุณรู้เรื่องการปลูกผักด้วยเหรอ?” ฉินสือโอวถามเธอด้วยความแปลกใจ


วินนี่พูดกับเขาอย่างหยอกล้อว่า “ไม่ค่ะ ฉันไม่เหมือนคนบางคน พ่อแม่ของฉันไม่ใช่ผู้อาวุโสที่เชี่ยวชาญด้านการปลูกผัก ฉันไม่รู้เข้าใจปัญหาเกี่ยวกับการปลูกผักหรอกค่ะ เจ้านี่ต่างหากที่รู้”


พอพูดจบ เธอก็ยกมือขึ้นมา ในมือของเธอถือหนังสือเล่มหนาอยู่หนึ่งเล่ม หนังสือหนึ่งหมื่นเหตุผลที่ต้องสร้างโรงเรือนเพาะปลูก


…………………………………………


บทที่ 420 ออกเดินทาง หันดาบมุ่งสู่อ่าว

โดย

Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองวินนี่ เธอกำลังพลิกดูหนังสือเล่มนั้นอยู่ เขาจึงโน้มตัวเข้าไปลองอ่านดู มันมีแต่คำศัพท์ภาษาอังกฤษเฉพาะทางวางติดกันเต็มไปหมด ทนอ่านต่อไม่ได้จริงๆ


วินนี่พลิกอ่านอยู่สักครู่ ใบหน้างดงามก็ปรากฏสีหน้าของความประหลาดใจออกมา “หาสาเหตุเจอแล้ว”


“เป็นเพราะอะไรครับ?” ฉินสือโอวจิตใจสั่นไหว


“เกิดปัญหากับคุณภาพอากาศในโรงเรือนเพาะปลูก รู้ไหมคะว่ามันเรียกว่าอะไร? มันเรียกว่าใบจุดแช่น้ำ เมื่อแก๊สแอมโมเนียในโรงเรือนเพาะปลูกมีมากถึง 5PPM จะเกิดปัญหานี้ขึ้นบนใบผัก โชคดีที่เราพบมันเร็ว ถ้าแก๊สแอมโมเนียมีความเข้มข้นสูงกว่านี้ พืชพันธุ์จะมีสีดำขึ้นแล้วตายลงในที่สุด” วินนี่กล่าว


ฉินสือโอวตบหัวตัวเอง เขาใช้ปุ๋ยน้ำสูตรธรรมชาติกับการเพาะปลูกในโรงเรือน สาดลงไปพร้อมกันตอนรดน้ำ เห็นได้ชัดว่าหมุนเวียนอากาศได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้แก๊สแอมโมเนียไม่ระเหยออกไป ระดับความเข้มข้นในโรงเรือนเพาะปลูกก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น


รีบเปิดเครื่องสูบลมเพื่อถ่ายเทอากาศ ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวคิดว่าต้นอ่อนของผักยังไม่โต อากาศคงจะไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ดังนั้นเขาจึงยังไม่เคยเปิดเครื่องสูบลมมาก่อน จึงทำให้เกิดปัญหานี้


เห็นแค่วี่แววก็พอจะรู้แน่นอน วินนี่ไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดมากกว่าเดิม จึงศึกษาปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของอากาศให้ละเอียด


หลังจากศึกษามาแล้วเธอก็ช่วยสอนบทเรียนให้กับฉินสือโอว ซีมอนสเตอร์กับนีลเซ็นรวมถึงคนอื่นๆ “ก่อนผักจะเกิดการเจริญเติบโต ไม่ควรใช้ปุ๋ยสดที่หมักเอง และก็ไม่ควรนำปุ๋ยหมักที่ยังไม่เน่าเปื่อยมาใส่เป็นปุ๋ย…”


“ในฤดูที่มีอุณหภูมิต่ำก็ต้องระบายอากาศให้มีความเหมาะสม เพื่อกำจัดแก๊สที่เป็นพิษ นอกจากนี้ คุณภาพของถ่านหินที่ใช้ก็ต้องดีด้วย ต้องมีการเผาไหม้ที่เพียงพอ อ้อ อันนี้ช่างมันเถอะ พวกเราไม่ได้ใช้เตา สรุปแล้ว ต่อไปนี้พวกคุณต้องนัดเวลามาศึกษาความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักนะคะ มีใครมีความเห็นอะไรไหม?”


