ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 337-340

 บทที่ 337 ออกทะเลด้วยกัน

โดย

Ink Stone_Fantasy

พาพ่อแม่มาชมคฤหาสน์สักหน่อย จากนั้นฉินสือโอวก็พาชาร์คและคนอื่นๆ ไปจัดของให้พ่อแม่เขา


ตามที่ฉินสือโอวได้สั่งไว้ ครั้งนี้ให้พ่อแม่และพี่สาวเอาเสื้อผ้ามาไม่กี่ชุด เพราะเขาบอกไว้แล้วว่าพอมาถึงแล้วจะซื้อแบรนด์เนมให้ พ่อแม่ของเขาที่ดูข่าวเป็นประจำอยู่แล้วก็เลยรู้ว่าเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่แคนาดาถูกกว่าในประเทศมาก เลยต้องกัดฟันตัดสินใจฟุ่มเฟือยสักครั้ง


ความจริงแล้ว เหตุผลหลักคือพ่อแม่ของฉินสือโอวอยู่บ้านไม่ค่อยมีเสื้อผ้าดีๆ มาเจอลูกสะใภ้ครั้งนี้ยังไงก็ต้องเอาแบรนด์ดีๆ ออกมาใส่


และสิ่งที่พ่อของฉินสือโอวเอามาด้วยคืออาหาร เครื่องปรุง น้ำมันหมู และยังมีถั่วที่ปลูกเองมาจากบ้านเกิด เอามาไม่กี่ห่อ ฉินสือโอวก็สามารถกินได้ถึงปีใหม่เลย


พอเก็บของเสร็จ แม่ของฉินสือโอวก็ไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมทำอาหารให้ลูกชายสุดที่รักและลูกสะใภ้


ฉินสือโอวนั้นก็ไม่ห้ามปรามแต่อย่างใด เพราะเขาเชื่อว่ายังไงซะแม่ของเขาก็ใช้อุปกรณ์ในครัวไม่เป็น


ก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ หลังจากที่แม่ของเขาเข้าไปแม้แต่มีดก็ยังหาไม่เจอเลย


ครัวของวิลล่าเพิ่งจะปรับปรุงเพราะถือโอกาสจากการสร้างห้องทำงานของพนักงานใหม่ ฉินสือโอวได้เปลี่ยนชุดทำครัวใหม่ทั้งหมด ช้อนส้อมและอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารจะล้างทำความสะอาดโดยเครื่องล้างอัตโนมัติจากนั้นค่อยนำไปเก็บใส่ไว้ในตู้กับข้าว และแม้แต่ตู้กับข้าวยังต้องใช้รหัสผ่านเพื่อป้องกันเด็กหรือคนร้ายเข้าไปเอามีดในครัวมาทำเรื่องไม่ดี


“นี่มันใช้ยังไง?” แม่ของฉินสือโอวกลุ้มใจ


ฉินสือโอวเลยอดยิ้มไม่ได้ “แม่ นี่เพิ่งจะกี่โมงเอง ออกไปเที่ยวกันก่อนแล้วค่อยกลับมาทำอาหารเย็นก็ยังทัน”


แม่ของฉินสือโอวตอบอย่างจริงจัง “แบบนั้นไม่ได้หรอก แกดูสิคนกินตั้งเยอะ พวกเราต้องเตรียมแต่เนิ่นๆ ไม่งั้นก็ดึกพอดีกว่าจะได้กินข้าว”


“งั้นเราก็ไปกินข้าวในเมืองกันไง” ฉินสือโอวพูดขึ้น


แม่ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วพูดว่า “เสี่ยวโอว แม่ทำใจไปเสียเงินไม่ได้ และที่สำคัญคือแม่อยากทำอาหารมื้อนี้ให้เสี่ยวเวยลองชิมว่ารสชาติพอดีไหม ถ้าไม่ดีคราวหลังแม่ก็จะไม่ทำแล้ว ยังเป็นการลดความตึงเครียดระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ด้วย”


ฉินสือโอวโอบกอดแม่ด้วยความตื้นตัน บนโลกนี้มีแค่แม่ที่ดีที่สุด


พ่อของฉินสือโอวหัวเราะขึ้น “แม่ของแกโดนละครพวกนั้นล้างสมองแล้ว แม่สามีบ้านไหนจะหาเรื่องทะเลาะได้ทั้งวัน? ตอนที่แม่ของพวกเรายังอยู่ คุณก็รับมือได้ดีไม่ใช่เหรอ?”


แม่ของฉินสือโอวกลอกตามองบนและพูดขึ้น “ความสัมพันธ์จะดีหรือไม่ดี ใจของฉันรู้ดี ไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดเรื่อยเปื่อยทุกวันได้ไหม? คุณไม่กลัวขายหน้า แต่ฉันยังคงกลัวเพื่อนบ้านหัวเราะเยาะนะ”


ฉินสือโอวลากแม่ออกมาจากห้องครัวแล้วตะโกนไปบอกนีลเซ็น “เตรียมเรือไว้ พวกเราจะออกทะเลไปตกปลากัน ตกได้อะไรตอนเย็นก็จะกลับมากินอันนั้น”


“ปลาจะไปมีอะไรอร่อยกัน?” แม่ของฉินสือโอวพูดอย่างไม่เต็มใจ


“แม่คิดว่าฟาร์มปลาของเราจะมีแค่ปลาเฉาฮื้อกับปลาคาร์ฟเหรอ? ยังมีปลาลิ้นหมา ปลาทูน่าครีบเงิน ปลาแซลมอนชัม ไหนจะปูกับหอยกูอีดั๊กอีก ของพวกนี้ที่บ้านเราไม่มีให้กินนะแม่” ฉินสือโอวยิ้มและพูดขึ้น


เนื่องจากคนในครอบครัวเยอะเกินไป เลยต้องใช้เรือยอชต์ตกปลา พวกเรือหัวกว้าง เรือตกปลา เรือเด็คพวกนี้จะเล็กเกินไป


เรือยอชต์ทรอลเลอร์เป็นทั้งประกอบอาชีพและไว้สำหรับผ่อนคลายได้แบบทูอินวัน แต่ว่าทั้งสองทางจะไม่ค่อยแข็งแรง บวกกับในตอนนั้นฉินสือโอวที่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะสะสมธุรกิจพันล้านได้เร็วขนาดนี้ ดังนั้นเขาเลยวางแผนจะซื้อน้ำมันไว้ยามฉุกเฉิน


แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นแล้ว ครอบครัวใหญ่และคนก็เยอะมาก ส่วนครอบครัวของวินนี่ที่ยังไม่มาอีก ตัวเองเลยต้องลงมือกับเรือสำราญนี้เอง


ทั้งคนและหมาที่พากันขึ้นมาบนเรือยอชต์แล้ว นีลเซ็นก็เริ่มออกเรือ ส่วนฉินสือโอวก็เริ่มปล่อยคันเบ็ดตกปลา


และวินนี่ก็พาพี่สาวและแม่มานั่งหลบแดดให้ลมทะเลพัด ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แสงแดดจึงไม่ค่อยรุนแรงนัก จากนั้นฉินสือโอวก็พามิเชลและเชอร์ลี่ย์ยืนบนแคมเรือโปรยเหยื่อตกปลาลงไป หลังจากนั้นก็ยื่นคันเบ็ดตกปลาส่งให้มิเชล ให้เขามาตกปลา


ตอนนี้ปลาในฟาร์มก็มีเยอะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาค็อด ปลาซาบะยิ่งปลาแฮร์ริ่งนี่ไม่ต้องพูดถึง แต่แค่เพียงได้ค่อยๆ ตกปลาทะเลพวก ปลากะพงทะเล ปลาแซลมอนชัม ปลาเหล็กใน ปลาไหลทะเล ปลากระโทง และปลากระโทงดาบ พวกนี้ก็ทำให้มีความสุขได้แล้ว


แนวคิดการพัฒนาของฉินสือโอวนั้นถูกต้องทั้งหมด ตราบใดที่ลานบ้านปลูกต้นอู๋ถงก็อย่ากลัวว่าจะไม่ดึงดูดหงส์ และตราบใดที่ฟาร์มปลามีสาหร่ายทะเล แพลงก์ตอน ทรัพยากรพื้นฐานที่อุดมสมบูรณ์พวกนี้ ยังกลัวว่าปลาจะมาไม่ถึงฟาร์มอีกเหรอ?


