ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 382-385

 บทที่ 382 ลูกเขยมาเยี่ยม

โดย

Ink Stone_Fantasy

เงินอุดหนุนจากรัฐบาลหมดลงอย่างรวดเร็ว ฉินสือโอวจึงหยุดยั้งความเร็วในการใช้จ่ายไว้ก่อนเขามีเรื่องสำคัญกว่าให้ต้องเตรียมตัว นั่นก็คือกลับบ้านไปฉลองคืนคริสต์มาสอีฟกับเทศกาลคริสต์มาสกับวินนี่ที่บ้านของเธอนั่นเอง


ตอนนี้ที่ฟาร์มปลาไม่ได้มีงานอะไร ฉินสือโอวไม่อยู่ก็ไม่มีปัญหา


เดิมทีฟาร์มปลาต้องส่งปลาแลมป์เพรย์ไปขาย แต่เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว การตกปลาแลมป์เพรย์ก็กลายเป็นเรื่องยากแล้ว ฉินสือโอวไม่ยอมให้พวกชาร์คต้องพบเจอกับความยากลำบากนี้ เขาจึงเจรจากับบัตเลอร์เพื่อขอระงับการจำหน่ายปลาแลมป์เพรย์ชั่วคราว


บัตเลอร์รู้สึกเสียดาย ฉินสือโอวก็เสียดายเช่นกัน ยังไงซะนี่ก็เป็นการจับปลาเพื่อขายอย่างเป็นทางการครั้งแรกของฟาร์มปลา จับปลาแลมป์เพรย์ยี่สิบวัน ทำเงินให้เขาทั้งหมดหกแสนดอลลาร์ นี่ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย


ที่จริงแล้วรายได้หลักมาจากช่วงเริ่มต้นในสัปดาห์แรก เพียงวันเดียวก็สามารถส่งปลาขายได้สามร้อยกิโล ต่อมาปริมาณในการผลิตก็เริ่มลดลง ปลาแลมป์เพรย์ไม่ใช่ปลาค็อด มันมีจำนวนมากขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะ? ตอนนี้หยุดการจับปลาไว้ก่อนก็ดี เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างไรเล่า


เมนล็อบสเตอร์ปริมาณมหาศาลถูกปล่อยลงสู่ฟาร์มปลา ฉินสือโอวเหนื่อยจะตายแล้ว ตอนกลางวันเขาต้องคอยสั่งการให้เบิร์ดขับเครื่องบินแทรกเตอร์ไปโปรยอาหารให้ลูกพันธุ์กุ้งมังกรในทะเล ส่วนตอนกลางคืนก็ต้องถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้กับพวกมันอย่างสุดชีวิต


สัปดาห์กว่าๆ ที่ฉินสือโอวไม่ได้ทำอะไรกับวินนี่เลย นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนด้วยซ้ำ


วินนี่เข้าใจอะไรผิดนิดหน่อย เธอนึกว่าฉินสือโอวคงกังวลเรื่องที่ต้องมาพบกับครอบครัวของเธอ วันที่ 20 ก่อนจะเตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน เธอก็กุมมือใหญ่ของฉินสือโอวเอาไว้แล้วพูดกับเขาอย่างอ่อนโยนว่า “อย่าคิดมากนะคะ ที่รัก ฉันคือแอร์โฮสเตสตัวน้อยของคุณ นี่คือเรื่องจริงที่แม้แต่พระเจ้าก็เปลี่ยนแปลงมันไม่ได้”


เพื่อที่จะไปพบกับผู้ใหญ่ในครั้งนี้ ฉินสือโอวเตรียมของขวัญห่อเล็กห่อใหญ่เอาไว้เป็นกอง นอกจากนี้ยังพาฉงต้า ต้าป๋าย หู่จือกับเป้าจือไปกับพวกเขาด้วย


ช่วยไม่ได้ คราวนี้พวกเขาจะไม่อยู่บ้านอย่างน้อยก็สิบกว่าวัน ถ้าไม่ได้เจอเขากับวินนี่นานขนาดนั้น คาดว่าเจ้าพวกนี้คงต้องอาละวาดจนฟาร์มปลาวุ่นวายแน่นอน


สามารถนำสัตว์ขึ้นเครื่องบินได้ ทว่าก็จำกัดอยู่แค่สุนัขกับแมวเท่านั้น สัตว์ป่าอย่างหมีสีน้ำตาล ต่อให้เป็นเครื่องบินรบก็ยังไม่กล้าให้พวกมันขึ้นไปเลย


นี่ไม่นับว่าเป็นปัญหา ฉินสือโอวโทรศัพท์หาเจนนิเฟอร์ บริษัทเอ็กซ์เพรสก็จัดการทุกอย่างให้อย่างพร้อมสรรพ เครื่องบินโดยสาร PA-42 ลำหรูลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาตินครเซนต์จอห์นโดยตรง เครื่องบินส่วนตัว!


เครื่องบินโดยสาร PA-42 มีความยาว 13.5 เมตร ปีกกว้าง 15 เมตร มีที่นั่งทั้งหมด 11 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบพร๊อป PT6A-41 สองเครื่องยนต์จากแพรทท์แอนด์วิทนีย์แคนาดา ระดับความเร็วในการบินลาดตระเวนอยู่ที่ 523 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางในการบิน 4200 กิโลเมตร ราคาหนึ่งล้านสี่แสนดอลลาร์แคนาดา สำหรับเศรษฐีนี่นับว่าเป็นเครื่องบินส่วนตัวคุณภาพดีที่มีราคาถูกรุ่นหนึ่งเลย


บ้านของวินนี่อยู่ที่วินนิเพ็ก เมืองแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนทุ่งหญ้าริมฝั่งตะวันออกของสามรัฐ เป็นเมืองใหญ่อันดับที่แปดของแคนาดา และเป็นเมืองหลวงของรัฐแมนิโทบา ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแคนาดา มีระยะห่างจากนครเซนต์จอห์นประมาณสองพันแปดร้อยกิโลเมตรเมื่อวัดแบบเส้นตรง


มีเครื่องบินส่วนตัวก็ยิ่งมีประสิทธิภาพ ถ้าหากนั่งเครื่องบินโดยสารทั่วไปจากนครเซนต์จอห์น ก็จำเป็นจะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่โทรอนโตเพราะไม่มีเที่ยวบินตรง ใช้เวลาสิบกว่าชั่วโมงกว่าจะถึงวินนิเพ็ก


แต่ถ้านั่งเครื่องบินส่วนตัว เวลาแค่ห้าชั่วโมง เครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินวินนิเพ็กแล้ว


ตอนที่เครื่องบินลงจอด ฉินสือโอวรู้สึกว่าวินนี่ค่อนข้างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงจับมือของเธอไว้แล้วถามเธอว่า “รู้สึกประหม่าเพราะคิดถึงบ้านใช่ไหมครับ? ไม่เป็นไรนะ มีผมอยู่ด้วยแล้ว”


เห็นท่าทางของวินนี่แล้ว เขาก็รู้สึกค่อนข้างกังวล หรือว่าคนในครอบครัวของเธอจะเป็นพวกเหยียดชาติพันธุ์หรือเปล่านะ? ไม่น่าจะใช่หรอก วินนี่เป็นลูกครึ่ง เธอเคยบอกว่าคุณปู่ของเธอเป็นคนจีน แล้วทำไมตอนนี้เธอถึงดูไม่ค่อยมีความสุขเลยล่ะ?