ใครจะกล้ามีความเห็น? ทุกๆ คนรีบส่ายหัวทันที


ฉินสือโอวถอนใจยาว คราวนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมบิลลี่ถึงได้ถามเขาแบบนั้นตอนที่รู้ว่าเขาจะสร้างโรงเรือนเพาะปลูก การปลูกผักในโรงเรือนเพาะปลูกกับการเพาะปลูกแบบธรรมชาติเป็นคนละเรื่องกันเลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบิลลี่ถึงถามว่าเขารวยขนาดนี้แล้วจะทนปลูกผักเองทำไม


ที่น่าหัวร่อยิ่งกว่านั้นก็คือ เขาสร้างโรงเรือนเพาะปลูกขึ้นมาตั้งสองหลัง ไม่ควรทำอะไรที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนจริงๆ นั่นล่ะ


แต่ก็ยังดีที่ช่วงหลังจากนั้นเขาไม่ต้องดูแลโรงเรือนเพาะปลูกด้วยตัวเอง เนื่องจากเขาต้องออกไปจับกุ้งมังกรแล้ว งานนี้จึงมอบหมายให้นีลเซ็น เบิร์ดกับซีมอนสเตอร์เป็นคนรับผิดชอบ


ทั้งสามคนก็รู้เรื่องนี้ ดังนั้นหลังจากกลับออกมาจากโรงเรือนเพาะปลูกแล้วพวกเขาก็กอดหนังสือหนึ่งหมื่นเหตุผลที่ต้องสร้างโรงเรือนเพาะปลูกเอาไว้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขื่นขม


ในช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนมกราคม สำนักงานกิจการทะเลกับกรมอุตุนิยมวิทยาก็พากันประกาศวันที่จะมีท้องฟ้าแจ่มใส ในเขตนิวฟันด์แลนด์จะมีช่วงเวลาที่อากาศดีอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้นจะมีกระแสอากาศจากขั้วโลกเหนือพัดผ่านมาอีกครั้ง พอถึงตอนนั้นคงจะมีหิมะตกหนักอย่างแน่นอน


เช้าวันที่ยี่สิบเอ็ด เรือฮาวิซทเติมน้ำมันจนเต็มถัง เติมน้ำเข้ามา ชาร์คกับแลนซ์ตรวจดูซ้ำๆ หลายครั้งแล้วว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ทำท่าทางบอกให้รู้ว่าสามารถออกทะเลได้แล้ว


วินนี่พาเหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายกับเชอร์ลี่ย์และเด็กๆ ที่เหลือมาส่งพวกเขาที่ท่าเรือ ฉินสือโอวกอดพวกเขาทีละคน ฉงต้ากอดขาของเขาไว้พร้อมทั้งร้องครวญครางออกมาเพราะไม่อยากแยกจากเขา แต่ทางด้านหลัวปอกลับร้องพึมๆ พำๆ พร้อมทั้งทำตาหลุกหลิกไปมา หางเล็กๆ ตั้งสูงขึ้น มันปกปิดความตื่นเต้นบนใบหน้าเอาไว้ไม่อยู่


กอดทุกคนทีละคนแล้ว สุดท้ายฉินสือโอวก็อุ้มหลัวปอขึ้นมา เขาจูบมันลงไปแรงๆ หนึ่งครั้ง


หลัวปอถอยหน้าออกไปด้วยความรู้สึกรังเกียจ ฉินสือโอวมองมันด้วยความโมโห ใช้โอกาสตอนที่วินนี่ไม่ทันระวังถ่มน้ำลายลงไปบนหน้ามัน


ปรากฏว่าลูกหมาป่าขาวก็ร้องฮือๆ ขึ้นมาทันที วินนี่จึงเดินเข้ามาดู แล้วหยิกฉินสือโอวเบาๆ เธอบ่นเขาอย่างหยอกเย้าว่า “มีพ่อที่ไหนเป็นแบบคุณบ้างคะ ผู้ชายเป็นใหญ่ใช่ไหมคะแบบนี้? ทำไมถึงได้ทำตัวไม่ดีกับลูกสาวของพวกเราขนาดนี้?”