พ่อของฉินสือโอวเตรียมที่จะโยนลงไป ชาร์คเดินมาโบกมือและพูดว่า “เหยื่ออันนี้ไม่เหมาะนะ จะทำให้ตกไม่ได้ปลา”


ชาร์คที่พูดภาษาอังกฤษ พ่อของฉินสือโอวเลยฟังไม่เข้าใจ ดูจากที่เขาโบกมือก็นึกว่าไม่ให้ตกปลาเลยเอาตะขอเบ็ดออก


วินนี่ยิ้มและพูดขึ้น “คุณลุง ชาร์คหมายถึงว่าเหยื่อของคุณลุงไม่มีแรงดูงดูดพอ เขาเลยเปลี่ยนเหยื่อที่ดีกว่าให้แล้วค่ะ”


ชาร์คพยักหน้า ถือกล่องปูเสฉวนที่ขุดมาจากชายหาด จากนั้นก็ดึงตัวปูออกจากกระดองแล้วเกี่ยวไว้บนตะขอและพยักหน้าพูดขึ้น “อันนี้ดีกว่า นี่เป็นความลับของเราชาวเกาะแฟร์เวล”


โดยทั่วไป นักตกปลาต่างก็จะมีวิธีการทำเหยื่อตกปลาและสำหรับชาวประมงพวกเขาไม่สามารถไปซื้อหรือประดิษฐ์เหยื่อตกปลาได้ แต่จะหาเหยื่อฟรีที่มีประโยชน์ตามริมทะเลเอา จะมีตั้งแต่หนอนทะเลทรายไปจนถึงหอยหลอด รวมถึงตั๊กแตนและไส้เดือนดินที่ใช้กันทั่วไปในการตกปลาในแม่น้ำ ซึ่งพวกนี้ต่างก็เป็นเหยื่อสดที่เห็นได้ทั่วไป


ชาวประมงของเกาะแฟร์เวลชอบใช้ปูเสฉวนกัน แต่เหยื่อที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือปูนิ่ม ซึ่งใช้มาตกปลาทะเลตัวแบน ปลาค็อดและปลาแซลมอนชัมและนี่ก็เป็นวิธีมาตรฐาน เพียงแต่ว่าปูตัวเล็กชอบอาศัยอยู่ตามบริเวณปากแม่น้ำซึ่งทางฝั่งนิวฟันด์แลนด์จะมีไม่เยอะ


ฉินสือโอวแนะนำพ่อเขาไปเล็กน้อย และแน่นอนว่าเขาก็ไปถามชาร์ค จากนั้นชาร์คเลยพูดกับเขาว่า “ปูนิ่ม? ที่นี่พวกเราก็มี อยู่ที่ปากแม่น้ำอ่าวเคอร์บัลน่ะ เดี๋ยวรอตอนน้ำลดแล้วพวกเราถึงไปหากันได้”


หลังจากที่พ่อของฉินสือโอวโยนเบ็ดลงไป เขาก็หันไปเห็นเชอร์ลี่ย์ที่มองด้วยความประหลาดใจอยู่ข้างๆ เขาเลยยื่นคันเบ็ดให้เธอ จากนั้นก็หัวเราะและพูดว่า “สาวน้อยคนนี้หน้าตาเป็นเอกลักษณ์ดีจริงๆ ช่างเป็นเด็กต่างชาติที่สวยงดงามมาก”


และพี่สาวก็พูดต่อ “พอเชอร์ลี่ย์โตขึ้น จะต้องสวยสง่าเหมือนกับเสี่ยวเวยแน่ๆ เลย”


เชอร์ลี่ย์หันกลับไปยิ้มหวาน “ขอบคุณคุณน้าที่ชมค่ะ”


“สาวน้อยคนนี้พูดจีนกลางได้ดีจังเลย” พ่อของฉินสือโอวหัวเราะพลางลูบหัวเธอ “ผมก็นุ่มสลวย ใช้เฮดแอนด์โชว์เดอร์ใช่ไหมเนี่ย?”


เมื่ออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ จิตใจของคนก็กว้างตามไปด้วย พ่อของฉินสือโอวก็เริ่มที่จะพูดเล่นขึ้น


เชอร์ลี่ย์ยิ้ม จากนั้นเบ็ดในมือก็กระตุก มีปลาติดเบ็ดแล้ว


ส่วนพ่อของฉินสือโอวที่กลัวว่าเธอจะคุมเบ็ดไม่อยู่ก็เข้ามาช่วย แต่ด้วยทักษะเก่าของเชอร์ลี่ย์เธอเลยจับเอาคันเบ็ดไปเสียบไว้ตรงกราบเรือที่เอาไว้เสียบคันเบ็ด จากนั้นก็ลองหมุนรอกวัดน้ำหนักดูและส่ายหัวแล้วพูดว่า “ปลาตัวเล็กๆ เอง”


พูดจบเธอก็รีบหมุนรอกด้วยความเร็ว เพื่อเป็นการหมุนเส้นเอ็นที่ตกปลาตัวนี้ได้ขึ้น


ส่วนหู่จือและเป้าจือที่นอนหมอบอยู่บนแคมเรือก็ส่ายหางไปมามองดูคนตกปลา พอพวกมันเห็นทางเชอร์ลี่ย์ปลาติดเบ็ดแล้ว ก็คิดว่าได้โอกาสที่จะจะแสดงความสามารถ แต่สุดท้ายเป็นแค่ปลาซาบะขนาด 25-26 เซนติเมตรเอง พวกมันเลยร้องออกมาสองครั้งอย่างผิดหวัง


พ่อของฉินสือโอวพอใจมาก เขาหัวเราะคิกคักแล้วพูดขึ้น “ปลาตัวใหญ่นะเนี่ย”


จากนั้นฉินสือโอวเลยหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วให้พ่อของเขาดูรูปที่เขาตกพวกปลาทูน่าครีบน้ำเงินและปลาทูน่าครีบเหลือง ก่อนจะพูดว่า “พ่อ นี่สิถึงจะเรียกว่าปลาใหญ่”


พ่อของฉินสือโอวมองดูก็ถึงกับร้องออกมา “ปลาทะเลตัวใหญ่กว่าปลาแม่น้ำอีก แม่น้ำไป๋หลงของพวกเราไม่มีปลาแบบนี้เลยนะ ยาวถึง 30 เซนติเมตรก็เรียกว่าปลาตัวใหญ่แล้ว”


เนื่องจากอิทธิพลของพลังงานโพไซดอนทำให้ปลาในฟาร์มมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ หลังจากที่ปลาซาบะตัวนี้ติดเบ็ดแล้วมันยังคงดิ้นสุดกำลัง เสี่ยวฮุยที่ไปจับด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็โดนหางของมันฟาดเข้าให้ที่ปากทำให้ปากเขาบวมใหญ่ขึ้น


………………………………………


บทที่ 338 ช่วงเวลาดีๆ ที่มีความสุข

โดย

Ink Stone_Fantasy

พอถูกปลาซาบะงับ เสี่ยวฮุยรู้สึกตัวและกำลังที่จะอ้าปากร้อง ในช่วงเวลาคับขันนี้เองปลาซาบะรู้สึกว่าตัวมันนั้นจนมุมไม่มีทางสู้ จึงได้ระเบิดพลังออกมา ทำให้ไม่สามารถประมาทมันได้เลย


พาวลิสและเด็กๆ อีกสี่คนต่างพากันมองไปที่เสี่ยวฮุย จากนั้นเชอร์ลี่ย์จึงถามเสี่ยวฮุยด้วยความเป็นห่วงว่า “เจ็บไหม? อยากให้ฉันช่วยเป่าให้เธอหรือเปล่า?”