วินนี่ยิ้มออกมา รีบทำตัวเองให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตอนลงจากเครื่องบินเธอก็พูดให้ฉินสือโอวฟังว่า “ดูสิคะ นั่นคือถนนใหญ่เวลลิงตันวินนิเพ็ก ตอนนี้พวกเราอยู่ทางฝั่งตะวันตก เดินตรงไปทางฝั่งตะวันออกอีกนิดจะมีศูนย์การบิน แต่เดิมเป็นสถานีการบริการทางเทคนิคของสายการบินแอร์แคนาดากับแมกเจลแลนเอวิเอชั่น และยังเป็นสำนักงานของบริษัทโบอิ้งในวินนิเพ็ก ฉันก็ได้รับเลือกให้เข้าทำงานที่สายการบินแอร์แคนาดาจากที่นี่”


ฉินสือโอวพยักหน้าตาม เมื่อออกมาจากสนามบิน รถลีมูซีนที่มีพื้นที่กว้างขวางคันหนึ่งก็กำลังรอพวกเขาอยู่ รถคันนี้ก็เป็นรถคาดิลแลควันเช่นกัน รถลีมูซีนลินคอนคาดิลแลควัน ที่เจนนิเฟอร์ช่วยจองไว้ให้ฉินสือโอวเมื่อก่อนหน้านี้


เนื่องจากเขาพาทั้งสุนัขทั้งหมีมาด้วย รถทั่วไปจึงนั่งกันไม่พอ ต้องใช้รถลีมูซีนเท่านั้น เจนนิเฟอร์ไตร่ตรองได้รอบคอบ ทำให้เห็นว่าที่บริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรสมีลูกค้าเป็นมหาเศรษฐีเยอะขนาดนี้ไม่ใช่เพราะมีดีแค่ชื่อเสียง


พอขึ้นรถมาแล้ว ฉินสือโอวก็ฝืนยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “คงไม่ค่อยมีลูกเขยแบบผมหรอกใช่ไหม? มาเจอครั้งแรกพาหมามาไม่พอ ยังเอาหมีมาด้วยอีก”


วินนี่จูบหูของฉงต้าอย่างรักใคร่ แล้วพูดกับเขาว่า “ถ้าคุณไม่พาพวกมันมาด้วยต่างหากล่ะ ฉันถึงจะรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสม พวกมันเป็นลูกของเรานะคะ”


ฉินสือโอวหัวเราะออกมา พอขึ้นมาบนรถแล้ววินนี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทร ฉินสือโอวรู้ว่าเธอจะโทรบอกที่บ้าน จึงรีบอยู่นิ่งๆ ทันที


เมื่อมีคนรับสาย วินนี่ก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วถามด้วยน้ำเสียงแบบที่ฟังแล้วฝืนใจว่า “คุณเองเหรอ? พ่อกับแม่อยู่ไหมคะ? ให้พวกท่านมารับโทรศัพท์หน่อย…ได้ไหมคะ?”


“เฮ้ มิแรนด้าที่รัก นี่วินนี่นะ หนูใกล้จะถึงบ้านแล้วนะคะ ใช่ค่ะ คราวนี้หนูพาแฟนมาฉลองวันคริสต์มาสด้วยนะคะ แล้วก็พาลูกๆ ของพวกเรามาด้วย…”


ได้ยินวินนี่พูดแบบนั้น ใจของฉินสือโอวก็กระตุกขึ้นมาทันที เขาได้ยินเสียงคนตกใจที่ดังออกมาจากโทรศัพท์


“ไม่จำเป็นต้องแนะนำแบบนั้นก็ได้หรือเปล่า?” ฉินสือโอวร้องออกมา ถ้าอยู่ดีๆ ลูกสาวของเขาบอกกับเขาว่า กำลังพาแฟนกับลูกมาหาที่บ้าน เขาต้องคิดว่าเป็นหลานชายหลานสาวของตัวเองแน่ๆ แล้วเขาต้องเป็นประสาทตายแน่นอน


วินนี่ขยิบตาอย่างขี้เล่น จากนั้นเธอก็ตัดสายทันทีไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งคำถาม


ฉินสือโอวเริ่มปวดหัวหน่อยๆ แล้ว เขารู้สึกว่าความประทับใจแรกของพ่อตาแม่ยายที่มีต่อเขา นั้นเลวร้ายมากจริงๆ


วินนี่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เธอมองทุกอย่างที่อยู่นอกหน้าต่างอย่างสนอกสนใจ พร้อมทั้งอธิบายสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ขณะที่พวกเขากำลังนั่งรถผ่านให้เขาฟังอย่างต่อเนื่อง


“นี่คือหอแสดงดนตรีวงวินนิเพ็กซิมโฟนี ออร์เคสตร้า เป็นยังไงบ้างคะ? ไม่ได้ด้อยไปกว่าหอแสดงดนตรีคาร์เนกีเลยใช่ไหม”


“เห็นตึกเล็กๆ นั่นไหมคะ? นั่นคืออพาร์ตเมนต์ของคณะนักแสดงบัลเลต์รอยัลวินนิเพ็ก ข้างในมีสาวสวยอยู่เยอะแยะเลยล่ะ ฉันมีเพื่อนร่วมชั้นสวยๆ เต้นรำอยู่ในนั้นด้วย เดี๋ยวฉันแนะนำให้คุณรู้จักดีไหมคะ?”


“พวกเราใกล้ถึงศูนย์ศิลปะการแสดงแมนิโทบาแล้ว เทศกาลคริสต์มาสต้องมีหนังดีๆ มาฉายแน่นอน พวกเราไปดูด้วยกันดีไหมคะ?”


“น่าเสียดายที่พวกเรานั่งอ้อมมา ถ้าตรงเข้าไป พวกเราจะได้เห็นมหาวิทยาลัยแมนิโทบากับมหาวิทยาลัยวินนิเพ็ก หลังเรียนจบไฮสคูลฉันได้ใบตอบรับจากทั้งสองสถาบัน แต่ฉันก็ไม่ได้ไปเรียนที่นั่น”


“โอเค ที่รัก ถึงบ้านแล้วค่ะ”


“ให้ตายเถอะ วินนี่คุณอยากเห็นผมเป็นโรคหัวใจใช่ไหม? ช่วยบอกให้ผมเตรียมตัวก่อนไม่ได้เหรอครับ?” ฉินสือโอวถึงกับอ้าปากค้าง พอรถวิ่งเข้ามาสู่เขตที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่ง วินนี่ก็บอกให้คนขับหยุดรถทันที นี่ถึงบ้านแล้วเหรอ?


พอลงมาจากรถ ฉินสือโอวก็พบว่าในย่านที่อยู่อาศัยแห่งนี้มีคนผิวเหลืองอยู่ไม่น้อยเลย หรือว่าคนจีนจะครองวินนิเพ็กไปหมดแล้ว?


วินนี่เดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร เธอจึงหัวเราะคิกๆ คักๆ แล้วพูดกับเขาว่า “พวกเขาคือชาวอินูเปียตค่ะ ตาทึ่ม คุณไม่รู้หรอกเหรอคะ? ใจกลางเมืองวินนิเพ็กมีสถานีต้อนรับชาวอินูเปียตอยู่หลายแห่งเลยล่ะ ที่นี่ก็คือหนึ่งในสถานที่ชุมนุมของชาวพื้นเมืองในแคนาดา”


พอฉินสือโอวนึกออกแล้วเขาก็ค่อยพยักหน้าตาม เขายื่นมือออกไปตบสะโพกงอนๆ ของวินนี่ด้วยความเคยชิน แล้วพูดกับเธอว่า “คุณนี่เป็นปีศาจน้อยที่ชอบแกล้งคนจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงเข้าใจประเพณีของชาวอินูเปียตได้ดีขนาดนี้”


เขายังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงร้องตกใจดังขึ้นมาจากด้านข้าง ฉินสือโอวหันกลับไปดูก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้านข้าง เขาพบกับผู้หญิงท่าทางอบอุ่นคนหนึ่งที่ดูคล้ายกับวินนี่… ค่อนข้างคล้ายกันเลยล่ะ


ฉินสือโอวรู้สึกว่าท่าจะไม่ค่อยดีเท่าไรแล้วล่ะ…


บทที่ 383 วินนี่ผู้หญิงร้ายกาจ

โดย

Ink Stone_Fantasy

เมื่อสะโพกงามงอนถูกฉินสือโอวแอบแต๊ะอั๋ง วินนี่จึงผลักเขาออกด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย หลังจากนั้นก็จับแขนของเขาไว้ แล้วเดินเข้าไปหากลุ่มคนที่เดินออกมาจากบ้านที่อยู่ด้านข้าง เธอยิ้มหวานแล้วพูดกับพวกเขาว่า “มาริโอ้ มิแรนด้าที่รักหนู นี่คือแฟนของหนู ฉินสือโอว!”


พอฉินสือโอวมองดูกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้า เขาก็ตกประหม่าไปชั่วขณะ


เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองคู่เป็นสามีภรรยากัน คู่หนึ่งอยู่ในวัยกลางคน ฝ่ายภรรยามีหน้าตาคล้ายคลึงกับวินนี่ถึงหกส่วน นี่คงจะเป็นพ่อแม่ของเธอนั่นล่ะ ส่วนอีกคู่มีอายุใกล้เคียงกันกับฉินสือโอว ในนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งที่ฉินสือโอวรู้จัก นั่นก็คืออาร์ม็อง เฮนรี เกรเตียงนั่นเอง พวกเขาเคยพบกันที่รัฐแมสซาชูเซตส์


ฉินสือโอวกำลังจะยื่นมือขวาออกไปจับมือทักทาย ทว่ามือขวาของเขาก็ถูกวินนี่กอดไว้อย่างแน่นหนา เขาทำได้แค่ยื่นมือซ้ายออกมา แต่พอยกขึ้นมาแล้วก็พบว่าไม่ถูกตามหลักมารยาท


ด้วยไหวพริบปฏิภาณที่ฉับไว ฉินสือโอวจึงโค้งคำนับลงไปเก้าสิบองศา “คุณลุง คุณป้า สวัสดีครับ”


คุณพ่อของวินนี่กะพริบตาปริบๆ เขายิ้มออกมาน้อยๆ พร้อมทั้งยื่นมือออกมาด้านหน้าแล้วพูดกับฉินสือโอวว่า “สวัสดีๆ คุณเป็นคนญี่ปุ่นใช่ไหม? คอนนิจิวะ?” ( こんにちは )


ฉินสือโอวจับมือกับพ่อของวินนี่ เขาหัวเราะฝืดๆ แล้วตอบกลับไปว่า “ที่จริง เอ่อ ผมเป็นคนจีนครับ เวลาพวกเราคนจีนมาพบผู้อาวุโสก็ต้องโค้งคำนับเหมือนกัน”


เขาทำได้แค่อธิบายให้ฟังแบบนี้ ช่วยไม่ได้ มารยาทของชาวญี่ปุ่นทำเอาซะชาวต่างชาติงงไปหมด มีหลายคนที่พอเห็นชาวตะวันออกที่มีมารยาทก็จะนึกไปถึงคนญี่ปุ่น เรื่องนี้คนจีนต้องทบทวนตัวเองบ้างแล้วล่ะ


วินนี่เอ่ยแนะนำอย่างมีความสุข “นี่คือคุณพ่อมาริโอ้สุดหล่อ ส่วนนี่คือคุณแม่ มิแรนด้าคนสวยของฉันเองค่ะ”


พอแนะนำพ่อกับแม่ให้เขาได้รู้จักแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็จางลงไปมาก เธอแนะนำต่อว่า “ผู้ชายคนนี้คุณคงจะรู้จักแล้ว อาร์ม็อง เฮนรี เกรเตียง ส่วนผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าฟอกส์ เซโรวา ภรรยาของอาร์ม็อง”


ถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ฉินสือโอวก็สัมผัสได้ว่าวินนี่กับฟอกส์ เซโรวาคนนี้มีความขัดแย้งระหว่างกัน


ฟอกส์ เซโรวาดูมีอายุมากกว่าวินนี่อยู่สักสามสี่ปี เธอเป็นผู้หญิงที่สวยโดดเด่นคนหนึ่งเช่นกัน ผมของเธอถูกม้วนไว้ด้านหลัง เขียนคิ้วบางๆ ริมฝีปากสีแดงระเรื่อ รูปร่างสูงสะโอดสะอง ดูสวยงามไปทุกสัดส่วน


เธอไม่ได้สนใจท่าทีเย็นชาของวินนี่ แล้วเข้าไปกอดทักทายฉินสือโอว จากนั้นก็ยิ้มน้อยๆ พร้อมทั้งแนะนำตัวเองว่า “ฉันเป็นพี่สาวของวินนี่ค่ะ คุณเรียกฉันว่าฟอกส์ก็พอแล้ว ยินดีต้อนรับนะคะ ฉิน พอรู้ว่าวินนี่มีแฟนแล้ว พวกเราก็รอที่จะได้พบคุณ วันนี้ได้พบกันแล้ว เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ”


ใบหน้างดงามของวินนี่ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมานิดๆ ดูงดงามจริงๆ แต่ฉินสือโอวรู้สึกว่ามันอันตรายมาก มีแค่นานๆ ทีที่เขาติดเล่นเกินไปเท่านั้นวินนี่ถึงจะยิ้มออกมาแบบนี้


มาริโอ้ตบแปะๆ ที่ไหล่ของฉินสือโอวอย่างสนิทชิดเชื้อแล้วพูดกับเขาว่า “มาเถอะ ลูกชาย วันนี้อากาศหนาว พวกเรารีบเข้าไปในบ้านเถอะ”


มิแรนด้ายืนนิ่งไม่ขยับ พอตอนสุดท้ายเห็นทุกคนกำลังจะเข้าไปในบ้าน เธอก็ทั้งร้อนรนทั้งพูดอย่างอายๆ ว่า “แม่ว่า วินนี่ ลูก ลูกกับฉิน ลูกๆ ของพวกหนูอยู่ที่ไหนล่ะ?”


วินนี่ปิดปากยิ้ม ท่าทางเหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่วางแผนแกล้งคนได้สำเร็จ เธอโบกมือแล้วตะโกนขึ้นมาว่า “หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า ต้าป๋าย มาหาแม่ตรงนี้เร็ว!”


พอเหล่าสัตว์เลี้ยงที่กำลังแอบมองผู้คนเหล่านี้อยู่ที่ด้านหลังรถได้ยินเสียงเรียกของวินนี่ พวกมันก็เฮโลกันเข้ามาทันที


ทำให้มิแรนด้าและคนอื่นๆ ตกอยู่ในความตะลึง พวกเขากำลังเห็นอะไรอยู่เนี่ย? อย่างแรกคือสุนัขสองตัว ด้านหลังมีหมีตัวหนึ่ง ต่อมาก็เป็นโอพอสซัมเวอร์จิเนียอีกหนึ่งตัว เหล่าสัตว์เลี้ยงพวกนี้วิ่งเข้ามาอย่างร่าเริง แล้วรายล้อมรอบตัววินนี่ด้วยความรักใคร่


“นี่คือลูกๆ ของฉินกับหนูค่ะ เป็นยังไงคะ?” วินนี่ถามด้วยความภูมิใจ


ฉินสือโอวเห็นเต็มตา ว่ามุมปากของพ่อตาแม่ยายทั้งสองคนของเขากระตุกขึ้น อีกทั้งสองสามีภรรยาฟอกส์ก็แอบยิ้มออกมานิดๆ


มาริโอ้เดินนำทุกคนเข้ามาในบ้าน ฉินสือโอวเอากระเป๋าใบใหญ่ใบเล็กเข้ามาเก็บข้างในให้เรียบร้อย อาร์ม็องก็ตามไปช่วยเขา พอทั้งสองคนมองหน้ากัน ฉินสือโอวก็ยิ้มออกมาอย่างเก้อเขินแล้วพูดกับเขาว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นพี่เขยของวินนี่ ก่อนหน้านี้เลยอาจจะเผลอทำตัวไม่ดีไปนิดหน่อย…”


“ฮ่า ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คุณเป็นคนดีมาก” อาร์ม็องตบไหล่แล้วพูดกับเขาอย่างเป็นกันเอง


โอเค พอเคลียร์เรื่องพี่เขยเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็เอามือปาดเหงื่อ แล้วเดินกลับไปนั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่บนโซฟา


มิแรนด้ายกชามาให้เขาหนึ่งแก้ว วินนี่แย่งมาแล้วพูดกับเธอว่า “อ้อ แม่คะ ฉินไม่ดื่มชาค่ะ เขาชอบดื่มน้ำผลไม้”


พอได้ยินแบบนี้เข่าทั้งสองข้างของฉินสือโอวก็อ่อนลงจนแทบจะคุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้น ไม่ได้คุยกันไว้ว่าจะเป็นนางฟ้าให้กันหรอกเหรอ? วินนี่ที่รักทำไมคุณถึงทำแบบนี้? คุณกลัวว่าพ่อแม่ของคุณจะชอบผมเหรอครับ?