หลัวปอรีบร้องหงิงๆ เพื่อตอบรับวินนี่ทันที


ฉินสือโอวหัวเราะฮ่าๆ ออกมา เขากอดวินนี่ไว้พร้อมกับมอบจูบดูดดื่ม วินนี่ดิ้นอยู่ไม่กี่ครั้ง พอไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนเป็นกอดคอของฉินสือโอวกลับไปแล้วเริ่มดื่มด่ำกับความรู้สึกนี้ หลัวปอกระโดดเข้าหาอย่างอยากมีส่วนร่วม แต่ปรากฏว่าแม่ที่คอยรักและทะนุถนอมมันมาตลอดตอนนี้กลับไม่แม้จะจะหันมามองมัน


หลัวปอโกรธแล้ว มันยื่นคอเตรียมตัวเห่า พวกหู่เป้าฉงตัวแสบจึงเข้ามาใกล้มันพร้อมกับใบหน้าเย็นชา เต็มไปด้วยเจตนาไม่ดี


ทันใดนั้น หลัวปอก็ทำตัวดีขึ้นทันที มันนั่งลงบนพื้นแล้วแสดงท่าทางเชื่องๆ ออกมา


จนกระทั่งวินนี่หายใจไม่ทัน ฉินสือโอวถึงได้ปล่อยเธอด้วยความอาลัยอาวรณ์ วินนี่ช่วยเขาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วพูดกับเขาอย่างอ่อนโยนว่า “ต้องคอยระวังเรื่องอากาศนะคะ ถ้าอากาศไม่ดี ต้องห้ามออกจากท่าเด็ดขาด ทานอาหารก็ต้องระวัง อย่าดื่มเหล้าตอนออกทะเลนะคะ ถ้าระหว่างที่อยู่ในทะเลเกิดเรื่องผิดใจขึ้น ก็ต้องยอมถอยหนึ่งก้าว เข้าใจไหมคะ?”


ฉินสือโอวพยักหน้ารับ ตอนสุดท้ายวินนี่ก็ถามเขาด้วยความกระวนกระวายใจนิดๆ ว่า “ฉันจู้จี้เกินไปหรือเปล่าคะ? เหมือนยายแก่ๆ เลยใช่ไหม?”


ฉินสือโอวกอดหญิงสาวไว้แน่น เขาพูดพึมๆ พำๆ ว่า “ผมชอบท่าทางเหมือนคุณยายแก่ๆ ของคุณ ผมชอบที่คุณจู้จี้กับตาเฒ่าอย่างผมแบบนี้”


ในตอนสุดท้ายฉินสือโอวก็เดินขึ้นเรือไป วินนี่โบกมือพร้อมทั้งตะโกนเสียงดังว่า “ก่อนจะทำอะไร คุณต้องนึกถึงฉันกับเด็กๆ ที่บ้านนะคะ!”


ถอยหลังขึ้นเรือไป เขายิ้มอย่างสดใส แววตามุ่งมั่นด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง


ชาร์คสตาร์ทเครื่องเดินเรือ เรือฮาวิซทก็ค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้น เงาร่างของมันก็เข้าสู่อ้อมกอดของมหาสมุทร


เห็นฉินสือโอวจากไปแล้ว หู่จือกับเป้าจือก็เห่าโฮ่งๆ ออกมา ฉงต้าเองก็ร้องครวญครางออกมาเช่นกัน ส่วนปอหลัวก็กระโดดลงไปในน้ำว่ายน้ำตามอยู่สักพัก สุดท้ายก็ถูกวินนี่เรียกกลับมา


ฉินสือโอวฟุบอยู่กับท้ายเรือมองดูภาพของวินนี่และคนอื่นๆ ที่เล็กลงไปเรื่อยๆ เริ่มเห็นหลัวปอไม่ชัดก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็เป็นต้าป๋าย ต่อมาก็หู่จือเป้าจือ พอเห็นเงาร่างของฉงต้ากับเชอร์ลี่ย์และเด็กๆ ที่เหลือไม่ชัดแล้ว ฉินสือโอวก็หมุนตัวกลับไปด้วยความรู้สึกเศร้าสลด


แลนซ์ที่กำลังคาบซิการ์เอาไว้ในปากเป็นเอกลักษณ์ ก็เดินเข้ามาแล้วพูดกับเขาพร้อมรอยยิ้มว่า “ออกทะเลครั้งแรกเหรอ บอส?”