แล้วแบบนี้จะให้เสี่ยวฮุยร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนใหม่ที่เพิ่งจะรู้จักกันเหรอ? เขาที่พยายามกั้นน้ำตาไว้แล้วยิ้มซึ่งนั่นทำให้ไม่น่าดูกว่าตอนร้องไห้เสียอีก แล้วเขาก็พูดกับยายว่า “ผมไม่เจ็บครับ ไม่เจ็บเลยสักนิดครับยาย”


จากนั้นยายจึงรีบดึงลูกชายเข้ามากอด ฉินสือโอวเห็นเช่นนี้จึงดึงออกมา แล้วพูดขึ้นมาว่า “แม่ เสี่ยวฮุยไม่เป็นไรหรอกครับ อย่าให้ท้ายเสี่ยวฮุยแบบนี้สิ เพราะแม่กับพี่ให้ท้ายเสี่ยวฮุยอย่างนี้ไง เสี่ยวฮุยถึงได้กลายเป็นเด็กที่อ่อนแอแบบนี้”


ชาร์คได้เก็บปลาซาบะขึ้นมาวางไว้ที่กราบเรือ โดยที่มือซ้ายนั้นจับส่วนที่เป็นหัวปลา ส่วนมือขวานั้นจับตรงส่วนที่เป็นเอวลงไป จากนั้นได้นำมีดชำแหละปลามาทำการชำแหละโดยเริ่มจากส่วนด้านหลังของแก้มปลา และค่อยๆ หั่นเข้าไปถึงส่วนที่เป็นกระดูก ซึ่งต้องใช้แรงจึงจะสามารถหั่นตรงส่วนที่เป็นหัวปลาลงไปได้


จากนั้นชาร์คได้วางมีดชำแหละลงตรงกลางตัวปลา และชำแหละไปจนถึงส่วนหางของปลาอย่างเบาๆ แบบนี้ทำให้ปลานั้นดิ้น หลังจากชำแหละเสร็จเรียบร้อย นอกจากกระดูกของปลาแล้วนั้น สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงแต่เนื้อปลาที่ขาวสว่างแวววาว


พ่อของฉินสือโอวจ้องมองอย่างตาโตแล้วพูดว่า “ปลาซาบะกับปลาอินทรีบั้งนี่มีก้างน้อยเหมือนกันเลยเนอะ”


พี่เขยก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเอากลับไปทอดกินก็ไม่เลวนะครับ”


ในขณะที่สองคนกำลังพูดคุยกันว่าจะเอาปลาไปทำอะไรกินนั้น ชาร์คได้เอาเนื้อปลาไปแขวนไว้ที่ตะขอเกี่ยวปลา จากนั้นก็สะบัดเบ็ดตกปลาออกไป แล้วพูดว่า “แต่นี่ก็เป็นเหยื่อได้ดีเหมือนกันนะครับ สามารถตกปลาทูน่าได้ ไม่แน่วันนี้เราอาจจะได้ลาภก้อนโตกันก็ได้”


เชอร์ลี่ย์แปลคำพูดนั้น ส่วนพ่อของฉินสือโอวและพี่เขยก็รู้สึกตะลึงงันเล็กน้อย ที่แท้ก็เป็นเหยื่อล่อปลานี่เอง ช่างสิ้นเปลืองจริงๆ


หลังจากตกปลาเสร็จก็ได้เอาเบ็ดตกปลาไปเสียบไว้ที่กราบเรือ ขณะที่ฉินสือโอวก็กำลังนั่งคุยอยู่กับพ่อแม่ของเขา วินนี่ก็ได้ยกน้ำผลไม้ที่เพิ่งคันเสร็จออกมาให้ได้ดื่มกัน เหลือเพียงส่วนที่เป็นเนื้อผลไม้เก็บไว้ให้กับฉงต้าและต้าป๋าย


ฉงต้านั้นถึงจะกินก็จริง แต่ปากของมันร้ายมากชอบกินคำใหญ่ๆ และปากใหญ่ๆ ของมันก็เคี้ยวขมุบขมิบเพื่อลิ้มรสสักหน่อย จากนั้นก็ปีนขึ้นมาบนดาดฟ้าของเรือแล้วหันกลับมาพ่นอาหารใส่ และร้องฮึมฮัมใส่วินนี่อย่างไม่พอใจ แล้วก็แสดงท่าทางสะบัดไปมาอย่างไม่พอใจ


ส่วนต้าป๋ายนั้นไม่เลือกกิน มันเคี้ยวอาหารอย่างสบายอกสบายใจ กินเนื้อผลไม้ในส่วนของมันลงไปอย่างรวดเร็ว


คลื่นลมทะเลที่พัดผ่านกับน้ำที่กำลังไหลเชี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ดูเหมือนว่า บนท้องทะเลไม่ได้มีเพียงแค่เรือยอชต์ที่ถูกคลื่นซัดอยู่เป็นระลอกลำนี้เท่านั้น แต่ยังมีแสงสว่างระยิบระยับเล็กๆ กับนกนางนวลกลุ่มหนึ่งที่กำลังบินไปมาอย่างเพลิดเพลินบนพื้นผิวทะเล และในบางครั้งก็ได้ส่งเสียงร้องอันไพเราะและบินผ่านบนเรือยอชต์ไปราวกับเป็นนางฟ้าตัวน้อยในเทพนิยาย


พ่อและแม่ของฉินสือโอวที่สุดแล้วก็ได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุข ทั้งสองคนได้นอนจิบน้ำผลไม้และรับลมทะเลกับอาบแดดอยู่บนเก้าอี้อย่างพออกพอใจ


ทันใดนั้นจู่ๆ นกนางนวลสองตัวก็เกิดทะเลาะและตีกันขึ้นมา เสี่ยวฮุยและเด็กๆ อีกสี่คนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันส่งเสียงเชียร์ไปมาไม่หยุด พอทะเลาะและตีกันเสร็จสักพักนกนางนวลก็บินจากไป เหลือทิ้งไว้เพียงขนนกที่ค่อยๆ ปลิวลงมาอย่างช้าๆ


เสี่ยวฮุยจึงเก็บขนนกขึ้นมาแล้วเอาไปอวดให้พี่สาวของฉินสือโอวดู พี่สาวของฉินสือโอว ยิ้มแล้วพูดว่า “ลูกจะเอาพวกมันมาทำอะไร? ไหนลองคิดสิ”


จากนั้นเสี่ยวฮุยเกาหัวแล้วพูดอย่างเศร้าใจว่า “เหมือนมันจะไม่มีประโยชน์เลยฮะ”


ทันใดนั้นพ่อจึงถือโอกาสพูดขึ้นมาว่า “ทำไมจะไม่มีประโยชน์ล่ะ? มา เอามาให้ตาดูหน่อย ตาจะให้ดูอะไร ของสิ่งนี้เอามาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเลยล่ะ”


คุณพ่อเลยตัดแบ่งขนนกออกเป็นสองส่วน ไปแขวนไว้ที่ตะขอเกี่ยวปลา แล้วโยนลงไปในน้ำ จากนั้นขนนกก็ค่อยๆ พลิ้วไหวอยู่บนผิวน้ำอยู่ช้าๆ


“อย่างนี้จะสามารถทำอะไรได้?” เสี่ยวฮุยเอียงคอถามด้วยความสงสัย


ชาร์คพยักหน้าพูดอย่างชื่นชมว่า “ตะขอเกี่ยวปลาขนนกนี้ สามารถตกปลากะพงทะเลได้ บอส ผมต้องขอพูดเลยว่า พ่อของคุณถือเป็นผู้ที่มีฝีมือท่านหนึ่งเลยก็ว่าได้”


ที่จริงแล้วนั้นขนนกสามารถนำมาตกปลาได้ ในแม่น้ำไป๋หลงที่บ้านเกิดของฉินสือโอวนั้นมีปลากะพงแม่น้ำอยู่ ซึ่งที่นั่นถือเป็นสถานที่ที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติ เพราะบริเวณริมแม่น้ำได้มีการปลูกต้นหยางและต้นหลิวไว้ ทำให้ในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงมักจะมีหนอนแก้วตกลงไปในน้ำ ทำให้ปลากะพงแม่น้ำมักจะออกมารอกินหนอนแก้วที่ตกลงไปอยู่บริเวณผิวน้ำอยู่บ่อยครั้ง


ฉินสือโอวจำได้ เมื่อครั้งยังเป็นเด็กช่วงที่มีปลากะพงแม่น้ำจำนวนมาก คุณพ่อเคยใช้วิธีเอาหนอนแก้วติดไว้กับขนนกพิราบเพื่อที่จะทำการตกปลากะพงแม่น้ำในแม่น้ำนั้นมาแล้ว


เพียงแต่นี่ไม่ใช่วิธีในการที่จะใช้กับปลาทะเลได้ดีมากนัก เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วปลาทะเลที่ว่ายน้ำออกมาหาเหยื่ออยู่บริเวณผิวน้ำนั้นมีจำนวนน้อยมาก