ไม่มัวลีลา ฉินสือโอวรีบรับชามาทันที เขายิ้มเจี๋ยมเจี้ยมแล้วพูดขึ้นมาว่า “วินนี่เขาล้อเล่นน่ะครับ จริงๆ ผมดื่มอะไรก็ได้”


พอพูดจบ เขาก็รีบดื่มชาลงไปหนึ่งอึก


มิแรนด้าพูดกับเขาอย่างลนๆ ว่า “ชาเพิ่งชงเมื่อกี้เอง มันจะลวกปากนะ”


ร้อนลวกปากจริงๆ หน้าของฉินสือโอวก็เริ่มซีดขึ้นมาแล้ว ทว่าเขายังพยายามที่จะกลืนชาอึกนี้ลงไป จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ยังพอได้อยู่ครับ อากาศหนาว ดื่มชาร้อนๆ สักหน่อยก็ดีต่อร่างกาย”


พวกฉงต้ากับหู่จือเป้าจือก็วิ่งมาข้างๆ เขา เจ้าพวกนี้ชินกับการนั่งบนโซฟา คราวนี้พวกมันเลยอยากกระโดดขึ้นมานั่งบ้าง


ฉินสือโอวแอบด่าพวกมันอยู่ในใจเขากำลังรับมือกับทางนี้อยู่เจ้าพวกบ้านี่มาทำอะไรกันตรงนี้? ใช้จังหวะที่กำลังวางถ้วยชา ฉินสือโอวเตะฉงต้าหนึ่งครั้งแล้วก็เขกกะโหลกหู่จือกับเป้าจือไปอีกตัวละที ถึงหยุดพวกมันไว้ได้ชั่วคราว


วินนี่เข้าไปในครัวแล้วหยิบบิสกิตคุกกี้มาหนึ่งชั้น จากนั้นก็แบ่งมันให้พวกฉงต้ากับหู่จือ ความพยายามก่อนหน้านี้ของฉินสือโอวสูญเปล่าแล้ว เจ้าพวกนี้เริ่มทำท่าแอ๊บแบ๊วออดอ้อนแบบโง่ๆ ด้วยจุดประสงค์ง่ายๆ เพราะอยากได้ของกิน


ฉินสือโอวมองดูบรรยากาศฤดูหนาวอย่างโศกเศร้าอาดูร เขารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองน่ารันทดยิ่งกว่าต้นไม้ใบหญ้าพวกนั้นเสียอีก


มิแรนด้านั่งลงข้างๆ วินนี่ เธอมองไปที่วินนี่อย่างอ่อนโยน พูดอย่างเจือความโมโหนิดๆ ว่า “ลูกออกจากบ้านไปครึ่งปีแล้วพอจะกลับก็กลับมาเลยอย่างนั้นเหรอ? โทรศัพท์มาบอกกันก่อนก็ยังดี พวกเราจะได้ไปรับปู่กับย่าของหนูมาก่อน ดูสิ ดูที่ลูกทำ มาถึงหน้าบ้านแล้วค่อยโทรมาบอกกัน ทำไมไม่รู้จักคิดเลยนะ?”


วินนี่ยักไหล่ ใบหน้าสวยงามมีท่าทางดื้อรั้น เธอพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “หนูเคยทำตัวดีๆ เหรอคะ? จะโทรศัพท์มาบอกก่อนทำไมกันเล่า? หนูไม่ได้ไม่รู้ทางกลับบ้านสักหน่อย นี่ยังเป็นบ้านหนูอยู่หรือเปล่าคะเนี่ย?”


ฉินสือโอวกลืนน้ำลายลงไป ท่าไม่ดีเลย นี่ยังเป็นวินนี่ที่เขารู้จักอยู่ไหมเนี่ย? นางฟ้าที่อบอุ่นอ่อนโยน สง่างาม มีเสน่ห์คนนั้นน่ะ?


พูดกันตามตรง วินนี่ในตอนนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับ ‘ฉันสูบบุหรี่ ฉันดื่มเหล้า ฉันมีรอยสัก ฉันทำแท้งด้วย แต่ฉันเป็นเด็กดีนะถ้านายมีปัญหาก็เก็บเอาไปบอกแม่ของนายเถอะ’


ได้ยินวินนี่พูดแบบนี้ มิแรนด้าก็เริ่มมีสีหน้าเศร้าสลดขึ้นมา “วินนี่ ทำไมลูกพูดอย่างนี้ นี่เป็นบ้านของลูก และจะเป็นบ้านของลูกตลอดไป!”


วินนี่เก็บท่าทางเกเรแบบนั้นกลับคืนมา แล้วกลับมารักษาท่าทางของสาวสวยเพียบพร้อมอีกครั้ง จากนั้นเธอก็หยิบเอาบิสกิตป้อนฉงต้า


มาริโอ้นั่งลงข้างๆ ฉินสือโอวแล้วพูดกับเขาพร้อมรอยยิ้ม “พวกเราเคยได้ยินวินนี่พูดถึงคุณมาบ้างแล้ว คุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลาใช่ไหม? เจ้าของฟาร์มปลาอายุน้อยแบบคุณนี่หาได้ยากมากเลยนะ ตอนนี้ฟาร์มปลาที่นิวฟันด์แลนด์เหมือนจะไม่ค่อยรุ่งเท่าไร คุณ…”


“เขาดูแลลูกสาวของคุณพ่อได้อยู่แล้วค่ะ” วินนี่พูดขัดมาริโอ้แล้วพูดกับเขาอย่างเรียบๆ ว่า “ถึงแม้ว่าฉินจะไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูง หรือศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินค่ะ”


ฉินสือโอวมองวินนี่ด้วยสายตาวิงวอน ที่รัก เราพูดกันไว้ว่าจะมาพบพ่อตาแม่ยายนี่ ทำไมคุณถึงทำให้ผมดูสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนี้ด้วยล่ะ?


บทที่ 384 หอยนางรมลอยที่มุ่งหมาย

โดย

Ink Stone_Fantasy

บรรยากาศในห้องรับแขกค่อนข้างแปลกไปนิดหน่อย ฉินสือโอวเข้าใจแล้ว วินนี่ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างกับที่บ้านแน่ๆ ไม่เช่นนั้นผู้หญิงที่สวยสง่าและบริสุทธิ์อยู่เสมออย่างเธอ คงไม่พูดกับคนในครอบครัวอย่างนี้แน่นอน


ตอนนี้ทุกๆ คำพูดของวินนี่ ล้วนแต่เป็นมีดแหลมเชือดเฉือน แต่ฉินสือโอวรู้ว่า นี่ไม่ได้มาจากตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่เป็นสิ่งที่เธอตั้งใจแสดงออกมา เพื่อทำให้คนในครอบครัวรู้สึกไม่พอใจ เพื่อทำร้ายคนในครอบครัว และทำร้ายตัวเธอเอง


ฉินสือโอวไม่รู้ว่าทำไมพอวินนี่กลับมาบ้านแล้วถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่เขารู้ว่าในเวลานี้ ในฐานะที่เป็นคนรักของเธอ เขาต้องคอยอยู่ข้างๆ วินนี่


ดังนั้น หลังจากที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาแล้ว เขาจึงถือถ้วยชาไปนั่งลงข้างๆ เธออย่างเงียบๆ แล้วยื่นมือออกไปลูบมือของวินนี่


ในตอนนี้เขาถึงเพิ่งสังเกตเห็นว่า มือของวินนี่กำลังสั่นเล็กน้อย ทั้งยังเย็นเฉียบจนน่ากลัว


ฉินสือโอวผิวปากเบาๆ หู่จือกับเป้าจือก็เงยหน้าขึ้นอย่างร่าเริง พวกมันกะพริบตาปริบๆ แลบลิ้นสะบัดหางกระดิกหู แสดงความสามารถด้านการออดอ้อนออกมาทันที


เห็นสุนัขทั้งสองตัวทำท่าทางเช่นนี้ วินนี่ก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที มือแต่ละข้างกอดสุนัขเอาไว้ข้างละตัว เธอดึงพวกมันขึ้นมาเล่นด้วยกันบนโซฟาแบบไม่สนใจใคร


มาริโอ้ยืนขึ้นแล้วบอกว่าจะไปรับพ่อกับแม่ของเขามา หลังจากนั้นก็ออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนมิแรนด้าอยากจะพูดอะไรกับวินนี่สักอย่าง ถึงตั้งท่าจะพูดอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา


ในใจของฉินสือโอวก็เกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมา ครอบครัวนี้มีเรื่องอะไรกันแน่นะ? ทำไมถึงได้เหมือนกับบทละครของฉงเหยาขนาดนี้?