ฉินสือโอวตอบเขากลับไปพร้อมรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่หรอก ก่อนหน้านี้เคยไปท่าเรือกลอสเตอร์มาแล้ว ที่นั่นไกลกว่าอีก”


แต่ว่าตอนนั้นวินนี่ยังไม่มา แถมเขายังพาพวกหู่เป้าฉงออกทะเลไปด้วยกัน เหตุการณ์มันแตกต่างจากตอนนี้ แต่เรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องพูดออกไป เขารู้คนเดียวก็พอแล้ว


นครเซนต์จอห์นอยู่ห่างจากอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ไม่ไกล ผ่านเขตแซงปิแยร์และมีเกอลงเข้าสู่ช่องแคบคาบ็อต หลังจากนั้นก็จะสามารถเข้ามาสู่อ่าวแห่งนี้ได้ เกาะแฟร์เวลกับอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ อยู่ห่างกันโดยที่มีเกาะนิวฟันด์แลนด์กั้นไว้ ที่หนึ่งอยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้สุดของเกาะ ส่วนอีกที่หนึ่งก็ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ


ออกทะเลครั้งนี้ ฉินสือโอววางแผนไว้ว่าจะอยู่ที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ครึ่งเดือนถึงยี่สิบวัน ดังนั้นเขากับวินนี่ถึงได้อาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากกันเช่นนี้ กว่าครึ่งเดือนที่จะไม่ได้เจอกัน สำหรับคู่รักที่กำลังอยู่ในความลุ่มหลงแล้ว ต่อให้อยู่ห่างกันน้อยกว่านี้ ก็ยังรู้สึกเหมือนไกลกันสุดเส้นขอบฟ้าอยู่ดี


เรือฮาวิซทกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ฉินสือโอวมองดูทะเลอยู่สักพัก จิตใจของเขาก็เปิดกว้างขึ้นมา ความกังวลเพราะการจากลาถูกจิตใจที่กล้าได้กล้าเสียซัดสาดจนแตกกระจาย


ถึงได้มีคนเคยพูดไว้ว่า ผู้ชายที่เติบโตจากการเผชิญหน้ากับมหาสมุทร จะมีปณิธานที่มากมายมหาศาล สมเหตุสมผลจริงๆ


นิมิตส์กำลังบินร่อนอยู่ในอากาศ ฉินสือโอวโบกมือเพื่อเรียกให้มันลงมา แบกมันไว้บนบ่าเดินสำรวจเรือประมง


มีชาวประมงที่เห็นท่าทางของเขาแบบนี้ก็พากันยิ้มแล้วถ่ายรูปให้เขา จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “บอส ตอนนี้คุณเหมือนราชาโจรสลัดเลย อยากถ่ายรูปเท่ๆ ไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อยไหม”


ฉินสือโอวหันหัวกลับไปดูนิมิตส์ หลังผ่านการสู้กับอินทรีทอง นิสัยของนิมิตส์ก็ห้าวหาญและถือดียิ่งกว่าเดิม ดวงตาสีดำที่สอดส่องอย่างกว้างไกล ชำเลืองสายตาต่ำมองลงมาบนพื้น ดูเหมือนกับสัตว์เลี้ยงของราชาโจรสลัดมากจริงๆ


ดังนั้นฉินสือโอวจึงเกิดสนใจขึ้นมา เขายืนอยู่บนส่วนปลายของดาดฟ้าที่ทอดตัวออกไปสู่ทะเลลึก มือซ้ายเท้าสะเอวมือขวาขี้ไปทางด้านหน้า เขาตะโกนขึ้นมาว่า “ลูกเรือทั้งหลาย ออกเดินทางได้! หันปลายดาบของพวกเรา มุ่งหน้าสู่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์!”


………………………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)