ดังนั้นชาร์คถึงสามารถพูดได้ว่าพ่อของฉินสือโอวนั้นเป็นผู้มีฝีมือ มีแต่มืออาชีพถึงจะสามารถใช้วิธีนี้ในการตกปลากะพงทะเลได้ ซึ่งโดยปกติแล้วปลากะพงทะเลนั้นจะติดเบ็ดได้ง่าย เพราะพวกมันชอบกินขนนกที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับปลาไหลทราย


และเพื่อเป็นการให้เกียรติให้กับพ่อของเขา ฉินสือโอวจึงควบคุมจิตสำนักแห่งโพไซดอน ทำให้สามารถหาปลากะพงทะเลมาได้หนึ่งตัว


ซึ่งปลาชนิดนี้มีครีบที่หลังทั้งยังมีก้างที่ยาว ในส่วนของแก้มนั้นค่อนข้างแข็ง ลำตัวมีลักษณะเรียวยาวทำให้ง่ายต่อการจำแนก


ฉินสือโอวได้เลือกปลากะพงทะเลที่มีขนาดสี่สิบกว่าเซนติเมตรซึ่งมีขนาดยาวเกือบครึ่งเมตร เมื่อควบคุมตำแหน่งที่จะตกปลาได้แล้วเขาถึงค่อยปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอน


สำหรับปลากะพงทะเลเมื่อเทียบกับปลากะพงแม่น้ำที่เปรียบเสมือนเป็นญาติตระกูลเดียวแล้วนั้นยังถือว่ามีความโลภกว่ามาก เพราะเมื่อปลากะพงทะเลเห็นขนนกที่กำลังพลิ้วไหวอยู่บนผิวน้ำ มันมักจะคิดว่านั้นคือปลาไหลทรายตัวหนึ่ง จึงได้จู่โจมอ้าปากและกัดเข้าไป


เส้นเอ็นตกปลาค่อยๆ ถูกดึงกลับขึ้นมา จากนั้นพ่อของฉินสือโอวจึงรีบกดรอกตกปลาขึ้นไป ซึ่งถ้าเก็บปลากะพงทะเลที่มีขนาดครึ่งเมตรไว้ไม่ดี ปลาชนิดนี้นั้นที่มีพลังมหาศาลก็จะระเบิดพลังออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเทียบกับปลาทะเลตัวแบนที่มีขนาดหนึ่งเมตรแล้วนั้นถือว่าจัดการได้ยากกว่า


ในช่วงเวลานี้เอง หู่จือและเป้าจือจึงได้โอกาสแสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คน ด้านพ่อของฉินสือโอวกัดฟันเพื่อที่จะดึงเส้นเอ็นตกปลาขึ้นมา ทำให้ปลากะพงทะเลได้ถูกดึงขึ้นมาอยู่บริเวณผิวน้ำ จากนั้นหู่จือและเป้าจือจึงใช้โอกาสนี้กระโดดลงไปโดยโจมตีจากทางด้านหลังฝั่งซ้าย


ทำให้ปลากะพงทะเลตกใจกลัวจึงได้กระโดดขึ้นมาผิวน้ำ


ขณะที่พ่อของฉินสือโอวกำลังเก็บตะขอเกี่ยวปลาและเส้นเอ็นตกปลาที่เหลือขึ้นมาจากน้ำอยู่นั้น ปลากะพงทะเลก็ได้กระโดดขึ้นมาและดิ้นอย่างทุรนทุรายใกล้ตายราวกับเสือที่ถูกถอดเล็บ สุดท้ายแล้วก็โดนพ่อของฉินสือโอวเก็บมันขึ้นมา


ปลาขนาดใหญ่ยาวเกือบครึ่งเมตรที่ถูกถือขึ้นมา พร้อมกับใบหน้าที่เบิกบานดูมีความสุขของพ่อฉินสือโอวนั้น ทำให้วินนี่ถึงกับต้องถ่ายรูปเก็บช่วงเวลานี้ไว้สักหน่อย


จากนั้นหู่จือและเป้าจือได้ปีนขึ้นมา พ่อของฉินสือโอวจึงไปนั่งยองๆ คั่นตรงกลางระหว่างสุนัขสองตัวนี้ แล้วยกปลากะพงขึ้นมาและพูดขึ้นว่า “ลูกสาว ถ่ายรูปพ่อกับสุนัขเจ้าสองตัวนี้ให้หน่อยสิ ไอ้หยา! ช่างเป็นสุนัขที่ดีจริงๆ เมื่อเทียบกับเจ้าสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดที่บ้านของเสี่ยวฮุยแล้ว ถือว่าดีกว่ากันมาก”


“เจ้าเกี๊ยวซ่ายังเด็กฮะ ถ้าโตขึ้นก็จะจับปลาได้เหมือนกัน” เสี่ยวฮุยรีบแก้ต่างให้กับสุนัขที่ตัวเองรัก


ปลากะพงทะเลที่ติดอยู่บนเบ็ดตกปลา พ่อของฉินสือโอวก็หยิบขึ้นมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ เขารู้สึกชอบใจเป็นอย่างมากเวลาที่ได้เห็นปลาเริ่มมาติดเบ็ด พี่เขยเองก็รู้สึกเช่นเดียวกันจึงได้ไปหยิบเบ็ดตกปลาที่วางไว้บนเรือมาตกปลาด้วย


นีลเซ็นตั้งใจเลือกทอดสมอจอดเรือบริเวณที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยหญ้าทะเล เพราะที่นี่นั้นถือเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในการทำประมงที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดเต็มไปด้วยปลาค็อด ปลาซาบะและปลาแฮร์ริ่งจำนวนมาก ซึ่งพ่อและพี่เขยของฉินสือโอวนั้นพอหย่อนเบ็ดตกปลาลงไปไม่นาน ก็ได้ตกปลาค็อดดำมาคนละตัว


สองชั่วโมงต่อมาทั้งสองยังคงกำลังตกปลาอยู่ และยังคงตกปลาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปลาที่ตกนั้นมีทั้งปลากระบอกเทา ปลาค็อด ปลาเหล็กใน ปลาแซลมอนชัม และปลาใหญ่ปลาเล็กที่มาติดเบ็ดอีกมากมาย


จนสุดท้ายแล้วแม่และพี่สาวอดใจไม่ไหวจึงได้ไปลงมือตกปลากันบ้าง ส่วนชาร์คพอตกได้ปลาลิ้นหมามาสองตัวก็เอาเบ็ดตกปลามาเก็บ จึงเหลือเพียงพ่อของฉินสือโอวและคนอื่นๆ อีกสี่คนที่ยังเล่นอยู่ที่นั่น


วินนี่ถือกล้องถ่ายรูปเก็บภาพของทั้งสี่คนไว้ไม่หยุด ทั้งสี่คนที่เล่นกันอย่างสนุกสนานมีความสุข


ฉงต้าทำท่าทางลับๆ ล่อๆ แอบอยู่ด้านหลัง เพียงแค่มีปลาซาบะแล้วปลาแฮร์ริ่งติดเบ็ดขึ้นมา มันก็จะเริ่มทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ลุกนั่งขยับไปมา จากนั้นก็แอบหยิบปลาออกมาอย่างเนียนๆ ซึ่งเป้าหมายของมันมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือการได้กินปลาเล็กพวกนี้


พ่อและแม่ของฉินสือโอวเริ่มอดใจไม่ไหวที่ต่อมาพบว่ามีปลาซาบะและปลาแฮร์ริ่งอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งพอตกเบ็ดตกปลาลงไปไม่นานประมาณสี่ถึงห้านาที ก็สามารถตกปลาขึ้นมาได้หนึ่งตัวแล้วจึงใจดีเอาไปป้อนให้ฉงต้ากิน


ขณะเดียวกันฉินสือโอว เห็นว่ามีปลาค็อดขนาดไม่ใหญ่มากเพียงสามสิบกว่าเซนติเมตรอยู่จำนวนหนึ่ง เลยกะจะเอาไปป้อนให้ฉงต้ากินแต่มันกลับกินไม่ไหวแล้ว


แม่เลยรู้สึกเสียดาย เดินเข้าไปหยิบปลาตัวนี้แล้วพูดขึ้น “ปลาพวกนี้ช่างอ้วนอุดมสมบูรณ์ดีจริงๆ ถ้ากินไม่ไหวงั้นฉันเอาไปทำปลาอบรมควันมาให้พวกแกกินดีกว่า ปลาพวกนี้ถ้าเอาไปทำปลารมควันก็คงจะอร่อยไม่น้อย”


………………………………………………..