อาร์ม็องยกหัวข้อเกี่ยวกับการตกปลาขึ้นมา เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉิน คุณทิ้งตำนานไว้ที่ท่าเรือเมืองกลอสเตอร์ด้วยนะ ตอนผมจากมากลุ่มนักตกปลาพวกนั้นตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้เลยสักตัว ตอนนี้คุณไม่เพียงแต่เป็นกัปตันดวงดี แต่คุณยังเป็นกัปตันเทพแห่งการพนันด้วย”


ฉินสือโอวยักไหล่น้อยๆ แล้วตอบกลับไปว่า “ที่จริงผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ ดูท่าว่าคนพวกนั้นน่าจะดวงไม่ดีจริงๆ นั่นล่ะ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินในชายหาดน้ำตื้นจอร์จกับอ่าวเคปค้อดมีอยู่ไม่น้อยเลยนะ แล้วตอนอยู่ที่นั่นคุณตกได้บ้างไหมครับ?”


คนพวกนั้นคงจะตกปลาได้อยู่หรอก จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของฉินสือโอวอยู่ที่นั่นตั้งพักใหญ่ๆ พอคนของสมาคมตกปลาพวกนั้นได้เจอกับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน เขาก็ไล่พวกมันไป แล้วพวกนั้นจะตกปลาได้ยังไงกันล่ะ


ทั้งสองคนคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการตกปลาอยู่ครึ่งชั่วโมง ที่ด้านนอกประตูก็มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นมา จากนั้นวินนี่ก็ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งออกไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ ฉินสือโอวเองก็รีบลุกขึ้นเช่นกัน แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้ คุณปู่กับคุณย่าของวินนี่มาถึงแล้ว


คำว่าคุณปู่กับคุณย่าในภาษาจีนแตกต่างกับภาษาอังกฤษที่จะใช้คำว่า Grandpa และ Grandma เรียกรวมกันทั้งปู่กับตา และย่ากับยาย เพื่อที่จะแยกให้เกิดความชัดเจน คนจีนจึงคุ้นชินกับการเรียกให้แตกต่างกัน


แค่ครู่เดียว ตามเสียงหัวเราะใสๆ ของวินนี่ ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านก็เดินเข้ามาข้างใน


ทั้งสองคนน่าจะมีอายุราวๆ เจ็ดสิบกว่าปี ท่าทางมีกำลังวังชา คุณปู่เป็นผู้ชายจีนแท้ๆ ส่วนคุณย่าก็เป็นชาวอารยัน ผมสีบลอนด์ตาสีฟ้า เมื่อทั้งสองคนเจอฉินสือโอวก็พากันพูดภาษาจีนออกมาอย่างลื่นไหล แถมสำเนียงยังได้มาตรฐานกว่าเขาเสียอีก


ตอนนี้ก็เป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว มิแรนด้ากับฟอกส์จึงเข้าครัวไปเตรียมน้ำชายามบ่าย กับชีสเค้กขึ้นชื่อของวินนิเพ็กพร้อมทั้งชาแบบเย็น ฉินสือโอวดื่มน้ำชาและหัวเราะพูดคุยไปพร้อมกับคนชราทั้งสอง พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน


ผู้อาวุโสทั้งสองต่างก็วางตัวดีทั้งคู่ พวกท่านให้เกียรติผู้น้อยอย่างฉินสือโอวอย่างถึงที่สุด เรื่องที่คุยกันล้วนแต่เอนเอียงไปทางเรื่องของเขากับประเทศจีน ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งจริงๆ


ตอนที่กำลังคุยกันฉินสือโอวถึงได้รู้ว่า ที่จริงแล้วชื่อภาษาจีนของคุณปู่ก็คือซือลั่วหวา ต่อมาจึงกลายเป็นนามสกุลของครอบครัวนี้ คุณย่าของวินนี่มีชื่อว่า แคเรน เซโรวา เมื่อยี่สิบปีที่แล้วท่านเคยเป็นศาสตราจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยชิงหวา พอเกษียณแล้วก็กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดในเมืองวินนิเพ็ก


เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณปู่กับคุณย่า วินนี่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่พร้อมโจมตีอย่างนั้นแล้ว เธอกลับมาเป็นนางฟ้าที่สวยสง่าอีกครั้ง และพอพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์กับฉินสือโอวใบหน้าสวยงามของเธอก็ยังขึ้นสีแดงระเรื่ออีกด้วย ทำเอาฉินสือโอวเดาทางไม่ถูกแล้ว


พวกเขาทานมื้อค่ำกันที่บ้าน ทุกคนในครอบครัวก็ทำอาหารเย็นด้วยกันอย่างคึกคัก ช่วงเวลาเดียวที่ไม่มีความสุขในตอนเตรียมอาหาร ก็คือตอนที่ฟอกส์ถอดเครื่องประดับออก จากนั้นอาร์ม็องก็พูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า “คุณใส่มันทำอาหารก็จะยิ่งดูสวยนะ”


ฟอกส์แย้มรอยยิ้มหวานแล้วพูดกับเขาว่า “ถ้าเปื้อนขึ้นมาจะทำยังไงล่ะคะ? นี่เป็นของขวัญที่คุณให้มานะ”


วินนี่ก็ยิ้มหวานออกมาเช่นกัน เธอพูดขึ้นมาว่า “หวานกันจริงๆ เลยนะ น่าอิจฉาจริงๆ ค่ะ”


ฉินสือโอวเห็นได้ชัดเลยว่า หลังจากที่เธอพูดจบ รอยยิ้มของอาร์ม็องกับฟอกส์ก็ดูกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที


แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า เขาคบกับวินนี่มานานขนาดนี้ แต่เหมือนว่าจะไม่เคยมอบของขวัญที่เป็นพวกเครื่องประดับให้เธอเลยสักชิ้น มีแค่พวกสัตว์เลี้ยงเท่านั้น


แม่เอ็ง ฉันนี่โง่เง่าจริงๆ ฉินสือโอวแอบหัวเสียอยู่ในใจ แต่คิดว่าวินนี่ก็น่าจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นในความเป็นจริง ถ้าเขาไม่ได้ให้ของขวัญเลยสักชิ้น ก็อย่าหวังจะไปจีบใครเลย


ครอบครัวของวินนี่ยอมรับฉินสือโอวได้อย่างรวดเร็ว อาหารเย็นมื้อนี้ก็คือผลงานของเขา เมนูที่เขาทำก็คือหมูผัดเห็ดหอมกับปลาเทราต์ผัดน้ำแดง


เป็นเพราะคุณปู่ซือลั่วหวา ครอบครัวของวินนี่จึงค่อนข้างคุ้นชินกับอาหารจีน จนมีแม้กระทั่งเกี๊ยว ทว่าก็ยังผสมเอกลักษณ์ของแคนาดาเข้าไว้ด้วย กลายเป็นเกี๊ยวทรัฟเฟิลนั่นเอง


อาหารมื้อเย็นเป็นการผสมผสานกันของอาหารจีนและอาหารตะวันตก อาหารตะวันตกมีเนื้อวัวตุ๋นซอสไวน์แดง หอยทากอบเนย หอมทอดโรยอบเชย เนื้อสเต๊กผัดพริกไทยดำซอสวานิลลาไซรัป เนื้อกวางมัสก์ตุ๋น เนื้อสันในตุ๋นซอสไวน์ส้มกับลูกแพร์ ส่วนอาหารจีนฉินสือโอวเป็นคนลงมือทำอาหารทั้งสองเมนู นอกจากนี้ยังมีผัดถั่วแขก ผัดบร็อคโคลี เนื้ออกเป็ดรมควัน ผัดขึ้นฉ่ายเป็นต้น