บทที่ 339 รสชาติแห่งความสุข

โดย

Ink Stone_Fantasy

เมื่อพูดถึงการทำปลารมควัน ฉินสือโอวก็นึกถึงปลาทูน่าครีบน้ำเงินขึ้นมา ปลาชนิดนี้เหมาะที่จะทำปลารมควันเป็นอย่างมาก เนื้อปลานั้นทั้งแน่นและนุ่ม ก้างปลาก็มีไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ให้แม่นำปลาที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วเอาไปรมควันให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำไปทอดไว้เป็นอาหารเช้าในช่วงฤดูหนาว ไม่ต้องสวยงามมากก็ได้


ฉินสือโอวให้นีลเซ็นให้ขับเรือยอชต์ไปยังน่านน้ำลึกครู่หนึ่ง เขาเตรียมที่จะตกปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ผลที่ได้คือพ่อของเขาและคนอื่นๆ สนุกสนานกันอย่างมาก ฉินสือโอวมองดูโทรศัพท์มือถือที่บอกเวลาว่าตอนนี้ห้าโมงเย็นกว่าๆ เมื่อคำนวณเวลากลับฝั่งเข้าไปแล้ว น่าจะได้ทานอาหารเย็นช่วงประมาณหนึ่งทุ่มกว่า


พ่อของฉินสือโอวได้เข้ามาหยุดการตกปลาของเขา โดยพูดขึ้นว่า “พวกเรากลับกันก่อนเถอะ ปลาที่ตกได้วันนี้น่าจะพอสำหรับทำอาหารแล้วล่ะ”


ในถังน้ำแข็งนั้นเต็มไปด้วยปลาตัวใหญ่หลายตัว รวมทั้งหมดราวสามสิบกว่าตัว มีปลาค็อดสิบตัว ปลาซาบะและปลาแฮร์ริ่งรวมกันอีกสิบกว่าตัว นอกนั้นเป็นปลาจำพวกปลากะพงทะเล ปลาลิ้นหมา ปลาแซลมอนแปซิฟิกและปลาเหล็กใน จัดวางเรียงกันแต่ละชนิด


ฉินสือโอวมองไปยังท้องฟ้าที่เริ่มมืด จากนั้นจึงสั่งให้นีลเซ็นหมุนเรือกลับฝั่ง


เรือยอชต์แล่นไปช้าๆ ฉินสือโอวนอนอยู่ที่ท้ายเรือนอนดูดาวกับวินนี่ วินนี่ที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา


ฉินสือโอวแอบลูบเนินหน้าอกของเธอเบาๆ วินนี่จึงตีเข้าไปที่มือใหญ่ทันที พลางพูดขึ้นมาอย่างโมโหว่า “คุณอย่าทำตัวรุ่มร่ามสิ คุณลุงคุณป้าอยู่ด้านหลังพวกเรานะ”


“คุณหัวเราะอะไรน่ะ?” ฉินสือโอวเปลี่ยนเรื่อง อันที่จริง หากถูกพ่อกับแม่จับได้ เขาก็คงจะรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน


เมื่อได้ยินคำถามของเขา วินนี่ก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็หันไปมองฉินสือโอวด้วยแววตาลึกซึ้ง พลางพูดขึ้นว่า “ฉันรู้สึกว่าพ่อแม่ของคุณชอบฉัน พวกเขาจะต้องรับฉันเป็นลูกสะใภ้แน่ๆ”


ฉินสือโอวจูบเบาๆ ลงไปบนริมฝีปากสีเชอร์รีแดงเข้มเบาๆ แล้วยิ้มออกมา “มีใครไม่ชอบคุณด้วยเหรอ? วินนี่ แม่บอกกับผมว่า คุณจะต้องเป็นภรรยาที่ดี และเป็นแม่ที่ดีแน่นอน”


“และก็เป็นสะใภ้ที่ดีด้วย” วินนี่เสริม


เมื่อถึงบ้านพัก พวกเขาก็ไปยังห้องครัวทันที เมื่อเห็นว่าพ่อแม่กับแม่ของเขารออยู่ในห้องครัวก่อนแล้ว ฉินสือโอวจึงโบกมือไปมาพร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อแม่ ผมจะให้พ่อกับแม่ทำอาหารได้ยังไง? ให้ผมกับวินนี่ทำเถอะครับ”


พ่อแม่ของฉินสือโอวนั้นเป็นคนจีนรุ่นเก่าที่ดื้อดึงและขยันทำงาน คนแก่ทั้งสองดันลูกชายตัวเองออก แล้วตอบกลับท่าทีอารมณ์ไม่ดีว่า “อย่างแกน่ะเหรอ? ให้กลับไปเรียนอีกสักสองปีออกมาก็ยังคงทำให้ขายขี้หน้าอยู่ดี อาหารเย็นมื้อนี้ให้พ่อแม่แม่ทำเถอะ แต่ว่าอาหารทะเลแกเป็นคนทำนะ พ่อกับแม่ทำไม่ได้จริงๆ ”


พี่สาวที่พาเสี่ยวฮุยไปเก็บผักสดในสวนผัก เมื่อกลับเข้าบ้านมาก็พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า “ผักที่แคนาดานี้แปลกเสียจริง นี่เดือนสิบแล้ว แต่มะเขือยาวยังอ่อนอยู่เลย ทุกคนดูถั่วฝักยาวและถั่วแขกนี้สิ หักนิดเดียวก็มีน้ำออกมาแล้ว”


ความสามารถของโพไซดอนนั้นเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้ผักต่างๆ นั้นมีอายุที่ยาวนานมากขึ้น ดังนั้นแม้ว่าจะเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่คื่นช่ายก็ยังคงเขียวชอุ่ม มะเขือเทศก็ยังคงเป็นสีแดงสด ถั่วฝักยาวยังคงเลื้อยเต็มราวไม้ และแตงกวาก็ยังคงมีน้ำมาก


ซีมอนสเตอร์เข้าไปในเมืองเพื่อซื้ออาหารทะเลพวกปูราชินีและเมนล็อบสเตอร์กลับมา ของทะเลพวกนี้มีในฟาร์มปลาเช่นกัน แต่ว่าตอนบ่ายที่ออกไปตกปลานั้น เขาไม่สะดวกที่จะจับพวกปูและหอยกูอีดั๊ก ฉินสือโอวจึงถือโอกาสเข้าไปซื้อในเมืองแทน


ชาร์คเริ่มจุดเตาย่างตามปกติที่เขาทำและเริ่มทำการย่างบาร์บีคิวตามเเบบฉบับของชาร์ค ฉินสือโอวเข้าไปในฟาร์มแล้วจับหมูป่าออกมาตัวหนึ่ง พ่อของเขารู้จักสัตว์ชนิดนี้ เมื่อเห็นเจ้าลูกหมูแววตาของเขาก็เป็นประกาย “หึ หมูป่า ของดีนี่”


ฉินสือโอวตอบกลับว่า “พ่อ พ่อต้องชอบแน่ สองวันก่อนพวกเราไปออกไปล่าหมูกับกวางมาบนภูเขา บนภูเขาลูกนี้เป็นที่อยู่ของพวกมัน”


“ช่างเถอะ พ่อแกน่ะถ้ายังเอาตัวเองไปล่ากวางล่าหมูป่าอีก ไม่โดนหมูป่าไล่กลับก็ดีแล้ว” แม่ของเขาไม่ลืมที่จะพูดขัดออกมา


พ่อของเขาหัวเราะหึๆ ในขณะที่มือของตัวเองกำลังช่วยฉินสือโอวปรุงอาหารจากเนื้อหมูป่าจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งของเนื้อหมูป่านำไปย่างและอีกส่วนนำไปผัด แล้วพูดกับเนื้อหมูป่าในใจว่า ‘ฉันเอาน้ำมันหมูจากหมูบ้านจากที่บ้านมาพอดี ถ้าใช้น้ำมันนั้นทำอาหาร จะต้องอร่อยมากแน่นอน’


ฉินสือโอวสอนพ่อใช้แก๊ส รอจนพ่อของตัวเองใช้เป็น เขาก็ไปจัดการกับอาหารทะเล


สิ่งที่ดีที่สุดในแคนาดาอย่างหนึ่งก็คือการที่รัฐบาลใส่ใจการดำรงชีวิตของประชาชนเป็นพิเศษ เช่นการวางท่อส่งแก๊สและท่อน้ำประปา ฟาร์มปลานั้นอยู่ห่างจากเมืองเล็กๆ ไม่ไกลมาก แต่รัฐบาลยืนยันที่จะจัดการเรื่องการวางท่อให้ทั้งหมด พวกเขาจะไม่ยอมให้ผู้ที่เสียภาษีรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะฟาร์มปลาที่ถือว่าเป็นผู้เสียภาษีรายใหญ่


เนื้อหมูป่าแต่ละชิ้นที่ย่างในระดับมีเดียมแรร์ หากใครอยากจะกินก็ค่อยนำมาย่างให้สุกอีกครั้ง แบบนี้จะช่วยรักษาอุณหภูมิและประหยัดเวลามากขึ้น


ปลาลิ้นหมาตัวหนึ่งถูกนำไปนึ่ง ส่วนอีกตัวนั้นถูกนำไปย่าง ฉินสือโอวใช้สาเกสำหรับทำอาหารผสมเข้ากับพริก มะแข่น ซีอิ๊วขาวและซีอิ๊วดำหมักปลาทั้งสองตัว


ส่วนปูนั้นแค่ใช้หัวหอมใหญ่และขิงแผ่นวางไว้ในหม้อนึ่งก็ใช้ได้แล้ว อาการเบื่ออาหารของเสี่ยวฮุยนั้นหายไปทันที เขายืนมองอยู่ฝามองนึ่งที่ใช้นึ่งปูตัวใหญ่ตัวเล็กมากมายมีน้ำไหลออกมาจากฝาหม้ออยู่ในห้องครัว


ซีมอนสเตอร์เอาเมนล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ๆ มาทั้งนั้น ตัวหนึ่งมีน้ำหนักน้อยที่สุดสองกิโลกรัม พวกเขาใช้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวในการซื้อเมนลอบสเตอร์ เพราะว่าเจ้าเมนล็อบสเตอร์นี้ไม่เคยมีขายในเกาะแฟร์เวลมาก่อน แม้จะเป็นการซื้อขายแบบยกลังก็ตาม กุ้งมังกรหนักสองกิโลกรัมหนึ่งตัวราคาอย่างต่ำอยู่ที่แปดสิบดอลลาร์แคนาดา ชาวเมืองที่ไม่ได้มีธุรกิจร่ำรวยไม่สามารถซื้อพวกมันได้เลย


แต่ว่า พวกนักท่องเที่ยวนั้น ยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับอาหารที่ทำจากกุ้งมังกรในร้านอาหารดีๆ ที่ราคาเจ็ดถึงแปดร้อยดอลลาร์แคนาดา ทำให้สินค้าขาดตลาด


ซีมอนสเตอร์ไปซื้ออาหารทะเลจากร้านอาหารของคุณลุงฮิคสัน เขาจึงรู้ว่าครอบครัวหลานชายของฉินหงเต๋อนั้นอยู่ที่นี่ คุณลุงฮิคสันนำอาหารทะเลที่ดีที่สุดของทางร้านออกมาให้ รวมถึงเพรียงตีนเต่าที่พึ่งจับมาเมื่อไม่กี่วันก่อนอีกด้วย


“บอกฉินสือโอวนะว่าวันนี้ลูกค้าของฉันค่อนข้างเยอะ คงจะไปหาไม่ได้ พรุ่งนี้ฉันจะไปเยี่ยมพวกเขาแทน” คุณลุงฮิคสันฝากซีมอนสเตอร์ไปบอกฉินคนพ่อ


“ลุงมาอยู่ที่นี่ เมื่อดูจากสองสามวันที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตได้ดีไม่ติดขัดอะไร แต่น่าเสียดายที่ลุงเหมือนกับพ่อของตัวเอง เป็นคนแก่ที่หัวดื้อล่ะนะ” ฉินคนพ่อถอนหายใจออกมา แล้วทำอาหารต่อด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย


สำหรับปู่รองที่เขาเคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยเจอหน้านั้น ฉินสือโอวมักรู้สึกเกิดความสงสัยขึ้นตลอดเวลา เมื่อเห็นสีหน้าของพ่อตัวเอง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ฉินสือโอวเกิดความสนใจขึ้นมาทันที เขาจึงเดินตามพ่อของตัวเองไปเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้


ในขณะที่ฉินคนพ่อกำลังเตรียมทำเนื้อผัดพริก เขาก็เรียกให้ฉินสือโอวไปอยู่อีกด้านหนึ่ง แล้วพูดออกมาว่า “เมื่อก่อนน่ะ พ่อไม่ค่อยเข้าใจอะไรมาหรอกนะ แต่ว่าพ่อเคยได้ยินย่าแกพูดให้ฟังบ้างบางครั้ง ปู่ทั้งสี่คนของแกนอกจากปู่แท้ๆ ที่เป็นพ่อของพ่อแล้วน่ะ คนที่เหลือก็เป็นคนที่สุดยอดอย่างมาก หากใช้คำที่เขาพูดกันในปัจจุบัน ก็คงบอกได้ว่าพวกเขาเป็นตำนาน


“ผมมีปู่สี่คนงั้นหรือ? ทำไมตั้งแต่เด็กผมไม่รู้เรื่องนี้เลยล่ะ?” ฉินสือโอวถามกลับพร้อมกับตาที่เบิกกว้างขึ้น


พ่อของเขาส่ายหัวไปมา และไม่ได้พูดอะไรอีก


การคำนวณเวลาก่อนหน้านี้ถือว่าทำได้ไม่เลว เมื่อถึงเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง ท้องฟ้าก็ได้มืดสนิทแล้ว ได้เวลาที่พวกเขาจะทานอาหารเย็นพอดี


ในช่วงฤดูนี้หากว่านั่งทานอาหารเย็นที่สวนจะทำให้หนาวไปหน่อย ยังดีที่ห้องอาหารในบ้านนั้นค่อนข้างใหญ่ เมื่อไฟทุกดวงถูกเปิด ที่นั่งได้ถูกวางตำแหน่งเรียบร้อย พวกเด็กๆ เข้ามาแล้วร้องเล่นกันไปมาอย่างสนุกสนาน จนเมื่อพวกผู้ใหญ่เริ่มเสิร์ฟอาหาร ก็เป็นการบ่งบอกให้ทุกคนเตรียมตัวทานอาหาร


อาหารจานหลักในมื้อนี้คือแผ่นไข่ทอดที่ทอดจากกระทะไฟฟ้าฝีมือของแม่ฉินสือโอว แผ่นไข่ทอดพวกนั้นถูกโรยด้วยหัวหอมสีขาวสลับเขียวที่ด้านบน แม่ของเขายังทำแผ่นไข่ทอดไว้อีกหลายแบบ มีทั้งแบบที่ทาด้วยน้ำเชื่อมสีขาวราวกับคริสตัล ทาด้วยซอสพริกสีแดงดูเผ็ดร้อน และทาด้วยซอสหวานสีน้ำตาล ที่มีกลิ่นหอมเตะจมูก


วินนี่และพี่สาวช่วยกันเสิร์ฟอาหาร อาหารเหล่านี้เป็นอาหารง่ายๆ ที่ทำกันขึ้นมาเอง แต่ว่าอุดมสมบูรณ์อย่างมาก


ของร้อนแปดอย่างของเย็นแปดอย่างพวกกับซุปสี่ถ้วย ที่มีทั้งซุปลูกชิ้นเนื้อ ซุปเนื้อตุ๋นมะเขือเทศ ซุปไก่ตุ๋นเห็ดหอม และซุปปลาเพิร์ช


เมื่อเห็นอาหารมากมายแบบนี้ ชาร์คกับนีลเซ็นและคนอื่นๆ ต่างก็หยิบมือถือของตัวเองออกมาถ่ายรูป พลางอุทานออกมาว่า “พระเจ้า ผักที่อยู่ในสวนไม่กี่ชนิด สามารถทำอาหารได้มากมายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”


“บอสครับ ผักจากเทศกาลผักครั้งที่แล้ว ผมคิดว่านั่นคือสุดขีดจำกัดของพวกมันแล้วเสียอีก ที่แท้ผมก็ตื่นตระหนกไปเอง”


“เมื่อก่อนตอนที่ฉันอยู่ที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ มีพี่ชายพ่อครัวชาวจีนคนหนึ่งพึ่งย้ายมา ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันก็ได้เห็นความมหัศจรรย์ของอาหารจีน ขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้ทำให้ได้เห็นมันอีกครั้ง”


“กินข้าว กินข้าว! อีวิลสันหิวแล้ว!”