หลังทานอาหารเสร็จก็นั่งคุยกันอยู่สักพัก ทุกๆ คนก็เตรียมตัวแยกย้ายกันไปพักผ่อน ฉินสือโอวย่อมนอนห้องเดียวกันกับวินนี่ไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งมิแรนด้ายังเตรียมห้องนอนแขกไว้ให้เขาแล้วด้วย


แต่ปรากฏว่า ขณะที่ฉินสือโอวกำลังจะเอ่ยปากขอบคุณ วินนี่ก็พูดขึ้นมาอย่างเรียบๆ ว่า “ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอกค่ะ แม่ ให้ฉินไปนอนที่ห้องของหนูก็ได้”


“แล้วลูกล่ะ?” มิแรนด้าหลุดถามออกมาทันที หลังจากนั้นเธอก็นึกได้ว่าตัวเองถามอะไรไม่เข้าท่า คราวนี้บรรยากาศก็ดูแปลกๆ ขึ้นมาอีกครั้ง


สุดท้ายวินนี่จึงจูงมือฉินสือโอวเดินออกไป พวกฉงต้ากับหู่จือยังอยากดูละครอยู่จึงกวาดตาเล็กๆ ของพวกมันไปมา ฉินสือโอวทำหน้าดุพร้อมทั้งตวาดใส่พวกมันหนึ่งครั้ง สัตว์เลี้ยงทั้งสี่ตัวก็กลัวจนขึ้นสมองพวกมันจึงรีบพากันตามเขาขึ้นไปข้างบน


“จะให้พวกมันนอนที่ไหนล่ะ?” มาริโอ้ถาม


“ก็ต้องเป็นห้องของหนูอยู่แล้ว พวกมันเป็นลูกของหนูนี่คะ” วินนี่ตอบทั้งๆ ที่ไม่ได้หันหน้ากลับไป ฉินสือโอวรู้สึกว่าคำพูดนี้ของเธอยังมีความหมายอย่างอื่นซ่อนอยู่


ถึงแม้ว่าจะนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ทว่าฉินสือโอวก็ไม่ได้ทำตัวรุ่มร่าม หลังจากวินนี่ขึ้นมาบนเตียงแล้วก็มุดเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ใบหน้างดงามของเธอมีความอ่อนล้าปรากฏอยู่บนนั้น ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดเมื่อกลับมาที่บ้านได้ดูดพลังเธอไปจนหมดแล้ว


“คุณโอเคไหมครับ?” ฉินสือโอวถามด้วยความเป็นห่วง


วินนี่ฝังหน้าลงไปในอ้อมกอดของเขาแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา สักพักหนึ่งถึงถามเขาขึ้นมาว่า “ฉิน ฉันเหมือนกับคนบ้าเลยใช่ไหมคะ?”


ฉินสือโอวกดจูบลงไปบนผมเงาสลวยของเธอ แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ว่า “ผมก็เป็นผู้ชายประสาทๆ เหมือนกัน พวกเรายังคู่กันอยู่ดี”


วินนี่เงยหน้าขึ้นไปมองเขา ดวงตากลมโตวาววับเป็นประกาย ทันใดนั้นเธอก็ยิ้มออกมาแล้วพูดกับเขาว่า “ฉันเหนื่อยจัง คนบ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะอธิบายให้คุณฟังนะคะ”


“ถ้าอยากนั้นก็นอนกอดผมให้สบายเถอะครับ” ฉินสือโอวพูดพร้อมบีบปลายจมูกเธออย่างเอาอกเอาใจ


วินนี่นอนกอดเขาอยู่อย่างเงียบๆ แค่ครู่เดียวลมหายใจของเธอก็เปลี่ยนเป็นจังหวะสม่ำเสมอกันขึ้นมา ดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน คงจะทำให้เธอหมดแรงไปเยอะจริงๆ


ฉินสือโอวนอนไม่หลับ เขาส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับไปที่ฟาร์มปลา เพื่อเตรียมของขวัญให้วินนี่


ยังไงผู้หญิงก็ชอบเครื่องประดับที่มีความแวววาวอยู่แล้ว ฉินสือโอวมุ่งไปที่หอยนางรมลอยพวกนั้น ในตัวของพวกมันมีไข่มุกสีดำที่แสนล้ำค่าอยู่


บทที่ 385 ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม

โดย

Ink Stone_Fantasy

ในระดับนานาชาติจะแบ่งไข่มุกออกเป็นสี่ชนิด ได้แก่ เอ บี ซี และดี เอ คือไข่มุกธรรมชาติ หมายถึงไข่มุกที่เกิดขึ้นในตัวของหอยตามธรรมชาติ


ชนิด บี คือไข่มุกที่เกิดจากการเพาะเลี้ยง ไม่ใช่ไข่มุกที่ได้จากการเพาะเลี้ยงหอยหรือหอยมุก แต่เป็นไข่มุกที่ได้มาจากการเพาะเลี้ยงและการถ่ายโอนเซลล์ของหอยที่ถูกเพาะเลี้ยงขึ้นมาหรือฝังเนื้อเยื่อของไข่มุกลงไปแล้วเลี้ยงจนได้ไข่มุก


ชนิด ซี คือไข่มุกแบบผสม หมายถึงไข่มุกที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงจากหอยเพียงครึ่งหนึ่งหรือครึ่งแรก ส่วนอื่นที่เหลือจะใช้วัตถุอื่นมาประกอบเข้ากันจนเกิดเป็นไข่มุก


ชนิด ดี คือของที่ทำขึ้นมาเลียนแบบไข่มุก เป็นไข่มุกที่ถูกทำขึ้นมาเลียนแบบไข่มุกจริงบางส่วนหรือทั้งหมด


โดยทั่วไปแล้วชนิดเอจะถูกแบ่งออกเป็นไข่มุกสีขาวกับไข่มุกสีดำ มีรูปร่างเหมือนกัน มีความกลมกลึงทั้งคู่ แต่ไข่มุกสีดำจะมีมูลค่ามากกว่า เนื่องจากมันมีแหล่งกำเนิดที่น้อยกว่า มีเพียงแค่ที่หมู่เกาะคุก หมู่เกาะพอลินีเชียและแหล่งกำเนิดขนาดเล็กในพื้นที่ต่างๆ เท่านั้น


สิ่งที่ฉินสือโอวอยากมอบให้วินนี่ก็คือเครื่องประดับที่ทำมาจากไข่มุกชนิดเอ ใช้ไข่มุกสีดำทั้งหมด ทั้งสร้อยไข่มุกสีดำ ต่างหูไข่มุกสีดำ แหวนไข่มุกสีดำ ปิ่นปักผมที่ทำมาจากไข่มุกสีดำ สร้อยข้อมือจากไข่มุกสีดำเป็นต้น


แบบนี้จำเป็นต้องใช้ไข่มุกไม่น้อยเลย อีกทั้งแต่ละตัวก็มีเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน ฉินสือโอวไม่มั่นใจเลยว่าจะสามารถรวบรวมไข่มุกจากหอยนางรมลอยที่อยู่ในเรือประมงพวกนั้นมาทำเครื่องประดับแบบนี้ได้ครบทั้งชุดไหม


ทว่างานจะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่การกระทำของคนเรา หากไข่มุกจากหอยนางรมลอยมีไม่พอ ถ้าอย่างนั้นก็ใช้เงินซื้อ สักร้อยล้านก็คงไม่ถึงกับซื้อไข่มุกสีดำที่เขาพอใจมาไม่ได้


จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมุ่งตรงมาที่น่านน้ำในเขตแนวปะการัง หอยนางรมลอยทุกตัวอาศัยอยู่ที่นั่น เมื่อมาถึงแล้ว พอฉินสือโอวเพ่งจิตสำนึก หอยนางรมลอยทั้งหมดก็เปิดเปลือกออกอย่างมีไหวพริบ ปรากฏให้เห็นเนื้อนุ่มๆ กับไข่มุกสีดำที่อยู่ด้านใน


พี่น้องฉลามแมวทั้งเจ็ดตัวกำลังลาดตระเวนอยู่รอบๆ พอพวกมันเห็นหอยรสชาติดีที่ปกติแล้วไม่มีทางได้กินเปิดให้เห็นเนื้อหวานๆ เช่นนี้ ก็พากันรู้สึกดีใจขึ้นมาทันที จากนั้นก็ว่ายน้ำพุ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น


ฉินสือโอวมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ จะเอากะจิตกะใจที่ไหนไปสนใจพวกมันกันล่ะ? เขาเรียกไอซ์สเกตกับบอลหิมะ ให้อันธพาลทั้งสองมาหาพวกพี่น้องฉลามแมวทั้งเจ็ดตัวทันที


ไอซ์สเกตกับบอลหิมะมองพี่น้องฉลามแมวทั้งเจ็ดอย่างเจตนาไม่ดี พี่ใหญ่มันเดย์ถอยก้นกลับไป ม้วนตัวกลับคิดจะหนีนำหน้าตัวอื่น แต่เมื่อมันม้วนตัวกลับไปก็พบว่าพี่น้องของมันทั้งหกตกตัวหนีไปก่อนมันแล้ว…


ไหนล่ะความไว้วางใจระหว่างหมู่ปลา? มันเดย์เจ็บปวดรวดร้าว จากนั้นมันจึงเตรียมตัวเตรียมใจโดนอันธพาลทั้งสองตัวย่ำยี มาเลย เชิญเหยียบย่ำฉันให้พอ!


มีหอยนางรมลอยทั้งหมดอยู่ประมาณหนึ่งร้อยกว่าตัว แต่มีหอยตัวใหญ่อยู่เพียงแปดสิบกว่าตัวเท่านั้น ที่เหลือล้วนแต่เป็นลูกหอยที่เกิดจากการแพร่พันธุ์ของหอยตัวใหญ่หลังจากที่พวกมันมาถึงฟาร์มปลาแล้ว ข้างในคงยังไม่มีไข่มุกแน่นอน


ฉินสือโอวเริ่มดูจากหอยที่ตัวใหญ่ที่สุดก่อน ตอนที่หอยนางรมลอยตัวนี้เพิ่งมาถึงมันมีความกว้างของเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ สามสิบเซนติเมตรเท่านั้น ตอนนี้โตขึ้นมาถึงสี่สิบกว่าเซนติเมตรแล้ว ดูท่าว่าพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนคงจะปรับปรุงจนมันดีขึ้นเป็นอย่างมาก


เขาเข้าไปดูด้วยความตื่นเต้นกังวล หลังจากนั้นฉินสือโอวก็รู้สึกดีใจขึ้นมา เนื้อของหอยตัวใหญ่ตัวนี้ปกคลุมไข่มุกเม็ดน้อยใหญ่เอาไว้กลุ่มหนึ่ง น่าจะมีถึงยี่สิบกว่าเม็ด เม็ดที่ใหญ่ที่สุดน่าจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกินเจ็ดแปดมิลลิเมตร สำหรับไข่มุกสีดำแล้วนี่ถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่เลยทีเดียว


ดวงดีชะมัด ฉินสือโอวรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ เขาควบคุมหอยนางรมลอยขนาดใหญ่ตัวนี้ ให้มันขยับตัวพ่นไข่มุกสีดำที่อยู่ข้างในออกมา


แต่ไม่ใช่ไข่มุกทั้งหมดที่มีความกลมกลึง ส่วนมากเป็นทรงครึ่งวงกลม วงรี เป็นทรงแบนหรือไม่ก็เป็นท่อน ไข่มุกยี่สิบกว่าเม็ดในหอยนางรมลอยใหญ่ตัวนี้ ที่นำมาใช้ได้มีเพียงแค่หกเม็ดเท่านั้น ส่วนที่เหลือมีความกลมกลึงไม่มากพอ


แต่หกเม็ดก็ถือว่าไม่น้อยแล้ว ฉินสือโอวปลอบใจตัวเอง เขาหาบริเวณที่มีแอ่งหลุมในแนวปะการัง จากนั้นก็ควบคุมลูกปลานกแก้วตัวหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ให้ว่ายน้ำมาคาบไข่มุกหกเม็ดนี้ไปทีละเม็ด เพื่อนำมาเก็บไว้ที่นี่ก่อนชั่วคราว


เรียงตามขนาดของหอย ฉินสือโอวเริ่มสำรวจหอยตัวใหญ่ตัวที่สอง ตัวนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าสามสิบเซนติเมตรเช่นกัน แต่เมื่อเปิดดูแล้วฉินสือโอวก็ต้องผิดหวังขนาดหนัก ข้างในมีไข่มุกอยู่ยี่สิบกว่าเม็ดเช่นกัน แต่ไม่มีเม็ดไหนที่ใช้ได้เลยสักเม็ด ไม่เป็นรูปเป็นร่างเลยสักอัน!


แม่เอ็ง ฉินสือโอวปิดเปลือกหอยนางรมลอยตัวนี้ลงด้วยความหงุดหงิด จากนั้นก็ว่ายไปดูหอยตัวใหญ่อีกตัว เมื่อเปิดมันออก เขาก็แย้มยิ้มจนตาหยีได้ในที่สุด


ไข่มุกที่มีลักษณะเหมือนกันสิบยี่สิบเม็ด ไข่มุกพวกนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางแค่สองสามมิลลิเมตรเท่านั้น ทว่าทุกเม็ดก็ได้สัดส่วนเป็นอย่างยิ่ง ใช้ไข่มุกพวกนี้มาทำสร้อยข้อมือหรือสร้อยข้อเท้าสักเส้นก็คงจะเยี่ยมมาก


เขาเลือกดูทีละเม็ด นอกจากหอยนางรมลอยบางส่วนในช่วงท้าย ไข่มุกสีดำส่วนใหญ่ก็สามารถนำมาใช้งานได้ทั้งสิ้น


พอหาไข่มุกจากหอยไปได้ยี่สิบกว่าตัว ฉินสือโอวก็เก็บไข่มุกเม็ดเล็กเม็ดใหญ่ได้เกือบหนึ่งร้อยเม็ด ความสามารถในการผลิตไข่มุกของหอยนางรมลอยพวกนี้นับว่ายอดเยี่ยมมาก เห็นได้ชัดว่าพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนได้สร้างความดีความชอบไว้อีกครั้งแล้ว


ขณะที่กำลังเลือกดูหอยตัวหนึ่งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ ยี่สิบเซนติเมตร เมื่อเขาแหวกส่วนที่ปกคลุมอยู่ออก ฉินสือโอวก็เบิกบานใจขึ้นมาทันที!


ในหอยนางรมลอยตัวนี้มีไข่มุกอยู่เพียงสองเม็ด เม็ดหนึ่งใหญ่เม็ดหนึ่งเล็ก แต่คงไม่ต้องพูดถึงเม็ดเล็กหรอก ไข่มุกเม็ดใหญ่เม็ดนั้นมีความกลมกลึงเป็นพิเศษ ทั้งยังมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึงสิบมิลลิเมตร!


ไข่มุกสีดำขนาดสิบมิลลิเมตร แถมนี่ยังไม่ใช่ไข่มุกสีขาวอีกต่างหาก ต่อให้อยู่ในระดับโลก ไข่มุกเม็ดนี้ก็ถือว่าเป็นสมบัติที่มีความล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากเมื่อก่อนมีไข่มุกแบบนี้ มันจะต้องถูกประดับไว้บนมงกุฎของจักรพรรดิอย่างแน่นอน


พอคิดถึงมงกุฎ ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าทำให้วินนี่ไว้สักอันก็ไม่เลวเลย เอาไว้ใส่นานๆ ครั้งเวลาที่ต้องออกงานสำคัญๆ ต้องงดงามจนไม่อาจละสายตาแน่นอน


เมื่อได้รับความมั่นใจจากไข่มุกสีดำเม็ดนี้แล้ว พอฉินสือโอวยิ่งหาก็ยิ่งรู้สึกมีพลัง ในตอนท้ายเมื่อสำรวจหอยนางรมลอยได้แปดสิบกว่าตัว เขาก็รวบรวมไข่มุกสีดำสีดำได้มากถึงสองร้อยหกสิบกว่าเม็ดด้วยความรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก


พอมาถึงหอยนางรมลอยที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่าสิบห้ามิลลิเมตร ระดับความกลมกลึงของไข่มุกสีดำก็เป็นแบบทั่วๆ ไป ฉินสือโอวไม่ต้องการของพวกนี้ ไข่มุกสีดำสองร้อยหกสิบกว่าเม็ดที่เขาเลือกมา ล้วนแต่เป็นไข่มุกคุณความดีที่มีความกลมกลึงอวบอิ่มทั้งสิ้น!