เมื่ออาหารมาเสิร์ฟจนเต็ม ทุกคนต่างก็นั่งประจำที่แล้ว เหล่าสุนัขและฉงต้าก็เบียดเข้ามาด้วยเช่นกัน วินนี่จึงหยิบจานข้าวของพวกมันมาวางไว้ที่ใต้โต๊ะ เด็กๆ ต่างพากันล้อมวงเข้ามา รอเวลาทานอาหารเย็นอย่างมีความสุข


ฉินสือโอวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปภาพบรรยากาศทั้งหมด นี่สินะรสชาติแห่งความสุข


………………………………………………


บทที่ 340 เม่นน้อยแห่งฟาร์มปลา

โดย

Ink Stone_Fantasy

 วันนี้ถือว่าเป็นวันที่เหนื่อยล้ามากวันหนึ่ง วันนี้เริ่มต้นที่พ่อของฉินสือโอวและคนอื่นๆ พากันบินมาจากเมืองโทรอนโต จากนั้นพวกเขาก็พากันออกเรือไปตกปลาทันที สุดท้ายก็ยังกลับมาทำอาหารเย็นอีกมากมาย คนแก่ทั้งสองคนรวมถึงเด็กน้อยอย่างเสี่ยวฮุยนั้นเหนื่อยกายเป็นอย่างมาก


เมื่อทานอาหารเย็นกันเสร็จ ฉินสือโอวก็พาพวกเขาไปยังห้องนอน ทันทีที่อาบน้ำเสร็จ ทุกคนก็เข้านอนกันทันที


“พวกเขาคงจะเหนื่อยกันมาก” วินนี้พูดขึ้นตามที่เธอรู้สึก


ฉินสือโอวพูดพลางยิ้มออกมาว่า “แบบนี้ถึงจะดีต่ออาการเจ็ทแลก คุณคิดว่าเมื่อวานพ่อกับแม่ผมนอนหลับสนิทเหรอ?”


วินนี่มองไปยังเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย พลางพูดขึ้นว่า “คุณน่ะ ทีเรื่องแบบนี้ล่ะรู้เยอะเชียว…”


โดยที่ไม่ต้องรอให้เธอพูดจบ ฉินสือโอวก็เข้าไปช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมา วินนี่หัวเราะคิกคักอยู่ที่ลำคอของเขาพลางพูดขึ้นมาด้วยความตกใจว่า “คนบ้า คุณคิดจะทำอะไรน่ะ?”


“คนบ้าคนนี้อยากจะแกล้งองค์หญิงเสียหน่อย”


ฉินสือโอวไม่ได้โยนวินนี่ลงพื้น เขาพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำและทั้งสองคนก็อาบน้ำร่วมกัน ยังไม่ทันที่จะได้ออกมาจากห้องน้ำ วินนี่ก็เคลิ้มหลับไปเสียก่อน


คนที่เหนื่อยไม่ได้มีแค่พ่อแม่ของฉินสือโอว สองวันมานี้วินนี่ก็ไม่ค่อยได้นอนเท่าไรนัก แม้ว่าก่อนหน้านี้การคุยวิดีโอคอลกับพ่อแม่ของฉินสือโอวนั้นจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าเวลาที่อยู่ต่อหน้าท่านสองคนจริงๆ แล้ว จะเหมือนกับตอนที่คุยกันผ่านวิดีโอคอลหรือไม่?


เทียนสีแดงในเรือนหอถูกจุดขึ้น เจ้าสาวเฝ้ารอให้สามีเข้ามาเชยชม เมื่อแต่งหน้าเสร็จก็ถามสามีขึ้นมาเบาๆ ว่า เธอเพรียบพร้อมแล้วหรือไม่?


เมื่อฉินสือโอวคิดถึงท่าทีของวินนี่ที่เธอแสดงออกมาเมื่อวาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงกลอนบทนี้ พอมาคิดดูแล้ว ยิ่งเขามองไปยังดวงตาของวินนี่เท่าไรเขาก็ยิ่งหลงใหลในตัวของเธอ หญิงสาวที่หลับไปอย่างรวดเร็วราวกับเด็กที่ไร้เดียงสาคนนี้ เธอมีคิ้วโก่งสวยงาม ริมฝีปากเป็นกระจับยกขึ้น ราวกับยิ้มอยู่ตลอดเวลา


ฉินสือโอวจูบเข้าที่หน้าผากของวินนี่เบาๆ หลังจากที่เขาปิดไฟ เขาก็ใช้จิตสำนึกโพไซดอนพาตัวเองไปยังฟาร์มปลา


เฮยป้าหวังปรากฏตัวขึ้นที่ใต้ทะเลลึกมานานแล้ว ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกเคลื่อนย้ายตัวไปยังเพรียงหินที่อยู่บริเวณหน้าผากของมัน เขาพบว่ารอบๆ นั้นเป็นโขดหินโสโครกรกร้างที่อยู่ใต้ท้องทะเล พืชพันธุ์และปลาแปลกประหลาดตัวเล็กๆ จำนวนหนึ่งที่ยังไม่มีชื่อเรียกอาศัยกันอยู่ที่บริเวณนี้ เพื่อคอยปกป้องสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อยู่ใต้ท้องทะเลแห่งนี้


เฮยป้าหวังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ครู่หนึ่ง ร่องลึกที่บริเวณก้นมหาสมุทรก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ลักษณะของร่องลึกนั้นราวกับว่าเกิดจากเอลเดอร์ไททันใช้มีดฟันลงมาทำให้กันมหาสมุทรแห่งนี้แยกออกมาจากกัน ร่องลึกนี้มีความยาวหลายสิบไมล์ จนไม่สามารถเห็นได้ว่าร่องนี้ไปจบที่ตรงไหน


จิตสำนึกโพไซดอนเข้าไปปกคลุมร่องลึกนั้นเพื่อสำรวจคร่าวๆ อยู่ครู่หนึ่ง ร่องนี้มีความลึกที่ค่อนข้างมาก ข้างล่างนั้นมืดสนิทและไม่มีแสงสว่าง อีกทั้งน้ำทะเลบริเวณนั้นยังเป็นน้ำที่เย็นจัด เฮยป้าหวังหยุดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อมันรู้สึกถึงภัยคุกคาม มันก็รีบหนีไปทันที


ฉินสือโอวกลัวว่าเฮยป้าหวังจะได้รับบาดเจ็บ เขาจึงส่งพลังของโพไซดอนให้มันไปบางส่วน เมื่อพลังของโพไซดอนเข้าไปในร่างกายของเฮบป้าหวัง เขาตระหนักได้ว่า สาเหตุที่เฮยป้าหวังสัตว์ทะเลที่กล้าหาญที่สุดหนีออกมาจากร่องลึกนั้น ไม่ใช่เพราะว่าหนาว แต่เป็นเพราะว่ากลัวต่างหาก!


ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่อยู่ในร่องลึกนั้นทำให้มันกลัว


ฉินสือโอวสงสัยจนต้องหันกลับไปมอง ร่องลึกนั้นเขาไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ความมืดมิดที่ลึกลับนั้น ทำให้เขารู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน ฉินสือโอวจึงรีบตามเฮยป้าหวังออกไปอย่างรวดเร็ว


เมื่อออกจากร่องทะเลลึกมายังบริเวณน้ำตื้น ที่หน้าของเฮยป้าหวังก็มีฝูงปลาหิมะปรากฏขึ้น ทันใดนั้นเฮยป้าหวังก็ลืมความรู้สึกกลัวร่องลึกที่ทำให้มันต้องรีบหนีออกมาไปในทันที มันรีบพุ่งเข้าไปกินปลาหิมะอย่างตะกละตะกลามราวกับกำลังโอ้อวดพลังของตัวเอง


แต่ว่าจู่ๆ เฮยป้าหวังก็ได้เผชิญหน้ากับยุทธการวอเทอร์ลู ในขณะที่มันพุ่งเข้าไปถึงวงล้อมด้านนอกของปลาหิมะนั้น ก็มีฝูงปลาสีส้มแดงตัวเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของมัน


แต่แผนการเหล่านั้นใช้ไม่ได้กับเฮยป้าหวัง มันอ้าปากกว้างแล้วดูดน้ำทะเลเข้าไปอย่างไม่รีรอ มันตั้งใจที่จะให้ปลาเล็กๆ พวกนั้นเข้าไปอยู่ในปากของตัวเอง