มองดูไข่มุกสีดำที่สะสมรวมกันเป็นกองใหญ่ ฉินสือโอวรู้สึกหลงเสน่ห์พวกมันเข้าแล้ว ของสวยๆ งามๆ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เป็นเพศไหน ก็ล้วนแต่ให้การยอมรับทั้งสิ้น


เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่มุกสีดำถูกพวกสัตว์น้ำซื่อบื้อกินเข้าไปแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ฉินสือโอวจึงให้เฮยป้าหวังหาโขดหินโสโครกที่มีความราบเรียบเสมอกันมาหนึ่งชิ้น หลังจากนั้นก็นำมันมาปิดคลุมแอ่งที่เป็นที่อยู่ของไข่มุกสีดำ เพื่อความปลอดภัยแบบสองชั้น เขายังได้ให้เฮยป้าหวังอยู่คุ้มครองที่นี่อีกด้วย


นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เกินความจำเป็นเลย ถ้าไม่มองว่ามันเป็นของสำคัญที่เขาจะมอบเป็นของขวัญให้วินนี่ ก็ให้มองถึงมูลค่าของพวกมัน อย่างน้อยๆ พวกมันสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าห้าล้านดอลลาร์สหรัฐ แค่ไข่มุกเม็ดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าสิบมิลลิเมตรเม็ดนั้น ก็มีราคามากกว่าสองล้านแล้ว!


พอหาไข่มุกเสร็จ ฉินสือโอวก็ไม่มีอะไรธุระอะไรแล้ว เขาจึงว่ายวนไปรอบๆ ฟาร์มปลาเพื่อถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้กับลูกกุ้งมังกร


เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี กุ้งมังกรล็อตนี้จึงมีอัตราการรอดชีวิตมากกว่ากุ้งมังกรล็อตที่แล้ว กุ้งมังกรห้าล้านกว่าตัว ฉินสือโอวคิดว่าพวกที่ติดเชื้อแบคทีเรียตายไปน่าจะมีอยู่แค่หนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น นอกจากนี้ก็มีบางส่วนที่ถูกปลาใหญ่กับปูกินเข้าไป เป็นเรื่องที่ปกติมาก


จากนั้นเขาก็ไปสำรวจปลิงทะเลขั้วโลกเหนือกับปลิงขาว พวกมันใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร นั่นก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้ฉินสือโอวใช้พลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนมากเกินไปจึงรู้สึกเหนื่อยล้า ยังไม่ได้สำรวจให้ละเอียด ก็กลับไปนอนเสียก่อน


ตื่นมาในตอนเช้าตรู่ พอลืมตาขึ้นมาสิ่งที่ฉินสือโอวเห็นเป็นอย่างแรกก็คือวินนี่ที่กำลังหลับสบายอยู่ในอ้อมกอดของเขา


วินนี่กอดฉินสือโอวไว้แน่นเหมือนกับปลาหมึก ราวกับกลัวว่าถ้าปล่อยมือแล้วเขาจะหลุดหายไป เธอกำลังขมวดคิ้วอย่างแรง ฉินสือโอวไม่รู้ว่าเธอกำลังฝันร้ายอะไรอยู่ เมื่อก่อนตอนอยู่ที่ฟาร์มปลาเขาไม่เคยเห็นวินนี่แสดงสีหน้าแบบนี้มาก่อนเลย


เขานวดคิ้วให้กับวินนี่อย่างเบามือ ฉินสือโอวอยากทำให้เธอรู้สึกสบาย แต่ปรากฏว่าพอเขานวดก็ทำให้วินนี่ตื่นขึ้นมาซะอย่างนั้น


“หลับสบายไหมครับ?” ฉินสือโอวถามอยากหยอกล้อ “แต่ผมนอนไม่ค่อยหลับเลย อีกนิดหนึ่งก็จะถูกคุณรัดตายแล้ว”


หลังจากวินนี่ตื่นแล้วก็ไม่ได้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเหมือนก่อนหน้านี้ เธอขยี้ตาไปมาแล้วมุดเข้าไปในอ้อมอกของฉินสือโอว จากนั้นก็พูดออกมาด้วยความกลัดกลุ้มว่า “ฉันก็นอนได้ไม่ค่อยสบายเลยค่ะ ฉันฝันร้ายด้วย”


“ฝันเกี่ยวกับอะไรครับ?” ฉินสือโอวอดถามไม่ได้


วินนี่ก็เงียบไปพักหนึ่ง ฉินสือโอวตบหลังของเธอเบาๆ แล้วพูดกับเธอว่า “ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรนะ แล้วก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”


วินนี่ส่ายหัวพร้อมทั้งพูดกับเขาว่า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเล่านะคะ ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะเล่ายังไงดี อืม เข้าประเด็นหลักเลยแล้วกัน ฉิน อาร์ม็องเคยเป็นคุณครูของฉันค่ะ”


“ฟัค!” คราวนี้ฉินสือโอวคิดไปไกลหลายอย่างแล้ว “คุณคงไม่ได้กำลังจะบอกผมว่า พวกคุณเคยมีความรักระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์อยู่ช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นก็ถูกพี่สาวแย่งไปหรอกใช่ไหม…”


ที่คิดแบบนี้ ก็เพราะว่าเขาเพิ่งตื่นจึงยังรู้สึกมึนๆ งงๆ อยู่ แต่ในที่สุดก็ตื่นจนเต็มตาแล้ว


“เรื่องบ้าอะไรกันคะ? คุณล้อฉันเล่นใช่ไหม?!” วินนี่ถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงงงัน


ฉินสือโอวยิ้มออกมาอย่างเก้อเขิน จากนั้นก็รีบบอกกับเธอว่า “เล่าต่อสิครับ คุณเล่าต่อเลย”


ดูจากปฏิกิริยาของวินนี่แล้ว เรื่องราวแบบบทละครของฉงเหยาที่เขาทายไว้น่าจะเป็นเพียงความเข้าใจผิด แต่ก็ดีแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกแตกสลายแน่ๆ


วินนี่ไม่ได้สนใจ เธอพูดด้วยความลังเลว่า “คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันเรียนที่มหาวิทยาลัยสตรีเบรชชา อาร์ม็องเป็นอาจารย์สอนวิชาพิธีการในราชสำนักฝรั่งเศสของพวกเราในช่วงชั้นปีที่สอง เขาหล่อมาก บุคลิกก็ดี แถมยังมีมารยาทมากๆ เป็นชายในฝันของนักศึกษาหญิงทุกคนเลยล่ะค่ะ”


“มหาวิทยาลัยของพวกเราไม่ได้หัวโบราณและปิดกั้นเหมือนกับมหาวิทยาลัยสตรีในยุโรปพวกนั้น เรื่องความรักระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ของที่นี่เลยไม่ใช่เรื่องต้องห้าม ต่อมา เพื่อนของฉันคนหนึ่งก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาร์ม็อง พวกเราต่างก็อวยพรให้เธอกันทั้งนั้น เธอเป็นคนดีมาก เป็นพี่น้องที่ดีกับฉัน มีคนชอบเธอเยอะมาก ถ้าหากเธอได้คบกับอาร์ม็อง ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ อย่างแน่นอน”


“ช่วงฤดูร้อนตอนเราเรียนจบชั้นปีที่สี่ ฉันเชิญเพื่อนคนนั้นของฉันกับอาร์ม็องให้มาเที่ยวที่บ้านของฉัน นี่เป็นเรื่องที่ฉันตัดสินใจผิดพลาดที่สุดในชีวิต! ฉันไม่เคยตัดสินใจอะไรได้โง่เท่าวันนั้นมาก่อนเลย!”


………………………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)