ปลาตัวเล็กๆ เหล่านั้นเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเจอกับอันตรายถึงชีวิตต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก พวกมันเลียนแบบท่าทางของเฮยป้าหวังทันที พวกมันเริ่มอ้าปากของตัวเองเพื่อดูดน้ำทะเลเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าหลังจากที่พวกมันดูดน้ำทะเลเข้าไป ไม่นานตัวแบนๆ ของพวกมันก็พองขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บริเวณผิวหนังของพวกมันก็มีเข็มแหลมปรากฏขึ้นรอบตัว ตัวของพวกมันพองกลมราวกับเม่นแคระตัวใหญ่


เพราะแบบนี้ เฮยป้าหวังเหมือนกำลังดูดลูกบอลปลาตัวเล็กๆ เข้าไปในปาก ทันใดนั้นหลังจากที่ดูดเจ้าพวกนั้นเข้าไป มันก็ไม่สามารถปิดปากตัวเองได้


ฉินสือโอวรู้สึกตลกกับภาพตรงหน้าอย่างมาก เขารีบใช้จิตสำนึกโพไซดอนสร้างพายุลูกเล็กๆ ขึ้น เพื่อให้เจ้าปลาลูกบอลเล็กๆ พวกนั้นปล่อยลมออกมา ไม่เช่นนั้นวันนี้เฮยป้าหวังคงได้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเป็นแน่


เจ้าเม่นแคระพวกนี้เป็นปลาที่ประหลาด พวกนั้นอาศัยอยู่ในมหาสมุทรทั้งสามแห่งบนโลกใบนี้ แต่ในมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียนั้นพบพวกมันได้เยอะที่สุด ส่วนมหาสมุทรแอตแลนติคนั้นพบเจอพวกมันได้น้อยมาก แต่ก็ยังสามารถพบได้ในบริเวณน้ำตื้น


ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของพวกมันคือปลาปักเป้า ฉินสือโอวไม่รู้ว่าภาษาจีนท้องถิ่นนั้นเรียกมันว่าอย่างไร แต่ในชื่อภาษาอังกฤษนั้นพวกมันมีชื่อเรียกมากมาย เช่น ปลาปักเป้าหนามทุเรียน ปลาเม่น ปลาลูกบอลหนาม ปลาเม่นสีน้ำตาล ปลาฟองเม่น ปลาเม่นกระโดดและอื่นๆ


คำเรียกปลาปักเป้าพวกนี้ ต่างเรียกตามรูปร่างลักษณะของพวกมัน เวลาที่พวกมันรู้สึกผ่อนคลายพวกมันก็เป็นเพียงปลาธรรมดา แต่เมื่อพวกมันถูกโจมตีพวกมันก็จะพองลมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้กลายเป็นเหมือนลูกบอลหนาม และพวกมันยังสามารถขยายตัวให้ใหญ่ได้ถึงห้าเท่าอีกด้วย!


ฉินสือโอวจำปลาชนิดนี้ได้ นั่นก็เพราะว่าพวกมันแปลกประหลาด พวกมันไม่มีกระเพาะอาหาร อาจเป็นเพราะว่า กระเพาะของพวกมันนั้นค่อยๆ หายไประหว่างการวิวัฒนาการหลังจากที่รู้ว่าพวกมันไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากกระเพาะ อาหารที่พวกมันกินไม่จำเป็นต้องใช้กระเพาะย่อย สามารถไหลผ่านกระเพาะเข้าไปยังลำไส้ได้เลย


หากอยากเห็นกระเพาะของปลาปักเป้า ก็ต้องรอให้พวกมันพองลมเสียก่อน สำหรับพวกมันแล้ว หน้าที่หลักของกระเพาะของพวกมันคือการทำหน้าที่ขยายตัวหลังจากที่พวกมันดูดน้ำทะเลเข้าไป จนทำให้ผิวหนังตึงจนเหมือนลูกบอล เกล็ดบนผิวหนังของพวกมันนั้นค่อนข้างแข็ง ถ้าหากว่าผิวหนังถูกกระเพาะทำให้ตึงเมื่อไหร่ เกล็ดพวกนั้นก็จะตั้งขึ้นมา กลายเป็นหนามแหลมทันที


ถ้าพวกมันอยู่ในสถานการณ์ปกติ กระเพาะก็จะถูกพับย่อขนาดลง กระเพาะที่ถูกพับจะถูกรวมอยู่ในที่เดียวกัน ในรอยพับพวกนั้นยังมีรอยพับเล็กๆ อยู่ด้วย แต่รอยพวกนั้นต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องเท่านั้นจึงจะสามารถเห็นได้


ดังนั้น เมื่อตอนที่เหล่านักชีววิทยาทางทะเลเห็นพวกมันครั้งแรก จึงได้คิดว่าพวกมันนั้นไม่มีกระเพาะอาหาร


หลังจากที่ปลาปักเป้าพองตัวพวกมันดูดุร้ายมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วตราบใดที่พวกมันไม่ได้ถูกคุกคาม พวกมันก็เป็นปลาแสนเชื่องน่ารักๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น สีสันของพวกมันสดใสสวยงาม นอกจากนี้ฟันขนาดใหญ่สองซี่ที่อยู่ด้านหน้ายังทำให้พวกมันดูซื่อๆ อีกด้วย ตอนนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงพวกมันเป็นปลาสวยงาม


ฉินสือโอวครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นเขาจึงใช้จิตสำนึกโพไซดอนควบคุมฝูงปลาปักเป้าไว้ แล้วคิดจะนำพวกมันกลับไปยังแนวปะการังที่ฟาร์มปลา


เขาคิดแล้วว่า เขาจะใช้พวกมันเป็นอาวุธป้องกันบริเวณแนวปะการัง ปลาชนิดนี้การว่ายน้ำไม่ใช่จุดแข็งของมัน ดังนั้นพวกมันจะไม่ว่ายออกไปไกลจากแนวปะการังแน่นอน แบบนี้ถ้าหากมีศัตรูเข้ามาบุกรุล่ะก็ พวกมันก็จะกลายเป็นลูกบอลหนามทันที


ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้เป็นอาวุธป้องกันแต่ก็สามารถเลี้ยงพวกมันเพื่อความสวยงามได้ เมื่อปลาชนิดนี้พองตัวจนเต็มที่พวกมันจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ราวกับลูกเกาลัดที่ยังไม่ได้แกะเปลือกลอยอยู่ในน้ำ นอกจากนี้พวกมันยังขยับปากจนเกิดเสียง ‘บุ๋งบุ๋ง’ ตลอดเวลา ช่างน่ารักยิ่งนัก


เฮยป้าหวังว่ายน้ำไปมาที่ก้นทะเลอยู่ครู่หนึ่ง มันไม่พบเจออะไรที่แปลกประหลาดเป็นพิเศษเลย ฉินสือโอวหันไปเห็นฉลามวาฬปากกว้างตัวหนึ่ง เขาจึงบังคับฉลามวาฬตัวนั้น ให้อ้าปากออกแล้วใช้จิตสำนึกโพไซดอนเข้าไปจัดการปลาปักเป้าที่น่ารักทั้งหลายให้เข้าไปอยู่ในปากของมัน แล้วใช้พลังบังคับให้มันว่ายไปยังฟาร์มปลา


ฉลามวาฬตัวนี้ไม่ได้ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับฉลามประเภทเดียวกันที่อยู่ในมหาสมุทรและมีความยาวถึงยี่สิบเมตรแล้วนั้น ฉลามวาฬที่ยาวหกเมตรกว่าตัวนี้นั้นถือว่าเป็นเพียงเพื่อนตัวเล็กเท่านั้น แต่ว่าปากของฉลามวาฬนั้นใหญ่มาก ฉลามวาฬตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าเฮยป้าหวังครึ่งหนึ่ง แต่ปากของมันนั้นใหญ่เกือบจะเท่ากัน


เดิมทีฉินสือโอวจะใช้เฮยป้าหวังนี้ในการขนส่งปลาปักเป้า แต่เมื่อมีฉลามวาฬตัวเล็กนี้แล้ว เขาก็จะปล่อยให้เฮยป้าหวังอยู่ในทะเลลึก และปล่อยให้มันว่ายน้ำตามหาคู่รักของมันต่อไป


……………………………………………..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)